Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วัฒนธรรมอำเภอลาดยาว

วัฒนธรรมอำเภอลาดยาว

Published by visakha.ntech, 2022-01-29 04:42:25

Description: ลาดยาว

Search

Read the Text Version

วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๕ วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค

๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค

วถิ ชี ีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ คาํ ปรารภ อธิบดีกรมสง เสริมวัฒนธรรม วัฒนธรรมเปนสิ่งที่แสดงถึงความเจริญงอกงาม ความเปน ระเบียบ เรียบรอย เปนมรดกทางสงั คมไทย ทีบ่ รรพบุรุษไดสรางสรรค และสั่งสมมาต้ังแตอดีตจนถึงปจจุบัน ถายทอดจากรุนสูรุน มีขนบธรรมเนียม ประเพณีอันเปนที่ยอมรับรวมกันในสังคมน้ันๆ ศิลปวัฒนธรรมของไทย มีความแตกตางกันในแตละทองถ่ิน ท้ัง ขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษาพูด ภาษาเขียน การแตงกาย อาหาร วิถีชีวิต และความเชื่อ ซึ่งมีเอกลักษณเฉพาะที่บงบอกถึงคานิยม ความเช่ือ ศาสนา วิถีชีวิตความเปนอยู ตลอดจนสภาพแวดลอมของ ผูคนในทองถ่นิ แสดงใหเห็นถึงความเจริญรุงเรืองทางวฒั นธรรมทแ่ี ฝง ไปดวยภูมิปญญา และความเปนชาติที่มีอารยธรรมเกาแกมาชานาน จนกลายเปน รากฐานขององคค วามรทู างศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ญ ญา ในดานตางๆ ทม่ี ีคุณคาของไทย ในการนี้ เพ่ือประโยชนในการอนุรักษหรือฟนฟูจารีตประเพณี ภูมิปญญาทองถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของทองถ่ินและของชาติ และประสานการดาํ เนนิ งานวฒั ธรรมซงึ่ ภาคประชาสงั คม และประชาชน มสี ว นรว ม กรมสง เสรมิ วฒั นธรรม จงึ ไดใ หก ารสนบั สนนุ สภาวฒั นธรรม จังหวัดนครสวรรค ดําเนินการจัดทําหนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรมอําเภอ

๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ตางๆ ในจงั หวัดนครสวรรค เพอื่ รวบรวมและเผยแพรขอมลู ซ่งึ เปนทุน ทางวฒั นธรรมของจงั หวดั นครสวรรค เพ่ือใหเกิดประโยชนสําหรบั เด็ก เยาวชน และบุคคลทั่วไป ไดศึกษาและรวมภาคภูมิใจในวัฒนธรรม ทองถิ่น จนกอใหเกิดความรกั ความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรม ของตน ตระหนักและเห็นคุณคาของวัฒนธรรมทองถิ่น ปลูกจิตสํานึก ความรักชาติ รักถ่ิน รักแผนดินนครสวรรค และรวมอนุรักษสืบสาน วฒั นธรรมเหลานี้ใหอนุชนคนรุนหลังสืบตอไป (นายชาย นครชัย) อธิบดีกรมสงเสริมวฒั นธรรม

วถิ ชี ีวิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ คํานิยม ผวู าราชการจังหวดั นครสวรรค การจัดทาํ หนงั สือ วิถีชีวิต วัฒนธรรมอําเภอตางๆ ของจังหวดั นครสวรรค เปนการทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรม เพ่ือใหเกิด การสบื สาน และการสรา งองคค วามรทู างดา นวฒั นธรรมนบั เปน พนั ธกจิ ท่ีสําคัญของงานวัฒนธรรม การที่กรมสงเสริมวัฒนธรรม สนับสนุน ใหส ภาวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรคร ว มกบั สาํ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค ดําเนินการจัดทําหนังสือวิถีชีวิต วัฒนธรรมอําเภอ ๑๕ อาํ เภอ จงั หวดั นครสวรรค เพอื่ ดแู ลรกั ษา สืบสานมรดกทางวฒั นธรรม และเผยแพรขอมูล ซ่ึงเปนทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดนครสวรรค ขอมูลดังกลาวไดมาจากการสังเคราะหและเรียบเรียงเนื้อหาจาก คณะกรรมการสภาวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค นกั วชิ าการสาํ นกั งาน วฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค และผมู คี วามรทู หี่ ลากหลาย โดยรวบรวม ประวัติ ตํานาน ชุมชนด้ังเดิมโบราณสถาน-โบราณวัตถุ ศาสนา และความเช่ือ บุคคลสําคัญทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมทองถ่ิน รกุ ขมรดก แหลงทองเทย่ี วเชิงวฒั นธรรม บุคคลผูทําคณุ ประโยชนดาน วฒั นธรรมทค่ี วรยกยอ งอนั สะทอ นถงึ วฒั นธรรมของจงั หวดั นครสวรรค ซึ่งจะเปนประโยชนตอการสืบคน การเก็บรวบรวมเรื่องราวตางๆ ใน รปู แบบหนงั สือ บันทึกลงแผนซีดี และจัดทํา QR Code

๓๔ วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ในนามของจังหวัดนครสวรรค ขอแสดงความชื่นชมและขอ ขอบคุณคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค นักวิชาการ วัฒนธรรม สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค และผูเก่ียวของ ทไี่ ดทุมเทแรงกาย แรงใจในการจดั ทาํ หนงั สือวิถีชีวิต วฒั นธรรมอาํ เภอ ๑๕ อาํ เภอ จงั หวดั นครสวรรค เพอ่ื อนุรกั ษและเผยแพรขอมูล อนั จะ เปนประโยชนตอคนรุนหลงั ตอไป (นายอรรถพร สิงหวิชัย) ผูวาราชการจังหวัดนครสวรรค

วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๕ คาํ นิยม วัฒนธรรมจังหวดั นครสวรรค หนงั สือวิถีชีวิต วัฒนธรรมของแตละอาํ เภอนี้ เปน การรวบรวม ขอมลู ความรตู างๆ ทเี่ ปน เรอ่ื งราวของทองถนิ่ ทมี่ ีมาอยางยาวนาน ดาน ศิลปะและวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประเพณี ชุมชนดั้งเดิม โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ความเปน อยทู ส่ี อ่ื การรกั ษาอารยธรรมของบรรพบรุ ษุ ทเ่ี ปน เอกลักษณของแตละอําเภอไว เพื่อใหคนรุนหลังไดเรียนรู ไดสืบทอด และตอยอดทางวฒั นธรรม กระผมตองขอขอบคุณและช่ืนชมนักวิชาการวัฒนธรรม ผูประสานงานประจําอําเภอทุกทาน ผูเกี่ยวของทุกฝายทุกทานท่ีไดให ขอมูล คําแนะนํา ขอเสนอแนะ ท่ีเปนประโยชนในการจัดทําหนังสือ ในครงั้ นี้ เพอ่ื เกบ็ รวบรวมขอ มลู จนสาํ เรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงคข องโครงการ ทายน้ีหวังเปนอยางย่ิงวาหนังสือเลมนี้จะเปนประโยชนในการ ศึกษาคนควา สําหรับ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และผูสนใจท่วั ไป และขอใหทุกทานรวมอนุรักษสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีของทองถิ่น น้ันไวใหคงอยูกบั ลกู หลานสืบไป (นายประสิทธ์ิ พุมไมชยั พฤกษ) วฒั นธรรมจงั หวัดนครสวรรค

๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค

วถิ ชี ีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๕ คํานํา ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวัดนครสวรรค วัฒนธรรม หมายถึงวิถีการดําเนินชีวิต ความคิด ความเชื่อ คานิยม จารีตประเพณี พิธีกรรม และมรดกภูมิปญ ญา ซึง่ กลุมคนและ สังคมไดรวมกันสรางสรรค สั่งสม ปลูกฝง เรียนรู สืบทอด ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพ่ือใหเกิดความเจริญงอกงาม ท้ังดานจิตใจและวัตถุ ใหเกิดสันติสขุ และความย่ังยืนสืบไป หนังสือวิถีชีวิต วัฒนธรรมเลมน้ี มาจากการสังเคราะหและ เรยี บเรยี งเนอ้ื หาจากนกั วชิ าการสาํ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค ซ่ึงแบงออก เปน เลม เลมละ ๑ อาํ เภอ รวม ๑๕ เลม ๑๕ อาํ เภอ เนื้อหาไดแก ประวตั ิ ตาํ นาน สภาพปจ จบุ ัน ชมุ ชนด้ังเดิม ศิลปะทองถิน่ วัฒนธรรมทองถน่ิ แหลงทองเท่ยี วเชิงวัฒนธรรม บคุ คลผูทําคุณประโยชนดานวฒั นธรรม ท่ีควรยกยองในอําเภอตางๆ ของจังหวัดนครสวรรค จัดทําในรูปแบบ หนงั สอื แผน ซดี ี และจดั ทาํ QR Code ทงั้ นไ้ี ดร บั การสนบั สนนุ งบประมาณ จากกรมสงเสริมวัฒนธรรม โดยความรวมมือของจังหวัดนครสวรรค เปนอยางดียง่ิ หวังเปนอยางยิ่งวา หนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรมอําเภอเลมนี้ จะเปนประโยชนแกนักเรียน นักศึกษา ประชาชนท่ัวไป และขอใหเรา

๓๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ชวยกนั สงเสริม อนรุ กั ษ วัฒนธรรมใหเจริญงอกงามย่งิ ขึ้น ขอขอบคุณ ผูเก่ียวของ ท่ีใหขอมูลทุกทาน ลวนเปนผูกอใหเกิดความสําเร็จในการ จัดทําหนังสือในครั้งนี้ หนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรม เลมน้ีจึงถือไดวา มี คุณคาอยางยงิ่ เปนสมบัติของเราชาวจงั หวัดนครสวรรคตอไป (นายนัทธี พคุ ยาภรณ) ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวดั นครสวรรค

วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ สารบัญ หนา เรอ่ื ง ๑ ๓ บทที่ ๑ ประวตั ิ ตํานาน คาํ ขวัญและสภาพปจจบุ ัน ๔ ประวตั ิ ตาํ นาน ๗ คําขวญั ๑๓ ๑๗ บทที่ ๒ ชุมชนด้งั เดิม ช่อื บานนามเมือง ๒๑ ชมุ ชนด้ังเดิม ๓๑ โบราณสถาน-โบราณวัตถุ ๓๖ บทท่ี ๓ ศาสนาและความเช่อื ๓๗ ศาสนา บุคคลสาํ คญั ทางศาสนา ความเชือ่ บทที่ ๔ ศิลปะทองถ่ิน การละเลนพื้นบาน

๓๔ วถิ ชี ีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค บทท่ี ๕ วฒั นธรรมทอ งถน่ิ วิถีชีวิต ๓๙ การแตงกาย ๔๕ อาชีพ ๔๗ บทท่ี ๖ แหลงทองเทย่ี วเชิงวัฒนธรรม สถานที่ ๔๙ อาหารการกิน ๕๐ ของทร่ี ะลึก ๕๕ บทที่ ๗ บุคคลผทู าํ คุณประโยชนด านวฒั นธรรมทค่ี วรยกยอง นายนิพนธ เทย่ี งธรรม ๕๗ นางวิไล จนั ทรสงเคราะห ๕๘ บรรณานุกรม ภาคผนวก

วิถชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๕ ๑บทท่ี ประวตั ิ ตาํ นาน และสภาพปจจุบนั ประวัติอาํ เภอลาดยาว อําเภอลาดยาวเดิมมีฐานะเปนเพียงตําบลหน่ึงอยูในเขตการ ปกครองของอําเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรคดวยเหตุผลที่มีผูคน พลเมืองนอย พื้นทเ่ี ปน ปาดง มีสตั วราย มีไขปาชกุ ชมุ ผคู นกอ็ ยกู นั เปน หยอ มๆ กระจดั กระจายกนั อยไู มเ ปน ปก แผน แนน หนา ขนุ ลาดบรบิ าล (หลง หมูพยคั ฆ) กํานันตําบลลาดยาว ไดรวมกบั หลวงพอพวง เจาอาวาส วดั ลาดยาว เปน ผรู เิ รม่ิ ชกั ชวนชาวบา นรว มกนั ขดุ เหมอื ง ฝาย คลองสง นาํ้ เพอ่ื เกบ็ กกั นาํ้ บกุ เบกิ พนื้ ทเ่ี ปน ปา เพอ่ื ประโยชนใ นการเพาะปลกู ทาํ นา ทําไร พรอมกบั ชักชวนใหคนตางทองถ่นิ เขามาหากินในทองถน่ิ นี้ ผลแหงการบุกเบิกท่ีนา ที่ไร บํารุงและสงเสริมการทํานา หาเลี้ยงชีพของราษฎรในฝาย การทําเหมืองฝายดังกลาวมาแลวนี้ ไดทําใหตําบลลาดยาว ในสมัย พ.ศ.๒๔๕๖ ยังเปนหมูบานเล็กๆ มีราษฎรไมกี่ครัวเรือน แตทองท่กี วางใหญ ลวงมาระยะเวลาประมาณ ๑๐ ป ไดก ลายเปน หมบู า นใหญข น้ึ มรี าษฎรถน่ิ อนื่ เขา มาตง้ั หลกั ปก ฐาน เปน ปก แผน แนน หนาหลายรอ ยหลายพนั หลงั คาเรอื น แตเ ดมิ ตอ งรอ งขอ ใหมา เมื่อมาแลวก็ตองยกที่ดินทํานาใหบาง ปลูกบานเรือนบาง แต

๓๒๔ วถิ ีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ภายหลังหาท่วี างใหไมได ทําใหปาดงกลายเปน ท่นี า ทไี่ ร ทาํ ใหทีร่ กราง วางเปลากลายเปน ทท่ี มี่ ีประโยชนแกแผนดินขึ้น จึงทาํ ใหตาํ บลลาดยาว เจริญขึ้นตามลําดับ เมื่อประมาณป พ.ศ. ๒๔๖๕ ขนุ ลาดบริบาล (หลง หมูพยคั ฆ) กาํ นนั ตาํ บลลาดยาว ไดเ สนอความเหน็ ตอ พระยาสนุ ทรพพิ ธิ ผวู า ราชการ จังหวัดนครสวรรค และ พลโทพระยาเทพหัสดินทร สมุหเทศาภิบาล นครสวรรคเ พอ่ื พจิ ารณายกฐานะตาํ บลลาดยาว ขน้ึ เปน อาํ เภอลาดยาว ในป พ.ศ. ๒๔๖๙ ขุนลาดบริบาล ไดยกทีด่ ินใหสรางสถานท่ี ราชการ จํานวน ๕๐ ไร และในป พ.ศ. ๒๔๗๐ จึงไดมีการสรางอาคาร ทว่ี า การอาํ เภอลาดยาว เปน อาคารไมส องชน้ั โดยมนี ายอาํ เภอลาดยาว คนแรก คือ ขนุ เปลงประศาสตร ในป พ.ศ. ๒๕๓๔ ไดมีการปลูกสรางทว่ี าการอําเภอลาดยาว ขึ้นใหม เปน อาคารตึก ๓ ช้ัน แทนอาคารไมหลังเกา บนพื้นท่เี ดิม

วิถีชวี ิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๕ ตาํ นานอําเภอลาดยาว คําวา “ลาดยาว”นาเช่ือวาคงจะเรียกตามลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่สภาพแวดลอมท่ัวไปเปนปาทึบมีความลาดเอียงและยาวมาก ซึ่ง เปนท่มี าของช่อื ตําบลลาดยาว ตอมาไดยกฐานะเปน อําเภอ ในปจ จบุ นั อาํ เภอลาดยาวไดแบงสวนราชการออกเปน อําเภอลาดยาวตั้งอยูทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขต ติดตอกับอาํ เภอขางเคียง ดังนี้ • ทิศเหนือ ติดตอกับอําเภอขาณุวรลักษบุรี (จังหวัด กาํ แพงเพชร) และอําเภอบรรพตพิสยั • ทิศตะวันออก ติดตอกบั อําเภอเมืองนครสวรรค • ทิศใต ติดตอกับอําเภอสวางอารมณ (จงั หวดั อทุ ยั ธานี) • ทิศตะวนั ตก ติดตอกับอําเภอชมุ ตาบงและอําเภอแมวงก

๓๔ วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค พ้นื ที่ พนื้ ทส่ี ว นใหญเ ปน ทรี่ าบมลี กั ษณะลาดเอยี งจากทศิ เหนอื ไปทาง ทิศใต มีเนื้อท่ี ๗๔.๘๒ ตารางกิโลเมตร หรือ ๔๖,๗๖๒.๕ ไร อาชีพ อาชีพหลกั ทาํ นา, ทาํ สวน, ทําไร อาชีพเสริม หัตถกรรมจักสาน สาธารณูปโภค จํานวนครัวเรือนท่ีมีไฟฟาใชในเขต อบต. ๒,๙๗๐ ครัวเรือน คิดเปน รอยละ ๙๕.๐๐ จํานวนบานทม่ี ีโทรศพั ท ๑,๗๙๒ หลังคาเรือน การเดินทาง ใชเสนทางถนนพหลโยธินจากกรุงเทพฯ - นครสวรรค ระยะ ทางประมาณ ๒๓๙ กม. ถึง จังหวัดนครสวรรคใชเสนทางถนนสาย นครสวรรค - หนองเบน ระยะทางประมาณ ๑๙ กม. และใชเสนทาง สายนครสวรรค - ลาดยาว ระยะทางประมาณ ๒๒ กม. ผลิตภัณฑ ไขเค็ม-ขนม-น้ํามนั มะพราว-ไมกวาด คําขวัญอาํ เภอลาดยาว “ หลวงพอ พวงศกั ด์สิ ิทธ์ิ ผลผลิตนาขาว แหเจาประเพณี สมโอรสดี หลากสีผาทอ”

วิถชี ีวติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๓๕๕ หลวงพอพวงศักดส์ิ ิทธ์ิ หลวงพอพวง เปนพระภิกษุ ที่มีผลงานในดานพัฒนาพระพุทธ ศาสนา บูรณะวัดและทํานุบํารุง พระพุทธศาสนา มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนใหความเลื่อมใสศรัทธา ในคุณงามความดี ยกยองใหเปน หลวงพอศักดิ์สิทธ์ิของชาวอําเภอ ลาดยาว ผลผลิตนาขาว ประชาชนประกอบอาชีพ เกษตรกรรม คือ การทาํ นา ทําไร มี การปลกู ขา วเปน พชื เศรษฐกจิ ทส่ี าํ คญั คดิ เปน รอ ยละ ๖๐.๘๑ ของพน้ื ทอี่ าํ เภอ แหเจาประเพณี ป ร ะ ช า ช น ที่ มี เ ช้ื อ ส า ย จี น สวนใหญอาศัยอยูในตําบลลาดยาว จงึ สรา งศาลเจา พอ เจา แมล าดยาวขน้ึ

๓๖๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค และมีการจัดงานประเพณีแหเจาพอ เจาแมลาดยาวเปน ประจําทุกป สมโอรสดี อําเภอลาดยาวจะมีการ จัดงาน “ วันสมโอรสดีเมือง ลาดยาว ” ระหวา งเดอื นสงิ หาคม- กันยายน ของทุกป พื้นท่ีที่มีการ ปลกู สมโอ ไดแก ตาํ บลลาดยาว และตาํ บลสระแกว หลากสีผา ทอ ผา ทอทมี่ ลี วดลายและสสี นั สวยงาม เปนผลิตภัณฑ OTOP ระดบั สามดาว เชน ผาทอตีนจก ผาลายขิดตีนจก ผาลายขวั้นบาน ทุงแมน้ํานอย ตาํ บลลาดยาว

วถิ ชี ีวติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๗๓๕ ๒บทท่ี ชมุ ชนดงั้ เดิม ชือ่ บา นนามเมือง ตาํ บลลาดยาว ตําบลลาดยาวแตเดิมเปนเพียงตําบลหนึ่งของอําเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค มีสภาพเปนปาทึบ อดุ มสมบูรณไปดวย ปาไม เชน ไมยาง ไมสกั ไมมะคาโมง ไมประดู ไมชิงชนั และมีสตั วปานานาชนิด ทง้ั เสือ ชาง กวาง เนื้อทราย และสตั วปาอน่ื ๆ มากมาย ในราว พ.ศ.๒๓๙๐ เร่ิมมีชาวบานทาซุด บางประมุง อําเภอโกรกพระ เขามาทาํ น้ํามันยาง ตดั หวาย เกบ็ เปลอื กสเี สยี ด เนอ่ื งจากพน้ื ทใี่ นตาํ บลมคี วามอดุ มสมบรู ณ จงึ ไดม กี ารถากถางปา ทาํ นา ทาํ ไรท ลี ะเลก็ ทลี ะนอ ยและไดช กั ชวนญาติ พี่นองและพวกพองเขามาทํามาหากินเพ่ิมขึ้น บริเวณท่ีต้ังหลักแหลง แหงแรก คือ บานดอนรัง บานหนองแก บานหัวยาง พื้นที่หมูท่ี ๕ หมูที่ ๖ ตําบลลาดยาวปจจุบันน้ี ซึ่งในระยะตอๆมามีการเปล่ียนและ เรียกช่ือหมูบานใหมวา “บานลาดยาว” ตามลักษณะภูมิประเทศของ พื้นท่ีที่มีลักษณะลาดเอียงเปนแนว ยาวจากทางทิศตะวันตกไปทางทิศ ตะวันออก นอกจากนี้ยังมีคนรุนเกาๆบางคนสันนิษฐานวาเรียกตาม

๓๘๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ลกั ษณะทางนํ้าไหล เพราะตอนนนั้ พื้นท่บี ริเวณนี้ยังไมมีแนวลาํ น้ําเปน คนั แนน อน พอถงึ ฤดฝู น นาํ้ จะไหลลาดเปน ทางยาว จงึ เรยี กวา “ลาดยาว” ตาํ บลวงั มา เดมิ ทเี ปน ทตี่ งั้ ของคา ยพมา มที หารเกดิ การลม ปว ยเปน โรคตา งๆ ในคายทหาร ไมมีหมอรักษา จึงใหหมอมูล หมอโบราณท่ีอยูใกลคาย ทหาร เขามารกั ษาทหารในคาย จนในทสี่ ดุ ทหารหายปวย บรรดาทหาร ไมมีเงินจายคารักษา จึงยกที่ดินของกองทัพที่ต้ังอยูใกลกับที่ดินของ หมอมลู หมอมลู เห็นวาเปน ทําเลดี ติดกับแมน้ําสะแกกรังเหมาะสมแก การสรางวัด จึงชักชวนชาวบานซึ่ง ณ ขณะนั้นมีอยูไมกี่หลังคาเรือน ชวยกันสรางวดั ชาวบานแถบน้ันสวนใหญเลี้ยงวัว และมากนั มาก และ ใชม า เปน พาหนะในการคา ขายกบั ตา งแดน แตเ นอื่ งจากแมน าํ้ สะแกกรงั เปนวังลึกมากจึงมีพอคาท่ีเดินทางมากับมาตกนํ้าตายในบริเวณนั้น หมอมูลจึงตั้งช่อื วา “วังมา” ตาํ บลวังเมือง เดมิ เปน เมอื งนคร ถกู ทงิ้ มาเปน เวลานานอาศยั คขู ดุ เปน บางสว น ทหี่ นองศรีเทพ หนองพนู คลองชาง-แทงค มีด หนิ เหลือใช เปน บางสวน เสาหลกั เมือง ศาลาปาชา ถูกไฟไหมจนเกือบหมดสิ้นหาหลักฐานไมได หลงั จากตง้ั กรงุ รตั นโกสนิ ทร ป ๒๓๒๕ ไมป รากฏตามหลกั ฐานลกู หลาน

วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๙๓๕ ของนายทองแสน นายทองแกว นายทองอยู จงึ ไดข น้ึ เรือทเ่ี มอื งพระบาง ตามลายแทงพงศาวดารมายังนครเมือง เปน ปาเกือบจําไมไดเพื่อขดุ หา กระดกู นายทองแกว นายโตลูกนายทองแกว ขึ้นลองเมืองสพุ รรณและ นครเมือง นึกถึงปาชาทฝ่ี งศพพออยู จึงไดชวนพ่นี องมาหกั ลางถางพง เปนไรนาอยูสิบป มีบุตรคนหนง่ึ ชื่อ นายคาํ มีภรรยาชอ่ื อําแดง (นาง) เปยม เปน ตระกูลกลากสิกรณ นายชม อําแดงพุด นามสกลุ กลากสิกิจ อยูฝงวังมา กํานันกวาง อําแดงทองรัก (กํานันคนแรกตําบลวังเมือง นามสกลุ กลากสิกาน นับต้ังแตบรรพบรุ ุษ ลูกหลาน ไดยึดที่ดินสืบทอด ทํามาหากินมาโดยตลอด คําวาคนเมืองนครกลาง สภาพเปนปาลูก ไฟไหม โลงเตียนไปหมด เหลือไวตามพงศาวดารจึงเรียกสืบกนั มาเปน “วังเมือง” หนองนมววั ความเปนมาของตําบลหนองนมวัว เปนสวนหนึ่งของตําบล หนองยาวอําเภอลาดยาวตอมาในป พ.ศ.๒๕๑๕ ไดแยกออกมาเปน ตาํ บลเพอื่ ความสะดวกในการปกครองดแู ลอยา งทว่ั ถงึ โดยใชช อ่ื ตาํ บล หนองนมววั ตามชอ่ื หมูบาน ทีเ่ ปน ศูนยกลาง โดยตําบลหนองนมวัวนั้น เดมิ ทมี หี นองนา้ํ ขนาดใหญแ ละมตี น นมววั ขน้ึ อยเู ปน จาํ นวนมาก และเมอื่ มีการต้ังชมุ ชน ในบริเวณนี้จึงเรียกวา “หนองนมวัว”

๓๑๔๐ วถิ ีชีวิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ตาํ บลมาบแก เดมิ เปน พนื้ ทม่ี าบนาํ้ ขนาดใหญ ทมี่ ตี น สะแก ขน้ึ ลอ มรอบบรเิ วณ มาบนํ้าขนาดใหญนน้ั มีสัตวปานานาชนิด บริเวณอดุ มสมบูรณไปดวย กุง หอย ปู ปลา นํ้าจืด มีธรรมชาติ ทิวตนไม และไดมีพระธุดงครูปหนึง่ นามวา หลวงพอจอมศรี มาปกกรดบริเวณดังกลาว เห็นวาเปนพ้ืนที่ อดุ มสมบรู ณ จงึ ไดก ลบั ไปชกั ชวน ญาตพิ นี่ อ งจากทาง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เขามาอยูอาศยั อาชีพแรกคือการทาํ นา และเพิม่ ปริมาณ จาํ นวนคน อยูเร่ือยๆ จนปจ จุบนั และไดจดั ต้ังใหเปนชื่อ“ บานมาบแก ”ในป พ.ศ. ๒๔๗๕ และใชจนถึงปจ จุบัน ตาํ บลศาลเจาไกต อ เลากันวาสมัยหน่ึงมีเช้ือพระวงศ ชอบออกประพาสปาชมนก ชมไม ไดพ าบรวิ ารมาประพาสปา ดว ย และไดพ กั แรมบรเิ วณศาลเจา พอ ซึ่งแตเดิมอยูกลางทุงนา พวกขาทาสบริวาร ไดนําไกบาน ไปตอไกปา ซึ่งขันอยูปาเปนจํานวนมากและอยูๆไกท่ีนํามาตอเกิดหายไป หาเทาไร กไ็ มพ บ ซงี่ เลา กนั วา ไมไ ดเ ซน หรอื บวงสรวงผปี า จงึ ทาํ ใหไ กห ายไป พวก ขาทาสบริวารทมี่ าดวยจึงนึกขึ้นไดกท็ าํ การเซนบวงสรวงตอเจาพอและ ไดออกไปทําการตอไกปาอีก ทีนี้ไดไกปามาเปนจํานวนมาก นับต้ังแต น้ันมาก็เรียกชอ่ื ศาลเจาพอนี้วา ศาลเจาไกตอมาจนถึงปจจุบนั

วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๑๑๕ บา นบึงหลม อยทู ตี่ าํ บลบา นไร เดมิ เปน ปา ดงดบิ เปน ทสี่ งวนของทางราชการ ทางดานทิศตะวันตกมีบึงขนาดใหญ มีลกั ษณะเปนโคลนลึก จึงเรียกวา “ บึงหลม ” บา นวังแจง อยูท่ี ตาํ บลมาบแก เดิมมีวังลึก และมีตนแจงขึ้นอยูริมวัง จึงได เรียกชอ่ื วาวังแจง บานวงั ยม้ิ แยม อยูท่ี ตําบลวงั มา เลากนั วาคร้ังแรกเลยไมมีใครมาอาศัยอยู เพราะพ้ืนท่ีแหงน้ีรกราง และมีปาไมเต็มไปหมดแตก็มีครอบครัว นายบุญมามาอาศัยเปนครอบครัวแรก ไดถากถางปาเพ่ือจะไดพ้ืนท่ี ทาํ กิน พอฟนปาไปเรอ่ื ยๆก็เจอธารนํ้าไหลผานกลางปากด็ ีใจทไ่ี ดน้ํามา ทาํ กนิ และไดช กั ชวนพน่ี อ งมาตงั้ รกรากทนี่ ี่ ตอ มากม็ คี นมาอาศยั เพม่ิ ขน้ึ จึงไดต้ังช่อื หมูบานนี้วา บานวังยิ้มแยม เพราะผูพบเห็นคนแรกดีใจที่ได เห็นวงั นา้ํ

๓๑๒๔ วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค บานวงั ศรีเจริญ ตําบลวงั มา เดิมเปน หมบู านทม่ี ีผอู าศยั ไมกหี่ ลงั คาเรือน คนแรกทเ่ี ขามาตง้ั หลกั ปก ฐานคือนายแดง ขนั กสิกรรม ทแ่ี หงนี้มีวงั นํ้าไหลผานทาํ ใหพื้นที่ ทาํ มาหากนิ อดุ มสมบรู ณไ มแ หง แลง ตอ มามญี าตพิ นี่ อ งเขา มาอยมู ากขนึ้ ตา งชว ยกนั ทาํ มาหากนิ ใชเ นอ้ื ทที่ าํ นา ปลกู ขา วและพชื ผกั ตา งๆ ดว ยเหตุ ที่หมูบานน้ีมีนํ้าอุดมสมบูรณ จึงเลาลือกันมา ทําใหผูคนตางบาน ตา งเมอื งเขา มาอยอู าศยั ทาํ กนิ และพรอ มใจกนั ตง้ั ชอื่ หมบู า นทต่ี นอาศยั แหงนี้วา บานวังศรีเจริญ บานหนองขอน ตาํ บลวังมา เลากันวา เดิมบริเวณหมูบานหนองขอนมีหนองนํ้าใหญอยู แหง หนงึ่ อยไู มไ กลจากหมบู า นมากนกั ชาวบา นละแวกน้ี ไดใ ชป ระโยชน จากหนองนํ้าแหงนี้ตลอดมา บริเวณพ้ืนดินรอบ ๆ หนองน้ําและพื้นท่ี ใกลเคียงเต็มไปดวยปาไม ท้ังไมเล็กและไมใหญ ผูคนที่มาอาศัยอยูใน ละแวกบานก็ไดโคนตนไมลงเปน จาํ นวนมากมาย เพอ่ื นาํ ไปใชการสราง บานเรือน และใชทาํ เคร่อื งใชไมสอยตางๆ ย่งิ มีคนมาอยูมากขึ้น กต็ อง หกั รา งถางปา ตอ ๆกนั มาก เมอ่ื ถางปา ไวม ากมายกม็ ขี อนไมม ากขน้ึ ดว ย เหตุนี้ทาํ ใหชาวบานเรียกชอ่ื หมูบานวา “บานหนองขอน”

วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๓๕ บา นดอนพลอง ตาํ บลวังเมือง เลา กนั วา เดมิ หมบู า นดอนพลองเปน ปา ไมพ ลองมากมาย ชาวบา น สวนมากไดอพยพมาจากอาํ เภอนครชัยศรี เมือ่ ตั้งช่อื นามหมูบานจึงได ตั้งช่อื ตามปาไมท่มี าอาศัยวา “ดอนพลอง” บา นหนองจิกรี ตําบลสรอ ยละคร เลากันวา บริเวณหมูบานนี้เดิมเปนปา มีหนองนํ้า และตนจิก ข้ึนเปนสัญลักษณ ยังมีนกกะทือชุกชุมคนลาวที่ตั้งถิ่นฐานอยูที่นี่เรียก หนองนกข้ีถี่ สําหรับนามหนองจิกรี เปนชื่อหมูบานที่ไดเปล่ียนชื่อมา แลว โดยถือเอาสาเหตุท่มี ีหนองนํ้าและตนจิกเปน สญั ลกั ษณ ประกอบ กบั หนองนํ้าแหงนี้มีลกั ษณะยาวรี จึงเรียกกนั อยางนนั้ ชุมชนดงั้ เดิม/กลุม ชน อาํ เภอลาดยาวมปี ระชากรประกอบดว ยหลายเชอ้ื ชาติ เนอ่ื งจาก ไดอ พยพมาจากจงั หวดั อทุ ยั ธานี จงั หวดั เพชรบรู ณ จงั หวดั เพชรบรุ ี เชน ชนพื้นเมืองดั้งเดิม ชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายลาวครง่ั ลาวพวน ลาวโซง หรือ ไทยดาํ ดวยความแตกตางของเช้ือชาติและการอยูอาศัยในทองถ่ิน ที่แตกตางกัน ทําใหการใชภาษาวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ทหี่ ลากหลาย การดาํ เนินชีวิตท่แี ตกตางกันอยางชดั เจน สงั เกตไดจาก

๓๑๔ วิถีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค วฒั นธรรมการกนิ ประเพณงี านศพทาํ ใหก ารดาํ เนนิ งานตามแผนพฒั นา ประสบปญ หายุงยาก ชาวไทยดํา เปนชนเผาไทยกลุมหนึ่ง คนไทยมักเรียกวา “ลาวโซง” หรือ “ไทยโซง” เนื่องจากอพยพมาจากประเทศลาว ซง่ึ คําวา (โซง ) เปนคาํ ทถ่ี กู เรยี กตามชดุ แตง กายเพราะนงุ ซว งดาํ หรอื กางเกงสดี าํ ปจ จบุ นั นยิ ม เรียกวา “ ไทยดาํ ” การแตงกายของไทยดํา การแตงกายของชาวไทยดํา แตงกายดวยผาสีดําเปนพื้น ตามปกติ ฝายชายจะสวมกางเกงแคเขาเรียกวา “ซวงกอม” ใสเส้ือ คอ นขา งรดั รปู ยาวถงึ สะโพกแลว ผา ปลายทง้ั สองขา งแขนยาวเปน กระบอก

วถิ ชี วี ิต วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๑๓๕ ถึงขอมือ ติดกระดุมเงิน อยางถ่ๆี ต้ังแตคอถึงเอว เสอ้ื ชนดิ นเี้ รยี กวา เสอื้ กอ ม หรอื เสอ้ื ไทย ถา ไปในงาน พิธีการ จะสวมกางเกง ขายาวเรยี กวา ซว งฮี และ ใสเ สอ้ื ตวั ยาวมลี ายปก ประดษิ ฐ ตามแบบเฉพาะของตนเอง เรยี กวา เสอื้ ฮี ฝา ยหญงิ ตามปกตสิ วมเสอ้ื กอ มตดิ กระดมุ เงนิ ถา เปน งานพธิ จี ะสวมเสอื้ ฮี ผาซ่ินท่ีใชนุงมีลักษณะเฉพาะคือพื้นดําสลับลาย เสนสีขาวคราม และ วธิ นี งุ ผา ซนิ่ ของชาวไทยดาํ ผดิ แปลก คอื ใชม มุ ผา ทางซา ยและขวาทบกนั แลวหักพับลง คาดดวยเข็มขัด ตรงกลาง แหวกเปนฉาก ทรงผมของ ผหู ญงิ นยิ มเกลา มวยซง่ึ มี ๒ แบบ คอื ผทู อี่ ยใู นวยั สาว จะเกลา ผมทเี่ รยี ก วา ขอดซอย แตถาพนวัยสาวจะเกลาแบบปนเกลา เปนการแบงแยก วยั วฒุ ิ

๓๑๔๖ วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ชมุ ชน ชาติพนั ธุ ลาวคร่ัง บานหนองกระดกู เน้อื ลาวครงั่ คือคนลาวท่อี พยพมาจากหลวงพระบาง สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว มาตงั้ หลกั แหลง อยทู ห่ี มบู า นหนองกระดกู เนอื้ หมู ๕ ตาํ บลหนองกระดกู เนื้อ อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ซึง่ ท่หี มูบานนี้มีจาํ นวนครอบครวั ท้ังหมดประมาณ ๑๕๐ หลงั คาเรือน ในหมบู า นหนองกระดกู เนอ้ื มหี ลายเชอ้ื ชาติ เชน ชาตพิ นั ธลุ าวครง่ั มอญ และไทย ซง่ึ มีวัฒนธรรม ประเพณี แตกตางกันและหลากหลาย ประวตั คิ วามเปน มาของการตง้ั ถน่ิ ฐานชมุ ชนบา นหนองกระดกู เนอื้ คาดวาอายุประมาณ ๑๐๐ ปเศษ โดยมีชาติพันธุลาวครั่งเขามากอน โดยมีปูทวดมขุ เทียนสันต ปูทวดเฮียม ศรีตะรา ปูทวดบสุ ดี ภมู ิอินทร ปูทวดฟก อยูยงค ปูทวดแอว คําสิทธ์ิ (ชาติพันธุมอญ) ไดตามเขามา ตง้ั ถนิ่ ฐานเชน เดยี วกบั ปทู วดคาํ แสน แกว อนิ ทร ปทู วดบวั เหลา แสง ไทย

วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๗๕ ในการเขามาต้ังรกรากครั้งแรก โดยปูทวดมขุ และปูทวดเฮียม ปูทวดเถิก เขามาสํารวจสถานที่เพื่อสรางหมูบานและไดเจอหนองน้ํา ขนาดกวา งขวางพอสมควรทางทศิ ตะวนั ตกของหมบู า นพบเศษเนอื้ และ กระดกู สตั วป า จากการชาํ แหละของนายพรานอยบู รเิ วณรอบๆของสระ เปนจํานวนมาก จึงเรียกขานหมูบานนี้วา หนองกระดกู เนื้อ แตละชาติพันธุเอกลักษณท่ียังหลงเหลืออยูคือเร่ืองของภาษา การแตงกาย อาหาร และวัฒนธรรมด้ังเดิม เชนเทศการสงกรานต การแหธง กอเจดียทราย โบราณสถาน - โบราณวตั ถุ แหลงโบราณสถานวงั หินดาด อยูท่บี านหินดาด หมู ๖ ตําบลวงั มา อาํ เภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค เปนแหลงโบราณคดีสมัยกอนประวัติศาสตรตอนปลาย (สมัยโลหะ) ประมาณ ๒,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ป สถานทข่ี ุดพบเปนบริเวณ พื้นทน่ี า ซึง่ เปนเนินสงู เปนทน่ี า ของ นายสขุ อมั รนันท พบโครงกระดูก มนุษยสภาพสมบูรณ จํานวน ๑๕ โครง และโบราณวัตถุท่ีฝงรวมกับ โครงกระดกู เชน ขวาน เหลก็ เสียม เหล็ก รูปตัวนก ส่วิ หรือสกัด

๓๑๔๘ วิถีชีวิต วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค เคร่ืองปน ดินเผามีลวดลาย หมอปนดินเผาถูกขุดพบที่บานหนองน้ําผึ้ง หมูที่๑๑ ตําบล เนินขี้เหล็ก อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ขุดพบเมื่อวันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๒ ในพื้นท่ปี าสักของนายเหรียญ ยศสมบัติ ในปจจบุ นั เปนที่ตั้งของวัดสุสาน ๒,๐๐๐ ป ลักษณะหมอดินเผาเปนทรงกลม ปากบานมีฐาน ตัวหมอดินเผาไดวาดลวดลายเปน เสนตรงและส่เี หลย่ี ม กรมศิลปากรไดมาสํารวจ และบอกลักษณะเครื่องปนดินเผามีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยุคสมยั กอนประวตั ิศาสตร

วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๑๓๙๕ ขวานสาํ ริด เคร่อื งมือเคร่อื งใชส มยั โบราณ ขวานสาํ รดิ ขดุ พบทบี่ า นหนองนา้ํ ผงึ้ หมทู ี่ ๑๑ ตาํ บลเนนิ ขเ้ี หลก็ อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ขดุ พบเมอื่ วนั ท่ี ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๔๒ ในพน้ื ทปี่ า สกั ของนายเหรยี ญ ยศสมบตั ิ ในปจ จบุ นั เปน ทต่ี ง้ั ของวดั สสุ าน ๒,๐๐๐ ป ลักษณะของขวานสําริดมีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยุค สมัยกอนประวัติศาสตร

๓๒๐๔ วิถีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ถาดทรงกลมสีแดง ถาดดนิ เผาขดุ พบทที่ บ่ี า นหนองนาํ้ ผงึ้ หมทู ี่ ๑๑ ตาํ บลเนนิ ขเ้ี หลก็ อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ขดุ พบเมอื่ วนั ที่ ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๔๒ ในพนื้ ทปี่ า สกั ของนายเหรยี ญ ยศสมบตั ิ ในปจ จบุ นั เปน ทต่ี ง้ั ของวดั สสุ าน ๒,๐๐๐ ป ลกั ษณะของถาดดนิ เผาเปน ทรงกลมสแี ดงขอบปากถาดหนา กรมศิลปากรไดมาสํารวจและบอกลักษณะถาดดินเผาสีแดง มีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยคุ สมยั กอนประวตั ิศาสตร

วิถชี วี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๒๓๑๕ ๓บทท่ี ศาสนาและความเช่อื ศาสนา ๑. วัดศรีสุวรรณาราม วัดศรีสุวรรณาราม วัดเจาคณะอําเภอลาดยาว ตั้งอยูเลขที่ ๕๙๗/๑๐ บานลาดยาว หมู ๗ ตาํ บลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค สงั กดั คณะสงฆมหานิกาย มีทด่ี ินต้ังวดั เนื้อท่ี ๗ ไร ๑ งาน ๙๘ ตารางวาพื้นท่ตี ้ังวัดเปนเนินสงู เดิมเรียกสั้นๆวา วดั ศรี กระทรวง ศกึ ษาธกิ ารไดป ระกาศตง้ั เปน วดั นบั ตงั้ แตว นั ที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ไดรบั พระราชทานวิสงุ คามสีมา วนั ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๘

๓๒๒๔ วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค เขตวิสุงคามสีมากวาง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร ทางวัด ไดเปดสอนพระปริยัติธรรมต้ังแต พ.ศ. ๒๕๑๖ และเปนศูนยศึกษา พระพุทธศาสนาวนั อาทิตย ในปจจบุ ันพระศรีสุทธิพงศ เปน เจาอาวาส วัด และเจาคณะอําเภอลาดยาว ดํารงตาํ แหนงต้ังแต พ.ศ. ๒๕๔๑ ๒. วัดลาดยาว วดั ลาดยาวตง้ั อยเู ลขที่ ๒๔ บา นลาดยาว หมทู ่ี ๕ ตาํ บลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค สังกัดคณะสงฆมหานิกาย มีท่ีดิน ตั้งวดั เนื้อท่ี ๑๔ ไร ๒ งาน ตามน.ส. ๓ ก.เลขที่ ๔๑๗๓ มีท่ธี รณีสงฆ จํานวน ๔ แปลง เนื้อท่ี ๑๐๔ ไร ๓ งาน ๒ ตารางวา ตาม น.ส.๓ ก. เลขท่ี ๑๒๙๙ ๘๔๙ ส.ค. ๑ เลขท่ี ๔๗๒ และโฉนดทด่ี ินเลขที่ ๑๐๒๙ ต้ังอยูทองทต่ี าํ บลลาดยาว ๓ แปลง ตาํ บลหนองยาว ๑ แปลง พื้นท่ตี ง้ั

วถิ ชี วี ิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๒๓๕๓ วัดเปนท่รี าบลุม สภาพแวดลอมเปน ทุงนาและ บานเรือนของประชาชน วดั ลาดยาว เดิมเรียก “ วดั ใหญ ” สรางขึ้นเปน วัดนับต้ังแตประมาณ พ.ศ. ๒๔๒๐ มีนาม ตามชื่อบาน ไดรบั พระราชทานวิสุงคามสีมา วันท่ี ๓ กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๔๙๓ ทางวดั ไดเปดสอนพระปริยตั ิธรรมตั้งแต ป พ.ศ. ๒๔๗๖ ในปจจบุ นั พระครนู ิติศีลวตั ร เปนเจาอาวาส ตั้งแตวนั ที่ ๓๐ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓

๓๒๔ วิถชี วี ติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓. วดั นิวิฐธรรมมาราม (วัดเขาสมกุ ) อาํ เภอลาดยาว วัดเขาสมกุ ตั้งอยูเลขท่ี ๒๐ หมูท่ี ๒ ตาํ บลหนองนมวัว อําเภอ ลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ทด่ี นิ ตงั้ วดั เนอ้ื ที่ ๔๗ ไร ๑ งาน ๕๐ ตาราง วา วดั เขาสมกุ สรา งขน้ึ เปน วดั ตง้ั แตว นั ท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๐ มีช่ือตามชื่อของหมูบานซึ่งมีเขาสมุกเปนสัญลักษณ และมีอีกชื่อวา “วดั นวิ ฐิ ธรรมมาราม” โดยเปน ชอ่ื ตงั้ ตามพระราชทนิ นานของหลวงพอ พวง คือ “พระครูนิวิฐธรรมสาร” ซ่ึงเปนช่ือวัดท่ีใชเรียกอยางเปนทางการ ตามช่ือของทะเบียนวัด หลวงพอพวง เจาคณะอาํ เภอในสมัยนั้นไดเขา มาพํานักอาศัยและริเริ่มกอสรางวัด แหงน้ีข้ึนในป๒๔๗๑ วัดเขาสมุก ไดร บั วสิ งุ คามสมี า เมอื่ วนั ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๐๕ ทางวดั เรม่ิ เปด สอน พระปริยตั ิธรรม เม่อื พ.ศ. ๒๕๐๘

วถิ ชี ีวิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๒๓๕ ๔. วดั ศาลเจา ไกต อ เปน วดั ขนาดใหญท ม่ี อี โุ บสถแหง เดยี วในเขตเทศบาล เปน ศนู ยร วม ของการจดั กิจกรรมตางๆ มากมาย อาทิ เชน การจัดกิจกรรมประเพณี สงกรานต ประเพณีลอยกระทง ประเพณีบวชนาคหมูเปน ตน ต้ังอยูท่ี บานศาลเจาไกตอ เลขท่ี ๑ หมูที่ ๓ ชุมชนสูงเนินพัฒนา ตําบล ศาลเจาไกตอ อําเภอลาดยาว สังกัดมหานิกาย กอตั้งวัดเมื่อวันท่ี ๕ ตุลาคม ๒๔๘๔ ปจจบุ นั มีพระคุณนิสัยวฒุ ิธรรม (ธมมฺ จาร)ี (เจาคณะ ตําบลศาลเจาไกตอ) เปนเจาอาวาส มีพระอุโบสถเปนศาสนสถาน ท่ีสวยงาม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร เสด็จมาเปนองคประธานตัดหวายลูกนิมิตพระอุโบสถ

๓๒๖๔ วิถีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๕. วัดสระแกว วนาราม (วัดปาหวั ตลกุ ) วัดสระแกววนาราม หรือวัดปาหัวตลุก ตั้งอยูท่ีบานหัวตลุก หมูท่ี ๖ ตําบลสระแกว อําเภอลาดยาว สังกัดธรรมยุต จดทะเบียน กอต้ังวดั เมอ่ื ๒๗ ตลุ าคม ๒๕๕๓ โดยหลวงปูลี ตาณงั กโร ไดเดินธดุ งค มาปกกลดที่ปาละเมาะใต ตน มะมว งใหญท บี่ า นหวั ตลกุ หลังจากนั้นมีญาติโยม ไดนิมนตหลวงปูลี อยู ณ ปาละเมาะแหงนี้ หลวงปูลี รับนิมนตจึงตั้งสํานักสงฆ ปา หวั ตลกุ ขนึ้ โดยญาตโิ ยม ร  ว ม กั น ส ร  า ง กุ ฏิ ถ ว า ย หลวงปูลี พ.ศ. ๒๕๒๕ ญาติโยม ไดรวมกันสราง กุฏิไมถวายหลวงปูลี และ ซื้อท่ีดินถวายวัดเพ่ิมเติม ปจ จบุ นั มพี นื้ ทรี่ วม ๓๘ ไร ๑ งาน ไดร บั อนญุ าตใหต ง้ั ชอื่ วดั วา วดั สระแกว วนาราม เมื่อวันท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ ปจจุบันมีหลวงปูลี เปน เจาอาวาส

วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๒๕๗ ๖. วัดวงั มา ประวัติวัดวังมา วัดวังมาถูกสรางข้ึนตั้งแตวันท่ี ๑๕ เมษายน ๒๔๒๙ มนี ามตามชอื่ บา น การสรา งวดั ไดร เิ รม่ิ ดาํ เนนิ การตง้ั แต ๒๔๒๕ โดยมีตาหมอมูล นางปุย บัวผา ไดรักษาคนไขที่ช่ือตาพวง หายจาก เจ็บไขแลว ตาพวงไดยกทด่ี ินใหเปน คารักษา หมอมลู ไดบริจาคทีด่ ินน้ัน ใหเ ปน ทส่ี รา งวดั ในสมยั ของหลวงพอ เพชร ไดร บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า วันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๕๙ พ.ศ.๒๔๘๒-๒๕๓๙ พระครูนิพนั ธนวกิจ (หลวงพอ ประสทิ ธิ์ กน.ตสาโร) ดาํ รงตาํ แหนง เจา อาวาส ปจ จบุ นั มพี ระครู นมิ ติ กจิ จาทร เปน เจา อาวาส วดั วงั มา ตง้ั อยเู ลขท่ี ๓๕ หมทู ๕่ี บา นวงั มา ตาํ บลวงั มา อาํ เภอลาดยา พนื้ ทต่ี ง้ั วดั เปน ทร่ี าบลมุ รมิ นา้ํ สะแกกรงั ภายใน วัดประกอบดวย อุโบสถสรางขึ้นใน พ.ศ.๒๔๕๖ ภายในมีพระประธาน

๒๓๘๔ วิถชี ีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค เรียก หลวงพอโตเปน พระพุทธรูปปูนปน เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘ ตามองอุบ ตามอ งอาย พมา เปน ชาวเหนอื อยตู าํ บลวงั เมอื ง ไดน าํ ชา งมาจากจงั หวดั ลาํ พนู จดั การบรู ณะจดั แตง องคพ ระ พรอ ม พระอคั รสาวก ทาํ ใหม พี ทุ ธ ลกั ษณะทง่ี ดงาม ศาสนาอน่ื ๆ ศาลเจา พอ เจา แมลาดยาว สรา งขน้ึ โดยกลมุ ชาวจนี ทเ่ี ขา มาทาํ การคา ขายอยใู นตลาดลาดยาว ตงั้ อยรู มิ ฝง คลองทศิ ตะวนั ตก ตรงขา มกบั วดั ลาดยาว ตอ มาไดย า ยจาก ตลาดเกามาอยูทต่ี ลาดใหมเนอื่ งจากทเ่ี ดิมคบั แคบ ชาวจีนจึงไดรวมกนั ซื้อที่นาของนายแบนสรางตลาดใหม และไดยายศาลจากตลาดเกามา

วถิ ีชีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๒๓๙๕ ตลาดใหมจนถึงปจ จุบัน แตเดิมศาลเจาพอ – เจาแมเปน อาคารไม และ ใชไมแกะสลักแทนองคเจาพอปงุ เถากง และแทนองคปงุ เถามา ตอมา ในป พ.ศ. ๒๕๑๐ไดมีการปรับปรุงศาลเจาจากอาคารไมเปนอาคาร คอนกรีต และไดดาํ เนินการถมสระนํ้าท่อี ยูขางศาลเจา สรางเปนศาลา ประชาคมชาวจนี ไดอ ญั เชญิ เจา พอ ปงุ เถา มา มาอยทู ศ่ี าลเจา ใหมแ หง นี้ และไดอัญเชิญเจาพอหนองกวางเขามาสถิตในรูปไมแกะสลักแทน องคปุงเถากง เจาพอลาดยาวเปนที่เคารพนับถือท้ังชาวจีน ชาวไทย เชื้อสายจีน และชาวไทยในอําเภอลาดยาว และนํามาซึ่งความอยูเย็น เปน สขุ ใหพรสมปรารถนากับผูท่มี าขอพรตลอดมา ชาวอาํ เภอลาดยาว ไดรวมกนั จัดงานประเพณีแหเจาพอเจาแมลาดยาว รวมกบั งานกาชาด อาํ เภอลาดยาว ในระหวางวันท่ี ๑๒-๑๕ เดือนธันวาคม ของทกุ ป

๓๐๔ วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค คริสตจกั รแหง นิมิตอาํ เภอลาดยาว คริสตจักรแหงนิมิต เริ่มกอต้ัง ประมาณ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เดิมชอ่ื คริสตจกั รแหงความหวัง ไดทาํ การเปลี่ยนชื่อ เมอื่ ป พ.ศ. ๒๕๕๔ ในสงั กดั มลู นิธิความหวงั มี อาจารยภิรมย ยิ้มเหม เปน ศิษยาภิบาล มีการจัดพิธีศกุ รอธิฐาน เพอ่ื เปนการขอพรพระเจา โดย จดั กจิ กรรมทกุ วนั ศกุ ร เวลา ๑๙.๐๐-๒๐.๐๐ น. สว นวนั อาทติ ยม พี ธิ กี าร ทางความเช่ือของศาสนา เวลา ๐๕.๐๐-๑๔.๐๐ น. มีคริสตศาสนิกชน ประมาณ ๓๐ คน และทกุ ปจะจัดคายสมั มนาพระคัมภีร ปละ ๒ ครงั้ ปจจุบันต้ังอยูเลขที่ ๓๑๗ หมู๔ ตําบลลาดยาว อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค

วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕๑ บคุ คลสําคัญทางศาสนา ๑. เจา คณะอาํ เภอลาดยาว พระศรีสุทธิพงศ พระศรีสุทธิพงศ นามเดิม สมสวน ฉายา ปฏิภาโณ นามสกุล เพง็ สขุ เกดิ ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๐๑ อปุ สมบท ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๒ ภมู ิลําเนา บานทุงตนั ตาํ บลบานไร อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค สังกัดวัดศรีสุธรรมมาราม ตําบลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค ปจจบุ นั พ.ศ. ๒๕๔๑ เจาอาวาสวัดศรีสธุ รรมาราม พ.ศ. ๒๕๔๒ เจาคณะอําเภอลาดยาว พ.ศ. ๒๕๔๐ อาจารยประจําสาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาลยั สงฆนครสวรรค

๓๒๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๒. หลวงปลู ี ตาณงั กโร เจาอาวาสวดั สระแกววนาราม (วดั ปาหัวตลุก) ตําบลสระแกว อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค หลวงปูลี ตาณงํ กโร มีนามเดิมวา ลี นามสกลุ ถุวัตถี เกิดเม่อื วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ตรงกบั วนั ขึ้น ๕ คํ่าเดือน ๒ ปฉลู ณ บานเลขท่ี ๒๔ หมู ๒ บานนาฝายเหนือ ตําบล บัวเงิน อําเภอน้ําพองจงั หวัดขอนแกน โยมบิดาช่อื นายเคน ถุวตั ถี โยม มารดาชอื่ นางออนจนั ทร ถุวัตถี ป พ.ศ. ๒๕๒๐ – พ.ศ. ๒๕๒๔ ปฏิบัติธรรมถวายตวั เปนศิษย ของหลวงปูเทศก เทศรังสี วัดหินหมากเปง เชน ถ้ําฮาน ถ้ําพระบท วัดลุมพินี เปนตน โดยเมื่อถึงวันลงอุโบสถ ทานก็จะมาลงอุโบสถที่วัด หินหมากเปง

วถิ ีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๓๕ ป พ.ศ. ๒๕๒๓ ปฏิบตั ิธรรม พักอาศัยท่ีปาชาแหงหน่ึง ไดฝนไปวา มีไฟไหมพระพุทธรูป เมื่อรุงเชา ญาตโิ ยมทม่ี าทาํ บญุ ไดน าํ หนงั สอื พมิ พ มาถวาย จึงไดทราบขา วเรอื่ งพระสงฆ สปุ ฏปิ น โน สายบรู พาจารยพ ระอาจารย มนั่ ภรู ทิ ตั โต ไดแ กห ลวงปจู วน กลุ เชฎโฐ หลวงปวู นั อุตตโม หลวงปูสิงหทอง ธมมวโร พระเถระ และ พระนวกะ รวม๗รปู ประสพอบุ ตั เิ หตเุ ครอื่ งบนิ ตกมรณภาพทง้ั หมดทตี่ าํ บลคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซ่ึงหลวงปูลีเคยไดมีโอกาสกราบหลวงปูจวนมาแลว ปพ.ศ. ๒๕๒๔ ร.ต.อ. กัมปนาท ทองคําพนั ธ สภ.อ.ลานสัก จงั หวดั อุทัยธานี จัดซื้อท่ีดินมา๑ แปลงเพ่ือจัดสรางวัด โดยไดปรึกษากับ พระเถระผูใหญ เก่ียวกับการจะกราบนิมนตพระสงฆท่ีมีวัตรปฏิบัติ ดงี ามมาจาํ พรรษา ในทส่ี ดุ กไ็ ดร บั คาํ แนะนาํ ใหน มิ นตห ลวงปลู ี ตาณกํ โร และหลวงปูถวิล สจุ ิณโณ (วัดปาศรีอุดมรตั นาราม ตาํ บลทมนรางงาม อําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี) มาจําพรรษา แตหลวงปูท้ังสอง รบั นิมนตมาจาํ พรรษาไดไมนานนัก ก็แยกยายกันเดินธุดงคตอไป โดย หลวงปูลีไดเดินธุดงคมาปกกลดพักอาศัยท่ีปาหัวตลุก อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ในชวงเวลากอนเขาพรรษา ๑๖ วนั

๓๔ วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค สภาพปาหัวตลุกในขณะนั้นเปนพ้ืนที่ ที่แนนขนัดไปดวยปา มะพรา ว แตห ลวงปลู กี ต็ ง้ั จติ มนั่ ทจี่ ะปก กลดปฏบิ ตั เิ จรญิ วปิ ส นากรรมฐาน ที่นี่ ณ บริเวณตนมะมวงใหญ (ซึ่งยังคงปรากฏอยูในปจจุบัน บริเวณ ดา นหลงั กฏุ ขิ องหลวงปลู )ี ซง่ึ เปน ทดี่ นิ ในกรรมสทิ ธขิ์ องนายเลก็ ชน่ื สขุ มุ ตอมาเมื่อญาติโยมชาวบานทราบขาววามีพระธุดงคมาปกกลด จึงได รวมกันปลกู สรางกระทอมมงุ หลังคาแฝกใหหลวงปูลี ๓.หลวงพอ พวง หลวงพอพวง (พระครนู ิวิฐธรรมสาร) เกิดเมอ่ื วนั เสาร เดือนสิบ ปวอก ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๑๕ มีนาสกลุ เดิมวา เหมือนสังข ภูมิลําเนาเดิม

วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ อยบู า นปากคลอง ตาํ บลหนองกระโดน อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั นครสวรรค เม่ือเยาววัยไดศึกษาเลาเรียนหนังสือที่วัดหนองกระโดนเนนการศึกษา ดานการอาน การเขียนหนังสือไทยหนงั สือขอม( หนงั สือใหญ) การทอง บทสวดมนตในหนังสือ ๗ ตาํ นาน เมื่ออายคุ รบ ๒๐ป ไดอปุ สมบททว่ี ดั มหาโพธ์ใิ ต เดิมขึ้นอยูกบั อําเภอบรรพตพิสยั ในปจ จบุ นั วดั มหาโพธใ์ิ ต ขน้ึ อยกู บั อาํ เภอเกา เลย้ี ว และไดจ าํ วดั อยทู ว่ี ดั หนองกระโดนได ๑ พรรษา ไดล าสกิ ขาบทชว ยบดิ ามารดาทาํ นา และเมอื่ อายุ ๒๓ ป ในป พ.ศ. ๒๔๓๘ ไดอุปสมบทอีกครั้งและต้ังปณิธานไววาจะดํารงสมณเพศตลอดไป หลวงพอไดศึกษาหาความรู ท้ังทางพระธรรมวินัย การชางฝมือ แพทยแผนโบราณ ตํารายาแผนโบราณ หลวงพอไดยึดม่ันในสัจธรรม วา “ยถาวาที ตถาการ” ซ่ึงแปลเปนภาษาไทยวา คนตรงพูดอยางไร ทําอยางน้นั จนเปน ท่ยี อมรบั วาเปน พระทม่ี ีวาจาศักดิ์สิทธ์ิ หลวงพอพวง เปนพระภิกษุผูทรงคุณธรรมชั้นสูง เปนผูปฏิบัติ ธรรมโดยเครงครัด เปนผูมีเมตตา และเปนพระนักพัฒนา บําเพ็ญ ประโยชนตอสวนรวมดวยความเสียสละอยางยิ่ง เกียรติคุณของ หลวงพอพวงเปนทเ่ี คารพบชู าของชาวอําเภอลาดยาว และบคุ คลทวั่ ไป หลวงพอพวงมรณภาพเม่อื วันที่ ๒๐ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เวลา ๑๗.๑๕ น. ทหี่ อ งสวดมนต วดั หนองกระโดน ตาํ บลหนองกระโดน อาํ เภอ เมือง จงั หวดั นครสวรรค

๓๖๔ วิถีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ความเชือ่ ประเพณีไหวศ าลเจาพอมะขามคู เปน ประเพณขี องชาวบา น หมู ๖ บา นหนองหชู า ง ตาํ บลลาดยาว อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค เปนกลุมไทยดํา ท่อี พยพมาจาก เพชรบรุ ี เขามาอาศัยอยู ประกอบอาชีพทํานา ทําไรแตไมประสพความ สําเร็จจึงไดทําพีธีบูชา ต้ังศาลขึ้นใตตนมะขามคูเพ่ือขอใชที่ดินอาศัย ทาํ มาหากินและต้ังบานเรือนจึงเรียกวา “ศาลเจาพอมะขามคู” ทก่ี ลุม ชาวลาวโซงถือเปนส่ิงศักด์ิสิทธ์ิและยังมีการประกอบพิธีกรรมไหวศาล มาจนถงึ ปจ จบุ นั โดยมกี ารจดั พธิ ไี หวศ าลเจา พอ มะขามคู ในชว งประเพณี สงกรานตของทุกๆ ป โดยจะกําหนดวัน ตามความพรอม ของชาวบาน ของไหวประกอบดวยไก ๑ ตัวซึ่งชาวบานจะผลัดเปล่ียนกันนํามาใน แตละป แตละบานจะตองเตรียมสาํ รบั อาหารมาบานละ ๑ ชุด มีขาว ไข ตม ขนมหวาน เหลา หมาก พลู บรุ ี่ และน้ํา ชาวบานที่มาก็จะจุดเทียน ๑ เลม ธูป ๓ ดอก จากน้ันจะนาํ สาํ รบั อาหารมาแบงปน กันทาน

วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๗๕ ๔บทท่ี ศิลปะทองถิน่ การละเลน พน้ื บาน การเลน นางดง หมบู า นโปง ยอ ตาํ บลสระแกว อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค นางดง เปน การเลน เชงิ พธิ กี รรมของชาตพิ นั ธลุ าวครง่ั ใชเ ลน เวลากลางคนื ชวงวันสงกรานต ๑๓-๑๙ เดือนเมษายน เพื่อสืบทอดประเพณีพื้นบาน และความสนกุ สนานตน่ื เตนเราใจในความเช่อื ถือของบรรพบุรุษ ความเปนมา คาดวาลาวคร่ังไดมีการเลนน้ีมากกวา ๑๐๐ ป เปนการเลน ทส่ี ลบั กนั ในยามคา่ํ คนื ทย่ี าวนานกจ็ ะมกี ารเลน นางกวกั นางแคน หมาก แอง รําแคน และนางดง อปุ กรณการเลน กอนเลนตองมีการเตรียมวัสดุอุปกรณใหพรอมซ่ึงอุปกรณน้ัน ตองเปนของใชของแมหมาย สามีตายไปแลวเทานน้ั มีดังนี้ ๑. กระดง ๒. สาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook