Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 63209010016 ใบงานที่ 5 (หนังสือ) แก้ไข

63209010016 ใบงานที่ 5 (หนังสือ) แก้ไข

Published by Green Tanatchai, 2021-03-04 03:37:17

Description: 63209010016 ใบงานที่ 5 (หนังสือ) แก้ไข

Search

Read the Text Version

20204 - 2109 รายวิชา การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ (Production of printed media) เรื่อง ความรู้เบอื ้ งต้นเก่ียวกบั สือ่ สิ่งพมิ พ์ นายฑนชั ชยั เขื่อนแก้ว 1.-

คำนำ หนงั สือเรียนวิชาการผลิตส่ือส่ิงพิมพ์รหสั วิชา 20204-2109 เล่มนีเ้ รียบเรียงขึน้ เพ่ือใช้ ประกอบการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษากระทรวงศกึ ษาธิการ เนือ้ หาของหนงั สือมีด้วยกนั ทงั ้ หมด 9 หน่วยการเรียนประกอบด้วย (1) ความรู้เก่ียวกบั สื่อส่ิงพิมพ์ (2) การออกแบบและกระบวนการผลิตสื่อส่ิงพิมพ์ (3) เร่ิมต้นใช้งานโปรแกรมผลิตสื่อ สง่ิ พิมพ์ (4) การสร้างข้อความเพื่อผลติ ส่ือส่ิงพิมพ์ (5) ภาพประกอบส่ือส่ิงพิมพ์ (6) สีในสื่อสิ่งพิมพ์ (7) การทางานกบั วตั ถุ (8) การใช้งานเลเยอร์และ (9) หน้ามาสเตอร์พร้อมทงั ้ แบบฝึกหดั ใบงานและ แบบทดสอบหลงั เรียนเพื่อให้ผ้เู รียนได้ฝึกทกั ษะในสถานการณ์ต่าง ๆ มีทกั ษะการคิดและแก้ปัญหา และบรู ณาการกบั การทางานตามสาขาอาชีพตา่ ง ๆ ตอ่ ไป ผู้เรียบเรียงและฝ่ ายวิชาการศูนย์หนังสือเมืองไทยหวังเป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเรียน วิชาการผลิตส่ือส่ิงพิมพ์เล่มนีจ้ ะสามารถให้ความรู้และเกิดประโยชน์แก่ผู้สอนผู้เรียนตลอดจน ผ้สู นใจศกึ ษาทว่ั ไปเป็นอย่างดีหากมีข้อผิดพลาดประการใดผ้เู รียบเรียงและฝ่ายวิชาการศนู ย์หนงั สือ เมอื งไทยขอน้อมรับคาตชิ มเพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงแก้ไขในโอกาสตอ่ ไป รายวชิ า การผลติ สอื่ สงิ่ พิมพ์

จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. ทาความเข้าใจกบั หลกั การผลิตส่ือ 2. ทาความเข้าใจกบั วธิ ีการจดั ทาสื่อ 3. สามารถสร้างแก้ไขและสื่อสารสื่อด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป 4. มีเจตนารมณ์และนิสยั ที่ดีในการปฏบิ ตั งิ านคอมพวิ เตอร์ด้วยความละเอียดรอบคอบ และถกู ต้อง สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลกั การผลิตสื่อสื่อสาร 2. แสดงความรู้เก่ียวกบั วธิ ีการจดั ทาสื่อสื่อสาร 3. ปฏิบตั ิการออกแบบสร้างแก้ไขและสื่อสารส่ือด้วยโปรแกรมสาเร็จ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการผลิตสื่อระเบียบจัดทาส่ือป ฏิบัติการ ออกแบบสร้างแก้ไขและสอื่ สารด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป รายวิชา การผลติ สื่อสง่ิ พิมพ์

สารบญั 1 5 หน่วยที่ 1 ความรู้เบอื ้ งต้นเก่ียวกบั ส่ือสงิ่ พิมพ์ หน่วยที่ 2 ประเภทของสอ่ื สง่ิ พมิ พ์และบทบาทของสื่อสงิ่ พิมพ์ 9 หน่วยที่ 3 ประเภทของโปรแกรมที่ใช้ในการผลติ สื่อส่ิงพมิ พ์ 11 และการออกแบบจดั หน้าสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ 14 หน่วยที่ 4 ประเภทของการออกแบบสื่อสงิ่ พิมพ์ หน่วยท่ี 5 หลกั การออกแบบสงิ่ พิมพ์ รารยาวยิชวาิชกาากราผรลผติ ลสติ อื่ สส่ืองิ่ สพง่ิ ิมพพิม์ พ์

ความรู้เบอื ้ งต้นเกี่ยวกบั ส่ือส่งิ พมิ พ์ รายวิชา การผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์ 1

1.1 ความสาคญั และประวตั ขิ องสอื่ สงิ่ พมิ พ์ 1.1.1 ความหมายและความสาคญั ของสือ่ สง่ิ พิมพ์ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคาที่เก่ียวกับ “ส่ือส่ิงพิมพ์” ไว้ดังน้ี คาว่า “ส่ิงพิมพ์” หมายถึงสมุด แผนกระดาษหรือวัตถุใด ๆ ที่พิมพ์ขึ้น รวมตลอดท้ังบทเพลง แผนที่ แผนผงั ภาพ ภาพวาด ภาพระบายสี ใบประกาศ แผ่นเสยี ง หรอื ส่งิ อนื่ ใดอันมลี กั ษณะเช่นเดยี วกัน “สิ่งพิมพ์” หมายถึง ข้อความ ข้อเขียน หรือภาพที่เกี่ยวกับแนวความคิด ข้อมูล สารคดี บันเทิง ซึ่งถา่ ยทอดดว้ ยการพมิ พ์ลงบนกระดาษ ฟิล์ม หรอื วสั ดุพืน้ เรยี บ “สอื่ ” หมายถงึ การติดตอ่ ให้ถงึ กนั ชกั นาใหร้ จู้ กั กนั หรอื ตวั กลางท่ที าการตดิ ต่อให้ถึงกนั “พิมพ์” หมายถึง ถ่ายแบบ ใช้เครื่องจักรกดตัวหนังสือหรือภาพ ให้ติดบนวัตถุ เช่น แผ่นกระดาษ ผ้า ทาให้เป็นตัวหนังสือ หรือรูปรอยอย่างใด ๆ โดยการกดหรือการใช้พิมพ์ หินเคร่ือง กลวธิ ีเคมีหรือวิธอี ่ืนใด อันอาจใหเ้ กดิ เป็นสง่ิ พมิ พ์ขน้ึ หลายสาเนา รปู ร่าง ร่างกาย แบบ ดงั นน้ั “ สือ่ สง่ิ พมิ พ์” จึงมีความหมายวา่ จะเปน็ แผน่ กระดาษหรอื วัตถใุ ด ๆ ด้วยวธิ ีต่าง ๆ อนั เกดิ เปน็ ชิ้นงานทม่ี ีลกั ษณะเหมือนต้นฉบับขึ้นหลายสาเนา ในปริมาณมากเพ่ือเป็นส่ิงท่ีทาการติดต่อ หรือชกั นาให้บุคคลอน่ื ให้เหน็ หรือทราบข้อมูลต่าง ๆ” สิ่งพิมพ์มีหลายชนิด ได้แก่ เอกสารหนังส่ือเรียน หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร บนั ทกึ รายงาน ฯลฯ รายวิชา การผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์ 2

1.1.2 ประวตั ิส่ือสง่ิ พิมพ์ ประวตั ิสอื่ สงิ่ พมิ พ์ หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรศ์ ิลปะได้ปรากฏบนผนังถา้ อลั ตามิรา (Altamira) ในสเปนและถา้ ลาสควกั ซ์ (Lascaux) ในฝร่ังเศส มีผลงานแกะสลกั หิน แกะสลกั ผนงั ถา้ เป็นรูปสัตวล์ ายเสน้ จงึ เปน็ หลกั ฐานในการ แกะพิมพ์ เป็นครง้ั แรกของมนษุ ยห์ ลังจากนัน้ ไดม้ ีบคุ คลคดิ วิธกี ารทากระดาษขึน้ มาจนมาเปน็ การพมิ พ์ ในปจั จุบันนัน่ คือไชลัน่ ซึง่ มเี ชือ้ สายจีน ชาวจนี ได้ผลิตทาหมกึ แท่งซง่ึ เรียกว่า “บัก๊ ” ประวัติการพิมพ์ในประเทศไทย ในสมัยสมเดจ็ พระนารายมหาราช กรงุ ศรีอยธุ ยา ได้เรมิ่ แตง่ และพิมพ์หนงั สือคาสอนทางศาสนาคริสต์ ข้นึ และหลงั จากนั้นหมอบรัดเลยเ์ ขา้ มาเมืองไทย และได้เร่มิ ดา้ นงานพิมพจ์ นสนใจเป็นธรุ กจิ ด้านการ พมิ พ์ ในเมอื งไทย พ.ศ. 2382 ไดพ้ ิมพเ์ อกสารทางราชการเป็นชิ้นแรกคอื หมายประกาศหา้ มสบู ฝ่ิน ซ่งึ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจา้ อยู่หัวทรงโปรดให้จา้ งพิมพ์จานวน 9,000 ฉบบั ต่อมาเม่อื วันที่ 4 ก.ค. 2387 ไดอ้ อกหนังสือ่ ฉบบั แรกขนึ้ คอื บางกอกรีคอรด์ เดอร์ (Bangkok Recorder) เป็นจดหมายเหตุ อยา่ งสั้น ออกเดอื นละ 2 ฉบบั และใน 15 ม.ิ ย. พ.ศ. 2404 ได้พิมพ์หนังสอื เลม่ ออกจาหนา่ ยโดยซอ้ื ลขิ สิทธ์จิ าก หนงั สอื นิราศลอนดอนของหมอ่ มราโชทยั และได้เรม่ิ ต้นการซอ้ื ขายลิขสทิ ธ์ิจาหนา่ ยใน เมืองไทย หมอบรัดเลยไ์ ด้ถงึ แก้กรรมในเมืองไทย กจิ การการพิมพ์ของไทยจงึ ได้เร่งิ เปน็ ตน้ ของไทย หลังจากนัน้ ใน พ.ศ. 2500 ประเทศไทยจงึ นาเครือ่ งพมิ พแ์ บบโรตารี ออฟเซต (Rotary off set) มาใช้ เปน็ ครั้งแรก โรงพิมพไ์ ทยวฒั นาพานิชนาเครอื่ งหลอ่ เรียงพิมพ์ (Monotype) มาใชก้ บั ตัวพมิ พ์ ภาษาไทยธนาคารแห่งประเทศไทยไดจ้ ดั โรงพิมพธ์ นบัตรในเมอื งไทขึ้นใช้เอง รายวิชา การผลติ ส่ือสงิ่ พิมพ์ 4

ประเภทของสอ่ื ส่ิงพิมพ์และบทบาทของส่อื ส่ิงพิมพ์ รายวชิ า การผลติ ส่อื สง่ิ พิมพ์ 5

ประเภทของสือ่ สงิ่ พิมพ์และบทบาทของสือ่ ส่ิงพมิ พ์ 2.1 ประเภทของสือ่ สง่ิ พมิ พ์ ในปจั จบุ นั สามารถแบ่งประเภทของสอื่ สงิ่ พิมพ์ได้มามายหลายประเภท โดยทง้ั สิง่ พมิ พ์ 2 มิติ และสิ่งพิมพ์ 3 มติ ิ คอื สงิ่ พิมพ์ที่มลี ักษณะเปน็ แผน่ เรียบ ใชว้ สั ดุจาพวกกระดาษและมีเปา้ หมาย เพ่ือนาเสนอเน้ือหาขา่ วสารตา่ ง ๆ เชน่ หนงั สอื นิตยสาร จุลสาร หนังสอื พมิ พ์ แผ่นพบั โบชัวร์ ใบปลวิ นามบตั ร แมกกาซนี พ็อกเก็ตบ๊คุ เป็นต้น ส่วนสิง่ พิมพ์ 3 มติ ิ คอื สิง่ พิมพ์ทีม่ ลี ักษณะพิเศษทต่ี อ้ งอาศัย ระบบการพมิ พ์แบบพเิ ศษ และสว่ นใหญ่จะเป็นการพิมพ์โดยตรงลงบนผลติ ภณั ฑท์ ่ีสรา้ งรูปทรงมาแล้ว สาหรับตัวอย่างการพิมพ์แบบ 3 มติ ไิ ดแ้ ก่ การพมิ พส์ กีนบนภาชนะตา่ ง ๆ เชน่ แกว้ กระป๋อง พลาสติก การพิมพร์ ะบบแพดบนภาชนะท่มี ีผวิ ตา่ งระดบั เช่น เครอื่ งปัน้ ดินเผา เครื่องใช้ไฟฟ้า การพิมพร์ ะบบ พน่ หมกึ เช่น การพมิ พ์วนั หมดอายขุ องอาหารกระป๋องต่าง ๆ โดยสามารถจาแนกประเภทของสอื่ สิง่ พิมพ์ได้ ดังน้ี สื่อส่ิงพมิ พ์ประเภทหนงั สอื หนังสือสารคดีตาราแบบเรียน เป็นหนงั สอื สง่ิ พิมพ์ท่ีแสดงเนอ้ื หาวิชาการศาสตรค์ วามรตู้ า่ ง ๆ เพอื่ สอ่ื ใหผ้ ู้อ่านเขา้ ใจความหมายดา้ น ความรทู้ เ่ี ป็นจรงิ จงึ เป็นสื่อส่ิงพมิ พ์ท่ีเนน้ ความรอู้ ย่างถกู ตอ้ ง หนังสอื บยั นเทิงคดี เปน็ สอ่ื สิง่ พมิ พท์ ผี่ ลิตขน้ึ โดยใช้เร่อื งราวสมมติ เพอ่ื ใหผ้ ้อู า่ นได้รบั ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนาน มกั มขี นาดเล็ก เรียกว่า หนงั สือฉบบั กระเป๋า หรือ PocketBook ได้ รายวชิ า การผลติ ส่อื สงิ่ พิมพ์ 6

สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร หนังสอื พิมพ์ (Newspapers) เป็นส่อื สิ่งพมิ พท์ ่ผี ลิตขน้ึ โดยนาเสนอเรื่องราวขา่ วสารภาพ และความ คดิ เห็น ในลักษณะของแผน่ พิมพ์ แผ่นใหญ่ ท่ใี ชว้ ธิ ีการพับรวมกบั ซึ่งสื่อสง่ิ พมิ พช์ นิดนี้ได้พิมพอ์ อก เผยแพรท่ ัง้ ลักษณะหนงั สือพิมพร์ ายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน วารสาร นิตยสาร เปน็ สอื่ ส่งิ พิมพท์ ผ่ี ลิตขึน้ โดยนาเสนอสาระขา่ ว ความบนั เทิง ทมี่ รี ูปแบบการ นาเสนอ ท่โี ดเดน่ สะดดุ ตา และสร้างความสนใจใหก้ บั ผูอ้ ่าน ท้งั นก้ี ารผลิตนน้ั มกี ารกาหนดระยะเวลา การออกแบบเผยแพร่ที่แน่นอน ทั้งลกั ษณะวารสาร นิตยสารรายปักษ์ (15 วัน) และรายเดือน จุลสาร เป็นสอื่ สิ่งพมิ พ์ท่ีผลติ ข้นึ แบบไมม่ ุ่งหวังผลกาไร เป็นแบบใหเ้ ปลา่ โดยใหผ้ ูอ้ า่ นศกึ ษาหาความรู้ ทก่ี าหนดออกแบบเผยแพร่เป็นครัง้ ๆ หรือลาดับต่าง ๆ ในวาระพเิ ศษ สิ่งพมิ พ์โฆษณา โบชัวร์ (Brochure) เป็นสอ่ื ส่งิ พมิ พ์ทีม่ ลี กั ษณะเป็นสมดุ เล่มเลก็ ๆ เย็บตดิ กันเปน็ เลม่ จานวน 8 หนา้ เปน็ อยา่ งน้อยมีปกหนา้ และปกหลัง ซงึ่ ในการแสดงเนอื้ หาจะเกย่ี วกบั โฆษณาสนิ ค้า ใบปลวิ (Leaflet, Handbill) เปน็ สอ่ื สิ่งพมิ พใ์ บเดียว ทเ่ี น้นการประกาศ มักมขี นาด A4 เพ่ืองา่ ยในการแจกจา่ ย ลักษณะการแสดงเนอื้ หาเปน็ ข้อความท่ีผอู้ า่ นแลว้ เขา้ ใจง่าย แผน่ พับ (Folder) เป็นสอ่ื สง่ิ พมิ พท์ ีเ่ นน้ การผลติ โดยเน้นการเสนอเน้อื หา ซึง่ เนือ้ หาที่ นาเสนอนัน้ เป็นเน้อื หาท่สี รปุ ใจความสาคญั ลกั ษณะเปน็ การพับเปน็ รปู เลม่ ต่าง ๆ ใบปิด (Poster) เปน็ สื่อส่ิงพิมพโ์ ฆษณา โดยใช้ปิดตามสถานท่ีต่าง ๆ มีขนาดใหญเ่ ปน็ พิเศษซง่ึ เนน้ การนาเสนออยา่ งโดเด่นดงึ ดดู ความสนใจ สงิ่ พมิ พเ์ พอ่ื การบรรจุภณั ฑ์ เปน็ สงิ่ พมิ พ์ท่ีใช้ในการหอ่ หมุ้ ผลิตภณั ฑ์การคา้ ตา่ ง ๆ แยกเป็นสงิ่ พิมพ์หลัก ไดแ้ กส่ งิ่ พิมพ์ ทีใ่ ช้ปิดรอบขวด หรอื กระปอ๋ งผลิตภัณฑ์การคา้ ส่ิงพมิ พ์รอง ได้แก่ สงิ่ พมิ พ์ที่เปน็ กล่องบรรจหุ รือลงั รายวชิ า การผลติ สือ่ สง่ิ พมิ พ์ 7

สิง่ พิมพ์มคี ่า เป็นสอื่ สิ่งพมิ พ์ที่เนน้ การนาไปใช้เป็นหลักฐานสาคัญต่าง ๆ ซึ่งกาหนดตามกฎหมาย เช่น ธนาณตั ิ บัตรเครดติ เช็คธนาคาร ตัว๋ แลกเงิน หนงั สอื เดินทาง โฉนด เป็นตน้ สิง่ พิมพ์ลักษณะพิเศษ เป็นส่ือสิ่งพิมพ์มีการผลิตขึ้นตามลักษณะพิเศษแล้วแต่การใช้งาน ได้แก่นามบัตร บัตร อวยพร ปฏิทิน ใบสง่ ของ ใบเสรจ็ รับเงิน ส่งิ พมิ พบ์ นแก้ว ส่ิงพิมพบ์ นผ้า เป็นต้น สิ่งพิมพ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นส่ือสิ่งพิมพ์ท่ีผลิตขึ้นเม่ือใช้งานในคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ Document Formats, E-book for Palm/PDA เปน็ ต้น 2.2 บทบาทของสอื่ สง่ิ พิมพ์ บทบาทของสื่อส่ิงพิมพ์ในงานส่ือมวลชน สื่อส่ิงพิมพ์มีความสาคัญในด้านการนาเสนอ ข้อมูล ขา่ วสาร สาระ และความบนั เทิง ซง่ึ เมอ่ื งานส่อื มวลชนตอ้ งเผยแพร่ จึงต้องผลิตส่ือสิ่งพิมพ์ เช่น หนงั สือพิมพ์ วารสาร นติ ยสาร เป็นตน้ บทบาทสือ่ สงิ่ พมิ พใ์ นสถานศึกษา ส่ือสิ่งพิมพ์ถูกนาไปใช้ในสถานศึกษา โดยท่ัวไปซ่ึงทา ให้ผู้เรียน ผู้สอนเข้าใจเน้ือหามากข้ึน เช่น หนังสือ ตารา แบบเรียน แบบฝึกหักสามารถพัฒนาได้เป็น เนอื้ หาในระบบเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ ได้ บทบาทของสื่อส่ิงพิมพ์ในงานด้านธุรกิจ ส่ือสิ่งพิมพ์ท่ีถูกนาไปใช้ในงานธุรกิจประเภท ต่าง ๆ เช่น งานโฆษณา ได้แก่ การผลิต หัวจดหมาย/ซองจดหมาย ใบเสร็จรับเงิน /ใบส่งของ โฆษณา หน้าเดยี ว นามบตั ร เปน็ ต้น บทบาทของส่ือสิ่งพิมพ์ในงานธนาคารงานด้านการธนาคาร ซ่ึงรวมถึง งานการเงิน และงานทเ่ี ก่ียวกบั หลักฐานทางกฎหมาย ได้นาส่ือสิ่งพิมพ์หลาย ๆ ประเภทมาใชใ้ นการดาเนินงาน เช่น ใบนาฝาก ใบถอน ธนบตั ร เชค็ ธนาคาร ต๋ัวแลกเงนิ และหนังสือเดินทาง บทบาทของส่ือส่ิงพิมพ์ในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก ส่ือส่ิงพิมพ์ท่ีทาง ห้างสรรพสนิ คา้ หรอื ร้านค้าปลกี ใชใ้ นการดาเนินธุรกจิ ไดแ้ ก่ ใบปิดโฆษณาต่าง ๆ ใบปลิว แผ่นพับ จุล สาร รายวชิ า การผลติ ส่ือสง่ิ พิมพ์ 8

ประเภทของโปรแกรมท่ีใช้ในการผลติ ส่ือสงิ่ พิมพ์ และการออกแบบจดั หน้าสอื่ สงิ่ พมิ พ์ รายวิชา การผลติ สื่อสง่ิ พิมพ์ 9

ประเภทของโปรแกรมท่ีใช้ในการผลิตส่ือสงิ่ พิมพ์และการออกแบบจดั หน้าสอื่ สง่ิ พิมพ์ 3.1 โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด (Microsoft Word) โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดเปน็ โปรแกรมท่ผี ลติ โดยบริษทั ไมโครซอฟต์โดยผลติ รนุ่ 2.0 มาก่อน จากนัน้ พัฒนาเป็นรุ่น 6.0 ซงึ่ ทางานบนระบบวินโดวส์ 3.1 ตอ่ มามีการปรับปรงุ แกไ้ ข ขอ้ บกพร่องต่าง ๆ โดยมกี ารพัฒนาโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ดใหร้ องรับการใชง้ านบนระบบปฏิบัติงาน ตา่ ง ๆ ดงั นี้ Word 95, 97, 98, 2000, 2003, XP เป็นตน้ ซงึ่ โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ เป็น โปรแกรมทช่ี ว่ ยในการจัดการส่ิงพมิ พห์ น่วยงานตา่ ง ๆ มักจาใช้โปรแกรมน้ีไปใช้ในเอกสาร รายงานตา่ ง ๆ มากมาย 3.2 โปรแกรมโฟโต้ช้อพ (Adobe Photoshop) เป็นโปรแกรมสาหรับจัดการกบั ภาพ หรืองานกราฟกิ ที่ต้องการความละเอียดสงู และเป็น โปรแกรมทไ่ี ดร้ ับความนิยมในการแต่งภาพสามารถเปดิ ไฟล์รปู ไดห้ ลากหลาย เช่น JPEG, TIFF, DNG, Traga, BMP, PICT นอกจากนยี้ งั สามารถตกแตง่ สีให้กบั รูปภาพทีค่ มชดั ขน้ึ 3.3 โปรแกรม Illustrator เป็นโปแรกรมท่ชี ว่ ยในการสรา้ งภาพ กราฟกิ แบบเวกเตอรเ์ พ่อื ใช้ในการประกอบขอ้ ความ ท่ไี ดจ้ ากการพมิ พ์โดยโปรแกรม Ms – word 3.4 โปรแกรม Page Maker เปน็ โปรแกรมแบบ Desktop Publishing เป็นการจัดและนาข้อมูลมาประกอบลงบน หน้าสงิ่ พิมพ์ รายวชิ า การผลติ ส่ือสง่ิ พมิ พ์ 10

ประเภทของการออกแบบสื่อสง่ิ พมิ พ์ รายวชิ า การผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์ 11

ประเภทของการออกแบบสือ่ สง่ิ พิมพ์ 4.1 การออกแบบทางสถาปตั ยกรรม (Architecture Design) เปน็ การออกแบบเพ่ือการกอ่ สร้าง ส่งิ ก่อสรา้ งตา่ ง ๆ นกั ออกแบบสาขานี้ เรียกว่า สถาปนกิ (Architect) ซึ่งโดยทั่งไปจะตอ้ งทางานรว่ มกับวิศวกรและมณั ฑนากร โดยสถาปนิกรับผดิ ชอบเกี่ยวกบั ประโยชน์ใชส้ อยและความงามของส่ิงก่อสรา้ ง งานสถาปตั ยกรรมได้แก่ – สถาปัตยกรรมทั่วไป เปน็ การออกแบบส่ิงกอ่ สรา้ งทั่วไป เชน่ อาคาร บ้านเรอื น ร้านคา้ โบสถ์วหิ าร ฯลฯ – สถาปัตยกรรมโครงสรา้ งเป็นการออกแบบเฉพาะโครงสร้างหลกั ของอาคาร – สถาปตั ยกรรมภายในเป็นการออกแบบที่ตอ่ เน่อื งจากงานโครงสร้างเปน็ ส่วนประกอบของอาคาร – งานออกแบบภูมทิ ศั น์ เป็นการออกแบบทมี่ ีบรเิ วณกวา้ งขวาง เป็นการจดั บรเิ วณพนื้ ที่ ตา่ ง ๆ เพอื่ ให้เหมาะกบั ประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม งานออกแบบผังเมือง เปน็ การออกแบบท่ีมขี นาดใหญ่ และมีองคป์ ระกอบซบั ซ้อนซงึ่ ประกอบไปดว้ ย กลุ่มอาคารจานวนมาก ระบบภูมทิ ัศน์ ระบบสาธารณปู โภค ฯลฯ 4.2 การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) เป็นการออกแบบเพ่ือการผลติ ผลติ ภณั ฑ์ ชนิดตา่ ง ๆ งานออกแบบสาขานี้ มขี อบเขตกว้างขวางมาก ทสี่ ดุ และแบ่งออกได้มากมาย หลาย ๆ ลกั ษณะ นักออกแบบรับผดิ ชอบเกี่ยวกับประโยชน์ใช้สอยและ ความสวยงามของผลติ ภณั ฑง์ านออกแบบประเภทน้ี ไดแ้ ก่ – งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ – งานออกแบบครภุ ัณฑ์ – งานออกแบบเคร่ืองสุขภัณฑ์ – งานออกแบบเคร่ืองใชส้ อยต่าง ๆ – งานออกแบบเคร่ืองประดบั อัญมณี – งานออกแบบเคร่อื งแต่งกาย – งานออกแบบภาชนะบรรจภุ ณั ฑ์ – งานออกแบบผลิตเครือ่ งมอื ต่าง ๆ ฯลฯ รายวิชา การผลติ สื่อสงิ่ พมิ พ์ 12

4.3 การอกแบบวิศวกรรม (Engineering Design) เปน็ การออกแบบเพ่ือการผลิตผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ เช่นเดยี วกับการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ซง่ึ มคี วามเก่ียวขอ้ ง กนั ตอ้ งใช้ความรคู้ วามสามารถและเทคโนโลยใี นการผลติ สูง ผอู้ อกแบบคอื วศิ วกรซึง่ จะรับผดิ ชอบใน เรื่องของประโยชนใ์ ชส้ อย ความปลอดภยั และกรรมวธิ ีในการผลิตบางอยา่ งต้องทางานรว่ มกันกับนัก ออกแบบสาขาต่าง ๆ ดว้ ยงานออกแบบประเภทน้ี ได้แก่ – งานออกแบบเครอื่ งใช้ไฟฟา้ – งานออกแบบเครือ่ งยนต์ – งานออกแบบเครื่องมอื สอื่ สาร – งานออกแบบอุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ตา่ ง ๆ ฯลฯ 4.4 การออกแบบตกแต่ง (Decorative Design) เปน็ การออกแบบเพ่อื การตกแตง่ สิ่งตา่ ง ๆ ใหส้ วยงามและเหมาะสมกบั ประโยชน์ใชส้ อย มากขึ้น นัก ออกแบบเรียกว่า มัณฑนากร (Decorator) ซงึ่ มักทางานรว่ มกบั สถาปนกิ งานออกแบบประเภทนี้ไกแ้ ก่ – งานตกแต่งภายใน (InteriorDesign ) – งานตกแตง่ ภายนอก (Exterior Design) – งานจักสวยและบรเิ วณ (Landscape Design) – งานตกแตง่ มมุ แสดงสนิ ค้า (Display) – งานจักนิทรรศการ (Exhibition) – งานจดั บอรด์ – งานตกแตง่ บนผิวหนา้ ของสิง่ ต่าง ๆ เป็นต้น ฯลฯ 4.5 การออกแบบสงิ่ พิมพ์ (Graphic Design) เป็นการออกแบบเพ่ือผลติ งานผลติ งานสงิ่ พมิ พช์ นิดต่าง ๆ ไดแ้ ก่ หนงั สอื หนังสือพิมพโ์ ปสเตอร์ นามบตั ร บตั รตา่ ง ๆ งานพิมพล์ วดลายผา้ งานพมิ พภ์ าพลงบนสิ่งของเครอ่ื งใชต้ า่ ง ๆ งานออกแบบรูป สัญลักษณ์ เครือ่ งหมายการคา้ ฯลฯ รายวชิ า การผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์ 13

หลกั การออกแบบสงิ่ พมิ พ์ รายวิชา การผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์ 14

หลกั การออกแบบสงิ่ พิมพ์ 5.1 ทศิ ทางและการเคล่อื นไหว (Direction & Movement) เมอื่ ผู้รับสารมองดูสอื่ สง่ิ พมิ พ์ การรบั ร้เู กดิ ข้นึ เป็นลาดบั ตามการมองเห็น กลา่ วคอื เกดิ ตามการวาด สายตาจากองค์ประกอบหนึง่ ไปยังอกี องคป์ ระกอบหนงึ่ จึงมีความจาเปน็ อยา่ งย่งิ ท่ีจะตอ้ งมกี าร ดาเนินการวางแผน กาหนดและชกั จูงสายตาผู้รบั สารให้เคลอ่ื นไหวในทศิ ทางท่ถี กู ต้อง ตามลาดบั ของ องค์ประกอบทต่ี อ้ งการให้รบั รู้กอ่ นหลงั โดยทัว่ ไปหากไม่มกี ารสรา้ งจดุ เด่นขนึ้ มา สายตาของผ้รู บั สาร จะมองดูหน้ากระดาษทีเ่ ป็นส่ือสิง่ พิมพ์ในทศิ ทางท่ีเป็นตวั อกั ษร (Z) ในภาษาองั กฤษ คอื จะเริม่ ท่มี ุม บนดา้ นขวาตามลาดับการจัดองคป์ ระกอบที่สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาตกิ ารมองน้ี เป็นสว่ นชว่ ยให้เกดิ การ รบั รู้ตามลาดบั ทตี่ ้องการ 5.2 เอกภาพและความกลมกลืน (Unity & Harmony) เอกภาพคือความเปน็ อนั หนง่ึ อันเดียวกัน ซ่ึงในการจดั ทาเลย์เอาตห์ มายถึงการเอาองค์ประกอบท่ี แตกต่างกนั มาวางไวใ้ นพนื้ ทห่ี นา้ กระดาษเดยี วกันอย่างกลมกลืน ทาหนา้ ท่ีสอดคล้องและสง่ เสริมกัน และกันในการสอ่ื สารความคดิ รวบยอด และบุคลิกภาพของส่อื สง่ิ พิมพ์นน้ั ๆ การสรา้ งเอกภาพน้ี สามารถทาได้หลายวธิ ีเช่น – การเลอื กใชอ้ งค์ประกอบอย่างสม่าเสมอ เชน่ การเลือกใชแ้ บบตวั อักษรเดยี วกนั การเลือกใช้ภาพ ขาว ดาทั้งหมด เป็นตน้ – การสร้างความตอ่ เน่ืองกันให้องค์ประกอบ เชน่ การจัดให้พาดหัววางทับ ลงบนภาพการใช้ตวั อักษร ท่ีเปน็ ขอ้ ความ ลอ้ ตามทรวดทรงของภาพ เป็นต้น – การเวน้ พ้นื ที่วา่ งรอบองคป์ ระกอบทัง้ หมด ซึ่งจาทาใหพ้ น้ื ทีว่ า่ งน้นั ทาหนา้ ท่ี เหมอื นกรอบสขี าว ลอ้ มรอบองคป์ ระกอบทั้งหมดไว้ภายใน ชว่ ยให้องคป์ ระกอบทั้งดูเหมอื นว่าอยู่กนั อยา่ งเปน็ กลุ่มเป็น กอ้ น รายวิชา การผลติ ส่อื สงิ่ พิมพ์ 15

5.3 ความสมดลุ (Balance) หลักการเร่ืองความสมดุลนเ้ี ปน็ การตอบสนองธรรมชาติของผู้รับสาร ในเรื่องของแรงโนม้ ถว่ ง โดยการจัดวางองค์ประกอบท้ังหมดในพื้นท่ีหนา้ กระดาษ จะตอ้ งไมข่ ดั กบั ความร้สู กึ น้ี คอื จะตอ้ ง ไม่ดเู องเอยี งหรือหนกั ไปด้านใดดา้ นหน่ึง โดยไม่มอี งค์ประกอบมาถว่ งในอีกด้าน การจดั องค์ประกอบให้ เกดิ ความสมดุลแงได้เป็น 3 ลักษณะคอื – สมดลุ แบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เปน็ การจัดวางองคโ์ ดยให้องค์ประกอบในด้านซ้าย และดา้ นขวาพืน้ ทีห่ น้ากระดาษมีลกั ษณะเหมือนกนั ท้ังสองขา้ ง ซึ่งองคป์ ระกอบทีเ่ หมอื นกนั ในแต่ละ ด้านน้ีจะถว่ งนา้ หนักกันและกันใหค้ วามรู้สกึ สมดลุ – สมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เป็นการจักวางองค์ประกอบโดยใหอ้ งค์ประกอบ ในดา้ นซา้ ยและด้านขวาพน้ื ทห่ี นา้ กระดาษมีลักษณะไมเ่ หมือนกนั ท้ังสองขา้ ง แมอ้ งค์ประกอบจะไม่ เหมอื นกันในแต่ละดา้ นแต่ก็จะถ่วงน้าหนกั กันและกันให้เกดิ ความสมดุล – สมดลุ แบบรศั มี (Radial Balance) เปน็ การจดั วางองคป์ ระกอบ โดยใหอ้ งคป์ ระกอบแผ่ไปทุก ทิศทางจากจดุ ศนู ยก์ ลาง 5.4 สดั ส่วน (Proportion) การกาหนดสัดส่วนน้ีเปน็ การกาหนดความสมั พันธใ์ นเรอื่ งของขนาดซ่งึ มคี วามสมั พนั ธโ์ ดยเฉพาะใน หน้ากระดาษของสือ่ สงิ่ พิมพท์ ีต่ อ้ งการให้มจี ุดเด่น เช่น หนา้ ปกหนังสือเป็นต้น เพราะองคป์ ระกอบทม่ี ี สัดสว่ นแตกตา่ งกนั จะดงึ ดดู สายตาได้ดกี ว่าการใช้องคป์ ระกอบท้ังหมดในสัดสว่ นทใ่ี กล้เคยี งกนั ในการ กาหนดสัดสว่ นจะตอ้ งกาหนดองคป์ ระกอบทั้งหมดในพนื้ ท่หี นา้ กระดาษไปพรอ้ ม ๆ กันวา่ ควรจะเพิ่ม หรอื ลดองค์ประกอบใดไมใ่ ชค่ อ่ ย ๆ ทาไปทลี ะองคป์ ระกอบ รายวิชา การผลติ สอ่ื สง่ิ พมิ พ์ 16

5.5 ความแตกตา่ ง (Contrast) เปน็ วิธที ่ีงา่ ยทส่ี ดุ โดยการเน้นให้องคป์ ระกอบใดองค์ประกอบหน่งึ เด่นขน้ึ มาด้วยการเพมิ่ ขนาดใหญ่ กว่าองค์ประกอบอน่ื ๆ โดยรอบ เช่น พาดหัวขนาดใหญ่ เป็นตน้ ซ่ึงโดยธรรมชาตแิ ลว้ ผดู้ ูจะเลอื กดู องคป์ ระกอบใหญก่ ่อน 5.6 จังหวะ ลีลา และการซ้า่ (Rhythm & Repetition) การจดั วางองคป์ ระกอบหลาย ๆ ชนิ้ โดยกาหนดตาแหนง่ ใหเ้ กิดมมี ชี ่องวา่ เปน็ ช่วง ๆ ตอน ๆ อยา่ งมี การวางแผนลว่ งหน้า จะทาใหเ้ กดิ ลีลาขน้ึ และหากวา่ องค์ประกอบหลาย ๆ ชิน้ น้นั มีลักษณะซา้ กนั หรอื ใกล้เคยี งกัน ก็จะย่ิงเป็นการเน้นให้เกิดจงั หวะลลี า ไดช้ ัดเจนย่งิ ขึน้ ลกั ษณต์ รงขา้ มกบั แบบแรก จงั หวะ และลลี าลกั ษณะนจ้ี ะก่อใหเ้ กิดความร้สู ึก ท่ีตื่นเตน้ ดูเคล่อื นไหวและมพี ลัง รายวิชา การผลติ สอื่ สงิ่ พมิ พ์ 17

ผู้จัดทา นายฑนชั ชยั เขอ่ื นแก้ว รหสั นกั ศึกษา 63209010016 นกั ศกึ ษาระดับประกาศนัยบตั รวชิ าชพี ช้นั ปที ่ี 1 แผนกวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร

องค์ความรู้เก่ียวกบั กระบวนการผลติ สื่อสง่ิ พมิ พ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook