Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวนิยายล่ม

นวนิยายล่ม

Published by far.d.n.a.99, 2019-04-26 11:13:13

Description: นวนิยายล่ม

Search

Read the Text Version

การวิจารณ์วรรณกรรม เรอ่ื ง การล่มสลายของสถาบันครอบครัวท่ีความรกั ไม่อาจเยียวยา ตามหลกั ทฤษฎจี ติ วิทยาของ ซกิ มนุ ต์ ฟรอยด์ เรอื่ งย่อ เธอฝนั ถึงเร่ืองอันชวนหลอน เปน็ ฝันร้ายท่ีเธอฝันซา้ ๆ กันอยู่หลายคืนโดยเฉพาะในช่วงสองเดือนท่ี ผา่ นมาอันเปน็ ชว่ งเวลาทเ่ี ธอพยายามฆ่าตัวตายหลายครัง เธอเป็นลกู ทพี่ อ่ ไมย่ อบรับและแม่กพ็ ยายามขบั ไส ใน วยั เดก็ เธอต้องระเหเร่ร่อนไปอาศัยอยู่กับญาติคนนันคนนีในขณะที่แม่ต้องไปทา้ งานต่างแดน ถึงแม้พวกเขา ไม่ได้ทา้ ร้ายหรือรงั แกแต่เธอก็ขาดความรกั ความอบอุ่นและการเอาใจใส่อย่างรนุ แรง ความรู้สึกถกู ปฏเิ สธถูก ละเลยอ้างวา้ งและว่างเปลา่ คงสั่งสมในตัวเธอมานับแตว่ ัยทารก และถูกกดเก็บจนกรุน่ ระอุได้ท่เี ม่ือเธอเติบโต ขึนมาเป็นเด็กสาว ความว่างเปล่านันมันยิ่งใหญ่เสียจนเธอรู้สึกชืดชาต่อการมีชวี ิตอยู่ เธอจึงต้องกระต้นุ หรือ ปลุกเร้าความรู้สึกตัวของตวั เองด้วยการท้าร้ายตัวเอง ด้วยวิธีอันน่าสยดสยองปนสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง เปน็ ทังปลกุ เร้าตวั เองให้ตนื่ ตัวและเป็นทงั การเรยี กร้องความสนใจจากผ้เู ป็นแม่ฯลฯ นักเขยี นใช้วิธีเลา่ เรื่องราวสลับกนั ไปมาระหว่างชีวติ ความคดิ ของ\"ฉัน\"ในช่วงเวลาปจั จบุ นั ทต่ี อ้ ง เที่ยวไปโรงพยาบาลเพ่อื รกั ษาอาการทางจิตเวช แลว้ แฟลชแบ็คไปถึงเรอื่ งราวความเปน็ มาเปน็ ไปในอดีต บท เว้นบท แล้วเรื่องราวก็วนมาบรรจบกันในบทท้ายๆโดยทิงคา้ งไว้กลางคันระหวา่ งการรกั ษาตวั ของเธอกบั การ พยายามทา้ รา้ ยตัวเองอย่างไมห่ ยุดหยอ่ น... นวนยิ ายเล่มนเี ปน็ เรื่องทผ่ี ู้เขียนสรา้ งตัวละครให้เกดิ อาการทางจิตที่มีผลมาจากครอบครวั ทไ่ี มส่ มบรู ณ์ และประกบั เหตกุ ารณท์ ่ีล้วนแตส่ รา้ งความเก็บกดตอกย้าในสิ่งทีต่ วั ละครรสู้ ึกว่าขาดหายไป ซง่ึ ในรายงานเลม่ นี ได้วิเคราะห์วิจารณ์นวนิยาย เรื่อง การล่มสลายของสถาบันครอบครัวท่ีความรักไม่อาจเยียวยากับทฤษฎี จิตวทิ ยาของ ซกิ มุนต์ ฟรอยด์ ดงั ต่อไปนี 1.ทฤษฎีวา่ ดว้ ยบคุ ลกิ ภาพของบคุ คล : Id, Ego, Superego Id หมายถึง ระบบทีเ่ กดิ จากความปรารถนาท่จี ะสนองความต้องการจ้าเปน็ ของสัญชาตญาณตามหลัก แห่งความพงึ่ พอใจ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ เพือ่ ความปรารถนาทางเพศ ในเร่ืองตัวละครเอกถูกคกุ คามหรอื ถูกลวนลามทางเพศจากสามีใหม่ของแม่ แตท่ า้ ไม่สา้ เรจ็ เพราะตัว ละครเอกวง่ิ หนีออกมาได้กอ่ น จากเนอื ความที่ว่า “ขอนา้ กอดทเี ถอะ” พรอ้ มกบั เออื มมอื จะดงึ แขนฉันเข้าไปใกล้ ฉันรบี เอามือไขว้หลวั แลว้ ถอย “กอดทนี ะ ทเี ดียวจรงิ ๆ” เขาดึงตวั ฉนั เข้าไปใกล้ นาทนี ันฉนั อยากถบี หนา้ มันเลยด้วยซา้ มนั ย่นื จมกู เขา้ มาใกล้ “ขอนา้ หอมหนอ่ ยเถอะ อยากกอดอยากหอมมานานแล้ว” ฉนั พยายามปัดป้องตวั เองอยา่ งทีส่ ุด จนหลดุ ออกจากมือมนั มาได้ ตะโกนแหกปาก “ไปใหพ้ ้น อย่ามาท้าสนั ดานอย่างนี ออกไป” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542 :153)

จากเนอื ตอนนคี วามแสดงให้เหน็ ว่าตวั ละครเอกกา้ ลังถกู ลวนลามจากสามใี หมข่ องแม่ แต่ตวั ละครเอก ก็พยายามขัดขนื่ จนในท่ีสุดกส็ ามารถหลุดพ้นออกมาได้ Ego หมายถงึ องค์ประกอบทางจิตใจในด้านทเี่ ก่ียวข้องกบั โลกภายนอกหรือส่ิงแวดล้อม ท่ีต้องการ ความรกั และการยอมรับในสงั คม เช่น ครอบครัวและสังคม เปน็ ต้น ในเร่อื งตัวละครเอกตอ้ งการความรกั จากผเู้ ป็นแม่ แต่มักถูกปฏิเสธความรักทุกครัง ไม่เคยได้รบั ความรักความ อบอุ่นจากแม่เลย จากเนือความทวี่ ่า “คืนนีฉันนอนท่ีบ้านกับแม่เพียงสองคน แม่นอนน่ิงเฉ่ือยชาสายตาทอดมองไปในความมืด โดยไม่มีค้าพดู ใดผา่ นริมฝปี ากของแม่สักค้านอกจากเสียงทอดถอนใจ ท่ามกลางความมดื ฉันพาดแขน ขา้ งหนึ่งวางไว้บนอกแม่ บอกใหแ้ มช่ ว่ ยกอดฉนั ทีเถอะตลอดมาพอ่ ไมเ่ คยกอดฉนั สกั ครังเลย ตอนนีไม่ มีพอ่ แล้ว แมช่ ว่ ยกอดฉันที แมข่ ยับตวั ชา้ ๆ มากอดฉนั ไว้ เพียงครเู่ ดียวก็ขยบั หนีด้วยความรู้สึกร้าคาญ ฉนั เดาวา่ แม่คงร้าคาญทงั ทฉ่ี ันยงั ไมท่ นั ไดส้ มั ผัสกับความร้สู ึกอบอนุ่ ที่ฉนั แสวงหามาทงั ชวี ติ จนกระท่ัง พอ่ ตายฉนั ไมเ่ คยได้รบั จากพ่อเลย คืนนีฉันมองผา่ นความมดื นา้ ตาตกลงขา้ งหมอน” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 :128) จากเนือความตอนนีแสดงให้เห็นว่าตัวละครเอกนันเพียงต้องการความรักจากผู้เป็นแม่ แค่อยากได้ ความรักความอบอุ่นจากแม่เท่านัน อยากจะสัมผัสถึงความรู้สึกหากเม่ือได้กอดกับแม่จะมีความรู้สึกอย่างไร สดุ ท้ายแม่ก็ขยับตัวหนอี อกห่างเพียงเพราะอาจจะรู้สึกรา้ คาญ ท้าให้ตัวละครเอกเกิดความรู้สึกว่าแมไ่ มไ่ ดร้ ัก เขาเลย จากนวนิยาย “การล่มสลายของสถาบันครอบครวั ท่ีความรักไม่อาจจะเยยี วยา” จากตัวละคร ลกู สาว คนเล็กทีก่ ้าลังจะเรียนต่อเมื่อจบมัธยมต้นแลว้ มีความต้องการอยากจะไปในสิ่งที่ตนเองชอบและถนัด แต่แม่ อยากให้เขาได้เรยี นต่ออีกเสน้ ทางหน่งึ ท้าให้ตัวละคร ระหว่าง แม่กับลูก ได้มปี ัญหาทะเลาะจนกลายเปน็ เรือ่ ง ใหญ่ เชน่ ดงั เนอื ความที่มาจากความตอ้ งการของผู้ท่เี ป็นแม่ “เม่ือจบมัธยมต้นแล้วก็ถึงเวลาที่ฉันต้องหาที่เรียนใหม่ ฉันต้องการเรียนสายอาชีพใน วทิ ยาลัยเทคนิคประจา้ จงั หวัด แม่ต้องการให้ฉันเรยี นสายสามญั ในโรงเรยี นมีชื่อ ด้วยหวังว่าเมอื่ จบ สามปีแลว้ ฉันต้องสอบเขา้ เรียนตอ่ เปน็ ครูเปน็ พยาบาลอย่างที่แม่เคยใฝฝ่ ันว่ามันคอื อาชีพที่มเี กยี รติ ในสงั คมของแม่ ฉันเปน็ คนเรียนและรูด้ ีว่าชอบและถนดั อะไร แต่แมไ่ มเ่ ข้าใจ เราทะเลาะกนั เป็นเรอื่ ง ใหญ่โตจนแม่ต้องยืน่ คา้ ขาดวา่ หากไม่เรยี นตามทแี่ มต่ อ้ งการกใ็ หฉ้ ันหาเงินเรยี นเอาเองเถอะ” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 : 142) ดังตัวอยา่ งตัวละคร มคี วามต้องการอยากจะเป็นอิสระ ทม่ี ีความคดิ วา่ ส่ิงที่ตนเองเลอื กเป็นส่ิงท่ีดีและ ถนัด แต่แม่ อยากให้ไปในสิ่ง ๆ หนงึ่ ทีม่ าจากความต้องการของแมเ่ อง แต่สุดท้ายเธอเองจึงได้ท้าตามในส่ิงที่ ตวั เองเลือก และสภาพแวดลอ้ มทเ่ี จอบงั คับใหต้ วั เองทา้ ในสง่ิ ท่ีไม่เคยทา้ ดังเนือความตอนทีว่ า่

“ อาจารยท์ ีส่ มัครสอบไล่ฉนั ออกมา ฉันเลือกเรียนในแผนการเรียนท่ีไม่มีผ้หู ญิงเรยี นเลยสัก คน หากแม่รู้จะต้องโกรธและทนไม่ได้แล้วคงต้องพาฉันออกไปเรียนที่อื่น ฉันหวังไว้ในใจว่าต้องเป็น แบบนัน เมอ่ื พน้ กา้ หนดสอบเขา้ ทีน่ ไี ด้ แตฉ่ ันยอมสละตัวเอง เพอ่ื ประชดแม่ แต่ทกุ อย่างมนั กลบั กันไป หมด แมด่ นั ทุรงั ใหฉ้ นั เรียนในโรงเรียนที่สอบได้ ทังทีร่ ูว้ า่ ฉนั จะตอ้ งเปน็ นกั เรียนผู้หญงิ คนเดยี วในกลุ่ม นกั เรียนชายสารเลวร้อยกวา่ คน ฉันถูกรบั น้องด้วยการให้กินเหล้า สูบบหุ ร่ี ดูดบุหรีย่ ัดไส้ ถกู สอนให้ ย้ากญั ชา รุน่ พ่ีสอนใหแ้ ตง่ ตวั ไปในทางกระเดียดผชู้ าย ” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 : 143) จากสถานการณ์ท่ตี วั เองเลือกเสน้ ทางเอง กลับกลายเป็นสงิ่ ที่เป็นทางกลับกัน เจอสถานการณ์ที่ต้อง เจอรุ่นพีบ่ งั คับท้าในสิง่ ตา่ ง ๆ สภาพแวดลอ้ มถูกก้าหนดใหผ้ หู้ ญิงคนหนึง่ เปน็ แบบนี Superego เป็นระบบทางศีลธรรมและจริยธรรมซ่ึงหล่อหลอมมาจากการอบรมเลียงดูและการส่ัง สอนทางศลี ธรรม ในเร่อื งตัวละครเอก ได้มโี อกาสไปใหอ้ าหารหนอนจงึ นึกสงสารที่มันต้องอยู่ในกระด้ง ไมช่ ้าก็ ถูกต้ม จงึ น้าหนอนไปปลอ่ ยไวต้ ามตน้ ไม้ จากเนอื ความที่วา่ “มีอยู่ครังหน่งึ ยายใช้ให้ฉันให้อาหารหนอนพวกนันจึงมโี อกาสได้สัมผสั กับมนั จับขึนมาเล่น ตัวมันกน็ ่มุ น่ิมไต่อยใู่ นมือไม่น่ากลัวอะไรเลย ต่อมาฉนั กจ็ ับมนั เล่นบ่อยๆจนชินมือ นึกสงสารทม่ี นั ต้อง อยู่แค่ในกระด้ง ไมช่ ้าก็ถูกต้ม ฉันจึงแอบหยิบหนอนบางตวั ลงมาปล่อยตามตน้ ไม้วันละสามส่ีตัว ฉับ ชอบดูมันกระดบื ไปบนกง่ิ ไม้ มีหลายตัวกแ็ ยกย้ายไปตามแต่มนั จะไป ฉันท้าอยา่ งนีบ่อยๆ เพราะอะไร หรือ? ฉันสงสารมนั ไม่อยากเห็นตวั แก่ของมันตอ้ งลอยฟ่องอยูใ่ นหมอ้ น้ารอ้ น” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542 : 21) จากเนือความตอนนีแสดงใหเ้ หน็ ว่าตัวละครเอกเกิดความสงสารหนอนทต่ี ้องถูกน้าไปใสใ่ นนา้ ร้อนเม่ือ ตัวแก่เต็มวัย จงึ ได้น้าหนอนไปปล่อยไว้ตามต้นไม้ ซึ่งแสดงให้เหน็ ว่าตัวละครเอกไม่อยากเหน็ สัตว์ต้องถูกฆ่า และท้าร้ายและยังเห็นอกี ว่าตวั ละครเอกนนั มคี วามเมตตาตอ่ สัตว์ ในเรอื่ งตัวละครเอก ไดต้ ุ่นมาเลยี งแตเ่ ลยี งได้ เพยี งสามวนั ตุ่นตวั นนั ก็ได้หายไป จึงเกิดความอยากไดต้ ุ่นมาเลียงอีก จนไดไ้ ปเหน็ ที่ดกั ตนุ่ และเหน็ ตุ่นตัวหนึ่ง นอนตายเลอื ดโชกอยใู่ นกับดัก จึงทา้ ใหค้ วามอยากได้ตุน่ นนั หายไปทันที เน่อื งจากนึกถึงคา้ สอนในนทิ านของพี่ ที่ไดบ้ อกไว้ จากเนอื ความตอนทีว่ า่ “ฆ่าสตั ว์มันบาป เดย๋ี วซาติหนา้ เราก็จะโดนมันฆ่าบ้าง” คา้ สอนนนั ยังกอ้ งอยู่เตม็ สองหู “แล้วพี่ไก่หาปลาละ่ ” ฉนั ยอ้ นถาม “พ่ีอยู่วดั สวดมนตก์ ับหลวงพ่อ ทา้ บุญอยูท่ กุ วนั ...ไมเ่ ปน็ ไรหรอก” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542 : 42)

จากเนือความตอนนีแสดงใหเ้ ห็นว่าตวั เอก ยังมีความรูส้ ึกนึกคิดท่ีเกิดความสงสารสตั วแ์ ละไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต เพราะกลวั บาปกลัววา่ กรรมจะตามสอง ทา้ ใหต้ วั เอกไดฉ้ ุกคดิ และนกึ ถงึ ค้าสอนในนิทานทีเ่ คยได้ฟงั มา 2. ทฤษฎีว่าด้วยสัญชาตญาณ 2.1 สัญชาตญาณมงุ่ เป็น สัญชาตญาณมุ่งเป็นคือสัญชาตญาณเพ่ือเอาชีวิตรอด และการด้ารงพันธุ์ เช่นความหิว แรงผลักดันทางเพศ สรุปได้ว่าเป็น พลังชีวิต (Libido) โดยสัญชาตญาณเพศตามมติ ฟรอยด์ ไม่ได้ จา้ กัดแค่ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญงิ แตห่ มายรวมถึงความพงึ ใจ (Pleasure) ที่มนุษยเ์ ราไดร้ ับจาก กิจกรรมทางกาย เช่นกจิ กรรมทางปาก (กนิ พดู ฯลฯ) ตวั อยา่ งจากนวนิยายเรื่อง การลม่ สลายของสถาบนั ครอบครัวท่คี วามรกั ไม่อาจเยยี วยา ตอน ที่ตวั เอกเขยี นบันทกึ ถงึ หมอ “หนูนอนจนตาบวม แตก่ ็ตาโรยวันไหนเป็นวันไหนล้าดับไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่ารุ่งเช้าจะ เป็นเช้าของวันพรุ่งนี มะรืนนี หรือเม่ือวานนี ตังแต่หนูเริ่มกินยานานมาแล้วนะคะ คนข้าง บา้ นเขาถามว่าหนไู ปไหนมาเปิดไฟทงิ ไว้ แสดงว่าเม่อื วานหนหู ลับทังวัน หนูกลัวเหลือเกินค่ะ หมอ” (อรุณวดี อรณุ มาศ, 2542, น.199) จากข้อความข้างต้นแสดงให้เห็นว่าตัวเอกนันได้กินยานอนหลับเพื่อท่ีจะให้ตัวเองหลับได้ อยา่ งสบายใจแลว้ ตัวเอกเกิดนอนหลบั ไปทังวันซ่งึ มากจากรู้สึกกลัวทต่ี วั เองจะหลับไปแล้วไม่ตน่ื ขนึ มา อกี “ฉันไมส่ นว่าฉันฝากฟันอะไรเพ่อื จะได้เกิดมันเกินความสามารถอันปกติของคนจะ ล่วงร้ไู ด้ ฉนั ไดเ้ กิดมาจนวนั นคี อื ส่งิ ทฉี่ ันพอใจ” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542, น.16) จากขอ้ ความขา้ งต้นนนั ตัวเอกไดเ้ ล่าถงึ ความรู้สึกที่ตวั เองได้เกดิ มาบนโลกถึงแม้ว่าแม่ของเขา จะ พยายามท้าแทง้ ขนาดไหนแสดงใหเ้ ห็นวา่ ตัวเอกรู้สึกพอใจทไี่ ดม้ ีชิวติ อยู่ “แมเ่ ดินเข้ามาลูบหัวฉันเบาๆ แล้วบอกให้ฉันน่ิงเสียทังที่แม่เองก็ยังสะอืนอยู่ บอก กบั ฉันวา่ ถงึ พอ่ จะตายไปแล้วแต่แม่ยงั อยู่ ต่อไปนแี ม่จะเลยี งฉันอย่างดีที่สุด เมอื่ ก่อนเราไม่มี พ่อยังอยไู่ ด”้ (อรุณวดี อรณุ มาศ, 2542, น.125)

จากข้อความข้างต้นนันแม่ของตัวเอกได้บอกพูดคุยถึงการจากไปของพ่อซึ่งแม่นันได้พูดให้ กา้ ลังใจลูกละบอกว่าตนนันยังอยู่แม่จะเลียงลูกให้ดีทส่ี ุด แสดงให้เห็นว่าผู้เปน็ แมน่ ันมีสัญชาตญาณ เพือ่ เอาชวี ติ รอด และการด้ารงพันธคุ์ ือการเลยี งลกู ให้ดีต่อไปไมเ่ สียใจและอยากตายตามผ้ทู จี่ ากไป “เพราะว่าตอนนีชีวิตของหนู เหลือเพียงแม่คนเดียวท่ีส้าคัญแต่ตอนนีหนูท้าแม่ เสยี ใจแล้วเพราะหนสู บู บหุ รอ่ี นั ที่จริงไมใ่ ช่บุหร่อี ยา่ งเดยี ว กัญชา ยามา้ เหล้าแห้ง เม็ดเหลือง เหลือง ที่เพื่อนขายต่อใหน้ ะคะ เคยทงั นนั แตไ่ ม่ให้แมร่ ู้หรอกนะ กก็ ลัววา่ แกจะเสียใจจรงิ ๆ แล้วหนไู ม่เคยทา้ อะไรใหเ้ สียใจนักหรอก แตท่ ้าให้ภมู ิใจนส่ี ิเยอะมาก เขามองไมเ่ หน็ ค่า ช่าง มัน…” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542, น.115) จากขอ้ ความขา้ งต้นเป็นการเขยี นบันทึกของตัวเอกเกย่ี วกบั เร่ืองทต่ี นนนั ไม่อยากให้แมเ่ สียใจ แสดงใหเ้ ห็นวา่ ตวั เอกนนั อยากเป็นท่ยี อมรับของแม่และพงึ พอใจกับสิ่งท่ีตนแตแ่ ม่นนั ไมเ่ คยสนใจ 2.2 สญั ชาตญาณม่งุ ตาย สัญชาตญาณทีน่ า้ ไปสคู่ วามไมม่ ีสภาวะหรือความตาย เช่น ไม่อยากมีชีวิต เหงา เปลา่ เปลย่ี ว ในนวนิยายเรื่อง การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่ความรักไม่อาจเยียวยา ตัวเอกมี สัญชาตญาณมุ่งตาย ซึง่ รบั รไู้ ดจ้ ากความคิดของตกั เอกที่ว่า “ความคดิ ต่าง ๆ ประดังเขา้ มาในสมองท่เี ต็มไปด้วยความรสู้ กึ อยากหายไปจากความ เป็นตัวเอง ฉันอยากตายเสียเหลอื เกนิ หากว่าความตายมันเป็นการสนิ สดุ ของสภาวะจติ หรอื ว่าความตายมันเหมือนกับความฝัน หากฉันตายแล้วมันเป็นอย่างที่ฉันเคยฝัน นั่นคงจะ หมายความวา่ ฉันตอ้ งตายแล้วตายอีก และหากฉันยังมีชีวิตอยตู่ อ่ ไปเล่า ฉันก็เหมอื นกับคนที่ ตายทังเปน็ มชี ีวิตไม่ต่างไปจากคนบา้ ฉันกลายเปน็ คนบา้ ไปแลว้ หรอื จิตส้านึกของฉนั มนั อยู่ เหนอื การบงั คับของสมอง สมองฉันส่งั ให้ทา้ สิง่ ตา่ ง ๆ ขณะเดียวกันจติ สา้ นกึ มนั กบ็ งั คบั ให้เลกิ เลิกคิดว่าโลกนีเป็นโลกของฉัน โลกนีกลายเป็นนรกของฉัน ฉันอยากตาย ในช่วงเวลาสอง เดือนทีผ่ ่านมาฉันพยายามฆา่ ตัวตายหลายครงั ยากล่อมประสาทชนดิ ต่าง ๆ ถูกหาซอื มาด้วยความล้าบากยากเย็น โดยซือจากร้าน ยาที่สนิทสนมกนั มาก ๆ หรอื ไมก่ ไ็ หว้วานเพ่ือนท่ีเป็นลกู รา้ นขายยาให้ชว่ ยขายให้ โดยโกหก อ้างอาการต่าง ๆ เทา่ ท่ีพอนกึ ได้ หลายวันเข้าปริมาณยาในร่างกายฉนั กเ็ พ่ิมขนึ ๆ ฉันคุ้นเคย กบั มันมาก่อนหนา้ นีดพี อ โรคนอนไมห่ ลับมันคกุ คามมานานหลายเดอื นแล้ว แต่ครังนีถึงแม้ว่ามันจะนอนหลับอย่างง่ายดาย ฉันก็จะกินกินเพ่ือจะได้ไม่ต้องต่ืน ขนึ มาอกี ครงั ” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 :12-13)

จากข้อความข้างตน้ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ตัวเอกมีความต้องการทจี่ ะตาย โดยตัวเอกพยายามจะฆ่า ตัวตายด้วยการกินยากล่อมประสาทและยานอนหลับเข้าไปในปริมาณท่ีมากกว่าปกตหิ รือมากเกินไป เพอื่ หวงั วา่ หลังจากทีห่ ลับไปแล้วจะไมต่ น่ื ขนึ มาอีก ซึ่งสัญชาตญาณมุ่งตายของตัวเอก เกิดจากความรู้สึกความรู้สึกเหงา เปล่าเปล่ียว อ้างว้าง จากการทถี่ ูกแม่ของตนนันทิงให้อยู่คนเดียวบ่อยครังตงั แต่เด็กจนโต ตอนเด็กมักถกู ทิงใหอ้ ยกู่ ับญาติ หรือคนอน่ื พอโตมากม็ กั ถูกทิงใหอ้ ยู่ที่บ้านคนเดยี ว เกิดจากความรสู้ ึกกดดัน อึดอดั ขาดความรักความอบอุ่นจากครอบครัวหรอื ผู้เป็นแม่ จาก การที่ผู้เป็นแม่มักเล่าถึงความล้าบากของตนเองให้ตัวเอกฟัง ถึงความล้าบากท่ีมีตัวเอกเกิดมาตังแต่ ตอนตงั ครรภแ์ ละไมต่ ้องการใหต้ วั เอกเกิดมา ถงึ ขันซือยาขับเลือดมากินแตก่ ็ไม่ส้าเร็จ จงึ ทา้ ให้เกิดปม ในใจของตัวเอก ซง่ึ ตัวเอกคิดว่าการมีชวี ติ ของตนเองนนั ทา้ ให้แม่ลา้ บากและเป็นทุกข์ จึงอยากคิดฆ่า ตัวตาย สง่ิ หนึง่ ท่ีแสดงให้เหน็ ถึงความรูส้ กึ ของตัวเอกทีน่ า้ ไปสูค่ วามตาย คือ ความฝนั ของตวั เอก ทฝ่ี นั ว่า “เมอ่ื คืนฉันฝันร้ายอีกแลว้ ภาพในฝันมันตดิ อยู่ในความทรงจ้าชัดเจนจนสามารถล้าดับ ความรู้สึกต่าง ๆ ได้ รู้สกึ เหมือนว่าตัวเองก้าลังยนื อยู่ในท่ีโล่งแจง้ เมื่อกวาดสายตาไปรอบ ๆ ทุก อยา่ งกเ็ ร่มิ เปลยี่ นแปลงตัวของมนั เอง ภาพตรงหน้ากลายเปน็ ป่ารกมีต้นไม้สงู ใหญห่ ลายต้นโผลล่ า้ ตน้ ขึนมาจากก้อนหินใหญข่ นาดซ้มุ อุโมงค์โบราณ...เมือ่ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงเหน็ วา่ มันไมไ่ ด้เป็น ก้อนหนิ แตก่ ลับเป็นหวั กะโหลกของคนเรยี งรายระเกะระกะไปทั่ว...บ้างก้าลงั อ้าปากกวา้ ง...บา้ ง ซบอยู่กับพืนดนิ บางหัวตะแคงหงาย ส่ิงทีเ่ หมือนกนั คอื หวั กะโหลกทกุ หัวนันมตี ้นไมห้ ยั่งรากแทง ทะลุชอ่ งตา-ช่องจมกู รากไม้เหลา่ นนั มชี วี ิตเหมอื นดั่งตัวหนอนขนาดยักษ์ก้าลังชอนไชกดั กินเนือ สมองจนเปล่ากลวง เกดิ นา้ เมือกน้าเหลืองไหลเฟะซึมออกมาจากช่องว่างซงึ่ มีเพียงเล็กน้อยเป็น ทางยาว น้าสกปรกเหล่านันเริ่มเอ่อทน้ ไปท่ัวบริเวณซึง่ ฉนั กา้ ลงั ยืนอยู่...ขาทงั สองข้างของฉนั ถูก ตรงึ ไว้ดว้ ยนา้ เมอื กขุน่ ข้นเหนยี วจนไมส่ ามารถกา้ วขาหนี หรือแมแ้ ตจ่ ะกระดกิ เท้า” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 : น.9-10) ความฝันนแี สดงให้เห็นถึงความรู้สึกเปลา่ เปล่ียว อา้ งวา้ ง ปัญหาของตวั เอกที่ก่อให้เกดิ ความ ไม่สบายใจ และความอึดอดั ท่ไี มส่ ามารถหลีกหนหี รอื หาทางออกได้ อีกสง่ิ หนึง่ ทสี่ ะท้อนใหเ้ ห็นว่าตัวเอกมคี วามตอ้ งการทจ่ี ะตายจริง ๆ คือ ตัวเอกไปตลาดเพื่อซอื เสือสดี ้า ไว้ใส่มาในงานศพของตนเอง และเมื่อเวลาเรียนก็เอาแตน่ ั่งวาดภาพงานศพของตนเอง และ เม่ือเวลาเรียนก็เอาแต่นั่งวาดภาพงานศพของตนเอง ทีม่ ศี พอยู่ในโลงแกว้ ในมอื ถือดอกบวั บ่งบอกว่า ตัวเอกมีความต้องการตายจรงิ ๆ ดงั ความว่า

“พักนีใจฉันหมกมนุ่ อยูก่ ับความตาย อยากใส่แตช่ ดุ สดี า้ วนั ก่อนต้องเดินในตลาดเสยี จนเม่อื ย ตระเวนซอื เสือด้า อยากเหน็ ตวั เองใสช่ ุดด้ามาร่วมงานศพของตัวเอง ตอนกลางวนั ก็ ไม่เป็นอนั เรียนหนังสือเอาเสียเลย ตลอดช่วั โมงเรียนไดแ้ ต่น่ังวาดภาพภาพของคนนอนตาย ในมือถือดอกบวั กเ็ ป็นภาพของตวั เองน่นั แหละ วาดเสร็จก็ฉกี ทงิ แลว้ วาดใหม่จนได้รปู ทพ่ี อใจ ท่สี ดุ มอี งคป์ ระกอบใกล้เคียงกับงานศพซง่ึ ตวั เองหวังไว้อยากให้เปน็ มากที่สุด” (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 :น.24) 3.ทฤษฎีว่าด้วยจติ กงั วล ประการท่ีสอง Neurotic anxiety Phobia ความวิตกกังวลหรือความกลัวท่ีมาจากสัญชาตญาณ โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งในเรื่อง ตัวละคร “ฉนั ” มีความวติ กกังวลและมีความกลวั ทจี่ ะสญู เสยี ความรัก เนือ่ งจากเกิดมาทา่ มกลางความทุกข์และความ เกลียดชงั ของผเู้ ป็นแม่ และขาดการยอมรบั จากผู้เปน็ พ่อ เตบิ โตในสภาพแวดล้อมทค่ี รอบครวั แตกแยก ไม่เคย ได้รับความรักความอบอุ่นจากสถาบันครอบครัว ท้าให้ตัวละครต้องแสดงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อเรียกร้อง ความสนใจจากผู้เปน็ แม่ ดงั เนอื ความในตอนหนง่ึ วา่ “ฉันเอากระบอกน้าเลือดของตัวเองใส่ไว้ในตู้เย็น แล้วขึนมารอคอย เหตุการณ์ท่ีจะเกิดขึนต่อไป คาดว่าในวงเหล้าของเพ่ือนแม่จะต้องการน้าเย็นสัก กระบอก แม่จะต้องเป็นคนเดนิ มาหยิบนา้ เย็นด้วยตวั เองและเมอ่ื แม่เปิดเข้าไปแล้ว เจอเขาคงรู้ว่าฉันหมายความว่าอย่างไร ฉันอาจกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่วิธี เรยี กร้องความสนใจของฉันมันออกจะรุนแรงไปสักหนอ่ ย คิดหรือว่าฉันไม่เจ็บ คิด หรือว่าอยากท้าอย่างนนั นักหนา แต่ก็ตอ้ งท้าทา้ เพ่ือบอกให้ร้วู า่ ฉันกลายเปน็ คนโรค จิตไปแลว้ ทกุ คนต้องใหค้ วามสา้ คัญกบั ฉนั อยา่ ปลอ่ ยให้ฉนั ต้องอย่คู นเดียว พอแลว้ กับความเหงามันมากเกนิ ไปส้าหรบั ชวี ติ ของฉัน” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 :131) จากตัวอย่างตัวละครต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้เป็นแม่จึงเจาะเลือดตนเองแล้วเอาไปแช่ใน ตูเ้ ย็นเพื่อให้แม่เห็น และใหแ้ ม่ไดเ้ ขา้ มาถามถึงสามเหตุของการกระทา้ นัน ท้าใหต้ ัวละครรู้สึกว่าตนได้รบั ความ สนใจจากผู้เป็นแม่ ตัวละครจึงใชว้ ิธีการนีเรยี กรอ้ งความสนใจจากแมเ่ พราะมนั ท้าใหเ้ ขารู้สึกว่าเวลาแมร่ อ้ งไห้ เม่ือเหน็ เขาท้าร้ายตัวเองคอื สญั ญาณทบ่ี ง่ บอกว่าแมย่ งั รกั เขาอยู่ ความกลัวการโดดเด่ยี ว ซ่ึงในเรอื่ งตวั ละคร “ฉัน” มักถูกผู้เป็นแม่ทงิ ให้อยกู่ ับคนอื่นตังแต่เด็กจนโต ตอ้ งอยอู่ ยา่ งโดดเด่ยี วเสมอ ท้าใหเ้ กิดสภาวะจิตกังวล มคี วามรู้สึกกลวั เมื่อต้องอยคู่ นเดียว ดังเนือความในตอน หนง่ึ ว่า

“เม่ือนางพยาบาลเข็นศพออกไป ฉนั กก็ ลับมานอนท่ีเตยี งนกึ กลัวขนึ มาจบั ใจ เมอื่ ไม่กช่ี ่ัวโมงเขายงั นอนอยูข่ ้างเตยี งนีเอง คนอ่นื เขากม็ คี นนอนเป็นเพ่อื นแตท่ ุกคนื ฉนั ต้องนอนคนเดียว คืนนีกว่าจะหลบั ฉันกห็ ันมอง ๆ เตียงข้าง ๆ ไม่รู้กี่สิบครังยิ่ง มองย่งิ คดิ ถงึ บา้ น คดิ ถึงแม่ ฉันไม่ไดก้ ลัวอะไรมากมายนัก แตก่ ็ยังรู้สึกหวาด ๆ คนนี ก็เหมือนคนนอนหลบั ธรรมดาจะกลัวอะไร หากฉันหลับบา้ งมันก็ไม่ต่างไปจากคน ตาย ทุกคนในห้องนีกเ็ หมอื นคนตาย มีฉันคนเดยี วต่นื อยู่ ฉันอยากให้แม่ได้มาเห็น แบบนีเหลอื เกนิ เขาอาจเข้าใจว่าทา้ ไมฉนั ถงึ อยากออกไปจากโรงพยาบาลเรว็ ๆ” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 :76) และอกี ตอนหนง่ึ วา่ “ฉนั มันเกดิ มาบนกองทกุ ข์ของใคร ถา้ ไม่ใช่ของแม่ แลว้ เขาคิดว่านันมี ความสุขอย่างนันหรอื ฉันต้องนอนตาค้างมาหลายคืนจนมันกลายเป็นนสิ ัยอยู่ อยา่ งนเี พราะใครกนั ไม่ใช่เพราะเหน็ แมต่ ้องออกไปขา้ งนอกกับใครอย่างงนั หรอื ไมใ่ ชเ่ พราะฉันถูกชาวบ้านถามอย่างดูหมิ่นดแู คลนแมห่ รือ อยากรู้จรงิ ๆ เลยว่า จะมีเด็กคนไหนอยากเหงา แม้แต่ผู้ใหญ่ก็เถอะ มีใครบ้างที่อยากเหงา อาจ เป็นไปไดม้ ง่ั มนั อาจเป็นเพยี งการแก้เหงาของแม่ แต่ฉนั ละตอ้ งกล่อมตัวเองด้วย การสูบยา กินยา ร้องให้โดยท่ีแม่ไม่เคยสนใจจะถามสักค้าว่ารู้สึกอย่างไรบ้าง ตลอดเวลาห้าปีท่ีต้องอยใู่ นบา้ นคนเดียว ไมเ่ คยเลยไม่เคยถามเลยสกั ครงั บางที ถึงฉันจะเล่าเรื่องอะไรให้แม่ฟังสักอยา่ งก็รู้สกึ เข็ดขยาดกบั ถ้อยค้าของแม่ไม่ว่า จะเป็นเรื่องดีขนาดไหน” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542 :176) จากตัวอยา่ ง แสดงใหเ้ ห็นวา่ ตัวละคร “ฉัน” เกดิ ความกลัวทีต่ ้องอยอู่ ยา่ งโดดเด่ียวตอ้ งการให้แม่สนใจ และมาอยู่ขา้ ง ๆ บา้ ง เม่อื เขาตอ้ งเจอกับสถานการณเ์ ลวร้ายต่าง ๆ เขาก็ตอ้ งเผชิญหนา้ มนั เพยี งลา้ พัง ท้าใหต้ ัว ละครเกดิ สภาวะความกลัวทตี อ้ งอยอู่ ย่างโดดเดยี่ ว Panic เป็นปฏิกิริยาท่ีเกิดขึนทันที โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เป็นความทุกข์ทรมานอย่างมากจาก อาการวิตกกงั วล ซึง่ สามารถแสดงออกได้หลายอย่าง และอาการนนั มีความรุนแรงจนรบกวนกบั ชีวติ ประจา้ วัน ในด้านต่าง ๆ ในเร่ืองตัวละคร “ฉัน” ถูกพ่อเกลียดชังและไมไ่ ด้การยอมรับจากผู้เป็นพ่อ จงึ พยายามท้าทุก อย่างทพ่ี ่อต้องการเพราะอยากให้พ่อรัก แต่ก็ตอ้ งมาสญู เสียพ่อไปท้าให้ตวั ละครฉันเกิดความรสู้ ึกกลัวและวติ ก กงั วลเพราะกลัวที่จะสูญเสียความรักจากพ่อท้าให้เกิดพฤติกรรมบางอยา่ งขนึ โดยไม่ร้ตู ัว ดังเนอื ความในตอน หนง่ึ ว่า

“พ่อตายไปแล้วพ่อไม่กลับมาอีกแล้วฉันไม่ได้เรียกพ่อ ในชีวิตฉันจะไม่มี โอกาสเรียกพ่ออย่างกลา้ หาญสักครังเลย ท้าไมรีบตายนักเล่า กลบั มาเลียงนกอยา่ ง เดิมกไ็ ด้ ให้ฉนั ท้าอะไรก็ได้พ่อยังไม่เคยรักฉันเลย จะทา้ อะไรกับชีวิตดีหนอ จะท้า อะไรทม่ี ันดไี ปกว่าการร้องให้ หรือฉันจะตอ้ งนง่ั คอยใครสกั คนเข้ามาปลอบใจ ไม่มี เลยในเวลาท่ีความรู้สึกมันแตกสลาย มีเพียงฉันคนเดียวท่ีนั่งเก็บนั่งทับความร้าว รานให้มันจมลง ๆ ฉันเฝ้าค้นรูปภาพเกา่ ๆ ของพ่อออกมาดู อ่านจดหมายท่ีพอ่ เคย เขียนถึงซ้าไปซ้ามา โดยไม่รู้เรื่อง ตาฉันมันพร่าไปด้วยน้าตา เปิดตู้เสือผ้าของพ่อ แล้วกา้ วขาเข้าไปอยขู่ ้างใน ใหม้ ันเกิดความรู้สกึ วา่ มพี อ่ อยขู่ ้าง ๆ พอ่ กา้ ลังกอดฉันไว้ หวั เราะข้าตัวเอง ร้องให้สมเพชตัวเอง วิ่งพล่านอยู่ในบา้ นคนเดียว นอนหม่ ผ้าห่ม ของพ่อ คิดว่าพ่อกอดฉันด้วยความรัก มันอบอุ่น อุ่นจนร้อน ร้องไห้จนขอบตาช้า บวม หายใจขัด คัดจมูก แสบตา ฉันนอนดูเพดานบ้านไม่อยากรู้สึกอะไรทังนัน ปลอ่ ยใหค้ วามคิดมันล่องลอยอยากคดิ อะไรกค็ ิด” (อรุณวดี อรณุ มาศ, 2542 : 125) จากตัวอยา่ ง เนือความเป็นตอนท่ีตัวละคร “ฉัน” ไดส้ ูญเสยี ผู้เป็นพอ่ ไปทัง ๆ ที่ตนยังไมม่ โี อกาสได้ใช้ คา้ วา่ พ่อ ยังไม่ได้รบั ความรกั ความอบอุ่นจากพ่อก็ตอ้ งมาจากกัน จึงทา้ ให้เกิดภาวะวิตกกังกล ตกใจและเสียใจ อยา่ งรุนแรงท้าให้มีอาการหัวเราะ ร้องไห้ วิง่ พลา่ นไปมา โดยไม่ร้ตู ัววา่ ตนเองกา้ ลงั เป็นอะไร และไม่รสู้ าเหตขุ อง อาการที่เกิดขึน ประการที่ 3 moral anxiety คอื การปวดรา้ วทรมานทางจิตใจ ซึง่ มที ี่มาจากการข่มขู่คกุ คามจาก มโนธรรมของ ซุปเปอร์อโี ก้ ซึ่งหมายถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ส่ิงใดควรกระท้า สิ่งใดไม่ควรกระทา้ สิ่งเหล่านี จะเป็นสิ่งทกี่ ระตุ้นให้ตวั ละครภายในเร่ืองเกิดความรู้สกึ ผิดเม่ือกระท้าในส่ิงท่ไี ม่สมควรหรือผิดศีลธรรม อย่าง ในนวนิยายเรอื่ ง การล่มสลายของสถาบันครอบครัวที่ความรักไม่อาจเยียวยา ตัวละครเอกของเร่ืองนีเป็นตัว ละครที่เกดิ จากครอบครวั ที่ไม่สมบรู ณ์ อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สรา้ งความเกบ็ กดให้ตวั ละครอยูเ่ สมอ เชน่ อยู่กับแม่ ที่มกั จะทิงให้เธอตอ้ งอยคู่ นเดยี ว อยู่กับญาตขิ องแม่ก็มกั จะกลา่ ววาจาท่ีท้ารา้ ยจติ ใจ เช่น “แม่มงึ ไปมีผัวใหม่อย่ทู เ่ี มืองนอกแล้ว” (อรุณวดี อรุณมาศ, 2542 : 23 )

อยู่กบั ครอบครัวของพ่อ กไ็ ม่มีใครให้ความใสใ่ จเทา่ ท่ีควรอกี ทงั ยงั ถกู พอ่ ท้าร้ายทังร่างกายและจิตใจ เชน่ “ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถกู ทีจ่ ะไดพ้ บพ่อ รบี สาวท้าวเดินจากทางเดินท่ลี าดชนั เดนิ ลดั ผา่ กอพงท่ีแสบคนั ได้ยนิ เสียงพวกเขาชดั ขึน ๆ แตท่ ันทีท่ีตัวฉันแหวกทางที่แคบด้วยตน้ หญ้าพ้นออกมา ฉนั ก็ถูกปาด้วย กอ้ นหิน มนั เจ็บนกั แต่กค็ งไม่เจ็บเทา่ ไรหากคนที่ปกกอ้ นหนิ ใสฉ่ ันไมใ่ ช่คนที่ก้าลังโอบพี่สาวฉันอยู่ ฉัน มองอย่างสับสนงุนงง น่ีมันอะไรกันท้าไมฉันต้องถูกกระท้าอย่างนี ฉันก้าวขาเข้าใกล้อีกไม่ได้แล้ว ผู้ชายคนนนั ตะโกนไล่ “ไป๊ มึงไปใหพ้ ้นหน้ากูเดีย๋ วนี” (อรุณวดี อรณุ มาศ, 2542 : 34 ) จากเหตกุ ารณ์ทีต่ ัวละครได้เจอส่งผลใหต้ ัวละครเกดิ ความคิดการกระท้าท่ีต้องการเรยี กรอ้ งความสนใจ หรอื กระท้าในส่ิงท่ีตัวละครคิดว่าสามารถสรา้ งความสขุ หรอื ทา้ ให้ตวั เองพน้ จากทกุ ข์ไดใ้ นดา้ นท่ผี ดิ เช่น การยุ่ง เกยี่ วกับส่งิ เสพติด เชน่ “มีใครบ้างท่ีอยากเหงา อาจเป็นไปได้มัง มันอาจเป็นเพียงการแก้เหงาของแม่ แต่ฉันล่ะ ต้องกล่อม ตวั เองดว้ ยการสูบยา กินยา ร้องไห้โดยทแี่ มไ่ มเ่ คยสนใจ” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 : 176 ) การท้ารา้ ยตวั เองโดยการใชเ้ ขม็ เจาะเข้าไปที่เส้นเลอื ดเพื่อใหเ้ ลือดไหลออกมา ในครงั แรกทต่ี วั ละครทา้ ทา้ เพ่ือให้แมส่ นใจตัวเธอบา้ งในขณะทน่ี อนอยโู่ รงพยาบาล ในครงั ตอ่ มาตัวละครท้าเพ่อื ความสบายใจและเป็น การตอกยา้ ให้เห็นถึงความขมข่ืนในใจของตวั ละครที่ต้องการน้าเลือดทไ่ี ม่ดีนีออกไปจากร่างกายของตัวละคร เมือ่ ไดร้ บั รู้พฤติกรรมของแม่ท่ีมักจะเปล่ียนคู่หลับนอนจนกระทั่งเกดิ เรอื่ งวุ่นวายตามมาแตท่ ุกการกระท้าของ ตวั ละครท่ที ้าเพือ่ เรียกรอ้ งความสนใจจากแม่ ตัวละครกเ็ กิดความรู้สึกผิดทไี่ ด้กระท้าส่ิงเหล่านนั ลงไปจนทา้ ให้ แมต่ ้องเสียใจจึงเป็นการสร้างความปวดรา้ วภายในใจอีกอย่างหนึง่ ของตัวละคร ดงั ในเนือความตอนที่ “จดุ แดงๆ หยดเปน็ ทางจากชันบนถงึ ชนั ลา่ งถงึ ตเู้ ย็น ฉนั เก็บเลือดของตัวเองไว้ในตูเ้ ยน็ ฉันตอ้ งการให้ แม่ไดเ้ ห็นเหมอื นครังก่อน แม่ร้องไห้ ถึงกระนันฉันก็อยากให้แม่เห็น แม้ว่ามันจะสร้างแผลลึกในใจฉันยง่ิ กว่า แรงกดคมมดี ” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 : 188 ) “น่ไี งเลอื ดหนู หนยู ังไมร่ อ้ งเลย” ฉันพูดไปมอื ก็เขย่าไป ฝามนั ปิดไมส่ นิทเลือดไหลยอ้ ยอาบมือลงมาถึงแขน แมก่ ้มหนา้ มุดลงกับหมอน รอ้ งไห้จนตัวโยน ฉนั ไดแ้ ตย่ นื ดดู ว้ วยความรู้สึกประหลาด มนั หดหู่ สะใจ และส้านึกท่ีฉนั ท้าใหแ้ ม่ร้องไห้อกี แล้ว ร้ตู วั ว่าได้ทา้ บาปอย่างสาหสั (อรณุ วดี อรณุ มาศ, 2542 : 189 )

จากข้อความทไ่ี ด้น้ามาทังสองตอนจะเหน็ ได้ว่าตัวละครไดก้ ระท้าสิง่ เดิมๆ คอื การท้าร้ายตัวเอง ทา้ ให้ เลอื ดในร่างกายไหลออกมาเพือ่ แสดงถึงความปวดร้าวทีซ่ ่อนไวข้ ้างใน ทา้ ให้ร่างกายตวั เองไดร้ ับความเจ็บปวด เพ่อื ตอกยา้ ความรู้สกึ ของตัวเองที่มีอยู่ใหจ้ ้าลึกเข้าไปข้างใน ซ่งึ ในส่งิ ทต่ี ัวละครทา้ ล้วนทา้ เพือ่ ให้แม่หันมาสนใจ ในตัวเธอ ท้าใหแ้ ม่ได้รับรู้ถงึ ความเจ็บปวดทีต่ ัวเธอรสู้ ึก แต่ถงึ อย่างไรตัวละครก็รู้สกึ ผดิ ในส่งิ ที่ไดก้ ระทา้ ลงไป เพราะมนั เป็นส่ิงท่ไี มค่ วรและไมเ่ หมาะสมอยา่ งยิ่งที่ลูกอย่างเธอจะท้าให้ผมู้ ีพระคุณต้องมาเสียใจ ผเู้ ขยี นทา้ ให้ เห็นวา่ ตวั ละครตวั นถี ึงแม้จะมีความขุ่นเคอื งในใจตอ่ ผเู้ ปน็ แมแ่ ต่เธอก็รักและเคารพผู้เปน็ แม่อยูเ่ สมอ 4.ทฤษฎเี รื่องความฝัน “เม่อื คืนฉนั ฝันร้ายอีกแลว้ ภาพในฝันมันตดิ อย่ใู นความทรงจ้าชัดเจนจนสามารถลา้ ดบั ความรู้สกึ ตา่ งๆ ไดร้ สู้ กึ เหมอื นว่าตัวเองก้าลงั ยนื อยู่ในทีโ่ ลง่ แจ้งวา่ กวาดสายตาไปรอบๆทุกอยา่ งก็เร่ิมเปล่ียนแปลงตวั ของมนั เอง ถ้าตรงหนา้ กลายเป็นป่ารกมีต้นไม้สงู ใหญ่หลายตน้ โผล่ลา้ ตน้ ขึนมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซมุ้ อุโมงค์โบราณ... เม่ือเดินเข้าไปดูใกลๆ้ จงึ เห็นวา่ ไม่ไดเ้ ป็นกอ้ นหินแต่กลับเปน็ หัวกระโหลกของคนเรียงรายระเกะระกะไปทัว่ ... บ้านก้าลังอ้าปากกว้าง...บางศพอยู่กับพืนดินบางหัวตะแคงหงายส่ิงที่เหมือนกันคือหัวกระโหลกทุกหัวนันมี ตน้ ไม้อยา่ งรากแทงทะลุช่องตา - ช่องจมูกรากไมเ้ หล่านนั มีชีวิตเหมือนดั่งตวั หนอนขนาดยักษ์ก้าลังชอนไชกับ กนิ เนอื สมองจนเปล่ากลวงเกดิ นา้ เมอื กน้าเหลอื งไหลซมึ ออกมาจากช่องว่างซ่ึงมเี พียงเลก็ น้อยเปน็ ทางยาวน้า สกปรกเรานันเร่มิ เอ่อท้นไปทวั่ บริเวณซึง่ ฉนั ก้าลงั ยืนอยู่...ขาทังสองขา้ งของฉันก็ถูกตรึงไว้ด้วยน้าเมือกขนุ่ ข้น เหนียวจนไม่สามารถก้าวขาหนหี รอื แม้แตจ่ ะกระดิกเทา้ รอบตวั ของฉนั ล้อมรอบไปดว้ ยหวั กระโหลกมันก้าลัง ถกู รากไมช้ อนไชอยา่ งรวดเรว็ เมื่อร่างกายอยงั่ ถึงพืนมันกจ็ ะแทงเนอื ดินลงไปทนั ทเี ลอื ดสดๆกท็ ะลกั จากเนือดิน ออกมาปะทะกับความปฏิกูลแนวโน้มที่มีอยู่แล้วจนพืนท่ีบริเวณนันถูกกลืนหายไปในพริบตาฉันมองดูตัวเอง ก้าลงั จมหายไปในบงึ เลอื ดตะเกยี กตะกายหนีความเน่าคาวแตข่ าฉันก้าวไมอ่ อกเลยแขนทงั สองขา้ งขวาไดเ้ พียง ความว่างเปลา่ หรอื ไปจนสุดแคน้ แลว้ มันก็ตกลงมาเหมอื นไมม่ ีกา้ ลงั ตวั ของฉนั ปลวิ ไปกบั กระแสเลือดเรมิ่ หายใจ ขัดพืนส้าลักจนเหน่ือยหอบชนะปากจะร้องขอความช่วยเหลือแต่ฉันกลับไม่ได้ยินไหมเสียงของตัวเองซ้าน้า โสโครกเหล่านันยังไหลเข้ามาในปากฉันมีอาการเหมือนคนกา้ ลังจมน้าตายมึงชาไปทงั ตัวตาฝ้าฟางจนมองไม่ เห็นตวั เองฉนั พยายามกา้ มือแน่นแต่มนั ไมไ่ ด้อยู่ในความควบคมุ ของฉันอีกต่อไปแลว้ ฉนั บังคบั ตวั เองไม่ได้แมแ้ ต่ จะหายใจทุกอยา่ งก้าลงั ดิ่งลงส่คู วามว่างเปลา่ ฉันก้าลังตกลงไปในเหวลกึ ” (อรณุ วดี อรุณมาศ, 2542 : 9 – 11) ความฝันของตัวละคร “ฉัน” ถือเป็นการบอกกล่าวถงึ ภาวะของตัวละคร ทจ่ี มปลกั อยู่กบั ปัญหา ความ ไม่สบายใจ รวมทังความกลัวและความวิตกกังวล ท้าให้เข้าสู่ห้วงภวังค์ของฝันร้าย ความฝันในลักษณะนี เช่อื มโยงกบั ชวี ิตจริงของตัวละครเองท่ีมพี ืนฐานมาจากครอบครัวท่ีไม่สมบูรณ์เนื่องจากปญั หาต่างๆ ขาดผูน้ ้า ของครอบครวั ท้าให้ได้รับการเลียงดทู ี่ไม่ดพี อ จึงขาดความอบอ่นุ การเอาใจใส่จากคนเป็นพ่อแมท่ ี่มนุษย์ทุก คนนันต้องได้รับ ขาดพลังของความรักอันยง่ิ ใหญ่ท่ีจะมาหลอ่ เลยี งให้หัวใจดวงนอ้ ยนมี สี า้ นกึ ที่จะอยากมชี วี ติ อยู่ ต่อไปในโลกนไี ด้ อีกทงั ยงั เติบโตมาดว้ ยสภาพสงั คม คนรอบขา้ งท่คี อยกระท้าซา้ เติมให้รูส้ กึ ย้่าแยใ่ นจิตใจ จะสู้ ต่อไปหรอื จะหาทพ่ี ่งึ ทางใจก็หามีใครไม่ นอกจากจติ แพทย์ทคี่ อยฟังเรอ่ื งราวของตวั ละครนี ดว้ ยปจั จัยเหลา่ นีท่ี

ตวั ละครต้องเผชิญกบั ปัญหาเพียงคนเดยี ว ตวั ละครรสู้ กึ อา้ งว้าง โดดเดี่ยวอย่างมาก และเจ็บปวดรวดร้าวในใจ รู้สกึ ว่าตนเองไรค้ ณุ ค่า ไม่มีความสา้ คญั ทา้ ให้ย้าคิดยา้ ท้าแกป้ ญั หาด้วยตนเอง หาเคร่อื งบรรเทาอารมณ์ ทังสูบ บหุ รี่ กญั ชา ม้า ยานอนหลับหลายชนิด ซึง่ ภายหลังนันมีผลกระทบดา้ นลบอย่างรนุ แรง คือการเรียกร้องความ สนใจจากแม่ด้วยการแสดงออกดว้ ยวธิ ีตา่ งๆทท่ี ้ารา้ ยตนเอง ผลทีต่ ามมาคือ ไมม่ ีอะไรท่สี ามารถจะเยียวยาเธอ ได้ ยงิ่ ไปกวา่ นันคือการไมอ่ ยากมีชวี ิตอยู่บนโลกอีกตอ่ ไป และในบางขณะแทบจะแยกไม่ออกว่าสถานการณ์ใด คอื ความฝนั อันแทจ้ รงิ ของเธอ ความฝนั ท่ีเกดิ ขนึ บอ่ ยๆ คือฝันถงึ ดอกบวั 4 ดอก เอาไว้ไหวพ้ ระ 3 ดอก ส่วนอีก 1 ดอกนันเปน็ ของเธอ ความฝันนีที่แสดงให้เหน็ ถึงภาวะท่ีเกดิ จาก การไมอ่ ยากมีชวี ติ อยู่หรอื ความตายนนั่ เอง การตคี วามจากความฝนั 1.ยนื ในทโ่ี ล่งแจง้ ส่อื ใหเ้ ห็นถึง ความวา่ งเปลา่ อา้ งว้าง โดดเด่ียวของตัวละคร 2.ป่ารกมตี น้ ไม้สูงใหญห่ ลายตน้ ส่ือใหเ้ ห็นถงึ ปมปัญหาและเรือ่ งราวเลวร้ายทก่ี า้ ลงั เกดิ ขนึ และปญั หานนั ไดเ้ กิดขึนมามากมาย 3.หัวกระโหลกมีต้นไม้อย่างรากแทงทะลุช่องตา ช่องจมูกรากไม้มีชีวิตเหมือนตัวหนอนขนาดยักษ์กาลัง ชอนไชกดั กินเนอ้ื สมองจนเกิดน้าเมอื กนา้ เหลอื ง กะโหลก น้าเมือก นา้ เหลอื ง หนอนยกั ษ์ สื่อให้เหน็ ถึง ศพหรือความตายของมนุษย์ 4.บงึ เลือดท่เี นา่ คาว สิง่ ปฏกิ ูล เลอื ด สื่อใหเ้ หน็ ถึง ความตาย การเสียชีวิต 5.บังคบั ตัวเองไม่ได้ ดง่ิ ลงส่คู วามว่างเปล่าตกลงไปในเหวลึก ด้าดง่ิ ตกลงไปในเหวลึก สือ่ ให้เห็นถึง ตวั ละครจมปลักอยกู่ บั ปัญหา ไมม่ ที างออก ทกุ อยา่ งเลวร้ายมาก เกินกว่าจะแกไ้ ข ความฝนั ตัวละครตวั เอกของนวนิยายเร่อื งนี อาจส่อื ถงึ เจตจ้านงในการทีจ่ ะปลดเปลอื งภาระอารมณ์ท่ี กดดันด้านในให้หลุดไปจากการครอบครองของจิตส้านึก เพราะโดยความจริง ความฝันนับเปน็ ส่วนหนง่ึ ของ การปลดเปลืองโดยธรรมชาติของอารมณ์เป็นวิธีระบายความในใจที่ซ้อนเร้น เป็นวิธีระบายความคับข้องใจ ความรู้สกึ ขดั แยง้ และความรู้สึกกดดนั ของมนุษย์ ใหล้ ดลงในระดบั ท่สี มดลุ ย์

การวจิ ารณว์ รรณกรรม เรอื่ ง การล่มสลายของสถาบันครอบครัวทค่ี วามรักไมอ่ าจเยียวยา ตามหลกั ทฤษฎจี ติ วทิ ยาของ ซิกมนุ ต์ ฟรอยด์ สมาชิก 1. นางสาวกาญจนาพร คา้ รัตน์ รหสั นักศึกษา 59123401048 2. นางสาวพชั รินทร์ วงษ์วาส รหสั นักศกึ ษา 59123401068 3. นางสาวคชาภรณ์ สิงห์ลอ รหสั นักศึกษา 59123401069 4. นางสาวจฬุ าลกั ษณ์ พิศเพลิน รหสั นกั ศึกษา 59123401070 5. นางสาวหทั ญา แซจ่ ึง รหสั นกั ศึกษา 59123401077 6. นางสาวศิรริ ตั น์ ประถมนาม รหสั นกั ศกึ ษา 59123401083 7. นางสาวดวงฤทัย ศรสี ุพรรณ รหสั นกั ศกึ ษา 59123401092 นกั ศึกษาชนั ปีที่ ๓ หมู่เรียน ๐๒ เสนอ อาจารย์ ดร.จริ าภรณ์ อจั ฉรยิ ะประสทิ ธ์ิ รายงานเลม่ นเี ป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ า THL 3307 วรรณกรรมวิจารณ์ สาขาวชิ าภาษาไทย ภาควิชามนุษยศาสตร์ คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนนั ทา ปกี ารศกึ ษา 2561


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook