สรุปรายงานผลการดาเนินงาน โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ณ จงั หวัดนา่ น ระหวา่ งวนั พฤหสั บดที ี่ ๑๑ – วันศกุ รท์ ี่ ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๔ ๑. ชือ่ โครงการ สมาชิกวฒุ ิสภาพบประชาชน ๒. วัน/เดอื น/ปที ดี่ าเนินการ วนั พฤหสั บดีที่ ๑๑ – วนั ศกุ รท์ ่ี ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๔ ๓. สถานที่ ณ จังหวดั นา่ น ๔. กลมุ่ เป้าหมาย หนว่ ยงานของรฐั ประชาชนทวั่ ไป เยาวชน อนื่ ๆ ๕. ความสอดคลอ้ งกับรฐั ธรรมนญู หรือยุทธศาสตรช์ าติ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศ กาหนดให้ มีการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาไว้ในมาตรา ๒๕๘ จ. ด้านการศึกษา ซ่ึงสอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว กาหนดให้มีแผนการปฏิรูป ๑๒ ด้าน โดยมีระยะเวลาดาเนินการ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ - พ.ศ. ๒๕๖๕) และการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เป็นหน่ึงในจานวน ๑๒ ด้าน ท่ีรัฐธรรมนูญกาหนดให้ มีการปฏิรูป โดยมีเป้าหมายและผลอันพึงประสงค์ เพ่ือให้มีการยกระดับคุณภาพของการจัดการศึกษา ลดความเหล่ือมลาทางการศกึ ษา มุ่งความเปน็ เลศิ และสรา้ งขดี ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และปรับปรุงระบบการศึกษาให้มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร เพ่ิมความคล่องตัวในการรับรองรับ ความหลากหลายของการจัดการศึกษา ๖. ขอ้ มลู ทัว่ ไป จังหวัดน่าน ตังอยู่ติดกับชายแดนทางด้านทิศตะวันออกของภาคเหนือตอนบน ติดกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ( สปป.ลาว ) ห่างจากกรงุ เทพมหานครโดยทางรถยนต์ ประมาณ 668 กิโลเมตร บริเวณเส้นรุ้งที่ 18 องศา 46 ลิปดา 30 ฟิลิปดาเหนือ เส้นแวงท่ี 18 องศา 46 ลิปดา 44 ฟิลิปดาตะวันออก ระดับความสูงของพืนที่อยู่สูง 2 ,112 เมตร จากระดับนาทะเลปานกลาง มีพืนท่ี 11,472.076ตารางกโิ ลเมตร หรอื ประมาณ 7,170,045 ไร่
๒ อาณาเขตโดยรอบของจังหวัดนา่ น ทิศเหนือ ประกอบด้วย อาเภอเชียงกลาง อาเภอปัว มีอาเภอทุ่งช้าง อาเภอเฉลิมพระเกียรติ อาเภอบอ่ เกลอื ที่มีพืนทต่ี ิดตอ่ กับเขตเศรษฐกจิ พิเศษ เชียงฮ่อน - หงสา (สปป.ลาว ) ทศิ ตะวันออก ประกอบด้วย อาเภอภูเพียง อาเภอสันติสุข โดยมีอาเภอแม่จริม อาเภอเวยี งสามี พนื ทต่ี ดิ ต่อกับแขวงไชยบรุ ี ( สปป.ลาว ) ทิศใต้ ประกอบด้วย อาเภอนาน้อย อาเภอนาหมื่น มีพืนท่ีติดต่อกับจังหวัดอุตรดิตต์ อาเภอ นาน้อย มีพืนทต่ี ิดตอ่ กบั จังหวัดแพร่ อาเภอเวยี งสา มีพืนทตี่ ดิ ต่อกบั จังหวดั แพร่ ทิศตะวันตก ประกับด้วย อาเภอบ้านหลวง มีพืนท่ีติดต่อกับอาเภอเชียงม่วนจังหวัดพะเยา อาเภอท่าวังผา มีพืนที่ติดกับอาเภอปง จังหวัดพะเยา อาเภอสองแคว มีพืนท่ีติดต่อกับอาเภอเชียงคา จังหวัดพะเยา สาหรับทิศเหนือและทิศตะวันออกมีอาณาเขตในส่วนท่ีติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ( สปป.ลาว) เปน็ ระยะทางยาวประมาณ 227 กโิ ลเมตร การปกครอง จงั หวัดนา่ นมีจานวนประชากรทังสนิ 478,227 คน ชาย 239,661 คน หญงิ 238,566 คน แบ่งเขตการปกครองเป็น 15 อาเภอ ได้แก่ 1. อาเภอเมืองนา่ น 9. อาเภอเชยี งกลาง 2. อาเภอแม่จรมิ 10. อาเภอนาหมื่น 3. อาเภอบ้านหลวง 11. อาเภอสนั ตสิ ขุ 4. อาเภอนาน้อย 12. อาเภอบ่อเกลอื 5. อาเภอปัว 13. อาเภอสองแคว 6. อาเภอท่าวังผา 14. อาเภอภเู พยี ง 7. อาเภอเวียงสา 15. อาเภอเฉลิมพระเกยี รติ 8. อาเภอทุ่งช้าง การปกครองทอ้ งถนิ่ จาแนกได้ คอื องคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั 1 แหง่ คอื องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัดนา่ น เทศบาลเมอื ง 1 แห่ง คอื เทศบาลเมืองน่าน เทศบาลตาบล 18 แห่ง ประกอบด้วย 1. เทศบาลตาบลดใู่ ต้ 10. เทศบาลตาบลนาน้อย 2. เทศบาลตาบลกองควาย 11. เทศบาลตาบลศรษี ะเกษ 3. เทศบาลตาบลเวยี งสา 12. เทศบาลตาบลทุ่งช้าง 4. เทศบาลตาบลกลางเวียง 13. เทศบาลตาบลงอบ 5. เทศบาลตาบลข่ึง 14. เทศบาลตาบลทา่ วงั ผา
๓ 6. เทศบาลตาบลปวั 15. เทศบาลตาบลหนองแดง 7. เทศบาลตาบลศิลาแลง 16. เทศบาลตาบลบอ่ แก้ว 8. เทศบาลตาบลเชยี งกลาง 17. เทศบาลตาบลยอด 9. เทศบาลตาบลพระพุทธบาทเชยี งคาน 18. เทศบาลตาบลบ่อเกลือใต้ การประกอบอาชีพ อาชีพหลัก ได้แก่ ทาไร่ 44 % และอาชีพรอง ได้แก่ ทานา 37 % ทาสวนอ่ืนๆ 7 % ทาสวนยาง 6 % รับจ้าง 3 % (ร้อยละโดยประมาณ จากการสารวจความเดือดร้อนของประชาชน เดอื นกนั ยายน 2563) ๗. วธิ ีการดาเนินการ (ลกั ษณะกิจกรรม) จดั ประชุมสัมมนา จัดเวทเี สวนา Focus Group จดั ประชุมเชิงปฏิบตั ิการ อื่น ๆ ๘. วิธกี ารประเมินผล สอบถาม ใชเ้ ครอื่ งมอื สอ่ื สาร สังเกต อืน่ ๆ สมั ภาษณ์ ๙. ผลการดาเนนิ งาน ๙.๑ เชงิ ปรมิ าณ - จานวนเปา้ หมายทีต่ งั ไว้ ๑๐๐ คน - จานวนผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม ๑๔๔ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๔๔ ของ จานวนเปา้ หมาย
๔ - แบง่ ออกเปน็ (อ้างองิ ตามกลมุ่ เปา้ หมาย) ประชาชนทวั่ ไป เดก็ - เยาวชน ผบู้ รหิ าร ร.ร./ครู ผูแ้ ทนหนว่ ยงานภาครฐั ผู้แทนหนว่ ยงานเอกชน อ่นื ๆ ๙.๒ เชงิ คุณภาพ - สมาชิกวุฒิสภาได้รับทราบข้อมูลโครงการ/กิจกรรม ท่ีได้รับการจัดสรรงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการปฏริ ปู ประเทศ และแผนแม่บทภายใตย้ ุทธศาสตร์ ชาติท่อี ย่ใู นความรับผิดชอบของจงั หวัดน่าน - รับทราบข้อมูลการดาเนินงาน แนวทางการจัดการเรียนการสอนของศูนย์การเรียนรู้ ชมุ ชนธรรมชาติบา้ นห้วยพา่ น และปัญหาอปุ สรรค สาหรบั ใช้ประกอบการพจิ ารณาของวุฒสิ ภา ๙.๓ เชงิ เวลา เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม อืน่ ๆ .......................................................................... ๙.๔ งบประมาณดาเนนิ การ เพียงพอ/เหมาะสม ไมเ่ พยี งพอ ๑๐. สรปุ สาระสาคญั ของการดาเนนิ โครงการ รายละเอียดการลงพืนท่ีจัดโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ณ จังหวัดน่านระหว่าง วนั พฤหัสบดที ่ี ๑๑ – วนั ศกุ ร์ท่ี ๑๒ มนี าคม ๒๕๖๔ รายช่อื คณะเดนิ ทาง ๑) พลเอก สงิ ห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนท่หี นึง่ (หัวหนา้ คณะเดนิ ทาง) ๒) พลเอก วรพงษ์ สงา่ เนตร สมาชกิ วุฒสิ ภา ๓) พลอากาศเอก อดิศักด์ิ กลนั่ เสนาะ สมาชิกวฒุ สิ ภา ๔) นายจเด็จ อนิ สวา่ ง สมาชิกวฒุ ิสภา ๕) พลเอก โปฎก บุนนาค สมาชกิ วุฒสิ ภา ๖) พลเอก สาเรงิ ศวิ าดารงค์ สมาชิกวฒุ สิ ภา ๗) นางกอบกลุ อาภากร ณ อยธุ ยา สมาชกิ วุฒสิ ภา ๘) นายพลเดช ปิน่ ประทีป สมาชิกวฒุ ิสภา ๙) ศาสตราจารยพ์ ิเศษกาญจนารัตน์ ลวี โิ รจน์ สมาชกิ วฒุ ิสภา
๕ ๑๐) นายดิเรกฤทธ์ิ เจนครองธรรม สมาชกิ วุฒิสภา ๑๑) นางสาวดาวนอ้ ย สทุ ธินภิ าพนั ธ์ สมาชิกวฒุ สิ ภา ๑๒) นายสมชาย ชาญณรงค์กุล สมาชิกวฒุ สิ ภา ๑๓) นายดุสติ เขมะศักด์ิชยั สมาชิกวฒุ สิ ภา ๑๔) นางดวงพร รอดพยาธ์ิ สมาชิกวฒุ สิ ภา ๑๕) นายออน กาจกระโทก สมาชิกวฒุ ิสภา ๑๖) นางจนิ ตนา ชยั ยวรรณาการ สมาชกิ วุฒสิ ภา ๑๗) รองศาสตราจารย์ทวีศกั ด์ิ สทู กวาทิน กรรมการ ๑๘) นางเสาวคนธ์ จนั ทร์ผอ่ งศรี กรรมการ ๑๙) นายชัยยุทธ์ สินสูงสุด อนุกรรมการดา้ นนโยบาย แผนงาน ๒๐) นางวาสนา ทพิ ยส์ ุวรรณ และประสานการปฏบิ ัติ ๒๑) นายอรรทิตย์ฌาณ คูหาเรอื งรอง อนกุ รรมการดา้ นนโยบาย แผนงาน ๒๒) นายอาชวนิ ลอ้ มพทิ ักษ์ และประสานการปฏิบตั ิ ๒๓) นายสาธติ วงศอ์ นันต์นนท์ ๒๔) นายบรรหาร กาลา อนกุ รรมการการมสี ่วนร่วมของเยาวชน ๒๕) นายณัฏฐกติ ติ์ ปทั มะ อนุกรรมการประชาสมั พนั ธส์ ่อื ดิจิทัล ๒๖) นายอดุ ร พนั ธมุ ิตร ๒๗) นายอมร จึงรงุ่ ฤทธิ์ ในคณะกรรมการประชาสมั พันธ์ วฒุ ิสภา ๒๘) นายกิตติกร กอบเงิน ๒๙) นายนฐั วชิ แก้วพิกลุ ผอู้ านวยการสานกั ประชาสมั พนั ธ์ ๓๐) นายเอกภักดิ์ หอมสมบัติ ๓๑) นางสาวปิยวรรณ แสนเมอื ง ผ้บู ังคับบญั ชากลมุ่ งานรองประธานวุฒสิ ภา ๓๒) นายพลณัฐ เครือเช้า คนทหี่ นึง่ ๓๓) นางธริ าพร ณ เชยี งใหม่ วิทยากรเช่ียวชาญ ๓๔) นางสาวณฐมน โพธเิ์ กษม วิทยากรชานาญการพิเศษ วิทยากรชานาญการ วทิ ยากรปฏบิ ตั ิการ นกั ประชาสมั พนั ธ์ปฏิบัตกิ าร นกั ประชาสัมพนั ธป์ ฏบิ ัติการ นกั ประชาสัมพนั ธป์ ฏิบัตกิ าร นักประชาสมั พนั ธ์ปฏิบตั กิ าร เจา้ พนกั งานธุรการชานาญงาน เจ้าพนกั งานธรุ การชานาญงาน
๖ กจิ กรรมรับฟงั การบรรยายการดาเนนิ งานโครงการ/กจิ กรรม ทไี่ ด้รับการจัดสรรงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ซ่งึ สอดคลอ้ งกบั แผนการปฏิรูปประเทศ และแผนแมบ่ ทภายใต้ยทุ ธศาสตรช์ าติที่อยใู่ นความรบั ผิดชอบของจังหวัดน่าน วนั พฤหัสบดีท่ี ๑๑ มนี าคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนทห่ี น่ึง ได้นาคณะสมาชิกวุฒิสภาประชุมร่วมกับ นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้า ส่ วน ราช ก าร แ ล ะ ข้ าราช ก ารใน จั งห วั ด น่ าน ท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือรับฟังการบรรยายการดาเนินงาน โครงการ/กิจกรรม ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ซ่ึงสอดคล้องกับแผน การปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่อยู่ในความรับผิดชอบของจังหวัดน่าน โดยมี สาระสาคญั สรปุ ดงั นี 1. จังหวัดน่าน ดาเนินการถ่ายทอดยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏริ ูปประเทศ สู่การปฏิบตั ิ โดย เชื่อมโยงแผนระดับต่าง ต่าง ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายของรัฐบาล แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ทิศ ทางการพัฒนาภาคเหนือ แผนพัฒนาจังหวดั นา่ น
๗ ๒. ผลสัมฤทธิ์ในการพัฒนาจากการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศในพืนท่ีจังหวัดน่าน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ทงั 5 ด้าน ๒.๑ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ : เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน (สาขาอุตสาหกรรมแปรรูป การคา้ พาณิชย์ และการลงทนุ ) เพ่ิมโอกาสผปู้ ระกอบการ และเปน็ ศนู ย์กลางด้านการค้าและการลงทนุ ของ ไทยในภมู ภิ าค ๒.๒ การท่องเท่ยี วย่ังยนื : เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขนั (สาขาการทอ่ งเท่ียว) ท่องเทีย่ ว คุณภาพสูง และท่องเทีย่ วเชงิ สร้างสรรค์และวัฒนธรรม ๒.๓ เกษตรปลอดภัยและประณีต : เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน (สาขาการเกษตร) การสร้างเกษตรมูลค่าสงู และGPP สาขาการเกษตรเพม่ิ สงู ขนึ ๒.๔ เมืองสุขภาวะดี ชมุ ชนเข้มแข็ง : พฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ (พัฒนาศักยภาพคน ช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น) พัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะเพื่อตอบสนองการ เปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี 21 ๒.๕ ชุมชนป่าต้นนา : สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม (รักษาและ เพ่ิมพืนท่ีสีเขียวท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม) เพิ่มและพัฒนาพืนที่ป่าโดยการหยุดยังและป้องกันการทาลาย ปา่ ไม้ และมกี ารจัดระเบยี บและแกไ้ ขปัญหาการใชป้ ระโยชนท์ ีด่ ินป่าไม้
๘ ๓. ประเดน็ ข้อซักถาม ขอ้ เสนอแนะ ของสมาชกิ วุฒิสภา ๓.๑ หน่วยงานตามภารกิจ (Function) ในจังหวัดน่าน ขาดการบูรณาการข้อมูลโครงการ/ กิจกรรม ท่ีรายงานในระบบติดตามและประมวลผลแห่งชาติ (eMENSCR) แต่ละหน่วยรายงานผ่าน ระดับกระทรวง หรือกรม ทาให้จงั หวัดไมท่ ราบผลการดาเนินงานตามโครงการ/กิจกรรมของหน่วยงานอ่นื ๓.๒ ส่วนราชการรายงานผลผลิตไม่สอดคล้องกับเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ อย่างครบถ้วน และผลสาเรจ็ ไมม่ คี วามชดั เจน โดยเฉพาะเก่ยี วกับมลู คา่ การทอ่ งเท่ียวท่ีเพิ่มขนึ ซ่ึงเป็นค่า เปา้ หมายท่ีถ่ายทอดจากแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการท่องเทยี่ ว ๓.๓ การจัดทาโครงการ/กิจกรรมของส่วนราชการตามกลุ่มภารกิจ ได้มีการถ่ายทอด ไปสู่ภาคปฏิบัติ และการวางแผนร่วมกันอย่างบูรณาการ รวมถึงสอดคล้องกับความต้องการ และประชาชนในพืนท่ี มสี ว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจหรอื ไม่ ๓.๔ ประเด็นการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรมวิถีถ่ิน ควรเน้นการพัฒนาด้านการตลาดสินค้า มุ่งเน้น การท่องเท่ียวเป็นอาชีพเสริม ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าคุณภาพ และมีมูลค่าสูง ทต่ี ลาดมีความตอ้ งการ ๓.๕ การขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศในพืนท่ีจังหวัดน่านด้านทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม : เพ่ิมและพัฒนาพืนที่ป่าไม้ให้ได้ตามเป้าหมายการจัดหาท่ีดินทากินให้ชุมชนตามนโยบาย ท่ีดินแหง่ ชาติ (คทช.) ท่ีใช้แนวทางแกไ้ ขปญั หาโดยกลไกพเิ ศษเฉพาะพนื ทกี่ ารบริหารพนื ที่รปู แบบพเิ ศษ เพ่ือการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างยั่งยืน : พืนที่จังหวัดน่าน (Nan Sandbox) มีความก้าวหน้า ชุมชนมีความสุข มีอาชีพ และการบูรณาการทางานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ใหป้ ระสบผลสาเร็จ ๓.๖ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้องกับการปฏิรูปด้านการศึกษาท่ีมุ่งเน้นลดความเหล่ือมลา การปฏิรูปการเรียนการสอนในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นเด็กก่อนวัยเรียน จนถึงระดับมหาวิทยาลัย และระดับอาชวี ะศึกษาให้มงี านทา โดยดาเนินการให้สอดคลอ้ งกับบริบทและสภาพแวดลอ้ ม ขับเคลอื่ น กิจกรรม Big Rock ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กิจกรรมปฏิรูปที่ ๓ การปฏิรูปกลไก และระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน โดยเฉพาะเด็ก ชาวเขาที่อยู่บนดอยให้ได้รับโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ และการจัดสรรงบประมาณ ท่ีเพยี งพอ ๓.๗ การบูรณาการการจัดทาฐานข้อมูลท่ีถูกต้องและเป็นปัจจุบันของแต่ละหน่วยงาน ในจังหวัด เช่น ตัวเลขพืนที่ป่าไม้ การเผาป่า ปริมาณนาด้านการชลประทาน เป็นต้น ยังมีความ คลาดเคล่ือน ไม่ตรงกัน ทาให้การดูแลรักษา การกาหนดมาตรการแก้ไขปัญหา และการจัดทาแผนงาน เป็นไปด้วยความยากลาบาก ๓.๘ แผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ของจังหวัดน่าน พบว่า ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ในการดาเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) อยู่ในระดับต่ามาก จึงต้องปรับปรุงแก้ไข อยา่ งจรงิ จงั และเรง่ ดว่ น โดยให้ถือวา่ เป็นวาระสาคญั ของจงั หวดั
๙ ๓.๙ งบประมาณตามภารกิจของส่วนราชการในจังหวัดน่าน มีความเป็นเรื่องเฉพา ะ ของแต่ละหน่วยงาน ขาดการบูรณาการร่วมกันทาให้ยากต่อการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการ ดาเนินการ ดังนัน ควรใช้แนวทางการจัดทางบประมาณแบบภาพรวมให้สอดคล้องเช่ือมโยงกับแผน การปฏิรปู ประเทศ และยุทธศาสตรช์ าติ ๓.๑๐ โครงการ/กิจกรรมของส่วนราชการในจังหวัดน่านยังไม่สามารถตอบโจทย์ ตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเท่าท่ีควร ดังนัน การจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายประจาปี จาเป็นต้องศึกษาและทาความเข้าใจกับยุทธศาสตร์ การจัดสรรงบประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึง่ สานักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) สามารถให้คาแนะนาแก่หน่วยงานราชการได้ กจิ กรรมเยี่ยมชมโครงการ/กิจกรรมสาคญั ทีป่ ระชาชนไดร้ บั ประโยชน์โดยตรง เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา คณะสมาชิกวุฒิสภาได้เยี่ยมชมโครงการ/กิจกรรมสาคัญที่ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง ของจังหวดั นา่ น ซง่ึ ดาเนินการในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 โดยได้ แบ่งออกเปน็ ๔ คณะ ดงั นี คณะที่ ๑. เย่ียมชมการดาเนินการ : โครงการพัฒนาพ้ืนที่เฉพาะเมืองภูเพียง บ้านม่วงต๊ึด หมู่ที่ ๔ ตาบลม่วงตึ๊ด อาเภอภูเพียง จังหวัดน่าน (งบประมาณ ๓๔,๘๘๖,๕๐๐ บาท /ผู้รับผิดชอบ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ภายใต้โครงการพัฒนากลุ่มท่องเท่ียวเชิงธรรมชาติ กิจกรรม : พัฒนากลุ่มท่องเท่ียวเชิงธรรมชาติ (ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการ แขง่ ขัน แผนแมบ่ ทภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ ประเดน็ พนื ที่และเมอื งนา่ อยู่อัจฉรยิ ะ) คณะเดนิ ทางประกอบด้วย ๑. พลเอก สิงห์ศึก สงิ หไ์ พร รองประธานวุฒสิ ภา คนท่หี น่ึง ๒. ศ.พิเศษกาญจนารตั น์ ลวี โิ รจน์ สมาชกิ วฒุ สิ ภา ๓. นายดุสิต เขมะศกั ดิช์ ัย สมาชกิ วฒุ สิ ภา ๔. นางจนิ ตนา ชยั ยวรรณาการ สมาชิกวฒุ ิสภา ๕. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ รักษาราชการแทนผ้อู านวยการสานกั งาน ป.ย.ป. ๖. นางเสาวคนธ์ จนั ทร์ผ่องศรี กรรมการ ๗. นางวาสนา ทิพยส์ ุวรรณ อนกุ รรมการด้านนโยบายฯ ๘. นายสาธติ วงศอ์ นนั ต์นนท์ ผู้อานวยการสานักประชาสมั พนั ธ์ ๙. นายบรรหาร กาลา ผบู้ งั คบั บัญชากลุ่มงานรองประธานวุฒิสภา คนทห่ี นงึ่ ๑๐. นายนัฐวิช แก้วพิกลุ นักประชาสัมพนั ธ์ปฏิบตั กิ าร
๑๐ พลเอก สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นาคณะสมาชิกวุฒิสภา เดินทางไปยังบ้านม่วงตึ๊ด หมู่ที่ ๔ ตาบลม่วงตึ๊ด อาเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เพื่อติดตามรับ ฟังการดาเนินโครงการพัฒนาพืนท่ีเฉพาะเมืองภูเพียง ซึ่ ง รั บ ผิ ด ช อ บ โ ด ย ก ร ม โ ย ธ า ธิ ก า ร แ ล ะ ก า ร ผั ง เมื อ ง กระทรวงมหาดไทย ทังนี โครงการดังกล่าวตังอยู่บน พืนที่สาธารณะประโยชน์หนองนาครก บ้านแสงดาว หมทู่ ่ี ๒ ตาบลฝายแก้ว ตามหนังสอื สาคญั สาหรบั ทห่ี ลวง ประมาณ ๑๒๓ ไร่ ๕๙ ตารางวา แบง่ พนื ทีป่ ระมาณ ๕o ไร่ เปน็ ทต่ี ังของหนว่ ยงานราชการ คงเหลอื เนอื ท่ีประมาณ ๗๓ ไร่ ๕๙ ตารางวา สงวนไว้เพ่ือใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎรทั่วไป ต่อมาพืนท่ีดังกล่าว อยู่ในเขตการปกครองตาบลม่วงตึ๊ด ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ือง การกาหนดเขตตาบล ซ่ึงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือปีพุทธศักราช ๒๕๔๑ ปัจจุบันพืนที่ดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยว ท่ีสาคัญของจังหวัดน่าน เป็นพืนท่ีศึกษาดูงานทางธรรมชาติ และให้สอดคล้องนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้มีความกินดี อยู่ดี สร้างความเข็มแข็งของชุมชน และเชื่อมโยง แหล่งท่องเที่ยวจากวัดพระธาตุแช่แห้ง เป็นจุดรองรับนักท่องเท่ียว สาหรับพักผ่อนและรับประทาน อาหาร โดยภายในโครงการฯ มีอาคารร้านค้าของชุมชนและสถานที่ออกกาลังกายเพ่ือให้บริการ คนในชุมชนและพืนท่ีข้างเคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับองค์การ บริหารส่วนตาบลม่วงต๊ึดได้ทาการศึกษาความเป็นไปได้ และแนวทางการแก้ไขปัญหาเพ่ือออกแบบ และกอ่ สร้าง โครงการพฒั นาเฉพาะเมืองภูเพยี ง วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ - เพื่อใหเ้ ป็นพ้นื ทแี่ กม้ ลิงรองรับนา้ เพ่อื การเกษตร เป็นแหลง่ เพาะพันธุส์ ตั วน์ ้า เพื่อเป็นแหลง่ อาหารของชมุ ชน เป็นระบบ นเิ วศเพื่อรักษาสภาพแวดลอ้ ม - เพื่อใหเ้ ป็นพ้นื ท่ีสวนสาธารณะ เส้นทางจกั รยาน สถานทอ่ี อกกาลงั กาย และกจิ กรรมสนั ทนาการตา่ ง ๆ - เพอื่ เป็นจดุ เชื่อมโยงการทอ่ งเทย่ี วของฝงั่ อาเภอเมอื ง และฝัง่ อาเภอภเู พยี ง เปน็ จดุ พักรถ ของนกั ท่องเท่ยี ว และส่งเสริมกจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี ว - เพอ่ื ส่งเสริมการทอ่ งเท่ยี วของจงั หวดั นา่ น - เพ่ือสร้างมูลคา่ เพม่ิ ใหก้ ับพ้นื ที่ สง่ เสริมรายได้ และเปน็ แหล่งประกอบอาชีพของคนในระดับ หมู่บา้ น ระดบั ตาบล ระดับอาเภอ และระดบั จงั หวดั นา่ น เป้าหมายของโครงการ - เพม่ิ พืนท่ีของแกม้ ลิง สามารถเก็บกักนา้ ไดม้ ากขนึ - ราษฎรมีพนื ท่สี าธารณะประโยชน์ ใชร้ ่วมกนั - เป็นการบริหารทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มที่มปี ระสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
๑๑ ประเด็นการแสดงความคดิ เหน็ ของประชาชน ๑. ประชาชนในชุมชนต้องการที่จะให้สถานที่ดงั กลา่ วเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความม่ันคง ม่ังคั่ง และยั่งยืน อีกทั้งเป็นจุดพักรถของนักท่องเท่ียวและเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดน่าน เชื่อมโยง เมอื งเก่าภมู ินทร์ และเมอื งเกา่ ภเู พยี งแช่แหง้ เปน็ แหล่งสร้างงาน สรา้ งรายได้ของคนในชมุ ชน โดยจะจัด รถรางเพ่ือเชื่อมโยงส่งคนไปยังเมืองเก่าทั้งสองแห่งและเชื่อมโยงไปยังหมู่บ้านท้ัง ๕ หมู่บ้านในตาบล ม่วงต๊ึด สร้างเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ ฝึกสอนมัคคุเทศก์ท้องถ่ิน โดยตาบลม่วงตึ๊ดมีสินค้าท่ีน่าสนใจ ทั้งบ้านโคมคา ท่ีผลิตโคมแขวน นอกจากน้ียังเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลา และเป็นแหล่งผลิตผักปลอด สารพิษอกี ดว้ ย ๒. โครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าท้ังทางด้านสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดน่านท่ีมีทาเลที่ต้ังท่ีไม่กระจุกตัวอยู่เฉพาะแต่ในเมืองเท่านั้น อีกทั้งหนอง นา้ ครกยังเปน็ แหลง่ เมอื งเก่า มีเรื่องราวเล่าขาน มีศักยภาพท่จี ะพฒั นาได้ ๓. ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ ของโครงการดังกลา่ วเกิดจากความร่วมมอื ร่วมใจของคนในชุมชน ๔. ในอนาคตควรพัฒนาพืนที่ให้มีความน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเท่ียว เช่น ควรมีอุโมงค์ปลา เพอ่ื แสดงพันธส์ุ ัตวน์ ้าต่าง ๆ เป็นตน้ ประเด็นการแสดงความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของสมาชิกวฒุ ิสภา ๑. เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาพืนที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ การออกแบบควรคานึงถึงการ ใช้พลงั งานทดแทนหรือพลงั งานสะอาดดว้ ย ๒. การที่จะทาให้โครงการดังกล่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ีมีความม่ันคง มั่งค่ัง และยั่งยืน นนั ตอ้ งเกิดจากการมสี ว่ นร่วมของประชาชนในพนื ที่ ทงั ในขนั ตอนการวางแผน รว่ มคดิ ร่วมทา และร่วม ดาเนินการ ควรมีการให้ความรู้แก่ประชาชน และมีการเตรียมการอบรมมัคคุเทศก์หรือไกด์ท้องถิ่น เพอ่ื ทาหน้าทใี่ หค้ วามชว่ ยเหลือ ให้ข้อมูล ความเขา้ ใจทางด้านวัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร์ และเหตกุ ารณ์ ร่วมสมยั ตา่ ง ๆ แก่นักท่องเที่ยว ๓. โครงการดังกลา่ วพิสูจน์ให้เหน็ วา่ ปญั หาทุกปญั หาสามารถแกไ้ ขได้ด้วยคนในชุมชนทมี่ องเห็น ปัญหาร่วมกัน และช่วยกันแก้ไข นอกจากนี ยังสะท้อนให้เห็นว่าคนในชุมชนแห่งนียึดถือความถูกต้อง ทไี่ มย่ อมใหม้ กี ารบกุ รกุ และถอื ครองท่ีสาธารณประโยชน์ ๔. การเกิดขึนของโครงการดังกล่าว เริ่มต้นมาจากความต้องการของชุมชน และได้รับ การสนบั สนุนจากภาครัฐ นับว่าเป็นเร่ืองที่ดี และที่สาคัญคือผู้นาชุมชนสามารถที่จะส่ือสาร สร้างความ เข้าใจให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจหรือมองเห็นความสาคัญจนรวมใจกันสร้างแหล่งท่องเที่ยวนีขึน ทงั นี เมือ่ การก่อสร้างเสรจ็ แล้ว ควรมีการวางระบบบรหิ ารจัดการทีม่ คี วามเป็นมืออาชพี
๑๒ คณะที่ ๒. เย่ียมชมการดาเนินการ : งานก่อสร้างทานบกั้นน้า บ้านสัน ตาบลเชียงของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน (งบประมาณ ๑,๙๑๕,๗๐๐ บาท /ผู้รับผิดชอบ กองบัญชาการกองทัพ ไทย กระทรวงกลาโหม ภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพการป้องกันประเทศและความ พร้อมเผชิญภัยคุกคามทุกมิติ (ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น ความมัน่ คง) คณะเดนิ ทางประกอบด้วย ๑. พลเอก วรพงษ์ สงา่ เนตร สมาชิกวฒุ ิสภา ๒. นายจเดจ็ อินสวา่ ง สมาชกิ วุฒิสภา ๓. นายดเิ รกฤทธ์ิ เจนครองธรรม สมาชิกวฒุ ิสภา ๔. นางดวงพร รอดพยาธ์ิ สมาชกิ วฒุ ิสภา ๕. รองศาสตราจารย์ทวศี ักดิ์ สทู กวาทนิ กรรมการ ๖. นายชัยยุทธ สินสูงสดุ อนกุ รรมการดา้ นนโยบายฯ ๗. นายอุดร พันธมุ ิตร วทิ ยากรชานาญการพเิ ศษ ๘. นายอมร จงึ รุ่งฤทธิ์ วิทยากรชานาญการ ๙. นายเอกภักดิ์ หอมสมบตั ิ นกั ประชาสมั พนั ธ์ปฏิบัติการ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร สมาชิก วุฒิสภา เป็นหัวหน้าคณะนาสมาชิกวุฒิสภาลง พืนท่ีทานบกันนา บ้านสัน ตาบลเชียงของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เพื่อติดตามการ ดาเนินการก่อสร้างทานบกันนา ซึ่งรับผิดชอบ ดาเนินการโดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนท่ี ๓๑ สานักงานพัฒนาภาค ๓ หนว่ ยบัญชาการทหาร พัฒนา ซึ่งเป็นโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ท่ีได้ดาเนินการแล้วเสร็จ โดยเริ่มก่อสร้างเม่ือวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๔ ถึง วันท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๔ รวมใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างจนกระทังเสร็จสิน เป็นระยะ ๕๕ วัน โดยโครงการดังกล่าว
๑๓ ข้างต้น เป็นหน่ึงในโครงการพัฒนาศักยภาพด้านการพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน กจิ กรรม การจัดหานากินนาใช้ในพืนทเ่ี ปา้ หมาย สภาพปญั หาและเหตผุ ลความจาเป็นของการดาเนนิ การโครงการ หมู่บ้านสัน และหมู่บ้านนาหิน ตาบลเชียงของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีราษฎรที่อาศัยอยู่ จานวนครัวเรือน ๒๑๒ ครัวเรือน จานวนประชากร ๗๒๑ คน สภาพทั่วไปของหมู่บ้านตังอยู่ บนพืนท่ี ช่องหุบเขาและตามไหล่เขา ปัญหาภายในหมู่บ้านยังขาดแคลนนาในการทาการเกษตรที่ไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ เน่ืองจากการทาการเกษตรที่เพิ่มมากขึน และลาห้วยเดิมไม่สามารถกักเก็บนาได้ ในช่วงฤดูแล้ง อีกทังฤดูฝนมีนาไหลเข้าท่วมพืนท่ีการเกษตร ปัจจุบันปริมาณนาไม่เพียงพอต่อความ ต้องการในการทาการเกษตร และการใชเ้ ลียงสัตว์ เนอ่ื งจากลาหว้ ยไม่มแี หลง่ กกั เก็บนาฤดูแล้ง แหลง่ นา แห้งขอดไม่เพียงพอ ดังนัน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๓๑ สานักงานพัฒนาภาค ๓ หน่วยบัญชาการ ทหารพัฒนา (นพค. ๓๑ สนภ. ๓ นทพ.) จงึ เห็นความสาคัญของปญั หาและเข้าดาเนนิ การประชาคมกับ ราษฎร ซึ่ง องค์การบริหารส่วนตาบลเชียงของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ได้พิจารณาถึงความ เหมาะสมแล้วจึงได้ดาเนินการตามโครงการก่อสร้างทานบกันนาขนาดสนั กวา้ ง ๔ เมตร ยาว ๓๕ เมตร สงู ๔ เมตร ท่ีบา้ นสัน ตาบลเชยี งของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โดยทานบกันนาแห่งนีสามารถกักเก็บ นาเต็มความจไุ ด้ถึง ๒๓,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาดงั กลา่ วอย่างเร่งด่วน และย่งั ยนื ตอ่ ไป ผลลัพธ์จากการดาเนินการ ๑. ราษฎรบ้านสัน และบ้านนาหิน ตาบลเชียงของ อาเภอนาน้อย จังหวัดน่าน มีคณุ ภาพชวี ิตท่ี ดขี นึ เกิดความศรัทธา และเช่อื มนั่ ตอ่ เจ้าหนา้ ทีร่ ัฐ ๒. เป็นการพัฒนาโครงสร้างพืนฐาน เพ่ือดารงชีพและความเป็นอยู่โดยการพัฒนาแหล่งนา เพ่อื การเกษตร ๓. เปน็ แหลง่ กกั เกบ็ นาธรรมชาติ เพ่ือการเกษตรและเพ่ิมโอกาสในการเพาะปลกู ใหม้ ากขนึ ๔. ลดความเสียหายจากภัยแล้งหรือภาวะฝนทิงช่วงโดยเฉพาะในหว้ งทพี่ ืชตอ้ งการนา ๕. ยกระดับคณุ ภาพชีวติ ของราษฎรบา้ นสัน และบา้ นนาหนิ
๑๔ นอกจากนียังมีการแต่งตังตัวแทนจากหมู่บ้านสัน และหมู่บ้านนาหิน ตาบลเชียงของ อาเภอ นาน้อย จังหวัดน่าน จานวน ๗ คน มาเป็น “คณะกรรมการบริหารจัดการนา” เพื่อทาหน้าที่บริหาร จดั การนาจากทานบกันนาแหง่ นี ให้ไดป้ ระโยชน์สูงสดุ ตอ่ สว่ นรวมในพืนทต่ี อ่ ไป ประเดน็ ขอ้ สงั เกต และข้อเสนอแนะของสมาชิกวฒุ ิสภา สรปุ สาระสาคัญได้ ดังนี้ ๑. การสรา้ งทานบกนั นาแหง่ นี เมือ่ แล้วเสรจ็ จะมีความมั่นคงแขง็ แรงเพยี งใด มมี าตรการใด รองรบั หรือปอ้ งกันการพังทลายของของทานบกันนาหรอื ไม่ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคล่ือนที่ ๓๑ สานักงาน พัฒนาภาค ๓ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้ชีแจ้งว่า การสร้างทานบกันนาบ้านสันแห่งนี เป็นการก่อสร้างตาม ขันตอนโครงสร้างที่ได้มาตรฐานของหน่วยบัญชาการทหาร พัฒนา ซึ่งทานบกันนาบ้านสันแห่งนี เป็นหน่ึงในพืนที่ เปา้ หมาย โดยทก่ี ่อนหน้านีมกี ารสร้างทานบกันนาตามขันตอน โครงสร้างดังกล่าวเสร็จสินแล้ว ๔ แห่ง ตังแต่ปี ๒๕๖๐ จนถึง ปัจจุบัน ยังไม่มีทานบกนั นาใดท่ีเสยี หาย นอกจากนียังให้ชาวบ้านในแตล่ ะพืนที่ปลูกหญ้าแฝกบรเิ วณสัน ทานบกนั นา เพือ่ ปอ้ งกนั การพังทลายของหน้าดินอกี ประการหน่งึ ดว้ ย ๒. คณะกรรมการบริหารจัดการน้า ท่ีจะต้อง เข้าทาหน้าที่บริหารจัดการน้าจากทานบกั้นนา้ แห่งน้ี มีข้ันตอนหรือมาตรการใดบ้าง เพอื่ ปอ้ งกันหากเกิดกรณี พิพาทของชาวบ้านในการขัดแย้งจากการใช้ประโยชน์ ของทานบกัน้ นา้ แหง่ นี้ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสัน ชีแจงว่า เน่ืองจากการสร้าง ทานบกันนาแห่งนี เพ่ิงแล้วเสร็จยังไม่มีนาให้กักเก็บ ประกอบกับคณะกรรมการบรหิ ารจัดการนาชุดนเี ป็นชดุ แรก จงึ ยังไม่ได้มีมาตรการรองรับดังกลา่ ว แตจ่ ะ ไดน้ าขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธิการไปดาเนนิ การหารอื ต่อไป ๓. สมาชิกวุฒิสภาเสนอแนะให้ทางอาเภอนาน้อย พิจารณาจัดทาแผนงานเพื่อทาคาขอ งบประมาณเพอื่ บารงุ รักษาทานบเสนอจังหวดั เพ่อื บรรจใุ นแผนพฒั นาจงั หวัด และของบประมาณตอ่ ไป พร้อมทังเสนอแนะให้ประชาชนในพืนที่ร่วมกันหาแนวทางหรือมาตรการที่จะดูแลบา รุงรักษาทานบ กันนาแห่งนี เพ่ือให้ได้ประโยชน์สูงสุดร่วมกันของประชาชน คุ้มค่ากับเงินงบประมาณของแผ่นดินท่ีได้ นามาพฒั นาในพืนท่ี
๑๕ คณะท่ี ๓. เย่ียมชมการดาเนินการ : สถานีสูบน้าด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้าบ้านไผ่งาม พื้นท่ีชลประทาน ๑,๐๐๐ ไร่ ตาบลส้าน อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน (งบประมาณ ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท /ผู้รับผิดชอบ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนา พ้ืนท่ีระดับภาค (ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม แผนแม่บทภายใตย้ ทุ ธศาสตร์ชาติ ประเดน็ การบริหารจดั การนาทังระบบ) คณะเดนิ ทางประกอบด้วย ๑. พลเอก โปฎก บุนนาค สมาชกิ วุฒสิ ภา ๒. พลอากาศเอก อดศิ กั ด์ิ กลั่นเสนาะ สมาชกิ วฒุ ิสภา ๓. พลเอก สาเรงิ ศิวาดารงค์ สมาชิกวุฒิสภา ๔. นายสมชาย ชาญณรงค์กลุ สมาชกิ วฒุ ิสภา ๕. นายพลเดช ปน่ิ ประทีป สมาชกิ วฒุ ิสภา ๖. นายณฏั ฐกิตติ์ ปทั มะ วิทยากรเช่ียวชาญ ๗. นายพลณฐั เครือเชา้ นักประชาสมั พนั ธป์ ฏบิ ตั กิ าร ๘. นางธิราพร ณ เชียงใหม่ เจา้ พนกั งานธุรการชานาญงาน พลเอก โปฎก บุนนาค สมาชิกวุฒิสภา เป็นหัวหน้าคณะนาสมาชิกวุฒิสภาลงพืนที่บ้านไผ่งาม ตาบลส้าน อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน เพ่ือติดตามการดาเนินงานโครงการสถานีสูบนาด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งนา ซ่ึงรับผิดชอบโดยกรมโยธาธิการและการผงั เมือง เพื่อให้เกษตรกรใช้นาได้อย่างท่ัวถึง ในพนื ทบี่ า้ นไผง่ ามสาหรบั ชว่ ยเหลือพนื ทีก่ ารเกษตรประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่
๑๖ วตั ถุประสงค์โครงการ เพื่อสูบนาใช้ในการเกษตรในพืนที่บ้านไผ่งาม ตาบลส้าน อาเภอเวียงสา จังหวัดน่าน พืนที่ รบั ประโยชน์ประมาณ ๑,๐๐๐ ไร่ สถานะของโครงการ โครงการชลประทานน่าน กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดาเนินการ ทาสัญญาจัดซือจัดจ้างกับผู้รับเหมาแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้ร้องคัดค้านผลการประกวดราคา และมีการ ส่งเร่ืองการอุทธรณ์ เพ่ือให้กรมบัญชีกลางพิจารณาวินิจฉัยตามกฎหมาย (หน่วยงานโครงการ ชลประทานน่านสง่ เรือ่ งการอุทธรณไ์ ปยงั กรมบญั ชกี ลาง) ประเด็นข้อคาถาม ขอ้ สังเกต และข้อเสนอแนะของสมาชกิ วฒุ สิ ภา ๑. สร้างแหล่งกักเกบ็ นาให้เพยี งพอต่อความตอ้ งการของประชาชนในพนื ท่ี เน้นแหล่งกกั เกบ็ นา บนภเู ขา (อ่างเก็บนา) เพื่อใชอ้ ุปโภค บรโิ ภค การเกษตร เปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยว และทพ่ี กั นกั ทอ่ งเทย่ี ว ๒. การกระจายนาจากสถานีสูบนาด้วยไฟฟ้า ครอบคลุมพืนท่ีรับประโยชน์ให้ครอบคลุมและ ทว่ั ถึง ๓. สถานสี บู นาแจกจ่ายให้ประชาชนในพนื ที่เฉพาะในฤดูฝนหรอื ในฤดแู ล้ง หรอื ตลอดทงั ปี ๔. การบริหารจัดการนาอย่างมีประสิทธิภาพ มีการตังคณะกรรมการและมีการวางแผน การใชน้ า มีการกาหนดกฎเกณฑ์ ระเบียบร่วมกนั เพื่อให้เกดิ ความเปน็ ธรรมและโปรง่ ใสอย่างไร ๕. ผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการบารุงดูแลรักษาอย่างเป็น ระบบ ๖. การใช้นาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การปลูกพืชท่ีมีมูลค่าสูง เช่น พริกไทย พืชใช้นาน้อย และตลาดมคี วามต้องการ ๗. การตงั กลมุ่ ผ้ใู ชน้ า เพอ่ื สรา้ งการมีส่วนร่วม/ความรับผิดชอบรว่ มกันของประชาชนในพืนท่ี
๑๗ คณะที่ ๔. เยี่ยมชมการดาเนินการ : โรงเรียนคุณภาพประจาตาบลโรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสกิ ร) ถนนข้าหลวง ตาบลในเวียง อาเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน (ยุทธศาสตร์ชาติด้านการ พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การ พฒั นาการเรยี นรู้) คณะเดนิ ทางประกอบดว้ ย ๑. นายออน กาจกระโทก สมาชกิ วุฒสิ ภา ๒. นางกอบกุล อาภากร ณ อยุธยา สมาชกิ วุฒสิ ภา ๓. นางสาวดาวนอ้ ย สทุ ธินิภาพันธ์ สมาชกิ วฒุ ิสภา ๔. นายอรรทิตย์ฌาณ คหู าเรอื งรอง อนุกรรมการการมีส่วนรว่ มของเยาวชน ๕. นายอาชวนิ ล้อมพทิ กั ษ์ อนุกรรมการประชาสมั พันธ์ฯ ๖. นายกิตติกร กอบเงิน วิทยากรปฏิบัติการ ๗. นางสาวปิยวรรณ แสนเมือง นักประชาสัมพันธป์ ฏิบัตกิ าร ข้อมูลโรงเรียนบ้านดอน (ศรเี สรมิ กสิกร) ตังอยู่ท่ี ถนนข้าหลวง ตาบลในเวียง อาเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน มีครูและบุคลากร จานวน ๑๐๖ คน นกั เรียน จานวน ๑,๗๘๑ คน การจัดการศึกษาของโรงเรยี นตามแนวทางปฏิรูปการจดั การศึกษา ๑. จัดเนือหาและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคานึงถึง ความแตกต่างระหว่างบคุ คล ๒. ฝกึ ทกั ษะกระบวนการคดิ การจัดการ การเผชญิ สถานการณ์ การประยุกต์ความรู้เพ่อื นาไปใช้ ในการปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา ๓. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียน เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติให้คิดเป็นทาเป็น รักการอ่าน และเกิดการเรยี นรูอ้ ย่างต่อเน่ือง ๔. จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระ ความรู้ต่าง ๆ ให้ได้สัดสว่ นสมดุล ปลูกฝังค่านิยมและ คณุ ลกั ษณะอันพึง่ ประสงค์ ในทกุ สาระวชิ า ๕. จัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการ เรียน และอานวยความสะดวกให้ผู้เรียนเกิดการ เรียน รู้ สามารถใช้การวิจัยเป็น ส่วน ห นึ่ งของ กระบวนการเรียนรู้ ผู้สอนและผู้เรียนเรียนรู้ไปพร้อม กัน จากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการ ประเภทต่าง ๆ
๑๘ ๖. จัดการเรียนรู้ให้เกิดทุกเวลา ทุกสถานที่ ประสานความร่วมมือจากผู้ปกครอง และชุมชน เพือ่ พัฒนาผู้เรยี นตามศกั ยภาพ ผลการพัฒนาการศกึ ษาดา้ นส่งเสรมิ วิชาการ ทางโรงเรียนได้กาหนดกลยุทธ์และจัดทาแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา มีการวางแผนกระบวนการค้นหา นวัตกรรม ดาเนินการค้นหานวัตกรรมที่เหมาะสม หลังจาก นันได้ตรวจสอบและเพิ่มเติมขันตอนที่เหมาะสม และ ประชาสัมพันธ์ให้บุคลากรในองค์กรได้รับทราบ โดยพัฒนา รูปแบบดงั ตอ่ ไปนี การดาเนินงานตามผลงานตามกิจกรรมตามวงจร ADLI ๑. การวางแนวปฏิบัติ Approach ทางโรงเรียนได้ทาการวิเคราะห์กลยุทธ์แล้วนาการกาหนด กลยุทธเ์ พอ่ื ให้มีนวตั กรรมใชใ้ นทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๒. การดาเนินการ Deployment โรงเรียนได้ใช้กระบวนการ PDCA – S/P โรงเรียน บ้านดอน (ศรีเสรมิ กสิกรรม) Model ในการจดั การเรยี นรู้ P (PLAN) การวางแผน มีการประชมุ คณะกรรมการพฒั นาผลสัมฤทธิ์ D (DO) จัดการเรียนรูต้ ามกระบวนการเรยี นรู้ ตรากระบวนการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ดังนี ๑. กระบวนการเรยี นรู้แบบลงมือปฏิบตั ิ ๒. กระบวนการเรียนรผู้ ่านการสอื่ สารอย่างสร้างสรรค์ ๓. การเรียนรูแ้ บบขนั บนั ได (IS) C (CHECK) การตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล การนิเทศภายในอย่างต่อเน่ือง เพื่อตรวจสอบ และให้คาแนะนา รวมทงั หาแนวทางแก้ไข A (ACTION) ประเมิน ปรับปรุงและวิเคราะห์ผล RT, NT, O – NET และข้อสอบมาตรฐาน ปลายปี S (Smart) ความเป็นเลิศทางวิชาการ การดาเนินการตามโครงการ กิจกรรมสนับสนุน และ กจิ กรรมการเรยี นการสอน P (Presentation) การประชาสมั พันธต์ อ่ สาธารณชนอน่ื ๆ ๓. การแลกเปล่ียนเรียนรู้ (Learning) โรงเรียนมีการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการ พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสปั ดาห์ละ ๒ ครงั โดยจัดภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้เดียวกันและภายใน ชนั เรียนแตล่ ะสายชนั ๔. การบูรณาการ (Integration) ทางโรงเรียนได้ใช้กระบวนการในการบริหารทัง ๔ งาน โดยการบรู ณาการแบบองคร์ วม การพัฒนาการศกึ ษาดา้ นสง่ เสริมวิชาการ แบง่ เป็น ๕ ประเด็น ไดแ้ ก่ ๑. การจดั การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ ๒. การพัฒนาดา้ นทกั ษะชีวติ ๓. การพัฒนาทักษะอาชพี ๔. กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้
๑๙ ๕. กจิ กรรมคา่ ยวิชาการ ภาวะผู้นาและการบริหารจัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างทักษะผ้นู าตามคุณลักษณะผู้นาการเปลยี่ นแปลง Transformational Leadership ๑. เป็นแบบอยา่ งและตวั อย่างท่ีดี Idealized Influence ๒. เป็นนักสร้างแรงบนั ดาลใจ Inspirational Motivation ๓. กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ทกุ สถานการณ์ Intellectual Stimulation ๔. เขา้ ใจลักษณะเฉพาะแต่ละบคุ คล Individualized consideration ๕. การสร้างทีมงาน Teams การพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ๑. มคี รคู รบชนั้ เรยี น ตรงสาขา มีบุคลากรธุรการ นักการภารโรง และครมู ีทกั ษะวิชาชพี ๒. หลักสูตรการจัดการเรียนรู้และประเมินผลการเรียนรู้ ตามการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ประกอบด้วย ทักษะพื้นฐานในการรู้หนังสือ ทักษะการคิด ทักษะการทางาน ทักษะการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ และทกั ษะการใช้ชีวิต โดยการประเมินการจดั การเรียนรู้ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ใช้แบบทดสอบตามมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสากล ควบคู่ไปกับการวัดและประเมินผลการ เรยี นรู้ตามสภาพจรงิ ในห้องเรียน ๓. การจัดการช้ันเรียน การออกแบบการจัดการเรียนการสอนให้มีความหลากหลาย อาทิ การเรียนรู้แบบรายบุคคล การเรียนแบบกลุ่ม สนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านทรัพยากร และชอ่ งทางการเรยี นรทู้ ี่หลากหลายท้งั ในหอ้ งเรียนและการเรียนรูแ้ บบออนไลน์ และจัดการใหม้ ี การเชอ่ื มตอ่ การเรียนรู้ ทั้งภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น ๔. ภาษาและการส่ือสาร (อย่างน้อย ๒ ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) โดยมีการพัฒนา ทักษะการส่ือสารภาษาที่ ๒ และภาษาที่ ๓ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ในระดับการพัฒนาการ สอ่ื สารเบื้องตน้ เพื่อการสือ่ สารในชีวิตประจาวัน ๕. การจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนครูมีศักยภาพในการแยกความสามารถของนักเรียน ได้เป็นรายบุคคล มีกระบวนการดาเนินงานดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนชัดเจน พร้อมท้ังมีวิธีการและเคร่ืองมือท่ีมีมาตรฐาน คุณภาพ และมีหลักฐานในการทางานที่ตรวจสอบได้ เพื่อมุ่งผลสัมฤทธ์ิในการแกป้ ัญหาผู้เรียนเป็นรายบคุ คลและส่งเสรมิ ผเู้ รียนอย่างเตม็ ศักยภาพ ๖. การวิจัยและการพัฒนาเรียนการสอน ครูผู้สอนควรทาวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน อย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ เรื่อง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในช้ันเรียนอย่าง เปน็ ระบบ ๗. การพัฒนาตนเองแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ เป็นกระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยเรยี นรจู้ ากการปฏิบตั งิ านของกลมุ่ บคุ คลทีม่ ารวมกัน เพื่อทางานรว่ มกนั และสนับสนุนซง่ึ กนั และกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนร่วมกัน มุ่งเน้นและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้อย่าง เป็นองค์รวมมีรูปแบบ และขน้ั ตอนการสรา้ งชมุ ชนทางวชิ าชพี ดังนี้
๒๐ ๑. ระบุความต้องการของผเู้ รยี นและความสาคัญ ๒. ครรู ่วมกนั วางแผนการเรยี นรู้และทดลองใช้ ๓. ตรวจสอบแผนและกระบวนการนาไปใช้ ๔. ปรับปรุงแกไ้ ขบนพื้นฐานของขอ้ มูล ๕. ศกึ ษาแนวทางวธิ กี ารสอนและทดลองใช้วธิ ใี หม่ ๖. สะทอ้ นผลการทางานและพิจารณาแนวทางทเี่ หมาะสมกับผเู้ รยี น ๘. ครสู ามารถใช้เทคโนโลยี ICT ในการจดั การเรยี นการสอนและค้นคว้าหาความรู้เพ่มิ เติม การสรา้ งเครือขา่ ยและการมสี ่วนร่วม ๑. การสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์โรงเรียนและชุมชนโดยใช้หลัก 3S’s ในการสร้างความ ร่วมมือและการสนบั สนนุ จากชุมชน ๑.๑ Shared Vision การสร้างชมุ ชุนมวี ิสัยทัศนร์ ่วมกนั กับสถานศกึ ษา ๑.๒ Synergy การรวมพลงั ประสานความร่วมมือกับชมุ ชนใหท้ างานรว่ มกบั สถานศกึ ษา ๑.๓ School – Based Activities การสรา้ งสถานศึกษาใหเ้ ปน็ แหล่งความรูศ้ ูนย์กลางพัฒนา ทรัพยากรมนษุ ยข์ องชุมชน ๒. การสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเครือข่ายการพัฒนา การมสี ว่ นร่วมของเครอื ขา่ ยประกอบดว้ ย ๒.๑. เครอื ข่ายศิษยเ์ ก่าสมาคมครแู ละผู้ปกครองนกั เรยี น 2.๒ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั พนื ฐาน 2.๓ เครอื ข่ายกลมุ่ โรงเรียน 2.๔ เครอื ข่ายของชมุ ชนในทอ้ งถ่นิ วดั องค์กรและหนว่ ยงานภาครัฐและเอกชน 2.๕ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 2.๖ กระทรวงมหาดไทย 2.๗ กระทรวงดิจทิ ลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสงั คม 2.๘ กระทรวงสาธารณสขุ 2.๙ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม 2.๑๐ กระทรวงพลังงาน ปญั หาและอุปสรรคในการดาเนนิ งานตามโครงการโรงเรยี นคณุ ภาพประจาตาบล ๑. ดา้ นโครงสรา้ งพืน้ ฐาน จานวนโครงสร้างพ้ืนฐานไม่สามารถตอบสนองกับจานวนนักเรียน ที่เพิ่มขึน้ ทกุ ปี ทาใหม้ ปี ัญหาความไมเ่ พยี งพอของอาคารเรียนและอาคารประกอบตอ่ จานวนนกั เรียน โดยเฉพาะในสว่ นของโรงอาหารทก่ี อ่ สร้างเมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๔ ระยะเวลาประมาณ ๔๐ ปี มีความชารดุ ผพุ งั ท่ีตอ้ งซอ่ มแซมและการบารุงรกั ษา แต่ยงั ไมไ่ ดร้ บั การจดั สรรงบประมาณ ๒. ดา้ นการส่งเสริมการศึกษาการพัฒนาทักษะวิชาชีพยังมพี ัฒนาการท่ีไม่เดน่ ชัด ยังไม่สามารถ พัฒนาทักษะวิชาชีพในลักษณะของโครงงานอาชีพให้ครบวงจร ทาได้เพียงกระบวนการผลิตชิ้นงาน เท่านั้น ในส่วนของการบริหารจัดการด้านการซื้อขาย การหาตลาดและการกระจายสินค้า รวมถึงการ ดาเนนิ การในการจดั ทาบัญชีรายรับรายจ่ายยังไมส่ ามารถดาเนนิ การใหเ้ หน็ ชดั และครบวงจรได้
๒๑ ๓. การจัดการเรียนการสอนในชว่ งของการใช้มาตรการป้องกัน covid - 19 ทาให้เกิดอุปสรรค ในการเรียนการสอนและการจัดการเรียน โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ยังมีข้อจากัด ในประเด็นของประสิทธิภาพและความพร้อมของระบบการศึกษา รวมถึงการที่ผู้ปกครองสะท้อน ความคดิ เหน็ วา่ เป็นการเพิ่มภาระใหผ้ ปู้ กครอง และยังสะท้อนถงึ ภาพปัญหาความเหลอื่ มลา้ ของนักเรียน ทีม่ อี ย่างหลากหลายอีกดว้ ย ๔. การที่โรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ มีจานวนนักเรียนมาก และด้วยสภาพสังคม ทเี่ ปลยี่ นไปอยา่ งรวดเรว็ ทาใหจ้ านวนนกั เรยี นมีความบกพร่องในการเรยี นร้เู พม่ิ สัดส่วนมากขึน้ ส่งผลถึง อปุ สรรคในการบรหิ ารจัดการช้ันเรียนและประสิทธิภาพการเรยี นรแู้ ละผลสมั ฤทธิ์ในภาพรวม ๕. ด้านการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมใน เชิงวชิ าการยงั ไม่เขม้ แข็งเท่าท่คี วรอนั เนอื่ งมาจากความจากดั ในเรือ่ งของทรพั ยากรและการเข้าถงึ การใช้ ทรัพยากรร่วมกันของเครือข่ายท่ีเป็นหน่วยงานภายนอกอันเน่ืองมาจากนโยบายของหน่วยงาน ทไ่ี มต่ อ่ เนอ่ื ง ประเด็นขอ้ แลกเปลยี่ นความคิดเห็น ๑. ประเด็นการสอนให้นักเรียนมีความรักถ่ินฐาน สอนให้เด็กมีมารยาท เคารพรักพ่อแม่ ครูอาจารย์ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งต้องมีเทคนิคในการสอน มิใช่การคิดว่าเป็นไปตามยุคสมัย แต่ครูต้องพยายามสอนใหไ้ ด้ ๒. ประเด็นการสอนเด็กในด้านพหุปัญญา ตามศักยภาพของนักเรียน คือด้านดนตรี กีฬา หรือสายอาชีพต่าง ๆ ซึ่งจะทาให้สามารถพัฒนาเด็กได้ ไม่ทาให้เด็กถูกทิงจากระบบการศึกษา ท่ีเน้นวิชาการ จนต้องออกจากระบบการศึกษา ซึ่งเด็กจะได้รับการพัฒนาจนอาจประสบความสาเร็จ ในความถนดั หรอื ศักยภาพของตนเองได้ ๓. ประเด็นการเรียนการสอนภาษาตา่ งประเทศถือว่ามคี วามจาเป็นซ่ึงต้องทาใหน้ กั เรียนมีความ กลา้ ท่ีจะสนทนาภาษาต่างประเทศได้ ๔. ประเด็นร่างพระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ ซง่ึ คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของรฐั สภา ในห้วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ในกรณีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งยังมีความไม่ชัดเจน เนื่องจากความคิดเห็นยังแตกต่างนัน จะมีความชัดเจนในการพิจารณาในชันกรรมาธิการ ซึ่งจะได้ แลกเปล่ียนความเห็นจนไดข้ ้อยตุ ิ 5. ท่ีมาของโรงเรียนคุณภาพประจาตาบลเกิดจากการคัดเลือกภายในเขตพืนที่การศึกษา ประถมศึกษาน่านเขต ๑ สืบเนื่องมาจากโครงการของรัฐบาลตังแต่ในอดีต คือ โครงการโรงเรยี นในฝัน แต่ โครงการสินสุดลงในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ต่อมาได้ร่วมโครงการของรัฐบาลอย่างต่อเน่ือง ได้แก่ โรงเรียนดีใกล้ บา้ น โรงเรยี นดีศรตี าบล และโรงเรยี นดีประจาตาบล จนมาถึงในปัจจุบันคือ โรงเรียนคุณภาพประจาตาบล โดยโรงเรยี นบา้ นดอน (ศรเี สริมกสิกร) ได้รบั การคัดเลือกเน่ืองจากการประเมนิ จาก ๒ ปจั จยั ได้แก่ ๑. ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ โดยเฉพาะคะแนนสอบ O - NET ของนักเรียนโรงเรียน บ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) มีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ โดย ค่าเฉลี่ยคะแนนสอบ O – NET ทังประเทศอยู่ที่ ร้อยละ ๓๖ แต่ค่าเฉล่ียของโรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) อยู่ที่ร้อยละ ๔๘ โดยสูงกว่าค่าเฉล่ียทกุ วิชา
๒๒ ๒. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ของนกั เรยี นโรงเรยี นบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) มงุ่ เนน้ ให้ นกั เรียน เกง่ ดี และมีคุณคา่ ทังนี ปัจจุบันโรงเรียนยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนการเป็นโรงเรียนคุณภาพประจาตาบล จากรฐั บาล ๖. ผู้บริหารและครูผู้สอนของโรงเรียนมีคุณภาพจานวนมาก ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในการ ทางาน ส่งผลใหน้ ักเรยี นไดร้ ับความรูอ้ ย่างมีคุณภาพจากครผู ู้สอนโดยมวี ิธีการสอนที่เหมาะสม สามารถ เปน็ แบบอย่างใหก้ บั โรงเรียนอ่ืน ๆ ได้ ๗. โรงเรียนเห็นว่าหลักสูตรทุจริตศึกษาเป็นหลักสูตรที่ดี มีรายละเอียดชัดเจน แต่มีความเป็น ทฤษฎีมากเกินไปทาให้เกิดปัญหาขึนกับทังครูผู้สอนและนักเรียนโรงเรียนในการจัดการเรียนก ารสอน จึงมีการประยกุ ตห์ ลักสูตรทุจริตศึกษาให้สอดคล้องกับกิจกรรมและเนือหาการเรียนใน แตล่ ะวชิ า โดยมี แนวทางดังนี ๑. จัดเป็นวิชาเพ่มิ เติมในหลกั สตู ร ๒. จดั เปน็ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ๓. จดั การเรียนแทรกกบั หลกั สตู รปกติ ๔. จดั การเรยี นแทรกในชวี ิตประจาวนั ในสถานศกึ ษา ความต้องการของโรงเรยี นเพ่อื แกไ้ ขปญั หา ในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ โรงเรียนบ้านดอน (ศรีเสริมกสิกร) ได้รับการจัดสรรและอนุมัติงบประมาณ ในการก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ เป็นงบผูกพันปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ซึ่งทางโรงเรียนมีความพร้อมในเรอ่ื งสถานที่กอ่ สรา้ งและดาเนนิ การตกลงเกีย่ วกบั ผู้รับจ้าง เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินงบประมาณจากสานักงานงบประมาณเพื่อเบิกจ่าย จึงยังไม่สามารถ ดาเนินการตามระเบียบได้ ซึ่งทางโรงเรียนเกรงว่าหากเกิดความล่าช้าจนเกินระยะเวลา ที่กา หนด จะทาให้งบประมาณของโครงการดังกล่าวต้องส่งคืนกะทรวงการคลัง และไม่สามารถดำเนินการ ก่อสร้างได้ จึงประสงค์ขอให้วุฒิสภาเร่งรัดการอนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณจาก สานักงบประมาณ ใหแ้ กโ่ รงเรียนดว้ ย
๒๓ วันศุกร์ท่ี ๑2 มีนาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬกิ า กจิ กรรมสมาชกิ วุฒสิ ภาพบประชาชน ณ ศนู ย์การเรยี นชุมชนธรรมชาติบ้านหว้ ยพา่ น ตาบลเปือ อาเภอเชียงกลาง จงั หวดั นา่ น พลเอก สงิ ห์ศกึ สิงหไ์ พร รองประธานวฒุ ิสภา คนที่หนึง่ ไดน้ าคณะสมาชิกวุฒสิ ภาเดนิ ทางไปยัง ศูนย์การเรียนชุมชนธรรมชาติบ้านห้วยพ่าน ตาบลเปือ อาเภอเชยี งกลาง จังหวัดน่าน เพ่ือพบปะประชาชน ชุมชนบ้านห้วยพ่าน และเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนชุมชนธรรมชาติบ้านห้วยพ่าน ทังนี นายสมบูรณ์ ใจปิง ผอู้ านวยการศูนย์การเรยี นชุนชนธรรมชาติบ้านห้วยพ่าน และผู้ใหญ่บ้านห้วยพ่าน ได้กล่าวถงึ ความเป็นมา ของศูนยก์ ารเรยี นแห่งนีวา่ เพ่อื แก้ไขปัญหาการส่งบุตรหลานไปเรยี นหนงั สอื ในโรงเรยี นหม่บู ้านใกล้เคียง ซึ่ง ทุกโรงเรียนอยู่ไกลจากหมู่บ้านห้วยพ่าน ประมาณ ๑๐ - ๑๕ ก.ม. การเดินทางไกลไปโรงเรียนก่อให้เกิด ผลกระทบโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน เพราะถนนทางเข้าหมู่บ้านระยะทาง ๗ ก.ม. เป็นถนนดินลูกรังลัดเลาะ ไปตามภูเขาสงู และชาวบา้ นส่วนใหญ่ใชร้ ถจักรยานยนต์เปน็ พาหนะในการรับ-ส่งนกั เรียน บางครังหากมฝี น ตกหนักก็ทาให้ไม่สามารถเข้า-ออกหมู่บ้านได้ ดังนันการเรียนของเด็ก ๆ จึงไม่มีความต่อเนื่องและเกิด อบุ ตั ิเหตบุ อ่ ยครงั นอกจากนันเด็ก ๆ บางส่วนยังเข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ จ.น่าน อยู่ห่างจาก หมู่บ้านประมาณ ๑๒๐ ก.ม. ซึ่งเป็นโรงเรียนประจา เด็ก ๆ จึงต้องออกจากหมู่บ้านตังแต่อายุ ๗ ขวบ ซึ่งทังผู้ปกครองค่อนข้างเป็นห่วงกังวลเน่ืองจากเด็กยังเล็กเกินไปไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ แต่ก็ต้อง ตัดใจส่งให้ลูกไปเรียนหนังสือเพื่อการศึกษาของเด็ก ความยากลาบากด้านการศึกษาของบุตรหลาน ทังในอดีตและปัจจุบัน เป็นความมุ่งม่ันและแรงบันดาลใจท่ีชาวห้วยพ่านพยายามศึกษาช่องทางในการ แกไ้ ขปัญหาและหาทางออกทีเ่ หมาะสม และเมอื่ พระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ เปดิ พนื ที่ การจดั การศกึ ษาหลากหลายรปู แบบมากยิ่งขึน ทาใหผ้ ู้นาชมุ ชนห้วยพ่านเริม่ ทาการศกึ ษารายละเอียดและ มีความหวังมากย่ิงขึนในการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาของบุตรหลาน ตามท่ีพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม โดยเฉพาะในมาตรา ๑๒ ได้ให้การรับรองสิทธิในการจัด การศึกษาแก่ภาคสังคมและประชาชน โดยกาหนดว่า นอกเหนือจากรัฐ เอกชนและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ให้บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น มีสิทธิในการจัดการศึกษาขันพืนฐาน ซ่ึงในขณะนี กระทรวงศึกษาธิการไดอ้ อกกฎกระทรวงว่าด้วยสทิ ธอิ งค์กรชมุ ชนและองค์กรเอกชนในการจดั การศกึ ษาขัน
๒๔ พนื ฐานในศนู ยก์ ารเรียน พ.ศ. ๒๕๕๕ กาหนดใหอ้ งคก์ รชุมชน และองคก์ รเอกชนมีสทิ ธิในการจดั การศึกษา ขันพืนฐานในศูนย์การเรียน และให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขันพืนฐานตามกฎกระทรวงดังกล่าวนี เรียกวา่ “ศูนย์การเรยี น” ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ชาวห้วยพ่านได้ร่วมกับทางมูลนิธิส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชน เรียนรู้ และศึกษากระบวนการจัดศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ รวมทังร่วมเรียนรู้กับเครือข่ายการศึกษาทางเลือก แห่งประเทศไทย กระท่ังเมื่อกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กรชุมชนและองค์กรเอกชนในการ จัดการศึกษาขันพืนฐานในศูนย์การเรยี น พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมอื่ วันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ชาวห้วยพ่านจึงมีความประสงค์จะดาเนินการจัดการศึกษาขันพืนฐานภายในศูนย์การเรียนรู้ ตามกฎกระทรวงดังกล่าว รวมทังได้พัฒนาหลักสูตรชุมชนขึนเพ่ือดาเนินการจัดการเรียนการสอนให้กับ บุตรหลานต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์การดาเนินงานพัฒนาด้านต่าง ๆ ของชาวชุมชน บ้านห้วยพ่าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์ป่า จานวน ๑๐,๓๑๕ ไร่ ๘๘ ตารางวา อนุรักษ์นาและปลา ทังในลานาน่านและลาห้วยพ่านมายาวนานกว่า ๓๐ ปี รวมถึงการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมชุมชน ประสบผลสาเร็จเป็นที่รับรู้และยอมรับโดยทั่วไปทังจากภาครัฐและภาคประชาชน ซ่ึงความเข้มแข็ง และพลังของชุมชนเป็นความเช่ือม่ันของชาวห้วยพ่านว่า พวกเขาสามารถจัดการศึกษาให้กับบุตรหลาน ไดต้ ามหลักการทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนดไว้ การจดั การศกึ ษาโดยองค์กรชุมชนบา้ นห้วยพ่าน มีเจตจานงมงุ่ หมายจัดการเรียนการสอนใหผ้ เู้ รยี น เรียนรู้อย่างมีความสุข พัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ เป็นคนดีและคนเก่ง สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนและ กลมกลืนกบั วทิ ยาการสมัยใหม่ เพ่ือนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ พรอ้ มด้วยคุณธรรม ภูมิปญั ญา และ สานกึ ในความเปน็ พลเมอื งดี ในการลงพืนที่บ้านห้วยพ่าน นอกเหนือจากการเยี่ยมชมศูนย์การเรียนชุมชนธรรมชาติ บ้านห้วยพ่านแล้ว สมาชิกวุฒิสภาได้มอบอุปกรณ์สาหรับการจัดการเรียนการสอน ของท่ีระลึกและอ่ืน ๆ ใหแ้ ก่ศูนย์การเรียนชมุ ชนธรรมชาตบิ ้านห้วยพ่าน และผู้เขา้ รว่ มโครงการ ประกอบไปด้วยคอมพวิ เตอรแ์ ละ อุปกรณ์ต่อพว่ ง จานวน ๑ ชุด โทรทัศน์สีดจิ ิทลั Smart TV จานวน ๑ เครอ่ื ง ผา้ ขนหนู ผนื ใหญ่ ผ้าขนหนู ผนื เล็ก ลูกพันธไุ์ กไ่ ข่ เมลด็ พันธ์ผุ กั สวนครวั และเจลลีโ่ ภชนา
๒๕ ทังนี สมาชกิ วฒุ ิสภาไดร้ บั ฟงั และแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ กับชาวชุมชนบ้านหว้ ยพา่ นอยา่ งใกลช้ ดิ
๒๖ หลังจากนัน สมาชิกวุฒิสภาได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับชาวบ้านห้วยพ่าน ท่ามกลาง บรรยากาศเปน็ กันเองฉันท์มิตร ปัญหาและอุปสรรคในการดาเนนิ งานของศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชนธรรมชาติบ้านหว้ ยพา่ น จากการรับฟังผลการดาเนินงานของศูนย์การเรียนชุมชนธรรมชาติ บ้านห้วยพ่านของสมาชิก วุฒิสภา ได้รับทราบปัญหาสาคัญประการหน่ึง ซ่ึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาศูนย์การเรียนชุมชน ธรรมชาติบ้านห้วยพ่าน คือ ชุมชน และศูนย์การเรียน ตังอยู่ในพืนท่ีป่าสงวนแห่งชาติ ทาให้ไม่สามารถ ของบประมาณจากภาครัฐในการพัฒนาพืนท่ี ทังแหล่งนาและส่ิงปลูกสร้าง สาหรับใช้ประโยชน์ของ ชมุ ชนและศนู ยก์ ารเรยี นฯ ได้ ทังนี คณะสมาชิกวุฒิสภาได้แสดงความคิดเห็น โดยช่ืนชมผู้นาชุมชนและชาวบ้านห้วยพ่าน ทไี่ ด้รว่ มมือกันแกไ้ ขปญั หาการศึกษาของชมุ ชนไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งกบั วิถชี มุ ชนและกลมกลืน่ กบั วิทยาการ สมัยใหม่ไดเ้ ป็นอย่างดี นอกจากนี คณะสมาชิกวุฒิสภาได้เสนอแนะเก่ียวกับประเด็นการใช้ประโยชน์และการอยู่อาศัย ในพืนที่ป่าสงวนแห่งชาติว่า ปัจจุบันรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายการจัดการปัญหาคนอยู่กับป่า โดยได้ปฏิรูปกฎหมายป่าไม้และที่ดิน รวม 5 ฉบับ ที่สาคัญ มีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของกฎหมายไปจากเดิมอย่างมาก อันได้แก่ “เปลี่ยนจากกฎหมาย ในเชิงบังคับลงโทษ ท่ีมีแต่การห้ามบุกรุกป่าอย่างเดียว มาเป็นกฎหมายในเชิงส่งเสริมสนับสนุน ซึง่ มีทังการห้ามบุกรุกและการให้ใช้ประโยชน์” อันได้แก่ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายท่ีดิน แห่งชาติ พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 นอกจากนียังมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ให้แก้ไขปัญหา คนที่อยู่ในพืนที่ป่าไม้ทุกประเภท โดยมีกลไกคณะกรรมการนโยบายท่ีดินแห่งชาติ (คทช.) ทาหน้าท่ี กากับและแก้ไขปัญหาท่ีดินทังปวงของรัฐ จากจุดนี กาลังนามาสู่การออกอนุบัญญัติ หรือกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง ที่เก่ียวข้องทังระบบ เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสามารถปฏิบัติงานในแนวทาง ใหม่ได้ ต่อจากนีไป คาดว่าจะเป็นกระบวนการทางานแบบมีส่วนร่วม ค้นหาต้นเหตุและแสวงหา แนวทางแก้ไขร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เปลี่ยนแนวคิดให้ “คนอยู่ร่วมกับป่าได้” ให้คนมีความสุข “บนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร” ส่วนรัฐก็ได้ป่า ประชาชนได้ที่ทากิน “บนผืนแผ่นดินเดียวกัน” โดยมีเป้าหมายสุดท้ายที่จะสามารถเปลี่ยนคนจาก “ผู้บุกรุก มาเป็นผู้ดูแลรักษาและใช้ประโยชน์อย่าง สมดุลและยั่งยืน”
๒๗ ภาคผนวก
๒๘ ภาพกจิ กรรมการรับฟังการบรรยายการดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรม ที่ได้รบั การจดั สรรงบประมาณ ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ซ่ึงสอดคล้องกับแผนการปฏิรปู ประเทศ และแผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตรช์ าตทิ อ่ี ยูใ่ นความรบั ผิดชอบของจังหวดั น่าน
๒๙
๓๐ ภาพกจิ กรรมการเยีย่ มชมการดาเนนิ การ : โครงการพัฒนาพนื้ ทเี่ ฉพาะเมืองภเู พยี ง บา้ นม่วงต๊ดึ หม่ทู ี่ ๔ ตาบลม่วงตึ๊ด อาเภอภเู พียง จังหวัดน่าน
๓๑
๓๒ ภาพกจิ กรรมการเย่ียมชมการดาเนนิ การ : งานก่อสรา้ งทานบก้นั นา้ บา้ นสนั ตาบลเชยี งของ อาเภอนาน้อย จงั หวัดน่าน
๓๓
๓๔ ภาพกิจกรรมการเยี่ยมชมการดาเนินการ : สถานีสูบนา้ ดว้ ยไฟฟา้ พร้อมระบบสง่ นา้ บ้านไผ่งาม พื้นท่ี ชลประทาน ๑,๐๐๐ ไร่ ตาบลส้าน อาเภอเวยี งสา จงั หวัดนา่ น
๓๕
๓๖ ภาพกิจกรรมการเยยี่ มชมการดาเนินการ : โรงเรยี นคณุ ภาพประจาตาบลโรงเรียนบา้ นดอน (ศรเี สริมกสิกร) ถนนข้าหลวง ตาบลในเวยี ง อาเภอเมอื งนา่ น จงั หวัดนา่ น
๓๗
๓๘ ภาพกจิ กรรมสมาชกิ วุฒสิ ภาพบประชาชน ณ ศนู ย์การเรยี นชุมชนธรรมชาตบิ ้านหว้ ยพา่ น ตาบลเปอื อาเภอเชยี งกลาง จงั หวดั นา่ น
๓๙
๔๐ **************************************************
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: