โครงการปันความรู้สู่น้องโปรแกรมประมวลผลคำ

1 โครงการปันความรู้สู่น้องด้วยโปรแกรมประมวลผลคา,โปรแกรมนาเสนอผลงาน,และโปรแกรมตารางาน กรณีศึกษา : โรงเรียนบ้านตรอกนอง(ประทปี วารีย์ราษฏ์วทิ ยา) นางสาวบุษกร ก้องโสตร์ นางสาวเบญจวรรณ ณ วงั น้อย โครงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของวชิ าโครงการ รหสั วิชา 3204 – 2109 ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง แผนกคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ สาขางานการพฒั นาเวบ็ เพจ วทิ ยาลยั เทคนิคจันทบุรี ปี การศึกษา 2559

2 บทที่ 1 บทนากกกกกกกกปัจจุบนั คอมพวิ เตอร์มีบทบาทอยา่ งมากในการดารงชีวติ ช่วยใหเ้ ราสะดวกสบายในการทางานจะเห็นไดว้ า่ คอมพิวเตอร์มีความสาคญั กบั ทุกสาขาอาชีพรวมท้งั การศึกษาท่ีมีการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์เพิ่มมากข้ึนโรงเรียนต่าง ๆ ก็บรรจุหลกั สูตรคอมพิวเตอร์เป็ นหลกั สูตรพ้ืนฐานในการเรียนการสอนทุกระดบั ช้นั ซ่ึงการเรียนสมยั น้ีตอ้ งให้ทนั กบั ยุคไอทีในปัจจุบนั มีความจาเป็ นอยา่ งยง่ิ ในการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ข้นั พ้ืนฐานอยา่ ง Microsoft Office 2007 เพ่ือท่ีจะได้นาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์1.1กกความเป็ นมาและความสาคัญกกกกกกกกในปัจจุบนั เทคโนโลยีและการส่ือสารได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ของมนุษยอ์ ุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ไดเ้ ขา้ มามีบทบาทสาคญั ต่อการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาค้นควา้ เพราะในแต่ละอาชีพหลกั ๆ ตอ้ งมีการใช้คอมพวิ เตอร์ในการสื่อสารในการช่วย เช่น อาชีพครู ตอ้ งใชใ้ นการสื่อสารการเรียนการสอน รวมถึงประมวลผลต่าง ๆ ในการทาสถิติต่าง ๆ ในรายวิชาเรียน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทาใหอ้ งคก์ รต่างๆ นาเทคโนโลยีเหล่าน้ีเขา้ มาช่วยในการดาเนินงานขององคก์ รให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน ไม่วา่ จะเป็ นการรับ-ส่งขอ้ มูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์ การนาคอมพิวเตอร์เขา้ มาใช้งาน ผใู้ ชต้ ามบา้ นโดยทว่ั ไป ก็ไดจ้ ดั หาคอมพิวเตอร์เขา้ มาใช้ส่วนตวั กนั มากข้ึน เน่ืองจากคอมพิวเตอร์ในปัจจุบนั มีราคาถูก แต่มีประสิทธิภาพสูง รวมท้งั สามารถใชง้ านไดง้ ่ายกว่าในอดีตมาก จนมีการประมาณการกนั วา่ ในอนาคตคอมพิวเตอร์จะเป็ นอุปกรณ์พ้ืนฐานในทุก ๆ ครัวเรือนเหมือนกบั เครื่องรับโทรทศั น์กกกกกกกกการใช้โปรแกรมประยุกต์น้ีเป็ นข้นั พ้ืนฐานในการใช้คอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ โปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2007) โปรแกรมการนาเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint 2007)และโปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel 2007) ที่ใชโ้ ปรแกรมหลกั ในทุก ๆ ดา้ น จะตอ้ งใช้โปรแกรมน้ีเป็ นส่วนมากในการทางานด้านต่าง ๆ เพราะโปรแกรมน้ีมีองค์ประกอบ สามารถนามาใชเ้ พ่ือประกอบเอาสารจากเน้ือหาที่มีการใช้เป็ นประจาหรือเน้ือหาที่กาหนดไวล้ ่วงหนา้ เช่นขอ้ ความท่ีเป็นคาช้ีแจงเรื่องความรับผดิ ชอบทางกฎหมาย และเน้ือหาประเภทอ่ืน ๆ ทาให้คุณไม่ตอ้ งเสียเวลาโดยไม่จาเป็ นในการสร้างเน้ือหาซ้า และยงั ช่วยใหส้ ามารถคน้ หาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนในเอกสารไดง้ ่ายดาย และไม่ยงุ่ ยากมากจนเกินไป

3กกกกกกกกดังน้ันจึงจดั ทาโครงการมอบความรู้สู่น้อง โครงการน้ีให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้โปรแกรม ประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงานใหแ้ ก่นกั เรียนช้นัประถมศึกษาปี ที่ 4-6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) เพ่ือให้นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจดา้ นคอมพิวเตอร์1.2กกวตั ถุประสงค์1.1กก1.2.1กกเพ่ือการเรียนการใช้โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน ใหท้ นั สมยั และเหมาะสมกบั การเรียนรู้1.1กก1.2.2กกเพื่อนาความรู้ไปสอนนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4-6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง(ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) ในวชิ าดา้ นคอมพิวเตอร์ เร่ืองการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน1.3กกขอบเขตของโครงการกกกกกกกกการสอนในเร่ืองการใช้โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน สาหรับนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4-6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วทิ ยา) ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จนั ทบุรีกกกกกกกก1.3.1กกจดั ทาโครงการสอน, แผนการสอน ในเน้ือหา ใบงาน ในรายวิชาการใช้โปรแกรม ประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงาน โดยมีส่วนประกอบดงั น้ีกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กกคู่มือสาหรับการสอนกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กก1)กกแผนการสอนกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กก2)กกใบเน้ือหา, หนงั สือประกอบการสอนกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กก3)กกแบบฝึกหดักกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กก4)กกใบงานกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.1.1กก5)กกแบบทดสอบกกกกกกกก1.3.2กก ในการสอนโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน มีดงั น้ีกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.2.1กกรู้จกั กบั โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงานกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.2.2กกเรื่องเคร่ืองมือพ้ืนฐานของโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน

4กกกกกกกก1.3.1กก 1.3.2.3กกเรื่องการจดั รูปแบบเอกสารดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา การจดัตกแตง่ สไลดโ์ ปรแกรมการนาเสนอผลงาน และการจดั ทาตาราง โปรแกรมตารางงานกกกกกกกก1.3.1กก 1.3.2.4กกเร่ืองการทางานในเอกสารโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงาน1.4กกประโยชน์คาดว่าจะได้รับ 1.4.1กกไดร้ ู้จกั การจดั การเรียน เรื่องการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน ใหม้ ีทนั สมยั และเหมาะสมกบั การเรียนรู้ 1.4.2กกได้นาความรู้ไปสอนนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4-6 โรงเรียนบ้านตรอกนอง(ประทีปวารีราษฎร์วทิ ยา) ในวิชาดา้ นคอมพิวเตอร์ เร่ืองการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน

5 บทท่ี 2 เอกสารและวจิ ยั ท่ีเกยี่ วข้องกกกกกกกกในการดาเนินโครงการปันความรู้สู่นอ้ ง ณ โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จนั ทบุรี ตอ้ งทาการศึกษาคน้ ควา้ เอกสารท่ีเก่ียวข้องกับการสอนเพื่อใหส้ ามารถจดั ทาโครงการไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและเป็ นไปไดด้ ว้ ยดี โดยทาการศึกษาคน้ ควา้เอกสารและทฤษฎีที่เก่ียวขอ้ งดงั หวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ีกกกกกกกก2.1กกความหมาย ประเภท และประโยชน์ของสื่อการเรียนการสอนกกกกกกกก2.2กกความรู้เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์กกกกกกกก2.3กกแนวทางการจดั การเรียนการสอนกกกกกกกก2.4กกแนวทางการสอนกกกกกกกก2.5กกวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ ง2.1กกความหมาย ประเภท และประโยชน์ของส่ือการเรียนการสอนกกกกกกกกส่ือการเรียนการสอน หมายถึง วสั ดุ อุปกรณ์ หรือวิธีการใด ๆ ก็ตามที่เป็ นตวั กลางหรือพาหะในการถ่ายทอดความรู้ ทศั นคติ ทกั ษะและประสบการณ์ไปสู่ผเู้ รียน ส่ือการสอนแต่ละชนิดจะมีคุณสมบตั ิพิเศษและมีคุณค่าในตวั ของมนั เองในการเก็บและแสดงความหมายท่ีเหมาะสมกบัเน้ือหาและเทคนิควธิ ีการใชอ้ ยา่ งมีระบบ ประเภทของสื่อการสอนกกกกกกกกส่ือการสอนแบง่ เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือกกกกกกกก2.1.1กกการจาแนกส่ือการสอนตามคุณสมบตั ิกกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กกวสั ดุ (Materials) เป็นส่ือเล็กหรือส่ือเบา บางทีเรียกวา่ Soft Ware เช่นกกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกแผนภูมิ (Charts)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกแผนภาพ (Diagrams)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกภาพถ่าย (Poster)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกโปสเตอร์ (Drawing)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก5)กกภาพเขียน (Drawing)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก6)กกภาพโปร่งใส (Transparencies)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก7)กกฟิ ลม์ สตริป (Filmstrip)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก8)กกแถบเทปบนั ทึกภาพ (Video Tapes)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก9)กกเทปเสียง (Tapes) ฯลฯ

6กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.2กกอุปกรณ์ (Equipment) เป็นสื่อใหญ่หรือหนกั บางทีเรียกวา่ ส่ือHardware สื่อประเภทน้ีไดแ้ ก่กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกเคร่ืองฉายขา้ มศีรษะ (Overhead Projectors)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกเคร่ืองฉายสไลด์ (Slide Projectors)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกเครื่องฉายภาพยนตร์ (Motion Picture Projectors)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกเครื่องเทปบนั ทึกเสียง (Tape Receivers)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก5)กกเครื่องรับวทิ ยุ (Radio Receivers)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก6)กกเคร่ืองรับโทรทศั น์ (Television Receivers)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.3กกวธิ ีการ เทคนิค หรือกิจกรรม (Method Technique or Activities) ไดแ้ ก่กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกบทบาทสมมุติ (Role Playing)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกสถานการณ์จาลอง (Simulation)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกการสาธิต (Demonstration)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกการศึกษานอกสถานท่ี (Field Trips)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก5)กกการจดั นิทรรศการ (Exhibition)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก6)กกกระบะทราย (Sand Trays)กกกกกกกก2.1.2กกการจาแนกสื่อการสอนตามแบบ (Form)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.2.1กกสิ่งพมิ พ์ (Printed Materials)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกหนงั สือแบบเรียน (Text Books)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกหนงั สืออุเทศก์ (Reference Books)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกหนงั สืออา่ นประกอบ (Reading Books)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกนิตยสารหรือวารสาร (Serials)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.2.2กกวสั ดุกราฟิ ก (Graphic Materials)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกแผนภมู ิ (Chats)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกแผนสถิติ (Graph)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกแผนภาพ (Diagrams)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกโปสเตอร์ (Poster)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก5)กกการ์ตนู (Cartoons)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.2.3กกวสั ดุและเครื่องฉาย (Projector materials and Equipment)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกเคร่ืองฉายภาพน่ิง (Still Picture Projector)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกเคร่ืองฉายภาพเคล่ือนไหว (Motion Picture Projector)

7กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกเครื่องฉายขา้ มศีรษะ (Overhead Projector)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกฟิ ลม์ สไลด์ (Slides)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก5)กกฟิ ลม์ ภาพยนตร์ (Films)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก6)กกแผน่ โปร่งใส (Transparancies)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.2.4กกวสั ดุถ่ายทอดเสียง (Transmission)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก1)กกเครื่องเล่นแผน่ เสียง (Disc Recording)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก2)กกเคร่ืองบนั ทึกเสียง (Tape Recorder)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก3)กกเครื่องรับวทิ ยุ (Radio Receiver)กกกกกกกก2.1.1กก2.1.1.1กก4)กกเครื่องรับโทรทศั น์ (Television Receiver)2.2กกความรู้เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์กกกกกกกกคอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีทางานตามชุดคาส่ังอยา่ งอตั โนมตั ิ โดยจะทาการคานวณเปรียบเทียบ ทางตรรกะกบั ขอ้ มูล และให้ผลลพั ธ์ออกมาตามตอ้ งการ โดยมนุษยไ์ ม่ตอ้ งเขา้ ไปเก่ียวขอ้ งในการประมวลผลกกกกกกกกส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ คือ จาแนกหนา้ ที่ของฮาร์ดแวร์ต่างๆ สามารถแบ่งเป็ นส่วนสาคญั 4 ประเภท คือ อุปกรณ์นาขอ้ มูลเขา้ (Input Device) อุปกรณ์ประมวลผล (ProcessingDevice) หน่วยเกบ็ ขอ้ มลู สารอง (Secondary Storage Device) อุปกรณ์แสดงผล (Output Deviceกกกกกกกกอุปกรณ์แสดงผล (Output Device) คือ อุปกรณ์สาหรับแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ และเป็ นอุปกรณ์ส่งออก (Output device) ทาหนา้ ท่ีแสดงผลลพั ธ์เมื่อซีพียทู าการประมวลผลกกกกกกกก 2.2.1กกจอภาพ (Monitor) เป็นอุปกรณ์แสดงผลลพั ธ์ที่เป็นภาพ ปัจจุบนั แบ่งออกเป็ น 2ชนิด คือ จอภาพแบบ CRT (Cathode Ray Tube) และ จอภาพแบบ LCD (Liquid Crystal Display)กกกกกกกก 2.2.2กกเคร่ืองพิมพ์ (Printer) เป็ นอุปกรณ์ที่ทาหนา้ ที่แสดงผลลพั ธ์ในรูปของอกั ขระหรือรูปภาพท่ีจะไปปรากฏอยบู่ นกระดาษ แบ่งออกเป็ น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ เคร่ืองพิมพด์ อตเมตริกซ์(Dot Matrix Printer) เคร่ืองพิมพแ์ บบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer) เคร่ืองพิมพแ์ บบเลเซอร์ (LaserPrinter) และพล็อตสเตอร์ (Plotter)กกกกกกกก 2.2.3กกลาโพง (Speaker) เป็ นอุปกรณ์แสดงผลลพั ธ์ท่ีอยู่ในรูปของเสียง สามารถเช่ือมต่อกบั คอมพิวเตอร์ผา่ นแผงวงจรเก่ียวกบั เสียง (Sound card) ซ่ึงมีหนา้ ท่ีแปลงขอ้ มูลดิจิตอลไปเป็ นเสียง

82.3กกแนวทางการจัดการเรียนการสอน2.1กก2.3.1กกการกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ กิจกรรมอุปกรณ์การเรียนการสอนในแต่ละพฤติกรรม ควรยืดหยุ่นตามเหตุการณ์สภาพแวดล้อม ความสนใจ ความต้องการที่จาเป็ นและความสามารถของผเู้ รียน2.1กก2.3.2กกผูส้ อนควรคานึงถึงวิธีการสอนเชิงพฤติกรรมซ่ึงจะช่วยเหลือให้ผูเ้ รียนได้เกิดการเรียนรู้อยา่ งค่อยเป็นคอ่ ยไป พร้อมท้งั เพิม่ ความมน่ั ใจในตวั เอง2.1กก2.3.3กกผสู้ อนควรจดั โอกาสให้ผเู้ รียนไดน้ าเอาทกั ษะท่ีเรียนรู้แลว้ ในช้นั เรียนไปฝึ กปฏิบตั ินอกหอ้ งเรียนในสถานศึกษา หรือท่ีบา้ นของผเู้ รียน2.4กกแนวทางการสอน2.1กก2.4.1กกโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2007)2.1กก2.4.1กก2.4.1.1กกโปรแกรมประมวลผลคา เป็นโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีใชใ้ นการพิมพเ์ อกสารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โปรแกรมประมวลผลคา ท่ีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ได้แก่โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดที่ผลิตโดยบริษทั ไมโครซอฟต์ เป็ นหน่ึงในชุดโปรแกรม MicrosoftOffice เพราะคุณสมบตั ิที่ใช้งานง่าย และครอบคลุมการใช้งานหลากหลาย โปรแกรม MicrosoftWord ปัจจุบนั น้ีมาการผลิตออกเป็นรุ่นต่างๆ คือ Word 95, 97, 2000 และ XP ตามลาดบั2.1กก2.4.1กก2.4.1.1กก 1)กกประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคากกกกกกกกโปรแกรมประมวลผลคา เป็ นโปรแกรมท่ีจดั อยู่ในประเภทของการพิมพเ์ อกสาร ซ่ึงเรียกวา่ “เวริ ์ดโปรเซสเซอร์” (Word Processor) ลกั ษณะของการใชง้ านจะเหมาะสมกบั การใชพ้ ิมพ์เอกสาร จดหมาย หรือตารา โดยโปรแกรมจะมีคาสั่งและเครื่องมืออานวยความสะดวกสาหรับผใู้ ช้ในการสร้างและตบแต่งเอกสารให้ดูสวยงามโดยเฉพาะในรุ่นใหม่ ๆ ยงั สามารถสร้างเอกสารประเภท เวบ็ เพจที่ใชใ้ นอินเทอร์เน็ตไดอ้ ีกดว้ ยกกกกกกกกโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมสาหรับงานประมวลผลคา ระบบภาษาไทย -ภาษาองั กฤษ ที่ทางานบนวนิ โดวส์ ผลิตภณั ฑบ์ ริษทั ไมโครซอฟตโ์ ดยมีความสามารถต่างๆ ดา้ นการพิมพแ์ ละประมวลผลคา ในระบบภาษาไทยและภาษาองั กฤษ และความสามารถอื่นๆ ซ่ึงท่ีจะช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการทางานใหส้ ูงข้ึน2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก

9 2)กกข้นั ตอนการใชง้ าน Microsoft Word 20072.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- คลิกที่ Start > Programs > Microsoft Office > Microsoft Word2007 ดงั ภาพ ภาพที่ 2-1 ภาพการเปิ ดโปรแกรม Microsoft Word 20072.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- จะเปิ ดหนา้ ต่างโปรแกรม Microsoft Word 2007 ดงั ภาพ ภาพที่ 2-2 ภาพหนา้ ตา่ งโปรแกรม Microsoft Word 20072.1กก2.1.1กก2.1.1.1ก

10 3)กกการสร้างเอกสารใหม่กกกกกกกกการเร่ิมตน้ สร้างงานเอกสาร เราตอ้ งเปิ ดหรือสร้างเอกสารใหม่ไดข้ ้ึนมาก่อน โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- ไปท่ีแฟ้ ม > คลิกสร้าง ดงั ภาพ ภาพท่ี 2-3 ภาพการสร้างเอกสารใหม่2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- เปิ ดหนา้ ต่าง เลือกแม่แบบที่มีอยู่ > เอกสารเปล่า > คลิกสร้าง จะได้เอกสารเปล่าเพื่อพร้อมท่ีจะพมิ พง์ าน ภาพที่ 2-4 ภาพเอกสารเปล่าที่ได้

112.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 4)กกการเปิ ดเอกสารเก่ากกกกกกกกเมื่อเรามีเอกสารเก่า หรือไฟลง์ านเดิมท่ีบนั ทึกไวเ้ รียบร้อยแลว้ ตอ้ งการท่ีจะเปิ ดข้ึนมาใช้งาน หรือทางานต่อ มีวธิ ีการดงั น้ี2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- เปิ ดโปรแกรม Microsoft Word 2007โดย คลิกท่ี Start > Programs >Microsoft Office > Microsoft Word 20072.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- เมื่อโปรแกรม Word เปิ ดข้ึน คลิกที่แฟ้ ม > เปิ ด ดงั ภาพ ภาพท่ี 2-5 ภาพเปิ ดไฟลเ์ อกสารเก่า

122.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- โปรแกรมจะเปิ ดหนา้ ต่าง เปิ ด ใหเ้ ลือกวา่ ไฟล์ Word อยทู่ ี่ไหน มองหาใน จะต้งั ค่าที่ MY Document เสมอเราตอ้ งรู้วา่ ไฟล์ Word ของเราช่ืออะไร เก็บไวใ้ นไดร์ฟไหนโฟลเดอร์ไหน เลือกท่ีอยใู่ หถ้ ูกและเลือกไฟล์ แลว้ คลิกเปิ ด ภาพท่ี 2-6 ภาพการเลือกที่อยขู่ องไฟลเ์ อกสาร2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก- อีกวธิ ีการหน่ึง คือ เปิ ดโปรแกรม Word คลิกที่แฟ้ ม > จะมองเห็นเอกสารล่าสุด ถา้ มีช่ือเอกสารที่เราจะใชง้ าน ก็คลิกเปิ ดไดเ้ ลย ดงั ภาพ ภาพที่ 2-7 ภาพการเลือกไฟลจ์ ากเอกสารล่าสุด

132.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 5)กกการบนั ทึกขอ้ มูลกกกกกกกกในการทางานโปรแกรม Word เราควรจะคลิกป่ ุมบนั ทึกบนแท็บ ไวเ้ รื่อย ๆ เพื่อป้ องกนังานสูญหาย เน่ืองจาก ไฟดบั ปลก๊ั หลุด หรือเครื่องแฮงค์ เป็นตน้2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก -กกการบนั ทึกงานคร้ังแรก ใหท้ างานข้นั ตอนดงั น้ี2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก -กกคลิกท่ีไอคอนบนั ทึกหมายเลข1 โปรแกรมจะเปิ ดหนา้ ตา่ ง บนั ทึกเป็ น2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)กก -กกในช่องบนั ทึกใน ใหค้ ลิกท่ีสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ลงมาเพอื่ เลือกบนั ทึกงานวา่ เก็บไวท้ ี่ใด ไดร์ฟไหน โฟลเดอร์ใด2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)ก ก-กกในช่องชื่อแฟ้ ม ให้ต้งั ชื่อไฟล์2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)ก ก-กกแลว้ คลิกบนั ทึก ภาพที่ 2-8 ภาพการบนั ทึกเอกสาร2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)ก ก -กกโปรแกรมจะเปิ ดหน้าต่าง เปิ ด ให้เลือกบนั ทึกใน ไดร์ฟหรือโฟลเดอร์ไหน และต้งั ชื่อไฟลก์ ่อนคลิกบนั ทึก เหมือนวธิ ีเดียวกบั คลิกบนั ทึกจากป่ ุมบนั ทึก2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 2)ก ก -กกการบนั ทึกอีกรูปแบบหน่ึง คือ บนั ทึกเป็ น ใช้ในกรณีท่ีเราตอ้ งการเปลี่ยนที่เก็บ หรือเปลี่ยนชื่อไฟล์

14 ภาพที่ 2-9 ภาพการบนั ทึกเป็ นเอกสาร2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 6)กกการออกจากโปรแกรมกกกกกกกกเมื่อพิมพเ์ อกสารเสร็จเรียบร้อยแลว้ เราบนั ทึกงานเก็บตามข้นั ตอนและตอ้ งการจะออกจากโปรแกรมมีหลายวธิ ีการดงั น้ี2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 6)กก- วธิ ีที่ก1กกไปท่ีแทบ็ แฟ้ ม เลือกจบการทางาน โปรแกรมจะปิ ดตวั เองออกจากโปรแกรม Microsoft Word 2007 ดงั ภาพ ภาพท่ี 2-10 ภาพการจบการทางาน

15 2.1กก2.1.1กก2.1.1.1กก 6)กก - วธิ ีท่ี 2ddคลิกที่เคร่ืองหมายกากบาทสีแดง ที่มุมบนขวามือของ หนา้ กระดาษ โปรแกรมจะปิ ดตวั เอง ออกจากโปรแกรม Microsoft Word 2007 ดงั ภาพ ภาพท่ี 2-11 ภาพการปิ ดโปรแกรม2.1กก2.4.2กกโปรแกรมนาเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint 2007)2.1กก2.4.2กก2.4.2.1ddโปรแกรมนาเสนอผลงาน เป็ นโปรแกรมหน่ึงในตระกูล Microsoft Officeเหมาะสาหรับการจดั สร้างงานนาเสนอขอ้ มูล (Presentation) สาหรับนา ไปประยุกตใ์ ช้ในงานได้หลายประเภท เช่น การนาเสนอขอ้ มลู สินคา้ และบริการ การจดั ทา Slide Show การออกแบบแผน่ พบัเป็ นตน้ Interface หรือหนา้ จอโปรแกรมนบั เป็ นสิ่งแรกที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ PowerPoint2007 ได้อย่างชัดเจน เน่ืองจากมีการออกแบบปรับโฉมเป็ นรูปแบบใหม่ท้งั หมด โดยคานึงถึงผใู้ ชง้ านเป็นหลกั จึงทาใหส้ ามารถเรียกใชเ้ ครื่องมือและคาสง่ั ต่าง ๆ ไดส้ ะดวกรวดเร็วข้ึน

16 ภาพท่ี 2-12 ภาพหนา้ จอโปรแกรมนาเสนอผลงาน2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 1)กกวธิ ีการสร้างงานใหม่ - การเปิ ดโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 - คลิก Start Menu - คลิกเลือก Program - Microsoft Office - คลิกเลือก Microsoft PowerPoint 2007 - ปรากฏหนา้ จอโปรแกรม Microsoft PowerPoint 20072.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 2)กกการสไลดแ์ ผน่ ใหม่กกกกกกกกการสร้างสไลด์ใหม่ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 จะสร้างสไลด์ที่ไม่มีขอ้ ความ หรือรูปภาพใด ๆ อยใู่ นเอกสาร ซ่ึงมีข้นั ตอนดงั น้ี - คลิกป่ ุม (Office) - คลิกเลือกงานนาเสนอเปล่า - พิมพข์ อ้ ความตามตอ้ งการ เมื่อพิมพข์ อ้ ความจนสุดบรรทดั โปรแกรมPoint และควรเป็นตวั หนา เพ่อื จะสื่อไดช้ ดั เจนมากข้ึน2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- เลือกขอ้ ความท่ีตอ้ งการเปลี่ยน2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกเลือกปรับแต่งขอ้ มลู ในหวั ขอ้ WordArt Styles

172.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 3)กกการเลือกพ้นื หลงั สไลด์กกกกกกกกสาหรับบางทา่ นท่ีตอ้ งการความโดดเด่นพ้นื หลงั ของงานพรีเซนต์ ซ่ึงถือเป็ นปัจจยั แรกที่ส่งผลกบั การออกแบบและผูร้ ับขอ้ มูลโดยตรง เพราะถ้าพ้ืนหลงั ไม่ดีจะทาให้ดูแล้วไม่สบายตาสามารถเลือกพ้ืนหลงั Themes Design ไดเ้ องอยา่ งง่าย ดงั น้ีเลือกกรอบขอ้ ความ2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกแทบ็ Design2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 4)กกการแทรกรูปภาพเขา้ มาใหม่2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกแทก็ แทรก (Insert)2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกป่ ุมเพ่ือเลือกรูปภาพท่ีจะนามาใส่ในสไลด์2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- จะปรากฏหนา้ ต่างแทรกรูปภาพข้ึนมาใหเ้ ลือกโฟลเ์ ดอร์ที่เกบ็ ไฟล์ภาพ2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกเลือกรูปภาพที่ตอ้ งการ2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กก- คลิกป่ ุมแทรก (Insert) เพ่อื แทรกรูปในสไลด์2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 5)กกการปรับแตง่ กราฟิ กใหส้ วยงาม ใหม้ ีเครื่องมือที่ใชส้ าหรับแต่งภาพข้ึนมาดว้ ย ในชื่อเครื่องมือ Picture Styles ซ่ึงเพียงเราเลือกรูปแบบท่ีตอ้ งการ ภาพก็จะถูกปรับแต่งออกมาสวยงามน่ามอง การเลือกใชภ้ าพประกอบ เป็ นการเสริมให้สไลด์ดูน่าสนใจย่ิงข้ึน แต่ถา้ มีมากเกินไปจะทาให้เกิดความสับสนกบั ขอ้ มูลท่ีนาเสนอได้ ดงั น้นั จึงมีวธิ ีการในการเลือกใชภ้ าพใหเ้ หมาะสม ดงั น้ีนามาใชต้ อ้ งส่งเสริมขอ้ ความท่ีนาเสนอ - ไมค่ วรมีอกั ษรในภาพถา้ ไม่จาเป็น - ภาพท่ีนามาใช้ไม่ควรใช้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะจะทาให้โปรแกรมทางานหนกั ข้ึน2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 6)กกการกาหนด Effect การเปล่ียนสไลด์กกกกกกกกการสร้างสร้างสไลด์จะมีลกั ษณะเหมือนการเปล่ียนหนา้ หนงั สือ ซ่ึงดูแลว้ ไม่น่าสนใจซ่ึงเราควรท่ีจะเพมิ่ ลูกเล่น (Effects) เขา้ ไป - คลิกหนา้ สไลดท์ ี่จะใส่ Effect - คลิกแทบ็ ภาพเคลื่อนไหว (Animation)กก - คลิกเลือกรูปแบบ Effects ท่ีตอ้ งการ (ซ่ึงจะมีตวั อยา่ งของเอฟเฟ็กต์แสดงข้ึนมาใหด้ ูดว้ ยระหวา่ งที่เลือก) - จะแสดงตวั อยา่ งการเปลี่ยนแปลงใหเ้ ห็น2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 7)กกการนาเสนอสไลด์

18กกกกกกกกหลังจากท่ีได้สร้างสไลด์กันไปแล้ว ก่อนจะจบข้ันตอนผูส้ ร้างควรทดลองดูว่ามีขอ้ ผดิ พลาดอะไรบา้ ง ก่อนการนาเสนอจริง - คลิกแทบ็ View เพื่อนาเสนอภาพน่ิง (Slide Show) - คลิกป่ ุม Slideshow ให้ทาการพรีเซนต์ต้งั แต่ตน้ เพื่อเร่ิมแสดงการฉายสไลดต์ ้งั แตส่ ไลดแ์ รก - สไลดจ์ ะปรากฏเตม็ จอคอมพวิ เตอร์ - กดป่ ุม Enter ที่คียบ์ อร์ด โปรแกรมจะเปลี่ยนหนา้ สไลดท์ ีละหนา้ - เม่ือสิ้นสุดจะปรากฏหนา้ จบการนาเสนอภาพน่ิง - กดป่ ุม Enter บนคียบ์ อร์ดอีกคร้ัง ก็จะกลบั เขา้ สู่หนา้ โปรแกรมหลกั(หากในระหวา่ งการพรีเซนตต์ อ้ งการออกสู่หนา้ โปรแกรมหลกั ทนั ที่ใหก้ ดป่ ุม <Esc> บนคียบ์ อร์ด)2.1กก2.4.2กก2.4.2.1dd 8)กกการบนั ทึกไฟล์ PowerPointกกกกกกกกจากข้นั ตอนสร้างงาน Presentation พร้อมท้งั ทดลองตรวจสอนเสร็จเรียบร้อยแล้วข้นั ตอนสุดทา้ ยคือ การบนั ทึกไฟล์ PowerPoint ลงในเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพ่ือเรียกใชง้ านในคร้ังตอ่ ไป ซ่ึงการบนั ทึกไฟล์ PowerPoint มีข้นั ตอนดงั น้ี - คลิกป่ ุม (Office) - คลิกบนั ทึก - เลือกตาแหน่งที่ใชใ้ นการเก็บเอกสารในช่องบนั ทึกใน (Save in) - ต้งั ชื่อเอกสารในช่องช่ือแฟ้ ม (File name) ในตวั อย่างผูเ้ ขียนใช้ทศั นคติท่ีดีในการทางาน - คลิกป่ ุมบนั ทึก เพอื่ ยนื ยนั การบนั ทึก - ปรากฏชื่อไฟลท์ ี่บนั ทึกบนแทบ็ ช่ือหวั เร่ือง (Titlebar)2.1กก2.4.3กกโปรแกรมตาราง (Microsoft Excel 2007)2.1กก2.4.2กก2.4.3.1ddโปรแกรมตารางงาน เป็ นโปรแกรมประเภท Spreadsheet ซ่ึงออกแบบมาสาหรับการบันทึก วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตวั เลข ที่ถูกพฒั นาข้ึนมา โดยบริษทัMicrosoft ทางานบน Windows มีผนู้ ิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย สามารถท่ีจะทางานไดห้ ลายอยา่ ง เช่นงานดา้ นการคานวณ การสร้างกราฟ แผนภูมิรูปภาพ และดา้ นฐานขอ้ มูล เป็นตน้

192.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 1)ddการเขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Excel 20072.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 1)dd - คลิกเลือกที่ป่ ุม Start ---> Programs ---> Microsoft Excel 2007 ภาพท่ี 2-13 ภาพข้นั ตอนการเขา้ สู่โปรแกรม2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 1)dd - จะปรากฏหนา้ การทางานของโปรแกรม Microsoft Excel 2007 ภาพที่ 2-14 ภาพหนา้ ตาของโปรแกรม2.1กก2.4.2กก2.4.3.1d

20d 2)กกส่วนประกอบของ Microsoft Excel 2007 1 2 3 4 ภาพที่ 2-15 ภาพส่วนประกอบของโปรแกรมตารางที่ 2-1 แสดงตาแหน่งของหนา้ โปรแกรม หมายเลข 1 แถบชื่อเรื่อง (Title Bar) แถบแสดงช่ือโปรแกรมและชื่อแฟ้ มขอ้ มลู หมายเลข 2 แถบเมนู (Manu Bar) แถบรวมคาสงั่ ที่ใชง้ านทงั่ หมดในโปรแกรม หมายเลข 3 แถบสูตร (Formula Bar) แถบบอกตาแหน่งเซลล์ และใส่รายละเอียดของขอ้ มูล ในเซลลแ์ ละการใชส้ ูตรฟังกช์ น่ั ตา่ ง ๆ หมายเลข 4 แถบแสดงสถานะ (Status Bar) แสดงรายละเอียดตา่ ง ๆ ในการทางาน2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 3)กกเครื่องมือในส่วนของแบบมาตรฐาน (Standard Toolbar)ตารางท่ี 2-2 แสดงรายการเคร่ืองมือของโปรแกรม สร้าง สาหรับสร้างแฟ้ มงานใหม่ เปิ ด สาหรับเปิ ดชิ้นงานเดิมที่มีอยแู่ ลว้ บนั ทึก สาหรับบนั ทึกชิ้นงาน พมิ พ์ สาหรับสง่ั พมิ พช์ ิ้นงานออกทางเครื่องพมิ พ์ ตวั อยา่ งก่อนพมิ พ์ สาหรับมองแผน่ งานก่อนพิมพ์ ตดั สาหรับตดั หรือลบขอ้ มลู ในแผน่ งาน คดั ลอก สาหรับคดั ลอกขอ้ มลู ในแผน่ งานมาเกบ็ ไว้ วาง สาหรับวางเอกสารที่เกบ็ ไว้ เลิกทา สาหรับยกเลิกคาส่งั สุดทา้ ย

21 ทาซ้า สาหรับเรียกคาสั่งสุดทา้ ยคืนมา ผลรวมอตั โนมตั ิ สาหรับหาผลรวมในแถวหรือคอลมั น์ วางฟังกช์ น่ั สาหรับเรียกใชฟ้ ังกช์ น่ั การคานวณ ตวั ช่วยสร้างแผนภูมิ สาหรับการสร้างแผนภูมิ รูปวาด สาหรับเรียกใชเ้ คร่ืองมือในส่วนของรูปวาด ยอ่ /ขยาย สาหรับปรับยอ่ /ขยายหนา้ จอการแสดงผลของหนา้ การทางาน2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 4)กกเครื่องมือในส่วนของแบบจดั รูปแบบ (Formatting Toolbar)ตารางท่ี 2-3 แสดงรายการเครื่องมือส่วนการจดั รูปแบบของโปรแกรม ลกั ษณะ สาหรับเลือกลกั ษณะที่ตอ้ งการ แบบตวั อกั ษร สาหรับเลือกรูปแบบตวั อกั ษร ขนาดตวั อกั ษร สาหรับเปลี่ยนขนาดของตวั อกั ษร ตวั หนา สาหรับปรับเปลี่ยนตวั อกั ษรใหเ้ ป็ นตวั หนาหรือยกเลิก ตวั เอียง สาหรับปรับเปลี่ยนตวั อกั ษรใหเ้ ป็ นตวั เอียงหรือยกเลิก ตวั ขีดเส้นใต้ สาหรับปรับเปลี่ยนตวั อกั ษรให้เป็นตวั ขีดเส้นใตห้ รือยกเลิก จดั ตาแหน่ง สาหรับการจดั ตาแหน่งตวั อกั ษร ใหช้ ิดซา้ ย, อยกู่ ่ึงกลาง, ชิด ขวา หรือชิดขอบ ลาดบั , สัญลกั ษณ์ สาหรับเพ่ิมหรือลบตวั เลขหรือสัญลกั ษณ์หนา้ ยอ่ หนา้ เส้นขอบ สาหรับตีเส้นขอบ เนน้ สาหรับการเนน้ ขอ้ ความ สีแบบตวั อกั ษร สาหรับเปลี่ยนสีตวั อกั ษรตามที่ตอ้ งการ

222.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 5)กกคาสัง่ บนคียบ์ อร์ดหรือฟังกช์ น่ั คียท์ ่ีใชแ้ ทนเมาส์ตารางท่ี 2-4 แสดงคาสง่ั บนคียบ์ อร์ดหรือฟังกช์ นั่ คียท์ ่ีใชแ้ ทนเมาส์ Ctrl+N สร้างแฟ้ มเอ สารใหม่ Ctrl+O เปิ ดแฟ้ มเอกสาร Ctrl+S บนั ทึกแฟ้ มเอกสาร Ctrl+P พมิ พเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพ์ Ctrl+Z เลิกทา Ctrl+Y ทาซ้า Ctrl+X ตดั Ctrl+C คดั ลอก Ctrl+V วาง Ctrl+A เลือกท้งั หมด Ctrl+B ทาตวั อกั ษรตวั หนา Ctrl+I ทาตวั อกั ษรตวั เอียง Ctrl+U ทาตวั อกั ษรตวั ขีดเส้นใต้ Delete ลบขอ้ ความ2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 6)ddส่วนประกอบของแผ่นงานใน Microsoft Excel 2007 ในแผน่ งาน(Wordsheet) ของ Excel ประกอบดว้ ย - เซลล์ (Cell) เส้นแถวและเส้นคอลมั น์ตดั กนั ทาให้เกิดตารางเป็ นช่องๆ แตล่ ะช่องจะมีช่ือตาแหน่งกากบั โดยชื่อจะดุจากวา่ อยทู่ ่ีคอลมั น์ไหมและแถวอะไร - แผน่ งาน (Wordsheet) หลายๆ เซลลร์ วมกนั เป็ น 1 แผน่ งาน ซ่ึงเป็ นพ้นื ที่ทางานที่สามารถมองเห็นได้ - สมุดงาน (Wordbook) แฟ้ มขอ้ มูลหลายๆ แฟ้ ม หรือ Sheet หลายๆSheet รวมกนั เป็นงาน 1 ชิ้น

232.1กก2.4.2กก2.4.3.2กกข้นั ตอนในการจบการทางาน2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 1)กกคลิกเลือกท่ีเมนู แฟ้ ม(File) ---> จบการทางาน(Exit)ภาพที่ 2-15 ภาพข้นั ตอนการปิ ดโปรแกรม2.1กก2.4.2กก2.4.3.1dd 2)กกคลิกที่ บนไตเติ้ลกกกกกกกกท้งั 2 วธิ ี ถา้ ยงั ไมท่ าการ Save หนา้ จอจะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กการ Save ข้ึนมาให้ดาเนินการ ก่อนที่โปรแกรมจะปิ ด ภาพท่ี 2-16 ภาพหนา้ แจง้ เตือนใหบ้ นั ทึกงาน2.5กกวจิ ัยทเี่ กยี่ วข้องกกกกกกกกวเิ ชียร ไชยบงั (2544 : 101) ไดศ้ ึกษาการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนตามการรับรู้ของครูประถมศึกษาจงั หวดั กาฬสินธุ์ จานวน 367 คน เครื่องมือท่ีใชใ้ นการวิจยั เป็ นแบบสอบถามเก่ียวกบั ตวั แปร 18 ดา้ นท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ประสิทธิภาพการสอนตามการรับรู้ของครูประถมศึกษาจงั หวดั กาฬสินธุ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์องคป์ ระกอบ ผลการวิจยั พบวา่ องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนตามการรับรู้ของครูประกอบ

24ประถมศึกษาจงั หวดั กาฬสินธุ์ มี 3 องคป์ ระกอบ คือ องคป์ ระกอบดา้ นทกั ษะความรู้, องคป์ ระกอบดา้ นภมู ิหลงั ของครู และองคป์ ระกอบดา้ นบรรยากาศในการเรียนการสอนกกกกกกกกเจริญศรี สิดิ (2545 : 86-88) ไดท้ าการวิจยั เรื่อง สมรรถภาพการสอนของครูมธั ยมศึกษาตอนปลายในเขตการศึกษา 2 ตามประเมินของนกั เรียน กลุ่มตวั อยา่ ง คือ ครูช้นั มธั ยมศึกษา จานวน500 คน โดยใชน้ กั เรียน 7 คนเป็นผปู้ ระเมินครู 1 คน เคร่ืองมือที่ใชเ้ ป็นแบบประเมินสมรรถภาพการสอนของครู ผลการวิจยั พบว่า สมรรถภาพการสอนของครูมีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือองคป์ ระกอบท่ี 1 ความรู้ความสามารถและคุณลกั ษณะของการเป็ นครู ประกอบดว้ ยตวั แปร 24 ตวัองคป์ ระกอบที่ 2 ความพยายามในการพฒั นานกั เรียน ประกอบดว้ ยตวั แปร 12 ตวั องคป์ ระกอบท่ี 3ความสามารถในการจดั กระบวนการเรียนการสอน ประกอบด้วยตวั แปร 9 ตวั องค์ประกอบที่ 4ความสามารถในการจูงใจนกั เรียนใหส้ นใจการเรียน ประกอบดว้ ยตวั แปร 5 ตวักกกกกกกกสุรศกั ด์ิ หอมอ่อน (2546: บทคดั ยอ่ ) ไดศ้ ึกษาการวิเคราะห์องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนของครูคณิตศาสตร์ในโรงเรียนมธั ยมศึกษา สังกดั กรมสามญั ศึกษา จงั หวดั นครพนม กลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการวจิ ยั แบ่งเป็ น 2 กลุ่ม คือ ครูคณิตศาสตร์จานวน 143 คน นกั เรียนจานวน 731 คนผลการวจิ ยั พบวา่ องคป์ ระกอบประสิทธิภาพการสอนของครูคณิตศาสตร์โดยรวมมี 2 องคป์ ระกอบคือ องคป์ ระกอบท่ี 1 ดา้ นพ้ืนฐานความเป็ นครูประกอบดว้ ย การวดั และการประเมินผลของครู เจตคติต่อการสอนคณิตศาสตร์ของครู ความสัมพนั ธ์ระหว่างครูกบั นักเรียน ความรู้ในเน้ือหาวิชาคณิตศาสตร์และบุคลิกลกั ษณะของครู องคป์ ระกอบที่ 2 ดา้ นทกั ษะความเป็ นครู ประกอบดว้ ย การใชภ้ าษาในการสื่อสารของครู การใหก้ ารเสริมแรงแก่นกั เรียน ปริมาณงานอื่นท่ีครูไดม้ อบหมายการเตรียมการสอนของครู บรรยากาศในการเรียนการสอน เจตคติต่อการสอนวิชาคณิตศาสตร์ของครูการใชส้ ่ือสารการสอนของครู และขวญั และกาลงั ใจของครูกกกกกกกกเฉลิมภาค ทองอาจ (2550) ได้ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอนมโนทศั น์ที่มีต่อผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลกั การใชภ้ าษาไทยและความสามารถในการคิดเชิงมโมทศั น์ของนกั เรียนช้นัมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลกั การ ใชภ้ าษาไทยและความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอบมโนทศั น์กับการจดั การเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตวั อย่าง คือ นักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 ปีการศึกษา 2550 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ฝ่ ายมธั ยม จานวน 71 คน แบ่งเป็ นกลุ่มทดลองซ่ึงจดั การเรียนรู้โดยใชร้ ูปแบบการสอนมโนทศั น์ จานวน 36 คน และกลุ่มควบคุมซ่ึงจดั การเรียนรู้แบบปกติ จานวน 35 คน เครื่องที่ใช้ในการวิจยั แบ่งเป็ น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบผลสัมฤทธ์ิการเรียนรู้หลักการใช้ภาษาไทยและแบบวดัความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์ และเครื่องมือท่ีใช้ในการทดลอง คือ แผนการจดั การเรียนรู้

25หลกั การใชภ้ าษาไทย ใช้เวลาดาเนินการทดลอง 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 คาบ รวมท้งั สิ้น 16 คาบวิเคราะห์ขอ้ มูลโดยหาค่าเฉลี่ยมชั ฌิมาเลขคณิต ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่า และการวเิ คราะห์ความแปรปรวนร่วม (ANCOVA) ผลการวจิ ยั พบว่า (i) นกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนมโนทศั น์มีผลสัมฤทธ์ิ การเรียนรู้หลกั การใช้ภาษาไทยสูงกว่านกั เรียนที่ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้แบบปกติอยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั .05 (2) นกั เรียนท่ีไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนมโนทศั น์มีความสามารถในการคิดเชิงมโนทศั น์สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ระดับ .05 และ (3 ) นกั เรียนที่ได้รับการจดั การเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนมโนทศั นม์ ีความสามารถ ในการคิดเชิงมโนทศั น์สูงกวา่ นกั เรียนท่ีไดร้ ับการจดั การเรียนรู้แบบปกติ อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั .05กกกกกกกกนายสุราษฏร์ จนั ผาผาย (2551 : บทคดั ยอ่ ) การเรียนการสอนรายวชิ าเชิงวทิ ยาศาสตร์รหัส ว32101 ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2551 ในช่วงเดือนสิงหาคมมีความรับผิดชอบต่อการส่งงานนอ้ ย ซ่ึงเกิดผลเสียต่อการเรียนการสอน และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนช่วงน้ันต่า การวิจยั ในคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่ือปรับพฤติกรรมของนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 ดา้ นความรับผดิ ชอบต่อการส่งงาน วิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั ว32101 โดยรวบรวมขอ้ มูลท่ีเกี่ยวกบั การวิจยั ปฏิบตั ิการสอนนกั เรียนจานวน 31 คน โดยการสอนร่วมแรงร่วมใจแบบSTAD แลว้ รวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ขอ้ มูล โดยใชส้ ถิติ X S.D. และใช้ t-test ประเภท DependentSamples ที่นยั สาคญั ทางสถิติที่ .05กกกกกกกกสรุปผลการวิจยั พบวา่ จากการศึกษาการปรับพฤติกรรมนกั เรียนที่จาดความรับผดิ ชอบในการส่งงาน ในการเรียนวิขา วิทยาศาสตร์ รหสั ว32010 โดยการสอนแบบร่วมแรงร่วมใจ เพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนน้นั พบวา่ โดยภาพรวมนกั เรียนมีความรับผิดชอบในการส่งงานมากข้ึนจากเดิม และยงั มีผลการเรียนมากข้ึนกวา่ เดิม อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติที่ .05กกกกกกกกอดิศร กอ้ นคา(2551: บทคดั ยอ่ ) การพฒั นากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค LT ร่วมกบั กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง เลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็ นจานวนตรรกยะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 การวิจยั คร้ังน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อ L) พฒั นากิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใชเ้ ทคนิค LT ร่วมกบั กิจกรรมส่ง เสริมความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง เลขยกกาลงั ท่ีมีเลขช้ีกาลงั เป็นจานวนตรรกยะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ใหม้ ีประสิทธิภาพ 2.) พฒั นานกั เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉล่ียไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 และนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 70 มีจานวนต้งั แต่ร้อยละ70 ข้ึนไปกลุ่มเป้ าหมายคือ นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 โรงเรียนหนองคอนไทยวิทยาคม อาเภอภูเขียว จงั หวดั ชยั ภมู ิ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาชยั ภูมิเขต 2 ภาคเรียน ปี การศึกษา 2550 จานวน 25คน โดยใช้รูปแบบการวิจยั ปฏิบัติการในช้ันเรียนเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจยั ประกอบด้วย 1.)

26เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการทดลองปฏิบตั ิการ ไดแ้ ก่ แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค LT เรื่อง เลขยกกาลงั ที่มีเลขช้ีกาลงั เป็ นจานวนตรรกยะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 รายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน รหัสวิชา ค41102 จานวน 8 แผน 2.) เครื่องมือที่ใช้ในการสะทอ้ นผลการปฏิบตั ิการ ไดแ้ ก่ กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ แบบทดสอบทา้ ยแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ และแบบบนั ทึกผลหลงั การเรียนรู้ 3.) เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมินประสิทธิภาพการจดักิจกรรมการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ผลการวิจยั พบวา่ 1. กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใชเ้ ทคนิค LT ร่วมกบั กิจกรรมส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง เลขช้ีกาลงัเป็ นจานวนตรรกยะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ท่ีผวู้ ิจยั สร้างข้ึน เป็ นกิจกรรมที่เปิ ดโอกาสให้นกั เรียนได้ใขท้ กั ษะ กระบวนการ ทางคณิตศาสตร์ปฏิบตั ิจริงตามข้นั ตอน มีโอกาสแสดงความคิดเห็นตามความรู้ความสามารถของตนเองอยา่ งมีอิสระ รู้จกั การแกไ้ ขปัญหาร่วมกนั มีความเสียสละ ไม่เห็นแก่ตวั รู้จกั ใหค้ วามช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั มีทกั ษะดา้ นสังคมโดยเฉพาะการเป็ นผนู้ า ผตู้ ามท่ีดี ความรับผดิ ชอบ ความตรงตอ่ เวลา ซ่ึงเป็นคุณลกั ษณะที่พ่งึ ประสงคก์ นั สาคญักกกกกกกกโดยนกั เรียนมีคะแนนเฉล่ียจากการประเมินดา้ นเจตคติ คุณธรรม เท่ากบั 4.50 อยใู่ นระดบั มาก ส่วนการสอนของครูมีค่าสัมประสิทธ์ิการกระจาย (C.V.) ร้อยละ 10.27 ระดบั คุณภาพปานกลาง 2.ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน นกั เรียนมีคะแนนเฉลี่ยคิดเป็ นร้อยละ 72.40 และเรียนท่ีผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้ึนไป คิดเป็นร้อยละ 72.00 ผา่ นเกณฑค์ วามรอบรู้ตามที่กาหนดไว้

27 บทท่ี 3 วธิ ีดาเนินการกกกกกกกกการเรียนการสอนคร้ังน้ีจดั ทาข้ึนเพอื่ สร้างประสิทธิภาพทางการศึกษาใหแ้ ก่ผสู้ อน เรื่องการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Office 2007 โดยผสู้ อนมีวธิ ีการดาเนินงานดงั น้ีกกกกกกกก3.1กกวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ ากกกกกกกก3.2กกกาหนดกลุ่มผเู้ รียนที่จะใหเ้ รียนกกกกกกกก3.3กกการสร้างแผนการสอนชุดการสอนกกกกกกกก3.4กกเก็บรวบรวมขอ้ มูลในการสอน3.1กกวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ ากกกกกกกกผูส้ อนไดท้ าการศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกบั โปรแกรม Microsoft Office 2007 โดยการศึกษาจากหนังสือเก่ียวกบั โปรแกรม Microsoft Office 2007 และเว็บไซต์ต่าง ๆ เก่ียวกบั โปรแกรมMicrosoft Office 2007 เพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงหวั ขอ้ เร่ือง เน้ือยอ่ ย และวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม โดยมีความสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร การวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ าจะแสดงในภาพที่ 3-1 สามารถอธิบายรายละเอียดดงั น้ี เร่ิมตน้ วเิ คราะห์วชิ าการใชโ้ ปรแกรม Microsoft office 2007 รวบรวมและประเมินความสาคญั ของหวั เรื่อง วเิ คราะห์เน้ือหาของหวั เรื่อง ประเมินความสาคญั รายละเอียดเน้ือหาของ หวั ข้อ 1

281กาหนดวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมที่ปรึกษาพิจารณา ไม่ผา่ น ปรับปรุงผา่ น ไมผ่ า่ นผบู้ ริหารพิจารณา ปรับปรุง ผา่ นไดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกบั วชิ าจบการทางาน ภาพท่ี 3-1 แสดงข้นั ตอนการศึกษาหลกั สูตรรายวชิ าเพือ่ ใหไ้ ดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมกกกกกกกก3.1.1กกศึกษารายละเอียดรายวิชา การใช้โปรแกรม Microsoft Office 2007 จากการศึกษารายวิชาพบว่า คาอธิบายรายวิชาท่ีเขียนไวใ้ นหนังสือมีเพียงจุดประสงค์รายวิชา ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกบั วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม และหวั ขอ้ เร่ืองยอ่ ยกกกกกกกก3.1.2กกรวบรวมและประเมินความสาคญั ของหวั เร่ือง ผูส้ อนไดแ้ บ่งหวั ขอ้ เรื่องการใช้โปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2007) ออกเป็ น 7 หัวขอ้ เร่ือง โดยคานึงถึงความเก่ียวเนื่องของเน้ือหาประเภทของเน้ือหาท่ีเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมประมวลผลคา,โปรแกรมนาเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint 2007) และโปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel 2007) ซ่ึงประกอบดว้ ยหวั ขอ้ เรื่อง ดงั น้ี หน่วยท่ี 1 รู้จกั กบั โปรแกรมประมวลผลคา,โปรแกรมนาเสนอผลงานหน่วยที่ 2 เรื่องเคร่ืองมือพ้นื ฐานของโปรแกรมประมวลผลคา และการจดั สไลด์ โปรแกรมนาเสนอผลงานหน่วยท่ี 3 เรื่องการตกแต่งขอ้ ความให้สวยงามดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคาและ การตกแต่งสไลด์ โปรแกรมนาเสนอผลงาน หน่วยที่ 4 เรื่องการจดั ขอ้ ความและการใส่สัญลกั ษณ์ โปรแกรมประมวลผลคาและการใส่ฟังก์ชนั เคล่ือนไหวใหก้ บั งานนาเสนอ โปรแกรมนาเสนอผลงาน หน่วยที่

295 เร่ืองการสร้างตาราง โปรแกรมประมวลผลคาและหลกั การพ้ืนฐานในการใชโ้ ปรแกรมตารางงานหน่วยที่ 6 เรื่องการสร้างแผน่ พบั โปรแกรมประมวลผลคา ผูส้ อน และการจดั รูปแบบและตกแต่งเซลล์และข้อมูล โปรแกรมตารางงาน หน่วยที่ 7 เร่ืองการสร้างแผนภูมิ หรือ กราฟโปรแกรมประมวลผลคา และการคานวณดว้ ย โปรแกรมตารางงาน หลงั จากน้นั จึงทาการประเมินความสาคญัของหวั ขอ้ เรื่องแต่ละหวั ขอ้ โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณา คือ ในแต่ละหวั ขอ้ มีประโยชน์ช่วยส่งเสริมความสามารถในการแกป้ ัญหาในการเรียน การทางานร่วมกนั ของนกั เรียน ช่วยส่งเสริมทกั ษะการทางานใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ และช่วยส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนมีเจตคติท่ีดีกกกกกกกก3.1.3กกวเิ คราะห์เน้ือหาสาคญั ของหวั ขอ้ เรื่อง หลงั จากประเมินความสาคญั ฯของหวั ขอ้เร่ืองแลว้ ผสู้ อนไดท้ าการวเิ คราะห์เน้ือหาสาคญั ของหวั เร่ืองวา่ ประกอบดว้ ยเน้ือหาสาคญั ใดบา้ ง ซ่ึงผสู้ อนไดรายละเอียดเน้ือหาจากแหล่งขอ้ มูล คือ คาอธิบายรายวิชา เอกสารและหนงั สือ อาจารยท์ ่ีปรึกษา และประสบการณ์ของผสู้ อนกกกกกกกก3.1.4กกประเมินความสาคญั รายละเอียดเน้ือหาของหวั เรื่อง เม่ือไดร้ ายละเอียดเน้ือหาจากแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ แลว้ ผสู้ อนไดท้ าการประเมินความสาคญั หัวขอ้ เรื่อง โดยใช้เกณฑ์เดียวกบัการประเมินความสาคญั ของหวั เรื่องกกกกกกกก3.1.5กกกาหนดวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เม่ือไดร้ ายละเอียดของเน้ือหาการสอนท่ีมีการประเมินความสาคญั เรียบร้อยแร้ว ทาการเขียนวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม โดยผสู้ อนพิจารณาวา่ตอ้ งการใหผ้ เู้ รียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลงั จากผา่ นการเรียนการสอนใหห้ วั เรื่องน้นั แลว้ ซ่ึงระดบัพฤติกรรมที่วดั ไดม้ ีดงั น้ี คือ ระดบั พ้ืนความรู้ (R) ระดบั การประยกุ ตค์ วามรู้ (A) และระดบั ส่งถ่ายความรู้ (T) โดยท้งั 7 หน่วยเรียน มีวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมท้งั หมดท่ีตอ้ งการกกกกกกกก3.1.6กกวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมท่ีสอดคล้องกับรายวิชา จากการประเมินความสอดคลอ้ งของอาจารยท์ ่ีปรึกษา สรุปว่ามีความสอดคลอ้ ง แสดงว่าวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมที่กาหนดมาความสอดคล้องกบั รายวิชาท่ีสอน และสามารถนาไปใช้ในการกาหนดเน้ือหา ออกขอ้ สอบ และสร้างส่ือการเรียนการสอนตอ่ ไป3.2 กาหนดกล่มุ ผ้เู รียนทจี่ ะให้เรียนกกกกกกกกกลุ่มผูเ้ รียนที่เลือกไปสอนในคร้ังน้ี คือ นกั เรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4 – 6โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วทิ ยา) ต.ตรอกนอง อ.ขลุง จ.จนั ทบุรี

303.3กกการสร้างเครื่องมอื ในการสอนกกกกกกกกเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการสอนคร้ังน้ี เป็นแผนการสอนเรื่อง โปรแกรมการใชป้ ระมวลผลคา,โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมการตารางงาน ซ่ึงผสู้ อนสร้างข้ึน โดยมีภาพข้นั ตอนดงัภาพที่ 3-2 เริ่มตน้ วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมใบเน้ือหา วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม แบบฝึกหดั และแบบทดสอบ ส่ือการเรียนการสอน ท่ีปรึกษาพิจารณา ไมผ่ า่ น ปรับปรุง ปรับปรุง ผา่ น ไมผ่ า่ น ผบู้ ริหารพิจารณา ผา่ น ไดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมท่ีสอดคลอ้ งกบั วชิ า จบการทางาน ภาพท่ี 3-2 แสดงข้นั ตอนการสร้างเครื่องมือท่ีใชใ้ นการวจิ ยักกกกกกกรายละเอียดแตล่ ะข้นั ตอน มีดงั ตอ่ ไปน้ี

31กกกกกกกก3.3.1กกวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม หลงั จากผา่ นการวเิ คราะห์หลกั สูตรวชิ า รวบรวมหวัเร่ือง ประเมินความสาคญั ของหวั เร่ือง วิเคราะห์เน้ือหาสาคญั ของหวั เรื่องแลว้ จะไดว้ ตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมกกกกกกกก3.3.2กกสร้างแผนการสอนวิชาการใชโ้ ปรแกรมการใชป้ ระมวลผลคา, โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมการตารางงาน ดงั รายละเอียดขอ้ มลู ดงั น้ีกกกกกกกก3.3.2กก3.3.2.1กกใบเน้ือหา นาวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมมากาหนดเน้ือหาวิชาในรายวชิ าการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Office 2007 แบ่งเป็ นเน้ือหา ในส่วนของวชิ า เป็ น 7 หน่วยเรียนโดยมีรายละเอียดดงั น้ี หน่วยที่ 1 รู้จกั กบั โปรแกรมการใชป้ ระมวลผลคา และ โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หน่วยที่ 2 เคร่ืองมือพ้ืนฐานของโปรแกรม และการจดั การสไลด์โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หน่วยท่ี 3 การตกแต่งข้อความให้สวยงามด้วย โปรแกรมการใช้ประมวลผลคา และ การตกแตง่ สไลด์ โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หน่วยท่ี 4 การจดั ขอ้ ความและการใส่สัญลกั ษณ์ โปรแกรมการใช้ประมวลผล-คา และการใส่ฟังกช์ นั เคล่ือนไหวใหก้ บั งานนาเสนอ โปรแกรมการนาเสนอผลงาน หน่วยท่ี 5 การสร้างตาราง โปรแกรมการใช้ประมวลผลคา และหลกั การพ้นื ฐานในการใชโ้ ปรแกรมการตารางงาน หน่วยที่ 6 การสร้างแผน่ พบั โปรแกรมการใชป้ ระมวลผลคา และการจดั รูปแบบและตกแต่งเซลลแ์ ละขอ้ มูล โปรแกรมการตารางงาน หน่วยท่ี 7 การสร้างแผนภูมิ หรือกราฟโปรแกรมการใชป้ ระมวลผลคา และการคานวณดว้ ย โปรแกรมการตารางงานกกกกกกกก3.3.2กก3.3.2.2กกแบบฝึ กหดั ผสู้ อนไดส้ ร้างแบบฝึ กหดั เพื่อวดั ความรู้ความเขา้ ใจแก่นกั เรียนกกกกกกกก3.3.2กก3.3.2.3กกสื่อการเรียนการสอน การสร้างส่ือการเรียนการสอนควรพิจารณาจากวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมและใบเน้ือหาเป็ นหลกั เพื่อใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้มากที่สุด ซ่ึงส่ือการเรียนการสอนประกอบดว้ ย ใบความรู้ประจาหน่วยการเรียนรู้ ตวั อย่างและใบงานท่ีมอบให้ฝึ กปฏิบตั ิงานโปรแกรม Microsoft Office 2007 เนื่องจากผเู้ รียนจะไดส้ มั ผสั จากประสบความสาเร็จ ได้ทดลองปฏิบตั ิจริงและเพิม่ ความสะดวกในการสอนเพื่อทาความเขา้ ใจง่าย โดยการสร้างส่ือการเรียนการสอน มีข้นั ตอนดงั น้ี

323.3กก3.3.2กก3.3.2.1กก1)กกการสร้างสื่อพิจารณาจากวตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมและเน้ือหาเป็ นสาคญั โดยใหม้ ีความสอดคลอ้ งกบั เน้ือหาวชิ า3.4กกการเกบ็ รวบรวมข้อมูลกกกกกกกกผสู้ อนไดด้ าเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเพื่อหาคาตอบตามจุดมุ่งหมายของการวิจยั คร้ังน้ีโดยกาหนดเป็นข้นั ตอน ดงั ภาพท่ี 3-3 ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ีกกกกกกกก3.4.1กกช้ีแจงวตั ถุประสงคก์ ารสอนและวธิ ีการเรียนดว้ ยชุดการสอนให้กบั กลุ่มนกั เรียนกกกกกกกก3.4.2กกทดสอบก่อนเรียน หลงั จากช้ีแจงวตั ถุประสงค์ ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื เก็บขอ้ มลู ความรู้ก่อนเรียนกกกกกกกก3.4.3กกสอนดว้ ยชุดการสอนและทดสอบความกา้ วหนา้ ระหวา่ งเรียน เมื่อนกั เรียน เรียนจบแตล่ ะหน่วยเรียนใหผ้ เู้ รียนทาแบบฝึ กปฏิบตั ิ เพื่อประเมินความกา้ วหนา้ ทางการเรียน โดยทาการสอน สปั ดาห์ละ 1 วนั วนั ละ 3 ชว่ั โมง ใชเ้ วลาท้งั สิ้น 8 สัปดาห์กกกกกกกก3.4.4กกทดสอบหลงั เรียน เม่ือนกั เรียนผ่านการเรียนการสอนครบทุกหน่วยการเรียนแลว้ ผสู้ อนทาการทดสอบหลงั เรียนกบั นกั เรียน เริ่มตน้ ช้ีแจงวตั ถุประสงคแ์ ก่กลุ่มนกั เรียน ทดสอบก่อนเรียน สอนดว้ ยแผนการสอนเพื่อทดสอบความกา้ วหนา้ ระหวา่ งเรียน ทดสอบหลงั เรียน จบการทางาน ภาพที่ 3-3 แสดงข้นั ตอนการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เพื่อหาคาตอบตามจุดมุ่งหมายกกกกกกกกเม่ือเก็บรวบรวมขอ้ มลู จากนกั เรียนซ่ึงประกอบดว้ ย คะแนนการทดสอบก่อนเรียน แบบฝึกปฏิบตั ิ และการทดสอบหลงั เรียนไดค้ รบผสู้ อนนาไปวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนดงั น้ี

33 บทที่ 4 ผลของการสอนกกกกกกกกการสอนคร้ังน้ี ผสู้ อนไดส้ ร้างและวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการสอน ในเรื่องการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Office 2007 โดยมีการดาเนินการสอนดงั น้ีกกกกกกกก4.1กกส่ือท่ีใชใ้ นการสอนกกกกกกกก4.2กกหวั ขอ้ การสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา (Microsoft Word 2007)กกกกกกกก4.3กกหวั ขอ้ การสอนวชิ าโปรแกรมนาเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint 2007)กกกกกกกก4.4กกหวั ขอ้ การสอนวชิ าโปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel 2007)กกกกกกกก4.5กกการวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการสอน4.1กกสื่อทใี่ ช้ในการสอน4.1กก4.1.1กกส่ือการสอน คือ สิ่งใดก็ตามไม่วา่ จะเป็น สไลด์ แผน่ ซีดีสาเร็จรูป รูปภาพ ฯลฯ ซ่ึงเป็ นวสั ดุบรรจุเน้ือหาเก่ียวกบั การเรียนการสอน หรือเป็ นอุปกรณ์เพื่อถ่ายทอดเน้ือหาสิ่งเหล่าน้ีเป็ นวสั ดุอุปกรณ์ทางกายภาพท่ีนามาใชเ้ ทคโนโลยกี ารศึกษาเป็ นส่ิงท่ีใชเ้ ป็ นเครื่องมือหรือช่องทางทาให้การสอนส่งไปถึงผเู้ รียน ไดใ้ ชเ้ ป็น คอมพิวเตอร์4.1กก4.1.2กกวิธีการสอน คือการบรรยายอธิบายและสอนแบบยกตวั อยา่ งให้ผเู้ รียนดูผา่ นหนา้ จอของตนเอง เพ่ือให้ผูเ้ รียนไดท้ าความเขา้ ใจในข้นั ตอนการใช้โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน4.2กกหัวข้อการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กกหน่วยที่ 1 รู้จกั กบั โปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.1.1กกความสาคญั ของการเรียน โปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.1.2กกเร่ิมตน้ สร้างไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.2.1.3กกทางานกบั ไฟล์4.1กก4.2.1กก4.2.1.4กกการบนั ทึกไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.2.1.5กกการปิ ดไฟลแ์ ละออกจากโปรแกรม4.1กก4.2.2กกหน่วยท่ี 2 เครื่องมือพ้ืนฐานของโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.2.1กกแนะนาแถบเคร่ืองมือส่วนประกอบตา่ งๆ4.1กก4.2.1กก4.2.2.2กกการจดั การกบั หนา้ กระดาษ4.1กก4.2.1กก4.2.2.3กกการเลือกขอ้ ความ

344.1กก4.2.1กก4.2.2.4กกเคล่ือนยา้ ยและคดั ลอกขอ้ ความ4.1กก4.2.1กก4.2.2.5กกยกเลิกและยอ้ นกลบั การทางานเดิม4.1กก4.2.3กกหน่วยที่ 3 การตกแตง่ ขอ้ ความใหส้ วยงามดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.3.1กกปรับแต่งฟอนต์ สีตวั อกั ษร การกาหนดตวั หนา เอนและขีดเส้นใต้4.1กก4.2.1กก4.2.3.2กกการปรับระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร4.1กก4.2.1กก4.2.3.3กกการตกแต่งและเนน้ ขอ้ ความ4.1กก4.2.1กก4.2.3.4กกการใส่หมายเลขหนา้4.1กก4.2.1กก4.2.3.5กกการจดั วางขอ้ ความหนา้ กระดาษ4.1กก4.2.1กก4.2.3.6กกปรับระยะห่างระหวา่ งบรรทดั กบั ยอ่ หนา้4.1กก4.2.1กก4.2.3.7กกต้งั แทบ็ สาหรับการพมิ พข์ อ้ ความ4.1กก4.2.4กกหน่วยที่ 4 การจดั ขอ้ ความและการใส่สัญลกั ษณ์ดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.4.1กกการใส่สญั ลกั ษณ์และเลขลาดบั4.1กก4.2.1กก4.2.4.2กกการแทรก/ลบสัญลกั ษณ์และเลขลาดบั4.1กก4.2.1กก4.2.4.3กกการสร้างอกั ษรศิลป์ WordArt4.1กก4.2.1กก4.2.4.4กกการแทรกรูปภาพ, ภาพตดั ปะและรูปร่าง4.1กก4.2.1กก4.2.4.5กกการตกแต่งรูปภาพและการวางรูปภาพกบั ขอ้ ความ4.1กก4.2.1กก4.2.4.6กกกาหนดแบบเส้น สีเส้น และหวั ลูกศรตกแต่งดว้ ยสีและลวดลาย4.1กก4.2.5กกหน่วยท่ี 5 การสร้างตารางดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.5.1กกการสร้างตารางและการกรอกขอ้ มูล4.1กก4.2.1กก4.2.5.2กกการเล่ือนเซลล์ แถวหรือคอลมั น์4.1กก4.2.1กก4.2.5.3กกการเพม่ิ -ลด แถวและคอลมั น์4.1กก4.2.1กก4.2.5.4กกการรวมเซลล์ และแยกเซลล์4.1กก4.2.1กก4.2.5.5กกการปรับขนาดตาราง และการตกแต่งตาราง4.1กก4.2.6กกหน่วยที่ 6 การสร้างแผน่ พบั ดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.6.1กกการแบง่ คอลมั น์ในเอกสาร4.1กก4.2.1กก4.2.6.2กกการจดั หนา้ แผน่ พบั4.1กก4.2.1กก4.2.6.3กกการตกแต่งแผน่ พบั4.1กก4.2.7กกหน่วยที่ 7 การสร้างแผนภูมิ หรือกราฟดว้ ยโปรแกรมประมวลผลคา4.1กก4.2.1กก4.2.7.1กกประเภทของแผนภูมิหรือกราฟ4.1กก4.2.1กก4.2.7.2กกการสร้างแผนภมู ิหรือกราฟ

354.1กก4.2.1กก4.2.7.3กกการปรับแต่งแผนภมู ิหรือกราฟ4.3กกหวั ข้อการสอนวชิ าโปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.3.1กกหน่วยที่ 1 รู้จกั กบั โปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.2.1กก4.3.1.1กกความสาคญั ของการเรียน โปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.2.1กก4.3.1.2กกเริ่มตน้ สร้างไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.3.1.3กกทางานกบั ไฟล์4.1กก4.2.1กก4.3.1.4กกการบนั ทึกไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.3.1.5กกการปิ ดไฟลแ์ ละออกจากโปรแกรม4.1กก4.3.2กกหน่วยที่ 2 การจดั การสไลดด์ ว้ ยโปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.2.1กก4.3.2.1กกแนะนาแถบเครื่องมือส่วนประกอบต่างๆ4.1กก4.2.1กก4.3.2.2กกเริ่มตน้ สร้างงานพรีเซน้ เทชน่ั (presentation)4.1กก4.2.1กก4.3.2.2กกการตกแตง่ ขอ้ ความ4.1กก4.2.1กก4.3.2.3กกการลบหรือเติมบุลเล็ต4.1กก4.2.1กก4.3.2.4กกแทรก/ลบ/คดั ลอกและเคล่ือนยา้ ยขอ้ ความ4.1กก4.3.3กกหน่วยท่ี 3 การตกแตง่ สไลดด์ ว้ ยโปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.2.1กก4.3.3.1กกการกาหนดพ้นื หลงั (Theme)4.1กก4.2.1กก4.3.3.2กกการเปลี่ยนรูปแบบเลยเ์ อา้ ส์ (Layout)4.1กก4.2.1กก4.3.3.3กกการใชเ้ ครื่องมือวาดภาพ4.1กก4.2.1กก4.3.3.4กกการใชข้ อ้ ความศิลป์4.1กก4.2.1กก4.3.3.5กกการแทรกรูปภาพ4.1กก4.3.4กกหน่วยที่ 4 การใส่ฟังกช์ นั เคล่ือนไหวใหก้ บั งานนาเสนอโปรแกรมนาเสนอผลงาน4.1กก4.2.1กก4.3.4.1กกการกาหนดลกั ษณะการเปลี่ยนภาพ4.1กก4.2.1กก4.3.4.2กกการกาหนดลกั ษณะการแสดงของวตั ถุ4.1กก4.2.1กก4.3.4.3กกการใส่เสียงใหก้ บั แผน่ สไลดแ์ ละวตั ถุ4.4กกหวั ข้อการสอนวชิ าโปรแกรมตารางงาน4.1กก4.4.1กกหน่วยที่ 1 หลกั การพ้ืนฐานในการใชโ้ ปรแกรมการตารางงาน4.1กก4.2.1กก4.4.1.1กกความสาคญั ของการเรียน โปรแกรมการตารางงาน4.1กก4.2.1กก4.4.1.2กกเริ่มตน้ สร้างไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.4.1.3กกทางานกบั ไฟล์

364.1กก4.2.1กก4.4.1.4กกการบนั ทึกไฟลเ์ อกสาร4.1กก4.2.1กก4.4.1.5กกการปิ ดไฟลแ์ ละออกจากโปรแกรม4.1กก4.4.2กกหน่วยที่ 2 การจดั รูปแบบและตกแต่งเซลลแ์ ละขอ้ มูล โปรแกรมการตารางงาน4.1กก4.2.1กก4.4.2.1กกแนะนาแถบเครื่องมือส่วนประกอบต่างๆ4.1กก4.2.1กก4.4.2.2กกการทางานกบั เวริ ์กชีต Excel4.1กก4.2.1กก4.4.2.3กกการจดั การกบั หนา้ กระดาษ (ปรับหนา้ กระดาษ, ขนาดกระดาษ)4.1กก4.2.1กก4.4.2.4กกการต้งั ชื่อและใชส้ ูตรคานวณ Excel4.1กก4.4.3กกหน่วยท่ี 3 การคานวณดว้ ย โปรแกรมการตารางงาน4.1กก4.2.1กก4.4.3.1กกการสร้างสูตรคานวณ4.1กก4.2.1กก4.4.3.2กกการใชฟ้ ังกช์ นั4.1กก4.2.1กก4.4.3.3กกการแกป้ ัญหาในกรณีเกิดผดิ พลาด4.1กก4.4.4กกหน่วยท่ี 4 การสร้างกราฟดว้ ย โปรแกรมการตารางงาน 4.4.4.1 ประเภทของแผนภูมิหรือกราฟ 4.4.4.2 การสร้างแผนภูมิหรือกราฟ 4.4.4.3 การปรับแต่งแผนภูมิหรือกราฟ4.5กกการวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการสอนกกกกกกกกการวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการสอน วชิ าโปรแกรมประมวลผลคา โดยใชก้ บั กลุ่มนกั เรียน ซ่ึงเป็ นนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 จานวน 12 คน วิชาโปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน ระดับช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 5 จานวน 22 คน และระดับช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 จานวน 13 คน รวมท้งั สิ้น 35 คน โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2559 รวมจานวนท้งั สิ้น 47 คน เป็ นค่าวิเคราะห์ท่ีไดจ้ ากการทาแบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน จานวน 1 ชุด ไดผ้ ลลพั ธ์ดงั น้ีตารางท่ี 4-1 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบทดสอบใบงาน ความหมาย เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก 90-100 ดี 70-89 50-69 ปานกลาง 30-49 พอใช้ 0-29 ปรับปรุง

37ตารางท่ี 4-2 แสดงผลคะแนนการทาแบบทดสอบโปรแกรมประมวลผลคา นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 ใบงาน Microsoft Word 2007 ผลรวม 20 ความ คะแนน หมายช่ือ ก่อนเรียน 10 หลงั เรียน 10 ร้อยละ คะแนน คะแนน16 9 15 75 ดี28 10 18 90 ดีมาก39 10 19 95 ดีมาก46 8 14 70 ดี56 9 15 75 ดี67 9 16 80 ดี77 10 17 85 ดี86 9 15 75 ดี95 10 15 75 ดี10 8 10 18 90 ดีมาก11 7 8 15 75 ดี12 6 8 14 70 ดีจากตารางท่ี 4-2 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาโปรแกรมประมวลผลคา ของกลุ่มนักเรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4 จานวน 12 คน พบว่านกั เรียนทาคะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินผล 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ดีมาก ระดบั ดีระดบั ปานกลาง ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง ปรากฏว่าการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก 3 คน คิดเป็นร้อยละ 25 เฉลี่ยได้ 22.92% ระดบั ดีจานวน4 คน คิดเป็นร้อยละ 75 เฉล่ียได้ 56.67%

38ตารางที่ 4-3 แสดงผลคะแนนการทาแบบทดสอบโปรแกรมนาเสนอผลงาน นักเรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 5ช่ือ ใบงาน Microsoft PowerPoint 2007 ผลรวม 20 ร้อยละ ความ ก่อนเรียน 10 หลงั เรียน 10 คะแนน คะแนน หมาย คะแนน17 9 16 80 ดี27 9 16 80 ดี37 8 15 75 ดี48 10 18 90 ดีมาก56 10 16 80 ดี66 9 15 75 ดี77 9 16 80 ดี88 8 16 80 ดี97 9 16 80 ดี10 8 10 18 90 ดีมาก11 9 10 19 95 ดีมาก12 5 8 13 65 ปานกลาง13 7 7 14 70 ดี14 6 10 16 80 ดี15 5 9 14 70 ดี16 5 8 13 65 ปานกลาง17 9 10 19 95 ดีมาก18 6 7 13 65 ปานกลาง19 6 10 16 80 ดี20 7 9 16 80 ดี21 6 7 13 65 ปานกลาง22 7 10 17 85 ดีจากตารางที่ 4-3 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาโปรแกรมนาเสนอผลงาน ของกลุ่มนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 จานวน 22 คน พบว่า

39นกั เรียนทาคะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินผล 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ดีมาก ระดบั ดีระดบั ปานกลาง ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง ปรากฏว่าการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 18.18 เฉล่ียได้ 16.82% ระดบั ดีจานวน 14 คน คิดเป็ นร้อยละ 63.64 เฉลี่ยได้ 49.77% และระดบั ปลานกลางจานวน 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 18.18 เฉล่ียได้ 11.82%ตารางท่ี 4-4 แสดงผลคะแนนการทาแบบทดสอบโปรแกรมนาเสนอผลงาน นักเรียนระดับช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 6 ใบงาน Microsoft PowerPoint 2007 ผลรวม 20 ความ คะแนน หมายชื่อ ก่อนเรียน 10 หลงั เรียน 10 ร้อยละ คะแนน คะแนน18 10 18 90 ดีมาก25 8 13 65 ปานกลาง35 8 13 65 ปานกลาง48 9 17 85 ดี58 10 18 90 ดีมาก65 7 12 60 ปานกลาง76 8 14 70 ดี88 8 16 80 ดี95 9 14 70 ดี10 6 7 13 65 ปานกลาง11 8 8 16 80 ดี12 8 9 17 85 ดี13 6 8 14 70 ดีจากตารางท่ี 4-4 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาโปรแกรมนาเสนอผลงาน ของกลุ่มนักเรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 6 จานวน 13 คน พบว่านกั เรียนทาคะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินผล 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ดีมาก ระดบั ดีระดบั ปานกลาง ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง ปรากฏว่าการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก 2 คน คิดเป็ นร้อยละ 15.38 เฉล่ียได้ 13.85% ระดบั ดี

40จานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 53.85 เฉลี่ยได้ 41.54% และระดบั ปลานกลางจานวน 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 30.77 เฉล่ียได้ 19.62%ตารางท่ี 4-5 แสดงผลคะแนนการทาแบบทดสอบโปรแกรมตารางงาน ก่อนเรียนและหลงั เรียนนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 ใบงาน Microsoft Excel 2007 ผลรวม 20 ความ คะแนน หมายชื่อ ก่อนเรียน 10 หลงั เรียน 10 ร้อยละ คะแนน คะแนน17 9 16 80 ดี26 9 15 75 ดี36 9 15 75 ดี47 8 15 75 ดี56 10 16 80 ดี67 8 15 75 ดี78 8 16 80 ดี88 10 18 90 ดีมาก98 8 16 80 ดี10 7 9 16 80 ดี11 7 8 15 75 ดี12 7 8 15 75 ดี13 7 9 16 80 ดี14 7 9 16 80 ดี15 8 10 18 90 ดีมาก16 5 8 13 65 ปานกลาง17 6 9 15 75 ดี18 7 9 16 80 ดี19 8 8 16 80 ดี20 7 10 17 85 ดี21 8 10 18 90 ดีมาก22 7 10 17 85 ดี

41 จากตารางท่ี 4-5 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาโปรแกรมตารางงาน ของกลุ่มนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 5 จานวน 22 คน พบวา่ นกั เรียนทาคะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินผล 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ดีมาก ระดบั ดี ระดบั ปานกลาง ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง ปรากฏวา่ การวเิ คราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 13.64 เฉล่ียได้ 12.27% ระดบั ดีจานวน 18 คนคิดเป็นร้อยละ 81.82 เฉล่ียได้ 64.32% และระดบั ปลานกลางจานวน 1 คน คิดเป็ นร้อยละ 4.55 เฉลี่ยได้ 2.95%ตารางที่ 4-6 แสดงผลคะแนนการทาแบบทดสอบโปรแกรมตารางงาน ก่อนเรียนและหลงั เรียนนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6ชื่อ ใบงาน Microsoft Excel 2007 ผลรวม 20 ร้อยละ ความ ก่อนเรียน 10 หลงั เรียน 10 คะแนน หมาย คะแนน คะแนน18 10 18 90 ดีมาก28 10 18 90 ดีมาก37 9 16 80 ดี46 9 15 75 ดี55 10 15 75 ดี67 9 16 80 ดี77 9 16 80 ดี88 10 18 90 ดีมาก95 8 13 65 ปานกลาง10 8 10 18 90 ดีมาก11 6 8 14 70 ดี12 6 8 14 70 ดี13 5 9 14 70 ดีจากตารางท่ี 4-6 แสดงให้เห็นผลการทาใบงานแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน วิชาโปรแกรมตารางงาน ของกลุ่มนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 จานวน 13 คน พบวา่ นกั เรียนทาคะแนนรวมคิดเป็นร้อยละ โดยมีเกณฑก์ ารประเมินผล 5 ระดบั ดงั น้ี ระดบั ดีมาก ระดบั ดี ระดบั ปาน

42กลาง ระดบั พอใช้ ระดบั ปรับปรุง ปรากฏวา่ การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการทาแบบทดสอบของนกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก 4 คน คิดเป็นร้อยละ 30.77 เฉลี่ยได้ 27.69% ระดบั ดีจานวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 61.54 เฉลี่ยได้ 46.15% และระดบั ปลานกลางจานวน 1 คน คิดเป็ นร้อยละ 7.69 เฉล่ียได้5%

43 บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ5.1กกสรุปผลกกกกกกกกการสอนคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ เพื่อการเรียนประมวลผลคา (Microsoft Word 2007)โปรแกรมนาเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint 2007) และโปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel2007) ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับการเรียนรู้และเพื่อการนาความรู้ไปสอนนักเรียนช้ันประถมศึกษาปี ที่ 4-6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) ในวิชาดา้ นคอมพิวเตอร์เร่ืองการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคา, โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงานกกกกกกกกการสอนคร้ังน้ีเป็ นการสอน เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของการสอนในรายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน ในระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 4-6 โดยต้งั สมมติฐานไวว้ า่ คู่มือการสอนท่ีสร้างข้ึนสามารถนาไปใชส้ อนนกั เรียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพเท่ากบั หรือมากกวา่ เกณฑ์ทากาหนด หลงั จากผูเ้ รียนจากผูเ้ รียนดว้ ยชุดการเรียนการสอนคร้ังน้ีเป็ นนกั เรียนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4- 6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วทิ ยา)ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2557 จานวน 30 คน โดยคูม่ ือการสอนที่สร้างข้ึนมี 7 หวั ผสู้ อนไดน้ าไปให้อาจารยท์ ่ีปรึกษาตรวจสอบและผเู้ ช่ียวชาญประเมินคุณภาพของคู่มือการสอน โดยผลการประเมินในคุณภาพในดา้ นเน้ือหา 7 หวั ขอ้ เร่ือง อยใู่ นระดบั เห็นดว้ ยมากท่ีสุดดา้ นส่ือการสอนอยใู่ นระดบั เห็นดว้ ยมากท่ีสุด เม่ือสร้างคู่มือการสอนเสร็จแลว้ ผสู้ อนไดน้ าคู่มือการสอนภาคทฤษฎีวิชาโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงาน ในระดบั ช้นั ไปสอนกบั กลุ่มนกั เรียน ซ่ึงผสู้ อนทาการสอนดว้ ยตนเอง โดยเร่ิมจากข้นั พ้ืนฐานเพื่อช้ีแจงใหน้ กั เรียนทราบ จากน้นั ทาแบบทดสอบก่อนเรียน 10 ขอ้ โดยใช้ขอ้ สอบทา้ ยบทจานวน10 ขอ้ เม่ือเรียนจบแต่ละวิชาและทาการปฏิบตั ิการใช้โปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงาน ในระดบั ช้นั ทาการเก็บคะแนนจากงานที่ทา หลงั จากน้นันาคะแนนที่ไดจ้ ากการแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน มาคานวณหาประสิทธิภาพของการสอน จากผลการสอนปรากฏวา่ คู่มือการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และ โปรแกรมตารางงาน สร้างข้ึนท่ีมีประสิทธิภาพดีมาก ซ่ึงสูงกวา่ เกณฑ์ท่ีกาหนด ซ่ึงเป็ นไปตามมติฐาน

44 สรุปไดว้ า่ คู่มือการสอนที่สร้างข้ึน สามารถใชส้ อนนกั เรียน ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี4-6 โรงเรียนบา้ นตรอกนอง (ประทีปวารีราษฎร์วิทยา) ได้อย่างดี โดยประสิทธิภาพของคู่มือการสอนอยใู่ นเกณฑด์ ี5.2กกข้อเสนอแนะ5.2กก5.2.1กกขอ้ เสนอแนะจากการสอนคร้ังน้ี 5.2.1.1กกประสิทธิภาพของการสอนชุดน้ีจะสูงหรือต่ากว่าเกณฑ์ที่กาหนด ไม่ได้ข้ึนอยกู่ บั คู่มือการสอนอย่างเดียว แต่หากข้ึนอยกู่ บั ครูผสู้ อนและนกั เรียนดว้ ย โดยครูผสู้ อนจะตอ้ งศึกษาแผนการสอนจากคู่มือการสอนให้เขา้ ใจ ท้งั ดา้ นเน้ือหา วิธีการสอน และการใช้ส่ือการสอนเป็นอยา่ งดี ส่วนนกั เรียนจะตอ้ งมีความต้งั ใจและใฝ่ รู้ในการเรียน ซ่ึงครูผสู้ อนจะตอ้ งคอยควบคุมใส่ใจในเรื่องน้ีดว้ ย 5.2.1.2กกในการสอนแต่ละคร้ัง ครูผูส้ อนจะตอ้ งเตรียมการให้พร้อมท้งั ด้านเน้ือหาส่ือการเรียนการสอนท้งั หมด ท้งั น้ีเพื่อใหก้ ารสอนเป็นไปตามแผนการสอนที่กาหนดไว้5.2กก5.2.2กกขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การสอนคร้ังตอ่ ไป 5.2.2.1กกควรมีการสร้างชุดการสอนโปรแกรมประมวลผลคา โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน โดยการนาเสนอดว้ ยระบบมลั ติมีเดีย เป็ นภาพเคล่ือนไหว และมีเสียงประกอบ ซ่ึงสามารถโตต้ อบกบั ผเู้ รียนได้ และเปรียบเทียบกบั ชุดการสอนท่ีผสู้ อนสร้างข้ึน 5.2.2.2กกเนื่องจากวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา, โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงาน ในคาอธิบายวิชาจะมีท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิการทดลอง ดงั น้นั เพ่ือให้คู่มือการสอนวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา, โปรแกรมการนาเสนอผลงาน และโปรแกรมตารางงานมีความสมบูรณ์ครบถว้ นจึงสมควรที่มีภาคทฤษฎีมากกวา่ น้ี 5.2.2.3กกจากการประเมินหลงั การสอนไดจ้ ดั ทาแบบสอบถามปรากฏวา่ โดยส่วนมากนกั เรียนไดส้ รุปวา่ อยเู่ กณฑก์ ารสอนที่ดีมาก จากการประเมินนกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจกบั เน้ือหาที่เรียน และอยากใหม้ ีการจดั การเรียนการสอนน้ีข้ึนอีก