5. รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน 1. รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย 6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น ซื่อสตั ย์ สจุ รติ ความสามารถในการสอ่ื สาร ใฝเ่ รยี นรู้ ความสามารถในการคดิ มงุ่ มั่นในการทำงาน ความสามารถในการแก้ปญั หา มีจิตสาธารณะ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ทกั ษะการทำงานร่วมกนั (Collaboration Skill) ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill) ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มวี นิ ัย อยอู่ ย่างพอเพยี ง รักความเปน็ ไทย 9. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ข้ันนำ (10 นาท)ี 1. ครูสอบถามนักเรียนว่าจากคาบท่ีแล้ว ข้อมูลที่เราพบในอินเทอร์เน็ต นอกจากการประเมินความน่าเชื่อถือ ของข้อมลู ก่อนนำไปใชง้ านแลว้ เรายังตอ้ งคำนงึ ถงึ ด้านใดอกี บ้าง (แนวคำตอบ การกลั่นแกล้งคนอืน่ ด้วยสือ่ ออนไลน์ ลขิ สิทธข์ิ องข้อมลู )
ขั้นสอน (40 นาท)ี 1. ครูถามนักเรียนว่าก่อนท่ีจะสามารถวิเคราะห์ และรู้เท่าทันส่ือได้ ควรมีพื้นฐานความรู้ ความสามารถด้าน ใดบ้าง (แนวคำตอบ การใชค้ อมพิวเตอร์ ความสามารถในการคน้ หาข้อมูลขา่ วสาร) 2. ครูอธิบายองค์ประกอบของการรู้เท่าทันส่ือจากหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 3 บรษิ ัท อกั ษร เจรญิ ทัศน์ อจท. หนา้ 50-51 3. ครูอธิบายท่ีมาของความสามารถในการร้เู ท่าทันส่ือดิจิทลั และการรู้เท่าทันส่อื ดิจิทัล 8 ดา้ น ในหนังสือเรียน วิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคาํ นวณ) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 บรษิ ทั อกั ษร เจริญ ทัศน์ อจท. หน้า 52 4. ครูสมุ่ นักเรียนยกตวั อย่างการรเู้ ท่าทันส่อื คนละดา้ น พรอ้ มยกตวั อยา่ ง (แนวคำตอบ ด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวและข้อมูล ยกตัวอย่าง ไม่เปิดเผยข้อมูลที่อยู่ให้กับบุคคลที่ ไม่รู้จัก ไม่โพสต์ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนลง Facebook โดยเฉพาะที่อยู่และเลขประจำตัวประชาชน เปน็ ตน้ ) 5. ครูอธิบายหัวขอ้ “การรู้เท่าทันสื่อ” ในหนังสอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี(วทิ ยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 บริษทั อักษร เจรญิ ทัศน์ อจท. หน้า 53 6. จากน้ันครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด exersice ในหนังสือแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 29 – 31 ขอ้ 1 – 4 ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั สอน (40 นาท)ี 7. ครถู ามทบทวนนกั เรียนโดยการถามคำถามวา่ ความสามารถในการรู้เท่าทนั ส่อื ดิจทิ ัลมกี ่ดี า้ น อะไรบา้ ง (แนวคำตอบ การใช้อยา่ งปลอดภยั การปอ้ งกนั ความเปน็ ส่วนตวั ) 8. ครถู ามนกั เรียนวา่ หากมีการใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งไมร่ ู้เทา่ ทัน จะสง่ ผลกระทบอะไรกบั ผอู้ น่ื บา้ ง (แนวคำตอบ ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นเท็จ เกิดความไม่ปลอดภยั ตอ่ ข้อมลู ส่วนบุคคล มกี ารละเมดิ ลิขสิทธิ์) 9. ครูอธิบายความสำคัญของการใชอ้ ินเทอร์เน็ตอย่างรู้เท่าทัน และผลกระทบท่ีอาจเกิดขึ้นจากหนงั สือหนังสือ เรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคํานวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 บรษิ ัท อักษร เจรญิ ทัศน์ อจท. หน้า 55-57 เรื่องการใช้ส่ือและปัญหาทพี่ บในสือ่ ปัจจุบัน และเรอื่ งผลกระทบของขอ้ มูลท่ีผิดพลาด 10. จากนั้นครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด Activity ในหนังสือแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 32-33 วเิ คราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมลู และประเมนิ ผลผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ข้ึนหากขอ้ มูลผิดพลาด ขนั้ สรุป (10 นาท)ี 1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกันสรุปผลกระทบทีอ่ าจเกิดขน้ึ จากการใช้อินเทอรเ์ น็ตอยา่ งไมร่ ้เู ทา่ ทนั ส่ือ
10. ส่อื แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง ความนา่ เชอ่ื ถอื ของข้อมูล 2. หนงั สือแบบฝกึ หดั รายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง ความน่าเชื่อถือของข้อมลู 11. การวดั และการประเมินผล 11.1 การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรม จดุ ประสงค์ วิธีการประเมนิ เครอื่ งมอื การประเมิน เกณฑ์การประเมนิ 1. บอกความหมายการ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหัดรายวชิ า บอกความหมายการ รเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ดิจิทัลและ Exercise หนา้ 29 – 31 พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ร้เู ท่าทันสือ่ ดิจิทลั และ การรู้เทา่ ทันสื่อได้ (K) ข้อ 1 – 4 เทคโนโลยี (วทิ ยาการ การร้เู ท่าทันส่ือได้ คำนวณ) ม.3 ถกู ต้อง 60% ข้นึ ไป หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง ความนา่ เชื่อถือ ของขอ้ มูลหน้า 29 – 31 ขอ้ 1 – 4 2. วิเคราะห์ความ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหัดรายวชิ า วเิ คราะหค์ วามนา่ เชื่อถือ นา่ เชอ่ื ถอื และ Activity หน้า 32 พื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ และประเมนิ ผลกระทบ ประเมนิ ผลกระทบของ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ ของข้อมูลจากขา่ วสารท่ี ขอ้ มูลจากขา่ วสารทผ่ี ดิ คำนวณ) ม.3 ผดิ เพอื่ การใชง้ านอย่าง เพือ่ การใช้งานอยา่ งร้เู ท่า หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 รเู้ ทา่ ทันได้ถกู ต้อง 60% ทนั ได้ (P,A) เรือ่ ง ความน่าเช่ือถือ ขึ้นไป ของข้อมูล หนา้ 32
11.2 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้ กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชน์ ตอ่ โรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั ศาสนา 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เก่ียวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามท่โี รงเรยี นจัดข้ึน 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ให้ขอ้ มูลทถี่ กู ต้องและเปน็ จริง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกตอ้ ง 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน 4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนแ์ ละนำไปปฏิบัตไิ ด้ 4.2 รู้จกั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม 4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้ 4.4 ตง้ั ใจเรยี น 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใช้อปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่ 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทำงาน 8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น และโรงเรยี น ลงชอ่ื ..................................................ผู้ประเมนิ ............/.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางคร้ัง 30-40 พอใช้ ปรับปรงุ ตำ่ กวา่ 30
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 7 ชั่วโมง เรื่อง การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ เวลา 3 ช่วั โมง รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชว้ี ัด ม.3/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย และมีความรบั ผิดชอบต่อสังคม ปฏบิ ตั ิตาม กฎหมายเก่ียวกับคอมพวิ เตอร์ ใช้ลขิ สทิ ธข์ิ องผู้อื่นโดยชอบธรรม 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกลักษณะการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ได้ (K) 2. สามารถใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสงั คม (P,A) 3. สาระสำคญั การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น การทำธรุ กรรม ออนไลน์ การซื้อสินค้าออนไลน์ และการใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมจี ิตสำนึก และจริยธรรมท่ดี ี คำนึง ผลกระทบที่อาจส่งผลตอ่ ผู้อื่น 4. สาระการเรยี นรู้ 1. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้อย่างปลอดภยั 2. การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศได้อยา่ งมีความรับผดิ ชอบ 5. รปู แบบกรสอน/วิธีการสอน 1. รปู แบบการสอนแบบการอภปิ ราย 2. วิธีการสอนแบบการใช้คำถาม (Questioning Method)
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ ทักษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) ใฝ่เรยี นรู้ ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั (Collaboration Skill) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ทกั ษะการสือ่ สาร (Communication Skill) มีจติ สาธารณะ ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มีวินัย อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง รกั ความเปน็ ไทย 9.การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 1. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวดั ความรู้เดิม ของนักเรยี นก่อนเข้าสู่กิจกรรม ขัน้ นำ (10 นาที) 1. ครถู ามนักเรยี นคิดวา่ เทคโนโลยีมบี ทบาทสำคัญต่อชีวติ นกั เรียนหรือไม่ อยา่ งไรบา้ ง (แนวคำตอบ มี เพราะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย) 2. ครถู ามนกั เรยี นตอ่ ว่า นอกจากเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญตอ่ ชวี ิตนกั เรยี นแลว้ นักเรยี นคิดวา่ เทคโนโลยีมี บทบาทสำคัญต่อระดับองค์กร หรือระดบั ประเทศหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ มี เน่อื งจากทำใหม้ รี ะบบออนไลน์ใช้งาน มีใบขบั ข่อี ิเลก็ ทรอนกิ ส์)
ขัน้ สอน (30 นาที) 1. ครูอธิบายเนอื้ หาเร่ืองการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในหนงั สอื เรยี นวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 บรษิ ทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. หน้า 59-60 2. ครสู นทนาและถามนกั เรยี นวา่ ปจั จบุ นั เทคโนโลยีเข้ามีบาทในทุกดา้ นยกตวั อย่าง เช่น ร้านค้า ตอ้ งมีการ ปรับตวั การให้บริการแบบออนไลน์ ในฐานะลูกคา้ หากต้องการซ้อื สนิ คา้ ออนไลน์ นักเรยี นจะประเมนิ ความ นา่ เชือ่ ถอื ของรา้ นคา้ อย่างไร (แนวคำตอบ รา้ นทม่ี ีรวี วิ เยอะ ร้านคา้ ท่มี ชี อ่ื เสยี ง) 3. ครูถามต่อวา่ ในการซื้อสินค้าออนไลน์ในข้นั ตอนการชำระเงนิ ค่าสนิ ค้า นอกจากตอ้ งประเมินความน่าเช่อื ถือ ของร้านค้า นกั เรยี นจะมีวธิ ีการทำธรุ กรรมออนไลน์หรือโอนเงนิ ค่าสนิ ค้าอย่างไรให้ปลอดภยั (แนวคำตอบ โอนเงนิ ผา่ นอุปกรณต์ นเองเทา่ นนั้ ไมใ่ ช้ Wi-Fi สาธารณะ ใชบ้ ริการรา้ นคา้ ทน่ี า่ เชือ่ ถือ) 4. ครูอธิบายเนือ้ หาเรื่องการใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยในหนงั สอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 บริษัท อกั ษรเจริญทศั น์ อจท. หน้า 62 - 63 การทำธรุ กรรม ออนไลน์ และหน้า 64 – 65 การซอื้ สนิ ค้าออนไลน์ 5. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝกึ Exercise ในหนังสือแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 39 ข้อ 1 – 3 เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจ เร่อื ง การทำธุรกรรมออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภัย ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (50 นาที) 6. ครทู บทวนเน้อื หาจากชัว่ โมงที่แลว้ นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้การทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ในชว่ั โมงนี้ครู ใหน้ กั เรียนจับคู่กนั จากนนั้ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นช่ือสินค้าท่ีนักเรียนสนใจ 1 อยา่ ง และนำหวั ข้อนัน้ แลกกนั กับคขู่ องตนเอง 7. ครใู หแ้ ตล่ ะคนค้นหาร้านค้าออนไลนท์ ี่ขายสินค้าตามหวั ขอ้ ท่ีได้รับจากคขู่ องตนเอง และเลอื กหาร้านคา้ ท่ี น่าเชือ่ ถือมากท่สี ุด จำนวน 3 ร้านคา้ 8. ครใู ห้นักเรียนบนั ทึกผลการทำกิจกรรมลงในใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง การซื้อสินค้าออนไลน์อยา่ งปลอดภัย 9. ครสู มุ่ นักเรียน 5 – 6 คน นำเสนอใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง การซ้ือสินค้าออนไลน์อยา่ งปลอดภัยเพอื่ แลกเปลย่ี น ความคิดเหน็ ร่วมกนั 10. ครถู ามนักเรียนวา่ จากการค้นหารา้ นค้านักเรียนมีวิธีการประเมนิ ความน่าเชื่อถือร้านค้าอยา่ งไร (แนวคำตอบ เลอื กซ้ือเวบ็ ไซต์ที่ข้นึ ต้นดว้ ย https//: เท่านนั้ อ่านรีววิ ก่อนสั่งซ้ือ สำรวจราคาตลาดก่อน สั่งซือ้ )
ชว่ั โมงที่ 3 ขัน้ สอน (40 นาที) 11. ครสู อบถามนักเรียนวา่ จากคาบที่แล้วในการประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของร้านคา้ นกั เรียนพบวา่ ร้านค้าที่ดี น่าเชื่อถอื ควรมลี ักษณะอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ คำอธบิ ายสินค้าถูกต้องไม่เกินจรงิ ไม่เปดิ เผยขอ้ มูลสว่ นตวั ลูกค้าในการรวี วิ สนิ ค้า ไม่นำข้อมลู ส่วนตวั ลูกค้าไปเผยแพร่) 12. ครอู ธิบายว่าในปจั จุบนั การซ้อื ของออนไลน์ตามเว็บไซตต์ อ้ งมีบัญชผี ใู้ ช้ก่อนจึงจะสามารถทำการส่ังซ้ือ สินค้าได้ 13. ครถู ามนักเรยี นวา่ โดยปกติเวลาใชง้ านเวบ็ ไซต์เหลา่ น้สี ามารถสมัครบัญชผี ใู้ ช้ได้อย่างไรบา้ ง (แนวคำตอบ ลงชอื่ เข้าใชด้ ว้ ย Facebook ลงชื่อเขา้ ใช้ดว้ ย Google สมัครบัญชีผู้ใชด้ ว้ ยอีเมล) 14. ครูอธบิ ายวา่ ในขน้ั ตอนการลงชอื่ เข้าใชง้ านเว็บไซต์ดว้ ยบญั ชี Facebook หรือ บญั ชี Google เว็บไซตจ์ ะ เรยี กขอสิทธใ์ิ นการเข้าถงึ ขอ้ มูลส่วนตวั บญั ชี Facebook หรอื Google ของเราซงึ่ อาจสง่ ผลต่อการนำ ขอ้ มลู ไปใช้และสง่ ผลเสยี ได้ ดังนัน้ นอกจากการประเมินความน่าเชื่อถือของรา้ นค้าออนไลน์แล้ว ยงั มสี ว่ น อื่นที่ต้องใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างระมดั ระวงั 15. ครูอธิบายเน้ือหาเรือ่ งการใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งมีความรบั ผิดชอบในหนงั สอื เรียนวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 บรษิ ัท อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. หนา้ 66-67 16. ครใู หน้ ักเรียนถามคำถามนักเรียนโดยให้มีสถานการณ์ “หากนกั เรยี นเป็นเจ้าของรา้ นค้ารบั สกรีนลายเสื้อ และมลี ูกค้าตดิ ต่อมาใหผ้ ลิตเส้อื รูปการต์ ูนท่ตี นเองไม่ไดเ้ ป็นเจา้ ของลขิ สิทธผ์ิ ลงาน นกั เรยี นจะมีวธิ ีการ รบั มอื กับลูกคา้ อยา่ งไร เช่น ขอ้ มูลที่เป็นสว่ นตัวของลกู ค้า ความถูกต้องของข้อมลู สนิ คา้ กรรมสทิ ธิ์ และ ด้านอ่นื พร้อมบอกเหตผุ ล” จากนัน้ ครสู ุ่มนักเรียน 4 – 5 คน ตอบคำถาม 17. ครถู ามนักเรยี นว่าจากสถานการณ์ข้างตน้ ในมุมมองนักเรียนผ้บู ริโภคและผขู้ าย ควรมีความรับผดิ ชอบต่อ กันอย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ ผู้บรโิ ภคไมจ่ องสนิ คา้ แล้วไม่ซื้อ ไม่ควรสัง่ สินคา้ ที่ทรัพย์สนิ ทางปัญญา ผขู้ ายจะต้องคำนึงถงึ เร่ืองลิขสิทธิ์ควรศึกษากฎหมายเกีย่ วกบั ลขิ สิทธิ์ให้ดี ความถูกตอ้ งของข้อมลู สินค้า) 18. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ Exercise ในหนงั สอื แบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หนา้ 40 – 41 ข้อ 4 – 5 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ข้ันสรุป (10 นาที) 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปนอกจากเราจะต้องระวงั การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภยั กับตวั เรา แลว้ ยังตอ้ งมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื ดว้ ย โดยเคารพความเป็นส่วนตวั คำนึงถึงความถูกต้อง แมน่ ยำของข้อมูล การเปน็ เจ้าของ และการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลทไี่ ม่ได้รับอนญุ าต
10. สือ่ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วทิ ยาการ)คำนวณ ม.3 (หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. หนงั สอื แบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. ใบงานที่ 3.1.1 เรอ่ื ง การซอ้ื สนิ ค้าออนไลนอ์ ย่างปลอดภยั 11. การวัดและการประเมินผล 11.1 การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรม จุดประสงค์ วิธกี ารประเมนิ เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. บอกลักษณะ ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหดั รายวชิ า บอกลักษณะการใช้งาน การใช้งานเทคโนโลยี Exercise หนา้ 39 พ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ สารสนเทศ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ อย่างปลอดภยั ไดถ้ ูกต้อง อย่างปลอดภัยได้ (K) คำนวณ) ม.3 60% ขนึ้ ไป หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง เทคโนโลยี สารสนเทศ หนา้ 39 2. สามารถใช้งาน - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - แบบประเมนิ - ประเมนิ ใบงานที่ 3.1.1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เรื่อง การซ้ือสินค้า ใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง การซื้อสนิ คา้ ได้อยา่ งปลอดภัย ออนไลน์อยา่ ง เรอื่ ง การซ้ือสนิ ค้า ออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภัย และมคี วาม ปลอดภัย ออนไลนอ์ ย่างปลอดภัย ระดับคุณภาพพอใช้ขึ้น รบั ผดิ ชอบต่อสังคม - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัดรายวิชา ไปถือว่าผ่าน (P,A) Exercise หน้า 40–41 พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ - ประเมนิ การใช้งาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการ เทคโนโลยีสารสนเทศ คำนวณ) ม.3 อยา่ งมีความรบั ผดิ ชอบ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 ไดไ้ ด้ถกู ต้อง 60% ขนึ้ ไป เรอื่ ง เทคโนโลยี สารสนเทศ หนา้ 40–41
11.2 การประเมินใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง การซอ้ื สนิ ค้าออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภยั ประเดน็ ในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 3 21 1. การประเมนิ ความ สามารถประเมินความน่าเช่อื ถอื สามารถประเมนิ ความ สามารถประเมินความ นา่ เชอื่ ถือของร้านคา้ เหตุผลมีความสมเหตุสมผล เชน่ น่าเช่อื ถือ เหตุผลมีความ น่าเชื่อถอื เหตผุ ลมี ออนไลน์ เลอื กเวบ็ ไซต์ท่ขี ้นึ ตน้ ด้วย สมเหตสุ มผลเป็นสว่ น ความสมเหตุสมผล https//: อ่านรีวิวกอ่ นสั่งซ้ือ ใหญ่ เพยี งบางส่วน สำรวจราคาตลาดกอ่ นสงั่ ซ้ือ ตรวจสอบคุณสมบตั ิของสนิ ค้าท่ี แจ้งไวเ้ กนิ จรงิ หรือไม่ ตรวจสอบ การจดทะเบียนร้านค้า ตรวจสอบ ประวตั กิ ารฉ้อโกง 2. การทำธุรกรรม สามารถเลอื กวธิ กี ารทำธรุ กรรม สามารถเลือกวิธกี ารทำ สามารถเลอื กวธิ ีการทำ อยา่ งปลอดภัย อยา่ งปลอดภัยตามหลกั การได้ ธรุ กรรมอยา่ งปลอดภัย ธุรกรรมอยา่ งปลอดภัย และศึกษาตวั เลือกการชำระเงิน ตามหลกั การไดเ้ ป็นสว่ น ตามหลกั การได้เพยี ง ทางรา้ นค้าออนไลน์อย่างถ่ีถ้วน ใหญ่ บางส่วนเทา่ นัน้ เช่น มบี รกิ ารเรยี กเก็บเงิน ปลายทาง 3. การนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอชัดเจน ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใช้ภาษาในการนำเสนอ เหมาะสมและเข้าใจงา่ ย สามารถ ชัดเจน เหมาะสมและ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ ตอบคำถามได้ทุกข้อ เข้าใจงา่ ย สามารถตอบ คำถามได้เพียงบางสว่ น คำถามไดเ้ ปน็ สว่ นใหญ่ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 8–9 ดี 5–7 พอใช้ นอ้ ยกว่า 5 ปรบั ปรุง
ใบงานท่ี 31.1. เร่ือง การซ้ือสินค้าออนไลนอ์ ยา่ งปลอดภัย 1. ชอื่ สินค้า ................................................................................................................................................... 2. ช่ือร้านค้าออนไลน์และเว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เหตุผลในการเลอื กร้านค้าออนไลน์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ถา้ ส่ังซ้ือสนิ ค้าออนไลน์ นักเรยี นมีวธิ กี ารชำระเงินอยา่ งไร ให้ปลอดภัย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 31.1. เฉลย เรื่อง การซอ้ื สินคา้ ออนไลน์อยา่ งปลอดภัย 1. ชอ่ื สินค้า ................................................................................................................................................... 2. ช่อื รา้ นค้าออนไลน์และเว็บไซต์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. เหตผุ ลในการเลือกร้านค้าออนไลน์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ถ้าสั่งซื้อสนิ คา้ ออนไลน์ นกั เรียนมวี ธิ ีการชำระเงนิ อย่างไร ใหป้ ลอดภัย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยีสารสนเทศ เวลา 7 ชัว่ โมง เร่ือง กฎหมายคอมพวิ เตอร์และลขิ สิทธ์ิ เวลา 4 ชว่ั โมง รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตวั ช้วี ดั ม.3/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั และมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ปฏิบตั ิตาม กฎหมายเกยี่ วกับคอมพิวเตอร์ ใช้ลิขสทิ ธ์ิของผ้อู ่ืนโดยชอบธรรม 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เขา้ ใจและยกตัวอย่างการปฏิบตั ติ ามกฎหมายคอมพิวเตอร์ และการใช้ลิขสิทธ์ิของผู้อน่ื โดยชอบธรรมได้ (K,P,A) 3. สาระสำคัญ กฏหมายท่ีเก่ยี วข้องกบั การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศหลายฉบับ เชน่ พระราชบัญญตั ิวา่ ด้วยการ กระทำความผดิ เกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติวา่ ด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบญั ญตั ิการ รักษาความม่ันคงปลอดภยั ไซเบอร์ โดยพระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. 2550 และพระราชบัญญตั วิ ่าด้วยการกระทำความผดิ เกี่ยวคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ลขิ สทิ ธิ์ เป็นผลงานท่เี กดิ จากการใช้ปัญญา ความรู้ความสามารถ และความอุตสาหะพยายามในการ สร้างสรรคผ์ ลงาน ซงึ่ ถอื ว่าเป็นทรัพยส์ ินทางปัญญาประเภทหน่งึ ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง 4. สาระการเรียนรู้ 1. กฎหมายคอมพิวเตอร์ 2. ลขิ สทิ ธ์ิ 5. รูปแบบกรสอน/วิธกี ารสอน 1. รูปแบบการสอนแบบการอภปิ ราย 2. วธิ ีการสอนโดยเน้นกระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction)
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ซือ่ สัตย์ สจุ ริต ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ใฝเ่ รยี นรู้ ทกั ษะการทำงานร่วมกนั (Collaboration Skill) มุ่งมนั่ ในการทำงาน ทักษะการสือ่ สาร (Communication Skill) มจี ติ สาธารณะ ทกั ษะความคดิ สร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ มีวนิ ยั อย่อู ยา่ งพอเพยี ง รกั ความเปน็ ไทย 9.การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขนั้ นำ (10 นาที) 1. ครถู ามนักเรียนวา่ จากคาบท่ีผ่านมาในการการทำธรุ กรรมทางการเงนิ หรอื ซื้อของออนไลน์นักเรียน ควรระมัดระวงั ด้านใดอีกบ้าง (แนวคำตอบ ข้อมลู ส่วนตัว ลขิ สิทธ์ผิ ลงาน) 2. ครถู ามนักเรยี นว่าจากคาบที่แล้วเรื่องการประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของร้านค้าออนไลน์ หากนกั เรยี น ทำการสัง่ ซื้อสนิ คา้ ออนไลน์ไป แต่ไม่ได้รับสนิ คา้ หรือไดร้ บั สินค้าทไ่ี มต่ รงตามคำอธบิ าย หรือสินค้าไมม่ คี ุณภาพ นกั เรียนจะแกป้ ญั หาอย่างไร (แนวคำตอบ ปริน้ ทห์ ลักฐานที่มเี ก่ียวกบั ร้านค้า สนิ คา้ และการโอนเงนิ ทง้ั หมดและไปแจง้ ตำรวจ)
ขน้ั สอน (40 นาที) 1. ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลุม่ 3 – 4 คน จากนน้ั แตล่ ะกลุ่มศึกษาเนอื้ หาในหนงั สือเรียนวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการ คํานวณ) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. หน้า 68 – 70 หัวข้อ “กฎหมายคอมพิวเตอร์” โดยใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลือกหัวข้อกฏหมายตามพระราชบญั ญัติว่าดว้ ยการกระทำความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560 และคน้ หาเพิม่ เติมจากอินเทอร์เนต็ จากน้ันให้สมาชิกในกลุ่มสรปุ ใหเ้ พือ่ นในกลุม่ ฟงั 2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึก Exercise ในหนังสือแบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 42 – 43 เพ่อื ตรวจสอบความเข้าใจ ช่วั โมงท่ี 2 ขัน้ สอน (50 นาที) 3. จากชว่ั โมงทผี่ า่ นมา ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม 3 – 4 คน และแบ่งหัวข้อกันศึกษา“กฎหมายคอมพิวเตอร์” ใน ชว่ั โมงนี้ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษาเนือ้ หาในหนงั สือเรียนวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคาํ นวณ) ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 3 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. หนา้ 71 – 73 หวั ขอ้ “ลขิ สิทธิ์” และค้นหาเพิ่มเติมจาก อนิ เทอรเ์ น็ต จากน้ันใหส้ มาชกิ ในกลุ่มสรุปให้เพ่ือนในกลุ่มฟัง 4. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ Exercise ในหนังสอื แบบฝกึ หัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 44 – 45 เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ 5. จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ทำใบงานท่ี 3.2.1 เร่ือง ใครมีความผดิ และเตรียมตวั นำเสนอในชวั่ โมงถัดไป ช่วั โมงที่ 3 ขนั้ สอน (50 นาที) 6. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอแนวคิดของกลุ่มตนเอง ตรงตามความผิดในมาตราที่ศึกษาหรือไม่ อยา่ งไร 7. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันสรปุ แนวคดิ จากคำตอบของกลมุ่ อ่ืน 8. จากนั้นครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวางแผนในการทำกิจกรรม Activity ในหนังสือแบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 46 – 47 ถา้ เกดิ มขี ้อสงสยั สามารถสอบถามครผู ู้สอนได้ 9. จากนั้นใหน้ ักเรียนแต่ลงมีปฏบิ ัติตามที่วางแผนไว้ พร้อมเตรยี มนำเสนอในช่ัวโมงถดั ไป
ช่ัวโมงท่ี 4 ขัน้ สอน (40 นาที) 10. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอกจิ กรรม Activity 11. ครูซกั ถามกลุ่มที่นำเสนอ เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจและความถกู ต้องของข้อมูล พร้อมทงั้ เสนอแนะ เพ่มิ เติม ขั้นสรปุ (10 นาที) 1. ครใู หแ้ ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาและความสมั พันธเ์ ก่ียวกบั การใชง้ านเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภยั มคี วามรบั ผิดชอบ ปฏิบตั ติ ามกฎหมายเกีย่ วกบั คอมพวิ เตอร์ และใชล้ ิขสิทธ์ิของผ้อู ื่นโดยชอบธรรม 10. สื่อแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. หนังสือแบบฝึกหัดรายวิชาพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง เทคโนโลยีสารสนเทศ 3. ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผดิ 11. การวดั และการประเมนิ ผล 11.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรม จดุ ประสงค์ วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ - แบบฝึกหัด Exercise - ตอบคำถาม Exercise 1. เข้าใจและยกตวั อย่าง - ตรวจแบบฝกึ หัด หน้า 42 – 45 และ Activity ได้ถกู ต้อง - Activity หนา้ 46 – 60% ขนึ้ ไป การปฏิบัตติ ามกฎหมาย Exercise หนา้ 42 – 45 47 - ประเมินใบงานที่ 3.2.1 - ใบงานท่ี 3.2.1 เรื่อง เรอ่ื ง ใครมคี วามผิด คอมพิวเตอร์ และการใช้ - ตรวจ Activity หน้า ใครมีความผดิ ระดับคุณภาพพอใช้ข้ึน ไปถือวา่ ผ่าน ลขิ สิทธ์ิของผู้อ่ืนโดยชอบ 46 – 47 ธรรมได้ (K,P,A) - ใบงานที่ 3.2.1 เรือ่ ง ใครมีความผิด
11.2 การประเมนิ ใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ใครมีความผดิ ประเดน็ ในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1 2 1. การอา้ งองิ กฎหมาย สามารถเลอื กอา้ งองิ สามารถเลือกอ้างอิง สามารถเลือกอา้ งอิง กฎหมายคอมพวิ เตอร์ กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายคอมพวิ เตอร์ และการค้มุ ครองลิขสิทธ์ิ และการคุ้มครองลขิ สทิ ธิ์ และการคุม้ ครองลขิ สทิ ธิ์ ได้ถูกตอ้ งสอดคล้องกับ ไดถ้ ูกต้องสอดคล้องกบั ได้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และเหตผุ ล สถานการณ์ และเหตผุ ล สถานการณ์ เหตผุ ลท่ี ท่กี ล่าวถงึ มีความ ทก่ี ล่าวถึงมีความ กลา่ วถงึ มีความ สมเหตุสมผล สมเหตุสมผลเป็นสว่ น สมเหตุสมผลเพียง ใหญ่ บางส่วน 2. การนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ชัดเจน เหมาะสมและ ชัดเจน เหมาะสมและ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ คำถามได้เพยี งบางสว่ น คำถามได้ทุกข้อ คำถามไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 5–6 ดี 3–4 พอใช้ นอ้ ยกว่า 3 ปรับปรุง
11.3 การประเมินการนำเสนอ Activity ประเดน็ ในการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 2 หัวข้อในคน้ หาข้อมูล 1. หวั ขอ้ ทีน่ ำเสนอ หัวขอ้ ในค้นหาขอ้ มลู มี นา่ สนใจ มีประโยชนต์ ่อ หวั ข้อในคน้ หาข้อมูลมี การเผยแพรใ่ ห้กบั ผอู้ ่นื ความน่าสนใจ ทันต่อ ความน่าสนใจ เปน็ เพยี งบางส่วน สร้างสรรคแ์ ละมี เหตุการณ์ สรา้ งสรรค์ ประโยชน์ต่อการ เน้อื หาท่นี ำเสนอมีความ เผยแพร่ใหก้ บั ผู้อ่ืนเป็น ถกู ต้องเปน็ สว่ นใหญ่ มี และมปี ระโยชนต์ ่อการ ส่วนใหญ่ แหล่งที่มาน่าเช่ือถือ เนอ้ื หาทน่ี ำเสนอมีความ นอ้ ยหรอื ไม่มเี ลย ไม่ เผยแพร่ใหก้ ับผู้อนื่ ถูกต้องเป็นสว่ นใหญ่ มี ละเมดิ ลิขสทิ ธ์ิหรือ แหลง่ ทม่ี านา่ เชื่อถือ ไม่ คัดลอกงานของผ้อู ืน่ 2. ความถูกต้องของ เนื้อหาท่ีนำเสนอมคี วาม ละเมิดลิขสทิ ธ์หิ รือ ใช้ภาษาในการนำเสนอ เนอ้ื หา ถกู ต้อง มีแหลง่ ท่ีมา คดั ลอกงานของผอู้ ื่น เขา้ ใจง่าย สามารถตอบ น่าเช่อื ถอื ไมล่ ะเมิด คำถามไดเ้ พยี งบางสว่ น ลิขสิทธห์ิ รอื คัดลอกงาน ใชภ้ าษาในการนำเสนอ ของผู้อน่ื ชดั เจน เหมาะสมและ เข้าใจงา่ ย สามารถตอบ 3. การนำเสนอ ใชภ้ าษาในการนำเสนอ คำถามไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจน เหมาะสมและ เข้าใจง่าย สามารถตอบ คำถามไดท้ ุกข้อ เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 8–9 ดี 5–7 พอใช้ นอ้ ยกว่า 5 ปรับปรุง
11.4 แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด✓ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้ .1 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมที่สรา้ งความสามัคคีปรองดองและเป็นประโยชน์ ตอ่ โรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมทเ่ี กีย่ วกับสถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจดั ขนึ้ .2 ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมลู ที่ถูกตอ้ งและเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ิในสงิ่ ทถ่ี ูกต้อง .3 มวี ินยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน .4 ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้ 4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เช่ือฟังคำสั่งสอนของบิดามารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ - 4.4 ตง้ั ใจเรียน .5 อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรคู้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงนิ .6 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6.1 มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเรจ็ .7 รักความเป็นไทย 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย .8 มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน 8.2 ร้จู ักการดูแลรักษาทรัพย์สมบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี น และโรงเรียน ลงช่ือ..................................................ผ้ปู ระเมนิ ................/.................../............ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ คะแนน 1 41-50 ดี พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางครัง้ 30-40 พอใช้ ปรับปรุง ตำ่ กว่า 30
ใบงานที่ 3.2.1 เรอื่ ง ใครมคี วามผดิ คำชี้แจง : ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณต์ ่อไปนี้ สถานการณ์ รา้ น RC Power ไดล้ งขอ้ มลู ขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสินค้าชดุ Cosmos Wars Mini set ประกอบดว้ ยเส้อื ยดื พมิ พ์ลายโปสเตอร์ภาพยนตร์เรอ่ื ง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตวั และ DVD ภาพยนตร์ที่จัดทำซ้ำขึ้นใหม่จำนวน 1 ชดุ พร้อมของแถมเป็น DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรับ ใช้เปดิ ไฟล์ประเภทวีดีโอโดยที่ร้าน RC Power ไมไ่ ด้เปน็ เจา้ ของลิขสิทธ์ิ หรือไดร้ บั อนญุ าตจากเจา้ ของลิขสิทธ์ิ ใด ๆ ทง้ั ส้ิน แต่ทางร้านลงข้อมูลในเวบ็ ไซต์ว่าสนิ คา้ และเสือ้ ยดื ทั้งหมดเปน็ ของแท้ที่มลี ิขสิทธ์ิ จากสถานการณด์ งั กลา่ วให้นกั เรยี นวเิ คราะห์ว่ามีการกระทำความผิดใดตามพระราชบญั ญัติวา่ ด้วย การกระทำความผดิ เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560 และควรไดร้ บั โทษอย่างไร ความผดิ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................... .......................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. .................................................
ใบงานท่ี 3.2.1 เฉลย เรอื่ ง ใครมีความผดิ คำชแ้ี จง : ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม 4-5 คน และตอบคำถามจากสถานการณ์ต่อไปน้ี สถานการณ์ รา้ น RC Power ได้ลงขอ้ มูลขายของออนไลน์ โดยขายแพคเกจสินคา้ ชุด Cosmos Wars Mini set ประกอบดว้ ยเสือ้ ยืดพมิ พ์ลายโปสเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Cosmos Wars ขนาด Free size จำนวน 2 ตวั และ DVD ภาพยนตร์ทจ่ี ดั ทำซ้ำข้ึนใหมจ่ ำนวน 1 ชุด พร้อมของแถมเปน็ DVD โปรแกรม KKDPlayer สำหรับ ใช้เปิดไฟล์ประเภทวดี ีโอโดยท่ีรา้ น RC Power ไม่ได้เป็นเจา้ ของลขิ สิทธ์ิ หรอื ได้รับอนญุ าตจากเจ้าของลขิ สทิ ธิ์ ใด ๆ ทัง้ สิ้น แต่ทางร้านลงข้อมูลในเวบ็ ไซต์วา่ สินค้าและเสอ้ื ยดื ท้ังหมดเป็นของแทท้ ่ีมีลขิ สิทธิ์ จากสถานการณด์ ังกลา่ วให้นักเรยี นวิเคราะห์ว่ามีการกระทำความผดิ ใดตามพระราชบัญญตั ิว่าด้วย การกระทำความผดิ เก่ยี วกับคอมพิวเตอร์ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560 และควรไดร้ บั โทษอย่างไร ความผิด .แ..น...ว..ค..ำ..ต..อ...บ................................................................................................................................... .......................... .ม..ีค..ว...า..ม..ผ..ดิ...ต..า..ม...พ..ร..ะ...ร..า..ช..บ...ญั ...ญ...ัต...ิว..่า..ด..้ว..ย..ก...า..ร..ก..ร..ะ..ท...ำ..ผ..ิด...เ.ก..ย่ี...ว..ก..ับ...ค..อ...ม..พ..วิ..เ..ต..อ..ร..์..(.ฉ..บ...ับ...ท..ี่..2..)...พ....ศ......2..5...6..0......................... .น..ำ..ข...อ้ ..ม..ูล...ท..บ่ี...ิด..เ..บ..ือ...น..ห...ร..อื..ป...ล..อ...ม..ไ..ม..่ว..า่..ท...ั้ง..ห...ม..ด..ห...ร..ือ..บ...า..ง..ส..ว่..น....ห...ร..อื..น...ำ..ข..้อ...ม..ลู..อ...ัน..เ..ป..็น...เ.ท..จ็...เ.ข..้า..ส..่รู...ะ..บ..บ...ค..อ...ม..พ...ิว..เ.ต...อ..ร..์........ .โ.ท...ษ..จ...ำ..ค..กุ..ไ..ม..่เ..ก..นิ....5....ป..ี..ห..ร..ือ...ป..ร..ับ...ไ..ม..เ่.ก...ิน....1..0..0..,.0...0..0...บ...า..ท....ห...ร..อื ..ท...ง้ั ..จ..ำ..ท..ั้ง..ป...ร..ับ............................................................... .............................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .................................................................................... .......................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 แอปพลเิ คชนั เวลา 14 ชว่ั โมง เรอื่ ง แนวคิดและองคป์ ระกอบของ IoT เวลา 4 ช่วั โมง รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเปน็ ข้ันตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ช้ีวดั ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชนั ที่มีการบูรณาการกับวชิ าอ่นื อย่างสร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายแนวคิดและองค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT ได้ (K) 2. ออกแบบแนวคิดเพ่ือการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ (P) 3. ยกตวั อย่างประโยชนข์ องเทคโนโลยี IoT ในชีวิตประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ การทำให้อปุ กรณ์หลายตัวสามารถสื่อสาร แลกเปล่ียนข้อมูล และทำงานร่วมกันไดน้ ้ัน เรียกว่า เทคโนโลยี IoT ต้องอาศัยความสามารถของ Smart Device ซงึ่ อุปกรณ์ทม่ี หี นว่ ยประมวลผล หรอื เซนเซอร์ ภายในตัว เพอ่ื สง่ ข้อมลู ผ่าน Cloud Computing หรือ Wireless Network เปน็ ตวั กลางในการรับส่งข้อมูล ภายในเครือข่ายเพ่ือประมวลผล และอาศยั Dashboard สำหรบั แสดงผลและใช้ควบคุมการทำงานจากผู้ใช้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. แนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT 2. องค์ประกอบของเทคโนโลยี IoT 3. อุปกรณท์ ี่ใชส้ ำหรับพัฒนาเทคโนโลยี IoT 4. ข้อดีข้อเสยี ของเทคโนโลยี IoT 5. รูปแบบการสอน/วิธีการสอน 1. วธิ กี ารสอนแบบการใชค้ ำถาม (Questioning Method) 2. วิธีการสอนโดยใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ (Computational Thinking)
6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ทกั ษะ 4Cs ทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill) ทักษะการส่อื สาร (Communication Skill) ทกั ษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซ่อื สัตย์ สจุ ริต รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ใฝเ่ รยี นรู้ มวี ินยั มงุ่ มัน่ ในการทำงาน อยอู่ ย่างพอเพียง มีจติ สาธารณะ รักความเปน็ ไทย 9. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 1. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง แอปพลเิ คชนั เพือ่ วัดความร้เู ดมิ ของ นกั เรยี นก่อนเขา้ สกู่ ิจกรรม ขัน้ นำ (5 นาที) 1. ครถู ามคำถามกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นว่า “นักเรยี นรจู้ ักเทคโนโลยี IoT หรือไม่” ข้นั สอน (30 นาที) 1. ครใู ห้นักเรียนเปิดหนังสือวิชาวิทยาการคำนวณ บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 หนา้ 77 เรื่อง เทคโนโลยี IoT 2. ครูถามนักเรยี นวา่ เครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต หรือเครือข่ายไร้สายมปี ระโยชนก์ บั ชวี ิตเราอยา่ งไร (แนวคำตอบ เช่นสญั ญาณ3G 4G ทำให้เข้าถงึ อินเทอรเ์ นต็ ได้สะดวก) 3. ครูถามต่อว่าถา้ สมมตมิ ือถือ หรือคอมพิวเตอร์ แลปทอปของเราไม่มีความสามารถในการเชอื่ มตอ่ เครือขา่ ย อนิ เทอร์เนต็ ได้ นักเรยี นคิดว่าจะมผี ลกระทบต่อชีวติ อย่างไร
(แนวคำตอบ คน้ หาข้อมูลไดย้ าก แลกเปลี่ยนข้อมูลกนั ชา้ เน่อื งจากไม่มีอนิ เทอร์เน็ต ไม่สามารถอปั เดต ขา่ วสารได้ Real time) 4. ครูอธิบายวา่ ยคุ ก่อนหน้านมี้ ือถือ และคอมพิวเตอร์ของเรายงั ไมม่ ีความสามารถในการเข้าถงึ อนิ เทอรเ์ น็ต แต่ปจั จุบนั อุปกรณ์เหลา่ น้ีแทบทกุ เคร่ืองจะมคี วามสามารถในการเช่อื มต่อเครือข่ายเขา้ หากนั ได้ เช่น Bluetooth , Wifi Internet ทำให้อปุ กรณห์ ลายชิ้นเชือ่ มต่อกนั จงึ ทำให้สามารถแลกเปลย่ี นข้อมูลกันได้ อย่างรวดเรว็ 5. ครอู ธบิ ายว่าลักษณะการทำใหอ้ ปุ กรณห์ ลายชิน้ เช่อื มตอ่ เข้าหากันผ่านเครือข่าย และทำการแลกเปลีย่ น ขอ้ มูลกันเพ่ือใหใ้ ชป้ ระโยชน์ไดม้ ากขนึ้ เปน็ แนวคิดท่ีคล้ายกับเทคโนโลยี IoT 6. ครอู ธิบายแนวคิด จดุ กำเนดิ และองคป์ ระกอบของของเทคโนโลยี IoT ในหนังสือวชิ าวทิ ยาการคำนวณ บริษทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนา้ 77-78 เรื่อง เทคโนโลยี IoT และองค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT ว่าเปน็ การทำให้อปุ กรณ์ต่าง ๆ มีหนว่ ยประมวลผลและความสามารถในการเชื่อมตอ่ กบั อุปกรณ์อน่ื ได้ โดยไม่ต้องพึง่ พาความสามารถของคอมพิวเตอรใ์ นการประมวลผลและการเชื่อมตอ่ กบั อุปกรณ์อนื่ จึงทำให้อปุ กรณ์สามารถส่งผา่ นข้อมลู ระหว่างกนั ไดโ้ ดยตรง เชน่ เครอ่ื งพิมพท์ เี่ ช่ือมเข้า ระบบ wifi และสงั่ ปริน้ ท์งานผา่ นระบบ wifi ไมจ่ ำเปน็ ต้องเชอ่ื มเครื่องพิมพ์กบั คอมพิวเตอรอ์ ีกต่อไป แตส่ ามารถสัง่ งานจากอุปกรณ์ใดก็ไดท้ เ่ี ช่ือมวงเครือข่าย wifi เดียวกัน ชว่ั โมงที่ 2 ข้นั สอน (50 นาที) 7. ครูถามนกั เรยี นวา่ หากเราสามารถพฒั นาเทคโนโลยี IoT ด้วยตนเองไดน้ ักเรยี นคิดว่าจะนำอุปกรณ์ อิเล็กทรอนกิ สใ์ ดมาเช่อื มต่อเครือขา่ ย และจะใชป้ ระโยชนจ์ ากการเช่อื มตอ่ เขา้ เครือข่ายของอุปกรณน์ น้ั อยา่ งไร สมุ่ นักเรียนตอบคำถาม3-5คน (แนวคำตอบ แอร์เช่ือมเนต็ แล้วเชค็ อณุ หภูมิจากท่ีไหนก็ได้จากน้ันก็สั่งเปดิ -ปิดแอร์ตอนไหนกไ็ ด้) 8. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมเก่ียวกับแนวคิดของ IoT เร่อื งองคป์ ระกอบท่ีสำคัญท้งั 3 ส่วนได้แก่ 1) Smart Device ใชน้ ำเขา้ ข้อมลู จากเซนเซอร์ 2) Cloud Computing หรอื Wireless Network เพอื่ ใช้เป็นสือ่ กลางในการรับสง่ ข้อมลู 3) Dashboard เพอ่ื ใช้สื่อสารกับผู้ใช้ ดังนน้ั นอกจากอปุ กรณ์จะสามารถเช่อื มต่อเขา้ เป็นเครือขา่ ยเดียวกนั ไดแ้ ล้วจะต้องมสี ่วนติดตอ่ ทใ่ี ช้ควบคมุ การทำงานภายในระบบไดด้ ว้ ย เชน่ ส่งั สตารท์ รถผา่ นมอื ถือโดยใช้ส่อื กลางเปน็ ระบบอินเทอรเ์ นต็ เปดิ -ปิด เคร่อื งใช้ไฟฟ้าภายในบ้านดว้ ยเครอื ข่ายไรส้ าย Wifi 9. ครูใหน้ ักเรียนวาดแผนผังการทำงานตามแนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT และเขียนแนวคิดการประยุกตใ์ ช้ เทคโนโลยี IoT ในชวี ติ ประจำวนั ในแบบฝกึ หัดบริษัทอักษรเจรญิ ทัศน์ อจท ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เรือ่ ง เทคโนโลยี หนา้ 53-55 ขอ้ 1-5
(แนวคิดเชิงคำนวณ : ในสว่ นการแยกย่อย Decomposition นักเรยี นฝึกกระบวนการแยกองคป์ ระกอบ โดยการเขยี นองคป์ ระกอบย่อยของเทคโนโลยใี นรปู แบบแผนผัง) ช่ัวโมงที่ 3 ข้นั สอน (50 นาที) 10. ครสู อบถามนักเรยี นวา่ สงสยั หรอื ไม่ แอรท์ บี่ ้านเรารู้อุณหภมู ิว่าเปน็ กอี่ งศาภายในบา้ นได้อย่างไร (แนวคำตอบ มตี ัวตรวจจบั มีเครอื่ งวดั อณุ หภมู ิ มีเซนเซอร์ เซนเซอรว์ ัดอุณหภมู ิ) 11. ครสู อบถามนกั เรยี นวา่ “นักเรยี นรู้จักเซนเซอร์อะไรบ้าง หรือเคยเหน็ เซนเซอร์ในอุปกรณไ์ หนบ้าง (แนวคำตอบ ขน้ึ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของครูผสู้ อน) 12. ครแู นะนำบอรด์ micro:bit (ไมโครบิท) ท่มี เี ซนเซอรห์ ลากหลายสามารถนำมาใช้พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ โดยใหน้ ักเรยี นเปดิ หนงั สอื วิชาวิทยาการคำนวณ บริษทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หนา้ 79-8 เรอ่ื ง ตัวอย่างอุปกรณส์ ำหรับเทคโนโลยี IoT และยกตัวอย่างอุปกรณ์ ไมโครบทิ พรอ้ มบอก สว่ นประกอบเบ้ืองต้น (กรณีที่โรงเรยี นมี micro:bit ใหค้ รูแจกบอร์ด micro:bit ใหน้ ักเรียนทำความรู้จกั ) 13. ครูให้นักเรยี นเปดิ หนงั สือวชิ าวิทยาการคำนวณ บริษัทอักษรเจริญทัศน์ อจท ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนา้ 82 จากนน้ั ครูอธบิ ายตัวอยา่ งแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT โดยใช้บอรด์ ไมโครบิทเป็นอุปกรณ์ในการ วัดอณุ หภมู ิแล้วส่งข้อมลู มาบนแทบเล็ท ซงึ่ เปน็ ส่วนแสดงผลและใชแ้ ทปเลท็ เปน็ อุปกรณ์เพื่อควบคุมการ ทำงานของพดั ลมได้โดยกดปุ่มสั่งงาน A บนแทปเล็ทเพ่ือเปิดพัดลม พร้อมขน้ึ สถานะเลข 1 บนบอรด์ ไม โครบทิ ให้ผใู้ ชร้ ู้สถานะการทำงานของพัดลมได้ และกดปุ่มงาน B เพื่อปดิ พดั ลมพรอ้ มข้ึนสถานะ0 บน บอร์ดไมโครบิท 14. ครูตั้งคำถามกับนักเรียนวา่ จากแนวคดิ นีห้ ากให้นกั เรยี นปรบั ใช้และพัฒนาตอ่ นักเรยี นจะนำแนวคดิ ไป พัฒนาตอ่ อย่างไร สุ่มนักเรยี นตอบคำถาม 3-5 คน 15. ครูใหน้ กั เรียนจับคู่กนั จากนน้ั ทำแบบฝึกหัดแบบฝึกหดั บริษัทอักษรเจริญทศั น์ อจท. หน้า 55 ขอ้ ที่ 6 โดยแตล่ ะค่เู ลอื กแค่ 1 แนวคิด จากแบบฝกึ หัดขอ้ 5 นำแนวคดิ ในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT มาปรบั ปรุง ต่อโดยประยุกตใ์ ช้ความสามารถจากบอรด์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ ชัว่ โมงท่ี 4 ขัน้ สอน (40 นาที) 16. จากชว่ั โมงทผ่ี า่ นมาครใู ห้นักเรยี นแต่ละคู่เลอื กแนวคิดการพฒั นาเทคโนโลยี IoT แล้ว ในชั่วโมงนีค้ รูให้ นักเรยี นลงมือทำแบบฝึกตามเวลาที่กำหนด 17. ครใู หแ้ ตล่ ะคู่ออกมานำเสนอแนวคิดการพฒั นาเทคโนโลยี IoT ของตนเอง และใหเ้ พ่อื นในชน้ั เรียนร่วมกัน แลกเปลีย่ นความคิดเห็น
18. เม่ือนำเสนอเสร็จแลว้ ใหค้ ณุ ครถู ามทุกคู่ว่า “จากทีเ่ ราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและฟังการนำเสนอ แนวคดิ ค่อู ืน่ แล้ว นกั เรียนคดิ ว่าอยากปรบั ปรุงแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของคูต่ นเองอย่างไร” ขั้นสรุป (10 นาที) 1. ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกนั สรปุ แนวคดิ ของเทคโนโลยี IoT 2. ครถู ามนักเรยี นว่าจากการฟังแนวคดิ ของเพื่อนในช้ันเรยี นมแี นวคิดใดนา่ สนใจ หรือแนวคดิ ใดที่มีประโยชน์ ในชวี ติ ประจำวนั ได้จรงิ บา้ ง 3. ครสู รปุ แนวคดิ และองคป์ ระกอบของเทคโนโลยี IoT ใหน้ กั เรียนฟงั พร้อมท้ังเนน้ ถึงความสำคญั เร่อื ง ประโยชน์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวนั 4. ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัดเรอ่ื ง เทคโนโลยี IoT หน้า 56 ขอ้ 7 10. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง แอปพลิเคชัน 2. หนงั สอื แบบฝึกหัดรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง แอปพลิเคชนั
11. การวัดและการประเมนิ ผล 11.1 การประเมินระหว่างการจัดกจิ กรรม จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมิน เครื่องมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน แบบประเมนิ อธบิ ายแนวคดิ และ 1.อธบิ ายแนวคดิ และ ตวรจแบบฝึกหัด เร่ือง แบบฝกึ หัด องค์ประกอบของ เรือ่ ง เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ ใน องค์ประกอบของ เทคโนโลยี IoT (ข้อ1-3) ระดับคุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป 1.แบบประเมนิ ถอื ว่าผา่ น เทคโนโลยี IoT ได้ (K) แบบฝึกหัด 1.ออกแบบแนวคิดในการ 2.แบบประเมนิ พัฒนาเทคโนโลยี IoT ได้ 2.ออกแบบแนวคดิ เพ่ือ 1.ตรวจการออกแบบ การนำเสนอ ตรงตามแนวคิดของ พฒั นาเทคโนโลยี IoT แนวคดิ ในการพัฒนา เทคโนโลยี ในระดับ ได้ (P) เทคโนโลยี IoT ใน แบบฝึกหดั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไปถอื วา่ แบบฝึกหดั เรื่อง เร่อื ง เทคโนโลยี IoT ผ่าน เทคโนโลยี IoT (ข้อ5-7) ขอ้ 7 2.นำเสนอแนวคิดในการ 2.ประเมินการนำเสนอ พฒั นาเทคโนโลยี IoT ใน แนวคดิ ในการพฒั นา ระดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป เทคโนโลยี IoT ถือวา่ ผ่าน ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยี IoT 3.ยกตวั อยา่ งประโยชน์ ตรวจแบบฝึกหดั เรอ่ื ง ในชีวติ ประจำวัน ถกู ต้อง ของเทคโนโลยี IoT ใน เทคโนโลยี IoT (ขอ้ 8) 60% ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น ชีวิตประจำวันได้ (A)
11.2 การประเมินการนำเสนองานกล่มุ ที่ รายการประเมิน คุณภาพผลงาน 4 3 21 1 นำเสนอการประยุกต์แนวคดิ ในการพัฒนาเทคโนโลยี IoT กับ ความสามารถของ micro:bit ไดน้ ่าสนใจและส่ือสารเขา้ ใจง่าย ชัดเจน 2 อธบิ ายการทำงานของแนวคิดไดเ้ ขา้ ใจ และถูกต้องตามหลักการ และตอบ คำถามได้ 3 มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกลุม่ 5 การรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน รวม เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16 – 20 ดี 10 – 15 น้อยกวา่ 10 พอใช้ ปรับปรุง
11.3 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง เทคโนโลยี IoT (แนวคดิ และองค์ประกอบของ IoT) ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1 2 1.อธิบายแนวคดิ ของ อธบิ ายแนวคดิ ของ อธบิ ายแนวคิดของ อธบิ ายแนวคดิ ของ เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้ เทคโนโลยี IoT ได้ ถกู ต้องครบถว้ นทงั้ หมด ถกู ต้อง 50% ขนึ้ ไป ถกู ต้อง น้อยกว่า 50% 2.แผนผังการทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน เขียนแผนผงั การทำงาน องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ เทคโนโลยี IoT เทคโนโลยี IoT ได้เป็น เทคโนโลยี IoT ได้เปน็ เทคโนโลยี IoT ได้เป็น ระบบ ถูกต้องและ ระบบ ถูกต้องและ ระบบ ถูกต้องและ เข้าใจง่ายทั้งหมด เขา้ ใจงา่ ย 50% ขนึ้ ไป เข้าใจงา่ ย น้อยกว่า 50% เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 5–6 ดี 3–4 พอใช้ น้อยกว่า 3 ปรับปรงุ
11.4 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง เทคโนโลยี IoT (การออกแบบแนวคิดในการพัฒนา เทคโนโลยี IoT) ประเด็นในการประเมิน 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1 2 1.ระบุปัญหาท่ีพบเจอใน ระบปุ ญั หาที่พบเจอใน ระบปุ ัญหาที่พบเจอใน ระบุปญั หาท่ีพบเจอใน ชวี ติ ประจำวัน และ ชวี ติ ประจำวันได้ ชีวติ ประจำวนั ได้ ชีวิตประจำวนั ได้ และ แนวทางการพัฒนา นา่ สนใจ และอธิบาย นา่ สนใจ และอธิบาย อธิบายแนวทางการพฒั นา แนวทางการพัฒนาโดย แนวทางการพัฒนาโดย โดยใช้เทคโนโลยี IoT ได้ ใชเ้ ทคโนโลยี IoT ได้ ใช้เทคโนโลยี IoT ได้ ถกู ต้องครบ น้อยกว่า 50% ถูกต้องครบถว้ น ถูกต้องครบ 50% ขึ้นไป 2.ออกแบบแนวคิดใน ออกแบบแนวคิดในการ ออกแบบแนวคิดในการ ออกแบบแนวคิดในการ การพฒั นาเทคโนโลยี พัฒนาเทคโนโลยี IoT พฒั นาเทคโนโลยี IoT พฒั นาเทคโนโลยี IoT กบั IoT กบั ความสามารถ กับความสามารถของ กบั ความสามารถของ ความสามารถของ บอรด์ ของบอรด์ บอรด์ บอรด์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ ไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ หลกั การถูกต้องครบถว้ น น่าสนใจ สร้างสรรค์ นา่ สนใจ หลกั การ และเลอื กใชอ้ ุปกรณ์ได้ หลักการถูกต้องครบถ้วน ถกู ต้อง และเลือกใช้ เหมาะสมกบั การแก้ปญั หา ทั้งหมด และเลือกใช้ อุปกรณ์ได้เหมาะสมกบั นอ้ ยกวา่ 50% อุปกรณ์ได้เหมาะสมกบั การแก้ปัญหา 50% ขึน้ การแกป้ ัญหา ไป เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5–6 ดี 3–4 พอใช้ น้อยกว่า 3 ปรบั ปรุง
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 แอปพลิเคชัน เวลา 14 ชัว่ โมง เร่ือง ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชัน เวลา 4 ช่ัวโมง รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ รูเ้ ทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ชว้ี ดั ม.3/1 พัฒนาแอปพลิเคชนั ที่มีการบูรณาการกับวิชาอนื่ อย่างสรา้ งสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.บอกความหมาย ประเภท และขน้ั ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ได้ (K) 2.ออกแบบการพัฒนาแอปพลิเคชนั ตามขัน้ ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชันได้ (P) 3.ยกตวั อย่างแอปพลเิ คชันท่ีมปี ระโยชน์ของในชวี ติ ประจำวนั ได้ (A) 3. สาระสำคัญ แอปพลิเคชัน เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพ่ืออำนวยในด้านต่าง ๆ มีการออกแบบมาเพ่ือใช้งาน ในหลายรูปแบบ โดยแอปพลิเคชันแบ่งออกได้ 2 ประเภท ได้แก่ แอปพลิเคชันระบบ แอปพลิเคชันท่ี ตอบสนองตอ้ งการของกลมุ่ ผูใ้ ช้ การพัฒนาแอปพลิเคชัน มี 7 ข้ันตอน ดังน้ี 1) กำหนดปัญหา 2) ศึกษาความเป็นไปได้ 3) วิเคราะห์ ความต้องการแอปพลเิ คชนั 4) ออกแบบแอปพลิเคชนั 5) ทดสอบ 7) จัดทำเอกสาร ซึ่งการพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันนิยมใช้โปรแกรมภาษาไพทอน (Python) เพราะเป็นภาษาที่อ่าน แล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมการพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยโปรแกรมภาษาไพทอน เชน่ โปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปลี่ยนเงนิ บาทไทย (THB) เปน็ เงนิ ดอลลาร์ (USD) เปน็ ต้น 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชนั 2. ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คช่นั
5. รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน 1. รปู แบบการสอนแบบการอภิปราย 2. วธิ ีการสอนโดยเนน้ กระบวนการกลมุ่ (Group Process–Based Instruction) 3. วธิ กี ารสอนโดยใชก้ ารแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing) 4. วิธกี ารสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ (Computational Thinking) 6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. ทักษะ 4 Cs ทกั ษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill) ทกั ษะการสอื่ สาร (Communication Skill) ทักษะความคดิ สร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ใฝ่เรยี นรู้ มีวนิ ยั มงุ่ มั่นในการทำงาน อยู่อยา่ งพอเพียง มจี ิตสาธารณะ รักความเป็นไทย
9. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 ขนั้ นำ (10 นาท)ี 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนว่า ถ้าสมมตนิ ักเรียนไปเทีย่ วตา่ งประเทศ นกั เรยี นคาดว่าตอ้ งใชเ้ งินประมาณเทา่ ไร 2. จากนนั้ ครูถามต่อวา่ จำนวนเงนิ ท่นี ักเรยี นบอกเป็นสกุลเงินไทย หรือสกุลเงนิ ประเทศทต่ี ้องการไปเทย่ี ว 3. ครถู ามวา่ แล้วนกั เรยี นสามารถแปลงจำนวนเงินบาทเป็นสกุลเงนิ ของต่างประเทศอย่างไร (แนวคำตอบ สามารถคำนวณได้ด้วยโปรแกรมที่อยู่บนออนไลน์ หรือแอพพิเคชั่นบนมือถือและแท็ปเลท นอกจากนน้ั ยังสามารถคำนวณไดโ้ ดยดจู ากการแปลงอตั ราแลกเปล่ยี นคา่ เงินประจำวนั ) 4. ครสู อบถามว่านักเรียนเคยสงสัยไหมวา่ โปรแกรมเหล่านท้ี ำงานอย่างไร (แนวคำตอบ : การแปลงค่า เทียบค่าเงิน ดูจากอัตราแลกเปลีย่ นเงนิ ) ข้นั สอน (40 นาที) 1. ครูกล่าวถงึ ลกั ษณะแบบน้ีเปน็ ประโยชนข์ องโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันทเ่ี ราใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั 2. ครูให้นักเรียนเปิดหนงั สือเรยี นวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 บริษัท อักษรเจริญ ทศั น์ อจท. หนา้ 83 หวั ขอ้ การพัฒนาแอปพลิเคชัน 3. ครอู ธิบายความหมาย และประเภทของแอปพลเิ คชัน และยกตัวอย่างแอปพลเิ คชันจากในหนังสอื หน้า 84 หรอื ตามความเหมาะสม 4. ครอู ธิบายเพิ่มเร่ืองขั้นตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ในหนังสอื เรียนวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 อักษรเจริญทศั น์ อจท. หน้า 85-88 5. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 57-58 ข้อ 1-3 เพ่ือตรวจสอบความ เข้าใจ ชว่ั โมงที่ 2 ขั้นสอน (50 นาที) 6. ครูถามนักเรียนว่าจากที่เราพูดถึงจำนวนเงิน และการแปลงสุกลเงินในคาบที่แล้วนักเรียนคาดว่าหาก ตอ้ งการพฒั นาแอปพลเิ คชนั เราจะต้องใชเ้ ครื่องมอื ใดบ้าง (แนวคำตอบ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมภาษาC++ โปรแกรมภาษาPython ) 7. ครูอธิบายว่าการพัฒนาโปรแกรมสามารถใช้ภาษาในการเขียน และพัฒนาแอปพลิเคชันได้หลากหลาย สามารถเลอื กใชไ้ ดต้ ามความถนัด 8. ครูสนทนากับนักเรียนว่า นักเรียนได้เรยี นเขียนโปรแกรมภาษาPython เบ้อื งต้นมาแล้วในชั้นมัธยมศกึ ษาปี ท่ี 2 แล้วรู้หรือไม่ว่าทำไมนักพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จึงเลือกใช้โปรแกรมน้ี เรามาดู
จุดเด่น จุดด้อยของโปรแกรมภาษาไพทอนกัน (เปิดหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 3 บริษทั อักษรเจรญิ ทศั น์ อจท. หนา้ 89) 9. ครูบอกนักเรยี นว่า คาบน้ีจะได้ศึกษาการทำงานของโปรแกรมแปลงค่าเงินโดยให้นักเรียนเปิดหนังสอื เรียน วิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. หน้า89 หัวข้อ ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชน่ั 10. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าที่การทำงานเครื่องมือของโปรแกรม เป็นการ ทบทวนเน้ือหาเดิมท่ีเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 2 (เน้ือหาเดิมในหนังสือวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้น มัธยมศกึ ษาปีท2่ี บรษิ ทั อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท.) หรือศกึ ษาเพิ่มเติมจากใบความรเู้ ร่ือง If else, while, for (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไดจ้ ากเว็บไซต์ https://codewith.mu/en/download ) ชั่วโมงที่ 3 ข้ันสอน (50 นาที) 11. ครูอธิบายเน้ือหาในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 บริษัท อักษร เจริญทัศน์ อจท. หน้า90-105 เรื่องโปรแกรมคำนวณหาอัตราแลกเปล่ียนเงินบาทไทย(THB) เป็นเงิน ดอลลาร์ (USD) และให้นักเรียนศึกษาพร้อมทดลองเขียนโปรแกรมตามหนังสือ เพ่ือความเข้าใจโปรแกรม มากข้ึน ให้ศึกษาในใบความรเู้ พ่ิมเติมเรื่องการใช้งาน GUI ร่วมกับภาษาไพทอนในการเขียนโปรแกรม โดย ใช้โมดลู Tkinter 12. ครถู ามนักเรียนวา่ จากตวั อย่างท่ีศกึ ษา สามารถนำแนวคิดการแปลงสกุลเงนิ ไปปรับเป็นโปรแกรมรปู แบบ อ่ืนได้หรือไม่ อย่างไรบ้างให้นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และบันทกึ รปู แบบท่ีเพื่อน นำเสนอแล้วสนใจลงกระดาษ A4 14. ครูสอบถามว่าจากการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ไดพ้ บขอ้ ดี ขอ้ เสียอะไรบ้าง 15. ครูให้นักเรียนจับคู่เพ่ือแลกเปล่ียนแนวคิดและรูปแบบท่ีนักเรียนสนใจการพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเค ชัน จากนั้นเลือกแนวคิดท่ีน่าสนใจ 1 อย่างเพ่ือเขียนรายละเอียดการทำงานตามขั้นตอนการพัฒนาแอป พลเิ คชันดังกลา่ วในแบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หนา้ 58-59 ข้อ 4 16. ครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ได้มาเขียน Flow Chart เพ่ือนำไปพัฒนาเป็นแอปพลิเคชันในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 60 ขอ้ 5 ชั่วโมงที่ 4 ขนั้ สอน (40 นาที) 17. ครถู ามนักเรยี นวา่ จากการเขยี น Flow Chart นกั เรยี นคาดวา่ แนวคิดท่ีตนเองเขียนมโี อกาสท่จี ะทำได้จรงิ หรือไม่
18. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคดิ และผังงาน (Flowchart) ของตนเองหนา้ ชน้ั เรยี น ให้เพ่อื น ร่วมกันแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ พร้อมทง้ั ครูคอยใหค้ ำแนะนำ จากน้ันให้นำไปปรับปรงุ แก้ไข ขน้ั สรุป (10 นาที) 1. ให้นักเรียนยกตัวอย่างแอปพลิเคชันท่ีมีประโยชน์ของในชีวิตประจำวัน โดยการตอบคำถามในแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) อจท. หนา้ 66 ขอ้ 7 10. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง แอปพลเิ คชัน 2. หนงั สือแบบฝกึ หัดรายวิชาพ้นื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง แอปพลิเคชัน 3. โปรแกรม Mu
11. การวดั และการประเมนิ ผล 11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรม จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน บอกความหมาย 1. บอกความหมาย ตรวจแบบฝึกหดั แบบฝึกหดั รายวชิ า ประเภท และขน้ั ตอน การพัฒนาแอปพลิเคชนั ประเภท และขน้ั ตอน หน้า 57-58 พน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ไดถ้ ูกต้อง 60% ขึน้ ไป การพฒั นาแอปพลิเคชัน เทคโนโลยี (วิทยาการ 1.ออกแบบการพัฒนา แอปพลิเคชันตาม ได้ (K) คำนวณ) ม.3 ข้นั ตอนการพฒั นาแอป พลเิ คชนั ได้ ในระดับ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 คณุ ภาพพอใช้ขึน้ ไปถือ วา่ ผ่าน เร่ือง แอปพลเิ คชนั 2.นำเสนอแนวคิดการ ออกแบบการพฒั นาแอป หนา้ 57-58 พลเิ คชนั ในระดับ คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไปถือ 2.ออกแบบการพฒั นา 1.ตรวจการออกแบบ 1.แบบประเมิน วา่ ผ่าน 3.ผ่านเกณฑ์การ แอปพลิเคชันตาม แนวคดิ ในแบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั ประเมิน 60% ขึน้ ไป ขัน้ ตอนการพัฒนาแอป หน้า 58-59 เรือ่ ง แอปพลเิ คชนั พลเิ คชนั ได้ (P) 2.ประเมินการนำเสนอ (ออกแบบการพฒั นา แนวคิดการออกแบบการ แอปพลเิ คชนั ) พัฒนาแอปพลเิ คชัน 2.แบบประเมิน การนำเสนองานกลมุ่ (ออกแบบแนวคิดการ พัฒนาแอปพลิเคชนั ) 3.ยกตวั อย่างแอปพลเิ ค ตรวจแบบฝึกหัด อจท. แบบฝึกหดั รายวิชา ชนั ท่ีมปี ระโยชนข์ องใน หน้า 66 ข้อ 7 พ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชีวิตประจำวันได้ (A) เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่ือง แอปพลิเคชนั หน้า 66 ข้อ 7
11.2 การประเมินการนำเสนองานกลุม่ (ออกแบบแนวคิดการพฒั นาแอปพลิเคชนั ) ท่ี รายการประเมิน คุณภาพผลงาน 4 3 21 1 นำเสนอการออกแบบการพัฒนาแอปพลิเคชันตามขั้นตอนการพัฒนาแอป พลเิ คชนั ไดน้ ่าสนใจและสื่อสารเขา้ ใจง่าย ชดั เจน 2 อธบิ ายการทำงานของแนวคิดได้เข้าใจ และถูกต้องตามหลักการ และตอบ คำถามได้ 3 มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 4 การมีส่วนรว่ มของสมาชกิ ในกล่มุ 5 การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน รวม เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16 – 20 ดี 10 – 15 น้อยกวา่ 10 พอใช้ ปรับปรงุ
11.3 การประเมินแบบฝึกหัด เร่อื ง แอปพลเิ คชนั (ออกแบบการพัฒนาแอปพลเิ คชัน) ประเด็นในการประเมนิ 3 เกณฑ์การให้คะแนน 1 2 1.ความสอดคล้องกับ ออกแบบแนวคิดการ ออกแบบโปรแกรมหรอื ออกแบบโปรแกรมหรือ เนื้อหา พฒั นาโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชันตาม แอปพลเิ คชันตาม แอปพลเิ คชันตาม ขน้ั ตอนการออกแบบ ขั้นตอนการออกแบบ ขนั้ ตอนการออกแบบ แอปพลิเคชันได้ถูกต้อง แอปพลเิ คชันได้ถกู ต้อง แอปพลิเคชนั ได้ถูกต้อง และชดั เจนมากกว่า50% นอ้ ยกวา่ 50% ครบถว้ นและชัดเจน 2.การแสดงอัลกอริทึม เขยี นแสดงลำดบั การ เขียนแสดงลำดบั การ เขียนแสดงลำดบั การ ทำงานของโปรแกรม ทำงานของแอปพลเิ คชัน ทำงานของแอปพลเิ คชัน หรือแอปพลเิ คชันด้วย ดว้ ยแผนผังงาน (Flow ด้วยแผนผงั งาน (Flow แผนผังงาน (Flow Chart) ไดเ้ ปน็ ระบบ Chart) ได้เป็นระบบ Chart) ได้เปน็ ระบบ ถกู ต้องและเขา้ ใจงา่ ย ถูกต้องและเข้าใจงา่ ย ถูกต้องและเขา้ ใจงา่ ย มากกว่า50% นอ้ ยกวา่ 50% 3.มคี วามคดิ สร้างสรรค์ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ในการออกแบบแอป แนวคดิ การพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป แนวคิดการพฒั นาแอป พลิเคชัน พลเิ คชันได้นา่ สนใจ พลิเคชนั ได้น่าสนใจ พลเิ คชันไดน้ ่าสนใจ และคำนงึ ประโยชน์ของ และคำนึงประโยชน์ของ และคำนงึ ประโยชน์ของ การใช้งาน การใชง้ านเป็นส่วนใหญ่ การใชง้ านบ้างพยี ง บางส่วน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 7–9 ดี 5–6 พอใช้ น้อยกว่า 5 ปรบั ปรงุ
12. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ....... ลงช่อื ( ตำแหนง่ 13. บนั ทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรือพฤติกรรมทมี่ ปี ญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 แอปพลิเคชนั เวลา 14 ชัว่ โมง เร่ือง ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ช้ในการพฒั นาแอปพลิเคชน่ั (2) เวลา 6 ชว่ั โมง รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ช้วี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมีจริยธรรม ตัวชวี้ ัด ม.3/1 พัฒนาแอปพลิเคชนั ที่มกี ารบรู ณาการกบั วชิ าอนื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายหน้าท่ีการทำงานของคำส่งั ในการเขียนโปรแกรมด้วย Python ได้ (K) 2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชันดว้ ยภาษา Pythonได้ (P) 3. พัฒนาแอปพลิเคชันท่ีคำนึงถงึ ประโยชน์ตอ่ ชีวติ ประจำวนั (A) 3. สาระสำคญั ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสำหรับผู้เร่ิมต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึงการ ประยุกตใ์ ช้งานในระดับสูง เนือ่ งจากโครงสร้างภาษาที่ลดความยุ่งยากเรอื่ งไวยากรณ์ในการเขยี นโปรแกรมลง อ่านแลว้ เขา้ ใจง่าย ไม่ซบั ซอ้ น 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ซอฟต์แวร์ทีใ่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชนั่ 5. รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน 1. รปู แบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture) 2. วธิ ีการสอนโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ (Computational Thinking) 6. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7. ทกั ษะ 4Cs ซือ่ สตั ย์ สุจริต ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking) ใฝเ่ รยี นรู้ ทักษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill) มุ่งม่ันในการทำงาน ทักษะการสือ่ สาร (Communication Skill) มีจติ สาธารณะ ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ มวี ินัย อยู่อย่างพอเพยี ง รักความเปน็ ไทย 9. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 ขัน้ นำ (10 นาที) 1. ครูบอกกับนักเรียนว่าจากช่ัวโมงที่ผ่านมาเราทราบดีว่าโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาแอปแพลิเคชันมีให้เลือก หลากหลาย แตโ่ ปรแกรมทน่ี ิยมกันและเรยี นร้ไู ดเ้ รว็ ซง่ึ Python เป็นตวั เลอื กท่ีน่าสนใจ 2. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างท่ีนักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา Python นักเรียนคิดว่า ฟังก์ชันหรือคำส่ังท่ีนักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างต้น เพียงพอสำหรับการ พฒั นาแอปพลเิ คชันตามแนวคิดของนักเรยี นหรือไม่” 3. ครสู นทนากับนกั เรยี นวา่ “หากเราต้องการพฒั นาแอปแพลิเคชันดว้ ย Python จะต้องเรยี นร้อู ะไรบ้าง (แนวคำตอบ โปรแกรมท่ใี ช้เขยี น เชน่ Mu, คำส่งั ใหโ้ ปรแกรมแสดงผล, เรียนรู้คำสั่งif-else, คำสง่ั loop) ขนั้ สอน (40 นาท)ี 1. ครูให้นักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากน้ันครูอธิบายหน้าท่ีการทำงานเคร่ืองมือของโปรแกรม (เนื้อหาเดิมใน หนงั สือวิชา วทิ ยาการคำนวณ ช้นั มธั ยมศึกษาปที 2่ี บริษัท อักษรเจรญิ ทัศน์ อจท.) (สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมไดจ้ ากเว็บไซต์ https://codewith.mu/en/download ) 2. ครทู บทวนการเขียนโปรแกรมคำสั่ง print เพือ่ สงั่ ให้โปรแกรมแสดงผลตัวเลข และขอ้ ความ
เช่น Code ผลลพั ธไ์ ด้ 3. ครูทบทวนการเขียนโปรแกรมโดยใช้ variable ด้วยตัวเลข และขอ้ ความเพอ่ื การแสดงผล เชน่ Code ผลลัพธท์ ไี่ ด้ 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า กรณีท่ีสร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = 5 กับ C = “5” แสดงผลออกมาเป็นเลข 5 เหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน A เป็นตัวแปรของตัวเลข ส่วน C เป็นตัวแปรของตัวอักษรหรือข้อความ เพราะมีสัญลักษณ์ “” 5. จากนน้ั ครูทบทวนรปู แบบรหัสขอ้ มูล (Format Code) เพมิ่ เตมิ จากท่ีเคยเรยี นผา่ นมาแล้วในระดับชนั้ ม.2
6. ครใู หน้ กั เรียนทำใบงาน เรอ่ื ง ตัวแปรและตวั ดำเนนิ การ ชั่วโมงที่ 2 ข้นั สอน (50 นาท)ี 7. ครูถามคำถามเพ่ือทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเร่ืองการใช้งานตัวแปรเพื่อการดำเนินการทาง คณติ ศาสตร์ มีข้อมูลตวั เลขแบบไหนบ้างทส่ี ามารถนำมาดำเนินการทางคณติ ศาสตร์ได้ (แนวคำตอบ จำนวนเงิน อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขท่ีมีค่าสามารถนำมาดำเนินการทาง คณติ ศาสตร์ได้ ) 8. จากนนั้ ครทู บทวนการใช้งานคำส่งั การรับข้อมูลจากแปน้ พิมพ์ input เช่น Code ผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ 9. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด เร่ือง การเขียนใช้คำสั่งแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) หน้า 61 ข้อ 6.1 10. ครสู อบถามนักเรียนว่าฟงั กช์ นั input ทำงานอยา่ งไร (แนวคำตอบ เปน็ การรับขอ้ มูลจากแป้นพมิ พ์ หรือนำเข้าข้อมลู จากแป้นพมิ พ์) ชวั่ โมงท่ี 3
ข้นั สอน (50 นาท)ี 11. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมคำส่ังท่ีเรียนมา หากครูต้องการเขียนโปรแกรมจัดลำดับ ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ 5 ระดับ นักเรียนคิดว่า สามารถทำไดห้ รอื ไม่ (แนวคำตอบ ไมส่ ามารถทำไดเ้ นอื่ งจากเรยี นคำสั่งการดำเนินการแลว้ แต่ยงั ไม่มีคำสงั่ ในการตรวจสอบคา่ ) 12. ครูสอนนักเรียนใชง้ านคำสง่ั if-else 13. จากน้ันครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การทำงานแบบมีเง่ือนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) หนา้ 62 ขอ้ 6.2 14. ครถู ามนักเรยี นว่าสามารถนำความร้ทู ีเ่ รียนไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งไรบ้าง (แนวคำตอบ การเขยี นโปรแกรมตดั เกรด เขียนโปรแกรมBMI เป็นต้น) ชวั่ โมงที่ 4 ขั้นสอน (40 นาท)ี 15. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมท่ีผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือ แสดงชือ่ ตนเอง 100 บรรทัด นักเรยี นคิดว่าต้องเขยี นคำสัง่ เยอะหรือไม่ (แนวคำตอบ เยอะ เนอื่ งจากตอ้ งเขียนคำส่ังบรรทดั ต่อบรรทดั ในการแสดงผล ) 16. ครูบอกทม่ี าและอธิบายเรื่องการใช้งานคำสั่งทำซำ้ และคำส่งั อ่ืนๆ ได้แก่ while , for 17. ครสู อนนกั เรียนใชง้ านคำสง่ั while / for 18. ครูใหน้ ักเรยี นทำใบงาน เรอ่ื ง การทำซ้ำ แบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) หน้า 63 -65 ข้อ 6.3 - 6.5 19. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำส่ังในการเขยี นโปรแกรมทีไ่ ด้เรยี นทัง้ หมด พร้อมบอกหนา้ ทีข่ องแต่ละคำสั่ง ช่วั โมงที่ 5 ข้นั สอน (50 นาท)ี 20. จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 ครูให้นักเรียนแต่ละคู่นำเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเอง หน้าชั้นเรียน ให้เพ่ือนร่วมกันแลกเปล่ียนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คำแนะนำ จากน้ันให้นำไป ปรบั ปรงุ แก้ไข 21. ในคาบน้ีครูให้นักเรียนนำแนวคิดที่ปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพื่อเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย ภาษา Python หรือนักเรียนจะออกแบบแนวคดิ การพัฒนาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชนั ใหมก่ ็ได้ 22. ครูใหน้ ักเรยี นลงมอื เขียนโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชนั ด้วยภาษา Python ช่ัวโมงที่ 6
ขนั้ สอน (40 นาท)ี 23. ครูใหน้ กั เรยี นลงมอื เขียนโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชันดว้ ยภาษา Python (ต่อ) 24. ครูใหน้ กั เรียนทดสอบโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชนั เพื่อตรวจสอบข้อผดิ พลาด ขน้ั สรปุ (10 นาที) 1. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละคู่นำเสนอโปรแกรมหรือแอปพลิเคชัน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปล่ียนความคดิ เห็น พร้อม ทัง้ ครคู อยใหค้ ำแนะนำเพมิ่ เตมิ 10. สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.2 2. หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรื่อง แอปพลิเคชนั 3. หนงั สอื แบบฝึกหดั รายวชิ าพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่อื ง แอปพลิเคชัน 4. โปรแกรม Mu 5. ใบความรู้ เรอ่ื ง การใช้คำส่ังแสดงผลอินพุต และเอาต์พุต 6. ใบความรู้ เรือ่ ง ตัวแปรและตวั ดำเนินการ 7. ใบความรู้ เร่อื ง การทำงานแบบมีเง่ือนไข 8. ใบความรู้ เรอ่ื ง การทำซำ้ 9. ใบงานที่ 4.3.1 เรือ่ ง ตัวแปรและตวั ดำเนินการ 10. ใบงานท่ี 4.3.2 เรื่อง การใช้คำสงั่ แสดงผลอินพุต และเอาต์พุต 11. ใบงานท่ี 4.3.3 เรื่อง การทำงานแบบมเี งือ่ นไข 12. ใบงานที่ 4.3.4 เรอื ง การทำซ้ำ
11. การวดั และการประเมินผล 11.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรม จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เครอื่ งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ 1.อธบิ ายหน้าทีก่ าร อธิบายการทำงานของ แบบประเมินช้ินงาน อธบิ ายได้ถกู ต้องตาม ทำงานของคำสง่ั ในการ โปรแกรมหรอื แอปพลเิ ค (ออกแบบและเขียน หลกั การ 60% ขน้ึ ไปถือ เขยี นโปรแกรมดว้ ย ชนั ที่เขยี นด้วยภาษา โปรแกรมหรือแอปพลิเค ว่าผ่าน Python ได้ (K) Python ชันดว้ ยภาษา Python) 2.ออกแบบและเขียน 1.ตรวจโปรแกรมหรอื แบบประเมินช้นิ งาน 1.ออกแบบและเขยี น โปรแกรมหรือแอปพลิเค แอปพลเิ คชันที่เขียนด้วย (ออกแบบและเขยี น โปรแกรมหรอื แอปพลิเค ชนั ด้วยภาษา Python โปรแกรมภาษา Python โปรแกรมหรือแอปพลิเค ชันด้วยภาษา Python ได้ (P) ชนั ดว้ ยภาษา Python) ได้ ในระดับคณุ ภาพ พอใช้ข้นึ ไปถือว่าผ่าน 3.พฒั นาแอปพลิเคชนั ที่ บอกประโยชน์ของแอป แบบประเมิน บอกประโยชนข์ องแอป คำนงึ ถงึ ประโยชน์ตอ่ พลิเคชนั ทีพ่ ฒั นาข้นึ การนำเสนอ พลเิ คชนั ทีพ่ ัฒนาขึ้น ชีวติ ประจำวนั (A) คำนึงถึงประโยชนต์ อ่ ชีวติ ประจำวันได้ใน ระดับคุณภาพพอใช้ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124