บทที่ 2 การฟัง 2 นักศึกษา

การฟงั การรบั สารผ่านทางการไดย้ นิ เสยี ง อยา่ งต้ังใจและเชื่อมโยง การคดิ ไปยงั สมอง เพอื่ รบั รู้ ตคี วามหมายของสารนัน้ ๆ แลว้ เกดิ เปน็ ปฏกิ ิรยิ าตอบสนอง

กระบวนการฟัง ไดย้ ินเสยี ง พุง่ ความสนใจ เขา้ ใจ ต/ี แปลความ ตอบสนอง เสยี งตอ๊ ก ๆ - มีคนเคาะประตู - เดินออกไปดู - มีคนใชค้ อ้ นตอกตะปู - อดุ หู

ลกั ษณะ เตรยี มตวั มารยาท ศลิ ปะใน ผฟู้ ังที่ดี ในการฟงั ในการฟัง การฟัง ลักษณะการฟังทดี่ ี

นักศกึ ษาคดิ วา่ ลกั ษณะผฟู้ งั ทด่ี เี ปน็ อยา่ งไร

01 อดทน ไมย่ ดึ ติดความคดิ ตนเอง 02 ต้งั ใจฟงั มสี มาธิในการฟัง ลกั ษณะ 03 คดิ ตาม วจิ ารณ์ ประเมนิ ผล ผู้ฟังที่ดี “ฟังแล้วคดิ จึงเกิดการเรยี นรแู้ ละจดจา และควรนาสงิ่ ทีไ่ ด้จากการฟงั มาใช้ประโยชน์”

เตรยี มตัว 01 การเตรยี มตัวสาหรับการฟังทั่วไป ในการฟงั ฝึกฟงั เร่ืองราวตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวัน หาความรู้เพิ่มเติม ขยายกรอบแหง่ การอ้างอิง 02 การเตรยี มตวั สาหรบั การฟังเฉพาะโอกาส ศกึ ษาข้อกาหนดตา่ ง ๆ เชน่ วิทยากรคือใคร, พูดเรือ่ งอะไร, ท่ไี หน ฯลฯ

มารยาทในการฟังมอี ะไรบ้าง จงชว่ ยกันอภิปราย - การแตง่ กาย - การเขา้ รว่ มการฟงั - การซกั ถาม - กิรยิ ามารยาท

ศลิ ปะในการฟัง หู ตา สมอง ใจ จดจา

ส่งิ แวดลอ้ ม ผ้ฟู งั ผพู้ ูด ข้อบกพรอ่ ง/อปุ สรรคในการฟงั

อปุ สรรคท่เี กดิ จากผ้ฟู งั

อปุ สรรคท่เี กดิ จากผพู้ ูด

อปุ สรรคจากส่งิ แวดลอ้ ม

การฟังอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ฟงั แล้วเขา้ ใจได้ จับประเดน็ สาคญั ได้ วเิ คราะห์ได้ ตีความได้ ประเมนิ คา่ ได้ ฟงั แลว้ จดบนั ทกึ ได้

การฟงั อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ฟงั แล้วเข้าใจได้ สามารถแยกได้วา่ ส่วนใดเปน็ ใจความหลกั ส่วนใดเปน็ สว่ นขยาย

ดวงอาทิตย์เปน็ แหลง่ ใหพ้ ลังงานความรอ้ นและแสงสวา่ ง ความร้อน จากดวงอาทติ ยท์ าใหโ้ ลกอบอนุ่ แสงจากดวงอาทติ ยท์ าให้เราเห็น สิง่ ตา่ ง ๆ

การฟงั อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. ฟงั แลว้ จบั ประเดน็ ได้ แยกประเดน็ หลกั ประเด็นรอง แล้วบอกได้วา่ ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมอ่ื ไร อยา่ งไร แลว้ เรยี บเรยี งเปน็ เรอ่ื งยอ่ ได้

การฟงั อย่างมีประสิทธภิ าพ 3. ฟงั แลว้ วิเคราะห์ได้ สังเกตความสมั พันธ์ระหวา่ งวัจนภาษาและอวจั นภาษา แยกไดว้ า่ สว่ นใดเป็นข้อเทจ็ จรงิ สว่ นใดเปน็ ขอ้ คดิ เหน็ ข้อเทจ็ จริง ขอ้ คดิ เห็น

การฟังอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4. ฟงั แลว้ ตีความได้ ผู้พูดอาจใชส้ านวนหรือถ้อยคาทมี่ คี วามหมายโดยนัย ผ้ฟู ังตอ้ ง สามารถเขา้ ใจความหมายของสารที่แทจ้ ริงของผพู้ ดู ได้

ถอ้ ยคาท่มี คี วามหมายโดยนยั

การฟงั อย่างมปี ระสิทธิภาพ 5. ฟงั แล้วประเมนิ ค่าได้ หาประโยชนจ์ ากส่งิ ท่ฟี ังแลว้ นามาใชป้ ระโยชนโ์ ดยตรงหรือโดยออ้ มได้ 6. ฟงั แล้วจดบนั ทึกได้ จดบันทกึ และสามารถนามาเรียบเรยี งเพอ่ื นามาใช้ประโยชน์ต่อไป

แบบฝกึ หดั นกั ศกึ ษาดูส่อื ตอ่ ไปนี้ แลว้ ใชห้ ลกั การฟงั อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพวิเคราะหส์ ารดังกลา่ ว

ก่อนฟงั ขณะฟัง หลังฟัง •ต้งั วัตถปุ ระสงค์ •มสี มาธิ • สารวจวา่ • สารวจความรู้ •ทาความเขา้ ใจ -บรรลุวัตถุประสงค์ ? เบือ้ งตน้ •ใครค่ รวญ -ได้ความรูใ้ หม่ ? •หาความรเู้ พม่ิ เติม ไตรต่ รอง คดิ ตาม -ได้รายละเอียดเพ่มิ เตมิ ? •ตง้ั คาถามล่วงหนา้ • บันทึกช่วยจา •เรียบเรียงบนั ทึก ชว่ ยจา กระบวนการพัฒนาทักษะการฟัง

การประเมินผลการฟงั “การทดสอบหลงั การฟังเสรจ็ สน้ิ ว่า ผู้ฟงั มคี วามสามารถในการรับร้เู รือ่ งท่ฟี ังอยู่ ในระดบั ใด” 1. เข้าใจความหมาย 2. จับประเดน็ สาคัญของเร่อื งได้ 3. ตคี วามเรือ่ งทฟี่ ังได้ รู้ถึงความหมายที่ซอ่ นเรน้ 4. รเู้ จตนาหรอื วตั ถุประสงค์ของเรอื่ งทีฟ่ ังได้ เชน่ โนม้ น้าว 5. ประเมนิ คุณค่าเร่อื งทฟ่ี งั ได้ และนาไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ได้