Present simple (ปจั จุบนั กาลธรรมดา)โครงสร้าง (S+v1 หรือ S+ v1+o) ประธาน+กรยิ า หรอื ประธาน+ กริยา+กรรม1. ใช้กบั ความจริงท่เี ปน็ กฏตายตวั ( general truth) เชน่It's cold in winter. อากาศหนาวในฤดหู นาวThe earth moves round the sun. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์The sun rises in the east. ดวงอาทติ ยข์ ึ้นทางทศิ ตะวนั ออกBirds fly. นกบินAction speak louder than words. การกระทาดงั กว่าคาพูด(=ทาดกี ว่าพูด)2. ใช้กับการกระทาซ่ึงเปน็ ประจาในปจั จบุ นั ( repeated or habitual facts ) เชน่He says hello every time he sees me. เขาทกั ฉนั ทุกครัง้ ทีพ่ บกันHe gets up early everyday. เขาต่นื แต่เชา้ ทุกวันHe comes to her place several times a week.เขามาหาหล่อนท่ีบา้ นสปั ดาห์ละหลายคร้ังLadda usually goes shopping on Sunday.ลดั ดามกั จะไปซือ้ ของในวนั อาทติ ย์I sometimes go to the movies with her.บางครงั้ ผมกไ็ ปดูหนงั กบั หลอ่ น3. ใชก้ ับสิ่งทก่ี าหนดแนน่ อนแล้ววา่ จะกระทาในอนาคต เช่นI leave by the 6.20 train this evening.ผม(ตกลงใจ)จะออกเดินทางโดยขบวนรถไฟ 18.20 น. เย็นวันนี้He sets sail tomorrow and comes back next week.
เขา(ตกลงใจ)จะออกเรือพรงุ่ น้ี และจะกลับ(แนน่ อน) ในสัปดาหห์ น้าWe attack at dawn. เรา(ตัดสินใจ)จะเขา้ โจมตีเวลาเชา้ ตรู่4. อาจใช้ ในการสรปุ เรอ่ื งนยิ าย หรอื ละคร เช่นBassanio wants to go to Belmont to woo Portia. He asks Antonio to lend himmoney. Antonio says that he hasn't any at the moment until his ships come toport.บัส สานิโอตอ้ งการจะไปเบลมองค์เพ่อื เกี้ยวพาราศนี างปอร์เซยี เขาขอยืมเงินอนั โต นโิ อ อันโตนโิ อบอกว่า ขณะนี้เขาไมม่ ีเงนิ เลย จนกวา่ เรือจะเข้าเทยี บท่าแลว้ (เขาจึงจะมี) การใช้ Present Continuous Tenseโครงสร้าง (S.+is/am/are+V.ing)1.ใชเ้ มื่อการกระทานนั้ กาลงั ดาเนนิ อยตู่ อ่ หนา้ (ในขณะทพ่ี ดู ประโยคน้ัน) เชน่ The sun is shining. ดวงอาทติ ยก์ าลงั สอ่ งแสง The bees are humming. ฝูงผึ้งกาลังส่งเสียงห่ึง What are you doing? คณุ กาลงั ทาอะไรในกรณีท่ีผู้พดู ตอ้ งการ เนน้ คาว่า กาลัง ให้หนักแน่นย่งิ ข้ึน นิยมเตมิ คา just ลงขา้ งหนา้ (just ในกรณีเช่นน้ไี ม่มีคาแปลในภาษาไทย)เช่น The children are just having breakfast. พวกเดก็ ๆ กาลังรบั ประทานอาหารเชา้ กนั อยู่2.ใช้ในเหตกุ ารณท์ ่ดี าเนนิ อยเู่ ปน็ ประจาในขณะทพ่ี ดูนเ่ี ปน็ ขอ้ ยกเว้นจากหลกั ทว่ั ไปทว่ี า่ ใช้ Present Simple กับเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ข้ึนเป็นประจา เช่น My son works hard this term. เทอมน้ี ลูกชายของผมเรียนหนังสอื อย่างขะมักเขมน้
He tries his best now. ขณะน้เี ขา(ใช้ความ)พยายามอยา่ งเต็มท่ี (อยา่ งเต็มความสามารถ) ประโยคทัง้ สองนีใ้ ช้ตามหลกั ทวั่ ไป ซึง่ จะพบวา่ เป็นประโยคเนือย ๆ ไม่กระฉบั กระแฉง ประโยค ดงั กลา่ วจะมคี วามหมายดียิ่งขึน้ ไปอีก ถ้าใช้ Present Continuous คือ My son is working hard this term. He is trying his best now. 3.ใช้แสดงเหตกุ ารณใ์ นอนาคตซึ่งคาดวา่ จะตอ้ งเปน็ เช่นนนั้ แน่นอน การใช้ Present Continuous ในความหมายท่ีเป็นอนาคตน้ี ปกติเขาใชก้ ับกริยาทมี่ กี ารเคล่อื นท่ี (verbs of movement) แต่จะใช้ กบั กริยาอน่ื บ้างกไ็ ด้ เช่น We are going to Paris on Sunday. วนั อาทิตย์นเ้ี ราจะไปนครปารีส Dang is coming here next week and is staying here until May. แดงจะมาทน่ี ีใ่ นสปั ดาห์หนา้ และเขาจะอยู่ท่นี ่ีจนถึงเดือนพฤษภาคม What are you doing next Sunday? วันอาทติ ย์หน้าคณุ จะทาอย่างไร กรยิ าท่ไี มใ่ ช้ในContinuous Tenses เชน่ hear, see, feel, smell, taste, love, hate, know, understand, believeฯลฯ หมายเหตุ กรยิ าทไ่ี มใ่ ชใ้ น Continuous ไดแ้ ก่ กรยิ าแสดงการรับรู้ (verbs of perception) แสดง ภาวะของจิตใจ(state of mind) ความรู้สกึ (feeling) หรือแสดงสมั พนั ธภาพ (relationship) เมอื่ ต้องการจะบอกวา่ กาลังมีอาการเชน่ นีอ้ ยู่ คงใชเ้ พียง Present simple เทา่ นน้ั เช่น I don't see anything here.(ไมใ่ ช่ I am not seeing....) ผมไมเ่ หน็ อะไรท่ีนเี้ ลย
I see what you mean. (ไม่ใช่ I am seeing...) ผมเขา้ ใจว่าคณุ หมายความถึงอะไร Do you hear the noise? (ไมใ่ ช่ Are you hearing...) คณุ ได้ยินเสียงอะไรไหม หลกั การเตมิ ing ทที่ ้ายคากริยาใน Present Continuous Tense มีหลกั การสาคญั ๆดงั นี้ โดยปกตแิ ลว้ กริยาทวั่ ๆไป เติม ing ไดเ้ ลย ยกเว้นบางคาเทา่ น้ัน sleep >> sleeping นอนหลบั eat >> eating กิน drink >> drinking ดื่ม go >> going ไป fly >> flying บิน 1. กริยาทม่ี ีสระเสียงสน้ั ตวั เดยี ว (เสยี ง อะ อิ อุ โอะ เอาะ เปน็ ต้น) ตัวสะกดตวั เดยี ว ใหเ้ พิ่ม ตัวสะกดอีกหนึง่ ตัว แล้วเติม ing sit >> sitting นง่ั run >> running ว่ิง swim >> swimming ว่ายนา้ cut >> cutting ตดั get >> getting ได้รบั put >> putting วาง stop >> stopping หยุด 2. กรยิ าท่ีลงทา้ ยด้วย e ใหต้ ัด e ทงิ้ แลว้ เตมิ ing ride >> riding ข่ี drive >> driving ขับ give >> giving ให้ come >> coming มา
make >> making ทา take >> taking เอา write >> writing เขียน dance >> dancing เต้นรา ยกเว้นลงทา้ ยดว้ ย ee ห้ามตดั เช่น see >> seeing3. กรยิ าที่ลงทา้ ยด้วย ie ให้เปลย่ี น ie เป็น y แลว้ เติม ing die >> dying ตาย lie >> lying นอน tie >> tying มดั4. (สาหรับคนทเ่ี ก่งขึ้นมาหนอ่ ย) กริยาที่มีสองพยางคข์ น้ึ ไป ถา้ stress พยางคห์ ลงั ใหเ้ พม่ิ ตวั สะกดอีกหนง่ึ ตัว แล้วเตมิ ing แต่ถา้ stress พยางคห์ นา้ ไม่ต้องเติมตัวสะกดstress พยางค์หนา้ visit >> visiting deliver >> deliveringStress พยางคห์ ลัง admit >> admitting refer >> referring
Present Perfect Tense ผมกนิ ข้าวแลว้ (กนิ เสร็จแลว้ )โครงสรา้ ง: S. + has, have + V3หลกั การใช:้1.บอกเลา่ เหตกุ ารณท์ ่ดี าเนนิ เสร็จแล้ว เช่น I have eaten rice.2.บอกเลา่ เหตกุ ารณ์ท่ดี าเนนิ มาได้ในระยะเวลาหนง่ึ จนถึงปัจจุบนั เช่น She has finished her homework. หล่อนทาการบ้านเสร็จแลว้ He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยูท่ ่ีน่ีต้งั แต่ปี 2000Present Perfect Continuous Tenseโครงสร้าง: S. + has, have +been+ Vingหลกั การใช:้ บอกเลา่ เหตุการณ์ท่ีดาเนนิ มาได้ในระยะเวลาหน่งึ จนถึงปจั จุบนั คล้าย present perfect tense แต่เป็นการเนน้ ย้าว่าทาอย่างต่อเนอ่ื งตัวอย่างประโยค: I have been playing foootball since. ฉันเล่นฟุตบอล (อยา่ งตอ่ เนอื่ ง) ต้ังแต่ 8 โมง She has been walking for 30 munites. หล่อนว่ิง (อยา่ งต่อเน่ือง) เป็นเวลา 30 นาที Toon has been running for 4 hours. ตนู วิ่ง (อย่างตอ่ เนอ่ื ง) เป็นเวลา 4 ชวั่ โมง) He has been working here since 1999 . เขาทางานทนี่ ี่ (อย่างต่อเนอื่ ง)ต้ังแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: