คำอธิบำยรำยวชิ ำ ศึกษาวเิ คราะหข์ อ้ มูล และนาความรูใ้ นรายวชิ าท่ีเรียนมา ประยุกต์ใหส้ อดคลอ้ ง เพ่ือวางแผนจัดทาโครงการ ดาเนินการและปรบั ปรุงแกไ้ ขปญั หาในการผลติ ผลผลติ ทาง สตั วน์ า้ เพอ่ื การยงั ชพี การแปรรูป และการจาหน่าย บนั ทกึ การปฏิบตั ิงาน สรุปและรายงานผล การปฏิบตั ิตาม โครงการ
จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ 1. เพอ่ื เสรมิ สรา้ งใหน้ กั เรยี นเกิดทกั ษะและประสบการณใ์ นการ ผลติ การแปรรูปทางการเกษตรอย่างมรี ะบบและมคี ุณภาพ 2. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถวางแผนดาเนินงานและแกไ้ ขปญั หา ในการผลติ เพอ่ื การยงั ชพี 3. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถแปรรูปและจาหน่ายผลผลติ ทางการ เกษตร 4. เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี นเกิดความคดิ รเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ ความ รบั ผดิ ชอบ เจตคติ และกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการพฒั นาอาชพี เกษตร
กำรประเมนิ ผล - กจิ กรรมทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 15 % - กจิ กรรมในชนั้ เรยี น 15 % - การปฏบิ ตั โิ ครงการฯ 30 % - การนาเสนอผลการปฏบิ ตั โิ ครงการ 20 % - คุณลกั ษณะทพ่ี ง่ึ ประสงคข์ องนกั ศึกษา 20 %
เอ.๊ ...อะไรน่ะ?
โครงกำร หรือ Program หรือ Project หมายถงึ ขอ้ กาหนด เงอ่ื นไข หรือ หลกั เกณฑ์ เก่ียวกบั วิธีดาเนินงานกลุ่มกิจกรรมท่ีมีลาดบั ความสมั พนั ธเ์ ช่ือมโยงต่อเน่ืองกนั เพ่ือตอบสนอง แผนงาน หรอื เป้าหมายทก่ี าหนดไวล้ ว่ งหนา้ ออ่ ๆ....คดิ ออกแยว้ วว
ลกั ษณะของโครงการทด่ี ี โครงการเป็นกิจกรรมท่ีจดั ทาข้ึน เพื่อการปฏิบตั ิภารกิจให้ บรรลุเป้าหมายอยา่ งมีประสิทธิภาพ โครงการท่ีดียอ่ มมีผลตอบแทน หน่วยงาน หรือองคก์ ารอยา่ งคุม้ คา่ ลกั ษณะของโครงการท่ีดีมี ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. สามารถแกป้ ัญหาองคก์ ร หรือหน่วยงานได้ 2. มีประสิทธิภาพ และก่อใหเ้ กิดผลตอบแทนคุม้ คา่ 3. รายละเอียดของโครงการตอ้ งสอดคลอ้ ง และสัมพนั ธ์กนั 4. วตั ถุประสงค์ และเป้าหมายตอ้ งชดั เจน และมีความ เป็นไดส้ ูง
5. สามารถสนองความตอ้ งการขององคก์ ร และ หน่วยงานไดอ้ ยา่ งดี 6. สามารถนาไปปฏิบตั ิไดส้ อดคลอ้ งกบั แผนงาน 7. กาหนดข้ึนจากขอ้ มูลท่ีมีความเป็นจริง และ ไดร้ ับการวเิ คราะห์อยา่ งรอบคอบ 8. ตอ้ งไดร้ ับการสนบั สนุนดา้ นทรัพยากร หรือ ค่าใชจ้ ่ายอยา่ งเหมาะสม 9. ตอ้ งมีระยะเวลาการดาเนินโครงการชดั เจน
เขยี นโครงการต้องให้น่าอ่าน หลกั ง่ายๆ แต่สาคญั ในการเขียนโครงการใหน้ ่าอ่าน และไดร้ ับ การพจิ ารณาอนุมตั ิจากกรรมการ มีหวั ใจสาคญั ดงั น้ี ด้านเนื้อหา ใชภ้ าษากระชบั ใชป้ ระโยคส้นั ๆ ไม่ซบั ซอ้ น ชดั เจนในเน้ือหาท่ี ตอ้ งการสื่อสาร ใชค้ าง่าย ธรรมดา ตรงไปตรงมา พยายามหลีกเลี่ยงคาถามที่กากวม ซ่ึงตอ้ งแปลความอีกท่ีหน่ึง หรืออาจทาใหเ้ ขา้ ใจไม่ตรงกนั นาเสนออยา่ งมีข้นั ตอน อ่านทบทวนใหแ้ น่ใจวา่ ลาดบั เน้ือหาไว้ อยา่ งสอดคลอ้ งต่อเนื่องกนั เล่าเร่ืองยากใหเ้ ขา้ ใจง่าย เน้ือหาส่วนใดมีความซบั ซอ้ น ควรสรุป ออกมาในรูปตาราง ภาพประกอบ หรืออ่ืนๆใหเ้ ขา้ ใจไดง้ ่าย
ด้านรูปแบบ มีระเบียบ เรียงลาดบั หวั ขอ้ ยอ่ หนา้ ใหต้ ่อเน่ือง เห็นเป็นหมวดหมู่ชดั เจน มีพ้ืนท่ีพกั สายตาเวน้ บรรทดั ช่องไฟตาม มาตรฐานหลกั การเขียน ใชเ้ คร่ืองหมายวรรค ตอนอยา่ งถูกตอ้ ง เวน้ ท่ีวา่ งบา้ งเพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ น สบายตา
ช่ือโครงกำร ควรเป็นขอ้ ควำมสน้ั ๆ ท่สี ะทอ้ นสำระของโครงกำรโดย สว่ นรวมพอสมควรและน่ำสนใจ จงึ ควรพจิ ำรณำเลอื กใชถ้ อ้ ยคำ และขอ้ ควำมท่ที ำใหผ้ ูอ้ ำ่ นเขำ้ ใจสำระของโครงกำรไดท้ นั ที และ ดึงดูดควำมสนใจเพอ่ื ใหต้ ดิ ตำมรำยละเอยี ดของโครงกำรต่อไป ดงั น้นั ช่ือของโครงกำรควรพยำยำมสอ่ื ใหช้ ดั เจนว่ำ ตอ้ งกำรทำ อะไรและใหแ้ ก่ใคร เช่น “โครงกำรสง่ เสรมิ อำชีพและรำยไดแ้ ก่ สตร”ี โครงกำรสง่ เสรมิ กำรปลกู ผกั สวนครวั ” “โครงกำรจดั หำน้ำ กนิ น้ำใชใ้ นชนบท”
หน่วยงำน / ผูร้ บั ผดิ ชอบ ตอ้ งระบผุ ูร้ บั ผิดชอบ ซ่ึงอำจเป็นบคุ คล หรอื หน่วยงำน เช่น กรมพฒั นำชมุ ชน กระทรวงมหำดไทย และถำ้ ผูร้ บั ผิดชอบมลี กั ษณะเป็นกลมุ่ ควรมรี ำยช่ือ หวั หนำ้ โครงกำร และสมำชิกในกลมุ่ ดว้ ย
ช่วงระยะเวลำของโครงกำรฯ ระบรุ ะยะเวลำดำเนินกำรทง้ั หมด เวลำ เร่มิ ตน้ และส้นิ สดุ โครงกำรฯ เช่น 12 เดือน ตง้ั แต่เดือนตลุ ำคม 2561 ถงึ เดือน กนั ยำยน 2562
หลกั กำรและเหตผุ ล กลำ่ วถงึ ควำมเป็นมำและควำมจำเป็นท่ที ำใหเ้ กดิ โครงกำร ซ่งึ ทำ ใหเ้ หน็ ถงึ ควำมสำคญั ของโครงกำรฯ ว่ำ จำเป็นตอ้ งมโี ครงกำรฯเพรำะ เหตใุ ด เพอ่ื เป็นกำรชกั จูงผูอ้ ำ่ นใหเ้ กดิ ควำมเหน็ คลอ้ ยตำมควำม จำเป็นของโครงกำร ซ่งึ อำจมกี ำรอำ้ งองิ โดยอำศยั ขอ้ ควำมจำกแผน นโยบำย ขอ้ อำ้ งองิ ทำงทฤษฎี ผลกำรศึกษำวจิ ยั สถติ ิ ขอ้ มูล หรอื ควำมคดิ เหน็ ของบคุ คลท่นี ่ำเช่ือถอื เป็นเคร่อื งสนบั สนุน
วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร เป็นขอ้ ควำมท่จี ะเนน้ ใหผ้ ูอ้ ำ่ นทรำบว่ำ จะเกิดอะไรข้ึน ภำยหลงั จำกส้นิ สดุ โครงกำรฯ ดงั น้นั จะตอ้ งเขียนครอบคลมุ วตั ถปุ ระสงคท์ วั่ ไปอย่ำงชดั เจน เฉพำะเจำะจงว่ำ ตอ้ งกำรทำ อะไร และตอ้ งเนน้ สง่ิ ท่สี ำมำรถวดั ได้
การเขียนวตั ถุประสงค์ นิยมใชค้ า และหลีกเลี่ยงการใชค้ า ดงั ตอ่ ไปน้ี คาทค่ี รใ ้ คาทคี่ รหลกี เลย่ี ง เพื่อกล่าวถึง เพื่อเขา้ ใจถึง เพื่ออธิบายถึง เพื่อทราบถึง เพื่อพรรณาถึง เพอ่ื คุน้ เคยกบั เพื่อเลือกสรร เพื่อซาบซ้ึงใน เพื่อระบุ เพอ่ื รู้ซ้ึงถึง เพื่อจาแนกแยกแยะ เพื่อสนใจใน เพื่อลาดบั หรือเพื่อแจกแจง เพ่อื เคยชินกบั เพื่อประเมิน เพื่อยอมรับใน เพื่อสร้างเสริม เพื่อเชื่อถือใน เพื่อกาหนดรูปแบบ เพื่อสานึกใน เพื่อแกป้ ัญหา
เป้ ำหมำยและผลประโยชน์ท่คึ ำดว่ำจะไดร้ บั จะระบุประเภทและปริมำณของผลงำนท่ีไดจ้ ำก โครงกำร หรือผลกระทบท่ีสืบเน่ืองหลงั จำกท่ีโครงกำร บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ลว้ ดงั น้ันในกำรเขียนจะตอ้ งเขียน ใหเ้ ห็นส่งิ ท่ีเป็ นผลอย่ำงรูปธรรม ของกำรปฏิบัติงำนและ รองรบั แต่ละวตั ถปุ ระสงค์
ขอบเขตของโครงกำร เป็ นขอ้ ควำมท่ีกำหนดขอบเขตของโครงกำรเพ่ือทำให้ ผูอ้ ำ่ นเขำ้ ใจว่ำโครงกำรฯดงั กล่ำวครอบคลมุ หรือไม่ครอบคลมุ เร่อื งใดบำ้ ง เพอ่ื ทำใหเ้ ขำ้ ใจโครงกำรไดช้ ดั เจนข้ึน และทำให้ วเิ ครำะหใ์ นเร่อื งควำมเป็นไปไดข้ องโครงกำรไดเ้ หมำะสมข้ึน
กระบวนกำร / วธิ ีกำรดำเนินงำน เป็นขอ้ ควำมท่แี สดงถงึ รำยละเอยี ดของวิธกี ำรดำเนินงำนหรอื กำร ใชค้ วำมพยำยำมใด ๆ เพอ่ื ใหบ้ รรลตุ ำมวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำรฯท่ี ไดก้ ำหนดไวแ้ ลว้ ซ่ึงประกอบดว้ ย 1) วธิ กี ำร : เขียนใหเ้ หน็ ขน้ั ตอนกำรดำเนินงำนอย่ำงเป็นลำดบั และ ระบแุ นวทำง และวธิ ีกำรโดยละเอยี ด ท่สี ำคญั คอื ตอ้ งใหส้ อดคลอ้ ง กบั วตั ถปุ ระสงคท์ ่เี ขียนไวด้ ว้ ย 2) ระยะเวลำ : ระบรุ ะยะเวลำท่ใี ชใ้ นกำรดำเนินงำนแต่ละขน้ั ตอน 3) สถำนท่ี 4) ผูเ้ ขำ้ ร่วมโครงกำร
ทง้ั น้ีในส่วนของวิธีกำร และระยะเวลำในดำเนินโครงกำร ควรเขียนเป็ นแผนภมู ิ หรอื ตำรำงดำเนินกิจกรรม ซ่ึงประกอบดว้ ย ขน้ั ตอนและระยะเวลำท่ีดำเนินกำรในแต่ละข้นั ตอน ซ่ึงจะทำให้ เขำ้ ใจไดง้ ำ่ ยและชดั เจนมำกข้ึน ดงั เช่น กจิ กรรม พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ศึกษาเอกสารงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 2. นาเสนอโครงการ 3. การออกแบบวธิ กี ารดาเนนิ การ 4. ดาเนนิ การ 5. การเกบ็ ขอ้ มลู 6. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 7. การสรปุ ผล 8. การจดั ทารายงานผล
งบประมำณ ระบจุ ำนวนงบประมำณท่ใี ชท้ ง้ั หมด พรอ้ มทง้ั แหลง่ งบประมำณอย่ำง ชดั เจนและจำแนกเป็ นหมวดต่ำง ๆ ตำมรำยละเอียดค่ำใชจ้ ่ำย เช่ น หมวดคำ่ ตอบแทน หมวดคำ่ ใชส้ อย หมวดค่ำวสั ดุ หมวดคำ่ จำ้ ง ฯลฯ กำรประเมนิ โครงกำรฯ หรอื กำรติดตำมและ ประเมนิ ผล เขียนวิธีกำรประเมินผลโครงกำรฯตำมขน้ั ตอนกำรดำเนินงำนอย่ำง เหมำะสม เป็ นกำรแสดงว่ำ เจำ้ ของโครงกำรมีกำรประเมินในลกั ษณะ ใดบำ้ ง ครอบคลมุ หรอื ไม่เพยี งใด
ผลท่คี ำดวำ่ จะไดร้ บั ควรเขียนใหข้ ดั เจนว่ำ หลงั จำกเสรจ็ ส้นิ โครงกำรฯแลว้ จะเกดิ ประโยชน์ อะไรบำ้ ง ทง้ั ในส่วนท่ีเกิดจำกวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร และส่วนท่ีเกิด เป็นผลขำ้ งเคยี ง หรอื ผลกระทบ ทรพั ยำกรท่ใี ชใ้ นกำรดำเนินโครงกำร เคร่อื งมอื เคร่อื งจกั ร สถำนท่ี บคุ ลำกรหรอื ทรพั ยำกรอน่ื ซ่ึงกำรระบจุ ะ ช่วยใหผ้ ูว้ เิ ครำะหโ์ ครงกำร เหน็ ควำมเป็นไปไดข้ องโครงกำร รำยละเอยี ดอน่ื ๆ (ถำ้ มี) : เช่น ควำมสมั พนั ธต์ ่อเน่ืองกบั โครงกำรอน่ื
กำรวเิ ครำะหโ์ ครงกำร ในการพจิ ารณาโครงการ หรอื วเิ คราะหโ์ ครงการทางสงั คม รวมทง้ั โครงการศึกษาวจิ ยั ต่าง ๆ ผูว้ เิ คราะหโ์ ครงการจะอาศยั เกณฑด์ งั ต่อไปน้ี 1. ความจาเป็นเร่งด่วน 2. การประสานสมั พนั ธก์ บั โครงการพฒั นาอน่ื ๆ 3. การมสี ว่ นร่วมรบั ผดิ ชอบขององคก์ รทอ้ งถน่ิ / ประชาชน 4. ความยงั่ ยนื ต่อเน่อื งของโครงการ 5. การระดมการใชท้ รพั ยากรจากแหลง่ ต่าง ๆ 6. ความคมุ้ ค่าของโครงการ 7. ความเป็นไปไดใ้ นทางปฏบิ ตั ิ 8. การกาหนดทางเลอื กวธิ กี ารอยา่ งเหมาะสม 9. ความสมเหตสุ มผลของโครงการ
ตวั อย่ำงกำรวเิ ครำะหโ์ ครงกำร ช่ือโครงกำร______________________________________ สว่ นประกอบของโครงกำร ไม่มี มี หมำยเหตุ ชดั เจน ไมช่ ดั เจน 1. ชอ่ื โครงการ 2 หน่วยงานผูร้ บั ผดิ ชอบ 3. ช่วงระยะเวลาของโครงการ 4. หลกั การและเหตผุ ลของโครงการ 5. วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ 6. เป้าหมายของการปฏบิ ตั งิ าน 7. สถานทด่ี าเนนิ การ 8. วธิ กี ารดาเนนิ การ 9. งบประมาณ 10.การตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการ 11. ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั
วเิ ครำะหค์ วำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงสว่ นประกอบของโครงกำร ฯ ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงสว่ นประกอบ สอดคลอ้ ง ไม่ ตรวจสอบ หมำยเหตุ ของโครงกำร สอดคลอ้ ง ไม่ได้ 1.โครงการกบั แผนงาน 2.ช่อื โครงการกบั หลกั การและเหตุผล 3. หลกั การและเหตผุ ลกบั วตั ถปุ ระสงค์ 4.วตั ถปุ ระสงคก์ บั เป้าหมาย 5. เป้าหมายกบั วธิ กี ารดาเนินการ 6. วธิ ดี าเนนิ การกบั งบประมาณ 7.วธิ กี ารดาเนินการกบั การตดิ ตามและ การประเมนิ โครงการ สรุปผลกำรวเิ ครำะหโ์ ครงกำร ฯ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ผูว้ เิ ครำะห…์ ………………………………
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: