จัดทำโดย เด็กชายณัฐวุฒิ ผอมปิด ชั้น ม. 1/7 เลขที่ 7 โรงเรียนสภาราชินี
คำนำ ขนมไทยโบราณ ของหวานแบบไทยๆ ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ละสูตรผ่านการคิดค้นมานับร้อย ปี ส่งต่อเป็นขนมมงคล ไว้เลี้ยงงาน บุญ รวมถึงต้อนรับแขกให้ประทับใจ วันนี้พามารำลึกถึงขนมไทยไป พร้อมๆ กัน
สารบัญ เรื่อง 1. กล้วยบวชชี 2. ขนมกล้วย 3. ขนมใส่ไส้ 4. ข้าวต้มมัด 6. ทองหยอด 5. ขนมทองเอก 6. ทองหยอด 7. ทองหยิบ 8. ฝอยทอง 9. เต้าส่วน 10. ลูกชุบ 11. ขนมชั้น 12. ขนมต้ม 13. ขนมเบื้อง 14. ทองม้วน 15. ขนมกลีบลำดวน 16. ขนมปลากริม 17. บัวลอย 18. ครองแครง 19. สลิ่ม 20. หม้อแกง 21. สังขยามะพร้าวอ่อน 22. ขนมฟักทอง 23. ขนมตาล 24. ขนมเผือกแกงบวด 25. ขนมมันม่วง 26. ข้าวเหนียวมะม่วง 27. วุ้นมะพร้าว 28. วุ้นกะทิ 29. ตะโก้ 30. ขนมน้ำดอกไม้
1. กล้วยบวชชี กล้วยบวชชีเป็นขนมไทยโบราณที่เกิดจาก การคิดค้นนำผลไม้พื้นบ้าน ที่ปลูกกันทุก ครัวเรือนมาดัดแปลงรสชาติเป็นขนม หวานราดกะทิหอมๆ นิยมนำกล้วยน้ำว้า ทั้งลูกไปต้มทั้งเปลือก เพื่อไม่ให้ผลกล้วย ฝาด หลังจากนั้นนำมาปอก ต้มกับ น้ำตาลปี๊บ หางกะทิ ถ้าอยากให้หอมก็ใส่ ใบเตยเข้าไปต้มด้วย
2. ขนมกล้วย ขนมกล้วย เป็นการแปรรูปกล้วย อีกวิธี ที่ให้รสชาติหอมหวาน ใช้ กล้วยน้ำว้ากับกะทิ น้ำตาลปี๊บ แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทราย นำมาบดผสมกันกับเนื้อมะพร้าว ขูด แล้วนำไปนึ่งในถ้วยเล็กๆ หน้าตาคล้ายขนมถ้วย
3. ขนมใส่ไส้ ขนมใส่ไส้ เป็นขนมที่ทำจากแป้ง ข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า และ มะพร้าวขูด โดยแยกทำไส้กับแป้ง ห่อออกจากกัน ผสมแป้งปั้นห่อไส้ ที่ทำจากมะพร้าวขูดเคี่ยวกับ น้ำตาลปี๊บ บางสูตรใส่น้ำใบเตย เพื่อความหอม หลังจากนั้นก็ห่อ กลัดด้วยใบตอง นำไปนึ่ง พักไว้ให้ เย็นลงก่อนจัดจาน
4. ข้าวต้มมัด ข้าวต้มมัดมีวิธีการทำคล้ายขนม ใส่ไส้ แต่เปลี่ยนจากการผสมแป้ง ปั้นขึ้นรูป มาใช้เป็นข้าวเหนียว หรือข้าวเหนียวถั่วดำแช่น้ำค้าง คืนให้นิ่ม นำมาผัดให้หอมกับกะทิ แล้วใช้กล้วยเป็นไส้ นำมาห่อด้วย ใบตอง
5. ขนมทองเอก ขนมทองเอก เป็นขนมไทยมงคล ที่หน้าตาคล้ายทองหยอด แต่ ต้องเทลงแม่พิมพ์ วิธีทำคือเคี่ยว น้ำตาลทรายในกระทะ และใส่ไข่ แดงคน จากนั้นใส่แป้งสาลีผสม แป้งท้าวยายม่อม กวนจนเนื้อจับ กันพอดี หลังจากนั้นรอให้เย็น ก่อนนำเข้าแม่พิมพ์ ใช้ทองคำ เปลวตกแต่งหน้าขนม อันเป็น ที่มาของชื่อขนมทองเอก
6. ทองหยอด ทองหยอด เป็นขนมไทยตระกูล ทองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นขนมมงคล ใช้ ไข่เป็ดแยกเฉพาะไข่แดง กรองผ้า ขาวบางให้ฟู จากนั้นคนแป้งให้ เข้ากันกับไข่แดง นำไปหยอดใน น้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนเตา เมื่อทอง หยอดสุกแล้วจะลอยขึ้นมาจาก น้ำ จึงตักขึ้นมาพักให้เย็น
7. ทองหยิบ ทองหยิบ เป็นอีกหนึ่งขนมมงคล ตระกูลทอง ใช้ส่วนผสมและวิธีทำ เหมือนทองหยอด แต่ตีเนื้อให้ แบนก่อนลงน้ำเชื่อมในกระทะ ใช้ วิธีจับจีบขนมที่ลอยขึ้นมาก่อนตั้ง พักไว้ให้เย็น เพื่อให้มีรูปทรงเป็นก ลีบดอกไม้
8. ฝอยทอง ฝอยทอง เป็นขนมไทยอีกชนิดที่มีที่มา พร้อมกับทองหยิบ ทองหยอด โดยใช้วิธี ร่อนไข่ที่ผ่านกระบวนการตีฟูด้วยผ้าขาว บาง นำใบตองมาม้วนเป็นกรวย เว้นก้น กรวยให้มีรู หรือใช้กรรไกรตัดให้ไข่ สามารถลอดลงหม้อได้ในขนาดที่เป็นเส้น สวยงาม เมื่อใกล้สุกก็เตรียมใช้ไม้ปลาย แหลมช้อนขึ้นมา
9. เต้าส่วน เต้าส่วน เป็นขนมไทยที่ทำมาจาก ถั่วเขียวแช่น้ำเลาะเปลือก แล้วนำ ไปต้มกับน้ำเชื่อมกับแป้งท้าวยาย ม่อม แป้งมัน เสิร์ฟด้วยวิธีการ ราดน้ำกะทิ เป็นของหวานรับ ประทานง่าย
10. ลูกชุบ ลูกชุบ เป็นขนมไทยที่ทำจากถั่ว เขียว ไส้ทำมาจากถั่วเขียวเลาะ เปลือกนึ่งปั่นกับหัวกะทิและ น้ำตาลทราย นำมาปั้นพักเสียบ ไม้ไว้ เพื่อนำมาจุ่มกับสีผสม อาหาร และเคลือบด้วยวุ้น ปัก ด้วยใบไม้ให้สมจริง เพิ่มสีสัน ความสวยงาม
11. ขนมชั้น ขนมชั้น เป็นขนมที่ทำจากแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อม นำมาต้มในน้ำอุ่นที่ใส่น้ำตาล ทรายไว้แล้ว จากนั้นเทกะทิลง เคี่ยว พอแป้งเริ่มเหนียวก็นำมา แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเติม สีผสมอาหาร หรือสีธรรมชาติ แล้วเทลงบนแม่พิมพ์ พักไว้สลับ ชั้นกันก่อนนำมาตัดแบ่งเป็นชิ้น สวยงาม
12. ขนมต้ม ขนมต้ม เป็นขนมที่มีไส้และห่อ ด้วยแป้งคลุกมะพร้าวขูด วิธีทำ ผัดไส้ก่อนด้วยมะพร้าวขูด น้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำใบเตย เมื่อ เคี่ยวแห้งแล้วนำมาตั้งให้หาย ร้อน นวดแป้งข้าวเหนียวกับกะทิ นำมาห่อไส้ขนม แล้วต้มในน้ำ เดือด แป้งที่สุกแล้วจะลอยน้ำขึ้น มา จากนั้นนำลูกขนมมาคลุกกับ เนื้อมะพร้าวขูด
13. ขนมเบื้อง ขนมเบื้อง เป็นขนมไทยโบราณที่ นิยมรับประทานกันถึงทุกวันนี้ วิธีทำต้องแยกทำไส้กับแป้ง โดย การตอกไข่เป็ดแล้วนำไข่แดงไป ทำไส้นม และไข่ขาวผสมครีมออฟ ทาทาร์เพื่อทำครีมทาบนหน้าแป้ง ที่ตีเป็นวงบนกระทะ จากนั้นใช้ไม้ ทำขนมตักขึ้นมาพับไว้เพื่อเสิร์ฟ
14. ทองม้วน ทองม้วน ทำจากแป้งสาลีตีผสม กับไข่ไก่และมะพร้าวขูด โรยงา และนำมาเทบนแม่พิมพ์ หลังจาก นั้นใช้ไม้มาเป็นแกนขึ้นรูป พักทิ้ง ไว้ให้เย็นแล้วรีบบรรจุใส่ถุง ปิดปากถุงให้สนิทเพื่อรักษา ความกรอบ
15. ขนมกลีบลำดวน ขนมกลีบลำดวน เป็นขนมไทย โบราณที่ผสมผสานวัฒนธรรม ไทยเข้ากับต่างชาติ ด้วยการใช้ แป้งทำขนมผสมน้ำตาลไอซิ่ง ใส่ น้ำมันพืช ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ตัด เป็น 4 ส่วนเรียงเป็นรูปกลีบ ดอกไม้และเกสร หลังจากนั้นนำ ไปอบในเตาอบ แล้วนำมาอบควัน เทียนอีกรอบ ทำให้ขนมมีกลิ่น หอมน่ากิน
16. ขนมปลากริม ขนมปลากริม เป็นขนมที่ทำจาก แป้งหลายชนิด ได้แก่ แป้งข้าว เหนียว, แป้งข้าวเจ้า, แป้งมัน, แป้งถั่วเขียว นำมาคลุกปั้นเป็น ก้อน แล้วนวดแบ่งเป็นเส้น ส่วน น้ำราดใช้แป้งข้าวเจ้าผสมน้ำตาล ปี๊บกับกะทิ
17. บัวลอย บัวลอย เป็นอีกขนมที่ทำจากแป้ง ปั้นใส่น้ำกะทิ เกิดการสร้างสรรค์ ผสมแป้งผสมอาหาร แล้วนำไป ต้มกับน้ำกะทิ ที่ปรุงหวานอย่าง พอดีด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำตาล ทราย ใส่มะพร้าวอ่อนกับไข่ หรือ ไข่เค็มได้ตามความชอบ
18. ครองแครง ครองแครง มีวิธีทำคล้ายกับ บัวลอย แต่ผสมแป้งมัน แป้งข้าว เจ้า และแป้งท้าวยายม่อม ผสม นวดลงบนแม่พิมพ์ แป้ง ครองแครงจะมีรสชาติเหนียว เคี้ยวสนุก ต้มน้ำกะทิแยกเพื่อนำ มาใช้เป็นน้ำราด
19. สลิ่ม สลิ่ม ใช้แป้งถั่วเขียวหรือแป้งสลิ่ม ปั้นนวดบนที่กด ให้เป็นเส้นยาวๆ ลงในน้ำเย็น เพื่อให้เส้นไม่ขาด นำ เส้นมาผึ่งพักไว้ แล้วเสิร์ฟพร้อม กับน้ำเชื่อมกะทิที่ใช้น้ำลอยดอก มะลิที่มีกลิ่นหอม ใส่น้ำแข็งรับ ประทานก็อร่อย
20. หม้อแกง ขนมหม้อแกง เป็นอีกหนึ่งขนมที่ ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบ หรือ เปลี่ยนจากกะทิเป็นนมข้นจืด ผสมกับไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ นวดให้ เป็นเนื้อเดียวกัน เติมแป้งข้าวจ้าว แล้วใส่เผือกบด นวดให้เข้ากัน นำ ไปตั้งไฟ หลังจากนั้นเทลงแม่ พิมพ์เข้าเตาอบ 25-30 นาที
21. สังขยามะพร้าวอ่อน สังขยามะพร้าวอ่อน มีวิธีการทำ ง่ายๆ นำมะพร้าวอ่อนมาปอก เปลือก เทน้ำออก นำเนื้อมะพร้าว กับน้ำกะทิมาปั่นรวมกันกับไข่ แดง แล้วนำมะพร้าวไปนึ่ง หยอด สังขยาแล้วนึ่งต่อ โรยหน้าด้วย ฝอยทอง
22. ขนมฟักทอง ขนมฟักทอง ทำจากเนื้อฟักทอง ต้มที่นำมาบด ผสมกับแป้งและ เนื้อมะพร้าว เทใส่ถ้วยแล้วนำไป นึ่ง โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูด เมื่อ สุกแล้วเนื้อฟักทองจะหอม น่ารับ ประทาน
23. ขนมตาล ขนมตาล ใช้ลูกตาลสุกมาแกะเอา เนื้อต้มกรองด้วยผ้าขาวบาง นำ ขึ้นมาแขวนทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้เนื้อ เข้มข้น หลังจากนั้นนำเนื้อลูก ตาลมาผสมกับกะทิ แป้ง ผงฟู น้ำตาลทราย เกลือ หมักทิ้งไว้ และนำมาเทลงในถ้วยพร้อมนึ่ง โรยมะพร้าวขูดปิดท้าย พร้อม เสิร์ฟ
24. ขนมเผือกแกงบวด เผือกบวด เป็นขนมไทยที่นิยมไม่ แพ้ฟักทองบวด หรือกล้วยบวชชี นำเผือกมาปอกเปลือกแล้วล้าง น้ำ หลังจากนั้นนำมาหั่นเป็นรูป ทรงพอดีคำ ต้มน้ำกะทิ ใส่ น้ำตาลทราย เกลือ ใบเตยเพื่อ เพิ่มความหอม หลังจากน้ำกะทิ เดือดก็เบาไฟ ใส่เผือกลงไปต้มต่อ หากน้ำกะทิเหือดก็เติมเพิ่มลงไป ได้
25. ขนมมันม่วง ขนมมันม่วง เป็นขนมไทยร่วม สมัย ที่เกิดจากการนำวัตถุดิบที่ กำลังเป็นที่นิยมมาใช้กรรมวิธีทำ แบบขนมไทย ทั้งการนำไปผสม แป้งนึ่ง โรยด้วยมะพร้าวขูด หรือ นำมาปั้นเป็นก้อนแล้วปิ้งบนเตา หรือนำไปทำมันม่วงบวดด้วย สูตรเดียวกับฟักทองบวด เผือ กบวด ก็อร่อยไม่แพ้กัน
26. ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวมะม่วง มักใช้มะม่วงน้ำ ดอกไม้สุก ปอกเปลือกหั่นพอดี คำ ราดบนข้าวเหนียวที่ผ่านการ นึ่งและมูนด้วยน้ำกะทิ เมื่อเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำกะทิ โรยด้วยถั่วเขียว เลาะเปลือกคั่ว อร่อยอย่าบอก ใคร
27. วุ้นมะพร้าว วุ้นมะพร้าว เป็นขนมไทยร่วมสมัย ที่ใช้วุ้นมาผสมกับน้ำมะพร้าว ขูด เนื้อมะพร้าว และเทลงบนพิมพ์ หรือจะเทกลับใส่ลงในลูกมะพร้าว ก็อร่อย มักเลือกใช้มะพร้าวอ่อน เพราะมีรสชาติหอมหวาน เป็น เมนูยอดนิยมในร้านอาหารไทย ทั้งในและต่างประเทศ เพราะทำ ง่ายและอร่อย
28. วุ้นกะทิ วุ้นกะทิ มีสูตรการทำคล้ายกับ ขนมชั้น แต่ไม่ใส่แป้ง ใช้ผงวุ้น น้ำ กะทิ เกลือ น้ำตาลทราย นิยมใช้สี เขียวของใบเตย เพราะมีกลิ่นหอม ใบเตย เทวุ้นที่ไม่ผสมกะทิพักไว้ และอีกชั้นเทด้วยวุ้นผสมกะทิ เพื่อสร้างสีสันให้กับเนื้อวุ้นให้ดูน่า รับประทาน
29. ตะโก้ ตะโก้ เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าว เจ้า แป้งถั่วเขียว ผสมกับแป้งมัน มักนิยมใช้แห้วหรือข้าวโพดทำไส้ รองไว้ชั้นใต้สุดของกระทงที่ทำมา จากใบเตย นำแป้งที่ผสมแล้วมา เทลงตัวกระทง โรยหน้าด้วย เผือกหั่นเต๋า
30. ขนมน้ำดอกไม้ ขนมน้ำดอกไม้ ทำมาจากแป้งข้าว เจ้า ผสมแป้งท้าวยายม่อม นำ มาตีผสมกัน แล้วใส่สีผสมอาหาร ตามชอบ เมื่อเทขนมลงถ้วยนึ่ง สุกแล้ว รอถ้วยเย็นจึงใช้ไม้แคะ ออกมาจากถ้วยพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ ขนมน้ำดอกไม้หน้าตาสวยๆ
สูตรขนมไทยโบราณและร่วมสมัย นี้สามารถนำไปต่อยอดสร้างงาน สร้างอาชีพได้ เป็นขนมมงคล สำหรับขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงพระ เลี้ยงแขก หรือทำขายให้กับร้าน อาหาร และผู้สนใจ เพื่อสืบทอด ภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนให้คง อยู่กับวัฒนธรรมไทยไปอี กนานๆ.
บรรณานุกรม www.google.com www.ไทยรัฐ ออนไลย์
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: