หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ถ้ามหลักสูตรเเกนกลางการศึกษาขึ้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2565 ม.๑ ART ◎ FENRONG CHUHUAN
คำนำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เป็นกลุ่มสาระที่จะช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสร มี จินตนาการทาง ศิลปะ รู้จักชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งย่อมจะมีผลต่อ คุณภาพชีว ของผู้เรียน เพราะกิจกรรมทางศิลปะจะช่วยพัฒนาผู้เรียน ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารย์ สังคม ตลอดจนการนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความเชื่อมั่นในตนเอง การจัดทำหนังสือเรียนกลุ่มสาระศิลปะในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.๓) เพื่อให้สะดวกแก่การ จัดการเรียนการสอน รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติวิชา จึงจัดทำหนังสือเรียนแยกเป็น ๒ เล่ม คือ หนังสือเรียนสาระทัศนศิลป์ ๑ เล่ม และหนังสือเรียน สาระดนตรีรวมกับสาระนาฏศิลป์ ๑ เล่ม ซึ่งทางครู ผู้สอนและสถานศึกษาจึงใช้ควบคู่กัน เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอน และการมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่ดีของผู้เรียน สำหรับหนังสือเรียนทัศนศิลป์เล่มนี้ เนื้อหาสาระจะเรียบเรียงตรงตามสาระแกนกลางของ หลักสูตร เพื่อเสนอองค์ความรู้พื้นฐานที่จำเป็นแก่ผู้เรียน ขณะเดียวกันก็ยังได้เสนอแนะกิจกรรม ศิลป์ปฏิบัติเพื่อให้ ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง อันจะนำไปสู่การบรรลุตัวชี้วัดตามที่หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดไว้ นอกจากนี้ ภายในเล่มได้จัดพิมพ์ภาพประกอบ 4 สีอย่างสวยงาม เพื่อจะได้เป็นประโยชน์สำหรับผู้เรียน จะได้เห็นผลงานที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงและทำความ เข้าใจได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธรรมชาติของสาระทัศนศิลป์ เน้นทักษะปฏิบัติ ดังนั้นการศึกษาสาระนี้ ให้ เกิดผลสัมฤทธิ์จึงมีความจำเป็นที่ผู้เรียนพึงลงมือปฏิบัติจริงเพื่อจะได้มีทักษะฝีมือและความ ชำนาญ อันจะเป็นความรู้คงทนที่ติดตัวผู้เรียนตลอดไป คณะผู้เรียบเรียงคาดหวังว่า หนังสือเรียนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปใช้ประกอบ การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระศิลปะของสถานศึกษาทุกแห่ง ช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ มี ทักษะ ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตลอดจนบรรลุตัวชี้วัดตามที่หลักสูตรได้ กำหนดไว้ ทุกประการ และขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงต่อศิลปินทุกท่านที่คณะผู้เรียบเรียงได้นำ ภาพผลงานของท่าน มาใช้เป็นภาพประกอบในหนังสือเรียนเล่มนี้ คณะผู้เรียบเรียง
สารบัญ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 1-9 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ 3 4 • ความหมายของศิลปะและทัศนศิลป์ 6 • ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับมนุษย์ 7 • ประเภทของงานทัศนศิลป์ 8 • สิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ 9 • ทัศนศิลป์กับสุนทรียภาพ • คุณค่าของทัศนศิลป์ •วัตถุประสงค์ในการศีกษาสาระทัศนศิลป์
1หน่วยที่ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศน ศิลป์ สิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ นอกเหนือจาก ปัจจัยสี่ คือ อาหารเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรคแล้ว อารมณ์ ความพึงพอใจก็มีความสำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งผลงาน ศิลปะทาง ด้าน คนศิลปนับว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วย พัฒนาตัวเราให้มี ความสุขสมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ทั้งนี้ งานทัศนศิลป์จะเป็นผลงาน ที่เราสัมผัสซึ่ง ความงามได้จากการมองเห็น โดยงานทัศนศิลป์ จะจำแนกแยก ย่อยได้อีกหลายประเภท ดังนั้น ก่อนที่จะเรียนรู้ เทคนิควิธีและ ลงมือสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์แต่ละประเภท จึงควร ศึกษา เรื่องราวเบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์เป็นการปูพื้นฐานไว้ก่อน ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 1
๑. ความหมายของศิลปะและทัศนศิลป์ ศิลปะ หมายถึง ผลแห่งความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่แสดงออกมาในรูปลักษณ์ต่างๆ ให้ปรากฏ ซึ่งสุนทรียภาพ ความประทับใจ หรือความสะเทือนอารมณ์ ตามประสบการณ์ รสนิยม และทักษะ ของบุคคลแต่ละคน นอกจากนี้ ยังมีนักปราชญ์ นักการศึกษา ท่านผู้รู้ ได้ให้คำนิยามความหมาย ของศิลปะแตกต่างกันออกไป เช่น ศิลปะ คือ การเลียนแบบธรรมชาติ การแสดงออกของบุคลิกภาพทางอารมณ์ของมนุษย์ . การสื่อสารอย่างหนึ่งระหว่างมนุษย์ การระบายความปรารถนาในใจของศิลปินออกมา จิตรกรรมไทย เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของสระเรียนไทย • การแสดงออกของผลงานด้านต่างๆ ที่สร้างสรรค์ นับเป็น ผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่ซ้ำ แบบใคร จากความหมายและคำนิยามทางศิลปะที่ได้นำมากล่าวอ้างไว้ข้างต้น จะเห็นได้ว่าผลงานที่เรียกกันว่า เป็น “ศิลปะ” จะมีทัศนะที่แตกต่างกันออกไป ยากที่จะหาข้อสรุปที่แน่นอน หรือกำหนดลักษณะของ งานศิลปะได้ โดยในแต่ละ ยุคสมัยท่านผู้รู้ได้กำหนดความหมายของศิลปะไปตามบริบทของตนเอง ซึ่งย่อมจะมีความแตกต่าง หรือเปลี่ยนแปลง ไปตามสภาพของสังคม สิ่งแวดล้อม และความเจริญ ก้าวหน้าของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ก็เป็นที่ยอมรับกันในประการ หนึ่งว่า ผลงานที่ถือว่าเป็นงาน ศิลปะจะต้องเป็นงานที่มี การสร้างสรรค์ ไม่ใช่เกิดขึ้นมาเอง กล่าวคือ “จะต้องมี มนุษย์เป็นผู้ สร้างสรรค์” ผลงานนั้นๆ ส่วนคำว่า “ทัศนศิลป์\"(Visual Art) เป็นศัพท์ที่ ได้รับการบัญญัติขึ้นใช้ในวงการศิลปะเมื่อ ประมาณ ๓๐ ปี ที่ผ่านมา จุดมุ่งหมายที่บัญญัติศัพท์ “ทัศนศิลป์” ขึ้นมา ก็เพื่อจำแนกความแตก ต่าง หรือแยกลักษณะการรับรู้ของ มนุษย์ทางด้านศิลปะให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะ แต่ เดิมนั้น ผลงานทางด้านทัศนศิลป์จะถูกผนวกรวมเข้า และถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน “วิจิตรศิลป์” จึงทำให้เกิด ความเข้าใจว่า งานทัศนศิลป์จะต้องเป็นผลงานที่มีความ ละเอียด ประณีตบรรจง และ มีความงดงามเท่านั้น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 2
๒.ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะกับมนุษย์ การสร้างสรรค์ทางศิลปะ เป็นกิจกรรมพัฒนาสติปัญญาและอารมณ์ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เฉพาะใน สังคมมนุษย์ เท่านั้น ถึงแม้ว่าในหมู่สัตว์บางชนิดก็อาจจะมีกิจกรรมในลักษณะทำนองเดียวกับที่ มนุษย์กระทำขึ้น แต่เราก็ไม่อาจ นับว่าเป็นงานศิลปะได้ เนื่องจากกิจกรรมเหล่านั้น มักถูกสร้าง ขึ้นมาโดยความบังเอิญ หรือเกิดจากสัญชาตญาณของ สัตว์เอง ซึ่งมักจะมีเป้าหมายเพื่อป้องกัน ภยันตราย ดำรงเผ่าพันธุ์ หรือเพื่อการดำรงชีวิตรอดเป็นหลัก การสร้างสรรค์ทางศิลปะของมนุษย์เชื่อว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณตั้งแต่ยุคหิน หรือเมื่อ ประมาณ ๔๐๐,๐๐๐-๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว นับตั้งแต่เมื่อครั้งที่บรรพบุรุษของมนุษย์ยังเป็นพวก เร่ร่อนอาศัยอยู่ตามถ้ำ เพิ่งผ่า การงชีพด้วยการล่าสัตว์ และหาของป่ามาเป็นอาหาร โดยผลงาน ศิลปะถ้าไม่นับพวกเครื่องมือเครื่องใช้ ลำดับแรกๆ จะเป็นภาพวาด ซึ่งปรากฏอยู่ตามผนังถ้ำในที่ ต่างๆ เช่น ภาพรัวไบซัน ที่ถ้ำอัตตามีรา ประเทศสเปน ภาพสัตว์ ชนิดต่างๆ เช่น ม้า กวาง เป็นต้น ที่ถ้ำลาสโกว์ ประเทศฝรั่งเศส สำหรับในประเทศไทย สํารวจพบภาพวาดในที หลายแห่ง เช่น ภาพช้าง ภาพเต่า ที่ผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ภาพนก ภาพจระเข้ ที่ถ้ำผี หัวโต อ้าเภอข่าว ก จังหวัดกระบี่ เป็นต้น ที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่าศิลปะมีความเกี่ยวพันกับมนุษย์ในแง่ที่เป็นผลงาน หรือวิธีการ แสดงออกมา เพื่อตอบสนองอารมณ์ของตนเอง อาจจะเป็นความประทับใจ ความซาบซึ้ง ผ่อน คลายความตึงเครียด หรือเพื่อ ความชื่นชม และศรัทธา โดยผลงานศิลปะแรกๆ ของมนุษย์ เชื่อว่า น่าจะเกิดจากแรงบันดาลใจของมนุษย์ที่มีต่อ ความงามทางธรรมชาติ หรือสภาพแวดล้อม จาก นั้นจึงค่อยๆ ถ่ายทอดความประทับใจนั้นออกมาเป็นผลงานศิลปะ โดยอาจจะเป็นงานประมาท จิตรกรรม และประติมากรรมอย่างง่ายๆ เราลาย) การเรียน หมัยก่อนประวัติศาสตร์ รูป ครัชนิดต่างๆ คนที่ถ้ำเทสโทส์ (Lascaux) ประเทศฝรั่งเศส STTIME ภาค เรียนมัยก่อนประวัติศาสตร์ รูปตอนบนเรือนต่างๆ พบที่ขายใน, เอสโตเนียม จังหวัดอุบลราชธานี ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 3
๓.ประเภทของงานทัศนศิลป์ ผลงานศิลปะด้านทัศนศิลป์ สามารถจำแนกออกได้เป็น 4 ประเภท คือ จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ภาพพิมพ์ ๓.๑ จิตรกรรม (Painting) จิตรกรรม หมายถึง การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์บนพื้นระนาบด้วยวิธีการลาก การขีดเขียน หรือการ ระบายสีฝุ่น สีน้ำ สีน้ำมัน ลงบนพื้นผิววัสดุที่มีความราบเรียบ เช่น กระดาษ ผ้าใบ ผนัง แผ่นไม้ เพดาน ผิว หน้า ของวัตถุอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้เกิดเรื่องราวและความงามตามความนึกคิดและจินตนาการของผู้วาด จิตรกรรมสามารถ จำแนกได้เป็น ๒ ลักษณะ ดังนี้ ๑) ภาพวาด (Drawing) เป็นศัพท์ทางทัศนศิลป์ที่ใช้เรียกภาพวาดเขียน ภาพวาดเส้น แบบเป็น 6 มิติ คือ มีเพียงความกว้าง และความยาว โดยใช้วัสดุต่างๆ เช่น ดินสอดำ สีชอล์ก สีเทียน ถ่านเกรยอง เป็นต้น ๒) ภาพเขียน (Painting) เป็นการสร้างงาน ๒ มิติ บนพื้นระนาบด้วยสีหลายสี การเรียกชื่อลักษณะ ของ ภาพเขียนจะเรียกตามวัสดุที่ใช้เป็นสำคัญ เช่น การเขียนภาพด้วยสีน้ำ การเขียนภาพด้วยสีน้ำมัน การเขียน ภาพ ด้วยสีอะครีลิก เป็นต้น “ดอกไม้ ช่อรับ!” ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงานของ “ดอกไม้ ช่อรับ!” ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ ผลงานของ กมลรัตน์ เพ็ชร กมลรัตน์ เพ็ชร ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 4
๓.๒ ประติมากรรม ศิลปะแขนงหนึ่งในพวกวิจิตรศิลป์ ศึกษาเกี่ยวกับงานที่สร้างเป็นรูปทรง ๓ มิติ โดยวิธีปั้ น แกะสลัก หรือ ผสมผเส, เรียกงานศิลปะ ๓ มิติที่สร้างด้วยวิธีดังกล่าวว่า งานประติมากรรม เป็นรูปที่เป็นนูนขึ้นมาจากพื้นหรือมีพื้นหลังรองรับ มองเห็นได้ชัดเจนเพียงด้านเดียว คือด้าน หน้า มีความสูงจากพื้นไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรูปจริง ได้แก่ รูปนูนแบบเหรียญ รูปนูนที่ใช้ ประดับตกแต่งภาชนะ หรือประดับตกแต่งอาคารทาง สถาปัตยกรรม โบสถ์ วิหารต่างๆ พระเครื่องบางชนิด ๓.๓ สถาปัตยกรรม คือ การออกแบบก่อสร้างสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างสำหรับการอยู่อาศัยของคนทั่วไป เช่น บ้าน อาคาร และคอนโด เป็นต้น และสิ่งก่อสร้างที่คนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ เช่น เจดีย์ สถูปและ อนุสาวรีย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการกำหนดผังของบริเวณต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดความ สวยงาม และเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการใช้สอยได้ตามต้องการ งานสถาปัตยกรรมนั้นนับเป็นแหล่งรวม ของงานศิลปะทางการภายแทบทุกชนิด โดยมักจะมีรูปแบบที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของสังคมและช่วง เวลานั้นๆ ได้อย่างชัดเจนโดดเด่น สามารถแบ่งลักษณะงานทางด้านสถาปัตยกรรมได้เป็น 3 แขนง ดังนี้ 1. สถาปัตยกรรมการออกแบบสิ่งก่อสร้าง เช่น ออกแบบการสร้างตึก อาคารและบ้านเรือน เป็นต้น 2. ภูมิสถาปัตย์ เช่น การออกแบบเพื่อวางผังสำหรับจัดบริเวณ วางผังเพื่อการปลูกต้นไม้และการจัด สวน เป็นต้น 3. สถาปัตยกรรมผังเมือง ซึ่งได้แก่ การออกแบบบริเวณของผังเมืองเพื่อก่อให้เกิดความเป็น ระเบียบงดงาม สะอาด รวดเร็วในการติดต่อ และยังถูกหลักสุขาภิบาล ซึ่งสามารถเรียกผู้สร้าง งานสถาปัตยกรรมนี้ได้ว่า สถาปนิก งานด้านสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างนั้น สามารถแบ่งส่วนที่ควรให้ความสำคัญได้ 3 ประการคือ 1. จัดทำแล้วต้องก่อให้เกิดความเรียบร้อยสวยงาม 2. ให้ความมั่นคงแข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย คือนอกจากงานจะออกมาสวยแล้วยัง ต้องสะท้อนถึงความแข็งแรงคงทนและมีความปลอดภัยต่อการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ 3. มีประโยชน์กับการใช้งานจริง จุดนี้เองที่จะทำให้คำว่า “สถาปัตยกรรมงานก่อสร้าง” ไม่กลายเป็น เพียงแค่เรื่องความงามในแบบทัศนศิลป์แต่เพียงเท่านั้น หากแต่ยังคงเน้นไปถึงเรื่องของคุณ ประโยชน์ในการใช้งานจริง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 5
๓.๔ ภาพพิมพ์ เป็นผลงานการถ่ายทอดด้วยการพิมพ์จากแม่พิมพ์ งานภาพพิมพ์เกี่ยวข้องกับ การวาดเส้นสร้างสรรค์ เพราะมีลักษณะแสดงคุณค่าความงามของเส้น และค่าน้าหนักเช่นเดียวกับ งานวาดเส้นสร้างสรรค์ กลวิธี การสร้างงานภาพพิมพ์มี 4 วิธี คือ การพิมพ์ผิวนูน การพิมพ์ร่องลึก การพิมพ์พืนราบ และการพิมพ์ฉลุ ๔.งานทัศนศิลป์และสิ่งแวดล้อม งานทัศนศิลป์กับสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ สิ่งแวดล้อม หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์ สร้างขึ้น ประกอบด้วยสิ่งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันอย่างแนบแน่นและเป็นประโยชน์ ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ มนุษย์มีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมอย่างแนบแน่นในอดีตปัญหาเรื่องความสมดุลยของธรรมชาติตามระบบนิเวศยัง ไม่เกิดขึ้นมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากผู้คนในยุคต้น ๆ นั้น มีชีวิตอยู่ใต้อิทธิพลของธรรมชาติ ความเปลี่ยนแปลงทางด้าน ธรรมชาติและสภาวะแวดล้อมเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงอยู่ในวิสัยที่ธรรมชาติสามารถปรับดุลยของตัวเองได้ กาลเวลาผ่านมาจนกระทั้งถึงระยะเมื่อไม่กี่สิบปีมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษที่ผ่านมา (ระยะสิบปี) ซึ่งเรียกกัน ว่า “ทศวรรษแห่งการพัฒนา” นั้น ปรากฏว่าได้เกิดมีปัญหารุนแรงด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในบางส่วนของโลกและปัญหา ดังกล่าวนี้ ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกันในทุกประเทศทั้งที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เช่น - ปัญหาทางด้านภาวะมลพิษที่เกี่ยวกับน้ำ - ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมสลายและหมดสิ้นไปอย่างรวดเร็ว เช่น น้ำมัน แร่ธาตุ ป่าไม้ พืช สัตว์ ทั้งที่เป็นอาหารและที่ควรจะอนุรักษ์ไว้เพื่อการศึกษา - ปัญหาที่เกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานและชุมชนของมนุษย์ เช่น การวางผังเมืองและชุมชนไม่ ถูกต้อง ทำ ให้เกิดการแออัด ใช้ทรัพยากรผิดประเภทและลักษณะ ตลอดจนปัญหาแหล่งเสื่อมโทรมและปัญหาจากของเหลือทิ้ง อันได้แก่มูลฝอย จนถึงภาวการณ์ปัจจุบันได้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) คือ การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นจากผลของภาวะเรือนกระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า Greenhouse Effect โดยภาวะโลกร้อน ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ, การขนส่ง และการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้นมนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์ และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อมๆ กับ การที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาลเพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ ทำให้กลไกในการดึงเอาก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลง และในที่สุดสิ่งต่างๆ ที่เราได้กระทำต่อ โลกได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของ ภาวะโลกร้อน งานทัศนศิลป์และสิ่งแวดล้อมมีส่วนสัมพันธ์กันอย่างแยกกันไม่ออกเพราะมีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมนุษย์เราจึง สร้างสรรค์งานศิลป์เลียนแบบธรรมชาติที่ได้มองเห็นจนเกิดความซาบซึ้งในความงามก่อให้เกิดสุนทรียภาพ สร้างสรรค์งานศิลปะที่งดงาม เพื่อประโยชน์ทางด้านจิตใจและประโยชน์ใช้สอย ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 6
๕.ทัศนศิลป์กับสุนทรียภาพ เป็นการรับรู้คุณค่าความงาม ความประณีตและเรื่องราวต่างๆจากการมองเห็นโดยตรง คุณค่าที่รับรู้ คือ รูปทรง และเรื่องราวที่เกิดจากทัศนธาตุ ได้แก่ เส้น สีแสงเงา พื้นผิว ความกลมกลืน ซึ่งเป็นส่วน ประกอบของความงามทัศนศิลป์นั่นเอง การที่มนุษย์เกิดความรู้สึกซาบซึ้ง หรือรับรู้คุณค่าของสิ่งที่ งาม ความประณีต และเรื่องราวต่างๆ ถือว่าได้รับสุนทรียภาพของสิ่งนั้นแล้ว คืนที่มีดาวพราวฟ้า” Visual Language : The Starry Night มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอเนื้อหา ของภาษาภาพ ที่มนุษย์ใช้สื่อสาร สร้างความเข้าใจร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 7
๖.คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ทัศนศิลป์เป็นศิลปะที่รับรู้ได้ด้วยสายตา การรับรู้ทางการมองเห็นในแขนงจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ทำให้เกิดแรงกระตุ้นและตอบสนองทางด้านจิตใจพร้อมกันนั้นจิตใจของมนุษย์ก็ เป็นตัวแปรค่าและกำหนดความงาม ความประณีต เรื่องราว และประโยชน์ต่อสังคมมนุษย์ การรับ รู้คุณค่าของสิ่งเหล่านี้ รับรู้ได้ด้วยอารมณ์ ความรู้สึกของแต่ละบุคคล ความงามและเรื่องราวจะเกิดมี คุณค่าก็เพราะการรับรู้ทางการมองเห็น เกิดความรู้สึกประทับใจ มีความอิ่มเอิบใจในคุณค่านั้นๆ สำหรับงานทัศนศิลป์ไม่ว่ารูปแบบใดย่อมมีคุณค่าในตัวของผลงานเอง ผลงานทัศนศิลป์สามารถ แบ่งการรับรู้คุณค่าได้ 2 คุณค่าคือ ๑. คุณค่าทางความงาม (Aesthetic Value) เป็นการรวบรวมในเรื่องของความประณีต ความละเอียด มีระเบียบ น่าทึ่ง มโหฬาร ประหลาด แปลกหูแปลกตา และเป็นสิ่งที่มีคุณงามความดี ทำให้ผู้เห็นเกิดความประทับใจไปอีกนาน สิ่งเหล่านี้ รวมเรียกว่าคุณค่าทางความงาม โดยเกณฑ์ของความงามที่อยู่ในงานทัศนศิลป์ ซึ่งสามารถรับรู้และ ยอมรับได้โดยทั่วไป เป็นการประสานกันของส่วนประกอบต่างๆของความงาม เช่นจุด เส้น รูปร่าง รูปทรง สี แสงเงา พื้นผิว ความกลมกลืน และการจัดภาพ เป็นต้น โดยผู้สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์จะ แสดงออกตามความรู้สึกในแต่ละเหตุการณ์แต่ละสังคม เพราะความงามของแต่ละสังคมย่อมมีความ แตกต่างขึ้นอยู่กับสภาพของสังคม และวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ ๒. คุณค่าทางเรื่องราว (Content Value) เป็นการแสดงลักษณะบ่งบอกถึงความหมายเรื่องราวความเกี่ยวข้องและจุดประสงค์แฝงอยู่ในผล งาน สามารถบอกเนื้อหาสาระสำคัญว่ามีอะไร จะต่อไปอย่างไร เพราะทัศนศิลป์แต่ละชิ้นบอกเรื่อง ราวต่างๆอยู่ในตัวเอง จึงมองเห็นและเข้าใจได้ง่ายกว่าคุณค่าทางด้านความงาม ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 8
1.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เรียนรู้ถึงส่วนประกอบอันเป็นพื้นฐานของ ศิลปะ คือ ทัศนธาตุ 2. นําความรู้เรื่ององค์ประกอบศิลป์มาสร้างเป็นผลงานศิลปะได้ 3. มีความรู้ความเข้าใจในความหมายและคุณค่าของศิลปะ 4. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ ในการ แสดงออกทางความคิด สื่อความรู้สึก จินตนาการ ความประทับใจ อย่างสร้างสรรค์ 5. มีความรู้ความเข้าใจในความหมายของการวาดเส้น 6. เรียนรู้หลักและเทคนิควิธีการสร้างสรรค์งานวาดเส้น 7.เข้าใจหลักและขั้นตอนในการวาดเส้นตลอดจนสามารถนําไป สร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะ ได้อย่างสมบูรณ์ 8. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องทฤษฎีสี 9. มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้สีประเภทต่างๆ 10.เรียนรู้หลักและเทคนิควิธีการสร้างสรรค์การใช้วัสดุอุปกรณ์ของ สีแต่ละประเภท ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 9
ผู้พัฒนา เด็กหญิง ศุภกาญจน์ รุ่งรวมกิจ มัธยมศึกษาปีที่1/1 เลขที่12 โรงเรียนเซนต์ยอเเซฟสกลนคร ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทัศนศิลป์ | 9
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: