ระบบยอ่ ยอาหาร ALIMENTARY SYSTEM DIGESTIVE SYSTEM อ.ดร. นชุ นาถ วชิ ติ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฎั สุราษฎร์ธานี
วัตถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ หลังจบการเรยี นการสอนนักศกึ ษา 1. อธบิ ายโครงสรา้ ง และทาหนา้ ทขี่ องระบบทางเดินอาหารได้ 2. อธบิ ายลักษณะและการทางานของผนงั ทางเดินอาหารได้ 3. อธบิ ายโครงสรา้ ง ส่วนประกอบ และหนา้ ทข่ี องชอ่ งปาก ลนิ้ ต่อมน้าลาย ฟัน คอหอย และหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลาไส้เลก็ และลาไส้ใหญ่ได้ 4. อธิบายโครงสร้าง สว่ นประกอบและหน้าทขี่ องตบั ตบั อ่อน และถงุ น้าดไี ด้
อวยั วะในระบบระบบยอ่ ยอาหารประกอบดว้ ย • ทอ่ ทางเดินอาหาร (Alimentary Canal or Digestive tract) • อวัยวะทีช่ ่วยในการย่อย (Accessory digestive organs)
ทอ่ ทางเดินอาหาร (DIGESTIVE TRACT หรือ ALIMENTARY CANAL) มลี กั ษณะเปน็ ท่อยาว ประกอบด้วย • ปาก(Mouth or Oral Cavity) • หลอดคอ (Pharynx) • หลอดอาหาร (Esophagus) • กระเพาะอาหาร(Stomach) • ลาไส้เล็ก(Small intestine) • ลาไสใ้ หญ่(Large intestine) • ทวารหนัก (Rectum) • ท่อทวารหนัก (Anal Canal)
อวยั วะที่ช่วยในการยอ่ ย (ACCESSORY DIGESTIVE ORGANS) • ล้นิ (Tongue) • ฟนั (Teeth) • ตอ่ มนา้ ลาย (Salivary glands) • ตับออ่ น (Pancreas) • ตบั (liver) • ถงุ น้าดี (Gallbladder)
หนา้ ท่ีของระบบย่อยอาหาร 1. ผลกั ดันอาหารใหเ้ คลอ่ื นท่ี 2. สรา้ งเอนไซมแ์ ละนา้ หล่อลืน่ 3. ย่อยอาหารและดูดซมึ สารอาหาร 4. ดดู ซึมนา้ และอเิ ลค็ โทรไลท์ 5. กาจัดของเสยี หรือสารพษิ
ระบบระบบยอ่ ยอาหาร ปาก • ขบเคย้ี วและคลุกเคล้าอาหารกบั น้าลาย กระเพาะ • ย่อยอาหารและเปล่ียนแปลงส่วนประกอบที่ซบั ซ้อนให้เป็น อาหาร ของท่งี ่าย ลาไสเ้ ลก็ • ดดู ซึมไปเลย้ี งส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย ลาไสใ้ หญ่ • ดูดซมึ นา้ และเกลอื แร่ ทวารหนัก • ขับถา่ ยเศษอาหารหรือกากอาหารออกจากร่างกาย
ทอ่ ทางเดินอาหาร (DIGESTIVE TRACT) • เป็นทอ่ ที่ติดกนั ตั้งแตป่ ากจนถงึ ทวารหนกั • มีเยอ่ื บุ 4 ชั้นเรียงจากช้ันในออกไปสู่ชน้ั นอก Mucosa ที่อยู่ของตอ่ มตา่ งๆที่ขับนา้ ยอ่ ย Submucosa ทาด้วย Areolar tissue เป็นท่อี ยู่ของเสน้ เลอื ด เส้นประสาทและหลอดนา้ เหลอื ง Muscularis กล้ามเนือ้ เรียงทับกันสองชั้น ช้นั ในเซลล์เรยี งเป็นวงกลมโดยรอบ (Circular fold) ช้ันนอกเซลล์เรียงทอดตามแนวยาว (Longitudinal) Serosa หรอื Adventitia Fibrous coat และใตก้ ระบังลมคอื Peritoneum
โครงสร้างทอ่ ทางเดินอาหาร
ช่องปาก คือ ชอ่ งวา่ งด้านในของริมฝปี าก ประกอบดว้ ย • รมิ ฝปี าก (Lips) • ฟนั (Teeth) • ล้นิ (Tongue) • ตอ่ มน้าลาย ชว่ ยในการบดเค้ยี วใหอ้ าหาร ละเอียดลงและยอ่ ยง่ายข้ึน
ริมฝปี าก (Lips) • ริมฝปี ากบนและลา่ งอย่รู อบๆช่องปาก • กลา้ มเนอื้ เรยี บ Orbicularis oris และ Buccinator • ด้านในเปน็ Mucous membrane • พืน้ ด้านหนา้ และด้านขา้ งประกอบด้วยรมิ ฝีปากและแกม้ • พน้ื ดา้ นบนประกอบด้วยเพดานอ่อนและเพดานแขง็ • พ้นื ดา้ นล่างประกอบด้วยลน้ิ • vestibule
ลิน้ (Tongue) • อวัยวะรบั รส ชว่ ยเคยี้ ว พดู กลืน • ประกอบดว้ ยกลา้ มเนอ้ื ลาย • ดา้ นบนเปน็ Mucous membrane และ Receptor ที่รบั รส ตา่ งๆ เรียกว่า Taste bud • ด้านบนมีป่มุ มากมายเรียกวา่ Lingual papillae
ล้นิ (TONGUE) ลิ้นมีปุ่มรับรส เรยี กวา่ Taste Bud อยู่ 4 ตาแหนง่ รสหวาน อยบู่ รเิ วณปลายลิ้น รสเค็ม อยบู่ ริเวณปลายล้ินและขา้ งลนิ้ รสเปรยี้ ว อยูบ่ ริเวณข้างลนิ้ รสขม อยบู่ ริเวณโคนลน้ิ ของเหลวจากอาหารจะจะซมึ ผ่านเขา้ ไปสมั ผสั กบั เซลลร์ ับรส (Gustatory cell) เกิดกระแสประสาทไปสู่เส้นประสาทสมอง
ต่อมน้าลาย (Salivary gland) • อยู่ภายในปาก เป็นตอ่ มมีท่อ ช่วยสรา้ งนา้ ลาย • มี 3 คู่ • ตอ่ มนา้ ลายใตห้ ู (Parotid gland) ใหญท่ สี่ ดุ มีท่อเรยี กวา่ Stensen’s duct • ต่อมนา้ ลายใต้ขากรรไกร (Submaxillary or submandibular gland) มีท่อเรียกวา่ Wharton’s duct • ต่อมนา้ ลายใต้ลนิ้ (Sublingual gland)
หน้าทข่ี องตอ่ มน้าลาย (SALIVARY GLAND) • ย่อย CHO ใหเ้ ปน็ Disaccharides โดยน้ายอ่ ย Salivary amylase • ช่วยใหอ้ วยั วะในปากชุ่มชืน่ และช่วยในการพดู • Mucin เคลือบกอ้ นอาหารให้กลนื งา่ ย และเคลอื บกระเพาะ และลาไส้ • ป้องกันฟันผุ
ฟนั (Teeth) • ฝังอยู่บรเิ วณ Alveolar process ของกระดูกขากรรไกรบนและลา่ ง • ทาหนา้ ท่ีบดเคี้ยวอาหาร ชว่ ยออกเสียงพดู ทาให้แกม้ คงรปู • สว่ นประกอบของฟัน • รากฟัน (Root) • ตัวฟนั (Crown) • คอฟัน (Neck) • ส่วนประกอบภายในฟัน • เคลอื บฟนั (Enamel) • เน้อื ฟัน (Dentine) • โพรงฟัน (Pulp Cavity) • Cement
ฟันน้านม (Milk teeth) • มี 20 ซ่ี • เริ่มข้ึนต้ังแตเ่ ดก็ ในครรภ์อายุได้ 6 สปั ดาห์ • โผลพ่ ้นเหงอื กเมือ่ อายุ 6 เดือน • ข้ึนครบเมอ่ื อายุ 2 ขวบ ฟันแท้ (Permanent teeth) • มี 32 ซี่ • เร่ิมขึ้นตง้ั แต่อายุ 6 ปี • ขน้ึ ครบเมื่ออายุ 25 ปี
• ฟันตดั (Incisor) ฟันสาหรบั กดั มี 8 ซ่ี อยทู่ างด้านหนา้ สดุ • ฟนั เคยี้ ว (Canines) ฟันสาหรบั ฉกี มี 4 ซ่ี ลกั ษณะแหลม • ฟนั เคี้ยว (Premolar) ฟนั สาหรบั ขบเคย้ี ว มี 8 ซ่ี • ฟนั กราม (Molar) ฟันสาหรบั เคยี้ วหรอื บด มี 12 ซ่ี อยู่ข้างในสดุ ใหญแ่ ละแขง็ แรงสุด
• เป็นท่อรูปกรวย ปลายบนกว้าง ปลายล่างแคบ • เรม่ิ จากทางดา้ นหลังของโพรงจมูกลงไปทางด้านหลังของช่องปากและกล่องเสยี ง จนถงึ หลอดอาหาร • ผนงั คอหอยประกอบดว้ ยกลา้ มเน้ือเรียบชว่ ยในการกลนื อาหาร • แบ่งออกเปน็ 3 สว่ น • Nasopharynx หลงั ชอ่ งจมกู ถงึ เพดานอ่อน • Oropharynx เพดานอ่อนถึงกระดูกโคนลน้ิ (Hyoid bone) • Laryngopharynx กระดูกโคนล้ินถึงขอบลา่ งของกระดูก Cricoid
หนา้ ที่ของหลอดคอ • ชว่ ยในการทาให้เกิดเสียง • เป็นทางผา่ นของอาหารจากปากไปสหู่ ลอดอาหาร เมอื่ กลนื อาหาร กลา้ มเนื้อคอหอยจะดึงกลอ่ งเสยี งข้นึ และขยายออกเพือ่ รับอาหาร หลงั จากนัน้ กล้ามเนอ้ื คอหอยจะหย่อนตวั ทาให้อาหารเคลอ่ื นลงสู่หลอด อาหาร
3. หลอดอาหาร (ESOPHAGUS) • เป็นทอ่ ประกอบดว้ ยกล้ามเน้อื ยาวประมาณ 10 นวิ้ ต่อจาก Pharynx • วางตัวอย่หู ลงั หลอดลม(Trachea) และหนา้ ต่อ กระดกู สนั หลงั • ตอ่ มาจากสว่ นปลายของ laryngopharynx เขา้ ส่ชู อ่ งอก (Thorasic cavity) • ลอดผ่านกระบังลมเขา้ ส่กู ระเพาะอาหาร ซงึ่ อยู่ ในช่องท้อง (Abdominal Cavity)
• รับอาหารจากหลอดคอ เพือ่ ลงไปสู่กระเพาะอาหาร • โดยการบีบรัดตัวของผนงั กลา้ มเนอ้ื หลอดอาหาร เรยี กว่า Peristalsis movement
4. กระเพาะอาหาร(STOMACH) เปน็ อวยั วะตง้ั อย่ใู นชอ่ งทอ้ งใตก้ ล้ามเนอ้ื กระบงั ลม ทางชายโครงด้านซ้าย (Left hypocondriac region) มีรูปร่างคลา้ ยตัวเจ ดา้ นบนตอ่ มาจากหลอดอาหาร ดา้ นล่างเปิดตดิ ตอ่ กับลาไส้เล็กสว่ นตน้ (Duodenum) รปู ร่างและขนาดเปลย่ี นแปลงได้ข้นึ อย่กู ับจานวนอาหารท่รี ับประทาน สามารถจุได้ 2-3 ลติ ร ภายในกระเพาะอาหารมี Gastric fluid และ Mucin หล่อลืน่ ตลอดเวลา
4. กระเพาะอาหาร (STOMACH) กระเพาะอาหารแบง่ เปน็ 4 สว่ น คือ 1. Cardia เป็นส่วนทีอ่ ยูร่ อบรูเปดิ ของหลอดอาหาร 2. Fundus เปน็ สว่ นกระพงุ้ กลมทอี่ ยู่ทางซา้ ยเหนอื ส่วนตอ่ cardia 3. Body เปน็ ส่วนทใ่ี หญท่ ส่ี ุดอยู่ตรงสว่ นกลางของกระเพาะอาหาร 4. Pylorus เปน็ ส่วนท่ีแคบทสี่ ดุ อย่บู รเิ วณปลายลา่ งกระเพาะอาหาร ตดิ ตอ่ กบั ลาไสเ้ ล็กส่วน duodenum
4. กระเพาะอาหาร (STOMACH) ชอ่ งเปดิ ของกระเพาะอาหาร • Cardiac Opening ตอ่ กบั Esophagus • Pyloric Opening ต่อกบั Duodenum ช่องเปดิ ทงั้ บนและลา่ งจะมกี ลา้ มเน้อื รูปวงแหวนโดยรอบ เรียกว่า Sphincter • Cardiac หรอื Lower esophageal sphincter • Pyloric sphincter
กระเพาะอาหาร (STOMACH) ภายนอกกระเพาะอาหารมีของโคง้ 2 ขา้ ง 1.Lesser curvature อยดู่ ้านขวามเี ย่ือบุ ชอ่ งทอ้ งหุ้ม เรยี กวา่ Lesser omentum แผย่ ดึ ระหวา่ งกระเพาะ อาหารกบั ข้วั ของตับ 2.Greater curvature อยทู่ างดา้ นซ้าย มแี ผ่นเยอื่ บชุ อ่ งทอ้ งแผล่ งไปคลุมลาไส้ เล็กและลาไส้ใหญ่ เรยี กวา่ Greater omentum
กระเพาะอาหาร (STOMACH)
ผนงั ของกระเพาะอาหาร (STOMACH) ผนงั ประกอบด้วยเน้อื เยื่อ ๔ ชน้ั 1. Serosa : ช้ันนอกสุดเนือ้ เย่ือยดึ ตอ่ ที่มเี นื้อเย่ือบคุ ลุมทบั 2. Muscularis : กลา้ มเนอื้ เรียบ 3 ช้ัน ชว่ ยในการหดตัวของกระเพาะอาหาร 1. ชั้นนอกสุดเรียงตัวตามยาว (longitudinal) 2. ชน้ั กลางเรียงตัวตามขวาง (Circular) 3. ช้นั ในเรยี งตัวเป็นแนวเฉียง (Oblique) บรเิ วณ Pylorus กลา้ มเน้อื ชนั้ กลางจะหนา ตัวขน้ึ ทาหน้าท่ีเปน็ หูรดู กระเพาะอาหาร (Pyloric sphincter)
ผนงั ของกระเพาะอาหาร (STOMACH) 3. Submucosa : เนือ้ เยือ่ ยดึ ตอ่ ท่ีบรรจหุ ลอดเลอื ด เสน้ ประสาท และ หลอดนา้ เหลอื ง 4. Mucosa : หนาทส่ี ุด ปกคลุมดว้ ย Surface epithelium เป็น Simple columnar epithelium ขณะกระเพาะอาหารบบี ตัว mucosa จะยกตัวเปน็ สนั ขึ้น เรียกว่า rugae ระหวา่ ง rugae จะมีรอ่ งหวาเขา้ ไปใน Mucosa เรียกว่า Gastric pit ภายในมี Gastric Gland มาเปิดออก
หนา้ ท่ีกระเพาะอาหาร 1. เป็นทพ่ี ักและกกั เกบ็ อาหารกอ่ นส่งเขา้ ลาไส้ 2. สรา้ งและหล่งั นา้ ยอ่ ย ซึ่งประกอบด้วย กรดเกลอื สารเมอื กและ นา้ ยอ่ ย • Pepsin • Renin • Lipase 3. ทาหน้าทคี่ ลุกเคล้าอาหารใหผ้ สมกับนา้ ย่อย โดยการหดรัดตัวของ กล้ามเน้อื ท่ผี นังกระเพาะ เปน็ ผลให้อาหารอยู่ในรปู กง่ึ แข็งก่งึ เหลว
5. ลาไสเ้ ลก็ (SMALL INTESTINE) • สว่ นทยี่ าวทสี่ ุดของทอ่ ทางเดนิ อาหาร • มลี กั ษณะเปน็ ทอ่ ที่ขดไปมายาว 4-5 เมตร • เริม่ ตัง้ แต่ Pyloric sphincter ของ กระเพาะอาหารขดไปมาจนกระทั่งเปิดเข้าสู่ ลาไสใ้ หญ่ • เป็นส่วนท่มี ีการยอ่ ยและการดูดซึมอาหาร เขา้ สู่กระแสเลือดเปน็ ส่วนใหญ่ โดยอาศยั น้าย่อยจากตบั อ่อน นา้ ดีจากตบั และ น้าย่อยจากลาไส้เล็ก
5. ลา้ ไสเ้ ล็ก (SMALL INTESTINE) แบง่ เป็น 3 ส่วน คอื 1. Duodenum • เปน็ สว่ นทส่ี ้ันที่สดุ มรี ปู ร่างคล้ายตวั C หรือ U ยาวประมาณ 10 น้ิว ไม่มเี ยื่อแขวน ลาไส้ • ตอ่ จาก pylorus sphincter ของกระเพาะอาหาร • บรเิ วณนมี้ ที อ่ นา้ ดี (Common bile duct) และท่อน้ายอ่ ยจากตับออ่ น (Pancreatic duct) มาเปิด 2. Jejunum • เป็นลาไส้เลก็ สว่ นกลาง ยาวประมาณ 8 ฟตุ • อย่บู ริเวณช่องทอ้ งตอนบน 3. Ileum • เปน็ ลาไส้เล็กสว่ นปลาย ยาวประมาณ 12 ฟตุ ตดิ ตอ่ กบั ลาไสใ้ หญส่ ่วน Cecum • บรเิ วณน้จี ะมลี นิ้ เรียกวา่ Ileocecal vale • อยใู่ นช่องทอ้ งส่วนล่าง
ผนงั ของลาไสเ้ ลก็ (SMALL INTESTINE) เยือ่ บุลาไสเ้ ลก็ ประกอบดว้ ยเนือ้ เยอ่ื 4 ชน้ั 1. Serosa : 2. Muscularis : 3. Submucosa : มีตอ่ มเมือก เรยี กวา่ Duodenal (Brunner’s glands) สรา้ งสารเมือกทีม่ ีฤทธ์ิเปน็ ด่าง 4. Mucosa : หนามหี ลอดโลหิตมาก มี Villi เพอ่ื เพม่ิ พ้ืนท่ใี นการยอ่ ยและดดู ซมึ ซ่ึงมลี ักษณะคลา้ ยน้วิ มอื แตล่ ะอันประกอบดว้ ยทอ่ นา้ เหลอื ง (Lacteal) อยตู่ รงกลางและล้อมรอบดว้ ยหลอดเลอื ดฝอยมาสานกันเป็นรา่ งแห • CHO และโปรตนี ถกู ย่อยและซมึ ผ่านเขา้ ส่เู สน้ เลือดฝอย • ไขมนั ซมึ ผ่านเขา้ สูท่ อ่ น้าเหลือง • Absorbtive cells เรียกว่า Microvilli • Goblet cells หลงั่ Mucous ออกมาเคลอื บและหลอ่ ลน่ื ลาไส้
หนา้ ทลี่ า้ ไส้เลก็ (SMALL INTESTINE) • หล่งั นา้ ย่อยออกมายอ่ ยอาหาร (Digestive function) • Peptidase • Lactase • Sucrase • Maltase • Intestinal lipase • การเคลอ่ื นไหว (Intestinal motility) • Segmental contraction เคลื่อนไหวหดตัวเพือ่ คลกุ เคล้าอาหารกับน้าย่อย ช่วยใหด้ ูดซมึ ให้ดขี ้นึ • Pendular movement การหดตวั แบบวงแหวนเพือ่ เคล่อื นตัวไปขา้ งหนา้ และถอยหลังกลับ • Peritalsis movement การเคลื่อนแบบลกู คลน่ื ช่วยผลกั ไล่อาหาร
6. ลาไสใ้ หญ(่ LARGE INTESTINE) • เปน็ สว่ นทตี่ ่อจากลาไสเ้ ลก็ มีความยาว 1.5 เมตร • เร่มิ จากส่วนปลายของลาไสเ้ ลก็ สว่ น Ilium ไปจนถงึ anus • ถกู ยดึ ตดิ กบั ผนงั ชอ่ งทอ้ งทางด้านหลงั โดยเยอ่ื บชุ อ่ งทอ้ ง เรียกวา่ Mesocolon • ทาหนา้ ทขี่ บั ถ่ายกากเหลอื จากการย่อย และผลผลิตตา่ งๆทเ่ี กดิ จากขบวนการ ปฏิกริ ยิ าตา่ งๆในร่างกายออก
6. ล้าไสใ้ หญ่ (LARGE INTESTINE) แบ่งเปน็ 4 สว่ น คือ 1. Cecum • ลาไส้เลก็ มาเปดิ อย่ทู างดา้ นขวา • ลักษณะเปน็ ถุงปลายตันต่อกบั Ilium • มี Ileocecal vale กั้นเพอื่ ไม่ให้กาก อาหารไหลยอ้ นกลับเข้าลาไสเ้ ลก็ • มีเยอื่ บุชอ่ งทอ้ งคลุม • สว่ นของ Cecum ท่ียน่ื ออกมี ลักษณะเปน็ ทอ่ ปลายปดิ ขนาดเลก็ เรียกว่า ไส้ติ่ง (Appendix)
6. ลา้ ไสใ้ หญ่ (LARGE INTESTINE) 2. Colon ต่อจาก Cecum แบ่งออกเป็น 4 ส่วน Ascending colon: ตัง้ แต่ Ileocecal vale ทอดวกไปด้านบน จนถึง Hepatic flexure Transverse colon: ตง้ั แต่ Hepatic flexure ทอดขวางลาตวั จนถึง Splenic flexure Descending colon: ตง้ั แต่ splenic flexure ทอดวกลง ด้านล่างซ้ายของช่องท้อง จนถึง Left iliac region ตรงระดบั Crest of ileum Sigmoid colon: สว่ นโค้งท่ีมีลกั ษณะเปน็ รูปตวั S จาก Crest of ileum ถงึ Rectum
6. ล้าไสใ้ หญ่ (LARGE INTESTINE) 3. Rectum (ไสต้ รง) • รปู รา่ งโคง้ ไปตามความโคง้ ของ Sacrum และ Cocyx • ส่วนลา่ งสุดของ Rectum จะพองออกเป็นกระเปาะ เรียกว่า Ampulla recti พองโตเพ่ือเกบ็ อุจจาระได้มาก 4. Anal canal • เปน็ ส่วนลา่ งสุดของลาไสใ้ หญ่ ยาวประมาณ 1.5 นว้ิ • มชี ่องเปิดสู่ภายนอกเรียกว่า anus มกี ล้ามเนือ้ หูรูด 2 วง คือ - Internal anal sphincter กลา้ มเนอื้ เรยี บ ควบคมุ โดยประสาทอตั โนมัติ - External anal sphincter กลา้ มเนื้อลาย ควบคุมโดยสมอง บรเิ วณนี้มหี ลอดเลอื ดดาและหลอดเลอื ดแดงอยมู่ าก บางครั้งหลอดเลอื ดดาอาจโป่ง ออก เรยี กวา่ ริดสดี วงทวาร (Hemorrhoid)
เย่อื บุผนังล้าไสใ้ หญ่ 1. Serosa: เยื่อบชุ อ่ งทอ้ งทห่ี มุ้ 2. Muscularis: มี 2 ช้นั กล้ามเนือ้ ช้นั นอกจะมีการหนาตัวขนึ้ เปน็ แถบตามยาว 3 แถบ เรียกวา่ Taeniae coli แรงตงึ ตัวทาให้ลาไส้ ใหญม่ ลี กั ษณะเปน็ กระพงุ้ สลบั กับรอยคอดเรียกว่า Sacculations 3. Submucosa: 4. Mucosa: บดุ ว้ ย Simple columna epithelium cells ไมม่ ี Villi ไม่มีการดูดซมึ หรอื ยอ่ ยอาหาร ชว่ ยดดู น้าและสารละลายบางอย่าง กลบั คนื เพ่ือใหเ้ กดิ ความสมดุลระหวา่ งน้า และสารละลายภายใน รา่ งกาย
7. ตบั (LIVER) • เปน็ ตอ่ มที่ใหญ่ทีส่ ดุ ในรา่ งกาย • อยูบ่ นสดุ ซกี ขวาของชอ่ งทอ้ ง ใต้ กระบงั ลมและยาวย่นื ผา่ นแนวกลาง ลาตัวไปด้านซกี ซ้าย • มีลกั ษณะอ่อนนมุ่ • มีรปู คลา้ ยสามเหล่ยี ม มีส่วนฐาน อยทู่ างดา้ นขวา และสว่ นยอดชีไ้ ป ทางด้านซา้ ย • เกอื บทุกสว่ นของตบั จะมซี ่ีโครง ปอ้ งกนั อยู่
7. ตบั (LIVER) ตบั แบ่งออกเปน็ 4 lobes คอื right, left, caudate และ quadrate lobes
Search