กระบวนการลงจอดดว้ ยการใชอ้ ุปกรณช์ ่วยลงจอด (ILS) กระบวนการลงจอดที่ใช้อุปกรณ์ช่วยด้วยระบบช่วยลงจอด ILS (Precision Approach Procedures)มีความสัมพันธ์ของความสูงที่ปลอดภัยจากส่ิงกีดขวาง (OCA/OCH) กบั ความสูงตดั สินใจ(DA/DH)สาหรับความสูงท่ีปลอดภัยจากส่ิงกีดขวาง(OCA/OCH)จะมีระยะห่างเหนือจากจุดสูงสุดของส่ิงกีดขวางโดยระยะห่างจะขึ้นอยู่กับความเร็วในการลงของอากาศยาน ความชันของการรอ่ นลงและระดับความสงู ของ aerodromes ทีจ่ ดุ missed approach ซ่ึงตอ้ งทาตามประเภทของความปลอดภยั จากสิ่งกีดขวาง (Obstacle clearance) สาหรับความสูงตัดสินใจ (DA/DH) เป็นความสูงทีใ่ ช้ในการลงจอดท่มี อี ปุ กรณ์ชว่ ยในแนวต้งั (Vertical) จะมรี ะยะ ห่างเหนอื จากจดุ สูงสุดของความสูงทป่ี ลอดภัยจากสง่ิ กีดขวาง (OCA/OCH) ระยะห่างจะข้ึน อยกู่ บั ปัจจัยต่างๆ เชน่ ประเภทของการทางการบนิ สมรรถนะของอากาศยาน,สภาพอากาศและอ่ืนๆ ดังรปู ท่ี 1 รปู ท่ี 1 แสดงความสัมพนั ธ์ของ OCA/H กบั DA/H สาหรบั Precision Approaches
รายละเอยี ดพ้ืนฐานของอปุ กรณ์ชว่ ยลงจอด (ILS) ระบบช่วยลงจอด(ILS)ถูกออกแบบมาเพอื่ ให้เสน้ ทางสาหรบั การบอกตาแหนง่ และการลดระดับของอากาศยานในชว่ งการลงช่วงสุดท้าย(Final approach) จนกระทงั่ ถงึ ทางวง่ิ ซงึ่ ระบบชว่ ยลงจอด(ILS)จะมอี ปุ กรณภ์ าคพื้นประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้ 1.ระบบสง่ สัญญาณบอกทิศทาง (Localizer) Localizerให้คาแนะนาในแนวแกนนอน(Lateral)โดยทัว่ ไปจะประกอบไปดว้ ยเสาอากาศบอกทศิ ทางหลายคู่สญั ญาณซงึ่ ใชอ้ ุปกรณบ์ ันทึกสัญญาณเป็นชว่ งท้ัง2สัญญาณถูกส่งไปกับความถแี่ บบcarrierระหว่าง108.00MHzและ111.975MHzสญั ญาณน้ีจะถูกผสมเขา้ ด้วยกันท่ีความถ่ี90Hzเป็นสัญญาณด้านซ้ายเรยี กวา่ ส่วนสีเหลือง(Yellow sector)และอกี ความถ่ีคือ150Hzเปน็ สญั ญาณด้านขวาเรยี กวา่ ส่วนสีฟ้า (Blue sector) ดงั รปู ที่1ซึ่งเสาอากาศจะทางานร่วมกันแต่สง่ สัญญาณแยก ออกจากกัน แตล่ ะเสาอากาศส่งเป็นสญั ญาณแคบๆประมาณ5องศาแต่อาจจะเปลย่ี นแปลงอยู่ระหวา่ ง3-6องศาความกวา้ งของสญั ญาณจะเพมิ่ ขึ้นเม่อื ระยะทางวิง่ เพม่ิ โดยท่ี10ไมลจ์ ากเครอื่ งสง่ สญั ญาณสัญญาณจะมีความกวา้ งประมาณ1ไมล์นอกจากน้ีlocalizerจะสง่ ข้อความดว้ ยสัญญาณเสียงหรอืไฟทค่ี ล่ืความถี่1020Hzซง่ึ มีการผสมกันของความถ่ี5%เพือ่ เป็นการทาให้รวู้ ่าไดร้ บั ช่องสัญญาณ ILS ถกู ต้องและเสยี งทใ่ี ช้ในการส่อื สารมกี ารผสมสญั ญาณ50% รปู ที่ 1 รูปแสดงลักษณะการปลอ่ ยช่วงสัญญาณของ localizer
หลักการทางานเครอื่ งสง่ สญั ญาณ localizer ภาคพืน้ จะส่งสัญญาณ 2 คล่นื ความถีค่ ือ 90Hz และ 150Hzจากน้ันเคร่อื งรบั สญั ญาณlocalizerบนอากาศยานจะวัดความแตกต่างของการผสมกันของคลืน่ ความถี่90Hzและ150Hzความแตกต่างระหว่าง2สัญญาณจะแปรปรวน ข้ึนอย่ตู าแหน่งและการลงจอด ของอากาศยานอา้ งอิงจากเสน้ กงึ่ กลางทางวงิ่ ถา้เคร่อื งรบั สญั ญาณแสดงผลเปน็ 90Hzแสดงวา่ อากาศยานอยู่ทางด้านซา้ ยของเสน้ กึง่ กลางทางว่ิงใหเ้ คล่ือนทมี่ าทางด้านขวา ถา้ เครือ่ งรับสัญญาณแสดงผลเปน็ 150Hz แสดงวา่ อากาศยานอยทู่ างดา้ นขวาของเส้นกง่ึ กลางทางวง่ิใหเ้ คล่อื นที่มาทางด้าน ซ้ายถา้ แสดงผลท้ัง 90Hz และ 150Hz แสดงวา่ อากาศยานอยู่แนวเดยี วกับเส้นกึง่ กลางทางวง่ิ รปู ที่ 2 รปู แบบรศั มขี องเสาอากาศของLocalizerตาแหนง่ ในการติดตง้ัระบบเสาอากาศlocalizerจะถกู ตดิ ตง้ั ไว้ตรงปลายทางว่ิงด้านตรงข้ามกับหวั ทางวิ่งท่อี ากาศยานรอ่ นลงขยายออกมาจากเสน้ กง่ึ กลางทางวงิ่ ประมาณ300–600เมตร(1,000–2,000ฟตุ )ตัวสง่ สญั ญาณหลักของlocalizerมกั จะตดิ ต้ังอยู่ด้านขา้ งของเสาอากาศประมาณ100–200เมตรนอกจากการติดตัง้ localizer ตามปกตแิ ล้ว localizer สามารถทจ่ี ะติดต้ังไดอ้ ีกแบบ นนั้ คอื การติดตงั้ แบบวางเอียง(Offset) โดยวถิ ขี องlocalizerจะตอ้ งตดั กบั เสน้ กึ่งกลางทางวงิ่ ท่ลี ากยาวเพมิ่ ขึ้นออกมาโดยจะต้องทามุมกันไม่เกนิ 5องศาและตรงจุดทีต่ ัดกัน (Intercept point) จะต้องมคี วามสูง อย่างน้อย 55 m (180 ft) จากปลายทางวิ่ง เรยี ก
ความสูง ณ จดุ ตัดน้นั วา่ (Intercept height)โดยความสูงน้ันได้จากการคานวณมุมของglideslopeที่ความชันปกติดังรปู ที่ 3 รปู ท่ี 3 แสดงลกั ษณะระบบช่วยลงจอดแบบ Off set localizer รปู ที่ 4 รูปเสาอากาศLocalizer ท่ตี ดิ ตง้ั บรเิ วณปลายทางว่ิง
2.ระบบสง่ สญั ญาณแนวร่อน (Glideslope) Glide slope ใหค้ าแนะนาในแนวตง้ั (Vertical) สัญญาณ glide slope จะถูกส่งเป็นความถแ่ี บบcarrierระหวา่ งความถี่329.15และ335MHzซ่ึงหลักการคล้ายกบั localizerประกอบไปด้วยสัญญาณที่ผสมกันทคี่ วามถ่ี90Hzเป็นสญั ญาณด้านบนของ glideslope และ 150 Hz เป็นสญั ญาณดา้ นล่างดงั รูปท่ี6 เส้นกึ่งกลางของสัญญาณ Glide slopeจะอยปู่ ระมาณ3องศาเหนือระดับพืน้ ดนิ ซงึ่ อาจจะสูงกว่านี้ขน้ึ อยู่กบั สภาพของภูมปิ ระเทศลกั ษณะของสัญญาณคลน่ื glideslopeในส่วนของสญั ญาณ ที่ซอ้ นกนั มคี วามหนาประมาณ1.4องศาในแนวตัง้ คอื สงูกวา่ เสน้ กง่ึ กลางของ glideslope 0.7 องศาและต่ากวา่ เส้นก่ึงกลางของ glide slope0.7องศาสาหรับความกว้างสัญญาณของ glide slope อาจจะ แตกตา่ งประมาณ 2–4 องศา จากแนวราบของอากาศยาน รูปท่ี5 ภาพแสดงลักษณะการปลอ่ ยช่วงสัญญาณของ glideslopeหลกั การทางานเคร่อื งสง่ สญั ญาณ glide slope ภาคพืน้ จะส่งสัญญาณ 2 คล่นื ความถค่ี อื 90Hz และ 150Hzจากนัน้ เครื่องรบัสญั ญาณglideslopeบนอากาศยานจะวัดความแตกตา่ งของการผสมกนั ของคลืน่ ความถี่90Hzและ150Hzความแตกต่างระหว่าง2สัญญาณจะแปรปรวนขึ้นอยู่กบั ระดบั ความสงู แนวรอ่ นของการลงจอดของอากาศยานถ้าเคร่อื งรบั สญั ญาณแสดงผลเปน็ 90Hzแสดงวา่ อากาศยานอยเู่ หนือแนวร่อนให้ลดระดับการรอ่ นลงถา้ เคร่อื งรับสัญญาณแสดงผลเปน็ 150Hzแสดงวา่ อากาศยานอยดู่ า้ นล่างแนวร่อนใหเ้ พ่ิมระดบั การร่อนข้ึนและถา้ แสดงผลท้งั90Hzและ150Hzแสดงว่าอากาศยานอยู่ แนวเดยี วกับแนวรอ่ น
รูปที่ 6 รปู แบบรัศมีของเสาอากาศของGlideslope ตาแหน่งในการตดิ ตัง้เคร่ืองสง่ สญั ญาณglideslopeและเสาอากาศจะติดต้งั อยขู่ ้างทางวิ่งบรเิ วณใกล้จดุ ที่ลอ้ แตะพน้ื ทางวง่ิ(Touchdown zone) ซงึ่ ต้งั อย่ปู ระมาณ 225 – 380 เมตร (750 - 1250 ฟุต)จากปลายทางวงิ่ และหา่ ง250-650ฟตุ จากเส้นกลางทางวงิ่ หา่ งจากthresholdลงมาประมาณ55ฟุต รปู ท่ี 7 รูปแสดงเคร่อื งส่งสญั ญาณท่ตี ิดตัง้ อยบู่ ริเวณขา้ งทางว่ิง
3. ระบบสง่ สญั ญาณบอกระยะทาง (Marker beacons)Marker beacons ทางานทีค่ วามถ่ีcarrierที่75MHzซึ่งจะถกู ตง้ั ขวางกับสญั ญาณทส่ี ง่ออกมาด้านหนา้ ของLocalizerมีอานาจแรงม้าสูงสดุ 3วตั ต์หรือนอ้ ยกวา่ สญั ญาณทถ่ี กู ส่งออกมาจะเปน็ ลกั ษณะวงรีจากพืน้ ดนิ มคี วามสูงอยู่ที่1,000ฟตุ จากพนื้ ขนาดของสญั ญาณความยาว2,400ฟุตและ กว้าง 4,200 ฟตุ โดยปกติจะมี 2 marker beacons ท่ี เก่ียวขอ้ งกับ ระบบช่วยลงจอด (ILS) คือ outer marker (OM) และ middlemarker (MM) สาหรบั ในสถานท่ีท่ีมี category II ระบบช่วยลงจอด (ILS) ก็ยังมี inner marker (IM) ซ่ึงรายละเอียดของ marker beacons มี 3 แบบ ดังนี้ 1 Outer marker (OM)จุดประสงคข์ อง outer marker เพอ่ื ใหค้ วามสงู ,ระยะทางและตรวจสอบอุปกรณข์ องอากาศยานในช่วงการลงชว่ งกลาง (Intermediate approach) และชว่ งการลงช่วงสดุ ทา้ ย (Final approach)สญั ญาณจะส่งแบบเสยี งเสียงต่าคอื dashes(-)ผสมสัญญาณท่ีความถี่400Hzในอตั รา2ตัวต่อวนิ าทจี ะตัดกบั สัญญาณglideslopeที่ความสูง1,400ฟุตเหนือ ระดบั ทางว่ิง (Runway elevation) สญั ญาณที่รับจะเห็นเปน็ สฟี ้า(Blue)ปรากฏข้นึ ในหอ้ งนักบิน รูปท่ี 8 รปู แสดงสัญญาณไฟในเขต Outer marker ในหอ้ งนักบนิ 2 Middle marker (MM)จดุ ประสงค์ของ middle marker เพ่ือบอกความอนั ตรายในสภาพทัศนวิสัยย่าแย่ของการทาการลงแบบใช้สายตา(Visual approach) จดุ missed approach และจดุ ท่ีมองเหน็ แล้วอาจทาให้เกดิ อนั ตรายบนทางวิ่ง สญั ญาณจะสง่ แบบเสียง กลาง คือ dots (.) และ dashes (-)ในอัตรา95ค่ตู อ่ นาทผี สมสัญญาณท่ีความถี่1,300Hzสที ีป่ รากฏเปน็ สีอมั พัน(Amber)ปรากฏขึ้น ในหอ้ งนกั บนิ รูปท่ี 9 รปู แสดงสญั ญาณไฟในเขต Middle marker ในห้องนักบนิ
3 Inner marker (IM)จดุ ประสงคข์ อง inner marker เพือ่ บอกสภาพทัศนวิสยั ที่ ย่าแย่ ในขณะท่ี ใกล้เขา้ สู่ threshold ทางว่ิงสญั ญาณจะสง่ แบบเสยี งสงู คือ dots (.) ที่ ความถ่ี 3000 Hz ใน อัตรา6ตวั ต่อวินาทีสที ปี่ รากฏเปน็ สขี าว(White)ปรากฏข้นึในห้องนักบนิ รูปท่ี 10 รูปแสดงสญั ญาณไฟในเขต Inner marker ในหอ้ งนกั บนิ หลักการทางานMarker beacons จะทาการส่งสญั ญาณในแนวต้ัง (Vertical) เม่ืออากาศยานเคลอื่ นท่ีผา่ นสัญญาณจะแสดงผลสัญญาณทเ่ี ครอ่ื งวดั บนแผงหน้าจอของนกั บินและเป็นสัญญาณเสียงใหน้ ักบนิ ได้รบั ทราบถึงตาแหน่งตามสญั ญาณแสงและเสยี งทไ่ี ด้รบั ในแต่ละแบบของ marker beacons รูปท่ี 11 รูปแสดงชว่ งการส่งสญั ญาณในระยะต่างๆของ Marker beacons
ตาแหน่งในการติดตง้ั ● Outer marker ควรตดิ ตัง้ ท่ี 7.2กิโลเมตร (3.9NM) จาก threshold เว้นแต่วา่ ระยะ ไมเ่ หมาะสม outer marker จะตั้งอยู่ระหว่าง 6.5 และ 11.1 กิโลเมตร (3.5และ6NM) จากthreshold ● Middle marker ควรอย่ทู รี่ ะยะ 1,050 เมตร + หรอื – 150เมตร (500 ฟตุ ) จาก threshold ● Inner marker ควรติดตัง้ อยู่ที่ 75 เมตร (250 ฟุต) ถึง 450 เมตร (1,500 ฟตุ ) จาก threshold รูปที่ 12 รปู แสดงช่วงการติดตง้ั Marker beaconsในแต่ละระยะ
Instrument Landing System (ILS)The Instrument Landing System (ILS) is an instrument presented, pilot interpreted, precisionapproach aid. The system provides the pilot with instrument indications which, when utilised inconjunction with the normal flight instruments, enables the aircraft to be manoeuvred along aprecise, predetermined, final approach path.There are three main elements in the complete ILS: 1. Localizer 2. Glide Slope 3. Marker Beacons1. LocalizerThe localizer aerial is on the runway extended centreline at the opposite end to the approachend, at a distance which ensures that it lies below the runway take-off obstruction clearanceplane. The transmitter building is usually located 100–120 metres to the side of the aerial. Thefield pattern radiated by the localizer is illustrated in Figure 1 with the course line lying alongthe extended runway center line. The localizer beam ‘width’, as it is interpreted by the travelof the localizer needle on the aircraft cross pointer indicator from full deflection in the bluesector (150-hertz) to full deflection in the yellow sector (90- hertz) is normally 5° foruncategorised systems and all other systems are adjusted to 210 metres wide at the landingthreshold.
Figure 1 signal section of localizerFigure 2 radius pattern of localizer antenna
Figure 3 Localizer antenna installed at the end of runway2. Glide Slope The transmitter buildings and glide path aerial are in close proximity and are usually located approximately 225–380 metres from the approach end and 120–210 metres to the side of the runway centreline. The field pattern radiated by the glide slope equipment is illustrated in Figure 4 Figure 4 The field pattern radiated of glide slope
Figure 5 signal section of glide slopeMarker Beacon The beacons serve to identify a particular location in space along an airway or an approach to an instrument runway. This is done by means of a 75 MHz transmitter, which transmits a directional signal to air craft flying overhead. These markers generally are used in conjunction with en route navigational aids and an ILS (instrument landing system) as point designators. Figure 6 section of installation of the marker beacon
1.Outer marker (OM) Its beam intersects the glide slope’s ray at an altitude of approximately 1400 ft (426.72m) above the runway. It also roughly marks the point at which an aircraft enters the glide slopeunder normal circumstances, and represents the beginning of the final part of the landingapproach. The signal is modulated at a frequency of 400 Hz, made up by a Morse code – agroup of two dots per second. On the aircraft, the signal is received by a 75 MHz markerreceiver. The pilot hears a tone from the loudspeaker or headphones and a blue indicative bulblights up. Figure 7 The outer position marker (blue)2.Middle marker (MM) The middle marker is used to mark the point of transition from an approach. When flyingover it. The audio signal is made up of two dashes or six dots per second. The frequency of theidentification tone is 1300 Hz. Passing over the middle marker is visually indicated by a bulb ofan amber (yellow) color. Figure 8 The middle position marker (yellow, amber)
3.Inner marker (IM) The inner marker emits an AM wave with a modulated frequency of 3000 Hz. Theidentification signal has a pattern of series of dots, in frequency of six dots per second. The beaconis located 60m in front of the runway’s threshold. inner marker is visually indicated by a bulb ofan white color . Figure 9 The inner position marker (white)
Instrument Landing SystemInstrument Landing System is a runway approach aid providing lateral (localizer) and vertical (glide slope)guidance which allows aircraft to safety approach the runway from several miles outILS Ground TransmittersThe ILS consists of the following components: a) The Localizer transmitter which provides lateral or azimuth guidance along a path which is normally aligned with the extended centerline b) The Glide Slope transmitter which provides approach guidance in the vertical plane c) The Marker beacons which provide range check pointsEquipment which may be used in conjunction with ILS are as follows a) Location which are low power NDBs b) Terminal VORs c) DME which can provide range to the Instrument Landing System touchdown zone
The localizer aerial is positioned approximately 300 m beyond the far end of the runway and ideally transmitsin line with the extended center line. At some airport this may not be possible due to topographical featuresand so an “offset localizer” may be requiredThe Glide Slope aerial is located abeam the ILS touch down zone, Typically 300 m upwind from the thresholdand 100-200 m away from the center lineThe location of Marker beacons is as follows:OUTER MARKER 3 to 6 nm from thresholdMIDDLE MARKER ½ to 1 nm from thresholdINNER MARKER Close to thresholdMarker may not exactly on the extended center lineInner Markers are seldom used but may be found at CAT 2 or CAT 3 facilities
ILS FrequenciesLocalizer (LOC) Frequency-VHF band (30 MHz -300 MHz)-But use only 108.10 MHz - 119.95 MHzGlide slope (GS) Frequency-UHF band (300 MHz -3000 MHz)-But use only 329.15 MHz 335.00 MHzMarker beacon Frequency-All Marker beacons use only one frequency that is 15 MHThere are 40 frequencies or 40 channels of LOC/GS, they are called Frequency Pairing, Pilots only set LOC. Freq.and GS. Freq. will be set or tuned automatically. So that reducing Pilots workload. (LCAO Regulation)
Localizer Field PatternFigure 11-8 illustration a localizer transmission field pattern. There are, in effect, two transmissions on the sameradio frequency in phase with each other. One has a 90 Hz modulation and the other has a 150 Hz modulation.Both are direction transmission.The 90 Hz modulated transmission is directed a little to one side of beamcenter and the 150 Hz modulation transmission is directed to the other side of beam center by the sameamount. The strength of the left and right signals are carefully maintained equal.you can see that maximum strength for each is off to one side of the centerline. Since the signal strength areequal, only along the runway center is there a line of points where the detected modulations will be equal. Areceiver moved to the right of the centerline would have a stronger 150 HZ than a 90 Hz signal, and the fartherthe receiver moves away from the centerline, the greater will be the difference. Moving the receiver to the leftof the centerline would result in a preponderance of 90 Hz signal over 150 Hz signal.
Glideslope Field PatternAs illustrated in Figure 11-9, the glideslope field pattern is very similar to that of the localizer. The essentialdifference is that the transmission is rotate through 90°, so that the 90 Hz and 150 Hz audio signals are displacedfrom each other vertically rather than horizontally. The beam width of 1.4° is considerably narrower than thatof the localizer. The principle of the transmission is the same, but a carrier frequency several times that of thelocalizer frequency is used.When a particular localizer frequency is selected on the navigation frequency selector panel, the frequency ofthe associated glideslope transmission is simultaneously selected, although not indicated on the panel.A typical elevation of the glide path center is 2¾°. This does from one installation to an other. In the glideslopereceiver, as in the localizer receiver, the detected audio signal are compared by having them oppose eachother. If those signals are equal in amplitude, a null signal results which indicates that the receiver antenna ison the center of the glide path. If the 150 Hz signal predominates the receiver antenna is below the glide path,and if the 90 Hz signal predominates, the receiver antenna is above the glide path.Glideslope transmission (or Radiation Pattern)-Lines above and below Glide angle 0.7°(Pat Width = 1.4°) we call Path Width Lines.
- And vice versa Below Glide path the amplitude of 150 Hz > 90 Hz causing the Needle move up. (Pilot mustfly up.)
The decision height depends in part on the ICAO performance category of the the ground installation. Thereare three categories which are defined at table belowILS CAT Accurate Guidance Provided Decision Height RVR Down To1 A height of 200 ft above the Not lower than 200 ft Not less than 550 m horizontal plane containing the runway threshold2 A height of 50 ft above the lower than 200 ft but Not less than 300 m horizontal plane containing the Not lower than 100 ft runway threshold3A and along the runway Lower than 100 ft Not less than 200 m3B and along the runway Lower than 50 ft Less than 200 mFlag AlarmsFlag alarms will appear and the needles will centralize when:- a) the aircraft is outside of the ILS service area b) there is a significant fault in the transmission, eg. Modulation not detected c) the ground or airborne equipment is switching off.False Glide SlopeIt is difficult to transmit the 150 Hz lobe below the 3°(typical) glide slope without causing reflections of thetransmission from the ground. The unwanted ground reflections can cause false glide slope to appear, that isthe glide slope needle may centralize when the aircraft is well above the true glide slope. In practice, falseglide slope are not dangerous as they are above the true glide slope and noticeably steep (not less than 2 xnormal glide slope angle).ILS MonitorsBoth Localizer and Glide Slope transmitters are automatically monitored to detect change in the transmissionsthat could lead to dangerous errors. These changes might be detected as a shift in the localizer centerline orglide slope angle, or as a reduction in power output. The monitor may as a result bring on line a secondtransmitter but until this is achieved, the indent signal will be remain.
Outer MarkerAural: Low pitch (400 Hz) dashesVisual: A blue light flashing in synchronization with the audible dashes at the rateof twoMiddle MarkerAural: Medium pitch (1300 Hz) alternate dots and dashesVisual: An amber light flashing in synchronization with the audible dots and dashes at the rate of there characterper secondInner MarkerAural: High pitch (3000 Hz) dotsVisual: A while light flashing in synchronization with the audible dots at the rate of six per second
The Airborne Marker Beacon ReceiverThe aircraft marker beacon receiver is normally automatically switched on when the the VOR/ILS is in use. Thehigh/low sensitivity switch positions govern the receiver gain and consequently the brightness of the flashinglights. The light should always be checked by depressing the switching to the fest position (which illuminatesall three lights simultaneously) before commencing an ILS approach.Flying The Localizer with an HSIThe horizontal situation indicator (HSI) combines a slaved compass card and CDI, providing the pilot with anexcellent plan view of the airplane’s position relative to the localizer course. Even though the HSI course arrowsetting does not affect the deviation of the localizer needle, the picture presented will be much moremeaningful and useful if you set the inbound localizer course.A significant advantage of the HSI over the basic ILS indicator is that, because the course arrow and CDI arecarried around with the slave compass card as the airplane change heading, the HSI remains a commandinstrument at all times (provided you have the localizer blue-right course set), even when you are trackingoutbound on an ILS or inbound on a LOC BC. Another advantage is that one instrument (the HSI) replace two(the HI and CDI), thereby reducing the scanning workload for the pilot
The horizontal situation indicator simplifies the interception of a localizer because of the very clear plan viewit presents to you. For instance, the above figure shows the airplane steering MH 358 about to intercept thelocalizer MC 335, an approximate 25° intercept. If you maintain MH 358, the CDI will center and then pass tothe left of the model airplane, indicating that you have flown through the localizer. To intercept the coursewithout flying through the radial, lead out of the turn before the CDI actually centers. A good technique is toachieve a rate of turn that keeps the top of the CDI aligned with the heading index the faster the CDI is moving,the faster the rate of turn will have to be. You should be able to roll out exactly on course.
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: