Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมรักการอ่าน

นวัตกรรมรักการอ่าน

Description: นวัตกรรมรักการอ่าน

Search

Read the Text Version

ช่อื นวตั กรรม ชมรมคนลำพนู รกั การอา่ น Lamphun Reading Club ประเภทนวตั กรรม ดา้ นการจดั การเรยี นรู้ ผเู้ สนอผลงานนวตั กรรม ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอล้ี สถานศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอลี้ สังกดั สำนกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดลำพูน บทสรปุ ผูบ้ รหิ าร จากปัญหาด้านการเรียนการสอนของครูผู้สอน และปัญหาด้านพฤติกรรมการใฝ่เรียนใฝ่รู้ของ นักศึกษา กศน. ยงั ขาดความสนใจในการเรียนรู้ด้วยตนเอง มกี ารอ่านหนงั สือน้อย และไมค่ ่อยมสี มาธิในการ เรียนรู้ ทางสถานศึกษาจึงต้องคิดหาวิธีการกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ สร้างทักษะการเรียนรู้ ด้วยตนเองให้แก่ผู้เรียน เพ่ือปรับพฤติกรรมให้มีความใฝ่เรียนใฝ่รู้ อีกทั้งในสภาวการณ์แพร่ระบาดของ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในปัจจุบันมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้สถาบันการศึกษา ประสบปญั หาในด้านการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น และความยากลำบากในการศกึ ษาของผู้เรียน กศน. ดงั น้ัน จึงมีการจดั ทำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ชมรมคนลำพนู รักการอ่าน Lamphun Reading Club ขึ้น เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านและส่งเสรมิ ทักษะการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียน รักการอ่านมากขึ้น มีพฤติกรรมการอ่านท่ีดีขึ้น และผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาภาษาไทยของผู้เรียนเพิ่มข้ึน ในการดำเนินงานชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club คร้ังน้ี ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอลี้ มีการวางแผนการดำเนินงานร่วมกับ กศน.อำเภอท้ัง 7 อำเภอ โดยได้รับการประสานความร่วมมือจาก สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน ในการอำนวยการจัดกิจกรรมตาม โครงการ และจัดประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดเปน็ ชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ขึ้น ซ่ึงนำหลักแนวคิด ทฤษฎี ทฤษฎีการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ ของ โนลล์ (Malcolm S. Knowles) และทฤษฎีการเรียนรู้แบบการวางเง่ือนไขของสกินเนอร์ (กาเสริมแรง) ของ สกินเนอร์ (B.F. Skinner) มาใช้ในการพัฒนาและออกแบบกิจกรรม ความสำเร็จที่ปรากฏในเชงิ ประจกั ษ์ ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอลี้ มีนักศึกษา กศน. เข้าร่วมสมัครเป็นสมาชิกชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club จำนวน 90 คน จากการดำเนินกิจกรรม พบว่า สมาชิกชมรมได้รับการปลูกฝังนิสัยรกั การอ่าน ฝึกการคิดวิเคราะห์ และฝึกการจดบันทึกการอ่าน รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอา่ นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ของตนเอง ตลอดจนมีพฤติกรรมการอ่านที่เปล่ียนแปลงไป และยังผลให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่านและมี พฤติกรรมการอ่านที่ดีขึ้น จากการจัดกิจกรรม พบว่าผู้เรียน ร้อยละ 80 มีผลสัมฤทธ์ิการอ่านเพ่ิมข้ึน และผู้เรียนร้อยละ 80 มีพฤติกรรมการอ่านท่ีดีข้ึน ส่งผลให้ผู้เรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติ ด้านการศกึ ษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) รายวิชาภาษาไทย (คา่ สถิติจำแนกตามระดบั อำเภอ) ในภาคเรียนท่ี 1/2563 และ 2/2563 เพ่ิมข้นึ อกี ดว้ ย

คำนำ รายงานนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน เร่ือง ชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club จัดทำข้ึนเพ่ือสร้างชมรมรักการอ่านของนักศึกษา กศน.อำเภอล้ี ให้ได้ฝึกฝนนิสัยรักการอ่าน การคิด วิเคราะห์ และจดบันทึกการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ก่อให้เกิดการอ่านออก เขียนได้ อ่านคล่อง ฝึกการเขียน และฝึกการจดจำรายละเอียดโดยการจดบันทึก เกิดการเรียนรู้แบบกลุ่มในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน การนำความรูแ้ ละทักษะท่ีได้จากการอ่าน ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของนักศึกษา กศน. ท้ังในด้าน การเรียน การทำงาน การประกอบอาชพี และทักษะชีวิต อีกท้ังในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเช้อื ไวรัสโควดิ -19 ส่งผลตอ่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน จงึ มีการปรบั รูปแบบให้มกี ิจกรรมออนไลน์ ทผ่ี ู้เรยี นสามารถพัฒนาทกั ษะการอ่านและการเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา นอกห้องเรียน ซึง่ จากการดำเนนิ การ อยา่ งต่อเนื่องต้งั แตภ่ าคเรียนท่ี 1/2563 สามารถแกป้ ญั หาการจดั การเรยี นการสอนไดเ้ ปน็ อย่างดี ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอล้ี จังหวัดลำพูน ขอขอบคุณบุคลากร กศน.อำเภอล้ีทุกท่าน นักศึกษาภาคีเครือข่าย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน โครงการชมรมคนลำพูนรักการอ่าน (Lamphun Reading Club) น้ีเป็นอย่างดี และหวังว่ารายงาน นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน เรื่อง ชมรมรักการอ่าน Lamphun Reading Club เล่มนี้ จะสามารถ เปน็ แบบอยา่ งให้แก่ผอู้ ืน่ ใหพ้ ัฒนา ตอ่ ยอดองค์ความรูไ้ ด้ตอ่ ไปในอนาคต ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอลี้ สิงหาคม 2564 .

สารบญั หนา้ บทสรปุ ผบู้ ริหาร ก คำนำ ข สารบัญ องคป์ ระกอบที่ 1 ด้านความสำคัญของนวัตกรรม 1 1 1.1 ความเปน็ มาและสภาพปัญหา 2 1.2 แนวทางการแก้ไขปญั หา และการพัฒนา 1.3 ประโยชนแ์ ละความสำคญั 3 องคป์ ระกอบที่ 2 ดา้ นกระบวนการพฒั นานวตั กรรม 3 2.1 วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมาย 4 2.2 หลกั การ ทฤษฎี แนวคิดในการพัฒนา 7 2.3 การออกแบบและแนวทางการพัฒนา 7 2.4 การมสี ่วนร่วมในการพฒั นา 8 2.5 การนำไปใช้ 2.6 การประเมนิ และการปรบั ปรงุ 8 องคป์ ระกอบที่ 3 ดา้ นผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดำเนนิ งานตามนวตั กรรม 8 3.1 ผลท่ีเกดิ ข้นึ กับสถานศกึ ษาและผบู้ ริหาร 8 8 3.1.1 มีขอ้ มลู สารสนเทศของสถานศึกษา 3.1.2 มกี ารดำเนินงานการจดั การเรยี นรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ 9 3.1.3 การมีเครือขา่ ยพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา 3.2 ผลทีเ่ กิดข้นึ กับผู้เรียน 9 3.2.1 ผเู้ รียนมคี ะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ 10 ดา้ นการศกึ ษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) ผ่านเกณฑ์เพ่มิ ขนึ้ 11 ปัญหาอปุ สรรค ขอ้ เสนอแนะ ภาพประกอบนวตั กรรม

องค์ประกอบที่ 1 ด้านความสำคัญของนวัตกรรม 1.1 ความเปน็ มาและสภาพปัญหา เน่ืองจากผู้เรียนการศึกษานอกระบบโรงเรียนมีพฤติกรรมที่ยังขาดความสนใจในการ เรียนรู้ด้วยตนเอง มีการอ่านหนังสือน้อย และไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนรู้ ทางสถานศึกษาจึงต้องคิดหา วธิ กี ารกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ สร้างทักษะการเรียนรดู้ ้วยตนเองใหแ้ ก่ผูเ้ รียน เพือ่ ปรับพฤติกรรมให้ มคี วามใฝ่เรียนใฝ่รู้ และพัฒนาตนเองให้สามารถเรยี นรู้ผ่านระบบออนไลน์ ซ่ึงเป็นทางรอดที่เหมาะสมของ การศึกษาในยุคปัจจุบัน อีกท้ังปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในปัจจุบันมคี วามรนุ แรงมากขึ้น ส่งผลใหส้ ถาบันการศึกษาประสบปัญหาในด้านการเรียนการ สอนในหอ้ งเรยี น และความยากลำบากในการศกึ ษาของผู้เรียน กศน. ซ่งึ มีผู้เรยี นท่ีหลากหลายช่วงวัย และ ส่วนใหญ่เป็นผทู้ ี่อยู่ในวัยทำงานเป็นส่วนมาก จงึ ได้มีการออกแบบกิจกรรมประกอบการเรียนรู้ออนไลน์ใน รูปแบบ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สมุดบันทึกการอ่าน ส่ือความรู้ คลังความรู้ เกม และแบบทดสอบ ออนไลน์ เพ่อื พฒั นาผลสัมฤทธิแ์ ละพฒั นาทักษะการเรยี นรใู้ นทุกช่วงวัยของ นกั ศึกษา กศน. 1.2 แนวทางการแก้ไขปัญหา และการพฒั นา “การอ่าน” เป็นสิ่งท่ีช่วยเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิดของคนให้เพิ่มพูนทันต่อ เหตกุ ารณ์ สร้างความเพลดิ เพลิน และระดับสติปัญญาให้สูงข้ึน ล้วนเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ท้งั ในการแกไ้ ข ปัญหาต่างๆ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเป็นรูปแบบหน่ึงในการกระตุ้น ความสนใจในการอ่านให้ต่อเนือ่ ง และพัฒนาการอ่านให้ถึงระดับการอา่ นเป็น และอา่ นจนเป็นนิสยั อันเป็น ลักษณะของสงั คมแห่งการอ่าน อนง่ึ “ชมรมรักการอ่าน” เป็นการรวมกลุ่มกันของสมาชิกเพือ่ อ่านหนงั สือ ในเรื่องเดียวกัน เน้ือหาเดียวกัน และนำความรู้ เน้ือหาจากหนังสือที่ได้อ่านมาสรุปความคิดรวบยอด แลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้จากการอ่านร่วมกัน เพ่ือเป็นการสังเคราะห์ความรู้จากการอ่านในแต่ละมุมมอง ของสมาชิกแต่ละคนมาจดบันทึกการอ่าน ตลอดจนนำความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวันของสมาชิก แตล่ ะคนต่อไป ในการดำเนินงานชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ครั้งน้ี ศูนย์ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอลี้ มีการวางแผนการดำเนินงานรว่ มกบั กศน.อำเภอ ทงั้ 7 อำเภอ โดยได้รับการประสานความรว่ มมือจาก สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน ในการอำนวยการจัด กิจกรรมตามโครงการ และจัดประชุมคณะกรรมการดำเนินโครงการอย่างต่อเน่ือง จึงเกิดเป็นชมรมคน ลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ขึ้น เพ่ือสร้างชมรมรักการอ่านของนักศึกษา กศน.ท่ัวท้ัง จังหวัดลำพูน ให้ได้ฝึกฝนนิสัยรักการอ่าน การคิด วิเคราะห์ และจดบันทึกการอ่านอย่างสม่ำเสมอ ก่อให้เกิดการอา่ นออก เขยี นได้ อ่านคล่อง ฝกึ การเขียน และฝึกการจดจำรายละเอียดโดยการจดบันทกึ การ อา่ น เกิดการเรียนรู้แบบกลมุ่ ในการแลกเปล่ียนเรยี นรู้รว่ มกันของสมาชกิ และนำความรู้และทักษะทไี่ ด้จาก การอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันของสมาชิกชมรมท้ังในด้านการเรียน การทำงาน การประกอบ อาชีพ และทกั ษะชวี ิต เปน็ ต้น

1.3 ประโยชนแ์ ละความสำคญั ความสำเร็จทป่ี รากฏในเชิงประจกั ษ์ ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอลี้ มนี ักศึกษา กศน. เข้ารว่ มสมัครเป็นสมาชิกชมรมคนลำพูนรกั การอา่ น Lamphun Reading Club จำนวน 90 คน จากการดำเนินกิจกรรม พบว่า สมาชิกชมรมได้รับการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ฝึกการคิด วิเคราะห์ และฝึกการจดบันทึกการอ่าน รวมถึงสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ิตประจำวนั ของตนเอง ตลอดจนมีพฤติกรรมการอ่านที่เปลี่ยนแปลงไป ซ่ึงจากการสำรวจแบบประเมิน พฤติกรรมการอ่าน ทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม พบว่า สมาชิกชมรมอ่านหนังสือบ่อยข้ึน จากท่ีก่อน เข้าร่วมกิจกรรมมีการอ่านหนังสือมากที่สุด 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เปล่ียนไปเป็นอ่านหนังสือมากที่สุด 3-4 ครั้งต่อสัปดาหห์ ลังจากเข้าร่วมกจิ กรรม และอ่านมากขึ้นจำนวน 21-30 บรรทัดตอ่ วนั จากเดิมท่ีอ่านเพียง 11-20 บรรทัดตอ่ วัน โดยสมาชิกชมรมอ่านหนังสือจากแหล่งสารสนเทศ ประเภทสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ Facebook Twitter Line มากท่ีสุดทั้งก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนั้นยังพบว่าสมาชิกชมรมมี ความจำเก่ียวกบั เน้ือหาท่ีอ่านได้มากข้ึน จากเดิมที่จำไดบ้ ้าง เปลี่ยนแปลงเป็นจำได้และสามารถเลา่ เน้ือหา ได้หลังจากร่วมกิจกรรมรักการอ่าน และสมาชิกชมรมยังเรม่ิ มีการจดบันทึกหลังการอ่านมากข้ึน โดยมกี าร จดบันทึกการอ่านเป็นคร้ังคราว จากเดิมท่ีไม่มีการจดบันทึกเลย รวมถึงมีความเข้าใจในเน้ือหาท่ีอ่านมาก ยิ่งขึ้น และสามารถอธิบาย ถ่ายทอดให้แก่คนในครอบครัวได้ ในด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านสู่การ นำไปใช้มากท่ีสุด ได้แก่ อา่ นเพื่อความบันเทิงเริงใจ อ่านเพ่ือนำไปประกอบอาชีพ อ่านเพื่อเพ่ิมพูนความรู้ ทนั ต่อเหตกุ ารณ์ และอา่ นเพ่ือเตรยี มสอบ สว่ นดา้ นปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการอ่านของสมาชิกชมรมมาก ท่ีสุด ได้แก่ การไม่มีเวลาว่างในการอ่าน อุปกรณ์/โทรศัพท์มือถือไม่เอ้ืออำนวย ไม่มีเงินซื้อหนังสือ/ค่า เดินทางมาห้องสมุด ไม่มีสมาธิ อ่านหนังสือไม่คล่อง และไม่มีหนังสือท่ีตนเองสนใจ จากการสำรวจ พฤติกรรมการอ่าน ทำให้ กศน.อำเภอล้ี มองเห็นความสำเร็จของชมรมรักการอ่านและรับรู้ถึงช่องโหว่ ปัญหาของสมาชิกท่ีต้องร่วมกันแก้ไข ปรับปรุง พัฒนา ต่อยอดชมรมคนลำพูนรกั การอ่าน เพ่ือสร้างสังคม แห่งการอา่ น และการเรยี นร้ใู ห้อยคู่ ูส่ ังคมไทยตอ่ ไป

องค์ประกอบที่ 2 ด้านกระบวนการพฒั นานวัตกรรม 2.1 วัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมาย 2.1.1 เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านและส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียน โดยมี จุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนรักการอ่านมากข้ึน มีพฤติกรรมการอ่านที่ดีข้ึน และผลสัมฤทธ์ิในรายวิชาภาษาไทย ของผู้เรียนเพิ่มขึ้น 2.2 หลกั การ ทฤษฎี แนวคิดในการพฒั นา 2.2.1 ทฤษฎีการเรียนรู้สำหรบั ผใู้ หญ่ โนลล์ (Malcolm S. Knowles) ได้สรุปพื้นฐานของทฤษฎีการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ สมัยใหม่ (Modern Adult Learning Theory) ซ่ึงมีสาระสำคัญ ต่อไปนี้ (Knowles,1978 อ้างถึงใน สุวฒั น์ วฒั นวงศ์ม, 2547) 1. ความต้องการและความสนใจ (Needs and Interests) ผู้ใหญ่จะถูกชักจูงให้เกิด การเรยี นรไู้ ด้ดี ถ้าหากตรงกบั ความต้องการและความสนใจในประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาก็จะเกิดความพึง พอใจ เพราะฉะนั้นควรจะมีการเริ่มต้นในส่ิงเหล่าน้ีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมท้ังหลาย เพอ่ื ใหผ้ ้ใู หญ่เกิดการเรยี นร้นู ั้นต้องคำนงึ ถึงสงิ่ นี้ด้วยเสมอ 2. สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้ใหญ่ (Life Situation) การเรียนรู้ของผู้ใหญ่จะ ได้ผลดีถ้าหากถือเอาตัวผู้ใหญ่เป็นศูนย์กลางในการเรียนการสอน (Life-Centered) ดังนั้น การจัดหน่วย การเรียนที่เหมาะสมเพื่อการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ ควรจะยึดถือเอาสถานการณ์ทั้งหลายท่ีเก่ียวข้องกับชีวิต ผใู้ หญ่เป็นหลกั สำคญั มิใช่ยึดท่ีตัวเนื้อหาวชิ าท้ังหลาย 3. การวเิ คราะห์ประสบการณ์ (Analysis of Experience) เน่อื งจากประสบการณเ์ ป็น แหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณค่ามากท่ีสุดสำหรับผู้ใหญ่ ดังนั้น วิธีการหลักสำคัญของการศึกษาผู้ใหญ่ก็คือ การ วิเคราะห์ถึงประสบการณ์ของผู้ใหญ่แต่ละคนอย่างละเอียดว่ามีส่วนไหนของประสบการณ์ที่จะนำมาใช้ใน การเรียนการสอนได้บา้ ง แลว้ จงึ หาทางนำมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ไป 4. ผู้ใหญ่ต้องการเป็นผู้นำตนเอง (Self-Directing) ความต้องการที่อยู่ในส่วนลึกของ ผู้ใหญ่ก็คือ การมีความรู้สึกต้องการท่ีจะสามารถนำตนเองได้ เพราะฉะนั้นบทบาทของครูจึงอยู่ใน กระบวนการสืบหาหรือค้นหาคำตอบร่วมกันกับผู้เรียน (Mutual Inquiry) มากกว่าการทำหน้าที่ส่งผ่าน หรอื เปน็ สอื่ สำหรบั ความรู้ แล้วทำหน้าทป่ี ระเมนิ ผลวา่ เขาคลอ้ ยตามหรือไม่เพยี งเท่านั้น 5. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Difference) ความแตกต่างระหว่าง บุคคลจะเพ่ิมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละบุคคลเมื่อมีอายุเพ่ิมมากข้ึน เพราะฉะนั้นการสอนนักศึกษาผู้ใหญ่ จะต้องจัดเตรียมการในด้านน้ีอย่างดีพอ เช่น รปู แบบของการเรียนการสอน (Style) เวลาที่ได้ทำการสอน สถานท่ีสอน และประการสำคัญ คือ ความสามารถในการเรียนรู้ในแต่ละขั้นของผู้ใหญ่ ย่อมเป็นไปตาม ความสามารถของผู้ใหญ่แตล่ ะคน (Pace of Learning) 2.2.2 ทฤษฎกี ารเรยี นรูแ้ บบการวางเงอ่ื นไขของสกินเนอร์ (การเสริมแรง) สกินเนอร์ (B.F. Skinner) มีแนวคิดว่า การเรียนรู้เกิดข้ึนภายใต้เงื่อนไขและสภาวะ แวดล้อมที่เหมาะสม เพราะทฤษฎีนี้ต้องการเน้นเรื่องส่ิงแวดล้อม สิ่งสนับสนุนและการลงโทษ โดยมองว่า พฤติกรรมของมนุษย์เป็นพฤติกรรมที่กระทำต่อส่ิงแวดล้อมของตนเอง พฤติกรรมของมนุษย์จะคงอยู่

ตลอดไป จำเป็นตอ้ งมีการเสริมแรง หมายถงึ ผลของพฤตกิ รรมใดๆ ทีท่ ำใหพ้ ฤติกรรมน้นั เขม้ แข็งขึ้น ซ่งึ การ เสริมแรงน้ีมีท้ังการเสริมแรงทางบวก (Positive Reinforcement) หมายถึง สภาพการณ์ที่ช่วยให้ พฤติกรรมโอเปอแรนท์เกิดขึ้นในด้านความท่ีน่าจะเป็นไปได้ ได้แก่ การให้รางวัล การยกย่องชมเชย และ การเสริมแรงทางลบ (Negative Reinforcement) เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์อาจจะทำให้ พฤติกรรมโอเปอแรนท์เกิดข้นึ ได้ ไดแ้ ก่ การลงโทษ การวา่ กลา่ วตักเตอื น เป็นตน้ ในการดา้ นการเสริมแรงน้ันทุกขั้นตอนของการจดั กิจกรรม ควรให้การเสรมิ แรง โดยการ ชมเชยหรอื ใหแ้ รงจูงใจ โดยวธิ ีการต่าง ๆ เช่น การใหร้ างวัล ท้ังน้เี พราะมนุษย์ต้องการให้ผู้อ่ืนสนใจตนหรือ เห็นว่าตนเองสำคัญกว่าคนอ่ืน การให้แรงจูงใจจะทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ อยากได้รับรางวัล หรือคำ ชมเชย และพอใจท่ีจะเรยี นรูอ้ ีกดว้ ย (มัณฑรา ธรรมบุศย์, ม.ป.ป) 2.3 การออกแบบและแนวทางการพัฒนา การดำเนินกิจกรรมชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ประจำปี งบประมาณ 2564 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอล้ีได้ดำเนินการตามวงจร PDCA ดังนี้ ➢ ข้ัน P (Plan) : วางแผนกำหนดแนวทางในการจดั ตงั้ ชมรมรว่ มกนั 1. มีการประชุมวางแผนและออกแบบรูปแบบการจัดกิจกรรมโครงการชมรมคนลำพูนรักการอ่าน ร่วมกับผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอ กลุ่มงานการจัดการศึกษา ตามอัธยาศยั สำนกั งาน กศน.จังหวัดลำพูน และบรรณารกั ษห์ อ้ งสมดุ ประชาชนทั้ง 8 อำเภอ 2. กำหนดตัวชวี้ ัดแบบสำรวจพฤตกิ รรมการอา่ น ใบสมคั รสมาชกิ และรปู แบบสมดุ บันทึกการอ่าน 3. ชแ้ี จงกิจกรรมชมรมคนลำพนู รักการอ่านใหแ้ กผ่ ทู้ เ่ี กี่ยวขอ้ งในแตล่ ะอำเภอทราบ ➢ ขัน้ D (Do) : จัดตั้งชมรมคนลำพูนรกั การอ่านและดำเนนิ การจัดกจิ กรรมตามโครงการ 1. ประชาสัมพันธ์รับสมัครสมาชิกชมรม และชี้แจงกิจกรรมชมรม Lamphun reading club แกน่ ักศกึ ษาในงานปฐมนิเทศนักศกึ ษา 2. จดั มุมความรู้และรวบรวมหนังสือเกย่ี วกับ “ศาสตรพ์ ระราชา” ณ หอ้ งสมุดประชาชน อำเภอล้ี จงั หวดั ลำพูน เพอ่ื เป็นแหล่งค้นควา้ แกส่ มาชิกชมรมฯ และผู้สนใจ 3. บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ร่วมกับครู กศน.ตำบล ดำเนินการจัด กิจกรรมชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club โดยมีสมาชิกชมรม จำนวน 90 คน ณ ห้องสมุดประชาชนอำเภอลี้ โดยมขี ้นั ตอน ดังนี้ 3.1 ให้สมาชิกชมรมทำแบบประเมินพฤติกรรมการอ่านก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และ บรรณารกั ษว์ ิเคราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมูลพฤติกรรมการอา่ นของสมาชิกก่อนเขา้ ร่วมกิจกรรม 3.2 ให้สมาชิกชมรมอ่านหนังสือทั้งในรูปแบบส่ิงพิมพ์ และอิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ในหัวข้อ ศาสตรพ์ ระราชา และโคก หนอง นา โมเดล 3.3 ใหส้ มาชิกชมรมแต่ละคนสรปุ ความรู้-ข้อคิดท่ีได้ลงสมุดบันทกึ การอา่ น ตามหลกั 5W1H ได้แก่ อ่านเร่ืองอะไร (What) ใครแต่ง (Who) แต่งเมื่อไหร่ (When) จัดพิมพ์ที่ไหน (Where) ได้รับความรู้/ ข้อคิดอะไรบ้างจากการอ่าน ทำไมจึงคิดแบบน้ัน (Why) และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างไรบ้าง (How)

3.4 ให้สมาชกิ ชมรมรวมกลุ่มเพอื่ แลกเปล่ียน เรียนรู้เก่ยี วกบั หนังสอื ที่อ่าน โดยเขียนแสดง ความคิดของตนเองหน้าชั้นเรียน และสรุปความรู้ที่ได้รับจากการอ่านในรูปแบบแผนภาพความรู้ (My Mapping) 4. พัฒนารูปแบบกิจกรรมเพ่ือให้สอดคล้องกับสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 โดยเน้นกิจกรรมออนไลน์ สร้างแบบบันทกึ การอา่ นออนไลน์ คลังความรู้ออนไลน์ แบบทดสอบ และ เกมกระต้นุ การอา่ นออนไลน์ ➢ ข้นั C (Check) : ตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลชมรมคนลำพูนรักการอา่ น 1. ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอลี้ ร่วมสังเกตการณ์ ในการจัดกจิ กรรมตามโครงการชมรมรักการอ่าน ทุกคร้งั เพือ่ ตรวจสอบ ติดตาม ใหข้ อ้ เสนอแนะ และแนวทางในการพฒั นารปู แบบการจัดกิจกรรมให้ดีย่ิงขึ้น 2. สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน จัดประชุมกลุ่มย่อยบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนในจังหวัด ลำพูนเป็นประจำทุกเดือน เพ่ือติดตามผลการการดำเนินกิจกรรมตามโครงการชมรมคนลำพูนรกั การอ่าน และหาแนวทางในการแกไ้ ขปญั หารว่ มกัน 3. สมาชิกชมรมกรอกแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมของชมรม และทำแบบสำรวจ พฤติกรรมการอ่านหลังเข้าร่วมกิจกรรม บรรณารักษ์สังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ และ พฤตกิ รรมการอ่านของสมาชิกหลังเขา้ ร่วมกจิ กรรม ➢ ข้ัน A (Action) : สรุปผลการดำเนินกิจกรรมชมรมคนลำพนู รักการอา่ น 1. กลุ่มงานการศึกษาตามอัธยาศัย กศน.อำเภอลี้ สรุปผลการดำเนินกิจกรรม ชมรมคนลำพูนรัก การอ่าน Lamphun Reading Club ทง้ั แบบรปู เล่มและเผยแพร่ผา่ นสอื่ ออนไลน์ 2. สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน จัดประชุมสรุปผลการติดตามประเมินผล ชมรมคนลำพูน รักการอ่าน Lamphun Reading Club และถอดบทเรียนการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข และ นำคำแนะนำไปพัฒนา ต่อยอด การจัดกจิ กรรมในคร้งั ตอ่ ไป ปัจจยั ปอ้ น ในการขับเคลื่อนชมรมคนลำพูนรักการอ่านให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ จำเปน็ ตอ้ งอาศัยปัจจัยปอ้ นตามหลัก 4M1E ดังนี้ ➢ คน (Man) : การบริหารจดั การคน ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัด และผู้อำนวยการ กศน.อำเภอ ให้การสนับสนุนและ อำนวยการจัดต้งั ชมรมคนลำพูนรักการอา่ น ผรู้ ับผิดชอบโครงการมคี วามรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในเรอื่ ง การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และได้รับความร่วมมือจาก ครูกศน.ตำบล ครู ศรช. ครู ปวช. และครู อาสาสมัคร ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านร่วมกัน ดูแล และช่วยเหลือนักศึกษา ตลอดจนได้รับความ รว่ มมือในการเข้าร่วมกจิ กรรมจากสมาชิกชมรมซง่ึ มีความม่งุ มัน่ ตัง้ ใจ และมที ัศคติที่ดตี อ่ การอา่ น ➢ งบประมาณ (Money) : การบริหารงบประมาณ ในการจัดกิจกรรมชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ได้รับการอนุมัติ งบประมาณงบบริหารหอ้ งสมุด จากศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอล้ี ในจัดซื้อ วัสดุ อุปกรณ์ ป้ายโครงการ และเอกสารที่ใช้สำหรับจัดกิจกรรม และได้รับการจดั สรรสมุดบันทึกการอ่าน และหนงั สอื โคกหนองนาโมเดล จาก สำนักงาน กศน.จงั หวดั ลำพนู ➢ สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ (Material) : การบรหิ ารทรัพยากร

การขับเคล่ือนชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading ให้บรรลุวัตถุประสงค์น้ัน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการสนับสนุนทรัพยากรจากหน่วยงานภาคเี ครือขา่ ย ได้แก่ การออกแบบ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และการยืมทรัพยากรสารสนเทศระหว่างห้องสมุดประชาชนในจังหวัดลำพูน หนังสือเรื่องศาสตร์พระราชา และโคก หนอง นา โมเดล เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมบันทึกการอ่าน นอกจากนั้น การใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมต้องใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด โดยเนน้ ความพอเพยี งและเหมาะสมกบั กิจกรรมเป็นหลัก ➢ การบริหารจดั การ (Method) : การบริหารจดั การดำเนินงาน กศน.อำเภอล้ี ได้นำหลักบริหารจัดการดำเนินงานตามวงจร PDCA เพื่อสร้างสังคมแห่งการอ่าน และการเรยี นรใู้ ห้เกิดข้นึ ในอำเภอล้ี จังหวัดลำพูน ➢ สภาพแวดลอ้ ม (Environment) : การบรหิ ารจัดการส่งิ แวดลอ้ ม บรรยากาศ อาคาร สถานท่ี สภาพแวดล้อมในการอ่านเป็นปัจจัยสำคัญท่สี ่งผลกระทบตอ่ พฤตกิ รรมการอ่านของสมาชิกชมรม หากมีอาคาร สถานที่ บรรยากาศ สภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือต่อการอ่านย่อมส่งผลใหผ้ ู้อ่านมีพฤตกิ รรมการอ่าน ทด่ี ีขึน้ ในการจดั กจิ กรรมชมรมคนลำพูนรักการอ่าน กศน.อำเภอล้ี ได้จัดมุมศาสตร์พระราชา และศาลาฮัก เฮียน โดยรวบรวมหนังสือ สื่อท้ังรูปเล่มและสื่อออนไลน์ท่ีต้องใช้ในการอ่าน และจัดสถานที่ให้สวยงาม น่านั่งอ่านหนังสือ สร้างบรรยากาศท่ีเหมาะสมกับการอ่าน รวมไปถึงการช่วยเหลือ ดูแลอย่างใกล้ชิดของ ครูผ้สู อน ทำใหส้ มาชกิ เกดิ ความรสู้ ึกผ่อนคลายและพรอ้ มท่จี ะทำกิจกรรมมากย่งิ ขึ้น แผนภาพแสดงขั้นตอนการออกแบบและพัฒนานวตั กรรม

2.4 การมสี ่วนร่วมในการพฒั นา 2.4.1 ได้รับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมจากผู้อำนวยการ กศน.จังหวดั ลำพูน ในการจัด ประชุมบรรณารักษ์ห้องสมุดเพอื่ ออกแบบกิจกรรมรว่ มกันเป็นประจำทกุ เดอื น 2.4.2 ได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการ กศน.อำเภอลี้ในการอนุมัติคะแนนกิจกรรม พัฒนาคณุ ภาพชวี ิต (กพช.) และร่วมเปน็ ประธานในการเปิดโครงการ ตลอดจนร่วมนเิ ทศการจัดกิจกรรมทุก ครงั้ 2.4.3 ได้รับความร่วมมือจาก ครู กศน.ตำบล ในการร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ ดูแล กำกบั ติดตามนักศกึ ษา ตลอดจนประชาสมั พันธ์ใหน้ ักศึกษาเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.4.4 ได้รับความร่วมมือท่ีดี จากนักศึกษา กศน. ในการเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปล่ียน เรียนรู้ 2.4.5 ได้รบั ความอนุเคราะหห์ นังสอื สอ่ื จากหอ้ งสมุดอ่ืนๆ 2.4.6 มีมุมชมรมรักการอา่ นทพ่ี ร้อมทง้ั สอ่ื และสงิ่ อำนวยความสะดวก 2.4.7 หอ้ งสมดุ มบี รรยากาศในการสง่ เสริมการอา่ นทดี่ ี 2.4.8 มกี ารสำรวจพฤตกิ รรมการอา่ นของสมาชกิ แตล่ ะราย 2.5 การนำไปใช้ 2.5.1 ประชาสัมพันธ์รับสมัครสมาชิกชมรม และชี้แจงกิจกรรมชมรม Lamphun reading club แกน่ กั ศกึ ษาในงานปฐมนเิ ทศนักศึกษา 2.5.2 จดั มมุ ความรู้และรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับ“ศาสตร์พระราชา”ณ หอ้ งสมุดประชาชน อำเภอล้ี จงั หวัดลำพนู เพื่อเปน็ แหล่งคน้ ควา้ แกส่ มาชิกชมรมฯ และผสู้ นใจ 2.5.3 บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชนอำเภอล้ี จังหวัดลำพูน ร่วมกับครู กศน.ตำบล ดำเนินการจัดกิจกรรมชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club โดยมีสมาชิกชมรม จำนวน 90 คน ณ ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอล้ี โดยมีขน้ั ตอน ดงั นี้ 1) ให้สมาชิกชมรมทำแบบประเมนิ พฤติกรรมการอ่านก่อนเขา้ ร่วมกิจกรรม และ บรรณารกั ษว์ เิ คราะห์ สงั เคราะห์ข้อมลู พฤติกรรมการอา่ นของสมาชิกกอ่ นเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2) ให้สมาชิกชมรมอ่านหนังสือท้ังในรูปแบบส่ิงพิมพ์ และอิเล็กทรอนิกส์ (e- book) ในหัวข้อ ศาสตร์พระราชา และโคก หนอง นา โมเดล 3) ใหส้ มาชกิ ชมรมแต่ละคนสรปุ ความรู้-ข้อคิดทีไ่ ดล้ งสมุดบันทึกการอ่าน ตามหลัก 5W1H ได้แก่ อ่านเร่ืองอะไร (What) ใครแต่ง (Who) แต่งเม่ือไหร่ (When) จัดพิมพ์ท่ีไหน (Where) ได้รับ ความรู้/ข้อคิดอะไรบ้างจากการอ่าน ทำไมจึงคิดแบบน้ัน (Why) และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างไรบ้าง (How) 4) ให้สมาชิกชมรมรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้เกี่ยวกับหนังสือที่อ่าน โดย เขยี นแสดงความคิดของตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น และสรุปความรู้ท่ไี ด้รบั จากการอ่านในรปู แบบแผนภาพความรู้ (My Mapping)

2.6 การประเมนิ และการปรับปรงุ 2.6.1 ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอล้ี ร่วมสงั เกตการณ์ ในการจัดกิจกรรมตามโครงการชมรม รักการอ่านทุกครั้ง เพ่ือตรวจสอบ ติดตาม ให้ข้อเสนอแนะ และแนวทางในการพัฒนารูปแบบการจัด กิจกรรมใหด้ ีย่ิงขึ้น 2.6.2 สำนักงาน กศน.จังหวัดลำพูน จัดประชุมกลุ่มย่อยบรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน ในจังหวัดลำพูนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อติดตามผลการการดำเนินกิจกรรมตามโครงการชมรมคนลำพูน รักการอ่าน และหาแนวทางในการแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั 2.6.3 สมาชิกชมรมกรอกแบบประเมนิ ความพึงพอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมของชมรม และทำ แบบสำรวจพฤติกรรมการอ่านหลังเข้าร่วมกิจกรรม บรรณารักษ์สังเคราะห์และวิเคราะห์ข้อมูลความ พึงพอใจ และพฤติกรรมการอ่านของสมาชิกหลงั เขา้ ร่วมกิจกรรม องค์ประกอบท่ี 3 ด้านผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนินงานตามนวัตกรรม 3.1 ผลทีเ่ กิดขน้ึ กบั สถานศึกษาและผบู้ ริหาร ศูนย์การศึกษานกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอล้ี ให้ความสำคัญในการพัฒนา ศักยภาพครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั มีคุณภาพตามระดบั มาตรฐานทก่ี ำหนด โดยสง่ เสริมให้ครผู ู้สอนและบุคลากรสร้างสรรค์นวัตกรรม ด้านการศึกษาอย่างสม่ำเสมอและได้รบั การพัฒนาตามศักยภาพอยา่ งต่อเนื่อง ให้เห็นถึงความสำคญั ในการ สร้างนวตั กรรมเพือ่ สนับสนุนการศึกษา และใช้เทคโนโลยีไดอ้ ย่างเหมาะสม 3.1.1 มขี ้อมูลสารสนเทศของสถานศึกษา สถานศึกษามีข้อมูลสารสนเทศท่ีสามารถสืบค้นได้ และนำเสนอ/ประชาสัมพันธ์ การจัดกิจกรรม นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ เร่ือง ชมรมคนลำพนู รกั การอา่ น ใหแ้ ก่นกั ศกึ ษาและประชาชน ได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างต่อเน่ือง มีข้อมูลสารสนเทศด้านผลการทดสอบทางการศึกษาท่ีเป็นข้อบ่งช้ีถึง ความสำเรจ็ ของการจดั กจิ กรรม 3.1.2 มีการดำเนินงานการจดั การเรยี นรู้อยา่ งเป็นระบบ นักศึกษาของ กศน.อำเภอล้ี ได้รับการศึกษาตามอัธยาศัย ผา่ นกิจกรรมชมรมคน ลำพูนรักการอ่าน โดยมีการออกแบบการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อให้นักศึกษา ผู้สอน มีความ เข้าใจตรงกัน และใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทกุ เวลา ตลอดจนมีการวัดผลประเมนิ ผลท่ีมปี ระสิทธิภาพและมีประสทิ ธิผล 3.1.3 การมเี ครือขา่ ยพฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา ในการดำเนินกิจกรรม ชมรมคนลำพูนรักการอ่าน Lamphun Reading Club ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด กศน.อำเภอท้ัง 8 แห่งในจังหวัดลำพูน บรรณารักษ์ห้องสมุด ครู กศน. ตำบล ในการสรา้ งสรรค์ ออกแบบ พัฒนานวตั กรรมการจดั การเรยี นรรู้ ่วมกนั โดยมีการประชุมวางแผนการ จัดกิจกรรม นิเทศติดตาม และประเมินผลให้ข้อเสนอแนะ และข้อแนะนำในการพัฒนารูปแบบการจัด กิจกรรมในสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันถ่วงที เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไป ตามระดับมาตรฐานทีก่ ำหนด

3.2 ผลทเี่ กิดขึ้นกบั ผู้เรียน 3.2.1 ผู้เรยี นมีคะแนนผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติขน้ั พ้นื ฐาน (O-NET) ผา่ นเกณฑเ์ พ่ิมข้ึน ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่านและมีพฤติกรรมการอ่านท่ีดีข้ึน จากการจัดกิจกรรม พบว่า ผเู้ รยี น รอ้ ยละ 80 มผี ลสัมฤทธก์ิ ารอ่านเพมิ่ ข้ึน และผ้เู รยี นรอ้ ยละ 80 มพี ฤติกรรมการอา่ นทดี่ ีขึน้ สง่ ผลให้ ผู้เรียนมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน (N-NET) รายวชิ าภาษาไทย (คา่ สถิติจำแนกตามระดับอำเภอ) เพมิ่ ขน้ึ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธ์ใิ นรายวชิ าภาษาไทย (100 คะแนน) ระดับ ปกี ารศึกษา ภาคเรยี นที่ 1/2563 ภาคเรียนที่ 2/2563 ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนตน้ 54.00 66.25 มัธยมศึกษาตอนปลาย 46.71 49.14 43.14 45.52 ปญั หาอุปสรรค 1. ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของนักศึกษาบางคน ซึ่งในการจัดกิจกรรมต้องมีคณะครู บรรณารกั ษ์ คอยช่วยเหลือกำกบั ตดิ ตามในการอา่ นอยา่ งสมำ่ เสมอ 2. ปัญหาด้านจำนวนหนังสอื สอื่ ท่ีใช้ในการจดั กิจกรรมการอา่ นมีจำนวนำไมเ่ พยี งพอต่อนักศึกษา ทำให้ตอ้ งขอความร่วมมอื ในการยมื หนงั สือ ส่ือ จากหอ้ งสมุดประชาชนอำเภออน่ื ๆดว้ ย 3. ปัญหาด้านสมาธิของนักศึกษา ซ่ึงมีสมาธิส้ัน จดจ่อไม่ได้นาน ดังนั้นจึงต้องมีการดึงดูดความ สนใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรมอยเู่ สมอ

ขอ้ เสนอแนะ 1. จัดกิจกรรม “อา่ น-แลก-แตม้ ” เพอ่ื จูงใจให้นกั ศกึ ษาเข้าร่วมกิจกรรมรักการอา่ นมากยงิ่ ข้ึน 2. เรื่องท่ีใช้ในกจิ กรรมรักการอา่ น ควรเปน็ เร่ืองท่ีผอู้ ่านสนใจ เพราะจะสามารถเข้าใจเน้ือหาของ เรอ่ื งน้นั ๆได้ดยี ิ่งข้นึ 3. ขยายผลโครงการชมรมคนลำพนู รักการอ่านไปยงั กลุ่มผู้ใช้บริการห้องสมดุ และโรงเรียนในเขต พ้นื ทีอ่ ำเภอลี้ ตลอดจนสรา้ งเครือขา่ ยชมรมรักการอา่ นทัง้ อำเภอล้ี “เล่มเดียวกนั อ่านทง้ั เมือง”

ภาพประกอบนวตั กรรม ใบสมัครสมาชกิ ชมรม แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการอ่าน สมุดบันทกึ การอา่ น แผนภาพความรูท้ ไี่ ดจ้ ากการอา่ น แผนผงั แลกเปลย่ี นความรู้ ตราสัญลกั ษณช์ มรมคนลำพนู รักการอา่ น กจิ กรรมบันทกึ การอ่าน เรอื่ ง ศาสตรพ์ ระราชา ณ หอ้ งศาสตร์พระราชา หอ้ งสมุดประชาชนอำเภอล้ี ตามหลัก 5W1H กิจกรรมบันทึกการอ่าน เรื่อง โคก หนอง นา โมเดล ณ ศาลาฮักเฮียน ห้องสมดุ ประชาชนอำเภอล้ี ตามหลกั 5W1H สมาชกิ ชมรมรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ีไ่ ดร้ ับจากการอ่านและแลกเปลย่ี นความรรู้ ว่ มกัน

ภาพประกอบนวตั กรรม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook