ฒฒนนาางงาานนออาา พพ ขขอองง มมชชนนออ าางงสส าางงสสรรรร ์ค้ร่ยุชีชัพ์ค้ร่ยุชีชัพ
ญหาและความ องการของ งคม มชน อง น ความ องการของม ษ เ มจาก จ ย นฐานของ ตเ นห ก เ น ความ องการ าน จ ย 4 ความ องการใ ตความเ นอ น งฐานะทางการเ นของ คคล ค วเ อน มชน ตลอดจน สภาพ แวด อมรอบ ว ความ องการเห า ความเ ยว อง บเศรษฐ จและ งคมโดย งผล อ ความ เ นอ โดยรวมของประเทศ งเ อมโยง บการปกครองการลง น การใ งบประมาณ การ งเส ม การ กษา และการมอบ นาจในการบ หารงาน อง นแ ในระ บ างๆ วนแ ว บทบาทใน การ แ ญหาเ อตอบสนองความ องการของ มชนและ งคม เ นอ ง นประเทศ างๆ วนใ มมอง ของภาวะเศรษฐ จของประเทศเ น วระ ความ เส ยรภาพในการ ฒนา การเจ ญเ บโต การ กยภาพในการแ ง นและการ ความ นคง านความเ นอ ห บประเทศไทย อง กร ห า วางแผนแ บทเ อ มา ฒนาประเทศ โดย ด เ นแผน ฒนาเศรษฐ จและ งคม นมา อง กร อ า “ กงานคณะกรรมการ ฒนาการเศรษฐ จและ งคมแ งชา (สศช.)” ห อ เ ยก น า “สภา ฒ ” โดย ห า ด แผนแ บท ฒนาเศรษฐ จและ งคมของประเทศ ก 5 ีปุทัสิกัพ่มำทัจ่ีท้นีม์นัพ่วักีร่ีทืริต่หัสิกัพันำส่ว่ืชีม้ีน์ค้ึขัสิกัพ็ปำทัจัพำน่ืพ่ม่ีท้นำท่ีท์คีม็กัรำสู่ย็ป้ด่ัมีมัข่ขัศีมิติรัพีถีมุบัต็ปิกุม้ช้ล่ต้ันัดู่ย็ป่ีทัสุช้ต่ืพัป้กีม้ล้ล่ตัดำนู้ผ่ก่ิถ้ทิรำอึศิร่ส้ชุทัก่ืช้ัทู่ย็ป่ต่สัสิกัก้ข่ีกีม้ีน่ล้ตีด่ีทัต้ลุชืรัรุบิง้ัท้ึขีดู่ย็ปิวีช้ห้ตัจัป้ด้ต่ชัล็ปิวีช้ืพัจัป่ิร์ยุน้ต่ิถ้ทุชัส้ตัป
ไทยแลน 4.0 เ นเ องของการ ฒนาเศรษฐ จของประเทศ โดยใน ค 1.0 3 เ น ค เกษตรกรรม จาก นกลายเ น ค 2.0 การ เค อง กรเ ามา วยงานห อเ น คของ ตสาห กรรมเบ ในขณะ ค 3.0 เ น ค ตสาหกรรมห กและ การลง นจาก างชา อ างไร ตาม เศรษฐ จใน ค 3 ง ความเปราะบาง อสถานการ โลก และประเทศไทย งไ สามารถ าว ามความเ นประเทศรายไ ปานกลางไ ง น ง มา ไทยแลน 4.0 เ นการแ ญหาใ ประเทศห ด นจาก บ กรายไ ปานกลาง เรา ง อง ฒนาโครงส างเศรษฐ จให เ ยก า New Economy Model การใ ห กป ชญาของเศรษฐ จพอเ ยง ประชาชนสามารถส าง รายไ วยตนเอง อง การป ป ง โครงส างใน ก ไ าจะเ นภาค ร จการเกษตร การ กษา และแรงงานจากระบบเศรษฐ จ เ น การผ ตโดยใ แรงงาน เค อง กร และท พยากร เป ยนมาเ นการผ ตบนฐานความ และเทคโนโล โดย การ งสถา น ยระ บโลกเ ามา ง ในประเทศไทย และ ความ วม อระห าง ฐ เอกชน สถา น การ กษา และสถา นการเ นใ มาก น เ ยก า ประชา ฐ โดย เ าหมายใ เ ดผล มฤท ภายใน 3-5 ในการส างโมเดล ไทยแลน 4.0 เ น Value-based Economy ความ องการป บเป ยน โครงส างการผ ต โดยเ นการใ เทคโนโล และน ตกรรมเ อเ ม ล า น าห อบ การโดย เ าหมาย อ 5 ัทิจิดูส่คูมีม่ีทิรัวัส์ค้ร่ก้ดัลุอ่ีทู่ย้ปีมิรืร้คิส่คูม่ิพ่ืพัวีย้ช้นิล้ร่ีลัร้ตีม็ป่ีท์ด้รีป์ิธัสิก้ห้ปีมัร่วีร้ึข้หิงับึศับัร่วืม่รีม้ัต้ขัดัจิวับึดีมียู้ริล็ป่ีลัรัจ่ืร้ชิล้น่ีทิกึศิกุธ็ป่ว่มิติมุท้ร้ัทูริฏีม้ต้ด้ด้ร่ีทีพิกัรัล้ชีม่วีร่ีท่มิก้รัพ้ตึจ้ดัดัก้พุล้หัป้ก้น่ีท์ดู่สำนึจ้ันัด้ด้ด็ป้ข้ก่มัย์ณ่ตีมัยุยิก็ก่ยิต่ตุทีมันุอุย็ปุย่ีทุอุย็ปืร่ช้ขัจ่ืรำนีม่ีทุย็ป้ันุย็ปุยิกัพ่ืร็ป์ด
การ เคราะ สถานการ โดยใ กระบวนการออกแบบเ ง ศวกรรม ใน ตประ น ญหาห อความ องการอาจพบไ ในงานอา พของ มชน ห อ อง น ง หลาย าน เ น านการเกษตร อาหาร พ งงาน การขน ง แนวทางห ง าถาม า ญ ยม มาใ แ ญหา เ ด น อ กระบวนการออกแบบเ ง ศวกรรม งเ นกระบวนการเ ยน ทาง ศวกรรมศาสต งเ นการ ความ มาออกแบบ การ ห อหากระบวนการเ อสนองความ องการ และแ ญหา เ ด น เ อใ ไ เทคโนโล เ นผลผ ตของกระบวนการ โดยกระบวนการ ออกแบบ เ ง ศวกรรมประกอบ วย 6 นตอน อ ืค้ัข้ดิวิชิล็ป่ีทีย้ด้ห่ืพ้ึขิก่ีทัป้ก้ต่ืพืรีธิวู้รำน้น่ึซ์ริวู้รีร็ป่ึซิวิชืค้ึขิก่ีทัป้ก้ชำนิน่ีทัคํสํค่ึน่สัล้ด่ช้ดีม่ึซ่ิถ้ทืรุชีช้ด้ตืรัปัวำจิวีชิวิช้ช์ณ์หิว
) 1. ระ ญหา (Problem Identification) 2. รวบรวม อ ล และแนว ด เ ยว อง บ ญหา (Related Information Search 3. ออกแบบ การแ ญหา (Solution Design) ? กระบวนการออกแบบ เ ง ศวกรรม 4. วางแผน และ เ นการ แ ญหา (Planning and Development) 5. ทดสอบ ประเ นผล และ ป บป งแ ไข การ แ ญหา ห อ นงาน (Testing Evaluation and Design Improvement) 6. าเสนอ การแ ญหา ผลการแ ญหา ห อ นงาน (Presentation) ้ิชืรัป้กัป้กีธิวํน้ิชืรัป้กีธิว้กุรัริมัป้กินำดิวิชัป้กีธิวัปัก้ข่ีก่ีทิคูม้ขัปุบ
การระ ญหา การระ ญหาเ น นตอนแรกในกระบวนการออกแบบเ ง ศวกรรม ง เ ดจากการ งเกต งรอบ ว และสง ยใค เ ยว บเห การ น ๆ เ น นตอนของการ ความเ าใจในสถานการ เ น ญหาใน ต ประ น และ องการหา การห อเทคโนโล เ อแ ญหาใ เหมาะ สม บสถานการ น ในการ เคราะ สถานการ ญหาสามารถใ เทค คการ ง ถาม วยห ก 5W1H เ อหาอง ประกอบของ ญหา แ ว งใ แผนภาพความ ดแบบ างปลา (fish bone diagram) เ อหา จ ยห อสาเห ของ ญหา โดยการ เคราะ สถานการ ญหา ง ก าวจะ วยใ เ าใจเ อนไข และกรอบของ ญหาไ ดเจน น ้ึขัช้ดัป่ืง้ข้ห่ช่ลัดัป์ณ์หิวัปุตืรัจัป่ืพ้กิค้ชึจ้ลัป์ค่ืพัล้ดำค้ัติน้ชัป์ณ์หิว้ัน์ณัก้หัป้ก่ืพียืรีธิว้ตัวำจิวีชัป็ป่ีท์ณ้ขำท้ัข็ป้ัน์ณุตัก่ีกู้ร่รัสัต่ิสัสิก่ึซิวิช้ัข็ปัปุบัปุบ
1.การระ ญใน นตอนแรกในกระบวนการออกแบบเ ง สวกรรม งเ ดจากการ งเกต (Problem Identification) งรอบ ว และสง ยใค เ ยว บ เห การ น ๆ เ น นตอนของการ ความเ าใจในสถานการ เ น ญหาใน ตประ น และ องการหา การห อเทคโนโล เ อแ ญหาใ เหมาะสม บสถานการ น ในการ เคราะ สถานการ ญหาสามารถใ เทค คการ ง ถาม วยห ก 5W1H เ อหาอง ประกอบของ ญหา แ ว ง ใ แผนภาพความ ดแบบ างปลา (lish bone diagram) ยห อสาเห ของ ญหา โดยการ เคราะ สถานการ ญหา งก าวจะ วยใ เ และกรอบ ของ ญหาไ ดเจน น 2.รวบรวม อ ลและแนว ด เ ยว อง บ ญหา (Related Information Search) เ อสามารถระ ญหาและ เคราะ สถานการ ญหาจนเ าใจ เ อนไขและกรอบของ ญหา ไ แ ว น อมาจะ อง การรวบรวม อ ลและแนว ด เ ยว อง บ ญหา โดยจะ อง หนด 7 ประเ น ในการ บ น เ อรวบรวม อ ล ประเ น หนด นจะ วยใ บ น อ ลไ อ างไ อน 8 ประห ด เวลา และ ใ อ ล ไ ครอบค มเ อนไขและกรอบของ ญหา ก ง งสะดวกในการ มาใ 9 ออกแบบ การแ ญหา อไป จากสถานการ วอ างความ องการเ อง การวางระบบ สามารถใ กษณะ การ ง ถาม มา หนดประเ นในการ บ นเ อรวบรวม อ ลไ ง 10 การวางระบบ า ใด าง · การวางระบบ แ ละ ประโยช แตก าง นอ างไร การวางระบบ แ ละ เหมาะสม บสภาพ น สภาพ อากาศ ห อ กษณะของ นไ ป กอ างไร า 11 - การวางระบบ แ ละ ใ ปกร อะไร าง ใด ไ สะดวก รวดเ ว ไ บ อนมาก และสามารถใ การ ง ถาม หนดประเ น ญหา นไ ตายเ อรวบรวม อ ลไ ง ป มาณ ญ อการเจ ญเ บโตของ นไ อ างไร 12 ·แสงแดด มากเ นไป งผลอ างไร อ นไ - จะ กษาความ นใน นไ วย ไหน าง - โรคและแมลง มารบกวน นไ แ ละช ด ป ก อะไร าง ้บีมูล่ีทิน่ต้ม้ต่ีท้บีธิว้ด้ดิด้ืชัร้ม้ต่ต่ย่สิก่ีท่ย้ม้ติติร่ตัคำสำ้นิร้ีนัด้ดูม้ข่ืพ้ม้ตัป็ดำกำค้ัต้ช้ซัซ่ม็ร้ดำท่ีทีธิว้บ์ณุอ้ชีธิว่ตำ้นูง้บ่ยูล่ีท้ม้ตัลืริมูภ่ีท้ืพักีธิว่ตำ้น่ยัก่ต์นีมีธิว่ตำ้น้บีธิวีมำน้ีนัด้ดูม้ข่ืพ้คืส็ดำกำค้ัตัล้ช้น่ืร้ต่ยัต์ณ่ตัป้ก้ชำนัย้ัทีอัป่ืงุล้ด่ีทูม้ข้หำทัย้ซำ้ซ่ม่ย้ดูม้ข้คืส้ห่ช้ึขำก่ีท็ดูม้ข่ืพ้คืส็ดำก้ตัปัก้ข่ีก่ีทิคูม้ขำท้ต่ต้ัข้ล้ดัป่ืง้ขัป์ณ์หิวัปุบ่ืมัปัก้ข่ีก่ีทิคูม้ข้ึขัช้ดัป้ห่ช่ลัดัป์ณ์หิวัปุตืรัจ้กิค้ชึจ้ลัป์ค่ืพัล้ดำค้ัติน้ชัป์ณ์หิว้ัน์ณัก้หัป้ก่ืพียืรีธิว้ตัวำจิวีชัป็ป่ีท์ณ้ขำท้ัข็ป้ัน์ณุตัก่ีกู้ร่รัสัต่ิสัสิก่ึซิวิช้ัขัปุบ
3.การรวบรวมแห ง อ ล บ นไ จากเค อ าย นเทอ เ ต จากการ น ก อ ล ไ จากการ รวจ การ มภาษ ห อการ ด า และการทดลอง เราควร การ ดเ บ อ ลอ างเ นระบบและสามารถเ า ง วม น ระห างเ อน วมงานห อก มงาน จะ ใ 8 เ ดประ ท ภาพในการ เ นงาน การวางแผน และแ ญหา วม นไ น ง น ง ปกร และ โปรแกรมหลายอ าง วยในการ ดเ บ การเ า ง การแ ง น และ ใ เ ดแห งการเ ยน ใน เ ยว น 9 10 ปกร ในการ น ก อ ล หลายประเภท ไ แ 1.ส ดภาพ ส ด ก กระดาษ การเ บ น กแบบ ความรวดเ วและ ายทอดใ เ นไ ในก ม างาน แ อ เ ย อการเ บ กษา ห อ า องการแปลงและโอนไป ง อ น ๆ เ น น กลงคอม วเตอ จะ กระบวนการ ด ลอก องใ เวลามาก 2. ปกร น กภาพ ก อง ายภาพ ก อง โอ สมา ตโฟน เค อง น กเ ยง และ ปกร โสต ศ ปกร เ มความสะดวกใ บการ าย น ก งห งจาก อ ล ไ มา อง การ ดเ บใน น เ บ อ ล เ น แฟลชไดร ห อฮา ดไดร เรา อ เรา เ น องส าง โฟลเดอ ในการ ดเ บ อ ลใ เ นระเ ยบ า งานเ นก มจะ อง การกระจายห อ ดลอกไฟ งาน าง ๆ ใ เ นงาน นในแ ละบทบาท ่ตักินำด้ห่ต์ลัคืรีม้ตุ่ล็ปำท้ถีบ็ป้หูม้ข็กัจ์ร้ร้ต็ปำจู่ยีม่ีท์ฟ์รืร์ฟ่ชูม้ข็ก่ีท้ืพ็กัจีม้ต้ด่ีทูม้ขัล่ึซึทับำท่ถัก้ห่ิพ็ก์ณูนัท์ณุอีสึทับ่ืร์รีดิว้ล่ถ้ลึทับ์ณุอ้ช้ต่ีทัคีม์ริพึทับ่ช่ือ่ืสัย้ต้ถืรัร็กืคีส้ข่ตํทุ่ล้ด็ห้ห่ถ็รีม้ีนึทับ็กีฉุมุม่ก้ดีมูม้ขึทับ์ณุอักีด่ีทู้รีร่ลิก้หำทัป่บึถ้ข็กัจ่ช่ีท่ย์ณุอีมึจ้ันัด้ึขีด้ดัก่รัป้กินำดิธิสิก้หำทุ่ลืร่ร่ืพ่วัก่รึถ้ข็ป่ยูม้ข็กัจีม่คัวืร์ณัสำส้ด่ีทูม้ขึทับ็น์ริอ่ขืร้ด้คืส่ีทูม้ข่ล
3. คลาว ไดร (Cloud Drive) ห อ การเ ยก นในหลาย ๆ อตาม ใ บ การ เ น Google D 7 rive OneDrive Dropbox และ น ๆ การใ คลาว ไดร ประโยช อ างมากใน จ น การแ ง น อ ล ในสาระการเ ยน จะ งเ นการใ บ การของคลาว ไดร เพราะ นอกจากจะใ ในการแ ง น อ ล วม นแ ว โปรแกรมห อแอปพ เค น สามารถ ด ง บนสมา ตโฟนห อเค องคอม วเตอ ง บ การและ ง น าสนใจในเ องของการ เคราะ อ ล การ ดเ บ อ ล การแ งงานในการ งาน แอปพ เค น วยวางแผนการ เ นงาน ดตาม และมอบหมาย ง องใ การแ ง นและ งาน วม น ใน ปแบบเค อ าย (Collaborative Working) 8 9 4. โปรแกรมห อแอปพ เค น วยในการ ดเ บและ น ก อ ลอ างเ นระบบ Google Chrome, Microsoft Edge, Internet Explorer (IE) แถบ นห ง อ (bookmark) ห อการเ บ น ก ง ของเ บไซ เรา องการ น กไ เ อสามารถเ าชมไ ในเวลา อมา งในแ ละโปรแกรมจะ การใ bookmark ความค ายค ง น แ การเ บ น ก bookmark จะไ สามารถแ ง นใ นเ นไ ยกเ นจะ ดลอก แ ว ง อไป งก ม กค งห ง ่ึน้ัรีอุ่ลัย่ต่ส้ลัค้ว้ด็ห่ือู้ผ้หัป่บ่มึทับ็ก่ตักึล้ลีม่ีท่สีม่ต่ึซ่ต้ด้ข่ืพ้วึทับ้ต่ีท็ว็กิลึทับ็กืรืสัน่ัค็ป่ยูม้ขึทับ็กัจ่ช่ีทัชิลืร่ขืรูรัก่รำทัป่บ้ช้ต่ึซิตินำด่ชัชิลำท่บูม้ข็กัจูม้ข์หิว่ืร่น่ีทัช์กัฟิรีมัย์ริพ่ืรืร์ร้ัติต่ีทัชิลืร้ลัก่รูม้ขัป่บ้ช์ฟ์ดิร้ช้นุ่ม้ีนู้รีรูม้ขัป่บีม่ีทับุจัป่ย์นีม์ฟ์ด้ช่ือ่ชิร้หู้ผ่ืชักีรีมืร์ฟ์ด
5.การเ อมโยงความ ม น ของ อ ล การเ อมโยง อ ลใ เ ดความ ม น เ น ง เ น เ อเราไ อ ลจากการ รวจ การเ บ อ ล การ ด า การ งเกตการ กเ ยน เ น อง เ นการหาความ ม น โดยใ การเ อมโยง ว อง โดยใ การเ ยนแผน ห อมายแมป ง งเ มจากการ งเกต จ ย า จ ยภายใน 8 ความ ม น แปร น นโดยตรง ( ผล โดยทางตรง) ความ ม น แบบห ง อห ง (One-to- One) เ นการเ อมโยง ความเ ยว องเ ยง 2 แห ง ความ ม น แบบห ง ด อหลาย ด (One-to-Many) จาก มาห ง ด งผลห อ การ 9 เป ยนแปลง บ กหลาย ด ความ ม น แบบหลาย ด อห ง ด (Many-to-One) จากหลาย ดจะ งผลมา แห งเ ยว 10 จ ยภายนอก ความ ม น แปร นแบบ วนห อ ผลกระทบ ( ผล โดยทาง อม) ความ ม น แบบห ง อห ง (One-to-One) เ นการเ อมโยง ความเ ยว องเ ยง 2 แห ง * ความ ม น แบบห ง ด อหลาย ด (One-to- Many) จาก มาห ง ด งผลห อ การ เป ยนแปลง บ กหลาย ด - ความ ม น แบบหลาย ด อห ง ด (Many-to-One) จากหลาย ดจะ งผลมา แห งเ ยว ีด่ล่ีท่สุจุจ่ึน่ตุจ์ธัพัสุจีอัก่ีลีมืร่สุจ่ึน่ีทุจ่ตุจ่ึน์ธัพัส่ลีพ้ข่ีกีม่ีท่ืช็ป่ึน่ต่ึน์ธัพัส้อีมีมืร่สีมัผ์ธัพัสัจัปีด่ล่ีท่สุจุจ่ึน่ตุจ์ธัพัสุจีอัก่ีลีมืร่สุจ่ึน่ีทุจ่ตุจ่ึน์ธัพัส่ลีพ้ข่ีกีม่ีท่ืช็ป่ึน่ต่ึน์ธัพัสีมักัผ์ธัพัสัจัป่ตัจัปัส่ิร่ึซ้ิปืริมูภีข้ช้ข่ืช้ช์ธัพัสินำด้ต็ปำจีรัน์ณัส่คัวูม้ข็กำสูม้ข้ด่ืม็ปำจ่ิส็ป์ธัพัสิก้หูม้ข่ืชูม้ข์ธัพัส่ืช
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: