โปรแกรมตารางงาน(Excel) วิชาโปรแกรมตารางคาํ นวณ รหสั วิชา 20204-2103 ผจู้ ดั ทาํ นางสาววิภาวี ทศั นสวุ รรณ เสนอ อาจารยร์ ตั นภรณ์ จนั ทะวงศ์
คาํ นาํ เทคโนโลยีสารสนเทศในหนงั สอื ออนไลน(์ e-book) ผจู้ ดั ทาํ จดั ทาํ ขนึ้ เพื่อเป็ นสว่ นหนงึ่ ของการศึกษาเรื่อง โปรแกรมตาราง งาน(Excel) เพื่อใหน้ กั เรียน นกั ศึกษา หรือผทู้ ่สี นใจศึกษาคน้ ควา้ มคี วามรแู้ ละความเขา้ ใจเกยี่ วกบั เรื่อง โปรแกรมตารางงาน(Excel) หากผดิ พลาดประการใดผจู้ ดั ทาํ ขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มา ณ ที่นี้
สารบญั
ความหมายของโปรแกรม Microsoft Excel โปรแกรม Microsoft Excel เป็ นโปรแกรมหนงึ่ ทอ่ี ยใู่ นชดุ Microsoft Office มจี ดุ เดน่ ในดา้ น การคาํ นวณเกยี่ วกบั ตวั เลข โดย การทางานของโปรแกรมจะใชต้ ารางตามแนวนอน (Row) และแนวตง้ั (Column) เป็ นหลกั ซ่ึงเรียกโปรแกรมในลกั ษณะนวี้ ่า “ตารางทาการ” (Spread Sheet) 1
สว่ นประกอบของหนา้ ตา่ ง 1) แถบชอ่ื เร่ือง (Title Bar) = เป็ นสว่ นท่ีใชแ้ สดงชอ่ื โปรแกรม และราย Excel ชอื่ ไฟลท์ ไี่ ดเ้ ปิ ดใชง้ าน 2) แถบเครื่องมอื ดว่ น (Quick Access) = เป็ นสว่ นที่ใชใ้ นการแสดง คาํ สงั่ ทีใ่ ชง้ านบ่อย 3) ป่ ุมควบคมุ = เป็ นสว่ นที่ใชค้ วบคมุ การเปิ ด หรือปิ ดหนา้ ตา่ ง โปรแกรม 4) ริบบอน (Ribbon) = เป็ นสว่ นท่ใี ชแ้ สดงรายการคาํ สงั่ ตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ น การทาํ งานกบั เอกสาร 5) Name Box = เป็ นชอ่ งทใี่ ชแ้ สดงชอ่ื เซลลท์ ี่ใชง้ านอยใู่ นขณะนน้ั 6) แถบสตู ร (Formula Bar) = เป็ นชอ่ งท่ีใชแ้ สดงการใชง้ านสตู รการ คาํ นวณตา่ ง ๆ 2
สว่ นประกอบของหนา้ ตา่ ง Excel 7) เซลล์ (Cell) = เป็ นชอ่ งตารางท่ีใชส้ าํ หรบั บรรจขุ อ้ มลู ตา่ ง ๆ ซ่ึงชอ่ ง เซลลแ์ ตล่ ะชอ่ งนน้ั จะมชี อื่ เรียกตามตาํ แหนง่ แถว และคอลมั นท์ แ่ี สดง ตาํ แหนง่ ของเซลล์ 8) คอลมั น์ (Column) = เป็ นชอ่ งเซลลท์ เ่ี รียงกนั ในแนวตงั้ ของแผน่ งาน (Worksheet) 9) แถว (Row) = เป็ นชอ่ งเซลลท์ ่ีเรียงกนั ในแนวนอนของแผน่ งาน 10) Sheet Tab = เป็ นแถบทใี่ ชแ้ สดงจาํ นวนแผน่ งานทเ่ี ปิ ดขน้ึ มาใชง้ าน 11) แถบสถานะ (Status Bar) = เป็ นสว่ นที่ใชแ้ สดงจาํ นวนหนา้ กระดาษ และจาํ นวนตวั อกั ษรท่ใี ชใ้ นเอกสาร 3
คณุ สมบตั Eิ xcel 1. สรา้ งและแสดงรายงานของขอ้ มลู ตวั อกั ษร และตวั เลข โดยมคี วามสามารถในการ จดั รปู แบบใหส้ วยงามนา่ อา่ น 2. อาํ นวยความสะดวกในดา้ นการคาํ นวณตา่ ง ๆ และยงั มฟี ังกช์ นั่ ทใ่ี ชใ้ นการคาํ นวณอีกมากมาย 3. สรา้ งแผนภมู ิ (Chart) ในรปู แบบตา่ ง ๆ เพ่ือใชใ้ นการแสดงและการเปรียบเทยี บ ขอ้ มลู ไดห้ ลายรปู แบบ 4. มรี ะบบขอความชว่ ยเหลือ (Help) ท่จี ะคอยชว่ ยใหค้ าํ แนะนาํ ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถ ทาํ งานไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว 5. มคี วามสามารถในการคน้ หาและแทนทขี่ อ้ มลู โดยโปรแกรมจะตอ้ งมี ความสามารถในการคน้ หาและแทนทีข่ อ้ มลู เพื่อทาํ การแกไ้ ขหรือทาํ การแทนที่ขอ้ มลู ไดส้ ะดวก และรวดเร็ว 6. มคี วามสามารถในการจดั เรียงลาํ ดบั ขอ้ มลู โดยเรียงแบบตามลาํ ดบั จาก A ไป Z หรือจาก 1 ไป 100 และเรียงยอ้ นกลบั จาก Z ไปหา A หรือจาก 100 ไปหา 1 7. มคี วามสามารถในการจดั การขอ้ มลู และฐานขอ้ มลู ซ่ึงเป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ขา่ วสาร ท่ีถกู รวบรวมเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ในตารางท่อี ยใู่ น Worksheet ลกั ษณะของการเก็บ ขอ้ มลู เพ่ือใชเ้ ป็ น ฐานขอ้ มลู มนโปรแกรมตารางงานจะเก็บขอ้ มลู ในรปู แบบของตาราง โดยแตล่ ะแถวของรายการจะ เป็ นระเบียนหรือเรคอรด์ (Record) และคอ ลมั นจ์ ะเป็ นฟิ ลด์ (Field) 4
ฟังกช์ นั ท่ีใชง้ านในExcel 1. SUM (การหาผลรวมของขอ้ มลู ) รปู แบบ =SUM(Number1,Number2,.....) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ทีต่ อ้ งการหาผลรวมซึ่งสามาราจะใสไ่ ดม้ ากกว่า 1 กลมุ่ โดยใชเ้ ครื่องหมาย , คนั่ กลางระหวา่ งแตล่ ะกลมุ่ ขอ้ มลู 5
2. SUMIF (การหาผลรวมแบบมเี งอื่ นไข) รปู แบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตขอ้ มลู ท่ตี อ้ งการตรวจสอบตามเงอื่ นไข Criteria เงอ่ื นไขทีก่ าํ หนดใหค้ าํ นวณหาผลรวม Sum_range ชว่ งของเซลลท์ ีต่ รวจสอบตามเงอ่ื นไขเพ่ือนาํ มาคาํ นวณ 6
3. MIN (การหาตาํ่ ท่สี ดุ ของจาํ นวน) รปู แบบ =MIN(Number1,Number2,...) Number เป็ นกลมุ่ ของมลู ทต่ี อ้ งการหาคา่ ตา่ํ สดุ 4. MAX (การหาคา่ สงู สดุ ของจาํ นวณ) รปู แบบ =MAX(Number1,Number2,.......) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ที่ตอ้ งการหาคา่ สงู สดุ 7
5. AVERAGE (การหาคา่ เฉล่ยี ของขอ้ มลู ) รปู แบบ =AVERAGE(Number1,Number2,....) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ที่ตอ้ งการหาคา่ เฉลี่ย 6. COUNT (การนบั จาํ นวนขอ้ มลู ท่ีเป็ นเฉพาะตวั เลข) รปู แบบ =COUNT(Value1,Value2,...) Value ชว่ งของกลมุ่ เซลลท์ น่ี าํ มาใชใ้ นการนบั 8
7. COUNTA (การนบั จาํ นวนขอ้ มลู ที่เป็ นทง้ั ขอ้ ความและตวั เลขปนกนั ) รปู แบบ =COUNTA(Value1,Value2,......) Value ชว่ งของกลมุ่ เซลลท์ ตี่ อ้ งการนาํ มาใชใ้ นการนบั จาํ นวน 8. COUNTIF (การนบั จาํ นวนขอ้ มลู แบบมเี งอ่ื นไข) รปู แบบ =COUNTIF(Range,Criteria) Range ชว่ งของเซลลท์ ีต่ อ้ งการนบั ตามเงอื่ นไข Criteria เงอ่ื นไขท่ีใชต้ รวจสอบและนบั จาํ นวนของเซลล์ 9
9. VAR (การหาคา่ ความแปรปรวน) รปู แบบ =VAR(Number1,Number2,.....) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู การหาคา่ ความแปรปรวน 10. STDEV (การหาคา่ การเบี่ยงเบนมาตรฐาน) รปู แบบ =STDEV(Number1,Number2,....) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการหาคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน 10
11. MEDIAN (การหาคา่ กลาง) รปู แบบ =MEDIAN(Number1,Number2,...) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ทตี่ อ้ งการหาคา่ กลาง 12. ROUND (การปัดจดุ ทศนยิ มขนึ้ หรือลง) รปู แบบ =ROUND(Number,Num_digits) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการกาํ หนดปัดจดุ ทศนยิ ม Num_digits จาํ นวนหลกั ของทศนยิ ม 11
13. IF (การหาคา่ ความจริงหรือเท็จจากเงอื่ นไขท่รี ะบ)ุ รปู แบบ =IF(Logical,Value_if_true,Value_if_false) Logical เงอ่ื นไขท่ีใชใ้ นการเปรียบเทยี บหรือตรวจสอบขอ้ มลู Value_if_true คา่ ของเงอื่ นไขท่ถี กู ตอ้ ง(จริง) Value_if_false คา่ เงอ่ื นไขทไี่ มถ่ กู ตอ้ ง(เท็จ) 12
14. DATE (การระบขุ อ้ มลู ท่เี ป็ นวนั ที่) รปู แบบ =DATE(Year,Month,Day) Year ใสค่ า่ ค.ศ. Month ใสค่ า่ เดอื น Day ใสค่ า่ วนั ที่ 13
15. DATEDIF (การระบเุ งอ่ื นไขในการหาขอ้ มลู ท่ีเป็ นวนั ท่ี) รปู แบบ =DATEDIF(ระบเุ งอ่ื นไข) 16. Now (การหาวนั ทแ่ี ละเวลาปัจจบุ นั ) รปู แบบ =Now() 14
17. HOUR (การหาชวั่ โมง) รปู แบบ =HOUR(Serial_number) Serial_number คา่ ของตวั เลขหรือขอ้ ความที่อยใู่ นรปู แบบของเวลา 15
18. VLOOKUP (การคน้ หาและแสดงขอ้ มลู ) รปู แบบ =VLOOKUP(Lookup_value,Table_array,Col_index_num,Range_lookup) Lookup_value คา่ ทีใ่ ชใ้ นการคน้ หา Table_array ตารางขอ้ มลู ที่ใชส้ าํ หรบั แสดงผลและคน้ หาขอ้ มลู Col_index_num คอลมั นท์ ต่ี อ้ งการขอ้ มลู โดยคอลมั นแ์ รกมคี า่ เป็ น 1 และคอลมั นต์ อ่ ไปจะเป็ น 2,3,....ตามลาํ ดบั Range_lookup คา่ ทางตรรกะทก่ี าํ หนดในการคน้ หามี 2 รปู แบบ False ใชค้ น้ หาคา่ ทต่ี รงกบั คา่ ท่ใี ชใ้ นการคน้ หา True ใชค้ น้ หาคา่ ท่ีใกลเ้ คียงทีส่ ดุ นอ้ ยกวา่ คา่ ในการคน้ หา 16
ตวั อยา่ งการใชฟ้ ังกช์ นั SUMIF (การหาผลรวมแบบมเี งอ่ื นไข) รปู แบบ =SUMIF(Range,Criteria,Sum_range) Range ขอบเขตขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการตรวจสอบตามเงอ่ื นไข Criteria เงอ่ื นไขทีก่ าํ หนดใหค้ าํ นวณหาผลรวม Sum_range ชว่ งของเซลลท์ ี่ตรวจสอบตามเงอื่ นไขเพ่ือนาํ มาคาํ นวณ 17
ตวั อยา่ งการใชฟ้ ังกช์ นั STDEV (การหาคา่ การเบ่ียงเบนมาตรฐาน) รปู แบบ =STDEV(Number1,Number2,....) Number เป็ นกลมุ่ ของขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการหาคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน 18
ผจู้ ดั ทาํ ชอ่ื -สกลุ : วิภาวี ทศั นสวุ รรณ เลขท่ี : 32 รหสั นกั ศึกษา : 62202040083 ระดบั ชน้ั : ปวช. 1 หอ้ ง 2 แผนก : คอมพิวตอรธ์ รุ กจิ E - mail : [email protected] 19
อาจารยผ์ สู้ อน ● อาจารยร์ ตั นภรณ์ จนั ทะวงศ์ ● วิชาโปรแกรมตารางคาํ นวณ ● รหสั วิชา 20204-2103 ● แผนก คอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ 20
แหลง่ อา้ งอิง ● https://is.gd/s2Mska ● https://is.gd/GursUb ● https://is.gd/453R7m 21
79 หมู่ 5 ต.บา้ นกลาง อ.เมอื ง จ.ปทมุ ธานี 12000 วิทยาลยั เทคนคิ ปทมุ ธานี Pathumthani Technical College แผนกคอมพิวเตอรธ์ รุ กจิ Business Computer
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: