Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 1 คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

หน่วยที่ 1 คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

Published by kantarutaimana, 2020-04-26 11:32:55

Description: หน่วยที่ 1 คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

Search

Read the Text Version

รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี รหัสวชิ า 20001-2001 ครูผ้สู อน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมทุ ร

หนว่ ยที่ 1 คอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ สาระการเรยี นรู้ 1. ตน้ กำเนดิ ของคอมพิวเตอร์ 2. ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 3. บิดาแหง่ คอมพวิ เตอร์ 4. โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก 5. ยุคของคอมพิวเตอร์ 6. ประเภทของคอมพวิ เตอร์ 7. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 8. ลักษณะสำคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศ 9. องค์ประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ 10.ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ต้นกำเนดิ ของคอมพิวเตอร์ ในอดตี มนษุ ยม์ คี วามพยายามที่จะสร้างเทคโนโลยดี ้านการคำนวณมาช่วยในการทำงานของตนเองเร่ิม ต้งั แตเ่ มอ่ื มนษุ ย์รจู้ ักการนับจำนวนการมนุษย์กใ็ ชน้ ว้ิ มอื และนิ้วเทา้ ของตนเพื่อชว่ ยในการนับและตอ่ มาก็ใช้ อปุ กรณ์อ่นื ๆชว่ ยในการคำนวณ เช่น ลกู หนิ เปน็ ต้น การพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาชว่ ย จากหลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตรพ์ บว่า ชาวจีนในสมยั โบราณไดพ้ ัฒนาเครือ่ งมือทช่ี ว่ ยในการคำนวณขึน้ มาชนดิ หนึง่ เรียกว่า ลูกคิด ซึง่ ในปัจจุบันกย็ งั มีใชก้ ันอยใู่ นหม่ขู องชาวจนี ลกู คิดทช่ี าวจีนพัฒนา มีหลกั การทำงานที่ไมซ่ ับซ้อนอะไรเลย แต่สามารถช่วยในการคำนวณเลขได้เป็น อย่างดี ลกู คิดจงึ ไดช้ ือ่ ว่าเปน็ อปุ กรณใ์ ช้ช่วยการคำนวณท่เี ก่าแกท่ ่สี ดุ ในโลกและคงยังใชง้ านมาจนถึงปจั จบุ ัน รายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 ครผู สู้ อน นางสาวกันตฤทัย ยอดสมทุ ร

พ.ศ. 2158 จอหน์ เนเปยี ร(์ John Napier) นกั คณิตศาสตร์ชาวสกอ็ ตแลนดป์ ระดษิ ฐอ์ ปุ กรณ์ช่วยการ คำนวณ เรียกวา่ แทง่ เนเปียร์ (Napier's rod) เปน็ อุปกรณ์ที่ลักษณะคล้ายกับตารางสูตรคูณในปจั จบุ นั เครอื่ งมอื ชนิดนช้ี ว่ ยให้ สามารถ ทำการคูณและหาร ได้ ง่ายเหมอื นกับทำการบวก หรือลบโดยตรง แท่งเนเปียร์ (Napier's rod) พ.ศ.2173 วิลเลยี ม ออตเทรต( William Oughtred) นักคณิตศาสตรช์ าวองั กฤษได้ ไมบ้ รรทัดคำนวณ ( Slide Rule) ประดิษฐไ์ ม้บรรทดั คำนวณ ( Slide Rule) ซ่ึง กลายเปน็ พื้นฐานของการสร้างคอมพิวเตอร์แบบ อนาลอกในยุคต่อมา พ.ศ.2185 เบลส์ ปาสคาล ( Blaise Pascal) นกั คณติ ศาสตร์ชาวฝรัง่ เศสได้ประดิษฐเ์ คร่อื งบวกลบขน้ึ โดยใช้หลกั การหมนุ ของเฟือง และการทดเลขเมือ่ เฟือง หมนุ ไปครบรอบ โดยแสดงตัวเลขออกทีห่ นา้ ปดั เครื่องมอื ของปาสคาล สามารถใชไ้ ด้ดใี นการคำนวณการ เคร่อื งบวกลบ (Pascal’s Calculato) บวกและลบ สว่ นการคูณและหารยงั ไมด่ ีเท่าท่คี วร พ.ศ. 2216 กอดฟรดี ไลปนิซ (Gottfried Wilhelm Leibniz) นกั คณิตศาสตร์ชาวเยอรมัน ทำการปรับปรงุ เคร่อื งคำนวณของปาสกาลใหส้ ามารถคณู และหารได้ ในปี 1673 โดยการปรบั ฟันเฟืองใหด้ ขี ึน้ กวา่ ของปาส กาล ใช้การบวกซ้ำ ๆ กันแทนการคูณเลข จึงทำให้ สามารถทำการคูณและหารไดโ้ ดยตรง ซึง่ อาศยั การ หมุนวงลอ้ ของเคร่อื งเอง ยังค้นพบเลขฐานสอง (Binary Number) คือ เลข 0 และเลข 1 ซ่งึ เป็นระบบเลขที่ เหมาะในการคำนวณ แตต่ วั เคร่ืองคำนวณยังคงอาศยั การหมนุ วงล้อของเครือ่ ง นบั ว่า เป็นเครอ่ื งมือทีช่ ว่ ยให้ การคำนวณทางคณิตศาสตร์ทดี่ ูย่งุ ยากกลบั เป็นเร่อื งที่ ง่ายข้ึน รายวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี รหสั วชิ า 20001-2001 ครูผู้สอน นางสาวกนั ตฤทัย ยอดสมุทร

พ.ศ.2348 โจเซฟ แมรี่ แจคคารด์ ( Joseph Marie เคร่อื งทอผ้าใช้บตั รเจาะรู Jacquard) ชาวฝร่ังเศสพัฒนาเครอื่ งทอผ้าโดยใช้ บัตรเจาะรใู นการบันทึกคำส่ัง ควบคมุ เครื่องทอผา้ ให้ทำ ตามแบบท่ีกำหนดไว้ และแบบดงั กลา่ วสามารถนำมา สร้างซ้ำๆ ได้อีกหลายคร้ัง เคร่อื งทอผา้ เครื่องนถ้ี อื วา่ เปน็ เครื่องท่ที ำงานตามโปรแกรมคำส่งั เป็นเครอื่ งแรก บตั รเจาะรู พ.ศ.2365 ชารลส์ แบบเบจ ( Charles เครื่องหาผลต่าง ( Difference Engine) Babbage) นกั คณิตศาสตร์ชาวอังกฤษได้ ประดษิ ฐเ์ คร่ืองมือที่เรยี กว่าเครือ่ งหาผลตา่ ง ( Difference Engine) เพอ่ื ใชค้ ำนวณและพิมพ์ ค่า ทางตรีโกณมิตแิ ละฟงั ก์ชันทางคณิตศาสตร์ และ ได้พยายามสรา้ ง เคร่อื งคำนวณอีกชนิดหนง่ึ เรยี กว่า Analytical Engine โดยมแี นวคดิ ใหแ้ บง่ การทำงานของเครื่องออกเปน็ 3 ส่วนคอื ส่วน เก็บขอ้ มลู (Store unit), ส่วนควบคุม (Control unit) และส่วนคำนวณ (Arithmetic unit) ซ่งึ แนวคิดนี้ไดร้ บั การนำมาใช้เปน็ ต้นแบบของเครือ่ ง คอมพวิ เตอรใ์ นปจั จุบัน จงึ ยกยอ่ งว่าชารลส์ แบบ เบจ เปน็ บิดาแหง่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เลดี้ เอดา ออคุสตา เลฟเลค ( Lady Ada Augusta Lovelace ) เป็นนกั คณติ ศาสตร์ทีส่ ามารถเขียน วธิ กี ารใช้เครื่องคำนวณของชารลส์ แบบเบจ เพื่อแก้ปัญหาทางคณติ ศาสตรไ์ ด้ เลด้ี เอดา ออคสุ ตา เลฟ เลค จงึ ไดร้ บั การยกยอ่ งว่าเป็นโปรแกรมเมอรค์ นแรกของโลก รายวชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี รหสั วชิ า 20001-2001 ครผู ้สู อน นางสาวกนั ตฤทัย ยอดสมทุ ร

ยคุ ของคอมพิวเตอร์ ยุคของคอมพวิ เตอร์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 5 ยุค ดังนี้ คอื คอมพวิ เตอร์ยคุ ท่ี 1 อย่รู ะหวา่ งปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เปน็ คอมพิวเตอร์ทใี่ ชห้ ลอดสญุ ญากาศซึ่งใช้กำลงั ไฟฟ้าสูง จึง มปี ัญหาเรอื่ งความรอ้ นและไส้หลอดขาดบอ่ ย ถึงแมจ้ ะมีระบบระบายความรอ้ นท่ดี มี าก การสงั่ งานใช้ ภาษาเครอ่ื งซึ่งเป็นรหัสตวั เลขทย่ี ุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพวิ เตอร์ของยคุ น้มี ขี นาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนแิ วค (UNIVAC) มาร์ค วัน อินแิ อค ยูนแิ วค รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี รหสั วชิ า 20001-2001 ครผู ูส้ อน นางสาวกนั ตฤทัย ยอดสมุทร

คอมพิวเตอร์ยุคท่ี 2 คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษา ระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสงู นไ้ี ดม้ ีการพัฒนาและใช้งานมาจนถงึ ปจั จบุ นั คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้ เครือ่ งคอมพวิ เตอรจ์ ะออกแบบซับซ้อนมากข้ึน และสามารถสรา้ งเปน็ โปรแกรมย่อย ๆ ในการกำหนด ชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการ ทำงานใหก้ ับงานหลาย ๆ อยา่ ง รายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี รหัสวิชา 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกันตฤทัย ยอดสมทุ ร

คอมพวิ เตอรย์ ุคท่ี 4 คอมพิวเตอรย์ ุคทส่ี ี่ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2513 จนถงึ ปจั จุบนั เป็นยคุ ของคอมพิวเตอรท์ ่ีใชว้ งจรรวมความจุสูง มาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่น นับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพา เหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้น มาก มโี ปรแกรมสำเร็จใหเ้ ลอื กใชก้ นั มากทำใหเ้ กิดความสะดวกในการใชง้ านอย่างกว้างขวาง คอมพิวเตอรย์ ุคท่ี 5 คอมพิวเตอร์ยุคทหี่ ้า เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ีม่ นุษยพ์ ยายามนำมาเพอ่ื ชว่ ยในการตัดสนิ ใจและแก้ปัญหาให้ ดียง่ิ ขนึ้ โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ไว้ในเครือ่ ง สามารถเรียกคน้ และดึงความร้ทู ส่ี ะสมไว้ มาใชง้ านให้เปน็ ประโยชน์ คอมพวิ เตอรย์ ุคนี้เปน็ ผลจากวชิ าการด้านปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ท่วั โลกไมว่ า่ จะเป็นสหรัฐอเมรกิ า ญ่ีปนุ่ และประเทศในทวีปยุโรป กำลงั สนใจค้นคว้าและพฒั นาทางดา้ นนี้กันอย่างจรงิ จัง รายวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ รหสั วิชา 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกันตฤทยั ยอดสมุทร

ประเภทของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์สามารถจำแนกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของขนาดเครื่อง ความเร็ว ในการประมวลผล และราคาเป็นข้อพิจารณาหลัก โดยทั่วไปนิยมจำแนกประเภท คอมพิวเตอร์ เป็น 4 ประเภทดงั นีค้ อื ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) คอมพิวเตอร์เมนเฟรม ( mainframe computer) ม ิ น ิ ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร ์ ( minicomputer) ไ ม โ ค ร ค อ ม พ ิ ว เ ต อ ร์ (microcomputer) ซ่งึ มีรายละเอียดดงั ซเู ปอร์คอมพวิ เตอร์ (supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด จึงราคาแพงมาก ความสามารถในการ ประมวลผลที่ทำได้ มากกว่า พันล้านคำสั่งต่อวินาที ตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น การพยากรณอ์ ากาศการทดสอบ ทางอวกาศ และงานอืน่ ๆ ทมี่ กี ารคำนวณทซ่ี ับซ้อน คอมพวิ เตอร์เมนเฟรมหรือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (mainframe computer) เป็นคอมพวิ เตอรท์ มี่ ีประสิทธภิ าพรองจากซเู ปอร์คอมพิวเตอร์ สามารถรองรบั การทำงานจากผ้ใู ช้ได้ หลาย รอ้ ยคนในเวลาเดยี วกนั ประมวลผลด้วยความเรว็ สูง มีหน่วยความจำหลักขนาดใหญ่ ตลอดจน การจดั เก็บข้อมูล ได้เป็นจำนวนมาก คอมพิวเตอร์เมนเฟรม นิยมใชก้ ับองคก์ ารขนาดใหญท่ ่ีมีการ เข้าถงึ ข้อมลู ของผู้ใช้จำนวน มากในเวลาเดียวกนั เช่น งานธนาคาร การจองตวั๋ เคร่ืองบนิ การ ลงทะเบียนและการตรวจสอบผลการเรียน ของนักศกึ ษา เป็นต้น รายวชิ าคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ รหสั วิชา 20001-2001 ครูผู้สอน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมุทร

มินคิ อมพวิ เตอร์ หรอื คอมพวิ เตอร์ขนาดกลาง (minicomputer) เป็นคอมพิวเตอรท์ ี่มีประสทิ ธิภาพในการทำงานนอ้ ยกว่า เมนเฟรมแต่สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ และ สามารถ รองรับการทำงาน จากผู้ใช้ได้หลายคนในการทำงาน ที่แตกต่างกัน จากจุดเริ่มต้นใน การ พัฒนา ที่ต้องการให้ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำงานเฉพาะอย่าง เช่น การคำนวณทางด้านวิศวกรรม ทำให้การพัฒนามินคิ อมพิวเตอร์ เจริญอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันธรุ กิจและองค์การหลายประเภทนยิ มนำ มินิคอมพิวเตอร์มา ใช้ในการให้บริการข้อมูลแก่ ลูกค้า เช่น การจองห้องพักของโรงแรม การทำงาน ดา้ นบัญชีขององคก์ ารธุรกจิ เปน็ ตน้ ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้แพร่หลายมากที่สุด ส่งผลให้การพัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มี ลักษณะและรูปแบบ ที่แตกต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ( desktop computer ) คอมพิวเตอร์ พกพา ( portable computer ) ซงึ่ มีรายละเอียดดงั นี้ รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ รหสั วิชา 20001-2001 ครผู ูส้ อน นางสาวกนั ตฤทัย ยอดสมทุ ร

ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยี (Technology) คือการประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิด ประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องการผลิต การสร้างวิธีการดำเนินงาน และรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้มีใน ตามธรรมชาติโลกแห่งเทคโนโลยียุคน้ี ทำให้มนุษย์ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกจากเทคโนโลยีมา ประยกุ ต์ใชก้ บั การดำเนินชีวติ ประจำวันมากมายนบั ไมถ่ ว้ น สารสารเทศ(Information) คอื ผลลัพธ์ทเ่ี กิดจากการประมวลผลขอ้ มูลดิบ (Rau data) ด้วย การรวบรวมขอ้ มูลจากแหลง่ ต่างๆ และนำมาผ่านกระบวนการประเมนิ ผล ไม่ว่าจะเป็นการจดั กล่มุ ข้อมลู การเรียงลำดับขอ้ มลู การคำนวณและสรุปผล จากนัน้ กน็ ำมาเสนอในรูปแบบของรายงานท่ี เหมาะสมตอ่ การใช้งานทก่ี ่อเกิดประโยชนก์ ารดำเนินชวี ิตของมนุษย์ ไม่วา่ จะเปน็ ดา้ นของ ชีวิตประจำวนั ข่าวสาร ความรดู้ ้านวชิ าการ ธุรกิจ เมื่อนำคำว่า เทคโนโลยี และ สารสนเทศ รวมเข้าไว้ด้วยกันแล้ว จึงสรุป ความหมายโดยรวมได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ( Information technology ) คือการประยุกต์ ความรู้ทางด้านวิทยาสาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการ โดยอาศัยเคร่ืองมือทางเทคโนโลยี ใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีด้านเครือข่ายโทรคมนาคมและการ สื่อสาร ตลอดจนอาศัยความรู้ในกระบวนการดำเนินงานสารสนเทศในขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การ แสวงหา การวเิ คราะห์ การจดั เก็บ รวมถึงการจัดการเผยแพร่และแลกเปล่ยี นสารสนเทศด้วย เพ่ือ เพมิ่ ประสิทธภิ าพความถกู ต้องแม่นยำ และความรวดเร็วทันตอ่ การนำมาใชป้ ระโยชน์ได้น่นั เอง การแสวงหา การวิเคราะห์และการจัดเก็บข้อมูล จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีทางด้าน คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดความรวดเร็วและแม่นยำ ในทำนองเดียวกันเทคโนโลยีทางด้าน เครือข่ายการสื่อสารและโทรคมนาคมสามาชว่ ยในการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนสารสนเทศทำได้ทั่วถงึ มากยิง่ ข้นึ เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายท่ีกว้างขวางมาก นักศึกษาจะได้พบส่ิงรอบๆ ตัวท่ี เกย่ี วกบั สารสนเทศอย่มู าก ดังนี้ 1. การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ นักเรียนอาจเห็น พนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ในการ สอบแข่งขันที่มีสอบจำนวนมาก ก็มีการใช้ดินสอระบายตามช่องที่เลือกตอบ เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บ รวบรวมข้อมูลได้ เม่อื ไปซอ้ื สนิ ค้าท่ีหา้ งสรรพสินค้ากม็ ีการใช้รหัสแท่ง ( Bar code ) พนักงานจะนำสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องเพื่อข้อมูลการสินค้าที่บรรจุในรหัสแท่ง เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกัน การใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บ รวบรวม รายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี รหสั วชิ า 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกันตฤทัย ยอดสมุทร

2. การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเกบ็ ในสื่อต่างๆ เช่น ผ่านบันทกึ แผ่นซดี ีหรอื เทป เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม เรยี งลำดบั ขอ้ มลู คำนวณ หรือจดั การคดั แยกข้อมลู ทจี่ ัดเกบ็ เหลา่ นน้ั 3. การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดง เป็นตวั หนงั สือ เปน็ รปู ภาพ ตลอดจนพมิ พอ์ อกมาที่กระดาษ การแสดงผลลพั ธม์ ีทง้ั แสดงเปน็ ภาพ เปน็ เสียง เปน็ วดี ีทัศน์ เปน็ ตน้ 4. การทำสำเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ การทำสำเนาจะทำได้ ง่ายและทำได้เป็นจำนวนมาก ดงั น้นั อุปกรณช์ ว่ ยในการทำสำเนา จดั ได้วา่ เปน็ เทคโนโลยสี านสนเทศที มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทาง อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น จานบนั ทกึ ซีดรี อม ซึ่งสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก 5. การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวีการจัดส่งข้อมูลจากที่หนึ่ง หรือ กระจ่ายออกไปยัง ปลายทางครั้งละมากๆ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภทตั้งแต้โทรเลข โทรศัพท์ เส้นใยนำแสง เคเบิลใต้นำ้ คลนื่ วิทยุไมโครเวฟและดาวเทียม เปน็ ตน้ รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหัสวชิ า 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกันตฤทยั ยอดสมุทร

ลกั ษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยพ้ืนฐานของเทคโนโลยยี ่อมมีประโยชน์ตอ่ การพัฒนาประเทศชาตใิ ห้เจริญกา้ วหน้าได้ แต่ เทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ เร่ืองทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับวถิ ีความเปน็ อยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลกั ษณะเดน่ ท่ี สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้ เทคโนโลยสี ารสนเทศชว่ ยเพ่มิ ผลผลติ ลดตน้ ทุน และเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกจิ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเปน็ ตอ้ งหาวธิ ีในการเพม่ิ ผลผลติ ลดตน้ ทุน และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการทำงานคอมพวิ เตอรแ์ ละระบบสือ่ สารเข้ามาช่วยทำให้ เกดิ ระบบอตั โนมตั ิ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเคร่อื งเอทเี อม็ ได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถ ให้บริการไดด้ ีขน้ึ ทำใหก้ ารบรกิ ารโดยรวมมีประสทิ ธิภาพ ในระบบการจดั การทุกแหง่ ตอ้ งใชข้ อ้ มูล เพ่อื การดำเนินการและการตัดสนิ ใจ ระบบธรุ กจิ จงึ ใช้เคร่อื งมอื เหล่านชี้ ่วยในการทำงาน เช่น ใชใ้ น ระบบจัดเก็บเงินสด จองต๋ัวเครอ่ื งบิน เปน็ ตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรปู แบบการบริการเป็นแบบกระจาย เม่อื มกี ารพัฒนาระบบขอ้ มูล และการใชข้ อ้ มลู ไดด้ ี การบรกิ ารตา่ ง ๆ จึงเนน้ รูปแบบการบริการแบบ กระจาย ผใู้ ชส้ ามารถสง่ั ซื้อสินคา้ จากท่บี ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษา บางมหาวทิ ยาลยั สามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากทีบ่ า้ นได้ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไทยมีระบบ ทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ใน องค์การทกุ ระดับเห็นความสำคญั ท่จี ะนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเก่ียวข้องกับคนทกุ ระดบั พฒั นาการดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทำใหช้ ีวติ ความเป็นอยขู่ องคนเกยี่ วข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็น ไดจ้ าก การพมิ พด์ ้วยคอมพวิ เตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อปุ กรณส์ อ่ื สารโทรคมนาคมแบบตา่ งๆ เป็นต้น รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี รหัสวิชา 20001-2001 ครผู ู้สอน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมุทร

องคป์ ระกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ในระบบสารสนเทศน้นั ประกอบดว้ ย 5 สว่ นหลักๆ ไดแ้ ก่ บคุ ลากร ข้ันตอนการทำงาน ฮารด์ แวร์ ซอฟตแ์ วร์ และข้อมูล 1) บุคลากร เปน็ องค์ประกอบท่สี ำคัญ เพราะบุคลากรที่มคี วามรู้ ความสามารถ และเขา้ ใจวธิ กี ารใน การดำเนินการ และจัดการเก่ียวกับสารสนเทศท้งั หมด บุคลากรจึงต้องมคี วามรู้ความเขา้ ใจในการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2) ขัน้ ตอนการทำงาน หมายถงึ ระเบียบวิธกี ารปฏิบัตงิ านในการจัดเก็บรักษาขอ้ มลู ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบที่ จะทำใหเ้ ป็นสารสนเทศได้ เช่น การกำหนดให้มีการปอ้ นขอ้ มูลทุกวัน การปรับปรุงแก้ไขข้อมูลให้ ถกู ตอ้ งอยู่เสมอ 3) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ หรือฮาร์ดแวร์ เปน็ อุปกรณ์ที่ประมวลผลข้อมูลเพ่ือสร้างขอ้ มูลสารสนเทศ ซึง่ ประกอบดว้ ยคีย์บอร์ด เมาส์ จอภาพ หน่วยระบบ และอปุ กรณ์อ่นื ๆ เคร่อื งคอมพิวเตอร์หรือ ฮารด์ แวร์ จะถูกควบคุมโดยซอฟต์แวรเ์ ป็นเคร่ืองมือทช่ี ว่ ยในการจดั การสารสนเทศ 4) ซอฟตแ์ วร์ หรอื โปรแกรมในระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) และซอฟทแ์ วรแ์ อพพลิเคช่ัน (Application Software) เปน็ ชดุ คำสัง่ ที่เรยี งเปน็ ลำดับ ขัน้ ตอน มหี น้าทสี่ ง่ั ใหเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอร์ทำงานตามวตั ถปุ ระสงค์ และประมวลผลเพื่อให้ได้สารสนเทศที่ ตอ้ งการ 5) ข้อมูล ข้อเท็จจริง หรอื เรื่องราวทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั บคุ คล วัตถหุ รือสถานที่ ข้อมลู มคี วามสำคัญอย่างย่ิง เพราะใช้เป็นเครอื่ งช่วยในการวางแผนงานการบริหารจดั การ ดังน้ันขอ้ มูลจะตอ้ งมีความถูกต้อง มี ความเท่ยี งตรง สามารถเช่ือถือได้ มคี วามเป็นปัจจุบัน สามารถตรวจสอบได้ และมีความสมบรู ณ์ ชัดเจน รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี รหสั วิชา 20001-2001 ครูผู้สอน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมุทร

ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ ปจั จุบนั คอมพิวเตอรแ์ ละระบบส่ือสารไดส้ ร้างประโยชนอ์ ยา่ งมากต่อวงการทางธุรกิจ ทำใหธ้ รุ กจิ มี การลงทุนขยายขอบเขตการให้บรกิ ารโดยใช้ระบบสารสนเทศกนั มาก กลไกลเหลา่ นี้ ทำให้โอกาสใน การขยายตวั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศกว้างขวางเพ่ิมขึ้น นอกจากน้ีการเชื่อโยงเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ทำให้สงั คมโลกเป็นแบบไร้พรมแดน การใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น อินเทอร์เนต็ มอี ัตราการ ขยายตวั สูงมาก ผคู้ นบนโลกสามารถตดิ ต่อส่ือสารกันผา่ นทางเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ไดห้ มด ผลกระทบในทางบวก ปจั จุบนั กำลงั กา้ วเข้าสู่การปฏวิ ตั เิ พื่อเข้าสูย่ คุ สารสนเทศ การสือ่ สารทีใ่ ห้ข่าวสารได้อยา่ งรวดเร็ว จนทำใหโ้ ลกมลี ักษณะที่ไรพ้ รมแดน สิง่ เหล่านจ้ี ะมผี ลกระทบในทางทด่ี ีหรือทางบวกตอ่ สังคมโดนตรง เชน่ 1.) ชว่ ยสง่ เสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยทำใหม้ นุษย์มคี วามเปน็ อยู่ดีข้นึ ช่วยสง่ เสรมิ ให้มปี ระสิทธภิ าพในการ ทำงาน มเี คร่อื งมอื ส่อื สารโทรคมนาคมสมยั ใหมท่ ำให้ติดต่อถึงกนั ไดส้ ะดวก มรี ะบบคมนาคมขนสง่ ได้ รวดเรว็ สามารถใช้โทรศัพทใ์ นขณะเดนิ ทางไปมายังทต่ี ่างๆ มอี ุปกรณอ์ ำนวยความสะดวกที่ควบคุม ดว้ ยคอมพิวเตอร์ เชน่ ลิฟต์ เครอื่ งซกั ผ้า เครื่องปรับอากาศ มีเคร่อื งชว่ ยให้เกดิ การพักผอ่ นหยอ่ นใจ เช่น วิทยุ โทรทศั น์ มีการแพรก่ ระจายสญั ญาณโทรทัศนผ์ ่านดาวเทยี ม สามารถรบั รขู้ า่ วสารตา่ งๆ จาก ท่วั ทกุ มุมโลกไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ 2.) ชว่ ยทำให้การผลติ อุตสาหกรรมไดด้ ีขึ้น ระบบการผลติ สินค้าในปัจจุบนั เป็นระบบท่ีต้องการผลิตสินค้าจำนวนมาก มีคณุ ภาพมาตรฐาน การผลิตในสมัยปัจจุบันใช้เครื่องจักรทำงานอย่างอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ปัจจุบนั มีควาพยายามทจี่ ะสร้างหุ่นยนตเ์ ข้ามาช่วยในอตุ สาหกรรมการผลติ เทคโนโลยสี ารสนเทศจึงมี ผลตอ่ การผลิตมาก 3.) ช่วยสง่ เสริมการค้นคว้าวิจยั ใหม่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสาร เช่น เครือข่ายคอมพิวเตอร์ช่วยค้นคว้างานวิจัยใน ห้องปฏิบัติการวิจัยต่างๆ มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น ปัจจุบันงานค้นคว้าวิจัยทุกแขนงจำเป็นต้องใช้ รายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี รหสั วิชา 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมุทร

คอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณต่างๆ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ในการ จำลองรูปแบบของส่ิงท่ีมองไม่เห็นตัว ใชใ้ นการค้นหาขอ้ มูลทม่ี ีจำนวนมากและแพรก่ ระจายอยู่ทั่วโลก สามารถคน้ หายงานวิจยั ที่มผี ู้เคยทำไวแ้ ลว้ และที่เกบ็ ไว้ในหอ้ งสมดุ ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว 4.) ชว่ ยสง่ เสรมิ สุขภาพและความเปน็ อยทู่ ี่ดขี นึ้ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้มีกิจกรรมทางด้านแพทย์ เจริญก้าวหน้าขึ้นอีกมาก ปัจจุบนั เครื่องมือเครือ่ งใช้ทางการแพทย์ล้วนแล้วแต่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยใน การดำเนินการ 5.) ชว่ ยสง่ เสริมสติปญั ญาของมนุษย์ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเรียนรู้ของมนุษย์ได้ดีปัจจุบันมีการนำบทเรียนมาไว้ใน คอมพิวเตอร์เรยี กว่า คอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน คอมพิวเตอรย์ งั เปน็ เคร่ืองมอื ทีใ่ ห้นกั เรยี น นสิ ติ นักศึกษา เชื่อมโยงติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต สามารถศึกษาค้นคว้าข้อมูลข่าวสารผ่านทางเครือข่าย สามารถ เรียนรูก้ ารใช้คอมพวิ เตอรห์ รอื เรยี นจากทหี่ า่ งไกลได้ 6.) เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยให้เศรษฐกจิ เจรญิ รงุ่ เรอื ง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเรื่องที่จำเป็นต่ออุสาหกรรม กิจการค้า ธุรกิจต่างๆ กิจการทางด้าน ธนาคารช่วยสง่ เสริมงานทางด้านเศรษฐกจิ ทำให้กระแสเงินหมนุ เวียนไดอ้ ยา่ งกว้างขวาง ผู้ผลิตในสาย อุตสาหกรรมจะผลิตสินค้าได้มาก ลดต้นทุน ธุรกิจโดยรวมจำเป็นต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกัน มีการสือ่ สารเกย่ี วข้องกนั เกดิ ระบบการแลกเปล่ียนขอ้ มูลทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 7.) ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจอันดรี ะหว่างกนั การสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ช่วยย่นย่อโลกให้เล็กลงโลกมีสภาพไร้พรมแดน มีการเรียนรู้ วัฒนธรรมซง่ึ กันและกนั มากขน้ึ เกดิ ความเข้าใจซึ่งกันและกันได้ดี ทำใหล้ ดปัญหาในเรอ่ื งความขัดแย้ง สงั คมไร้พรมแดนทำให้มีความเปน็ อยแู่ บบรวมกล่มุ ประเทศมากข้ึน 8.) ชว่ ยสง่ เสริมประชาธปิ ไตย ในการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรทกุ คร้งั มีการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื กระจาย ข่าวสาร เพือ่ กระจายข่าวสาร เพือ่ ใหป้ ระชาชนได้เห็นความสำคญั ของระบบประชาธปิ ไตย แม้แตก่ าร รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ รหัสวิชา 20001-2001 ครูผูส้ อน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมุทร

เลือกตั้งก็มีการใช้คอมพิวเตอรร์ วมผลคะแนน ใชส้ ือ่ โทรทศั น์ วิทยุ แจง้ ผลการนบั คะแนนีท่ ำให้ทราบ ผลได้อยา่ งรวดเร็ว ผลกระทบในทางลบ ตั้งแต่เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเป็นไปอย่างกว้างขวาง การใช้เทคโนโลยีไปในด้านต่างๆ ซึ่งแน่นอนย่อมต้องมีทั้งคุณและ โทษ ภาพยนตร์หลายเรื่องได้สะท้อนความคิดของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ทางลบ ผลกระทบในการทางลบเหล่านี้บางอย่าวเป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ อย่างไรกต็ ามย่อมมีโอกาสเกดข้ึนได้ เช่น 1.) ทำใหเ้ กดิ อาชญากรรม เทคโนโลยีสารสนเทศมารถนำมาใช้ในการก่อให้เกิดอาชญากรรมได้มีการลักลอบใช้ข้อมูล ข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเขบัญชีด้วย การแก้ไขระดับคะแนนผู้เรียนการแก้ไขข้อมูลใน โรงพยาบาลเพือ่ ใหก้ ารรกั ษาพยาบาลคนไข้ผดิ ซ่งึ เปน็ การทำรา้ ยหรือฆาตกรรม 2.) ทำใหเ้ กิดความสัมพันธข์ องมนษุ ย์เสอ่ื มถอย การใชค้ อมพวิ เตอร์และอปุ กรณส์ ือ่ สารทำใหส้ ามารถติดตอ่ สอ่ื สารกันไดโ้ ดยไมต่ อ้ งเหน็ ตวั การ ใชง้ านคอมพิวเตอรห์ รอื แม้แตก่ ารเลน่ เกม มีลกั ษณะ การใช้งานเพียงคนเดยี ว ทำให้ความสัมพันธก์ ับ ผอู้ ื่นลดนอ้ ยลง ผลกระทบนที้ ำให้มคี วามเชอ่ื ว่ามนษุ ยสัมพนั ธ์ของบคุ คลจะลดนอ้ ยลง สงั คมใหม่จะ เปน็ สงั คมทไี่ มต่ ้องพงึ่ พากนั มาก 3.) ทำใหเ้ กดิ ความวิตกกงั วล ผลกระทบน้ีเป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่า คอมพวิ เตอรอ์ าจทำใหเ้ กดิ การจ้างงานน้อยลง มีการนำเอาหนุ่ ยนต์มาใช้งานมากข้ึนมีระบบการผลิตที่ อัตโนมัตมิ ากข้ึน ทำให้ผู้ใชแ้ รงงานอาจตกงาน หรือหนว่ ยงานอาจเลกิ วา่ จ้างได้ 4.) ทำใหเ้ กิดการเส่ยี งภัยทางด้านธุรกจิ ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของ ธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ขอ้ มูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้าขอ้ มูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหาย รายวิชาคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี รหัสวิชา 20001-2001 ครูผสู้ อน นางสาวกันตฤทยั ยอดสมุทร

ของข้อมูล อนั เนอื่ งมาจากเหตุอุบัตภิ ัย เช่น ไฟไหม้ น้ำทว่ ม หรอื ด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลสูญ หายหมด ย่อมทำใหเ้ กิดผลกระทบต่อธรุ กิจได้ 5.) ทำให้การพัฒนาอาวธุ มอี ำนาจทำสายสูงมากข้นึ ประเทศทีเ่ ป็นต้นตำรับของเทคโนโลยสี ามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใชใ้ นการสรา้ งอาวุธท่มี อี านุภาพ การทำลายสูง อาจมผี ลต่อสงครามท่มี กี ารทำลายล้างสูงเกดิ ข้นึ ได้ 6.) ทำให้เกิดการแพร่วฒั นธรรมและกระจายข่าวสารท่ีไมเ่ หมาะสมอย่างรวดเรว็ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งการนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้จริยธรรม การคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญผู้สร้างเว็บไซต์หรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่นภาพอนาจารหรือภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของ ผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่งจดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนา กระจายข่าวทีเ่ ปน็ เท็จ รายวชิ าคอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ รหสั วิชา 20001-2001 ครูผูส้ อน นางสาวกนั ตฤทัย ยอดสมทุ ร

รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี รหัสวชิ า 20001-2001 ครูผ้สู อน นางสาวกนั ตฤทยั ยอดสมทุ ร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook