Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดการสถานสงเคราะห์สัตว์

คู่มือการจัดการสถานสงเคราะห์สัตว์

Published by Khampee Pattanatanang, 2019-09-19 04:28:38

Description: คู่มือการจัดการสถานสงเคราะห์สัตว์

Search

Read the Text Version

48 7. การบรหิ ารจัดการสนุ ขั จรจัดในพื้นท่ี 7.1 การจัดทาแผนเพ่ือลงพ้ืนทส่ี ารวจโดยบูรณาการความรว่ มมือกับหนว่ ยงานอื่น เช่น ปศสุ ัตวจ์ งั หวัดและมลู นิธิเพ่ือสนุ ขั ในซอย 7.2 จับสนุ ัขจรจดั และทาหมันหรือฉดี วัคซีนรว่ มกับปศสุ ตั วจ์ ังหวัดและมลู นิธิเพื่อสนุ ขั ในซอย 7.3 จัดส่งสุนขั จรจัดไปยังบา้ นพกั พงิ สุนขั จรจดั ณ สวนปาุ บางขนุน จังหวดั ภูเกต็

49 แนวทางการดาเนินการปอ้ งกันโรคพษิ สุนขั บา้ ตามโครงการ Thailand Rabies Awards 2018 รางวลั ชนะเลศิ ประเภทองค์การบริหารส่วนตาบล องค์การบริหารสว่ นตาบลหนองกุง จังหวดั มหาสารคาม องค์การบริหารส่วนตาบลหนองกุง จังหวัดมหาสารคามได้รับรางวัลชนะเลิศ ตามโครงการ Thailand Rabies Awards 2018 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟูาจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควฒั น วรขัตติยราชนารี ไดว้ างนโยบายการดาเนนิ งาน ดงั นี้ 1. การจดั ทาแผนพฒั นาท้องถ่ินหรอื ปรับแผนพัฒนาทอ้ งถิ่น อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น ต า บ ล ห น อ ง กุ ง ไ ด้ บ ร ร จุ แ ผ น ง า น โ ค ร ง ก า ร ปู อ ง กั น แ ล ะ ค ว บ คุ ม โรคพษิ สนุ ัขบา้ ไวใ้ นแผนพฒั นาทอ้ งถนิ่ หรือปรบั แผนพัฒนาท้องถิน่ สป่ี ี 2. การสารวจและข้นึ ทะเบียนสุนขั และแมว 2.1 จดั ทาคาสัง่ แต่งตง้ั เจ้าหนา้ ทีผ่ รู้ ับผิดชอบในการรับข้นึ ทะเบียนสุนขั และแมว 2.2 จดั ทาเลม่ ทะเบยี นบา้ นสนุ ขั และแมว 2.3 ประชุมผนู้ าหมูบ่ า้ น อาสาปศุสตั ว์ เจา้ หนา้ ท่ีทีเ่ กีย่ วข้องเพ่ือชี้แจงทาความเข้าใจ 2.4 จัดประชุมประชาคมหมู่บ้านเพ่ือช้ีแจงทาความเข้าใจในการจัดทาทะเบียนบ้าน สุนัขและแมว 2.5 ให้อาสาปศสุ ตั วส์ ารวจข้อมลู จานวนสุนัขและแมว เพ่ือนาข้อมูลสุนัขและแมว ส่งต่อให้ เจ้าหนา้ ที่รบั ขนึ้ ทะเบยี นสนุ ัขและแมว เพอื่ บนั ทกึ ขอ้ มูลในเลม่ ทะเบียน 2.6 นาทะเบียนบา้ นสุนัขและแมวสง่ คืนเจา้ ของสัตวเ์ ลย้ี ง 2.7 กรณีเจา้ ของสัตวเ์ ลย้ี งนาสัตวต์ ัวใหมเ่ ข้ามาเลี้ยง หรือเกิดขึ้นใหม่ให้นาทะเบียนบ้าน สนุ ัขและแมว ไปรบั การขน้ึ ทะเบยี นสนุ ขั และแมว 2.8 ปล่อยขบวนอาสาปศุสัตว์เพ่ือให้บริการฉีดวัคซีน ทาหมันสุนัขและแมวอย่างต่อเนื่อง เป็นประจาทกุ ปี

50 3. สรา้ งเครือข่ายการมีส่วนรว่ มของประชาชนในการปูองกนั และควบคุมโรคพิษสนุ ขั บ้า 4. จดั เวทชี าวบ้าน/ประชาคมชาวบ้าน/ประชุมชแี้ จง เพื่อสร้างการรบั รู้ใหแ้ กป่ ระชาชนในพ้ืนที่ 5. การประชาสัมพันธ์ เพ่ือให้ความรู้เก่ียวกับโรคพิษสุนัขบ้าผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ได้แก่ หอกระจายข่าวประจาหมู่บ้าน ประกาศข่าว สปอตโฆษณา แผ่นพับ ใบปลิว รถประชาสัมพันธ์ กิจกรรมอบรมใหค้ วามรู้ เวทีประชาคมตา่ ง ๆ บอรด์ ประชาสัมพันธ์ และการประชุมประจาเดอื น เปน็ ต้น 6. การอบรมใหค้ วามรู้แกเ่ ดก็ และนกั เรยี นในโรงเรียนเขตพน้ื ท่ี 7. ให้ความรู้ และซักซ้อมแนวทางการดาเนินงาน การควบคุม ปูองกัน โรคพิษสุนัขบ้า แก่ผู้นาหม่บู า้ น และอาสาปศสุ ตั ว์ประจาหม่บู ้าน 8. การจัดทาขอ้ บัญญตั ทิ ้องถนิ่ 8.1 การจดั ทาข้อบญั ญตั ิท้องถนิ่ เรอื่ ง การควบคมุ การเลย้ี งหรอื ปล่อยสัตว์ 8.2 การจดั ทาข้อบัญญตั ิ เรือ่ ง การควบคุมโรคพิษสนุ ัขบ้าในเขตพืน้ ที่ 9. บูรณาการการทางานร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อาเภอ หน่วยงานสาธารณสุข อาสาปศสุ ัตว์ประจาหมู่บา้ น ผู้นาหม่บู า้ น และประชาชนในพ้นื ที่ --------------------------------------

51 การบรหิ ารจดั การสถานสงเคราะห์สตั ว์ ของสมาคมพิทกั ษส์ ตั ว์ (ไทย) การบริหารจัดการสถานสงเคราะห์จะดาเนินการได้อย่างต่อเนื่องและเหมาะสมตามหลัก สวัสดิภาพสัตว์เป็นเรื่องที่สมควรต้องพิจารณาโดยรอบคอบ ทั้งในด้านงบประมาณ โครงสร้าง นโยบาย บคุ ลากรและจานวนสตั ว์ 1. รปู แบบนโยบาย เงื่อนไขในการขอรับอุปการะสัตว์มีผลต่อโอกาสหรือความเป็นไปได้ในการหาบ้านใหม่และ ตอ่ จานวนหรอื ระยะเวลาท่ีสัตว์ตอ้ งอยูใ่ นสถานสงเคราะห์ ทัง้ นี้ สถานสงเคราะห์อาจเลือกรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง หรือแบบผสมผสานไดต้ ามความเหมาะสม เงือ่ นไขท่ี 1 ให้เฉพาะผู้ขอรับอุปการะที่มีคุณสมบัติตามท่ีกาหนด อาทิ ต้องมีร้ัวรอบ ขอบชิด จานวนหรือประเภทสตั วเ์ ลยี้ งท่ีมอี ย่แู ลว้ เปน็ ต้น เปน็ การสร้างขอ้ จากัดที่ลดโอกาสได้รับการอุปการะ ของสัตว์ และอาจถูกมองว่าลาเอียง เงื่อนไขที่ 2 ให้หลังจากผ่านการตรวจเยี่ยมบ้านของผู้ขอรับอุปการะ สร้างความม่ันใจ ใหส้ ถานสงเคราะห์ แต่ต้องใชเ้ วลาและกาลังคนมาก เงอื่ นไขที่ 3 ใหเ้ ฉพาะผู้ขอรับอปุ การะที่ยินดีชาระค่าบารุง เช่น ค่าลงทะเบียน ค่าฉีดวัคซีนรวม หรือค่าบารุงสถานสงเคราะห์มีประโยชน์ ท้ังต่อรายได้ของสถานสงเคราะห์ และเป็นการเสริมสร้าง ความรับผิดชอบเบ้ืองต้น เพราะหากไม่สามารถจ่ายคา่ บารุงก็ยากจะรับผิดชอบค่าเลี้ยงดู นอกจากน้ีสัตว์เลี้ยง ได้มาฟรีมักด้อยคุณค่า หรืออาจถูกนาไปหาประโยชน์โดยมิชอบ ในขณะเดียวกันก็อาจมีผลต่อจิตใจ ของผู้ขอรับอุปการะและไม่ใชห่ ลักประกันการเอาใจใสห่ รือทอดท้งิ เงอ่ื นไขท่ี 4 ให้เฉพาะผู้ขอรับอุปการะท่ีผ่านการสัมภาษณ์ โดยอาจสัมภาษณ์ส่วนตัวหรือ ทางเอกสาร 2. การเมตตาฆาตหรอื การุณยฆาต เป็นสถานการณ์สาหรับสัตว์ท่ีทุกข์ทรมานจากความเจ็บปุวย ที่ไม่อาจเยียวยารักษาหรือสัตว์พิการถึงท่ีสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสุนัขจรจัดจานวนมาก ไม่เพียงส้ินเปลือง งบประมาณค่าใช้จ่ายยังส่งผลต่อสวัสดิภาพด้วย จานวนสุนัขในสถานสงเคราะห์ต้องอยู่ อย่างแออัด ดูแล ไม่ท่ัวถึง กัดทาร้าย และแย่งชิงกัน จึงอาจต้องพิจารณาเมตตาฆาตในกรณีรุนแรง อาทิ สัตว์เป็นโรคติดต่อ

52 ร้ายแรงรักษาไม่หาย ทุกข์ทรมานจากความพิการจนเคล่ือนไหวไม่ได้ สัตว์ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว หรือไมส่ ามารถหาบา้ นได้ 3. อาคารสถานท่ี ต้องสามารถปูองกันการระบาดของโรคได้ มีพื้นท่ีกักดูอาการสาหรับสัตว์ปุวยและ สตั ว์เข้าใหม่ ซงึ่ อยู่หา่ งจากสัตวท์ พี่ ร้อมสาหรับการอุปการะและจากผเู้ ยีย่ มชม 4. พื้นท่สี ว่ นกลาง พื้นท่ีประชาสัมพันธ์ต้อนรับ ควรมีความสะดวก ปลอดภัยและสะอาดถูกสุขอนามัย สาหรับผู้เยี่ยมชมและเพื่อภาพลักษณ์ด้านความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดจนเป็นการสร้าง ความมัน่ ใจในดา้ นการดแู ลสขุ ภาพอนามยั ของสัตว์ดว้ ย 4.1 สานักงานธุรการ คือ ศูนย์กลางดาเนินงานของสถานสงเคราะห์ จึงต้องสามารถ ตดิ ตอ่ กับทุกสว่ นภายในสถานสงเคราะห์ได้และมีระบบการบันทึกข้อมูลสัตว์เข้า-ออกท่ีชัดเจน เพื่อให้บริหาร จดั การได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 4.2 ส่วนรักษาพยาบาลสัตว์ คือ เพ่ือการรักษาพยาบาลสัตว์ปุวย รวมถึงการเมตตา ฆาตเมื่อจาเปน็ ต้องปลอดเชอ้ื และควรอยู่ใกล้กบั ส่วนกักกนั โรค เพ่อื สะดวกแกล่ าเลยี งสตั ว์ มีช่องทางเข้าออก สาหรบั รถขนสง่ สัตว์ และเปน็ เขตหวงหา้ มทม่ี ีระบบถ่ายเทอากาศตา่ งหากจากสันทนาการอ่ืน รวมท้ังห้องครัว ห้องเกบ็ และหอ้ งทานอาหาร (ส่วนกักกันโรคต้องมรี ะบบกลั่นกรองอากาศ) 4.3 ส่วนกาจัดซาก/ห้องเย็น เพื่อปูองกันมลพิษหรือกาจัดเชื้อจากซากและวัสดุติดเช้ือ อ่นื ๆ โดยพิจารณาทั้งด้านความพร้อมและกฎหมายว่าจะใช้วิธีกลบฝัง ตั้งเตาเผา หรือนาไปฝากทาลายท่ีอื่น ซึง่ อาจต้องมตี หู้ รือห้องเยน็ ท่เี หมาะสม 4.4 ส่วนเตรียมอาหารสัตว์ คอื ตอ้ งมรี ะบบการประปาและระบบคัดกรองขยะของเสีย จากการประกอบอาหาร ตู้เย็น ห้องเก็บวัสดุอุปกรณ์และเสบียงท่ีปลอดภัยจากหนูหรือแมลงสาป มีช้ันวาง ภาชนะทีถ่ กู สุขอนามยั และดแู ลรักษาความสะอาดทุกวัน 4.5 ส่วนสุขาภิบาล คือ ควรมีพื้นท่ีให้พนักงานส่วนต่าง ๆ สามารถชาระล้างร่างกาย หรือเปลี่ยนเส้อื ผา้ ได้สะดวก และแยกออกจากสว่ นบรกิ ารสาธารณชนหากทาได้

53 5. พืน้ ท่ีสาหรับสตั ว์ 5.1 พ้ืน คือ ภายในส่วนพักสัตว์ควรใช้วัสดุปูพ้ืนที่ทาความสะอาดง่าย โดยอาจเป็นพื้น เรียบขัดมันหรือกระเบื้องที่ยาแนวชิด เพ่ือหลีกเล่ียงการสะสมของเชื้อโรค พื้นภายนอกขึ้นอยู่กับรูปแบบ การเล้ียงสัตว์ โดยอาจเป็นพื้นปูนหยาบหรือโรยกรวด ไมแ่ นะนาให้ปหู ญา้ ทราย หรอื กระเบือ้ ง (ลื่น) 5.2 ผนัง คือ ภายในส่วนพักสัตว์ควรใช้วัสดุทาความสะอาดง่าย โดยอาจเป็นผนัง ขัดเรียบ แล้วทาสนี ้ามันหรอื กระเบือ้ งท่ียาแนวชดิ เพอื่ หลีกเลยี่ งการสะสมของเช้ือโรค 5.3 การระบายน้า คือ พื้นที่สาหรับสัตว์ท้ังภายในและภายนอก ควรมีความลาดเอียง และช่องระบายน้าท่ีไหลลงได้สะดวก คล้ายห้องน้า และควรมีตะแกรงหรือถังดักปฏิกูลรองรับ ไมค่ วรขับปฏกิ ลู ของเสยี จากสตั วล์ งทางระบายนา้ สาธารณะ โดยไม่ดกั กรองหรอื มบี ่อบาบัด 5.4 การจัดการเสียง เป็นปัญหาท่ียากแก่การปูองกันและแก้ไข ซ่ึงจะมีผลต่อท้ังคน และสัตว์ ซึ่งมีประสาทหูดีกว่ามนุษย์ ย่ิงพ้ืนผิวอาคารสถานท่ีง่ายต่อการทาความสะอาดเท่าไหร่ก็ยิ่งเอื้อต่อ การสะท้อนเสียงเท่านั้น ในทางกลับกันพ้ืนผิวที่ดูดซับเสียงก็มักยากต่อการรักษาความสะอาด จึงควรต้อง พิจารณาใช้วัสดุเสริมอ่ืน ๆ อาทิ ใช้กระเบื้องยางปูพ้ืนทางเดินในอาคาร ใช้ช่องระบายลมช่วยลดเสียง แต่ไม่แนะนาให้ใช้พัดลมหรือเครื่องจักรในการกลบเสียงเห่าหอน เพราะจะย่ิงเป็นการรบกวนสัตว์ สว่ นดา้ นนอกตวั อาคารอาจใช้ผนงั อฐิ พ้ืนโรยกรวด และปลกู ต้นไม้รอบอาคารและรมิ รั้ว เป็นตน้ 5.5 สุนัขแต่ละตัวต้องการพ้ืนท่ีประมาณ 2 X 2 เมตร มีแสงสว่างและการถ่ายเทอากาศ ที่ดี ไม่ตากลมตากฝนหรือช้ืนแฉะ พ้ืนท่ีออกกาลังตัวละประมาณ 2.5 – 3.5 ตารางเมตร รั้วคอก ควรเป็น ตาข่ายถักสูงอย่างน้อย 2 เมตร มีแผงกั้นปลายท่ีเอียงเข้า 45 องศา เพื่อการปีนปุาย กัดแทะและให้สุนัข มองเห็นภายนอกได้ ทั้งน้ี ไม่แนะนาให้เลี้ยงรวมกันหากมีอัตราการรับอุปการะที่เร็วด้วยเหตุผล ด้านความผูกพันของสุนัข หากเลี้ยงรวมกันต้องให้ความสาคัญกับการคัดเลือกสมาชิกกลุ่ม ควรแยกสุนัขใหม่ ไว้อย่างน้อย 10 วัน เพื่อดูพฤติกรรมและสุขภาพ สุนัขท่ีเจ็บปุวย อ่อนแอ หรือมีลูกอ่อน ไม่ควรอยู่รวมกับ สุนัขท่ีแขง็ แรงหรือกา้ วรา้ ว และหากเล้ียงรวมเพศต้องทาหมันก่อนทุกตัว

54 6. การรับสัตวเ์ ขา้ สุนัขต้องมีการกักแยกเพ่ือดูอาการอย่างน้อย 10 วัน ซ่ึงควรได้รับการตรวจสุขภาพภายใน 24 ชั่วโมง หรือโดยเร็วท่ีสุด โดยเฉพาะเม่ือมีอาการปุวยหรือบาดเจ็บ ทาวัคซีนและถ่ายพยาธิให้สัตว์ทุกตัว และต้องไม่ให้มีการใกล้ชิดหรือสัมผัสกันระหว่างสัตว์ที่อยู่ระหว่างดูอาการกับสัตว์ท่ีพร้อมสาหรับการรับอุปการะ ในการกักดูอาการไม่เพียงเป็นการปูองกันโรคติดต่อ ยังเอื้อต่อการศึกษาพฤติกรรมเพื่อการแยกกลุ่มและ การจดั หาบา้ นด้วย ควรมกี ารบันทึกข้อมูลด้านสขุ ภาพและการตรวจรักษาตัง้ แต่วนั แรกที่รบั เขา้ และตลอดไป 7. การรบั อุปการะ วัตถุประสงค์ในการรับอุปการะควรเพ่ือการหาบ้านท่ีเหมาะสมให้สัตว์อยู่ได้ตลอดอายุขัย ไมใ่ ชเ่ พียงเพ่อื ลดจานวนสตั ว์ในสถานสงเคราะห์ ซ่ึงความต้องการของสัตว์และผู้ขอรับอุปการะแต่ละรายการ เป็นปัจจัยสาคัญในการหาบ้านท่ีเหมาะสมและลดปัญหาการคืนหรือทอดท้ิงสัตว์ สาหรับสัตว์ท่ีมี ความสมบรู ณเ์ หมาะสม ทั้งด้านสุขภาพและอารมณ์ควรเป็นกลุ่มหลักในการเสนอหาบ้านใหม่ สัตว์ที่มีปัญหา ควรมกี ารชี้แจงใหผ้ ู้ขอรบั อปุ การะทราบเพ่ือพิจารณาใหร้ อบคอบก่อนตดั สนิ ใจ 8. ปัจจยั ในการรับอปุ การะสตั ว์ 8.1 วัตถุประสงคเ์ พ่อื หาบ้านท่เี หมาะสมและถาวร 8.2 พนักงานและอาสาสมคั รต้องชัดเจนในหลักเกณฑแ์ ละขน้ั ตอน 8.3 มีข้อกาหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีแบบฟอร์มเอกสารและลาดับการใช้ การพจิ ารณาทช่ี ัดเจน 8.4 การดาเนินชีวิต ความรู้ความเข้าใจ และความรับผิดชอบของผู้ขอรับอุปการะควรเป็น สว่ นสาคัญในแบบสอบถาม 8.5 มีการปรับปรุงเทคนิคการสรรหาและประชาสัมพันธ์หาบ้านที่เหมาะสมให้มี ประสิทธภิ าพตามวัตถปุ ระสงค์อยเู่ สมอ 9. กจิ วตั รประจา ภาระหนา้ ทปี่ ระจา อาทิ การให้อาหาร ทาความสะอาด และบันทกึ ข้อมูล ควรกระทาอย่าง เป็นกิจวัตรตามระยะเวลาและลาดบั ที่กาหนด โดยบุคลากรประจาทไี่ ด้รบั มอบหมาย 9.1 ตรวจสภาพคอก กรง และตัวสตั ว์ 9.2 ตรวจอุณหภูมแิ ละการถ่ายเทอากาศ

55 9.3 ฆ่าเชอื้ ทาความสะอาดคอก กรง และอาคาร 9.4 ฆ่าเช้อื ทาความสะอาดวัสดอุ ปุ กรณ์สาหรบั สัตว์ 9.5 จัดเตรยี มและให้อาหารสตั ว์ 9.6 ใหส้ ัตว์ออกกาลังกายและทาความสะอาดตวั สตั ว์ 9.7 เตรยี มความพรอ้ มสาหรับผทู้ ่ีมาเยยี่ มสถานที่ 9.8 เวลาพักของพนกั งานและอาสาสมัคร 9.9 เวลานาสัตว์เขา้ นอนต้องตรวจสภาพคอก กรง และอุณหภูมอิ กี คร้งั 10. การใหอ้ าหารสตั ว์ ไม่ควรใช้เวลาในการเตรียมอาหารนานเกินไป ควรใช้เวลาในการเอาใจใส่สัตว์ให้มาก จะดีกว่า อาหารกระป๋องและอาหารแห้งต่างก็มีสารอาหารเพียงพอ แต่อาหารแห้งมีส่วนช่วยบารุงฟันและ และช่วยให้ขับถ่ายแห้ง ซ่ึงสะดวกและประหยัดเวลา ในการทาความสะอาด ไม่ควรให้อาหารเหลือแก่สัตว์ ในสถานสงเคราะห์ เพราะอาจมีผลต่อสุขภาพ ทั้งนี้ ควรกาหนดตารางเวลาการให้อาหารอย่างเคร่งครัด เป็นลายลักษณ์อักษร โดยอาจมีกระดานไวท์บอร์ด ไว้เพ่ือเป็นข้อมูลและไม่ควรเปลี่ยนแปลงตารางเวลาหรือ ผลิตภัณฑ์อาหาร ซ่ึงจะมีผลต่อสุขภาพและความเคยชินของสัตว์ ในการนี้ คุณภาพอาหารควรมาก่อนราคา อาหารเพอ่ื ใหแ้ นใ่ จว่า ไดร้ บั สารอาหารครบถ้วน มีน้าสะอาดตลอดเวลา ไม่ให้สัตว์ออกกาลังทันทีหลังอาหาร ไม่เปลี่ยนตารางอาหารกะทันหัน และไม่ให้อาหารมากเกินไป (การให้อาหารแช่แข็งในฤดูร้อนที่หลายแห่ง นยิ มกระทาไมค่ วรใช้กบั อาหารหลกั ของสัตว์) 11. สุขอนามัย การรักษาความสะอาดเป็นประจาและเป็นระบบเป็นปัจจัยสาคัญในการปูองกันการ เกดิ เชื้อ และแพร่ระบาดของโรค จงึ ควรทาเป็นกิจวัตรประจาวนั ประจาสปั ดาห์ และประจาเดอื น 11.1 ทาความสะอาดกรงและพ้ืนคอกทุกวัน โดยนาสัตว์และวัสดุเครื่องใช้ท่ีเคล่ือนย้ายได้ ออกจากกรงขณะทาความสะอาด หากไม่สะดวกพ้ืนผนังห้องหรือเรือนพักสัตว์ อาจทาวันเว้นวันหรือ ทุกสาม – สี่วันก็ได้ ขึ้นอยู่กบั การใช้แต่ควรเปน็ แบบแผนไมใ่ ช่ทาเฉพาะที่คดิ วา่ ว่าง

56 11.2 ภาชนะสาหรบั สตั ว์กค็ วรเป็นวสั ดุท่ีทนทานและรกั ษาความสะอาดง่าย ต้องฆ่าเชื้อทา ความสะอาดทุกวนั มีการปูองกนั หนู แมลงสาป 11.3 มีมาตรการปูองกันโรคและสังเกตอาการของสัตว์และตัวสัตว์ หากพบความผิดปกติ ต้องแยกออกมารกั ษา และรบั ทราบข่าวสารเก่ียวกบั การปอู งกนั หรอื ระบาดของโรคจากทางราชการดว้ ย 12. ฐานขอ้ มลู ขอ้ มูลประวตั ิสตั ว์และการดาเนินงานของสถานสงเคราะหไ์ มเ่ พียงมีผลต่อศักยภาพ การจัดหาทุน ยังหลีกเลี่ยงปัญหาด้านกฎหมายท่ีเก่ียวข้องด้วย ซ่ึงเป็นการบันทึกและเก็บรักษาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แบบฟอร์ม แบบสอบถาม ประชาสัมพันธ์ อุปนิสัยสัตว์ เอกสารเฉพาะผู้เก่ียวข้อง (ประวัติผู้ขอรับ อุปการะและเจ้าของเกา่ ) เอกสารการเงินและฝุายบคุ คล เป็นตน้ 13. บคุ ลากร พนักงานและอาสาสมัครมีบทบาทสาคัญท้ังในด้านสวัสดิภาพสัตว์ ประชาสัมพันธ์และ การจัดหาทุน การฝึกอบรมและจัดสรรหน้าที่อาสาสมัครควรมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับพนักงานประจา โดยอาจแยกเป็นแบบประจาและรายวัน ข้ึนอยู่กับความจาเป็นของงานและเง่ือนไขเวลา พนักงานและ อาสาสมัครท่ีต้องสัมผัสหรือใกล้ชิดกับสัตว์ ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ท้ังสองฝุายต้องมีความ กลมเกลยี วกันมิเชน่ นนั้ อาจมีผลเสยี ต่อภาพลักษณ์และสวสั ดิภาพสตั ว์ 13.1 จัดทาเอกสารหนา้ ทสี่ าหรบั พนกั งานและอาสาสมัครแต่ละตาแหนง่ ให้ชดั เจน 13.2 กาหนดคุณสมบัติที่ต้องการในแต่ละหนา้ ที่ให้สอดคล้องกับทักษะและบุคลิกของผูส้ มัคร 13.3 ทาการสัมภาษณเ์ พอื่ ใหผ้ ูส้ มัครแต่ละคนได้แสดงออกถงึ บคุ ลิก แรงจูงใจ และความคาดหวัง 13.4 ชแ้ี จงมาตรการปูองกนั และความเสี่ยงที่ผู้สมัครพึงทราบ อาทิ ปัญหาพฤติกรรมสัตว์ สภาพการทางาน สุขอนามัย และการปูองกันโรค บางหน้าท่ีอาจจาเป็นต้องให้อาสาสมัครรับการฉีดวัคซีน ปูองกนั โรคพษิ สุนัขบ้า

57 เทศบาลเมอื งหัวหิน โดยมลู นธิ ศิ ูนยร์ กั ษส์ นุ ขั หวั หนิ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 1. การดาเนินการ มูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งอยู่ ณ เลขท่ี 38/99 หมู่บ้านเขาน้อย ตาบล หัวหิน อาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยในปี พ.ศ. 2546 ศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินเกิดข้ึน ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ต้องการให้ ศนู ย์รกั ษ์สุนัขหวั หิน เป็นแหล่งพักพิงของสุนัขจรจัดและสุนัขที่เจ้าของทอดทิ้ง อีกทั้งเป็นโครงการต้นแบบตัวอย่าง ของท้องถิ่นอ่ืน ๆ (Pilot Project) ในการดูแลบริหารจัดการสุนัขเร่ร่อนอย่างมีระบบและครบวงจร ดูแลให้ สนุ ขั จรจัดเหลา่ น้นั มีคณุ ภาพชวี ิตทด่ี ขี ้ึน ด้วยทุนทรัพย์พระราชทานตั้งต้นจานวน 5,000,000 บาท จากการจาหน่ายเส้ือคุณทองแดง แบ่งเป็นทุนในการดาเนินการก่อสร้างอาคารสถานท่ีของศูนย์ฯ จานวน 4,000,000 บาท โดยมอบหมาย ให้สานักงานชลประทานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกองพลท่ี 1 รักษาพระองค์ (กองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นผู้ดาเนินการก่อสร้าง ส่วนอีก 1,000,000 บาท เป็นทุนในการจัดต้ังมูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัข หัวหนิ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ โดยเทศบาลไดย้ ืน่ ขอจดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิฯ เมื่อวันท่ี 30 สิงหาคม 2546 มีนายดิสธร วชั โรทัย รองเลขาธกิ ารพระราชวงั เป็นประธานกรรมการมลู นิธฯิ และมอบให้เทศบาลเมืองหัวหิน เปน็ ผูร้ บั ผิดชอบดาเนนิ งานโครงการ บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ของศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน ได้รับการสนับสนุนจากวัดเขาอิติสุคโต ใช้เป็น สถานท่ีในการกอ่ สร้างอาคารสานักงาน บา้ นพัก และโรงเรอื นสุนขั เทศบาลเมืองหัวหินสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้แก่ ไฟฟูา โทรศัพท์ อุปกรณ์ทางการสัตวแพทย์ และบุคลากรเจ้าหน้าที่ประจาศูนย์ฯ โดยเทศบาลเมืองหัวหิน ได้บรรจุเจ้าหน้าท่ีในกองสาธารณสุขทาหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการดาเนินงานในศูนย์รักษ์สุนัข บริหารจัดการ งบประมาณโดยจัดสรรงบอดุ หนนุ ให้แกม่ ูลนิธิและดาเนินการตามระเบยี บในการเบิกจ่ายงบประมาณ

58 ขอ้ เทจ็ จรงิ และสภาพปญั หา มูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน เกิดข้ึนด้วยน้าพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท่ีทรงห่วงใยสุนัขจรจัด สัตว์เลี้ยงท่ีถูกทอดท้ิงครั้งเสด็จแปรพระราชฐานประทับ ณ วังไกลกังวล เม่ือปี พ.ศ. 2546 ทรงตระหนักถึง ปัญหาของสุนัขจรจัดและสุนัขเร่ร่อนในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเท่ียวในเขตเทศบาล เมอื ง ด้วยปริมาณของสนุ ขั จรจัดทม่ี ีอย่เู ปน็ จานวนมากตามชายหาด ชุมชนยา่ นการคา้ และสถานท่ีท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งนับวันมีแต่จะเพิ่มปริมาณมากข้ึน หากไม่ได้รับการแก้ไขควบคุมบริหารจัดการอย่างถูกวิธี ก็จะเป็นเหตุให้เกิด โรคพษิ สุนัขบา้ ตดิ ต่อมาสูม่ นุษย์ได้ ซง่ึ นบั เป็นการสูญเสียท่ีประมาณค่ามิได้หากเกิดขึ้น การดาเนนิ การจดั การปัญหา มูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินมีข้ันตอนการดาเนินงาน โดยเริ่มจากประชาชนเขียนใบคาร้อง จากนั้น เจ้าหน้าท่ีเทศบาลฯ จะออกจับสุนัข นาเข้าศูนย์รักษ์สุนัขเพื่อทาประวัติและคัดกรอง โดยแยกเพศเพื่อทาหมัน และแยกอาการเพื่อทาการรักษาหากพบว่า เจ็บปุวยเม่ือเข้าสู่โซนแรกรับ จะมีการกักดูอาการ 14 วัน แล้วจึง นาเข้าสู่โซนเลี้ยง แล้วจึงคัดเลือกสุนัขดี เพ่ือเข้าสู่โครงการสุนัขให้เลือด กรณีสุนัขน้ันสามารถให้เลือดได้ ก็จะถูก ส่งเข้าโซนให้เลือดหรือนาเข้าสู่โซนสุนัขหาบ้านใหม่ หรือหากสุนัขตาย จะนาไปเข้าเตาเผาสุนัขและสัตว์เล้ียง ไร้มลพษิ 2. ปัจจบุ นั ศนู ย์รักษ์สนุ ัขหัวหินมีการดาเนินต่าง ๆ ดังน้ี 2.1 กิจกรรมธาราบาบัด (มปี ระชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาตเิ ขา้ ใชบ้ ริการ) 2.2 ธนาคารเลือด (Blood Bank) ธนาคารเลือด เป็นการคัดเลือกสุนัขจรจัดที่มีคุณลักษณะดีและแข็งแรงนามาแยกเล้ียงและ นาเลือดไปตรวจสอบตามกระบวนการทางงานสัตวแพทย์ เมื่อผ่านการตรวจแล้วก็นาเลือดไปใช้ช่วยเหลือสุนัข ที่บาดเจ็บตัวอ่ืนได้ ส่วนตัวท่ีไม่ผ่านกระบวนการก็นากลับมาเลี้ยงและให้ยาหรือวิตามินตามแพทย์ส่ัง เพื่อนากลับไปตรวจเช็คครั้งต่อไป นับว่าเป็นสิ่งท่ีสุนัขจรจัดมีประโยชน์ช่วยเหลือเพ่ือนสุนัขด้วยกันเอง เรียกว่า โครงการ “สนุ ัขชว่ ยสนุ ขั ”

59 3. โครงการเตาเผาสนุ ัขและสตั วเ์ ลี้ยงไร้มลพิษ โครงการเตาเผาสุนัขและสัตว์เล้ียงไร้มลพิษ เป็นโครงการท่ีจะแก้ไขปัญหาการกาจัดซากสัตว์เล้ียง ของสุนัขในศูนย์และสุนัขของประชาชน เพราะเป็นกระบวนการจัดการซากของสัตว์เล้ียงที่ช่วยรักษา ส่ิงแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ท่ีเรียกว่า “เตาเผาไร้มลพิษ ไร้กลิ่น ไร้ควัน” ซ่ึงเป็นเตาเผาที่ได้รับ มาตรฐานและผ่านการตรวจสอบ ผลการดาเนินการในเบื้องต้น 1. ปัจจุบันมีสุนัขในความรับผิดชอบเป็นจานวน 1,280 ตัว จากแหล่งต่าง ๆ ในพื้นท่ีอาเภอหัวหิน พ้นื ทรี่ องรบั ได้ 812 ตัว 2. ไดด้ าเนนิ การทาหมนั และรณรงค์เร่ืองการเลยี้ งอย่างมีความรับผิดชอบ 3. มสี นุ ขั ท่ีสามารถเป็นสนุ ัขให้เลือดได้ จานวน 30 ตัว

60 กฎหมาย รายละเอียด 1. อานาจหนา้ ท่ี 1.1 พระราชบัญญัตจิ ัดตง้ั (1) พระราชบัญญัติสภาตาบลและ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีอานาจและหน้าที่ในการ องค์การบริหารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 และแก้ไข ปูองกันและระงับโรคติดต่อ เพิ่มเตมิ มาตรา 67 (3) (2) พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 50 (4) มาตรา 53 (1) มาตรา 56 (1) และ (3) (3) พระราชบัญญตั ิองค์การบริหารส่วน จังหวัด พ.ศ. 2540 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับกฎกระทรวง พ.ศ. 2541 (14) ใน มาตรา 48 (8) (4) พระราชบัญญัติระเบียบบริหาร การปูองกันและควบคุมโร คพิษสุนัขบ้าให้แก่ ราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 และแก้ไข เจ้าพนักงานท้องถิ่น สัตวแพทย์ขององค์กรปกครอง เพมิ่ เติม มาตรา 62 (14) แหง่ ส่วนท้องถิ่น และราชการส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในการ 1.2 พระราชบญั ญตั โิ รคพษิ สุนัขบา้ ดาเนินการตามพระราชบัญญตั ิดงั กล่าวไว้ พ.ศ. 2535 กฎ ห มาย จัดต้ั งอง ค์ก รปก ครอ งส่ว นท้อ งถ่ิ น 1.3 บันทึกสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลายฉบับได้กาหนดอานาจหน้าที่ขององค์กรปกครอง เรอ่ื ง ภารกิจอานาจหน้าทข่ี ององค์กรปกครองส่วน ส่วนท้องถิ่น ในการปูองกันและระงับโรคติดต่อ ท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า หรืออานาจหน้าท่ีในด้านการสาธารณสุขไว้ อีกทั้ง พ.ศ. 2535 (เรื่องเสรจ็ ที่ 442/2559) บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 ได้กาหนดหน้าท่ีเก่ียวกับการปูองกันและควบคุมโรค

61 กฎหมาย รายละเอยี ด พิษสุนัขบ้าให้แก่เจ้าพนักงานท้องถิ่น สัตวแพทย์ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และราชการส่วนท้องถิ่น ท่ีเก่ียวข้องดาเนินการหลายประการ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน จึงมีอานาจหน้าที่ตามท่ีกฎหมายกาหนด ในการปูองกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ซ่ึงเป็น โรคตดิ ตอ่ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคตดิ ต่ออีกด้วย 2. สัตวค์ วบคุม 2.1 พระราชบญั ญัติโรคพิษสนุ ัขบ้า พ.ศ. ให้สุนัขหรือสัตว์อื่นท่ีกาหนดในกฎกระทรวงเป็นสัตว์ 2535 ควบคุมตามมาตรา 4 2.2 กฎกระทรวงกาหนดสัตว์ควบคุมและ ใหแ้ มวเป็นสัตว์ควบคมุ ตามมาตรา 4 ระยะเวลาการฉดี วัคซนี พ.ศ. 2560 เจ้าของสุนัขต้องจัดการให้สุนัขได้รับการฉีดวัคซีน 3. การฉดี วคั ซีนปอ้ งกันโรคพิษสุนัขบา้ คร้ังแรก เมื่ออายุ 2 – 4 เดือน และคร้ังต่อไปตามที่กาหนด 3.1 พระราชบัญญัติโรคพิษสนุ ขั บ้า พ.ศ. 2535 ในใบรบั รองการฉดี วัคซีน (มาตรา 5) - กรณีที่สัตวแพทย์หรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นหนังสือ จากสัตวแพทย์เป็นผู้ฉีดวัคซีน เจ้าของสัตว์ต้องเสีย ค่าธรรมเนียม ตามอัตราที่กาหนดในกฎกระทรวง ฉบับท่ี 2 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 สาหรบั อตั ราคา่ ธรรมเนียม มีดงั นี้ - การฉีดวัคซีน ตวั ละ 17 บาท - เคร่ืองหมายประจาตัวสตั วต์ ามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 อันละ 2 บาท - ใบรับรองการฉีดวัคซีนตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 ฉบบั ละ 1 บาท เม่ือสัตว์ได้รับการฉีดวคั ซนี แล้ว ต้องติดเคร่ืองหมาย ประจาตวั สตั ว์ท่ีตัวสัตว์ใหเ้ ห็นชดั เจน (มาตรา 6) - กรณีท่ีเจ้าของสุนัขแจ้งให้สัตวแพทย์หรือผู้ได้รับ มอบหมายเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ไปทาการฉีดวัคซีน ให้แก่สุนัข ณ สถานท่ีของเจ้าของสุนัข เจ้าของต้องเสีย คา่ ใชจ้ า่ ยตามประกาศกาหนด

62 กฎหมาย รายละเอียด 3.2 ประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง กาหนดเขต ให้เขตท้องท่ีทุกจังหวัดและเขตท้องท่ีกรุงเทพมหานคร ท้องท่ีทาการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพิษสุนัขบ้า เป็นเขตท้องที่ทาการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่ ให้แก่สัตว์ควบคุมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม สัตว์ควบคุม โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมตามอัตราตามที่ ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 กฎหมายกาหนด ต้ังแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 ถึงวันท่ี 30 มิถุนายน 2562 โดยยกเลิกประกาศกรมปศุสัตว์ เร่ือง กาหนด เขตท้องท่ีทาการฉีดวัคซีนปูองกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สัตว์ ควบคมุ โดยไม่เสียคา่ ธรรมเนียม ลงวันท่ี 1 มนี าคม 2560 3.3 คาสั่งกรมปศุสัตว์ ที่ 128/2562 ลงวันที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรม 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เรื่องมอบอานาจให้ ปศุสัตว์ ในการออกประกาศตามมาตรา 17 แห่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศตามมาตรา 17 พระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 และเม่ือผู้รับ แห่งพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 มอบอานาจดาเนินการแล้ว ให้แจ้งกรมปศุสตั วท์ ราบด้วย แทนอธบิ ดีกรมปศุสัตว์ ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติราชการแทน 3.4 คาส่ังกรมปศุสัตว์ ที่ 129/2562 อธิบดีกรมปศุสัตว์ ในการออกประกาศตามมาตรา 17 แห่ง ลงวันท่ี 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เรื่องมอบ พระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 และเม่ือผู้รับมอบ อานาจให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออก อานาจดาเนินการแลว้ ให้แจ้งกรมปศสุ ตั ว์ทราบด้วย ประกาศตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติ โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 แทนอธิบดี กรมปศุสัตว์ 4. การจับสัตว์ 4.1 พระราชบัญญตั โิ รคพษิ สนุ ัขบา้ พ.ศ. 2535 ในที่สาธารณะ ถ้าปรากฏว่าสัตว์สุนัขหรือแมวใด ไม่มีเครื่องหมายประจาตัวสัตว์ตามมาตรา 6 หรือมาตรา 7 หรือมีแต่เป็นเครื่องหมายประจาตัวสัตว์ปลอม ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอานาจจับสัตว์ควบคุมนั้น เพื่อกักขัง ถ้าไม่มีเจ้าของมาขอรับคืนภายในห้าวัน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอานาจ ทาลายสัตว์ควบคุมน้ันได้ตามมาตรา 9

63 กฎหมาย รายละเอยี ด ใหส้ ัตวแพทย์มีอานาจเข้าไปในบ้าน โรงเรือน หรือ สถานท่ี เพ่ือสอบถาม ฉีดวัคซนี นาหัวสตั ว์ท่ีตายแลว้ หรือ มีเหตุสงสัยว่าตายดว้ ยโรคพิษสนุ ัขบ้าไปตรวจชนั สูตร และหรือส่งั ใหเ้ จ้าของสัตวท์ าลายซากสัตวท์ ี่ตายดว้ ยโรคพิษ สุนัขบา้ ดว้ ย วธิ ีฝงั หรือวธิ อี นื่ ใด ตามมาตรา 10 4.2 พระราชบั ญญั ติ โรคระบาดสั ตว์ สัตว์แพทย์มีอานาจเรียกตรวจยานพาหนะหรือเข้าไปใน พ.ศ. 2558 อาคารหรือสถานทีอ่ ื่นใดเพื่อตรวจโรค ตามมาตรา 40 4.3 พระราชบั ญญั ติ การสาธารณสุ ข ท้องถ่ินสามารถกาหนดสว่ นหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของ พ.ศ. 2535 พนื้ ท่ีเป็นเขตควบคุมการเล้ยี งหรือปล่อยสตั ว์อาจกาหนด เป็นเขตห้ามเลี้ยงหรือปล่อยสัตวบ์ างชนิดหรือบางประเภท โดยเดด็ ขาดหรือ ไม่เกินจานวนทก่ี าหนด ตามมาตรา 29 เจ้าพนักงานท้องถ่ินพบสัตว์โดยไม่ปรากฏเจ้าของในท่ี สาธารณะอันเป็นการฝุาฝืนมาตรา 29 เจ้าพนักงานท้องถ่ิน มีอานาจกักสัตว์อย่างน้อย 30 วัน เพ่ือรอผู้มารับ หากไม่มี ผู้มารับเจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถขายทอดตลาดหรือ ทาลายได้ตามสมควร ตามมาตรา 30 5. การข้ึนทะเบียนสุนัขและการเฝ้าระวัง ในกรณีที่สัตวแพทย์เห็นว่า โรคระบาดท่ีตรวจพบ การเคลื่อนย้ายสนุ ัขเข้าออกในพน้ื ท่ี ในท้องที่ที่รับผิดชอบจะระบาดออกไป หรือท้องที่อ่ืน 5.1 พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ที่ติดต่อกับท้องท่ีนั้นจะระบาดเข้ามา และท้องท่ีที่ มาตรา 20 รับผิดชอบน้ัน ยังไม่มีการประกาศให้เป็นเขตโรคระบาด หรือเขตเฝูาระวังโรคระบาดตามมาตรา 21 ให้สัตวแพทย์มี อานาจประกาศกาหนดเขตโรคระบาดช่ัวคราวในท้องท่ีท่ี รับผิดชอบมีรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร จากท่ีท่ีตรวจพบ โรคระบาดน้ัน และให้ระบุชนิดของสัตว์และโรคระบาด รวมท้ังสตั ว์และซากสตั ว์ทีห่ ้ามเคลอื่ นยา้ ยไว้ในประกาศดว้ ย

64 กฎหมาย รายละเอยี ด ประกาศตามวรรคหนึ่ ง ให้ ใช้ บั งคั บได้ 30 วั น นับแต่วันประกาศและให้ปิดไว้ ณ สานักงานเขต ที่ว่าการ อาเภอ ที่ทาการองค์การบริหารส่วนตาบล สานักงาน เทศบาล ท่ีทาการกานัน ท่ีทาการผู้ใหญ่บ้าน และท่ีชุมชน ภายในทอ้ งทีน่ ั้น 5.2 พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ท้องถ่ินสามารถกาหนดส่วนหน่ึงส่วนใดหรือท้ังหมด มาตรา 29 ข อ ง พ้ื น ที่ เ ป็ น เ ข ต ค ว บ คุ ม ก า ร เ ลี้ ย ง ห รื อ ป ล่ อ ย สั ต ว์ อาจกาหนดเป็นเขตห้ามเล้ียงหรือปล่อยสัตว์บางชนิดหรือ บางประเภท โดยเด็ดขาดหรือไม่เกินจานวนทกี่ าหนด เนื่องจากในการข้ึนทะเบียนสุนัขและแมวจะเป็นวิธีการ ท่ีกาหนดจานวนสุนัขที่ดีท่ีสุด เพราะสามารถดาเนินการ เฝูาระวังการเคล่ือนย้ายสุนัขเข้าออกในพ้ืนท่ีได้ โดยมี ขน้ั ตอนการดาเนินการ ดงั น้ี (1) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินออกข้อบัญญัติท้องถ่ิน เก่ียวกับการเลี้ยงหรือการปล่อยสัตว์ท่ีมีการบรรจุเรื่อง การข้นึ /จดทะเบียนสุนัข (2) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกระเบียบ ข้อบังคับ คาส่ัง หรือประกาศ เร่ืองวิธีและข้ันตอนขึ้น/จดทะเบียน โดยอาศัยอานาจตามข้อบัญญัติท้องถ่ินเกี่ยวกับการเล้ียง หรือการปลอ่ ยสัตว์ 6. การจัดสวัสดิภาพสัตว์ นิยาม พระราชบัญญัตปิ ูองกันการทารุณกรรมและ “การจัดสวัสดิภาพสัตว์” หมายความว่า การเล้ียงหรือ การจัดสวัสดภิ าพสัตว์ พ.ศ. 2557 การดูแลให้สัตว์มีความเป็นอยู่ในสภาวะท่ีเหมาะสม มี สขุ ภาพอนามัยทด่ี ี มีที่อยู่ อาหาร และนา้ อย่างเพียงพอ “เจ้าของสัตว์” หมายความว่า เจ้าของกรรมสิทธ์ิ และ ให้หมายความรวมถึงผู้ครอบครองสัตว์หรือผู้ซ่ึงได้รับ มอบหมายให้ดูแล ไม่ว่าจะได้รับมอบหมายจากเจ้าของ กรรมสิทธิ์ หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าของกรรมสิทธ์ิ ใหด้ แู ลด้วย

65 กฎหมาย รายละเอยี ด “สถานสงเคราะห์สัตว์” หมายความว่า สถานท่ีสาหรับใช้ 7. การขน้ึ ทะเบียนสถานสงเคราะหส์ ัตว์ เล้ียงสัตว์ หรือสถานท่ีสาหรับใช้ในการให้ความช่วยเหลือ พระราชบัญญัติปูองกันการทารุณกรรมและ หรืออภบิ าลสัตว์ทถ่ี ูกทอดทงิ้ สตั ว์ทไี่ มม่ เี จ้าของ หรือสัตว์ ทีถ่ กู กระทาการทารณุ กรรม การจัดสวสั ดภิ าพสตั ว์ พ.ศ. 2557 ผู้ซ่ึงจัดตั้งสถานสงเคราะห์สัตว์ท่ีดาเนินกิจกรรม ในลักษณะที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง หรือ ไม่แสวงหากาไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน มีสิทธิขอขึ้น ท ะ เ บี ย น เป็ น ส ถา น สง เ ครา ะห์ สั ต ว์ ต่ อน าย ท ะเ บี ย น (ผู้ซ่ึงอธิบดีกรมปศุสัตว์แต่งตั้ง ตามประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง แต่งตั้งนายทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปูองกันการ ทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ได้แก่ ปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์กรุงเทพมหานคร) สาหรับ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอข้ึนทะเบียน เปน็ ไปตามประกาศกรมปศสุ ัตว์ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และ เง่ื อนไขในการขึ้ นทะเบี ยน อ ง ค์ ก ร จั ด ส วั ส ดิ ภ า พ สั ต ว์ และสถานสงเคราะห์สัตว์ตามพระราชบัญญัติปูองกัน การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ตามมาตรา 14 และตามมาตรา 15 ผู้ ซ่ึ งจั ดตั้ ง สถานสงเคราะห์สัตว์ที่ได้ข้ึนทะเบียนตามมาตรา 14 แล้ว อาจได้รับการสนับสนุนจากกรมปศุสัตว์หรือหน่วยงานอ่ืน ของรฐั ดงั นี้ (1) ความรู้เกี่ยวกับการปูองกันการทารุณกรรมหรือ การจัดสวัสดิภาพสัตว์ (2) การควบคุมปริมาณสัตว์และการปูองกันโรค ระบาดสัตว์ภายในสถานสงเคราะห์สัตว์ ( 3 ) ก า ร อ่ื น ใ ด ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร ปู อ ง กั น การทารุณกรรมหรือการจัดสวัสดิภาพสัตว์

66 กฎหมาย รายละเอยี ด 8. การจัดสวัสดิภาพสัตว์ การจดั สวัสดภิ าพสัตว์ดาเนินการ ดังน้ี 1. ให้เจ้าของสัตว์ต้องดาเนินการจัดสวัสดิภาพสัตว์ 8.1 พระราชบัญญตั ิปูองกันการทารุณกรรม ใหแ้ ก่สตั วข์ องตนให้เหมาะสมตามประกาศกระทรวงเกษตร และการจัดสวัสดภิ าพสัตว์ พ.ศ. 2557 และสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2561 (มาตรา 22) 2. ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละท้ิง หรือกระทาการ ใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอัน สมควร (มาตรา 23) 3. การขนส่งสัตว์ หรือการนาสัตวไ์ ปใช้งานหรือใช้ในการ แสดง เจ้าของสัตว์หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจัดสวัสดิภาพสัตว์ ให้เหมาะสม ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การจัดสวสั ดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2561 (มาตรา 24) 8.2 ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่ือง สัตว์ท่ีมีเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้เจ้าของหรือ การจัดสวสั ดภิ าพสัตว์ พ.ศ. 2561 ผู้ครอบครองต้องดาเนินการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้แก่สัตว์ ของตนให้เหมาะสม ประกอบด้วย อาหารและน้า สภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม มีสุขภาพอนามัยท่ีดีการ ควบคมุ ปูองกนั โรคและการรักษาเมื่อสัตว์ปุวยหรือบาดเจ็บ ไม่ให้สัตว์เกิดความเครียดหวาดกลัว เจ็บปวดหรือทุกข์ ทรมาน และสัตว์ได้มีการแสดงออก ซึ่งพฤติกรรมตาม ธรรมชาติที่จาเป็นต่อการดาเนินชีวิตและพลานามัยของ สัตว์ (ข้อ 4) 9. ค่าใชจ้ า่ ย (1) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล อาจ 9.1 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย จัดสวัสดภิ าพสตั วไ์ ด้ตามความจาเป็นและเหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิภาพสัตว์ขององค์กร (2) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบลจัดทา ปกครองส่วนท้องถน่ิ พ.ศ. 2562 ท ะ เ บี ย น สั ต ว์ ใ ห้ เ ป็ น ปั จ จุ บั น ต า ม แ บ บ ท่ี กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ กาหนด (3) การกอ่ สรา้ งสถานสงเคราะห์ให้เปน็ ไปตามแบบ รูปรายการก่อสรา้ งที่กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถิ่นกาหนด

67 กฎหมาย รายละเอียด (4) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบลอาจร้องขอให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดดาเนินการจัดสวัสดิภาพสัตว์ แทนได้ (5) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบลสามารถ เบิกจ่ายคา่ ใชจ้ า่ ยในการกักสัตวแ์ ละจดั สวัสดิภาพสัตว์ได้ เช่น ค่าก่อสร้างสถานสงเคราะห์ ค่าอาหาร ค่าทาหมัน คา่ เวชกรรม คา่ ตรวจวินิจฉัย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จาเป็น หรือเกย่ี วเน่อื งกับการจดั สวัสดภิ าพสัตว์ (6) องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถอุดหนุนเงินให้ เทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตาบลในพื้นท่ีของตนได้ เม่ือได้รับการร้องขอจากเทศบาลหรือองค์การบริหาร ส่วนตาบล 9.2 ประกาศกรมปศุสัตว์ เรอื่ ง ลกั ษณะและ กาหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการ ได้แก่ รายละเอียดของรายการอัตราข้ันสูง – ค่าท่ีพักสัตว์ป่วย ค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการ ข้ันต่าของคา่ รักษาพยาบาลและค่าบริการใน สตั วแพทย์และทางพยาธวิ ิทยาลักษณะ ค่าตรวจวินิจฉัยและ สถานพยาบาลสตั ว์ พ.ศ. 2559 รักษาทางรงั สวี ทิ ยา ค่าเวชกรรมป้องกนั และค่าทาหมัน 10. การขายหรือขายทอดตลาดสัตว์ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 กรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบสัตว์ในที่หรือทาง มาตรา 30 สาธารณะอันเป็นการฝุาฝืนมาตรา 29 โดยไม่ปรากฏ เจ้าของให้เจ้าพนักงานท้องถ่ินมีอานาจกักสัตว์เป็นเวลา อย่างน้อยสามสิบวัน เม่ือพ้นกาหนดแล้วยังไม่มีผู้ใดมา แสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของเพ่ือรับสัตว์คืนสัตว์นั้น ตกเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ถ้าการ กักสัตว์ไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่สัตว์นั้นหรือสัตว์อื่น หรือต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินสมควร เจ้าพนักงานท้องถิ่น จะขายหรือขายทอดตลาดสัตว์ก่อนกาหนดเวลาดังกล่าว ได้ เงินท่ีได้จากการขายหรือขายทอดตลาด เม่ือหัก ค่าใช้จ่ายในการขายหรือขายทอดตลาดและค่าเล้ียงดู สตั วแ์ ล้ว ให้เก็บรักษาไว้แทนสัตว์

68 กฎหมาย รายละเอยี ด กรณีที่มิได้มีการขายหรือขายทอดตลาดสัตว์ และ เ จ้ า ข อ ง สั ต ว์ ม า ข อ รั บ สั ต ว์ คื น ภ า ย ใ น ก า ห น ด เ ว ล า (30 วัน) เจ้าของสัตว์ต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายสาหรับ การเล้ียงดูสัตว์ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามจานวนทไ่ี ดจ้ า่ ยจริง กรณที ่ีเจา้ พนกั งานท้องถน่ิ พบสัตว์เป็นโรคติดตอ่ ซ่งึ อาจเปน็ อนั ตรายต่อประชาชน ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน มอี านาจทาลายหรือจดั การตามทเ่ี หน็ สมควรได้ 11. สถานประกอบกิจการท่ีเป็นอนั ตราย 11.1 กฎกระทรวงกาหนดหลักเกณฑ์ วธิ ีการ ข้อ 1 ในกฎกระทรวงน้ี และมาตรการในการควบคุมสถานประกอบกิจการ “สถานประกอบกิจการ” หมายความว่า สถานที่ท่ี ทีเ่ ป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2545 ใช้ในการประกอบกิจการท่ีเป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามความในมาตรา 31 แห่ง พระราชบัญญตั ิการสาธารณสุข ข้อ 2 ผู้ดาเนินกิจการในสถานประกอบกิจการ ประเภทที่ราชการส่วนท้องถ่ินได้ออกข้อกาหนดของ ท้องถิ่นกาหนดให้เป็นกิจการที่ต้องควบคุมและมีผลใช้ บังคับในท้องถิ่นน้ันแล้ว ต้องดาเนินการให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงนี้ สถานประกอบกิจการท่ีต้ังอยู่ในเขตท่ีกฎหมายว่า ด้วยการผังเมืองหรือกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร มผี ลใชบ้ ังคับ หรือสถานประกอบกจิ การใดท่ีเข้าข่ายเป็น โรงงานหรือมีการประกอบกิจการเก่ียวกับวัตถุอันตราย จ ะ ต้ อ ง ป ฏิ บั ติ ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว่ า ด้ ว ย ก า ร นั้ น 11.2 ประกาศกระทรวงสาธารณสุ ข และกฎหมายอ่ืนทเ่ี กีย่ วขอ้ งดว้ ย เรื่อง กจิ การที่เป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพ พ.ศ 2558 กจิ การท่ีเปน็ อันตรายต่อสุขภาพ (ขอ้ 3) 1. กิจการทีเ่ ก่ียวกบั สัตว์เลย้ี ง 2. การเพาะพันธ์ุเล้ียงและการอนบุ าลสัตว์ทุกชนิด

69 กฎหมาย รายละเอยี ด 3. การประกอบกิจการเล้ียง รวบรวมสัตว์ หรือธุรกิจ 12. การป้องกันการทารณุ กรรมสตั ว์ อ่ืนใดอันมีลักษณะทานองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้า พระราชบัญญตั ิปูองกนั การทารุณกรรมและ ชมหรือเพ่ือประโยชน์ของกิจการนั้น ท้ังนี้ ไม่ว่าจะมี การจดั สวสั ดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 การเรยี กเก็บ คา่ ดูหรือคา่ บริการในทางตรงหรือทางอ้อม กต็ าม ห้ามมิให้ผู้ใดกระทาการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร (มาตรา 20) และ การกระทาที่ ไมถ่ ือว่าเปน็ การทารณุ กรรมสตั ว์ มีดังนี้ (มาตรา 21) 1. การฆ่าสัตว์เพ่ือใช้เป็นอาหาร ท้ังน้ี เฉพาะสัตว์เลี้ยง เพือ่ ใช้เปน็ อาหาร 2. การฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการ ฆ่าสตั ว์และจาหนา่ ยเน้อื สตั ว์ 3. การฆ่าสัตว์เพ่ือควบคุมโรคระบาดตามกฎหมาย วา่ ด้วยโรคระบาดสัตว์ 4. การฆ่าสัตว์ในกรณีที่สัตวแพทย์เห็นว่าสัตว์ปุวย พิการ หรือบาดเจ็บและไม่สามารถเยียวยาหรือรักษาให้ มีชีวติ อยรู่ อดได้โดยปราศจากความทุกขท์ รมาน 5. การฆ่าสัตวต์ ามพธิ ีกรรมหรือความเช่ือทางศาสนา 6. การฆ่าสัตว์ในกรณีท่ีมีความจาเป็นเพ่ือปูองกัน อันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์อ่ืน หรือ ปอู งกนั ความเสยี หายทีจ่ ะเกดิ แก่ทรัพยส์ นิ 7. การกระทาใด ๆ ต่อร่างกายสัตว์ ซึ่งเข้าลักษณะ ของการประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ โดยผู้ประกอบ วิชาชีพสัตวแพทย์หรือผู้ซึ่งได้รับยกเว้นให้กระทาได้โดย ไม่ต้องข้ึนทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภาตามกฎหมาย ว่าดว้ ยวิชาชพี การสตั วแพทย์

70 กฎหมาย รายละเอยี ด 8. การตัด หู หาง ขน เขา หรอื งา โดยมีเหตุอันสมควร และไม่เป็นอนั ตรายต่อสตั ว์หรือการดารงชวี ิตของสตั ว์ 9. การจัดให้มีการต่อสู้ของสัตว์ตามประเพณี ทอ้ งถนิ่ 1 0 . การกระท าอ่ื นใดท่ี มี กฎ หมายก าหนด ให้สามารถกระทาไดเ้ ปน็ การเฉพาะ 11. การกระทาอน่ื ใดทร่ี ัฐมนตรปี ระกาศกาหนดโดย 13. การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ ระเบยี บสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรบั ฟงั โครงการของรัฐที่มีผกระทบอย่างกว้างขวางต่อ ความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 คุณภาพส่ิงแวดล้อม สุขภาพอนามัย วิถีชีวิต หรือส่วน ได้เสียเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่น ต้องปฏิบัติตามข้อ 4 โดย มีวธิ ีการรับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชนตามข้อ 9 14. คาพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ก ร ณี ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร อ อ ก ข้ อ บั ญ ญั ติ ท้ อ ง ถ่ิ น คดีหมายเลขดาท่ี อ. 628/2554 เพื่อควบคุมการเล้ียงหรือปล่อยสัตว์ในท่ีสาธารณะ คดีหมายเลขแดงที่ อ.764/2556 กาหนดนยิ าม คาว่า “เจา้ ของสุนัข” หมายความรวมถึง ผู้ครอบครองสุนัขหรือผู้ให้อาหารสุนัขเป็นประจาด้วย เป็นการให้คานิยามความหมายของคาว่า “เจ้าของ สุนัข” ท่ีมีผลทาให้ประชาชนที่เพียงแต่ให้อาหารแก่ สุนัขจ รจัดเ ป็นปร ะจา ด้ว ยค ว ามเ มตตา ต้อง มี ภ า ร ะ ห น้ า ท่ี ใ น ก า ร พ า สุ นั ข จ ร จั ด ไ ป ฝั ง ไ ม โ ค ร ชิ ป และจดทะเบียนสุนัข มิเช่นนั้นอาจทาให้บุคคลนั้น กระทาผิดกฎหมาย ท้ังท่ีหน้าท่ีในการจัดการ ควบคุม ดู แ ล สุ นั ข จ ร จั ด เ ป็ น ห น้ า ที่ ข อ ง ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร กลับผลักภาระดังกล่าวมาให้กับประชาชน การให้ บทนิยามของคาว่า “เจ้าของสุนัข” ที่ให้หมายความ รวมถึง ผู้ให้อาหารสุนัขเป็นประจาด้วย จึงเป็น ข้ อ บั ญ ญั ติ ที่ ส ร้ า ง ข้ั น ต อ น โ ด ย ไ ม่ จ า เ ป็ น ห รื อ ส ร้ า ง ภ า ร ะ ใ ห้ เ กิ ด กั บ ป ร ะ ช า ช น เ กิ น ส ม ค ว ร และไม่ชอบด้วยกฎหมาย

71 กฎหมาย รายละเอยี ด 15. บั น ทึ ก ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร กรณีการจัดการปัญหาสุนัขจรจัดท่ีอาศัยอยู่ใน กฤษฎีกาเรื่องเสร็จท่ี 421/2562 เร่ือง หน้าที่ ท่ีดินของเอกชน เห็นว่า มาตรา 10 และมาตรา 14 และอานาจในการจัดการปัญหาสุนัขจรจัดของ แห่งพระราชบัญญัติโรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 กาหนดให้ กรมปศุสัตว์และ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สัตวแพทย์มีอานาจเข้าไปในบ้าน โรงเรือน หรือสถานที่ กรณเี ทศบาลตาบลเขาน้อย อันเป็นที่ดินของเอกชน เพื่อดาเนินการต่าง ๆ ตามที่ กฎหมายกาหนดกับสุนัขจรจัดได้ ท้ังนี้ เพ่ือปูองกันมิให้ มีการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า หรือได้รับแจ้ง หรือมีเหตุอันสมควรสงสัยว่าสุนัขน้ันมีอาการของ โรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ. 2535 กาหนดคานิยามคาว่า “สัตวแพทย์” หมายความว่า สัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์ หรือของราชการส่วนท้องถ่ิน ดังนั้น สัตวแพทย์ของ ก ร ม ป ศุ สั ต ว์ แ ล ะ ข อ ง อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถ่ิ น ตา่ งมหี นา้ ทแ่ี ละอานาจในการดาเนินการตามมาตรา 10 และมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งหาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบุคลากรในตาแหน่ง สัตวแพทย์ก็สามารถเข้าไปดาเนินการกับสุนัขจรจัด ในท่ดี นิ ของเอกชนได้ แ ต่ ห า ก ไ ม่ มี บุ ค ล า ก ร ใ น ต า แ ห น่ ง สั ต ว แ พ ท ย์ จึงไม่มีอานาจตามบทบัญญัติดังกล่าวในการเข้าไปใน ที่ดินของเอกชนเพ่ือจัดการปัญหา หน้าที่น้ัน จึงเป็น ภาระของสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์ที่จะต้องดาเนินการ ตามหน้าท่ีและอานาจของตนต่อไป เม่ือเทศบาลตาบล เ ข า น้ อ ย แ จ้ ง ไ ป ยั ง ส า นั ก ง า น ป ศุ สั ต ว์ จั ง ห วั ด ประจวบคีรีขันธ์เพื่อขอให้จัดส่งสัตวแพทย์ไปร่วมกับ เทศบาลตาบลเขาน้อย เพื่อเข้าไปจดั การปัญหาสุนัขจร จัดในท่ีดินเอกชน จึงเป็นหน้าท่ีโดยตรงของสานักงาน ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่จะต้องร่วมมือกับ เทศบาลตาบลเขาน้อย เพ่ือแก้ไขปัญหาให้แก่ราษฎรให้ ลุล่วงไปโดยเร็ว

72

73

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก ตวั อยา่ งเทศบญั ญตั ิ / ขอ้ บัญญตั ิ





-ตัวอย่าง- บนั ทกึ หลักการและเหตผุ ล ประกอบ (รา่ ง) เทศบญั ญัติเทศบาล...... เรอ่ื ง การควบคุมการเลี้ยงหรือปลอ่ ยสนุ ัข และแมว พ.ศ. .... หลกั การ *ใหม้ ีเทศบัญญัติวา่ ด้วยการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสนุ ัข และแมว เหตผุ ล การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข และแมวให้เหมาะสมกับสภาพการของพื้นท่ีในชุมชน จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหตุเดือดร้อนราคาญจากสุนัข และแมวเพ่ือประโยชน์ในการรักษา สภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดารงชีพของประชาชน และสามารถป้องกันอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคระบาดที่เกิดจากสุนัข และแมว สมควรกาหนดเขตควบคุมการเล้ียงหรือปล่อยสุนัข และแมว จึงตราเทศบญั ญตั ิน้ี หมายเหตุ : 1. ให้มี (กรณีออกใหม่ : ไม่มีขอ้ 3) 2. ให้ปรับปรุง โดยใหเ้ พิ่มเตมิ ข้อ 3

( ร่าง ) เทศบญั ญัตเิ ทศบาล…………………….. เรื่อง การควบคุมการเลยี้ งหรือปล่อยสุนขั และแมว พ.ศ. …. โดยทีเ่ ป็นการสมควรให้มีเทศบญั ญัตวิ า่ ด้วยการควบคุมการเลี้ยงหรอื ปล่อยสนุ ัข และแมว อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๖๐ (2) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ ซ่ึง แก้ไขเพ่ิมเติม โดยพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2510 ประกอบมาตรา ๒๙ แห่ง พระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ เทศบาล.......... โดยความเห็นชอบของสภาเทศบาล.......... และ ผวู้ า่ ราชการจังหวัด................... จึงตราเทศบัญญัตไิ ว้ ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ เทศบัญญัตินี้เรียกว่า “เทศบัญญัติเทศบาล…..……. เร่ือง การควบคุมการเลี้ยงหรือ ปลอ่ ยสุนขั และแมว พ.ศ. ….” ข้อ ๒ เทศบัญญตั ิน้ีให้ใชบ้ งั คับในเขตเทศบาล.......... ต้ังแต่เม่ือได้ประกาศไว้โดยเปิดเผย ณ สานกั งานเทศบาล.......... แลว้ เจด็ วนั ข้อ 3 ในกรณีท่ีมีเทศบัญญัติอื่นที่ขัดหรือแย้งกับเทศบัญญัติฉบับน้ี ให้ใช้เทศบัญญัติฉบับน้ี แทน ข้อ 4 ในเทศบญั ญตั นิ ้ี “การเลี้ยงสุนัข และแมว” หมายความว่า กรรมวิธีหรือวิธีการท่ีจะดูแลสุนัข และแมว ให้ เจริญเตบิ โตและมีชวี ติ อยู่ไดใ้ นสถานทีเ่ ลีย้ งสัตว์ “การปลอ่ ยสนุ ขั และแมว” หมายความว่า การเลี้ยงสุนัข และแมวในลักษณะท่ีมีการปล่อย ใหอ้ ยู่นอกสถานท่เี ลีย้ งสตั ว์ รวมท้ังการสละการครอบครองสนุ ขั และแมว “สถานที่เล้ียงสัตว์” หมายความว่า คอกสัตว์ กรงสัตว์ ท่ีขังสัตว์ หรือสถานที่ในลักษณะอื่น ท่ีใช้ในการควบคุมสัตว์ที่เลี้ยง ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงแนวอาณาเขตท่ีดิน ซ่ึงใช้ประกอบการเล้ียงสัตว์ที่มี พืน้ ที่ตดิ กนั เปน็ พื้นท่ีเดียว “เจ้าของสุนัข และแมว” หมายความว่า เจา้ ของกรรมสิทธ์ิ ผู้ครอบครองสุนัข และแมวท้ังน้ี ให้หมายความรวมถงึ ผเู้ ล้ียง ผ้ใู ห้ท่อี ยอู่ าศยั และผูค้ วบคุมสนุ ัข และแมวด้วย “ราชการส่วนท้องถน่ิ ” หมายความวา่ เทศบาล.......... “เจา้ พนกั งานท้องถนิ่ ” หมายความวา่ นายกเทศมนตร.ี ......... ข้อ 5 ใหน้ ายกเทศมนตร.ี .......... เปน็ ผู้รักษาการใหเ้ ป็นไปตามเทศบญั ญตั นิ ี้

ข้อ 6 เพ่ือประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ท่ีเหมาะสมกับการดารงชีพของ ประชาชนในท้องถ่ินหรือเพ่ือป้องกันอันตรายจากเชื้อโรคท่ีเกิดจากสุนัข และแมว ให้พ้ืนที่ในเขตอานาจของ เทศบาล.....................................ดงั ต่อไปน้ี เป็นเขตควบคมุ การเลี้ยงหรอื ปล่อยสนุ ัข และแมว 6.๑ ให้พ้นื ท่ตี ่อไปน้ีเป็นเขตหา้ มเลย้ี งหรอื ปลอ่ ยสุนัข และแมวโดยเด็ดขาด ดงั นี้ 6.1.1 …………..(ระบขุ อบเขตของพื้นท)่ี ................ 6.1.2 ……….ฯลฯ 6.๒ ใหพ้ ื้นท่ตี ่อไปนีเ้ ปน็ เขตหา้ มเล้ียงหรอื ปล่อยสุนขั และแมวเกินจานวนท่ีกาหนด 6.2.1 …..(ระบุขอบเขตของพ้ืนที่)...... เป็นเขตห้ามเล้ียงหรือปล่อยสุนัขเกิน จานวน ............ ตัว ต่อ......(ระบุจานวนครวั เรอื น,จานวนต่อครวั เรือน,จานวนขนาดของพนื้ ท่)ี ........ 6.2.2 ...(ระบุขอบเขตของพื้นที่)... เป็นเขตห้ามเลี้ยงหรือปล่อยแมวเกิน จานวน ............ ตัว ตอ่ .........(ระบจุ านวนครัวเรอื น,จานวนต่อครัวเรือน,จานวนขนาดของพ้นื ท)ี่ ........ กรณที ีต่ อ้ งการเล้ียงเกินกวา่ จานวนท่ีกาหนด ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากเจ้าพนกั งานท้องถ่นิ 6.๓ การเลีย้ งหรือปล่อยสุนัข และแมวต้องดาเนินการ ดังนี้ 6.3.1 การขึน้ ทะเบียนสนุ ขั และแมว (1) ให้เจ้าของสุนัข และแมวดาเนินการข้ึนทะเบียนสุนัข และแมวทุกตัว ที่อยู่ในครอบครองต่อเทศบาล.......... และรับบัตรประจาตัวสุนัข และแมว หรือสัญลักษณ์ หรือวิธีการอื่นใด ตามแบบที่เทศบาล.................. กาหนด (2) หากเจ้าของสุนัข และแมวต้องการมอบสุนัข และแมว หรือ เปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของให้แก่บุคคลอ่ืน ต้องแจ้งต่อเทศบาล................. ภายใน .............. วัน นับแต่ วันท่ีมอบสุนัข และแมว หรือมีการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของ เพ่ือดาเนินการแก้ไขบัตรประจาตัวสุนัข และแมว หรอื สัญลกั ษณ์ หรอื วธิ ีการกาหนดระบตุ วั ตนของสุนัข และแมวอ่ืนใด (3) ในกรณีท่ีมีสนุ ขั และแมวเกดิ ใหม่ ให้เจ้าของสุนัข และแมวดาเนินการ ข้นึ ทะเบียนภายใน ..... วัน และต้องจัดการใหส้ นุ ขั และแมวน้นั ไดร้ ับการฉดี วัคซนี โรคพษิ สนุ ัขบ้า (4) กรณีท่ีเจ้าของนาสุนัข และแมวท่ีอยู่ในครอบครองย้ายออกนอกเขต เทศบาล..............โดยถาวร หรอื สุนัข และแมวท่ีอยู่ในครอบครองตาย เจ้าของสุนัข และแมว ต้องดาเนินการ แจ้งให้เทศบาล..........ทราบภายใน ..... วัน นับแต่มีการย้ายสุนัข และแมว ออกนอกเขตเทศบาลโดยถาวร หรอื วันทีส่ นุ ขั และแมวตาย 6.๓.๒ การปอ้ งกนั และควบคมุ โรคพษิ สุนัขบา้ (๑) เจ้าของสุนัข และแมว ต้องจัดการให้สุนัข และแมวทุกตัวได้รับการ ฉีดวัคซนี จากสัตวแพทย์ หรือผู้ไดร้ บั มอบหมายเปน็ หนงั สือจากสัตวแพทย์ หรือผู้ประกอบการบาบัดโรคสตั ว์

โดยการฉีดวัคซีนคร้ังแรกต้องดาเนินการเม่ือสุนัข และแมวนั้นมีอายุต้ังแต่สองเดือนขึ้นไป แต่ไม่เกินส่ีเดือน และต้องจดั การให้ได้รบั การฉดี วคั ซีนครั้งตอ่ ไป ตามระยะเวลาที่กาหนดในใบรับรองการฉีดวคั ซีน (๒) หากเจ้าของสุนัข และแมวพบเห็นอาการ หรือสงสัยว่าสุนัข และแมว ในครอบครองมีอาการของโรคพิษสุนัขบ้า ให้กักสุนัข และแมวไว้ และแจ้งต่อเทศบาล................. ภายใน ย่ีสบิ สชี่ ่ัวโมง เพื่อประโยชน์ในการควบคมุ โรค (๓) ในกรณีท่ีเกิดการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นท่ีตามประกาศ เขตกาหนดโรคระบาดช่ัวคราว ให้เจ้าของสุนัข และแมวทาการควบคุมสุนัข และแมวไว้ ณ สถานท่ีเลี้ยง จนกวา่ จะสิ้นระยะเวลาตามประกาศ 6.3.๓ การควบคมุ ด้านสขุ ลกั ษณะ (1) เจ้าของสุนัข และแมวต้องจัดสถานที่เล้ียงสุนัข และแมวให้เหมาะสมและดูแล สถานท่เี ลย้ี งให้สะอาดถูกสขุ ลกั ษณะอย่เู สมอ (2) เจ้าของสุนัข และแมว ต้องควบคุมดูแลสุนัข และแมว มิให้ก่อเหตุเดือดร้อน ราคาญหรอื เป็นอนั ตรายตอ่ ผอู้ ยูอ่ าศยั ใกล้เคยี ง 6.3.๔ การควบคมุ เมอ่ื นาสุนขั และแมวออกนอกสถานทเี่ ลยี้ งสัตว์ (1) เพือ่ ประโยชน์ในการตรวจสอบของเจา้ พนักงานตามกฎหมายว่าดว้ ย การสาธารณสขุ ให้เจ้าของสุนัข และแมวพกบัตร หรอื ตดิ เคร่ืองหมายประจาตัวสุนัข และแมว และต้องมีการ ควบคุมดูแลมใิ หก้ ่อเหตุเดอื ดรอ้ นราคาญหรอื เป็นอันตรายต่อบุคคลอ่นื (2) เจา้ ของสุนขั และแมว ตอ้ งจัดการมูลสัตวห์ รอื ของเสียอันเกิดจากสุนัขและแมว ในสถานท่หี รือทางสาธารณะ หรือสถานที่อ่ืนใดให้ถกู สุขลักษณะโดยทันที ข้อ 7 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเทศบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการ สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และท่แี กไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประกาศ ณ วันที่………………........... (ลงช่อื ) ……….……………………… (…………………….….......) นายกเทศมนตรี………......…………. เห็นชอบ (ลงช่ือ) ………………………………… (…......………………………) ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ………………..

-ตวั อย่าง- บนั ทึกหลักการและเหตผุ ล ประกอบ (รา่ ง) ขอ้ บัญญัติองคก์ ารบริหารส่วนตาบล...... เร่ือง การควบคมุ การเลย้ี งหรือปลอ่ ยสุนขั และแมว พ.ศ. .... หลกั การ ให้มขี ้อบัญญตั ิว่าดว้ ยการควบคุมการเลีย้ งหรือปล่อยสนุ ัข และแมว เหตผุ ล การควบคุมการเล้ียงหรือปล่อยสุนัข และแมวให้เหมาะสมกับสภาพการของพ้ืนที่ในชุมชน จะสามารถปอ้ งกนั ไม่ให้เกิดปัญหาเหตุเดือดร้อนราคาญจากสุนัข และแมวเพ่ือประโยชน์ในการรักษา สภาวะ ความเป็นอยู่ท่ีเหมาะสมกบั การดารงชีพของประชาชน และสามารถป้องกันอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคระบาดท่ีเกิดจากสุนัข และแมว สมควรกาหนดเขตควบคุมการเล้ียงหรือปล่อยสุนัข และแมว จึงตรา ขอ้ บญั ญัตนิ ี้

( ร่าง ) ขอ้ บัญญัตอิ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล…………………….. เร่ือง การควบคมุ การเล้ยี งหรือปลอ่ ยสนุ ขั และแมว พ.ศ. …. โดยท่ีเป็นการสมควรใหม้ ีข้อบัญญัติว่าด้วยควบคมุ การเลยี้ งหรือปล่อยสุนัข และแมว อาศยั อานาจตามความในมาตรา 71 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญตั ิสภาตาบลและองค์การ บรหิ ารส่วนตาบล พ.ศ. 2537 ซึ่งแกไ้ ขเพ่มิ เติม โดยพระราชบญั ญตั ิสภาตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบล (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2546 ประกอบมาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ องค์การ บริหารส่วนตาบล.................................... โดยความเห็นชอบของสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล...................... และนายอาเภอ.......................................... จึงตราขอ้ บัญญัติไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ข้อบัญญัตินี้เรียกว่า “องค์การบริหารส่วนตาบล.......... เร่ือง การควบคุมการเลี้ยง หรอื ปล่อยสนุ ขั และแมว พ.ศ. ….” ข้อ ๒ เทศบัญญัติน้ีให้ใช้บังคับในเขตองค์การบริหารส่วนตาบล.................... ตั้งแต่เม่ือได้ ประกาศไว้โดยเปดิ เผย ณ สานกั งานองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล.................. แลว้ เจด็ วนั ขอ้ 3 ในกรณีท่มี ีข้อบญั ญัติอื่นท่ีขัดหรือแยง้ กบั ข้อบัญญัติฉบบั น้ี ให้ใช้ข้อบัญญตั ฉิ บับน้ีแทน ขอ้ 4 ในข้อบญั ญัตนิ ้ี “การเลี้ยงสุนัข และแมว” หมายความว่า กรรมวิธีหรือวิธีการท่ีจะดูแลสุนัข และแมว ให้เจรญิ เติบโตและมีชีวติ อยู่ได้ในสถานท่ีเล้ยี งสัตว์ “การปล่อยสนุ ัข และแมว” หมายความว่า การเลี้ยงสุนัข และแมวในลักษณะท่ีมีการปล่อย ใหอ้ ยนู่ อกสถานท่เี ลีย้ งสัตว์ รวมทัง้ การสละการครอบครองสนุ ขั และแมว “สถานท่เี ลย้ี งสัตว์” หมายความว่า คอกสัตว์ กรงสัตว์ ท่ีขังสัตว์ หรือสถานท่ีในลักษณะอื่น ท่ีใช้ในการควบคุมสัตว์ท่ีเล้ียง ท้ังน้ีให้หมายความรวมถึงแนวอาณาเขตท่ีดินซ่ึงใช้ประกอบการเล้ียงสัตว์ท่ีมี พื้นที่ตดิ กันเป็นพน้ื ท่ีเดยี ว “เจา้ ของสุนัข และแมว” หมายความว่า เจา้ ของกรรมสิทธ์ิ ผคู้ รอบครองสนุ ขั และแมว ท้งั น้ใี หห้ มายความรวมถึงผ้เู ลี้ยง ผ้ใู ห้ทีอ่ ยู่อาศยั และผู้ควบคมุ สุนขั และแมวดว้ ย “ราชการสว่ นท้องถ่ิน” หมายความว่า องค์การบริหารสว่ นตาบล.......... “เจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน” หมายความว่า นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล.......... ขอ้ 5 ใหน้ ายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล........... เป็นผู้รักษาการใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บัญญัตนิ ้ี

ข้อ 6 เพ่ือประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดารงชีพของ ประชาชนในท้องถน่ิ หรอื เพอ่ื ปอ้ งกนั อนั ตรายจากเชื้อโรคท่ีเกิดจากสุนัข และแมว ให้พื้นที่ในเขตขององค์การ บริหารส่วนตาบล.........................................ดังต่อไปนี้ เป็นเขตควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสนุ ัข และแมว 6.๑ ใหพ้ ้ืนที่ตอ่ ไปนเ้ี ปน็ เขตห้ามเล้ียงหรือปลอ่ ยสนุ ขั และแมวโดยเด็ดขาด 6.1.1 …(ระบขุ อบเขตของพน้ื ท)ี่ ... 6.1.2 ……….ฯลฯ 6.๒ ใหพ้ ื้นทต่ี อ่ ไปนเี้ ป็นเขตห้ามเลี้ยงหรอื ปลอ่ ยสุนัข และแมวเกินจานวนท่กี าหนด 6.2.1 ……….(ระบุขอบเขตของพื้นที่)..................... เป็นเขตห้ามเล้ียงหรือปล่อย สนุ ัขเกินจานวน .......... ตวั ต่อ...........(ระบุจานวนครวั เรอื น,จานวนต่อครวั เรอื น,จานวนตอ่ ขนาดของพ้ืนที่)... 6.2.2 ..........(ระบุขอบเขตของพ้ืนท่ี)... เป็นเขตห้ามเลี้ยงหรือปล่อยแมวเกิน จานวน................ตัว ต่อ.......(ระบุจานวนครวั เรอื น,จานวนตอ่ ครัวเรือน,จานวนขนาดของพื้นท)่ี ........ กรณีที่ต้องการเลี้ยงเกินกว่าจานวนทกี่ าหนด ต้องไดร้ ับอนุญาตจากเจา้ พนกั งานท้องถน่ิ 6.๓ การเลย้ี งหรอื ปลอ่ ยสุนขั และแมวต้องดาเนนิ การ ดังน้ี 6.3.1 การข้ึนทะเบียนสุนัข และแมว (1) ให้เจ้าของสุนัข และแมวดาเนินการข้ึนทะเบียนสุนัข และแมวทุกตัว ที่อยู่ในครอบครองต่อองค์การบริหารส่วนตาบล.......... และรับบัตรประจาตัวสุนัข และแมวหรือสัญลักษณ์ หรอื วธิ ีการกาหนดระบุตัวตนของสนุ ัขและแมวอ่ืนใด ตามแบบท่ีองคก์ ารบริหารส่วนตาบล.......... กาหนด (2) หากเจ้าของสุนัข และแมวต้องการมอบสุนัข และแมว หรือ เปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของให้แก่บุคคลอื่น ต้องแจ้งต่อองค์การบริหารส่วนตาบล...................... ภายใน.................... วัน นับแต่วันที่มอบสุนัขและแมวหรือมีการเปล่ียนแปลงความเป็นเจ้าของ เพอื่ ดาเนนิ การแก้ไขบตั รประจาตัวสุนัข และแมว หรือสัญลักษณ์ หรือวิธีการกาหนดระบุตัวตนของสุนัขและ แมวอืน่ ใด (3) ในกรณีที่มสี ุนัข และแมวเกดิ ใหม่ ให้เจ้าของสุนัข และแมวดาเนินการ ขน้ึ ทะเบยี นภายใน ..... วัน และต้องจัดการใหส้ ุนัข และแมวนั้นไดร้ ับการฉดี วัคซนี โรคพษิ สนุ ัขบ้า (4) กรณีที่เจ้าของนาสุนัข และแมวที่อยู่ในครอบครองย้ายออกนอกเขต องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล.......... โดยถาวร หรือสุนัข และแมวท่ีอยู่ในครอบครองตาย เจ้าของสุนัข และแมว ต้องดาเนินการแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตาบล...................... ทราบภายใน ............. วัน นับแต่มีการย้าย สนุ ขั และแมว ออกนอกเขตองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลโดยถาวร หรอื วันท่สี ุนัขและแมวตาย 6.๓.๒ การป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนขั บ้า (๑) เจ้าของสุนัข และแมว ต้องจัดการให้สุนัข และแมวทุกตัวได้รับการ ฉดี วคั ซนี จากสัตวแพทย์ หรอื ผไู้ ด้รบั มอบหมายเป็นหนงั สือจากสัตวแพทย์ หรือผูป้ ระกอบการบาบดั โรคสตั ว์

โดยการฉีดวัคซีนคร้ังแรกต้องดาเนินการเม่ือสุนัข และแมวนั้นมีอายุต้ังแต่สองเดือนข้ึนไปแต่ไม่เกินส่ีเดือน และตอ้ งจัดการให้ได้รบั การฉีดวัคซีนคร้ังต่อไป ตามระยะเวลาท่ีกาหนดในใบรับรองการฉีดวคั ซนี (๒) หากเจ้าของสุนัข และแมวพบเห็นอาการ หรือสงสัยว่าสุนัข และแมว ในครอบครองมอี าการของโรคพิษสนุ ัขบา้ ใหก้ กั สุนัข และแมวไว้ และแจ้งต่อองค์การบริหารส่วนตาบล.......... ภายในยสี่ บิ สี่ชัว่ โมง เพ่ือประโยชน์ในการควบคุมโรค (๓) ในกรณีท่ีเกิดการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในพ้ืนที่ตามประกาศเขต กาหนดโรคระบาดชั่วคราว ให้เจ้าของสุนัข และแมวทาการควบคุมสุนัข และแมวไว้ ณ สถานท่ีเล้ียงสัตว์ จนกวา่ จะส้ินระยะเวลาตามประกาศ 6.3.๓ การควบคุมด้านสุขลักษณะ (1) เจ้าของสุนัข และแมวต้องจัดสถานท่ีเลี้ยงสุนัข และแมวให้เหมาะสม และดแู ลสถานทเ่ี ล้ียงให้สะอาดถูกสขุ ลกั ษณะอยูเ่ สมอ (2) เจ้าของสุนัข และแมวต้องควบคุมดูแลสุนัข และแมว มิให้ก่อเหตุ เดอื ดรอ้ นราคาญหรือเปน็ อนั ตรายตอ่ ผ้อู ยู่อาศัยใกล้เคยี ง 6.3.๔ การควบคมุ เมอ่ื นาสนุ ัข และแมวออกนอกสถานท่เี ล้ยี งสตั ว์ (1) เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วย การสาธารณสุข ใหเ้ จ้าของสุนขั และแมวพกบตั ร หรือตดิ เครือ่ งหมายประจาตัวสุนัข และแมว และต้องมีการ ควบคุมดแู ลมใิ หก้ ่อเหตเุ ดือดรอ้ นราคาญหรอื เปน็ อนั ตรายตอ่ บุคคลอื่น (2) เจ้าของสุนัขและแมวต้องจัดการมูลสัตว์หรือของเสียอันเกิดจากสุนัข และแมว ในสถานทีห่ รอื ทางสาธารณะ หรือสถานทอี่ น่ื ใดให้ถูกสุขลักษณะโดยทันที ข้อ 7 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการ สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และท่แี กไ้ ขเพิม่ เตมิ ประกาศ ณ วันท่ี………………....... (ลงชือ่ ) ……….……………………… (…………………….….......) นายกองค์การบริหารสว่ นตาบล………......……… เห็นชอบ (ลงชอ่ื ) ………………………………… (…......………………………) นายอาเภอ.............………………..

ภาคผนวก ข ตัวอยา่ งการขนึ้ ทะเบยี นสตั ว์

แบบฟอรม์ การขน้ึ ทะเบียนสตั ว์ ในสถานสงเคราะหส์ ตั ว์

ภาคผนวก ค แบบรปู รายการก่อสรา้ ง และคา่ กอ่ สร้างสถานสงเคราะหส์ ตั ว์


















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook