Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยท่ี 1 หลักการจัดการสินค้าคงคลัง

หน่วยท่ี 1 หลักการจัดการสินค้าคงคลัง

Published by mpotipun, 2018-05-16 00:15:57

Description: เนื้อหาเกี่ยวกับหลักการจัดการสินค้าคงคลังเบื้องต้น

Search

Read the Text Version

หลกั การ หจลดั กั กกาารรจดั การ สสินินคค้า้าคคงคงลงั คลงัมาลัย โพธิพนั ธ์

1 หน่วยท่ี 1หลกั การจดั การสินค้าคงคลงัความหมายของสินค้าคลงั “สินค้าคงคลัง” (Inventory) หมายถึง จดั เป็ นสินทรัพยห์ มุนเวียนชนิดหน่ึง ซ่ึงกิจการตอ้ งมีไวเ้ พ่ือขายหรือผลิต หรือสิ่งอ่ืนที่เราเกบ็ รักษาไวเ้ พือ่ ใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไปในอนาคต การเกบ็ รักษาสินคา้ ไวเ้ พ่ือใชป้ ระโยชน์น้นั อาจเป็ นไปไดห้ ลายแบบดว้ ยกนั เช่น การจาหน่ายใหก้ บัลูกคา้ ก็เป็ นประโยชน์อยา่ งหน่ึง หรือการนาไปเป็ นส่วนประกอบหรือการนาไปใชใ้ นการผลิตก็เป็ นการใช้ประโยชน์อีกอย่างหน่ึง ซ่ึงนาไปใช้ประโยชน์โดยตรง สินคา้ คงคลงั ถึงแมใ้ นขณะท่ีถูกเก็บรักษาไวก้ ็มีประโยชน์ แต่เป็นประโยชนโ์ ดยทางออ้ มดงั จะไดก้ ล่าวถึงตอ่ ไป ยงั มีคาอีกสองคาท่ีจาเป็นตอ้ งให้ตาจากดั ความเฉพาะในกรณีน้ีพร้อม ๆ กบั คาวา่ สินคา้ คงคลงั น้นั คือคาวา่ “ใชห้ มดไป” (Depletion) และคาวา่ “แทนท่ี” (Replenishment) “ใช้หมดไป” หมายถึง การนาสินคา้ คงคลงั ออกจากท่ีเก็บรักษาเพ่ือไปใชป้ ระโยชน์ตามที่กาหนดไว้ล่วงหนา้ “แทนท”่ี หมายถึง การนาของใส่กลบั เขา้ ไปในที่เกบ็ รักษาและกลายสภาพเป็นสินคา้ คงคลงั สาหรับสินคา้ คงคลงั แต่ละรายการหรือแต่ละชนิดไม่วา่ จะเป็น วตั ถุดิบ ชิ้นส่วนหรือสินคา้ สาเร็จรูปเราอาจใช้คากล่าวเรียกสินคา้ คงคลังรายการใดก็ได้ว่า หน่วยสต็อกที่เก็บรักษาไว้ (Stock Keeping Unit:SKU) ซ่ึงSKU หมายถึง ของหรือสินคา้ รายการท่ีตอ้ งเกบ็ รักษาไวเ้ ป็นสินคา้ คงคลงัประเภทของสินค้าคงคลงั สินค้าคงคลัง (Inventory) จดั เป็ นสินทรัพยห์ มุนเวยี นชนิดหน่ึง ซ่ึงกิจการตอ้ งมีไวเ้ พื่อขายหรือผลิตกิจการต่าง ๆ จะมีสินคา้ คงคลงั ประเภทใดข้ึนอยูก่ บั ประเภทของกิจการน้นั ๆ วา่ เป็ นกิจการแบบซ้ือมาขายไป เป็ นกิจการผลิตสินคา้ หรือเป็นกิจการบริการ ซ่ึงในการจดั การดาเนินงาน และการผลิตของอุตสาหกรรมหมายถึง  วัตถุดิบ (Raw Material) คือสิ่งของหรือชิ้นส่วนท่ีซ้ือมา หรือจดั หามาเพื่อนาไปผลิตต่อให้เป็นผลิตภณั ฑซ์ ่ึงอาจเป็นวตั ถุดิบหรือชิ้นส่วนก็ได้ เพอ่ื ใชใ้ นการผลิตใหไ้ ดผ้ ลิตภณั ฑ์  งานระหว่างกระบวนการผลิต (Work-in-Process)เป็นชิ้นงานท่ีอยใู่ นข้นั ตอนการผลิตหรือรอคอยท่ีจะผลิตในข้นั ตอนต่อไปโดยท่ียงั ผา่ นกระบวนการผลิตไม่ครบทุกข้นั ตอน หรืออาจจะประกอบไปดว้ ยสินคา้ ก่ึงสาเร็จท่ีสร้างข้ึนระหวา่ งกระบวนการผลิตตา่ ง ๆ

2  ส่วนประกอบย่อย (Sub Assembly) เป็นสินคา้ ที่ใชเ้ ป็ นส่วนประกอบในการผลิต โดยไดท้ าการประกอบมาแลว้ บางส่วนในรูปของชุด (Kitting)  วสั ดุซ่อมบารุง (Maintenance/Repair/Operating Supplies : MRO) คือชิ้นส่วนอะไหล่กลุ่มวสั ดุสิ้นเปลือง สาหรับเครื่องจกั รที่ สารองไวเ้ ผอื่ เปลี่ยนเมือชิ้นส่วนเดิมเสียหายหรือหมดอายใุ ชง้ านซ่ึงช่วยสนบั สนุนเครื่องจกั รหรือโรงงานของผผู้ ลิตได้ ถา้ การเสียหายเกิดผลเสียรุนแรง และสามารถใชบ้ ริการบริษทั ซ่อมบารุงและบารุงรักษาตามสญั ญาซ่อมบารุง ซ่ึงปัจจุบนั สามารถสนบั สนุน อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ  สินค้าสาเร็จรูป (Finished Goods) คือ ปัจจยั การผลิตท่ีผา่ นทุกกระบวนการผลิตครบถว้ นพร้อมท่ีจะนาไปขายใหล้ ูกคา้ ได้  แรงงาน (Labor) หมายถึงแรงงานที่ใชใ้ นการดาเนินงาน หรือการผลิตในอุตสาหกรรม  เงินลงทุน (Working Capital) หมายถึงเงินลงทุนท่ีหามาไวเ้ พื่อลงทุนเป็ นตน้ ทุนคงท่ีแลตน้ ทุนผนั แปรในการผลิต  เครื่องมือ เคร่ืองจักร อุปกรณ์ (Tools , Machinery , Equipment) เป็ นรายการเคร่ืองมือเครื่องจกั ร อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการผลิต หรือบริการแก่ลูกคา้ นอกจากน้ียงั มีประเภทยอ่ ย ๆ นนั่ คือ สินคา้ คงคลงั ที่ไม่ไดเ้ ป็ นส่วนประกอบหรือเป็ นส่วนหน่ึงของผลิตภณั ฑ์โดยตรง แต่มีความจาเป็ นตอ้ งเก็บเป็ นสินคา้ คงคลงั คือ วสั ดุ (Supplies) เช่น น้ามนั เคร่ืองสาหรับเติมเครื่องจกั ร กระดาษทราย รวมท้งั กระดาษ ดินสอ ปากกา และของใช้อ่ืน ๆ ที่ใช้ในสานกั งานกิจการแต่ละประเภทอาจมีสินคา้ คงคลงั ท่ีมีลกั ษณะหรือประเภทที่แตกตา่ งกนั ดงั ตวั อยา่ งต่อไปน้ี  กจิ การผลิตรถยนต์ อาจมีสินคา้ คงคลงั คือ วตั ถุดิบ ไดแ้ ก่ ชิ้นส่วนต่าง ๆ วสั ดุ อะไหล่ งาน ระหวา่ งผลิต และสินคา้ สาเร็จรูป นน่ั คือ รถยนตท์ ี่ประกอบเสร็จแลว้ พร้อมที่จะนาส่งลูกคา้ ได้  ธุรกจิ สินค้าสมัยใหม่ ก็มกั ไม่มีสินคา้ คงคลงั ประเภทวตั ถุดิบ แต่ส่วนใหญ่เป็ นประเภทวสั ดุ และสินคา้ สาเร็จรูป เช่น เส้ือผา้ วิทยุ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว และอ่ืน ๆ กรณีของเซ็นทรัล ที่รวมถึง บริษทั ในเครืออาจจะมีรายการสินคา้ มากกวา่ 700,000 รายการ (SKU’s)  โรงพยาบาล อาจไมม่ ีสินคา้ คงคลงั ประเภทวตั ถุดิบ และชิ้นส่วน เพราะเป็นกิจการบริการ แต่อาจมีสินคา้ คงคลงั ประเภทวสั ดุ เช่น เลือด วสั ดุสิ้นเปลืองที่ใชใ้ นการตรวจรักษา และสินคา้ สาเร็จรูป เช่น ยาสาหรับจาหน่ายใหก้ บั คนไข้ และท่ีลืมไมไ่ ดค้ ือจานวนเตียงของโรงพยาบาลก็อาจจดั เป็ นสินคา้ คง คลงั ประเภทสินคา้ สาเร็จรูปไดเ้ ช่นเดียวกนั  หน่วยราชการ อาจมีสินค้าคงคลังส่วนใหญ่เป็ นวสั ดุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวสั ดุท่ีใช้ใน สานกั งาน เช่น กระดาษ หมึกพิมพ์ อุปกรณ์สานกั งาน เป็นตน้

3  ธนาคารและสถาบันการเงิน ก็อาจมีสินคา้ คงคลงั ประเภทวสั ดุที่ใชใ้ นสานกั งานและท่ีลืม ไม่ไดค้ ือ สินคา้ สาเร็จรูปซ่ึงอยู่ในรูปของเงินสดท่ีเก็บรักษาไวเ้ พ่ือนาไปใช้จ่ายหรือนาไปลงทุน ถา้ เป็ น ธนาคารแห่งประเทศไทยกม็ ีวสั ดุผลิตเงิน คือ ผา้ หมึกพิมพ์ แทน่ พิมพ์ เป็นตน้ ไม่วา่ จะเป็ นกิจการประเภทใดก็ดูเหมือนกบั วา่ การมีสินคา้ คงคลงั ไม่ประเภทใดประเภทหน่ึง เป็นสิ่งท่ีหลีกเล่ียงไดย้ าก ดงั น้นั การมีสินคา้ คงคลงั จึงอาจมีประโยชน์ต่อการดาเนินกิจการอยบู่ า้ งไมม่ ากก็ นอ้ ย สินคา้ คงคลงั เกิดข้ึนหรือมีข้ึนเน่ืองจากความไม่พอดี ซ่ึงอาจเป็ นความไม่พอดีระหวา่ งปริมาณผลิต และปริมาณความตอ้ งการของตลาด ความไม่พอดีกนั หรือไม่เท่ากนั ของอตั ราการผลิตไดแ้ ต่ละข้นั ตอน ความไม่พอดีกนั ของช่วงเวลาท่ีตอ้ งการวตั ถุดิบ และช่วงเวลาท่ีผูข้ ายส่งจะสามารถจดั ส่งให้ได้ ความไม่ พอดีเหล่าน้ีลว้ นแลว้ แต่ทาใหเ้ กิดสินคา้ คงคลงั ท้งั สิ้น สินคา้ คงคลงั จึงทาหนา้ ท่ีเหมือนกบั เป็ นกนั ชน หรือ เป็ นตวั ดูดซบั ความไม่พอดีท้งั หลายใหบ้ รรเทาเบาบางลง เช่น การเก็บวตั ถุดิบไวเ้ ป็ นสินคา้ คงคลงั จะเป็ น ตวั ดูดซบั ความตอ้ งการในการใชว้ ตั ถุดิบในขณะที่ผขู้ าย (Suppliers) ยงั ไม่นาสินคา้ มาส่งใหม่ หรือเป็ นกนั ชนไม่ทาให้บริษทั ตอ้ งเดือดร้อนเน่ืองจากผลิตต่อไม่ได้ หรือไม่สามารถขายได้ โดยแบ่งประเภท ของ สินคา้ คงคลงั ตามหนา้ ที่หรือประโยชน์ท่ีอยใู่ นรูปสตอ็ กไดห้ ลายรูปแบบดงั น้ี  สตอ็ กในจุดเช่ือมต่อของซัพพลายเชน (Decoupling Stock) เป็นสินคา้ คงคลงั กนั ชนระหวา่ งอุปสงคก์ บั อุปทานในทุกจุดเชื่อมต่อของซพั พลายเชน  สตอ็ กเพ่ือความปลอดภยั (Safety Stock) สตอ็ กน้ีมีไวเ้ พือ่ รองรับการผนั แปรของผขู้ ายปัจจยั การผลิต และ/หรืออปสงคข์ องลูกคา้ เป็นแหล่งท่ีสาคญั ของการมีสตอ็ กที่สอดคลอ้ งกบั อุปสงคข์ องลูกคา้ และการบริการ เป็ นสินคา้ ท่ีเก็บไวเ้ กินจากความตอ้ งการตามรอบปกติ เพราะความไม่แน่นอนของอุปสงค์ และระยะเวลาสัง่ ซ้ือ เพ่ือป้องกนั ความลม้ เหลวในการใหบ้ ริการระหวา่ งเติมสินคา้  สตอ็ กทมี่ ีไว้สาหรับเหตุการณ์ทค่ี าดไว้ล่วงหน้า (Anticipation stock) เป็นสตอ็ กท่ีจดั ซ้ือล่วงหนา้ ท่ีทราบความตอ้ งการ เช่น ความตอ้ งการท่ีไดว้ างแผนไวต้ ามกาหนดการผลิต การออกผลิตภณั ฑ์ใหม่ การโฆษณา อุปสงคต์ ามฤดูกาล การจดั ซ้ือเพ่ือสร้างความไดเ้ ปรียบในการตลาด ซ่ึงเป็นการเริ่มตน้ การพจิ ารณาฝ่ังอุปสงค์ (Demand)  สตอ็ กหมุนเวยี น (Cycle Stock or Working Stock) เป็นสินคา้ ที่ตอ้ งการตอบสนองต่อความตอ้ งการสินคา้ ของลูกคา้ ในระหวา่ งกาหนดเวลาตามคาสั่งซ้ือทว่ั ไป ส่วนมากเป็นสต็อกหมุนเวยี นของสินคา้สาเร็จรูป  สตอ็ กเตมิ ทดแทน (Replenishment Stock) เป็นสตอ็ กท่ีมาจากนโยบายการส่งั ซ้ือ ระดบั ของสตอ็ กหมุนเวยี น กาหนดโดยปริมาณ และความถี่ ซ่ึงเก่ียวกบั ปริมาณ และเวลาในการหมุนเวยี น

4  สตอ็ กระหว่างการเดินทาง (Pipeline Stock) เป็นสินคา้ ที่อยรู่ ะหวา่ งการลาเลียง จากสถานีหน่ึงไปสู่อีกสถานีหน่ึง ซ่ึงนิยมใชใ้ นการขนส่งบนรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือ สินคา้ บนเรือ หรือการขนส่งทุกวธิ ีแทนการเก็บสินคา้ ในคลงั สินคา้ ซ่ึงอาจเป็นส่วนหน่ึงของสินคา้ หมุนเวยี นได้  สต็อกทเี่ กบ็ ไว้ตามฤดูกาล (Seasoning Stock) เป็นสินคา้ ท่ีเก็บเผอื่ ไวอ้ นั เน่ืองมาจากความตอ้ งการเกิดข้ึนซ้า ๆ ในช่วงเวลาเดิมของทุกปี  สตอ็ กทเี่ ส่ือมสภาพ (Obsolete Stock) เป็นสินคา้ ที่ยงั ไม่มีความตอ้ งการในตลาด หรือเส่ือมสภาพ จาเป็นตอ้ งขายในราคาถูก หรือทาลาย เพ่ือลดตน้ ทุนการจดั เกบ็  สตอ็ กทเ่ี กดิ ขนึ้ เนื่องจากการส่ังสินค้าเป็ นลอ็ ต(Lot Size Stock) โดยทว่ั ไปกิจการตา่ ง ๆ มกัสั่งซ้ือสินคา้ เป็นล็อตจานวนมากกวา่ 1 ชิ้นตอ่ คร้ัง ลอ็ ตหน่ึงอาจจะเป็น 100 พาเลท 100 คมั บงั 1,000 ชิ้นเน่ืองมาจากตอ้ งการประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการสั่งซ้ือ การขนส่งซ่ึงอาจตอ้ งเสีย ค่าโทรศพั ท์ คา่ จดั ทาใบสัง่ ซ้ือค่าขนส่ง เช่น คา่ เช่ารถ ค่าน้ามนั ซ่ึงอาจสัง่ ของเตม็ คนั รถหรือคร่ึงคนั ก็เสียคา่ ใชจ้ า่ ยเท่ากนั ในกรณีผขู้ ายเป็ นผู้จดั ส่ง ผขู้ ายก็มกั บงั คบั วา่ ตอ้ งสั่งไมน่ อ้ ยกวา่ จานวนหน่ึงจึงจะจดั ส่งให้ หรือในกรณีส่งั ผลิต การส่ังผลิตคร้ังละมาก ๆ ยอ่ มทาใหค้ ่าใชจ้ ่ายเตรียมการเฉล่ียต่อหน่วยต่าลง การสั่งสินคา้ คงคลงั ซ่ึงจะถูกนาไปเก็บรักษาไว้เป็นสินคา้ คงคลงั ต่อไป  สต็อกเคลื่อนไหว (Movement stock) เป็นสตอ็ กซ่ึงมีการขนส่งระหวา่ งผขู้ ายปัจจยั การผลิตและลูกคา้ สามารถกาหนดไดโ้ ดยแยกกนั  สต็อกทเี่ กดิ จากการคาดเดาโดยไม่มคี วามรู้จริงจัง (Speculative stock) สตอ็ กน้ีมีไวเ้ พอ่ืวตั ถุประสงคใ์ นการลงทุน เช่น การยกยอดวตั ถุดิบมาจากกิจกรรมที่ผา่ นมา หรือเวลาท่ีผา่ นมา เป็นการเร่ิมตน้การพิจารณาฝั่งอุปทาน (Supply)ประโยชน์ของสินค้าคงคลงั สินคา้ คงคลงั สามารถทาใหอ้ ุตสาหกรรมสามารถรักษาระดบั การบริการแก่ลูกคา้ ขณะเดียวกนั กเ็ ป็นตวั ก่อปัญหาในอุตสาหกรรมที่ทาใหต้ อ้ งมีพ้นื ที่โรงงานและคลงั สินคา้ มากข้ึนทาใหเ้ สียโอกาสในการลงทุนและเป็นตน้ ทุนในการดาเนินธุรกิจ แตส่ ินคา้ คงคลงั ก็ทาใหเ้ กิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมดงั น้ี 1. ตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ ท่ีประมาณการไวใ้ นแต่ละช่วงเวลาท้งั ในฤดูการ และนอกฤดูกาล โดยในทางอุตสาหกรรม และธุรกิจตอ้ งเกบ็ สินคา้ คงคลงั ไวใ้ นคลงั สินคา้ 2. รักษาระดบั การผลิตใหม้ ีอตั ราคงที่สม่าเสมอ เพ่ือรักษาระดบั การวา่ จา้ งแรงงาน การเดินเครื่องจกั ร ฯลฯ ใหส้ ม่าเสมอได้ โดยจะเก็บสินคา้ ท่ีขายไม่หมดในช่วงขายไมด่ ีไวข้ ายตอนช่วงขายดีซ่ึงช่วงน้นั อาจจะผลิตไมท่ นั ขาย 3. ทาใหธ้ ุรกิจไดส้ ่วนลดจากปริมาณในการจดั ซ้ือจานวนมากต่อคร้ัง ป้องกนั การเปล่ียนแปลงราคาและผลกระทบจากเงินเฟ้อเมื่อสินคา้ ในทอ้ งตลาดมีราคาสูงข้ึน

5 4. ป้องกนั สินคา้ ขาดมือดว้ ยการมีสตอ็ กเพอ่ื ความปลอดภยั (Safety Stock) ในกรณีที่เกิดความล่าชา้ จากเวลารอคอยหรือบงั เอิญไดค้ าส่ังซ้ือเพ่มิ ข้ึนกะทนั หนั 5. ทาให้กระบวนการผลิตสามารถดาเนินการต่อเนื่องอยา่ งราบรื่น ไม่มีการหยุดชะงกั เพราะสินคา้ ขาดมือจนเกิดความเสียหายแก่กระบวนการผลิตซ่ึงจะทาให้คนงานวา่ งงาน เคร่ืองจกั รถูกปิ ดผลิตไม่ทนั คาสง่ั ซ้ือของลูกคา้ 6. รักษาระดบั คุณภาพ การจดั การคุณภาพ การจดั การคุณภาพเป็ นเรื่องที่เก่ียวขอ้ งกบั บุคคลสองกลุ่มคือลูกคา้ และเจา้ ของผลิตภณั ฑ์ โดยท้งั สองฝ่ ายตกลงกนั โดยลูกคา้ จะพิจารณาเรื่องลกั ษณะสินคา้ราคาที่สามารถซ้ือได้ และเวลาที่ส่งมอบ ในทางตรงกนั ขา้ ม เจา้ ของผลิตภณั ฑ์ ตอ้ งจดั หาทรัพยากรที่เป็ นปัจจยั นาเขา้ ไม่วา่ จะเป็ นวตั ถุดิบ แรงงาน เคร่ืองจกั ร และเงิน เพื่อนามาผลิตให้มีสินคา้ ตามที่ลูกคา้ ตอ้ งการในตน้ ทุนท่ีดี ไมข่ าดทุนและจดั ส่งใหล้ ูกคา้ ทนั เวลา โดยไมเ่ สียคา่ ปรับ ซ่ึงปัญหาส่วนมากในซพั พลายเชนจะเกิดจากปัจจยั ภายนอกไม่วา่ เป็นเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง คู่แขง่ ลูกคา้ ผขู้ ายปัจจยั การผลิต จึงเกิดการจดั เก็บสินคา้ คงคลงั เพื่อรองรับระบบคุณภาพ บทบาทของสินค้าคงคลงั ในซัพพลายเชน สินคา้ คงคลงั มีวตั ถุประสงคใ์ นการสร้างความสมดุลในซพัพลายเชน เพื่อให้ระดบั สินคา้ คงคลงั ต่าสุด โดยไม่กระทบต่อระดบั การให้บริการ โดยปัจจยั นาเขา้ ของกระบวนการผลิตที่มีความสาคญั อยา่ งย่ิงคือ วตั ถุดิบ ชิ้นส่วนและวสั ดุต่างๆ ท่ีเรียกรวมกนั ว่าสินคา้ คงคลงัซ่ึงเป็ นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของตน้ ทุนการผลิตผลิตภณั ฑ์หลายชนิดนอกจากน้นั การท่ีสินคา้ คงคลงั ท่ีเพยี งพอยงั เป็นการตอบสนองความพึงพอใจของลูกคา้ ไดท้ นั เวลา จึงเห็นไดว้ า่ สินคา้ คงคลงั มีความสาคญั ต่อกิจกรรมหลกั ของธุรกิจเป็ นอยา่ งมาก การบริหารสินคา้ คงคลงั ที่มีประสิทธิภาพจึงส่งผลกระทบต่อผลกาไรจากการประกอบการโดยตรงและในปัจจุบนั น้ีมีการนาเอาระบบคอมพิวเตอร์มาจดั การขอ้ มูลของสินคา้ คงคลงั เพื่อให้เกิดความถูกตอ้ ง แม่นยา และทนั เวลามากยิ่งข้ึน การจดั ซ้ือสินคา้ คงคลงั มาในคุณสมบตั ิที่ตรงตามความตอ้ งการ ปริมาณเพียงพอ ราคาเหมาะสม ทนั เวลาท่ีตอ้ งการโดยซ้ือจากผูข้ ายที่ไวว้ างใจได้ และนาส่งยงั สถานท่ีที่ถูกตอ้ งตามหลกั การจดั ซ้ือท่ีดีท่ีสุด เป็ นจุดเริ่มตน้ ของการบริหารสินคา้ คงคลงั การจดั การสินคา้ คงคลงั มีวตั ถุประสงคห์ ลกั อยู่ 2 ประการใหญ่ คือ 1.สามารถมีสินคา้ คงคลงั บริการลูกคา้ ในปริมาณที่เพียงพอ และทนั ต่อการความตอ้ งการของลูกคา้เสมอ เพอื่ สร้างยอดขายและรักษาระดบั ของส่วนแบง่ ตลาดไว้ 2.สามารถลดระดบั การลงทุนในสินคา้ คงคลงั ต่าท่ีสุดเทา่ ท่ีจะทาได้ เพอ่ื ทาใหต้ น้ ทุนการผลิตต่าลง แต่วตั ถุประสงคส์ องขอ้ น้ีจะขดั แยง้ กนั เอง เพราะการลงทุนในสินคา้ คงคลงั ต่าที่สุดมกั จะตอ้ งใชว้ ธิ ีลดระดบั สินคา้ คงคลงั ใหเ้ หลือแค่เพียงพอใชป้ ้อนกระบวนการผลิต เพื่อใหส้ ามารถดาเนินการผลิตไดโ้ ดยไม่หยุดชะงัก แต่ระดบั สินคา้ คงคลังท่ีต่าเกินไปก็ทาให้บริการลูกคา้ ไม่เพียงพอหรือไม่ทนั ใจลูกคา้ ในทาง

6ตรงกนั ขา้ มการถือสินคา้ คงคลงั ไวม้ ากเพื่อผลิตหรือส่งให้ลูกคา้ ไดเ้ พียงพอและทนั เวลาเสมอทาให้ตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั สูงข้ึน ดงั น้นั การบริหารสินคา้ คงคลงั โดยรักษาความสมดุลของวตั ถุประสงคท์ ้งั สองขอ้องค์ประกอบของการสินค้าคงคลงัการจดั การสินคา้ คงคลงั มีวตั ถุประสงคห์ ลกั เพอื่ ใหส้ ามารถมีสินคา้ คงคลงั บริการลูกคา้ ในปริมาณที่เพยี งพอ และทนั ต่อความตอ้ งการของลูกคา้ เสมอ การจดั การสินคา้ คงคลงั มีองคป์ ระกอบท่ีตอ้ งพิจารณาดงั ตอ่ ไปน้ี1. รอบเวลาในการไหลของวสั ดุ (The Material Flow Cycle Time) การจดั การสินคา้ คงคลงั ตอ้ งทราบเวลายอ่ ยในกระบวนการไหลของวสั ดุ ซ่ึงหน่ึงรอบการจดั การสินคา้ คงคลงั ประกอบดว้ ยเวลาในกระบวนการยอ่ ยดงั น้ี  เวลาในการเดินเคร่ือง (Run time) เป็นเวลาที่งานอยใู่ นเครื่องจกั รและกาลงั อยรู่ ะหวา่ งการทางาน  เวลาในการต้งั เคร่ือง (Setup time) งานอยทู่ ี่สถานท่ีทางาน และสถานท่ีทางานกาลงัเตรียมการและต้งั เคร่ืองจกั ร  เวลาในแถวคอย (Queue time) งานอยใู่ นสถานท่ีตอ้ งผลิต แต่ไม่สามารถป้อนเขา้ สู่การผลิตไดเ้ พราะมีงานอ่ืนติดอยใู่ นสายการผลิต  เวลาในการเคล่ือนยา้ ย (Move time) เป็นเวลาที่ใชใ้ นการยา้ ยวสั ดุ  เวลาในการรอ (Wait time) เมื่องานกระบวนการหน่ึงที่แลว้ เสร็จ แตง่ านกาลงั ท่ีจะเคลื่อนยา้ ยไปยงั พ้ืนที่ถดั ไป  เวลาอ่ืน ๆ เช่น สินคา้ คงคลงั ท่ีอยใู่ นการจดั ส่งหรือการผลิต ที่ยงั อยใู่ นกล่อง หรือพาเลท 2. หลกั เกณฑ์ในการจัดทาแบบจาลองสินค้าคงคลงั (Inventory Model Criteria) แบบจาลองสินคา้ คงคลงั จากรูปที่ 2 สามารถแบ่งตามหลกั เกณฑต์ ่อไปน้ี  ข้นั ตอนในกระบวนการ (Process stage) โดยจะแบ่งสินคา้ คงคลงั ออกตามกระบวนการเป็นวตั ถุดิบ (Raw Material) งานระหวา่ งการผลิต (WIP) สินคา้ สาเร็จรูป (Finished Goods)  จานวน และมูลค่า (Number & Value) แบ่งช้นั สินคา้ คงคลงั เป็นกลุ่มตามปริมาณท่ีใชห้ รือตามกิจกรรมของสินคา้ คงคลงั แตล่ ะรายการ หรือมูลค่าสินคา้ คงคลงั ซ่ึงแทน 3 กลุ่มดว้ ย A/B/C  ชนิดของอปุ สงค์ (demand Type) แบ่งสินคา้ คงคลงั ตามอุปสงคเ์ ป็น 2 รูปแบบ คืออุปสงค์แบบแปรตาม (Dependent) และอุปสงคอ์ ิสระ (Independent) ในการควบคุมสินคา้ คงคลงั จะนิยมใช้แบบจาลองตามชนิดอุปสงคเ์ ป็นส่วนใหญ่  ชนิดอื่น ๆ (Other) เป็นสินคา้ คงคลงั แบบอื่นท่ีนอกจากที่กล่าวมาแลว้ เช่น การปฏิบตั ิการท่ีข้ึนกบั การซ่อมบารุง

7 สินคา้ คงคลงั Inventoryข้นั ตอนในกระบวนการ จานวนและมูลค่า ชนิดของอปุ สงค์ อื่นๆ Process Stage Number & Value Demand Type Otherวตั ถุดิบ งานระหวา่ งผลิต รายการสินคา้ A/B/C อุปสงคแ์ ปรตามอปุ สงคอ์ ิสระ การปฏิบตั ิการที่ข้ึนกบั การ สินคา้ สาเร็จรูป A Item, B Item, C Item Independent, Dependent ซ่อมบารุง Raw Material, WIP, Maintenance Dependent Finished Good Operation รูปที่ 1.1 หลกั เกณฑใ์ นการพฒั นาแบบจาลองสินคา้ คงคลงั 3. แบบจาลองสินค้าคงคลงั (Inventory Models) ในการจดั การสินคา้ คงคลงั จะข้ึนกบัแบบจาลองที่เก่ียวขอ้ งกบั หลกั การต่อไปน้ี  อุปสงคอ์ ิสระ กบั อุปสงคแ์ ปรตาม (Independent versus Dependent Demand)  ตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั ท่ีถือไว้ ค่าสง่ั ซ้ือ และคา่ เตรียมการ (Holding , Ordering , and SetupCosts) 3.1 แบบจาลองการจัดการสินค้าคงคลงั ทเี่ ป็ นอุปสงค์อสิ ระ (Inventory Models forIndependent Demand) มีวธิ ีการจดั การและรายละเอียดท่ีตอ้ งศึกษาดงั น้ี  แบบจาลองการสง่ั ซ้ือแบบประหยดั (Basic Economic Order Quantity (EOQ) Model)  ตน้ ทุนท่ีนอ้ ยท่ีสุด (Minimizing Costs)  แบบจาลองจุดสั่งซ้ือใหม่ (Reorder Points Model)  แบบจาลองปริมาณการสั่งซ้ือตามกาลงั การผลิต (Production Order Quantity Model)  แบบจาลองส่วนลดตามปริมาณ (Quantity Discount Models)ซ่ึงสินคา้ คงคลงั ที่เป็นอุปสงคอ์ ิสระจะมีระบบควบคุมดงั น้ี  ระบบการควบคุมสินคา้ คงคลงั ตามปริมาณท่ีกาหนด และสินคา้ คงคลงั แบบสิ้น งวด (Fixed – Period System)  แบบจาลองความน่าจะเป็นโดยเวลานาคงท่ี (Probabilistic Models with Constant Lead Time)

8 3.2 แบบจาลองการจัดการสินค้าคงคลงั ทเี่ ป็ นอุปสงค์แปรตาม (Dependent Inventory Model)  ระบบการวางแผนความตอ้ งการวสั ดุ (MRP)  ระบบการผลิตแบบทนั เวลาพอดี (Just In Time : JIT)  การวางแผนทรัพยากรการผลิต (MRP II)  การวางแผนทรัพยากรองคก์ ร (ERP)  การวางแผนทรัพยากรกระจายสินคา้ (DRP)ความสาคัญของการจัดการสินค้าคงคลงั กิจการทุกประเภทในปัจจุบนั เนน้ การใหบ้ ริการที่ดีท่ีสุดแก่ลูกคา้ การที่มีสินคา้ และบริการใหแ้ ก่ลูกคา้ ในเวลาและในปริมาณท่ีลูกคา้ ตอ้ งการ ในขณะเดียวกนั กิจการท่ีตอ้ งการเสียค่าใชจ้ า่ ยใหน้ อ้ ยท่ีสุด นนั่คือมีคน้ ทุนใหต้ ่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพอ่ื ใหม้ ีความไดเ้ ปรียบในเชิงการแขง่ ขนั การจดั การสินคา้ คงคลงั มีความสาคญั ต่อกรอบการทางานเชิงการแข่งขนั (Competitive Framework) ดงั น้ี 1. เพื่อลดต้นทุนในการผลิต โดยมากแลว้ การติดต้งั เคร่ืองจกั รเป็ นกระบวนการที่มีตน้ ทุนสูงดังน้ันการผลิตจะต้องผลิตเป็ นระยะยาวที่สุดเท่าที่จะทาได้เพื่อให้ต้นทุนต่อหน่วยต่าลงแต่เราก็ต้องเปรียบเทียบตน้ ทุนต่อหน่วยน้ีกบั ตน้ ทุนในการถือครองสินคา้ คงคลงั ดว้ ย 2. เพ่ือรองรับความแปรปรวนของอุปสงค์ อุปสงคข์ องผลิตภณั ฑไ์ ม่ไดเ้ ท่าเทียมกนั ตลอดไปเสมอแต่จะมีเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาส้ัน ๆ ตามฤดูกาล ฯลฯ เพื่อท่ีจะหลีกเล่ียงการขาดสินคา้ คงคลงั เราจึงตอ้ งรักษาสินคา้ คงคลงั สารองไวร้ ะดบั หน่ึง 3. เพ่ือรองรับเวลาของการจัดหาหรืออุปทาน สินคา้ คงคลงั สารองส่วนอื่นจะถือครองไวเ้ พื่อใชร้ องรับช่วงความล่าชา้ ในการจดั ส่งจากผขู้ ายปัจจยั การผลิต 4. ต้นทุนในการจัดซื้อ มีตน้ ทุนในการบริหารส่วนหน่ึงที่เก่ียวขอ้ งกบั การสั่งซ้ือ และเพอื่ ที่จะลดตน้ ทุนส่วนลดส่วนน้ี เราจะตอ้ งถือครองสินคา้ คงคลงั เพิ่มเติม เราจาเป็ นท่ีจะตอ้ งเทียบตน้ ทุนในการบริหารส่วนน้ีกบั ตน้ ทุนในการถือครองสินคา้ คงคลงั ดงั น้นั เราจึงใช้การคานวณปริมาณส่ังซ้ือท่ีประหยดัท่ีสุด (EOQ) 5. เพ่ือฉวยโอกาสส่วนลดจากปริมาณการสั่งซื้อ ผลิตภณั ฑบ์ างชิ้นจะมีราคาตอ่ หน่อยถูกลงถา้ซ้ือในปริมาณมาก ๆ 6. เพ่ือรองรับการเปลย่ี นแปลงตามฤดูกาล การเปล่ียนแปลงเหล่าน้ี อาจมีสาเหตุจากอุปสงค์ ท่ีผลิตภณั ฑท์ ี่มีความนิยมในบางช่วงเวลาเทา่ น้นั การจะรองรับความเปล่ียนแปลงเหล่าน้ีและรักษาระดบั การผลิตที่คงท่ีไปพร้อมๆกนั จะตอ้ งมีการผลิตท้งั ปี เพอื่ เกบ็ สินคา้ คงคลงั สารองสาหรับช่วงน้นั การเปล่ียนแปลงของอุปทานยงั อาจจะเกิดข้ึนเพราะวา่ มีการผลิตผลิตภณั ฑ์น้นั แคบ่ างช่วงเวลาในหน่ึงปี ซ่ึงมกั จะเป็นการผลิตอาหารที่มีสินคา้ คงคลงั สูงในช่วงเวลาเกบ็ เกี่ยว

9 7. เพ่ือรองรับการเปลยี่ นแปลง หรือการเก็งราคา ราคาของผลิตภณั ฑอ์ าจมีการเปล่ียนแปลงได้เน่ืองจากหลาย ๆ สาเหตุดงั น้นั บริษทั บางบริษทั จึงซ้ือในปริมาณมาก ๆ เพื่อรองรับการเปล่ียนแปลงราคาเหล่าน้ี 8. เพื่อช่วยให้การผลติ และปฏิบัติการกระจายสินค้าราบรื่นมากขนึ้ คือเก็บสินคา้ คงคลงั ไวเ้ พื่อแยกกิจกรรมท้งั สองออกจากกนั 9. เพ่ือให้บริการบริการลูกค้าได้ในทันที ในบางตลาดท่ีมรการแข่งขนั กนั อยา่ งรุนแรง บริษทัต่าง ๆ จะตอ้ งจดั หาสินคา้ ใหล้ ูกคา้ ไดท้ นั ทีที่ตอ้ งการ 10. เพื่อลดความล่าช้าในการผลิตที่เกิดจากการขาดชิ้นส่วนอะไหล่ ประเด็นน้ีมีความสาคญันอกเหนือจากการบารุงรักษาทว่ั ๆ ไปด้วย คือสาหรับโรงงานและเครื่องจกั รราคาแพงท่ีเสียหายการมีอะไหล่สารองจะช่วยลดการหยดุ งานในโรงงานได้ 11. เพ่ือช่วยเลือกกระบวนการผลติ โดยการเกบ็ สินคา้ คงคลงั ของงานระหวา่ งผลิตไวส้ าหรับช่วงระหวา่ งกระบวนการสองกระบวนการต้นทุนของสินค้าคงคลงั 1. ต้นทนุ ในการสั่งซื้อ (Ordering Cost) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีตอ้ งจา่ ยในกระบวนการจดั ซ้ือเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่ึงสินคา้ คงคลงั ของวตั ถุดิบ ชิ้นส่วนประกอบตา่ ง ๆ สินคา้ ท่ีตอ้ งการ ซ่ึงจะแปรตามจานวนคร้ังท่ีตอ้ งการสงั่ ซ้ือแต่ไมแ่ ปรตามปริมาณสินคา้ คงคลงั เพราะสัง่ ซ้ือของมากเทา่ ใดกต็ ามในแตล่ ะคร้ัง ค่าใชจ้ า่ ยในการสงั่ ซ้ือกย็ งัคงที่ แต่ถา้ ยงิ่ สงั่ ซ้ือบอ่ ยคร้ังค่าใชจ้ ่ายในการส่ังซ้ือจะยงิ่ สูงข้ึน ค่าใชจ้ า่ ยในการสง่ั ซ้ือไดแ้ ก่ คา่ เอกสารใบสง่ัซ้ือ ค่าจา้ งพนกั งานจดั ซ้ือ คา่ โทรศพั ท์ ค่าขนส่งสินคา้ ค่าใชจ้ ่ายในการตรวจรับของและเอกสารค่าธรรมเนียมการนาของออกจากศุลกากร คา่ ใชจ้ า่ ยในการชาระเงิน เป็ นตน้ 2. ต้นทนุ ในการเกบ็ รักษา (Carrying Cost) เป็นคา่ ใชจ้ ่ายจากการถือครองสินคา้ คงคลงั และการเกบ็รักษาใหส้ ินคา้ คงคลงั น้นั อยใู่ นรูปท่ีใชง้ านได้ ซ่ึงจะแปรตามปริมาณสินคา้ คงคลงั ท่ีถือไวแ้ ละระยะเวลาท่ีเก็บสินคา้ คงคลงั น้นั ไว้ ค่าใชจ้ ่ายในการเกบ็ รักษา ไดแ้ ก่ ตน้ ทุนเงินทุนที่จมอยกู่ บั สินคา้ คงคลงั ซ่ึงคือคา่ดอกเบ้ียจา่ ยถา้ เงินทุนมาจากการกยู้ มื หรือเป็นคา่ เสียโอกาสถา้ เงินทุนน้นั เป็ นส่วนของเจา้ ของ คา่ คลงั สินคา้อุปกรณ์ และส่ิงอานวยความสะดวก ค่าไฟฟ้าเพ่อื การรักษาอุณหภูมิ คา้ ใชจ้ ่ายของสินคา้ ท่ีชารุดเสียหายหรือหมดอายเุ ส่ือมสภาพจากการเก็บนานเกินไป คา่ ภาษี และการประกนั ภยั คา่ จา้ งยามและพนกั งานประจาคลงั สินคา้ ฯลฯ โดยแนวคิดการจดั การสินคา้ คงคลงั จะพยายามทาใหร้ ะดบั สินคา้ คงคลงั ต่าเพราะทาให้ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายจากสินคา้ คงคลงั ซ่ึงมีรายละเอียดดงั ต่อไปน้ี ค่าใช้จ่ายเนื่องจากสินค่าล้าสมยั ซ่ึงหมายถึง เมื่อสินคา้ ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ต่อกิจการอีกตอ่ ไปถึงแมจ้ ะอยใู่ นสภาพที่ใชไ้ ด้ คา่ ใชจ้ า่ ยแบบน้ีเกิดข้ึนมากในกรณี สินคา้ แฟชนั่ และสินคา้ เทคโนโลยสี ูง

10 ค่าใช้จ่ายเมื่อเกดิ ของเน่าเสีย สินคา้ ที่เก็บไวเ้ ป็นสินคา้ คงคลงั อาจเน่าเสียหรือเส่ือมสภาพเช่น สินคา้ ประเภทอาหารสดท่ีเน่าเสียง่าย หรือสินคา้ เกิดเปี ยกช้ืนหรือแหง้ ทาใหเ้ สื่อมสภาพ ค่าประกนั หมายถึง คา่ เบ้ียประกนั ที่บริษทั หรือกิจการจะตอ้ งจา่ ยใหก้ บั บริษทั ประกนั เพื่อคุม้ ครองสินคา้ ที่เกบ็ รักษาไว้ ค่าใช้จ่ายทเ่ี กยี่ วข้องกบั คลงั สินค้า เช่น คา่ เช่า ค่าไฟ คา่ ยาม คา่ ตรวจนบั คา่ จดั ทาขอ้ มูล ซ่ึงค่าใชจ้ า่ ยเหล่าน้ีจะไมเ่ กิดข้ึนถา้ ไม่มีสินคา้ คงคลงั ดอกเบีย้ และค่าเสียโอกาส การลงทุนในสินคา้ คงคลงั ทาให้เงินทุนจมอยใู่ นสินคา้ คงคลงั ไม่สามารถจะนาไปลงทุนที่อ่ืนได้ ซ่ึงเงินทุนดงั กล่าวก็อาจเป็นเงินยมื ที่จาเป็นตอ้ งจ่ายดอกเบ้ียใหแ้ ก่ธนาคารคา่ ใชจ้ า่ ยเหล่าน้ีไม่วา่ จะเป็นคา่ เสียโอกาสหรือคา่ ดอกเบ้ียจาตอ้ งนาไปคานวณเป็นส่วนหน่ึงของคา่ ใชจ้ ่ายในการเก็บรักษาอยา่ งแน่นอน สินค้าถูกขโมย ซ่ึงมีมากหรือนอ้ ยข้ึนอยกู่ บั ประเภทกิจการ เช่น ซูเปอร์มาร์เกต็ อาจมีสินคา้ถูกขโมยมาก ในขณะที่โรงงานผลิตโทรทศั น์อาจมีสินคา้ ถูกขโมยนอ้ ย เป็ นตน้ โครงสร้างต้นทุนเกบ็ รักษาสินค้ารายการที่ ประเภทต้นทุน (% ต้นทุนจากมูลค่าสินค้าคงคลงั ) 1 ค่าอาคารและส่ิงอานวยความสะดวก ค่าเช่าอาคาร คา่ เส่ือม 6 2 ตน้ ทุนดาเนินการ ภาษี และประกนั ภยั อาคาร (3-10) 3 4 ค่าอปุ กรณ์ในการยกขนสินคา้ : ค่าอุปกรณ์ และค่าเช่าอุปกรณ์ 3 5 ค่าเสื่อม คา่ พลงั งาน และคา่ ดาเนินการ (1-3,5)หมายเหตุ คา่ แรงงานจากการรักษาสินคา้ เพมิ่ เติม 3 หรือ (3-5) เงินลงทุน : ตน้ ทุนจากการยมื ภาษี ประกนั ภยั สินคา้ 11 หรือ (6-24) การลกั ขโมย ของเสีย และค่าเสื่อมสภาพ 3 หรือ (2-5) รวมต้นทุนเกบ็ รักษาสินค้า 26 ต้นทนุ เกบ็ รักษาสินค้าทด่ี ที ส่ี ุดควรตา่ กว่าร้อยละ 15 ของมูลค่าสินค้าคงคลงั แต่ต้นทนุ เกบ็ รักษาสินค้ารายปี ประมาณร้อยละ 40 ของมูลค่าสินค้าคงคลงั 3. ต้นทุนเน่ืองจากสินค้าขาดแคลน(Shortage Cost หรือStock out cost หรือ Cs) เป็ นคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีเกิดข้ึนจากการมีคลงั สินคา้ ไม่เพียงพอต่อการผลิตหรือการขาย ทาใหล้ ูกคา้ ยกเลิกคาสั่งซ้ือขาดรายไดท้ ี่ควรได้ กิจการเสียช่ือเสียง กระบวนการผลิตหยดุ ชะงกั เกิดการวา่ งงานของเคร่ืองจกั รและคนงาน ฯลฯ 4. ต้นทนุ จ่ายในการต้ังเครื่องจักรใหม่ (Setup cost) เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีเกิดข้ึนจากการท่ีเครื่องจกั รจะตอ้ งเปลี่ยนการทางานหน่ึงไปทางานอีกอยา่ งหน่ึง ซ่ึงจะเกิดการวา่ งงานชวั่ คราว สินคา้ คงคลงั จะถูกทิ้งใหร้ อกระบวนการผลิตท่ีจะต้งั ใหม่

11เงนิ ลงทุนและผลกระทบของสินค้าต่อหน่วยธุรกจิ ตน้ ทุนของตวั สินคา้ คงคลงั คือ เงินทุนในปัจจุบนั ท่ีใชก้ บั สินคา้ คงคลงั หรือตน้ ทุนจากการเสียโอกาสจากการไมส่ ามารถใชเ้ งินทุนส่วนน้ีกบั การลงทุนอ่ืนๆ ท่ีอาจมีผลตอบแทนดีกวา่ ตน้ ทุนท่ีมีมูลคา่ สูงที่สุดคือตน้ ทุนสินคา้ คงคลงั ซ่ึงโดยการหามูลคา่ สินคา้ คงคลงั น้นั เป็ นนโยบายของฝ่ ายบญั ชีของแตล่ ะบริษทั ซ่ึงการคิดมูลค่าสินคา้ คงคลงั น้นั มีหลายวิธี เช่น มูลค่าสินคา้ ท่ีเขา้ ก่อนแลว้ นาออกมาใชก้ ่อน (First In First Out :FIFO)มูลค่าสินคา้ ที่เขา้ ก่อนแลว้ นาออกมาใชท้ ีหลงั (Last In First Out : LIFO)หรือค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้าหนกั(Weight Average)เป็นตน้ สินคา้ คงคลงั มีผลกระทบต่อความสามารถในการทากาไร การประเมินความสามารถในการทากาไรของกิจการจะพิจารณาจากตวั เลขในงบกาไรขาดทุนและงบดุล เพื่อใหท้ ราบผลตอบแทนท่ีกิจการไดร้ ับจากการประกอบการ ซ่ึงประกอบดว้ ยอตั ราส่วนที่สาคญั 3 อตั ราส่วน คือ - กาไรสุทธิตอ่ ยอดขาย (Net Profit Margin) - อตั ราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Assets) - อตั ราผลตอบแทนต่อส่วนของเจา้ ของ (Return on Net Worth)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook