แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการดาเนินชวี ติ รายวชิ า สุขศึกษา พลศึกษา รหสั รายวชิ า ทช21002 ระดับ มัธยมศกึ ษาตอนต้น ภาคเรียนท่ี 2/2561 จดั ทาโดย นางสาวร่งุ รตั น์ เอีย่ มสุกใส ตาแหนง่ ครู กศน. ตาบลบางเพรียง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางบอ่ สานักงาน กศน.จังหวดั สมทุ รปราการ
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง แบบทดสอบ Pre -Test และ Post -Test รายวชิ าเลอื ก วชิ า การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ทช21001) คาชแี้ จง แบบทดสอบวิชา สขุ ศกึ ษา พลศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ต่อชุดนี้ เปน็ แบบทดสอบปรนัย มี จานวน 30 ข้อ ซง่ึ มวี ตั ถปุ ระสงคส์ าคัญในการทดสอบความรกู้ ่อนและหลงั ของผู้เรียนวิชา สุขศึกษา พลศกึ ษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ในภาคเรยี นนี้ โดยให้ผ้เู รียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องเพยี งคาตอบเดยี ว ขอ้ ท่ี 1ขอ้ ใดอธบิ ายหน้าท่ีและการทางานของระบบผวิ หนงั ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ห่อห้มุ ปกคลมุ รา่ งกาย ข. ชว่ ยทาใหร้ ่างกายเกิดความเคลอ่ื นไหว ค. นาอาหารและออกซเิ จนไปเล้ยี งรา่ งกาย ง. รับออกซิเจนจากภายนอกเขา้ สูร่ า่ งกาย ขอ้ ที่ 2ขอ้ ใดคือการดูแลรักษากลา้ มเน้ือทีถ่ ูกต้อง ก. นวดตวั ทุกวัน ข. นอนหลบั มากๆ ค. กินอาหารราคาแพง ง. ออกกาลงั กายทกุ วัน ขอ้ ที่ 3การเจรญิ เติบโตของอวัยวะสืบพันธ์ุและการเกิดลกั ษณะทางเพศในเดก็ ผู้หญงิ อายุ 11-12 ปี ขอ้ ใดเห็นไดช้ ดั เจนทส่ี ดุ ก. มีการเจรญิ เตบิ โตของเตา้ นม ข. มขี นท่ีหวั หนา่ ว ค. มขี นรักแร้ ง. มปี ระจาเดอื นครง้ั แรก ขอ้ ที่ 4ความรกั ของวยั รุน่ มักจะเปน็ พฤตกิ รรมท่คี วบคู่กบั ส่งิ ใด ก. ความชงั ข. ความสวยงาม ค. ความใคร่ ง. ความหวานหอม ขอ้ ท่ี 5ขอ้ ใดทีบ่ ิดาควรปฏิบตั ติ อ่ บตุ ร ก. ปรชี าสัง่ สอนลกู ใหเ้ ปน็ คนดี ข. วเิ ชยี รเป็นเจา้ ของบอ่ นเลยสอนลกู ใหค้ มุ บ่อน ค. อทุ ศิ ทางานท้ังวนั แตไ่ มเ่ คยมเี วลาให้ลูก ง. อมรทางานเพอ่ื เด็กกาพรา้ แตใ่ น 1 ปีไม่เคยพบลกู เลย
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ท่ี 6 สถาบันแรกทสี่ รา้ งค่านิยมที่ถูกตอ้ งใหเ้ ยาวชนคือข้อใด ก. สถาบนั ศาสนา ข. สถาบนั ครอบครัว ค. สถาบนั ส่ือสารมวลชน ง. ถกู ทกุ ข้อ ขอ้ ที่ 7การเปลยี่ นแปลงข้อใดที่ผ้ชู ายและผหู้ ญิงมเี หมอื นกนั ก. เสยี ง ข. หน้าอก ค. หรวดทรง ง. ขนบรเิ วณอวยั วะเพศ ขอ้ ท่ี 8ขอ้ ใดไม่ใชพ่ ฤตกิ รรมทเี่ สีย่ งตอ่ การตง้ั ครรภท์ ไ่ี ม่พ่งึ ประสงค์ ก. การมีเพศสมั พันธก์ อ่ นแต่งงาน ข. การมเี พศสัมพนั ธห์ ลายคูห่ ลายคน ค. การเท่ยี วกลางคืน ง. การใช้ถุงยางอนามัยทุกครงั้ ทม่ี ีเพศสัมพันธ์ ขอ้ ที่ 9วัยรุ่นคนใดปฏบิ ตั ติ นในการดแู ลอนามยั ทางเพศไดเ้ หมาะสม ก. สมชายชอบออกกาลังกายจนเหง่ือท่วมตวั อยู่เสมอ ข. หนึ่งเปล่ยี นผ้าอนามยั บ่อยคร้งั ขณะมีประจาเดอื น ค. สมใจลงว่ายน้าทะเลขณะมปี ระจาเดอื น ง. สมนึกมีความคิดว่าสวิ เปน็ เรอื่ งธรรมชาติไมต่ อ้ งใส่ใจ ขอ้ ที่ 10ข้อใดคือวธิ ีการคุมกาเนดิ เพ่ือปอ้ งกนั การต้งั ครรภ์ ก. กินยาคมุ กาเนดิ ข. ใช้ถุงยางอนามยั ค. การนบั วนั ทมี่ ีรอบเดอื น ง. ถูกทุกข้อ ขอ้ ท่ี 11ผทู้ ป่ี ว่ ยเป็นโรคเก่ียวกับกระดูกควรบรโิ ภคสารอาหารประเภทใด ก. วิตามนิ ดี ข. แคลเซยี ม ค. ธาตเุ หลก็ ง. นม ขอ้ ท่ี 12ความรู้เกย่ี วกบั หลกั โภชนาการเร่ืองอาหารหลกั 5 หมู่ มีประโยชนต์ ่อนักเรียนอยา่ งไร ก. สามารถเลือกอาหารได้ตามรสนยิ ม ข. สามารถเลอื กใช้สารอาหารได้ถกู ใจ ค. สามารถเลอื กซอ้ื อาหารไดร้ าคาถกู ง. เปลีย่ นแปลงรายการอาหารไดโ้ ดยไมเ่ กิดผลเสีย
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ที่ 13เราควรเลอื กบรโิ ภคอาหารอยา่ งไรใหเ้ หมาะสมและถกู วิธี ก. สกุ ๆ ดบิ ๆ ข. สด สะอาด ค. อาหารคา้ งคนื ง. อาหารรสจัด ขอ้ ที่ 14หากเราเลอื กรบั ประทานอาหารทีไ่ มถ่ กู หลักโภชนาการจะสง่ ผลอยา่ งไรกบั ตัวเรา ก. ระบบทางเดนิ อาหารขดั ข้อง ข. โรคขาดสารอาหาร ค. เกิดโรคแทรกซอ้ น ง. ถูกทกุ ขอ้ ขอ้ ท่ี 15พฤติกรรมใดส่งผลใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ิมีสุขภาพทด่ี ี ก. ใช้ยาพรา่ เพรื่อ ข. ดมื่ สรุ า ค. ออกกาลงั กายประจา ง. สูบบุหร่ี ขอ้ ที่ 16พฤตกิ รรมสุขภาพท่ดี คี วรเลอื กปฏิบตั ติ ามหลักข้อใด ก. การบรโิ ภคอาหารครบถ้วน ข. การพักผอ่ นนอนหลบั ค. การออกกาลงั กาย ง. ถูกทุกขอ้ ขอ้ ท่ี 17ข้อใดคือประโยชน์ของการออกกาลงั กาย ก. ทาใหท้ รวดทรงสวยงาม ข. ทาให้จิตใจแจ่มใส ค. ทาให้รา่ งกายแข็งแรง ง. ถกู ทกุ ขอ้ ขอ้ ท่ี 18หลกั และวธิ กี ารออกกาลังกายข้อใดถูกตอ้ งที่สุด ก. สามารถออกกาลงั กายไดต้ ามตอ้ งการ ข. การออกกาลังกายควรใชเ้ วลาอย่างนอ้ ย 20-30 นาที ค. การออกกาลังกายควรออกไมน่ อ้ ยกวา่ 2 วันและไม่เกนิ วนั ในหนึ่งสปั ดาห์ ง. การออกกาลงั กายควรมีวนั พกั ผอ่ นสัปดาหล์ ะไมน่ ้อยกวา่ วนั
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ที่ 19ขอ้ ใดไม่ใช่อาการของโรคไต ก. ปัสสาวะเป็นสแี ดง ข. ปวดหลัง ค. หอบ เหนอื่ ยงา่ ย ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก ขอ้ ที่ 20การปฏบิ ตั ติ ัวขอ้ ใดถูกต้องสาหรับผปู้ ว่ ยโรคเบาหวาน ก. ออกกาลังกาย ตามความเหมาะสมกบั สภาวะรา่ งกาย ข. รับประทานขนมหวานได้ตามใจชอบ ค. เลือกรบั ประทานแตผ่ ลไมเ้ ช่ือม ผลไม่กวน ง. สามารถฉดี ยารกั ษาโรคไดต้ ามต้องการ ขอ้ ที่ 21ขอ้ ใดเปน็ หลกั การใชย้ าทีไ่ ม่ปลอดภยั ท่สี ดุ ก. ปรึกษาแพทย์กอ่ นใชย้ า ข. ซอ้ื มากินเองตามอาการของโรค ค. ปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาในฉลาก ง. ปฏบิ ตั ิตามคะแนะนาของเภสชั กร ขอ้ ท่ี 22ข้อใดไม่ใชเ่ หตุผลท่ีตอ้ งระบุว่า กนิ หลังอาหารทนั ที หรอื พรอ้ มอาหาร ก. คลนื่ ไสอ้ าเจยี นหลงั จากกินอาหาร ข. เพื่อลดผลข้างเคียงของยาท่ีระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ค. เพ่อื ให้ยาออกฤทธใ์ิ นชว่ งเวลานน้ั ง. ปอ้ งกนั การรวบรวมการดดู ซมึ ของยาอ่ืนทีก่ นิ รว่ มกนั ขอ้ ที่ 23ยาเสพติดชนดิ ใดทีผลติ ข้ึนดว้ ยกรรมวิธที างเคมี ก. ฝ่ิ ข. กัญชา ค. มอรฟ์ ีน ง. เฮโรอีน ขอ้ ท่ี 24ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุทีท่ าให้วัยร่นุ ตดิ สารเสพตดิ นอ้ ยทส่ี ดุ ก. อทิ ธผิ ลจากพอ่ แม่ ข. อยากรู้อยากลอง ค. ค่านิยมในหม่วู ยั รุน่ ง. ความเชอ่ื ทผี่ ดิ ขอ้ ที่ 25การป้องกนั อันตรายหรอื อบุ ตั เิ หตจุ ากการประกอบอาชีพคอื ก. ด้านตวั เอง ข. ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ค. ด้านสังคม ง. ดา้ นตวั เองและด้านส่ิงแวดลอ้ ม
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ที่ 26 ข้อใดไม่ใชก่ ารปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ก. การหา้ มเลอื ด ข. การจับชีพจรเป็นระยะ ค. ถ้ากระดกู หักอย่าเคล่อื นย้าย ง. มงุ ดูเมื่อมคี นเป็นลม ขอ้ ที่ 27ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความหมายของทกั ษะชีวิต ก. ข. ความสามารถพ้นื ฐานของบุคคลในการปรบั ตัว ค. การเลือกทางเดนิ ชีวติ ทเี่ หมาะสมเพอื่ ท่ีจะสามารถเผชิญปัญหาตา่ งๆ ง. การอาศยั การถ่ายทอดประสพการดว้ ยการฝกึ อบรม ขอ้ ที่ 28( Robert conclin ) ได้เสนอความคิดในการปรับปรงุ ตนเองไวก้ ่ีข้อ ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 ขอ้ ที่ 29 จงเรยี งลาดบั ตามความสาคญั ของการสร้างความสาพันธ์ระหว่างคนสองคน ก. ข. การจรงิ ใจ การเขา้ ใจสาระและความรูส้ ึก ค. การยอมรบั และการใหเ้ กียรติ การเข้าใจสาระและความร้สู กึ การจรงิ ใจ ง. การยอมรับและการให้เกียรติ การจริงใจและการเขา้ ใจสาระและความร้สู กึ ขอ้ ท่ี 30 ทักษะในการเข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งบุคคล ก. คนรู้จกั เพอ่ื น ระดบั ลกึ ซ้งึ ข. เพื่อน คนรู้จัก ระดบั ลกึ ซง้ึ ค. ระดับลึกซ้งึ คนรู้จัก เพ่อื น ง. เพอื่ น คนรู้จกั ระดบั ลึกซึ้ง
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ใบงานที่ 1 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวชิ า ทช 2102 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ระดบั ม.ตน้ ครง้ั ที่ .......... วนั .......... เดอื น ......................... ปี …........ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางบอ่ คาสงั่ 1. อวัยวะภายนอก มลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร มีอะไรบา้ ง ........................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................... 2. อวัยวะภายในมลี กั ษณะเป็นอย่างไร มีอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ........................................................... ........................................................................................................................................................... ..................... 3. จงบอกวธิ ีการทางานของระบบอวัยวะของร่างกายต่อไปน้ี 1. ระบบผิวหนัง ..................................................................................................................................................................... ............... 2. ระบบกล้ามเนื้อ ................................................................................................ .................................................................................... 3. ระบบกระดูก ............................................................................................................................. ....................................................... . ระบบการไหลเวยี นโลหติ ............................................................................................................................. ....................................................... 4. ทา่ นคดิ ว่าสขุ ภาพของท่านดีหรือไม่ดเี ป็นอย่างไร ............................................................................................................................. ........................................................... .......................................................................................................................................................................... ......
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ใบงานที่ 2 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวชิ า ทช 2102 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ระดบั ม.ตน้ ครงั้ ท่ี .......... วนั .......... เดอื น ......................... ปี …........ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางบ่อ คาสงั่ 1. มีพฤตกิ รรมใดบ้าง ท่ีจะนาไปสกู่ ารถูกล่วงละเมิดทางเพศ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ...................................................................................... ............................................................................... 2. อนาจาร กบั กระทาชาเรา แตกต่างกันอย่างไร อนาจาร กระทาชาเรา ......................................................................................... ......................................................................................... .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. ......................................................................................... ......................................................................................... .. ..
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง 3. จากปญั หาทางเพศที่เกดิ ข้ึนเปน็ ข่าวตามสื่อต่าง ๆ เชน่ พอ่ เลย้ี งขม่ ขนื ลูกเลีย้ ง ลุง น้า อา ข่มขนื หลาน ครู ทาอนาจารศษิ ย์ ให้ผเู้ รียนหาค่สู นทนาในปญั หาดังกล่าว โดยสนทนาถึงพฤติกรรม และบทลงโทษแล้วใหส้ รปุ และ บนั ทึกการสนาทนา .......................................................................................................................................................... ........... ....................................................................................................................... .............................................. 4. คา่ นยิ มในเรอื่ งเพศของชาวตา่ งชาตทิ ม่ี อี ิทธพิ ลต่อวยั รุ่นในปัจจบุ ันมอี ะไรบ้าง และมีผลดผี ลเสยี อย่างไรบา้ ง ผลดี ผลเสยี ......................................................................................... ......................................................................................... . . ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... . . ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... . . ......................................................................................... ......................................................................................... .. .. ......................................................................................... ......................................................................................... . . ......................................................................................... ......................................................................................... .. ..
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง 5. คา่ นยิ มในเร่อื งเพศของสังคมไทย เชน่ การรกั นวลสงวนตัว เข้าตามตรอกออกทางประตู อดเปรยี้ วไว้กินหวาน ยงั เหมาะสมกับสงั คมในไทยปัจจบุ นั หรือไม่ และมีขอ้ ดี ข้อเสยี อย่างไร ใหผ้ ู้เรยี นวเิ คราะหส์ ถานการณต์ อ่ ไปน้ี สถานการณ์ สมศักดิ์เป็นเด็กหน่มุ เพง่ิ เดินทางเขา้ มากรุงเทพฯ และทางานอยใู่ นกรงุ เทพ ทางานอยูใ่ นโรงงานแหง่ หน่งึ ชยั สมศกั ดิเ์ ป็นชายหนมุ่ ท่ีมสี ุขภาพ หน้าตาดี สาว ๆ มกั ตอ้ งแอบมองและเขา้ มาคุยด้วย มาระยะหลงั สมศกั ดิ์ สงั เกตวา่ พ่ีสมบัติทีม่ าจากหมู่บา้ นเดยี วกันและอยขู่ า้ งหน้า ชอบมาเรยี กไปกนิ ข้าวทหี่ ้องบ่อย ๆ บางครัง้ ก็มองดแู อบ ยิม้ และโอบไหล่สมศักด์ิ รสู้ กึ อึดอดั ไม่อยากใหพ้ ่สี มควรทาแบบนัน้ ใหน้ กั ศึกษาวิเคราะหต์ ามประเดน็ ต่อไปนี้ 1. จากสถานการณ์ดังกลา่ วถ้าเหตกุ ารณ์ยังคงดาเนนิ การต่อไป อาจจะเกดิ ปญั หาอะไรกบั สมศักด์ิ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 2. สมศักดิจ์ ะหาทางออกในเร่ืองน้ีอย่างไร ............................................................................................................................. ........................................ ................................................................................................................................................... .................. 3. ถา้ ท่านมีเพ่ือนอยา่ งสมบัตทิ า่ นจะทาอยา่ งไร ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 6.ผู้เรยี นจะมวี ธิ ีหรือแนวทางปอ้ งกนั มิใหเ้ กิดการลว่ งละเมิดทางเพศได้อยา่ งไรบ้าง ใหน้ ักศึกษาแสดงความคิดเห็น ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... 7. ทา่ นมีความคดิ เหน็ อย่างไรเกย่ี วกับข่าวในหนงั สือพิมพ์เรือ่ งการฆ่าข่มขนื การกระทาชาเรา การทาอนาจาร การคา้ สิ่งลามก และมวี ิธีการปอ้ งกนั ไม่ใหป้ ัญหาเหล่าน้ีเกิดขึ้นได้อย่างไร ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 8. ท่านคดิ วา่ สถานการณใ์ ดเป็นปการเสียงต่อการมีเพศสัมพันธ์และการต้ังครรภ์โดยไม่ต้ังใจ และจะมแี นวทาง ปอ้ งกันอย่างไร ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ .....................................................................................................................................................................
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง 9. ใหผ้ ู้เรียนเปรยี บเทียบการแสดงความคดิ เห็นของวัยรุ่นชาย และหญงิ ในเรื่องของความสมั พนั ธใ์ นเรือ่ งต่อไปนี้ ความคดิ เห็นของชาย ความคดิ เหน็ ของหญิง 1. ความรัก 1. ความรัก ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… …………………………………………… …………………………………………… 2. การมเี พศสมั พนั ธ์ 2. การมเี พศสมั พนั ธ์ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………… …………………… …………………… 10. ใหผ้ ู้เรียนหาขา่ วจากหนงั สอื พมิ พ์ในเร่ืองเก่ียวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และนามาวเิ คราะห์วา่ ในกรณีผ้เู รียนหา ขา่ วมาน้นั ควรจะใชก้ ฎหมายคุ้มครองผถู้ ูกลว่ งละเมดิ ทางเพศใดบ้าง ............................................................................................................................................................................ ................................................................................................................. ............................................................. ............................................................................................. .............................................................................. 11. นักศกึ ษามคี วามรเู้ ร่อื งกฎหมายคมุ้ ครองสิทธเิ ด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครวั อย่างไร ............................................................................................................................. ........................................................... ......... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 12. นักศกึ ษาคิดวา่ สือ่ ตา่ งๆ ส่งผลทาให้เกิดปัญหาทางเพศหรือไม่ ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ .....................................................................................................................................................................
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ใบงานที่ 3 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวชิ า ทช 2102 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ระดบั ม.ตน้ ครัง้ ท่ี .......... วนั .......... เดือน ......................... ปี …........ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางบอ่ คาสงั่ 1นักศึกษามวี ธิ ีการป้องกนั โรคขาดสารอาหารได้อย่างไร ............................................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................................... ............................. 2. สาเหตุใดบา้ งทีก่ ่อใหเ้ กิดโรคขาดสารอาหาร .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 3. นักศกึ ษามีวิธกี ารเลอื กซ้ืออาหารท่ปี ลอดสารปนเป้อื นอยา่ งไร ............................................................................................................................. ....................................................... ..................................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................... ................................................................. . ใหน้ ักศกึ ษาวางโปรแกรมอาหารทเ่ี หมาะสมสาหรบั คนวยั ทางาน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย วัน รายการ หมายเหตุ อาทติ ย์ มอื้ เชา้ มอื้ เทย่ี ง มอื้ เย็น จันทร์ องั คาร พธุ พฤหัส ศกุ ร์ เสาร์
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ใบงานที่ 4 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวชิ า ทช 2102 สุขศกึ ษา พลศกึ ษา ระดบั ม.ตน้ ครง้ั ท่ี .......... วนั .......... เดอื น ......................... ปี …........ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบางบ่อ 1. การประเมนิ ภาวะสุขภาพคือ ............................................................................................................................. ...................................... ..................................................................................................................................................................... .2 .ให้นักศึกษาสารวจตวั เองโดยเปรยี บเทียบน้าหนักและสว่ นสูงกับเกณฑ์มาตรฐานในตารางBMI วา่ ตวั เองอว้ นหรือ ผอม หรือมีรูปร่างได้มาตรฐานตามเกณฑด์ ังกล่าว หากนกั ศึกษาอว้ นหรอื ผอมไปจะมีวธิ ีการแก้ไขอยา่ งไร ............................................................................................................................. ....................................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ 3.นักศกึ ษาและเพ่ือนๆมีการรวมกลุม่ เพื่อกจิ กรรมการออกกาลงั กายหรือบาเพญ็ ประโยชน์หรือไม่อย่างไร ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... 4ในแตล่ ะสปั ดาห์นักศึกษามกี ารออกกาลงั กายอย่างไร โปรแกรมการออกกาลงั กาย วัน/เดือน/ปี กจิ กรรม หมายเหตุ
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ใบงานท่ี 5 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะการดาเนนิ ชวี ติ รายวชิ า ทช 2102 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา ระดบั ม.ตน้ ครงั้ ท่ี .......... วนั .......... เดือน ......................... ปี …........ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางบ่อ คาช้แี จง ให้ผเู้ รียนคน้ ควา้ เกี่ยวกบั ยาสมุนไพรพร้อมบอกสรรพคุณ มาคนละ 5 ประเภท โดยทาเปน็ รูปแบบรายงาน
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง แบบทดสอบ Pre -Test และ Post -Test รายวชิ าเลอื ก วชิ า การพฒั นาตนเอง ชมุ ชน สงั คม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ทช21001) คาชแี้ จง แบบทดสอบวชิ า สขุ ศึกษา พลศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ต่อชุดน้ี เป็นแบบทดสอบปรนัย มี จานวน 30 ข้อ ซง่ึ มีวตั ถปุ ระสงค์สาคญั ในการทดสอบความรกู้ ่อนและหลงั ของผ้เู รียนวิชา สขุ ศึกษา พลศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ในภาคเรยี นน้ี โดยให้ผเู้ รยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องเพยี งคาตอบเดียว ขอ้ ท่ี 1ขอ้ ใดอธิบายหนา้ ท่แี ละการทางานของระบบผวิ หนังได้ถูกต้อง ขอ้ ที่ 5ขอ้ ใดที่บดิ าควรปฏบิ ตั ติ อ่ บตุ ร จ. ห่อห้มุ ปกคลมุ รา่ งกาย จ. ปรชี าสงั่ สอนลูกใหเ้ ป็นคนดี ฉ. ช่วยทาใหร้ ่างกายเกิดความเคลื่อนไหว ฉ. วเิ ชียรเป็นเจา้ ของบ่อนเลยสอนลูกให้คมุ บอ่ น ช. นาอาหารและออกซเิ จนไปเล้ียงร่างกาย ช. อุทศิ ทางานทงั้ วนั แตไ่ มเ่ คยมเี วลาใหล้ ูก ซ. รับออกซเิ จนจากภายนอกเขา้ สูร่ ่างกาย ซ. อมรทางานเพื่อเด็กกาพรา้ แตใ่ น 1 ปไี มเ่ คยพบลกู เลย ขอ้ ท่ี 2ข้อใดคือการดแู ลรกั ษากลา้ มเนื้อที่ถูกตอ้ ง จ. นวดตัวทกุ วัน ขอ้ ที่ 6 สถาบนั แรกท่ีสรา้ งคา่ นยิ มทถี่ กู ตอ้ งให้เยาวชนคอื ฉ. นอนหลับมากๆ ขอ้ ใด ช. กินอาหารราคาแพง จ. สถาบันศาสนา ซ. ออกกาลงั กายทกุ วัน ฉ. สถาบันครอบครัว ช. สถาบันสอ่ื สารมวลชน ขอ้ ที่ 3การเจรญิ เติบโตของอวัยวะสบื พนั ธุแ์ ละการเกิด ซ. ถูกทุกข้อ ลักษณะทางเพศในเด็กผหู้ ญงิ อายุ 11-12 ปี ขอ้ ใดเหน็ ได้ ชดั เจนท่ีสุด ขอ้ ท่ี 7การเปลยี่ นแปลงข้อใดทผ่ี ชู้ ายและผหู้ ญงิ มเี หมอื นกนั จ. เสียง จ. มกี ารเจริญเตบิ โตของเต้านม ฉ. หนา้ อก ฉ. มีขนท่หี ัวหนา่ ว ช. หรวดทรง ช. มีขนรักแร้ ซ. ขนบรเิ วณอวัยวะเพศ ซ. มปี ระจาเดือนครง้ั แรก ขอ้ ที่ 4ความรักของวัยรุ่นมักจะเปน็ พฤติกรรมที่ควบคู่กับสงิ่ ใด จ. ความชัง ฉ. ความสวยงาม ช. ความใคร่ ซ. ความหวานหอม
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ท่ี 8ขอ้ ใดไม่ใชพ่ ฤติกรรมที่เสีย่ งตอ่ การตง้ั ครรภท์ ไี่ ม่พ่ึง ขอ้ ที่ 13เราควรเลอื กบรโิ ภคอาหารอย่างไรใหเ้ หมาะสมและ ประสงค์ ถูกวธิ ี จ. การมเี พศสมั พันธก์ ่อนแตง่ งาน จ. สกุ ๆ ดิบๆ ฉ. การมเี พศสมั พันธ์หลายคูห่ ลายคน ฉ. สด สะอาด ช. การเทยี่ วกลางคนื ช. อาหารค้างคนื ซ. การใช้ถงุ ยางอนามยั ทกุ ครง้ั ทม่ี เี พศสมั พันธ์ ซ. อาหารรสจดั ขอ้ ที่ 9วัยรุ่นคนใดปฏิบตั ิตนในการดูแลอนามัยทางเพศได้ ขอ้ ที่ 14หากเราเลือกรบั ประทานอาหารทไ่ี มถ่ ูกหลัก เหมาะสม โภชนาการจะส่งผลอยา่ งไรกบั ตวั เรา จ. สมชายชอบออกกาลังกายจนเหง่อื ทว่ มตัวอย่เู สมอ จ. ระบบทางเดนิ อาหารขัดขอ้ ง ฉ. หนง่ึ เปล่ียนผา้ อนามัยบ่อยคร้ังขณะมีประจาเดือน ฉ. โรคขาดสารอาหาร ช. สมใจลงวา่ ยน้าทะเลขณะมีประจาเดอื น ช. เกิดโรคแทรกซอ้ น ซ. สมนึกมีความคิดวา่ สวิ เป็นเรอื่ งธรรมชาติไม่ต้องใส่ ซ. ถกู ทุกขอ้ ใจ ขอ้ ท่ี 15พฤตกิ รรมใดสง่ ผลใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั ิมีสุขภาพท่ดี ี จ. ใชย้ าพรา่ เพร่ือ ขอ้ ท่ี 10ขอ้ ใดคอื วธิ กี ารคุมกาเนดิ เพอื่ ปอ้ งกันการตัง้ ครรภ์ ฉ. ด่มื สรุ า จ. กินยาคมุ กาเนดิ ช. ออกกาลงั กายประจา ฉ. ใช้ถุงยางอนามัย ซ. สูบบหุ รี่ ช. การนับวันที่มรี อบเดือน ซ. ถูกทกุ ขอ้ ขอ้ ที่ 16พฤตกิ รรมสขุ ภาพทด่ี คี วรเลอื กปฏิบัตติ ามหลักขอ้ ใด ก. การบรโิ ภคอาหารครบถว้ น ขอ้ ท่ี 11ผทู้ ปี่ ว่ ยเปน็ โรคเกี่ยวกบั กระดูกควรบรโิ ภคสารอาหาร ข. การพกั ผอ่ นนอนหลับ ประเภทใด ค. การออกกาลังกาย ง. ถกู ทุกขอ้ จ. วิตามนิ ดี ฉ. แคลเซยี ม ขอ้ ที่ 17ข้อใดคือประโยชนข์ องการออกกาลงั กาย ช. ธาตุเหล็ก จ. ทาให้ทรวดทรงสวยงาม ซ. นม ฉ. ทาให้จติ ใจแจ่มใส ช. ทาใหร้ า่ งกายแข็งแรง ขอ้ ที่ 12ความรู้เกี่ยวกบั หลักโภชนาการเรอ่ื งอาหารหลัก 5 หมู่ ซ. ถูกทุกข้อ มีประโยชนต์ ่อนักเรยี นอย่างไร ก. สามารถเลอื กอาหารได้ตามรสนิยม ขอ้ ท่ี 18หลกั และวธิ กี ารออกกาลังกายข้อใดถูกต้องท่สี ดุ ข. สามารถเลือกใช้สารอาหารไดถ้ กู ใจ ก. สามารถออกกาลังกายได้ตามตอ้ งการ ค. สามารถเลอื กซื้ออาหารไดร้ าคาถูก ข. การออกกาลงั กายควรใช้เวลาอยา่ งน้อย 20-30 นาที ง. เปล่ียนแปลงรายการอาหารไดโ้ ดยไมเ่ กิดผลเสีย ค. การออกกาลงั กายควรออกไม่นอ้ ยกว่า 2 วันและไม่เกนิ วันในหนึ่งสปั ดาห์ ง. การออกกาลังกายควรมวี นั พกั ผอ่ นสปั ดาหล์ ะไม่นอ้ ยกวา่ วนั
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ท่ี 19ขอ้ ใดไม่ใช่อาการของโรคไต ขอ้ ท่ี 24ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุท่ที าใหว้ ัยรนุ่ ตดิ สารเสพตดิ นอ้ ยทส่ี ดุ ก. ปัสสาวะเป็นสแี ดง จ. อิทธิผลจากพอ่ แม่ ข. ปวดหลัง ฉ. อยากรอู้ ยากลอง ค. หอบ เหนอื่ ยงา่ ย ช. ค่านิยมในหมวู่ ยั รุน่ ง. ไมม่ ีขอ้ ถูก ซ. ความเชือ่ ท่ผี ิด ขอ้ ท่ี 20การปฏิบตั ติ วั ข้อใดถกู ต้องสาหรับผปู้ ่วยโรคเบาหวาน ขอ้ ท่ี 25การป้องกนั อันตรายหรอื อบุ ตั ิเหตจุ ากการประกอบ ก. ออกกาลังกาย ตามความเหมาะสมกับสภาวะ อาชพี คือ ร่างกาย ข. รับประทานขนมหวานได้ตามใจชอบ จ. ดา้ นตัวเอง ค. เลือกรับประทานแต่ผลไม้เช่ือม ผลไม่กวน ฉ. ด้านส่ิงแวดลอ้ ม ง. สามารถฉีดยารักษาโรคไดต้ ามตอ้ งการ ช. ดา้ นสงั คม ซ. ดา้ นตัวเองและด้านส่ิงแวดล้อม ขอ้ ที่ 21ข้อใดเปน็ หลักการใชย้ าทไ่ี มป่ ลอดภยั ท่สี ดุ จ. ปรึกษาแพทยก์ ่อนใชย้ า ขอ้ ท่ี 26 ข้อใดไมใ่ ชก่ ารปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ ฉ. ซอ้ื มากินเองตามอาการของโรค จ. การหา้ มเลอื ด ช. ปฏิบตั ิตามคาแนะนาในฉลาก ฉ. การจับชีพจรเปน็ ระยะ ซ. ปฏบิ ตั ติ ามคะแนะนาของเภสชั กร ช. ถ้ากระดูกหกั อยา่ เคล่ือนย้าย ซ. มงุ ดเู มือ่ มคี นเป็นลม ขอ้ ท่ี 22ขอ้ ใดไม่ใชเ่ หตผุ ลท่ตี อ้ งระบุวา่ กินหลังอาหารทนั ที หรือ พร้อมอาหาร ขอ้ ท่ี 27ขอ้ ใดไมใ่ ช่ความหมายของทกั ษะชีวิต จ. คลืน่ ไส้อาเจยี นหลงั จากกนิ อาหาร จ. ฉ. เพ่ือลดผลขา้ งเคยี งของยาทร่ี ะคายเคืองต่อทางเดิน ฉ. ความสามารถพื้นฐานของบุคคลในการปรบั ตัว อาหาร ช. การเลอื กทางเดนิ ชีวิตที่เหมาะสมเพื่อทจี่ ะสามารถ ช. เพ่อื ใหย้ าออกฤทธิ์ในช่วงเวลาน้นั ซ. ป้องกันการรวบรวมการดดู ซึมของยาอื่นท่ีกิน เผชญิ ปญั หาต่างๆ ซ. การอาศัยการถา่ ยทอดประสพการด้วยการฝึกอบรม รว่ มกนั ขอ้ ท่ี 28( Robert conclin ) ได้เสนอความคดิ ในการปรบั ปรุง ขอ้ ที่ 23ยาเสพติดชนดิ ใดทผี ลติ ขึ้นด้วยกรรมวธิ ที างเคมี ตนเองไว้ก่ีขอ้ จ. ฝ่ิ ฉ. กญั ชา จ. 5 ช. มอรฟ์ ีน ฉ. 6 ซ. เฮโรอีน ช. 7 ซ. 8
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง ขอ้ ท่ี 29 จงเรยี งลาดบั ตามความสาคัญของการสร้างความสา พนั ธ์ระหว่างคนสองคน จ. ฉ. การจริงใจ การเข้าใจสาระและความรู้สกึ ช. การยอมรบั และการใหเ้ กยี รติ การเข้าใจสาระและ ความรสู้ ึก การจรงิ ใจ ซ. การยอมรับและการใหเ้ กยี รติ การจรงิ ใจและการ เขา้ ใจสาระและความรสู้ ึก ขอ้ ท่ี 30 ทักษะในการเขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างบคุ คล จ. คนรู้จัก เพ่ือน ระดบั ลึกซึ้ง ฉ. เพอื่ น คนรจู้ กั ระดบั ลกึ ซึ้ง ช. ระดับลกึ ซง้ึ คนรจู้ ัก เพอื่ น ซ. เพ่อื น คนรู้จัก ระดบั ลึกซงึ้
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง
แบบบนั ทึกการเรียนรู้รายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา ระดบั
บ ม.ตน้ กศน.ตาบลบางเพรียง
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: