Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงาน

โครงงาน

Published by iiamminminbz, 2022-08-29 02:46:34

Description: โครงงาน

Search

Read the Text Version

โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่อื ง การเปรยี บเทียบประสิทธภิ าพจากการกำจัดปลวก ดว้ ยน้ำท่ีค้นั จากใบขีเ้ หล็กและใบเสลดพงั พอน จัดทำโดย 1.นายยทุ ธวีร์ สุทธหลวง เลขท่3ี ม.5/1 2.นางสาวจดิ าภา ประดษิ ฐ์มณุ ี เลขท่ี5 ม.5/1 3.นางสาวปณติ า อัครเอกจิตต์ เลขที7่ ม.5/1 4.นายสวุ ิศษิ ฏ์ จติ รวงค์ เลขท่2ี 4 ม.5/1 เสนอ คุณครดู ำรง คันธะเรศย์ ภาคเรยี นท่ี1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่5 ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 37

ข โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธภิ าพจากการกำจัดปลวก ดว้ ยนำ้ ทคี่ ้นั จากใบข้ีเหลก็ และใบเสลดพังพอน จัดทำโดย 1.นายยุทธวีร์ สุทธหลวง เลขท3ี่ ม.5/1 2.นางสาวจดิ าภา ประดิษฐม์ ุณี เลขท5่ี ม.5/1 3.นางสาวปณิตา อัครเอกจติ ต์ เลขท่7ี ม.5/1 4.นายสวุ ศิ ษิ ฏ์ จติ รวงค์ เลขที่24 ม.5/1 เสนอ คุณครดู ำรง คันธะเรศย์ ภาคเรียนที1่ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่5ี ปีการศึกษา 2565 โรงเรยี นปัว อำเภอปัว จังหวัดน่าน สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37

ก บทคดั ยอ่ สมุนไพรทีเ่ ลือกนำมากำจดั ปลวกคอื ใบขเ้ี หลก็ และใบเสลดพงั พอนโดยนำใบพืชท้งั 2 ชนดิ ชนิดละ 50 กรัม มา โขลกให้ละเอียด เตมิ น้ำให้พอท่วม คน้ั นำ้ จากใบพืช แล้วเตมิ น้ำเปล่าลงไปให้ได้ 200 มลิ ลลิ ิตร นำไปฉดี พ่นปลวก ทใี่ สไ่ วใ้ นถาด พลาสติก ถาดละ 20 ตวั จับเวลา 2 นาที สังเกตพฤติกรรมของปลวก ปรากฏ ปลวกท่ีถกู ฉีด พน่ ด้วน น้ำจากใบขีเ้ หล็ก ตายท้ังหมด และปลวก ที่ถกู ฉดี พ่นด้วยนำ้ คัน้ จากใบเสลดพังพอน ตายเปน็ จำนวนมาก แสดงว่า นำ้ ทีค่ ั้นจาก ใบขีเ้ หล็กสามารถ กำจัด ปลวกได้ดี แต่การกำจัดปลวกด้วยนำ้ จากใบข้ีเหล็กต้องฉดี พ่นที่ตัวปลวก ถา้ ไม่พบตัว ปลวก ก็ไมส่ ามารถใชไ้ ด้ ทางกลุม่ ทดลอง จงึ คดิ วธิ ี ทจ่ี ะทำใหน้ ้ำจากใบขี้เหล็ก เป็นผงสำหรับโรยไวท้ ี่ รังปลวก เพ่อื ชว่ ยป้องกนั ปลวกได้ไม่ใหม้ าขึ้นบรเิ วณเดมิ อีก จึงนำนำ้ จากใบข้ีเหล็กมาผสมกับ แปง้ ดนิ สอพองใหเ้ ข้ากนั ดีแล้วใส่ พิมพ์ ผง่ึ แดดให้แห้ง เวลาจะใช้ก็ทบุ ใหเ้ ปน็ ผงแล้วนำไป โรยบริเวณรังปลวก หลงั จากท่ีฉดี พ่นน้ำจากใบขี้เหล็กแลว้ ทำการทดลอง 3 สถานที่ ท่ีมปี ลวก ทำรังอยู่ โดยใชน้ ำ้ ค้ันจากใบข้เี หล็กราดรดให้ตัวปลวกตายทัง้ หมดกอ่ น แล้วโรยด้วยแปง้ สมุนไพรจากใบขี้เหล็ก ติดตามดูผลการทดลอง 30 วนั ปรากฏว่าปลวกไม่กลบั มาทำรังใน บริเวณเดิมอีกแสดงวา่ แปง้ สมุนไพรจากใบขีเ้ หลก็ สามารถป้องกนั ไม่ให้ปลวกกลับมาทำรังที่เดมิ อกี

ข กติ ติกรรมประกาศ โครงงานสามารถบรรลุผลสำเรจ็ ไดด้ ดี ว้ ยความร่วมมือจากผู้ปกครอง คุณครู และเพื่อนๆ ผ้จู ดั ทำ ขอขอบพระคณุ คุณครู ดำรง ผู้ปกครองของคณะผู้จัดทำท่ชี ่วยในการจดั หาสมุนไพร คือ ใบเสลดพงั พอน ใบข้เี หลก็ และแป้งดินสอพอง ขอขอบคุณ คุณครทู ่ีชว่ ยใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำในการทำโครงงานคร้ังน้ี ขอขอบคุณ เพื่อนๆ ท่ีชว่ ยทดลองใชแ้ ป้งสมุนไพร ทีจ่ ัดทำข้ึน ทำใหง้ านช้ินนสี้ ําเรจ็ ไปดว้ ยดี คณะผูจ้ ัดทำ

ค คำนำ รายงานฉบบั นี้เปน็ ส่วนหนง่ึ ของวชิ า I30201 ISการศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองค์ความรู้ ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย โดยมีจดุ ประสงคเ์ พ่อื เปรยี บเทียบประสิทธภิ าพของน้ำสมนุ ไพรกำจดั ปลวกท่ีไดจ้ ากการคั้นระหวา่ ง ใบข้ีเหล็ก เเละใบเสลดพงั พอน ผ้จู ดั ทำหวงั วา่ รายงานเลม่ นจ้ี ะเป็นประโยชน์กับผ้อู า่ น หรอื นักเรียน นกั ศึกษา ท่กี ำลังหา ขอ้ มลู เรื่องน้ีอยู่ หากมีขอ้ แนะนำหรอื ข้อผดิ พลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภยั มา ณ ท่นี ด้ี ว้ ย คณะผจู้ ดั ทำ

สารบัญ ง บทคัดย่อ หน้า กิตติกรรมประกาศ ก คำนำ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทนำ ง ท่มี าและความสำคัญ 1 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1 สมมตฐิ าน 1 บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจัยท่เี กี่ยวข้อง 4 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินการทดลอง 10 บทท่ี 4 ผลการทดลอง 13 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล อภิปรายผลการทดลอง 14 บรรณานุกรม 15

1 บทที่1 ท่ีมาเเละความสำคญั โครงงาน เนอื่ งจากผู้จัดทำพบว่าตามบา้ นเรือนตา่ งๆ มีปลวกข้นึ ตาม ฝาผนังไม้ ตู้เส้ือผ้า จึงจะเป็นทตี่ อ้ งซอ้ื ยากำจัดปลวก มาฉดี พน่ อยเู่ สมอ เม่ือมปี ลวกก็ทำให้สงิ่ ของเสยี หาย สน้ิ เปลืองเงิน และสารเคมที ่ีใช้ ฉีดฆา่ ปลวกกเ็ ป็นอนั ตรายอีก ด้วย จากความรู้เดิม ทราบวา่ มีใบพืชบางชนดิ ที่ช่วยปอ้ งกันแมลง พวก มด และยุงได้ ก็น่าจะมีพชื ท่ี กำจดั ปลวก ได้ จึงคน้ คว้าจากอนิ เตอรเ์ นต็ ทำให้ทราบว่า น้ำค้ันจาก ใบข้ีเหลก็ และใบเสลดพังพอน สามารถนํามากําจดั ปลวก ได้ คณะผู้จดั ทำโครงงาน จึงไดท้ ำการทดลองนำใบพชื ท้ัง2ชนดิ และ มาโขลก กรองเอาน้ำ มากำจดั ปลวก ปรากฏ ว่า นำ้ จากใบขเี้ หลก็ สามารถกำจัดปลวกได้ดที ส่ี ดุ โดยฉีดพ่น หรือราดทตี่ วั ปลวก และเพื่อป้องกันไมใ่ หป้ ลวกรนุ่ ใหม่มาขึ้นอีก พวกเราได้ทดลองนำนำ้ จาก ใบข้เี หล็ก มาผสมกับ แป้งดนิ สอพอง ใส่พิมพ์ ตากให้แหง้ เวลาใชก้ ็ทุบ ใหเ้ ปน็ ผง นำไปโรยบริเวณทเ่ี คยมีพวกขึน้ ปรากฏวา่ ในเวลาทท่ี ดลอง 4 สัปดาห์ปลวกไม่กลบั มาขึน้ บรเิ วณ ทโี่ รยแป้งอกี วัตถปุ ระสงค์ 1.เพือ่ เปรียบเทียบประสิทธิภาพของนำ้ สมุนไพรกำจดั ปลวกท่ไี ดจ้ ากการคน้ั ระหว่างใบข้เี หลก็ เเละใบเสลดพงั พอน สมมติฐาน 1. นา้ํ ทค่ี นั้ จากใบขเ้ี หลก็ สามารถกำจัดปลวกได้ดีกว่าน้ำทค่ี ้ันจากใบเสลดพังพอน 2. แป้งดนิ สอพองท่ผี สมดว้ ยนำ้ คน้ั จากใบขเี้ หลก็ สามารถปอ้ งกันปลวกได้

2 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ ปลวกเป็นแมลงที่มีความสำคญั ในแงเ่ ศรษฐกิจมาก มีทั้งคณุ และโทษ ในแงป่ ระโยชน์ ปลวกจดั เป็นสว่ นหนง่ึ ของสังคมป่าไมท้ สี่ ำคัญมาก เปน็ ท้งั ผูส้ รา้ งและผ้ทู ำลายในระบบนิเวศ โทษของปลวกนน้ั เกิดขนึ้ เพราะว่าปลวกเปน็ แมลงท่ตี ้องการเซลลโู ลสเปน็ อาหารหลักในการดำรงชวี ิต และเซลลูโลสนัน้ เป็นส่วนประกอบท่สี ำคัญของเนอื้ ไม้ ดงั นั้นเราจึงพบปลวกเข้าทำลายความเสียหายอย่างรนุ แรงใหแ้ ก่ไม้ หรือโครงสรา้ งไม้ภายในอาคารบ้านเรอื น รวมถึงวสั ดขุ ้าวของ เคร่อื งเรือน เครอ่ื งใชต้ า่ งๆ ที่ทำมาจากไมแ้ ละผลิตภณั ฑ์อ่ืนๆ ท่ีมีเซลลโู ลสเปน็ ส่วนประกอบ การจัดการปลวก จากการทีป่ ระเทศไทยตง้ั อยเู่ ขตรอ้ นชืน้ ซ่ึงมลี ักษณะภมู ปิ ระเทศและภูมิอากาศทเ่ี หมาะสมต่อการดำรงชีวิตของ ปลวกหลายชนดิ ประกอบด้วยคา่ นยิ มของคนไทยทีมีการเปลย่ี นแปลงรูปแบบในการปลกู สรา้ งอาคารบา้ นเรือนให้ มลี ักษณะแตกต่างไปจากอดตี โดยนำรปู แบบการปลกู สร้างอาคารบา้ นเรือนของชาวตะวันตกมาใช้ โดยสว่ นใหญ่จะ ออกแบบให้มลี ักษณะท่ปี ดิ ทึบ มีการระบายอากาศน้อย ซ่ึงลกั ษณะทีเ่ หาะสมต่อการสร้างรงั และการเจรญิ เตบิ โต ของปลวกใต้ดนิ หรอื มีการเลือกวธิ ใี ช้วัสดทุ ี่สามารถเก็บความรอ้ นไดด้ ี เพื่อปอ้ งกันอากาศที่หนาวเยน็ ได้ เนอื่ งจาก เป็นประเทศทีอ่ ยใู่ นเขตหนาวหรือเขตอบอนุ่ จึงเปน็ สาเหตุหนึ่งท่กี ่อใหเ้ กิดปัญหาในด้านความเสียายที่รุนแรงจากก การเข้าทำลายของปลวกในบ้านเรอื นตลอดมา อีกประการหนงึ่ ลกั ษณะอาคารทีป่ ิดทบึ จะทำใหป้ ลวกสามารถหลบ ซอ่ นตัวไดด้ ี ยากท่ีควบคมุ กำจัดนอกจากนนั้ การป้องกนั และกำตัดปลวกในปจั จบุ ันส่วนใหญ่จะนยิ มใช้สารเคมชี นดิ ออกฤทธิเ์ ร็ว โดยมไิ ด้คำนึงถึงอันตรายและผลกระทบที่จะเกดิ ข้ึนทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อคน สัตวแ์ ละ ส่ิงแวดลอ้ ม ดงั นน้ั เพ่ือใหก้ ารจดั การเก่ยี วกบั ปลวกทำลายอาคารบ้านเรือนในประเทศไทยเป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและมี ความปลอดภยั ผู้ทเ่ี กี่ยวข้องในการดำเนินการนอกจากจะต้องมีความรพู้ ้ืนฐานทางชีววทิ ยาและนเิ วศวทิ ยาของ ปลวกแตล่ ะชนดิ เป็นอย่างดีแลว้ ยังจะตอ้ งมีความรูค้ วามเข้าใจกรรมวิธีในการป้องกนั กำจดั ปลวก เพื่อทจ่ี ะสามารถ นำองค์ความรู้ดงั กล่าวมาบรู ณาการเพือ่ วางแผนและวางแนวทางในการจดั การเกีย่ วกับปลวกร่วมกันได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมต่อไป

3 ใบขี้เหล็ก ถือเป็นวธิ กี ำจดั ปลวกดว้ ยธรรมชาติ ทีส่ ามารถกำจัดปลวกได้เป็นอย่างดี ซ่งึ การกำจัดปลวกด้วยใบ ขี้เหลก็ ก็มีวธิ ีง่าย ๆ โดยการนำใบข้เี หลก็ ประมาณ 5 กรัม มาบดหรือปัน่ เพอื่ ให้มีความละเอยี ด จากน้นั จงึ ผสมน้ำ ลงไป 20 ลิตร ก่อนจะบรรจุใส่ขวดสเปรยเ์ พื่อให้ง่ายต่อการใชง้ าน โดยฉดี ในจดุ ทีป่ ลวกข้ึน และฉีดซ้ำ ๆ อีก 3-5 วัน ปลวกท่ีคอยรงั ควานบา้ นของคุณกจ็ ะค่อย ๆ ลดหายไปในทีส่ ุด ถอื ว่าเป็นวิธีกำจัดปลวกดว้ ยธรรมชาตทิ ี่ นา่ สนใจเลยทีเดียว ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รับ 1. ชาวบา้ นหรอื ผู้คนท่ีประสบปัญหาปลวกข้นึ ตามตูต้ ่างๆ หรือปลวกมาสร้างรังสามารถกำจดั ปลวกไดด้ ้วยตนเอง โดยไม่สิ้นเปลืองเงิน 2รวู้ ่าใบพชื ชนดิ ใดสามารถนำมากำจดั ปลวกได้ สามารถนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ 3ร้วู ธิ ที ำแปง้ สมุนไพรเพื่อใช้โรยป้องกนั การทำรังของปลวก 4ไดร้ จู้ ักการทาํ งานเป็นกลุ่ม 5ไดฝ้ กึ วิธกี ารกระบวนการทดลองทางวทิ ยาศาสตร์

4 บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การศกึ ษาวธิ กี ารกำจดั ปลวกด้วยใบขี้เหล็ก มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื ศึกษาประสิทธภิ าพของใบ ขีเ้ หลก็ ในการ กำจัดปลวก ผู้ศึกษาได้ทำการค้นคว้าข้อมูลท่เี ก่ยี วข้อง ดงั นี้ และ ประเภทของปลวก ชนิด การจำแนกปลวกอย่าง กวา้ งๆ แบง่ ออกเปน็ 2 พวกใหญๆ่ คอื ปลวกท่ีอาศยั อยู่ในดนิ และ ปลวกทีไ่ ม่อาศัยอยู่ในดนิ ปลวกอาศัยอยู่ในดนิ จำแนกได้เปน็ 3 พวก คือ 1. ปลวก ใต้ดิน (Subterranean termites) พวกนีจ้ ะอาศยั อยู่ในดนิ เกือบตลอดอายุ ของมัน แมว้ า่ จะออกจากผิวดินไปแลว้ ก็ยังมีการตดิ ต่อกับพืน้ ดินอยู่ โดยการทำอโุ มงคท์ างเดนิ ด้วยดนิ ไปสูแ่ หลง่ อาหารต่าง ๆ ท่ีอยเู่ หนือดนิ นอกจากน้อี ุโมงคท์ างเดนิ ยงั เป็ นเคร่ืองป้องกันอันตรายจาก ศตั รูเช่นมด 2. ปลวก ท่ี อยตู่ ามจอมปลวก (Mound-building termites)เป็นปลวกที่สรา้ งรังหรืออาณาจักร ขนาดใหญ่ อยู่บนพน้ื ดินโดย ใช้เมด็ ดินเล็กๆ สรา้ งข้นึ เปน็ เนนิ สงู ใหญท่ ีเ่ รยี กว่า จอมปลวก จะพบ เหน็ ท่วั ไปทุกภาคของประเทศไทย และ ประเทศอ่นื ๆ ในทวปี เอเซีย อาฟรกิ า และออสเตรเลีย 3. ปลวก ทอ่ี ยู่ตามรงั ขนาดเล็ก (Carton-nest-building termites) รังของ ปลวก ชนิดนี้ เกิด จากมลู ของปลวก ผสมกบั เศษไม้เล็กๆ และสรา้ งเป็นรังท่มี ีรูปรา่ งและขนาด แตกตา่ งกนั ไป อาจจะ อย่ใู นดิน บนพืน้ ดินหรอื เหนือพืน้ ดนิ เชน่ ตามตน้ ไม้ เสาไฟ หรอื อาคารบา้ นเรือน 4. ปลวก ไมแ้ หง้ (Dry-wood termites) เป็นพวกท่มี ีอาณาจักรหรือรังเลก็ กว่า ปลวก ใตด้ ิน อาศัยอยูใ่ นเนื้อไม้ และจะไม่ลง ไปในดิน ปลวก ชนดิ น้ตี อ้ งการความช้ี นในไมแ้ ตเ่ พยี งเล็กน้อย เทา่ นนั้ และเปน็ พวกท่ที ำความเสียหายร้ายแรงต่อ อาคารบา้ นเรือนและเครื่องเฟอรน์ ิเจอร์อ่ืนๆ 5. ปลวก ไม้ขึ้น (Damp-wood termites) อาศัยอยู่ในเนื้อไมท้ ่มี ี ความชื้นสงู เช่น เปลือกไม้ ไม้ซุง หรือไมท้ ี่ผุแลว้ ห้องท่ีมคี วามชนื้ และความเย็น นับว่า เป็นสถานที่เหมาะสม สำหรบั ปลวก ประเภทนี้อาศัยอยู่ ตามปกติแลว้ เป็น ปลวก ทไ่ี ม่มอี นั ตรายตอ่ อาคารบา้ นเรอื นมากนกั ชวี ิตและความเป็นอยู่ของปลวก ปลวก เปน็ แมลงท่อี ยู่เปน็ หมู่สังคมประกอบด้วยวรรณะตา่ งๆ รวม 3 วรรณะ และมีหน้าทแ่ี ตกต่าง กันไป * ปลวก สืบพนั ธ์ุคือปลวกตวั ผ้แู ละตวั เมีย มีปกี และเพศดังแมลงอื่นๆ ทว่ั ไป ตามปกติ ในรงั หรือ อาณาจักรจะพบปลวกคู่นี้ทำหน้าทผี่ สมพันธุแ์ ละสืบพนั ธุ์ ตัวผู้เรียกวา่ ราชาปลวก และตวั เมีย เรียกว่า ราชินีปลวก ออกไข่เกิดเป็น ปลวก ชนิดต่างๆ ในรัง นอกจากนี้ ปลวก สบื พนั ธ์ยุ ังมีหน้าที่ กระจาย พนั ธ์ุ และสรา้ งอาณาจักรใหมเ่ กิดขึ้นอีกด้วย ปลวกชนิดนีม้ ีปีกท้ังตวั ผแู้ ละตัวเมียเรยี กวา่ แมลงเม่า เมือ่ จบั คู่ผสมพันธุ์ แล้วจะสลดั ปกี และเลือกสถานทเ่ี หมาะสมเพ่ือสร้างรัง และเกิดเป็นอาณาจกั รใหม่ต่อไป ปลวกงาน เปน็ ปลวก ตวั

5 เลก็ ไม่มีปีก ไม่มเี พศ และไมม่ ีตา อาศัยอยใู่ นดินหรือเน้ือไม้ ทม่ี นั กดั และทำลาย มีหนา้ ท่ีกอ่ สร้าง หาอาหารมา เลี้ยงปลวกวรรณะอื่ นๆ ปลวกชนดิ นจ้ี ะทำงาน ทกุ อยา่ งภายในรัง ปลวกทหาร เป็นปลวกตวั เลก็ แตม่ ีหัวโต และขากรรไกรขนาดใหญเ่ พื่อใช้ในการตอ่ สู้ ไมม่ ีปีก ไม่มีตา และไม่มีเพศ ปลวกชนิดนี้มหี นา้ ทปี่ กป้องอันตรายทจี่ ะเกิดขึ้นกับรงั ศัตรูสำคญั ของมัน คือ มด การสร้างอาณาจักร การสรา้ งรัง หรอื อาณาจกั รของปลวกแต่ละชนิด จะมีแบบแผนท่แี นน่ อน แตแ่ ตกต่างตาม พนั ธ์แุ ละภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม การเกิดอาณาจักร แมลงเมา่ มักจะออกมาใหเ้ ราได้พบเห็นในบางโอกาสของปี ซึ่งเปน็ ช่วงระยะเวลาส้ัน ๆ เมื่อ ตวั ผู้ และตวั เมียจบั คู่ผสมพันธ์ุ ชนิดปลวกไม้แห้งก็จะหารอยแตกแยกของ เน้ือไม้ เพ่ือสร้างรังใหม่ ชนิดปลวกใตด้ นิ กจ็ ะ หาแหลง่ ดนิ ในบริเวณใกล้ ๆ แหล่งอาหาร เชน่ บรเิ วณเศษไม้หรือรากไมใ้ น ดนิ เพอ่ื สรา้ งรังใหม่ การขยายอาณาจักร เม่อื ถงึ ฤดกู าลทเ่ี หมาะสม แมลงเม่า จะบินออกจากรัง ภูมิประเทศ ส่ิงแวดล้อมและ เผา่ พนั ธ์ุ จะทำให้แมลงเมา่ ออกจากรกั ตา่ งวาระกนั ในภมู ิอากาศท่ีร้อน แมลงเมา่ จะออกจากรงั ชว่ งเวลา หลังฤดู ฝน แมลงเม่าเหล่านจ้ี ะบินเข้าอาคารเพ่อื รบั ความอบอ่นุ จากแสงไฟ หรือแสงอาทิตย์ และ ทำความรำคาญให้กับเรา แมลงเม่าแต่ละคู่เมอื่ ผสมพนั ธ์ุแลว้ จะเลือกสถานท่ี สร้างรังใหม่ และ ภายใน 2-3 วนั จะเร่ิมวงไข่ครง้ั แรกๆ จะมีไข่ ไม่กี่ฟองแตต่ ่อไปจะเพิ่มจำนวนไข่ มาก ขึ้นเรอ่ื ยๆ ตลอดอายุการเจรญิ เติบโต ของมันไข่จะฟักออกเปน็ ตวั อ่อน ภายใน 30-50วันและ ตวั อ่อนจะ เจรญิ เติบโตอยา่ งรวดเร็ว ซ่ึงสว่ นมากจะเป็นปลวกที่อยู่ในวรรณะ ปลวกทหาร และ ปลวกงาน แมลงเม่า คู่แรกทีส่ ร้างรงั จะเจริญเตบิ โตเป็นราชาปลวก และ ราชินีปลวก มีอายยุ ืนยาว และมี จำนวนไข่มากกวา่ 30,000 ฟองต่อวัน จำนวนประชากรของปลวกในอาณาจักรหนึ่งๆ มีมาก หรอื น้อยขน้ึ อยกู่ ับ ภมู ปิ ระเทศ และแหล่งอาหาร ปลวกชนดิ ต่างๆในอาณาจักรปลวกใตด้ นิ แมลงเม่า ปลวกสบื พนั ธุ์ (แมลงเม่าสลัด ปกี ) ตวั อ่อน ระยะแรก ตวั ออ่ นระยะ กลาง ปลวกสบื พนั ธ์รุ ะยะเจรญิ พันธุ์ ปลวกงาน ปลวกทหาร ราชนิ ปี ลวก ปลวกสบื พันธุ์สำรองปกี ส้นั และไม่มปี ีก ปลวกสบื พันธสุ์ าํ รองปกี สนั้ และไม่มปี กี การอาศยั อยใู่ นระบบสังคม ขนาดของอาณาจักร จะขยายใหญไ่ ด้ ดว้ ยความสมบูรณข์ อง แหล่งอาหารของปลวก แต่ละชนิดจะมีหน้าท่ีเฉพาะ และเก่ยี วโยงเป็นระบบการอยู่รว่ ม (ระบบสังคม) จกั รเกิดจากราชาปลวกและราชินีปลวก 1 คู่ ทำการผสมพนั ธ์ุ และเพ่ิมประชากร มากขน้ึ ๆ จาก ไข่ จะ กลายเปน็ ปลวกตัวอ่อน •และเจริญเตบิ โตเป็นปลวกชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ ปลวกสบื พนั ธ์สำรอง, ปลวกทหาร, ปลวกงาน และ แมลงเม่า • ปลวกสบื พนั ธุส์ ำรอง จะทำหนา้ ท่ีออกไขเ่ พมิ่ ประชากรในกรณีที่ ราชาปลวก หรือราชนิ ปี ลวก ได้ ตาย • ปลวกงาน ทำหน้าที่ ดูแลสร้างหรือซอ่ มแซมรงั , หาอาหาร เพือ่ เลยี้ งปลวกชนดิ อื่น และทำงาน ทกุ ชนิดภายในรงั • แมลงเม่า คอื ปลวกสบื พันธ์ทุ อ่ี ยใู่ นรัง เมื่อโตเตม็ ทีจ่ ะบนิ ออกนอกรังเพ่ือสร้าง อาณาจักรใหม่ ความต้องการของปลวก เพราะปลวกตอ้ งหาอาหารจงึ เกดิ การทาํ ลาย และ ต้องการความชื้น ของ

6 ดินจงึ เกิดวธิ กี ำจัด โดยใช้ สารเคมี 1. อาหาร อาหารของปลวกส่วนมากคือ เนอื้ ไม้ หรือสารท่มี เี ซลลโู ลส เศษไม้ จะ ถกู ยอ่ ยโดย เชอ้ื โปรโตซวั ซ่งึ มอี ยู่ในตัวของมัน 2. ความชื้น ปลวกและแมลง ทีต่ ้องอาศัยความช้นื เพื่อใหเ้ กิดนำ้ ใน ลำตวั ตลอด เวลาปลวก ไมแ้ ห้ง จะปดิ ทาง เข้าออกของรังอย่างมดิ ชดิ ใน ขณะท่ีอากาศภายนอกมีความชืน้ ตำ่ ปลวกใต้ดนิ จะปรับอากาศ ในร้งหรอื ทางเดนิ ใหเ้ หมาะสม โดยทำริ งในดินทม่ี ีความชืน้ และมนั จะเดินกลบั เข้ารงั วนั ละ หลายๆ เทย่ี ว ในพื้นท่ีชน้ื และนคี่ ือวิธีท่ีปลวก นำความชืน้ เข้าสรู่ ังได้ สภาพแวดลอ้ มท่เี หมาะสม ต่อการ ทำลายของปลวก ทกุ ท่ี ที่ ทีเ่ ราพบวา่ มปี ลวกใตด้ นิ อาศัยอยู่ ประเทศไทยต้งั อยู่ในเขต มรสุม ซงึ่ เปน็ เขตท่ี เหมาะสม สำหรับปลวกใต้ดินจะอาศัยอยเู่ ปน็ อยา่ งมาก และเราพบว่าปัญหาปลวกนี้ จะมีอยู่ในทกุ ภาค ของ ประเทศ ปลวก จะมวี ธิ ที ำลายสิ่งของในลักษณะตา่ งกนั โดยขึ้นอยูก่ ับชนดิ โครงสร้าง ของส่ิงของ ใน กรณี ท่เี ป็น สิ่งของชนดิ เดียวกนั ปลวกจะทำลายของนั้น ในลักษณะเหมื อนๆ กนั มันจะสรา้ ง อุโมงคด์ ิน ไปตามทศิ ทางต่างๆ จนพบอาหาร บางคร้ังอาจมีระยะไกลมาก เมื่อมนั ไปพบกับ สง่ิ กดี ขวางมัน จะหาช่องทางแทรกจน พบอาหาร ได้ เมื่อมันเขา้ สใู่ นอาคาร ส่ิงของต่าง ๆ ที่ทำจาก ไม้ คือ อาหารของมนั พื้นไม้ วงกบประตู หนา้ ต่าง ฝา และผ้าคือ บริเวณทีเ่ ราอาจพบปลวกได้ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากปลวก ปลวกเป็นแมลงที่มบี ทบาทสาํ คัญมากในระบบนิเวศวทิ ยาป่าไม้ คอื ช่วยย่อย สลายอนิ ทรีย์วัตถุ ตา่ ง ๆ ไดแ้ กเ่ ศษไม้ ท่อนไม้ กิง่ ไม้ ใบไม้ และ สว่ นต่าง ๆ ของพืช ทีห่ กั รว่ ง ลม้ ตายทบั ถมกนั อยู่ ในปา่ แลว้ เปลย่ี นใหก้ ลายสภาพเป็น ฮิวมสั ในดนิ เป็นกระบวนการหมนุ เวียนธาตุ อาหารจากพืช ไปสู่ดนิ ทำใหด้ นิ อุดมสมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลให้พรรณพืชทุกระดับ ในป่าธรรมชาติ เจริญเติมโต สมบูรณ์ บทบาทสําคญั ในห่วงโซ่ อาหาร ในระบบนิเวศน์ นอกจากจะช่วยใหพ้ ืชในป่าเจริญ ตมิ โต แลว้ ยงั เปน็ อาหารของสัตวป์ ่าได้อีกดว้ ย โดยตัว ปลวกเองเปน็ อาหารที่อุดมสมบรู ณไ์ ปด้วยโปรตีน ของสัตว์ขนาดเลก็ หลายชนดิ เช่น ไก่ กบ นก คางคก และ สัตว์เลอื้ ยคลานตา่ ง ๆ ซึ่งจะกลายเปน็ อาหารสัตว์ใหญ่ตอ่ ไปเปน็ ทอด ๆ เปน็ แหล่งผลติ โปรตนี สำคัญ ของมนุษย์ โดยปลวกบางชนิด สามารถสร้างเห็ดโคน ซ่งึ เป็นอาหารอันโอชะและมรี าคาแพง สามารถสรา้ งรายไดเ้ สริมให้แก่ เกษตรกร ทัง้ นโี้ ดยมเี ชอ้ื ราท่ีอย่ใู นปลวกหลายชนิดช่วยในการผลติ จลุ ินทรยี ท์ ีอ่ าศัยอยู่ในทางเดินอาหารของปลวก สามารถผลิตเอน็ ไซมบ์ างชนิดท่มี ีประสิทธิภาพสงู สามารถนำมาพัฒนาเพ่ือประโยชนใ์ นเชงิ พาณิชย์ ด้านการเกษตร อตุ สาหกรรม หรือ ใช้ในการ แกไ้ ขควบคุมมลภาวะสิ่งแวดลอ้ มในอนาคตต่อไป เชน่ การย่อยสลายสารกำจัด ศัตรพู ืช ทม่ี ีฤทธ์ิ ตกค้างนานหรือ การกำจดั น้ำเสียจากโรงงานอตุ สาหกรรมเป็นต้น โทษท่เี กิดจากปลวก ปลวกเป็น แมลงท่กี ่อใหเ้ กิดความเสยี หายทางเศรษฐกจิ ต่อ กลา้ ไม้และไม้ยืนต้นในปา่ ธรรมชาติและสวนปา่ ไมใ้ ชป้ ระโยชน์ท่อี ยู่ กลางแจ้ง ไม้ใช้ประโยชน์ทเี่ ป็นโครงสร้างภายในอาคารบ้านเรอื น วสั ดขุ องเครื่องใช้ต่าง ๆ ทีท่ ำมาจากไม้และพชื เสน้ ใย เช่น โต๊ะ ตกู้ ระดาษ หนงั สอื พรมและเสอ้ื ผา้ เป็นต้น กดั ทาํ ลายรากของพชื เกษตร พืชไร่ พืชผกั พชื สวนและ ไม้ผล ( ทีม่ า http://www.thaiantipest.com/index.php)

7 การปอ้ งกันและดูแลรักษาปิดรอยแตกร้าวใหม้ ิดชดิ -ตรวจสอบพื้นท่ีท่ีมคี วามช้ืนสงู เชน่ หอ้ งนา้ ใต้บันได อยา่ งสม่าเสมอ หากพบการกัดทําลายเกดิ ขึ้นแสดงวา่ มีปลวกเกดิ ข้นึ * สงั เกตแมลงเม่าบินในบา้ น หรอื นอกบ้าน ใหป้ ิดช่องทางเดินของแมลงเม่า เพราะเป็นช่องทาง หนึง่ ที่แมลงเมา่ จะสรา้ งรังในบ้านเก็บเศษไมต้ ่างๆออกจากตวั บา้ น-ดูแลรกั ษาบา้ นทง้ั ภายในและภายนอกให้แหง้ ตรวจสอบวา่ ในบ้านมีผงไมซ้ ่งึ เป็นรอยกดั กนิ ของปลวกอย่างสม่า เสมอ *ซ่อมรอยร่วั ซมึ ทนั ทีเมื่อมรี อยร่วั ซึมเกดิ ขึน้ เมื่อพบปลวกต้องกาจัดทันที เพราะจะเกดิ ความสูญเสียไปทุก เวลานาที ปลวกทางานตลอดเวลา ความเสียหายจึงเกิดขึน้ ทกุ ๆ วนิ าที การทําจัดปลวก 1. การกำจดั ปลวกโดยใชส้ ารเคมี 1.1 การใช้สารกากปลวก (Termiticides) เปน็ การปอ้ งกันกาจัดโดยการฉดี พ่น หรืออัดสาร ป้องกนั กาจดั ปลวกลง ไปในพ้ืนดินเพ่ือทาใหภ้ ายใต้อาคารเป็นพิษปลวกไมส่ ามรถเจาะผา่ นทะลุ ขน้ึ มาได้ หรอื อาจใช้สารเคมกี าจัดปลวก โรยและฉีดพน่ โดยตรง วิธกี ารฉดี พ่นด้วยสารเคมี ปอ้ งกนั ปลวกก่อนการปลูกสร้างอาคารสามารถใหผ้ ลในการ ป้องกันปลวกใต้ดนิ ไดด้ ที ส่ี ุด 1.2 การใช้สารปอ้ งกนั เนอ้ื ไม้ (Wood preservatives) ดาเนนิ การ โดยการพ่น ทา แช่ จุม่ หรอื อัดโดยใชก้ าลงั อัด เพอื่ ใหส้ ารเคมแี ทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ 2.การปอ้ งกันโดยไม่ใช้สารเคมี 2.1 การใชแ้ ผ่นโลหะ โลหะผิวลน่ื เชน่ แผ่นอลมู เิ นยี ม สามารถใชเ้ ป็นแนวป้องกันไว้รอบๆ เสา หรอื รอย ต่อ ระหว่างฐานลา่ งกบั สว่ นทีเ่ ป็นโครงสรา้ งไม้ เพ่ือก้ันเสน้ ทางเดนิ ของปลวกจาก พ้ืนดินเขา้ สู่อาคาร 2.2 การใชว้ ัสดุอ่นื ๆ เช่น เศษหนิ บท เศษแก้วบด หรือแผน่ ตะแกรงโลหะ ปรู องพน้ื อาคาร ในสว่ นทีต่ ิดพนื้ ดิน ทัง้ หมด 3. การปอ้ งกนั และกาจัดโดยใช้เหยอื่ พษิ เปน็ แนวทางใหมใ่ นการป้องกนั กาจัดปลวก โดยมี หลกั การดงั นี้ใช้ สารเคมีออกฤทธชิ์ า้ ทม่ี ีความเป็นพิษต่อสงิ่ มชี ีวิตและสิ่งแวดล้อมค่อนข้างต่ำ ซงึ่ มีประสทิ ธิภาพในการขัดขวางกระบวนการตามธรรมชาติในการดารงชวี ิตของปลวก เชน่ ยบั ยัง้ ขบวนการสร้าง ผนังลาตัว ซึง่ มีผลต่อการลดจำนวนประชากรลงไปจนถงึ ระดับท่ไี ม่กอ่ ใหเ้ กิด ความเสยี หาย มีคุณสมบตั ิพเิ ศษท่ี ดงึ ดูดให้ปลวกเข้ามากนิ และสามารถ คงรปู อยูภ่ ายในตวั ปลวกไดด้ ีใน ระยะเวลาทเี่ หมาะสมทจ่ี ะเกิดการถา่ ยทอด ไปส่สู มาชิกอนื่ ๆภายในรังได้ 4. สมุนไพรกาจดั ปลวกสกดั จากพชื สมนุ ไพรไทย เชน่ หางไหล ตระไคร้ หอม ขา่ ขมิ้นชัน

8 หัวแห้วหมู พรกิ ข้ีหนู เมลด็ งา และใบสาบเสือฯ สมนุ ไพรเหลา่ น้ี เป็นพืชทีป่ ลวกไม่สามารถสรา้ ง กลไก ในการย่อย สลายสารสำคัญจากพชื เหล่าน้ีได้ สารสำคญั จากพชื เหลา่ น้ี มผี ลในการควบคุมประชากรปลวกโดยกลไกท่ีแตกต่าง กนั ตง้ั แต่การยับยัง้ การเจรญิ เติบโตของตวั อ่อน การวางไข่ การกินอาหาร ตลอดถงึ การลดการพัฒนาการ ของจลุ ินทรียใ์ นลาไส้ปลวก ซ่ึงมีผลโดยตรงต่อ ความอยู่ รอดและการทําลายของปลวก ซงึ่ ทำใหม้ ีการควบคุมประชากรของปลวก โดยลดลง (ท่ีมา http://www.konbaan.com/TipsTricks/TipsTricks58.php ) ข้เี หลก็ เดิมเปน็ ไม้ในบรเิ วณเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้นบั จากหมเู่ กาะต่างๆ ของประเทศ อินโดนเี ซียไป จนกระทงั่ ถงึ ประเทศศรลี ังกา ตอ่ มามีผนู้ ำเอาไมข้ เ้ี หล็กไปปลูกในบริเวณต่างๆ สำหรบั ในประเทศไทยเราจะพบไมข้ ้ี เหลก็ ในแทบทุกจงั หวัดไมว่ ่าจะเป็นภาคเหนือ, ภาคกลาง , ภาคใต้ ชาวบา้ นนยิ มปลูกไมข้ ี้เหล็กเปน็ ไม้ให้รม่ และ เป็นไมป้ ระดับ ข้ึนได้ในดนิ ร่วนปนทราย ท่มี กี ารระบายนำ้ ดี การใชป้ ระโยชนท์ างด้านสมุนไพรรกั ษาโรคเส้นประสาท นอนไม่หลับล ทาํ ให้หลบั สบาย รักษาโรคร้กษาโรคโลหติ พกิ าร รกั ษารงั แค ขับพยาธิ ผายธาตุ ราก รักษาไข้ รกั ษาโรคเหน็บชา ทาแกเ้ ส้นอัมพฤกษ์ใหห้ ย่อน แก้ฟกชำ้ แก้ไขบ้ ำรุงธาตุ ไขผ้ ิด สาํ แดง ลำตน้ และกง่ิ เป็นยาระบาย รักษาโรคผวิ หนัง แก้โรคกระษัย แกน้ วิ่ ขบั ปสั สาวะ ขับระดูขาว ท้งั ต้น แก้กระษัย ดับพิษไข้ แกพ้ ษิ เสมหะ รกั ษาโรคหนองใน รกั ษาอาการตัวเหลือง เปน็ ยา ระบาย บำรงุ นำ้ ดีทำ ให้เส้นเอ็นหย่อน เปลอื กต้น รักษาโรครดิ สีดวงทวาร แกก้ ระษยั ใช้เปน็ ยาระบาย โรคหติ - กระพ้ี รสขมเฝือน แกร้ ้อนกระสับกระส่าย บำรุงโลหิต คมุ กำเนดิ ใบ รกั ษาโรคบิด รกั ษาโรคเบาหวาน แกร้ อ้ นใน รกั ษาฝีมะมว่ ง รกั ษาโรคเหน็บชา ลดความดัน ใบขี้เหลก็ มีสารอะไรในการกําจดั ปลวก สารเคมีในใบขี้เหล็ก พบว่ามสี ารกลมุ่ โครโมน (Chromone) ซง่ึ มี ฤทธิ์คลายเครยี ดและช่วย ให้นอนหลับ เช่น แอนไฮโดรบาราคอล (anhydrobarakol) และกลมุ่ anthraquinones ซง่ึ มีฤทธ์ิช่วย ให้ถ่ายหรือระบายท้อง เช่น แอนโทรน และไดแอนโทรน (anthrone and dianthrone) เป็นต้น ซ่ึง จากการศึกษาพบว่า ขี้เหล็กมที ั้งประโยชนแ์ ละโทษ การบริโภคข้เี หลก็ โดยนำมาตม้ และ

9 ทิง้ น้ำ ก่อนนาํ มาแกง ซ่งึ เปน็ วิธีที่สามารถชว่ ยลดปรมิ าณความเขม้ ข้นของสารพิษในขี้เหล็ก ทำให้ ปลอดภัยใน การนำามารบั ประทาน แตเ่ มื่อนำใบขี้เหลก็ มาทําเป็นยาเม็ดโดยไม่ตม้ น้ำทงิ้ จะสง่ ผล ให้ปริมาณสารพิษยงั คงมี ปรมิ าณสูง ดังนั้นกอ่ นการรับประทานข้ีเหล็กควรศึกษากรรมวธิ เี ตรียม และไมค่ วรรับประทานอย่างต่อเน่ือง ซึ่งจะ ทำให้เกิดผลเสยี มากกวา่ ผลดี (ที่มา http://siweb.dss.go.th/information)

10 บทที่3 วัสดอุ ุปกรณแ์ ละวธิ กี ารทดลอง อปุ กรณก์ ารทดลอง 1.ใบข้ีเหล็ก และใบเสลดพงั พอน 2. มดี บาง 3.เขยี ง 4.เคร่อื งชงั่ 5. ครก และสาก 6.ช้อน 7.ถ้วย 8 ผ้าขาวบาง 9.หลอดหยอด 10. จานพลาสตกิ 11. แปง้ ดนิ สอพอง 12. แบบพิมพ์ 13.ปลวก

11 ตัวแปรที่เกี่ยวขอ้ ง ตอนท่ี1 ตัวแปรต้น: ใบข้เี หลก็ ใบเสลดพงั พอน ตวั แปรตาม: ปรมิ าณการตายของปลวก ตัวแปรควบคมุ : 1.ปรมิ าณของใบพืช 2. ปรมิ าณ น้ำสะอาด 3.ชนดิ ของปลวก ตอนที่ 2 ตวั แปรตน้ :แป้งดินสอพองผสมนำ้ จากใบขีเ้ หล็ก ตัวแปรตาม: การทำรงั ของปลวก วิธีทดลอง ตอนที่1 1.ใบข้เี หลก็ และใบเสลดพงั พอน อยา่ งและ 20 กรัม มาหั่นเป็นฝอย และโขลกให้ละเอียด แยก ใส่ถว้ ยไว้ 2.ใสน่ ำ้ ลงในถว้ ยพอทว่ มใบพืชท่ีโขลกไว้ ใชช้ ้อนคนให้เขา้ กันดแี ลว้ กรองดว้ ยผ้าขาวบางใส่บีกเกอร์แยกกันไว้ 3.เติมนำ้ เปล่าลงในน้ำค้ันจากใบพืชท้งั 2 ชนิด ให้ไดช้ นดิ ละ 200 มิลลิลิตร 4 . นาํ ปลวก มาใสใ่ นจานพลาสตกิ จานละ 10 ตวั หยดน้ำคั้นจากพชื ทง้ั 2ชนิดลงที่ตัวปลวกแต่ละจาน จบั เวลา 2 นาที 5.สังเกตการตายปลวก ในจานพลาสตกิ ทั้ง 2ใบ แล้วบันทึกผล 6.ทำการทดลอง ซ้ำเช่นเดมิ อีก 3คร้ัง

12 ตอนที่ 2 1.นำใบขี้เหล็ก 100 กรัม มาโขลกใหล้ ะเอยี ด ตกั ใส่ถ้วย 2. ใส่น้ำพอทว่ มแล้วคนให้เข้ากัน กรองดว้ ยผ้าขาวบาง 3. ใส่แปง้ ดนิ สอพอง ลงในจานพลาสตกิ ใส่น้าที่ค้ันจากใบขี้เหล็กลงไป กวนใหเ้ ขา้ กนั แล้วตักใสแ่ บบพิมพ์ นำไป ผง่ึ แดดจนแห้งสนทิ 4.นำแปง้ ทไี่ ด้ไปโรยใส บริเวณที่มีรังของปลวกให้ทว่ั โดยทดลอง 3สถานท่ี 5. สงั เกตการณเ์ ปล่ยี นแลงบรเิ วณรังของ ปลวก เปน็ เวลา 4 สปั ดาห์ 6. บันทึกผลการทดลอง ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน 1. นกั เรียนนำเสนอหัวขอ้ โครงงานทีต่ นเองสนใจต่อครู 2. คณะผู้จดั ทำชว่ ยกันคดิ คำถาม ตง้ั สมมุตฐิ าน 3. เตรยี มอุปกรณ์และลงมือทำ 4. ทดลองนำ นำ้ และ แปง้ จากใบขี้เหล็กไปทดลองกำจัดปลวก 5. บันทึกผลและสรปุ ผลการทดลอง 6. สรปุ และเขียนรายงานโครงงาน

13 บทท่ี4 ผลการดำเนินงาน ผลการทดลอง การทดลองเพ่ือการศึกษาว่า ใบพชื สมนุ ไพร คือ ใบข้เี หลก็ และ ใบเสลดพังพอน ใบพชื ชนดิ ที่สามารถกำจดั ปลวก ไดด้ ีที่สุด โดยทำการทดลอง 3 ครง้ั ไดผ้ ล ดงั นี้ ตารางบนั ทึกผลการทดลอง จำนวนปลวกที่ตายในเวลา2นาที ใบพชื ครง้ั ท่ี1 คร้งั ท2่ี คร้งั ที่3 ใบขี้เหล็ก ใบเสลดพงั พอน 20 20 20 17 18 17

14 บทท่ี5 สรุปอภิปรายผล อภปิ รายผลการทดลอง จากการทดลอง เปรียบเทียบการกำจดั ปลวกด้วยน้ำคน้ั จากใบพชื สมนุ ไพร 2 ชนดิ คือ ใบขเ้ี หล็กและ ใบเสลดพังพอน ปรากฏว่านำ้ คั้นจาก ใบขี้เหล็ก สามารถกำจดั ปลวกได้ทั้งหมดทุกครัง้ รองลงมา คอื น้ำค้นั จาก ใบเสลดพังพอน และเม่ือนำน้ำคนั้ จากใบข้ีเหลก็ มาผสมกบั แปง้ ดนิ สอพอง นำไปผ่งึ แดดให้แห้ง แลว้ นำไปโรยที่รัง ปลวก หลังจากทกี่ ำจดั ด้วยนำ้ ใบข้เี หลก็ แล้ว สังเกตการณท์ ำรังของปลวก ใน เวลา 4 สปั ดาห์ ปรากฏว่าสมนุ ไพร จากใบขี้เล็ก สามารถป้องกันปลวกไม่ให้กลับมาทำรังได้ เป็นเวลา ประมาณ 3 สัปดาห์ สรุปผลการทดลอง นำ้ คัน้ จากใบขเ้ี หล็ก สามารถกำจัดปลวกไดด้ ีกวา่ นำ้ คั้นจากใบเสลดพงั พอน และแป้งสมนุ ไพรทท่ี ำจากดินสอพองผสมนำ้ คัน้ จากใบขเ้ี หลก็ สามารถป้องกนั ปลวกไม่ให้กลับมาทำรังที่เดิมได้ ในระยะเวลาประมาณ 3 สปั ดาห์ ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรใชใ้ บขีเ้ หล็กขนาดกลางไม่อ่อนหรือแก่เกนิ ไป 2. ถ้าต้องการฉีดน้ำคน้ั จากใบข้ีเหลก็ เข้าในรงั ปลวก ตามฝาบ้านหรือควรใชก้ ระบอกฉีดยาและเข็มฉดี ยา ฉีดพ่นลงไป

15 บรรณานกุ รม ความรู้เกี่ยวกับเร่ืองของปลวก.(2016): https://www.cheminpestcontrol.com/products/product-34 6 วธิ กี ำจัดปลวก ช่วยบ้านปลอดภัยดว้ ยวิธีธรรมชาติ.(2017): https://www.lh.co.th/th/lh-living- concept/tips/eliminate-termites-by-natural-methods http://www.powerpestgroup.com. : สมุนไพรกาจดั ปลวก อ.สมศักดิ์ สนิ ธรุ ะเวชญ.์ :หนงั สอื เรยี น สปช. ป. 3 โอภาส อาจอารมณ์. : หนงั สือชุมนมุ นกั ทดลอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook