สรุปผลการศึกษาค้นคว้า ข้อเสนอแนะ โครงงานคณิตศาสตร์ เรอื่ ง สูตรคณิตแนวคดิ ใหมพ่ ชิ ติ ชยั การคณู พหุนาม โครงงานคณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง สตู รคณติ แนวคิดใหมพ่ ิชิตชยั การคูณ 1. ควรมกี ารศกึ ษาคน้ คว้าเพม่ิ เตมิ ต่อไปอีก ในรูปแบบ พหุนาม สรุปผลดงั น้ี ต่าง ๆ อกี ท้งั การจัดทำโครงงานลกั ษณะนมี้ ีความทา้ ทาย ผู้จัดทำ ผจู้ ัดทำ ตอ้ งระดมความคิดชว่ ยเหลือกันอยา่ งเตม็ ที่ เมอ่ื งานสำเรจ็ จะเกดิ 1. เดก็ ชายเปรม ฮมภริ มย์ นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 1. ไดอ้ งค์ความรู้ใหมข่ องการคณู พหนุ าม เมื่อ a, b, c ความภาคภูมใิ จในผลงาน และทำใหร้ กั ในวชิ าคณติ ศาสตร์ 2. เดก็ หญิงกมลชนก สังข์เทย้ี ม นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 และ d เปน็ จำนวนเตม็ มากย่ิงขึน้ 3. เด็กชายประภาวนิ บุญภักดี นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 2. เปรยี บเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นคณิตศาสตร์ 2. ควรมีผเู้ ชยี่ วชาญทางดา้ นคณติ ศาสตรใ์ ห้คำแนะนำ ครทู ่ปี รึกษาโครงงาน ระหว่างก่อนและหลังการใช้องค์ความร้ใู หม่ เร่อื ง สูตรคณติ แนวคดิ ในการจัดทำโครงงานแต่ละคร้งั 1. นางเมตตา ทบั ศรีแก้ว ใหม่พิชติ ชัยการคณู พหนุ าม สงู ขนึ้ จากคา่ เฉลยี่ 7.34 เป็น 17.16 2. นางนติ ยา พรมกอง 3. ควรมกี ารเผยแพร่ผลงานสโู่ รงเรียนอนื่ ๆ เพิ่มขนึ้ 3. นักเรียนมีความพึงพอใจตอ่ การใช้องคค์ วามรู้ใหม่ เพอื่ ใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหา เร่อื ง สูตรคณิตแนวใหมพ่ ิชิตชัยการคณู พหุนาม ในระดบั ดีเย่ียม โดยมีค่าเฉล่ยี เทา่ กับ 4.75 และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานเท่ากับ คณิตศาสตรม์ ีบทบาทสำคญั ยง่ิ ต่อความสำเรจ็ ในการเรียนรู้ 0.24 ในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากคณิตศาสตร์ชว่ ยใหม้ นุษยม์ คี วามคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ คดิ อยา่ งมเี หตผุ ล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถ 4. ได้แบบรปู การคณู พหนุ าม n วงเล็บ ดงั น้ี วเิ คราะห์ปญั หา หรอื สถานการณไ์ ดอ้ ย่างรอบคอบและถถี่ ว้ น ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และสามารถนำไปใชใ้ นชีวติ จรงิ ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ นอกจากน้คี ณิตศาสตรย์ งั เปน็ เครือ่ งมือ ในการศกึ ษาด้าน วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อน่ื ๆ อนั เปน็ รากฐานในการ พัฒนาทรพั ยากรบคุ คลของชาติให้มคี ุณภาพและพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศใหท้ ัดเทยี มกบั นานาชาติ การศกึ ษาคณติ ศาสตร์ จงึ จำเปน็ ต้องมีการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง เพื่อใหท้ นั สมัยและ สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกจิ สงั คมและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยที เ่ี จริญกา้ วหนา้ อย่างรวดเรว็ ในยุคโลกาภวิ ตั น์ (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2560)
และจากสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นทีต่ อ้ งมี 5 ขอ้ ได้ยดึ ตาม สมมตฐิ าน ตัวแปร ตัวแปรท่ีใชใ้ นการศึกษาครงั้ น้ี คอื กรอบหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ตัวแปรอสิ ระ ไดแ้ ก่ โครงงานคณิตศาสตร์ ดังนี้ 1) ความสามารถในการส่ือสาร 2) ความสามารถในการคดิ 1. ได้องค์ความรู้ใหม่ของการคณู พหนุ าม 3) ความสามารถในการแก้ปญั หา 4) ความสามารถในการใช้ (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เม่ือ a, b, c และ d เป็นจำนวนเต็ม เร่ือง สูตรคณติ แนวคดิ ใหมพ่ ิชติ ชยั การคูณพหุนาม ทกั ษะชีวติ และ 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่ 2. นกั เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์หลงั การใชอ้ งคค์ วามรใู้ หม่ 1) องคค์ วามรู้ใหมข่ องการคูณพหนุ าม จากความสำคญั ของวชิ าคณิตศาสตรท์ ีก่ ลา่ วมา ครผู สู้ อน เร่อื ง สูตรคณิตแนวคดิ ใหม่พชิ ิตชยั การคณู พหนุ าม สูงขึน้ วชิ าคณติ ศาสตรโ์ รงเรยี นบวั ใหญ่ ทุกทา่ นจงึ ใชแ้ นวการสอนทเ่ี นน้ (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เม่ือ a, b, c และ d เป็นจำนวนเต็ม ใหน้ กั เรยี นไดค้ ดิ และวเิ คราะหป์ ญั หาเพอ่ื หาคำตอบด้วยตนเอง 3. นักเรียนมีความพงึ พอใจต่อการใช้องค์ความรู้ใหม่ 2) ผลสมั ฤทธิใ์ นการเรียนคณิตศาสตร์ โดยในรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ท่ีผ่านมา เรือ่ ง สตู รคณติ แนวคดิ ใหมพ่ ิชติ ชัยการคูณพหนุ าม ในระดบั ดเี ยยี่ ม ครูมอบหมายงานนักเรียนแตล่ ะกลุ่มไปจัดทำโครงงานมากลมุ่ ละ เรอื่ ง สูตรคณิตแนวคดิ ใหมพ่ ชิ ติ ชัยการคูณพหุนาม 1 เร่อื ง หลังจากนนั้ ทางผจู้ ดั ทำโครงงานกไ็ ดไ้ ปศึกษาวิธีการจดั ทำ 4. ไดแ้ บบรูปการคณู พหุนาม n วงเล็บ 3) ความพึงพอใจของนกั เรียนท่ีมีต่อการใช้ โครงงานและประเภทของโครงงานคณิตศาสตร์ในอนิ เตอรเ์ น็ต และสอบถามคณุ ครูท่มี ีความรใู้ นเรือ่ งของโครงงาน คณะผจู้ ัดทำ ขอบข่ายเนื้อหาคณติ ศาสตร์ทเี่ กีย่ วข้อง องคค์ วามรู้ใหม่ เรื่อง สูตรคณติ แนวคิดใหม่พิชติ ชยั การคณู พหนุ าม จึงคิดท่จี ะทำโครงงานการหา ผลคณู ของพหนุ าม 4 วงเล็บ ดังนี้ 4) ได้แบบรูปของความสมั พันธข์ องการคูณ เนอ้ื หาวิชาคณติ ศาสตร์ เร่อื ง เลขยกกำลัง พหุนาม (x −a)(x −b) (x −c)(x −d) เมื่อ a, b, c และ d และแบบรปู พหุนาม n วงเล็บ เป็นจำนวนเต็มขน้ึ และศกึ ษาแบบรูปของความสัมพันธ์จาก ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ การคณู แบบวิธที ไ่ี ด้เรยี นมา จนนำไปส่กู ารสร้างองคค์ วามรใู้ หม่ และแบบรูปการคณู พหนุ าม n วงเล็บ ประชากร ประชากรทีใ่ ช้ในการศึกษาคร้ังนเี้ ป็นนักเรยี น 1. ได้องค์ความร้ใู หมข่ องการคณู พหุนาม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบวั ใหญ่ จงั หวดั (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เมอื่ a, b, c และ d เป็นจำนวนเต็ม วัตถุประสงค์ในการวจิ ัย นครราชสมี า จำนวน 10 หอ้ งเรยี น ซ่งึ จดั นักเรยี นแตล่ ะชนั้ เรียน จากโครงงาน เรื่อง สตู รคณติ แนวคิดใหมพ่ ิชติ ชัยการคณู พหนุ าม แบบคละความสามารถ จำนวน 365 คน 1. เพือ่ ศกึ ษาค้นควา้ องคค์ วามรูใ้ หมข่ องการคูณพหุนาม 2. นักเรยี นมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและความชำนาญในการ (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เมื่อ a, b, c และ d เปน็ จำนวนเตม็ กลมุ่ ตัวอยา่ ง กลมุ่ ตวั อยา่ งท่ีใช้ในการศึกษาครง้ั น้ีเป็น หาผลคณู ของพหุนาม (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เม่อื a, b, c และ d จากโครงงาน เรอื่ ง สตู รคณติ แนวคิดใหมพ่ ชิ ติ ชยั การคณู พหุนาม นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2/2 โรงเรียนบัวใหญ่ ภาคเรียนที่ 2 เป็นจำนวนเตม็ ปีการศกึ ษา 2564 เลือกแบบเจาะจงมา 1 ห้องเรยี น 2. เพอ่ื เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นคณติ ศาสตร์ จำนวน 38 คน 3. นกั เรยี นสามารถนำความร้ทู ี่ไดจ้ ากองคค์ วามรใู้ หม่ของ ระหว่างกอ่ นและหลงั การใชอ้ งค์ความรูใ้ หม่ เร่ือง สตู รคณติ แนวคดิ การคณู พหุนาม (x-a) (x-b ) (x-c) (x-d) เมือ่ a, b, c และ d ใหม่พชิ ติ ชัยการคูณพหุนาม เนื้อหาท่ใี ชใ้ นการจัดทำโครงงาน เนอื้ หาที่ใชใ้ นการศกึ ษา เป็นจำนวนเต็ม จากโครงงาน เรื่อง สูตรคณติ แนวคดิ ใหมพ่ ชิ ิตชยั คน้ ควา้ คอื องค์ความรู้ใหม่ของการคณู พหุนาม การคณู พหนุ ามไปใช้ในกจิ กรรมการเรยี นการสอนและนำไป 3. เพ่ือประเมินความพงึ พอใจของนกั เรียนที่มีตอ่ การใช้ (x-a) (x-b) (x-c) (x-d) เมือ่ a, b, c และ d เปน็ จำนวนเต็มจาก เผยแพร่เพ่อื ให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ ผอู้ ื่น องค์ความรู้ใหม่ เร่ือง สตู รคณติ แนวคิดใหมพ่ ชิ ิตชยั การคณู พหนุ าม การศกึ ษาความสมั พันธ์ของการคูณพหุนาม โดยใช้องคค์ วามรู้เดมิ 4. ได้แบบรูปการคูณพหุนาม n วงเลบ็ ดังนี้ 4. เพื่อศึกษาแบบรปู การคณู พหุนาม n วงเล็บ
Search
Read the Text Version
- 1 - 2
Pages: