วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๕ วิถีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค
๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค
วถิ ชี ีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ คาํ ปรารภ อธิบดีกรมสง เสริมวัฒนธรรม วัฒนธรรมเปนสิ่งที่แสดงถึงความเจริญงอกงาม ความเปน ระเบียบ เรียบรอย เปนมรดกทางสงั คมไทย ทีบ่ รรพบุรุษไดสรางสรรค และสั่งสมมาต้ังแตอดีตจนถึงปจจุบัน ถายทอดจากรุนสูรุน มีขนบธรรมเนียม ประเพณีอันเปนที่ยอมรับรวมกันในสังคมน้ันๆ ศิลปวัฒนธรรมของไทย มีความแตกตางกันในแตละทองถ่ิน ท้ัง ขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษาพูด ภาษาเขียน การแตงกาย อาหาร วิถีชีวิต และความเชื่อ ซึ่งมีเอกลักษณเฉพาะที่บงบอกถึงคานิยม ความเช่ือ ศาสนา วิถีชีวิตความเปนอยู ตลอดจนสภาพแวดลอมของ ผูคนในทองถ่นิ แสดงใหเห็นถึงความเจริญรุงเรืองทางวฒั นธรรมทแ่ี ฝง ไปดวยภูมิปญญา และความเปนชาติที่มีอารยธรรมเกาแกมาชานาน จนกลายเปน รากฐานขององคค วามรทู างศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ปิ ญ ญา ในดานตางๆ ทม่ี ีคุณคาของไทย ในการนี้ เพ่ือประโยชนในการอนุรักษหรือฟนฟูจารีตประเพณี ภูมิปญญาทองถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของทองถ่ินและของชาติ และประสานการดาํ เนนิ งานวฒั ธรรมซงึ่ ภาคประชาสงั คม และประชาชน มสี ว นรว ม กรมสง เสรมิ วฒั นธรรม จงึ ไดใ หก ารสนบั สนนุ สภาวฒั นธรรม จังหวัดนครสวรรค ดําเนินการจัดทําหนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรมอําเภอ
๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ตางๆ ในจงั หวัดนครสวรรค เพอื่ รวบรวมและเผยแพรขอมลู ซ่งึ เปนทุน ทางวฒั นธรรมของจงั หวดั นครสวรรค เพ่ือใหเกิดประโยชนสําหรบั เด็ก เยาวชน และบุคคลทั่วไป ไดศึกษาและรวมภาคภูมิใจในวัฒนธรรม ทองถิ่น จนกอใหเกิดความรกั ความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรม ของตน ตระหนักและเห็นคุณคาของวัฒนธรรมทองถิ่น ปลูกจิตสํานึก ความรักชาติ รักถ่ิน รักแผนดินนครสวรรค และรวมอนุรักษสืบสาน วฒั นธรรมเหลานี้ใหอนุชนคนรุนหลังสืบตอไป (นายชาย นครชัย) อธิบดีกรมสงเสริมวฒั นธรรม
วถิ ชี ีวิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ คํานิยม ผวู าราชการจังหวดั นครสวรรค การจัดทาํ หนงั สือ วิถีชีวิต วัฒนธรรมอําเภอตางๆ ของจังหวดั นครสวรรค เปนการทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรม เพ่ือใหเกิด การสบื สาน และการสรา งองคค วามรทู างดา นวฒั นธรรมนบั เปน พนั ธกจิ ท่ีสําคัญของงานวัฒนธรรม การที่กรมสงเสริมวัฒนธรรม สนับสนุน ใหส ภาวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรคร ว มกบั สาํ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค ดําเนินการจัดทําหนังสือวิถีชีวิต วัฒนธรรมอําเภอ ๑๕ อาํ เภอ จงั หวดั นครสวรรค เพอื่ ดแู ลรกั ษา สืบสานมรดกทางวฒั นธรรม และเผยแพรขอมูล ซ่ึงเปนทุนทางวัฒนธรรมของจังหวัดนครสวรรค ขอมูลดังกลาวไดมาจากการสังเคราะหและเรียบเรียงเนื้อหาจาก คณะกรรมการสภาวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค นกั วชิ าการสาํ นกั งาน วฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค และผมู คี วามรทู หี่ ลากหลาย โดยรวบรวม ประวัติ ตํานาน ชุมชนด้ังเดิมโบราณสถาน-โบราณวัตถุ ศาสนา และความเช่ือ บุคคลสําคัญทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมทองถ่ิน รกุ ขมรดก แหลงทองเทย่ี วเชิงวฒั นธรรม บุคคลผูทําคณุ ประโยชนดาน วฒั นธรรมทค่ี วรยกยอ งอนั สะทอ นถงึ วฒั นธรรมของจงั หวดั นครสวรรค ซึ่งจะเปนประโยชนตอการสืบคน การเก็บรวบรวมเรื่องราวตางๆ ใน รปู แบบหนงั สือ บันทึกลงแผนซีดี และจัดทํา QR Code
๓๔ วถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ในนามของจังหวัดนครสวรรค ขอแสดงความชื่นชมและขอ ขอบคุณคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค นักวิชาการ วัฒนธรรม สํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค และผูเก่ียวของ ทไี่ ดทุมเทแรงกาย แรงใจในการจดั ทาํ หนงั สือวิถีชีวิต วฒั นธรรมอาํ เภอ ๑๕ อาํ เภอ จงั หวดั นครสวรรค เพอ่ื อนุรกั ษและเผยแพรขอมูล อนั จะ เปนประโยชนตอคนรุนหลงั ตอไป (นายอรรถพร สิงหวิชัย) ผูวาราชการจังหวัดนครสวรรค
วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๕ คาํ นิยม วัฒนธรรมจังหวดั นครสวรรค หนงั สือวิถีชีวิต วัฒนธรรมของแตละอาํ เภอนี้ เปน การรวบรวม ขอมลู ความรตู างๆ ทเี่ ปน เรอ่ื งราวของทองถนิ่ ทมี่ ีมาอยางยาวนาน ดาน ศิลปะและวัฒนธรรม วิถีชีวิต ประเพณี ชุมชนดั้งเดิม โบราณสถาน โบราณวตั ถุ ความเปน อยทู ส่ี อ่ื การรกั ษาอารยธรรมของบรรพบรุ ษุ ทเ่ี ปน เอกลักษณของแตละอําเภอไว เพื่อใหคนรุนหลังไดเรียนรู ไดสืบทอด และตอยอดทางวฒั นธรรม กระผมตองขอขอบคุณและช่ืนชมนักวิชาการวัฒนธรรม ผูประสานงานประจําอําเภอทุกทาน ผูเกี่ยวของทุกฝายทุกทานท่ีไดให ขอมูล คําแนะนํา ขอเสนอแนะ ท่ีเปนประโยชนในการจัดทําหนังสือ ในครงั้ นี้ เพอ่ื เกบ็ รวบรวมขอ มลู จนสาํ เรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงคข องโครงการ ทายน้ีหวังเปนอยางย่ิงวาหนังสือเลมนี้จะเปนประโยชนในการ ศึกษาคนควา สําหรับ นักเรียน นักศึกษา ประชาชน และผูสนใจท่วั ไป และขอใหทุกทานรวมอนุรักษสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีของทองถิ่น น้ันไวใหคงอยูกบั ลกู หลานสืบไป (นายประสิทธ์ิ พุมไมชยั พฤกษ) วฒั นธรรมจงั หวัดนครสวรรค
๓๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค
วถิ ชี ีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๕ คํานํา ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวัดนครสวรรค วัฒนธรรม หมายถึงวิถีการดําเนินชีวิต ความคิด ความเชื่อ คานิยม จารีตประเพณี พิธีกรรม และมรดกภูมิปญ ญา ซึง่ กลุมคนและ สังคมไดรวมกันสรางสรรค สั่งสม ปลูกฝง เรียนรู สืบทอด ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพ่ือใหเกิดความเจริญงอกงาม ท้ังดานจิตใจและวัตถุ ใหเกิดสันติสขุ และความย่ังยืนสืบไป หนังสือวิถีชีวิต วัฒนธรรมเลมน้ี มาจากการสังเคราะหและ เรยี บเรยี งเนอ้ื หาจากนกั วชิ าการสาํ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั นครสวรรค และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค ซ่ึงแบงออก เปน เลม เลมละ ๑ อาํ เภอ รวม ๑๕ เลม ๑๕ อาํ เภอ เนื้อหาไดแก ประวตั ิ ตาํ นาน สภาพปจ จบุ ัน ชมุ ชนด้ังเดิม ศิลปะทองถิน่ วัฒนธรรมทองถน่ิ แหลงทองเท่ยี วเชิงวัฒนธรรม บคุ คลผูทําคุณประโยชนดานวฒั นธรรม ท่ีควรยกยองในอําเภอตางๆ ของจังหวัดนครสวรรค จัดทําในรูปแบบ หนงั สอื แผน ซดี ี และจดั ทาํ QR Code ทงั้ นไ้ี ดร บั การสนบั สนนุ งบประมาณ จากกรมสงเสริมวัฒนธรรม โดยความรวมมือของจังหวัดนครสวรรค เปนอยางดียง่ิ หวังเปนอยางยิ่งวา หนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรมอําเภอเลมนี้ จะเปนประโยชนแกนักเรียน นักศึกษา ประชาชนท่ัวไป และขอใหเรา
๓๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ชวยกนั สงเสริม อนรุ กั ษ วัฒนธรรมใหเจริญงอกงามย่งิ ขึ้น ขอขอบคุณ ผูเก่ียวของ ท่ีใหขอมูลทุกทาน ลวนเปนผูกอใหเกิดความสําเร็จในการ จัดทําหนังสือในครั้งนี้ หนังสือวิถีชีวิตวัฒนธรรม เลมน้ีจึงถือไดวา มี คุณคาอยางยงิ่ เปนสมบัติของเราชาวจงั หวัดนครสวรรคตอไป (นายนัทธี พคุ ยาภรณ) ประธานสภาวฒั นธรรมจังหวดั นครสวรรค
วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ สารบัญ หนา เรอ่ื ง ๑ ๓ บทที่ ๑ ประวตั ิ ตํานาน คาํ ขวัญและสภาพปจจบุ ัน ๔ ประวตั ิ ตาํ นาน ๗ คําขวญั ๑๓ ๑๗ บทที่ ๒ ชุมชนด้งั เดิม ช่อื บานนามเมือง ๒๑ ชมุ ชนด้ังเดิม ๓๑ โบราณสถาน-โบราณวัตถุ ๓๖ บทท่ี ๓ ศาสนาและความเช่อื ๓๗ ศาสนา บุคคลสาํ คญั ทางศาสนา ความเชือ่ บทที่ ๔ ศิลปะทองถ่ิน การละเลนพื้นบาน
๓๔ วถิ ชี ีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค บทท่ี ๕ วฒั นธรรมทอ งถน่ิ วิถีชีวิต ๓๙ การแตงกาย ๔๕ อาชีพ ๔๗ บทท่ี ๖ แหลงทองเทย่ี วเชิงวัฒนธรรม สถานที่ ๔๙ อาหารการกิน ๕๐ ของทร่ี ะลึก ๕๕ บทที่ ๗ บุคคลผทู าํ คุณประโยชนด านวฒั นธรรมทค่ี วรยกยอง นายนิพนธ เทย่ี งธรรม ๕๗ นางวิไล จนั ทรสงเคราะห ๕๘ บรรณานุกรม ภาคผนวก
วิถชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๕ ๑บทท่ี ประวตั ิ ตาํ นาน และสภาพปจจุบนั ประวัติอาํ เภอลาดยาว อําเภอลาดยาวเดิมมีฐานะเปนเพียงตําบลหน่ึงอยูในเขตการ ปกครองของอําเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรคดวยเหตุผลที่มีผูคน พลเมืองนอย พื้นทเ่ี ปน ปาดง มีสตั วราย มีไขปาชกุ ชมุ ผคู นกอ็ ยกู นั เปน หยอ มๆ กระจดั กระจายกนั อยไู มเ ปน ปก แผน แนน หนา ขนุ ลาดบรบิ าล (หลง หมูพยคั ฆ) กํานันตําบลลาดยาว ไดรวมกบั หลวงพอพวง เจาอาวาส วดั ลาดยาว เปน ผรู เิ รม่ิ ชกั ชวนชาวบา นรว มกนั ขดุ เหมอื ง ฝาย คลองสง นาํ้ เพอ่ื เกบ็ กกั นาํ้ บกุ เบกิ พนื้ ทเ่ี ปน ปา เพอ่ื ประโยชนใ นการเพาะปลกู ทาํ นา ทําไร พรอมกบั ชักชวนใหคนตางทองถ่นิ เขามาหากินในทองถน่ิ นี้ ผลแหงการบุกเบิกท่ีนา ที่ไร บํารุงและสงเสริมการทํานา หาเลี้ยงชีพของราษฎรในฝาย การทําเหมืองฝายดังกลาวมาแลวนี้ ไดทําใหตําบลลาดยาว ในสมัย พ.ศ.๒๔๕๖ ยังเปนหมูบานเล็กๆ มีราษฎรไมกี่ครัวเรือน แตทองท่กี วางใหญ ลวงมาระยะเวลาประมาณ ๑๐ ป ไดก ลายเปน หมบู า นใหญข น้ึ มรี าษฎรถน่ิ อนื่ เขา มาตง้ั หลกั ปก ฐาน เปน ปก แผน แนน หนาหลายรอ ยหลายพนั หลงั คาเรอื น แตเ ดมิ ตอ งรอ งขอ ใหมา เมื่อมาแลวก็ตองยกที่ดินทํานาใหบาง ปลูกบานเรือนบาง แต
๓๒๔ วถิ ีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ภายหลังหาท่วี างใหไมได ทําใหปาดงกลายเปน ท่นี า ทไี่ ร ทาํ ใหทีร่ กราง วางเปลากลายเปน ทท่ี มี่ ีประโยชนแกแผนดินขึ้น จึงทาํ ใหตาํ บลลาดยาว เจริญขึ้นตามลําดับ เมื่อประมาณป พ.ศ. ๒๔๖๕ ขนุ ลาดบริบาล (หลง หมูพยคั ฆ) กาํ นนั ตาํ บลลาดยาว ไดเ สนอความเหน็ ตอ พระยาสนุ ทรพพิ ธิ ผวู า ราชการ จังหวัดนครสวรรค และ พลโทพระยาเทพหัสดินทร สมุหเทศาภิบาล นครสวรรคเ พอ่ื พจิ ารณายกฐานะตาํ บลลาดยาว ขน้ึ เปน อาํ เภอลาดยาว ในป พ.ศ. ๒๔๖๙ ขุนลาดบริบาล ไดยกทีด่ ินใหสรางสถานท่ี ราชการ จํานวน ๕๐ ไร และในป พ.ศ. ๒๔๗๐ จึงไดมีการสรางอาคาร ทว่ี า การอาํ เภอลาดยาว เปน อาคารไมส องชน้ั โดยมนี ายอาํ เภอลาดยาว คนแรก คือ ขนุ เปลงประศาสตร ในป พ.ศ. ๒๕๓๔ ไดมีการปลูกสรางทว่ี าการอําเภอลาดยาว ขึ้นใหม เปน อาคารตึก ๓ ช้ัน แทนอาคารไมหลังเกา บนพื้นท่เี ดิม
วิถีชวี ิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๕ ตาํ นานอําเภอลาดยาว คําวา “ลาดยาว”นาเช่ือวาคงจะเรียกตามลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่สภาพแวดลอมท่ัวไปเปนปาทึบมีความลาดเอียงและยาวมาก ซึ่ง เปนท่มี าของช่อื ตําบลลาดยาว ตอมาไดยกฐานะเปน อําเภอ ในปจ จบุ นั อาํ เภอลาดยาวไดแบงสวนราชการออกเปน อําเภอลาดยาวตั้งอยูทางทิศตะวันตกของจังหวัด มีอาณาเขต ติดตอกับอาํ เภอขางเคียง ดังนี้ • ทิศเหนือ ติดตอกับอําเภอขาณุวรลักษบุรี (จังหวัด กาํ แพงเพชร) และอําเภอบรรพตพิสยั • ทิศตะวันออก ติดตอกบั อําเภอเมืองนครสวรรค • ทิศใต ติดตอกับอําเภอสวางอารมณ (จงั หวดั อทุ ยั ธานี) • ทิศตะวนั ตก ติดตอกับอําเภอชมุ ตาบงและอําเภอแมวงก
๓๔ วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค พ้นื ที่ พนื้ ทส่ี ว นใหญเ ปน ทรี่ าบมลี กั ษณะลาดเอยี งจากทศิ เหนอื ไปทาง ทิศใต มีเนื้อท่ี ๗๔.๘๒ ตารางกิโลเมตร หรือ ๔๖,๗๖๒.๕ ไร อาชีพ อาชีพหลกั ทาํ นา, ทาํ สวน, ทําไร อาชีพเสริม หัตถกรรมจักสาน สาธารณูปโภค จํานวนครัวเรือนท่ีมีไฟฟาใชในเขต อบต. ๒,๙๗๐ ครัวเรือน คิดเปน รอยละ ๙๕.๐๐ จํานวนบานทม่ี ีโทรศพั ท ๑,๗๙๒ หลังคาเรือน การเดินทาง ใชเสนทางถนนพหลโยธินจากกรุงเทพฯ - นครสวรรค ระยะ ทางประมาณ ๒๓๙ กม. ถึง จังหวัดนครสวรรคใชเสนทางถนนสาย นครสวรรค - หนองเบน ระยะทางประมาณ ๑๙ กม. และใชเสนทาง สายนครสวรรค - ลาดยาว ระยะทางประมาณ ๒๒ กม. ผลิตภัณฑ ไขเค็ม-ขนม-น้ํามนั มะพราว-ไมกวาด คําขวัญอาํ เภอลาดยาว “ หลวงพอ พวงศกั ด์สิ ิทธ์ิ ผลผลิตนาขาว แหเจาประเพณี สมโอรสดี หลากสีผาทอ”
วิถชี ีวติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๓๕๕ หลวงพอพวงศักดส์ิ ิทธ์ิ หลวงพอพวง เปนพระภิกษุ ที่มีผลงานในดานพัฒนาพระพุทธ ศาสนา บูรณะวัดและทํานุบํารุง พระพุทธศาสนา มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนใหความเลื่อมใสศรัทธา ในคุณงามความดี ยกยองใหเปน หลวงพอศักดิ์สิทธ์ิของชาวอําเภอ ลาดยาว ผลผลิตนาขาว ประชาชนประกอบอาชีพ เกษตรกรรม คือ การทาํ นา ทําไร มี การปลกู ขา วเปน พชื เศรษฐกจิ ทส่ี าํ คญั คดิ เปน รอ ยละ ๖๐.๘๑ ของพน้ื ทอี่ าํ เภอ แหเจาประเพณี ป ร ะ ช า ช น ที่ มี เ ช้ื อ ส า ย จี น สวนใหญอาศัยอยูในตําบลลาดยาว จงึ สรา งศาลเจา พอ เจา แมล าดยาวขน้ึ
๓๖๔ วถิ ชี วี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค และมีการจัดงานประเพณีแหเจาพอ เจาแมลาดยาวเปน ประจําทุกป สมโอรสดี อําเภอลาดยาวจะมีการ จัดงาน “ วันสมโอรสดีเมือง ลาดยาว ” ระหวา งเดอื นสงิ หาคม- กันยายน ของทุกป พื้นท่ีที่มีการ ปลกู สมโอ ไดแก ตาํ บลลาดยาว และตาํ บลสระแกว หลากสีผา ทอ ผา ทอทมี่ ลี วดลายและสสี นั สวยงาม เปนผลิตภัณฑ OTOP ระดบั สามดาว เชน ผาทอตีนจก ผาลายขิดตีนจก ผาลายขวั้นบาน ทุงแมน้ํานอย ตาํ บลลาดยาว
วถิ ชี ีวติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๗๓๕ ๒บทท่ี ชมุ ชนดงั้ เดิม ชือ่ บา นนามเมือง ตาํ บลลาดยาว ตําบลลาดยาวแตเดิมเปนเพียงตําบลหนึ่งของอําเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค มีสภาพเปนปาทึบ อดุ มสมบูรณไปดวย ปาไม เชน ไมยาง ไมสกั ไมมะคาโมง ไมประดู ไมชิงชนั และมีสตั วปานานาชนิด ทง้ั เสือ ชาง กวาง เนื้อทราย และสตั วปาอน่ื ๆ มากมาย ในราว พ.ศ.๒๓๙๐ เร่ิมมีชาวบานทาซุด บางประมุง อําเภอโกรกพระ เขามาทาํ น้ํามันยาง ตดั หวาย เกบ็ เปลอื กสเี สยี ด เนอ่ื งจากพน้ื ทใี่ นตาํ บลมคี วามอดุ มสมบรู ณ จงึ ไดม กี ารถากถางปา ทาํ นา ทาํ ไรท ลี ะเลก็ ทลี ะนอ ยและไดช กั ชวนญาติ พี่นองและพวกพองเขามาทํามาหากินเพ่ิมขึ้น บริเวณท่ีต้ังหลักแหลง แหงแรก คือ บานดอนรัง บานหนองแก บานหัวยาง พื้นที่หมูท่ี ๕ หมูที่ ๖ ตําบลลาดยาวปจจุบันน้ี ซึ่งในระยะตอๆมามีการเปล่ียนและ เรียกช่ือหมูบานใหมวา “บานลาดยาว” ตามลักษณะภูมิประเทศของ พื้นท่ีที่มีลักษณะลาดเอียงเปนแนว ยาวจากทางทิศตะวันตกไปทางทิศ ตะวันออก นอกจากนี้ยังมีคนรุนเกาๆบางคนสันนิษฐานวาเรียกตาม
๓๘๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ลกั ษณะทางนํ้าไหล เพราะตอนนนั้ พื้นท่บี ริเวณนี้ยังไมมีแนวลาํ น้ําเปน คนั แนน อน พอถงึ ฤดฝู น นาํ้ จะไหลลาดเปน ทางยาว จงึ เรยี กวา “ลาดยาว” ตาํ บลวงั มา เดมิ ทเี ปน ทตี่ งั้ ของคา ยพมา มที หารเกดิ การลม ปว ยเปน โรคตา งๆ ในคายทหาร ไมมีหมอรักษา จึงใหหมอมูล หมอโบราณท่ีอยูใกลคาย ทหาร เขามารกั ษาทหารในคาย จนในทสี่ ดุ ทหารหายปวย บรรดาทหาร ไมมีเงินจายคารักษา จึงยกที่ดินของกองทัพที่ต้ังอยูใกลกับที่ดินของ หมอมลู หมอมลู เห็นวาเปน ทําเลดี ติดกับแมน้ําสะแกกรังเหมาะสมแก การสรางวัด จึงชักชวนชาวบานซึ่ง ณ ขณะนั้นมีอยูไมกี่หลังคาเรือน ชวยกันสรางวดั ชาวบานแถบน้ันสวนใหญเลี้ยงวัว และมากนั มาก และ ใชม า เปน พาหนะในการคา ขายกบั ตา งแดน แตเ นอื่ งจากแมน าํ้ สะแกกรงั เปนวังลึกมากจึงมีพอคาท่ีเดินทางมากับมาตกนํ้าตายในบริเวณนั้น หมอมูลจึงตั้งช่อื วา “วังมา” ตาํ บลวังเมือง เดมิ เปน เมอื งนคร ถกู ทงิ้ มาเปน เวลานานอาศยั คขู ดุ เปน บางสว น ทหี่ นองศรีเทพ หนองพนู คลองชาง-แทงค มีด หนิ เหลือใช เปน บางสวน เสาหลกั เมือง ศาลาปาชา ถูกไฟไหมจนเกือบหมดสิ้นหาหลักฐานไมได หลงั จากตง้ั กรงุ รตั นโกสนิ ทร ป ๒๓๒๕ ไมป รากฏตามหลกั ฐานลกู หลาน
วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๙๓๕ ของนายทองแสน นายทองแกว นายทองอยู จงึ ไดข น้ึ เรือทเ่ี มอื งพระบาง ตามลายแทงพงศาวดารมายังนครเมือง เปน ปาเกือบจําไมไดเพื่อขดุ หา กระดกู นายทองแกว นายโตลูกนายทองแกว ขึ้นลองเมืองสพุ รรณและ นครเมือง นึกถึงปาชาทฝ่ี งศพพออยู จึงไดชวนพ่นี องมาหกั ลางถางพง เปนไรนาอยูสิบป มีบุตรคนหนง่ึ ชื่อ นายคาํ มีภรรยาชอ่ื อําแดง (นาง) เปยม เปน ตระกูลกลากสิกรณ นายชม อําแดงพุด นามสกลุ กลากสิกิจ อยูฝงวังมา กํานันกวาง อําแดงทองรัก (กํานันคนแรกตําบลวังเมือง นามสกลุ กลากสิกาน นับต้ังแตบรรพบรุ ุษ ลูกหลาน ไดยึดที่ดินสืบทอด ทํามาหากินมาโดยตลอด คําวาคนเมืองนครกลาง สภาพเปนปาลูก ไฟไหม โลงเตียนไปหมด เหลือไวตามพงศาวดารจึงเรียกสืบกนั มาเปน “วังเมือง” หนองนมววั ความเปนมาของตําบลหนองนมวัว เปนสวนหนึ่งของตําบล หนองยาวอําเภอลาดยาวตอมาในป พ.ศ.๒๕๑๕ ไดแยกออกมาเปน ตาํ บลเพอื่ ความสะดวกในการปกครองดแู ลอยา งทว่ั ถงึ โดยใชช อ่ื ตาํ บล หนองนมววั ตามชอ่ื หมูบาน ทีเ่ ปน ศูนยกลาง โดยตําบลหนองนมวัวนั้น เดมิ ทมี หี นองนา้ํ ขนาดใหญแ ละมตี น นมววั ขน้ึ อยเู ปน จาํ นวนมาก และเมอื่ มีการต้ังชมุ ชน ในบริเวณนี้จึงเรียกวา “หนองนมวัว”
๓๑๔๐ วถิ ีชีวิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ตาํ บลมาบแก เดมิ เปน พนื้ ทม่ี าบนาํ้ ขนาดใหญ ทมี่ ตี น สะแก ขน้ึ ลอ มรอบบรเิ วณ มาบนํ้าขนาดใหญนน้ั มีสัตวปานานาชนิด บริเวณอดุ มสมบูรณไปดวย กุง หอย ปู ปลา นํ้าจืด มีธรรมชาติ ทิวตนไม และไดมีพระธุดงครูปหนึง่ นามวา หลวงพอจอมศรี มาปกกรดบริเวณดังกลาว เห็นวาเปนพ้ืนที่ อดุ มสมบรู ณ จงึ ไดก ลบั ไปชกั ชวน ญาตพิ นี่ อ งจากทาง จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี เขามาอยูอาศยั อาชีพแรกคือการทาํ นา และเพิม่ ปริมาณ จาํ นวนคน อยูเร่ือยๆ จนปจ จุบนั และไดจดั ต้ังใหเปนชื่อ“ บานมาบแก ”ในป พ.ศ. ๒๔๗๕ และใชจนถึงปจ จุบัน ตาํ บลศาลเจาไกต อ เลากันวาสมัยหน่ึงมีเช้ือพระวงศ ชอบออกประพาสปาชมนก ชมไม ไดพ าบรวิ ารมาประพาสปา ดว ย และไดพ กั แรมบรเิ วณศาลเจา พอ ซึ่งแตเดิมอยูกลางทุงนา พวกขาทาสบริวาร ไดนําไกบาน ไปตอไกปา ซึ่งขันอยูปาเปนจํานวนมากและอยูๆไกท่ีนํามาตอเกิดหายไป หาเทาไร กไ็ มพ บ ซงี่ เลา กนั วา ไมไ ดเ ซน หรอื บวงสรวงผปี า จงึ ทาํ ใหไ กห ายไป พวก ขาทาสบริวารทมี่ าดวยจึงนึกขึ้นไดกท็ าํ การเซนบวงสรวงตอเจาพอและ ไดออกไปทําการตอไกปาอีก ทีนี้ไดไกปามาเปนจํานวนมาก นับต้ังแต น้ันมาก็เรียกชอ่ื ศาลเจาพอนี้วา ศาลเจาไกตอมาจนถึงปจจุบนั
วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๑๑๕ บา นบึงหลม อยทู ตี่ าํ บลบา นไร เดมิ เปน ปา ดงดบิ เปน ทสี่ งวนของทางราชการ ทางดานทิศตะวันตกมีบึงขนาดใหญ มีลกั ษณะเปนโคลนลึก จึงเรียกวา “ บึงหลม ” บา นวังแจง อยูท่ี ตาํ บลมาบแก เดิมมีวังลึก และมีตนแจงขึ้นอยูริมวัง จึงได เรียกชอ่ื วาวังแจง บานวงั ยม้ิ แยม อยูท่ี ตําบลวงั มา เลากนั วาคร้ังแรกเลยไมมีใครมาอาศัยอยู เพราะพ้ืนท่ีแหงน้ีรกราง และมีปาไมเต็มไปหมดแตก็มีครอบครัว นายบุญมามาอาศัยเปนครอบครัวแรก ไดถากถางปาเพ่ือจะไดพ้ืนท่ี ทาํ กิน พอฟนปาไปเรอ่ื ยๆก็เจอธารนํ้าไหลผานกลางปากด็ ีใจทไ่ี ดน้ํามา ทาํ กนิ และไดช กั ชวนพน่ี อ งมาตงั้ รกรากทนี่ ี่ ตอ มากม็ คี นมาอาศยั เพม่ิ ขน้ึ จึงไดต้ังช่อื หมูบานนี้วา บานวังยิ้มแยม เพราะผูพบเห็นคนแรกดีใจที่ได เห็นวงั นา้ํ
๓๑๒๔ วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค บานวงั ศรีเจริญ ตําบลวงั มา เดิมเปน หมบู านทม่ี ีผอู าศยั ไมกหี่ ลงั คาเรือน คนแรกทเ่ี ขามาตง้ั หลกั ปก ฐานคือนายแดง ขนั กสิกรรม ทแ่ี หงนี้มีวงั นํ้าไหลผานทาํ ใหพื้นที่ ทาํ มาหากนิ อดุ มสมบรู ณไ มแ หง แลง ตอ มามญี าตพิ นี่ อ งเขา มาอยมู ากขนึ้ ตา งชว ยกนั ทาํ มาหากนิ ใชเ นอ้ื ทที่ าํ นา ปลกู ขา วและพชื ผกั ตา งๆ ดว ยเหตุ ที่หมูบานน้ีมีนํ้าอุดมสมบูรณ จึงเลาลือกันมา ทําใหผูคนตางบาน ตา งเมอื งเขา มาอยอู าศยั ทาํ กนิ และพรอ มใจกนั ตง้ั ชอื่ หมบู า นทต่ี นอาศยั แหงนี้วา บานวังศรีเจริญ บานหนองขอน ตาํ บลวังมา เลากันวา เดิมบริเวณหมูบานหนองขอนมีหนองนํ้าใหญอยู แหง หนงึ่ อยไู มไ กลจากหมบู า นมากนกั ชาวบา นละแวกน้ี ไดใ ชป ระโยชน จากหนองนํ้าแหงนี้ตลอดมา บริเวณพ้ืนดินรอบ ๆ หนองน้ําและพื้นท่ี ใกลเคียงเต็มไปดวยปาไม ท้ังไมเล็กและไมใหญ ผูคนที่มาอาศัยอยูใน ละแวกบานก็ไดโคนตนไมลงเปน จาํ นวนมากมาย เพอ่ื นาํ ไปใชการสราง บานเรือน และใชทาํ เคร่อื งใชไมสอยตางๆ ย่งิ มีคนมาอยูมากขึ้น กต็ อง หกั รา งถางปา ตอ ๆกนั มาก เมอ่ื ถางปา ไวม ากมายกม็ ขี อนไมม ากขน้ึ ดว ย เหตุนี้ทาํ ใหชาวบานเรียกชอ่ื หมูบานวา “บานหนองขอน”
วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๓๕ บา นดอนพลอง ตาํ บลวังเมือง เลา กนั วา เดมิ หมบู า นดอนพลองเปน ปา ไมพ ลองมากมาย ชาวบา น สวนมากไดอพยพมาจากอาํ เภอนครชัยศรี เมือ่ ตั้งช่อื นามหมูบานจึงได ตั้งช่อื ตามปาไมท่มี าอาศัยวา “ดอนพลอง” บา นหนองจิกรี ตําบลสรอ ยละคร เลากันวา บริเวณหมูบานนี้เดิมเปนปา มีหนองนํ้า และตนจิก ข้ึนเปนสัญลักษณ ยังมีนกกะทือชุกชุมคนลาวที่ตั้งถิ่นฐานอยูที่นี่เรียก หนองนกข้ีถี่ สําหรับนามหนองจิกรี เปนชื่อหมูบานที่ไดเปล่ียนชื่อมา แลว โดยถือเอาสาเหตุท่มี ีหนองนํ้าและตนจิกเปน สญั ลกั ษณ ประกอบ กบั หนองนํ้าแหงนี้มีลกั ษณะยาวรี จึงเรียกกนั อยางนนั้ ชุมชนดงั้ เดิม/กลุม ชน อาํ เภอลาดยาวมปี ระชากรประกอบดว ยหลายเชอ้ื ชาติ เนอ่ื งจาก ไดอ พยพมาจากจงั หวดั อทุ ยั ธานี จงั หวดั เพชรบรู ณ จงั หวดั เพชรบรุ ี เชน ชนพื้นเมืองดั้งเดิม ชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายลาวครง่ั ลาวพวน ลาวโซง หรือ ไทยดาํ ดวยความแตกตางของเช้ือชาติและการอยูอาศัยในทองถ่ิน ที่แตกตางกัน ทําใหการใชภาษาวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ทหี่ ลากหลาย การดาํ เนินชีวิตท่แี ตกตางกันอยางชดั เจน สงั เกตไดจาก
๓๑๔ วิถีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค วฒั นธรรมการกนิ ประเพณงี านศพทาํ ใหก ารดาํ เนนิ งานตามแผนพฒั นา ประสบปญ หายุงยาก ชาวไทยดํา เปนชนเผาไทยกลุมหนึ่ง คนไทยมักเรียกวา “ลาวโซง” หรือ “ไทยโซง” เนื่องจากอพยพมาจากประเทศลาว ซง่ึ คําวา (โซง ) เปนคาํ ทถ่ี กู เรยี กตามชดุ แตง กายเพราะนงุ ซว งดาํ หรอื กางเกงสดี าํ ปจ จบุ นั นยิ ม เรียกวา “ ไทยดาํ ” การแตงกายของไทยดํา การแตงกายของชาวไทยดํา แตงกายดวยผาสีดําเปนพื้น ตามปกติ ฝายชายจะสวมกางเกงแคเขาเรียกวา “ซวงกอม” ใสเส้ือ คอ นขา งรดั รปู ยาวถงึ สะโพกแลว ผา ปลายทง้ั สองขา งแขนยาวเปน กระบอก
วถิ ชี วี ิต วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๑๓๕ ถึงขอมือ ติดกระดุมเงิน อยางถ่ๆี ต้ังแตคอถึงเอว เสอ้ื ชนดิ นเี้ รยี กวา เสอื้ กอ ม หรอื เสอ้ื ไทย ถา ไปในงาน พิธีการ จะสวมกางเกง ขายาวเรยี กวา ซว งฮี และ ใสเ สอ้ื ตวั ยาวมลี ายปก ประดษิ ฐ ตามแบบเฉพาะของตนเอง เรยี กวา เสอื้ ฮี ฝา ยหญงิ ตามปกตสิ วมเสอ้ื กอ มตดิ กระดมุ เงนิ ถา เปน งานพธิ จี ะสวมเสอื้ ฮี ผาซ่ินท่ีใชนุงมีลักษณะเฉพาะคือพื้นดําสลับลาย เสนสีขาวคราม และ วธิ นี งุ ผา ซนิ่ ของชาวไทยดาํ ผดิ แปลก คอื ใชม มุ ผา ทางซา ยและขวาทบกนั แลวหักพับลง คาดดวยเข็มขัด ตรงกลาง แหวกเปนฉาก ทรงผมของ ผหู ญงิ นยิ มเกลา มวยซง่ึ มี ๒ แบบ คอื ผทู อี่ ยใู นวยั สาว จะเกลา ผมทเี่ รยี ก วา ขอดซอย แตถาพนวัยสาวจะเกลาแบบปนเกลา เปนการแบงแยก วยั วฒุ ิ
๓๑๔๖ วถิ ีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ชมุ ชน ชาติพนั ธุ ลาวคร่ัง บานหนองกระดกู เน้อื ลาวครงั่ คือคนลาวท่อี พยพมาจากหลวงพระบาง สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว มาตงั้ หลกั แหลง อยทู ห่ี มบู า นหนองกระดกู เนอื้ หมู ๕ ตาํ บลหนองกระดกู เนื้อ อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ซึง่ ท่หี มูบานนี้มีจาํ นวนครอบครวั ท้ังหมดประมาณ ๑๕๐ หลงั คาเรือน ในหมบู า นหนองกระดกู เนอ้ื มหี ลายเชอ้ื ชาติ เชน ชาตพิ นั ธลุ าวครง่ั มอญ และไทย ซง่ึ มีวัฒนธรรม ประเพณี แตกตางกันและหลากหลาย ประวตั คิ วามเปน มาของการตง้ั ถน่ิ ฐานชมุ ชนบา นหนองกระดกู เนอื้ คาดวาอายุประมาณ ๑๐๐ ปเศษ โดยมีชาติพันธุลาวครั่งเขามากอน โดยมีปูทวดมขุ เทียนสันต ปูทวดเฮียม ศรีตะรา ปูทวดบสุ ดี ภมู ิอินทร ปูทวดฟก อยูยงค ปูทวดแอว คําสิทธ์ิ (ชาติพันธุมอญ) ไดตามเขามา ตง้ั ถนิ่ ฐานเชน เดยี วกบั ปทู วดคาํ แสน แกว อนิ ทร ปทู วดบวั เหลา แสง ไทย
วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๑๓๗๕ ในการเขามาต้ังรกรากครั้งแรก โดยปูทวดมขุ และปูทวดเฮียม ปูทวดเถิก เขามาสํารวจสถานที่เพื่อสรางหมูบานและไดเจอหนองน้ํา ขนาดกวา งขวางพอสมควรทางทศิ ตะวนั ตกของหมบู า นพบเศษเนอื้ และ กระดกู สตั วป า จากการชาํ แหละของนายพรานอยบู รเิ วณรอบๆของสระ เปนจํานวนมาก จึงเรียกขานหมูบานนี้วา หนองกระดกู เนื้อ แตละชาติพันธุเอกลักษณท่ียังหลงเหลืออยูคือเร่ืองของภาษา การแตงกาย อาหาร และวัฒนธรรมด้ังเดิม เชนเทศการสงกรานต การแหธง กอเจดียทราย โบราณสถาน - โบราณวตั ถุ แหลงโบราณสถานวงั หินดาด อยูท่บี านหินดาด หมู ๖ ตําบลวงั มา อาํ เภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค เปนแหลงโบราณคดีสมัยกอนประวัติศาสตรตอนปลาย (สมัยโลหะ) ประมาณ ๒,๐๐๐ – ๒,๕๐๐ ป สถานทข่ี ุดพบเปนบริเวณ พื้นทน่ี า ซึง่ เปนเนินสงู เปนทน่ี า ของ นายสขุ อมั รนันท พบโครงกระดูก มนุษยสภาพสมบูรณ จํานวน ๑๕ โครง และโบราณวัตถุท่ีฝงรวมกับ โครงกระดกู เชน ขวาน เหลก็ เสียม เหล็ก รูปตัวนก ส่วิ หรือสกัด
๓๑๔๘ วิถีชีวิต วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค เคร่ืองปน ดินเผามีลวดลาย หมอปนดินเผาถูกขุดพบที่บานหนองน้ําผึ้ง หมูที่๑๑ ตําบล เนินขี้เหล็ก อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ขุดพบเมื่อวันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๒ ในพื้นท่ปี าสักของนายเหรียญ ยศสมบัติ ในปจจบุ นั เปนที่ตั้งของวัดสุสาน ๒,๐๐๐ ป ลักษณะหมอดินเผาเปนทรงกลม ปากบานมีฐาน ตัวหมอดินเผาไดวาดลวดลายเปน เสนตรงและส่เี หลย่ี ม กรมศิลปากรไดมาสํารวจ และบอกลักษณะเครื่องปนดินเผามีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยุคสมยั กอนประวตั ิศาสตร
วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๑๓๙๕ ขวานสาํ ริด เคร่อื งมือเคร่อื งใชส มยั โบราณ ขวานสาํ รดิ ขดุ พบทบี่ า นหนองนา้ํ ผงึ้ หมทู ี่ ๑๑ ตาํ บลเนนิ ขเ้ี หลก็ อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ขดุ พบเมอื่ วนั ท่ี ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๔๒ ในพน้ื ทปี่ า สกั ของนายเหรยี ญ ยศสมบตั ิ ในปจ จบุ นั เปน ทต่ี ง้ั ของวดั สสุ าน ๒,๐๐๐ ป ลักษณะของขวานสําริดมีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยุค สมัยกอนประวัติศาสตร
๓๒๐๔ วิถีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ถาดทรงกลมสีแดง ถาดดนิ เผาขดุ พบทที่ บ่ี า นหนองนาํ้ ผงึ้ หมทู ี่ ๑๑ ตาํ บลเนนิ ขเ้ี หลก็ อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ขดุ พบเมอื่ วนั ที่ ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๔๒ ในพนื้ ทปี่ า สกั ของนายเหรยี ญ ยศสมบตั ิ ในปจ จบุ นั เปน ทต่ี ง้ั ของวดั สสุ าน ๒,๐๐๐ ป ลกั ษณะของถาดดนิ เผาเปน ทรงกลมสแี ดงขอบปากถาดหนา กรมศิลปากรไดมาสํารวจและบอกลักษณะถาดดินเผาสีแดง มีอายุ ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ ป คือยคุ สมยั กอนประวตั ิศาสตร
วิถชี วี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๒๓๑๕ ๓บทท่ี ศาสนาและความเช่อื ศาสนา ๑. วัดศรีสุวรรณาราม วัดศรีสุวรรณาราม วัดเจาคณะอําเภอลาดยาว ตั้งอยูเลขที่ ๕๙๗/๑๐ บานลาดยาว หมู ๗ ตาํ บลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค สงั กดั คณะสงฆมหานิกาย มีทด่ี ินต้ังวดั เนื้อท่ี ๗ ไร ๑ งาน ๙๘ ตารางวาพื้นท่ตี ้ังวัดเปนเนินสงู เดิมเรียกสั้นๆวา วดั ศรี กระทรวง ศกึ ษาธกิ ารไดป ระกาศตง้ั เปน วดั นบั ตงั้ แตว นั ที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ไดรบั พระราชทานวิสงุ คามสีมา วนั ที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๘
๓๒๒๔ วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค เขตวิสุงคามสีมากวาง ๒๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร ทางวัด ไดเปดสอนพระปริยัติธรรมต้ังแต พ.ศ. ๒๕๑๖ และเปนศูนยศึกษา พระพุทธศาสนาวนั อาทิตย ในปจจบุ ันพระศรีสุทธิพงศ เปน เจาอาวาส วัด และเจาคณะอําเภอลาดยาว ดํารงตาํ แหนงต้ังแต พ.ศ. ๒๕๔๑ ๒. วัดลาดยาว วดั ลาดยาวตง้ั อยเู ลขที่ ๒๔ บา นลาดยาว หมทู ่ี ๕ ตาํ บลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค สังกัดคณะสงฆมหานิกาย มีท่ีดิน ตั้งวดั เนื้อท่ี ๑๔ ไร ๒ งาน ตามน.ส. ๓ ก.เลขที่ ๔๑๗๓ มีท่ธี รณีสงฆ จํานวน ๔ แปลง เนื้อท่ี ๑๐๔ ไร ๓ งาน ๒ ตารางวา ตาม น.ส.๓ ก. เลขท่ี ๑๒๙๙ ๘๔๙ ส.ค. ๑ เลขท่ี ๔๗๒ และโฉนดทด่ี ินเลขที่ ๑๐๒๙ ต้ังอยูทองทต่ี าํ บลลาดยาว ๓ แปลง ตาํ บลหนองยาว ๑ แปลง พื้นท่ตี ง้ั
วถิ ชี วี ิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๒๓๕๓ วัดเปนท่รี าบลุม สภาพแวดลอมเปน ทุงนาและ บานเรือนของประชาชน วดั ลาดยาว เดิมเรียก “ วดั ใหญ ” สรางขึ้นเปน วัดนับต้ังแตประมาณ พ.ศ. ๒๔๒๐ มีนาม ตามชื่อบาน ไดรบั พระราชทานวิสุงคามสีมา วันท่ี ๓ กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๔๙๓ ทางวดั ไดเปดสอนพระปริยตั ิธรรมตั้งแต ป พ.ศ. ๒๔๗๖ ในปจจบุ นั พระครนู ิติศีลวตั ร เปนเจาอาวาส ตั้งแตวนั ที่ ๓๐ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
๓๒๔ วิถชี วี ติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓. วดั นิวิฐธรรมมาราม (วัดเขาสมกุ ) อาํ เภอลาดยาว วัดเขาสมกุ ตั้งอยูเลขท่ี ๒๐ หมูท่ี ๒ ตาํ บลหนองนมวัว อําเภอ ลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ทด่ี นิ ตงั้ วดั เนอ้ื ที่ ๔๗ ไร ๑ งาน ๕๐ ตาราง วา วดั เขาสมกุ สรา งขน้ึ เปน วดั ตง้ั แตว นั ท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๐ มีช่ือตามชื่อของหมูบานซึ่งมีเขาสมุกเปนสัญลักษณ และมีอีกชื่อวา “วดั นวิ ฐิ ธรรมมาราม” โดยเปน ชอ่ื ตงั้ ตามพระราชทนิ นานของหลวงพอ พวง คือ “พระครูนิวิฐธรรมสาร” ซ่ึงเปนช่ือวัดท่ีใชเรียกอยางเปนทางการ ตามช่ือของทะเบียนวัด หลวงพอพวง เจาคณะอาํ เภอในสมัยนั้นไดเขา มาพํานักอาศัยและริเริ่มกอสรางวัด แหงน้ีข้ึนในป๒๔๗๑ วัดเขาสมุก ไดร บั วสิ งุ คามสมี า เมอื่ วนั ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๐๕ ทางวดั เรม่ิ เปด สอน พระปริยตั ิธรรม เม่อื พ.ศ. ๒๕๐๘
วถิ ชี ีวิต วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๒๓๕ ๔. วดั ศาลเจา ไกต อ เปน วดั ขนาดใหญท ม่ี อี โุ บสถแหง เดยี วในเขตเทศบาล เปน ศนู ยร วม ของการจดั กิจกรรมตางๆ มากมาย อาทิ เชน การจัดกิจกรรมประเพณี สงกรานต ประเพณีลอยกระทง ประเพณีบวชนาคหมูเปน ตน ต้ังอยูท่ี บานศาลเจาไกตอ เลขท่ี ๑ หมูที่ ๓ ชุมชนสูงเนินพัฒนา ตําบล ศาลเจาไกตอ อําเภอลาดยาว สังกัดมหานิกาย กอตั้งวัดเมื่อวันท่ี ๕ ตุลาคม ๒๔๘๔ ปจจบุ นั มีพระคุณนิสัยวฒุ ิธรรม (ธมมฺ จาร)ี (เจาคณะ ตําบลศาลเจาไกตอ) เปนเจาอาวาส มีพระอุโบสถเปนศาสนสถาน ท่ีสวยงาม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร เสด็จมาเปนองคประธานตัดหวายลูกนิมิตพระอุโบสถ
๓๒๖๔ วิถีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ๕. วัดสระแกว วนาราม (วัดปาหวั ตลกุ ) วัดสระแกววนาราม หรือวัดปาหัวตลุก ตั้งอยูท่ีบานหัวตลุก หมูท่ี ๖ ตําบลสระแกว อําเภอลาดยาว สังกัดธรรมยุต จดทะเบียน กอต้ังวดั เมอ่ื ๒๗ ตลุ าคม ๒๕๕๓ โดยหลวงปูลี ตาณงั กโร ไดเดินธดุ งค มาปกกลดที่ปาละเมาะใต ตน มะมว งใหญท บี่ า นหวั ตลกุ หลังจากนั้นมีญาติโยม ไดนิมนตหลวงปูลี อยู ณ ปาละเมาะแหงนี้ หลวงปูลี รับนิมนตจึงตั้งสํานักสงฆ ปา หวั ตลกุ ขนึ้ โดยญาตโิ ยม ร ว ม กั น ส ร า ง กุ ฏิ ถ ว า ย หลวงปูลี พ.ศ. ๒๕๒๕ ญาติโยม ไดรวมกันสราง กุฏิไมถวายหลวงปูลี และ ซื้อท่ีดินถวายวัดเพ่ิมเติม ปจ จบุ นั มพี นื้ ทรี่ วม ๓๘ ไร ๑ งาน ไดร บั อนญุ าตใหต ง้ั ชอื่ วดั วา วดั สระแกว วนาราม เมื่อวันท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ ปจจุบันมีหลวงปูลี เปน เจาอาวาส
วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๓๒๕๗ ๖. วัดวงั มา ประวัติวัดวังมา วัดวังมาถูกสรางข้ึนตั้งแตวันท่ี ๑๕ เมษายน ๒๔๒๙ มนี ามตามชอื่ บา น การสรา งวดั ไดร เิ รม่ิ ดาํ เนนิ การตง้ั แต ๒๔๒๕ โดยมีตาหมอมูล นางปุย บัวผา ไดรักษาคนไขที่ช่ือตาพวง หายจาก เจ็บไขแลว ตาพวงไดยกทด่ี ินใหเปน คารักษา หมอมลู ไดบริจาคทีด่ ินน้ัน ใหเ ปน ทส่ี รา งวดั ในสมยั ของหลวงพอ เพชร ไดร บั พระราชทานวสิ งุ คามสมี า วันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๕๙ พ.ศ.๒๔๘๒-๒๕๓๙ พระครูนิพนั ธนวกิจ (หลวงพอ ประสทิ ธิ์ กน.ตสาโร) ดาํ รงตาํ แหนง เจา อาวาส ปจ จบุ นั มพี ระครู นมิ ติ กจิ จาทร เปน เจา อาวาส วดั วงั มา ตง้ั อยเู ลขท่ี ๓๕ หมทู ๕่ี บา นวงั มา ตาํ บลวงั มา อาํ เภอลาดยา พนื้ ทต่ี ง้ั วดั เปน ทร่ี าบลมุ รมิ นา้ํ สะแกกรงั ภายใน วัดประกอบดวย อุโบสถสรางขึ้นใน พ.ศ.๒๔๕๖ ภายในมีพระประธาน
๒๓๘๔ วิถชี ีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค เรียก หลวงพอโตเปน พระพุทธรูปปูนปน เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๘ ตามองอุบ ตามอ งอาย พมา เปน ชาวเหนอื อยตู าํ บลวงั เมอื ง ไดน าํ ชา งมาจากจงั หวดั ลาํ พนู จดั การบรู ณะจดั แตง องคพ ระ พรอ ม พระอคั รสาวก ทาํ ใหม พี ทุ ธ ลกั ษณะทง่ี ดงาม ศาสนาอน่ื ๆ ศาลเจา พอ เจา แมลาดยาว สรา งขน้ึ โดยกลมุ ชาวจนี ทเ่ี ขา มาทาํ การคา ขายอยใู นตลาดลาดยาว ตงั้ อยรู มิ ฝง คลองทศิ ตะวนั ตก ตรงขา มกบั วดั ลาดยาว ตอ มาไดย า ยจาก ตลาดเกามาอยูทต่ี ลาดใหมเนอื่ งจากทเ่ี ดิมคบั แคบ ชาวจีนจึงไดรวมกนั ซื้อที่นาของนายแบนสรางตลาดใหม และไดยายศาลจากตลาดเกามา
วถิ ีชีวติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ๒๓๙๕ ตลาดใหมจนถึงปจ จุบัน แตเดิมศาลเจาพอ – เจาแมเปน อาคารไม และ ใชไมแกะสลักแทนองคเจาพอปงุ เถากง และแทนองคปงุ เถามา ตอมา ในป พ.ศ. ๒๕๑๐ไดมีการปรับปรุงศาลเจาจากอาคารไมเปนอาคาร คอนกรีต และไดดาํ เนินการถมสระนํ้าท่อี ยูขางศาลเจา สรางเปนศาลา ประชาคมชาวจนี ไดอ ญั เชญิ เจา พอ ปงุ เถา มา มาอยทู ศ่ี าลเจา ใหมแ หง นี้ และไดอัญเชิญเจาพอหนองกวางเขามาสถิตในรูปไมแกะสลักแทน องคปุงเถากง เจาพอลาดยาวเปนที่เคารพนับถือท้ังชาวจีน ชาวไทย เชื้อสายจีน และชาวไทยในอําเภอลาดยาว และนํามาซึ่งความอยูเย็น เปน สขุ ใหพรสมปรารถนากับผูท่มี าขอพรตลอดมา ชาวอาํ เภอลาดยาว ไดรวมกนั จัดงานประเพณีแหเจาพอเจาแมลาดยาว รวมกบั งานกาชาด อาํ เภอลาดยาว ในระหวางวันท่ี ๑๒-๑๕ เดือนธันวาคม ของทกุ ป
๓๐๔ วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค คริสตจกั รแหง นิมิตอาํ เภอลาดยาว คริสตจักรแหงนิมิต เริ่มกอต้ัง ประมาณ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เดิมชอ่ื คริสตจกั รแหงความหวัง ไดทาํ การเปลี่ยนชื่อ เมอื่ ป พ.ศ. ๒๕๕๔ ในสงั กดั มลู นิธิความหวงั มี อาจารยภิรมย ยิ้มเหม เปน ศิษยาภิบาล มีการจัดพิธีศกุ รอธิฐาน เพอ่ื เปนการขอพรพระเจา โดย จดั กจิ กรรมทกุ วนั ศกุ ร เวลา ๑๙.๐๐-๒๐.๐๐ น. สว นวนั อาทติ ยม พี ธิ กี าร ทางความเช่ือของศาสนา เวลา ๐๕.๐๐-๑๔.๐๐ น. มีคริสตศาสนิกชน ประมาณ ๓๐ คน และทกุ ปจะจัดคายสมั มนาพระคัมภีร ปละ ๒ ครงั้ ปจจุบันต้ังอยูเลขที่ ๓๑๗ หมู๔ ตําบลลาดยาว อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค
วถิ ีชีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕๑ บคุ คลสําคัญทางศาสนา ๑. เจา คณะอาํ เภอลาดยาว พระศรีสุทธิพงศ พระศรีสุทธิพงศ นามเดิม สมสวน ฉายา ปฏิภาโณ นามสกุล เพง็ สขุ เกดิ ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๐๑ อปุ สมบท ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๒ ภมู ิลําเนา บานทุงตนั ตาํ บลบานไร อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค สังกัดวัดศรีสุธรรมมาราม ตําบลลาดยาว อําเภอลาดยาว จังหวัด นครสวรรค ปจจบุ นั พ.ศ. ๒๕๔๑ เจาอาวาสวัดศรีสธุ รรมาราม พ.ศ. ๒๕๔๒ เจาคณะอําเภอลาดยาว พ.ศ. ๒๕๔๐ อาจารยประจําสาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาลยั สงฆนครสวรรค
๓๒๔ วถิ ีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๒. หลวงปลู ี ตาณงั กโร เจาอาวาสวดั สระแกววนาราม (วดั ปาหัวตลุก) ตําบลสระแกว อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค หลวงปูลี ตาณงํ กโร มีนามเดิมวา ลี นามสกลุ ถุวัตถี เกิดเม่อื วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ตรงกบั วนั ขึ้น ๕ คํ่าเดือน ๒ ปฉลู ณ บานเลขท่ี ๒๔ หมู ๒ บานนาฝายเหนือ ตําบล บัวเงิน อําเภอน้ําพองจงั หวัดขอนแกน โยมบิดาช่อื นายเคน ถุวตั ถี โยม มารดาชอื่ นางออนจนั ทร ถุวัตถี ป พ.ศ. ๒๕๒๐ – พ.ศ. ๒๕๒๔ ปฏิบัติธรรมถวายตวั เปนศิษย ของหลวงปูเทศก เทศรังสี วัดหินหมากเปง เชน ถ้ําฮาน ถ้ําพระบท วัดลุมพินี เปนตน โดยเมื่อถึงวันลงอุโบสถ ทานก็จะมาลงอุโบสถที่วัด หินหมากเปง
วถิ ีชีวิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๓๕ ป พ.ศ. ๒๕๒๓ ปฏิบตั ิธรรม พักอาศัยท่ีปาชาแหงหน่ึง ไดฝนไปวา มีไฟไหมพระพุทธรูป เมื่อรุงเชา ญาตโิ ยมทม่ี าทาํ บญุ ไดน าํ หนงั สอื พมิ พ มาถวาย จึงไดทราบขา วเรอื่ งพระสงฆ สปุ ฏปิ น โน สายบรู พาจารยพ ระอาจารย มนั่ ภรู ทิ ตั โต ไดแ กห ลวงปจู วน กลุ เชฎโฐ หลวงปวู นั อุตตโม หลวงปูสิงหทอง ธมมวโร พระเถระ และ พระนวกะ รวม๗รปู ประสพอบุ ตั เิ หตเุ ครอื่ งบนิ ตกมรณภาพทง้ั หมดทตี่ าํ บลคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ซ่ึงหลวงปูลีเคยไดมีโอกาสกราบหลวงปูจวนมาแลว ปพ.ศ. ๒๕๒๔ ร.ต.อ. กัมปนาท ทองคําพนั ธ สภ.อ.ลานสัก จงั หวดั อุทัยธานี จัดซื้อท่ีดินมา๑ แปลงเพ่ือจัดสรางวัด โดยไดปรึกษากับ พระเถระผูใหญ เก่ียวกับการจะกราบนิมนตพระสงฆท่ีมีวัตรปฏิบัติ ดงี ามมาจาํ พรรษา ในทส่ี ดุ กไ็ ดร บั คาํ แนะนาํ ใหน มิ นตห ลวงปลู ี ตาณกํ โร และหลวงปูถวิล สจุ ิณโณ (วัดปาศรีอุดมรตั นาราม ตาํ บลทมนรางงาม อําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี) มาจําพรรษา แตหลวงปูท้ังสอง รบั นิมนตมาจาํ พรรษาไดไมนานนัก ก็แยกยายกันเดินธุดงคตอไป โดย หลวงปูลีไดเดินธุดงคมาปกกลดพักอาศัยท่ีปาหัวตลุก อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค ในชวงเวลากอนเขาพรรษา ๑๖ วนั
๓๔ วิถชี ีวติ วฒั นธรรม อําเภอลาดยาว จังหวดั นครสวรรค สภาพปาหัวตลุกในขณะนั้นเปนพ้ืนที่ ที่แนนขนัดไปดวยปา มะพรา ว แตห ลวงปลู กี ต็ ง้ั จติ มนั่ ทจี่ ะปก กลดปฏบิ ตั เิ จรญิ วปิ ส นากรรมฐาน ที่นี่ ณ บริเวณตนมะมวงใหญ (ซึ่งยังคงปรากฏอยูในปจจุบัน บริเวณ ดา นหลงั กฏุ ขิ องหลวงปลู )ี ซง่ึ เปน ทดี่ นิ ในกรรมสทิ ธขิ์ องนายเลก็ ชน่ื สขุ มุ ตอมาเมื่อญาติโยมชาวบานทราบขาววามีพระธุดงคมาปกกลด จึงได รวมกันปลกู สรางกระทอมมงุ หลังคาแฝกใหหลวงปูลี ๓.หลวงพอ พวง หลวงพอพวง (พระครนู ิวิฐธรรมสาร) เกิดเมอ่ื วนั เสาร เดือนสิบ ปวอก ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๑๕ มีนาสกลุ เดิมวา เหมือนสังข ภูมิลําเนาเดิม
วถิ ชี วี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค ๓๕ อยบู า นปากคลอง ตาํ บลหนองกระโดน อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั นครสวรรค เม่ือเยาววัยไดศึกษาเลาเรียนหนังสือที่วัดหนองกระโดนเนนการศึกษา ดานการอาน การเขียนหนังสือไทยหนงั สือขอม( หนงั สือใหญ) การทอง บทสวดมนตในหนังสือ ๗ ตาํ นาน เมื่ออายคุ รบ ๒๐ป ไดอปุ สมบททว่ี ดั มหาโพธ์ใิ ต เดิมขึ้นอยูกบั อําเภอบรรพตพิสยั ในปจ จบุ นั วดั มหาโพธใ์ิ ต ขน้ึ อยกู บั อาํ เภอเกา เลย้ี ว และไดจ าํ วดั อยทู ว่ี ดั หนองกระโดนได ๑ พรรษา ไดล าสกิ ขาบทชว ยบดิ ามารดาทาํ นา และเมอื่ อายุ ๒๓ ป ในป พ.ศ. ๒๔๓๘ ไดอุปสมบทอีกครั้งและต้ังปณิธานไววาจะดํารงสมณเพศตลอดไป หลวงพอไดศึกษาหาความรู ท้ังทางพระธรรมวินัย การชางฝมือ แพทยแผนโบราณ ตํารายาแผนโบราณ หลวงพอไดยึดม่ันในสัจธรรม วา “ยถาวาที ตถาการ” ซ่ึงแปลเปนภาษาไทยวา คนตรงพูดอยางไร ทําอยางน้นั จนเปน ท่ยี อมรบั วาเปน พระทม่ี ีวาจาศักดิ์สิทธ์ิ หลวงพอพวง เปนพระภิกษุผูทรงคุณธรรมชั้นสูง เปนผูปฏิบัติ ธรรมโดยเครงครัด เปนผูมีเมตตา และเปนพระนักพัฒนา บําเพ็ญ ประโยชนตอสวนรวมดวยความเสียสละอยางยิ่ง เกียรติคุณของ หลวงพอพวงเปนทเ่ี คารพบชู าของชาวอําเภอลาดยาว และบคุ คลทวั่ ไป หลวงพอพวงมรณภาพเม่อื วันที่ ๒๐ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เวลา ๑๗.๑๕ น. ทหี่ อ งสวดมนต วดั หนองกระโดน ตาํ บลหนองกระโดน อาํ เภอ เมือง จงั หวดั นครสวรรค
๓๖๔ วิถีชวี ติ วัฒนธรรม อําเภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค ความเชือ่ ประเพณีไหวศ าลเจาพอมะขามคู เปน ประเพณขี องชาวบา น หมู ๖ บา นหนองหชู า ง ตาํ บลลาดยาว อาํ เภอลาดยาว จงั หวัดนครสวรรค เปนกลุมไทยดํา ท่อี พยพมาจาก เพชรบรุ ี เขามาอาศัยอยู ประกอบอาชีพทํานา ทําไรแตไมประสพความ สําเร็จจึงไดทําพีธีบูชา ต้ังศาลขึ้นใตตนมะขามคูเพ่ือขอใชที่ดินอาศัย ทาํ มาหากินและต้ังบานเรือนจึงเรียกวา “ศาลเจาพอมะขามคู” ทก่ี ลุม ชาวลาวโซงถือเปนส่ิงศักด์ิสิทธ์ิและยังมีการประกอบพิธีกรรมไหวศาล มาจนถงึ ปจ จบุ นั โดยมกี ารจดั พธิ ไี หวศ าลเจา พอ มะขามคู ในชว งประเพณี สงกรานตของทุกๆ ป โดยจะกําหนดวัน ตามความพรอม ของชาวบาน ของไหวประกอบดวยไก ๑ ตัวซึ่งชาวบานจะผลัดเปล่ียนกันนํามาใน แตละป แตละบานจะตองเตรียมสาํ รบั อาหารมาบานละ ๑ ชุด มีขาว ไข ตม ขนมหวาน เหลา หมาก พลู บรุ ี่ และน้ํา ชาวบานที่มาก็จะจุดเทียน ๑ เลม ธูป ๓ ดอก จากน้ันจะนาํ สาํ รบั อาหารมาแบงปน กันทาน
วิถีชวี ิต วัฒนธรรม อาํ เภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค ๓๗๕ ๔บทท่ี ศิลปะทองถิน่ การละเลน พน้ื บาน การเลน นางดง หมบู า นโปง ยอ ตาํ บลสระแกว อาํ เภอลาดยาว จงั หวดั นครสวรรค นางดง เปน การเลน เชงิ พธิ กี รรมของชาตพิ นั ธลุ าวครง่ั ใชเ ลน เวลากลางคนื ชวงวันสงกรานต ๑๓-๑๙ เดือนเมษายน เพื่อสืบทอดประเพณีพื้นบาน และความสนกุ สนานตน่ื เตนเราใจในความเช่อื ถือของบรรพบุรุษ ความเปนมา คาดวาลาวคร่ังไดมีการเลนน้ีมากกวา ๑๐๐ ป เปนการเลน ทส่ี ลบั กนั ในยามคา่ํ คนื ทย่ี าวนานกจ็ ะมกี ารเลน นางกวกั นางแคน หมาก แอง รําแคน และนางดง อปุ กรณการเลน กอนเลนตองมีการเตรียมวัสดุอุปกรณใหพรอมซ่ึงอุปกรณน้ัน ตองเปนของใชของแมหมาย สามีตายไปแลวเทานน้ั มีดังนี้ ๑. กระดง ๒. สาก
Search