แผนการจัดการเรียนรู้ที่end

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 การใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต วันที่ 28 เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใชเ้ วลา 1 ชวั่ โมง/คาบ ผู้สอน วัชรพงศ์ ผานดอยแดน (108) 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรียนรู้ ว4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คํานวณในการแกป้ ัญหาทีพ่ บในชวี ิตจรงิ อย่างเป็น ข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทํางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวชวี้ ดั ป.4/3ใช้อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรูแ้ ละประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมูล 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. อธิบายความหมายของขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. บอกขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ด้านทกั ษะกระบวนการ 1.นกั เรยี นปฏบิ ตั ิการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ ตามขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.ใฝเ่ รยี นรู้ 2.มงุ่ มนั่ ในการทำงาน สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 3. สาระสำคัญ อนิ เทอรเ์ น็ตเปน็ เครอื ข่ายทป่ี ระกอบด้วยเครือข่ายยอ่ ยจำนวนมากตอ่ เชือ่ มเขา้ ด้วยกนั จน กลายเปน็ เครือขา่ ยขนาดใหญ่ โดยแต่ละเครอื จะมีขอ้ กำหนดและระเบยี บในการใช้งานแตกตา่ งกัน ดงั น้ัน ผ้ทู ่เี ขา้ มาใชเ้ ครอื ขา่ ยจำเปน็ ตอ้ งรบั ทราบและปฏิบตั ติ ามแนวทางท่ี ผู้ดแู ลเครือข่ายไดก้ ำหนดไว้ 4. สาระการเรยี นรู้ ขอ้ ควรปฏิบัตใิ นการใชง้ านอนิ เทอร์เนต็

5. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ครูตัง้ คำถามเพอ่ื วดั ความรพู้ ื้นฐานของนักเรยี นว่า นักเรียนคดิ ว่าขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการใช้ งานอินเทอร์เน็ตมอี ะไรบ้าง (นกั เรยี นตอบตามความคิดของแตล่ ะคน) 2.ครบู อกกับนักเรียนวา่ จากท่นี ักเรยี นตอบคำถามมาทัง้ หมดเป็นข้อควรปฏบิ ัติในการใช้งาน อนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ไมเ่ รามาเรมิ่ เรียนเร่ืองข้อปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ กนั เลยนะครบั ข้ันสอน (วิธีสอน/นวตั กรรม) 1.ผู้สอนอธบิ ายถงึ ความหมายของขอ้ ควรระวงั ในการใช้งานอนิ เทอร์เนต็ วา่ มันคอื อะไร 2.ผสู้ อนอธบิ ายวา่ ข้อควรระวงั ในการใช้งานอนิ เทอร์เน็ต มีอะไรบ้าง พร้อมยกตัวอยา่ งคราวๆ โดยใช้วดี ีโอตวั อย่างเรอ่ื งข้อควรระวงั ในการใชง้ านอินเทอร์เน็ต 3.ผู้สอนแจกใบความรู้ในเร่อื ง ขอ้ ควรระวังในการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ 4.ใหน้ ักเรียนสรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศึกษาใบงาน 5.ผูส้ อนให้ผู้เรยี นออกมานำเสนอสง่ิ ท่ีผูเ้ รยี นสรุป เพอ่ื แลกเปลี่ยนความรู้กับเพอ่ื นภายใน ห้องเรยี น ขั้นสรปุ 1.ผเู้ รยี นและผูส้ อนรว่ มกนั สรปุ เนื้อหาในเรื่อง ขอ้ ควรระวงั ในการใชง้ านอินเทอร์เน็ต 2.ท้ายคาบผสู้ อนแจกแบบทดสอบหลงั เรียนให้นกั เรยี น เพ่อื ทดสอบความรขู้ องนกั เรยี น 3.ผสู้ อนตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน 6. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 6.1 คอมพิวเตอร์ 6.2 แบบทดสอบหลังเรยี น 6.3 ใบความรเู้ รอ่ื ง ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต 6.4 PowerPoint เรอ่ื ง ข้อควรปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านอินเทอรเ์ น็ต

7. การวัดผลและประเมินผล 1. การวดั ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ ดา้ นความรู้ ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ(อตั นัย) 1. อธิบายความหมายของขอ้ ควรปฏิบตั ิในการใชง้ าน อนิ เทอรเ์ น็ตไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง สังเกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรมการ 2. บอกขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ไดอ้ ยา่ ง ปฏบิ ัติงาน ปฏิบัตงิ าน ถกู ตอ้ ง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ประเมนิ คุณลกั ษณะอัน แบบประเมินคุณลักษณะ 1.นกั เรยี นปฏิบตั กิ ารใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตตามขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ น พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ การใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินสมรรถนะสำคัญ แบบประเมนิ สมรรถนะ 1.ใฝ่เรยี นรู้ ของผู้เรียน สำคัญของผู้เรยี น 2.มงุ่ ม่นั ในการทางาน สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 1.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 2.ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

2. เกณฑ์การประเมนิ ผล(รบู ริกส)์ ประเดน็ การ (3) ระดบั คณุ ภาพ (0) นำ้ หนกั ประเมนิ ดมี าก ตอ้ งปรบั ปรงุ (2) (1) ดี กำลังพัฒนา ดา้ นความรู้ อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธิบายความหมาย 4 1. อธบิ าย ของขอ้ ควรปฏิบัตใิ น ของขอ้ ควรปฏบิ ัติใน ของขอ้ ควรปฏบิ ตั ิใน ของขอ้ ควรปฏิบัตใิ น ความหมายของข้อ การใช้งาน การใช้งาน การใชง้ าน การใช้งาน ควรปฏบิ ตั ิในการ อินเทอร์เนต็ ไดอ้ ยา่ ง อนิ เทอร์เนต็ ไดอ้ ย่าง อนิ เทอร์เนต็ ไดอ้ ยา่ ง อนิ เทอร์เน็ตได้อย่าง ใช้งานอนิ เทอร์เนต็ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ได้อย่างถูกตอ้ ง บอกขอ้ ควรปฏิบัตใิ น บอกขอ้ ควรปฏิบัติ บอกขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ น บอกขอ้ ควรปฏิบัติใน 2. บอกขอ้ ควร การใชง้ าน ในการใชง้ าน การใชง้ าน การใช้งาน ปฏบิ ัตใิ นการใช้ อนิ เทอร์เน็ตได้อย่าง อินเทอร์เน็ตได้อยา่ ง อนิ เทอร์เน็ตไดอ้ ย่าง อนิ เทอร์เนต็ ได้อย่าง งานอนิ เทอร์เนต็ ได้ ถกู ตอ้ ง ครบทั้ง 10 ถกู ตอ้ ง ครบทั้ง 7-9 ถกู ตอ้ ง ครบทัง้ 5-6 ถกู ตอ้ ง ครบทงั้ 1-4 อยา่ งถกู ต้อง ขอ้ ขอ้ ขอ้ ขอ้ 3.อธบิ ายส่งิ ท่ีควร อธบิ ายส่งิ ท่ีควร อธบิ ายสิง่ ท่ีควร อธบิ ายสงิ่ ทีค่ วร อธิบายสง่ิ ทค่ี วร ปฏิบตั ใิ นการใช้ ปฏิบัติในการใช้งาน ปฏิบัตใิ นการใชง้ าน ปฏบิ ัติในการใชง้ าน ปฏิบัติในการใช้งาน งานอินเทอร์เนต็ ได้ อินเทอร์เนต็ ได้อย่าง อินเทอร์เน็ตไดอ้ ยา่ ง อนิ เทอร์เนต็ ได้อย่าง อนิ เทอร์เน็ตได้อย่าง อย่างถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ด้านทกั ษะ นักเรียนปฏบิ ตั กิ าร นักเรยี นปฏิบตั ิการ นกั เรยี นปฏบิ ัตกิ าร นักเรยี นปฏบิ ตั กิ าร 3 กระบวนการ ใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ ใชง้ านอินเทอร์เน็ต ใช้งานอินเทอร์เนต็ ใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ต 1 1.นักเรียน ตามขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ น ตามข้อควรปฏบิ ัตใิ น ตามขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ น ตามข้อควรปฏบิ ัตใิ น ปฏบิ ตั กิ ารใช้งาน การใชง้ าน การใช้งาน การใช้งาน การใชง้ าน อนิ เทอร์เน็ตตาม อนิ เทอร์เนต็ ไดอ้ ยา่ ง อินเทอร์เน็ตได้อยา่ ง อินเทอร์เนต็ ได้อย่าง อนิ เทอร์เน็ตไดอ้ ย่าง ขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ น ถูกต้องครบถว้ นทง้ั ถูกต้อง 7-9ข้อ ถูกต้อง 5-6 ขอ้ ถกู ต้อง 1-4 ขอ้ การใชง้ าน 10 ขอ้ อินเทอร์เนต็ ได้ อย่างถูกต้อง ผู้เรยี นเพียรพยายาม ผเู้ รียนเพยี ร ผเู้ รยี นเพยี ร ผู้เรยี นเพยี ร ในการเรยี นและ พยายามในการ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ แสวงหาความร้จู าก เรียนและ แสวงหา พยายามในการ พยายามในการเรียน อันพงึ ประสงค์ แหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ ความรู้ จากแหลง่ 1.ใฝ่เรียนรู้ ดว้ ยการเลือกใช้ส่อื เรยี นรู้ ต่าง ๆ ดว้ ย เรยี นและ แสวงหา และ แสวงหาความรู้ อยา่ งถูกต้อง การ เลอื กใชส้ ่อื เหมาะสมบนั ทึก อย่าง ถกู ต้อง ความรู้ จากแหล่ง จากแหล่งเรียนรู้ ตา่ ง ความรู้ เหมาะสม สรุปเป็นองค์ เรียนรู้ ตา่ ง ๆ ดว้ ย ๆ ด้วยการ เลอื กใช้ การ เลือกใชส้ อ่ื อยา่ ง สอื่ ได้ แต่ไมถ่ ูกต้อง ถูกต้อง แตไ่ ม่ และไมเ่ หมาะสม เหมาะสม

ความรู้ 2.มงุ่ ม่ันในการ ผู้เรยี นมีความมุง่ มน่ั ผเู้ รียนมคี วามมุ่งมน่ั ผเู้ รียนมคี วามมุ่งม่นั ผ้เู รยี นไมม่ คี วาม 1 ทำงาน ในการทำงานและ ในการทำงานและ ในการทำงานแตไ่ ม่ มุ่งม่นั ในการทำงาน 1 แสวงหาความรู้จาก แสวงหาความรจู้ าก แสวงหาความรจู้ าก และแสวงหาความรู้ 1 แหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ แหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ แหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ จากแหล่งเรยี นรู้ ตา่ ง และมีความ และแตข่ าดความ และขาดความ ๆ และมีความ รบั ผดิ ชอบในการ รับผิดชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ ทำงาน ทำงาน ทำงาน ทำงาน สมรรถนะสำคญั ผู้เรยี นสามารนำ ผู้เรียนสามารนำ ผเู้ รียนสามารนำ ผู้เรียนสามารนำ ของผ้เู รยี น ความรไู้ ปใชใ้ น ความรไู้ ปใช้ใน ความรู้ไปใชใ้ น ความรู้ไปใช้ใน 1.ความสามารถใน ชวี ิตประจำวนั ที่ ชวี ติ ประจำวนั ท่ี ชีวติ ประจำวันท่ี ชีวิตประจำวนั ที่ การใชท้ กั ษะชีวติ ได้จากการเรียนรู้ ได้จากการเรยี นรู้ ไดจ้ ากการเรยี นรู้ ได้จากการเรยี นรู้ และศกึ ษาหา และศึกษาหา และศกึ ษาหา แต่ไม่ศึกษาเรียนรู้ 2.ความสามารถใน ความรเู้ พม่ิ เตมิ ความรเู้ พิม่ เติม ความรเู้ พ่มิ เติมโดย เพ่มิ เติม การใช้เทคโนโลยี โดยใช้ทักษะ โดยใชท้ ักษะ ใชท้ ักษะ อยา่ งมีข้นั ตอน อย่างมขี ้ันตอน อยา่ งมีข้ันตอน ผู้เรยี นมี ชัดเจนและมี ชัดเจน ความสามารถในการ ประสิทธภิ าพ ผูเ้ รยี นมี ใช้เทคโนโลยีทีไ่ ด้จาก ผู้เรยี นมี ความสามารถในการ การเรียนรูแ้ ต่ไม่ ผู้เรียนมี ความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยีทีไ่ ด้ ศึกษาหาความรู้ ความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยีที่ได้ จากการเรยี นรู้และ เพ่มิ เตมิ ใชเ้ ทคโนโลยที ไี่ ด้ จากการเรยี นรู้มา ศึกษาหาความรู้ จากการเรยี นร้มู า อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เพิม่ เติมเป็นบางคร้งั อย่างมีประสิทธิภาพ และศกึ ษาหาความรู้ และศึกษาหาความรู้ ใหม่เพ่มิ เตมิ ใหม่เพ่มิ เตมิ อย่เู สมอ 7.3 เกณฑก์ ารตัดสิน - รายบุคคล นกั เรยี นมผี ลการเรยี นร้ไู ม่ต่ำกว่าระดบั 2 จงึ ถอื วา่ ผ่าน - รายกลมุ่ ร้อยละ 70 ของจำนวนนกั เรียนทัง้ หมดมผี ลการเรยี นรู้ไม่ต่ำกวา่ ระดับ 2

8.กจิ กรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ที่จะช่วยพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน) 1…………………………………………………………………………………………………………….... 2…………………………………………………………………………………………………………….... 3…………………………………………………………………………………………………………….... 9. ข้อเสนอแนะ ☐ ใชส้ อนได้ ☐ ควรปรับปรุง …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………….………… …………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ………………………………. (.................................................. ) ครูพ่เี ล้ียง วนั ท่ี….. เดือน……. พ.ศ…..

10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. ผลท่เี กดิ ขนึ้ กบั ผู้เรียน ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. ด้านความรู้ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์ ………..คน คิดเป็ นร้อยละ……….. จานวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์ ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ จานวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์ 11. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………….…… ………………………………………………………………………………………………………….………… …………………………………………………………………………………………………….. 12. แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………… ( ……..…………………………...) ผสู้ อน วนั ท่ี…... เดือน……. พ.ศ………….



แบบทดสอบหลงั เรยี น คำช้ีแจง ให้นกั เรียนอา่ นโจทย์ท่คี รูกำหนดให้ตอ่ ไปนี้แลว้ ตอบคำถามใหถ้ กู ตอ้ ง 1.ข้อควรระวังในการใช้งานอนิ เทอร์เน็ต คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ข้อควรระวงั ในการใชง้ านอนิ เทอร์เน็ตมีอะไรบา้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.นกั เรยี นยกตวั อยา่ งการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ในชวี ติ ประจำวนั มาพอสงั เขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

คำชแ้ี จง : แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใหผ้ ู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด / ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดับคะแนน รายการ เลขท่ี ชอ่ื - สกุล ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการ ผลการประเมนิ ทำงาน 3 2 1 0 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ลงชอื่ ผู้ประเมนิ () / //

แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ผ้เู รียน คำชี้แจง : ใหค้ รผู ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งการจัดการเรียนการสอน แลว้ กาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องท่ตี รงกบั คะแนน รายการ เลขที่ ช่ือ - สกุล ความสามารถในการ ความสามารถใน ผลการประเมิน ใชเ้ ทคโนโลยี การใช้ทักษะชีวิต 3 2 1 0 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ลงชอื่ ผปู้ ระเมิน ( ) // /

ส่อื PowerPoint



















ใบความรู้ เรื่องข้อควรระวงั การใชง้ านอนิ เทอร์เน็ต คณุ ธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอินเทอรเ์ น็ต คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งานอนิ เทอร์เน็ต ในสงั คมอินเทอรเ์ นต็ นั้น มที ัง้ คนดี และคนไม่ดีเช่นเดยี วกบั สังคมท่ัวไป ผใู้ ช้ท่ีไม่ระมัดระวงั จึงอาจถกู ลอ่ ลวงไปในทางท่ี ผดิ หรอื ก่อให้เกิดอันตรายได้ ฉะนน้ั วิธหี น่งึ ที่จะปอ้ งกนั เยาวชนไทยจากปัญหาเหล่า นก้ี ็คือ การให้เยาวชนรูจ้ ักกบั ศลิ ปะป้องกนั ตวั ในอนิ เทอรเ์ นต็ ผใู้ ช้งานอินเทอรเ์ น็ตควรจะร้แู ละยึดถือปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. ไม่บอกขอ้ มูลสว่ นตวั เช่น ท่ีอยู่ เบอร์โทรศัพท์ ช่ือ โรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอน่ื ทร่ี ูจ้ ักกนั ทาง อนิ เทอรเ์ นต็ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน 2. หากพบขอ้ ความหรือรปู ภาพใดๆ บนอนิ เทอรเ์ นต็ ทมี่ ลี กั ษณะหยาบคายหรอื ไมเ่ หมาะสม ควรแจง้ ให้ผู้ปกครองทราบทนั ที 3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดกต็ ามท่รี ูจ้ ักกนั ทางอนิ เทอรเ์ น็ตโดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าตจากผู้ปกครองกอ่ น และ หากผปู้ กครองอนญุ าต ก็ควรไปพร้อมกับผปู้ กครอง โดยควรไปพบกนั ในท่ีสาธารณะ 4. ไม่ส่งรปู หรอื สง่ิ ใดๆ ใหบ้ ุคคลท่รี ู้จักทางอินเทอร์เนต็ โดยมิได้รบั อนุญาตจากผ้ปู กครองกอ่ น 5. ไมต่ อบคาถามหรอื ต่อความกบั ผทู้ ส่ี ่อื ขอ้ ความหยาบคาย และตอ้ งแจ้งให้ผปู้ กครองทราบทันที 6. ควรเคารพตอ่ ขอ้ ตอ่ ลงในการใช้งานอินเทอร์เนต็ ท่ใี หไ้ ว้กับผปู้ กครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการ ใช้งานอินเทอรเ์ น็ต เว็บไซต์ทีผ่ ู้ปกครองอนญุ าตให้เขา้ ได้ คณุ ธรรมและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรว่ มกนั ผใู้ ช้อนิ เทอรเ์ นต็ มเี ป็นจานวนมากและเพมิ่ ข้ึนทุกวนั การใช้งานระบบเครือข่ายท่ีออนไลนแ์ ละ ส่งข่าวสารถึงกันย่อมมีผู้ท่ีมคี วาม ประพฤตไิ มด่ ีปะปนและสร้างปัญหาใหก้ บั ผใู้ ช้อืน่ อยู่เสมอ หลาย เครือข่ายจงึ ได้ออกกฎเกณฑ์การใชง้ านภายในเครอื ขา่ ย เพื่อให้สมาชกิ ในเครอื ข่ายของตนยึดถอื ปฏิบตั ิตามกฎเกณฑแ์ ละได้รบั ประโยชนส์ งู สดุ ดงั น้นั ผใู้ ชอ้ นิ เทอร์เนต็ ทุกคนที่เป็นสมาชิกเครือขา่ ยจะตอ้ งเขา้ ใจกฎเกณฑข์ อ้ บังคบั ของ เครือข่ายนนั้ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและผูร้ ่วมใช้บรกิ ารคนอนื่ และจะต้อง รบั ผิดชอบต่อการ กระทำของตนเองที่เขา้ ไปขอใชบ้ รกิ ารต่างๆ บนเครอื ข่ายบนระบบคอมพิวเตอร์ เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ผ่ี ู้ใช้อินเทอร์เนต็ เรยี กเข้ามิได้เปน็ เพียงเครอื ข่ายขององค์กรท่ผี ูใ้ ช้ สงั กดั แตเ่ ป็นการเชอื่ มโยงของเครอื ข่ายต่างๆ เขา้ หากนั หลายพันหลายหมื่นเครือขา่ ยมีข้อมลู ขา่ วสาร

อยูร่ ะหว่างเครือขา่ ย เปน็ จานวนมาก การส่งข่าวสารในเครอื ข่ายน้นั อาจทาให้ข่าวสารกระจายเดินทาง ไปยงั เครอื ขา่ ย อน่ื ๆ อกี เปน็ จานวนมากหรอื แม้แต่การส่งไปรษณียอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ฉบบั หนง่ึ กอ็ าจจะ ต้องเดนิ ทางผ่านเครือข่ายอกี หลายเครือข่ายกวา่ จะถึงปลายทาง ดังน้ันผู้ใชบ้ ริการต้องใหค้ วามสาคญั และตระหนักถึงปญั หาปรมิ าณขอ้ มลู ข่าวสาร ท่วี ง่ิ อยบู่ นเครอื ข่าย การใช้งานอย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเกิดประโยชนจ์ ะทาให้สงั คมอนิ เทอร์เน็ตน่าใชแ้ ละ เป็น ประโยชน์ร่วมกันอยา่ งดี กิจกรรมบางอย่างที่ไมค่ วรปฏิบัตจิ ะต้องหลกี เลี่ยงเชน่ การส่งกระจายข่าวไป เปน็ จานวนมากบนเครือขา่ ย การสง่ เอกสารจดหมายลกู โซ่ ฯลฯ สิ่งเหล่านจ้ี ะเป็นผลเสียโดยรวมตอ่ ผู้ใชแ้ ละไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ต่อสงั คมอนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อให้การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอนิ เทอรเ์ น็ตสงบสุข Arlene H.Rinaldi แห่งมหาวิทยาลัยฟอรร์ ิ ดาแอตแลนตกิ จงึ รวบรวมกฎกติกามารยาทและวางเปน็ จรรยาบรรณอนิ เทอรเ์ น็ตหรือทีเ่ รียกวา่ Netiquette ไว้ดงั น้ี คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการใชง้ านอนิ เทอรเ์ น็ตผใู้ ชอ้ นิ เทอร์เนต็ ทกุ คนมเี มล์บอ็ กซห์ รืออีเมล แอดเดรสท่ีใชอ้ ้างอิงในการ รับส่งจดหมายความรบั ผดิ ชอบต่อการใชง้ านอีเมลในระบบจงึ เปน็ เร่ืองที่ ทุกคนต้องให้ความ สาคญั เพราะจดหมายมกี ารับสง่ โดยระบบ ซึ่งหากมจี ดหมายค้างในระบบจานวน มากจะทาใหพ้ ้ืนท่ี บฟั เฟอร์ของจดหมายในระบบหมด จะเป็นผลให้ระบบไมส่ ามารถรบั สง่ จดหมาย ตอ่ ไปได้ หลายตอ่ หลายครั้งระบบปฏเิ สธการรับสง่ จดหมายเพราะไฟลร์ ะบบเต็ม ดังนน้ั จึงควรมีความรบั ผิดชอบในการดแู ลตจู้ ดหมาย (mail box) ของตนเองดงั นี้ - ตรวจสอบจดหมายทุกวันและจะตอ้ งจากดั จานวนไฟลแ์ ละขอ้ มูลในตจู้ ดหมายของตนใหเ้ ลอื ก ภายในโควตา้ ทีก่ าหนด - ลบขอ้ ความหรือจดหมายทีไ่ มต่ อ้ งการแลว้ ออกจากดสิ กเ์ พอื่ ลดปริมาณการใช้ดสิ ก์ กใ็ ห้จานวน จดหมายที่อยูใ่ นตู้จดหมาย (mail box) มีจานวนน้อยท่สี ุด - ใหท้ าการโอนยา้ ยจดหมายจากระบบไปไวย้ ังพีซีหรือฮาร์ดดสิ ก์ของตนเองเพื่อใช้อา้ งองิ ในภายหลัง - พงึ ระลึกเสมอว่าจดหมายท่ีเก็บไว้ในตจู้ ดหมายนีอ้ าจถกู ผ้อู ืน่ แอบอ่านได้ ไม่ควรเก็บข้อมลู หรือ จดหมายทีค่ ณุ คิดวา่ ไมใ่ ชแ้ ลว้ เสมือนเป็นประกาศไวใ้ นตู้ จดหมาย

บญั ญตั ิ 10 ประการในการใช้งานคอมพิวเตอร์ 1. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพิวเตอรท์ าร้ายผู้อน่ื เช่น ไม่ควรโพสตข์ อ้ ความกล่าวหาบคุ คลอน่ื ในเวบ็ บอรด์ ให้ผอู้ น่ื ได้รับความเสียหายไม่ควรโพสตร์ ูปอนาจาร 2. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอรร์ บกวนผู้อนื่ เช่น เปิดฟังเพลงดว้ ยคอมพิวเตอร์ หรอื เล่นเกมรบกวนผูอ้ ่ืนท่ี อยู่ในบริเวณใกลเ้ คยี ง 3. ต้องไมเ่ ปิดดไู ฟล์ของผ้อู ืน่ กอ่ นไดร้ บั อนญุ าต เช่น แอบเปดิ อ่านอเี มลของเพ่อื น 4. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอร์ในการโจรกรรมข้อมลู ข่าวสาร เช่น การแอบเจาะระบบเพ่ือขโมยขอ้ มลู การคา้ ของบรษิ ัท ขโมย รหสั ผา่ นบตั รเครดิต 5. ต้องไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอรส์ ร้างหลกั ฐานเท็จ เช่น การแอบเจาะระบบเพ่อื เปลี่ยนแปลงคะแนน 6. ต้องไมใ่ ชค้ อมพิวเตอร์ในการคดั ลอก หรอื ใช้โปรแกรมท่มี ีลิขสทิ ธ์ิโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต เช่น ดาวน์ โหลดโปรแกรมที่มีลขิ สทิ ธ์ิมาใช้ โดยมโี ปรแกรมแกไ้ ขเพอ่ื ให้ใช้งานได้ 7. ตอ้ งไม่ใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการ ละเมดิ การใชท้ รัพยากรคอมพวิ เตอรโ์ ดยท่ีตนเองไม่มีสทิ ธ์ิ เช่น ไม่ใช้ คอมพวิ เตอร์ หรอื ไมใ่ ช้อปุ กรณ์คอมพวิ เตอรท์ ีไ่ มไ่ ดร้ บั สิทธ์ิในการเขา้ ใช้ 8. ตอ้ งไมใ่ ชค้ อมพวิ เตอรเ์ พ่อื นาเอาผลงานของผู้อ่ืนมาเป็นของตนเอง 9. ตอ้ งคานงึ ถึงผลกระทบที่เกดิ จากโปรแกรมทีต่ วั เองพฒั นาข้นึ 10. ตอ้ งใชค้ อมพวิ เตอร์ โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และมารยาทของสังคมนั้นผลกระทบการใช้ งานอนิ เทอรเ์ น็ต ผลกระทบทางบวกของการใช้งานอินเทอรเ์ น็ต 1. ชว่ ยส่งเสรมิ ความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหค้ วามเป็นอยขู่ องมนษุ ยด์ ขี ้นึ 2. ชว่ ยทาใหก้ ารผลิตในอุตสาหกรรมดขี น้ึ 3. ชว่ ยสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การคน้ คว้าวจิ ยั สง่ิ ใหม่ เทคโนโลยคี อมพิวเตอรแ์ ละระบบส่อื สาร 4. ชว่ ยสง่ เสรมิ สขุ ภาพและความเป็นอยูใ่ หด้ ีขนึ้ คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณท์ เี่ กย่ี วกับเทคโนโลยี สารสนเทศ ทำใหก้ ิจการดา้ นการ แพทย์เจริญกา้ วหน้าขนึ้ มาก เคร่อื งมือเครื่องใชท้ างการแพทย์ล้วน แลว้ แตใ่ ชค้ อมพวิ เตอร์ 5. ชว่ ยสง่ เสรมิ สตปิ ญั ญาของมนษุ ย์ คอมพวิ เตอรม์ จี ดุ เดน่ ที่สามารถทางานได้รวดเร็ว มคี วามแม่นยา สามารถเกบ็ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ไดม้ าก การแกป้ ัญหาท่ี ซับซ้อนบางอยา่ งกระทาไดด้ ี และรวดเรว็ 6. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยใหเ้ ศรษฐกจิ เจริญรุ่งเรือง เทคโนโลยจี าเปน็ ต่ออตุ สาหกรรมกจิ การคา้ ธุรกจิ ตา่ ง ๆ กจิ การทางดา้ นธนาคาร ชว่ ยส่งเสริมงานทางดา้ นเศรษฐกจิ ทาให้กระแส เงนิ หมุนเวียน

ได้อยา่ งกว้างขวาง 7. ชว่ ยให้เกดิ ความเข้าใจอันดรี ะหวา่ งกัน การสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหมช่ ว่ ยยน่ ย่อโลกให้เล็กลง โลกมีสภาพไรพ้ รมแดน มกี ารเรียนรู้วฒั นธรรมซึง่ กนั และกันมากขน้ึ 8. ชว่ ยสง่ เสรมิ ประชาธปิ ไตย ในการเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร มีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่อื กระจายข่าวสาร เพอื่ ใหป้ ระชาชนได้เหน็ ความสาคญั ของกระจายระบบ ประชาธิปไตย ผลกระทบทางลบของการใช้งานอินเทอรเ์ น็ต 1. ทาให้เกิดอาชญากรรม เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถนามาใชใ้ นการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ โจร ผรู้ า้ ยใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนการปลน้ วางแผนการ โจรกรรม มกี ารลักลอบใช้ข้อมูล ข่าวสาร มกี ารโจรกรรมหรอื แกไ้ ขตวั เลข บญั ชีดว้ ยคอมพวิ เตอร์ การลอบเขา้ ไปแก้ไขขอ้ มูลอาจทำให้ เกดิ ปัญหาหลาย อยา่ ง 2. ทาให้ความสมั พันธ์ของมนษุ ย์เสือ่ มถอย การใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณส์ ่ือสารทาให้สามารถ ตดิ ตอ่ สอื่ สารกนั ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเหน็ ตวั 3. ทาใหเ้ กิดความวติ กกงั วล ผลกระทบน้เี ป็นผลกระทบทางด้านจติ ใจของกลุม่ บคุ คลบางกลุม่ ทม่ี ีความ วติ กกังวลวา่ คอมพิวเตอรอ์ าจทาใหค้ นตกงานมากขึน้ 4. ทาใหเ้ กดิ ความเสีย่ งภยั ทางดา้ นธรุ กิจ ธุรกจิ ในปัจจบุ ันจาเปน็ ต้องพึง่ พาอาศยั เทคโนโลยี สารสนเทศมากขน้ึ ข้อมูลขา่ วสาร ทง้ั หมดของธรุ กจิ ฝากไวใ้ นศูนยข์ ้อมลู 5. ทาใหก้ ารพฒั นาอาวุธมอี านาจทาลายสงู มากขึน้ ประเทศท่เี ป็นต้นตารบั ของเทคโนโลยีสามารถนา เอาเทคโนโลยไี ปใช้ ในการสร้างอาวธุ ท่มี อี านภุ าพการทาลายสงู ทาใหห้ มิน่ เหมต่ ่อสงครามทีม่ ี การทา ลายสูงเกิดขนึ้ 6. ทาให้เกดิ การแพรว่ ฒั นธรรมและกระจายขา่ วสารทไ่ี ม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว คอมพวิ เตอร์เปน็ อุปกรณท์ ท่ี างานตามคาสง่ั อย่างเคร่งครัด การนามาใช้ ในทางใดจงึ ขึ้นอยูก่ ับผใู้ ช้ จรยิ ธรรมการใช้ คอมพวิ เตอรซ์ ง่ึ เปน็ เรื่องสาคัญ มารยาทการใช้งานอินเทอรเ์ น็ต มีดงั นี้ 1. การใช้อกั ษรพิมพต์ วั ใหญห่ มดทกุ ตวั ในการเขียนจดหมายจะเปน็ เสมือนการตะโกน ดงั นน้ั ควร เลอื กใชต้ วั อักษรให้เหมาะสม 2. ไม่ควรใชอ้ ารมณ์ในการตอบโต้ และควรรกั ษามารยาทโดยใชค้ าทสี่ ุภาพ 3. ไม่มคี วามลับใดๆ บน Internet ให้นกึ เสมอว่าขอ้ ความของเราจะมีคนอา่ นมากมายเมอื่ เขียนไปแล้ว ไมส่ ามารถลบล้างได้