หน่วยท4่ี เครอ่ื งเจาะและงานเจาะ หวั ขอ้ เรอื่ ง(Topics) 4.1 ความหมายของการเจาะ 4.2 จดุ มุ่งหมายในการเจาะ 4.3 ชนิดของเครอื่ งเจาะ 4.4 หนา้ ทแี่ ละสว่ นประกอบของเครอื่ งเจาะ 4.5 เครอื่ งมอื และอปุ กรณใ์ นการงานเจาะ 4.6 ความเรว็ รอบ ความเรว็ ตดั และอนั ตราป้ อนในงานเจาะ 4.7 หลกั การทางานดว้ ยเครอื่ งเจาะ 4.8 การเจาะรดู ว้ ยเครอื่ งเจาะ 4.9 ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอื่ งเจาะ 4.10 การบารงุ รกั ษาเครอื่ งเจาะ 4.11 การควา้ นเรยี บ แนวคดิ สาคญั (Main Idea) งานเปจาะ(DriIIing)เป็ นการกระบวนการขนึ้ รปู ทมี่ จี ดุ มุ่งหมายเพอื่ ทาใหเ้ กดิ รู(HoI e)ทชี่ นิ่ งาน ซงึ่ การเจาะนีอ้ าจใชด้ อกสวา่ นหมุนตดั ลงในวสั ดชุ นิ่ งานหรอื เครอื่ งมอื ตดั ในลกั ษ ณะอนื่ ๆ เชน่ ใชด้ อกเจาะเพอื่ ขยายปากรู(Couter Bore) เป็ นตน้ ดงั นน้ั กอ่ นจะปฎบิ ตั งิ านเจาะ ผปู ้ ฎบิ ตั งิ านจาป็ นตอ้ งศกึ ษาเกยี่ วกบั ชนิด สว่ นประกอบ เครอื่ งมอื และอปุ กรณใ์ นงานเจาะรวมทงั้ การบารุงรกั ษาและความปลอดในการใขเ้ ครอื่ งเจาะ ใหเ้ ขา้ กอ่ นจงึ ปฎบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและความปลอดภยั สมรรถนะย่อย(Ejement of Competecy) แสดงความรสู ้ กึ เกยี่ วกบั เครอื่ งเจาะพนื้ ฐานและงานเจาะตามคมู่ อื
จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม(Behavioral Objectives) 1. อธบิ ายความหมาย จดุ มุ่งหมาย และลกั ษณะของการเจาะ 2. จาแนกชนิด บอกหนา้ ทแี่ ละส่วนประกอบของเครอื่ งเจาะ 3. บอกชอื่ และอธบิ ายหนา้ ทขี่ องเครอื่ งมอื และอปุ กรณจ์ บั ยดึ ในงานเจาะและวธิ กี ารจบั ยดึ ชนิ่ งานเจาะ 4. คานวณ ความเรว็ และอนั ตราป้ อนในงานเจาะตามโจทยก์ าหมด 5. บอกความปลอดภยั ในการใช ้ วธิ กี ารบารงุ รกั ษาเครอื่ งเจาะตง้ั พนื้ 6. บอกจดุ มุ่งหมายในการควา้ นเรยี บและจาแนกชนิดของดอกควา้ นเรยี บ 7. คานวณหาขนาดรเู จาะในควา้ นเรยี บตามโจทยก์ าหนด 8. อธบิ ายวธิ กี ารเลอื กความเรว็ รอบและความเรว็ ตดั ในการควา้ นเรยี บ 9. บอกทศิ ทางหมุนดา้ มจบั ดอกควา้ นเรยี บในขณะปฎบิ ตั งิ านควา้ นเรยี บ 4.1 ความหมายของการเจาะ การเจาะ (DriIIing) คอื การทารทู มี่ ลี กั ษณะเป็ นรูปทรงกระบอกลงในเนือ้ วสั ดชุ นิ้ งาน โดยใชด้ อกเจาะแบบต่างๆ การเจาะโดยทว่ั ไปแบ่งออกเป็ น 2 ลกั ษณะ คอื การเจาะรูทะลุและการเจาะรไู มท่ ะลุ ดงั ตวั อยา่ งในรูป 4.1
4.2 จดุ มุ่งหมายในการเจาะ การเจาะรมู วี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการเจาะหลายอย่าง เชน่ การเจาะเพอื่ ตา๊ ปเกลยี ว การรอ้ ยสลกั เกลยี ว(Screw) การควา้ นเรยี บ การฝังหวั สกรู และการยา้ หมุด เป็ นตน้ จากรุปท4ี่ .2การเจาะรุในรปู ตา่ งๆมดี งั นีก้ ารการเจาะรูตรงดว้ ยดอกสวา่ นการเจาะรู หวั เอยี งการเจาะรูเพอื่ ควา้ นเรยี บการเจาะรเู พอื่ ตา๊ ปเกลยี วและและการฝังสกรูหวั ฉา ก 4.3ชนิดของเครอื่ งเจาะเครอื่ งเจาะ
ทใ่ี ชง้ านในการผลติ โรงงานฝึ กชา่ งและโรงงานซอ่ มบารงุ แบ่งออกเป็ นหลายชนิดเชน่ เครอื่ งเจา ะตงั้ โตะ๊ เครอื่ งเจาะตง้ั พนื้ เครอ่ื ง เจาะรศั มี และเครอ่ื งเจาะแนวนอน เป็ นตน้ 4.4 หนา้ ทแี่ ละส่วนประกอบของเครอื่ งเจาะ 4.4.1 เครอื่ งเจาะตงั้ โตะ๊ เครอื่ งเจาะตง้ั โตะ๊ (Bench DriIing Maclhine) เป็ นเครอื่ งเจาะขนาดเล็กสามารถเจาะรูไดข้ นาดไม่เกนิ 13 มม. โดยมคี วามเรว็ บรอบสงู การสง่ กาลงั โดยทว่ั ไปจะใชส้ ายพานและปรบั ความเรว็ รอบดว้ ยลอ้ สายพาน ประมาณ 2-3 ชนั้ เทา่ นนั้ เครอื่ งเจาะตงั้ โตะ๊ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบดว้ ยสาคญั และหนา้ ทกี่ ารใชง้ าน ดงั นี้ 1. ฐานเครอื่ ง (Base) ส่วนใหญ่ทาดว้ ยเหล็กหล่อ เป็ นสว่ นทรี่ องรบั น้าหนักทงั้ หมดของเครอื่ งและใชย้ ดึ แน่นบนโตะ๊ เพอื่ ป้ องกนั การสน่ั สะเทอื นในขณะใชง้ าน 2. เสาเครอื่ งเจาะ(CoIumn) เป็ นเหล็กรปู ทรงกระบอกกลวง ใชเ้ ป็ นส่วนทยี่ ดึ ตดิ กบั ฐานเครอื่ ง เพอื่ รองรบั ชดุ หวั เคอื่ งและรองรบั โตะ๊ จบั ชนิ้ งาน
3. โตะ๊ จบั ชนิ่ งาน) (TabIe ส่วนใหญท่ าดว้ ยเหล็กทอ่ เป็ นส่วนทรี่ องรบั ชนิ้ งานทจี่ ะนามาเจาะหรอื อาจรองรบั อปุ กรณจ์ บั ยดึ ชนิ้ งาน เชน่ ปากกาจบั ชนิ้ งาน เป็ นตน้ 4. ชดุ หวั เครอื่ ง(DriIIing Head) เป็ นส่วนทอี่ ยบู่ นสดุ ของเครอื่ งเจาะ ประกอบดว้ ยส่วนยตา่ งๆทาสาคญั เชน่ มอเตอรส์ ง่ กาลงั (Motor) สายพานและลอ้ สายพานส่งกาลงั (BeIi & PuIIey)ฝาครอบ(PuIIey Guard) มไี วค้ รอบสายพานเพอื่ ป้ องกนั อนั ตราย หวั จบั ดอกสวา่ น (DriII Chuck) ใชจ้ บั ดอกสวา่ นกา้ นตรงสว่ นใหญม่ ขี นาดไม่เกนิ ½ นิว้ (12.7) คนั มุมป้ อนเจาะ (Hand Feed LeveI) และสวติ ชป์ ิ ด-เปิด (Switch) การทางานเครอื่ งเจาะ เป็ นตน้ 4.4.2 เครอื่ งเจาะตง้ั พนื้ ความสะดวกในการ เครอื่ งเจาะตง้ั พนื้ (FIoor DriIIng Machine) เป็ นเครอื่ งเจาะทใี่ ขต้ ดิ ตง้ั บนพนื้ โรงรงานและมใี ชง้ าสนอย่างกวา้ งขวาง ประกอบดว้ ยส่วนประกอบดว้ ยสวา่ นทสี่ าคญั และหนา้ ทกี่ ารใชง้ านดงั นี้ 1. ฐานเครอื่ ง (Base) มลี กั ษณะเป็ นรปู สเี่ หลยี่ มผนื ผา้ เป็ กนส่วนนา้ หนักทงั้ หมดของวเครอื่ งและอยตู่ าแหน่งดา้ นล่างสดุ ของเครอื่ ง ฐานเครอื่ งเจาะโดยทว่ั ไปทามาจากเหล็กหล่อทงั้ หมดแลบะออกแบบใหม้ รี เู จาะสาห
รบั ยดึ สลกั เกลยี วเพอื่ ตดิ ตงั้ กบั พนื้ โรนงาน และทฐี่ านเครอื่ งจะมรี อ่ งรูปตวั ท(ี T- SIot) ไวส้ าหรบั จบั ยดึ งานทมี่ คี วามสงู มกๆ 2. เสาเครอื่ ง (CoIumn) เป็ นเหล็กรปู ทรงกระบอกกลวง ผ่านการเจยี ระไนผวิ เรยี บ เพอื่ ใหโ้ ตะ๊ จบั ชนิ้ งานเลอื่ นขนึ้ ดส้ ะดวก โดยมเี ฟื องสะพาน (RacK Gear) ตดิ ตง้ั ไวส้ าหรบั การเคลอื่ นโตะ๊ จบั ชนิ้ งาน 3. โตะ๊ จบั ชนิ้ งาน (TabIe) เป็ นสว่ นรองชนิ้ งานและอปุ กรณจ์ บั ยดึ ชนิ้ งานเจาะ สามารถเลอื่ นขนึ้ -ลง หมุนเป็ นองศา และโยกยา้ ย-ขวาได ้ ทง้ั นีเ้ พอื่ ควปรบั ตาแหน่งเจาะโตะ๊ จบั ชนิ้ งานแบ่งออกเป็ น 2 ชนิดคอื ชนิดกลมและชนิดเหลยี่ ม ดงั ตวั อยา่ งในรูปที่ 4.6 4.4.3 เครอื่ งเจาะรศั มี เครอื่ งเจาะรศั มี (BadiaI DriIIing MacHine) เป็ นเครอื่ งเจาะทมี่ ขี นาดใหญส่ ามารถเจาะรบู นชนิ้ งานทมี่ ขี นาดใหญ่กวา่ เครอื่ งเจ
าะตงั้ พนื้ โดยทหี่ วั จบั ดอกสวา่ นจะเลอื่ นไป-มาบนแขนจะ (Arm) ไดด้ งั นนั้ จงึ สามารถเจาะงานไดท้ ุกตาแหน่ง เครอื่ งเจาะแบบรศั มปี ระกอบดว้ ยส่วนทสี่ าคญั และหนา้ ทกี่ ารใชง้ าน ดงั นี้ 1. ฐานเครอื่ ง (Base) เป็ นสว่ นทตี่ ดิ ตงั้ อย่กู บั พนื้ โรงงาน ทาดว้ ยเหล็กหลอ่ และเป็ นส่วนทรี่ องรบั น้าหนักทง้ั หมดของเครอื่ งเจาะรศั มี 2. เสาเครอื่ ง (CoIumn) มลี กั ษณะเป็ นเสาทรงกระบอกกลวงยดึ ตดิ อย่กู บฐานเครอื่ งป็ นสว่ นทเี่ คลอื่ นขนึ้ - ลงและจบั ยดึ ของแขนรศั มี 3. รศั ม(ี RadiaI Arm) สามารถเลอื่ นขนึ้ -ลงได ้ และหมุนรอบเสาเครอื่ งเพอื่ หาตาแหน่งเจาะบนชนิ้ งานได ้ นอกจากนีย้ งั เป็ นชนิ้ ส่วนทรี่ องรบั ชดุ หวั เครอื่ ง 4. ชดุ หวั เครอื่ ง(DriIIing Head) ตดิ ตงั้ อยยู่แขนรศั มี สามารถเลอื่ นเขา้ -ออกไดต้ ามความยาวของแขนรศั มเี พอื่ ใหต้ รงกบั ตาแหน่งเจาะรู 5. แกนเพลา(SpindIe) เป็ นรปู ทรงกระบอก ภายในเป็ นรเู รยี ว ใชส้ าหรบั จบั ยดึ กา้ นเรยี วของหวั จบั ดอกสวา่ นหรอื จบั กา้ นเรยี วของดอกสวา่ นทมี่ ี ขนาดใหญ่ 6. โตะ๊ จบั ชนิ้ งาน(TabIe) เป็ นสว่ นทยี่ ดึ ตดิ อยบู่ นฐานเครอื่ งและมรี อ่ งตวั ทเี่ พอื่ ใช้สาหรบั
ยดึ ชน้ิ งานโดยตรงหรือใช้สาหรบั จบั ยดึ ปากกาจบั ช้นิ งานหรอื อุปกรณ์ช่วยจบั ยดึ อ ยา่ งอนื่ 7. มอเตอร์ (Motor) ใชส้ ง่ กาลงั ไปหมนุ แกนเพลาเพอื่ หมนุ ดอกสวา่ นเจาะชิ้นงานหรอื ก กาลงั เพอื่ ขบั เคลือ่ นสว่ นตา่ ง ๆ อตั โนมตั ิ เนื่องจากชน้ิ สว่ นแตล่ ะชน้ิ มขี นาดใหญ่ 4.5 เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ในงานเจาะ เครอื่ งมือและอุปกรณ์ทใี่ ช้รว่ มกบั เครอื่ งเจาะตง้ั พน้ื มีดงั น้ี 4.5.1 เครอื่ งมอื ตดั เครอื่ งมือตดั ทใี่ ชส้ าหรบั งานเจาะแบง่ ออกเป็ นหลายชนิดดงั นี้ 1. ดอกสวา่ น (Drills) ทนี่ ิยมใชก้ นั มากทสี่ ดุ คือ ดอกสวา่ นคมเลอื้ ย (Twist Drill) แบง่ ออกเป็ น 2 ชนดิ คอื ชนดิ กา้ นตรงและกา้ นเรยี ว โดยทดี่ อกสวา่ นกา้ นตรงสว่ นมากจะมีขนาดเล็กกวา่ 15 มม. สว่ นสวา่ นกา้ นเรยี วจะเป็ นสวา่ นทมี่ ขี นาดใหญ่ คมตดั ของสวา่ นแบบคมเลอ้ื ยน้ีเกดิ ขน้ึ จากการ กดั รอ่ งกายเศษเจาะ โดยมีรายละเอยี ดดงั นี้ รูปที่ 4 11 ชนิดของดอกกวา่ คนเลื้อย
1.1 เสน้ แกนของดอกสวา่ น (Web) เกดิ จากการกดั รอ่ งตายเศษเจาะและการขนึ้ รูปคนตดิ ของสวา่ น ซงึ่ รอ่ งควยเศษน้ีจะเป็ นตวั ทาใหเ้ กดิ เสน้ แกนทีม่ ลี กั ษณะเป็ นแนวเรยี ว เสน้ แกนนี้จะเป็ นรอ่ งบดิ ไปรอบ ๆ ลา่ ตวั สวา่ น และความหนาของเสน้ แกนจะคอ่ ย ๆ เรียวเล็กลงจากโดนไปยงั ปลายคมตดั 1.2 มมุ ของดอกสวา่ น ดอกสวา่ นทจี่ ะนามาใชง้ านน้ีจะมีมุมตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การตดั เพอื่ นและเพอื่ จะใหผ้ ลดตี อ่ การตดั เฉือนดงั นี้ รปู ที่ 4 13 มุมของดอกสวา่ นแบบคมเลอื่ ย (1) มมุ คมตดั (Cutting Angle) มลี กั ษณะคลา้ ยกบั ลมิ่ ทาหน้าทตี่ ดั เฉือนเน้ือวสั ดุชนิ่ งาน
(2) มมุ คายเศษ (Rake Angle) ทาหน้าทใี่ หเ้ ศษตดั เฉือนเคลอื่ นทที่ าหน้าทลี่ ดการเสียดสแี ละลดแรงตา้ นทานบรเิ ว ณหนา้ ของมุมจกิ ของดอกสวา่ น และถา้ ไมม่ มี มุ หลบน้ี ดอกสวา่ นจะมส่ ามารถตดั เฉือนผวิ ชนิ่ งานได้ (3) มมุ หลบ (Lip Clearanceบรเิ วณผวิ หน้าของมมุ จกิ ของดอกสวา่ น และถา้ ไมม่ ีมมุ หลบนี้ ดอกสวา่ นจะไมส่ ามารถตดั เฉือนผวิ ชน่ิ งานได้ (4) มมุ รวมปลายดอกสวา่ น (Point Angle) หรอื มมุ จกิ เป็ นมมุ ทมี่ ผี ลตอ่ เห กลา่ วคือ ถา้ มมุ รวมปลายดอกสวา่ นมีคา่ มากก็จะทาใหแ้ รงตา้ นการเจาะมากขนึ้ ตามลาดบั ในขณะ มมุ รวมปลายดอกสวา่ นจะช่วยในการนาศนู ยข์ องการเจาะชนิ้ งานในขณะเรมิ่ เจาะ ดว้ ย ขนาดพ ปลายดอกสวา่ นจะขนึ้ กบั ชนิดของวสั ดชุ นิ้ งานทนี่ ามาเจาะ เชน่ ในงานเจาะเหล็กกลา้ ท่วั ไปมุม เทา่ กบั 118 องศา เป็ นตน้ 2. ดอกเจาะนาศูนย์ (Center Drill) ใช้สาหรบั เจาะนาศนู ยช์ ้ินงานกอ่ นทจี่ ะเจาะดว้ ยดอกสวา่ น รูปที่ 4.15 ดอกเจาะนาศูนย์ 3. ดอกผายปากรู (Counter Sinks) ใชส้ าหรบั ผายปากรูเพอื่ ลบคมรเู จาะ
รปู ที่ 4.16 ดอกผายปากรู 4. ดอกเจาะควา้ นขยายรเู จาะ (Counter Bores) ใช้สาหรบั ควา้ นขยายรูเจาะเพอื่ ฝงั หวั สกรู 4.5.2 อุปกรณ์จบั เครอื่ งมือตดั 1. หวั จบั ดอกสวา่ น On Chuck) เป็ นอปุ กรณ์ทใี่ ช้จบั ยดึ ดอกสวา่ นแบบที่ อปุ กรณ์จบั เครอื่ งมอื ตดั ในงานเจาะทสี่ าคญั มดี งั นี้ 2. ปลอกเรยี วและปลอกเรียวลดขนาด (Singive and Drill Socket) ใชส้ วมเขา้ กบั เพลาหวั ดอกสวา่ นทมี่ คี วามโตเรียวขนาดเดยี วกนั นอกจากน้ียงั ใชจ้ บั ดอกสวานแบบกา้ นเรยี วมอร์ส (Morse Tape ขนาดเดยี วกนั หรอื ตอ่ ปลอกเรยี ว สาหรบั ขนาดของปลอกเรยี วแสดงไวใ้ นตารางที่ 41
ตรารางที่ 4 1 เบอร์เรยี วมอร์สสาหรบั ดอกสวา่ นกา้ นเรียบ เบอร์เรียวแบบมอร์ส 1 2 3 4 5 ขนาดของดอกสวา่ น(มม) 13 14-24 24- 32- เกนิ กวา่ 50 32 50 รูปที่ 4.21 การใช้ปลอกเรยี วและปลอกเรยี วลดขนาด สาหรบั การจบั ยดึ ดอกสวา่ นกา้ นเดยี วทมี่ ีขนาดใหญเ่ ขา้ กบั เพลาหมนุ ของเครอื่ งเจ าะกระทา ไดโ้ ดยใชม้ ือจบั ดอกสวา่ นหมนุ ใหป้ ลายเรยี วตรงรอ่ งเพลาหมนุ จากนน้ั ออกแรงกระแทกเขา้ ไปแลว้ ทดลอง ใช้มอื หมนุ ดเู พอื่ ใหแ้ น่ใจวา่ สวมแน่นแลว้ แสดงวา่ พรอ้ มใช้งานได้
(ก) มือจบั ดอกสวา่ นใหต้ รงรอ่ งเพลา (ข) ออกแรงกระแทกเล็กน้อย (ค) ทดสอบโดยใชม้ อื หมนุ รูปที่ 4.22 การจบั ดอกสวา่ นกา้ นเรยี วเขา้ กบั เพลาหมนุ ของเครอื่ งเจาะ 4.5.3 อปุ กรณ์จบั ยดึ ชน่ิ งานบนเครอื่ งเจาะ อปุ กรณ์จบั ยดึ ชนิ้ งานบนเครอื่ งเจาะใช้สาหรบั จบั ยดึ ชนิ้ งานใหแ้ น่น แบง่ ออกเป็ นหลายชนิด 1. ปากกาจบั ชนิ้ งาน ใชจ้ บั ยดึ ชน้ิ งานทมี่ ีลกั ษณะสเี่ หลยี่ มทรงตนั ในกรณีทเี่ ป็ นชน้ิ งาน แผน่ บาง ควรหาแทง่ ขนานสองแผน่ รองดา้ นลา่ งชน้ิ งานเพอื่ ใหป้ ากกาบีบจบั ไดแ้ น่นหนาแ ละช่วยใหช้ ิน้ งาน ไดร้ ะดบั ดงั น้ี
2. อปุ กรณ์ช่วยจบั ยดึ การจบั ยดึ งานเจาะในกรณีทปี่ ากกาจบั ชนิ้ งานไมส่ ามารถจบั ได้ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสามารถเลอื กใช้อุปกรณ์ชว่ ยจบั ยดึ แทนได้ เชน่ ช้ินงานรปู ทรงกระบอกเจาะขวางกบั หน้าตดั ของชน้ิ งานก็ใหใ้ ชว้ ีบล็อก (V-Block) สาหรบั วางชน้ิ งาน จากนน้ั ใชแ้ ผน่ กดดา้ นบนขนั ยดึ ใหแ้ น่นดว้ ยโบลต์แบบที-สลอต (T-Slot Bolt) เป็ นตวั อยา่ งอุปกรณ์ชว่ ยจบั ยดึ แสดงไว้ในรูปที่ 4.25
รูปที่ 4.25 อุปกรณ์ช่วยจบั ยดึ ช้ินงาน จากรูปที่ 4.25 อุปกรณ์ช่วยจบั ยดึ มดี งั น้ี หมายเลข 1 แทง่ ขนาน (Parallels) เป็ นเหล็กแทง่ เหลยี่ มทผี่ า่ นการเจียระไน มีขนาดเทยี่ งตรง ใช้สาหรบั รบั รองชน้ิ งานเพอื่ ใหไ้ ดร้ ะดบั รวมทง้ั ป้ องกนั ไมใ่ หด้ อกสวา่ นทเี่ จาะทะลุไปถกู ผวิ ของปากกาจบั ชน้ิ งานดว้ ย หมายเลข 2 ซี แคลมป์ (C-Clamp) มีรูปรา่ งคลา้ ยตวั ใช้สาหรบั จบั ยดึ ช้ินงานใหต้ ดิ แน่นกบั ปากกา จบั ชนิ้ งานโดยตรงหรือยดึ ชน้ิ งานกบั แทง่ ฉาก หมายเลข 3 แผน่ กดชน้ิ งาน (Strap Clamp) มีรูปรา่ งเป็ นแผน่ รูปทรงตา่ ง ๆ และมรี หู รือรอ่ งตรงกลาง เพอื่ สวมโบลตแ์ บบที-สลอต ใชส้ าหรบั กดชน้ิ งานใหแ้ นบสนิทกบั อุปกรณ์จบั อยา่ งอนื่
หมายเลข 4 แทง่ ฉาก (Angle Plate) มีรูปรา่ งเป็ นเหล็กแทง่ ฉากทเี่ จาะรู ใช้สาหรบั จบั ยดึ ช้ินงาน ทไี่ มส่ ามารถจบั ดว้ ยอุปกรณ์อนื่ ๆ ได้ หมายเลข 5 โบลตแ์ บบทสี่ ลอต (T-Slot Bolt) เป็ นสกรู- นดั รูปตวั ทที่ สี่ วมเขา้ กบั รอ่ งที่ (T-Slot) ของ โตะ๊ จบั ชน้ิ งานไดพ้ อดี ใชส้ าหรบั ยดึ งานรว่ มกบั อปุ กรณ์อนื่ ๆ เชน่ แผน่ กดชนิ้ งาน แหง่ ระดบั เป็ นต้น หมายเลข 6 แทง่ ระดบั (Step Blocks) มรี ปู รา่ งเป็ นเหล็กเหลยี่ มทผี่ า่ นการใสหรอื กดั เป็ นขน้ั บนั ได เพอื่ ใช้รองรบั แผน่ กดชน้ิ งานใหม้ คี วามสงู เทา่ กบั หรอื สงู กวา่ ชน้ิ งานทตี่ อ้ งการจบั ยึ ดเล็กน้อย การจบั ยดึ ชนิ้ งานไดม้ ่นั คงมากยงิ่ ขน้ึ หมายเลข 7 สกรูระดบั (Jack Screw)รองรบั ชน้ิ งานใหม้ คี วามม่นั คงแข็งแรงมรี ูปรา่ งเป็ นสกรูเกลียวทปี่ รบั ระดั บความสูง-ตา่ ได้ หมายเลข 8 วี-บล็อก (V-Block)ชิน้ งานรปู ทรงกระบอก โดยใช้ยดึ งานรว่ มกบั อปุ กรณ์จบั ยดึ อนื่ ๆ
4.6 ความเร็วรอบ ความเร็วตดั และอตั ราป้ อนในงานเจาะ 4.6.1 ความเร็วรอบ กอ่ นการปฏบิ ตั งิ านเจาะทกุ ครง้ั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งคานวณหาความเร็วรอบของดอกสวา่ น ทถี่ กู ตอ้ งและเหมาะสม โดยสามารถคานวณไดจ้ ากสตู รตอ่ ไปนี้ n = V×1,000 (รอบ/นาที) n = ความเร็วรอบ (รอบ/นาที) V v = ความเร็วตดั (เมตร/นาท)ี d = ขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางของดอกสวา่ น (มม.) 1,000 คา่ คงที่ (ใช้สาหรบั เปลยี่ นหน่วยมลิ ลเิ มตรใหเ้ ป็ นเมตร) 4.6.2 ความเร็วตดั คา่ ความเร็วตดั (v) สามารถหาไดจ้ ากตารางคา่ ความเร็วของดอกสวา่ น ซงึ่ ขน้ึ อยกู่ บั ชนิด
องวสั ดทุ นี่ ามาเจาะและวสั ดุทใี่ ชผ้ ลติ เครอื่ งมือตดั ดงั ตารางที่ 4.2 ตารางที่ 4.2 ความเร็วรอบและความเร็วตดั สาหรบั ดอกสวา่ น หมายเหตุ : จากตวั อยา่ งที่ 4.1 ความเร็วรอบทคี่ านวณได้ คอื 955 รอบ/นาที และเมอื่ พจิ ารณาคา่ ความเร็ว จากตารางที่ 4.2 จะไดค้ วามเร็วรอบเทา่ กบั 870 รอบ/นาที ซง่ึ เป็ นคา่ ทใี่ กลเ้ คยี งกบั คา่ ทไี่ ดจ้ ากการคานวณ ดงั นน้ั ในทางปฏบิ ตั อิ าจใช้คา่ จากการคานวณหรอื ตารางก็ไดเ้ ชน่ เดยี วกนั ตวั อยา่ งที่ 4.1 เจาะชิน้ งานซง่ึ เป็ นเหล็กกลา้ ท่วั ไป โดยใช้ดอกสวา่ นขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 10 มม. จะตอ้ งใช้ความเร็วรอบเทา่ ไร
4.6.3 การปรบั ตง้ั ความเร็วรอบเครอื่ งเจาะ หลงั จากไดค้ า่ ความเร็วรอบทเี่ หมาะสมกบั ชน้ิ งานเจาะแลว้ ผปู้ ฏบิ ตั จิ ะตอ้ งปรบั ตง้ั ความเร็ว บนเครอื่ งเจาะใหต้ รงกบั ความเร็วทคี่ านวณได้ โดยการปรบั ตง้ั ความเร็วรอบมีขน้ั ตอนดงั น้ี 1. เครอื่ งเจาะสง่ กาลงั ดว้ ยสายพาน 1.1 เปิ ดฝาครอบชุดสายพานดา้ นบนของเครอื่ งเจาะ 1.2 คลายสกรูล็อกคานเลอื่ นมอเตอร์ จากนน้ั จงึ สายพานใหห้ ยอ่ นเขา้ หาชุดเพลาเจาะ ใหม้ ากทสี่ ดุ เทา่ ทจี่ ะทาได้ 1.3 ใช้มอื ดงึ ใหส้ ายพานเบยี่ งไปทางลอ้ ขบั สายพานชุดเล็ก จากนน้ั ใช้มอื ชว่ ยหมนุ ลอ้ ชุดสายพาน เพอื่ ใหส้ ายพานหลุดออกจากรอ่ งเดมิ
1.5 ตรงึ สายพานดว้ ยแขนปรบั ตรงสายพาน จากนน้ั ล็อกสกรคู านเลอื่ นมอเตอรใ์ หเ้ ขา้ 1.6 ปิ ดฝาครอบชุดสายพาน หมายเหตุ : การเปลยี่ นความเร็วรอบของเครอื่ งเจาะสง่ กาลงั ดว้ ยสายพานมขี อ้ ควรระวงั ดงั นี้ - หา้ มใสส่ ายพานสลบั กบั ลอ้ สายพานหรอื ไขวผ้ ดิ รอ่ งสายพาน ถา้ มอื เปื้ อนน้ามนั หา้ มทางานกบั สายพาน - หา้ มเปิ ดเครอื่ งเพอื่ ชว่ ยใสส่ ายพานโดยเด็ดขาด 2. เครอื่ งเจาะสง่ กาลงั ดว้ ยเฟื อง สาหรบั เครอื่ งเจาะแบบสง่ กาลงั ดว้ ยเฟื องมขี น้ั ตอนดงั นี้ 2.1โยกคนั โยกหาความเร็วรอบตามตารางความเร็วรอบบนหวั เครอื่ งเจาะ 2.2 ขณะโยกคนั โยกใหข้ ยบั เพลาหมนุ ไป-มา เพอื่ ใหร้ อ่ งฟนั เฟื องขบกนั ไดง้ า่ ย
4.6.4 อตั ราป้ อนดสวา่ น ตราป้ อนดอกสวา่ น คอื ความเร็วของดอกสวา่ นทปี่ ้ อนตดั เอนวสั ดชุ ิน้ งานเมอื่ ดอกสวา่ น หมุนครบ 1 รอบ มหี น่วยวดั เป็ น มม./รอบ เชน่ อตั ราป้ อนเจาะ 0.02 มม./รอบ หมายถงึ เมอื่ ดอกสวา่ นหมนุ ครบ 1 รอบ จะสามารถป้ อนตดั เนื้อวสั ดไุ ดล้ กึ ลงไปในเนื้อชน้ิ งาน 0.20 มม. เป็ นตน้ ในการป้ อนตดั เฉือนช้นิ งานถา้ อตั ราป้ อนมากจะทาใหเ้ ศษเจาะมคี วามหนาและใช้ แรงกดเจาะ มากตามดว้ ย ซง่ึ อาจสง่ ผลใหผ้ วิ รูเจาะหยาบหรือดอกสวา่ นหกั ได้ ดงั นน้ั การเลือกความเร็วป้ อนจงึ ตอ้ ง เล็อกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ขนาดของดอกสวา่ น ดงั ตวั อยา่ งในตารางที่
4.7หลกั การทางานดว้ ยเครือ่ งเจาะ ปฏบิ ตั งิ านบนเครอื่ งเจาะ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งมีความรแู้ ละทกั ษะทจี่ าเป็ นในด้ ช่น การจบั ยดึ ขน้ึ งานบนเครอื่ งเจาะ การจบั ยดึ ดอกสวา่ น การปรบั ความเร็วรอบสาหรบั การเจาะ ทเี่ หมาะสม เป็ นตน้ โดยมรี ายละเอียดดงั ตอ่ ไปน้ี 4.7.1 การจบั ยดึ ขน้ึ งานบนเครือ่ งเจาะ ในการปฏบิ ตั งิ านบนเครอื่ งเจาะ การจบั ยดึ ขน้ึ งานจะมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ทง้ั นี้ขนึ้ อยกู่ บั รปู รา่ งของขนึ้ งาน ดงั นน้ั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งเลอื กใช้เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ช่วยยดึ ใหถ้ กู ตอ้ งและเหม าะสม ดงั ตวั อยา่ งในรูปที่ 4.35
4.7.2 การจบั ยดึ เครอื่ งมอื ตดั เนื่องจากเครอื่ งมือตดั สาหรบั งานเจาะมมี ากมายหลายชนิด ทง้ั ทใี่ ชง้ านท่วั ไป เชน่ ดอกสวา่ น และใชง้ านเฉพาะ เชน่ ดอกควา้ นเรียบ ดงั นน้ั ในการจบั ยดึ เครอื่ งมือตดั สามารถแบง่ ไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะใหญ่ ตมรปู รา่ งของกา้ นเครอื่ งมือตดั คอื การจบั ยดึ เครอื่ งมือตดั แบบกา้ นจบั ตรงและแบบกา้ นจบั เรยี วดงั ทไี่ ด้ อธบิ ายมาแลว้ 4.7.3 การปรบั ตง้ั ความเร็วรอบและอตั ราป้ อนสาหรบั งานเจาะ กอ่ นปรบั ตง้ั ความเร็วรอบสาหรบั การเจาะงานทกุ ครง้ั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งคานวณหาความเร็วรอบและเหมาะสมกบั ขนาดของดอกสวา่ น และชนิดของวสั ดทุ นี่ ามาเจาะ 4.8การเจาะรดู ว้ ยเครอื่ งเจาะ การเจาะรูชนิ้ งานดว้ ยเครอื่ งเจาะมีขน้ั ตอนดงั นี้ 4.8.1 ศกึ ษาแบบงานใหเ้ ขา้ ใจ 4.8.2 เตรียมเครอื่ งมือและอุปกรณ์ทจี่ าเป็ นสาหรบั การเจาะรูตามแบบงานนน้ั ๆ ใหค้ รบถว้ น
4.8.3นาชนิ้ งานทตี่ อ้ งการเจาะรูมารา่ งแบบ 4.8.4 เมอื่ รา่ งแบบงานเสร็จแลว้ ใหต้ อกนาศนู ย์บรเิ วณจุดศนู ยก์ ลางของรเู จาะ 4.8.5 นาชนิ้ งานมาจบั ยดึ ูงานบนเครอื่ งเจาะใหแ้ น่นและไดต้ าแหน่ง โดยเลอื กอุปกรณ์จบั ยดึ ทเี่ หมาะสม 4.8.6 นาหวั จบั ดอกสวา่ นทเี่ ตรยี มไวม้ าประกอบเขา้ กบั เพลาหมนุ (Spindle) ของเครอื่ งเจาะ 4.8.7 จบั ยดึ ดอกเจาะนาศนู ยเ์ ขา้ กบั หวั จบั ดอกสวา่ นใหแ้ น่น 4.8.8 ปรบั ตง้ั ความเร็วรอบสาหรบั การเจาะตามทคี่ านวณไดห้ รือใช้คา่ จากตาราง 4.8.9 เปิ ดเครอื่ งแลว้ เจาะนาศนู ย์ชนิ้ งาน ณ ตาแหน่งทตี่ อกนาศูนยห์ รือบรเิ วณจุดศนู ยก์ ลางของรูเจาะ 4.8.10 หยดุ เครอื่ งเจาะเพอื่ เปลยี่ นดอกสวา่ น 4.8.11 นาดอกสวา่ นทตี่ อ้ งการเจาะมาจบั ยดึ ดอกสวา่ นเขา้ กบั หวั จบั ดอกสวา่ นหรอื เพลาห มนุ ของเครอื่ งเจาะ 4.8.12 ปรบั ตง้ั ความเร็วรอบสาหรบั การเจาะตามทคี่ านวณได้ 4.8. 13 เปิ ดเครอื่ ง จากนน้ั เจาะรตู ามตาแหน่งตา่ ง ๆ ทไี่ ดเ้ จาะนาศนู ย์ไปแลว้ โดยในขณะเจาะรใู ห้ หลอ่ เย็น (Coolant) ตามชนิดของวสั ดชุ นิ้ งาน และขณะเจาะรคู วรจะถอยดอกสวา่ นขนึ้ เพอื่ คายเศษเจาะ อกี ทง้ั ยงั เป็ นการป้ องกนั ดอกสวา่ นหกั จากเศษเจาะอดุ ตนั 4.8.14 ปิ ดเครอื่ งแลว้ ตรวจสอบความลกึ ของรูเจาะ (กรณีทเี่ จาะรไู มท่ ะล)ุ 4.8.15 ทาการเจาะรูทตี่ าแหน่งอนื่ ๆ จนกระท่งั ครบตามแบบงาน 4.8. 16 ปี ดเครอื่ งและถอดหวั จบั ดอกสวา่ นออกจากเพลาหมุนของเครอื่ งเจาะ 4.8.17 ถอดชิ้นงานออกจากแทน่ รองรบั หรอื ปากกา 4.8.18 ทาความสะอาดเครอื่ งมอื อุปกรณ์ และเครอื่ งเจาะ
4.8.19 จดั เก็บเครอื่ งมอื และอุปกรณ์ใหเ้ รยี บรอ้ ย 4.9.1 ความปลอดภยั ในการใช้เครอื่ งเจาะ เพอื่ ความปลอดภยั ในการทางานกบั เครอื่ งเจาะผปู้ ฏบิ ตั งิ านจะตอ้ งระมดั ระวงั 4.9.1 จบั ชนิ้ งานใหแ้ น่นและมน่ ั คง เพอื่ ไมใ่ หช้ น้ิ งานหลุดและหมนุ ตามสวา่ นได้
4.9.3 หา้ มใช้มอื ปดั หรือกวาดเศษเจาะลงจากโตะ๊ จบั ขน้ึ งาน (นิ้วอาจถกู บาดเป็ นแผลและขาดได)้ แหละหา้ มใช้ลมเป๋ าเศษเจาะเพราะอาจกะเต็ นเขา้ ตาได้ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านควรใชแ้ ปลงปดั ลงจะปลอดภยั กวา่
4.9.8ควรใชไ้ มร้ องช้ินงาน เพอื่ ป้ องกนั ดอกสวา่ นทะลไุ ปถกู พ้ืนปากกาจบั ชินงานหรือโตะ๊ งานเครอื่ งเจาะ 4.9.9 เลอื กใชด้ อกสวา่ นทมี่ ีคมตดั และมีมมุ ทถี่ กู ตอ้ งกบั วสั ดชุ น้ิ งาน เชน่ ถา้ เจาะชนิ้ งานโลหะท่วั ไป ใหใ้ ช้มุมรวมปลายดอกสวา่ นเทา่ กบั 118 องศา เป็ นตน้ 4:10 การบารงุ รกั ษาเครอื่ งเจาะ เพอื่ ยดึ อายุการใชง้ านของเครอื่ งเจาะ ผปู้ ฏบิ ตั คิ วรบารุงรกั ษาเครอื่ งเจาะใหถ้ กู วธิ ีดงั นี้ 4. 10. 1 ตรวจสอบสภาพของเครอื่ งเจาะตามจุดตา่ ง ๆ กอ่ นใชง้ านทกุ ครง้ั เชน่ สายพาน ความตงึ ของสายพานหรอื แขนโยกตา่ ง ๆ และโตะ๊ จบั ชนิ้ งานวา่ อยใู่ นสภาพสมบูรณ์พรอ้ มทจี่ ะทางานหรอื ไม่ ถา้ มี
ปญั หาใหแ้ จง้ ผคู้ วบคุมแกไ้ ขทราบโดยทนั ที 4. 10.2 ขณะใชเ้ ครอื่ งเจาะ หากมีสว่ นใดสว่ นหนึ่งของเครือ่ งเจาะเกดิ ความเสียหาย ใหห้ ยดุ เครือ่ ง เพอื่ ซอ่ มบารงุ โดยทนั ที 4.10.3 หลงั การใชง้ านเสร็จแลว้ จะตอ้ งทาความสะอาดและหยอดน้ามนั ตามจดุ หลอ่ ลนื่ ตา่ ง ๆ เชน่ สว่ นประกอบทเี่ คลอื่ นทเี่ พอื่ ลดการสกึ หรอขยงสว่ นตา่ ง ๆ ของเครอื่ งเจาะ 4.10.4 กอ่ นปรบั ความเร็วรอบของดอกสวา่ น ไมว่ า่ จะเป็ นระบบเฟื องหรอื ระบบสายพาน จะตอ้ ง หยดุ เครอื่ งใหส้ นิทกอ่ น และถา้ เป็ นระบบสายพานจะตอ้ งปรบั สายพานใหต้ งึ และม่นั คง 4. 10.5 กอ่ นสวมปลอกเรยี วหรอื หวั จบั ดอกสวา่ นเขา้ ไปในเพลาเครอื่ งเจาะ จะตอ้ งทาความสะอาด ไมใ่ หม้ เี ศษโลหะ เพราะอาจทาใหก้ ารจบั ยดึ ดว้ ยเรยี วไมแ่ นบสนิท 4.10.6 เพอื่ ป้ องกนั ไมใ่ หด้ อกสวา่ นเจาะทะลถุ งึ ฐานของปากกาจบั ช้ินงานหรอื พื้นโตะ๊ งาน จะตอ้ ง ใช้ไมห้ รอื แทง่ ขนานรองรบั ชนิ้ งาน 4. 10.7 เมอื่ ปฏบิ ตั งิ านเสร็จแลว้ จะตอ้ งทาความสะอาดเครอื่ งใหป้ ราศจากเศษโลหะและขโ ลม น้ามนั ทกุ สว่ นของเครอื่ งเจาะเพอื่ ป้ องกนั สนิม 4.11 การควา้ นเรยี บ การควา้ นเรยี บ (Reaming) มีวตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ทาใหผ้ วิ รูเจาะเรยี บและไดข้ นาดเทยี่ งตรง
4.11.1 ดอกควา้ นเรยี บ ดอกควา้ นเรยี บ (Reamer) เป็ นเครอื่ งมอื ตดั สาหรบั งานควา้ นเรยี บ มีสว่ นประกอบทสี่ าคญั จากรูปที่ 4.40 ดอกควา้ นเรียบ ประกอบดว้ ยสว่ นทสี่ าคญั 3 สว่ น ดงั นี้ 1. ดา้ ม (Shank) เป็ นสว่ นทรี่ บั กาลงั จากมอื หมนุ หรือเครอื่ ง 2. คมตดั (Blade) มีหน้าทปี่ าดผวิ รเู จาะใหเ้ รยี บและไดข้ นาดทถี่ กู ตอ้ ง 3. คมนาตดั (Cutting Lips) มหี น้าทนี่ าคมของดอกควา้ นเรยี บเขา้ ปาดผวิ รูไดต้ รงศนู ย์ 4.11.2 ชนดิ ของดอกควา้ นเรียบ ดอกควา้ นเรยี บแบง่ ออกเป็ น 2 ชนิด ดงั นี้ 1. ดอกควา้ นเรยี บดว้ ยมอื (Hand Reamers) ทปี่ ลายดา้ มของดอกควา้ นเรยี บจะมี ตกั ษณะเป็ นรปู สเี่ หลยี่ มเพอื่ ใช้สาหรบั มือหมนุ แบง่ ออกเป็ น 3 แบบ คือ แบบขนาดตายตวั แบบปรบั ชนาต ได้ และแบบเรียว
2. ดอกควา้ นเรยี บดว้ ยเครอื่ ง (Machine Reamers) ทปี่ ลายดา้ มของดอกควา้ นเรยี บแบง่ ออกเป็ น 2ชนดิ คอื ชนดิ ดา้ มตรง ซงึ่ ใชก้ บั หวั จบั ของดอกสวา่ นและชนดิ ดา้ มเรียวทีใ่ ชจ้ บั กบั ลของเครือ่ ง ดอกควา้ นเรยี บดว้ ยเครอื่ งแบง่ ออกเป็ น 2 แบบ คอื แบบตายตวั และแบบปรบั ขนาดได้
4.11.3 หลกั การควา้ นเรยี บ 1. การเจาะรสู าหรบั การควา้ นเรยี บ กอ่ นทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านควา้ นเรยี บจะตอ้ งเจาะรดู ว้ ย ดอกสวา่ นกอ่ น และขนาดของรเู จาะก็จะตอ้ งเล็กกวา่ ขนาดของดอกควา้ นเรียบ ซงึ่ สามารถคานวณจากสตู ร ดงั ตอ่ ไปน้ี ds = d,-z d = ขนาดรเู จาะ d = ขนาดดอกควา้ นเรยี บ - = ระยะเผอื่ (ระยะเผอื่ จากตาราง + สว่ นเกนิ ของขนาด) ตวั อยา่ งที่ 4.2 เจาะรูดว้ ยดอกควา้ นเรยี บขนาดสาเร็จ 0 20 มม. จงหาขนาดของรเู จาะดว้ ย ดอกสวา่ น วธิ ที า จากสูตรขนาดของรูเจาะ = ขนาดสาเร็จ-(ระยะเผอื่ + สว่ นเกนิ ของขนาด) = 20-(0.3+0.05) ดงั นน้ั ขนาดของดอกสวา่ น = 19.65 มม. ตอบ
หมายเหตุ : ดอกสวา่ นขนาดหนึ่ง ๆ เมอื่ เจาะรเู สร็จแลว้ ขนาดของรเู จาะโดยปกตแิ ลว้ จะโตกวา่ ขนาด ของดอกสวา่ นประมาณ 0.05 มม. ซงึ่ เป็ นสว่ นเกนิ ของขนาดในการควา้ นเรียบ สาหรบั ระยะเผอื่ ดูไดจ้ าก ตารางที่ 4.4 2. ความเร็วรอบสาหรบั งานควา้ นเรยี บดว้ ยเครอื่ ง การควา้ นเรยี บดว้ ยเครอื่ งโดยปกตแิ ลว้ จะเลือกใชค้ วามเร็วรอบช้ากวา่ ความเร็วร อบทใี่ ช้ในการเจาะรูประมาณ 1 ใน 3
สว่ นความเร็วตดั และความเร็วในการควา้ นเรียบจะขน้ึ อยูก่ บั วสั ดชุ นิ้ งานและวสั ดุ ทใี่ ชผ้ ลติ ดอกควา้ นเรยี บ ดงั ในตารางที่ 4.5 และ ตารางที่ 4.6 4. ขน้ั ตอนการควา้ นเรยี บดว้ ยมอื มดี งั น้ี 4.1 เจาะรใู หม้ ีขนาดเล็กกวา่ ขนาดจรงิ ดว้ ยเครอื่ งเจาะหรอื เครอื่ งกลงึ 4.2 จบั ยดึ ขน้ึ งานดว้ ยปากกาจบั ชน้ิ งานใหแ้ น่นและมน่ ั คง 4.3 ควา้ นเรยี บดว้ ยมอื โดยใช้ดา้ มตา้ ปเกลยี วและใหห้ มนุ ไปทศิ ทางเดยี ว หา้ มหมนุ กลบั ทศิ ทางเหมอื นตา๊ ปเกลยี ว เพราะเศษชนิ้ งานจะขดู ผวิ ขนึ้ งานเป็ นรอยได้
4.4 ตรวจศนู ยแ์ นวฉากระหวา่ งดอกควา้ นเรยี บกบั ผวิ ขนึ้ งานโดยใชฉ้ ากตาย 4.5 หลอ่ ลนื่ ดอกควา้ นเรยี บและขน้ึ งานดว้ ยน้ามนั ตดั เพอื่ ชว่ ยยดื อายุการใชง้ านของดอกควา้ นเรียบ และรกั ษาคุณภาพของผวิ ชนิ้ งาน ขอ้ ควรระวงั : ในการควา้ นเรยี บจะตอ้ งหมนุ ขวาทางเดยี วเทา่ นน้ั หา้ มหมนุ ซา้ ยโดยเด็ดขาด ทง้ั นี้เพราะคมตดั ของดอกควา้ นเรยี บอยดู่ า้ นหมนุ ขวา ถา้ หมนุ กลบั ทางซา้ ย คมตดั อาจทบั เศษโลหะและกดลงไปในผวิ ขนึ้ งานทาใหเ้ กดิ รอย และยงิ่ ไปกวา่ นน้ั อาจทาใหด้ อกควา้ นเรยี บหกั ได้
แบบฝึ กหดั หน่วยที่ 4เครอื่ งเจาะและงานเจาะ คาส่งั จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1.จงบอกชื่อและหน้าทขี่ องสว่ นประกอบของเครอื่ งเจาะตามหมายเลขทกี่ าหนดใ หต้ อ่ ไปน้ี หมายเลข 1 ชื่อ หน้าที่ หมายเลข 2 ชื่อ หน้าที่ หมายเลข 3 ซอื่ หน้าที่ หมายเลข 4 ชื่อ หน้าที่ หมายเลข 5 ชือ่ หมายเลข 6 ชือ่ หน้าที่ หมายเลข 7 ชือ่ หน้าที่ หน้าที่
จงเลอื กหมายเลขและตวั อกั ษรดา้ นหน้าขอ้ ความไปเตมิ ลงในชอ่ งวา่ งใหต้ รงกบั ชื่ อแลเครอื่ งมอื ตอ่ ไปนี้ใหถ้ กู ตอ้ ง
3. จงเขยี นขน้ั ตอนการปรบั ความเร็วรอบของเครอื่ งเจาะชนดิ สง่ กาลงั ดว้ ยสายพานม าพอเขา้ ใจ 4. จงเขียนขน้ั ตอนการเจาะดว้ ยเครอื่ งเจาะมาพอเขา้ ใจ 5. จงบอกขอ้ ควรระวงั ในการใช้เครอื่ งเจาะมาอยา่ งน้อย 5 ขอ้ 6.จงบอกวธิ กี ารบารงุ รกั ษาเครอื่ งเจาะตง้ั พ้นื มาอยา่ งนอ้ ย 5 ขอ้ 7. ดอกควา้ นเรยี บ (Reamer) แบง่ ออกเป็ นกแี่ บบและอะไรบา้ ง 8.ดอกควา้ นเรียบมสี ว่ นประกอบทสี่ าคญั กสี่ ว่ นและมอี ะไรบา้ ง 9.ในการควา้ นเรยี บดว้ ยดอกควา้ นเรยี บทมี่ ีขนาดเสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง 12 มม. จะตอ้ งเจาะรูขนาดเทา่ ไร (กาหนดระยะเผอื่ เทา่ กบั 0.20 มม.)
10. จงอธบิ ายขน้ั ตอนในการควา้ นเรียบดว้ ยมือมาเป็ นขอ้ ๆ มาพอเขา้ ใจ
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: