Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ACTIVE LEARNING

ACTIVE LEARNING

Published by drsuwat2557, 2019-06-08 16:49:40

Description: ACTIVE LEARNING

Search

Read the Text Version

Active Learning Instructional Design Suwat Niyomthai

กจิ กรรมท่ี 1 ในฐานะคร.ู .. ท่านมีเป้าหมายในการจัดการเรยี น การสอนอย่างไร

Bloom Taxonomy

พทุ ธพิ สิ ยั Cognitive Domain

Anderson and Krathwohl – Bloom’s Taxonomy Revised

จำ Remembering เปน็ ระดบั พน้ื ฐานของการเรียนรู้ท่ีเนน้ กระบวนการนาเอาหรือดึงเอาความรู้ การสบื ค้น การเตอื น ความจา ได้จากความจาระยะยาวของคนออกมาเพื่อกาหนดการเรียนรู้ ให้พฒั นาตอ่ ไปในระดบั ท่ี สูงขึน้ ท่ีไดจ้ ากความรู้เดมิ ของคน จำ เรยี กความรทู้ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งจากหน่วยความจาระยะยาว – ตระหนักถงึ – นึกถงึ

กำรเขำ้ ใจ Understanding ระดบั ถดั มาเป็นกระบวนการสรา้ งความรูอ้ ย่างมคี วามหมาย จากสอ่ื จากการอธบิ าย การ พดู การเขยี น การแยกแยะ การเปรยี บเทยี บ การจดั หมวดหมู่ หรอื การอธบิ าย ทจ่ี ะนาไปสู่ ความเขา้ ใจในสง่ิ ทก่ี าลงั เรยี นรู ้ เขา้ ใจ กาหนดความหมายของสง่ิ ทเ่ี รยี นจากการเขยี นหรอื จากสอ่ื – ยกตวั อย่าง – การตคี วาม – สรุป – จาแนก – อธบิ าย – เปรยี บเทยี บ

กำรประยกุ ตใ์ ช้ Applying กระบวนการในขนั้ ต่อมา เป็นการนาความรูค้ วามเขา้ ใจไปประยุกตใ์ ช้ หรอื นาไปใชใ้ หเ้กดิ ประโยชน์ ดว้ ยกระบวนการหรอื วธิ กี ารดาเนนิ การอยา่ งเป็น ขน้ั เป็นตอน – การดาเนนิ การ – การใชป้ ระโยชน์

กำรวเิ ครำะห์ Analyzing ระดบั ต่อมาเป็นกระบวนการนาส่วนต่างๆ ของการเรยี นรู้ มาประกอบเป็นโครงสรา้ งใหม่ ดว้ ยการการพจิ ารณาวา่ มสี ว่ นใด สมั พนั ธก์ บั ส่วนอน่ื อย่างไร พจิ ารณาโครงสรา้ งโดยรวมของ สง่ิ ทเ่ี รยี นรู้ แยกแยะวตั ถปุ ระสงคท์ แ่ี ตกต่างผา่ นการกระบวนการอย่างเป็นระบบ – ความแตกต่าง – การจดั รูปแบบ – วตั ถปุ ระสงค์

กำรประเมินผล Evaluating ตดั สนิ เลอื ก การตรวจสอบ สง่ิ ทไ่ี ดจ้ ากการเรยี น สู่บรบิ ทของตนเอง ท่ี สามารถวดั ได้ และตดั สนิ ไดว้ า่ อะไรถกู หรอื ผดิ บนเงอ่ื นไขและมาตรฐานท่ี สามารถตรวจสอบได้ บนพ้นื ฐานของเหตผุ ลและเกณฑท์ แ่ี น่ชดั

กำรสรำ้ งสรรค์ Creating ในระดบั สูงสุดของการเรยี นรู้ เพอ่ื ใหไ้ ดอ้ งคป์ ระกอบของสง่ิ ทเ่ี รยี นรูร้ ่วมกนั ดว้ ยการ สงั เคราะห์ เพอ่ื เชอ่ื มโยง ใหร้ ูปแบบใหมข่ องสง่ิ ทเ่ี รยี นรูห้ รอื โครงสรา้ งของความรูท้ ผ่ี า่ นการ วางแผน และการสรา้ งหรอื การผลติ อยา่ งเหมาะสม – สรา้ ง – การวางแผน – การผลติ

จติ พสิ ยั Affective Domain

ทกั ษะพสิ ยั Psychomotor Domain

กจิ กรรมท่ี 2 Active Learning คืออะไร? สอนยงั ไงเรยี กวา่ Active Learning?

ควำมหมำย Active Learning คอื กระบวนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ผูเ้รยี นไดล้ งมอื กระทา และไดใ้ ชก้ ระบวนการคดิ เกย่ี วกบั สง่ิ ทเ่ี ขาได้ กระทาลงไป

กระบวนการเรียนรู้ Passive Learning • กระบวนกำรเรยี นรูโ้ ดยกำรอำ่ นท่องจำผูเ้ รยี นจะจำไดใ้ นส่งิ ท่เี รยี นไดเ้ พยี ง 10% • กำรเรยี นรูโ้ ดยกำรฟังบรรยำยเพยี งอย่ำงเดียว โดยท่ผี ูเ้ รยี นไม่มโี อกำสได้ มีสว่ นรว่ มในกำรเรยี นรูด้ ว้ ยกจิ กรรมอน่ื ใน ขณะท่อี ำจำรยส์ อนเม่ือเวลำผ่ำนไปผูเ้ รยี นจะจำไดเ้ พยี ง 20%

กระบวนการเรยี นรู้ Passive Learning • หำกในกำรเรยี นกำรสอนผูเ้ รยี นมโี อกำสไดเ้ หน็ ภำพประกอบดว้ ยกจ็ ะทำใหผ้ ล กำรเรยี นรูค้ งอยู่ไดเ้ พม่ิ ข้ึนเป็น 30% • กระบวนกำรเรยี นรูท้ ่ผี ูส้ อนจดั ประสบกำรณ์ใหก้ บั ผูเ้ รยี นเพม่ิ ข้ึน เช่น กำรใหด้ ู ภำพยนตร์ กำรสำธติ จดั นิทรรศกำรใหผ้ ูเ้ รยี นไดด้ ู รวมทง้ั กำรนำผูเ้ รยี นไปทศั น ศึกษำ หรอื ดูงำน กท็ ำใหผ้ ลกำรเรยี นรูเ้ พม่ิ ข้ึนเป็น 50%

กระบวนการเรยี นรู้ Active Learning • กำรใหผ้ ูเ้ รยี นมบี ทบำทในกำรแสวงหำควำมรูแ้ ละเรยี นรูอ้ ย่ำงมีปฏสิ มั พนั ธจ์ น เกดิ ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจนำไปประยกุ ตใ์ ชส้ ำมำรถวเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ ประเมินค่ำ หรอื สรำ้ งสรรคส์ ง่ิ ต่ำงๆ และพฒั นำตนเองเตม็ ควำมสำมำรถ รวมถงึ กำรจดั ประสบกำรณ์กำรเรยี นรูใ้ หเ้ ขำไดม้ ีโอกำสร่วมอภปิ รำยใหม้ โี อกำสฝึกทกั ษะกำร สอ่ื สำร ทำใหผ้ ลกำรเรยี นรูเ้ พม่ิ ข้ึน 70% • กำรนำเสนองำนทำงวชิ ำกำร เรยี นรูใ้ นสถำนกำรณ์จำลอง ทง้ั มกี ำรฝึกปฏบิ ตั ิ ในสภำพจรงิ มกี ำรเช่ือมโยงกบั สถำนกำรณ์ต่ำงๆ ซ่งึ จะทำใหผ้ ลกำรเรยี นรูเ้ กดิ ข้ึน ถงึ 90%

ลกั ษณะของ Active Learning (อ้างอิงจาก :ไชยยศ เรอื ง สุวรรณ) เป็นกำรเรยี นกำรสอนท่พี ฒั นำศกั ยภำพทำงสมอง ไดแ้ ก่ กำรคดิ กำรแกป้ ญั หำ กำรนำควำมรูไ้ ป ประยกุ ตใ์ ช้ เป็นกำรเรยี นกำรสอนท่เี ปิดโอกำสใหผ้ ูเ้ รยี นมีสว่ นร่วมในกำรเรยี นรู้ ผูเ้ รยี นสรำ้ งองคค์ วำมรูแ้ ละจดั ระบบกำรเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ผูเ้ รยี นมีสว่ นร่วมในกำรเรยี นกำรสอน มกี ำรสรำ้ งองคค์ วำมรู้ กำรสรำ้ งปฎสิ มั พนั ธร์ ่วมกนั และรว่ มมอื กนั มำกกว่ำกำรแข่งขนั ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรูค้ วำมรบั ผิดชอบรว่ มกนั กำรมีวนิ ยั ในกำรทำงำน และกำรแบ่งหนำ้ ท่คี วำมรบั ผิดชอบ

ลักษณะของ Active Learning (อา้ งอิงจาก :ไชยยศ เรือง สุวรรณ) เป็นกำรเรยี นกำรสอนท่พี ฒั นำศกั ยภำพทำงสมอง ไดแ้ ก่ กำรคดิ กำรแกป้ ญั หำ กำรนำควำมรูไ้ ป ประยุกตใ์ ช้ เป็นกำรเรยี นกำรสอนท่เี ปิดโอกำสใหผ้ ูเ้ รยี นมีสว่ นร่วมในกำรเรยี นรู้ ผูเ้ รยี นสรำ้ งองคค์ วำมรูแ้ ละจดั ระบบกำรเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ผูเ้ รยี นมีสว่ นรว่ มในกำรเรยี นกำรสอน มกี ำรสรำ้ งองคค์ วำมรู้ กำรสรำ้ งปฎสิ มั พนั ธร์ ่วมกนั และ ร่วมมือกนั มำกกวำ่ กำรแข่งขนั ผูเ้ รยี นไดเ้ รยี นรูค้ วำมรบั ผิดชอบรว่ มกนั กำรมีวนิ ยั ในกำรทำงำน และกำรแบง่ หนำ้ ท่คี วำม รบั ผิดชอบ

บทบาทของครู กับ Active Learning ณัชนัน แกว้ ชัยเจรญิ กิจ (2550) จดั ใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นศูนยก์ ลำงของกำรเรยี นกำรสอน กจิ กรรมตอ้ งสะทอ้ นควำมตอ้ งกำรในกำร พฒั นำผูเ้ รยี นและเนน้ กำรนำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ จรงิ ของผูเ้ รยี น สรำ้ งบรรยำกำศของกำรมสี ว่ นรว่ ม และกำรเจรจำโตต้ อบท่สี ง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี นมปี ฏิสมั พนั ธท์ ่ดี กี บั ผูส้ อนและเพอ่ื นในชน้ั เรยี น จดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนใหเ้ ป็นพลวตั สง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในทกุ กจิ กรรมรวมทง้ั กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นประสบควำมสำเรจ็ ในกำรเรยี นรู้ จดั สภำพกำรเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ กำรรว่ มมอื ในกลมุ่ ผูเ้ รยี น

บทบาทของครู กับ Active Learning ณชั นัน แก้วชัยเจริญกิจ (2550) จดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอนใหท้ ำ้ ทำย และใหโ้ อกำสผูเ้ รยี นไดร้ บั วธิ กี ำรสอนท่ีหลำกหลำย วำงแผนเก่ยี วกบั เวลำในจดั กำรเรยี นกำรสอนอยำ่ งชดั เจน ทง้ั ในสว่ นของเน้ือหำ และกจิ กรรม ครูผูส้ อนตอ้ งใจกวำ้ ง ยอมรบั ในควำมสำมำรถในกำรแสดงออก และควำมคิดของผูเ้ รยี น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook