ใบงานที่ 2 Python (ไพธอน) หรือ ภาษาไพธอน เป็นภาษาท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหน่ึงที่ค่อนข้างจะใหม่มากๆ ซึ่งถูกพัฒนาข้ึนมาโดยไม่ยดึ ติดกับแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถรนั ไดท้ ุกๆ ระบบปฺฏิบัตกิ ารไมว่ ่าจะเป็นระบบปฏบิ ตั ิการ Linux, Windows NT, Windows 2000, Windows XP หรือแมแ้ ต่ระบบ FreeBSD และท่ีสาคัญภาษานี้เป็น open source ซึ่งแปลว่าฟรีน่ันเอง บวกกับภาษามีโครงสร้างเข้าใจง่ายทาให้เหล่าโปรแกรมเมอร์และผู้พัฒนาได้นาภาษาเหล่านม้ี าพัฒนาให้มคี วามสามารถย่ิงขึ้นไปอีก ทาให้สามารถใช้งานได้ในหลายๆ ลกั ษณะStructure for Pythonขอบเขต ตัวอย่างโปรแกรมไพธอน ความหมาย1 #!/usr/bin/python คอมเมนตห์ รือการประกาศตวั แปลภาษา2 import sys, getopt นาเข้าไลบาีรห่ รือคลาสของ3 def display(): ไพธอนมาใช้งาน print(\"Python programming\") ประกาศตวั แปร ฟังกช์ ัน และ def main(): คาส่ังควบคุมต่างๆ รวมถึงฟังกช์ นั print(\"I'm the Main function\") main ด้วย display() if __name__ == \"__main__\": main()Important basic syntax1. Case sensitivity : การตง้ั ชอื่ ตวั แปร ตัวใหญ่ และตัวเล็กถอื ว่าเป็นคนละตัวแปร เชน่ Number และnumber ไมีใชต่ ัวแปรตวั เดยี วกัน2. Space and tabs don’t mix : ไพธอนมองว่า space และ tabs มีความหมายไม่เหมือนกัน ดงั นั้นเวลาเขียนโปรแกรม อย่าผสมระหวา่ ง space และ tabs เขา้ ด้วยกันใีหเ้ ลอื กเอาอย่างใดอย่างหน่ึงเท่านั้น3. Objects (วัตถุ): ไพธอนถูกสร้างขนึ้ ภายใตแ้ นวคิดการเขยี นโปรแกรมเชิงวตั ถุ ดงั นั้นเมอ่ื เราเรยี กใชง้ านคลาสใดๆ ก็ตามถือว่าเปน็ Objects ตามแนวความคิดแบบโปรแกรมเชิงวัตถุ ดงั น้ัน เมอื่ ใดก็ตามที่ีม่การสร้างวตั ถุและตอ้ งการเข้าถึงแอตทริบวิ ต์ (Attribute) หรือฟงั ชัน (Function) ใดๆ ในวัตถุต้องใช ้“.” แล้วตามดว้ ยเคร่ืองหมาย ( ) แตถ่ ้าอ้างถงึ ตวั แปรไม่ต้องมี ( ) เชน่ เมอื่ ต้องการเปลี่ยนคา่ สตริง ‘Pop’ เป็นตัวอักษรตวั ใหญ่ทั้งหมด ทาได้โดยเรียกใช้ คลาส upper ในไลบรารีของไพธอน ดังนี้ ‘Pop’.upper()
4. Colons: ไพธอนตัดเครื่องหมายแสดงขอบเขตของข้อมลู {…} ท้ิงไป แล้วใช้ : ร่วมกับการเขียนโปรแกรมดว้ ยการย่อหนา้ แทน โดยเร่ิมจากคอลัมภ์ท่ี 1 เสมอดงั น้ันอยา่ ลืม : หลังคาสั่ง if, for, while, def เป็นอันขาด5. Blank lines: เมอ่ื จาเปน็ ต้องเขียนคาสั่งทีม่ี ค่ วามยาวมากๆ ไม่หมดใน 1 บรรทัดใหใ้ ชเ้ ครื่องหมาย \ตามดว้ ย enter เชน่ print ('This is a really long lines \ but we can make it across \ multiplelines') หรือx=4*5-5+\6+8\+5%2print(x)6. Lines and Indentation: ไพธอนไม่ใช้เคร่ืองหมาย {…} ในการกาหนดขอบเขต เหมือนในภาษาซีไพธอนใช้การเย้ือง หรือย่อหน้าแทน ดังนั้นผเู้ ขยี นโปรแกรมจะต้องระวงั การเยอื้ ง หนา้ ใหด้ ี จากตวั อย่างต่อไปนี้Ex 1: Ex 2: if True: if True: print (\"True\") print (\"Answer\") print (\"True\") else: print (\"Answer\") else: print (\"False\") print (\"Answer\")ตัวอยา่ งที่ 1 จะไมเ่ กิดข้อผิดพลาด เพราะว่า print (\"False\")คาส่งั หลัง else ยอ่ หน้าตรงกัน ตัวอยา่ งท่ี 2 จะเกดิ ข้อผิดพลาด เพราะว่า คาสง่ั หลงั else ยอ่ หน้าไม่ตรงกนัfor loop (ฟอร์ ลูป) คืออะไร for loop (ฟอร์ ลูป) เป็นการวนลูปท่ีสามารถกาหนดจานวนคร้ังที่แน่นอน โดยมีการกาหนดจุดดร่ิมต้น และนับจานวนคร้ังจนถึงจุดส้นิ สุดของการวนลูป คาสั่ง for ในภาษาไพธอนจะแตกตา่ งจากภาษา ซี และปาคาล ในไพธอนใช้ตัวดาเนินการ in ร่วมกับการทาซ้าเพ่ือเข้าถึงรายการในช้อมูลชนิดแบบเรียงลาดับรายการ ได้แก่ String (สตริง), List (ลิสต์) และ Tuple (ทูเพิล) หรือสามารถระบุช่วงค่าภายใน
รายการท่ีจะใช้ได้โดยการระบุช่วงท่ีต้องการด้วยฟังก์ชั่น range() ซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะเห็นใช้กับตัวแปรประเภท list ซงึ ใ่ นบทความน้เี ราจะกลา่ วถึงการใช้ for loop (ฟอร์ ลปู ) รว่ มกับ ตัวแปรชนดิ ดคิ ชนั นารี่โจทย์ การเขียนโปรแกรม1. ให้นกั ศกึ ษาทาการเขียน Flowchart กระบวนการทางาน และเขียนโปรแกรม 1.1 จงเขียนโปรแกรมรับตวั เลขจากแป้นพิมพ์ เพ่อื ให้แสดงวา่ ตวั เลขเปน็ เลขคู่หรือคี่ 1.2 จงเขียนโปรแกรมหาผลบวกของ 1 + 2 + 3 + … + 100 ใหแ้ สดงผลลพั ธ์ทางจอภาพ 1.3 จงเขยี นโปรแกรมรบั ราคาสนิ คา้ จากแปน้ พิมพ์ แลว้ ใหบ้ วกภาษมี ูลคา่ เพิม่ รอ้ ยละ 7 ของราคาสนิ ค้า และให้แสดงราคาสนิ คา้ ภาษี และราคาสินค้ารวมภาษีทางจอภาพ แต่ถา้ ราคาสินคา้ มากกว่าหรือเทา่ กบั 3,000 บาท ใหห้ กั ส่วนลด 5% ของราคาสินค้าก่อน ๆ ทจ่ี ะไปคานวณภาษี
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: