แบบทดสอบ ก่อนการเรียนรู้
คาชี้แจง: ทำเคร่ืองหมำย X ใหต้ รงกบั คำตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ุด ลงในกระดำษคำตอบ 1. “ ควำมปลอดภยั ” หมำยถึง ? ก. กำรปรำศจำกภยั หรือนั ตรำย ข. ไม่เกิดอุบตั ิเหตุ ไม่มีกำรบำดเจบ็ ค. ทรัพยส์ ินไม่เสียหำย ง. ท้งั หมดทกี่ ล่ำวมำ 2. ภำพใดต่อไปน้ีแสดงเหตุกำรณ์เกือบเกิดอบุ ตั ิเหตุ ข. ก. ค. ง. 3. สญลกั ษณ์น้ีหมำยถึง ก. ระวงั สง่ิ กีดขวาง ข. ห้ามวงิ่ ในพืน้ ท่ีปฎบิ ตั งิ าน ค. ระวงั พืน้ ล่ืน ง. ระวงั การยกเคล่ือนย้ายสง่ิ ของ 4. สัญลกั ษณ์น้ีหมำยถึง ก. ห้ามสบู บหุ ร่ี ข. ห้ามเกิดเพลงิ ไหม้ ค. ห้ามจดุ ไฟ ง. ระวงั สารไวไฟ
5. ถ่ำนไฟฉำยจดั เป็นขยะประเภทใด ก. ขยะทว่ั ไป ข. ขยะเปี ยก ค. ขยะรีไซเคิล ง. ขยะอนั ตรำย 6. ฟอร์ยท่ปี นเปื อนเศษอำหำรควรทิง้ ใส่ถงั ขยะสีอะไร ก. ถงั สีเขียว ข. ถงั สีน้ำเงิน ค. ถงั สีเหลือง ง. ถงั สีแดง 7. ขอ้ ใดคือ อนั ตรำยจำกงำนเช่ือม 1.อนั ตรำยจำกแสงจำกกำรเช่ือม 2.อนั ตรำยจำกฟูมและก๊ำซ 3.อนั ตรำยจำกกระแสไฟ 4. อนั ตรำยจำกเสียงดงั ก. 1 และ 2 ถูก ค. 3 และ 4 ถูก ข. 2 และ 3 ถูก ง . 1,2,3 ถูก 8. ขอ้ ใดคือกำรทำงำนกบั รถโฟลคลฟิ ตอ์ ยำ่ งปลอดภยั ก. ขบั รถลงทำงลำด ตอ้ งถอยหลงั ลงดว้ ยเกียร์ต่ำ ข. สำมำรถโดยสำรรถโฟลคลิฟตไ์ ดใ้ นระยะทำงทก่ี ำหนดเท่ำน้นั ค. ไม่ว่ำจะบรรทกุ ของอยหู่ รือไม่ ในระหว่ำงขบั รถจะตอ้ งยกงำสูงจำกพ้นื ไม่เกิน 30 ซม.เพือ่ ให้ เห็นทำงขำ้ งหนำ้ สะดวก ง. พนกั งำนที่มีใบขบั ขี่รถยนตส์ ำมำรถขบั รถโฟลคลฟิ ตไ์ ด้
9. ขอ้ ใดต่อไปน้ีจดั เป็นที่อบั อำกำศท้งั หมด ก. ถ้ำ / บ่อ / สระน้ำ ข. อโุ มงค์ / ท่อ / เตำ ค. หอ้ งใตด้ ิน / สระน้ำ / ไซโล ง. หอ้ งใตด้ ิน / โกดงั เก็บของ / เขื่อนเก็บน้ำ 10. ขอ้ ใดคือ อนั ตรำยในพ้ืนท่ีอบั อำกำศ ก. ขำดออกซิเจน ข. สมั ผสั ก๊ำซพษิ ไอระเหย ฝ่นุ พิษจำกงำนทปี่ ฎิบตั ิ ค. เกิดไฟไหมแ้ ละกำรระเบิดได้ ง. ท้งั หมดที่กล่ำวมำ 11. เม่ือตอ้ งทำงำนประเภทงำนเจียร์หรือเชื่อมโลหะ ควรทำอยำ่ งไรถึงจะปลอดภยั มำกท่ีสุด ก. สวมแว่นตำนิรภยั และถุงมือยำงอยำ่ งดี ข. สวมถุงมือหนงั และแว่นตำนิรภยั ท่ีเหมำะสม ค. สวมหนำ้ กำกกนั กลิ่นสำรระเหยและหมวกนิรภยั ง. สวมรองเทำ้ เซฟต้ีและถุงมือผำ้ อยำ่ งดี 12. ขอ้ ใดต่อไปน้ีถูกตอ้ งเม่ือปฏิบตั ิงำนกบั สำรเคมี 1. ผปู้ ฏิบตั ิงำนตอ้ งทรำบชนิดและอนั ตรำยของสำรเคมีน้นั 2. สวมชุดทีเ่ หมำะสมไม่สวมใส่กำงเกงขำส้นั 3. สวมใส่อุปกรณ์ป้องกนั ภยั ส่วนบุคคลใหถ้ ูกตอ้ ง เช่น ถุงมือผำ้ 4. หำ้ มทำใหเ้ กิดประกำยในพ้นื ท่กี ำรทำงำน ก. 1 และ 2 ถูกตอ้ ง ค. 1,2,4 ถูกตอ้ ง ข. 1,2,3 ถูกตอ้ ง ง. 1,2,3,4 ถกู ตอ้ ง
13. ใครต่อไปน้ีปฏิบตั ิงำนท่มี ีกำรใชเ้ ครนโดยไม่ควำมปลอดภยั ก. นำย A ตรวจควำมพร้อมของเครนก่อนกำรเร่ิมงำนในทกุ วนั ข. นำย B ใชเ้ ครนยกของต่ำกวำ่ พกิ ดั น้ำหนกั ทกี่ ำหนดไว้ ค. นำย C ใชเ้ ครนเคลื่อนยำ้ ยพำเลทดว้ ยควำมเร็วเนื่องจำกมีควำมชำนำญ ง. นำย D ไดบ้ อกใหเ้ พ่ือนร่วมงำนทไ่ี ม่เก่ียวขอ้ งออกนอกพ้นื ทกี่ ่อนเร่ิมทำงำน 14. ขอ้ ใดกล่ำวถูกตอ้ งเก่ียวกบั งำนที่ตอ้ งใช้ Log out Tag out ก. ติดป้ำยไวท้ ่ีจุดลอ็ ค โดยใชส้ ำยรัดท่ีไม่สำมำรถถอดออกไดโ้ ดยง่ำย ข. ไม่ควรถอดอปุ กรณ์ลอ็ คออกจนกว่ำผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมำยเขำ้ ทำกำรตรวจสอบ ค. กำรแขวนป้ำย ก่อนเขำ้ ไปปฏิบตั ิงำนภำยในเคร่ืองจกั ร ใหแ้ ขวน Tag ท่ี ตะขอ ดว้ ย ตนเองทกุ คร้ัง หำ้ มใหค้ นอ่ืนแขวนให้ ง. ถูกท้งั หมดท่ีกล่ำวมำ 15. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั โรคจำกกำรทำงำน ก. โรคทท่ี ำงำนแลว้ ทำใหเ้ กิดโรคข้ึน ถำ้ ไม่ทำงำนจะไม่เป็นโรคน้ี ข. คนทจ่ี ะบอกไดว้ ่ำโรคเหล่ำน้ีมีสำเหตุเกิดจำกกำรทำงำนหรือไม่คือแพทยอ์ ำชีวเวช ศำสตร์ ค. โรคปอดฝ่นุ หิน จดั ว่ำเป็ นโรคจำกกำรทำงำน ง. โรคเก๊ำต์ จดั วำ่ เป็นโรคจำกกำรทำงำน 16. ขอ้ ใดคือ องคป์ ระกอบของกำรเกิดไฟ ก. เช้ือเพลิง / ควำมร้อน / คำร์บอนไดออกไซด์ ข. เช้ือเพลิง / ควำมร้อน / คำร์บอนมอนอออกไซด์ ค. เช้ือเพลิง / ควำมร้อน / ออกซิเจน ง. เช้ือเพลิง / ควำมร้อน / ซลั เฟอร์ไดออกไซด์
17. ไฟทเ่ี กิดจำกกำรลุกไหมข้ อง น้ำมนั เช้ือเพลิง ก๊ำซ หรือของเหลวไวไฟ จดั เป็นไฟ ประเภทใด ก. ประเภทที่ 1 class A ข. ประเภทท่ี 2 class B ค. ประเภทท่ี 3 class C ง. ประเภทที่ 4 class D 18. ขอ้ ใดกล่ำวถูกตอ้ งเก่ียวกบั คุณสมบตั ิของถงั ดบั เพลิง ก. ถงั ดบั เพลิงชนิด เคมีแหง้ สำมำรถดบั เพลิงไดท้ กุ ประเภท ข. ถงั ดบั เพลิงชนิด CO2สำมำรถดบั เพลิงไดท้ กุ ชนิด ค. ถงั ดบั เพลิงชนิด เคมีแหง้ ใชด้ บั เพลิงไดเ้ ฉพำะเพลิงประเภท A,B,C เทำ่ น้นั ง. ถงั ดบั เพลิงชนิด CO2ใชด้ บั เพลิงไดเ้ ฉพำะเพลิงประเภท A,B,C เทำ่ น้นั 19. กำรกระทำของบุคคลใดต่อไปน้ี ไม่นบั วำ่ เป็นกำรปฏิบตั ิเพื่อเป็ นกำรป้องกนั กำรเกิด เพลิงไหม้ ก. นำย A สูบบหุ ร่ีเฉพำะพ้นื ทท่ี ี่กำหนดไวเ้ ท่ำน้นั ข. นำย B เทน้ำมนั เช้ือเพลิงท่ีไม่ใชแ้ ลว้ ลงรำงระบำยน้ำก่อนจะนำถงั ไปเกบ็ ในทจ่ี ดั เก็บ เพ่ือควำมปลอดภยั ค. นำย C ก้นั พ้นื ที่ทำงำนท่เี กิดควำมร้อนประกำยไฟ ใหห้ ่ำงจำกจุดท่เี กบ็ สำรไวไฟ ง. นำย D เก็บเศษขยะ เช่น กระดำษ เศษผำ้ ใส่ถงั ขยะใหเ้ รียบร้อย 20. ขอ้ ใดกล่ำวผดิ สำหรับกำรปฐมพยำบำลผไู้ ดร้ ับอนั ตรำยจำกสำรเคมีโดยกำรรับประทำน ก. ใหด้ ่ืม นม น้ำเปล่ำ หรือไข่ดิบ เพื่อลดอนั ตรำกำรซึมและทำใหส้ ำรเจือจำง ข. ในกรณีที่ด่ืมกรด ใหใ้ ชด้ ่ำง ทำใหเ้ ป็นกลำงเพอ่ื ลดกำรระคำยเคืองก่อน แลว้ จึงทำให้ อำเจียน ค. ใชย้ ำถ่ำยเพ่ือขบั สำรพิษออกจำกลำไส้ ง. กรณีผปู้ ่ วยชกั ใหร้ ีบลว้ งคอเพอื่ ทำใหอ้ ำเจียนเน่ืองจำกเป็นพิษทรี่ ุนแรงมำกตอ้ งรีบขบั ออกจำกร่ำงกำย
21. ขอ้ ใดกล่ำวถูกตอ้ งเกี่ยวกบั วธิ ีกำรปฐมพยำบำลผไู้ ดร้ ับบำดเจบ็ จำกไฟไหมน้ ้ำร้อนลวก ก. ไม่ควรใชย้ ำใดๆ ทำบนบริเวณบำดแผล ข. แผลที่เป็นตุ่มน้ำใส ใหเ้ จำะเพ่ือระบำยน้ำออก ค. ใหล้ ำ้ งทำควำมสะอำดบำดแผลดว้ ยน้ำเยน็ เพือ่ ลดอุณหภูมิที่ผวิ หนงั ง. ควรใชผ้ ำ้ สะอำดหนำๆ คลุมร่ำงกำยของผปู้ ่ วยเอำไวเ้ พือ่ ช่วยรักษำอุณหภมู ิของ ร่ำงกำย 22. นำย A ปฏิบตั ิงำนดว้ ยควำมไม่ระวงั ทำใหเ้ ศษฝ่ นุ เหลก็ กระเดน็ เขำ้ ตำ นำย A ควรทำ อยำ่ งไรถึงจะปลอดภยั ยกเว้นข้อใด ก. รีบใหเ้ พื่อนเขี่ยออกให้ ข. ลืมตำในน้ำสะอำด ค. หำ้ มบีบตำโดยเดด็ ขำด ง. ลำ้ งตำโดยเปิ ดน้ำไหลผำ่ นตำ 23. เมื่อพบผปู้ ระสบเหตุฉุกเฉินควรโทรขอควำมช่วยเหลือท่หี มำยเลขใด ก. 1996 ข. 1669 ค. 1112 ง. 1150 24. นำย B เกิดอบุ ตั ิเหตุระหว่ำงทำงำน ทำใหอ้ วยั วะบำงส่วนของร่ำงกำยฉีกและถูกตดั ขำด เพ่ือนร่วมงำนควรทำอยำ่ งไรเป็นอนั ดบั แรก ก. หำ้ มเลือดและโทรแจง้ หวั หนำ้ งำนแลว้ ค่อยนำส่งโรงพยำบำล ข. นำอวยั วะท่ขี ำดไปลำ้ งใหส้ ะอำดเพื่อป้องกนั กำรติดเช้ือจำกน้นั ใส่ถุงสะอำด แช่ลงลงั ที่มีน้ำแขง็ และนำส่งโรงพยำบำลไปพร้อมกบั นำย B ค. รีบพำไปหำหมอก่อนเพอ่ื รักษำชีวิตของเพื่อนร่วมงำน จำกน้นั ค่อยกลบั มำแจง้ หวั หนำ้ งำนทหี ลงั ง. ปฐมพยำบำลกนั เอง โดยไม่แจง้ หวั หนำ้ งำนเพ่ือไม่ใหเ้ ป็นเร่ืองใหญ่
25. แผนฉุกเฉินใดต่อไปน้ีเหมำะสมกบั ลกั ษณะงำนของบริษทั ก. สำรเคมีหกรั่วไหล / แก๊สรั่วไหล ข. สำรเคมีหกรั่วไหล / แก๊สรั่วไหล / น้ำเหลก็ หกร่ัวไหล ค. สำรเคมีหกรั่วไหล / แก๊สร่ัวไหล / น้ำเหลก็ หกรั่วไหล / กำรป้องกนั อคั คีภยั ง. สำรเคมีหกรั่วไหล / แก๊สร่ัวไหล / น้ำเหลก็ หกรั่วไหล / กำรป้องกนั อคั คีภยั / แผน่ ดินไหว - ขอขอบคุณในความร่วมมือ -
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: