Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยอาชีพ

วิจัยอาชีพ

Published by สุภาวิตา ทองน้อย, 2019-09-30 23:02:14

Description: วิจัยอาชีพ

Search

Read the Text Version

ตารางที่ 2.2 แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู ส�ำ หรบั การวเิ คราะหค์ แู่ ขง่ ขนั (Sources of Information for Competitor Analysis) ประเภทของขอ้ มลู สาธารณะ (public) การค้า/อาชพี รฐั บาล นกั ลงทนุ สง่ิ ทคี่ แู่ ขง่ พดู เกยี่ วกบั - การโฆษณา - คมู่ ือ - รายงานคณะกรรมการซื้อ - การประชุมประจ�ำ ปี ตัวเขาเอง (What - เอกสารการสง่ เสรมิ การขาย - เอกสารทางด้าน ขายหลักทรพั ย์ (SEC) - รายงานประจ�ำ ปี competitors say - ข่าวแจก เทคนิค - การพิจารณาคดีเก่ียวกับ - หนงั สอื ชกั ชวนใหซ้ อื้ หนุ้ about themselves) - สุนทรพจน์ - ใบอนญุ าต การคา้ ผดิ กฎหมายระหวา่ งรฐั - การออกหนุ้ กแู้ ละพนั ธบตั ร - หนังสือ - สทิ ธิบัตร - การฟอ้ งคดตี า่ งๆ (lawsuits) - บทความ - หลักสตู ร - การป้องกันการผูกขาด - การเปลยี่ นแปลงบคุ ลากร - การสมั มนา (antitrust actions) - โฆษณาซอื้ ขาย (want ads) สง่ิ ทผ่ี อู้ น่ื พดู เกยี่ วกบั - หนงั สอื - ซพั พลายเออร์ - การฟอ้ งรอ้ งคดตี ่าง ๆ - รายงานของนกั วเิ คราะห์ เขา (คู่แข่ง) (What - บทความ - นติ ยสารการคา้ - การป้องกันผกู ขาด หลักทรัพย์ (security others say about - กรณศี กึ ษา - อุตสาหกรรม - หนว่ ยงานของรัฐ analyst reports) them) - ท่ีปรึกษา ศึกษา - แผนงานของชาติ - อตุ สาหกรรม การศกึ ษา - นกั หนังสือพมิ พ์ - ลูกค้า - โครงการของรัฐบาล - รายงานสินเช่ือ (credit - กลมุ่ อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม - ผู้รบั เหมาช่วง reports) - กลุ่มผบู้ รโิ ภค (sub contractors) - สหภาพแรงงาน - หนงั สอื Who’s Who - บริษทั จัดหางาน ภาพท่ี 2.3 การตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายนอก (Scanning the External Environment) ทีม่ า : (Wheelen and Hunger, 2002 : 58 อา้ งถึงใน พบิ ูล ทปี ะปาล, 2551 : 48) 50 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

2.5.2 แนวคดิ การก�ำ หนดปจั จยั เชงิ กลยทุ ธภ์ ายนอก (identifying external strategic factors) สภาพแวดล้อมภายนอกองค์การธุรกิจเกิดข้ึนและเปล่ียนแปลงตลอดกาล ช้าบ้างและ เรว็ บา้ ง แตบ่ างครง้ั การตอบสนองของบรษิ ทั ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มทเี่ ปลย่ี นแปลงเหมอื นกนั แตบ่ รษิ ทั จะตอบสนองตา่ งกนั เหตผุ ลส�ำ คญั ประการหนงึ่ กเ็ นอ่ื งจากวา่ ความสามารถของผจู้ ดั การ ทจี่ ะรบั รแู้ ละเขา้ ใจ ปจั จยั หรอื ปญั หาเชงิ กลยทุ ธ์ ภายนอกตา่ งกนั นน่ั เอง มบี รษิ ทั นอ้ ยมากทจ่ี ะสามารถตรวจสอบปจั จยั ภายนอกทสี่ �ำ คญั ไดท้ ง้ั หมด จงึ ท�ำ ใหบ้ างครงั้ กท็ �ำ ใหข้ าดการตดิ ตามหรอื มองขา้ มพฒั นาการใหมๆ่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในอตุ สาหกรรม ผจู้ ดั การบางคนบางครงั้ กห็ ลงตวั เอง เชอื่ มนั่ ในตนเองสงู ประกอบกบั เพง่ิ จะไดร้ บั ผลส�ำ เรจ็ จากแผนงาน กลยทุ ธใ์ นปจั จบุ นั ของตนเอง จงึ มคี วามคดิ วา่ การวางแผนกลยทุ ธ์ท่ีจะน�ำ ไปใชใ้ หม่ กค็ งจะประสบผลส�ำ เร็จอีก จึงทำ�ใหเ้ กิดอคติ ทงั้ ด้านการรับรู้วา่ ปัจจยั อะไร มคี วามส�ำ คญั และตคี วามหมายสงิ่ ทร่ี บั รผู้ ดิ พลาดไปดว้ ย คอื ไมร่ วู้ า่ อะไรมคี วามส�ำ คญั ควรจะตดิ ตามอยา่ งใกลช้ ดิ หรอื ไม่ วิธีหน่ึงท่ีจะช่วยให้การกำ�หนดและการวิเคราะห์พัฒนาการต่างๆ ในสภาพแวดล้อม คือ การใช้ “แมททรกิ ซ์ลำ�ดบั ความส�ำ คัญของปัญหาสภาพแวดล้อมทจ่ี ะเกิดขึ้น” (issues priority matrix) (ภาพท่ี 2.4) ดงั น้คี อื (wheelen and Hunger, 2000 : 59 อ้างถงึ ใน พิบูล ทปี ะปาล, 2551 : 49) 1) ระบุจำ�นวนแนวโน้มต่าง ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนในสภาพแวดล้อมทั่วไป ทั้งสภาพแวดล้อม ทางสงั คมและสภาพแวดลอ้ มทเี่ กย่ี วกบั งาน จ�ำ นวนแนวโนม้ เหลา่ นคี้ อื ปญั หาสภาพแวดลอ้ มเชงิ กลยทุ ธท์ เี่ กดิ ขน้ึ ซึง่ เปน็ แนวโนม้ ทสี่ �ำ คญั ทีจ่ ะมีผลกระทบตอ่ อุตสาหกรรมหรือต่อโลก หากเกดิ ขน้ึ จริง 2) ประเมินความเปน็ ไปได้ของแนวโน้มเหล่าน้ี ท่จี ะเกิดข้นึ จริง จากต่�ำ ไปหาสูง 3) พยายามคน้ หาความเปน็ ไปไดข้ องผลกระทบ (จากต�ำ่ ไปหาสงู ) อนั เกดิ จากแตล่ ะปญั หา ของแนวโนม้ ทจ่ี ะเกดิ ขึ้นตอ่ บรษิ ทั ทกี่ �ำ ลงั ตรวจสอบ ปัจจยั เชิงกลยทุ ธ์ภายนอก (external strategic factors) คอื แนวโน้มของสภาพแวดล้อม ที่สำ�คัญ (key environmental trends) ซ่ึงพิจารณาแล้วว่า โอกาสความเป็นไปได้ ท่ีจะเกิดขึ้นระดับกลางถึง ระดับสงู (medium to high probability of occurrence) และความเปน็ ไปได้ทจี่ ะมีผลกระทบตอ่ บริษัทระดับกลาง ถงึ ระดับสงู (medium to high probability of impact on the corporation) แมททริกซ์ลำ�ดบั ความส�ำ คัญของปัญหา สภาพแวดล้อมที่จะเกิดข้ึน จะนำ�มาใช้ เพื่อช่วยผู้จัดการตัดสินใจว่า แนวโน้มสิ่งแวดล้อมใด ควรท่ีจะเพียงแต่ ตรวจสอบธรรมดาเท่านั้น (ล�ำ ดับความสำ�คญั ตำ�่ ) และแนวโน้มสิง่ แวดล้อมใด ควรที่จะทำ�การตรวจสอบจริงจัง เพราะถอื เปน็ ปจั จยั เชงิ กลยทุ ธ์ (strategic factors) (ล�ำ ดบั ความส�ำ คญั สงู ) และแนวโนม้ สง่ิ แวดลอ้ มทถี่ อื เปน็ ปจั จยั เชิงกลยุทธข์ องบริษัททง้ั หมด ก็จะจดั แยกประเภทเปน็ โอกาส (opportunities) และ อปุ สรรค (threats) เพอ่ื นำ�ไป ใชใ้ นการจดั ท�ำ กลยุทธ์ 2.5.3 แนวคิดเกย่ี วกับเทคนคิ การตรวจสอบสภาพแวดล้อม (techniques to monitor the environment) เพ่ือให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อม ในปัจจุบัน องค์การ ธุรกจิ จำ�เป็นจะต้องคอยตรวจสอบ และตดิ ตามการเปลย่ี นแปลงของสภาวะแวดล้อมอย่างต่อเน่อื ง เพอื่ รวบรวม ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะภายนอก เพ่ือนำ�มาใช้ในการจัดทำ�แผนกลยุทธ์ของบริษัท การตรวจสอบสภาพแวดล้อม เป็นกิจกรรมที่สำ�คัญอย่างหนึ่งท่ีต้องทำ�อย่างต่อเน่ือง เพราะว่าจะช่วยให้ผู้จัดการได้เข้าใจถึงแนวโน้มการ เปล่ียนแปลงความต้องการของตลาด รูปแบบการดำ�เนินงานของคู่แข่งในอุตสาหกรรม การก่อเกิดผลิตภัณฑ์ ท่ีจะเข้ามาทดแทน และพลังผลักดันท่ีเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อม ซ่ึงอาจจะมีผลกระทบต่อบริษัทในระยะยาว กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 51

การตรวจสอบสามารถกระทำ�ได้หลายระดับในองค์การ การตรวจสอบ อย่างกว้างๆ (broad – based scanning) จะเนน้ ทจี่ ดุ เรมิ่ ตน้ ของการเกดิ แนวโนม้ ใหม่ หรอื การเปลย่ี นแปลง ในสภาวะแวดลอ้ มทวั่ ไป ตวั อยา่ งเชน่ ผู้ผลิตเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีใช้ตามบ้าน (PC) อาจตรวจสอบ ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดตลาดใหม่ จากผู้ผลิต รายใหม่ ซึ่งพัฒนาและจำ�หน่ายคอมพวิ เตอร์มาเป็นค่แู ข่ง การตรวจสอบระดับอตุ สาหกรรม (industry – level scanning) จะมงุ่ เนน้ การวเิ คราะห์เจาะจงมากยิง่ ข้ึน ในด้านความตัง้ ใจและขอบขา่ ยของการด�ำ เนนิ งาน ผจู้ ัดการ และเจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยเทคนคิ จากบรษิ ทั คแู่ ขง่ บอ่ ยครงั้ จะไปเยยี่ มเยยี นคแู่ ขง่ ของเขา ซอื้ ผลติ ภณั ฑข์ องเขา แลว้ น�ำ มา แยกแยะออกเปน็ ชนิ้ ๆ เพอ่ื ศึกษาวิเคราะห์ความกา้ วหน้าของคูแ่ ขง่ ในแง่มมุ ต่าง ๆ เป็นคณุ ภาพของผลติ ภัณฑ์ และลกั ษณะพิเศษที่เปน็ ส่งิ ใหม่ ๆ ในผลติ ภณั ฑ์ เปน็ ตน้ ภาพท่ี 2.4 แมททรกิ ซ์ล�ำ ดบั ความสำ�คัญของปญั หาสภาพแวดลอ้ มท่จี ะเกดิ ข้นึ ท่ีมา : (Wheelen and Hunger, 2002 : 59 อา้ งถึงใน พบิ ลู ทีปะปาล, 2551 : 50) อีกตัวอย่างหนึ่งคอื เจ้าหนา้ ท่ีของบริษทั สายการบิน มกั จะลงทนุ เดนิ ทางโดยสายการบนิ ของคแู่ ข่ง เพื่อ ประเมนิ คณุ ภาพการให้บริการ (service quality) การก�ำ หนดตารางเท่ยี วบิน และการบ�ำ รุงรักษาทว่ั ไป เปน็ ตน้ ผจู้ ดั การจากรา้ นสรรพสนิ คา้ โรงแรม ธนาคาร และสถานบรกิ ารอนื่ ๆ ทวั่ ไป ตา่ งกใ็ ชท้ �ำ นองเดยี วกนั เพอ่ื ประเมนิ จุดแข็ง ทกั ษะ และจดุ มงุ่ เนน้ ของคูแ่ ขง่ ขัน โดยเปรียบเทียบกับการด�ำ เนินงานของตน ความพยายามเพื่อติดตาม ตรวจสอบการปฏิบัติกิจกรรมของ ฝ่ายตรงข้ามลักษณะนี้ เรียกว่า “การเก็บรวบรวมข้อมูลคู่แข่งขัน” (competitors intelligence gathering) การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู คแู่ ขง่ ขนั นี้ จะรวมถงึ การเกบ็ ขอ้ มลู ทอ่ี ยรู่ ะหวา่ ง การพฒั นาเทคโนโลยใี หม่ ๆ ทอี่ าจ น�ำ มาใชป้ ระกอบผลติ ภณั ฑท์ จ่ี �ำ หนา่ ยอยแู่ ลว้ ในปจั จบุ นั การเขา้ สตู่ ลาดใหม่ คณุ ภาพการใหบ้ รกิ าร และการตอบสนอง กลา่ วอกี นยั หนง่ึ กค็ อื การรวบรวมขอ้ มลู คแู่ ขง่ ขนั เปน็ การแสวงหาขอ้ มลู ใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ เทา่ ทจ่ี ะท�ำ ได้ โดยถกู ตอ้ ง ตามกฎหมาย ท้ังน้ีเพ่อื ชว่ ยให้บริษทั สามารถติดตาม มีความเขา้ ใจ และสามารถด�ำ เนินการเพ่อื เผชญิ กบั คแู่ ขง่ ได้ อย่างเหมาะสม การตรวจสอบสภาพแวดล้อม และการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทเข้าใจ สภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ ดขี น้ึ รวมทง้ั ทราบวา่ ใครคอื คแู่ ขง่ ของตน และทส่ี �ำ คญั ทสี่ ดุ คอื ท�ำ ใหบ้ รษิ ทั สามารถก�ำ หนด โอกาส (opportunities) ใหม่ ๆ เพอ่ื การปรบั ปรงุ งานในอนาคต รวมทงั้ ทราบถงึ อปุ สรรค (threats) หรอื ภยั คกุ คาม ตอ่ ฐานะหรอื ต�ำ แหน่งของบริษัทในปจั จบุ ัน (Pitts and Lei, 2000 : 50-51 อ้างถงึ ใน พบิ ลู ทปี ะปาล, 2551 : 51) 52 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

การสรปุ ผลการวเิ คราะห์ปจั จยั ภายนอก (External Factors Analysis Summary : EFAS) ภายหลงั จากผจู้ ดั การดา้ นกลยทุ ธ์ ไดท้ �ำ การตรวจสอบสภาพแวดลอ้ มภายนอกทางดา้ นสงั คม และ สภาพแวดลอ้ มทเ่ี กยี่ วกบั งาน รวมทงั้ ไดก้ �ำ หนดจ�ำ นวนปจั จยั ภายนอกเชงิ กลยทุ ธต์ า่ ง ๆ แลว้ จากนนั้ ปจั จยั ทเี่ ปน็ โอกาส และปัจจัยท่เี ปน็ อปุ สรรค จะน�ำ มาสรปุ ในแบบฟอร์ม ดังในตารางที่ 2.3 ซึง่ เรยี กวา่ “ตารางสรุปผลการ วเิ คราะห์ปัจจัยภายนอก” หรอื เรียก ยอ่ ๆ วา่ “ตาราง EFAS” โดยมวี ธิ จี ดั ท�ำ เป็นขั้นตอนดังนี้ 1) ในคอลัมน์ 1 (ปัจจัยภายนอก) เขียนรายการปัจจัยภายนอกประมาณ 8 ถึง 10 รายการ ซง่ึ เป็นปัจจัยทเี่ ปน็ โอกาส และ อุปสรรค ทส่ี �ำ คญั ทส่ี ดุ ทีบ่ ริษัทก�ำ ลังเผชิญอยู่ 2) ในคอลัมน์ 2 (นำ้�หนัก) พิจารณากำ�หนดให้น้ำ�หนักความสำ�คัญของแต่ละปัจจัยท่ีมีผล กระทบต่อฐานะเชงิ กลยุทธข์ องบริษทั ในปัจจบุ ัน ตัง้ แต่ 1.0 (ส�ำ คัญมากทส่ี ุด) จนถึง 0.0 (ไมส่ �ำ คญั ) ปจั จัยใด ยิง่ ใหน้ ำ�้ หนกั มาก กย็ ่ิงเปน็ ปัจจัยทม่ี คี วามส�ำ คญั ตอ่ ความสำ�เร็จของบรษิ ทั ทั้งในปจั จุบนั และในอนาคตมากดว้ ย (ผลรวมของน้�ำ หนกั ทง้ั หมดจะเทา่ กบั 1.0 ไม่วา่ จะมกี ีป่ จั จยั ก็ตาม) 3) ในคอลัมน์ 3 (คะแนนประเมิน) พิจารณากำ�หนดให้คะแนนการประเมินของแต่ละปัจจัย ท่ีบริษัทสามารถตอบสนองต่อปัจจัยน้ันว่า บริษัทสามารถที่จะตอบสนองได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยมีคะแนน ประเมนิ ตงั้ แต่ 5 (ดเี ดน่ ) จนถึง 1 (ออ่ นมาก) ดงั น้ี ดเี ดน่ ดี ปานกลาง อ่อน ออ่ นมาก 4) ในคอลมั น์ 4 (คะแนนถว่ งน้�ำ หนกั ) นำ�ค่า นำ�้ หนกั ใน คอลมั น์ 2 คูณกับคะแนนประเมนิ แตล่ ะปจั จยั ใน คอลัมน์ 3 ก็จะได้คะแนนถว่ งนำ้�หนัก (weighted score) ของแตล่ ะปจั จัย ซึ่งเมอื่ รวมคะแนน ถว่ งน�้ำ หนกั ของปจั จยั ภายนอก กจ็ ะไดผ้ ลลพั ธข์ องคะแนน ถว่ งน�้ำ หนกั ทง้ั หมด (total weighted score) และผลทอี่ อกมา จะมีค่าระหวา่ ง 1 ถึง 5 ซึง่ แสดงใหเ้ หน็ ว่าบรษิ ทั สามารถตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมภายนอกในปจั จุบัน และ ในอนาคตไดด้ เี พยี งไร คะแนนทไ่ี ดน้ ย้ี งั สามารถน�ำ ไปเปรยี บเทยี บกบั บรษิ ทั อนื่ ๆ ในอตุ สาหกรรมเดยี วกนั ไดอ้ กี ดว้ ย โดยคา่ เฉลยี่ ของคะแนนถ่วงนำ�้ หนักในอุตสาหกรรมจะมคี ่าเท่ากบั 3.0 เสมอ 5) ในคอลมั น์ 5 (ข้อคิดเห็น) เปน็ ขอ้ สังเกตหรือขอ้ คดิ เหน็ เพื่อแสดงวา่ ทำ�ไมปจั จัยนนั้ ถอื เป็น ปัจจัยเชิงกลยุทธ์ เป็นปัจจัยที่มีความสำ�คัญ และมีผลกระทบต่อบริษัทอย่างไร บริษัทสามารถท่ีจะตอบสนอง ได้ดีแคไ่ หน เพอ่ื ความเขา้ ใจโปรดดูตัวอยา่ งตามตารางสรุปผลการวิเคราะห์ปัจจยั ภายนอก (EFAS) ท่ี 2.3 ของบริษทั Maytag จากตารางจะเห็นได้ว่า คะแนนถว่ งน้ำ�หนกั ท้ังหมดของบริษัทเท่ากบั 3.15 แสดงว่าบริษทั อย่ใู นฐานะ ทสี่ ามารถตอบสนองตอ่ ปจั จยั ภายนอกไดด้ กี วา่ บรษิ ทั อนื่ ๆ ในอตุ สาหกรรมเครอื่ งใชภ้ ายในครวั เรอื น ทสี่ �ำ คญั ๆ เพียงเล็กนอ้ ยเท่านัน้ กองวจิ ยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 53

ตารางที่ 2.3 ตัวอย่างการสรุปผลการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกของบริษัทเมย์แท็ก (External Factor Analysis Summary (EFAS) : Maytag as Example) ปจั จยั ภายนอก นำ�้ หนกั คะแนนประเมนิ คะแนนถ่วงน้ำ�หนกั ขอ้ คดิ เห็น (Rating) (Weighted score) (Comments) (External Factors) (Weigh) 4 .80 การซอื้ กจิ การของ Hoover โอกาส (Opportunities) 5 คุณภาพของ Maytag ดี 01 การรวมตวั ทางเศรษฐกจิ ของ .20 1 กลุม่ ประเทศยุโรป 2 .50 Maytag วางขายนอ้ ยจะ 02 คนสว่ นใหญน่ ยิ มเครอื่ งเรอื น .10 2 ตอ้ งใชเ้ วลาชอ่ งทางนเ้ี ปน็ มคี ณุ ภาพ 4 03 การพฒั นาเศรษฐกจิ ของเอเชยี .05 4 .05 จดุ ออ่ นของ Maytag 04 การเปิดตัวของ .05 3 .10 ยโุ รปตะวันออก 1 .20 05 แนวโนม้ ตอ่ “Super Stores” .10 2 .40 มีตำ�แหน่งที่ดี อปุ สรรค (Threats) .40 มีตำ�แหน่งที่ดี T1 รฐั บาลออกกฎหมายเพมิ่ ขนึ้ .10 .45 Hoover ยงั อ่อนใน T2 ความรุนแรงของการแข่งขัน .10 T3 Whirlpool และ Electrolux .15 ตลาดโลก แข็งแกรง่ ตลาดโลก .05 ยังเป็นปญั หา T4 ความกา้ วหนา้ ของ .05 ผลิตภณั ฑใ์ หม่ ในเอเชยี มจี ำ�หน่าย T5 บริษัทผลิตภณั ฑ์ครวั เรอื น .10 .20 เฉพาะที่ออสเตรเลีย ของญีป่ ุน่ 3.15 คะแนนรวม 1.00 ทม่ี า : (Wheelen and Hunger, 2000 : 76 อา้ งถงึ ใน พิบลู ทีปะปาล, 2551 : 53) สรปุ การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายนอก เป็นการวเิ คราะห์เพ่อื หาปัจจยั เชงิ กลยทุ ธ์ 2 ตวั คอื โอกาส และ อุปสรรค สภาพแวดล้อมภายนอกแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ (1) สภาพแวดล้อมทางสังคมที่สำ�คัญ 4 อย่าง คอื สภาวะทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเมือง กฎหมาย และสังคมและวฒั นธรรม (2) สภาพแวดลอ้ ม ทเ่ี กี่ยวกับงาน หรือสภาพแวดลอ้ มทางดา้ นการแข่งขนั หรอื สภาพแวดลอ้ มในอตุ สาหกรรม ไดแ้ ก่ ลกู คา้ คู่แข่งขัน ผจู้ ำ�หน่ายวัตถุดิบ เปน็ ตน้ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มทางสงั คม เปน็ การศกึ ษาแนวโนม้ และการเปลยี่ นแปลงปจั จยั ตวั แปร ท่ีส�ำ คญั ที่ก่อใหเ้ กิดโอกาสและอปุ สรรค ท้งั 4 ด้าน ส่วนการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มที่เก่ียวกบั งาน หรือสภาพ แวดล้อมทางการแขง่ ขนั การวเิ คราะห์จะแบง่ ออกเป็น 2 ส่วน คอื การวเิ คราะหอ์ ตุ สาหกรรมกบั การวิเคราะห์ คแู่ ขง่ ขัน การวเิ คราะห์อตุ สาหกรรม ใช้ตวั แบบการวเิ คราะหข์ องพอร์เตอร์เป็นเครอื่ งมอื คอื ตวั แบบพลัง ผลกั ดนั 5 ประการ ท่เี ปน็ ตัวกำ�หนดสภาวะการแขง่ ขัน อันมีผลตอ่ ศกั ยภาพการท�ำ ก�ำ ไร หรอื การดึงดดู ใจของ อตุ สาหกรรมใหเ้ ขา้ ไปลงทนุ ไดแ้ ก่ ภยั คกุ คามอนั เกดิ จากคแู่ ขง่ หนา้ ใหม่ ความรนุ แรงของการแขง่ ขนั ระหวา่ งบรษิ ทั ตา่ ง ๆ 54 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ในอุตสาหกรรมเดียวกัน อำ�นาจต่อรองของผู้ซ้ือ อำ�นาจต่อรองผู้ขาย ปัจจัยการผลิต และภัยคุกคามจาก ผลติ ภณั ฑ์ทดแทน รวมทงั้ กล่มุ ผมู้ ีสว่ นไดเ้ สียกับองคก์ ารอกี ด้วย ส่วนการวิเคราะหค์ แู่ ขง่ ขนั กเ็ พอ่ื สบื ทราบให้ได้ วา่ ขณะนค้ี แู่ ขง่ ก�ำ ลงั ท�ำ อะไรอยู่ ก�ำ ลงั จะท�ำ อะไรตอ่ ไป และการกระท�ำ นนั้ จะมผี ลกระทบตอ่ บรษิ ทั อยา่ งไร ขอ้ มลู ที่ได้จากการวิเคราะหท์ ั้งหมด จะนำ�มาเลือกสรรเป็นปจั จัยกลยทุ ธ์ 2 ตวั คอื โอกาสและอปุ สรรคของบรษิ ทั เพื่อ การวางแผนกลยุทธต์ ่อไป ในตอนสดุ ทา้ ยไดก้ ลา่ วถงึ เทคนคิ การตรวจสอบสภาพแวดลอ้ ม เพอ่ื รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั สภาพ ภายนอกทง้ั หมด รวมทงั้ การสรปุ ผลการวเิ คราะหป์ จั จยั ภายนอก มาจดั ท�ำ เปน็ ตารางสรปุ ผลเรยี กวา่ ตาราง EFAS 2.5.4 แนวคิดเกีย่ วกับเคร่ืองมือในการวิเคราะห์ (Analysis tools) เครอื่ งมอื ทน่ี �ำ มาใชใ้ นการวเิ คราะหเ์ ครอื ขา่ ยธรุ กจิ เพอ่ื ประเมนิ ฐานะและต�ำ แหนง่ ทางการแขง่ ขนั ในอตุ สาหกรรมของ SBUs ตา่ ง ๆ มี 3 ตวั แบบ ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มมากทสี่ ดุ คอื ตวั แบบของกลมุ่ ทปี่ รกึ ษาแหง่ เมอื ง บอสตนั (Boston Consulting Group Model) ตวั แบบของบรษิ ัทเจน็ เนอรลั อิเลก็ ตริก (General Electric Model) และตวั แบบวงจรชวี ติ ตลาดและความแขง็ แกรง่ ทางการแขง่ ขนั (Market Life Cycle –Competitive Strength Model) 1) ตัวแบบของกลุ่มท่ีปรึกษาแหง่ เมอื งบอสตนั (BCG’s Model) กล่มุ ท่ีปรกึ ษาแหง่ เมอื งบอสตนั (Boston Consulting Group Model : BCG) เป็นบรษิ ัทที่ปรกึ ษา ทางด้านการจัดการชั้นแนวหน้าในสหรัฐอเมริกา ได้พัฒนาตัวแบบเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำ�หรับวิเคราะห์ เครือข่ายธุรกิจขึ้น ในปี ค.ศ. 1970 โดยนำ�ปัจจัย 2 อย่าง คือ “อัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม” (industrial growth rate) และ “สว่ นครองตลาดสัมพันธ”์ (relative market share : RMS) มาจัดแสดงในรูปของ แมทรกิ ซ์ เรยี กวา่ “Growth Share Matrix”หรอื “BCG Matrix” ดงั แสดง ภาพท่ี 2.5 วงกลม 8 วง แสดงขนาดและต�ำ แหนง่ ของ 8 SBUs ในปจั จบุ นั (บางครง้ั เปน็ ผลติ ภณั ฑส์ �ำ คญั ) และขนาดของวงกลมแสดงยอดขายในแตล่ ะปขี อง SBUs เหล่านน้ั ตามสดั สว่ นของพืน้ ท่ีวงกลม จากรูปแกนตงั้ แสดงอัตราสว่ นการเจรญิ เตบิ โตของอตุ สาหกรรม (หรือตลาด) ต่อปี ธุรกิจดำ�เนนิ กิจการอยู่ มตี ง้ั แต่ 0-20% โดยถือ 10% เป็นเกณฑใ์ นการแบง่ น่ันคอื อัตราการเจรญิ เตบิ โตสูงกวา่ 10% ถอื เป็น อัตราการขยายตวั สูง (High growth) (เกณฑ์ 10% น้ี ไมแ่ น่นอน แตจ่ ะแตกตา่ งกันในแต่ละอตุ สาหกรรม) ส่วนแกนนอน แสดงส่วนครองตลาดสัมพันธ์ ซ่ึงเป็นการเปรียบเทียบระหว่างส่วนครองตลาด (market share) ของหน่วยธุรกิจ กับส่วนครองตลาดของคู่แข่งในอุตสาหกรรมรายใหญ่ท่ีสุด ซึ่งค่าของส่วน ครองตลาดสัมพันธข์ องหนว่ ยธรุ กจิ ค�ำ นวณได้จากสมการนี้ ส่วนครองตลาดสัมพนั ธ์ = ส่วนครองตลาดของหน่วยธุรกิจของบรษิ ัท ส่วนครองตลาดของคแู่ ขง่ รายใหญท่ สี่ ุด กองวิจยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 55

ภาพท่ี 2.5 Growth–Share Matrix ของ BCG ทม่ี า : Philip Kotler, Market Management, The Millennium ed. (Upper Saddle River, N.J. : Prentice – Hall , 2000), p.69. (อ้างถงึ ใน พบิ ูล ทปี ะปาล, 2551 : 118) จากรูปตามแกนนอน ได้แบ่งสัดส่วนไว้ต้ังแต่ 0.1 – 10 (ต่ำ�สุด – สูงสุด) โดยถือ 1.0 เป็นเกณฑ์ ในการแบง่ ระหว่าง ส่วนครองตลาดของผ้นู �ำ (leader) และส่วนครองตลาดของ ผตู้ าม (Follower) เพราะว่า ในอตุ สาหกรรมใดกต็ าม จะมเี พยี งบรษิ ทั เดยี วเทา่ นนั้ ทม่ี สี ว่ นครองตลาดสมั พนั ธม์ ากกวา่ 1.0 ดงั นน้ั สว่ นครองตลาด สัมพนั ธ์ท่ีมคี า่ มากกวา่ 1.0 ถือว่ามีสว่ นครองตลาดสัมพันธส์ ูง (high share) และ ส่วนครองตลาดสัมพันธ์ที่มีค่า น้อยกว่า 1.0 ถือวา่ มสี ว่ นครองตลาดสัมพันธ์ต่ำ� (low share) เมือ่ น�ำ ปัจจยั 2 ด้านมาจัดในรปู ของแมทริกซ์ กจ็ ะได้แมทริกซ์ อันประกอบด้วย 4 ชอ่ ง (quadrants) แตล่ ะชอ่ งแสดงไวด้ ว้ ยรปู สญั ลกั ษณ์ อนั แสดงความหมาย บง่ บอกถงึ ฐานะต�ำ แหนง่ ของ SBU ตา่ ง ๆ ซงึ่ ปรากฏอยู่ ในช่องท้ัง 4 นนั้ คอื (1) ดวงดาว (star) (2) โคนม (cash cow) (3) เด็กมปี ัญหา (problem child) หรือ เครือ่ งหมาย ค�ำ ถาม (question mark) และ (4) สนุ ัขเฝา้ บ้าน (dog) ดูภาพท่ี 2.5 บซี จี ี ไดพ้ ฒั นาตวั แบบการวเิ คราะหเ์ ครอื ขา่ ยธรุ กจิ นขี้ น้ึ มา โดยยดึ ถอื ฐานคตหิ รอื สมมตฐิ าน (assumption) อนั เป็นความเชอื่ พน้ื ฐานส�ำ คญั 2 ประการ คือ (1) เชือ่ วา่ สว่ นครองตลาดของ SBU ใดก็ตามย่งิ สูงกย็ ิง่ ทำ�ให้ ฐานะทางการตลาดระยะยาวของ SBU น้ันยิ่งสูงตามไปด้วย ทัง้ นเ้ี นื่องจากการมตี น้ ทนุ ต่อหนว่ ยตำ�่ และความ สามารถในการทำ�กำ�ไรมีสูง ซงึ่ เป็น ผลจากการประหยัดอนั เนอื่ งมาจากขนาด (economy of scale) บริษทั ทมี่ ี ขนาดใหญก่ ว่าย่อมใชร้ ะบบการผลติ อัตโนมัติ การโฆษณาและการจ�ำ หนา่ ยท่มี ีขนาดสงู กว่า รวมทงั้ การประหยดั อนั เนื่องมาจากการเรยี นรู้จากประสบการณ์ท่สี ะสม (experience curve) ทช่ี ่วยให้ลดตน้ ทนุ การผลติ ลงได้ และ (2) เช่อื วา่ SBU ใดก็ตามอยู่ในอตุ สาหกรรมทมี่ อี ตั ราการขยายตัวสงู ยงิ่ สงู เท่าใด ก็ยงิ่ ตอ้ งใช้เงินสงู ตามไปด้วย เทา่ นน้ั เพราะเงนิ จ�ำ นวนนนั้ จ�ำ เปน็ จะตอ้ งน�ำ มาใชเ้ พอื่ ขยายยอดขายใหส้ งู ขนึ้ และเพอื่ รกั ษาฐานะสว่ นครองตลาด สูงเอาไว้ให้ยืดยาวตอ่ ไป 56 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

จากสญั ลักษณท์ ี่ปรากฏใน 4 ชอ่ งของแมทริกซ์ อนั แสดงถึงฐานะตำ�แหน่งของ SBU ตา่ ง ๆ ของบรษิ ัท โดยเปรยี บเทยี บกับค่แู ข่ง ในสภาวะของอตั ราการขยายตัวของอุตสาหกรรมในระดบั ต่าง ๆ รวมทงั้ ขอ้ เสนอแนะ สำ�หรับบริษัท เพ่ือกำ�หนดบทบาทของแต่ละสภาพของ SBU และแนวทางในการวางแผนกลยุทธ์ท่ีเหมาะสม อธิบายรายละเอยี ดได้ ดังนี้ 1.1) ดวงดาว (star) แสดงวา่ ฐานะหรอื ต�ำ แหนง่ ของ SBU เปน็ ผนู้ �ำ ตลาด มสี ว่ นครองตลาดสงู (high market share) อยู่ในอตุ สาหกรรมซงึ่ กำ�ลังขยายตวั สงู (high growth) ซึง่ แสดงใหเ้ ห็นว่า SBU นั้นสามารถ ทำ�ก�ำ ไรไดม้ าก จึงควรกำ�หนดเปา้ หมายทจ่ี ะรกั ษาจุดเดน่ เหนือคแู่ ขง่ (differential advantage) ของบรษิ ัทเอาไว้ เปน็ ประการสำ�คญั เพื่อเผชิญกบั คู่แขง่ ซ่ึงกำ�ลังจะเกดิ ขึ้น อย่างรวดเรว็ แม้ว่า SBU นจ้ี ะสามารถท�ำ กำ�ไรไดม้ าก แต่ก็จำ�เป็นจะต้องใช้ทรัพยากรมากเช่นเดียวกัน เพื่อสนับสนุนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป เพราะตลาดยังไม่อิ่มตัว ส่วนครองตลาดจะสามารถรักษาให้อยู่ในระดับเดมิ หรือขยายให้เพ่ิมไดด้ ว้ ยการทุม่ โฆษณาใหม้ ากข้นึ ทมุ่ ความ พยายามดา้ นการจดั จ�ำ หนา่ ยมากขนึ้ และหรอื ลดราคาลง เมอื่ อตั ราการเจรญิ เตบิ โตของอตุ สาหกรรมลดลง SBU ที่มฐี านะต�ำ แหน่ง ดวงดาว (star) น้ีกจ็ ะเปลย่ี นมาอยูใ่ นสภาพตำ�แหน่งของ โคนม (cash cow) 1.2) โคนม (cash cow) แสดงว่าฐานะหรอื ต�ำ แหนง่ ของ SBU เป็นผูน้ ำ�ในตลาด มสี ่วนครองตลาด สงู (high market share) แต่อยูใ่ นอตุ สาหกรรมทีข่ ยายตัวต่�ำ หรืออม่ิ ตวั แล้ว (low growth) โดยปกติ SBU ทอี่ ยใู่ นตำ�แหนง่ นี้จะมีลกู ค้าขาประจำ�หรอื ลกู ค้าทม่ี ีความภกั ดตี อ่ ผลิตภัณฑ์ท่ีอยู่ในความรับผดิ ชอบของ SBU น้ี มปี รมิ าณมากยากทีค่ ู่แขง่ ขนั จะชิงแยง่ ไปได้ ดงั น้ันจึงทำ�ให้ยอดขายสูงและท�ำ กำ�ไรไดส้ ูงอีกด้วย แตเ่ นือ่ งจากวา่ SBU ในตำ�แหน่งโคนมนี้ไมต่ อ้ งใชจ้ า่ ยเงนิ เพือ่ พฒั นาผลิตภณั ฑใ์ หม่ หรอื ขยายตลาดใหม่อกี แลว้ เพราะว่าตลาด ในอตุ สาหกรรมน้นั ลดลงหรอื อยู่ในขนั้ อ่มิ ตัวแลว้ บรษิ ัทจึงเพียงแตต่ อ้ งใช้เงนิ บ้าง เพ่อื รักษาส่วนครองตลาดสูง เอาไว้ ดงั นนั้ จงึ มกี �ำ ไรหรอื เงนิ สดเหลอื อยมู่ าก ซงึ่ เปรยี บเสมอื นโคนมทอี่ ดุ มไปดว้ นน�ำ้ นม (น�ำ้ นมนเี้ ปรยี บเสมอื น เงินสดน่ันเอง) ก�ำ ไรอันเกดิ จากหน่วยธรุ กจิ น้ี บรษิ ทั จะน�ำ ไปสนับสนนุ SBU อ่นื ๆ บริษัทจงึ ควรกำ�หนดกลยุทธ์ มุ่งเนน้ การโฆษณาเพื่อเตอื นความทรงจำ� (reminder advertising) จัดโปรแกรมเพอื่ ลดราคาเป็นครั้งคราวรักษา ช่องทางจำ�หนา่ ยเดมิ เอาไว้ อาจจะหาวธิ ีเสนอแบบสไตลใ์ หมๆ่ เพอ่ื กระตุ้นให้เกิดการซ้ือซ้ำ� เป็นต้น 1.3) เด็กมปี ญั หา (problem child) หรอื เคร่ืองหมายคำ�ถาม (question mark) แสดงวา่ ฐานะหรอื ต�ำ แหน่งของ SBU ของบริษทั นี้มสี ่วนครองตลาดตำ�่ (low market share) เมื่อเปรยี บเทยี บกบั สว่ นครองตลาด ของคแู่ ขง่ แตอ่ ยใู่ นอตุ สาหกรรมทก่ี �ำ ลงั ขยายตวั สงู (high growth) ดงั นนั้ บรษิ ทั จงึ จ�ำ เปน็ ตอ้ งใชเ้ งนิ มากเพอื่ รกั ษา หรอื เพมิ่ สว่ นครองตลาดใหส้ งู ขน้ึ เพอ่ื เผชญิ กบั ผลติ ภณั ฑข์ องคแู่ ขง่ ทเี่ หนอื กวา่ ซงึ่ มอี ยแู่ ลว้ ในตลาด ปญั หาทบ่ี รษิ ทั ต้องตดั สินใจกค็ อื ว่า บริษทั จะเดินหน้าสกู้ บั คแู่ ข่งต่อไป หรอื จะถอยหลังถอนตวั ออกจากตลาดนนั้ นคี่ ือปัญหา ที่ยังเป็นเครอ่ื งหมายคำ�ถาม SBU สว่ นใหญจ่ ะเรมิ่ ตน้ ในฐานะ “เดก็ มปี ญั หา” หรอื เครอ่ื งหมายค�ำ ถาม (question mark) เสมอ การที่ บรษิ ัทจะตามผู้นำ�ใหท้ ันหรอื ยกฐานะ SBU น้นั เข้าสขู่ ัน้ “ดวงดาว”จำ�เปน็ จะตอ้ งใช้เงนิ มากเพราะวา่ จะต้องเพม่ิ โรงงานขึ้น ซอื้ อุปกรณเ์ คร่ืองมอื ต่างๆ เพ่ิมข้ึน รวมตลอดท้ังบุคลากรกต็ ้องเพิ่มขึ้น และจะตอ้ งทมุ่ ความพยายาม ทางการตลาดอย่างมากอกี ดว้ ย การใชส้ ญั ลักษณ์ “เครื่องหมายคำ�ถาม” ในสภาพเช่นน้ี กเ็ พราะวา่ บรษิ ทั จะตอ้ ง คดิ หนกั วา่ จะทมุ่ เงนิ ลงทนุ ในหนว่ ยธรุ กจิ นน้ั ตอ่ ไป หรอื จะถอนตวั ออกจากตลาด การตดั สนิ ใจของบรษิ ทั ทจี่ ะเลอื ก วิธีการดำ�เนนิ งานอย่างไรจะเดนิ หน้าหรอื ถอยหลัง ข้ึนอยู่กับวา่ บรษิ ัทเช่อื ว่า SBU ของบรษิ ัทจะสามารถแข่งขนั ในตลาดไดส้ ำ�เร็จ และมสี ิง่ สนับสนุนอยา่ งเพยี งพอคมุ้ กบั ที่ลงทุนหรอื ไม่เป็นส�ำ คญั กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 57

1.4) สนุ ัขเฝ้าบา้ น (dog) แสดงวา่ ฐานะหรือตำ�แหน่งของ SBU ของบรษิ ทั มียอดขายจำ�กัด เพราะมี ส่วนครองตลาดตำ่� (low market share) เมื่อเปรยี บเทยี บกับส่วนครองตลาดของคแู่ ข่ง และอยู่ในอุตสาหกรรม ทอ่ี ม่ิ ตัวหรือลดลง (low growth) SBU จะมกี ำ�ไรต่ำ�หรือขาดทนุ การลงทุนต่อไปไมค่ ุม้ คา่ โอกาสกา้ วหนา้ มีน้อย บรษิ ัทซึง่ มี SBU ในฐานะเช่นนค้ี วรเลือกสว่ นตลาดทพ่ี อจะทำ�ก�ำ ไรได้บ้างเท่าน้นั พยายามตัดค่าใชจ้ ่ายดา้ นการ บริการใหน้ ้อยท่สี ดุ หรอื ไมก่ ็ถอนตัวออกจากตลาดนนั้ ไป ฐานะหรือตำ�แหน่งของ SBU ดังกล่าวข้างต้นน้ี เม่ือเวลาผ่านไปก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามวงจรชีวิต (life cycle) ของมนั เช่นเดยี วกบั วงจรชวี ิตผลติ ภณั ฑ์ (product life cycle) นัน่ คอื SBU ท่ีประสบผลส�ำ เร็จนัน้ ในขน้ั แนะน�ำ จะเรมิ่ ท่ี “เดก็ เกดิ ปญั หา” และเคลอื่ นเขา้ สู่ “ดวงดาว” ในขน้ั เจรญิ เตบิ โตและจะเปลย่ี นมาเปน็ “โคนม” ในข้ันเจริญเต็มที่ และในที่สุดก็จะเคลื่อนเข้าสู่ตำ�แหน่ง “สุนัขเฝ้าบ้าน” ในข้ันลด ด้วยเหตุน้ีบริษัทจึงไม่ควร มองตำ�แหน่งฐานะของ SBU แต่เพียงในสภาวะปัจจุบันเท่านั้น แต่ควรมองแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงตำ�แหน่ง ในอนาคตอีกด้วยรวมทั้งจะต้องคอยตรวจสอบฐานะหรือตำ�แหน่งเสมอ เพ่ือจะได้ทราบว่า เมื่อปีกลายหรือ เม่ือ 2 ปีท่ีผ่านมามีสภาพเป็นเช่นไร และปีต่อไปจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ท้ังน้ีเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการ ก�ำ หนดกลยทุ ธท์ ่เี หมาะสมต่อไป การก�ำ หนดกลยุทธเ์ พื่อน�ำ ไปใช้ นักการตลาดท�ำ การวเิ คราะห์ SBU ของบริษัทเช่นเดียวกบั นกั วเิ คราะห์หุน้ ในตลาดหลกั ทรัพยเ์ พ่ือการ ลงทนุ ดงั นน้ั ภายหลงั จากทฝ่ี า่ ยบรหิ ารไดท้ �ำ การวเิ คราะห์ SBU ตา่ ง ๆ ของบรษิ ทั และไดจ้ ดั แบง่ ประเภทตามฐานะ และตำ�แหน่งดังกล่าวข้างต้นแล้ว งานข้ันต่อไปคือการกำ�หนดกลยุทธ์เพ่ือให้ได้แต่ละ SBU นำ�ไปปฏิบัติต่อไป กลยทุ ธ์ที่จะมอบหมายนำ�ไปใชม้ ี 4 อย่างดงั นค้ี อื (Kotler, 2000 : 70 อา้ งถึงใน พิบลู ทีปะปาล, 2551 : 121) (1) กลยทุ ธส์ ร้าง (build strategy) หรืออาจเรียกอีกอย่างหน่ึงว่า “กลยทุ ธ์เพิม่ การลงทนุ ” (invest strategy) ซง่ึ หมายถงึ บรษิ ทั จะตอ้ งเพม่ิ การลงทนุ ในหนว่ ยธรุ กจิ เพมิ่ ขนึ้ ใหส้ ามารถ สรา้ ง (build) สว่ นครองตลาด เพมิ่ ขนึ้ เชน่ อาจทมุ่ การโฆษณาใหม้ ากขน้ึ เพมิ่ ความพรอ้ มในการจดั จ�ำ หนา่ ยหรอื ลดราคาผลติ ภณั ฑใ์ หต้ �ำ่ ลง ดงั นนั้ การใช้กลยุทธ์นี้อาจจำ�เป็นต้องเสียสละรายได้หรือผลกำ�ไรในระยะสั้น กลยุทธ์สร้างท่ีเหมาะท่ีจะนำ�ไปใช้กับ SBU ท่อี ยูใ่ นตำ�แหนง่ “เด็กมปี ญั หา” บางหน่วยทีม่ ศี ักยภาพ เพอื่ สร้างความแข็งแกร่งปทู างนำ�ไปสู่ “ดวงดาว” ในอนาคต (2) กลยทุ ธ์รักษา (hold strategy) หรอื อาจเรยี กอกี อย่างหนึง่ วา่ กลยทุ ธ์ปอ้ งกัน (protect strategy) ซึ่งหมายถึง บรษิ ัทจะตอ้ งรักษาส่วนครองตลาดในปจั จุบันในฐานะที่เปน็ ผู้นำ�อยแู่ ล้ว (preserve existing market share leadership) การรักษา หมายถึงการรักษาลูกค้าเดิมเอาไว้และไม่จำ�เป็นต้องลงทุนเพิ่มเพ่ือหาลูกค้าใหม่ กลยุทธ์น้ีเหมาะกับ SBU ท่ีอยู่ในตำ�แหน่ง “โคนมที่เข้มแข็ง” (strong cash cow) ซ่ึงเป็นหน่วยกำ�ลังทำ�เงิน จงึ ควรรักษากระแสเงินเขา้ ให้ยาวนานตอ่ ไป (3) กลยุทธ์เก็บเกี่ยว (harvest strategy) เป็นกลยุทธ์ท่ีบริษัทนำ�มาใช้โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพ่ิม กระแสเงินเขา้ ในระยะส้นั (short–term cash flow) โดยไม่หว่ งถงึ ผลทจี่ ะเกิดขน้ึ ในระยะยาว เพราะบรษิ ัทตง้ั ใจ จะถอนตวั ออกจากธุรกจิ นนั้ ในอนาคต ดงั นั้นจงึ กำ�หนดโปรแกรมเพือ่ ตดั ทอนค่าใชจ้ ่ายมากทสี่ ุดในทกุ ดา้ น เชน่ ลดค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณา ตัดค่าใช้จ่ายไม่เพ่ิมโรงงานใหม่ทดแทนท่ีสึกหรอ ไม่เพิ่มพนักงานขาย เป็นต้น โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ เกบ็ เกยี่ วผลก�ำ ไรใหม้ ากทสี่ ดุ กลยทุ ธน์ เี้ หมายกบั SBU ทอี่ ยใู่ นต�ำ แหนง่ “โคนมทอ่ี อ่ นแอ” (weak cash cow) ซง่ึ มีอนาคตไม่สดใสนกั กลยุทธน์ ้ีสามารถน�ำ ไปใช้กับธรุ กิจทอ่ี ยใู่ นต�ำ แหนง่ “เด็กมีปัญหา” และ “สุนขั เฝา้ บ้าน” ไดอ้ กี ด้วย 58 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

(4) กลยุทธ์ถอนตวั (divest strategy) เป็นกลยทุ ธท์ ่บี รษิ ัทนำ�มาใช้โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื ขายธรุ กจิ หรอื เพอื่ เปลย่ี นแปลงสภาพใหเ้ ปน็ เงนิ สดเนอื่ งจากมองเหน็ วา่ ทรพั ยากรทนี่ �ำ มาใชใ้ นธรุ กจิ ดงั กลา่ วไดผ้ ลประโยชน์ ไม่คุ้มคา่ จึงควรนำ�ทรัพยากรไปใช้ทางดา้ นอ่นื ทมี่ โี อกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า กลยุทธ์นีเ้ หมาะทจี่ ะนำ�มาใชก้ บั SBU ที่อยใู่ นต�ำ แหนง่ “สนุ ขั เฝา้ บา้ น” และ “เด็กมปี ัญหา” ซงึ่ เปน็ ตัวถว่ งการทำ�กำ�ไรของบรษิ ัท ข้อเสียหรือจดุ ออ่ นของตวั แบบบซี ีจี (BCG limitations) ตัวแบบการวเิ คราะหเ์ ครอื ข่ายธุรกจิ ของ BCG หรอื ทเี่ รยี กกนั โดยท่ัวไปวา่ “Growth Share - Matrix” ในระยะเรมิ่ แรกกไ็ ดร้ บั การยอมรบั อยา่ งกวา้ งขวาง แตใ่ นปจั จบุ นั นกั วจิ ารณห์ ลายทา่ นไดใ้ หท้ ศั นะวา่ ตวั แบบนม้ี ขี อ้ เสยี หรือข้อจ�ำ กดั อยู่หลายประการ พอสรุปไดด้ งั นี้ (1) ตัวแบบนีง้ ่ายจนเกินไป เพราะปัจจยั ทีน่ �ำ มาวดั เพอ่ื ก�ำ หนดฐานะและตำ�แหนง่ ของ SBU แต่ละ ด้านทั้งแกนนอนและแกนตั้ง ใช้ปัจจัยเพียงตัวเดียว กล่าวคือ แกนนอน ซึ่งเป็นการประเมินจุดแข็งหรือความ สามารถของธรุ กจิ ทจี่ ะเผชญิ กบั คแู่ ขง่ ใชส้ ว่ นครองตลาดสมั พนั ธเ์ พยี งอยา่ งเดยี วเปน็ ตวั ประเมนิ สว่ นทางแกนตงั้ ซ่ึงเป็นการวดั ระดบั การจงู ใจให้เกดิ การลงทุนในธุรกจิ ก็ใช้ อตั ราการเจริญเติบโตของตลาดเป็นเครือ่ งวัด แม้วา่ จะเป็นปจั จัยตวั หลักส�ำ คญั ก็ตาม แตก่ ็ยงั นอ้ ยเกนิ ไป น่าจะได้ใช้ปจั จยั อน่ื มาประกอบการพจิ ารณาด้วย (2) การยึดถือฐานคติ (assumption) หรือสมมติฐาน ท่ีว่าธุรกิจซ่ึงมีส่วนครองตลาดสัมพันธ์สูง ยอ่ มท�ำ ก�ำ ไรไดส้ งู เพราะขนาดการผลติ ทม่ี ปี รมิ าณมาก จะท�ำ ใหต้ น้ ทนุ ตอ่ หนว่ ยต�ำ่ ซง่ึ ไมเ่ ปน็ ความจรงิ เสมอไป เพราะ คแู่ ขง่ ทเ่ี ขา้ มาใหมใ่ นตลาดบางตลาด อาจจะซอื้ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั รอตั โนมตั ทิ ดี่ กี วา่ เหนอื บรษิ ทั ผนู้ �ำ ท�ำ ใหส้ ามารถ ผลิตสินคา้ ต้นทุนต่�ำ กว่าท่ีอาจเป็นได้ (3) แนวทางการวางแผนกลยุทธ์ ซ่ึงตัวแบบน้ีเสนอแนะน้ันจะเป็นตัวแบบท่ีเหมาะสมท่ีสุดสำ�หรับ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู (top – level management) ทจี่ ะจดั ทรพั ยากรให้กับหน่วยธรุ กจิ แตก่ ลยทุ ธด์ งั กลา่ วให้แนวทาง การปฏิบตั ิแกผ่ บู้ ริหารระดับหน่วยธรุ กจิ นอ้ ยมาก เชน่ ตัวแบบไม่ได้เสนอแนะแนวทางส�ำ หรับธรุ กิจวา่ จะปฏิบตั ิ อยา่ งไร เพอื่ ให้เจรญิ กา้ วหน้าถงึ ข้ัน “ดวงดาว” เป็นตน้ 2) ตวั แบบของบรษิ ทั เจเนอรัล อิเล็กตริก (General Electric Business Screen Model) จากข้อเสยี หรอื ข้อจ�ำ กัดของตวั แบบการวเิ คราะหเ์ ครอื ข่ายธุรกิจของ SBU ดังกลา่ วมาแลว้ ในตอนต้น บริษทั เจเนอรลั อเิ ล็กตริก (General Electric) หรือ GE จึงไดข้ อรอ้ งใหบ้ ริษัทท่ปี รกึ ษาแมคคินซีย์แอนดค์ ัมปะนี (Mckinsey & Company) มาชว่ ยปรับปรุงวธิ ีวเิ คราะห์เครอื ขา่ ยธุรกิจของบรษิ ทั ใหม่ใหด้ ขี ้นึ ในตอนต้นของชว่ ง ทศวรรษ 1970 และด้วยความร่วมมือของบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว ร่วมกับผู้จัดการของบริษัทเองจึงได้พัฒนา ตวั แบบการวิเคราะห์ใหม่ขึน้ โดยการปรบั ปรงุ จาก Growth Share–Matrix ของ BCG เดมิ โดยใช้ปจั จัยทนี่ ำ�มา ประเมนิ ฐานะหรอื ต�ำ แหนง่ ของ SBU ทงั้ แกนตงั้ และแกนนอนดว้ ยหลายปจั จยั และเรยี กตวั แบบการวเิ คราะหน์ วี้ า่ “GE Business Screen” ตวั แบบทใ่ี ชว้ เิ คราะหห์ นว่ ยธรุ กจิ ตามหลกั การวเิ คราะหท์ เี่ รยี กวา่ “SWOT Analysis”เพอื่ ประเมนิ จดุ แขง็ (strengths) จดุ อ่อน (weakness) โอกาส (opportunities) และอุปสรรค (threats) แตล่ ะ SBU ในเครือขา่ ยธุรกจิ ท้ังหมดของบรษิ ัทเพ่อื พิจารณาก�ำ หนดวา่ SBU ไหนควรจะลงทุนเพมิ่ ขึ้น เพ่ือให้เจริญเตบิ โต (growth) หรือควร จะตดั ทอนการลงทนุ ลง (retrenchment) กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 59

จากภาพท่ี 2.6 ด้านแกนตั้งจะเป็นการพิจารณาระดับของตลาด หรืออุตสาหกรรมที่จูงใจให้เกิดการ ลงทนุ (market or industry attractiveness) ซึ่งจะต้องวิเคราะหป์ ัจจัยตา่ ง ๆ ที่ใหท้ ั้งโอกาสและอปุ สรรค ไดแ้ ก่ ขนาดของตลาด (market size) อตั ราการเจรญิ เตบิ โตของตลาด (market growth rate) ความรนุ แรงของการแขง่ ขนั (competitive intensity) ขอ้ จ�ำ กดั ทางดา้ นกฎหมาย (legal constraints) เปน็ ตน้ ปจั จยั ตา่ ง ๆ เหลา่ นเ้ี ปน็ สงิ่ แวดลอ้ ม ภายนอกของบรษิ ทั ซง่ึ ไมส่ ามารถควบคมุ ได้ ระดบั ของตลาดหรอื อตุ สาหกรรมทจ่ี งู ใจใหเ้ กดิ การลงทนุ นแี้ บง่ ออก เปน็ 3 ระดับ คอื ระดับสูง ระดับกลาง และต�่ำ ส่วนทางด้านแกนนอนจะเป็นการพิจารณาระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจ (business strength) หรือ ขีดความสามารถของธุรกิจท่ีเผชิญกับคู่แข่งในตลาดหรือในอุตสาหกรรมว่าอยู่ในระดับใด มีจุดแข็งจุดอ่อนทาง ด้านไหน ซงึ่ พจิ ารณาไดจ้ ากปจั จยั ต่าง ๆ ภายในธรุ กจิ ซ่ึงสามารถควบคมุ ได้ ได้แก่ ความรู้เกี่ยวกบั อตุ สาหกรรม ตลาดหรือลูกค้า ส่วนครองตลาด ฐานะทางการเงิน คุณภาพของบุคลากรด้านการตลาด ขีดความสามารถ ทางด้านการผลิต ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา และปัจจัยอื่น ๆ ที่แสดงถึงทรัพยากร (resources) ขีดความสามารถ (capabilities) และ การด�ำ เนนิ งานของแตล่ ะ SBU ระดับความแข็งแกร่งของธรุ กิจนีจ้ ะแบ่งออก เปน็ 3 ระดบั คือระดบั สงู ระดบั กลาง และตำ่� เมอ่ื น�ำ ปจั จยั ทง้ั 2 ด้าน มาจดั ในรปู ของแมททรกิ ซ์ ก็จะได้แมททริกซซ์ ึง่ ประกอบด้วย 5 ชอ่ งเรียกว่า “Market Attractiveness Business Strength Matrix” หรือ “General Electric Business Screen” จากพ้ืนที่ ในแมททริกซน์ จี้ ะแบง่ ออกเปน็ 3 กล่มุ คอื กลุ่ม A กลุ่ม B และ กลุม่ C ดังแสดงในภาพท่ี 2.6 และจากการประเมนิ ก�ำ หนดต�ำ แหนง่ SBU ตา่ ง ๆ ของบรษิ ทั ลงในแมททรกิ ซแ์ ลว้ กจ็ ะอธบิ ายความหมายและก�ำ หนดแนวทางกลยทุ ธ์ ไดด้ งั น้ี ภาพท่ี 2.6 แสดง SWOT Analysis และ General Electric Business Screen ทมี่ า : ดัดแปลงจาก (Lush and Lush, 1987 : 73 อา้ งถงึ ใน พบิ ลู ทีปะปาล, 2551 : 124) 60 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

2.1) SBU ทม่ี ีตำ�แหน่งในพน้ื ท่ี กลมุ่ A เปรียบเสมอื นสญั ญาณไฟจราจรทเี่ ปดิ ไฟเขยี ว ซง่ึ หมายถึง SBU อยูใ่ นต�ำ แหนง่ ทดี่ ีท่ีสุด เหมือนกบั ตำ�แหนง่ “ดวงดาว” ของ BCG matrix ที่กลา่ วมาแล้ว ดังน้ันบรษิ ทั จึงควร ท่มุ การลงทุนเพ่ิมขน้ึ เพื่อสนบั สนนุ หน่วยธุรกิจเหลา่ นั้นให้เจรญิ เตบิ โตมากข้นึ (invest of growth) 2.2) SBU ทีม่ ตี ำ�แหน่งในพื้นท่ี กลุ่ม B เปรียบเสมอื นสญั ญาณไฟจราจรที่เปิด ไฟเหลอื ง ซงึ่ หมาย ถงึ สัญญาณเตือนใหร้ ะวงั ต�ำ แหน่งของ SBU บางหนว่ ยเปรยี บเสมอื น “เดก็ มปี ญั หา” หรอื “เครื่องหมายค�ำ ถาม” ดงั นน้ั บรษิ ทั จงึ ควรพจิ ารณาวา่ หนว่ ยธรุ กจิ ไหนท�ำ รายไดด้ กี ค็ วรจะรกั ษาฐานะเดมิ เอาไว้ (maintain position) และ เลือกลงทนุ เพ่ิมขน้ึ เฉพาะบางหน่วยในส่วนตลาดย่อย (market niche) เทา่ น้ัน การลงทนุ ขนาดใหญ่จะต้องชะลอ เอาไว้ เพราะโอกาสยังไมอ่ �ำ นวยให้ 2.3) SBU ท่ีมีตำ�แหน่งในพื้นท่ี กลุ่ม C เปรียบเสมือนสัญญาณไฟจราจรที่เปิด ไฟแดง ซึ่งหมาย ถึงสัญญาณอนั ตราย จึงหา้ มลงทนุ เพมิ่ ตำ�แหน่งของ SBU เทยี บไดก้ ับ “สุนัข เฝา้ บา้ น” ดังน้ันจึงควรลดความ พยายามดา้ นการตลาดใหน้ อ้ ยทสี่ ดุ เกยี่ วกับผลกำ�ไรเฉพาะบางผลติ ภณั ฑข์ องบางหน่วยเท่านั้นหรือควรหาทาง เลกิ หน่วยธุรกจิ นีโ้ ดยด่วนที่สุด ดว้ ยเหตทุ ี่ GE Business Screen เปน็ เครอื่ งมอื ทใี่ ชว้ างแผนกลยทุ ธธ์ รุ กจิ โดยใชส้ ญั ญาณไฟจราจรเปน็ ตวั ก�ำ หนดแนวทางการด�ำ เนนิ งาน ดงั นน้ั บางครงั้ จงึ เรยี กกลยทุ ธน์ ว้ี า่ “กลยทุ ธส์ ญั ญาณไฟจราจรของจอี ”ี หรอื “GE Stoplight Strategy” ดงั แสดงในรปู ท่ี 2.7 และ กลยทุ ธท์ างเลอื กทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ดังแสดง ในภาพท่ี 2.8 (Higgins and Vincze, 1993:266-267 อ้างถึงใน พบิ ูล ทีปะปาล, 2551 : 125) ขัน้ ตอนการก�ำ หนดตำ�แหน่ง SBUs ใน GE Business screen ในตอนตน้ ได้กลา่ วถงึ ความหมายและแนวทางกลยุทธ์ของ SBUs ในต�ำ แหน่งต่าง ๆ ใน GE Business Screen มาแลว้ แตไ่ ม่ไดพ้ ดู ถงึ การประเมินเพอ่ื กำ�หนด SBU ใน GE Matrix มีขนั้ ตอนดงั นี้ 1) เลือก SBUs (หรือสายผลิตภัณฑ)์ ทต่ี อ้ งการประเมิน เพื่อกำ�หนดแตล่ ะ SBU ท่ีสนใจ 2) เลอื กปจั จยั ท่ใี ชใ้ นการวดั ระดบั การจงู ใจของอุตสาหกรรม (industry attractiveness) ทมี่ ีผลตอ่ ความส�ำ เร็จของ SBU ต่างๆ ซึง่ อาจแตกต่างกันไปในแตล่ ะ SBU พร้อมก�ำ หนดนำ้�หนกั ความสำ�คัญของปัจจยั แตล่ ะตวั จากสเกล 1 (จูงใจนอ้ ยท่ีสดุ ) ถงึ 5 (จูงใจมากท่ีสดุ ) ภาพท่ี 2.7 กลยุทธ์ไฟจราจรของจีอี (GE Stoplight Strategy) 61 กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน

ภาพท่ี 2.8 กลยุทธท์ างเลือกท่ีสัมพันธก์ ัน (Alternative Relative Strategy) 3) เลอื กปจั จยั ทใ่ี ชว้ ดั ระดบั ความแขง็ แกรง่ ของธรุ กจิ (business strength) หรอื ฐานะทางการแขง่ ขนั (competitive position) ทจี่ �ำ เปน็ ต่อความส�ำ เร็จของ SBU ตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจแตกต่างกนั ไปในแต่ละ SBU พร้อม ก�ำ หนดนำ้�หนักความสำ�คัญของปจั จยั แตล่ ะตัวเลขจากสเกล 1 (ส�ำ คัญน้อยมาก) ถงึ 5 (สำ�คญั มากทสี่ ุด) 4) ใหค้ ะแนน โดยพจิ ารณาดูวา่ SBU ที่ประเมนิ ควรอยใู่ นระดับใด 5) หาคุณค่า (value) โดยนำ�ค่านำ�้ หนักคูณกับคะแนนจดั ระดบั ใน แต่ละปัจจัย 6) หาคา่ ผลรวมของคุณคา่ ท้งั 2 กลุม่ 7) น�ำ ผลรวมของคณุ คา่ มา plot เพือ่ หาตำ�แหน่ง SBU โดยใชก้ ารจงู ใจของอุตสาหกรรมเปน็ แกนตงั้ และความแข็งแกร่งของธุรกิจหรอื ฐานะทางการแข่งขนั เป็นแกนนอน 8) น�ำ SBU ตวั อ่ืน ๆ ทต่ี อ้ งการประเมินเพอื่ ก�ำ หนดต�ำ แหนง่ มาทำ�แบบเดยี วกนั 9) SBU ตา่ ง ๆ ที่ประเมินก็จะปรากฏอย่ใู น GE Business Screen หรอื Industry Attractiveness– Business Strength Matrix ซงึ่ มี 9 ช่อง พรอ้ มกลยทุ ธ์เสนอแนะ แตล่ ะชอ่ งดังกล่าวมาแล้วในตอนตน้ เพอื่ ความเข้าใจขอยกตวั อยา่ งการประเมิน SBU ธรุ กจิ เครอ่ื งปั้มของบรษิ ทั GE ดงั น้ี 62 แนวโนม้ อาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

การจูงใจของอตุ สาหกรรม (Industry attractiveness) ปัจจัยภายนอกท่สี ำ�คัญ น้ำ� หนกั คะแนนประเมนิ คุณค่า (Key External Strategic Factors) (Weight) (Rating) (Value) ขนาดของตลาดโดยรวม 0.20 4 0.80 อัตราการเตบิ โตของตลาด 0.20 5 1.00 กำ�ไรในอดตี 0.15 4 0.60 ความรุนแรงของการแข่งขนั 0.15 2 0.30 ความต้องการดา้ นเทคโนโลยี 0.15 4 0.60 ความเสยี่ งต่อภาวะเงินเฟ้อ 0.05 3 0.15 ความต้องการด้านพลังงาน 0.05 2 0.10 ผลกระทบจากสภาพแวดล้อม 0.05 3 0.15 1.00 3.70 คะแนนรวม ความแข็งแกรง่ ของธุรกิจ/ฐานะทางการแขง่ ขัน (business strength/competitive position) ปจั จยั ภายนอกท่สี ำ�คญั น้ำ� หนัก คะแนนประเมนิ คณุ คา่ (Key External Strategic Factors) (Weight) (Rating) (Value) ส่วนครองตลาด 0.10 4 0.40 การเติบโตของสว่ นครองตลาด 0.15 2 0.30 คุณภาพผลติ ภัณฑ์ 0.10 4 0.40 ชอื่ เสยี งของตราสนิ คา้ 0.10 5 0.50 เครอื ขา่ ยการจัดจ�ำ หน่าย 0.05 4 0.20 ประสิทธผิ ลการสง่ เสรมิ การตลาด 0.05 3 0.15 สมรรถภาพด้านการผลติ 0.05 3 0.15 ประสทิ ธิภาพด้านการผลิต 0.05 2 0.10 ต้นทุนตอ่ หนว่ ย 0.15 3 0.45 การจัดหาวัสดุ 0.05 5 0.25 การดำ�เนินดา้ น R&D 0.10 3 0.30 การจดั การงานบคุ คล 0.05 4 0.20 1.00 3.40 คะแนนรวม หมายเหตุ : ผลรวมของน�้ำ หนกั ทง้ั หมดทใ่ี หแ้ ตล่ ะปจั จยั แตล่ ะกลมุ่ จะเทา่ กบั 1.00 เสมอ ไมว่ า่ จะมกี ป่ี จั จยั กต็ าม ส�ำ หรบั GE Business Screen ทแ่ี สดงในรปู ของแมททรกิ ซ์ 9 ชอ่ ง นอกจากแสดงในรปู ขา้ งตน้ ยังมี ผ้จู ดั แสดงในรปู อื่น ๆ จึงขอน�ำ มาแสดงเพิ่มเตมิ เพอ่ื การศกึ ษาดังน้ี กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 63

แม้ว่า GE Business Screen ได้พัฒนาข้ึนเพ่ือแก้ไขข้อบกพร่องของ BCG Growth Share Matrix ให้ดขี ึ้น เขา้ ใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในประเด็นท่ไี ด้ใช้ตวั แปรหลายตวั มาใชเ้ ปน็ เกณฑ์ในการประเมิน ทงั้ ในแกนตงั้ และแกนนอน ในหลาย ๆ ดา้ น แทนทจ่ี ะใชป้ จั จยั ตวั เดยี วทงั้ สองแกนซง่ึ ดเู หมอื นจะงา่ ยจนเกนิ ไป ดงั ท่ี กล่าวมาแล้วในตอนต้น แต่อย่างไรก็ตาม แมททริกซ์ เครือข่ายธุรกิจในแบบที่ 2 นี้ ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่ หลายประการเชน่ เดียวกัน ซง่ึ พอสรปุ ไดด้ ังน้ี คือ (Wheelen and Hunger, 2002 : 154 อ้างถงึ ใน พบิ ูล ทปี ะปาล, 2551 : 129) ภาพท่ี 2.9 The Industry Attraciveness – Business Strength Matrix 1) การจัดท�ำ ค่อนขา้ งจะซับซอ้ นและยงุ่ ยาก 2) การหาค่าประเมนิ เก่ียวกบั การจูงใจของอุตสาหกรรมและฐานะการแข่งขันของบริษทั ออกมาเปน็ ตวั เลข มีลกั ษณะเปน็ ขอ้ เทจ็ จรงิ ไมเ่ อนเอียง (objectivity) แต่ในความเป็นจริง ค่าประเมินเหลา่ นน้ั เกิดจากการ พจิ ารณาตัดสนิ ใจของบุคคล โดยอาศยั ความรู้สึก นกึ คิดของตัวเองไมแ่ น่นอน (Subjective Judgments) ซง่ึ อาจ แตกตา่ งกันไปในแตล่ ะคน 3) ไมส่ ามารถก�ำ หนดต�ำ แหนง่ ผลติ ภณั ฑใ์ หม่ หรอื SUBs ในอตุ สาหกรรมทกี่ �ำ ลงั พฒั นา (developing industries) ได้อยา่ งได้ผลดี 3) ตวั แบบวงจรชวี ติ ตลาดและความแขง็ แกรง่ ทางแขง่ ขนั (Market Life Cycle Competitive Strength Model) เคร่ืองมอื วเิ คราะหเ์ ครือขา่ ยธุรกจิ แบบที่ 3 น้ี ได้พัฒนาขน้ึ ใหมเ่ พ่ือแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งของ 2 ตัวแบบท่ีกลา่ ว มาแล้วขา้ งต้น โดยนักวิจารณก์ ล่าวว่า วธิ กี ารของทั้ง 2 ตวั แบบดังกลา่ ว มขี อ้ บกพรอ่ งในเรอ่ื งของการกำ�หนด ต�ำ แหนง่ SBU ตา่ ง ๆ ที่ปรากฏบนแมททริกซ์ มีลักษณะอยกู่ บั ท่ี (static quality) ณ เวลาใดเวลาหนง่ึ เทา่ น้นั แทนทจ่ี ะก�ำ หนดใหม้ ลี กั ษณะเคลอื่ นไหวเปลย่ี นไปตามกาลเวลา ดงั นน้ั เพอ่ื แกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งดงั กลา่ ว ต�ำ แหนง่ ของ SUB ต่าง ๆ ควรจะก�ำ หนดว่า “กำ�ลงั พัฒนาไปส่ผู ชู้ นะ” (developing winners) หรือ “ผแู้ พใ้ นอนาคต”(potential losers) จะดกี ว่า (Pearce and Robinson, 2000 : 339 อา้ งถงึ ใน พิบูล ทปี ะปาล, 2551 : 130) 64 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ภาพท่ี 2.10 General Electric’s Business Screen เคร่อื งมือวิเคราะหเ์ ครอื ขา่ ยแบบใหม่น้ี ไดจ้ ัดท�ำ ข้นึ ในรูปของแมททรกิ ซ์ ประกอบดว้ ย 2 มติ ิ (dimensions) มิติด้านหน่ึงใช้ ความแขง็ แกร่งหรือความสามารถทางการแข่งขนั ของบรษิ ทั เป็นหลัก (competitive strength) สว่ น มติ อิ ีกดา้ นหนึ่งใชข้ ัน้ ตอนของวงจรชวี ิตตลาด (stage of market life cycle) เป็นหลัก ซึง่ ทางดา้ นแรกจะใชห้ ลาย ปจั จยั เปน็ เกณฑก์ ารประเมนิ และพรอ้ มกนั นใี้ นแมททรกิ ซย์ งั แสดงใหเ้ หน็ การเคลอ่ื นยา้ ยของกลยทุ ธท์ งั้ ในปจั จบุ นั และกลยทุ ธ์ทจี่ ะน�ำ มาใชใ้ นอนาคต ดงั แสดงในภาพท่ี 2.11 ภาพที่ 2.11 แมททรกิ ซ์วงจรชวี ิตตลาด – ความแขง็ แกรง่ ทางการแขง่ ขนั กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 65

จากรปู จะแสดงใหเ้ หน็ กระแสเงนิ สดทจ่ี �ำ เปน็ ตอ้ งใชเ้ พอื่ การลงทนุ ใน SBUs ในต�ำ แหนง่ พน้ื ทต่ี า่ ง ๆ ซง่ึ สอดคลอ้ ง สัมพันธ์ระหว่างระดับความแข็งแกร่งหรือความสามารถของบริษัทกับข้ันตอนของวงจรชีวิตตลาด ซึ่งแต่ละ ขั้นตอนซ่ึงมีความแตกต่างกัน SBU ที่อยู่ในพื้นท่ีส่วนบนส่วนน้ีเป็นส่วนดีที่สุด จึงควรทุ่มเงินลงทุนเต็มท่ี เพื่อพัฒนา SBUs ไปสู่ผู้ชนะ (winners) พื้นท่ีส่วนกลางควรจะรีรอไว้ก่อนควรเลือกลงทุนบ้างเฉพาะส่วนที่ พอจะทำ�กำ�ไรเท่านั้น ส่วนพ้ืนท่ีส่วนล่างสุดเป็นเขตอันตราย ควรงดการลงทุนเพ่ิมข้ึน ควรจะหาทางเก็บเก่ียว ผลก�ำ ไรเฉพาะ SBU บางหนว่ ยทล่ี กู คา้ ยงั ภกั ดอี ยู่ และควรหาทางถอนตวั โดยเรว็ เพราะ SBU ในสว่ นนมี้ แี นวโนม้ ลดลงนำ�ไปสคู่ วามเปน็ ผแู้ พ้ (losers) ในอนาคต อยา่ งไรก็ตามแมว้ ่าแมททริกซแ์ บบใหม่น้ีดเู หมือนจะมีประโยชน์ มากขนึ้ แตพ่ จิ ารณาในแงข่ องขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ เพอ่ื ก�ำ หนดกลยทุ ธห์ รอื การจดั สรรทรพั ยากรไปใหม่ มลี กั ษณะ คล้ายกบั แมททริกซ์ทัง้ 2 แบบที่กลา่ วไว้ในตอนต้น งานวิจยั ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง วัชรี ทรัพย์มี (2540) ได้ศึกษาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพอิสระของเยาวชน พบว่าหน่วยงานทางการ ศกึ ษาในและนอกระบบ สายสามญั และสายอาชีพ และหนว่ ยงานทีไ่ มใ่ ชห่ น่วยงานทางการศึกษา รวมทั้งเอกชน มโี ครงการและกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ การประกอบอาชพี อสิ ระของเยาวชน ซงึ่ ขอ้ มลู ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การประกอบอาชพี อสิ ระของเยาวชนยังไม่สมบูรณ์และพรอ้ มทจ่ี ะใช้เพอ่ื การส่งเสรมิ หรอื การศึกษาวจิ ัย สถานประกอบการอาชพี อสิ ระของเยาวชนทใ่ี หส้ มั ภาษณ์ ประมาณครง่ึ หนงึ่ ประกอบอาชพี อสิ ระมากกวา่ 1 อาชพี โดยไมเ่ ป็นอาชีพหลกั อาชีพรองชัดเจน ลักษณะอาชีพมคี รบท้งั 3 ประเภท คือ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ปญั หาการประกอบอาชีพอสิ ระของเยาวชน ในช้ันวางรากฐานเพอ่ื การประกอบอาชีพ พบว่า การเรยี นการสอนในสถานศึกษาไมเ่ ออ้ื ต่อการประกอบอาชีพอสิ ระ ในชน้ั เรยี น ไดแ้ ก่ เยาวชนขาดความรู้ ความช�ำ นาญเกยี่ วกบั อาชพี การจดั การและการตลาด ไมท่ ราบแหลง่ ทนุ ลกู คา้ ไมเ่ ชอื่ ถอื การสง่ เสรมิ จากหนว่ ยงาน ตา่ ง ๆ ยงั ไมท่ วั่ ถงึ และไมต่ อ่ เนอ่ื ง ปญั หาปจั จบุ นั ซงึ่ เปน็ ปญั หาในขน้ั การด�ำ รงอาชพี และขยายงาน ไดแ้ ก่ ขาดเงนิ ทนุ หมุนเวยี นปรบั ปรุงหรือขยายงาน ถูกกดราคา ไมม่ โี อกาสเพ่ิมพูนความรู้ ความชว่ ยเหลือท่ตี อ้ งการ ได้แก่ เงนิ ทนุ ความชว่ ยเหลอื ทางวชิ าการเกยี่ วกบั อาชพี และการจดั การ การมศี นู ยข์ อ้ มลู เพอื่ ใหค้ �ำ แนะน�ำ ดา้ นอาชพี ความชว่ ยเหลอื ด้านการตลาด การเยี่ยมเยือนเพ่ือแก้ไขปัญหาและพัฒนา ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการประกอบอาชีพอิสระของ เยาวชน ไดแ้ ก่ ความพร้อมส่วนบุคคล ครอบครัว สถานศึกษา และสภาพแวดลอ้ ม ท้งั 4 กลมุ่ น้ีสง่ ผลต่อความ ส�ำ เร็จในการประกอบอาชพี โดยความพร้อมส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ ลักษณะนิสัย บคุ ลิกภาพ ทศั นะคติ ความรู้ และ ความสามารถ ซ่งึ จะเป็นฐานในการพัฒนา ความพร้อมด้านครอบครวั ทส่ี ำ�คญั ได้แก่ ความสามารถในการอบรม เลยี้ งดู อาชพี เดมิ และการสนบั สนนุ ดา้ นทนุ แรงงาน สถานทป่ี ระกอบการและค�ำ แนะน�ำ การสนบั สนนุ จากสถาน ศกึ ษา ไดแ้ กก่ ารเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นไดร้ จู้ กั ตนเอง การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ และการสนบั สนนุ จากสภาพแวดลอ้ มทสี่ �ำ คญั ไดแ้ ก่ นโยบายการให้ก้ยู ืมเงนิ โดยไม่ใชห้ ลักทรพั ย์ค�้ำ ประกัน การรวมกลุ่มเยาวชน การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในการ ประกอบอาชีพอิสระของเยาวชนอย่างครบวงจร แนวโน้มและความต้องการประกอบอาชีพอิสระของเยาวชน ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบอาชีพอิสระและการสอบถามนักเรียนนักศึกษา ได้ข้อมูลตรงกันว่า เยาวชน สว่ นใหญ่ไม่ตอ้ งการประกอบอาชีพอสิ ระ และไมม่ เี งนิ ทนุ ในกรณีถา้ จะประกอบอาชพี อสิ ระ นกั เรียนนักศกึ ษา ต้องการความชว่ ยเหลอื ด้านขอ้ มูลเก่ียวกบั อาชพี เงินทุนการฝกึ อาชพี และการฝึกงาน 66 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

กลั ปพ์ ฤกษ์ พลศร และจารพุ รรณ มยี ้มิ (2554) ไดศ้ ึกษาเก่ยี วกบั ลกั ษณะความต้องการด้านการฝกึ อบรม อาชพี ระยะสน้ั ของเยาวชนใน 4 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พบวา่ 1) ลกั ษณะความตอ้ งการฝกึ อบรม แหลง่ รบั รขู้ า่ วสาร ฝึกอบรมของเยาวชนจากหนงั สอื พมิ พ์ โทรทัศน์ และวทิ ยตุ ามล�ำ ดบั ส่วนใหญ่ไม่เคยเขา้ รบั การฝกึ อบรมอาชพี ระยะสนั้ มากอ่ น ตอ้ งการฝกึ อบรมอาชพี ระยะสน้ั ระยะเวลา 1-7 วนั ในชว่ งเดอื นเมษายน มนี าคม และกมุ ภาพนั ธ์ ตามลำ�ดบั ช่วงวันทเ่ี หมาะสมในการเขา้ รับอบรม คือวันเสาร–์ อาทิตย์ช่วงเช้าระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และ ผู้จัดควรมอบวุฒิบัตรหลังการฝึกอบรม การฝึกอบรมควรเน้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ กิจกรรมอบรมควรมี การดูงานนอกสถานที่ด้วย รูปแบบการจัดหลักสูตรอบรมควรแบ่งเป็นวิชา เยาวชนมีความคาดหวังในอนาคต หลงั การอบรม ตอ้ งการน�ำ ไปใชใ้ นการประกอบอาชพี เสรมิ และตอ้ งการจะเรยี นเพมิ่ เตมิ สว่ นใหญเ่ ยาวชนมคี วามเหน็ วา่ การฝกึ อบรมอาชพี ระยะสนั้ เปน็ สง่ิ จ�ำ เปน็ มากและมากทส่ี ดุ 2) เปรยี บเทยี บลกั ษณะความตอ้ งการดา้ นการอบรม อาชพี ระยะสนั้ ของเยาวชนใน 4 จงั หวดั ชายแดนภาคใตจ้ �ำ แนกตามประเภทโรงเรยี น ดา้ นชอ่ งทางการรบั ขา่ วสาร ด้านการฝึกอบรม พบว่าทุกประเภทโรงเรียนได้รับข่าวสารฝึกอบรมจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ ตามลำ�ดับ ส่วนใหญ่ไม่มีประสบการณ์เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพมาก่อน สำ�หรับด้านเดือนวันและช่วงเวลา ที่เหมาะสมสำ�หรับการฝึกอบรมพบว่า ทุกประเภทโรงเรียนเยาวชนส่วนใหญ่มีความต้องการด้านวันเวลาและ ช่วงเวลาท่ีเหมาะสมสำ�หรับการฝึกอบรมที่มลี ักษณะใกลเ้ คียงกัน 3) ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อความตอ้ งการด้านฝกึ อบรม ดา้ นแรงจงู ใจสว่ นบคุ คล ดา้ นการไดร้ บั ค�ำ แนะน�ำ ดา้ นความคาดหวงั หลงั ฝกึ อบรม ทกุ ปจั จยั มผี ลตอ่ ความตอ้ งการ ฝกึ อบรมอาชพี ในระดบั มากทกุ ดา้ น 4) ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความตอ้ งการดา้ นการฝกึ อบรมอาชพี ระยะสนั้ ของเยาวชน ใน 4 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ พบวา่ ตวั แปรประเภทโรงเรยี นมผี ลตอ่ ปจั จยั ดา้ นแรงจงู ใจสว่ นบคุ คลและความคาดหวงั หลงั ฝกึ บรมอยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั 0.05 เยาวชนสว่ นใหญม่ รี ปู แบบความตอ้ งการดา้ นการอบรมอาชพี ระยะสั้นทุกสาขาวิชาชีพอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายสาขาวิชา มีความต้องการสาขาวิชาการผลิตและ จ�ำ หนา่ ยสินคา้ บริโภครปู แบบอน่ื ๆ การแปรรูปเกษตร ตามลำ�ดบั ทศั นา หงษม์ า (2555) ไดศ้ กึ ษาเกยี่ วกบั ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดทมี่ ผี ลตอ่ การเลอื กซอื้ สนิ คา้ OTOP ที่ผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรี พบว่า ผู้บริโภคท่ีซ้ือ/เคยซ้ือสินค้า OTOP ที่ผลิตโดย กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนเกาะเกรด็ จังหวัดนนทบรุ ี ส่วนใหญ่เปน็ เพศหญิง มีอายุระหวา่ ง 21–30 ปี มกี ารศกึ ษาระดับ ปรญิ ญาตรีเป็นส่วนมากรวมท้งั เปน็ นกั เรียน/นักศกึ ษา และมรี ายได้เฉล่ียตอ่ เดือน 10,000 บาทหรือต่ำ�กวา่ พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า OTOP พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้า OTOP ประเภทอาหาร มวี ตั ถุประสงคส์ �ำ คัญทีส่ ดุ ในการซอ้ื เพื่อเปน็ ของฝาก/ของทีร่ ะลกึ ซงึ่ ตนเองมอี ิทธิพลมากท่สี ุด ช่วงเวลาเลอื กซ้อื เป็นวนั เสาร์–วนั อาทิตย์และซื้อทันทีเม่อื เห็นสนิ คา้ ระดับความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซ้ือสินค้า OTOP โดยรวมอยูใ่ นระดับมาก ซึ่งหากพิจารณาระดบั ความสำ�คัญของปจั จยั ทางการตลาดท่ีมผี ลต่อพฤตกิ รรม การเลอื กซ้อื สินค้า OTOP ในแต่ละด้านสามารถเรยี งล�ำ ดับจากมากไปหาน้อยได้ ดงั น้ี ด้านการสง่ เสรมิ การตลาด ด้านผลิตภณั ฑ์ ด้านราคา และดา้ นการจดั จำ�หน่าย กองวิจยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 67

จากการทดสอบสมมตฐิ านพบวา่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลย่ี ต่อเดือนของผบู้ รโิ ภค มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมดา้ นประเภทของสนิ คา้ OTOP ในการเลอื กซอื้ สนิ คา้ OTOP ทผ่ี ลติ โดยกลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนเกาะเกร็ดจังหวัดนนทบุรีที่ระดับนัยสำ�คัญที่ 0.05 สำ�หรับอายุ ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้เฉลี่ย ตอ่ เดือนของผู้บริโภคมีความสมั พันธก์ บั พฤติกรรมดา้ นวตั ถุประสงค์ในการเลอื กซื้อสินคา้ OTOP ทผ่ี ลิตโดยกลมุ่ วสิ าหกจิ ชุมชนเกาะเกรด็ จังหวดั นนทบรุ ีทรี่ ะดับนัยส�ำ คัญที่ 0.05 ยกเว้น เพศของผูบ้ ริโภคและเพศ อายุ อาชีพ และรายได้เฉล่ียต่อเดือนของผู้บริโภคมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมด้านลักษณะในการเลือกซื้อสินค้า OTOP ทผ่ี ลติ โดยกลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนเกาะเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ที ร่ี ะดบั นยั ส�ำ คญั ที่ 0.05 ยกเวน้ ระดบั การศกึ ษาของผบู้ รโิ ภค ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจำ�หน่ายมีผลต่อพฤติกรรมด้านประเภท ของสินคา้ OTOP ในการเลือกซ้อื สินค้า OTOP ทผี่ ลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชมุ ชนเกาะเกร็ดจังหวดั นนทบรุ ที ี่ระดับ นัยสำ�คัญท่ี 0.05 ยกเว้น ด้านการส่งเสริมการตลาด สำ�หรับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ดา้ นการ จดั จ�ำ หนา่ ย และดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาดมผี ลตอ่ พฤตกิ รรมดา้ นวตั ถปุ ระสงคใ์ นการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ OTOP ทผ่ี ลติ โดยกลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนเกาะเกรด็ จงั หวดั นนทบรุ ที ี่ระดับนยั ส�ำ คญั ที่ 0.05 ยกเวน้ ดา้ นราคาและปัจจัยสว่ น ประสมทางการตลาด ดา้ นผลิตภณั ฑ์ ด้านราคา และดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาดไม่มีผลต่อพฤตกิ รรมดา้ นลกั ษณะ ในการเลอื กซอ้ื สนิ คา้ OTOP ทผ่ี ลติ โดยกลุ่มวิสาหกจิ ชมุ ชนเกาะเกรด็ จังหวดั นนทบุรที ร่ี ะดบั นัยส�ำ คัญท่ี 0.05 ไพรชั ล�ำ ยอง (2545) ไดศ้ กึ ษาเกีย่ วกับความสัมฤทธิ์ผลของการแนะแนวอาชพี อสิ ระ ผลการศกึ ษาพบว่า กลุ่มผู้ใช้บริการแนะแนวอาชีพอิสระเห็นว่า เจ้าหน้าท่ีผู้ให้บริการมีความรู้ความสามารถในด้านการแนะแนว ในระดบั พอใช้ สถานทใ่ี หบ้ ริการและสอื่ ทใ่ี ช้ประกอบการแนะแนวอาชีพอสิ ระอยูใ่ นระดบั พอใช้ เนื้อหาหลกั สตู ร ของอาชีพอยู่ในระดับดี ปัจจัยด้านการศึกษา รายได้ สถานภาพการทำ�งาน กระบวนการแนะแนวอาชีพด้าน เจา้ หนา้ ทแี่ ละดา้ นสถานท่ี มผี ลตอ่ การประกอบอาชพี อสิ ระของผใู้ ชบ้ รกิ ารอยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั 0.05 สว่ นปจั จยั ดา้ นอายุและสถานภาพการสมรส มีผลตอ่ การประกอบอาชพี อสิ ระของผู้ใชบ้ ริการอย่างมนี ยั ส�ำ คญั ท่ี ระดับ 0.01 รปู แบบการให้บรกิ ารทต่ี อ้ งการคอื ให้เจ้าหน้าที่ออกไปให้บรกิ ารในหมู่บ้าน ตำ�บล หรือชมุ ชน และ สาธิตการประกอบอาชีพประกอบการบรรยาย ในด้านการนำ�ความรู้ท่ีได้รับไปใช้ประโยชน์และนำ�ไปประกอบ อาชีพนั้น ผู้ใช้บริการเห็นว่าได้ประโยชน์มากร้อยละ 87.1 ใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพและเผยแพร่ ใหแ้ กบ่ ุคคลอ่ืนร้อยละ 67.5 นำ�ไปประกอบอาชีพอิสระรอ้ ยละ 24.5 ในกลมุ่ เจ้าหน้าที่ผปู้ ฏบิ ัติงานนนั้ เจ้าหน้าท่ี ผู้ปฏิบัติงานเห็นว่าอัตรากำ�ลังไม่เพียงพอ ไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านน้ีโดยตรง เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้ ความสามารถในการแนะแนวอาชีพอิสระเพียงพอ สถานที่ในการให้บริการไม่เหมาะสม วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ไมเ่ พยี งพอ ผใู้ ชบ้ รกิ ารสว่ นใหญป่ ระสงคท์ จี่ ะท�ำ งานในสถานประกอบการมากกวา่ ทจี่ ะประกอบอาชพี อสิ ระจงึ ไมใ่ ห้ ความสนใจตอ่ การแนะแนวอาชพี อสิ ระเทา่ ทคี่ วร ผใู้ ชบ้ รกิ ารบางสว่ นสนใจทจี่ ะประกอบอาชพี อสิ ระแตไ่ มม่ เี งนิ ทนุ วชริ โอภิธากร (2441) ได้ศึกษาเก่ียวกับปจั จัยทมี่ ีอิทธพิ ลต่อความตัง้ ใจในการเลอื กประกอบอาชพี อสิ ระ และการรบั รถู้ งึ ประสทิ ธภิ าพแหง่ ตนตอ่ การประกอบอาชพี อสิ ระของนกั เรยี นระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) เปน็ การวจิ ัยเชิงส�ำ รวจ มจี ดุ ม่งุ หมายเพอ่ื ศกึ ษาอทิ ธิพลของสภาพแวดลอ้ มในครอบครวั สภาพแวดลอ้ มในสถาน ศกึ ษา แรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธิ์ ทศั นคตทิ ดี่ ตี อ่ การประกอบอาชพี อสิ ระ และการรบั รปู้ ทสั ถานทางสงั คมตอ่ การประกอบ อาชีพอสิ ระตอ่ ความตงั้ ใจในการเลอื กประกอบอาชีพอสิ ระ และการรบั รู้ถงึ ประสิทธภิ าพแหง่ ตนตอ่ การประกอบ อาชพี อิสระของนกั เรยี นหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี (ปวช.) ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2538 ในสถานศึกษา สงั กัดกรมอาชีวศึกษา ประเภทวชิ าช่างอตุ สาหกรรม พบว่า 68 แนวโนม้ อาชพี อสิ ระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

1. ปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ลโดยตรงตอ่ ความตง้ั ใจในการเลอื กประกอบอาชพี อสิ ระของนกั เรยี นระดบั ปวช. ไดแ้ ก่ การรับรู้ปทัสถานทางสังคมต่อการประกอบอาชีพอิสระ (β = 0.334) ทัศนคติท่ีดีต่อการประกอบอาชีพอิสระ (β = 0.178) และการรบั รถู้ งึ ประสทิ ธภิ าพแหง่ ตนตอ่ การประกอบอาชพี อสิ ระ (β = 0.133) และแรงจงู ใจใฝส่ มั ฤทธิ์ (β = 0.120) 2. ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลโดยตรงต่อการรับรู้ถึงประสิทธิภาพแห่งตนต่อการประกอบอาชีพอิสระของนักเรียน ระดับ ปวช. ได้แก่ การรับรู้ปทัสถานทางสังคมต่อการประกอบอาชีพอิสระ (β = 0.131) ทัศนคติที่ดีต่อการ ประกอบอาชพี อิสระ (β = 0.066) สภาพแวดลอ้ มในสถานศกึ ษา (β = 0.061) และสภาพแวดลอ้ มในครอบครัว (β = 0.042) 3. ปัจจยั ทม่ี อี ทิ ธิพลตอ่ การประกอบอาชีพอิสระของบุคคล ไดแ้ ก่ ความตงั้ ใจในการเลือกประกอบอาชีพ อสิ ระ การรบั รถู้ งึ ประสทิ ธภิ าพแหง่ ตนตอ่ การประกอบอาชพี อสิ ระ การสนบั สนนุ จากครอบครวั และการสนบั สนนุ จากเจ้าของสถานประกอบการทบี่ ุคคลนั้นเคยเป็นลกู จา้ งมากอ่ น กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 69

บทท่ี 3 วธิ ีดำ�เนินการวจิ ัย ในการศึกษาวจิ ยั เร่ือง แนวโนม้ อาชพี อิสระในอนาคต 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) เป็นการ วจิ ยั เชงิ ส�ำ รวจ (Survey Research) แบบผสมวิธี (Mixed Method Research) ประกอบด้วยการเก็บรวบรวมขอ้ มลู เชงิ ปริมาณและขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพพร้อม ๆ กัน โดยด�ำ เนนิ การตามระเบียบวิธีวิจยั ประกอบด้วย การก�ำ หนด ประชากรตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา วธิ กี ารสมุ่ ตวั อยา่ ง การสรา้ ง และทดสอบเครอื่ งมอื ในการวจิ ยั การเกบ็ รวบรวม ขอ้ มูล และสถิติทใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดังต่อไปนี้ 3.1 ประชากรและตวั อยา่ ง 3.1.1 ประชากร ประชากรทใี่ ชใ้ นการวจิ ยั ครงั้ นี้ คอื ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระทไ่ี ดร้ บั การรบั รองคณุ ภาพผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน ทั่วประเทศ จากสำ�นักบริหารมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน สำ�นักงานบริหารมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม (http://tcps.tisi.go.th/public สบื ค้นเมื่อวันท่ี 5 มีนาคม 2557) มจี ำ�นวน 11,011 คน 3.1.2 ตัวอยา่ งส�ำ หรับการเก็บรวบรวมข้อมลู เชิงปริมาณ ตัวอย่างท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ คือ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ตกเป็นตัวอย่าง โดยการค�ำ นวณขนาดตวั อยา่ งจากสูตรต่อไปนี้ 70 แนวโน้มอาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

โดยที่ n คอื ขนาดของตัวอยา่ งทีค่ วรส่มุ จากทม่ี ีอยู่ทงั้ หมด N หนว่ ย N = ขนาดประชากร k = คา่ จากตาราง z ท่รี ะดับความเชอ่ื มั่น ในการวิจยั ครัง้ น้ใี ช้ระดบั ความเช่อื มน่ั 95% k = 1.96 V = CV = คา่ สมั ประสทิ ธิค์ วามผันแปร ในการวจิ ยั ครั้งนีใ้ ช้สัมประสทิ ธ์คิ วามผันแปรเท่ากับ 1 E’ = % ความคลาดเคล่ือนทยี่ อมรบั ได้ ในการวจิ ยั ครง้ั น้ีใช้ความคลาดเคลือ่ น ร้อยละ 6 ตารางท่ี 3.1 ขนาดตวั อยา่ งผปู้ ระกอบอาชีพอสิ ระ ผู้ประกอบอาชีพอสิ ระ ขนาดประชากร ขนาดตวั อยา่ ง* ผลการเกบ็ (คน) (คน) ข้อมูล (คน) ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับการรับรองคุณภาพ ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชนทวั่ ประเทศ 11,011 1,349 1,633 หมายเหตุ : * ขนาดตวั อย่างทีช่ ว่ งความเช่อื มั่น 95% ความคลาดเคลอื่ น 6% 3.1.3 ตัวอย่างส�ำ หรับการเกบ็ รวบรวมข้อมูลเชงิ คณุ ภาพ ตัวอยา่ งทีใ่ ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมลู เชงิ คณุ ภาพประกอบดว้ ย 2 กลมุ่ ดังน้ี 1) เจ้าหน้าที่สินเช่ือธนาคาร ใช้วิธีการกำ�หนดขนาดตัวอย่างแบบโควตา ภูมิภาคละ 100 คน (ภาคเหนอื ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ภาคกลาง และภาคใต)้ รวมจำ�นวน 400 คน 2) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีส่วนเก่ียวข้องเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในการประชุมกลุ่ม (Focus Group) ใช้วิธีการกำ�หนดขนาดตัวอย่างแบบโควตา ภูมิภาคละ 10 คน รวมจำ�นวน 40 คน ประกอบด้วย รองอธบิ ดีกรมการจัดหางาน ผอู้ �ำ นวยการกองสง่ เสริมการมีงานทำ� ผู้เชย่ี วชาญเฉพาะดา้ นส่งเสริมการมงี านทำ� อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ เกษตรจงั หวัด ปศสุ ัตว์จงั หวดั พาณชิ ย์จงั หวัด พัฒนาการจงั หวดั หอการคา้ จงั หวัด ประธานสภาอตุ สาหกรรมจงั หวดั เจา้ หนา้ ทสี่ นิ เชอ่ื ธนาคาร สมาคมธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี วจงั หวดั และตวั แทนผปู้ ระกอบ อาชีพอิสระ 3.2 วธิ ีการสุ่มตวั อยา่ ง 3.2.1 วธิ กี ารสุ่มตัวอยา่ งสำ�หรับการเกบ็ รวบรวมข้อมลู เชงิ ปริมาณ การสมุ่ ตวั อยา่ งส�ำ หรบั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณใชแ้ ผนการสมุ่ ตวั อยา่ งแบบแบง่ กลมุ่ (Cluster Sampling) และทำ�การเลือกตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling : SRS) 3.2.2 วธิ ีการสุ่มตัวอยา่ งสำ�หรบั การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเชิงคณุ ภาพ การสุ่มตัวอย่างสำ�หรับการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Selection) 3.3 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ัย ในการศึกษาวิจยั คร้งั นี้ ใช้เครอื่ งมอื สำ�หรับการวิจยั เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้ 3.3.1 เครอื่ งมอื ส�ำ หรบั การเก็บรวบรวมขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมข้อมูลเชิงปรมิ าณ คอื แบบสอบถาม ซึง่ ดำ�เนนิ การสร้างเครอ่ื งมือ ตามข้ันตอน ดงั น้ี กองวจิ ยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 71

1) ศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามท่ีใช้ในการเก็บข้อมูลจากเอกสารและตำ�ราที่เก่ียวข้อง เพอื่ เปน็ แนวทางในการก�ำ หนดกรอบความคิดในการสรา้ งแบบสอบถาม 2) ศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎี และเอกสารการวจิ ยั ตา่ ง ๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งโดยพจิ ารณาถงึ รายละเอยี ด ตา่ ง ๆ เพอื่ ใหค้ รอบคลมุ วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั ท่ีกำ�หนดไว้ 3) สร้างแบบสอบถามให้มีเน้ือหาท่ีครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพ่ือใช้เป็น เครือ่ งมือในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากตวั อยา่ งเพ่อื น�ำ มาวเิ คราะห์ แบบสอบถามทใี่ ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การวิจัยครั้งนี้ แบ่งออกเปน็ 3 ส่วน ดงั นี้ สว่ นท่ี 1 เป็นข้อมูลทั่วไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม แบง่ เป็นคำ�ถามแบบเปดิ (Open-Ended Question) 1 ขอ้ และเป็นคำ�ถามแบบปิด (Close-Ended Response Question) 2 ข้อ โดยแต่ละข้อใช้ระดบั การ วดั ข้อมูลประเภทตา่ ง ๆ ดังนี้ ข้อท่ี 1 เพศ เป็นระดับการวดั ข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 2 อายุ เปน็ ระดับการวัดขอ้ มลู ประเภทอตั ราสว่ น (Ratio Scale) ข้อท่ี 3 วฒุ ิการศกึ ษาสูงสดุ เปน็ ระดับการวดั ข้อมลู ประเภทเรียงล�ำ ดับ (Ordinal Scale) ส่วนที่ 2 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะการประกอบอาชีพอิสระ แบ่งเป็นคำ�ถามแบบเปิด (Open-Ended Question) 6 ข้อ เป็นคำ�ถามแบบปดิ (Close-Ended Response Question) และหลายทางเลอื ก (Multiple Choice Question) 4 ขอ้ และค�ำ ถามแบบหลายทางเลอื ก (Multiple Choice Question) 1 ขอ้ โดยแตล่ ะขอ้ ใช้ระดับการวัดขอ้ มูลประเภทตา่ ง ๆ ดงั น้ ี ขอ้ ท่ี 1 อาชีพอิสระที่ทำ�ในปัจจุบัน เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทเรียงลำ�ดับ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 2 การจ้างงาน เปน็ ระดับการวัดขอ้ มูลประเภทนามบัญญตั ิ (Nominal Scale) ข้อท่ี 3 รายไดท้ ยี่ งั ไมห่ กั คา่ ใชจ้ า่ ยโดยเฉลยี่ ตอ่ เดอื น เปน็ ระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทอตั ราสว่ น (Ratio Scale) ข้อที่ 4 ผลประกอบการในรอบปีท่ีผ่านมา เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ข้อท่ี 5 ก�ำ ไรในปี 2555 เปน็ ระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทอัตราสว่ น (Ratio Scale) ขอ้ ที่ 6 ก�ำ ไรในปี 2556 เปน็ ระดับการวัดขอ้ มูลประเภทอตั ราส่วน (Ratio Scale) ข้อท่ี 7 คาดการณ์ผลประกอบการในอนาคต เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ข้อท่ี 8 แหล่งเงินทุนในการประกอบกิจการ เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ข้อท่ี 9 อุปสรรคในการประกอบอาชีพอิสระ เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 10 การเปล่ียนไปทำ�อาชีพอ่ืน เป็นระดับการวัดข้อมูลประเภทนามบัญญัติ (Nominal Scale) ขอ้ ที่ 11 อาชีพที่มีแนวโน้มที่ดีในอนาคต 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) เป็นระดับ การวัดขอ้ มูลประเภทนามบญั ญัติ (Nominal Scale) 72 แนวโน้มอาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ส่วนที่ 3 เป็นความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยพื้นฐานในการประกอบอาชีพอิสระ มีท้ังหมด 20 ข้อ ซ่ึงแบบสอบถามท่ีสร้างขึ้นในส่วนนี้เป็นการให้ผู้ตอบเลือกตอบ (Check List) ซ่ึงใช้ระดับการวัดข้อมูล ประเภทอันตรภาคชนั้ (Interval Scale) เปน็ การวดั แบบ Likert Scale มี 5 ระดับ โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนนดงั น้ี ระดับ 5 มรี ะดับส�ำ คญั มากท่ีสดุ ระดับ 4 มีระดับสำ�คัญมาก ระดับ 3 มีระดบั ส�ำ คัญปานกลาง ระดับ 2 มีระดบั ส�ำ คญั นอ้ ย ระดับ 1 มรี ะดบั สำ�คัญน้อยทส่ี ดุ การอธบิ ายผลการวจิ ยั ในส่วนนีใ้ ช้คะแนนเฉลี่ยทีไ่ ดจ้ ากกล่มุ ตัวอย่างในการแปลความหมาย โดยจดั แบง่ เปน็ 5 ระดบั ส�ำ หรบั การปรบั สเกล ท�ำ โดยแบง่ เกณฑเ์ ปรยี บเทยี บ และ แบง่ กง่ึ กลางของอนั ตรภาคชนั้ (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2542, หน้า 110) ซึ่งคะแนนสูงสุดเท่ากับ 5 และคะแนนตำ่�สุดเท่ากับ 1 เพ่อื ให้ไดล้ ักษณะการแจกแจงปกติ (Normal Distribution) โดยใช้สูตรหาความกว้างของอนั ตรภาคชั้น ดงั น้ี จากสตู ร ความกว้างของอันตรภาคชนั้ = คะแนนสูงสุด-คะแนนต�ำ่ สดุ จำ�นวนช้นั = (5-1) = 1.33 3 นำ�มาหาระดบั คะแนนเฉลีย่ โดยก�ำ หนดคะแนนใหม่ ดังนี้ คะแนน 3.67 - 5.00 หมายถงึ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระใหค้ วามส�ำ คญั กบั ปจั จยั พน้ื ฐาน ในการประกอบ อาชพี อสิ ระนั้นในระดบั สงู คะแนน 2.34 - 3.66 หมายถงึ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระใหค้ วามส�ำ คญั กบั ปจั จยั พน้ื ฐานในการประกอบ อาชพี อิสระนนั้ ในระดบั ปานกลาง คะแนน 1.00 - 2.33 หมายถงึ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระใหค้ วามส�ำ คญั กบั ปจั จยั พน้ื ฐานในการประกอบ อาชีพอิสระนั้นในระดับต่ำ� 3.3.2 เครือ่ งมือสำ�หรบั การเก็บรวบรวมข้อมูลเชงิ คุณภาพ เคร่ืองมือท่ีใช้สำ�หรับเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ คือ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (structure interview) โดยมีประเดน็ การสมั ภาษณ์ 2 สว่ น ดังนี้ สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู ทัว่ ไปของผู้ให้การสัมภาษณ์ ประกอบดว้ ย ข้อท่ี 1 เพศ ข้อท่ี 2 วุฒิการศึกษาสงู สดุ สว่ นที่ 2 การพิจารณาสนิ เชอ่ื ส�ำ หรบั ผูป้ ระกอบอาชพี อิสระ ประกอบด้วย ขอ้ ท่ี 1 ปจั จบุ นั ลกู คา้ รายยอ่ ยทม่ี าขอสนิ เชอ่ื เพอ่ื การประกอบอาชพี อะไรมากทส่ี ดุ 3 อนั ดับแรก ขอ้ ที่ 2 ปัจจุบันธนาคารของท่านอนุมัติสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพอะไร มากท่ีสุด 3 อันดบั แรก ข้อท่ี 3 สินเช่อื เพื่อการประกอบอาชีพอะไรที่มีการช�ำ ระเงนิ ก้ตู รงเวลา 3 อนั ดบั แรก ขอ้ ท่ี 4 สินเชื่อเพ่ือการประกอบอาชีพอะไรที่มีการชำ�ระเงินกู้ล่าช้าหรือขาดส่ง 3 อนั ดับแรก ข้อที่ 5 จากประสบการณ์การอนุมัติสินเช่ือของท่าน ท่านคิดว่าในอนาคต 3 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) อาชพี อิสระอะไรทจี่ ะมีแนวโน้มการเตบิ โตที่ดี 3 อันดับแรก กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 73

3.4 การตรวจสอบคณุ ภาพของเครอื่ งมือ 3.4.1 น�ำ แบบสอบถามทีส่ ร้างขึน้ มา ทำ�การตรวจสอบความเท่ยี งตรงตามเนือ้ หาและความเหมาะสมของ เนื้อหา (Content Validity) เพ่ือปรับปรงุ ให้มคี วามเหมาะสม 3.4.2 นำ�แบบสอบถามทผี่ ่านการตรวจสอบความเทีย่ งตรงแล้ว ไปใชเ้ ก็บขอ้ มลู จากกลุ่มประชากรที่มีคุณสมบตั ใิ กลเ้ คียงกบั กลมุ่ ตัวอยา่ ง (Pre-test) จำ�นวน 30 ชุด เพ่ือทดสอบความเชอ่ื ม่นั ของแบบสอบถาม โดยใช้สมั ประสทิ ธ์ิแอลฟ่าของครอนบัค (Cronbach’s Alpha) ได้ค่า 0.73 3.5 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู การเก็บรวบรวมข้อมูลดำ�เนินการโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ และการเก็บรวบรวมข้อมูล เชงิ คุณภาพพร้อมกนั โดยด�ำ เนินการ ดงั นี้ 3.5.1 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ การเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ ดำ�เนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบอาชีพอิสระ ทตี่ กเปน็ ตวั อยา่ ง ซงึ่ ด�ำ เนนิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยเจา้ หนา้ ทก่ี องวจิ ยั ตลาดแรงงานและเจา้ หนา้ ทศี่ นู ยข์ า่ วสาร ตลาดแรงงาน ปรากฏผลการเกบ็ รวบรวมข้อมลู รายภูมิภาคดงั ตารางท่ี 3.2 ตารางที่ 3.2 ผลการด�ำ เนินการเก็บรวบรวมข้อมลู จำ�แนกรายภูมภิ าค ภาค ขนาดตวั อย่าง (คน) ผลการดำ�เนนิ การเก็บข้อมลู (คน) ภาคเหนือ 340 402 ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 350 380 ภาคกลาง 349 509 ภาคใต้ 310 342 รวม 1,349 1,633 3.5.2 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เชิงคุณภาพ การเก็บรวบรวมขอ้ มูลเชงิ คณุ ภาพด�ำ เนินการ 2 รปู แบบ ดังน้ี 1) รูปแบบที่ 1 การสัมภาษณเ์ จา้ หน้าท่ีธนาคาร โดยด�ำ เนนิ การสมั ภาษณ์เจ้าหน้าท่ธี นาคารใน 4 ภมู ิภาคประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื และภาคใต้ ภมู ิภาคละ 100 ตวั อย่าง รวม จ�ำ นวน 400 ตวั อย่าง 2) รปู แบบท่ี 2 การประชมุ กลมุ่ (Focus Group) ซงึ่ ด�ำ เนนิ การใน 4 ภมู ภิ าค ๆ ละ 1 ครงั้ ประกอบดว้ ย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยการเชิญผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง เขา้ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ แนวโนม้ อาชพี อสิ ระในอนาคต 3 ปขี า้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 – 2560) ประกอบดว้ ย รองอธิบดีกรมการจดั หางาน ผู้อ�ำ นวยการกองสง่ เสรมิ การมงี านท�ำ ผเู้ ชี่ยวชาญเฉพาะดา้ นส่งเสริมการมีงานทำ� อาจารย์ ดา้ นเศรษฐศาสตร์ เกษตรจังหวัด ปศุสัตวจ์ งั หวัด พาณชิ ย์จงั หวดั พัฒนาการจังหวดั หอการคา้ จงั หวัด ประธานสภาอตุ สาหกรรมจงั หวดั เจา้ หนา้ ทสี่ นิ เชอื่ ธนาคาร สมาคมธรุ กจิ ทอ่ งเทยี่ วจงั หวดั และตวั แทนผปู้ ระกอบ อาชีพอิสระ 74 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

3.6 การวิเคราะหข์ อ้ มลู ในการวจิ ยั คร้ังนแ้ี บ่งการวิเคราะห์ข้อมลู ออกเปน็ 2 ส่วน ดังนี้ 3.6.1 สว่ นท่ี 1 การวเิ คราะห์ข้อมลู เชิงปรมิ าณ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากผู้ประกอบอาชีพอิสระ ทีต่ กเป็นตวั อยา่ ง จำ�นวน 1,633 ราย โดยใช้สถติ ิส�ำ หรับการวเิ คราะหข์ ้อมูลตามลักษณะของขอ้ มลู ดังน้ี 1) ความถแ่ี ละรอ้ ยละ (Frequency and percentage) เพอ่ื อธบิ ายขอ้ มลู ในแบบสอบถามสว่ นที่ 1 ประกอบดว้ ย เพศ อายุ และวฒุ กิ ารศกึ ษาสงู สดุ แบบสอบถามสว่ นท่ี 2 ประกอบดว้ ย การมลี กู จา้ ง ผลการด�ำ เนนิ กิจการในรอบปีที่ผ่านมา ผลการดำ�เนินการท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต แหล่งเงินทุนในการประกอบกิจการ อุปสรรคในการดำ�เนินกิจการ และการเปล่ียนแปลงอาชีพ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอยู่ในมาตรวัดระดับนามบัญญัติ (Nominal Scale) และระดบั เรยี งลำ�ดับ (Ordinal Scale) 2) ค่าเฉลี่ย และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน เพ่ือสรุปขอ้ มูลในแบบสอบถามส่วนท่ี 3 ซ่ึงเปน็ ค�ำ ถาม ความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ปจั จยั พนื้ ฐานในการประกอบอาชพี อสิ ระ ซงึ่ ขอ้ มลู อยใู่ นมาตรวดั ระดบั อนั ตรภาคชน้ั (Interval Scale) 3) การวิเคราะหแ์ นวโน้มอาชีพอสิ ระในอนาคต ใช้ตัวแบบการวเิ คราะห์ GE Matrix (Lusch and Lusch, 1987 : 73 อา้ งถงึ ใน พบิ ลู ทีปะปาล, 2551 : 124) โดยตวั แบบน้ี ใช้วิเคราะห์หนว่ ยธรุ กิจตามหลักการ วเิ คราะหท์ เี่ รยี กวา่ “SWOT analysis” เพอื่ พจิ ารณาก�ำ หนดวา่ หนว่ ยธรุ กจิ ซง่ึ ในการวจิ ยั ครง้ั นค้ี อื อาชพี อสิ ระไหน ควรจะมกี ารลงทุนเพิม่ ข้นึ เพือ่ ใหเ้ จริญเติบโต (growth) หรอื ควรจะตดั ทอนการลงทุนลง (retrenchment) โดยดา้ นแกนตง้ั จะพจิ ารณาระดบั ของตลาด หรอื อตุ สาหกรรมทจ่ี งู ใจใหเ้ กดิ การลงทนุ (market or industry attractiveness) ระดับของตลาดหรืออุตสาหกรรมที่จูงใจให้เกดิ การลงทุนน้จี ะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คอื ระดับสงู ปานกลาง และต�่ำ สว่ นด้านแกนนอนเป็นการพจิ ารณาระดับความแขง็ แกรง่ ของธุรกจิ (business strength) หรือขีดความสามารถของธุรกิจท่ีจะเผชิญกับคู่แข่งขันในตลาดหรือในอุตสาหกรรมว่าอยู่ในระดับใด ระดับความแขง็ แกรง่ ของธรุ กิจจะแบง่ ออกเปน็ 3 ระดับ คือ ระดับสูง ปานกลาง และตำ�่ กองวิจยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 75

เมอ่ื น�ำ ปจั จยั ทง้ั 2 ดา้ นมาจดั ในรปู แบบแมทรกิ ซ์ กจ็ ะไดแ้ มทรกิ ซซ์ งึ่ ประกอบดว้ ย 9 ชอ่ ง เรยี ก ว่า “Market Attactiveness Business Strenght Matrix” หรอื “General Electric’s Business Screen” จากนน้ั พ้นื ทใ่ี นแมททรกิ ซ์กจ็ ะแบ่งออกเป็น 3 กลุม่ คือ กลุ่ม A กลมุ่ B และกลุ่ม C โดยอธบิ ายความหมายและก�ำ หนด แนวทางกลยุทธ์ได้ ดงั น้ี 3.1) อาชพี อิสระที่มตี ำ�แหนง่ ในพ้ืนท่ี กลมุ่ A เปรียบเสมอื นสญั ญาณไฟจราจรทเ่ี ปิด ไฟเขียว หมายถึง อาชีพอิสระอยู่ในตำ�แหน่งที่ดีท่ีสุด ดังนั้นผู้ประกอบอาชีพอิสระควรลงทุนเพิ่มข้ึน เพ่ือให้อาชีพนั้น เจริญเติบโตมากขึ้น (invest for growth) 3.2) อาชพี อสิ ระทมี่ ตี �ำ แหนง่ ในพน้ื ท่ี กลมุ่ B เปรยี บเสมอื นสญั ญาณไฟจราจรทเ่ี ปดิ ไฟเหลอื ง หมายถงึ เปน็ สัญญาณเตือนให้ระวัง การลงทนุ ขนาดใหญจ่ ะต้องชะลอเอาไว้ เพราะโอกาสยงั ไม่อำ�นวย 3.3) อาชพี อสิ ระทมี่ ตี ำ�แหน่งในพน้ื ท่ี กลุ่ม C เปรียบเสมอื นสัญญาณไฟจราจรท่ีเปิดไฟแดง ซึ่งหมายถึงเป็นสัญญาณอันตราย จึงห้ามการลงทุนเพ่ิมขึ้น ดังน้ันจึงควรลดความพยายามทางด้านการตลาด ให้นอ้ ยท่ีสดุ หรือควรหาทางเลกิ ประกอบอาชีพอสิ ระนน้ั โดยเร็ว ในการวิจัยคร้ังนี้ จัดพ้ืนท่ีในแมททริกซ์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม A กลุ่ม B และกลุ่ม C โดยก�ำ หนดชว่ งคะแนน ดงั นี้ คะแนนในช่วง 1.00 - 1.33 คะแนน คือ ระดับต่ำ� หมายถงึ กลุม่ C คะแนนในช่วง 1.34 - 3.66 คะแนน คือ ระดับปานกลาง หมายถึง กลุ่ม B คะแนนในช่วง 3.67 - 5.00 คะแนน คือ ระดับสงู หมายถึง กลมุ่ A 3.6.2 ส่วนที่ 2 การวิเคราะหข์ ้อมลู เชิงคุณภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคณุ ภาพ จากการสัมภาษณเ์ จา้ หน้าทส่ี นิ เช่อื ธนาคาร และการประชุมกล่มุ (Focus Group) ใช้การวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) 76 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา การศกึ ษาวจิ ัย เร่อื ง แนวโนม้ อาชพี อิสระในอนาคต 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพือ่ ศกึ ษา 1) แนวโน้มของอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปขี า้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 – 2560) และ 2) เพือ่ เปน็ ขอ้ มลู ในการแนะแนวอาชีพตามภารกิจด้านการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระของกองส่งเสริมการมีงานทำ� กรมการจดั หางาน ซ่ึงน�ำ เสนอผลการวเิ คราะหใ์ นรูปแบบความเรยี งประกอบตาราง 4 สว่ น ดงั นี้ สว่ นท่ี 1 การวเิ คราะหล์ กั ษณะทวั่ ไปของการประกอบอาชพี อสิ ระ โดยวเิ คราะหใ์ นประเดน็ ยอ่ ย ดงั นี้ สว่ นท่ี 1.1 ผลการวิเคราะหล์ กั ษณะทั่วไปของผูป้ ระกอบอาชีพอสิ ระ สว่ นท่ี 1.2 ผลการวเิ คราะหล์ ักษณะการประกอบอาชีพอิสระ สว่ นท่ี 1.3 ผลการวเิ คราะห์ผลประกอบกิจการของผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระ ส่วนที่ 2 การวิเคราะหข์ อ้ มูลอาชพี อสิ ระจากเจ้าหนา้ ทสี่ นิ เชอ่ื ธนาคาร ส่วนท่ี 3 การวิเคราะห์ขอ้ มลู อาชีพอสิ ระจากการประชมุ กลุ่ม (Focus Group) ส่วนท่ี 4 การวิเคราะหแ์ นวโน้มอาชีพอสิ ระในอนาคต รายละเอียดผลการศกึ ษาปรากฏ ดังน้ี สว่ นที่ 1 การวิเคราะห์ลกั ษณะทวั่ ไปของการประกอบอาชีพอิสระ สว่ นท่ี 1.1 ผลการวิเคราะห์ลกั ษณะทวั่ ไปของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบอาชพี อสิ ระสว่ นใหญ่เป็นเพศหญงิ ร้อยละ 71.03 รองลงมาคอื เพศชาย รอ้ ยละ 28.97 โดยเปน็ ผมู้ อี ายุ 41-50 ปี มากทส่ี ดุ รอ้ ยละ 29.64 รองลงมาคอื อายุ 51- 60 ปี รอ้ ยละ 26.39 และอายุ 31 - 40 ปี รอ้ ยละ 19.17 ทัง้ น้ีพบว่า เปน็ ผ้มู กี ารศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาและต่ำ�กวา่ มากทส่ี ุด ร้อยละ 28.29 รองลงมาคือ ระดับปริญญาตรี รอ้ ยละ 24.68 และระดับมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ร้อยละ 17.76 ปรากฏตามตารางที่ 4.1 กองวจิ ยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 77

ตารางท่ี 4.1 สถานภาพทั่วไปของผู้ประกอบอาชพี อสิ ระ สถานภาพ จำ�นวน (คน) ร้อยละ เพศ 473 28.97 ชาย 1,160 71.03 หญิง 1,633 รวม 100 อายุ 18 1.10 ไมเ่ กิน 20 ปี 138 8.45 21 – 30 ปี 313 19.17 31 – 40 ปี 484 29.64 41 – 50 ปี 431 26.39 51 – 60 ปี 249 15.25 61 ปขี ้ึนไป 1,633 100 รวม 64 3.92 วุฒิการศกึ ษา 398 24.37 ตำ่�กวา่ ประถมศกึ ษา 183 11.21 ประถมศกึ ษา 290 17.76 ม. 3 86 5.27 ม. 6 90 5.51 ปวช. 64 3.92 ปวส. 403 24.68 อนุปริญญา 38 2.33 ปริญญาตรี 17 1.04 สงู กว่าปริญญาตรี 1,633 100 อ่นื ๆ รวม ส่วนท่ี 1.2 ผลการวเิ คราะห์ลกั ษณะการประกอบอาชพี อิสระ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระในปจั จบุ นั ประกอบอาชพี เกยี่ วกบั การผลติ ผลติ ภณั ฑอ์ าหาร มากทส่ี ดุ ร้อยละ 22.96 รองลงมาคือ การผลิตหรือจำ�หน่ายสิ่งทอ ร้อยละ 11.39 และการเพาะปลูกและการเล้ียงสัตว์ ร้อยละ 8.57 ตามลำ�ดับ (ตารางท่ี 4.2) โดยผู้ประกอบอาชพี อิสระ ส่วนใหญ่ รอ้ ยละ 64.06 ใช้เงินทนุ สว่ นตัว หรอื ครอบครวั ในการลงทุนประกอบอาชีพอิสระ รองลงมาคอื ก้ยู มื จากกองทุนตา่ ง ๆ ของภาครัฐ 15.53 และ กยู้ มื จากธนาคารพาณชิ ย์ รอ้ ยละ 11.72 (ตารางท่ี 4.3) ผู้ประกอบอาชีพอิสระส่วนใหญ่ ไมต่ อ้ งมลี ูกจ้าง รอ้ ยละ 56.95 และตอ้ งมลี กู จา้ ง ร้อยละ 43.05 โดยกลุ่มท่มี ีลูกจ้าง ส่วนใหญ่มีลกู จ้างนอ้ ยกว่า 5 คน ร้อยละ 51.49 รองลงมาคือ 5 - 9 คน รอ้ ยละ 28.45 และ 10 – 14 คน รอ้ ยละ 20.06 ตามลำ�ดบั ปรากฏตามตารางที่ 4.4 78 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

ตารางที่ 4.2 การประกอบอาชีพอสิ ระในปัจจุบัน อาชพี จำ�นวน (คน) รอ้ ยละ การผลติ ผลิตภัณฑอ์ าหาร 375 22.96 การผลติ หรอื จ�ำ หน่ายสงิ่ ทอ 186 11.39 การเพาะปลกู และการเล้ียงสัตว์ 140 8.57 การผลิตหรอื จ�ำ หน่ายเสือ้ ผา้ เครอื่ งแต่งกาย 136 8.33 การผลติ หรอื จำ�หนา่ ยผลติ ภณั ฑจ์ กั สาน 117 7.16 การผลติ หรือจ�ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑส์ มนุ ไพร 93 5.70 การจำ�หน่ายอาหาร 59 3.61 การผลิตหรอื จ�ำ หนา่ ยดอกไมป้ ระดิษฐ์ 48 2.94 การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยของชำ�ร่วย ของทีร่ ะลึก 44 2.69 การผลติ หรอื จำ�หนา่ ยเครื่องประดับ 43 2.63 รา้ นขายนำ�้ เช่น ขายกาแฟ โอเล้ยี ง และนำ้�ปนั่ เปน็ ต้น 43 2.63 การขายปลกี เชน่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องส�ำ อาง อาหารเสริม เป็นตน้ 40 2.45 การผลติ หรอื จำ�หนา่ ยผลิตภัณฑเ์ ครอ่ื งหนงั 39 2.39 การผลติ หรือจำ�หน่ายผลติ ภณั ฑ์จากไม้ 32 1.96 การผลิตหรอื จำ�หน่ายอฐิ เซรามิค หรอื เครอ่ื งปนั้ ดนิ เผา 28 1.71 การผลิตเครอื่ งดืม่ เช่น น�้ำ องนุ่ น้ำ�ตาลสด น้�ำ หมากเมา่ นำ้�เฉากว๊ ย เปน็ ตน้ 25 1.53 บริการเสริมสวย ตัดผม นวดแผนโบราณและสปา 25 1.53 การผลติ หรอื จำ�หนา่ ยเฟอร์นเิ จอร์ 24 1.47 การผลิตหรอื จำ�หนา่ ยไม้กวาด 24 1.47 การผลติ หรอื จำ�หน่ายผลิตภณั ฑ์จากกะลามะพร้าว 17 1.04 การค้าขายสนิ คา้ เบด็ เตล็ด เชน่ การขายสนิ ค้าทางอนิ เตอร์เนต็ เครือ่ งสำ�อาง 15 0.92 สินคา้ มือสอง ขายปุย๋ ขายยากำ�จดั ศตั รพู ชื เปน็ ต้น การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยงานดา้ นศลิ ปะ เชน่ ภาพวาดลายเสน้ การท�ำ หวั โขน เปน็ ตน้ 14 0.87 การประมงและการเพาะเลย้ี งสตั วน์ ้�ำ 13 0.80 การผลิตหรอื จ�ำ หน่ายประตเู หล็กดดั ลวดดดั 12 0.73 การผลติ หรือจ�ำ หน่ายกระดาษและผลติ ภณั ฑ์แปรรปู จากกระดาษ 11 0.67 บริการซอ่ มรถยนต์หรอื รถจกั รยานยนต์ 9 0.55 บรกิ ารซ่อมคอมพวิ เตอรแ์ ละของใชส้ ่วนบคุ คล 5 0.34 บรกิ ารโฮมสเตย์ รสี อรท์ แมนชั่น หอ้ งเช่า 4 0.24 บรกิ ารซ่อมแอร์ ไดนาโมและอปุ กรณ์ไฟฟ้า 3 0.18 บรกิ ารใหเ้ ชา่ รถ รถยก และรถตู้ให้เช่า 2 0.12 บริการจดั ตกแตง่ สถานที่ รับจัดงานอีเวนท์ 2 0.12 อน่ื ๆ เช่น กอ่ สรา้ ง ขบั รถรบั ส่งนกั เรยี นเปน็ ตน้ 5 0.30 รวม 1,633 100 กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 79

ตารางที่ 4.3 แหลง่ เงนิ ทนุ ในการประกอบอาชีพอสิ ระ n = 2,048 ครัง้ แหล่งเงินทนุ จำ�นวน (คร้ัง) ร้อยละ เงินทุนส่วนตวั หรือครอบครัว 1,312 64.06 กูย้ ืมจากกองทุนตา่ ง ๆ ของภาครัฐ 318 15.53 กู้ยมื จากธนาคารพาณชิ ย์ 240 11.72 กู้ยืมจากแหลง่ เงินกู้นอกระบบ 35 1.71 อ่นื ๆ 143 6.98 รวม 2,048 100 หมายเหตุ : ตอบได้มากกวา่ 1 ขอ้ จำ�นวน (คน) รอ้ ยละ ตารางที่ 4.4 จ�ำ นวนลกู จา้ ง 930 56.95 การมีลกู จา้ ง 703 43.05 362 51.49 ไม่มลี กู จา้ ง 200 28.45 มลี ูกจา้ ง 141 20.06 น้อยกวา่ 5 คน 1,633 5 – 9 คน 100 10 – 14 คน รวม ส่วนที่ 1.3 ผลการวเิ คราะห์ผลประกอบกิจการของผู้ประกอบอาชพี อิสระ เมอ่ื พจิ ารณาถงึ ผลประกอบกจิ การของผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระโดยภาพรวม พบวา่ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระ สว่ นใหญม่ รี ายได้ทีย่ งั ไมห่ ักคา่ ใช้จา่ ยเฉลยี่ ตอ่ เดอื น ไมเ่ กิน 30,000 บาท ร้อยละ 66.01 รองลงมาคือ 30,001 – 60,000 บาท รอ้ ยละ 18.00 และมากกวา่ 120,001 บาท รอ้ ยละ 6.86 โดยมมี ธั ยฐานของรายไดเ้ ทา่ กบั 20,000 บาท (ตารางที่ 4.5) ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2555 พบว่าผู้ประกอบอาชีพอิสระมีกำ�ไรมากกว่า 120,001 บาท มากที่สุด ร้อยละ 26.70 รองลงมาคือ ไมเ่ กิน 30,000 บาท ร้อยละ 16.41 และ 30,001 – 60,000 บาท รอ้ ยละ 13.72 โดยมีมัธยฐานก�ำ ไรในปี พ.ศ. 2555 เทา่ กบั 100,000 บาท (ตารางท่ี 4.6) ส�ำ หรับปี พ.ศ. 2556 พบวา่ ผู้ประกอบ อาชีพอสิ ระมีกำ�ไรมากกวา่ 120,001 บาท มากทส่ี ุด รอ้ ยละ 25.70 รองลงมาคอื ไมเ่ กนิ 30,000 บาท รอ้ ยละ 16.53 และ 30,001 – 60,000 บาท รอ้ ยละ 15.62 โดยมีมัธยฐานกำ�ไรในปี พ.ศ. 2556 เทา่ กับ 96,000 บาท (ตารางท่ี 4.7) และพบว่าในปี พ.ศ. 2556 ผูป้ ระกอบอาชีพอิสระส่วนใหญ่ มีกำ�ไร รอ้ ยละ 79.85 รองลงมาคอื เสมอตัว ร้อยละ 17.58 และขาดทนุ ร้อยละ 2.57 (ตารางท่ี 4.8) โดยในอนาคตผ้ปู ระกอบอาชีพอสิ ระส่วนใหญ่ คาดการณว์ ่าจะมกี �ำ ไร ร้อยละ 87.45 รองลงมาคือ เสมอตัว รอ้ ยละ 10.84 และขาดทุน รอ้ ยละ 1.71 (ตารางที่ 4.9) อย่างไรก็ตามในภาพรวมผู้ประกอบอาชีพอิสระส่วนใหญ่ไม่คิดจะเปล่ียนแปลงอาชีพ ร้อยละ 80.89 รองลงมาคือ ท�ำ อาชีพเสรมิ รอ้ ยละ 1.43 และเปล่ียนไปท�ำ อาชีพอืน่ รอ้ ยละ 5.21 ปรากฏตามตารางที่ 4.10 80 แนวโน้มอาชพี อสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ตารางที่ 4.5 รายได้ทีย่ ังไมห่ ักค่าใช้จา่ ยเฉล่ียต่อเดือน รายได้ทยี่ งั ไม่หกั ค่าใชจ้ า่ ย จำ�นวน (คน) ร้อยละ ไม่เกิน 30,000 บาท 1,078 66.01 30,001 – 60,000 บาท 294 18.00 60,001 – 90,000 บาท 58 3.55 90,001 – 120,000 บาท 91 5.57 มากกว่า 120,001 บาท 112 6.86 รวม 1,633 100 ตารางท่ี 4.6 กำ�ไรในปี พ.ศ. 2555 (ก�ำ ไรต่อป)ี รอ้ ยละ กำ�ไรในปี พ.ศ. 2555 จำ�นวน (คน) 16.41 13.72 ไมเ่ กนิ 30,000 บาท 268 6.37 30,001 – 60,000 บาท 224 12.98 60,001 – 90,000 บาท 104 26.70 90,001 – 120,000 บาท 212 23.82 มากกวา่ 120,001 บาท 436 ไมแ่ สดงความคิดเห็น 389 100 1,633 รวม ร้อยละ ตารางที่ 4.7 ก�ำ ไรในปี พ.ศ. 2556 (กำ�ไรต่อปี) 16.53 15.62 กำ�ไรในปี พ.ศ. 2556 จำ�นวน (คน) 6.61 10.10 ไม่เกิน 30,000 บาท 270 25.70 30,001 – 60,000 บาท 255 21.44 60,001 – 90,000 บาท 108 90,001 – 120,000 บาท 165 100 มากกว่า 120,001 บาท 485 ไม่แสดงความคดิ เห็น 350 1,633 รวม กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 81

ตารางท่ี 4.8 ผลประกอบการอาชพี อิสระในปี พ.ศ. 2556 ผลประกอบการ จำ�นวน (คน) รอ้ ยละ กำ�ไร 1,304 79.85 ขาดทุน 42 2.57 เสมอตวั 287 17.58 100 รวม 1,633 รอ้ ยละ ตารางที่ 4.9 คาดการณผ์ ลประกอบการอาชพี อิสระในอนาคต 87.45 ผลประกอบการในอนาคต จำ�นวน (คน) 1.71 10.84 กำ�ไร 1,428 100 ขาดทุน 28 เสมอตวั 177 ร้อยละ รวม 1,633 5.21 80.89 ตารางท่ี 4.10 การเปล่ยี นแปลงอาชีพของผปู้ ระกอบอาชีพอสิ ระ 12.43 1.47 การเปล่ยี นแปลงอาชพี จำ�นวน (คน) 100 เปล่ียนไปท�ำ อาชีพอื่น 85 ไมเ่ ปลยี่ นแปลง 1,321 ทำ�อาชีพเสรมิ ไมแ่ สดงความคดิ เห็น 203 24 รวม 1,633 82 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ข้างหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

ส่วนที่ 2 การวิเคราะห์ข้อมลู อาชีพอิสระจากเจา้ หนา้ ที่สนิ เชอื่ ธนาคาร จากการสัมภาษณ์เจ้าหนา้ ท่ีธนาคารเกีย่ วกบั การประกอบอาชพี อสิ ระพบว่า มีประเดน็ ทีส่ �ำ คัญดังน้ี 2.1 ผปู้ ระกอบอาชีพท่มี าขอสินเช่ือมากท่สี ุด 3 อันดบั แรก ประกอบดว้ ย 1) การขายปลกี เชน่ ขายสนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภค ขายเสอื้ ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู และขายเคมภี ณั ฑก์ ารเกษตร เป็นต้น 2) การบรกิ ารด้านอาหารและเครื่องดื่ม 3) การเพาะปลกู และการเลี้ยงสตั ว์ 2.2 อาชพี ทธ่ี นาคารอนุมัตสิ นิ เช่ือมากที่สุด 3 อนั ดบั แรกประกอบดว้ ย 1) อาชีพการขายปลีก เช่น ขายสนิ คา้ อปุ โภคบริโภค ขายเสอ้ื ผ้าสำ�เรจ็ รูป และขายเคมภี ัณฑ์ การเกษตร เป็นตน้ 2) อาชีพการบรกิ ารด้านอาหารและเครื่องดมื่ 3) อาชพี การเพาะปลูกและการเลยี้ งสัตว์ 2.3 อาชพี ทชี่ �ำ ระเงนิ กูต้ รงเวลา 3 อันดบั แรกประกอบด้วย 1) อาชพี การขายปลกี เช่น ขายสินค้าอปุ โภคบริโภค ขายเสื้อผ้าสำ�เร็จรปู และขายเคมีภัณฑ์ การเกษตร เปน็ ตน้ 2) อาชพี การเพาะปลกู และการเลี้ยงสตั ว์ 3) อาชีพการบรกิ ารดา้ นอาหารและเครอื่ งด่ืม 2.4 อาชีพทม่ี แี นวโน้มการเตบิ โตทด่ี ีในอนาคต 3 อันดับแรกประกอบด้วย 1) อาชพี การขายปลกี เชน่ ขายสินคา้ อุปโภคบริโภค ขายเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป และขายเคมภี ณั ฑ์ การเกษตร เป็นต้น 2) อาชีพการบรกิ ารด้านอาหารและเครอื่ งดมื่ 3) อาชพี การเพาะปลูกและการเลยี้ งสตั ว์ สว่ นที่ 3 การวิเคราะห์ขอ้ มูลอาชีพอิสระจากการประชมุ กลุ่ม (Focus Group) จากการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการประชุมกลุ่ม (Focus Group) เพ่ือรับฟังความคิดเห็น เกย่ี วกบั แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปขี ้างหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) จาก ผ้ทู รงคุณวฒุ ทิ ี่มีส่วนเกยี่ วข้อง ท้งั ภาครัฐและเอกชนใน 4 ภูมิภาค ประกอบดว้ ย ภาคเหนือทีจ่ งั หวดั ล�ำ ปาง ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ที่จงั หวดั ขอนแกน่ ภาคใตท้ จี่ งั หวดั สงขลา และภาคกลาง ทกี่ รงุ เทพมหานคร สรปุ ผลการประชมุ กลมุ่ ในแตล่ ะภมู ภิ าคดงั นี้ 3.1 ผลการประชมุ กลุ่ม (Focus Group) ภาคเหนือ ท่จี ังหวัดล�ำ ปาง 1) อาชีพอิสระในภาคเกษตรกรรมท่ีมแี นวโน้มท่ดี ี ประกอบด้วย 5 อาชีพ ดงั นี้ 1.1) อาชีพทำ�ข้าวแต๋น 1.2) อาชพี เกี่ยวกบั การผลติ สินคา้ เกษตรปลอดภยั 1.3) อาชีพเลย้ี งสัตว์เศรษฐกจิ (สุกร โคเน้ือ โคนม) 1.4) อาชีพปลูกพชื สมุนไพร 1.5) อาชีพปลกู กาแฟ 2) อาชีพอิสระในภาคอุตสาหกรรมที่มแี นวโนม้ ท่ีดี ประกอบด้วย 5 อาชพี ดงั น้ี 2.1) อาชพี การผลิตผ้าทอ 2.2) อาชีพการแปรรปู อาหารจากผลิตภัณฑ์เกษตร กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 83

2.3) อาชพี ผลติ เซรามิค 2.4) อาชีพผลิตของที่ระลึก 2.5) อาชพี ผลติ อาหารท่ีเป็นเอกลักษณท์ อ้ งถิน่ 3) อาชีพอสิ ระในภาคบรกิ ารที่มแี นวโน้มที่ดี ประกอบด้วย 5 อาชพี ดงั น้ี 3.1) อาชีพเกี่ยวกบั การท่องเท่ียวครบวงจร 3.2) อาชพี บริการนวดแผนไทย 3.3) อาชีพบรกิ ารจัดสวน แตง่ สวน 3.4) อาชพี การจดั ดอกไม้ 3.5) อาชพี บริการซ่อมภายในบ้าน (สารพัดชา่ ง) 3.2 ผลการประชมุ กลมุ่ (Focus Group) ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ที่จังหวดั ขอนแกน่ 1) อาชพี อสิ ระในภาคเกษตรกรรมทมี่ แี นวโนม้ ท่ดี ี ประกอบด้วย 5 อาชพี ดังนี้ 1.1) อาชีพปลกู มันส�ำ ปะหลังและออ้ ย 1.2) อาชพี ปลูกขา้ วหอมนลิ 1.3) อาชพี ปลกู ผักปลอดสารพิษ 1.4) อาชพี ปลูกพชื สมนุ ไพร 1.5) อาชีพเล้ยี งสัตว์เศรษฐกจิ (สุกร โคเน้อื โคนม) 2) อาชีพอิสระในภาคอุตสาหกรรมทม่ี ีแนวโนม้ ที่ดี ประกอบด้วย 5 อาชีพ ดังนี้ 2.1) อาชีพผลิตขนมไทย ขนมโบราณ 2.2) อาชีพผลติ ผ้าไหม ผ้าฝา้ ย 2.3) อาชพี ผลติ ผลติ ภณั ฑจ์ ากขา้ ว 2.4) อาชพี ผลติ ของทรี่ ะลึก 2.5) อาชพี ออกแบบและผลติ บรรจุภณั ฑ์ 3) อาชพี อิสระในภาคบริการท่ีมแี นวโน้มท่ดี ี ประกอบดว้ ย 5 อาชีพ ดังนี้ 3.1) อาชีพแปลภาษาอาเซยี น 3.2) อาชีพมคั คุเทศก์ 3.3) อาชพี นวดประคบสมุนไพร 3.4) อาชีพพนกั งานรกั ษาความปลอดภัย แมบ่ ้าน 3.5) อาชพี ดแู ลผู้สูงอายุ 3.3 ผลการประชมุ กล่มุ (Focus Group) ภาคใต้ ท่จี ังหวัดสงขลา 1) อาชีพอิสระในภาคเกษตรกรรมท่มี ีแนวโน้มท่ดี ี ประกอบด้วย 5 อาชีพ ดงั น้ี 1.1) อาชพี ปลกู ผกั ปลอดสารพษิ 1.2) อาชีพเลี้ยงแพะ 1.3) อาชีพปลกู มะพร้าวน�้ำ หอม 1.4) อาชพี ปลูกตะไคร้ 1.5) อาชีพเลยี้ งวัวชน 84 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

2) อาชีพอสิ ระในภาคอตุ สาหกรรมทม่ี แี นวโนม้ ทีด่ ี ประกอบดว้ ย 5 อาชพี ดงั นี้ 2.1) อาชพี ผลติ นำ้�ด่มื 2.2) อาชีพผลิตผลิตภัณฑ์จากนมแพะ 2.3) อาชพี ผลติ เคร่ืองแกง 2.4) อาชีพผลิตอาหารฮาลาล 2.5) อาชีพทอเสื่อกระจดู 3) อาชพี อิสระในภาคบรกิ ารที่มแี นวโน้มที่ดี ประกอบดว้ ย 5 อาชีพ ดงั นี้ 3.1) อาชพี ค้าขายผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.2) อาชีพขายน้ำ�ชา/กาแฟ 3.3) อาชพี รับแปลเอกสาร 3.4) อาชพี รบั ซอ่ มอุปกรณไ์ ฟฟา้ ประปา 3.5) อาชีพดแู ลผสู้ งู อายุ 3.4 ผลการประชุมกลุ่ม (Focus Group) ภาคกลาง ที่กรุงเทพมหานคร 1) อาชีพอิสระในภาคเกษตรกรรมท่มี แี นวโน้มที่ดี ประกอบด้วย 5 อาชพี ดงั นี้ 1.1) อาชพี การเล้ียงไส้เดอื น 1.2) อาชีพปลกู ผลไมน้ อกฤดกู าล 1.3) อาชพี ปลูกผกั สมุนไพร 1.4) อาชีพปลูกผักปลอดสารพิษ 1.5) อาชพี ปลูกไมด้ อก ไมป้ ระดับ 2) อาชีพอิสระในภาคอุตสาหกรรมท่ีมีแนวโน้มท่ีดี ประกอบดว้ ย 5 อาชีพ ดงั นี้ 2.1) อาชีพผลิตน�ำ้ GM จากผลไม้ 2.2) อาชพี ผลิตของที่ระลึก 2.3) อาชีพผลติ เสือ้ ผ้าส�ำ เร็จรปู 2.4) อาชพี ผลิตกระเปา๋ 2.5) อาชพี เฟอร์นเิ จอรจ์ ากไม้ 3) อาชีพอสิ ระในภาคบรกิ ารทมี่ แี นวโนม้ ทด่ี ี ประกอบดว้ ย 5 อาชีพ ดังน้ี 3.1) อาชีพค้าขายผ่านระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 3.2) อาชพี ดแู ลผูป้ ว่ ย 3.3) อาชีพรา้ นขายกาแฟ 3.4) อาชีพร้านขายไอศครมี 3.5) อาชีพขายถา่ นดดู กลน่ิ 3.5 ภาพรวมอาชพี อสิ ระจากผลการประชุมกลุม่ (Focus Group) จากการประชมุ กลมุ่ ทง้ั 4 ภมู ภิ าค สรปุ ผลอาชพี อสิ ระทมี่ แี นวโนม้ ทดี่ ใี นอนาคตทจ่ี ะน�ำ มาวเิ คราะห์ ดว้ ยตวั แบบ GE Matrix ประกอบด้วยอาชพี อิสระ ดงั น้ี กองวิจยั ตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 85

3.5.1 อาชีพอสิ ระทีม่ แี นวโน้มที่ดีในภาคเกษตรกรรม ประกอบด้วย 1) อาชพี ปลกู พชื ปลอดสารพิษ 2) อาชีพปลกู พืชสมนุ ไพร 3) อาชีพเล้ยี งสตั ว์เศรษฐกจิ (ไก่ สุกร โคเน้อื โคนม) 4) อาชีพปลูกข้าวหอมนิล 5) อาชพี เลยี้ งไสเ้ ดือน 3.5.2 อาชีพอสิ ระที่มีแนวโนม้ ท่ีดใี นภาคอตุ สาหกรรม ประกอบดว้ ย 1) อาชพี ทอผ้าไหม ผา้ ฝา้ ย 2) อาชีพผลิตขนมไทย ขนมโบราณ 3) อาชีพผลิตอาหารท่ีเปน็ เอกลกั ษณท์ ้องถิน่ 4) อาชพี ทอเสื่อกระจดู 5) อาชพี ผลิตของทรี่ ะลกึ 3.5.3 อาชีพอสิ ระภาคบริการ ประกอบด้วย 1) อาชีพนวดแผนไทย 2) อาชีพบรกิ ารซอ่ มแซมภายในบ้าน (สารพดั ช่าง) 3) อาชีพดแู ลผู้สูงอายุ 4) อาชพี พนักงานรักษาความปลอดภัย และแม่บา้ น 5) อาชีพดูแลผ้ปู ่วยตามบ้าน ส่วนท่ี 4 การวิเคราะหแ์ นวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต การวิเคราะห์แนวโน้มอาชีพอิสระในอนาคต ใช้ตัวแบบการวิเคราะห์ GE Matrix โดย ตัวแบบน้ี ใชว้ เิ คราะหห์ นว่ ยธุรกิจตามหลกั การวิเคราะห์ท่ีเรยี กว่า “SWOT analysis” เพอื่ พิจารณากำ�หนดวา่ หน่วยธรุ กจิ ใด (ซง่ึ ในการวจิ ยั ครงั้ นค้ี ือ อาชีพอิสระ) ควรจะมกี ารลงทุนเพิ่มขึน้ เพอื่ ให้เจรญิ เตบิ โต (growth) หรือควรจะตัดทอน การลงทุนลง (retrenchment) โดยด้านแกนต้ังจะพิจารณาระดับของตลาด หรืออุตสาหกรรมที่จูงใจให้เกิดการลงทุน (market or industry attractiveness) ระดับของตลาดหรืออุตสาหกรรมท่ีจูงใจให้เกิดการลงทุนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับสงู ปานกลาง และต�่ำ สว่ นดา้ นแกนนอนเป็นการพิจารณาระดบั ความแขง็ แกรง่ ของธุรกิจ (business strength) หรือขีดความสามารถของธุรกิจที่จะเผชิญกับคู่แข่งขันในตลาดหรือในอุตสาหกรรมว่าอยู่ในระดับใด ระดับความแข็งแกรง่ ของธรุ กิจจะแบง่ ออกเปน็ 3 ระดับ คอื ระดับสงู ปานกลาง และตำ�่ อาชพี อสิ ระทนี่ �ำ มาวเิ คราะหโ์ ดย GE Matrix นน้ั ไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู อาชพี จาก 1) ผปู้ ระกอบ อาชีพอสิ ระ 2) เจา้ หนา้ ทสี่ นิ เชอ่ื ธนาคาร และ 3) การประชมุ กลมุ่ (Focus Group) จากผมู้ ีสว่ นเกีย่ วข้องท้ัง 4 ภูมิภาค (ภาคเหนือ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้) มีท้ังหมด 31 อาชพี ปรากฏผลการวิเคราะห์ ดังน้ี 4.1 อาชพี อสิ ระทอ่ี ยใู่ นกลุ่ม A อาชพี อิสระทผ่ี ลการวิเคราะห์ โดย GE Matrix อยู่ในกลุ่ม A ถือเป็นอาชีพอิสระที่มแี นวโนม้ เจรญิ เติบโตทดี่ ีในอนาคต ประกอบดว้ ย 3 อาชพี (ตารางท่ี 4.11) ดังน้ี 1) อาชีพการค้าขายสินคา้ เบด็ เตล็ด เช่น การขายสนิ คา้ ทางอินเตอร์เน็ต เครือ่ งสำ�อาง สนิ ค้า มอื สอง ขายปุ๋ย ขายยากำ�จดั ศัตรพู ชื เป็นตน้ 86 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

2) อาชพี บริการใหเ้ ชา่ รถ รถยก และรถตู้ให้เชา่ 3) อาชีพการผลติ หรือจ�ำ หนา่ ยเคร่ืองประดับ 4.2 อาชพี อิสระทอี่ ยู่ในกลุม่ B อาชพี อสิ ระท่ผี ลการวเิ คราะห์ โดย GE Matrix อย่ใู นกลุม่ B ถือเปน็ อาชพี อิสระทมี่ ีแนวโน้ม การเตบิ โตในอนาคตระดบั ปานกลาง ซ่งึ ตอ้ งระวงั การลงทุนขนาดใหญ่ เพราะโอกาสยงั ไมอ่ ำ�นวย ประกอบด้วย 28 อาชพี (ตารางท่ี 4.11) โดย 5 อาชีพแรกท่ีอย่ใู นกลมุ่ B คอื 1) อาชีพบรกิ ารจดั ตกแต่งสถานท่ี รับจัดงานอเี วนท์ 2) อาชีพบรกิ ารโฮมสเตย์ รสี อรท์ แมนช่ัน หอ้ งเชา่ 3) อาชีพบริการซ่อมรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ 4) อาชพี บริการซ่อมแอร์ ไดนาโมและอุปกรณไ์ ฟฟา้ 5) อาชีพที่เก่ียวข้องกับการผลิตเคร่ืองดื่ม เช่น นำ้�องุ่น น้ำ�ตาลสด น้ำ�หมากเม่า น้ำ�เฉาก๊วย เปน็ ตน้ ตารางท่ี 4.11 ผลการวิเคราะหแ์ นวโน้มอาชีพอสิ ระในอนาคตจากผูป้ ระกอบอาชพี อสิ ระ อาชพี คะแนนการ คะแนนความ ผลการ จูงใจของ แขง็ แกร่งของ วิเคราะห์ การคา้ ขายสนิ คา้ เบด็ เตลด็ เชน่ การขายสนิ คา้ ทางอนิ เตอรเ์ นต็ ตลาด เครอ่ื งส�ำ อาง สนิ คา้ มอื สอง ขายปยุ๋ ขายยาก�ำ จดั ศตั รพู ชื เปน็ ตน้ ธรุ กจิ A บริการใหเ้ ช่ารถ รถยก และรถตใู้ ห้เช่า 3.44 การผลติ หรือจำ�หนา่ ยเคร่ืองประดบั 3.75 A บรกิ ารจัดตกแตง่ สถานท่ี รบั จดั งานอีเวนท์ 3.54 A บรกิ ารโฮมสเตย์ รีสอรท์ แมนชน่ั หอ้ งเชา่ 3.46 3.69 B บรกิ ารซอ่ มรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ 3.44 3.68 B บริการซ่อมแอร์ ไดนาโมและอปุ กรณ์ไฟฟา้ 3.16 3.52 B การผลิตเครือ่ งด่ืม เชน่ นำ�้ องุ่น น้�ำ ตาลสด น้�ำ หมากเมา่ 3.39 3.66 B น้ำ�เฉากว๊ ย เป็นต้น 3.24 3.55 B การผลติ หรือจำ�หน่ายประตเู หลก็ ดดั ลวดดดั 3.22 3.64 การขายปลีก เชน่ เครื่องใชไ้ ฟฟ้า เครอื่ งสำ�อาง อาหารเสริม 3.44 B เปน็ ตน้ 3.10 B การผลิตหรอื จำ�หน่ายผลิตภัณฑเ์ คร่อื งหนัง 3.49 3.29 การประมงและการเพาะเลย้ี งสัตวน์ �ำ้ 3.54 B บริการซ่อมคอมพวิ เตอรแ์ ละของใชส้ ่วนบคุ คล 3.27 B การผลติ หรือจำ�หนา่ ยผลิตภัณฑ์จากไม้ 2.97 3.53 B การผลติ หรือจ�ำ หนา่ ยเฟอรน์ ิเจอร์ 3.25 3.25 B 3.26 3.41 B 3.19 3.44 3.55 กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 87

ตารางที่ 4.11 ผลการวเิ คราะห์แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคตจากผปู้ ระกอบอาชีพอสิ ระ (ตอ่ ) อาชีพ คะแนนการ คะแนนความ ผลการ จูงใจของ แขง็ แกรง่ ของ วิเคราะห์ การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยกระดาษและผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู จากกระดาษ ตลาด การผลิตหรือจำ�หนา่ ยส่ิงทอ ธุรกจิ B การผลิตหรือจำ�หน่ายงานด้านศิลปะ เช่น ภาพวาดลายเส้น 2.50 B การท�ำ หวั โขน เป็นตน้ 3.30 3.29 B การผลติ หรอื จ�ำ หน่ายผลติ ภณั ฑจ์ ากกะลามะพรา้ ว 3.18 3.55 การผลิตหรอื จำ�หนา่ ยผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพร 3.29 B การผลติ หรือจำ�หน่ายดอกไม้ประดิษฐ์ 3.27 B การผลติ ผลติ ภณั ฑอ์ าหาร 3.10 3.55 B การผลติ หรอื จ�ำ หน่ายเส้อื ผา้ เครอ่ื งแตง่ กาย 3.14 3.55 B บริการเสรมิ สวย ตดั ผม นวดแผนโบราณและสปา 3.04 3.30 B การเพาะปลูกและการเลยี้ งสัตว์ 3.33 3.38 B การผลติ หรอื จ�ำ หน่ายของชำ�รว่ ย ของท่ีระลกึ 3.19 3.46 B ร้านขายน�้ำ เชน่ ขายกาแฟ โอเลย้ี ง และนำ้�ปั่น เปน็ ต้น 3.08 3.34 B การจำ�หนา่ ยอาหาร 3.11 3.37 B การผลิตหรอื จำ�หนา่ ยผลิตภัณฑ์จกั สาน 3.19 3.36 B การผลติ หรือจ�ำ หน่ายไม้กวาด 3.01 3.49 B การผลิตหรือจ�ำ หน่ายอฐิ เซรามิค หรือเครอื่ งป้นั ดนิ เผา 2.96 3.35 B 2.91 3.12 B 3.09 3.31 3.25 ภาพที่ 4.1 ผลการวิเคราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชีพการ ค้าขายสินค้าเบ็ดเตล็ด เช่น การ ขายสนิ คา้ ทางอนิ เตอร์เนต็ เครอื่ ง สำ�อาง สนิ คา้ มือสอง ขายปยุ๋ ขาย ยาก�ำ จัดศตั รพู ชื เปน็ ตน้ 88 แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหน้า (พ.ศ. 2558 - 2560)

ภาพท่ี 4.2 ผลการวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบ GE Matrix ของอาชีพบริการ ใหเ้ ชา่ รถ รถยก และรถต้ใู หเ้ ช่า ภาพท่ี 4.3 ผลการวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี ผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยเครอ่ื งประดบั ภาพท่ี 4.4 ผลการวิเคราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี จดั ตกแตง่ สถานที่ รับจดั งานอีเวนท์ ภาพที่ 4.5 ผลการวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี บรกิ าร โฮมสเตย์ รสี อรท์ แมนชน่ั หอ้ งเชา่ กองวจิ ยั ตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 89

ภาพท่ี 4.6 ผลการวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี บรกิ าร ซ่อมรถยนตห์ รือรถจักรยานยนต์ ภาพที่ 4.7 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ บริการซ่อมแอร์ ไดนาโมและ อุปกรณไ์ ฟฟา้ ภาพท่ี 4.8 ผลการวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การผลติ เคร่อื งด่ืม เช่น น้�ำ องุ่น นำ�้ ตาลสด น�้ำ หมากเมา่ น้�ำ เฉากว๊ ย เปน็ ตน้ ภาพท่ี 4.9 ผลการวิเคราะห์โดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ การผลิตหรือจำ�หน่ายประตูเหล็ก ดัด ลวดดัด 90 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ภาพท่ี 4.10 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ขายปลกี ภาพท่ี 4.11 ผลการวิเคราะห์โดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ การผลิตหรือจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ เคร่อื งหนงั ภาพท่ี 4.12 ผลการวิเคราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ประมงและการเพาะเลีย้ งสตั วน์ ้ำ� ภาพที่ 4.13 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ บรกิ ารซอ่ มคอมพวิ เตอรแ์ ละของใช้ สว่ นบุคคล กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 91

ภาพที่ 4.14 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑจ์ ากไม้ ภาพท่ี 4.15 ผลการวิเคราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรอื จ�ำ หนา่ ยเฟอร์นเิ จอร์ ภาพท่ี 4.16 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรือจำ�หน่ายกระดาษและ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกระดาษ ภาพที่ 4.17 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรือจำ�หนา่ ยส่งิ ทอ 92 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ภาพท่ี 4.18 ผลการวิเคราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรอื จ�ำ หน่ายงานด้านศิลปะ ภาพที่ 4.19 ผลการวเิ คราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรือจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์จาก กะลามะพรา้ ว ภาพที่ 4.20 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ การผลิตหรือจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ สมุนไพร ภาพท่ี 4.21 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยดอกไมป้ ระดษิ ฐ์ กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 93

ภาพท่ี 4.22 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ ผลิตภณั ฑ์อาหาร ภาพท่ี 4.23 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลิตหรือจำ�หน่ายเส้ือผ้าเครื่อง แตง่ กาย ภาพท่ี 4.24 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตัวแบบ GE Matrix ของอาชีพ บริการเสรมิ สวย ตดั ผม นวดแผน โบราณและสปา ภาพท่ี 4.25 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ เพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ 94 แนวโน้มอาชพี อิสระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

ภาพท่ี 4.26 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ จำ�หน่ายของช�ำ ร่วย ของที่ระลกึ ภาพที่ 4.27 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี รา้ น ขายนำ้� เช่น ขายกาแฟ โอเล้ียง และนำ�้ ปัน่ เป็นตน้ ภาพที่ 4.28 ผลการวเิ คราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ จำ�หนา่ ยอาหาร ภาพท่ี 4.29 ผลการวเิ คราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑจ์ กั สาน กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 95

ภาพท่ี 4.30 ผลการวเิ คราะห์โดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ หรอื จ�ำ หน่ายไม้กวาด ภาพท่ี 4.31 ผลการวิเคราะหโ์ ดย ตวั แบบ GE Matrix ของอาชพี การ ผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยอฐิ เซรามคิ หรอื เคร่ืองปน้ั ดนิ เผา 96 แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

บทท่ี 5 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การวิจัย เร่ือง แนวโน้มอาชีพอิสระในอนาคต 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2558-2560) มีวัตถุประสงค์เพ่ือ ศกึ ษาแนวโน้มอาชพี อสิ ระในอนาคต 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2558-2560) และเพื่อเปน็ ข้อมูลในการแนะแนวอาชพี ตามภารกจิ ดา้ นการสง่ เสรมิ การประกอบอาชพี อสิ ระของกองสง่ เสรมิ การมงี านท�ำ กรมการจดั หางาน เปน็ การวจิ ยั เชิงสำ�รวจ (Survey Research) แบบผสมวธิ ี (Mixed Method Research) ประกอบดว้ ยการเก็บรวบรวมข้อมลู เชงิ ปรมิ าณและขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพพรอ้ ม ๆ กนั โดยกลมุ่ ตวั อยา่ งส�ำ หรบั เกบ็ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ คอื ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระ จ�ำ นวน 1,633 ราย และกลมุ่ ตวั อยา่ งส�ำ หรบั เกบ็ ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ ประกอบดว้ ย เจา้ หนา้ ทส่ี นิ เชอื่ ธนาคาร จำ�นวน 400 ราย และผู้ทรงคุณวฒุ ิท่เี กยี่ วขอ้ งทเี่ ขา้ รว่ มประชมุ กลุ่ม (Focus Group) จำ�นวน 42 ราย ประกอบ ด้วย รองอธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้อำ�นวยการกองส่งเสริมการมีงานทำ� ผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมการมี งานท�ำ อาจารย์ดา้ นเศรษฐศาสตร์ เกษตรจังหวัด ปศสุ ตั วจ์ ังหวัด พาณชิ ยจ์ งั หวดั พัฒนาการจังหวดั หอการค้า จงั หวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจงั หวัด เจ้าหนา้ ท่ีสนิ เช่ือธนาคาร สมาคมธุรกิจทอ่ งเที่ยวจังหวัด และตัวแทน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยเคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และ แบบสัมภาษณ์ ดำ�เนินการ เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลจากกลมุ่ ตวั อยา่ งท่วั ประเทศ ท�ำ การวเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยสถิติ คา่ ความถ่ี ค่าร้อยละ ค่าเฉลีย่ สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน และตวั แบบ GE Matrix ซง่ึ ผวู้ จิ ยั มขี อ้ สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะจากการวจิ ยั ดงั น้ี 5.1 สรปุ ผลการวิจยั จากผลการวจิ ยั เรอื่ ง แนวโนม้ อาชีพอิสระในอนาคต 3 ปขี า้ งหน้า (พ.ศ. 2558 – 2560) สรปุ ผล การวจิ ยั เป็น 2 ส่วน ดังน้ี 5.1.1 การวเิ คราะหล์ กั ษณะท่ัวไปของการประกอบอาชีพอิสระ 1) ลักษณะทว่ั ไปของผู้ประกอบอาชพี อิสระ ผู้ประกอบอาชีพอิสระสว่ นใหญ่เปน็ เพศหญงิ มอี ายุระหว่าง 41-50 ปี มากทีส่ ุด รองลง มาคือ อายุ 51- 60 ปี และอายุ 31 - 40 ปี ทงั้ น้พี บว่า เปน็ ผูม้ ีการศึกษาระดับประถมศกึ ษาและต่�ำ กวา่ มากท่สี ดุ รองลงมาคอื ระดบั ปริญญาตรี และระดบั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 กองวจิ ัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 97

2) ลกั ษณะการประกอบอาชีพอสิ ระ ผู้ประกอบอาชีพอิสระในปัจจุบันประกอบอาชีพเกี่ยวกับการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร มากทสี่ ดุ รองลงมาคอื การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยสงิ่ ทอ และการเพาะปลกู และการเลย้ี งสตั ว์ โดยผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระ สว่ นใหญ่ ใชเ้ งนิ ทนุ สว่ นตวั หรอื ครอบครวั ในการลงทนุ ประกอบอาชพี อสิ ระ รองลงมาคอื กยู้ มื จากกองทนุ ตา่ ง ๆ ของภาครัฐ และกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ส่วนใหญ่ไม่ต้องมีลูกจ้าง ร้อยละ 56.95 และต้องมีลูกจ้าง ร้อยละ 43.05 โดยกลมุ่ ทมี่ ีลูกจา้ ง สว่ นใหญ่มีลกู จา้ ง นอ้ ยกว่า 5 คน รองลงมาคอื 5 - 9 คน และ 10 - 14 คน ตามล�ำ ดับ 3) ผลการประกอบกจิ การของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระสว่ นใหญม่ รี ายไดท้ ยี่ งั ไมห่ กั คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลยี่ ตอ่ เดอื น ไมเ่ กนิ 30,000 บาท รองลงมาคือ 30,001 – 60,000 บาท และมากกวา่ 120,001 บาท โดยมีมัธยฐานของรายได้เท่ากบั 20,000 บาท ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2555 พบว่าผู้ประกอบอาชีพอิสระ มีกำ�ไรมากกว่า 120,001 บาท มากที่สุด รองลงมาคือ ไมเ่ กิน 30,000 บาท และ 30,001 – 60,000 บาท โดยมมี ัธยฐานกำ�ไรในปี พ.ศ. 2555 เท่ากบั 100,000 บาท ส�ำ หรบั ปี พ.ศ. 2556 พบวา่ ผูป้ ระกอบอาชพี อสิ ระมกี �ำ ไรมากกว่า 120,001 บาท มากที่สดุ รองลงมาคอื ไมเ่ กิน 30,000 บาท และ 30,001 – 60,000 บาท โดยมีมัธยฐานก�ำ ไรในปี พ.ศ. 2556 เทา่ กบั 96,000 บาท และพบว่า ในปี พ.ศ. 2556 ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระสว่ นใหญม่ กี �ำ ไร โดยในอนาคตผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระสว่ นใหญค่ าดการณ์ วา่ จะมกี ำ�ไร มีเพยี งร้อยละ 1.71 เทา่ น้ันทค่ี าดวา่ จะขาดทุน อย่างไรกต็ าม ในภาพรวม ผ้ปู ระกอบอาชีพอสิ ระ สว่ นใหญ่ไมค่ ดิ จะเปลยี่ นแปลงอาชพี 5.1.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูลอาชพี อสิ ระจากเจ้าหนา้ ท่สี ินเชื่อธนาคาร ผลการวิเคราะห์ข้อมูลอาชีพอิสระจากเจ้าหน้าท่ีสินเชื่อธนาคาร พบว่า อาชีพอิสระท่ีมี แนวโน้มทดี่ ใี นอนาคตท่จี ะนำ�เขา้ สกู่ ารวเิ คราะห์ดว้ ยตวั แบบ GE Matrix มี 3 อาชีพ ประกอบด้วย 1) อาชพี การขายปลีก เช่น ขายสินค้าอุปโภคบรโิ ภค ขายเสื้อผา้ ส�ำ เร็จรปู และขายเคมีภณั ฑ์ เกษตร 2) อาชพี การเพาะปลูกและการเลย้ี งสตั ว์ 3) อาชพี การบรกิ ารด้านอาหารและเครือ่ งด่ืม 5.1.3 การวิเคราะหข์ ้อมูลอาชพี อิสระจากการประชุมกลุม่ (Focus Group) ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลอาชพี อิสระจากการประชุมกลมุ่ (Focus Group) ท้ัง 4 ภมู ิภาค พบวา่ อาชีพอสิ ระท่มี แี นวโน้มทีด่ ีในอนาคตที่จะนำ�เขา้ สกู่ ารวเิ คราะหด์ ้วยตวั แบบ GE Matrix ประกอบด้วย 1) อาชพี ปลูกพืชปลอดสารพิษ 2) อาชพี ปลูกพืชสมุนไพร 3) อาชีพเล้ยี งสตั ว์เศรษฐกิจ (ไก่ สุกร โคเนอื้ โคนม) 4) อาชพี ปลกู ขา้ วหอมนลิ 5) อาชพี เล้ียงไส้เดือน 6) อาชพี ทอผ้าไหม ผ้าฝา้ ย 7) อาชีพผลิตขนมไทย ขนมโบราณ 8) อาชพี ผลติ อาหารทเี่ ป็นเอกลกั ษณ์ท้องถ่ิน 9) อาชีพทอเส่อื กระจูด 10) อาชีพผลิตของทีร่ ะลกึ 98 แนวโน้มอาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปี ขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560)

11) อาชีพนวดแผนไทย 12) อาชพี บริการซอ่ มแซมภายในบา้ น (สารพดั ช่าง) 13) อาชีพดแู ลผู้สูงอายุ 14) อาชีพพนกั งานรกั ษาความปลอดภยั และแมบ่ ้าน 15) อาชีพดแู ลผู้ปว่ ยตามบ้าน 5.1.4 การวเิ คราะห์แนวโนม้ อาชีพอสิ ระในอนาคต 3 ปีข้างหนา้ (พ.ศ. 2558 - 2560) จากการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทง้ั เชงิ ปรมิ าณ และเชงิ คณุ ภาพ และท�ำ การวเิ คราะหแ์ นวโนม้ อาชพี อสิ ระในอนาคต พบวา่ มอี าชพี อสิ ระทนี่ �ำ มาวเิ คราะหโ์ ดยตวั แบบของบรษิ ทั เจนเนอรลั อเิ ลก็ ตรกิ (General Electric Business Screen Model) ได้ทง้ั หมด 31 อาชพี จำ�แนกได้ 2 กลมุ่ ดงั นี้ 1) กลุ่มอาชพี อิสระทมี่ ีแนวโน้มการเตบิ โตทด่ี ใี นอนาคต 1.1) อาชพี ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การคา้ ขายสนิ คา้ เบด็ เตลด็ เชน่ การขายสนิ คา้ ทางอนิ เตอรเ์ นต็ เครอ่ื งสำ�อาง สินคา้ มอื สอง ขายปยุ๋ ขายยากำ�จดั ศตั รูพชื เปน็ ต้น 1.2) อาชีพที่เกีย่ วขอ้ งกับการบรกิ ารใหเ้ ช่ารถ รถยก และรถตใู้ หเ้ ชา่ 1.3) อาชพี ทเี่ กย่ี วข้องกบั การผลิตหรือจ�ำ หนา่ ยเครอื่ งประดบั 2) กลุ่มอาชพี อสิ ระท่มี แี นวโน้มการเติบโตในอนาคตระดับปานกลาง 2.1) บรกิ ารจดั ตกแต่งสถานที่ รบั จัดงานอเี วนท์ 2.2) บรกิ ารโฮมสเตย์ รีสอรท์ แมนชั่น หอ้ งเช่า 2.3) บริการซ่อมรถยนตห์ รือรถจกั รยานยนต์ 2.4) บริการซ่อมแอร์ ไดนาโม และอปุ กรณ์ไฟฟ้า 2.5) การผลติ เครอื่ งด่มื เช่น น�ำ้ องนุ่ นำ�้ ตาลสด น�้ำ หมากเมา่ น�้ำ เฉากว๊ ย เป็นตน้ 2.6) การผลิตหรือจ�ำ หน่ายประตูเหลก็ ดดั ลวดดัด 2.7) การขายปลกี เช่น เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า เครื่องส�ำ อาง อาหารเสริม เปน็ ต้น 2.8) การผลิตหรือจำ�หนา่ ยผลติ ภณั ฑเ์ คร่ืองหนัง 2.9) การประมงและการเพาะเล้ยี งสัตวน์ �้ำ 2.10) บริการซ่อมคอมพวิ เตอรแ์ ละของใชส้ ว่ นบคุ คล 2.11) การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยผลิตภณั ฑ์จากไม้ 2.12) การผลติ หรือจ�ำ หน่ายเฟอรน์ ิเจอร์ 2.13) การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยกระดาษและผลติ ภณั ฑแ์ ปรรูปจากกระดาษ 2.14) การผลิตหรือจ�ำ หน่ายสิ่งทอ 2.15) การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยงานดา้ นศลิ ปะ เชน่ ภาพวาดลายเสน้ การท�ำ หวั โขน เปน็ ตน้ 2.16) การผลติ หรือจ�ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑ์จากกะลามะพร้าว 2.17) การผลติ หรอื จ�ำ หนา่ ยผลติ ภัณฑ์สมนุ ไพร 2.18) การผลติ หรือจำ�หน่ายดอกไม้ประดิษฐ์ 2.19) การผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร 2.20) การผลิตหรอื จ�ำ หนา่ ยเสือ้ ผ้าเคร่ืองแตง่ กาย 2.21) บริการเสริมสวย ตัดผม นวดแผนโบราณ และสปา 2.22) การเพาะปลูก และการเล้ยี งสตั ว์ กองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน 99


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook