Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 2 เรื่อง ควาย ข้าวและชาวนา

แผนการจัดการเรียนรู้ ป.6 หน่วยที่ 2 เรื่อง ควาย ข้าวและชาวนา

Published by KAGIROON, 2021-02-02 06:32:26

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ท 16101) หน่วยที่ 2 เรื่อง ควาย ข้าวและชาวนา

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปกี ารศึกษา หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง ควาย ขา้ วและชาวนา เวลา ๑ ช่วั โมง เร่อื ง การอา่ นในใจบทเรยี น แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๒ การอ่านในใจบทเรยี น การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง คาใหม่ คายากในบทเรยี น ควาย ขา้ วและชาวนา อักษร ๓ หมู่ คาเป็น คาตาย และการผันวรรณยกุ ต์ การเลือกใช้คาให้ถกู ต้องตรงตามความหมาย การอา่ นออกเสียงบทเรียน การหาขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่อี ่าน มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาใน การดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสยั รักการอา่ น เป้าหมายการเรยี นรู้ประจาหนว่ ย เม่อื เรยี นจบหน่วยนี้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. อา่ นในใจบทเรยี นแลว้ สามารถต้งั คาถามและตอบคาถามจากเรือ่ งที่อา่ นได้ ๒. อา่ นในใจบทเรียนแล้วอภิปรายแสดงความคิดเหน็ เรือ่ งที่อ่านได้ ๓. อา่ นในใจบทเรียนแลว้ ลาดบั เหตกุ ารณ์ของเรอ่ื งได้ ๔. อา่ นในใจบทเรียนแล้วสรุปใจความสาคญั และข้อคิดของเรอ่ื งได้ คุณภาพที่พึงประสงค์ของผเู้ รียน ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผนู้ าและผู้ตามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพยี ง ขอบข่ายสาระการเรยี นรแู้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย

ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๓) อ่านเร่อื งสัน้ ๆ อย่างหลากหลาย โดยจับเวลาแลว้ ถามเกยี่ วกบั เรื่องท่ีอา่ น (๔) แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งท่อี ่าน สาระพน้ื ฐาน การอา่ นในใจ เรอ่ื ง ควาย ขา้ วและชาวนา ความรู้ฟงั แนน่ ติดตวั ผเู้ รียน การอ่านในใจเป็นการอ่านที่เข้าใจเรื่องราวได้เพียงคนเดยี ว ผู้อ่านต้องใชส้ มาธิในการอา่ น ศึกษาคายาก ตงั้ จุดหมายในการอ่าน อ่านอยา่ งพินิจ พจิ ารณา จะทาให้จับใจความสาคัญของเรือ่ งท่ี อา่ น สามารถตอบคาถาม ลาดับเหตกุ ารณ์ของเร่ือง และนาไปเขยี นเป็นแผนภาพโครงเร่ือง เพ่ือเลา่ เร่ืองและเขียนเรื่องได้ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น ๒. มีความพอเพยี งด้านสังคม ดาเนินชวี ติ ตามกฎเกณฑ์ของสงั คม อยู่ร่วมกับผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพยี งดา้ นทรพั ยากร ใชท้ รัพยากรท่ีอยู่อย่างคุ้มค่า ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพยี งดา้ นภูมปิ ัญญา สามารถนาความรทู้ ีไ่ ด้จากเรอื่ ง การอยรู่ ว่ มกัน และ ทางานร่วมกบั ผู้อ่ืนประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๒. นกั เรียนดูรปู ภาพจากบทเรียน แล้วสนทนากบั นกั เรียนเรอ่ื ง “ควาย ขา้ วและชาวนา” วา่ มเี นอ้ื เรื่องกลา่ วถึงอะไรบา้ ง ๓. นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเกยี่ วกบั “การใช้ควายไถนา ทาใหช้ าวนาพ่ึงตนเองได้โดยไม่ ตอ้ งกหู้ นยี้ ืมสิน” นกั เรยี นมีความคิดเหน็ อย่างไร ยกเหตุผลประกอบ ๔. ทบทวนเรอ่ื งจุดมุง่ หมายในการอ่านในใจ และช่วยกันเขยี นจดุ มุ่งหมายการอา่ น ในใจบนกระดานดา เชน่ อ่านในใจแล้วสามารถตั้งคาถาม ตอบคาถามได้,อภิปรายแสดงความ คิดเห็นเร่ืองได้ , สามารถลาดับเหตกุ ารณ์ของเรื่องได้ และสรปุ ใจความสาคญั ของเร่ืองได้ ๕. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม โดยคละกันตามความเหมาะสม เก่ง ปานกลาง อ่อน จากนน้ั รว่ มกันอภิปรายเพ่อื แบ่งเนื้อหาของบทเรียนออกเปน็ ๔ ตอน โดยส่งตัวแทนจบั ฉลากเพ่อื เลือก เน้ือหาของบทเรยี นกล่มุ ละ ๑ ตอน แล้ว ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ อ่านในใจตอนท่รี บั ผิดชอบ ร่วมกัน อภิปรายเพ่ือลาดับเหตุการณ์สาคัญของเรอ่ื ง สรุปใจความสาคญั ของเรื่อง และผลดั กันตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเรื่องท่ีอา่ น ๖. ตัวแทนแต่ละกล่มุ ออกมารายงานผลการอภปิ รายหน้าช้ันเรยี น ๗. นกั เรียนทาใบงานท่ี ๑ ๘. นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปบทเรยี น เร่ือง แนวปฏบิ ัติในการอ่านในใจท่ีถกู ต้อง แล้วร่วมกันสรปุ ลาดบั เหตุการณส์ าคญั และสรุปใจความสาคัญของเรอื่ ง จากน้นั นักเรียนบันทกึ ลงสมุด

สือ่ การเรยี นการสอน ๑. ประเภทส่ือ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชวี ติ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ เล่ม ๑ ๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - ใบงานที่ ๑ ๓. แหลง่ การเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - ห้องสมุด การวัดประเมินผล ๑. วิธกี ารวดั และประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรยี น ๒. ประเมนิ การอ่านในใจ ๓. ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๒. เครอื่ งมือการวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบันทกึ พฤตกิ รรมการเรยี น ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการอ่านในใจ ๓. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรงุ ๒. สังเกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ ๕ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๔ หมายถงึ ระดบั ดี ๓ หมายถงึ ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรุง ๓. การประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดมี าก ๕ - ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ คะแนน ระดบั ปรับปรงุ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง ควาย ขา้ วและชาวนา คาชแ้ี จง ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย × ทับตัวอักษร ก ข ค ง ท่ีถูกทส่ี ดุ เพยี งข้อเดียว ๑. ค่าย “ควาย ข้าวและชาวนา” มีจดุ ประสงคใ์ นการจดั อย่างไร และมีรายละเอยี ดการเข้าค่าย อยา่ งไรบ้าง ....................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ๒. “โงอ่ ย่างกบั ควาย” หมายความวา่ อยา่ งไร นกั เรียนมีความคดิ เหน็ อย่างไรกบั คาพดู น้ี ............................................................................................................................. ................................... ......................................................................................................................................... ....................... ........................................................................................................... ..................................................... ๓. ทาไมจงึ ต้องใช้ “เชอื กร้อยจมกู ควาย” นักเรียนคิดว่าการทาเชน่ นเี้ ปน็ การทรมานสัตวห์ รือไม่ เพราะเหตุใด ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................... ............................................................................ ๔. ถา้ นกั เรยี นมีทนี่ าเป็นของตนเอง นกั เรยี นจะใช้ควายไถนาหรือไม่เพราะเหตุใด ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................ ................ .................................................................................................................. .............................................. ๕. เดก็ ๆ ท่เี ข้าค่ายในครงั้ น้ี นักเรียนคิดว่าได้รับประโยชน์เรือ่ งใดบา้ ง ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................................. .............. .................................................................................................................... ............................................

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัติตนในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื รน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการอา่ นในใจ เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมนิ คะแนน สรปุ หมายเหตุ ท่ไี ด้ ผ่าน ไม่ผ่าน ๑ ไม่ออกเสยี งพึมพราไมท่ าปากขมุบขมบิ ในขณะอา่ น ๒ กวาดสายตาได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ไมใ่ ชม้ ือชี้ ๓ ตง้ั คาถามจากเรื่องท่ีอ่านได้ ๔ ตอบคาถามจากเร่ืองที่อ่าน ๕ สรุปสาระสาคัญของเรื่องท่ีอ่าน รวมคะแนน ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)

ีมความรอบคอบในการทางาน แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีท ีดเกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่า ๕ คะแนน มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ประห ัยดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง เลข ช่อื – สกลุ รวมท่ี คะ เแกน๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ นณฑ์ กด้าาร๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขนุ ทด นประ๒ เด็กชายสทิ ธา บญุ สม เคุมิณน๓ เด็กหญิงกาญจน์เกลา้ โพชืน่ ลัก๔ เด็กหญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ษณ๕ เด็กหญิงปิยะพร พานแก้ว ะฯ๖ เดก็ ชายบริพฒั น์ กล่ินบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ผ่าน๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ไ ่มผ่าน๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บญุ กล่นิ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณฐั วรรณ ธปู เทยี น ๑๒ เด็กหญงิ พมิ พ์ธันวา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เด็กชายสริ ายุ บุญแตง่ ๑๕ เดก็ ชายณฐั วุฒิ พวงมาลัย 16 เดก็ ชายกีรติ สวุ รรณค้มุ ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กุลให้)

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศกึ ษา หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒ เร่อื ง ควาย ขา้ วและชาวนา เวลา ๑ ชว่ั โมง เรื่อง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การอ่านในใจบทเรียน การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น ควาย ขา้ วและชาวนา อักษร ๓ หมู่ คาเปน็ คาตาย และการผันวรรณยกุ ต์ การเลือกใช้คาให้ถกู ต้องตรงตามความหมาย การอ่านออกเสียงบทเรยี น การหาข้อคิดจากเร่อื งที่อา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี น เร่อื งราวใน รูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ เปา้ หมายการเรยี นรู้ประจาหน่วย เม่อื เรียนจบหน่วยน้ี ผเู้ รยี นจะมคี วามรู้ความสามารถต่อไปนี้ ๑. อา่ นในใจบทเรยี นแล้วสามารถเขียนแผนภาพโครงเรื่องทอ่ี า่ นได้ ๒. เลา่ เรอ่ื งตามแผนภาพโครงเรือ่ งได้ ๓. เขยี นเร่อื งจากแผนภาพโครงเร่อื งได้ ๔. มมี ารยาทในการเขียน คุณภาพที่พงึ ประสงคข์ องผู้เรียน ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝเ่ รียนรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อย่างพอเพยี ง

ขอบขา่ ยสาระการเรียนรแู้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ท ๒.๑ (๓) เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพื่อใช้พฒั นางานเขยี น สาระพ้นื ฐาน การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ความรู้ฟังแนน่ ตดิ ตวั ผูเ้ รียน การเขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง จะช่วยให้นกั เรยี นเข้าใจเรื่องและจาเรอื่ งทีอ่ ่านได้ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสังคม อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพียงด้านทรัพยากร ใชท้ รพั ยากรท่ีอย่อู ย่างคมุ้ ค่า ตามปรชั ญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพียง ๔. ความพอเพียงด้านภมู ิปญั ญา สามารถนาความรู้ทไ่ี ด้จากเร่อื ง การอยรู่ ่วมกัน และทางานรว่ มกับผ้อู น่ื ประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นเลน่ เกม “เกมแข่งขันกันต่อเรื่อง” ๒. สนทนาทบทวนเร่ือง “ควาย ข้าวและชาวนา” โดยโดยใชภ้ าพจาก บทเรยี นประกอบ ๓. นักเรียนช่วยกันอภปิ รายวเิ คราะหโ์ ครงเร่ือง ลาดับเหตุการณ์ของเร่ือง บอกประเด็น สาคัญ แลว้ ครูเขยี นบนกระดาษดา ๔. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ๔ กลมุ่ โดยคละกันตามความสามารถ เกง่ ปานกลาง อ่อน จากนัน้ ครอู ธิบายวธิ ีการเขยี นแผนภาพโครงเรื่องใหน้ กั เรยี นฟัง ๕.นักเรยี นซักถามแสดงความคดิ เห็น อภปิ รายสรปุ รว่ มกัน เกย่ี วกับหลกั ในการเขยี น แผนภาพโครงเรอื่ ง ๖. นกั เรียนทกุ กลมุ่ อ่านในใจ จากหนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษา ปีที่ ๖ หนว่ ยที่ ๒ แลว้ รว่ มกนั เขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง ๗. ตวั แทนนักเรยี นแต่ละกลุ่ม นาเสนอผลงานการเล่าเรือ่ งตามแผนภาพโครงเร่ือง หน้าชัน้ เรียน ๘. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ได้นาไปเปรยี บเทยี บ ปรับปรุงแก้ไขใหถ้ กู ต้อง และนาผลงานกลุ่ม ไปตดิ แสดงไวท้ ปี่ ้ายนเิ ทศ เพื่อใหน้ ักเรยี นทกุ คนได้ศกึ ษา ๙. นกั เรยี นทาใบงาน ๑๐. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ บทเรยี น เร่ือง การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง และแนวทาง ปฏิบตั ทิ ี่ถูกต้องในการเล่าเร่ือง

สือ่ การเรียนการสอน ๑. ประเภทสอื่ - แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - ใบงานท่ี ๑ ๓. แหลง่ การเรียนรู้ - ครู ผูป้ กครอง - หอ้ งสมุด การวดั ประเมินผล ๑. วิธีการวดั และประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ๒. ประเมินการเขยี น ๓. ประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. เคร่อื งมือการวดั และประเมินผล ๑. แบบบันทกึ พฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน ๓. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรุง ๒. สงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๕ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๔ หมายถงึ ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรุง ๓. การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรุง

เกม “แข่งขันกนั ต่อเรอ่ื ง อุปกรณ์ - ข้อความทคี่ รเู ตรยี มมาเป็นเหตกุ ารณใ์ นเร่ือง เดยี วกัน มีเนอ้ื เร่ืองต่อเน่ืองกนั แต่ได้จัด คละกันไว้ จัดทาไว้เปน็ ๒ ชุด – นกหวีด – นาฬกิ าจับเวลา วธิ ีการเลน่ เกม มดี งั น้ี ๑. แบ่งนกั เรยี นออกเป็น ๒ กลมุ่ กลุ่มละ ประมาณ ๑๐ – ๑๕ คน ๒. ครูอธิบายกติกาการเล่นโดย - ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ มารับข้อความซึง่ เปน็ ข้อความชนิดเดียวกนั กลุม่ ละ ๑ ชดุ - ครจู ะให้เวลาเล่นเกมประมาณ ๑๐ นาที โดยจะใหส้ ัญญาณเร่ิมเลน่ ดว้ ยการ เปา่ นกหวีด และใหส้ ญั ญาณหยดุ เลน่ ดว้ ยการเปา่ นกหวีดเชน่ กัน - เมือ่ ไดย้ ินสัญญาณให้นักเรียนเริม่ เลน่ เกมทนั ที โดยการจัดลาดับข้อความที่ไดร้ บั ให้เน้อื ความต่อเน่อื งกนั จากขอ้ ความท่นี ักเรยี นคดิ ว่านา่ จะอยู่อนั ดับ แรก หรือ เริ่มตน้ ไปจนถงึ ข้อความที่คดิ ว่านา่ จะอยู่สดุ ท้าย - ให้นักเรียนช่วยกนั เขยี นเร่ืองราวเพม่ิ เตมิ จากข้อความแรกจนถงึ ข้อความสดุ ท้าย ใหเ้ ปน็ เร่อื งราวทสี่ ัมพนั ธ์ต่อเน่อื งกนั - เม่อื ไดย้ นิ สัญญาณหมดเวลา ให้ตัวแทนของกลุ่มมาจับสลากกนั ออกมารายงาน โดยเลา่ เรื่องใหเ้ พื่อน ๆ ฟงั - ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ติดขอ้ ความท่ีได้รบั และส่วนท่ไี ดต้ ่อเติมแตง่ ตอ่ เร่อื งราวเสรจ็ ไว้ บนกระดานดาให้เพื่อนดู จากนน้ั ครูนาข้อความมาเฉลยให้นักเรียนดู แล้วพจิ ารณาว่า กลุ่มใดลาดบั เรื่องได้ถูก และต่อ เติมไดด้ ีสมบรู ณ์เหมาะสม เป็นฝา่ ยชนะ ข้อเสนอแนะ ๑. เกมนอี้ าจนามาดัดแปลง ใช้เปน็ แบบฝกึ หัดในการเขยี นเรียบเรยี งขอ้ ความหรือ ประโยชนห์ รอื ฝึกการเขยี นเรียบเรียงความได้ ๒. เมอื่ เกมจบลงหรือหมดเวลา ครูก็พดู โยงเขา้ ส่บู ทเรียนต่อไป

ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง “ควาย ขา้ วและชาวนา” ตวั ละครสาคญั ……………………………………………………………………………………… ตัวละครประกอบ……………………………………………………………………………………. เร่ืองเกดิ ขึ้นที่ไหน…………………………………………………………………………………… ปญั หาทีเ่ กดิ ขึ้นในเร่ือง……………………………………………………………………………… เหตกุ ารณ์ท…ี่ …………………………………………………………………………………..…… สถานท…ี่ …………………………………………………………………………………………... ตวั ละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา........................................................................................................................................... ............................................................................................................................................ ................ ............................................................................................................................. ............................... .................................................................................. .......................................................................... ............................................................................................................................................................ ..................................................................................................................................................... ....... ........................................................................................................................... ................................. ผลของการกระทา............................................................................................................................. .. ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ .......................................................................................................................... .................................. ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ เหตุการณท์ …ี่ …………………………………………………………………………………..…… สถานท…่ี …………………………………………………………………………………………... ตวั ละคร………………………………………………………………………………………….…. การกระทา............................................................................................................ ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ...................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ............................... ผลของการกระทา............................................................................................................................. .. ................................................................................................................... ......................................... ............................................................................................................................. ...............................

............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... .................................................................................................. .......................................................... ข้อคิดท่ีได้…………………………………………………………………………………………… ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ...............................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียน ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างใหต้ รงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลข ท่ี ช่ือ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น ๑ เด็กชายวงศธร ชบุ ขุนทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เดก็ หญิงกาญจน์เกลา้ โพชื่น ๔ เดก็ หญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิน่ บุปผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชืน่ ขา ๙ เด็กชายปณุ ณวิทย์ บุญกล่นิ ๑๐ เด็กหญงิ สุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณฐั วรรณ ธปู เทียน ๑๒ เดก็ หญิงพิมพ์ธันวา ยังอยู่ ๑๓ เด็กหญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑๖ เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่ืองทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมลู นาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรือร้น กล้า มคี วามกระตือรือรน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อที่กาหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชื่นชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกต้อง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมิน ไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกวา่ ๕ คะแนน) ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เลข ช่ือ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน เกณ ์ฑการประเ ิมน ที่ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ ๒ ๒ ๒๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสิทธา บญุ สม ๓ เด็กหญิงกาญจนเ์ กล้า โพชื่น ๔ เด็กหญงิ ปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแกว้ ๖ เดก็ ชายบริพฒั น์ กล่นิ บุปผา ๗ เด็กชายสวุ รรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภทั ร ช่นื ขา ๙ เดก็ ชายปณุ ณวทิ ย์ บญุ กล่ิน ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณฐั วรรณ ธปู เทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพิมพธ์ นั วา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั 16 เด็กชายกีรติ สวุ รรณคุม้ ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กลุ ให)้

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑ ปกี ารศึกษา หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง ควาย ขา้ วและชาวนา เวลา ๑ ช่วั โมง เรอื่ ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ การอา่ นในใจบทเรียน การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง คาใหม่ คายากในบทเรียน ควาย ข้าวและชาวนา อกั ษร ๓ หมู่ กำรเลือกใช้คำให้ถูกต้องตรงตำมควำมหมำย คำเป็ น คำตำย และกำรผนั วรรณยุกต์ การอา่ นออกเสยี งบทเรยี น การหาขอ้ คดิ จากเรือ่ งทอี่ ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ญั หา ในการดาเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น สาระที่ ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราว ในรูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ เป้าหมายการเรียนรปู้ ระจาหนว่ ย เมือ่ เรยี นจบหนว่ ยน้ี ผเู้ รียนจะมคี วามรู้ความสามารถต่อไปนี้ ๑. สามารถอ่าน และเขยี นคา คายาก ข้อความ และสานวนภาษาไทยในบทเรียนได้ถูกต้อง ๒. สามารถนาคา คายาก ข้อความ และสานวนภาษาในบทเรยี นไปใช้ได้ถกู ต้อง คุณภาพทีพ่ งึ ประสงค์ของผ้เู รยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผนู้ าและผตู้ ามท่ีดี ๓. มีความภาคภมู ใิ จในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง ขอบขา่ ยสาระการเรียนรแู้ กนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเ่ี ปน็ โวหาร

มาตรฐาน ท ๒.๑ (๑) คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครงึ่ บรรทดั สาระพนื้ ฐาน ๑. อ่าน และเขียนคา คายาก ขอ้ ความ และสานวนในบทเรียน ๒. การนาคา คายาก ข้อความและสานวนภาษาในบทเรียนไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ความรฟู้ ังแนน่ ตดิ ตวั ผูเ้ รียน การเรยี นรูค้ า คายาก ข้อความและสานวนภาษาไทยในบทเรยี นและนาไปใช้ให้ถกู ต้อง ถือ เป็นการพัฒนาทักษะทางภาษาทีผ่ ้เู รียนควรไดร้ ับการฝึกฝน เพอื่ พัฒนาทักษะให้ถกู ตอ้ ง จงึ จะทาให้ การเรยี นรู้ภาษาเปน็ ไปด้วยดีและเกดิ การพัฒนาตามมา พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น ๒. มีความพอเพียงด้านสงั คม ดาเนนิ ชวี ติ ตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อยู่ร่วมกับผ้อู ื่นไดอ้ ย่างมี ความสขุ ๓. ความพอเพยี งด้านทรัพยากร ใชท้ รัพยากรท่ีอยอู่ ยา่ งคุ้มคา่ ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกจิ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งด้านภมู ิปัญญา สามารถนาความรทู้ ่ไี ด้จากเร่อื ง การอยูร่ ว่ มกนั และ ทางานรว่ มกับผู้อ่ืนประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นเลม่ เกม “การเลือกใชค้ าแต่งประโยค” ๒. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ๔ กลมุ่ โดยคละกันตามความสามารถ เก่ง ปานกลาง อ่อน ๓. นาบัตรคาใหม่และคายากในบทเรียน ตดิ ท่ีกระดานหน้าชั้นเรียนและให้นกั เรยี นทุกคน ฝกึ อา่ น ร่วมกันอภิปรายความหมายบนั ทึกลงสมุด ๔. แจกบัตรคาใหมค่ ายากในบทเรียนให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มได้ศึกษาและฝึกอ่าน ๕. นกั เรียนทุกกล่มุ หาคาใหม่ศัพทจ์ ากหนว่ ยที่ ๒ แลว้ ช่วยกนั แต่งประโยคใหม่ โดยไม่ใหซ้ า้ กนั กลมุ่ ละ ๕ คา แล้วบนั ทกึ ลงสมุด ๖. มอบหมายให้นกั เรยี นทากจิ กรรมนอกเวลา โดยการรวบรวมคาใหม่ในบทเรียนแล้ว หาความหมายจากพจนานุกรม แลว้ แต่งประโยคแล้วนาผลงานส่งใหค้ รตู รวจ ๗. นกั เรียนแต่ละกลุม่ แข่งขันกันเขียน คายาก บนกระดานดา หน้าชั้นเรียน กลุ่มใด เขยี นได้ถูกมากทส่ี ดุ เป็นกลุม่ ชนะ ๘. นักเรียนทาใบงานที่ ๑ ๙. ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจผลงานของแตล่ ะกลมุ่ พร้อมท้ังอภปิ รายสรปุ การเลอื กใช้คาให้ถูกต้องตามความหมาย ปรบมือและกลา่ วให้คาชมเชยกลมุ่ ทแ่ี ต่งประโยค ได้ถูกตอ้ ง

สอ่ื การเรยี นการสอน ๑. ประเภทสื่อ - แบบเรยี นภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชวี ิต - หนงั สอื เรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ - แบบฝึกหัดภาษาไทย ชุดทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๒. วัสดุ / อปุ กรณ์ - บัตรคา - ใบความรู้ - ใบงานท่ี ๑ - เกม “การเลอื กใช้คาแต่งประโยค” ๓. แหลง่ การเรยี นรู้ - ครู ผู้ปกครอง - ห้องสมดุ การวัดประเมินผล ๑. วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมนิ การอ่าน ๓. ประเมนิ การเขียน ๔. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เคร่ืองมอื การวดั และประเมินผล ๑. แบบบันทึกพฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการอา่ น ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมินพฤติกรรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ๕ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรุง

๓. สงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๕ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๔ หมายถงึ ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๔. การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๕ - ๗ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรงุ

เกม การเลอื กใชค้ าแต่งประโยค จดุ ประสงค์ เลอื กใชค้ าแตง่ ประโยคได้ถูกตอ้ งตามความหมาย อปุ กรณ์ กระดานดา ชอล์ค วธิ เี ลน่ 1. แบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ แต่ละกลุ่มไมค่ วรต่ากว่า ๔ คน 2. แบ่งพน้ื ที่กระดานดาออกเป็นสว่ น ๆ มอบพน้ื ท่ีให้แตล่ ะกลุ่มรับผดิ ชอบ 3. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มที่พรอ้ มท่ีจะเลน่ อยู่หา่ งจากกระดานดาในระยะทีเ่ ทา่ กันและมอบชอล์ก ใหก้ ับทุกกลมุ่ 4. ครูใหส้ ญั ญาณเริ่มการเลน่ เกม ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รีบออกมาหนา้ กระดานดา เขยี นคาลงบนกระดานดา ๑ คา แลว้ รีบกลบั เขา้ กลมุ่ สง่ ชอลก์ ใหเ้ พื่อนคนต่อไปออกไปเขยี นคา จนถงึ คนสดุ ท้าย ใหเ้ รียงคาหรือเชอื่ มคา ทีเ่ พื่อนเขยี นไว้ใหเ้ ปน็ ประโยค เช่น คนที่ ๑ คนที่ ๒ คนท่ี ๓ คนที่ ๔ คนท่ี ๕ ยาย ใบตอง ใช้ อาหาร ห่อ 5. กล่มุ ทเ่ี ขียนไดร้ วดเร็ว ส่อื ความถกู ต้อง เรยี งประโยคได้สละสลวย เป็นผู้ชนะ การวดั ประเมนิ ผล พิจารณาจากความสามัคคี การเขียนคาถูกต้อง สอื่ ความได้ เรยี งประโยคถกู ตอ้ ง สละสลวย

บตั รคา ครำด ควำยเหลก็ คนั ไถ คำวบอย เคยี ว ต้นกล้ำ ฉำง นำยทนุ เทยี ม ปลดระวำง นำยหน้ำ ฝัด ผญำ สนตะพำย เพลยี้ หนอนกอข้ำว หนำมหยอกเอำหนำมบ่ง แอก

ใบงานที่ ๑ คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ นาคาศพั ท์ ไปแตง่ ประโยคให้ถูกตอ้ ง ๑. ควายเหล็ก แต่งประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๒. ต้นกล้า แต่งประโยค...................................................................................................................................... ......................................................................................................... ................................................. ๓. ออกพรรษา แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... .................................................................................................... ...................................................... ๔. นายหนา้ แต่งประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๕. นายทุน แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๖. ปลดระวาง แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ๗. เพลี้ย แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ......................................................................................................... ................................................... ๘. สนตะพาย แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. ๙. หนอนกอข้าว แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................ ................................................................ ๑๐. แอก แตง่ ประโยค...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแ้ี จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขท่ี ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เดก็ ชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เดก็ หญงิ ปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เดก็ ชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปณุ ณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณัฐวรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญงิ พมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เด็กชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ พวงมาลัย ๑๖ เด็กชายกรี ติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

เกณฑก์ ารประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รยี น ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรือรน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู นื่ ปฏบิ ัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มคี วามกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเร่อื งท่ีเรยี น สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี คน้ ควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบตั พิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบัตติ าม มคี วามกระตือรือร้น กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กิจกรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บงั คบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลไดต้ ่อเน่ืองครบถ้วน ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพันธก์ บั หัวข้อที่กาหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื รน้ ศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศกึ ษา คน้ ควา้ ทางานด้วยความชื่นชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชักชวนใหผ้ ู้อ่นื ปฏิบตั ติ าม

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทไี่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถูกต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสียงหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสียงในการอ่านเหมือนเสยี งพดู ของตวั ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่นอ้ ยกว่า ๕ คะแนน) ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒ ๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขุนทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจนเ์ กลา้ โพช่นื ๔ เด็กหญิงปรยี าภรณ์ นิลอ่อน ๕ เดก็ หญงิ ปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เดก็ ชายบรพิ ฒั น์ กล่นิ บุปผา ๗ เด็กชายสวุ รรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่นื ขา ๙ เดก็ ชายปณุ ณวทิ ย์ บุญกลิ่น ๑๐ เดก็ หญงิ สธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณฐั วรรณ ธปู เทียน ๑๒ เดก็ หญงิ พิมพธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แตง่ ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลัย เดก็ ชายกีรติ สวุ รรณคมุ้ ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให)้

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศกึ ษา หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรอ่ื ง ควาย ขา้ วและชาวนา เวลา ๑ ชั่วโมง เรอ่ื ง อักษร ๓ หมู่ แผนผงั ความคดิ ประจาหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ การอ่านในใจบทเรยี น การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง คาใหม่ คายากในบทเรยี น ควาย ข้าวและชาวนา อกั ษร ๓ หมู่ คาเปน็ คาตาย และการผันวรรณยกุ ต์ การเลอื กใช้คาใหถ้ กู ต้องตรงตามความหมาย การอ่านออกเสียงบทเรยี น การหาขอ้ คิดจากเรื่องทอ่ี ่าน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้สกึ และความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หา ในการดาเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอา่ น เป้าหมายการเรียนรูป้ ระจาหน่วย เม่ือเรยี นจบหนว่ ยน้ี ผู้เรยี นจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. เขยี นสือ่ สารโดยใช้คาไดถ้ กู ต้อง ชดั เจน และเหมาะสม ๒. คัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและครึง่ บรรทัด ๓. มมี ารยาทในการเขียน คุณภาพที่พึงประสงคข์ องผ้เู รยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผู้นาและผตู้ ามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภูมใิ จในภาษาไทย ๔. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพียง

ขอบขา่ ยสาระการเรียนรูแ้ กนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง (๒) อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความทีเ่ ป็นโวหาร สาระพน้ื ฐาน ๑. การผนั วรรณยุกต์ ๒. คาเปน็ คาตาย ความรฟู้ งั แนน่ ติดตัวผู้เรียน วรรณยุกตใ์ นภาษาไทยมี ๔ รูป ๕ เสยี ง คาทุกคาจะต้องมีเสียงวรรณยุกต์ ซ่ึงการผนั วรรณยุกตจ์ ะสัมพันธก์ บั อักษร ๓ หมู่ คอื อกั ษรสูง อักษรกลาง อักษรต่า และคาเปน็ คาตาย การมี ความรู้เรอ่ื งอักษร ๓ หมูแ่ ละคาเป็น คาตาย จะชว่ ยให้อ่านคาและผนั วรรณยกุ ตไ์ ด้ถูกต้องย่งิ ข้นึ พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพยี งด้านตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน ๒. มีความพอเพยี งด้านสังคม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสังคม อยูร่ ว่ มกับผูอ้ ่ืนไดอ้ ย่างมี ความสุข ๓. ความพอเพียงดา้ นทรพั ยากร ใช้ทรัพยากรที่อยอู่ ยา่ งคุ้มค่า ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพยี งดา้ นภูมปิ ญั ญา สามารถนาความรทู้ ี่ไดจ้ ากเรือ่ ง การอยู่รว่ มกนั และ ทางานรว่ มกับผู้อืน่ ประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นชว่ ยกันบอกวา่ อักษรแตล่ ะหมูม่ ีพยัญชนะตวั ใดบ้าง แล้วครูเขียนแยกอักษรท่ี นกั เรียนบอกบนกระดาน เม่ือนักเรยี นบอกหมดแล้ว ครตู ดิ แผ่นปา้ ยอักษร ๓ หมู่ บนกระดานให้ นักเรยี นตรวจสอบความถกู ต้อง ๒. ครสู นทนาซักถามนักเรียนเก่ยี วกบั อักษรสามหมู่ว่า พยัญชนะไทยแบ่งตามระดบั เสียงได้ก่ี หมู่ อะไรบ้าง แล้วให้ตัวแทนนกั เรียนออกมาขีดเสน้ แบ่งกระดานออกเปน็ ๓ ส่วน เขยี นคาว่าอกั ษร สูง อักษรกลาง และอักษรต่า อย่ดู า้ นบนของช่องทแ่ี บง่ ไว้ จากนนั้ ให้นักเรยี นผลดั กันออกมาเขยี น พยัญชนะ คนละ ๑ ตวั (ไมใ่ ห้ ซา้ กัน) จาแนกเป็นอักษรสูง อกั ษรกลาง และอกั ษรต่า ในช่องท่แี บ่ง ไว้จนครบทุกตวั แลว้ ใหน้ ักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถา้ ยังไม่ถูกต้อง ใหช้ ่วยกันแกไ้ ข จากนนั้ ให้นกั เรียนอา่ นอกั ษรสามหมู่ บนกระดานพร้อมกัน ๓. ครใู ห้นกั เรียนอ่านแถบประโยคที่ตดิ บนกระดาน ดงั นี้ – คุณป้าชวนฉนั ไปเท่ียวปา่ ท่เี ขาใหญ่ – ฉนั ช่วยแม่จดั ยาให้คุณยา่ – พอ่ จ๋าวันนีแ้ ดดจา้ จัง – น้องยนื ข่มใจอย่นู านเพื่อจะไมท่ ิง้ ยาขมถว้ ยน้ี – น้องชอบกินน่องไกท่ อด ๔. นกั เรียนสังเกตคาท่ีพิมพ์ตัวหนาทีละประโยค แล้วช่วยกันบอกวา่ คาเหลา่ น้ันมรี ปู วรรณยุกตต์ รงกบั เสียงวรรณยุกต์หรือไม่ อย่างไร และในแต่ละประโยคคาใดเป็นคาเปน็ คาใดเป็นคา ตายบ้าง

๕. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนบอกชื่อเล่นของตนเอง แล้วให้เพอ่ื นทน่ี งั่ ขา้ งๆ บอกวา่ พยญั ชนะต้นในชือ่ เลน่ ของเพ่ือนนัน้ อยใู่ นหม่ใู ด ๖. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปความรเู้ ร่ือง อักษรสามหมู่ สอ่ื การเรียนการสอน ๑. ประเภทสื่อ - แบบเรยี นภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ - แบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - ใบงาน - ใบความรู้ - แผนภูมเิ ลขไทย ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผ้ปู กครอง - ห้องสมุด การวัดประเมินผล ๑. วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการเขยี น ๓. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๒. เครือ่ งมือการวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรยี น ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๓ – ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรบั ปรงุ ๒. สงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๕ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรุง ๓. การประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดับ ปรับปรุง

ใบความรู้ เรือ่ ง อักษร ๓ หมู่ อักษร ๓ หมู่ ไตรยางศห์ รืออักษร ๓ หมู่ ได้แก่ อักษรกลาง อักษรสูง อกั ษรตา่ พน้ื เสยี งเปน็ เสียง พืน้ เสยี งเป็นเสียงจัตวา อกั ษรคู่ อกั ษรเดี่ยว สามัญ มี ๙ ตวั คอื มี ๑๑ ตัว คือ ข ฃ กจฎฏดตบ ฉฐถผฝศษ พ้ืนเสียงเป็นเสยี ง พ้นื เสยี งเปน็ เสยี ง ปอ สห สามญั มเี สยี งคกู่ บั สามญั ไม่มเี สียงคูก่ บั อกั ษรสงู มี ๑๔ ตวั อักษรสูง มี ๑๐ ตวั จดั ได้ ๗ คู่ คอื คือ ง ญ ณ น ม ย คฅฆ-ขฃ รลวฬ ชฌ-ฉ ซ-ศษส ทฑฒธ-ฐถ พภ-ผ ฟ-ฝ ฮ-ห

ใบงานที่ ๑ คาชแ้ี จง จงเติมคาลงในชอ่ งว่างใหถ้ กู ต้อง ๑. การแบง่ พยัญชนะไทยออกเปน็ สามหมู่ ตามลาดับเสียง เรยี กวา่ ……………………………...…... ๒. อกั ษรสูงม…ี …………ตัว ได้แก…่ ………………………………………………………………………………...…...……….. ……………………………………………………………………………………………...……….. ๓. อักษรกลางม…ี ……….ตัว ไดแ้ ก่……………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………...……….. ๔. อกั ษรต่าม…ี ………….ตัว ไดแ้ ก…่ ………………………………………………………………………………...…...……….. ……………………………………………………………………………………………...……….. ๕. อักษรคู่ หมายถึง………………………………….……………………………………………………..…… ๖. อักษรคูม่ …ี ………….. ตวั ไดแ้ ก…่ …………………………………………………..………….. ๗. อักษรเดย่ี ว หมายถึง…………………………………………………………………….……………...……….. ๘. อกั ษรเดี่ยวม…ี ……….ตวั ได้แก…่ ………………………………………………………………………………...…...……….. ๙. ฆ มีเสียงค่กู บั ………….………….………….………….………….………….…………………. ๑๐. ฟ มีเสยี งคู่กับ………….………………………….………….………….………….…………...……………….

ใบงานที่ ๒ คาชแ้ี จง ผนั วรรณยกุ ต์คาที่กาหนดให้ และเขียนลงในตารางใหถ้ กู ต้อง คา เสยี งวรรณยกุ ต์ สามญั เอก โท ตรี จตั วา ตวั อยา่ ง กลอง กลอ่ ง กลอ้ ง กล๊อง กลอ๋ ง อักษรกลาง 1. เกวียน ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 2. จงู ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 3. จอ๋ ม ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 4. ตอบ ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... อักษรสูง 1. ขาว ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 2. ไถ ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 3. ฝูง ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 4. สบื ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... อกั ษรตา่ 1. คาย ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 2. ซ่อม ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 3. พลว้ิ ...................... ...................... ...................... ...................... ...................... 4. นัด ...................... ...................... ...................... ...................... ......................

สนใจ ่รวมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรียน ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชแ้ี จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เด็กชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพชื่น ๔ เดก็ หญงิ ปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปยิ ะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชัย แสนอินทร์ ๘ เดก็ ชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปณุ ณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญงิ สุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณฐั วรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพิมพธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑6 เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรือรน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ติ าม มีความกระตือรอื รน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธ์กบั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื รน้ ศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ 5 คะแนน) ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เลข ชื่อ – สกุล ีมความรอบคอบในการทางาน ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง ท่ี เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย เกณ ์ฑการประเ ิมน ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๒๒๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เดก็ ชายวงศธร ชุบขนุ ทด ๒ เด็กชายสิทธา บญุ สม ๓ เดก็ หญิงกาญจน์เกล้า โพช่นื ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภทั ร ช่ืนขา ๙ เดก็ ชายปุณณวิทย์ บุญกลิ่น ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณฐั วรรณ ธูปเทียน ๑๒ เด็กหญิงพมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย 16 เดก็ ชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๑ ปีการศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรอื่ ง ควาย ข้าวและชาวนา เวลา ๑ ช่วั โมง เรอื่ ง คาเปน็ คาตาย และการผันวรรณยกุ ต์ แผนผงั ความคิดประจาหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การอา่ นในใจบทเรียน การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น ควาย ขา้ วและชาวนา อักษร ๓ หมู่ คาเปน็ คาตาย และการผนั วรรณยุกต์ การเลือกใช้คาให้ถกู ตอ้ งตรงตามความหมาย การอ่านออกเสียงบทเรียน การหาข้อคิดจากเรือ่ งทอ่ี า่ น มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรสู้ กึ และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หา ในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน เปา้ หมายการเรียนรู้ประจาหน่วย เมื่อเรยี นจบหนว่ ยนี้ ผู้เรยี นจะมีความรู้ความสามารถต่อไปนี้ ๑. อ่านและเขยี นคาที่มรี ูปและเสยี งวรรณยกุ ตต์ า่ งๆไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. จาแนกคาเป็นหรือคาตายได้ ๓. จาแนกพยญั ชนะตามระดบั เสยี งไดถ้ ูกต้อง ๔. อ่านผนั วรรณยกุ ต์คาทมี่ พี ยญั ชนะต้นเปน็ อกั ษรสูง กลาง และต่าได้ คณุ ภาพทพี่ ึงประสงค์ของผ้เู รียน ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผู้ตามที่ดี ๓. มีความภาคภมู ิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพยี ง

ขอบข่ายสาระการเรียนรู้แกนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเี่ ป็นโวหาร สาระพนื้ ฐาน ๑. การผันวรรณยกุ ต์ ๒. คาเป็น คาตาย ความรฟู้ งั แนน่ ตดิ ตัวผเู้ รยี น วรรณยกุ ตใ์ นภาษาไทยมี ๔ รูป ๕ เสียง คาทุกคาจะต้องมเี สยี งวรรณยกุ ต์ ซงึ่ การผัน วรรณยกุ ต์จะสมั พันธก์ บั อักษร ๓ หมู่ คอื อกั ษรสูง อักษรกลาง อักษรต่า และคาเปน็ คาตาย การมี ความรเู้ รื่องอกั ษร ๓ หมแู่ ละคาเป็น คาตาย จะชว่ ยให้อ่านคาและผันวรรณยกุ ต์ได้ถกู ต้องยิง่ ข้ึน พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝ่รูใ้ ฝ่เรียน ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนินชวี ติ ตามกฎเกณฑข์ องสังคม อยู่ร่วมกบั ผู้อนื่ ได้อย่างมี ความสุข ๓. ความพอเพยี งดา้ นทรัพยากร ใช้ทรัพยากรที่อยู่อย่างคมุ้ คา่ ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ๔. ความพอเพยี งด้านภูมิปัญญา สามารถนาความรทู้ ไ่ี ด้จากเรอื่ ง การอยรู่ ว่ มกนั และ ทางานร่วมกับผู้อ่ืนประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั กระบวนการเรียนรู้ ๑. ครูและนักเรยี นรว่ มกันทบทวนความรู้เดมิ เกีย่ วกับเรอื่ ง อักษร ๓ หมู่ โดยครูใชค้ าถาม กระตนุ้ ให้นักเรียนตอบ เช่น - อกั ษร ๓ หมู่ มีอะไรบา้ ง - นักเรียนมีหลักการจาอักษรทั้ง ๓ หมู่ อยา่ งไร ๒. ครตู ิดบตั รคา คาว่า เคก้ โจ๊ก ไก่ ฯลฯ บนกระดาน แลว้ สนทนาซกั ถามนกั เรยี น โดยใช้ คาถามกระตุ้นใหน้ ักเรยี นตอบ เชน่ - คาทนี่ กั เรียนเห็นนม่ี ีเสยี งวรรณยุกต์อะไร - รปู และเสยี งวรรณยุกตข์ องคาแตล่ ะคาตรงกนั หรอื ไม่ - รปู และเสยี งวรรณยกุ ตข์ องคาท่ปี รากฏไม่ตรงกนั เพราะเหตุใด ๓. ครูแจง้ ใหน้ ักเรยี นทราบว่าวนั นีจ้ ะเรยี นเร่ือง การผนั วรรณยุกต์ โดยการผนั วรรณยุกต์ให้ ถกู ต้องน้ัน นักเรียนจะตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั ไตรยางค์ ๔. ครตู ดิ แผนภมู ิไตรยางค์บนกระดาน แล้วให้นกั เรียนศกึ ษาเร่อื ง ไตรยางค์ จากหนังสือ เรยี น จากน้ันครอู ธิบายเพิ่มเติม และสอนวธิ จี าอักษร ๓ หมู่ ๕. ครใู ห้นักเรยี นศึกษาความรู้เรอ่ื ง คาเปน็ คาตาย จากหนังสือเรียน โดยครูอธิบายประกอบ ดงั น้ี - คาเปน็ คือ คาท่ีประสมดว้ ยสระเสยี งยาว และไม่มตี ัวสะกด หรือคาทีส่ ะกดใน มาตราแม่กง แม่กม แม่กน แม่เกย แม่เกอว รวมทัง้ คาในสระ อา ไอ ใอ เอา

- คาตาย คือ คาท่ีประสมสระเสยี งสนั้ ไม่มีตวั สะกด หรอื คาทีส่ ะกดในมาตราแม่กก กบ กด ๖. แบง่ นักเรียนออกเป็น ๓ กลุ่ม จบั สลากเลอื กศกึ ษาการผันวรรณยกุ ต์ท้งั คาเป็น คาตาย กลุม่ ละ ๑ เรื่อง ในหนังสือเรียน/สอ่ื การเรียนรู้ ภาษาไทย สมบรู ณแ์ บบ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี ๑ ศึกษาเรอ่ื ง การผนั วรรณยกุ ต์อักษรสงู กลมุ่ ที่ ๒ ศกึ ษาเรอ่ื ง การผันวรรณยกุ ต์อักษรกลาง กลุ่มที่ ๓ ศึกษาเรอื่ ง การผนั วรรณยกุ ตอ์ ักษรต่า ๗. เมื่อแต่ละกลมุ่ ศึกษาเสร็จแลว้ ให้ทาใบความรู้สรุปประเด็นสาคญั ที่ศึกษา พรอ้ มยกตัวอยา่ ง ประกอบให้เข้าใจชดั เจน ๘. ครูตรวจสอบความถกู ต้องและแก้ไขเพ่มิ เติม แล้วให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ แลกกนั อา่ นจน ครบทกุ เลม่ ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการยกบตั รคาใหน้ ักเรียนอ่านผันวรรณยกุ ต์ ๙. ครูตดิ แผนภาพความคิดเรื่อง การผันวรรณยุกต์ และคาเป็น คาตาย บนกระดาน แล้วให้ นกั เรยี นชว่ ยกันสรุปจากแผนภาพความคดิ และบันทึกลงสมดุ สื่อการเรยี นการสอน ๑. ประเภทสอ่ื - แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ - แบบฝกึ หัดทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๒. วัสดุ / อุปกรณ์ - ใบงาน - ใบความรู้ - แผนภูมเิ ลขไทย ๓. แหล่งการเรียนรู้ - ครู ผู้ปกครอง - หอ้ งสมุด การวัดประเมนิ ผล ๑. วิธกี ารวัดและประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ๒. ประเมินการเขยี น ๓. ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอ่ื งมือการวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบันทึกพฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน ๓. แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมินพฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรงุ

๒. สงั เกตพฤติกรรมการเขยี น ๕ หมายถงึ ระดบั ดีมาก ๔ หมายถงึ ระดบั ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง ๓. การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดบั ดมี าก ๕ - ๗ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรงุ

ใบความรู้ เรื่อง คาเป็น คาตาย คาเป็น คาตาย มีลกั ษณะ ดังน้ี คาเปน็ คาตาย * คาที่ประสมดว้ ยสระเสียงยาว ไมม่ ี * คาทป่ี ระสมดว้ ยสระเสียงส้ัน ไมม่ ี ตัวสะกด หารือ ตัวสะกด หรอื * คาทส่ี ะกดดว้ ยแม่ กง กน กม * คาที่สะกดด้วยแม่ กก กด กบ เกย เกอว หรอื * คาที่ประสมดว้ ยสระ อา ใอ ไอ เอา ตัวอยา่ ง ลมชายทุ่งพดั ต้นข้าวพล้ิวไหว ฝงู นกลงจิกลกู สแี ดงของตน้ ตะขบ เด็กปรบมือกนั กราว พยักเพยดิ เหน็ พ้องต้องกัน ลงุ ดาร่นริมฝีปากบนและลา่ งให้เปดิ ออก ย้มิ ให้ผชู้ ม * คาทพี่ ิมพ์ตัวเน้นเป็นคาตาย นอกน้ันเป็นคาเปน็

ใบความรู้ เรื่อง การผันวรรณยุกต์ ๑. อา่ นและพจิ ารณาการผันวรรณยุกต์ทเี่ ป็นอักษรกลาง สงู ตา่ คาเปน็ และคาตาย หมู่อกั ษร เสียงวรรณยุกต์ จตั วา สามญั เอก โท ตรี พยางค/์ คา อกั ษรกลาง กา กา่ กา้ ก๊า ก๋า จาง จ่าง จา้ ง จ๊าง จ๋าง คาเป็น กา - ปะ ป้ะ ป๊ะ ป๋ะ จาง - บาด บ้าด บา๊ ด บา๋ ด คาตาย ปะ - ข่า ข้า - ขา บาด - สา่ น ล้าน - สาน อกั ษรสูง คาเป็น ขา - ผุ ผุ้ - - สาน - หก ห้ก - - คาตาย ผุ - สาด สา้ ด - - หก สาด อักษรต่า คา - ค่า คา้ - งาม - งา่ ม ง้าม - คาเปน็ คา - - คะ่ คะ ค๋ะ งาม - - แซบ แซบ้ แซ๋บ - - เลอื ก เลอื้ ก เลอื๋ ก คาตาย คะ แซบ เลอื ก * หมายเหตุ ถา้ ต้องการทราบวา่ พยางค์หรือคาใดเปน็ เสยี งวรรณยุกตใ์ ด ให้เทยี บเสียงการผนั อกั ษรกลางเป็นหลัก ๒. อา่ นและผันวรรณยุกต์อักษรตา่ คาเป็น ใหค้ รบทุกเสียง โดยใชอ้ กั ษรสูงหรอื อกั ษรกลางช่วย คา เสยี งจตั วา จัตวา หมายเหตุ สามญั เอก โท ตรี ชา ชา ฉา่ ชา่ ช้า ฉา ใชอ้ กั ษรสงู ฉ ชว่ ย ฉา้ คาย คาย ข่าย ค่าย ค้าย ขาย ใชอ้ กั ษรสูง ข ชว่ ย ข้าย มัน มนั หมน่ั มัน่ มนั้ หมัน ใช้อกั ษรสงู ห ช่วย หม้ัน ยา ยา อยา่ ย่า ยา้ อย๋า ใชอ้ ักษรกลาง อ ชว่ ย อยา้

ใบงาน ท่ี ๑ คาช้ีแจง พจิ ารณาคาหรือพยางคต์ อ่ ไปนี้วา่ มีพยญั ชนะต้นเป็นอักษรสงู , อกั ษรกลาง, อักษรตา่ ตัวอย่าง น้าผง้ึ พยัญชนะตน้ คือ น, ผ เปน็ อกั ษร ต่า, สูง ๑. สมยั พยัญชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เปน็ อกั ษร ……………………………………………………………………….. ๒. จราจร พยญั ชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เป็นอักษร ……………………………………………………………………….. ๓. รปู ร่าง พยัญชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เป็นอกั ษร ……………………………………………………………………….. ๔. ผลิต พยัญชนะต้น คือ…………………….………………………………………………… เปน็ อักษร ……………………………………………………………………….. ๕. อมร พยัญชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เปน็ อักษร ……………………………………………………………………….. ๖. แผ่นดิน พยญั ชนะต้น คือ…………………….………………………………………………… เป็นอกั ษร ……………………………………………………………………….. ๗. ภมร พยัญชนะต้น คือ…………………….………………………………………………… เป็นอกั ษร ……………………………………………………………………….. ๘. ชบา พยัญชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เปน็ อกั ษร ……………………………………………………………………….. ๙. นามแฝง พยญั ชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เป็นอกั ษร ……………………………………………………………………….. ๑๐. ขนนุ พยัญชนะตน้ คือ…………………….………………………………………………… เป็นอักษร ………………………………………………………………………..

ใบงานท่ี ๒ คาช้แี จง เลอื กคาเป็น คาตาย จากข้อความตอ่ ไปนี้เติมลงในช่องที่กาหนดให้ 1. ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญท่ านาเป็นอาชีพหลกั คาเป็น …….………………………….………….………….………….…………...……………… คาตาย …….………………………….………….………….………….…………...……………… 2. ในอดีตจงึ เกดิ ประเพณอี ย่างหนึ่งแสดงถึงความชาญฉลาด คาเป็น …….………………………….………….………….………….…………...……………… คาตาย …….………………………….………….………….………….…………...……………… 3. ปัจจุบันประเพณีลงแขกแทบไม่มใี หเ้ ห็นกันแล้ว คาเป็น …….………………………….………….………….………….…………...……………… คาตาย …….………………………….………….………….………….…………...………………

สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนักเรียน ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เดก็ ชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรียาภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เดก็ หญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เดก็ ชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปณุ ณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณฐั วรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญงิ พมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ พวงมาลัย ๑6 เด็กชายกรี ติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให้)

เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมนิ ผลงานของผูเ้ รยี น ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑. สนใจรว่ ม กระตือรือร้นสนใจร่วม กระตือรือร้นสนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเมื่อ กิจกรรม กจิ กรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กจิ กรรม ได้รับคาสั่งหรือถูก ใหผ้ ู้อ่นื ปฏบิ ัติตามได้ บงั คบั ๒. มีความสนใจใน มคี วามกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏบิ ัตติ นในเร่อื งท่ี เรอ่ื งที่เรียน ในเร่ืองท่เี รียน สนใจศึกษา ขอ้ มูลด้วยตนเองและ เรียน ศกึ ษาคน้ คว้า ค้นคว้าหาข้อมลู นาไป นาไปปฏิบตั ิ เม่ือไดร้ บั คาสั่ง ปฏิบตั ิพรอ้ มท้งั ชักชวนให้ ผ้อู ่ืนปฏบิ ตั ติ าม ๓. กลา้ แสดงออก มีความกระตือรอื รน้ กล้า มีความกระตือรือรน้ รว่ มกิจกรรมเม่ือ แสดงออกในการร่วม กล้าแสดงออกในการร่วม ไดร้ ับคาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมท้ังชักชวน กิจกรรม บังคบั ใหผ้ ู้อ่นื ปฏบิ ัติตามได้ ๔. ตอบคาถามและ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ แสดงเหตุผล ผลไดต้ ่อเน่ืองครบถว้ น ผลได้ต่อเนื่องครบถ้วน ต่อเนื่องครบถว้ น สัมพันธ์กับหัวข้อท่กี าหนด สมั พนั ธ์กับหวั ข้อท่ี สัมพันธ์กบั หัวข้อท่ี และตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยังไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ ๕. มีความสามัคคี กระตือรอื ร้นศกึ ษา ค้นควา้ ศึกษา ค้นคว้าทางาน ศกึ ษา คน้ ควา้ ทางานด้วยความช่นื ชอบ ตามท่ีผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือได้รบั สนุก สนาน และสามารถ ตามคาชักชวนของเพือ่ น คาสงั่ หรือถูกบงั คบั ชักชวนใหผ้ ้อู นื่ ปฏิบัติตาม