โครงการพี่สอนน้องวัดตะปอนน้อย

โครงการปันความรู้จากพส่ี ู่น้อง (เร่ืองการใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 และ การรับ-ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ G-mail) กรณีศึกษา : โรงเรียนวดั ตะปอนน้อย (ประมวลวิทยาคาร) ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จันทบุรี(Project Sharing the Microsoft Word 2010 Program and Sending and Receiveing Electronic Mail)นางสาวกนกวรรณ กจิ ประเสริฐนางสาวกฤษณา ดวงจิตต์เจริญโครงการนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการ รหัสวชิ า 3201-8501 ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพข้นั สูง สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ สาขางานการพฒั นาเวบ็ เพจ วทิ ยาลยั เทคนิคจันทบุรี ปี การศึกษา 2559

หวั ข้อโครงการ : โครงการปันความรู้จากพ่สี ู่นอ้ ง (เรื่องการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsof Word 2010 และ การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-mail)โดย : นางสาวกนกวรรณกิจประเสริฐ นางสาวกฤษณา ดวงจิตตเ์ จริญครูทปี รึกษา : นางจิรวรรณ มะลาไสยสาขาวชิ า : คอมพวิ เตอร์ธุรกิจสาขางาน : การพฒั นาเวบ็ เพจปี การศึกษา : 2559 บทคดั ยอ่ โครงการ “ปันความรู้จากพ่ีสู่นอ้ ง” (เร่ืองการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word2010 และ การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-mail) มีจุดมุ่งหมายเพื่อการนาความรู้ท่ีได้รับจากการศึกษาไปเผยแพร่ โดยจดั ทาโครงการสอนโปรแกรมประมวลผลคา และ การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ใหก้ บั นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั ตะปอนนอ้ ย (ประมวลวิทยาคาร)เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในการใช้โปรแกรมประมวลผลคาและการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงเป็ นโปรแกรมพ้ืนฐานท่ีใช้ในการศึกษาสามารถท่ีจะนาความรู้ที่ไดร้ ับไปใช้ในชีวิตประจาวนั ในการทางานที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมและยงั สามารถนาไปใช้ในการศึกษา ในระดบั ช้นั ท่ีสูงข้ึนได้

Diploma thesis topic : “Sharing the knowledge about Microsoft Word 2010 andBy Sending and Receiveing Electronic Mail”Consultant Teacher :MissKanokwan KitprasertMajorYear MissKrisana Duangchitcharoen :Mrs. Jirawan Malasai :Web Page Development :2016 Abstract Sharing the knowledge about Microsoft Word 2010 and Sending and ReceiveingElectronic MailProject aims to bring knowledge gained from the studies conducted by the projectof the program. Word processors and Sending and Receiveing Electronic Mail was tested bystudents in grade 6 at WatTaponnoi School (Pramuanwittayakarn) It gave the studens Theunderstanding of to use word processors and sending and receiveing electronic mails. This basicprogram used for study, was able to apply the knowledge gained to be used, in everyday life. inwork-related applications, and can also be used in the studies at a higher level.

กติ ตกิ รรมประกาศ การศึกษาด้วยตนเองฉบบั น้ี สาเร็จด้วยความกรุณาอย่างยิ่งจากครูจิรวรรณ มะลาไสยครู KinlryGyemและ ครูรัฒพล ปล้ืมผล ท่ีใหค้ วามกรุณาในการแปลบทคดั ยอ่ เป็ นภาษาองั กฤษ ครูที่ปรึกษาและคณะครู อาจารยท์ ุกทา่ นที่ไดใ้ หค้ าแนะนาปรึกษา ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพร่องต่าง ๆ ดว้ ยความเอาใจใส่เป็นอยา่ งดีผจู้ ดั ทาขอขอบคุณเป็นอยา่ งสูง ณ ที่น้ี ขอขอบคุณบิดามารดาที่ไดใ้ ห้แนวคิดในการศึกษามาตลอด ขอบคุณคณาจารย์ทุกท่านผปู้ ระสิทธ์ประสาทวชิ า ญาติพีน่ อ้ ง ท่ีคอยใหค้ วามช่วยเหลือและคอยเป็นกาลงั ใจ อนั เป็ นพลงั สาคญัที่ทาให้เกิดความมุ่งมนั่ ความพยายามท่ีจะดาเนินการสร้างแผนการสอนคร้ังน้ีจนสาเร็จสมบูรณ์ คุณประโยชน์อนั พึงมีจากการศึกษาค้นควา้ ฉบบั น้ี ผศู้ ึกษาขอน้อมบูชาและอุทิศให้กบั คุณบิดามารดา บุพการีและบูรพาจารยท์ ี่ไดช้ ้ีแนะและวางพ้ืนฐานการศึกษา จนไดร้ ับความสาเร็จสมดง่ัความมุ่งหมายทุกประการ คณะผจู้ ดั ทา

สารบัญ หน้า กบทคดั ยอ่ คกิตติกรรมประกาศ ฉสารบญั ตาราง ชสารบญั ภาพบทที่ 1 บทนา 11.1 ความเป็นมาและความสาควาญของปัญหา 21.2 วตั ถุประสงค์ 21.3 ขอบเขตขอบการทางาน 31.4 คาจากดั ความ 41.5 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับบทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง 52.1 โปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) 122.2 การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (G-mail) 152.3 งานวจิ ยั ที่เก่ียวขอ้ งบทที่ 3 วธิ ีดาเนินงาน 173.1 วเิ คราะห์หลกั สูตรรายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา และการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 193.2 กาหนดกลุ่มผเู้ รียนท่ีจะใหเ้ รียน 193.3 การสร้างโครงการสอน 213.4 เก็บรวบรวมขอ้ มูลในการสอนบทที่ 4 ผลของการสอน 234.1 สื่อที่ใชใ้ นการสอน 234.2 หวั ขอ้ การสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) 244.3 หวั ขอ้ การสอนการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (G-mail) 254.4 การวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการสอน

สารบญั (ต่อ) หน้าบทที่ 5 สรุปผลและขอ้ เสนอแนะ 27 5.1 สรุปผล 28 295.2 ขอ้ เสนอแนะบรรณานุกรม 30ภาคผนวก 60ภาคผนวก ก 70ภาคผนวก ข 90ภาคผนวก ค 110ภาคผนวก งประวตั ิผจู้ ดั ทาโครงการ

สารบัญตาราง หน้า 7ตารางท่ี 252-1 แสดงการเล่ือนตาแหน่งในเอกสาร 994-1 แสดงผลคะแนนการทาใบงาน 99ง-1 แสดงร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามจาแนกขอ้ มูลตามเพศ 100ง-2 แสดงร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามจาแนกขอ้ มูลตามสถานะ 100 ง-3 แสดงร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถามจาแนกขอ้ มลู ตามระดบั ช้นัง-4 แสดงค่าเฉลี่ยของความพงึ พอใจในการดาเนินโครงการ

สารบัญภาพ หน้า 5ภาพท่ี 62-1 ส่วนประกอบของหนา้ จอโปรแกรม 6 7 2-2 แถบ Ribbon เป็นแถบที่รวบรวมคาสง่ั หรือทลู บาร์ตา่ ง ๆ 8 2-3 แถบ Ribbon เป็นแถบที่รวบรวมคาสั่งหรือทลู บาร์ต่าง ๆ 82-4 การบนั ทึกเอกสาร 9 2-5 การบนั ทึกเอกสารเป็นชื่อไฟลอ์ ื่นหรือไดร์ฟอ่ืน 9 2-6 การเปิ ด-ปิ ด เอกสารและปิ ดโปรแกรม 10 2-7 การเปิ ดแฟ้ มงานใน disk 10 2-8การตกแตง่ ขอ้ ความ 11 2-9 คลิกป่ ุมเครื่องมือบนทลู บาร์ 12 2-10 ไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ของ Font ใหก้ าหนดรายละเอียดเพิ่มเติม 132-11 กาหนดระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร 13 2-12 การสร้างงานพิมพแ์ บบคอลมั น์ 132-13 ภาพหนา้ อินเทอร์เน็ตก่อนเขา้ G-mail 14 2-14 ภาพหนา้ เขา้ สู่ G-mail 14 2-15 ภาพหนา้ การเปลี่ยนธีม 14 2-16 ภาพการต้งั ค่าธีม 152-17 ภาพหนา้ G-mail 18 2-18 ภาพหนา้ การส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 202-19 ภาพหนา้ กล่องจดหมายเขา้ G-mail 22 3-1 ข้นั ตอนการวเิ คราะห์หลกั สูตรวชิ า3-2 ข้นั ตอนการสร้างเคร่ืองมือในการสอน 3-3 ข้นั ตอนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล

บทท่ี 1 บทนา ปัจจุบนั คอมพิวเตอร์ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในการดารงชีวติ เป็ นอย่างมากท้งั ในดา้ นการศึกษาการประกอบอาชีพ ความบนั เทิง และอื่นๆ อีกมากมาย อีกท้งั ยงั จะช่วยอานวยความสะดวกสบายในหลายๆ ดา้ น ในปัจจุบนั จะเห็นไดว้ า่ มีการนาเอาวิชาคอมพิวเตอร์เขา้ มาเป็ นหลกั สูตรการเรียนการสอนท้งั ในระดับช้ันประถมศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษา และระดบั ท่ีสูงข้ึนไปอีกด้วย นอกจากน้ีในปัจจุบนั ยงั มีความกา้ วหน้าในดา้ นเทคโนโลยีเป็ นอย่างมาก จึงมีความจาเป็ นอยา่ งยิ่งในการศึกษาคน้ ควา้ เรียนรู้เกี่ยวกบั การใช้คอมพิวเตอร์ข้นั พ้ืนฐาน เพื่อที่จะไดน้ าความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชนต์ อ่ ไป1.1กกความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา ในปัจจุบนั เทคโนโลยีมีความเจริญกา้ วหน้าเป็ นอย่างมาก เทคโนโลยีคือส่ิงท่ีมนุษย์ได้พฒั นาข้ึน เพื่อช่วยในการทางานหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เช่น อุปกรณ์,เคร่ืองมือ, เครื่องจกั ร, วสั ดุ หรือแมก้ ระท้งั ส่ิงของที่จบั ตอ้ งไม่ได้ เช่นกระบวนการต่างๆ เทคโนโลยีมีบทบาทในการดาเนินชีวติ ของมนุษยเ์ พราะมนุษยไ์ ดใ้ ชเ้ ทคโนโลยี เขา้ มาเก่ียวขอ้ งในการพฒั นางานดา้ นต่างๆ เพอ่ื การดาเนินชีวติ ที่ดี โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ท่ีไดร้ ับความนิยมและมีความจาเป็ นที่ตอ้ งใช้ในการทางานต่างๆ แทบท้งั สิ้นไม่ว่าจะเป็ น การจดั เก็บขอ้ มูล, เอกสาร, การคานวณ, การออกแบบ, เป็ นต้น รวมถึงงานด้านต่างๆ ในทุกสาขาอาชีพในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็ น วิศวกร,นกั วทิ ยาศาสตร์, นกั ธุรกิจ, งานธนาคาร, การแพทย,์ ราชการ เป็นตน้ จะเห็นได้ว่าปัจจุบนั ทุกสาขาอาชีพตอ้ งอาศยั คอมพิวเตอร์ ในการทางานท้งั สิ้น รวมถึงสถานศึกษาท่ีใชค้ อมพิวเตอร์ในสื่อการเรียนการสอนเพิ่มมากข้ึน ซ่ึงปัจจุบนั การเรียนการสอนมีความทนั สมยั มากข้ึนการศึกษาเรียนรู้การใชค้ อมพิวเตอร์พ้ืนฐานอยา่ ง Microsoft office เพื่อที่จะได้นาความรู้ความสามารถไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซ่ึงเป็ นที่นิยมแพร่หลายอย่างมากในสานกั งานรวมถึงงานตา่ งๆ ในทุกสาขาอาชีพ โดยการจดั ทาโครงการ “ปันความรู้จากพี่สู่น้อง” โครงการน้ีให้นกั เรียนไดเ้ รียนรู้การใช้โปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) และโปรแกรมการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(G-mail) ใหแ้ ก่นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั ตะปอนนอ้ ย (ประมวลวทิ ยาคาร) เพ่ือให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ สามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ในการศึกษาและการประกอบอาชีพตอ่ ไปในอนาคต

1.2กกวตั ถุประสงค์ 1.2.1กกเพ่อื สร้างทกั ษะและกระบวนการจดั การเรียนรู้นอกสถานท่ี 1.2.2กกเพื่อนาความรู้ในการใช้โปรแกรมเร่ืองการใช้โปรแกรมประมวลผลคาและโปรแกรมการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ไปเผยแพร่ในการเรียนการสอน 1.2.3กกเพื่อให้ความรู้ที่มีในการใชโ้ ปรแกรมเรื่องการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาและการรับ-ส่งจดหมายใหเ้ กิดประโยชน์1.3กกขอบเขตขอบการทางาน การสอนในเรื่องการใช้โปรแกรมประมวลผลคาและโปรแกรมการรับ -ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จะทาการสอนสาหรับนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั ตะปอนน้อย(ประมวลวทิ ยาคาร) ต.ตะปอน อ.ขลุง จ.จนั ทบุรี โดยมีองคป์ ระกอบของการสอนดงั น้ี 1.3.1กกออก แบบแล ะสร้ าง ชุ ดการสอนภา คทฤษ ฎี เรื่ อง โปรแก รมประ มวลผล คาแล ะโปรแกรมการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ โดยมีส่วนประกอบดงั น้ี 1.3.1.1กกคู่มือสาหรับผสู้ อน 1)กกโครงการสอน 2)กกใบเน้ือหา 3)กกแบบฝึ กหดั 4)กกแบบทดสอบ 1.3.1.2กกส่ือการสอน 1)กกใบงานที่มอบฝึกปฏิบตั ิ 2)กกตวั อยา่ งชิ้นงาน 1.3.2กกในการสอนโปรแกรมประมวลผลคามีหวั ขอ้ ดงั น้ี 1.3.2.1กกเรื่ องความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเกี่ยวกับโปรแกรมประมวลผลคา 1.3.2.2กกเรื่องเครื่องมือพ้ืนฐานของโปรแกรมประมวลผลคา 1.3.2.3กกเร่ืองการจดั รูปแบบเอกสาร 1.3.2.4กกเร่ืองการตกแตง่ เอกสาร 1.3.2.5กกเร่ืองการสร้างโบรชวั ร์เรื่องงดเหลา้ เขา้ พรรษา 1.3.2.6กกเร่ืองการทาการ์ดวนั แม่ 1.3.3กกในการสอนเรื่องการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์มีหวั ขอ้ ดงั น้ี

1.3.3.1กกเร่ืองความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 1.3.3.2กกเรื่องการเปล่ียนธีมหนา้ จอจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 1.3.3.3กกเร่ืองการรับส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์1.4กกคาจากดั ความ คาจากดั ความ คือ ขอ้ ความอธิบายความหมายอยา่ งเป็นทางการของคาหรือวลี 1.4.1กกการสอน หมายถึง วธิ ีการที่ครูถ่ายทอดความรู้ อบรมนกั เรียน ใหม้ ีความรู้ความคิดเจตคติและทกั ษะดงั ที่จุดประสงคก์ ารศึกษาไดร้ ะบุไว้ การกระทาและดาเนินการดา้ นต่าง ๆ ของครูภายใตส้ ภาพการณ์การเรียนการสอน ซ่ึงประกอบดว้ ยการสร้างสัมพนั ธภาพระหวา่ งครูกบั นกั เรียนกระบวนการตดั สินใจและวางแผนก่อนสอน ซ่ึงได้แก่ การวางแผนการสอน การจดั เตรียมสื่ออุปกรณ์ 1.4.2กกแบบทดสอบ หมายถึง ชุดของคาถาม ปัญหา สถานการณ์ กลุ่มของงานหรือกิจกรรมอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงที่ใชเ้ ป็ นส่ิงเร้า กระตุน้ ยวั่ ยุ หรือชกั นาผถู้ ูกทดสอบแสดงพฤติกรรมหรือปฏิกิริยาตอบสนองตามแนวทางที่ตอ้ งการ แบบทดสอบเป็ นเครื่องมือวดั สมรรถภาพทางสมองไดด้ ีที่สุด 1.4.3กกการเรียนรู้ หมายถึง การไดร้ ับความรู้ พฤติกรรม ทกั ษะ คุณคา่ หรือความพึงพอใจท่ีเป็นสิ่งแปลกใหม่หรือปรับปรุงสิ่งท่ีมีอยู่ และอาจเก่ียวขอ้ งกบั การสังเคราะห์สารสนเทศชนิดต่าง ๆผปู้ ระมวลทกั ษะของการเรียนรู้เป็ นไดท้ ้งั มนุษย์ สัตว์ และเครื่องจกั รบางชนิด ความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้เมื่อเทียบกบั เวลามีแนวโนม้ เป็นเส้นโคง้ แห่งการเรียนรู้ 1.4.4กกเทคโนโลยี หมายถึง การนาความรู้ทางธรรมชาติวิทยาและต่อเนื่องมาถึงวิทยาศาสตร์ มาเป็ นวิธีการปฏิบตั ิและประยุกต์ใช้เพ่ือช่วยในการทางานหรือแกป้ ัญหาต่าง ๆ อนัก่อให้เกิดวสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร แม้กระทัง่ องค์ความรู้นามธรรมเช่น ระบบหรือกระบวนการตา่ ง ๆ เพอื่ ใหก้ ารดารงชีวติ ของมนุษยง์ ่ายและสะดวกยง่ิ ข้ึน 1.4.5กกคอมพิวเตอร์ หมายถึง เคร่ืองคานวณ อิเล็กทรอนิกส์ท่ีสามารถทางานคานวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคาสั่งดว้ ยความเร็วสูงอย่างต่อเน่ืองและอตั โนมตั ิ พจนานุกรมฉบบัราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2525 ไดใ้ ห้คาจากดั ความของคอมพิวเตอร์ไวค้ ่อนขา้ งกะทดั รัดวา่ เคร่ืองอิเล็กทรอนิกส์แบบอตั โนมตั ิ ทาหน้าท่ีเสมือนสมองกล ใช้สาหรับแกป้ ัญหาต่างๆ ท้งั ท่ีง่ายและซบั ซอ้ น โดยวธิ ีทางคณิตศาสตร์ หรืออาจกล่าวไดว้ า่ เครื่องคอมพิวเตอร์หมายถึง เคร่ืองมือท่ีช่วยในการคานวณและการประมวลผลขอ้ มลู

1.4.6กกโปรแกรมสาเร็จรูป (Package Software) คือซอฟตแ์ วร์ที่สร้างข้ึนเพื่อใชใ้ นสานกั งานทว่ั ๆ ไป สร้างโดยบริษทั ท่ีมีความชานาญในดา้ นน้นั ๆ โดยเฉพาะมีการปรับปรุงรุ่น (Version) ของซอฟตแ์ วร์ใหม้ ีประสิทธิภาพสูงข้ึนอยเู่ สมอ1.5กกประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ ประโยชน์ คือ ส่ิงที่มีผลใชไ้ ดด้ ีสมกบั ที่คิดมุง่ หมายไวผ้ ลท่ีไดต้ ามความตอ้ งการสิ่งที่เป็ นผลดี 1.5.1กกไดน้ าความรู้ความสามารถไปเผยแพร่ได้ 1.5.2กกไดน้ าความรู้ในการใชโ้ ปรแกรมใหเ้ กิดประโยชน์ 1.5.3กกไดน้ าความรู้ไปประยกุ ตใ์ นชีวติ ประจาวนั การศึกษาและการประกอบอาชีพ 1.5.4กกไดร้ ับประสบการณ์ในการทางานเป็นทีม

บทท่ี 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทเี่ กยี่ วข้อง ในการจดั ทาโครงการ “ปันความรู้จากพสี่ ู่นอ้ ง” (เรื่องโปรแกรมประมวลผลคา MicrosoftWord 2010 และการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-mail) คร้ังน้ี เพ่อื ใหส้ ามารถจดั ทาโครงการได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และเป็นไปไดด้ ว้ ยดี โดยทาการศึกษาคน้ ควา้ เอกสารและทฤษฎีท่ีเก่ียวขอ้ งดงั น้ี 2.1กกโปรแกรมประมวลผลคา 2.2กกการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 2.3กกงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวขอ้ ง2.1กกโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft word 2010) 2.1.1กกหน่วยท่ี 1 รู้จกั เกี่ยวกบั โปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) เร่ิมใชง้ านโปรแกรม Microsoft Word 2010 1.กกคลิกป่ ุม Start บนแถบ Task bar 2.กกเลือก All Programs Microsoft Word 3.กกเลือก Microsoft Word 2010 จะเปิ กใหใ้ ชง้ านไดท้ นั ที 2.1.2กกหน่วยที่ 2 เคร่ืองมือพ้นื ฐานของโปรแกรม Microsoft Word 2010 2.1.2.1กกส่วนประกอบของหน้าจอโปรแกรม ก่อนที่จะทางานกับโปรแกรมMicrosoft Word คุณจะตอ้ งรู้จกั กบั ส่วนประกอบของหนา้ จอโปรแกรมก่อน เพื่อจะไดเ้ ขา้ ใจถึงส่วนต่างๆ ที่จะกล่าวอา้ งถึงในหนงั สือเล่มน้ีไดง้ ่ายข้ึน

ภาพท่ี 2-1 ส่วนประกอบของหนา้ จอโปรแกรม 1)กกOffice Button เป็ นป่ ุมคาสั่งเกี่ยวกบั การทางานของแฟ้ มงาน เช่นNew, Open, Save, Save As, Print, Close, ฯลฯ 2)กกQuick Access Toolbar เป็ นแถบเคร่ืองมือให้คุณเรียกใชง้ านไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ผใู้ ชส้ ามารถเพ่ิมป่ ุมคาส่ังที่ใชง้ านบ่อยๆ ไวใ้ นแถบเครื่องมือน้ีได้ 3)กกTitle bar แถบแสดงช่ือโปรแกรมและช่ือไฟล์ปัจจุบนั ท่ีคุณเปิ ดใช้งานอยู่ 4)กกRibbonเป็ นแถบท่ีรวบรวมคาสั่งต่างๆ ของเมนูหรือทูลบาร์เพื่อให้ผใู้ ชเ้ ลือกใชง้ านง่ายข้ึน 5)กกStatus bar แถบแสดงสถานการณ์ทางานปัจจุบนั บนหนา้ จอ 6)กกView bar แถบแสดงมุมมองเอกสารในแบบต่างๆ 2.1.2.1กกการใชง้ าน Ribbon แถบ Ribbon เป็ นแถบที่รวบรวมคาสั่งหรือทูลบาร์ต่างๆ ให้คุณเลือกใช้งานได้ นอกจากการใช้งานปกติแลว้ คุณยงั สามารถเรียกใช้เมนูลดั ของแถบRibbon ข้ึนมาใชง้ านได้ โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี -กกคลิกขวาท่ีป่ ุมใดก็ไดบ้ นแถบ Ribbon ภาพที่ 2-2 แถบ Ribbon เป็นแถบที่รวบรวมคาสั่งหรือทลู บาร์ต่าง ๆ -กกจะปรากฏเมนูคาสั่งใหเ้ ลือกดงั น้ี

ภาพที่ 2-3 แถบ Ribbon เป็นแถบท่ีรวบรวมคาสง่ั หรือทลู บาร์ต่างๆ 2.1.2.2กกการพิมพข์ อ้ ความ เมื่อคุณเปิ ดโปรแกรม Microsoft Office Word ข้ึนมาแลว้ ตอ้ งการพมิ พง์ านในเอกสาร คุณสามารถทาได้ โดยมีข้นั ตอ้ นดงั น้ี 1)กกคลิกเป็นcursor ตาแหน่งท่ีตอ้ งการในเอกสาร 2)กกพมิ พข์ อ้ ความไดเ้ ลย 2.1.2.3กกการเลื่อนตาแหน่งในเอกสาร ถา้ คุณตอ้ งการเล่ือน cursor ไปทางานยงั ตาแหน่งต่างๆ ในเอกสาร การใช้ป่ ุมบนคียบ์ อร์ดสามารถทาใหเ้ ลื่อน cursor ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ดงั น้ีตารางท่ี 2-1 การเล่ือนตาแหน่งในเอกสาร ป่ ุมบนคียบ์ อร์ด ผลลพั ธ์Home เป็นการเล่ือน cursor ไปตาแหน่งแรกสุดของบรรทดั น้นัEnd เป็นการเล่ือน cursor ไปตาแหน่งทา้ ยสุดของบรรทดั น้นัป่ ุมบนคียบ์ อร์ด ผลลพั ธ์Ctrl+Home เป็นการเลื่อน cursor ไปตาแหน่งแรกสุดของเอกสารCtrl+End เป็นการเล่ือน cursor ไปตาแหน่งทา้ ยสุดของเอกสารกดป่ ุม F5 แลว้ พมิ พห์ มายเลขหนา้ ท่ี เป็นการเล่ือน cursor ไปยงั หนา้ ที่ระบุไว้ตอ้ งการ เสร็จแลว้ กดป่ ุม Enter 2.1.2.4กกการบนั ทึกเอกสาร 1)กกเมื่อคุณพิมพ์งานเอกสารและตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องทาการบนั ทึกขอ้ มูลลงใน disk โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี -กกคลิกป่ ุม Save บนแถบ Quick Access Toolbar หรือคลิกป่ ุม OfficeButton เลือกคาสง่ั Save หรือ Save As ก็ได้ -กกจะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ของ Save As ใหก้ าหนดรายละเอียด

ภาพที่ 2-4 การบนั ทึกเอกสาร -กกท่ีช่อง Save in เลือกตาแหน่งไดร์ฟและโฟลเดอร์ท่ีตอ้ งการเกบ็ ขอ้ มูล -กกท่ีช่อง File name พิมพช์ ่ือไฟล์ จากตวั อยา่ งน้ีใหช้ ื่อวา่ บทท่ี2 คลิกป่ ุมSave จะไดไ้ ฟลน์ ามสกุล .docx 2.)กกการเกบ็ บนั ทึกเอกสารเป็นช่ือไฟลอ์ ื่นหรือไดร์ฟอื่น เม่ือคุณทาการเพม่ิ เติมรายละเอียดในแฟ้ มงาน หรือทาการแกไ้ ขขอ้ มลู ในเอกสาร แลว้ คลิกป่ ุม Save บน QuickAccess Toolbar จะทาการบนั ทึกลงแฟ้ มงานเดิมทนั ที ถา้ ตอ้ งการ Save เป็นแฟ้ มงานอื่นหรือไดร์ฟอ่ืน มีข้นั ตอนดงั น้ี -กกคลิกป่ ุม Office Button เลือกคาสง่ั Save As -กกจะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ของ Save As ใหเ้ ลือกไดร์ฟและโฟลเดอร์ตามตอ้ งการ ภาพท่ี 2-5 การบนั ทึกเอกสารเป็นชื่อไฟลอ์ ่ืนหรือไดร์ฟอ่ืน 2.1.2.5กกการเปิ ด-ปิ ด เอกสารและปิ ดโปรแกรม

1)กกการปิ ดแฟ้ มงานเอกสาร เมื่อคุณทาการบนั ทึกแฟ้ มงานเสร็จแล้วตอ้ งการปิ ดงานน้นั มีข้นั ตอนดงั น้ี -กกคลิกป่ ุม Office Button เลือกคาลงั่ Close การเปิ ดแฟ้ มงานใหม่เมื่อคุณตอ้ งการสร้างงานเอกสารใหม่ มีข้นั ตอนดงั น้ี -กกคลิกป่ ุม Office Button เลือกคาสัง่ New ภาพที่ 2-6 การเปิ ด-ปิ ด เอกสารและปิ ดโปรแกรม -กกเลือกแบบ เอกสารเปล่า เสร็จแลว้ คลิกป่ ุม สร้าง 2)กกการเปิ ดแฟ้ มงานในdisk -กกคลิกป่ ุม Office Button เลือกคาสั่ง Open -กกจะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ของ Open ใหก้ าหนดรายละเอียด ภาพที่ 2-7 การเปิ ดแฟ้ มงานใน disk -กกช่อง Look in เลือกไดร์ฟและโฟลเดอร์ท่ีเก็บขอ้ มูล -กกคลิกช่ือไฟลท์ ี่ตอ้ งการเปิ ดในตวั อยา่ งเลือกไฟลช์ ่ือบทที่-2แลว้ คลิกป่ ุมOpen

2.1.3กกหน่ายท่ี 3 การจดั รูปแบบเอกสาร 2.1.3.1กกการตกแต่งขอ้ ความ เมื่อคุณพมิ พข์ อ้ ความในเอกสารเรียบร้อยแลว้ เพ่ือใหข้ อ้ ความน้นั ดูสวยงามข้ึน คุณสามารถจดั ตกแตง่ เพ่ิมได้ โดยมีข้นั ตอนตอ่ ไปน้ี 1)กกDrag เมาส์คลุมขอ้ ความที่ตอ้ งการตกแตง่ จะปรากฏทลู บาร์ข้ึนโดยอตั โนมตั ิใหค้ ุณเลือกใชไ้ ดเ้ ลย ภาพที่ 2-8 การตกแตง่ ขอ้ ความ 2)กกคลิกป่ ุมเคร่ืองมือบนทลู บาร์ ภาพท่ี 2-9 คลิกป่ ุมเครื่องมือบนทูลบาร์ภาพท่ี 2-10ไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ของ Font ใหก้ าหนดรายละเอียดเพม่ิ เติมทแ่ี ทบ็ Font ใชก้ าหนดชนิดตวั อกั ษร โดยมีรายละเอียดดงั น้ีช่อง Latin text: เลือกช่ือ Font ท่ีตอ้ งการ ใชก้ บั Font ภาษาองั กฤษ

ช่อง Complex Script: เลือกชื่อ Font ท่ีตอ้ งการ ใชก้ บั Font ภาษาไทยFont style: เลือกรูปแบบของตวั อกั ษรSize: เลือกขนาดของตวั อกั ษรFont color: สีของตวั อกั ษรUnderline style: เลือกรูปแบบของตวั ขีดเส้นใต้Underline color: สีของเส้นใต้Effects: เทคนิคพเิ ศษของตวั อกั ษร Strikethrough ขีดกลางตวั อกั ษร Double Strikethrough ขีดกลางตวั อกั ษร 2 เส้น Superscript ตวั ยกข้ึน Subscript ตวั หอ้ ย Shadow ตวั อกั ษรแบบมีเงา Outline ตวั อกั ษรแบบโปร่ง Emboss ตวั นูน Engrave ตวั บุ๋ม Small caps ตวั พมิ พใ์ หญ่ท่ีมีขนาดเล็ก All caps ตวั พมิ พใ์ หญ่ที่มีขนาดเท่ากนั Hidden ซ่อนตวั อกั ษรPreview: แสดงตวั อยา่ งทแ่ี ทบ็ Character Spacingใชก้ าหนดระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร โดยมีรายละเอียดดงั น้ีScale: ปรับอตั ราส่วนของตวั อกั ษร ปกติเป็น 100%Spacing ปรับระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร Normal แบบปกติ Expanded ขยายระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษรใหก้ วา้ งข้ึน Condensed บีบระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษรใหแ้ คบลงPosition: ตาแหน่งของการวางขอ้ ความ Normal วางแบบปกติ Raised วางแบบเหลื่อมข้ึน Lowered วางแบบเหลื่อมลง

ภาพท่ี 2-11 กาหนดระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร -กกเมื่อกาหนดรายละเอียดต่างๆ เสร็จแลว้ คลิกป่ ุม OK 2.1.4กกหน่วยที่ 4 การสร้างแผน่ พบั การสร้างงานพมิ พแ์ บบคอลมั น์ เป็นการจดั รูปแบบงานเอกสารคลา้ ยงานหนงั สือพิมพม์ ีการแบ่งขอ้ มูลในเอกสารออกเป็ นหลายๆ คอลมั น์ นอกจากงานหนงั สือพิมพแ์ ลว้ จะเห็นลกั ษณะงานแบบน้ีในนิตยสาร หรือจะใชใ้ นการทาโบรชวั ร์กไ็ ด้ มีข้นั ตอนดงั น้ี 2.1.4.1กกเลือกช่วงขอ้ มูลที่ตอ้ งการจดั รูปแบบ หรือถ้ายงั ไม่มีขอ้ มูล ให้คลิกเป็ นcursor ตาแหน่งท่ีตอ้ งการจดั รูปแบบ 2.1.4.2กกท่ีแทบ็ Page Layout คลิกลูกศรลงของป่ ุมทูลบาร์ เลือกจานวนคอลมั น์ที่ตอ้ งการ 2.1.4.3กกการกาหนดรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลือกคาสงั่ More Columns ภาพท่ี 2-12 การสร้างงานพมิ พแ์ บบคอลมั น์Presets: เลือกแบบของคอลมั น์Number of coiumns: กาหนดจานวนคอลมั น์Width and spacing: กาหนดความกวา้ งของคอลมั นแ์ ละระยะห่างระหวา่ งคอมลมั น์

Equal column width: กาหนดใหค้ วามกวา้ งทุกคอลมั น์เท่ากนัApply to: การนาไปใช้ หมดท้งั เอกสาร Whole document นบั จากจุดท่ี cursor อยเู่ ป็นตน้ ไป This point forward เฉพาะช่วงขอ้ มูลท่ีเลือก ใชก้ บั งาน Selected text กาหนดเส้นแบง่ ระหวา่ งคอลมั น์ok  Line between2.2 การรับ-ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (G-mail) 2.2.1กกหน่วยที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (G-mail)เร่ิมใชง้ านการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 1.กกคลิกไอคอน บนหนา้ เดสกท์ อป 2.กกคลิกเลือกท่ี Gmail ทางดา้ นบนขวามือของหนา้ เวบ็ ภาพท่ี 2-13 ภาพหนา้ อินเทอร์เน็ตก่อนเขา้ G-mail3.กกจะปรากฏหนา้ ใหใ้ ส่ Gmail และ รหสั ผา่ น ภาพท่ี 2-14 ภาพหนา้ เขา้ สู่ Gmail2.2.2กกหน่วยท่ี 2 การเปล่ียนธีมหนา้ จอจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (G-mail) 1.กกคลิกเลือกที่ แลว้ เลือก ธีม

ภาพท่ี 2-15 ภาพหนา้ การเปล่ียนธีม 2.กกเลือกธีมที่ตอ้ งการ แลว้ คลิกบนั ทึก ภาพท่ี 2-16 ภาพการต้งั ค่าธีม 2.2.3กกหน่วยที่3 การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 1.กกการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ คลิกที่ ภาพท่ี 2-17 ภาพหนา้ G-mail 2.กกจะมีกล่องขอ้ ความข้ึนมาใหก้ รอกรายละเอียด โดยใส่ Gmail ผทู้ ่ีจะส่งถึง เรื่องและสามารถใส่รายระเอียดหรือขอ้ ความเพิม่ เติมได้ หรือแนบไฟลเ์ อกสารงานต่างๆได้ แลว้ คลิกส่งจดหมายกอ้ จะส่งสมบูรณ์

ภาพท่ี 2-18 ภาพหนา้ การส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 3.กกการรับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ คลิกที่กล่องจดหมาย ในส่วนน้ีจะเป็นส่วนที่ดูวา่ มีผใู้ ดส่งจดหมายเขา้ มาใน G-mail บา้ ง ภาพ 2-19 ภาพหนา้ กล่องจดหมายเขา้ G-mail2.3กกงานวจิ ัยทเ่ี กย่ี วข้อง วิเชียร ไชยบงั (2556) ไดศ้ ึกษาการวิเคราะห์องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนตามการรับรู้ของครูประถมศึกษาจงั หวดั กาฬสินธุ์ กลุ่มตวั อย่างเป็ นครู จานวน 367 คน ผลการวิจยั พบว่าองคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนการรับรู้ของครูประถมศึกษาจงั หวดั กาฬสินธุ์ มี 3 องคป์ ระกอบคือ องคป์ ระกอบดา้ นทกั ษะความเป็ นครู องคป์ ระกอบดา้ นภูมิหลงั ของครู และองคป์ ระกอบดา้ นบรรยากาศในการเรียนการสอน เจริญศรี สิริ ( 2553) ไดท้ าการวจิ ยั เร่ือง สมรรถภาพการสอนของครูมธั ยมศึกษาตอนปลายในเขตการศึกษา 2 ตามประเมินของนกั เรียน กลุ่มตวั อย่าง คือ ครูช้นั มธั ยมศึกษาจานวน 500 คนโดยใชน้ กั เรียน 7 คน เป็ นผูป้ ระเมินครู 1 คน เครื่องมือท่ีใช้เป็ นแบบประเมินสมรรถภาพการสอนของครู ผลการวิจัยพบว่า สมรรถภาพการสอนของครูมีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือองคป์ ระกอบที่ 1 ความรู้ความสามารถและคุณลกั ษณะของการเป็ นครู ประกอบดว้ ยตวั แปร 24 ตวัองคป์ ระกอบท่ี 2 ความพยายามในการพฒั นานกั เรียน ประกอบดว้ ยตวั แปร 12 ตวั องคป์ ระกอบท่ี 3

ความสามารถในการจดั กระบวนการเรียนการสอน ประกอบดว้ ยตวั แปร 9 ตวั องคป์ ระกอบที่ 4ความสามรถในการจงู ใจนกั เรียนใหค้ วามสนใจการเรียน ประกอบดว้ ยตวั แปร 5 ตวั สุรศกั ด์ิ หอมอ่อน (2557) ไดศ้ ึกษาการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนของครูคณิตศาสตร์ในโรงเรียนมธั ยมศึกษา สังกดั กรมสามญั ศึกษา จงั หวดั นครพนม กลุ่มตวั อยา่ งท่ีใชใ้ นการวิจยั แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม คือ ครูคณิตศาสตร์จานวน 143 คน นกั เรียนจานวน 731 คน ผลการวิจยัพบว่า องค์ประกอบประสิทธิภาพการสอนของครูคณิตศาสตร์โดยรวมมี 2 องค์ประกอบ คือองคป์ ระกอบที่ 1 ดา้ นพ้ืนฐานการเป็ นครูประกอบดว้ ย การวดั และการประเมินผลของครู เจตคติต่อการสอนคณิตศาสตร์ของครู ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งครูกบั นกั เรียน ความรู้ในเน้ือหาวิชาคณิตศาสตร์และบุคลิกลกั ษณะของครู องคป์ ระกอบท่ี 2 ดา้ นทกั ษะความเป็ นครู ประกอบดว้ ย การใชภ้ าษาในการส่ือสารของครู การให้การเสริมแรงแก่นักเรียน ปริมาณงานอ่ืนที่ครูได้รับมอบหมาย การเตรียมการสอนของครู บรรยากาศในการเรียนการสอน เจตคติต่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ของครูการใชส้ ่ือสารการสอนของครู และของขวญั และกาลงั ใจของครู เฉลิมภาค ทองอาจ (2557) ได้ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอนมโนทัศน์ท่ีมีต่อผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลกั การใชภ้ าษาไทยและความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์ของนกั เรียนช้นัมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลกั การใชภ้ าษาไทยและความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอบมโนทศั น์กบั การจดั การเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตวั อย่าง คือ นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์หมาวิทยาลยั ฝ่ ายมธั ยม จานวน 71 คน แบ่งเป็ นกลุ่มทดลองซ่ึงจดั การเรียนรู้โดยใชร้ ูปแบบการสอนมโนทศั น์จานวน 36 คน และกลุ่มควบคุมซ่ึงจดั การเรียนรู้ปกติ จานวน 35 คน เคร่ืองท่ีใชใ้ นการวจิ ยั แบ่งเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูล คือ แบบสอบผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลกั การใชภ้ าษาไทยและแบบวดั ความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์ และเครื่องมือท่ีใช้ในการทดลองคือ แผนการจดั การเรียนรู้หลักการใช้ภาษาไทย ใชเ้ วลาดาเนินการทดลอง 8 สปั ดาห์ สปั ดาห์ละ 2 คาบ รวมท้งั สิ้น 16 คาบ วเิ คราะห์ขอ้ มูลโดยหาค่าเฉลี่ยมชั ฌิมาเลขคณิต ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่า และการวิเคราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOBA)ผลการวิจยั พบวา่ (i) นกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนมโนทศั น์มีผลสัมฤทธ์ิ การเรียนรู้หลกั การใช้ภาษาไทยสูงกวา่ นกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้แบบปกติอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05 (2) นกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนมโนทศั น์มีความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 และ (3) นกั เรียนท่ีไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน

มโนทศั น์มีความสามารถ ในการคิดเชิงมโนทศั น์สูงกวา่ นกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้แบบปกติอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 ศศิพิมพ์ นิตโย (2557) ไดศ้ ึกษาการวิเคราะห์องค์ประกอบประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่ือง Preposipionsของนักเรียน ระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 2 โรงเรียนอสั สัมชัญแผนกประถม ผลการศึกษาพบว่าชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เร่ืองPreposipions ของนกั เรียน ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 2 มีประสิทธิภาพ 85.11/84.95 ซ่ึงเป็ นไปตามสมมติฐานท่ีต้งั ไว้ บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน ในการจดั ทาโครงการ “ปันความรู้จากพี่สู่นอ้ ง” ( เร่ืองโปรแกรมประมวลผลคา MicrosoftWord 2010 และการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail ) ผสู้ อนไดด้ าเนินการตามลาดบั ข้นั ตอนดาเนินการตา่ ง ๆ ตามลาดบั ข้นั ตอน ดงั น้ี 3.1กกวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ าโปรแกรมประมวลผลคาและการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 3.2กกกาหนดกลุ่มผเู้ รียนที่จะสอน 3.3กกการสร้างโครงการสอน 3.4กกเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ในการสอน3.1กกวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ า ผสู้ อนไดท้ าการศึกษาขอ้ มูลเก่ียวกบั โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 และการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail โดยศึกษาจากหนงั สือและเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ เพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงหัวเรื่อง เน้ือหาย่อย และวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยมีความสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ของหลกั สูตร การวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ าจะแสดงในภาพท่ี 3-1 สามารถอธิบายรายละเอียดดงั น้ี เริ่มตน้ วเิ คราะห์วชิ าการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา

รวบรวมและประเมนิ ความสาคญั ของหวั ขอ้ เรื่อง วเิ คราะหเ์ น้ือหาของหวั เร่ืองประเมินความสาคญั รายละเอียดเน้ือหาของหวั ขอ้ เร่ือง 11กาหนดวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ที่ปรึกษาพจิ ารณา ไม่ผา่ น ปรับปรุง ไมผ่ า่ น ปรับปรุง ผา่ น ผบู้ ริหารพจิ ารณา ผา่ นไดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกบั รายวชิ า จบการทางานภาพที่ 3-1 ข้นั ตอนการวเิ คราะห์หลกั สูตรวชิ า

3.1.1กกศึ กษา ราย ละเอี ย ดรา ยวิช าโป รแก รม ประ มวล ผลค าแล ะก ารรั บ -ส่ ง จดห มา ยอิเล็กทรอนิกส์จากการศึกษารายวชิ าพบวา่ คาอธิบายรายวิชาท่ีเขียนไวใ้ นหนงั สือมีเพียงจุดประสงค์รายวชิ า ไม่มีรายละเอียดเก่ียวกบั วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม และหวั ขอ้ เรื่องยอ่ ย 3.1.2กกรวบรวมและประเมินความสาคญั ของหัวเรื่องผูส้ อนได้แบ่งหัวขอ้ เรื่อง การใช้โปรแกรมประมวลผลคาออกเป็ น 3 หัวขอ้ เรื่องและการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ออกเป็ น 3หวั ขอ้ เรื่องโดยคานึงถึงความเก่ียวขอ้ งของเน้ือหา ประเภทของเน้ือหาที่เก่ียวกบั วิชาการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาประกอบดว้ ยหัวขอ้ เรื่อง ไดแ้ ก่ ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์และเกี่ยวกบัโปรแกรมประมวลผลคา การจดั รูปแบบเอกสารและการสร้างโบรชวั ร์ และของเน้ือหาที่เกี่ยวขอ้ งกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ประกอบดว้ ยหัวขอ้ เรื่องความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การตกแต่งหนา้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยอาศยั ขอ้ มูลจากแหล่งต่าง ๆ คือ เอกสาร หนังสือต่าง ๆ อินเทอร์เน็ตและอาจารยท์ ่ีปรึกษารวมถึงประสบการณ์ของผูส้ อนหลงั จากน้นั ผสู้ อนจึงทาการประเมินความสาคญั ของหวั เร่ืองแต่ละหวั ขอ้ โดยมีเกณฑใ์ นการพิจารณา คือ ในแต่ละหวั ขอ้ มีประโยชน์ช่วยส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาในการเรียน การทางานร่วมกนั ของนักเรียน ช่วยส่งเสริมทกั ษะการทางานให้ถูกตอ้ งสมบรู ณ์ และช่วยส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีเจตคติท่ีดี 3.1.3กกวิเคราะห์เน้ือหาสาคญั ของแต่ละหัวเรื่อง หลงั จากประเมินความสาคญั ของหวั ขอ้เรื่องแลว้ ผสู้ อนไดท้ าการวเิ คราะห์เน้ือหาสาคญั ของหวั ขอ้ เรื่องวา่ ประกอบดว้ ยเน้ือหาสาคญั ใดบา้ งซ่ึงผูส้ อนได้รายละเอียดเน้ือหาจากแหล่งขอ้ มูล คือ เอกสารหนังสือ ขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตและอาจารยท์ ี่ปรึกษา 3.1.4กกประเมินความสาคญั รายละเอียดเน้ือหาของหวั เรื่อง เม่ือไดร้ ายละเอียดเน้ือหาจากแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ แลว้ ผูส้ อนไดก้ ารประเมินความสาคญั รายละเอียดเน้ือหาของหัวเรื่อง โดยใช้เกณฑเ์ ดียวกบั การประมินความสาคญั ของหวั เรื่อง 3.1.5กกกาหนดวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม เม่ือไดร้ ายละเอียดของเน้ือหาการสอนท่ีมีการประเมินความสาคญั เรียบร้อยแล้ว การเขียนวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยผูส้ อนพิจารณาว่าตอ้ งการใหผ้ เู้ รียนเปล่ียนแปลงพฤติกรรมหลงั จากผา่ นการเรียนการสอนในหวั เร่ืองน้นั แลว้ ซ่ึงระดบัพฤติกรรม ท่ีวดั ไดม้ ีดงั น้ี คือ ระดบั ฟ้ื นคืนความรู้ (R) ระดบั การประยุกตค์ วามรู้ (A) และระดบั ส่งถ่ายความรู้ (T) โดยท้งั หมด 9 หน่วยเรียนมีวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมท้งั หมดที่ตอ้ งการ 3.1.6กกวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่สอนคล้องกับรายวิชา จากการประเมินความสอดคลอ้ งของอาจารยท์ ี่ปรึกษา สรุปว่ามีความสอดคลอ้ ง แสดงว่าวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมท่ี

กาหนดมีความสอดคลอ้ งกบั รายวชิ าท่ีสอน และสามารถนาไปใชใ้ นการกาหนดเน้ือหา ออกขอ้ สอบและสร้างสื่อการเรียนการสอนตอ่ ไป3.2กกกาหนดกล่มุ ผู้เรียนทจ่ี ะเรียน กลุ่มผเู้ รียนที่จะเลือกไปสอนในคร้ังน้ี คือ นกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดัตะปอนนอ้ ย ตาบลตะปอน อาเภอขลุง จงั หวดั จนั ทบุรี3.3กกการสร้างโครงการสอน เครื่องมือท่ีใชใ้ นการสอนคร้ังน้ี เป็ นโครงการสอนวิชาการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาและการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ซ่ึงผสู้ อนสร้างข้ึนโดยมีข้นั ตอนดงั ภาพที่ 3-2 เร่ิมตน้ วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมใบเน้ือหา วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม สื่อการเรียนการสอน แบบฝึ กหดั ,แบบทดสอบ ท่ีปรึกษาพจิ ารณา ไมผ่ า่ น ปรับปรุง ผา่ น ไมผ่ า่ น ปรับปรุง ผบู้ ริหารพจิ ารณา ผา่ น

ไดช้ ุดการสอนนาไปใชจ้ ริง สิ้นสุด ภาพที่ 3-2 ข้นั ตอนการสร้างเคร่ืองมือในการสอน รายละเอียดแต่ละข้นั ตอนมีดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1กกวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม หลงั จากผา่ นการวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวิชารวบรวมหวัเรื่อง ประเมินความสาคญั ของหวั เรื่อง วเิ คราะห์เน้ือหาสาคญั ของหวั เร่ืองแลว้ จะไดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 3.3.2กกสร้างโครงการสอนวิชาการใช้โปรแกรมประมวลผลคาและการรับ -ส่ งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ขอ้ มลู มีรายละเอียดดงั น้ี 3.3.2.1ddใบเน้ือหา นาวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมมากาหนดเน้ือหาวิชาในรายวิชาการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคาแบง่ เป็นเน้ือหาในส่วนวชิ าเป็ น 6 หน่วยเรียน โดยมีรายละเอียดดงั น้ี หน่วยที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์และเก่ียวกบั โปรแกรมประมวลผลคา หน่วยท่ี 2 เครื่องมือพ้นื ฐานของโปรแกรม หน่วยที่ 3 การจดั รูปแบบเอกสาร หน่วยท่ี 4 การจดั ตกแต่งเอกสาร หน่วยที่ 5 การสร้างโบรชวั ร์งดเหลา้ เขา้ พรรษา หน่วยท่ี 6 การทาการ์ดวนั แม่ วชิ าการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์แบง่ เป็นเน้ือหามีส่วนของวชิ าเป็น 3 หน่วยเรียนมีรายละเอียดดงั น้ี หน่วยท่ี 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 การเปล่ียนธีมหนา้ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 3 การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 3.3.2.2กกแบบทดสอบ ผสู้ อนไดส้ ร้างแบบทดสอบหลงั เรียนแบบอตั นยั จานวน 4ใบงานเพื่อวดั ความรู้ความเขา้ ใจแก่นกั เรียน

3.3.2.3กกสื่อการเรียนการสอน การสร้างสื่อการเรียนการสอนควรพิจารณาจากวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมและใบเน้ือหาเป็ นหลกั เพื่อผูเ้ รียนเกิดการเรียนรู้มากท่ีสุด ซ่ึงส่ือการเรียนการสอนประกอบดว้ ย ใบความรู้ประจาหน่วยการเรียนรู้ ตวั อยา่ งชิ้นงาน การสร้างโบรชวั ร์ดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา และใบงานที่มอบให้ฝึ กปฏิบตั ิงานโปรแกรมประมวลผลคา และการนางานส่งผา่ นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผสู้ อน เน่ืองจากผเู้ รียนจะไดส้ ัมผสั จากประสบการณ์จริงไดท้ ดสอบปฏิบตั ิจริงและเพ่มิ ความสะดวกในการสอนเพ่อื ความเขา้ ใจง่าย โดยการสร้างส่ือการเรียนมีข้นั ตอนดงั น้ี 1)กกการสร้างสื่อพิจารณาจากวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมและเน้ือหาเป็ นสาคญั โดยใหม้ ีความสอดคลอ้ งกบั เน้ือหารายวชิ า 2)กกออกแบบส่ิงพิมพ์ ในรูปแบบเอกสารต่าง ๆ โดยเนน้ ความชดั เจนและขนาดของขอ้ ความออกแบบส่ือสิ่งพิมพใ์ หเ้ กิดจินตนาการสวยงามน่าสนใจ3.4กกการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ผสู้ อนไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพื่อหาคาตอบตามจุดมุ่งหมายของการวิจยั คร้ังน้ีโดยกาหนดเป็นข้นั ตอน ดงั ภาพท่ี 3-3 ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี 3.4.1กกช้ีแจงวตั ถุประสงคก์ ารสอน 3.4.2กกทาการสอน โดยทาการสอนสัปดาห์ละ 1วนั วนั ละ 3 ชว่ั โมง ใชเ้ วลาสอนท้งั สิ้น 9สปั ดาห์ 3.4.3กกทดสอบหลงั เรียน เมื่อนกั เรียนผา่ นการเรียนการสอนครบทุกหน่วยการเรียนแลว้ผสู้ อนทาการทดสอบหลงั เรียนกบั นกั เรียน เริ่มตน้ ช้ีแจงวตั ถุประสงคแ์ ก่กลมุ่ นกั เรียน ตวั อยา่ งการทางาน อธิบายรายละเอียดของงาน ใบงานท่ีมอบปฏิบตั ิงานในโปรแกรม Microsoft Word 2007

สิ้นสุด ภาพท่ี 3-3 ข้นั ตอนการเก็บรวบรวมขอ้ มลู เมื่อเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากนกั เรียนซ่ึงประกอบดว้ ยใบงานและแบบทดสอบได้ครบ ผสู้ อนไดน้ าไปวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนดงั น้ี บทที่ 4 ผลของการสอน การสอนคร้ังน้ี ผูส้ อนสร้างและหาประสิทธิภาพชุดการสอนภาคทฤษฎีวิชาโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 และการรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยมีผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลแสดงเป็นลาดบั ดงั น้ี 4.1กกส่ือท่ีใชใ้ นการสอน 4.2กกหวั ขอ้ การสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.3กกหวั ขอ้ การสอนวชิ าการรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-mail 4.4กกการวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการสอน4.1กกส่ือทใี่ ช้ในการสอน ส่ือการเรียน หมายถึง เครื่องมือ ตลอดจนเทคนิคต่าง ๆ ท่ีจะมาสนบั สนุนการเรียน การสอนเร้าความสนใจผเู้ รียนรู้ใหเ้ กิดการเรียนรู้เกิดความเขา้ ใจดีข้ึน อยา่ งรวดเร็ว 4.1.1กกส่ือที่ใชใ้ นการสอน ไดแ้ ก่ คอมพิวเตอร์

4.1.2กกวิธีการสอน คือการบรรยายอธิบายและการสอนแบบยกตวั อย่างให้ผูเ้ รียนดูผ่านหน้าจอของตนเอง เพ่ือให้ผูเ้ รียนได้ทาความเข้าใจในข้นั ตอนการใช้โปรแกรมประมวลผลคาMicrosoft Word 2010 และโปรแกรมการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-mail4.2กกหวั ข้อการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.2.1กกหน่วยที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์และรู้จกั โปรแกรมประมวลผลคาMicrosoft Word 2010 4.2.1.1กกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 4.2.1.2กกความสาคญั ของการเรียนโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.2.1.3กกคุณลกั ษณะการทางานของโปรแกรมประมวลผมคา 4.2.1.4กกการใชง้ านพ้นื ฐานหลกั ของโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.2.2กกหน่วยที่ 2 เครื่องมือพ้นื ฐานของโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.2.2.1กกแนะนาแถบเคร่ืองมือส่วนประกอบต่าง ๆ 4.2.2.2กกการพมิ พข์ อ้ ความ 4.2.2.3กกการเล่ือนเคอร์เซอร์หรือจุดแทรกในเอกสาร (โดยใชเ้ มาส์,แป้ นพิมพ)์ 4.2.2.4กกการเลือกขอ้ ความ 4.2.2.5กกการคดั ลอกขอ้ ความและการลบขอ้ ความ 4.2.2.6กกการบนั ทึกเอกสาร 4.2.2.7กกการเปิ ด-ปิ ดเอกสารและการปิ ดโปรแกรม 4.2.3กกหน่วยที่ 3 การจดั รูปแบบเอกสาร 4.2.3.1กกเครื่องมือในการจดั รูปแบบอกั ษร(front)และการปรับระยะห่างตวั อกั ษร(ช่องไฟ) 4.2.3.2กกการแทรกสัญลกั ษณ์ใหเ้ อกสาร 4.2.3.3กกการเติมเลขลาดบั และกาหนดระยะขอบใหเ้ อกสาร 4.2.3.4กกการต้งั ขนาดกระดาษและการแบง่ คอลมั นใ์ นเอกสาร 4.2.3.5กกการแทรกตาราง 4.2.3.6กกการตกแต่งตาราง 4.2.4กกหน่วยท่ี 4 การสร้างโบรชวั ร์ 4.2.4.1กกการต้งั คา่ หนา้ กระดาษ 4.2.4.2กกการจดั รูปแบบของโบรชวั ร์ 4.2.4.3กกการตกแตง่ โบรชวั ร์

4.3กกหวั ข้อการสอนวชิ าการรับ-ส่งจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.1กกหน่วยที่ 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.1.1กกรู้จกั ส่วนประกอบของจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.1.2กกรู้ความสาคญั ของการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.1.3กกคุณลกั ษณะการทางานของจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.1.4กกการใชง้ านพ้นื ฐานหลกั ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.2กกหน่วยที่ 2 การเปล่ียนธีมหนา้ จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.2.1กกรู้จกั ส่วนประกอบของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.2.2กกรู้ความสาคญั ของการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.2.3กกคุณลกั ษณะการทางานของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.2.4กกการใชง้ านพ้ืนฐานหลกั ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.3กกหน่วยที่ 3 การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.3.1กกรู้จกั วธิ ีส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ 4.3.3.2กกรู้ความสาคญั ของการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail 4.3.3.3กกรู้ประโยชน์ของจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ G-Mail 4.3.4กกหน่วยที่ 4 การตกแต่งเอกสาร 4.3.4.1กกการเร่ิมตน้ ใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.3.4.2กกรู้จกั การใส่ลูกเล่นหรือตกแตง่ เอกสารงาน 4.3.4.3กกการพิมพข์ อ้ ความ,การตกแต่ง 4.3.4.4กกการบนั ทึกเอกสาร,การเก็บบนั ทึกเอกสารเป็ นช่ือไฟลอ์ ่ืนหรือโฟลเดอร์อ่ืน 4.3.5กกหน่วยท่ี 5 การสร้างการ์ดวนั แม่ 4.3.5.1กกเริ่มตน้ ใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 4.3.5.2กกการต้งั ค่าหนา้ กระดาษ 4.3.5.3กกการตกแต่งการ์ด4.4กกการวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพเพอ่ื การสอน การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการสอนทฤษฎี วชิ าโปรแกรมประมวลผลคา MicrosoftWord 2010 โดยใช้กบั กลุ่มตวั อย่าง ซ่ึงเป็ นนักเรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 จานวน 7 คนวชิ าการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ G-Mail นกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 จานวน 7 คนโรงเรียนวดั ตะปอนนอ้ ย (ประมวลวิทยาคาร) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2559 รวมจานวนท้งั สิ้น 7

คน เป็ นค่าวเิ คราะห์ท่ีไดจ้ ากการทาแบบทดสอบหลงั เรียนจานวน 4 ชุด และ คะแนนปฏิบตั ิ 5 คร้ังไดผ้ ลลพั ธ์ดงั น้ีตารางที่ 4-1 แสดงผลคะแนนการทาใบงานชื่อ ใบงานที่ ใบงานท่ี ใบงานที่ ใบงานที่ ปฎบิ ตั ิ รวม 90 คดิ เป็ นร้อยละ 1 (10) 2(10) 3(10) 4(10) 50 คะแนน คะแนน1.ด.ช.วชั รพล วรี ะธรรม 10 10 4 10 45 79 872.ด.ญ.ณฐั ณิชา อร่ามรัตน์ 10 8.5 10 10 44 82.5 923.ด.ญ.ณภทั ร ภูมิภกั ด์ิ 10 10 10 10 42 82 914.ด.ญ.ญาณิศา เจริญลาภ 10 6.5 10 10 45 81.5 915.ด.ช.พงศศ์ กั ด์ิ ช่วยบุญชู 10 10 6 10 42 78 876.ด.ช.เศวตโชติ สิญญานนั ท์ 10 8.5 6 10 38 72.5 817.ด.ญ.นภสั ศร อินทร์งาม 10 7.5 6 10 38 71.5 79 จากตารางท่ี 4-1 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานและการปฏิบตั ิของนกั เรียน วิชาโปรแกรมประมวลผลคา และ การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ นกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่6 จานวน 7 คน พบว่านกั เรียนทาคะแนนรวมเป็ นไปตามเกณฑ์โดยมีการประเมิน5 ระดบั ดงั น้ีระดบั ดีมาก คะแนน 80-100 ระดบั ดี คะแนน 70-79 ระดบั ปานกลาง คะแนน 60-69 ระดบั พอใช้คะแนน 50-59 ระดบั ปรับปรุง คะแนน 0-49ผลการประเมินปรากฏวา่ การวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนมีดงั น้ี นกั เรียนที่อยใู่ นเกณฑ์ ระดบั ดีมาก จานวน 6 คน คิดเป็ นร้อยละ 85.7 คะแนนเฉลี่ย 88.2 ระดบั ดี จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 14.3 คะแนนเฉลี่ย 79การเรียนการสอนคร้ังน้ีเป็ นไปตามเกณฑท์ ่ีต้งั ไวเ้ พราะในการเรียนการสอนน้นั มีการทาใบงานและการลงมือปฏิบตั ิจริงจึงทาใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจดียงิ่ ข้ึน

บทที่ 5 สรุปผลและข้อเสนอแนะ5.1กกสรุปผล การสอนคร้ังน้ีเป็นการสอนเพ่ือสร้างทกั ษะและกระบวนการจดั การเรียนรู้นอกสถานท่ีเพื่อนาความรู้ในการใชโ้ ปรแกรมเร่ืองการใชง้ านโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2010) และการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิคส์ (G-mail) ไปเผยแพร่ในการเรียนการสอน เพื่อให้ความรู้ท่ีมีในการใช้โปรแกรมเรื่องการใช้โปรแกรมประมวลผลคา และ การรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ให้เกิดประโยชน์ ในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โดยต้งั สมมติฐานไวว้ า่ การสอนคร้ังน้ีจะสามารถทอดความรู้ไปให้นกั เรียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพเท่ากบั หรือมากกวา่ เกณฑ์ที่กาหนด หลงั จากท่ีทาการสอนแลว้ ผเู้ รียนจะมีผลการเรียนท่ีดีกวา่ เดิม โดยกลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการสอนคร้ังน้ีเป็ นนกั เรียนช้นัประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั ตะปอนนอ้ ย(ประมวลวิทยาคาร) ในภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2559จานวน 7 คน โดยจดั ทาเน้ือหาประกอบการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา 6 หน่วย และวิชาการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 3 หน่วย หลงั จากน้ันผูส้ อนจะนาเน้ือหาท่ีจดั ทาไปให้อาจารย์ที่

ปรึกษาตรวจสอบและประเมินคุณภาพของเน้ือหา เม่ือจดั ทาแผนการสอนเสร็จแลว้ ผูส้ อนได้นาเน้ือหาการสอนภาคทฤษฎีไปสอนกบั กลุ่มตวั อยา่ ง ซ่ึงผสู้ อนทาการสอนดว้ ยตนเองและให้ผเู้ รียนทาใบงานซ่ึงเน้ือหาเก่ียวขอ้ งกบั เน้ือหาที่เพง่ิ สอนไป เม่ือเรียนจบแต่ละหวั เร่ืองก็ทาการเก็บคะแนนจากงานที่ทา จากน้ันนาคะแนนที่ได้จากการทาใบงานและบททดสอบหลังเรี ยบมาคานวณหาประสิทธิภาพของการสอน จากการสอนปรากฏว่าการสอนวิชาโปรแกรมประมวลผลคา และวิชาการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ มีประสิทธิภาพดีมากสูงกวา่ เกณฑ์ท่ีกาหนด ซ่ึงเป็ นไปตามสมมติฐาน สรุปไดว้ า่ การจดั ทาการสอน แสดงใหเ้ ห็นผลการทาใบงานและการปฏิบตั ิของนกั เรียน วิชาโปรแกรมประมวลผลคา และ การรับ-ส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ นกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี6 จานวน 7 คน พบว่านกั เรียนทาคะแนนรวมเป็ นไปตามเกณฑ์โดยมีการประเมิน 5 ระดบั ดงั น้ีระดบั ดีมาก คะแนน 80-100 ระดบั ดี คะแนน 70-79 ระดบั ปานกลาง คะแนน 60-69 ระดบั พอใช้คะแนน 50-59 ระดบั ปรับปรุง คะแนน 0-49ผลการประเมินปรากฏวา่ การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนมีดงั น้ี นกั เรียนที่อยใู่ นเกณฑ์ ระดบั ดีมาก จานวน 6 คน คิดเป็ นร้อยละ 85.7 คะแนนเฉล่ีย 88.2 ระดบั ดี จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 14.3 คะแนนเฉล่ีย 79 การเรียนการสอนคร้ังน้ีเป็ นไปตามเกณฑ์ที่ต้งั ไวเ้ พราะในการเรียนการสอนน้นั มีการทาใบงานและการลงมือปฏิบตั ิจริงจึงทาใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจดียง่ิ ข้ึน5.2กกข้อเสนอแนะ 5.2.1กกขอ้ เสนอแนะจากการสอนคร้ังน้ี 5.2.1.1กกประสิทธิภาพของการสอน ไมไ่ ดข้ ้ึนอยกู่ บั สื่อการสอนเพียงอยา่ งเดียวแต่หากข้ึนอยกู่ บั ผสู้ อนและนกั เรียนดว้ ย โดยผสู้ อนจะตอ้ งศึกษาแผนการสอนให้เขา้ ใจและการใชส้ ่ือการสอนเป็ นอยา่ งดี ส่วนนกั เรียนจะตอ้ งมีความต้งั ใจและใฝ่ รู้ในการเรียน 5.2.1.2กกในการสอนแต่ละคร้ัง ผสู้ อนจะตอ้ งเตรียมการสอนใหพ้ ร้อมท้งั ดา้ นเน้ือหา ส่ือการเรียนการสอนท้งั หมด ท้งั น้ีเพ่ือใหก้ านสอนเป็นไปตามแผนการสอนที่กาหนดไว้ 5.2.2กกขอ้ เสนอแนะเพ่ือการสอนคร้ังตอ่ ไป 5.2.2.1กกควรมีการสร้างชุดการเรียนการสอนโปรแกรมประมวลผลคาและการรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยนาเสนอดว้ ยระบบมลั ติมีเดียมีภาพเคล่ือนไหว และมีเสียงประกอบ 5.2.2.2กกเนื่องจากวชิ าโปรแกรมประมวลผลคามีเน้ือหาจานวนมาก ดงั น้นั เพ่อื ให้ชุดการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคามีความสมบูรณ์ครบถว้ นจึงสมควรท่ีจะมีภาคทฤษฎีมากกวา่ น้ี

บรรณานุกรมวทิ ลู ย์ งามขา.แผนการจดั การเรียนรู้. [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.pbps.ac.th/e_learning/vb6/b1.html (วนั ที่สืบคน้ หาขอ้ มลู วนั ที่ 22 มิถุนายน2559).สลกั กฤช โพธิไทร.คูม่ ือการใชง้ านโปรแกรม Microsoft office Word 2010.[ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.sahavicha.com/?name=media&file=readmedia&=1720 (วนั ที่คน้ หาขอ้ มูลวนั ท่ี 22 มิถุนายน 2559).วเิ ชียร ไชยบงั .องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอน.[ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://krunongkala.blogspot.com/2012/04/blog-post_03.html (วนั ท่ีคน้ หาขอ้ มูลวนั ท่ี 22 มิถุนายน 2559).เจริญศรี สิดิ.สมรรถภาพการสอนของครู.[ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://kb.psu.ac.th/psukb/bitstream/2010/6189/4/Reference.pdf (วนั ที่คน้ หาขอ้ มูลวนั ที่ 22 มิถุนายน 2559).สุรศกั ด์ิ หอมอ่อน.องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนของครูคณิตศาสร์.[ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://research.kpru.ac.th/old/Joumal_HSS/images/TGT/2557/pats1/2.pdf

(วนั ท่ีคน้ หาขอ้ มูลวนั ท่ี 22 มิถุนายน 2559).เฉลิมลาภ ทองอาจ.การสอนมโนทศั น์.[ออนไลน์.เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.satitm.chula.ac.th/uploads/files/2557_2_2-3.pdf (วนั ท่ีคน้ หาขอ้ มลู วนั ท่ี 22 มิถุนายน 2559).ศศิพิมพ์ นิตโย.การเรียนรู้แบบ 4MAT.[ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.spu.ac.th/tlc/files/2013/05 (วนั ท่ีคน้ หาขอ้ มูลวนั ท่ี 22 มิถุนายน 2559).