สำนกั เสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งชมุ ชน กรมกำรพฒั นำชมุ ชน
สรปุ ผลการประชุมเชิงปฏบิ ตั ิการเสริมสรา้ งองค์ความรหู้ มู่บา้ นคนรกั ษ์ชา้ ง ระหวา่ งวนั ที่ ๑๗ - ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ ณ โรงแรมโกลเดน้ ซติ ี้ ระยอง จงั หวัดระยอง โดย กรมการพฒั นาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ความเป็นมาของการจัดทาโครงการ กรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะหัวหน้าคณะทางานพัฒนาชุมชน ตามคาสั่งคณะกรรมการดาเนินงาน การจัดการปัญหาเพ่ือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง มีบทบาทเป็นผู้สนับสนุนการเสริมสร้าง องค์ความรู้การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ภายใต้ชื่อหมู่บ้านคนรักษ์ช้าง ใช้กลยุทธ์ คนรู้จักช้าง คนเข้าใจช้าง คนรักษ์ช้าง และคนอยู่ร่วมกับช้าง โดยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ให้ความรู้ สร้างความ ตระหนักถึงปัญหา ชุมชนร่วมกันตัดสินใจแก้ไขปัญหา สามารถวางแผนการใช้ชีวิตเพื่ออยู่ร่วมกับปัญหา ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาท่ีสอดคล้องกับบริบทของพ้ืนท่ี โดยใช้พ้ืนที่ระดับหมู่บ้านเป็นหลัก เพ่ือเป้าหมาย “คนทารา้ ยชา้ งลดลง ช้างรุกรานคนลดลง” ท้ังน้ี การดาเนนิ งานตามบทบาทของกรมการพัฒนาชุมชนท่ีผ่านมา ได้มีการดาเนินการขับเคลื่อนกิจกรรมหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง จึงใช้ฐานการดาเนินงานร่วมกับหมู่บ้าน เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาอาชีพ เลือกอาชีพท่ีสอดคล้องกับสภาพปัญหาและสภาพพ้ืนที่ การสร้างอาชีพเสริม (ทดแทน) และจัดตั้งกองทุนสวัสดิการต่างๆ โดยน้อมนาแนวพระราชดาริการจัดการความขัดแย้งระหว่างคน กับช้างป่าของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้ ภายใต้หลักนิติธรรม และเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนหมู่บ้านคนรักษ์ช้าง จึงได้จัดทา โครงการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเสริมสร้างองค์ความรหู้ มบู่ ้านคนรกั ษช์ า้ ง วตั ถุประสงค์ ๑) เพ่ือเสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ให้กับบุคลากร กรมการพัฒนาชุมชน และผู้นาหมู่บ้าน ในพ้ืนที่ 5 จังหวัด (จังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี และ จังหวัดระยอง) ๒) เพื่อสร้างผู้นาในการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ในระดบั หมบู่ ้าน ๓) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงท่ีมุ่งเน้น การพัฒนาตามศักยภาพของพ้ืนที่ และการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทดแทนการทาเกษตรกรรมที่ได้รับ ผลกระทบจากชา้ งป่า เป้าหมาย แกนนาหมู่บ้านพ้ืนท่ีป่ารอยต่อ ๕ จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสระแก้ว (จานวน ๑๘๓ หมู่บ้าน หมู่บ้านละ ๒ คน) สามารถนา องค์ความรู้ไปถ่ายทอดขยายผลในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน และจัดทาแผนงานกิจกรรมเพื่อให้หมู่บ้านสามารถ อย่รู ว่ มกับชา้ งไดอ้ ย่างสมดลุ มีความมนั่ คง ม่ังคงั่ และยัง่ ยืน /วนั อังคารที.่ ..
-๒- วนั อังคารท่ี ๑๗ กนั ยายน ๒๕๖๒ วิทยากร 1. นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน บรรยายพิเศษหัวข้อ “บรรยายพิเศษการอยู่ร่วมกัน อยา่ งสมดุลระหว่างคนและชา้ ง และหมู่บ้านคนรักษช์ ้าง” 2. ดร. รอยบุญ รัศมีเทศ รองผู้อานวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้าและการเกษตร (องค์การมหาชน) บรรยายหัวขอ้ “การสรา้ งความเขา้ ใจเพ่อื การอยู่รว่ มกันอย่างสมดลุ ระหว่างคนและชา้ ง 3. นายเผด็จ ลายทอง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส บรรยายหัวข้อ “การจัดการปัญหาและตัวอย่างความสาเร็จ ของการอยู่ร่วมกันอย่างสมดลุ ระหวา่ งคนและช้าง” 4. ดร. โนชญ์ ชาญด้วยกิจ นายกสมาคมอนุรักษ์กลุ่มป่าตะวันออก บรรยายหัวข้อ “แลกเปลี่ยนประสบการณ์ การอย่รู ่วมกันอย่างสมดลุ ระหว่างคนและชา้ ง” สรปุ การสรา้ งความเข้าใจเพ่ือการอยู่ร่วมกนั อยา่ งสมดุลระหวา่ งคนและชา้ ง พื้นที่ป่ารอยต่อ ๕ จังหวัดภาคตะวันออก มีพื้นที่รวมกว่า ๑.๓ ล้านไร่ ครอบคลุมจังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันมีช้างป่าประมาณ ๔๐๐ - ๔๕๐ ตัว และเป็นกลุ่มท่ีมีอัตราการเพิ่มประชากรช้างป่าสูงท่ีสุดในประเทศไทย คือร้อยละ ๘.๒ ต่อปี ปัจจุบัน พบว่า ประชากรช้างป่าบางกลุ่มได้ออกหากินนอกพ้ืนที่ป่าเนื่องจากในป่ามีอาหารของช้างป่าไม่เพียงพอ ทาให้เกิด ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนและช้างป่ารุนแรง มีการสูญเสียท้ังชีวิตคน ช้างป่า และพืชผลทางการเกษตร ชุมชนจึงจาเป็นต้องเข้าใจข้อเท็จจริงและสภาพปัญหา เพ่ือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ในพ้ืนท่ีป่ารอยต่อ ๕ จังหวัด นาไปสู่แนวทางพัฒนาการแก้ไขปัญหา โดยมีกรอบการดาเนินงาน ๔ แผนงาน ได้แก่ สร้างระบบบริหารจัดการพ้ืนท่ีอนุรักษ์ การฟ้ืนฟูพ้ืนท่ีป่า การพัฒนาชุมชน และการจัดทาระบบทางยกระดับ ข้ามทางเดินช้าง รวมถึงการจัดทาระบบติดตามการเคล่ือนที่ของช้าง ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาชุมชนเสนอ สรา้ งตัวอย่างเครือข่ายเตือนภัยชุมชน สร้างกติกาชุมชน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ส่งเสริมการทอ่ งเทย่ี วเชงิ อนรุ กั ษ์เปน็ รายไดเ้ สรมิ ลดความขดั แย้ง เพ่อื ให้คนกับชา้ งป่าอย่รู ่วมกนั อยา่ งสมดุล สรุปกรอบแนวคดิ การจัดการปัญหาและตัวอย่างความสาเร็จของการอยรู่ ่วมกนั อย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง ๑) สร้างความเป็นมิตรกับช้างป่า เรียนรู้ธรรมชาติของช้างป่า ตามแนวคิด คนรู้จักช้าง คนเข้าใจช้าง คนรักษ์ช้าง และคนอยู่ร่วมกันกับช้าง ตัวอย่าง พ้ืนที่อาเภอโป่งน้าร้อน จังหวัดจันทบุรี มีการจัดต้ังกลุ่มและ หน่วยปฏิบตั งิ านอาสาสมัครพิทักษ์ช้างป่า เป็นต้น ๒) ชา้ งอยู่ได้ คนอยู่ได้ ชา้ งอ่ิม คนอม่ิ จัดตั้งกองทนุ แกไ้ ขปัญหาช้างปา่ แบบบูรณาการ อาเภอท่าตะเกียบ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ส่งเสรมิ รายไดใ้ หเ้ กิดขึ้นภายในชมุ ชน เชน่ ส่งเสริมการทอ่ งเท่ยี วเชงิ นเิ วศน์ เชงิ วัฒนธรรม สง่ เสรมิ การทาปศุสัตว์ โดยกรมปศสุ ัตว์สนับสนนุ ธนาคารโคกระบือ ส่งเสริมการปลกู พชื ท่ชี ้างไม่กิน สร้างและพฒั นาแหลง่ น้าแหล่งอาอาหารสาหรับชา้ งปา่ ในพ้ืนทอ่ี นุรักษ์ สรปุ แนวทางการอยรู่ ่วมกนั อย่างสมดุลระหวา่ งคนและช้าง ความสาเรจ็ ต้องสอดคล้องกบั บริบทของพนื้ ที่ ไมม่ สี ูตรสาเร็จ ชมุ ชนต้องหาทางออกร่วมกนั สร้างโอกาสทางสังคม เศรษฐกิจ ระบบนิเวศ เชน่ พื้นทท่ี ากินเน้นการปลกู พืชที่ชา้ งไม่ชอบ ร้อยละ ๙๐ และ ร้อยละ ๑๐ นามาแปรรูป สร้างรายได้ เชน่ ฝาง เทพทาโร ชะมวง อบเชย ขม้ิน มะขาม พริกไทย เปน็ ตน้ เป้าหมายเพอื่ เพิม่ รายได้ให้กับ คนในชุมชน เนน้ การปรับเปล่ียนอาชีพ เชน่ การเลี้ยงสัตว์ การทาแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น หรือการดาเนินงาน เกษตรตามแนวทฤษฎใี หม่ เพ่ือสร้างรายได้จากไมแ้ ละผลผลติ รายวัน รายเดือน และรายปี พฒั นาอาชีพเสรมิ รายได้ เชน่ การจดั ท่องเที่ยวเชงิ นเิ วศในชมุ ชน การจดั ตลาดชุมชน การจาหน่ายผลิตภณั ฑท์ เ่ี กยี่ วข้องกบั ชา้ ง ซึง่ มีชมุ ชนทส่ี นใจเขา้ รว่ ม เชน่ แกง่ หางแมว อ่างประแกต บอ่ ทอง ท่าตะเกียบ เขาชะเมา เป็นตน้ /วนั พธุ ที่...
-๓- วันพธุ ท่ี ๑๘ กนั ยายน ๒๕๖๒ วิทยากร ๑) นายอทุ ัย ทองเดช ผู้อานวยการสานกั เสริมสร้างความเขม้ แขง็ ชุมชน และนายสมปอง อาจณรงค์ นักวิชาการ พัฒนาชุมชนชานาญการพิเศษ รักษาราชการในตาแหน่งนักวิชาการพัฒนาชุมชนเช่ียวชาญบรรยายหัวข้อ “การขบั เคลื่อนหมบู่ า้ นคนรกั ษช์ ้างใหม้ ั่นคง มั่งค่งั และย่ังยนื ” ๒) นางวรรณา ล่มิ พานชิ ย์ นักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนชานาญการพิเศษ รักษาราชการในตาแหนง่ นักวชิ าการ พฒั นาชุมชนเชย่ี วชาญ และทีมวทิ ยากรของสานักเสรมิ สร้างความเข้มแข็งชุมชน ดาเนนิ การจัดแผนปฏิบัติการ ถา่ ยทอดองค์ความรู้และแผนงานกจิ กรรมเพื่อการอยู่รว่ มกันอย่างสมดลุ ระหว่างคนและช้าง สรุปแนวทางการขับเคล่ือนหมบู่ า้ นคนรกั ษช์ า้ งให้มน่ั คง มั่งคั่ง และยั่งยืน ๑) สร้างความเป็นมิตรกับช้างป่า เรียนรู้ธรรมชาติของช้างป่า เพื่อให้คนและช้างสามารถอยู่ร่วมกัน ได้อย่างม่ันคง ม่ังค่ัง และย่ังยืน ด้วยกลยุทธ์ คนรู้จักช้าง คนเข้าใจช้าง คนรักษ์ช้าง และคนอยู่ร่วมกันกับช้าง เพื่อเปา้ หมาย “คนทาร้ายช้างลดลง ชา้ งรุกรานคนลดลง” ๒) วิเคราะห์หมู่บ้านเพื่อค้นหาจุดเด่น จุดด้อย โอกาส และอุปสรรค และใช้สิ่งที่หมู่บ้านมีอยู่มาปรับ เพ่ือใช้แก้ไขปัญหา หรืออาจเปล่ียนวิกฤติเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับหมู่บ้าน เช่น การจัด กิจกรรมหมู่บ้านท่องเที่ยวเก่ียวกับช้าง การจัดตลาดนัดชุมชนหรือตลาดนัดภูมิปัญญาท่ีจาหน่ายผลิตภัณฑ์ หรอื ผลผลิตทางการเกษตรในพืน้ ทท่ี ีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากช้างป่า เป็นตน้ ๓) การปรับเปลี่ยนแนวคิด หรอื มุมมอมองในการบริหารจัดการหมบู่ ้านหรือครัวเรือน ไม่ปิดกันทางความคิด ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการในพ้ืนท่ีอื่นๆ รวมถึงการปรับเปลี่ยนอาชีพ การปรับเปลี่ยนทิศทางการพัฒนา หมู่บา้ น การจดั โซนพื้นที่การเกษตร การจดั ทาแหลง่ อาหารช้างปา่ และสตั ว์ป่าอน่ื ๆ เป็นตน้ ๔) การร่วมมือกับภาคเอกชน โดยการทากิจกรรมส่งเสริมความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม (CSR) เพราะภาคเอกชน มงี บประมาณที่สามารถนามาใชเ้ พือ่ สง่ เสรมิ และสนับสนุนในการแกไ้ ขปัญหาในพน้ื ท่ีได้ ๕) จัดระบบการบริหารจัดการชุมชน บริหารครัวเรือน เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและเกื้อกูลกันในหมู่บ้าน เช่น การกาหนดกติกา การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ การจัดสวัสดิการหมู่บ้าน การจัดตั้งอาสาสมัครหมู่บ้านด้านต่างๆ เป็นต้น โดยน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต ปรับเปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างสมดุลและต่อเน่ือง มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของคนในหมู่บ้านร่วมกันผลักดันและขับเคล่ือนเพื่อให้คนและ ช้างป่าสามารถอยู่ร่วมกนั ได้อยา่ งสมดุล เปน็ การขบั เคล่ือนกิจกรรม หมู่บา้ นคนรกั ษช์ า้ งใหม้ ั่นคง มง่ั คงั่ และย่ังยนื สรปุ แผนปฏิบัตกิ ารถ่ายทอดองคค์ วามรเู้ พอ่ื การอย่รู ่วมกันอย่างสมดุลระหวา่ งคนและช้าง โดยผูแ้ ทนจากหมบู่ ้าน นาเสนอแนวคิดเพื่อการอยู่รว่ มกันระหวา่ งคนและช้าง รายละเอยี ดดงั นี้ จังหวัดชลบุรี วางแผนที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนในชุมชน โดยจัดประชาคมหมู่บ้าน เพื่อปรับทัศนคติเร่อื งคนอยรู่ ่วมกบั ชา้ งปา่ และปรับวถิ ีการเพาะปลูก เน่อื งจากพ้ืนท่ีเดิมสว่ นใหญ่เป็นการปลูกยางพารา เสนอแนวทางที่จะปลูกไม้อื่นๆ เสริม เชน่ อะเคเซยี ขเ้ี หล็ก เป็นต้น เสริมการทาวนเกษตรตามความเหมาะสม ของพ้ืนที่ จัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังในชุมชนดาเนินงานร่วมกับเจ้าหน้าท่ีอนุรักษ์ ปลูกฝังเยาวชนรักษ์ช้าง และ จดั ตง้ั กองทนุ ชา้ ง รายไดจ้ ากการจัดกจิ กรรมวง่ิ ป่นั จกั รยาน ทั้งนี้รายได้ส่วนหน่ึงใช้เพื่อการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนีก้ ารดาเนินงานชมุ ชนเป็นผดู้ าเนินงานหลัก รว่ มกบั หนว่ ยงานอนื่ ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง จังหวัดฉะเชิงเทรา หมู่บ้านเสนอแนวทางจัดทาหมู่บ้านท่องเที่ยว ร่วมกับการส่งเสริมอาชีพอื่นๆ เชน่ การทาปศุสัตว์ และสนบั สนนุ การดาเนินงานแบบบูรณาการรว่ มกันระหว่างชมุ ชน หนว่ ยงานท้องท่ี ท้องถ่ิน ภาครฐั และเอกชน เพ่ือให้ชา้ งกลบั คนื สปู่ า่ ตามแนวทางการพฒั นาแหลง่ น้า สรา้ งแหล่งอาหารของชา้ งในพนื้ ทีป่ ่า /จงั หวัดสระแก้ว...
-๔- จังหวัดสระแก้ว ดาเนินงานจัดต้ังคณะกรรมการชุมชน และกลุ่มจิตอาสา ดาเนินงานร่วมกับ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ และมีแผนงานที่จะจัดตั้งหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ส่งเสริมการเพาะปลูกพืชท่ีช้างไม่กิน ในแปลงเพาะปลกู ของเกษตรกร เชน่ พชื สมนุ ไพร ข่า ตะไคร้ พริก เปน็ ตน้ จงั หวดั จันทบุรี เป็นจังหวดั ที่มผี ้ไู ด้รบั ผลกระทบมากท่สี ดุ โดยเฉพาะอาเภอแกง่ หางแมว มีหลายหมู่บ้าน ท่ีได้รับผลกระทบ ท้ังน้ีหมู่บ้านเคยได้รับงบประมาณสนับสนุนในการจัดทาแนวกันช้าง เป็นระยะทาง ๘๐ กิโลเมตร โดยที่ผา่ นมาขาดการดูแลรักษา ทาใหบ้ างจดุ ไม่สามารถป้องกันปัญหาได้ จึงเห็นด้วยกับแนวทางการสร้างแหล่ง อาหารและฟ้ืนฟูแหล่งน้าช้าง โดยมีต้นแบบท่ีพร้อมจะนาไปขยายผล จากตาบลพวา รวมถึงการสนับสนุนการ ตั้งกลุ่มอาชีพ แปรรปู ผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑจ์ ากผ้ึงและฝาง และเสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการให้กับ ผู้ไดร้ ับผลกระทบและครอบครัวผู้เสียชีวิต จังหวดั ระยอง ชมุ ชนสนใจท่จี ะจัดตงั้ หมู่บ้านท่องเทย่ี ว ทผี่ ่านมาได้รับสนับสนุนการส่งเสริมอาชีพ ใน ๒๙ หมบู่ ้าน และงานแปรรปู ผลิตภณั ฑใ์ นชมุ ชน รวมท้งั ยงั เคยได้รับงบประมาณสนบั สนุนการติดต้ังกล้องวงจรปิด ซง่ึ ดาเนนิ งานไปแลว้ หลายจดุ ชมุ ชนวางแผนทจ่ี ะปลกู พชื สมนุ ไพรเพม่ิ เตมิ และพืชอื่นๆ ท่ีช้างไม่ชอบ ควบคู่กับ การสร้างแหล่งอาหารให้ชา้ งในพื้นที่ปา่ การดาเนินงานในพ้ืนที่ การดาเนินงานในพื้นท่ี ได้มีการดาเนินการเพ่ือแก้ไขปัญหาเรื่องช้างป่า ประกอบด้วย การจัดทาแนวกัน ช้างท้ังทาร้ัวกั้นและการทาคูกันช้าง การจัดตั้งกองทุนแก้ไขปัญหาช้างป่า แบบบูรณาการ การส่งเสริมรายได้ให้ เกิดขึน้ ภายในชมุ ชนโดยการส่งเสรมิ การท่องเทีย่ วเชงิ นิเวศน์ เชิงวฒั นธรรม การสง่ เสรมิ การปรับเปลี่ยนอาชีพ การทา ปศุสัตว์ การส่งเสริมการปลูกพืชท่ีช้างไม่กินและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ การสร้างและพัฒนาแหล่งน้าแหล่งอา อาหารสาหรบั ช้างปา่ ในพ้นื ทอ่ี นรุ กั ษ์ การวดั ผลการดาเนินโครงการตามวัตถุประสงค์ ผลการดาเนินงานโครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ โดยผลการประเมิน โครงการพิจารณาผลการประเมินระดับมากและมากท่ีสุด (ไม่รวมเจ้าหน้าที่โครงการฯ) จานวน 406 คน แบ่งเป็น เพศชาย 305 คน เพศหญงิ 101 คน ดงั นี้ 1) ความร้เู พือ่ การอย่รู ่วมกันอย่างสมดลุ ระหว่างคนและช้าง คดิ เป็น รอ้ ยละ 91.63 ดังน้ี ระดับปานกลาง 34 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 8.37 ระดับมาก 204 คน คดิ เป็นร้อยละ 50.25 ระดบั มากทส่ี ดุ 168 คน คดิ เป็นร้อยละ 41.38 2) สามารถนาองค์ความรูไ้ ปถ่ายทอดได้ คดิ เป็นร้อยละ 94.83 ดงั นี้ ระดับปานกลาง 21 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.17 ระดบั มาก 157 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 38.67 ระดบั มากทีส่ ดุ 228 คน คดิ เป็นร้อยละ 56.16 3) สามารถนาแนวคดิ ไปประยกุ ต์ใช้ในหมู่บา้ นคนรกั ษช์ ้าง คิดเป็นร้อยละ 87.93 ดังน้ี ระดับปานกลาง 49 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 12.07 ระดบั มาก 162 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 39.90 ระดบั มากที่สุด 195 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 48.03
หนว่ ยงานเข้ารว่ มกิจกรรม จังหวดั ระยอง - วา่ ที่รอ้ ยตรี พริ ุณ เหมะรักษ์ รองผวู้ า่ ราชการจังหวัดระยอง - นายไพโรจน์ โสภาพร พัฒนาการจงั หวัดระยอง - หวั หน้าส่วนราชการจงั หวดั ระยอง กรมการพฒั นาชมุ ชน - นายโชคชยั แก้วปอ่ ง รองอธิบดกี รมการพัฒนาชุมชน - นายอุทัย ทองเดช ผอู านวยการสานักเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ชุมชน สถาบันสารสนเทศทรพั ยากรนาและการเกษตร (องคก์ ารมหาชน) มลู นิธิอทุ กพฒั น์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ - ดร. รอยบญุ รัศมีเทศ รองผู้อานวยการสถาบันสารสนเทศทรพั ยากรนาและการเกษตร (องค์การมหาชน) สมาคมอนรุ กั ษก์ ลุ่มป่าตะวันออก - ดร.โนชญ์ ชาญด้วยกจิ นายกสมาคมอนรุ ักษ์กลุ่มป่าตะวันออก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธพุ์ ชื - นายเผด็จ ลายทอง เจ้าพนักงานปา่ ไม้อาวุโส ทาหนา้ ท่ีผูอ้ านวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สานักบรหิ ารพนื ที่อนุรักษ์ที่ ๒ (ศรีราชา) กรมป่าไม้ - นายรกั ษา สนุ นิ ทบูรณ์ นักวิชาการป่าไม้ชานาญการ ทาหนา้ ท่ีหัวหนา้ สถานวี นวัฒนวิจยั เขาสอย ดาว กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั - นายธนทร ศรนี าค หวั หนา้ สานักงานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยจงั หวัดระยอง จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา - นางสาวฉตั รประอร นยิ ม พัฒนาการจงั หวัดฉะเชิงเทรา จังหวดั ชลบุรี - นายบรรเทา ดวงนภา พัฒนาการจงั หวัดชลบรุ ี จังหวัดจันทบุรี - นายสมบรู ณ์ หอมอเนก พัฒนาการจงั หวดั จนั ทบุรี จงั หวดั สระแกว้ - นายจาเรญิ แหวนเพช็ ร พัฒนาการจังหวดั สระแก้ว
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: