Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore sc02018

Description: sc02018

Search

Read the Text Version

42 7) สมมุติฐาน(ถา้ มี) 8) วิธีดําเนินงาน 9) ระยะเวลา 10) แผนปฎิบัติงาน 11) งบประมาณ 12) สถานทดี่ าํ เนนิ การ 13) การติดตามประเมินผล 14) ผลที่คาดวา่ จะได้รับ 15) รายการอา้ งองิ (ถา้ ม)ี ตอนท่ี 4.3 แนวทางการเขยี นแผนการเรียนร้โู ดยโครงงาน 1) ช่อื เรอ่ื ง ได้มาจากสาระการเรียนรทู้ ่ีเลือกทาํ ควรเขยี นสน้ั ๆ ชัดเจนวา่ ทําเร่อื งอะไร เช่น - โครงงานทาํ หมวกจากกล่องนม - โครงงานสาํ รวจสมุนไพรในหมู่บา้ น - โครงงานทดลองปลูกพชื โดยไม่ใชน้ ้าํ 2) ชือ่ ผู้จดั ทํา ระบชุ ่ือผู้เรียนหรือกล่มุ ผ้เู รยี นทที่ ําโครงงาน 3) ชื่อทป่ี รกึ ษา ถา้ เปน็ คนละคนกบั ครปู ระจาํ ผเู้ รยี นตอ้ งไปประสานงาน 4) ท่ีมาและความสําคัญ เป็นการเขียนเพื่ออธิบายความเป็นมา อธิบายสภาพความเป็นจริงที่มีอยู่ เหตผุ ลและความเปน็ จริงของกลุ่ม (หรือของตนเอง) ที่ต้องการศึกษาเร่ืองน้ัน เพราะเร่ืองท่ีปรึกษามีความสําคัญ มากอย่างไร เป็นเรื่องที่จะศึกษาขึ้นมาใหม่ หรือพัฒนาต่อยอดจากท่ีเคยมีผู้ศึกษาหรือทําไว้แล้ว หรือเป็นเร่ืองที่ จะแก้ปัญหาในท้องถิ่นก็ระบุถึงสภาพปัญหาท่ีมีอยู่ สภาพท่ีต้องการจะให้เกิดขึ้นหลังจากทําโครงงานน้ี คือจะ ชว่ ยแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งไร เป็นประโยชน์ เปน็ ผลดตี ่อชุมชนอยา่ งไร การเขยี นทม่ี าและความสาํ คัญของเร่อื งที่นาํ มาจัดทาํ เปน็ โครงงานมี 3 ส่วน คอื ส่วนนํา เป็นการบรรยายถึงความเป็นมา สภาพปัญหา เหตุผล หรือนโยบาย หลักเกณฑ์ แนวคิดต่างๆท่ีเป็นมูลเหตจุ งู ใจใหจ้ ดั ทาํ โครงงาน ส่วนเนื้อเรื่อง เป็นการบรรยายว่าโครงงานที่ทําเป็นการศึกษาหาความรู้ในเร่ืองใด เร่ืองนั้นสําคัญ อย่างไร เป็นประโยชน์มากอย่างไร หรือช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง หรือถ้าเป็นโครงงานสิ่งประดิษฐ์บอกว่า นําไปใช้สอยอะไร มีคุณค่าอย่างไร ส่วนสรุป สรุปว่าจําเป็นอย่างยิ่งท่ีต้องจัดทําขึ้น เพ่ือแก้ปัญหาหรือเพื่อช่วยขยายความรู้ให้กว้างขวาง ช่วยอนรุ ักษส์ บื ทอดวฒั นธรรมอนั ดงี ามของชมุ ชน การเขียนท่ีมาและความสําคัญควรใช้ถ้อยคําง่ายๆ ให้ทุกส่วนร้อยเรียงสอดรับกันเป็นทอดๆไม่ต้องยาว มาก ดังตวั อยา่ ง

43 โครงงานสํารวจสมุนไพรในหม่บู า้ น ท่มี าและความสาํ คญั สมุนไพรในหมู่บ้าน…..มีจํานวนมาก บางชนิดชาวบ้านนําไปใช้รับประทาน บางชนิดก็นําไป ทําเป็นยา แตม่ ชี าวบา้ นจาํ นวนมากทยี่ งั ไม่รจู้ กั และไมท่ ราบคุณและโทษของสมนุ ไพรแต่ละชนดิ ในหมูบ่ ้าน…มีผู้สงู อายสุ องทา่ นท่ีไดร้ ับการถ่ายทอดความรู้เรือ่ งสมุนไพรมาจากบรรพบรุ ษุ แต่ท้ังสองท่านไม่ได้ถ่ายทอดต่อให้ลูก หลาน ความรู้ท่ีมีอยู่ไม่นานก็จะสูญหายไปตามอายุขัยของท่านหากไม่ มีการรวบรวมข้อมูลสมุนไพรต่างๆในหมู่บ้านไว้เมื่อเวลาล่วงเลยไปก็จะไม่มีผู้รู้จักสมุนไพรเหล่าน้ัน ทําให้ สมุนไพรบางชนิดสูญพันธุ์ไปโดยท่ีไม่มีใครรับการถ่ายทอดมาเน่ืองจากไม่เห็นความสําคัญ ไม่รู้คุณค่า ไม่ ทราบถึงประโยชน์ของสมนุ ไพรนน่ั เอง ดังน้ัน การรวบรวมสมุนไพรจะทําให้ทราบว่าในหมู่บ้านมีสมุนไพรชนิดใดบ้าง แต่ละชนิดมี สรรพคุณอย่างไร มวี ธิ ีการดูแลและดาํ รงไว้อย่างไร เพ่ือให้ประชาชนนําสมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเอง ต่อครอบครัว และชุมชนไดต้ อ่ ไป 5) วัตถุประสงค์ เขียนอธิบายเป็นข้อๆ ว่าทําโครงงานนั้นเพื่ออะไร ควรศึกษามาตรฐานการเรียนรู้ใน สาระท่ีเลือกไปทําโครงงาน เพื่อเป็นแนวทางในการเขียน เพื่อให้การทําโครงงานสอดคล้องกับมาตรฐานการ เรยี นรหู้ รือวตั ถุประสงคก์ ารเรียนรู้ ดงั ตวั อยา่ ง - เพอื่ ศกึ ษาชนดิ และสรรพคุณของสมุนไพร - เพือ่ เปรยี บเทียบการเจรญิ เตบิ โตของต้นมะมว่ งทใ่ี ชป้ ๋ยุ ชนิดตา่ งกนั - เพ่ือประดิษฐข์ องชาํ ร่วยจากวสั ดุเหลือใช้ - เพื่อศึกษาประวัตคิ วามเปน็ มาของอําเภอเพ็ญ 6) เป้าหมาย เขียนอธิบายว่าจะทําผลงานหรือช้ินงานอะไรบ้าง จํานวนเท่าไร คุณภาพของผลงานเป็น อยา่ งไร โดยแยกเป็น 1) เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ คือ ระบุชนิด ประเภท และจํานวนของผลงานหรอื ชน้ิ งานเชน่ - สาํ รวจสมุนไพรในหมูบ่ ้าน จาํ นวน 50 ชนดิ - ประดษิ ฐข์ องชํารว่ ยจากวัสดเุ หลือใช้ จํานวน 20 แบบ 2) เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือ การแสดงถึงคุณค่าผลงานหรือคุณลักษณะของผลงานว่า ดี เหมาะสม เป็นไปตามเกณฑ์ เป็นไปตามมาตรฐาน เปน็ ไปตามทฤษฎอี ยา่ งไร เช่น - ผูเ้ รยี นและประชาชนในหมบู่ ้านเหน็ คณุ คา่ ของสมุนไพร - ของชําร่วยท่ีประดิษฐ์มีความสวยงามเหมาะสมกับการเลือกใช้ในโอกาสต่างๆ ให้ เหน็ คณุ ค่าความเจริญทางจิตใจ 7) สมมุติฐาน (ถ้ามี) คือ การคาดคะเนคําตอบไว้ล่วงหน้าอย่างมีเหตุผล ตามหลักทฤษฎี ถ้าเป็น โครงงานประเภททดลองมกั มีการต้ังสมมุตฐิ าน เช่น - ความถคี่ ล่นื เสยี งแรงขน้ึ มปี ระสิทธภิ าพในการไล่แมลงได้สูงข้นึ - ปยุ๋ หมักทาํ ให้ต้นมะม่วงเจริญเตบิ โตไดด้ กี ว่าป๋ยุ คอกและปุ๋ยเคมี 8) วิธีดําเนนิ งาน เปน็ การระบุขนั้ ตอนการทาํ โครงงานในภาพรวมต้งั แต่ตน้ จนจบวา่ จะต้องทาํ อะไรบ้าง เรียงตามลาํ ดับ เพ่ือนําไปจดั ทาํ เปน็ ปฏิทนิ ปฏบิ ตั ิงาน ดงั ตัวอยา่ ง 1. วิเคราะห์เลือกหัวข้อที่จะทําโครงงาน 2. ติดตอ่ ประสานงานท่ปี รกึ ษา 3. ศึกษาหัวขอ้ ทีเ่ ก่ยี วข้อง 4. จัดทําแผนการทําโครงงาน

44 5. เสนอขออนมุ ัตแิ ผน 6. ปฏบิ ัตงิ านตามแผน 7. บนั ทกึ และประเมินผลระหวา่ งปฏิบตั ิงาน 8. เขียนรายงานผลการทําโครงงาน 9. เสนอผลงานและเอกสารรายงานต่อสถานศกึ ษา 9) ระยะเวลา เป็นการระบุระยะเวลาต้ังแต่เร่ิมต้นทําโครงงานจนสําเร็จว่าใช้เวลานานเท่าใดเช่น 17 พฤษภาคม 2549 – 30 มถิ ุนายน 2549 10) แผนปฏิบัติงาน เป็นการกําหนดกระบวนการในการทําโครงงานอย่างละเอียด โดยระบุกิจกรรม ระยะเวลา สถานที่ งบประมาณ วสั ดอุ ุปกรณ์ ผูร้ บั ผดิ ชอบและตัวบง่ ช้คี วามสําเร็จเพอื่ การประเมินผลไว้ดว้ ย 11) งบประมาณ เปน็ การประเมนิ การคา่ ใช้จ่ายในการจดั ทาํ โครงงานทั้งหมด เช่น ค่าวัสดุ อุปกรณ์ ค่า เดนิ ทาง ค่าเคร่ืองมือบางชนดิ เป็นตน้ การทําโครงงานนั้นให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และวัสดุที่มีอยู่ในท้องถ่ินมาใช้ประโยชน์ให้มาก ไม่ ต้องการใหผ้ เู้ รียนซ้ือวัสดรุ าคาแพงที่ต้องลงทุนมากๆ 12) สถานท่ดี ําเนนิ งาน ระบุสถานท่หี ลกั ที่ใช้จัดทาํ โครงงานและสถานทที่ ีเ่ กี่ยวขอ้ ง เช่น โครงงานสํารวจสมุนไพรในหม่บู า้ น ทีบ่ า้ น…………….. ตาํ บล…………….. อําเภอ……….. จังหวัด…………...……… 13) การติดตามประเมินผล ผู้เรียนเสนอไว้ในแผนการทําโครงงานเพื่อให้สถานศึกษาทราบว่าผู้เรียน เสนอไว้ในแผนการทําโครงงาน เพื่อให้สถานศึกษาทราบว่า ผู้เรียนจะมีการติดตามประเมินผลการทําโครงงาน ของตนเอง โดยแบง่ ออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การเริ่มต้นโครงงาน หรือระยะก่อนทําโครงงาน เป็นระยะที่ผู้สอนต้องสังเกต/สร้างความ สนใจใหเ้ กดิ ขนึ้ ในตวั ผเู้ รียน จากนัน้ ตกลงร่วมกนั เลอื กเรอ่ื งท่ีตอ้ งการศกึ ษาอยา่ งละเอยี ดผสู้ อนสร้างความสนใจ ให้เกิดกับผู้เรียนซ่ึงมีหลายวิธี โดยอาจศึกษาเรื่องจากการบอกเล่าของผู้ใหญ่หรือผู้รู้ จากประสบการณ์ของ ผู้เรยี น/ผูส้ อน จากเอกสารสง่ิ พมิ พ์ หรือสอื่ ต่างๆ จากการเลน่ ของผู้เรียน จากความคิดทเ่ี กดิ ข้นึ จากวัตถุส่ิงของที่ ผู้สอนนํามาในห้องเรียน หรือจากตัวอย่างโครงงานท่ีผู้อื่นทําไว้แล้ว เป็นต้น เมื่อเกิดความสนใจแล้วก็จะถึงการ กําหนดหัวข้อโครงงาน โดยนําเรื่องท่ีผู้เรียนสนใจมาอภิปรายร่วมกัน แล้วกําหนดเรื่องนั้นเป็นหัวข้อโครงงาน ท้งั นี้จะตอ้ งคาํ นงึ วา่ การกําหนดหวั ข้อโครงงานน้นั จะกระทาํ หลังจากการตรวจสอบสมมตฐิ านเสรจ็ ส้นิ แล้ว ระยะท่ี 2 ขั้นพัฒนาโครงงาน หรือระยะระหว่างทําโครงงาน เป็นข้ันที่ผู้เรียนกําหนดหัวข้อคําถาม หรือประเด็นปัญหา ที่ผู้เรียนสนใจอยากรู้ แล้วต้ังสมมติฐานมาตอบคําถามเหล่านั้น ทดสอบสมมติฐานด้วยการ ลงมือปฏิบัติ จนค้นพบคําตอบด้วยตนเองหรือเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามแผนปฏิบัติงานหรือไม่ การทํา โครงงานมคี วามกา้ วหน้ามากนอ้ ยเพียงใด ตามขน้ั ตอนดงั น้ี 1. ผู้เรียนกาํ หนดปญั หาที่จะศึกษา 2. ผเู้ รยี นต้งั สมมติฐานเบอ้ื งต้น 3. ผู้เรียนตรวจสอบสมมตฐิ านเบ้อื งตน้ 4. สรปุ ขอ้ ความรู้จากผลการตรวจสอบสมมติฐาน ระยะท่ี 3 ขั้นสรปุ หรอื ระยะหลงั ทาํ โครงงาน เปน็ ระยะสดุ ทา้ ยของโครงงานบรรลุวัตถปุ ระสงคห์ รอื ไม่ เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ผลงานเป็นอย่างไร สมาชิกในกลุ่มพึงความพอใจมากน้อยเพียงใด ท่ีผู้เรียนค้นพบ คาํ ตอบของปัญหาแล้ว และได้แสดงใหผ้ สู้ อนเหน็ ว่าไดส้ ้ินสดุ ความสนใจในหวั ขอ้

45 ตวั อย่าง แบบตดิ ตามประเมนิ ผล 1. ก่อนทําโครงงาน รายการประเมิน มี ไม่มี แนวทางแกไ้ ข 1. วสั ดุอุปกรณ์………………….. ………… ………… …………………………..,. 2. คา่ ใช้จ่าย…………………….. ………… ………… …………………………..,. 3. เอกสารสําหรบั ค้นคว้า………. ………… ………… …………………………..,. 4. ผ้รู ภู้ มู ิปญั ญา……………….. …………. …………. …………………………..,.. ฯลฯ 2. ระหว่างทาํ โครงงาน รายการประเมนิ การปฎบิ ตั ิ มาก ปานกลาง น้อย 1. การมีส่วนรว่ มของสมาชิก……….. ………………. ………………. ………………. 2. ความรบั ผิดชอบ………………… ………………. ………………. ………………. 3. ตรงตอ่ เวลา…………………….. ………………. ………………. ………………. 4. ปฎบิ ัตงิ านไดส้ าํ เร็จ……………. ………………. ………………. ………………. 3. หลงั ทาํ โครงงาน รายการประเมนิ มาก ปานกลาง น้อย 1.ผลงาน/ชน้ิ งาน 1) มคี ณุ คา่ ……………………………… ………………. ………………. ………………. 2) การใชป้ ระโยชน์…………………… ………………. ………………. ………………. 2.ทกั ษะทไ่ี ดร้ บั จากการทาํ โครงงาน 1. การคดิ ……………………………….. ………………. ………………. ………………. 2. การวางแผน…………………………. ………………. ……………….……… ……………….…… 3. การแสวงหาความร…ู้ ……………… ………………. ………. …………. 3. ความพงึ พอใจจากการทาํ โครงงาน ฯลฯ รายการประเมินสามารถเปลย่ี นแปลงได้ตามเน้ือเร่ืองและประเภทของโครงงานท่ีทํา เคร่ืองมือประเมิน มีหลากหลาย เช่น แบบสอบถาม การเขียนแสดงความคดิ เห็น การเขียนแสดงความรู้สกึ เป็นต้น 14) ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ เขียนบรรยายให้ทราบว่าถ้าทําโครงงานน้ีสําเร็จจะได้รับผลอย่างไรเช่น มี ความรู้ ความสามารถ มีประสบการณเ์ พ่ิมขน้ึ สง่ ผลตอ่ ครอบครวั ชุมชนหรือไม่อยา่ งไร เช่น - ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเรอื่ งสมนุ ไพร - ผ้เู รียนสามารถนาํ สมนุ ไพรไปใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ในชีวติ ประจําวัน 15) รายการอ้างอิง (ถ้ามี) เป็นการระบุรายชื่อเอกสารหรือส่ืออ่ืนๆท่ีผู้เรียนใช้ค้นคว้า ประกอบการทํา โครงงาน เช่น ธวัชชัย สันติสุข. สารานุกรมไทยสําหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ใน พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยูห่ วั เลม่ 21. กรุงเทพมหานคร : รงุ่ ศลิ ป์การพิมพ์(๑๙๗๗), 2539

46 (ปก) แผนการเรียนรโู้ ดยโครงงาน เรือ่ ง ………………………………………. รายวชิ า………………………………….ระดบั ………………………… ภาคเรยี นท…ี่ ……………. ปกี ารศึกษา ……………………… โดย 1. ………………………………….. 2. …………………………………….. กศน.ตําบล/ ศนู ย์การเรยี นชุมชน…………………………….. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาํ เภอ………..

47 (หนา้ อนมุ ตั )ิ การอนมุ ตั ิแผนการเรียนร้โู ดยโครงงาน 1. ช่อื โครงงาน ……………………………………………………….. รายวชิ า …………………….. ระดับ……………………… ภาคเรียนท…ี่ ………… ปกี ารศกึ ษา …………………… 2. ช่ือทปี่ รึกษาโครงงาน ……………………………………………… 3. ช่ือผ้จู ัดทาํ 3.1 …………………… รหสั ประจาํ ตัว ……………………… 3.2 …………………… รหัสประจําตวั ……………………… ฯลฯ 4. ความเหน็ ของคณะกรรมการ  เห็นควรอนุมตั ิ  เหน็ ควรปรบั ปรุง ลงชอ่ื ………………กรรมการ ลงช่อื …………………. กรรมการ (……………………..) (………………….) ……./………/………. . ………./………../……… 5. ผลการพิจารณาของสถานศึกษา …………………………………………………………………………… ลงชื่อ …………………… ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา (………………………) ………/………/……..

48 การอนุมัติแผน เมื่อผู้เรียนจัดทําแผนเสร็จ ให้เสนอครูผู้สอน ช่วยตรวจแก้ไข ปรับปรุง เพิ่มเติม ครูผู้สอนนําเสนอต่อคณะกรรมการท่ีสถานศึกษาแต่งตั้งข้ึนเพ่ือให้ความเห็นชอบ หรือสถานศึกษาอาจ มอบหมายให้ ครูผสู้ อนอาจพิจารณาเหน็ ชอบก็ได้ แล้วนําเสนอต่อผบู้ ริหารสถานศกึ ษา การปฏิบัติงานตามแผน ข้ันตอนน้ีสําคัญมากเพราะถ้าไม่ลงมือปฏิบัติผู้เรียนก็ไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้แสดง ความสามารถ และไม่มีผลงานออกมาเป็นรูปธรรมให้เห็น ดังน้ันครูจึงควรกระตุ้น ติดตามให้ผู้เรียนมีการ ปฏิบตั งิ านอยา่ งจรงิ จงั ในขัน้ ตอนนม้ี สี ่งิ ที่ผู้เรยี นต้องดําเนนิ งาน คอื 1) บันทึกผลการปฏิบัติงาน ให้ผู้เรียนบันทึกงานท่ีปฏิบัติ ปัญหา อุปสรรคและการแก้ไขตาม ระยะเวลาทก่ี าํ หนดไว้ในแผนปฏิบัตงิ าน 2) รายงานความก้าวหน้า โดยปกติควรกําหนดให้ผู้เรียนรายงานความก้าวหน้าทุกสัปดาห์ใน การพบกลมุ่ เป็นการตรวจสอบว่าผ้เู รียนมกี ารปฏิบตั ิงานจรงิ 3) ประเมินผลระหว่าง-หลังปฏิบัติงาน ท้ังครูและผู้เรียนสามารถร่วมกันประเมินได้ การ ประเมินระหว่างการปฏิบัติงาน เพื่อที่จะทราบว่าการทําโครงงานจะบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ ผู้เรียน ปฏบิ ัติงานด้วยความขยัน เพยี งใด รู้สกึ อยา่ งไรต่อการทาํ โครงงาน เมื่อปฏิบัติงานเสร็จก็ประเมินอีกครั้ง เพ่ือตรวจสอบว่าผลงานเปน็ ไปตามเป้าหมายหรอื ไม่ 4) ออกแบบรูปแบบของผลงาน ผู้เรียนช่วยกันออกแบบของผลงานท่ีได้จากการสํารวจ ทดลองหรือประดิษฐ์ ว่าจะออกมารูปแบบใด เช่น เอกสาร แผ่นพับ แผนภูมิ ส่ิงประดิษฐ์ แบบจําลอง ชนิ้ งานสภาพจรงิ ห่นุ นิทรรศการ เป็นตน้ ตอนท่ี 4.4 การรายงานผลการเรยี นรู้โดยโครงงาน เอกสารรายงานผลการเรียนรู้โดยโครงงาน มีส่วนประกอบ ดงั นี้ 4.1 สว่ นนํา ประกอบด้วย - ปก - บทคดั ยอ่ เปน็ การเขยี นแสดงที่มา วัตถุประสงค์ วิธีการทําโครงงาน ผลสรุปและการนําไปใช้ ประโยชน์ โดยเขยี นเปน็ ความเรยี งสั้นๆ - สารบัญ เปน็ การเขยี นแสดงลาํ ดบั ของหวั เรื่องต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารรายงาน 4.2 สว่ นเน้อื เร่อื ง ประกอบดว้ ย ตอนที่ 1 บทนํา ประกอบดว้ ย (1) ทีม่ า และความสําคัญ ของโครงงาน (2) ชื่อโครงงาน (3) วตั ถุประสงค์ เหมือนที่เขยี นไว้ในแผนการเรยี นรใู้ นโครงงาน (5) เปา้ หมาย (7) สมมุตฐิ าน (ถ้ามี) (8) ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั ตอนท่ี 2 การศึกษาข้อมูลที่เก่ียวข้อง ให้บรรยายว่าการทําโครงงานเรื่องนั้น ผู้เรียนได้ไป ศึกษาค้นคว้าหา ข้อมูลอะไรบ้าง อาจจะไปศึกษาจากเอกสาร ค้นทาง Inter สอบถามจากภูมิปัญญา ทอ้ งถิ่น ฯลฯ แล้วนําขอ้ มูลมาเขยี นสรปุ

49 ตอนท่ี 3 วิธีการดําเนินงาน ให้อธิบายส้ัน ๆ แต่ละขั้นตอนของการทําโครงงานตามความเป็น จรงิ ตั้งแตต่ น้ จนจบวา่ ทําอย่างไร เช่น (1) การเลือกเรื่องทจี่ ะทําโครงงานทําอยา่ งไร เช่น ประชุมหารือ ใชต้ ารางวิเคราะหท์ างเลอื ก (2) การเขียนแผนการทําโครงงานทําอย่างไร เช่น ประชุมหารือ ศึกษาข้อมูลเบ้ืองต้นคํานวณ ค่าใช้จ่าย (3) ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ถ้าเป็นโครงงานสํารวจให้เขียนว่ารวบรวมข้อมูลอย่างไร กับใคร ที่ ไหน ใช้เคร่ืองมืออะไร ถ้าเป็นโครงการทดลอง โครงงานสิ่งประดิษฐ์ ก็เขียนข้ันตอนการทดลอง ขนั้ ตอนการประดิษฐ์ อปุ กรณท์ ่ีใช้ งบประมาณท่ีใช้ เป็นตน้ (4) สถติ ทิ ่ีใช้ โครงงานประเภทสาํ รวจบางเรือ่ งอาจใช้การรวบรวมจาํ นวน และ คา่ รอ้ ยละ (5) การประเมินผลการปฏิบัติงานทําอย่างไร เช่น มีการประเมินก่อน ระหว่างและหลังการ ปฏบิ ัตงิ าน ตอนท่ี 4 ผลการดําเนินงาน คือ การเขียนบรรยายว่าผลการทําโครงงาน เป็นไปตาม วัตถุประสงค์หรือไม่ ได้ผลงานหรอื ช้ินงานตามเป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ และเชงิ คุณภาพหรอื ไม่ ตอนท่ี 5 สรปุ ผลการเรียนรู้ การนําไปใช้ประโยชน์ การสะท้อนความรู้สึกและข้อเสนอแนะให้ เขียนบรรยายว่า องค์ความรู้ท่ีได้จากการทําโครงงานตามสาระการเรียนรู้คืออะไร ผู้เรียนสามารถนํา องค์ความร้ทู ไ่ี ดร้ ับไปใช้ประโยชน์อยา่ งไร 4.3 สว่ นท้าย ประกอบด้วย - รายการอา้ งองิ ระบชุ ่อื เอกสาร ส่อื ประเภทต่างๆที่ใช้ประกอบในการทําโครงงาน - ภาคผนวก ใส่เอกสารท่ีเก่ียวข้อง เช่น หนังสือราชการที่ขอความร่วมมือเก็บรวบรวมข้อมูล แผนทหี่ มบู่ ้าน เป็นตน้ 4.4 การเผยแพร่การเรียนรู้ การทําโครงงานผู้เรียนได้นําเน้ือหาส่วนหน่ึงที่ผู้เรียนทุกคนจะต้องเรียนรู้ แยกกนั ไปทําโครงงาน ดังน้ัน เมื่อทําเสร็จแล้วก็ควรนําความรู้มาแลกเปลี่ยนกัน ซ่ึงสามารถจัดทําได้หลายวิธีคือ จัดนิทรรศการ เล่าบรรยายสรุป ทําเอกสาร สรุป ฯลฯ แสดงผลการเรียนรู้ให้เพื่อนๆทราบว่าไปเรียนรู้มาจริง ผลการเรียนร้นู ัน้ เปน็ ประโยชน์อย่างไร

50 ตอนที่ 4.5 ตวั อย่างการเขยี นรายงานผลการเรยี นรู้โดยโครงงาน โครงงานเรอ่ื ง การประดษิ ฐ์กระถางจากขวดพลาสตกิ ท่ปี รกึ ษาโครงงาน นางสาวปรารถนา เจริญดี ผจู้ ดั ทําโครงการ สถานท่ี นางสาวมลั ลกิ า เซยี่ งฝุง ระดับชนั้ ปี โรงเรยี นสายมติ รเทคโนโคราช 10 2/1 ปีการศกึ ษา 2554 บทคดั ยอ่ ในปัจจุบันความนิยมในการใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุอาหารและเคร่ืองด่ืมมีเป็น จํานวนมาก เนื่องจากสะดวกในการใช้งาน หาง่ายและมีราคาถูก ผลิตภัณฑ์เหล่าน้ีจะทําให้เกิดขยะมูลฝอยพลาสติก ซึ่งเป็น สาเหตปุ ระการหนึง่ ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาส่ิงแวดล้อมและมีผลต่อสุขภาพ อนามัย ขยะมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะ สาเหตุจากการเพ่ิมข้ึนของประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม นับเป็นปัญหาที่สําคัญของ ชุมชนซ่ึงตอ้ งได้รบั การแกไ้ ข การกําจดั ขยะโดยการเอาไปเผา ก็เป็นสาเหตุหนึ่งท่ีทําให้เกิดมลพิษ เกิดก๊าซ ภาวะ เรือนกระจก หรือภาวะโลกร้อน การกําจัดอีกทางหนึ่ง คือ การนําขยะไปฝัง แต่ต้องเป็นขยะที่สามารถย่อย สลายได้ และต้องใช้เวลานานพอสมควรจากการสํารวจขยะในบ้านและในบริเวณโรงเรียน พบว่าขยะส่วนใหญ่ เป็นขวดพลาสตกิ ดงั นนั้ คณะผ้จู ัดทําจึงคิดโครงงานกระถางจากขวดพลาสติกข้ึน เพอ่ื ชว่ ยลดปญั หาขยะ ปัญหา ภาวะโลกร้อน และยังเป็นการนําเอาของที่เหลือใช้มาทําให้มีค่า ให้เกิดประโยชน์และทําให้ขยะคืนสู่สิ่งแวดล้อม ท่ีดไี ด้อกี ด้วย ตวั อย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

51 บทท่ี 1 บทนาํ ทม่ี าและความสาํ คญั ของโครงงาน ในปัจจุบันความนิยมในการใช้ขวดพลาสติกในการบรรจุอาหารและเคร่ืองดื่มมีเป็น จํานวนมาก เน่ืองจากสะดวกในการใช้งาน หาง่ายและมีราคาถูก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะทําให้เกิดขยะมูลฝอยพลาสติก ซ่ึงเป็น สาเหตปุ ระการหนงึ่ ท่ีก่อใหเ้ กิดปญั หาสิ่งแวดล้อมและมีผลต่อสุขภาพ อนามัย ขยะมีปริมาณเพ่ิมขึ้นทุกปี เพราะ สาเหตุจากการเพ่ิมข้ึนของประชากร การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม นับเป็นปัญหาที่สําคัญของ ชมุ ชนซึ่งตอ้ งได้รบั การแก้ไข การกําจัดขยะโดยการเอาไปเผา กเ็ ป็นสาเหตุหน่ึงที่ทําให้เกิดมลพิษ เกิดก๊าซ ภาวะ เรือนกระจก หรือภาวะโลกร้อน การกําจัดอีกทางหน่ึง คือ การนําขยะไปฝัง แต่ต้องเป็นขยะที่ สามารถย่อย สลายได้ และต้องใช้เวลานานพอสมควรจากการสํารวจขยะในบ้านและในบริเวณโรงเรียน พบว่าขยะส่วนใหญ่ เปน็ ขวดพลาสติก ดงั นน้ั คณะผจู้ ัดทําจึงคดิ โครงงานกระถางจากขวดพลาสตกิ ขนึ้ เพอ่ื ช่วยลดปญั หาขยะ ปัญหา ภาวะโลกรอ้ น และยงั เปน็ การนาํ เอาของทเ่ี หลือใชม้ าทาํ ให้มีค่า ให้เกิดประโยชน์ และทาํ ให้ขยะคืนสู่ส่ิงแวดล้อม ทดี่ ีได้อกี ด้วย วตั ถุประสงค์ของโครงงาน 1. เพอื่ ประดษิ ฐ์กระถางจากขวดพลาสติก 2. เพ่อื ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 3. เพอ่ื ฝกึ สมาธแิ ละความคดิ สร้างสรรค์ 4. เพอ่ื ประหยัดพื้นทใ่ี นการเพาะปลูก ปญั หาท่ตี อ้ งการทราบ ขวดพลาสตกิ ที่ใช้ในการบรรจอุ าหารและเคร่ืองดม่ื ท่ีใชห้ มดแล้ว สามารถนาํ มาประดิษฐด์ ัดแปลง ตกแต่งให้สวยงามเปน็ กระถางตน้ ไมไ้ ด้ ขอบเขตของโครงงาน ระยะเวลาในการศึกษา เดอื นธนั วาคม 2555 ถึงเดือนมกราคม 2556 วัสดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการดําเนนิ โครงงาน 1. ขวดพลาสติก 1. มีด , คดั เตอร์ , กรรไกร , เชอื ก 2. ดินสอ , ปากกา , ไม้บรรทดั ตวั อย่างการเขียนรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

52 บทท่ี 2 เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง ในการจัดทําโครงงานน้ันได้นาทฤษฎีของการทํางาน และมีอุปกรณ์ในการทํางานมาโดยสามารถหาได้ ตามท่วั ไป และเป็นการนําขวดพลาสติกทีเ่ หลอื ใชม้ าทาการสร้างสรรคง์ านที่มปี ระโยชน์ โครงงานการประดษิ ฐก์ ระถางจากขวดพลาสตกิ ศึกษาเอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง ดงั นี้ 1. การประดิษฐ์ 2. พลาสติก การประดษิ ฐ์ ความหมายของการประดิษฐ์ คือ ความคิดสร้างสรรค์เก่ียวกับลักษณะ องค์ประกอบโครงสร้างหรือ กลไกของผลิตภัณฑ์ รวมท้ังกรรมวิธีในการผลิต การรักษาหรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีข้ึนหรือทําให้ เกิดผลติ ภณั ฑ์ ข้ึนใหม่ท่แี ตกตา่ งไปจากเดมิ พลาสติก พลาสตกิ เปน็ สารประกอบอินทรียท์ ี่สงั เคราะห์ข้นึ ใช้แทนวสั ดุธรรมชาติ บางชนิดเมื่อเย็นลงก็จะแข็งตัว เมอื่ ถูกความร้อนกอ็ อ่ นตัว บางชนดิ แขง็ ตัวถาวร มหี ลายชนิด เชน่ ไนลอน ยางเทียม ใช้ทําส่ิงต่าง ๆ เช่น เส้ือผ้า ฟลิ ์ม ภาชนะ ส่วนประกอบเรอื หรือรถยนต์ วตั ถุดิบจากธรรมชาตสิ าํ หรบั การผลิตพลาสตกิ วัตถุดิบท่ีสําคัญที่ใช้สําหรับการผลิตพลาสติกคือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปิโตรเลียมก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน แรธ่ าตตุ ่าง ๆ เปน็ ส่วนใหญ่ นอกจากน้ีอาจผลติ จากนาํ้ มนั พืช และส่วนตา่ ง ๆ ของพืชได้เช่นกัน ชนดิ และประโยชน์ใช้สอยของพลาสติกรไี ซเคิล ชนดิ ของพลาสติกรีไซเคลิ มที งั้ หมด 7 ประเภท คือ ตัวอย่างการเขียนรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

53 พลาสตกิ หมายเลข 1 มีช่ือว่า พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท (Polyethylne Terephthalate) หรือท่ีรู้จัก กันดีว่า เพ็ท (PET หรือ PETE)เป็นพลาสติกใส แข็ง ทนแรงกระแทกดี ไม่เปราะแตกง่าย และกันก๊าซซึมผ่านดี ใช้ทําขวดบรรจุน้าดื่ม ขวดนํ้ามันพืช เป็นต้น สามารถนํามารีไซเคิลเป็นเส้นใย สําหรับทําเส้ือ ใยสังเคราะห์ สําหรบั ยดั หมอน เปน็ ตน้ พลาสติกหมายเลข 2 มีชื่อว่า พอลิเอธิลีนความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene) หรือที่ เรียกแบบย่อว่า เอชดีพีอี (HDPE)เป็นพลาสติกท่ีเหนียวและแตกยาก ค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ทนทานต่อ สารเคมีและสามารถข้ึนรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่าย ใช้ทําขวดนม ขวดนํ้าและบรรจุภัณฑ์สําหรับน้ํายาทําความสะอาด ยาสระผม เป็นต้น สามารถนาํ มารไี ซเคลิ เป็น ขวดนํ้ามันเครอ่ื ง ท่อ ลังพลาสตกิ ไม้เทียม เป็นต้น พลาสติกหมายเลข 3 มีชอ่ื วา่ พอลิไวนลิ คลอไรด์ (Polyvinylchloride) หรือทรี่ จู้ ักกนั ดีว่า พีวีซี (PVC) ใช้ทําท่อนํ้าประปา สายยางใสแผ่นฟิล์มสําหรับห่ออาหาร แผ่นพลาสติกสําหรับทําประตู หน้าต่าง และหนัง เทียม เป็นต้น สามารถนํามารีไซเคิลเป็นท่อน้ําประปาหรือรางนํ้าสําหรับการเกษตร กรวยจราจร เฟอร์นิเจอร์ มา้ นง่ั พลาสตกิ ตลบั เทป เคเบลิ แผ่นไม้เทียม เปน็ ตน้ พลาสติกหมายเลข 4 มีชื่อว่า พอลิเอทิลีนความหนาแน่นตํ่า (Low Density Polyethylene) สามารถเรียกแบบยอ่ ว่า แอลดพี ีอี(LDPE) เป็นพลาสติกที่มีความนิ่ม เหนยี ว ยืดตัวได้มาก ใส ทนทาน แต่ไมค่ ่อย ทนต่อความร้อน ใช้ทําฟิล์มห่ออาหารและห่อของ ถุงใส่ขนมปัง ถุงเย็นสําหรับบรรจุอาหาร สามารถนํามารี ไซเคลิ เป็นถุงดาสําหรับใสข่ ยะ ถงุ หูห้วิ ถงั ขยะ กระเบื้องปูพน้ื เฟอร์นิเจอร์ แท่งไม้เทยี ม เปน็ ตน้ พลาสติกหมายเลข 5 มีช่ือว่า พอลิโพรพิลีน (Polypropylene) เรียกโดยย่อว่า พีพี (PP) เป็น พลาสตกิ ที่มคี วาม ใส ทนทานตอ่ ความรอ้ น คงรูป เหนียว และทนแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังทนต่อสารเคมี และนํ้ามัน ใช้ทําภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม จาน ถัง ตะกร้ากระบอกใส่น้าแช่เย็น ขวดซอส แก้วโยเกิร์ต ขวดบรรจุยา สามารถนํามารีไซเคิลเป็นกล่องแบตเตอร่ีในรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น กันชนและ กรวยสําหรบั มัน ไฟทา้ ย ไมก้ วาดพลาสตกิ แปรง เปน็ ตน้ พลาสติกเลข 6 มีช่ือว่า พอลิสไตรีน (Polystyrene) หรือท่ีเรียกโดยย่อว่า พีเอส (PS) เป็นพลาสติกที่ มีความใส แต่เปราะและแตกง่ายใช้ทําภาชนะบรรจุของใช้ต่างๆ หรือโฟมใส่อาหาร เป็นต้น สามารถนํามา รไี ซเคิลเป็นไม้แขวนเสอื้ กล่องวิดีโอ ไม้บรรทัด กระเปาะเทอรโ์ มมเิ ตอร์ แผงสวติ ชไ์ ฟ ฉนวนความรอ้ น ถาดใสไ่ ข่ เครอ่ื งมือเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ได้ พลาสติกเลข 7 นั้นมิได้มีการระบุช่ือจําเพาะ แต่ไม่ใช่พลาสติกชนิดใดชนิดหน่ึงใน 6 ท่ีได้กล่าวไปใน ข้างตน้ แต่เปน็ พลาสตกิ ท่นี ํามาหลอมใหมไ่ ด้ ตัวอย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

54 พลาสติกท่ีมีวัตถุประสงค์พิเศษ Polymethyl methacrylate (PMMA) ใช้ทําคอนแทคเลนส์ แผ่น กระจกอาคาร (glazing) (ในช่ือทางการค้าเช่น Perspex, Oroglas, Plexiglass) ส่วนประกอบของไฟฟลูออเรส เซนส์ ส่วนปิดไฟท้ายรถยนต์Polytetrafluoroethylene (PTFE) (ภายใต้ชื่อการค้า Teflon) ใช้เป็นวัสดุเคลือบ ที่ทนความร้อน และแรงเสียดทานตํ่า เช่น เคลือบกระทะ สไลเดอร์ เทปพันท่อประปา Polyethyretherketone (PEEK) (Polyketone) เป็นพลาสติกท่ีแพงท่ีสุดชนิดหน่ึง เป็น thermoplastic ที่ คงทน ทนความร้อนและสารเคมี ใช้ทําวัสดุทางการแพทยต์ า่ ง ๆ ทง้ั นใี้ นการเลอื กใชภ้ าชนะพลาสติกสําหรับการ บรรจุ หรือเก็บอาหาร ควรหลีกเล่ียงพลาสติกที่มีสัญลักษณ์ #3-PVC #6-PS หรือ #7-Polycarbonate และ สามารถใช้พลาสติกท่ีมีสัญลักษณ์เหล่านี้ ได้แก่ #1-PET #2-HDPE #4-LDPE และ #5-PP ผลต่อสิ่งแวดล้อม พลาสติกเป็นสารท่ีคงทนสลายตัวช้ามาก การเผาไหม้ของพลาสติกบางชนิดทําให้เกิดควันพิษในอากาศ โรงงานผลิตพลาสติกมักเป็นแหล่งก่อสารเคมีที่เป็นมลพิษปริมาณมากในบรรยากาศ พลาสติกพีวีซี (#3-PVC) ซึ่งใช้อย่างแพร่หลายในการบรรจุอาหารและของเหลว ของเล่น เครื่องมือก่อสร้าง ท่อประปา และเป็นวัตถุดิบ ต้งั แต่เครื่องสําอางจนถึงม่านห้องน้า จะมีสารเคมีที่เป็นพิษพวกอดิเพท (adipates) และพธาเลท (phthalates) อยูเ่ ปน็ ปริมาณมาก สารเหล่าน้ีชว่ ยใหพ้ วี ีซีมีความยืดหยุ่น(plasticizer) และอาจถูกปลดปล่อยออกจากพีวีซีเม่ือ มีการสัมผัสกับอาหาร องค์การอนามัยโลกรายงานว่าสารเคมีท่ีใช้ในการผลิตพีวีซีเป็นสารก่อมะเร็ง สหภาพยุโรปห้ามการใช้ DEHP (di-2-ethylehexyl phthalate) สําหรับของเล่นเด็ก DEHP เป็น plasticizer ที่นิยมใช้มากที่สุดในการผลิตพีวีซี องค์การอีพีเอ (Environmental Protection Agency) ซึ่งเป็นองค์การเฝ้า ระวังสภาพแวดล้อมในสหรัฐอเมริกา กําหนดให้ โพลีสตัยรีน (#6-PS) เป็นหน่ึงในชีวพิษท่ีอาจพบในน้ําด่ืม เนื่องจากกระบวนการผลิตโพลีสตัยรีนทําให้เกิดมลพิษในบรรยากาศ และทําลายชั้นโอโซน นอกจากน้ีภาชนะ บรรจุอาหารประเภท สตัยโรโฟม อาจปล่อยสารประกอบบางชนิดที่รบกวน การทํางานของฮอร์โมน และอาจ ก่อให้เกดิ มะเรง็ ด้วย พลาสติกในกล่มุ #7-other ซึง่ มักหมายถึง โพลีคาร์บอเนท อาจปลดปล่อยบิสฟีนอล-เอ (bisphenol- A, BPA) ซ่ึงเป็นสารตั้งต้นในการผลิต และจัดเป็นสารรบกวนการทํางานของฮอร์โมน (hormone disrupter) และอาจถูกปลดปล่อยสู่อาหารและเคร่ืองดื่ม สารชนิดน้ีจะมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ในงานวิจัย พบว่า BPA ทําให้นํ้าหนักของสัตว์ทดลองเพ่ิมขึ้น และมีผลต่อระดับฮอร์โมนในเลือด นอกจากน้ียังพบว่าการ ได้รบั BPA เพียงเลก็ นอ้ ยก็ทาํ ให้เกดิ การตา้ นอินซลู ิน (insulin resistance) ซึ่งนาํ ไปสูก่ ารอักเสบและโรคหัวใจ ดังนัน้ จงึ ไม่ควรนาํ ขยะพลาสติกไปทิ้งรวมกับขยะที่ไม่สามารถรไี ซเคิลได้ เชน่ ขยะสด ขยะที่สามารถเผาได้ ขยะ ท่ีไม่สามารถเผาได้ เป็นต้น แต่ควรแยกทิ้งโดยแยกประเภทของขยะพลาสติกและล้าง ทําความสะอาดก่อนจะ นําไปทิ้ง เพ่ือที่จะได้นําขยะพลาสติกเหล่านี้ไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์อ่ืน ๆ ต่อไป เพื่อลดปัญหาส่ิงแวดล้อมของ โลก ตวั อย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

55 บทที่ 3 วิธดี าํ เนินการศกึ ษา วิธีดาํ เนนิ การศึกษา มวี ธิ ดี ังน้ี 1. รวมกลมุ่ และกําหนดหัวขอ้ ในการทาํ โครงงาน 2. ค้นคว้าเอกสารตารา 3. ออกแบบผลติ ภัณฑ์จากขวดพลาสติก จัดเตรียมวัสดุอุปกรณใ์ นการดําเนนิ งาน 4. ลงมอื ปฏบิ ัตติ ามโครงงาน โดยนาขวดพลาสติกท่ีไม่ใชแ้ ล้วมาทาํ ความสะอาด และตัดเปน็ รูปทรงตาม จนิ ตนาการ 5. เขยี นรายงานพร้อมสรุปผล และอภปิ รายผล ตัวอย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

56 บทท่ี 4 ผลการศึกษาและอภิปรายผล การประดิษฐ์กระถางต้นไม้จากขวดพลาสติกสามารถทําได้ง่าย เน่ืองจากขวดพลาสติกมีรูปทรงแปลก ใหม่สะดุดตา สามารถนํามาประดิษฐ์ได้เลยโดยไม่ต้องแต่งเติม หรือดัดแปลง เป็นเศษวัสดุเหลือใช้ ที่หาได้ง่าย ทั่วไป และวิธีทําไม่ยากจนเกินไป มีความคงทนแข็งแรง สวยงาม ดึงดูดความสนใจน่ามอง ลดพื้นท่ีในการ เพาะปลูก สามารถนําไปตกแต่งสวนหลังบ้าน รั้วรอบ ๆ บ้านหรือตามต้องการ เป็นการนําขยะพลาสติกกลับมา ใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการลดภาวะโลกร้อน ลดปริมาณการเผาขยะทําให้ลดแก็สพิษในอากาศ และ เปน็ การเพม่ิ มลู คา่ ใหก้ บั วสั ดุเหลือใช้อีกด้วย ตวั อย่างการเขียนรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

57 บทท่ี 5 สรุปผล ประโยชน์ ข้อเสนอแนะ สรปุ ผล จากการประดิษฐ์กระถางจากขวดพลาสติก สรุปผลได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการ ลด ภาวะขยะพลาสติก ลดพ้ืนทใ่ี นการเพาะปลูก มีความสวยงาม และสามารถนํามาใช้เป็นกระถางปลกู ตน้ ไม้ได้เป็น อยา่ งดี ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับจากโครงงาน 1. ฝึกความคดิ สรา้ งสรรค์ 2. ฝึกการทํางานเป็นทมี 3. ใช้เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ 4. รจู้ กั วางแผนการทํางาน 5. ฝึกการเป็นผู้นาและผู้ตามทีด่ ี 6. ฝึกสมาธิ 7. ประหยดั พ้ืนท่กี ารเพาะปลูก ปญั หาในการดําเนนิ งาน การใช้อุปกรณใ์ นการตัดขวดพลาสติกไม่เหมาะสม ทาํ ใหต้ ัดไมไ่ ดต้ ามรูปทรงท่ตี ้องการ 1. ขวดพลาสติกบางชนิดมคี วามหนามากทาํ ใหต้ ัดเป็นรูปทรงลาํ บาก การแกไ้ ขปญั หา 2. ใชอ้ ปุ กรณท์ ่ีหลากหลาย 3. ใช้อุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกับขวดพลาสตกิ ข้อเสนอแนะ 1. ควรใช้วัสดุธรรมชาติมามาทดแทนขวดพลาสติกในการบรรจุอาหารและเครื่องด่ืมเพื่อเป็นการ ลด ขยะจากขวดพลาสติก เปน็ การลดปญั หามลพิษ 2. ควรนาํ ขวดพลาสติกไปใช้ประโยชน์ในดา้ นอืน่ ๆ อกี ด้วย ตวั อย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

58 ภาคผนวก ภาพประกอบข้ันตอนการทาํ โครงงาน อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการทาํ โครงงาน นาํ ขวดพลาสติกท่ีใชแ้ ลว้ มาทําความสะอาด วาดลวดลายตามจนิ ตนาการลงบนขวดพลาสติกและตัด ผลงาน ตวั อย่างการเขยี นรายงานโครงงานลดสภาวะโลกร้อน

59 กจิ กรรมท่ี 1 บทท่ี 4 โครงงานลดสภาวะโลกร้อน วชิ า สภาวะโลกรอ้ น พว 02018 ระดับประถมศกึ ษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ใหผ้ เู้ รยี นจบั คตู่ วั อักษรดา้ นขวามือกับช่องว่างทางซา้ ยมอื ใหถ้ กู ต้อง 1) ชื่อเรอ่ื ง A. เขียนอธิบายเป็นข้อๆว่าทาํ โครงงานนัน้ เพือ่ อะไร 2) ท่ีมาและความสําคญั B. ระบุขัน้ ตอนการทาํ โครงงานในภาพรวมต้งั แต่ต้น 3) วตั ถปุ ระสงค์ จนจบ 4) เปา้ หมาย 5) สมมตุ ิฐาน(ถ้ามี) C. กําหนดกระบวนการในการทําโครงงานอยา่ งละเอยี ด ระบุกิจกรรม ระยะเวลา สถานที่ งบประมาณ อปุ กรณ์ D. เอกสารหรอื ส่อื อนื่ ๆท่ีผู้เรียนใช้คน้ ควา้ ประกอบการ ทําโครงงาน E. ควรเขยี นสน้ั ๆ ชดั เจนวา่ ทาํ เรอ่ื งอะไร 6) วิธีดําเนนิ งาน F. ถา้ ทําโครงงานนสี้ าํ เร็จจะไดร้ บั ผลอยา่ งไร 7) แผนการดาํ เนินงาน G. อธบิ ายความเปน็ มาความสาํ คัญที่ตอ้ งการศกึ ษา 8) การตดิ ตามประเมินผล H. อธบิ ายว่าจะทาํ ผลงานอะไรบ้าง จํานวนเทา่ ไร 9) ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ I. การตดิ ตามประเมนิ ผลการทําโครงงานของตนเอง 10) รายการอ้างอิง(ถา้ มี) J. การคาดคะเนคาํ ตอบไว้ล่วงหน้าอยา่ งมเี หตุผล

60 กจิ กรรมท่ี 2 บทที่ 4 โครงงานลดสภาวะโลกรอ้ น วิชา สภาวะโลกร้อน พว 02018 ระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรยี นรโู้ ครงงานลดสภาวะโลกรอ้ น 1) ชือ่ เร่อื ง 2) ชอื่ ผู้จัดทาํ รหัสประจําตวั 3.1 รหัสประจําตวั 3.2 รหัสประจาํ ตวั 3.3 รหสั ประจําตวั 3.4 รหัสประจําตวั 3.5 รหัสประจาํ ตัว 3.6 รหสั ประจาํ ตวั 3.7 รหัสประจําตัว 3.8 รหัสประจาํ ตัว 3.9 รหัสประจําตวั 3.10 3) ช่ือทป่ี รึกษา 4) ท่มี าและความสําคัญ 5) วัตถุประสงค์

61 6) เปา้ หมาย 7) สมมตุ ฐิ าน(ถา้ ม)ี 8) วิธีดาํ เนนิ งาน 9) ระยะเวลา วัตถปุ ระสงค์ วธิ กี ารดําเนนิ งาน ระยะเวลา งบประมาณ 10) แผนปฏิบัตงิ าน กจิ กรรม

62 11) งบประมาณ 12) สถานท่ีดําเนนิ การ 13) การตดิ ตามประเมินผล 14) ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 15) รายการอา้ งอิง(ถ้ามี)

63 แบบประเมนิ แผนการเรยี นรู้โครงงานสภาวะโลกรอ้ น กศน.ตาํ บล/ศูนยก์ ารเรยี นชุมชน ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอําเภอ ชอ่ื โครงงาน รายวชิ า สภาวะโลกร้อน (พว 02018) ภาคเรยี นที่ ปีการศกึ ษา คําชี้แจง ใหท้ าํ เคร่อื งหมาย  ในชอ่ งที่ตรงกับความคิดเห็นของทา่ น ข้อที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ข้อเสนอแนะ ดี ดี พอใช้ ปรับปรุง แกไ้ ข เพื่อการ มาก (4) (3) (2) ปรับปรงุ ปรับปรุง (5) (1) 1 หัวขอ้ โครงงานมีความชดั เจน ........ ........ ........ .............. .............. 2 โครงงานแสดงถึงความคิดรเิ ร่ิม …… …… …… .............. .............. สรา้ งสรรค์ 3 โครงงานมคี วามเปน็ ไปได้ ........ ........ ........ .............. .............. 4 โครงงานมปี ระโยชน์ ........ ........ ........ .............. .............. 5 กาํ หนดวัตถุประสงค์ชัดเจน ........ ........ ........ .............. .............. 6 กาํ หนดขั้นตอนการปฏิบัตงิ านชดั เจน ......... ......... ......... .............. .............. 7 ความเหมาะสมกบั งบประมาณ ……. ……. ……. .............. .............. รวมคะแนน รวมคะแนนทง้ั สิ้น 35 คะแนน สรุปคะแนนจรงิ ที่ได้ คะแนน ลงชื่อ ผปู้ ระเมิน ( ) / /

64 หนา้ อนมุ ตั ิ การอนมุ ตั ิแผนการเรยี นรู้โดยโครงงาน 1. ชอื่ โครงงาน รายวชิ า สภาวะโลกรอ้ น (พว 02018) ระดับ ภาคเรยี นที่ ปกี ารศึกษา 2. ช่ือทป่ี รึกษาโครงงาน 3. ชอื่ ผูจ้ ัดทาํ 3.1 รหัสประจาํ ตวั 3.2 รหสั ประจําตวั 3.3 รหัสประจาํ ตวั 3.4 รหสั ประจําตวั 3.5 รหสั ประจาํ ตัว 3.6 รหสั ประจําตัว 3.7 รหัสประจาํ ตัว 3.8 รหสั ประจําตัว 3.9 รหัสประจําตวั 3.10 รหัสประจําตัว 4. ความเหน็ ของคณะกรรมการ  เห็นควรปรับปรุง  เห็นควรอนุมตั ิ ลงชอ่ื กรรมการ ลงชอ่ื กรรมการ () ( ) // / / 5. ผลการพจิ ารณาของสถานศึกษา ลงชือ่ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา ( ) ตําแหน่ง / /

65 แบบประเมนิ ผลงานและเอกสารรายงาน กศน.ตําบล/ศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาํ เภอ ช่อื โครงงาน รายวิชา สภาวะโลกรอ้ น (พว 02018) ภาคเรยี นท่ี ปกี ารศกึ ษา คาํ ช้ีแจง ใหท้ ําเครอื่ งหมาย  ในช่องทตี่ รงกบั ความคดิ เหน็ ของท่าน ขอ้ ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ขอ้ เสนอแนะ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ แก้ไข เพอื่ การ ปรับปรงุ ปรับปรุง (5) (4) (3) (2) (1) 1 ผลงานมคี วามเรยี บร้อยสวยงาม ........ ........ ........ ............ ............ 2 ผลงานใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจําวนั ได้ …… …… …… ............ ............ 3 ผลงานแสดงถงึ ความสร้างสรรค์ ........ ........ ........ ............ ............ 4 รายงานมคี วามถกู ต้องตามรปู แบบ ........ ........ ........ ............ ............ 5 รายงานมคี วามถูกตอ้ งของตัวอักษร ........ ........ ........ ............ .............. 6 รายงานมคี วามถกู ตอ้ งของเนื้อหา ......... ......... ......... ............ ............ 7 รายงานไดแ้ สดงผลการเรียนรตู้ ามเนอื้ หา อย่างถูกตอ้ ง ……. ……. ……. ............ ............ 8 การจัดทาํ วิเคราะห์ข้อมูล มคี วามชัดเจน เหมาะสมและถกู ตอ้ ง …….. …….. …….. ............ ............ 9 การสรปุ ผลมีความเป็นเหตเุ ป็นผล สอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์ ......... ......... ......... ............ ............ รวมคะแนน รวมคะแนนทั้งสน้ิ 45 คะแนน สรปุ คะแนนจรงิ ทีไ่ ด้ คะแนน ลงช่อื ผปู้ ระเมนิ ( ) / /

66 เฉลย ใบกิจกรรมท่ี 1 บทท่ี 4 โครงงานลดสภาวะโลกรอ้ น วชิ า สภาวะโลกร้อน พว 02018 ระดับประถมศกึ ษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. E 2. G 3. A 4. H 5. J 6. B 7. C 8. I 9. F 10. D

67 แบบทดสอบหลงั เรียน วิชา สภาวะโลกร้อน พว 02018 ระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนตน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย คาํ สง่ั จงเลือกคําตอบท่ีถกู ตอ้ งทสี่ ุด 1. ภาวะโลกร้อน หมายถึงอะไร 6. ก๊าช มเี ทน มีแหล่งทม่ี าจากที่ใด ก. ปรากฏการณ์เรอื นกระจก ก. ควันรถยนต์ ข. อณุ หภูมเิ ฉลย่ี ของโลกเพ่ิมข้ึน ข. เผาปา่ ค. การปล่อยกา๊ ชพษิ สู่อากาศ ค. การยอ่ ยสลายสงิ่ มชี วี ติ ง. นาํ้ แข็งขัว้ โลกเรมิ่ ละลายลงสูท่ ะเล ง. การตัดตน้ ไม้ 2.ข้อใดคอื สาเหตุหลกั ของการเกดิ ภาวะโลกรอ้ น 7. ขอ้ ใดไม่ใชผ่ ลกระทบจากสภาวะโลกรอ้ น ก. โรงงานอุตสาหกรรม ก. ทะเลทรายตอนกลางวันอากาศเย็นขนึ้ ข. รถยนต์ ข. ระดับน้าํ ทะเลทางขัว้ โลกเหนือเพิ่มข้นึ ค. บ้านเรือน ค. เกิดความแหง้ แลง้ ในฤดูรอ้ นที่ยาวนาน ง. ขยะ ง. ทาํ ใหเ้ ชอ้ื โรคเจรญิ เติบโตอยา่ งรวดเร็ว 3. ปรากฏการณเรอื นกระจก เกิดจากกา๊ ซอะไร 8. ภยั ธรรมชาติทีจ่ ะเกิดตามมากบั ภาวะโลกรอ้ นที่ เพิม่ ขน้ึ เหน็ ได้ชัดท่สี ดุ คืออะไร ก. กา๊ ชไนโตรเจน ก. ระดบั นา้ํ ทะเลสูงขึ้น ข. ก๊าชออกซเิ จน ข. เกดิ พายนุ ้อยลง ค. ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ค. คลืน่ ความรอ้ นบอ่ ยขึ้น ง. กา๊ ซอาร์กอน ง. ปญั หาภัยแล้งกาํ ลังจะหมดไปเพราะ น้าํ ท่วม 4. ขอ้ ใดเป็นก๊าซเรอื นกระจกทง้ั หมด ก. ไอนาํ้ (H2O) ,ก๊าชไนโตรเจน 9. ประเทศใดท่ีมกี ารปล่อยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ข. ไอน้าํ (H2O), กา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ มากทสี่ ุด ค. กา๊ ซไนตรสั ออกไซด์ (N2O) , ก๊าช ก. รสั เซยี ไนโตรเจน ข. สหรฐั อเมรกิ า ง. กา๊ ซมเี ทน (CH4),ก๊าชออกซเิ จน ค. ไทย ง. จนี 5.ขอ้ ดี ของปรากฏการณเรือนกระจก คืออะไร ก. แสงแดดนอ้ ยลง 10. ข้อใดเป็นการลดสภาวะโลกรอ้ นไดด้ ีท่ีสุด ข. ฝนตกมาขน้ึ ก. แกว้ เปิดพัดลมแทนเครือ่ งปรบั อากาศ ค. อากาศแจม่ ใส ข. นเรศปลูกตน้ ไมร้ อบๆบา้ น ง. โลกอุ่นขนึ้ ค. ธิดาใชจ้ ักรยานแทนรถยนต์ ง. สุดาอาบนาํ้ เยน็ แทนน้าํ อุน่

68 11. ข้อใดไม่ใชเ่ ปา้ หมายเพื่อลดภาวะโลกร้อนของ 16. สิง่ ใดเป็นทัศนคติทไี่ มเ่ หมาะสมในดา้ น เกษตรกรรม กรงุ เทพมหานคร ก. การเผาตอซงั ก. Green Society ข. การใช้ป๋ยุ เคมี ค. การปลกู พืชเชิงเดี่ยวทีท่ าํ ลาย ข. Green Living สงิ่ แวดลอ้ ม ค. Green Zone ง. ถกู ทกุ ข้อ ง. Green Room 12. การใชค้ ําว่า”การผันแปรของภมู ิอากาศ”เป็น การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศเกิดจากสิง่ ใด ก. การเปล่ียนแปลงทเ่ี กดิ จากเหตอุ นั 17. การปรบั เปล่ียนสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตขิ อง โลกในวงกว้างโดยเจตนาเพ่อื ใหเ้ หมาะแก่ความ เน่อื งมาจากมนษุ ย์ ต้องการ ของมนุษยห์ มายถงึ อะไร ข. การเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศระดับ ก. วศิ วกรรมโลก ข. วศิ วกรรมวิทยาศาสตร์ นานาชาติ ค. วศิ วกรรมดาวเคราะห์ ง. วิศวกรรมสิง่ แวดลอ้ ม ค. การเปล่ียนแปลงท่เี กิดจากกิจกรรมของ มนุษย์ ง. การเปล่ียนแปลงที่เกดิ จากเหตุอ่นื 13.อะไรคือสาเหตุสําคัญทท่ี าํ ให้ระดบั น้ําทะลสงู ขนึ้ ก. การเพิ่มข้นึ ของอุณหภมู ใิ นบรรยากาศ 18. ข้อใดที่เป็นพลังงานทดแทนหรือพลังงาน ช้ันลา่ งของโลก ทางเลอื ก ข. การขยายตวั ของผิวนาํ้ ทะเลเมอื่ ก. พลงั งานแสงอาทิตย์ ข. พลังงานก๊าซชวี ภาพ อุณหภูมิเพ่มิ สงู ข้ึน ค. พลงั งานนํ้า ง. ถกู ทุกขอ้ ค. การละลายของภูเขาน้าํ แขง็ ในขวั้ โลก ง. การเปล่ียนแปลงของกระแสนํ้าใน 19. ก๊าซชนิดใดใช้เป็นก๊าซหลักในการเปรียบเทียบ ศักยภาพการเกิดสภาวะโลกรอ้ น มหาสมทุ ร ก. ก๊าซมเี ทน ข.ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 14. จังหวัดใดเป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่ ค. กา๊ ซไนตรสั ออกไซด์ ง. โอโซน ประสบปญั หาการลดลงของพนื้ ท่ี ก. สมทุ รปราการ ข. สมุทรสาคร ค. สมทุ รสงคราม ง. ชลบุรี 20. การเก็บข้อมูลจากสภาพธรรมชาติแบบใดที่ถูก นําไปใชเ้ พอื่ คาดการณส์ ภาพภมู ิอากาศ 15. NAMAs sหมายถึงอะไร ก. โครงปะการงั ข. ความหนาของวงปีต้นไม้ ก. อนสุ ัญญาสหประชาชาติว่าดว้ ยการ ค. ตะกอนกน้ ทะเลสาบ ง. ถกู ทุกขอ้ เปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ข. แผนการพฒั นาแหง่ ชาติในการลดการ ปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก ค. การซอื้ ขายสิทธิการปล่อยกา๊ ซเรือน กระจกระหว่างประเทศทไี่ ดร้ ับการ จดั สรรและอนญุ าตใหป้ ลอ่ ย ง. โครงการกลไกการพัฒนาท่ีสะอาด

21. การเขียนแผนการเรียนรู้โดยโครงงานไม่มี 69 หวั ขอ้ ใด ก. ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 26. ข้อใดเป็นการเขียนผลที่คาดว่าจะได้รับที่ ข. ผลการดาํ เนินงาน ถกู ต้อง ค. วิธีการดําเนินงาน ก. เพอื่ ทาํ โคมไฟจากแผน่ ซีดี ง. ทมี่ าและความสาํ คญั ข. ลดปรมิ าณขยะลดสภาวะโลกรอ้ น ค. ใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 22. ข้อใด ไม่จําเป็นต้องมีในโครงงานประเภท ง. มคี วามรใู้ นการทาํ โครงงาน สํารวจ ก. สมมตฐิ าน 27. ข้อใดไมใ่ ช่โครงงานลดสภาวะโลกร้อน ข. คํานิยามศพั ทเ์ ฉพาะ ก. โครงงานตู้ฟักไขไ่ ก่ 1,000 ฟอง ค. จดุ ประสงค์ ข. โครงงานทําปยุ๋ หมักอดั แทง่ ง. ขอบเขต ค. โครงงานเลี้ยงไส้เดือนลดขยะ ง. โครงงานเก้าอรี้ ไี ซเคลิ จากลงั กระดาษ 23. ขอ้ ใดเป็นการเขยี นชอ่ื โครงงานทีด่ ี ก. โครงงานประหยัดพลงั งานไฟฟา้ 28. ขอ้ ใดเปน็ หวั ขอ้ โครงงานลดสภาวะโลกรอ้ นทดี่ ี ข. โครงงานรีไซเคลิ ก. โครงงานประดิษฐก์ ล้องดดู าว ค. โครงงานการลดสภาวะโลกรอ้ น ข. โครงงานสํารวจแหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน ง. โครงงานปลูกผักกาดขาวในบ่อโฟม ค. โครงงานลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ง. โครงงานทําปยุ๋ หมักลดภาวะโลกร้อน 24. ขอ้ ใดเปน็ การเขยี นเป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ ก. เพอื่ เพม่ิ ป่าไม้ในท้องถิ่น 29. การรายงานผลการเรียนรู้โดยโครงงานมีหัวข้อ ข. เพอื่ ประดษิ ฐเ์ กา้ อี้จากกลอ่ งกระดาษ ใดท่ตี า่ งจากแผนการเรยี นรโู้ ดยโครงงาน รีไซเคลิ ก. ผลทค่ี าดว่าจะได้รบั ค. เพ่ือสํารวจสมุนไพรพื้นบ้านจํานวน ข. ผลการดําเนนิ งาน 20 ชนิด ค. วธิ กี ารดําเนินงาน ง. เพ่ือลดปรมิ าณขยะในชุมชน ง. ทม่ี าและความสาํ คญั 25. ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์ของโครงงานโคมไฟจาก 30. ข้อใดไม่ต้องมีในรายงานผลการเรียนรู้โดย กระป๋องอลูมิเนียมรีไซเคิล โครงงาน ก. เพ่อื ศกึ ษาคุณสมบัติของกระปอ๋ ง ก. บรรณานกุ รม อลมู เิ นยี ม ข. งานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง ข. เพ่ือประหยดั พลังงานไฟฟ้า ค. ทมี่ าและความสําคัญ ค. เพอ่ื ประดิษฐ์โคมไฟจากกระปอ๋ ง ง. สรุปผล อลมู เิ นยี ม ง. เพ่อื ศึกษาการตอ่ วงจรโคมไฟ

70 เฉลย แบบทดสอบก่อน - หลังเรยี น วชิ า สภาวะโลกร้อน พว02018 ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1. ข 2. ก 3. ค 4. ข 5. ก 6. ก 7. ข 8. ค 9. ข 10. ข 11. ง 12. ง 13. ข 14. ก 15. ข 16. ง 17 .ค 18. ง 19. ข 20. ง 21. ข 22. ก 23. ง 24. ค 25. ค 26. ข 27. ก 28. ง 29. ข 30. ข

71 บรรณานกุ รม หลักสตู รสภาวะโลกรอ้ น - ศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพอื่ การศกึ ษาลาํ ปาง เขา้ ถึงได้จาก: http://www. http://lpsci.nfe.go.th/lpsci/attachments/068_File1.pdf (วันท่ีค้นขอ้ มูล: 25 สงิ หาคม 2558). สภาวะเรอื นกระจก เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.oknation.net (วนั ทีค่ น้ ขอ้ มูล 25 สิงหาคม 2558) http://www.greenpeace.org/seasia/th/campaigns/climate-and energy/impacts/thailand/#bio http://www.greentheearth.info/ http://sirirat9876.blogspot.com/p/blog-page_27.html http://www.kksci.com/elreaning/pavalokron/test_1_lokron.htm http://www.paknam.ac.th/main/images/krunamfon/listen6.pdf บริษทั ปิยมิตร มัลตมิ เี ดยี จาํ กดั . หนังสอื เรยี นวชิ า สภาวะโลกร้อน เร่ืองท่ี 6 พมิ พ์ครง้ั ท่ี 1 พ.ศ.2555. อมรอมาตย์สมบัติ.หนงั สอื เรยี นวิชาสภาวะโลกรอ้ น เรื่องที่ 6 บริษัทซมั ธิงค์ ทู รดี จาํ กดั . พิมพค์ รั้งที่ 1 พ.ศ.2555. http://www.greentheearth.info https://manatsayaporn.wordpress.com/ กศน.อาํ เภอคลองหลวง (2554). บทเรียนสําเร็จรปู รายวิชาโครงงานเพ่ือพฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร 02006) เข้าถึงได้จาก: http://www.ksnkhlongsamwa.com/attachments/view/?attach_id=43162 (วนั ท่สี ืบค้นข้อมูล: 20 สงิ หาคม 2558). โรงเรยี นมหดิ ลวิทยานสุ รณ์. แบบประเมนิ โครงงาน. เข้าถึงได้ จาก:www.mwit.ac.th/~mwitpro/form/mwit/doc/form04.doc (วนั ทคี่ น้ ขอ้ มลู 20 สงิ หาคม 2558) มลั ลกิ า เซ่ียงฝงุ . โครงงานเรื่องการประดษิ ฐก์ ระถางจากขวดพลาสติก. เข้าถงึ ไดจ้ าก www.smtech.ac.th/pdf/1384945539.pdf (วันทค่ี ้นขอ้ มลู 20 สงิ หาคม 2558) ภูมิพฒั น์ รัตนตรยั เจริญ. พลาสตกิ 7 ประเภท เขา้ ถึงได้จาก: http://www.stou.ac.th/study/sumrit/1- 56(500)/page4-1-56(500).html (วันที่สบื ค้นข้อมูล 20 สิงหาคม 2558)

72 คณะผจู้ ัดทํา นางสาวอรวรีย์ ฟองจนั ทร์ ผูอ้ ํานวยการ กศน.อําเภอฝาง ประธาน นางศริ พิ ร สดุ ใจ นางมนภัส เปง็ ปานันท์ กศน.อาํ เภอฝาง รองประธาน นางสาววันวิสา เหล่าผา นายอุทัย ศลิ ธรรม กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ นางสาวชัญญานุช อุ่นอินตะ๊ นางสาวสกาวรัตน์ บญุ นายนื กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ นางสาวเบญญาดา อนิ ทรสตู ร นางกรรณกิ าร์ การีรตั น์ กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ นางเพชรดารินทร์ สุปรยี ธิตกิ ลุ นางสชุ าดา เงาส่อง กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ นางสาวอัญชลี ไชยวงค์ นายเอกชัย เอกวนาการ กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ กศน.อําเภอฝาง กรรมการ กศน.อําเภอฝาง กรรมการ กศน.อําเภอฝาง กรรมการ กศน.อําเภอฝาง กรรมการ กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการ กศน.อาํ เภอฝาง กรรมการและเลขานกุ าร

73 คณะบรรณาธกิ าร/ปรบั ปรุงแก้ไข ที่ปรึกษา ศรีศักดา ผอู้ ํานวยการสํานักงาน กศน.จงั หวัดเชยี งใหม่ กิตชิ านนท์ รองผ้อู ํานวยการสาํ นกั งาน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ นายศภุ กร นางมีนา คณะบรรณาธิการ/ปรบั ปรุงแกไ้ ข นางนริ มล บญุ ชู ผู้อํานวยการ กศน.อาํ เภอไชยปราการ ประธานกรรมการ นางจฑุ ามาศ วงษศ์ ิริ ครชู าํ นาญการพิเศษ กศน.อาํ เภอแมร่ มิ กรรมการ นางวัฒนีย์ พัฒนียก์ านต์ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ กศน.อาํ เภอหางดง กรรมการ นางจารวี มะโนวงค์ ครูชํานาญการ กศน.อําเภอดอยสะเก็ด กรรมการ นางนิชาภา สลกั จติ ร ครูชํานาญการ กศน.อาํ เภอแม่แตง กรรมการ นางพิมพใ์ จ โนจะ๊ ครู คศ.1 กศน.อําเภอแมว่ าง กรรมการ นางยุพนิ คําวัน ครู คศ.1 กศน.อําเภอฮอด กรรมการ นางสาววริยาภรณ์ นามวงศพ์ รหม ครู กศน.ตําบล กศน.อาํ เภอเมือง กรรมการ นางเบญจพรรณ ปันกาํ ครู กศน.ตาํ บล กศน.อาํ เภอแมร่ มิ กรรมการ นายศรณั ยภ์ ทั ร จกั รแกว้ ครู กศน.ตาํ บล กศน.อาํ เภอแม่แตง กรรมการ นางสาวณฐั กฤตา มะณีแสน ครู กศน.ตาํ บล กศน.อําเภอดอยสะเกด็ กรรมการ นางสาวณฐมน บุญเทยี ม ครู กศน.ตาํ บล กศน.อาํ เภอเชียงดาว กรรมการ นางโยธกา ธีระวาสน์ ครูอาสาฯ กศน.อาํ เภอดอยสะเก็ด กรรมการ นางสาวภาสินี สงิ ห์รตั นพนั ธุ์ บรรณารกั ษ์ สํานกั งาน กศน.จงั หวัดเชยี งใหม่ กรรมการ และเลขานกุ าร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook