Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ม.3 หน่วยที่ 5 เรื่อง ภาษาสัมพันธ์

แผนการจัดการเรียนรู้ ม.3 หน่วยที่ 5 เรื่อง ภาษาสัมพันธ์

Published by KAGIROON, 2021-02-05 05:50:13

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ท 23101) หน่วยที่ 5 เรื่อง ภาษาสัมพันธ์

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๔๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน ๘ ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ เวลา ๒ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรื่อง ภาษาสัมพนั ธ์ แผนการเรียนรูท้ ี่ ๑ เร่ือง ศัพท์บัญญตั ิและคาทบั ศัพท์ ผูส้ อน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ๒.ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ม. ๓/๔ ใช้คาทบั ศัพท์และศัพท์บัญญัติ ๓. สาระสาคญั ศัพทบ์ ัญญตั ิ คือ คาศัพท์ ที่กาหนดข้ึนเพ่อื ใชเ้ ป็นมาตรฐานในการเขยี นเอกสารของทางราชการ และ การเรียนการสอน ผอู้ อกศัพท์บัญญัติในปัจจุบัน คาทบั ศัพท์ คือ คาในภาษาไทยที่มีรากมาจากภาษาอ่นื โดยเอามาใชท้ ั้งคาซ่ึงการออกเสยี งอาจเพ้ยี นไป จากเดมิ เลก็ น้อยแต่การเขยี นเป็นการเขยี นด้วยภาษาไทย ซ่ึงการเขียนทับศัพท์ในปจั จบุ ันคือการเขยี นคา ภาษาไทยทเี่ ป็นทบั ศพั ท์มาจากภาษาอังกฤษแต่กย็ ังเขียนผิดบ่อยๆซง่ึ บางคาที่เราคิดว่าเขียนถูกอา่ นแลว้ ได้ เสยี งแบบภาษาอังกฤษแตบ่ างคานน้ั อาจยงั ไม่ใชว่ ิธเี ขยี นทถี่ ูกตอ้ งวนั น้ีจงึ มตี ัวอย่างคาที่ถูกต้องมาให้เพือ่ นๆได้ ลองสงั เกตและนาไปใช้กัน ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สูต่ วั ชี้วัด ๑. นกั เรียนอธิบายความหมายของคาทบั ศัพทแ์ ละศัพทบ์ ัญญัติได้(K) ๒. นกั เรยี นจาแนกคาทับศัพทแ์ ละศัพท์บญั ญัติได้ (P) ๓. นกั เรียนมคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ศัพท์บัญญัติ และคาทับศพั ท์ ๖. กระบวนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ ๑ ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น (ช่วั โมงที่ ๑) ๑. นักเรียนเขยี นตามคาบอก ๒๐ คา พรอ้ มครูเฉลย ๒. ครอู ธิบายกิจกรรมทใี่ ห้นักเรียนทา และครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ หน้ ักเรียนทราบ

ขน้ั ท่ี ๒ ข้ันสอน ๑. ครูติดบตั รคา คาว่า เซ็น คลปิ ไว้ฝ่ังขวา ติดบตั รคา คาวา่ ไฟฟ้า ทางดว่ น ไวฝ้ ่งั ซา้ ย แล้วแจก บัตรคาให้นักเรียนได้พจิ ารณาวา่ คาท่ีนักเรยี นไดไ้ ปนนั้ ควรอยู่ฝั่งไหน ครแู ละนกั เรยี นเฉลยรว่ มกนั ครอู ธบิ าย ให้นกั เรยี นไดเ้ ข้าใจเพม่ิ เติม ๒. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน ชว่ ยกันคน้ หาความหมายของ คาศัพทบ์ ัญญตั ิ และคาทบั ศัพท์ แล้วให้ตวั แทนกลมุ่ ออกมาอภิปรายหน้าชนั้ เรียน ๓. นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียนภาษาไทย วิวิธภาษา ม.๓ ในบทที่ ๓ เรอ่ื ง เช้าฮาเย็นเฮ หน้า ๓๒- ๓๓ ศกึ ษาความรู้ในเรือ่ ง ศัพท์บญั ญตั ิ และคาทับศัพท์ พร้อมครูอธิบายเพิ่มเตมิ ๔. นกั เรยี นชว่ ยกนั หาคาทับศัพท์ ท่ีปรากฏอยู่ในบทเรยี นเรอ่ื ง เชา้ ฮาเย็นเฮ แล้วออกมาเขยี นหน้า กระดาน ขนั้ ท่ี ๓ ขนั้ สรุป ๑. นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อย่างคาทบั ศัพท์ ท่ีพบบ่อยในชีวติ ประจาวนั ของนกั เรยี น แลว้ ออกมาเขยี น บนกระดาน จานวน ๒๐ คา ๒. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนไดซ้ ักถามข้อสงสยั ขั้นที่ ๑ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน (ชั่วโมงท่ี ๒) ๑. ครทู บทวนเนือ้ หาในชั่วโมงท่แี ล้ว โดยถามคาถามนักเรียนวา่ คาทบั ศัพท์ หมายความว่าอยา่ งไร คาศัพท์บญั ญตั ิ มีความหมายว่าอย่างไร ๒. นกั เรยี นชว่ ยหาคาทบั ศัพท์ และศัพท์บัญญตั ิ จากเพลง “ ชัยภูมิบ้านพี่ ” และเพลง “รกั ยคุ ไฮเทค” พรอ้ มครูเฉลยให้นักเรียนทราบ ๓.ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ หน้ กั เรียนทราบ ขั้นที่ ๒ ขัน้ สอน ๑. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กล่มุ ละ ๔-๕ คน ช่วยกนั ทาแบบฝกึ หัดที่ ๓๘ เรือ่ ง การจาแนกคาทบั ศัพท์ และศัพท์บัญญัติ จากเพลง “จดหมายรกั จากเมียเชา่ ” ๒. ใหต้ ัวแทนกล่มุ ออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มตวั เอง พร้อมให้เพ่ือนๆชว่ ยกันตรวจสอบความถูก ตอ้ งของเพื่อนกลมุ่ อ่ืนๆ ๓. ครูเฉลยการจาแนก คาทบั ศพั ท์และศัพท์บญั ญัติ จากเพลง “จดหมายรักจากเมยี เช่า” คาทับศัพทท์ ีพ่ บ แฟลต เซ็น ดอลลาร์ เชป ไทฟอยด์ อิลลินอยส์ คาศพั ทบ์ ัญญตั ทิ ี่พบ จา่ หนา้ ซอง = Address ๔. นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบคาถามเพอ่ื ทบทวนความเข้าใจเก่ียวกับเรอื่ ง คาทบั ศัพทแ์ ละศพั ทบ์ ัญญัติ จานวน ๑๐ ขอ้

๕. นักเรียนแบง่ กลุ่มเดมิ ของนักเรียน ทากิจกรรม “บัญญตั คิ าหนูทาได้” โดยครูกาหนดคาวา่ ลิฟต์ ให้นักเรยี นบัญญตั ิความหมายของคาว่า ลฟิ ต์ ในสิ่งที่นักเรยี นอยากใหเ้ ป็น ๒ ความหมาย แลว้ ให้ตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอความคิดของกลุ่มตวั เองหน้าช้ันเรียน ข้ันที่ ๓ ขั้นสรปุ ๑.ให้นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปความรู้ โดยครูถามคาถาม ดังน้ี - คาทับศัพท์ มคี วามหมายวา่ อยา่ งไร พร้อมยกตัวอยา่ ง - คาศัพท์บัญญัติ มีความหมายวา่ อย่างไร พร้อมยกตวั อย่าง ๗. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ ๑. บัตรคา ๒. หนังสือภาษาไทย วิวธิ ภาษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ๓. เพลง “ ชยั ภูมบิ า้ นพ่ี ” และเพลง “รักยคุ ไฮเทค” ๔. แบบฝึกหดั ที่ ๓๘ เรอื่ ง การจาแนกคาทบั ศัพท์และศัพท์บัญญัติ ๕. กจิ กรรม บัญญตั คิ าหนูทาได้ ๘. การวัดผลและประเมินผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน ๑. นกั เรยี นอธบิ าย สงั เกต แบบสงั เกตการตอบ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ ความหมายของคาทบั ศัพท์ การตอบคาถาม คาถาม ระดบั ๒ ขึ้นไปถอื ว่าผ่าน และศัพท์บญั ญตั ิได้(K) ๒. นักเรยี นจาแนกคาทับศัพท์ ตรวจแบบฝึกหดั นกั เรียน แบบประเมนิ แบบฝึกหัด นกั เรียนผ่านเกณฑ์ และศัพท์บัญญตั ิได้ (P) ระดับ ๒ ขึ้นไปถือว่าผา่ น ๓. นักเรียนมีความสนใจ สงั เกตการมีความ แบบสงั เกตการมีความ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ ใฝ่เรยี นรู้ (A) สนใจใฝ่เรยี นรู้ สนใจใฝเ่ รยี นรู้ ระดบั ๒ ข้ึนไปถอื ว่าผ่าน

เกณฑก์ ารประเมินผล (รบู ริกส์) ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดบั คณุ ภาพ (๑) ปรับปรุง แสดงเหตุผลในการตอบ ๑. นักเรยี นอธบิ าย คาถาม (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ ความหมายของคาทับ ตอบคาถามได้อยา่ ง แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน ศพั ท์และศัพท์บัญญตั ิ ตอ่ เนือ่ งครบถ้วน ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง การตอบคาถาม ได้(K) ตอบคาถามได้สมั พนั ธ์ และแสดงเหตผุ ลในการ และแสดงเหตุผลใน กับหัวขอ้ ที่กาหนด ตอบคาถามไดช้ ัดเจน การตอบคาถามได้ ๒. นักเรยี นจาแนกคา ตอบคาถามได้อย่าง ทับศัพท์และศพั ท์ ใช้คาทับศัพทแ์ ละศัพท์ ต่อเนื่องครบถ้วน บญั ญตั ไิ ด้ (P) บัญญัตไิ ด้ถูกต้องแม่นยา ทุกคา ใช้คาทับศัพท์และศัพท์ ใช้คาทับศัพทแ์ ละศัพท์ จาแนกคาทบั ศัพท์และ จาแนกคาทับศัพทแ์ ละ บัญญัตไิ ด้ถูกต้อง บัญญัตไิ ด้ถูกต้อง ศัพทบ์ ัญญตั ไิ ม่ได้ ศพั ทบ์ ัญญตั ิในการใช้ได้ จาแนกคาทับศัพทแ์ ละ จาแนกคาทบั ศัพทแ์ ละ ถูกต้อง ศัพท์บัญญัตใิ นการใชไ้ ด้ ศพั ท์บัญญตั ไิ ดถ้ ูก ถูกต้อง ต้องบางคา ๓. นักเรยี นมคี วาม นักเรยี นต้งั ใจฟังท่ีครู นักเรยี นตง้ั ใจฟังท่ีครู นักเรยี นตัง้ ใจฟงั ท่ีครู นกั เรียนไม่ตั้งใจฟังท่คี รู สนใจ สอนเนอ้ื หาให้ความ สอนเนอ้ื หาให้ความ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) สอนเน้ือหาให้ความ สอนเนื้อหาให้ความ ร่วมมือในการทา ร่วมมือในการทา กิจกรรมในบางคร้ัง กิจกรรมและไมส่ ง่ งาน รว่ มมือในการทา ร่วมมอื ในการทา และสง่ งานที่ได้รับ ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายตรง มอบหมายตรงล่าช้า เวลากาหนด กจิ กรรมและสง่ งานที่ กจิ กรรม ได้รบั มอบหมายตรงเวลา กาหนด

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๔๗ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๘ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เร่ือง ภาษาสมั พนั ธ์ แผนการเรียนรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง ศัพท์ทางวชิ าการและศพั ทว์ ิชาชพี ผสู้ อน นางสาวจริ าพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตขิ องชาติ ๒.ตวั ช้วี ดั ท ๔.๑ ม. ๓/๕ อธบิ ายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและวชิ าชพี ๓. สาระสาคัญ คาศัพทท์ างวิชาการเป็นศัพท์ทใี่ ช้กล่าวถงึ หรือใช้อธบิ ายเร่อื งราวท่ีเปน็ ความรูท้ างวิชาการแขนงต่างๆ มกั เปน็ คาที่ไม่ใช้กันทัว่ ไป ๔. จุดประสงคก์ ารเรียนร้สู ่ตู ัวช้วี ดั ๑. นักเรียนอธิบายลกั ษณะของภาษาท่ีใช้กบั กลุ่มอาชพี หรอื วงการตา่ ง ๆ ได้ (K) ๒. นักเรียนเลือกใชภ้ าษาในกลุ่มอาชพี หรือวงการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ( P) ๓. นักเรยี นมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ศัพท์ทางวชิ าการและศัพทว์ ิชาชพี ๖. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี ๑ ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน (ชัว่ โมงท่ี ๑) ๑. ครตู ดิ บัตรคาคาศัพท์ทใี่ ช้ในกลุ่มสังคมหรือวงการต่าง ๆ บนกระดานให้นักเรยี นช่วยกันบอกว คาศัพทเ์ หล่าน้ใี ช้ในเร่ืองอะไร และมคี วามหมายว่าอย่างไร ๒. ครูอลธงบิ มาตยิ ใหน้ ักเรดียานวเนขโ์้าหใจลวดา่ คาเหลา่ แนหเ้ี ปล็นง่ ขค่าาวศัพท์ท่ใี ชป้กรนั ะเนฉอพมาหะกนล้ี ่มุ อาชีพตหน้ รทอื ุน วงการต่าง ๆ เพื่อความเข้าใจกันภายในกลุม่ ๓. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรูใ้ ห้นักเรยี นทราบ

ขน้ั ที่ ๒ ขัน้ สอน ๑. นักเรยี นศึกษาความรูเ้ ร่ือง คาศัพทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี ในหนงั สอื เรยี นภาษาไทย วิวิธภาษา ม.๓ ในบทท่ี ๓ เรอื่ ง เชา้ ฮาเย็นเฮ หนา้ ๓๑ (ศพั ท์วิชาการ) พร้อมครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ๒. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ ๔-๕ คน ชว่ ยกันศกึ ษาและคน้ หาคาศัพท์ทางวชิ าชพี แล้วออกมา อภิปรายหน้าชั้นเรยี นดังน้ี ๑. ศพั ท์ทางวิชาชีพครู ๒. ศัพท์ทันตแพทย์ ๓. ศัพท์กฎหมาย ๔. ศพั ท์แพทย์ ๓. นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ที่ ๔๑ เรื่อง คาศพั ทท์ างวชิ าการและวิชาชพี ขัน้ ท่ี ๓ ข้นั สรุป ๑. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกับการใช้ภาษากับกลุ่มอาชีพหรือวงการต่าง ๆ แล้วบนั ทึกลงสมดุ ๗. สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคา ๒. หนังสอื ภาษาไทย วิวธิ ภาษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ๓. แบบฝึกหัดที่ ๔๑ เรื่อง คาศัพท์ทางวิชาการและวชิ าชีพ ๘. การวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ ๑. นกั เรยี นอธิบายลกั ษณะ สังเกต แบบสงั เกตการตอบ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ ของภาษาทใ่ี ช้กบั กลมุ่ อาชีพ การตอบคาถาม คาถาม ระดบั ๒ ขึ้นไปถอื วา่ ผา่ น หรือวงการต่าง ๆ ได้ (K) ๒. นกั เรยี นเลอื กใชภ้ าษาใน ตรวจแบบฝึกหดั นักเรียน แบบประเมนิ แบบฝึกหดั นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์ กลมุ่ อาชีพหรอื วงการต่าง ๆ ระดบั ๒ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ( P) ๓. นกั เรยี นมีความสนใจ สงั เกตการมคี วาม แบบสังเกตการมีความ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) สนใจใฝ่เรียนรู้ สนใจใฝ่เรียนรู้ ระดับ ๒ ขึน้ ไปถอื ว่าผา่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู รกิ ส)์ ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดบั คณุ ภาพ (๑) ปรับปรุง ๑. นกั เรียนอธิบาย แสดงเหตุผลในการตอบ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ ลักษณะของภาษาท่ใี ช้ คาถาม แตไ่ ม่แสดงเหตผุ ลใน กับกลมุ่ อาชพี หรือ ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง การตอบคาถาม วงการต่าง ๆ ได้ (K) ต่อเนือ่ งครบถ้วน และแสดงเหตผุ ลในการ และแสดงเหตผุ ลใน ตอบคาถามไดส้ มั พันธ์ ตอบคาถามได้ชัดเจน การตอบคาถามได้ กบั หวั ขอ้ ท่ีกาหนด ตอบคาถามได้อยา่ ง ต่อเนอ่ื งครบถ้วน ๒. นักเรยี นเลือกใช้ ทาผลงานไดค้ ะแนน ทาผลงานได้คะแนน ทาผลงานได้คะแนน ทาผลงานได้คะแนน ภาษาในกลุ่มอาชีพ ร้อยละ ๘๐ ขน้ั ไป รอ้ ยละ ๗๐ ขัน้ ไป รอ้ ยละ ๖๐ ขน้ั ไป น้อยกวา่ หรือวงการตา่ ง ๆ ได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม รอ้ ยละ ๕๐ ขนั้ ไป ( P) นักเรียนต้งั ใจฟงั ท่ีครู นกั เรยี นต้ังใจฟังท่ีครู นกั เรยี นตง้ั ใจฟังที่ครู นักเรยี นไม่ตั้งใจฟังท่ีครู ๓. นักเรียนมีความ สอนเน้ือหาให้ความ สอนเนอื้ หาให้ความ สนใจ สอนเนื้อหาให้ความ สอนเน้อื หาให้ความ รว่ มมือในการทา ร่วมมือในการทา ใฝเ่ รียนรู้ (A) กจิ กรรมในบางครงั้ กิจกรรมและไม่สง่ งาน ร่วมมอื ในการทา รว่ มมือในการทา และส่งงานท่ีไดร้ ับ ท่ีไดร้ ับมอบหมายตรง มอบหมายตรงลา่ ชา้ เวลากาหนด กจิ กรรมและส่งงานที่ กจิ กรรม ไดร้ ับมอบหมายตรงเวลา กาหนด

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๔๘ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ เรื่อง ภาษาสมั พนั ธ์ จานวน ๘ ชวั่ โมง แผนการเรียนรู้ที่ ๓ เรอื่ ง คาภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย เวลา ๑ ชั่วโมง (ภาษาองั กฤษ) ผสู้ อน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ๒.ตัวชวี้ ดั ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใชค้ าภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย ๓. สาระสาคญั การนาคาภาษาต่างประเทศมาใช้ทาใหภ้ าษาไทยมีคาใช้เพ่ิมมากขนึ้ แสดงถึงการรับอทิ ธิพลทางภาษา และวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศ การศึกษาคาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทยเปน็ ประโยชนต์ อ่ การศกึ ษา ภาษาในระดับท่ีสงู ข้ึน ๔. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรูส้ ตู่ ัวชว้ี ดั ๑. นกั เรยี นสามารถบอกสาเหตุการยมื คาลักษณะและข้อแตกต่างของคาภาษาอังกฤษท่ีใช้ใน ภาษาไทยได้ภาษาไทย (K) ๒. นกั เรียนจาแนกคาภาษาองั กฤษที่ใช้ในภาษาไทย (P) ๓. นักเรยี นมคี วามสนใจใฝเ่ รียนรู้ (A) ๕. สาระการเรยี นรู้ ๑. สาเหตกุ ารยมื คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ๒. ลักษณะคาภาษาอังกฤษทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ๓. ขอ้ แตกตา่ งระหว่างภาษาอังกฤษกบั ภาษาไทย ๔. คาภาษาองั กฤษทใี่ ช้ในภาษาไทย ๖. กระบวนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน (ช่ัวโมงท่ี ๑) ๑. นกั เรียนตอบคาถามกระตุ้นความคดิ จากครู ดงั น้ี “นกั เรยี นคดิ ว่าสาเหตุใดคนไทยจึงดงึ ภาษาตา่ งประเทศเข้ามาใช้” ๒. นักเรยี นร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับอทิ ธพิ ลทางวัฒนธรรมที่ถา่ ยทอดผ่านคาภาษาต่างประเทศท่ี ภาษาไทยยืมคามาใช้

๓. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้นั ท่ี ๒ ขน้ั สอน ๑. นักเรยี นศึกษาบทเรียนเรื่อง คาภาษาอังกฤษทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย จากสอ่ื พาวเวอรพ์ ้อย และหนังสือ ววิ ธิ ภาษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๑๔๖ – ๑๔๘ พร้อมครอู ธิบายและยกตวั อย่างประกอบ ๒. นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ ๔-๕ คน รว่ มกนั สนทนาและศกึ ษาเกี่ยวกับอิทธิพลทางวัฒนธรรมท่ี ถา่ ยทอดผ่านคาภาษาตา่ งประเทศที่ภาษาไทยยมื คามาใชว้ า่ มกี ารรบั คาภาษานัน้ ๆเขา้ มาใชผ้ า่ นอิทธพิ ลด้าน ใดบ้าง และมีผลตอ่ วัฒนธรรมไทยอย่างไร  สาเหตทุ ่ที าใหเ้ กิดการยืมภาษา  ลักษณะของคาภาษาอังกฤษในภาษาไทย  ขอ้ แตกต่างระหวา่ งภาษาองั กฤษกับภาษาไทย  ตวั อยา่ งคาภาษาอังกฤษท่นี ามาใชใ้ นภาษาไทย ๓. นกั เรียนช่วยกนั ยกตัวอย่างคายมื ภาษาอังกฤษท่ีพบบ่อยในชีวติ ประจาวนั ๔. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ คน ทากิจกรรม “ประโยคน้ีภาษาใด” โดยครูจะมปี ระโยคท่ใี ช้ ภาษาต่างประเทศมาให้นักเรียนดแู ละใหน้ กั เรียนดูวา่ คาไหนเป็นคาภาษาตา่ งประเทศแล้วเป็นภาษาอะไร กลุ่ม ท่ีตอบถกู ต้องจะได้ ๑ คะแนน กลมุ่ ไหนไดค้ ะแนนมากท่สี ุดจะเปน็ กลุ่มชนะ ข้ันท่ี ๓ ขน้ั สรุป ๑. นักเรียนช่วยกันอภปิ รายความร้แู ละประโยชนก์ ารเรียน เรอื่ ง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ว่าสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งไร ๗. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคา ๒. หนังสอื ภาษาไทย ววิ ธิ ภาษา ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ๓. กิจกรรม ประโยคนี้ภาษาใด

๘. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ สงั เกต จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ นักเรียนผา่ นเกณฑ์ ๑. นกั เรยี นสามารถบอก คาถาม ระดับ ๒ ขึ้นไปถอื ว่าผ่าน สาเหตกุ ารยืมคาลักษณะและ ทากจิ กรรมกลุ่ม ขอ้ แตกต่างของคา แบบประเมินการทา นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ ภาษาองั กฤษทใี่ ชใ้ นภาษาไทย สังเกตการมีความ ไดภ้ าษาไทย (K) สนใจใฝเ่ รียนรู้ กจิ กรรมกลุ่ม ระดับ ๒ ขึ้นไปถือว่าผา่ น ๒. นกั เรียนจาแนกคา แบบสังเกตการมีความ นักเรียนผา่ นเกณฑ์ ภาษาองั กฤษทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย สนใจใฝเ่ รยี นรู้ ระดับ ๒ ขึน้ ไปถอื ว่าผา่ น (P)) ๓. นักเรยี นมคี วามสนใจ ใฝเ่ รยี นรู้ (A)

เกณฑ์การประเมนิ ผล (รบู รกิ ส)์ ประเด็นการประเมนิ (๔) ดีมาก ระดับคณุ ภาพ (๑) ปรับปรงุ ตอบคาถามได้ ๑. นกั เรียนสามารถ แสดงเหตุผลในการตอบ (๓) ดี (๒) พอใช้ แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน บอกสาเหตุการยมื คา คาถาม การตอบคาถาม ลักษณะและขอ้ ตอบคาถามได้อยา่ ง ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง แตกตา่ งของคา ตอ่ เน่ืองครบถ้วน และแสดงเหตผุ ลในการ และแสดงเหตผุ ลใน ตอบคาถามกระตุ้น ภาษาอังกฤษทีใ่ ชใ้ น ตอบคาถามได้สมั พนั ธ์ ตอบคาถามไดช้ ัดเจน การตอบคาถามได้ ความคิดและการสรุป ภาษาไทยได้ภาษาไทย กบั หวั ข้อที่กาหนด ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง ความรู้จากเรื่องไมไ่ ด้ (K) ต่อเน่ืองครบถ้วน ๒. นกั เรยี นจาแนกคา นักเรียนไมต่ ั้งใจฟังทีค่ รู ภาษาองั กฤษทใี่ ชใ้ น ตอบคาถามกระตุ้น ตอบคาถามกระตุ้น ตอบคาถามกระตนุ้ สอนเนอ้ื หาให้ความ ภาษาไทย (P)) ความคิดและการสรุป ความคดิ และการสรุป ความคดิ ได้ถูกต้อง รว่ มมือในการทา ความรู้จากเรื่องได้ดี ความรจู้ ากเรื่องได้ เพียงบางส่วนและการ กจิ กรรมและไมส่ ง่ งาน ๓. นกั เรียนมคี วาม ถกู ต้องสมบรณู ์ ถกู ต้องเพียงบางส่วน สรุปความรู้จากเรอื่ ง ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายตรง สนใจ ไมไ่ ด้ เวลากาหนด ใฝเ่ รียนรู้ (A) นกั เรยี นต้งั ใจฟงั ที่ครู นกั เรียนตง้ั ใจฟังที่ครู นกั เรียนต้งั ใจฟงั ท่ีครู สอนเนอ้ื หาให้ความ สอนเน้อื หาให้ความ สอนเนอ้ื หาให้ความ รว่ มมอื ในการทา ร่วมมอื ในการทา รว่ มมอื ในการทา กจิ กรรมในบางครงั้ และส่งงานที่ได้รับ กิจกรรมและสง่ งานที่ กิจกรรม มอบหมายตรงลา่ ชา้ ไดร้ ับมอบหมายตรงเวลา กาหนด

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔๙ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๘ ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๑ ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เร่ือง ภาษาสมั พนั ธ์ แผนการเรยี นรูท้ ี่ ๔ เรื่อง คาภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย (จนี – ญ่ีปนุ่ ) ผู้สอน นางสาวจิราพร กุลให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ๒.ตวั ช้ีวดั ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย ๓. สาระสาคัญ การนาคาภาษาตา่ งประเทศมาใชท้ าให้ภาษาไทยมีคาใช้เพ่ิมมากข้นึ แสดงถึงการรับอทิ ธิพลทางภาษา และวัฒนธรรมจากตา่ งประเทศ การศึกษาคาภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทยเป็นประโยชนต์ ่อการศึกษา ภาษาในระดบั ที่สงู ขึน้ ๔. จุดประสงค์การเรียนร้สู ู่ตวั ช้วี ดั ๑. นกั เรียนอธบิ ายหลกั การจาแนกคาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทยได้ (K) ๒. นักเรียนเขยี นจาแนกคาภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทยได้ถกู ต้อง (P) ๓. นักเรียนมคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ (A) ๕. สาระการเรยี นรู้ ๑. คาภาษาตา่ งประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย - คาภาษาจนี และภาษาญี่ปุ่น ๖. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันท่ี ๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน (ชัว่ โมงที่ ๑) ๑. ครูกลา่ วทกั ทายนักเรยี นในชว่ั โมงเรยี นวชิ าภาษาไทย ทบทวนความรเู้ รื่องคายืมทีม่ าจาก ภาษาองั กฤษจากช่ัวโมงทแี่ ล้ว ๒. นักเรยี นทากิจกรรม “ใบ้ทายคา” ให้ตวั แทนออกมาใบค้ าจากคาที่ครบู อก เชน่ คาว่า โตะ๊ เฉาก๊วย เซยี มซี ซซู ิ วาซาบิ ยูโด เปน็ ตน้ เมื่อนกั เรยี นคนใดทราบแล้วใหอ้ อกมาเขียนคานน้ั บนกระดาน แลว้ ครเู ฉลยใหน้ ักเรยี นฟงั วา่ คาเหลา่ นี้เปน็ คาในภาษาไทย ที่ยืมมาจากภาษาจีน และญีป่ ุน่ ๓. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ

ขน้ั ที่ ๒ ขั้นสอน ๑. ใหน้ ักเรยี นศึกษาความรู้เร่อื ง คาภาษาจนี และภาษาญี่ปุ่น ทใี่ ช้ในภาษาไทย ในหนังสอื วิวธิ ภาษา ชัน้ มธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หน้า ๑๔๔ – ๑๔๖ ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมและใหน้ ักเรยี นช่วยกันยกตัวอยา่ งประกอบ ๒. นักเรยี นอา่ นเรอ่ื ง ปาร์ตี้บารบ์ คี วิ แลว้ ให้นักเรียนช่วยกันหาคาภาษาจีน และภาษาญปี่ ่นุ ท่ี ปรากฏอยู่ในเรื่องแลว้ นาคาน้ันไปแต่งเป็นประโยคใหเ้ ป็นประโยคความรวม แล้วออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน (แบบฝกึ หดั ที่ ๔๑ เร่อื ง คายืมในภาษาจีนและญี่ปนุ่ ) ๓. แบง่ นักเรียนเปน็ ๒ กล่มุ แข่งกนั ออกมาเขียนคาภาษาจนี ภาษาญ่ปี นุ่ และคาภาษาชวา-มลายู ให้ได้มากท่ีสดุ ในเวลาหน่งึ นาที ใครเขยี นไดเ้ ยอะกวา่ เป็นฝ่ายชนะ ข้ันท่ี ๓ ข้นั สรปุ ๑. นกั เรียนชว่ ยกันอภปิ รายความรู้และประโยชน์ ในการนาคาภาษาจนี และภาษาญี่ปุ่นสามารถ นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งไร ๒. นักเรยี นชว่ ยกันยกตัวอย่างคาภาษาจนี และภาษาญ่ีปนุ่ ๗. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. แบบฝกึ หดั ท่ี ๔๑ เรื่อง คายมื ในภาษาจีนและญ่ปี นุ่ ๒. หนงั สอื ภาษาไทย วิวิธภาษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๓. กจิ กรรม ใบ้ทายคา ๘. การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมิน ๑. นกั เรยี นอธบิ ายหลกั การ สังเกต จาแนกคาภาษาตา่ งประเทศท่ี การตอบคาถาม แบบสังเกตการตอบ นักเรยี นผา่ นเกณฑ์ ใชใ้ นภาษาไทยได้ (K) คาถาม ระดบั ๒ ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น ทาแบบฝึกหดั ๒. นักเรียนเขยี นจาแนกคา แบบประเมนิ การทา นักเรยี นผ่านเกณฑ์ ภาษาต่างประเทศที่ใช้ใน สงั เกตการมคี วาม ภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง (P) สนใจใฝ่เรยี นรู้ แบบฝึกหัด ระดับ ๒ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน ๓. นกั เรียนมีความสนใจ แบบสงั เกตการมคี วาม นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) สนใจใฝเ่ รียนรู้ ระดบั ๒ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู ริกส์) ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดบั คุณภาพ (๑) ปรับปรุง ๑. นกั เรียนอธิบาย แสดงเหตุผลในการตอบ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ หลกั การจาแนกคา คาถาม แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน ภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง การตอบคาถาม ในภาษาไทยได้ (K) ต่อเน่ืองครบถว้ น และแสดงเหตผุ ลในการ และแสดงเหตุผลใน ตอบคาถามไดส้ ัมพันธ์ ตอบคาถามได้ชัดเจน การตอบคาถามได้ ๒. นักเรยี นเขยี น กับหัวข้อท่ีกาหนด ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง จาแนกคา ต่อเนอื่ งครบถ้วน ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ช้ ในภาษาไทยได้ถกู ต้อง ทาแบบฝึกได้คะแนน ทาแบบฝกึ หัดไดค้ ะแนน ทาแบบฝึกหัดได้คะแนน ทาแบบฝกึ หดั ได้คะแนน (P) ร้อยละ ๘๐ ข้นั ไป รอ้ ยละ ๗๐ ขัน้ ไป รอ้ ยละ ๖๐ ขั้นไป น้อยกวา่ ๓. นักเรียนมคี วาม สนใจ รอ้ ยละ ๕๐ ขนั้ ไป ใฝ่เรียนรู้ (A) นกั เรียนตัง้ ใจฟงั ท่ีครู นักเรียนตงั้ ใจฟังที่ครู นกั เรียนต้ังใจฟงั ท่ีครู นักเรยี นไม่ตั้งใจฟังที่ครู สอนเนอ้ื หาให้ความ สอนเนือ้ หาให้ความ สอนเนือ้ หาให้ความ สอนเนื้อหาให้ความ ร่วมมือในการทา รว่ มมอื ในการทา กจิ กรรมในบางครั้ง กจิ กรรมและไมส่ ง่ งาน รว่ มมอื ในการทา ร่วมมอื ในการทา และส่งงานท่ีไดร้ ับ ที่ไดร้ ับมอบหมายตรง มอบหมายตรงล่าช้า เวลากาหนด กิจกรรมและส่งงานที่ กจิ กรรม ไดร้ ับมอบหมายตรงเวลา กาหนด

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕๐ ภาคเรยี นท่ี ๑ จานวน ๘ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เร่ือง ภาษาสัมพันธ์ แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรื่อง คาภาษาต่างประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย (เขมร ) ผู้สอน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ๒.ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ๓. สาระสาคัญ การนาคาภาษาต่างประเทศมาใชท้ าให้ภาษาไทยมีคาใชเ้ พิ่มมากขน้ึ แสดงถึงการรับอทิ ธิพลทางภาษา และวฒั นธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคาภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยเปน็ ประโยชนต์ อ่ การศึกษา ภาษาในระดับท่ีสงู ขน้ึ ๔. จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ่ตู วั ช้วี ัด ๑. นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของคาเขมรได้ถูกต้อง (K) ๒. นกั เรียนสามารถรวบรวมคาเขมรในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม (P) ๓. นกั เรียนรักความเป็นไทย (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ๑. คาภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย - คาเขมร ๖. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี ๑ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรยี น (ชั่วโมงท่ี ๑) ๑. นกั เรยี นฟงั เพลง “สาวกันตรึม” นกั เรยี นปรบมือให้จังหวะเพ่ือความสนุกสนาน แล้วสงั เกตเนอ้ื เพลงท่ีนกั เรยี นไม่ทราบความหมาย แลว้ ครูสนทนากบั นักเรียนเก่ยี วกับคาศพั ท์ต่อไปนี้ ๑. เนียง ๒. ลออ ๓. บอง ๔. สลนั ๕. โมปรนี า

๖. ขะแมร์ ครูถามนักเรียนวา่ คาศัพท์ดังกลา่ วนีม้ าจากภาษาอะไร และหมายความว่าอยา่ งไร ๒. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ ขน้ั ที่ ๒ ขนั้ สอน ๑. ให้นกั เรยี นศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง คาภาษาเขมร ที่ใชใ้ นภาษาไทย ในหนังสือวิวิธภาษา ช้ันมธยม ศึกษาปีที่ ๓ หนา้ ๑๔๘ – ๑๔๙ ครูอธิบายเพิ่มเติมและใหน้ กั เรียนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งประกอบ ๒. นักเรียนแต่ละกล่มุ อภิปรายภายในกลมุ่ ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี “การใช้อักษรนาและอักษรควบกลา้ ใน ภาษาเขมร” แล้วครสู มุ่ ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างคาเขมรทีม่ ีอักษรนาและอักษรควบกลา้ ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มคน้ หาคาราชาศัพท์ทมี่ าจากภาษาเขมร พร้อมท้งั บอกความหมาย (โดย ค้นควา้ จากหนงั สือพจนานุกรม) แล้วให้ตวั แทนแต่ละกลมุ่ ออกมาเขยี นคาราชาศัพทบ์ นกระดาน นักเรียนอ่าน คาศัพทพ์ ร้อมกนั ขั้นท่ี ๓ ขัน้ สรปุ ๑.. ครูมอบหมายให้นักเรียนรวบรวมคาเขมรท่ีไดย้ ินในชีวติ ประจาวนั เช่น จากการพดู จา จาก บทเพลง จานวน ๒๐ คา พร้อมบอกความหมายของคา (แบบฝกึ หดั ที่ ๔๒ เรื่อง คาเขมร) ๗. ส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ ๑. เพลง สาวกันตรึม ๒. หนงั สือภาษาไทย วิวธิ ภาษา ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ๓. แบบฝกึ หดั ที่ ๔๒ เรื่อง คาเขมร ๘. การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน ๑. นักเรยี นสามารถบอก สงั เกต แบบสังเกตการตอบ นักเรียนผา่ นเกณฑ์ ความหมายของคาเขมรได้ การตอบคาถาม คาถาม ระดบั ๒ ขึ้นไปถือวา่ ผ่าน ถกู ต้อง (K) ๒. นกั เรียนสามารถรวบรวม ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ ผลงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ คาเขมรในชวี ติ ประจาวันได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม (P) การตวจแบบฝกึ หดั ระดับ ๒ ขนึ้ ไปถือว่าผ่าน ๓. นกั เรยี นรกั ความเปน็ ไทย สังเกตพฤตกิ รรมเรื่องรัก แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นผ่านเกณฑ์ (A) ความเป็นไทย เร่อื งรกั ความเป็นไทย ระดับ ๒ ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู รกิ ส)์ ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดับคณุ ภาพ (๑) ปรับปรุง ๑. นกั เรียนสามารถ แสดงเหตผุ ลในการตอบ (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ แตไ่ ม่แสดงเหตผุ ลใน บอกความหมายของคา คาถาม ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง การตอบคาถาม และแสดงเหตผุ ลในการ และแสดงเหตุผลใน เขมรได้ถูกต้อง (K) ตอบคาถามได้อย่าง ตอบคาถามได้ชัดเจน การตอบคาถามได้ ตอบคาถามไดอ้ ย่าง ต่อเนื่องครบถว้ น ต่อเน่ืองครบถว้ น ตอบคาถามไดส้ ัมพนั ธ์ กบั หวั ข้อท่ีกาหนด ๒. นกั เรียนสามารถ รวบรวมคาเขมรใน รวบรวมคาเขมรใน รวบรวมคาเขมรใน รวบรวมคาเขมรใน รวบรวมคาเขมรใน ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ ง ชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ ง ชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ ง ชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ ง ชวี ิตประจาวันไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้องสมบูรณ์ ๑๙-๒๐ ถกู ต้องสมบรู ณ์ ๑๗-๑๘ ถูกต้องสมบูรณ์ ๑๒- ถกู ต้องสมบรู ณ์ น้อย ถูกต้องเหมาะสม (P) คา คา ๑๖ คา กว่า ๑๒ คา ๓. นกั เรียนรักความ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยใน ใช้ภาษาไทย เลขไทยใน ใช้ภาษาไทย เลขไทย ไมส่ นใจใช้ภาษาไทย เปน็ ไทย (A) การสอ่ื สารได้ถกู ต้อง การสื่อสารได้ถูกตอ้ ง ในการสอื่ สารไดถ้ ูกต้อง อย่างถูกต้อง เหมาะสมแนะนา เหมาะสมแนะนา เหมาะสมแนะนา ชักชวนใหผ้ ้อู นื่ เหน็ ชักชวนใหผ้ อู้ น่ื เห็น ชักชวนให้ผูอ้ ื่นใช้ คุณคา่ ในการใช้ คณุ ค่าในการ ภาษาไทยท่ีถกู ตอ้ ง ภาษาไทยทถี่ กู ต้องเปน็ ใช้ภาษาไทยที่ถกู ต้อง ประจา เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี ดา้ นการใชภ้ าษาไทย

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๕๑ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๘ ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรื่อง ภาษาสมั พนั ธ์ แผนการเรยี นร้ทู ่ี ๖ เรื่อง คาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย (ภาษาบาลี – สันสกฤต) ผู้สอน นางสาวจิราพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ๒.ตวั ชว้ี ดั ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใชค้ าภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย ๓. สาระสาคัญ การนาคาภาษาตา่ งประเทศมาใชท้ าให้ภาษาไทยมีคาใชเ้ พ่ิมมากขน้ึ แสดงถึงการรบั อิทธิพลทางภาษา และวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศ การศึกษาคาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยเปน็ ประโยชน์ตอ่ การศกึ ษา ภาษาในระดับท่ีสูงขน้ึ ๔. จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ ัวชี้วดั ๑. นกั เรยี นสามารถบอกสาเหตุการยมื คาลักษณะและข้อแตกตา่ งของคาภาษาบาลีและสนั สกฤตทใ่ี ช้ ในภาษาไทยได้ (K) ๒. นกั เรยี นสามารถจาแนกคาภาษาบาลแี ละสันสกฤตได้ (P) ๓. นักเรยี นรกั ความเป็นไทย (A) ๕. สาระการเรียนรู้ ๑. คาภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย - คาภาษาบาลี – สนั สกฤต ๖. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ที่ ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน (ชว่ั โมงที่ ๑) ๑. ครูยกตวั อย่างชื่อนักเรียนในชัน้ แล้วใหน้ กั กเรียนตอบว่า ชอ่ื เพื่อนมีความหมายวา่ อะไร มาจาก ภาษาอะไร ๒. ครูแจง้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทราบ ขนั้ ที่ ๒ ขนั้ สอน

๑. นักเรียนศกึ ษาบทเรยี นเรื่อง คาภาษาบาลแี ละสนั สกฤตทใี่ ช้ในภาษาไทย จากใบความรู้ ครูอธิบาย และยกตัวอยา่ งประกอบ และสอนการอา่ นตาราง ถอดรหสั ภาษาบาลสี นั สกฤต ๒. นกั เรยี นแบ่งกลุม่ เป็น ๔ กลุ่ม ตามแถวทน่ี ่ังเรยี นในชน้ั เรียน ทากิจกรรม “ทายสิภาษาใด ”โดยครู แสดงบตั รคาภาษาบาลี สนั สกฤต และภาไทย ใหน้ ักเรยี นแขง่ ขันกันตอบคาถามว่าคาที่แสดงนน้ั เปน็ คายืมจาก ภาษาใด เพราะเหตุใด กลุ่มใดตอบถูกจะได้รบั คะแนนคาถามละ ๑ คะแนน กลมุ่ ใดมคี ะแนนมากทส่ี ดุ เปน็ ผู้ ชนะ ๓. นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคาถามกระตุน้ ความคิดจากครู ดังน้ี “ให้นักเรียนบอกข้อแตกต่างระหวา่ ง ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตวา่ มอี ะไรบา้ ง” (แนวคาตอบ พยญั ชนะ สระ ตวั สะกด และคาทน่ี ิยมใช้) ๔. ใหน้ กั เรยี นบอกประโยชนข์ องการเรียนรู้เรอื่ ง คาภาษาบาลสี ันสกฤตทใี่ ชใ้ นภาษาไทยและการปรับ ใชใ้ นชีวิตประจาวันลง ข้นั ท่ี ๓ ขั้นสรปุ ๑. ครเู ช็คช่อื นักเรียนโดยการให้นักเรยี นตอบวา่ ชือ่ ตวั เองเปน็ ภาษาบาลี หรือสันสฤต ๗. สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. Power Point เรื่อง ภาษาบาลี –สนั สกฤต ๒. หนงั สือภาษาไทย ววิ ิธภาษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๓. กิจกรรม ทายสิภาษาใด

๘. การวัดผลและประเมินผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน แบบสงั เกตการตอบ นกั เรียนผา่ นเกณฑ์ ๑. นักเรยี นสามารถบอก สังเกต ระดับ ๒ ขึน้ ไปถือว่าผา่ น สาเหตุการยมื คาลักษณะและ การตอบคาถาม คาถาม ข้อแตกตา่ งของคาภาษาบาลี นักเรียนผ่านเกณฑ์ และสันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทย แบบประเมนิ การทา ระดบั ๒ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่าน ได้ (K) กจิ กรรม นักเรียนผา่ นเกณฑ์ ๒.นกั เรียนสามารถจาแนกคา ตรวจกจิ กรรม “ทายสิภาษาใด ” ระดับ ๒ ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น แบบสงั เกตพฤติกรรม ภาษาบาลแี ละสันสกฤตได้ (P) “ทายสิภาษาใด ” เรื่องรกั ความเป็นไทย ๓. นักเรียนรกั ความเปน็ ไทย สังเกตพฤตกิ รรมเรื่องรัก (A) ความเป็นไทย

เกณฑ์การประเมนิ ผล (รูบริกส)์ ประเด็นการประเมิน (๔) ดีมาก ระดับคุณภาพ (๑) ปรับปรุง แสดงเหตุผลในการตอบ ๑. นกั เรยี นสามารถ คาถาม (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ บอกสาเหตุการยืมคา ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง แตไ่ ม่แสดงเหตุผลใน ลักษณะและขอ้ ตอ่ เนื่องครบถว้ น ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง ตอบคาถามได้ถูกต้อง การตอบคาถาม แตกตา่ งของคาภาษา ตอบคาถามไดส้ มั พันธ์ และแสดงเหตุผลในการ และแสดงเหตผุ ลใน บาลีและสันสกฤตทีใ่ ช้ กับหัวข้อที่กาหนด ตอบคาถามไดช้ ดั เจน การตอบคาถามได้ ในภาษาไทยได้ (K) ตอบคาถามได้อย่าง ตอบคาถามกระตุ้น ตอ่ เนื่องครบถ้วน ๒.นักเรียนสามารถ ความคดิ และการสรปุ จาแนกคาภาษาบาลี ความรูจ้ ากเร่ืองได้ดี ตอบคาถามกระต้นุ ตอบคาถามกระตนุ้ ตอบคาถามกระตุ้น และสันสกฤตได้ (P) ถกู ต้องสมบรณู ์ ความคิดและการสรปุ ความคดิ ได้ถูกตอ้ ง ความคิดและการสรปุ ความรูจ้ ากเร่ืองได้ เพยี งบางสว่ นและการ ความรู้จากเร่ืองไมไ่ ด้ ๓. นักเรียนรกั ความ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยใน ถกู ต้องเพยี งบางส่วน สรุปความรูจ้ ากเรอ่ื ง เป็นไทย (A) การสื่อสารได้ถูกตอ้ ง ไม่ได้ เหมาะสมแนะนา ใช้ภาษาไทย เลขไทยใน ชกั ชวนใหผ้ อู้ น่ื เหน็ การสือ่ สารได้ถกู ต้อง ใช้ภาษาไทย เลขไทย ไม่สนใจใชภ้ าษาไทย คณุ ค่าในการใช้ เหมาะสมแนะนา ในการสอื่ สารไดถ้ ูกต้อง อย่างถูกต้อง ภาษาไทยทีถ่ กู ตอ้ งเปน็ ชักชวนใหผ้ อู้ ่ืนเห็น เหมาะสมแนะนา ประจา คุณค่าในการ ชักชวนให้ผู้อ่ืนใช้ เปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี ใช้ภาษาไทยที่ถกู ตอ้ ง ภาษาไทยทถี่ กู ตอ้ ง ดา้ นการใชภ้ าษาไทย

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕๒ ภาคเรียนที่ ๑ จานวน ๘ ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๑ ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เร่ือง ภาษาสมั พันธ์ แผนการเรียนรูท้ ี่ ๗ เรอื่ ง คาภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ในภาษาไทย (ภาษาชวา – มลายู) ผู้สอน นางสาวจริ าพร กลุ ให้ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ๒.ตัวชี้วัด ท ๔.๑ ม. ๓/๑ จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย ๓. สาระสาคญั การนาคาภาษาตา่ งประเทศมาใชท้ าใหภ้ าษาไทยมีคาใช้เพ่ิมมากข้ึนแสดงถึงการรับอทิ ธิพลทางภาษา และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคาภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทยเปน็ ประโยชน์ตอ่ การศกึ ษา ภาษาในระดบั ทสี่ ูงขน้ึ ๔. จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ่ตู วั ช้ีวดั ๑. นกั เรยี นสามารถบอกสาเหตกุ ารยืมคาลักษณะและข้อแตกตา่ งของคาภาษาชวา -มาลายูทใี่ ช้ใน ภาษาไทยได้ (K) ๒. นักเรียนสามารถจาแนกคาภาษาชวา – มลายทู ใ่ี ช้ในภาไทยได้ (P) ๓. นกั เรยี นรักความเป็นไทย (A) ๕. สาระการเรยี นรู้ ๑. คาภาษาต่างประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย - คาภาษาชวา -มาลายู ๖. กระบวนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น (ชวั่ โมงที่ ๑) ๑. นักเรยี นตอบคาถามกระตุ้นความคดิ จากครู ดังน้ี “นักเรยี นคิดวา่ ภาษาชวา และภาษามลายูเปน็ ภาษาเดยี วกันหรือไม่” (แนวคาตอบ เรมิ่ แรกนกั มานุษยวิทยาเช่ือวา่ เปน็ คนละภาษา ต่อมานามารวมเปน็ ภาษาเดียวกัน เพราะมสี าเนียงการใชค้ ล้ายกัน) ๒. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกบั อิทธิพลทางวัฒนธรรมท่ีถา่ ยทอดผ่านคาภาษาตา่ งประเทศที่ ภาษาไทยยืมคามาใช้วา่ มีการรบั คาภาษาชวา-มลายูวา่ ได้รับอิทธิพลมาจากวรรณคดี เรอื่ ง ดาหลังและอิเหนา

ขน้ั ที่ ๒ ขน้ั สอน ๑.นักเรยี นศึกษาบทเรียนเรื่อง คาภาษาชวา-มลายูทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย จากส่ือพาวเวอร์พ้อย พร้อมครู อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ ๒.นักเรยี นแบ่งกลุ่มเปน็ ๕ กลมุ่ กล่มุ ละ ๑๐ ทาแผนผงั ความคิด เร่อื ง ภาษาชวาและมลายูหวั ข้อ ดังน้ี - สาเหตกุ ารยมื คาภาษาชวา-มลายมู าใช้ในภาษาไทย - ข้อแตกตา่ งระหวา่ งภาษาชวา-มลายูกับภาษาไทย - คาภาษาชวา-มลายูทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย - ลกั ษณะของคาภาษาชวา-มลายทู ่ใี ช้ในภาษาไทย ๓. นักเรยี นแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานและอภิปรายลายละเอียดประเดน็ ต่างๆ จากน้ันครเู สนอแนะและให้คะแนนแตล่ ะกล่มุ ๔. นักเรียนทาแบบฝกึ หดั ท่ี ๔๓ เรอื่ ง การจาแนกคาภาษาชวา-มลายู พร้อมบอกความหมายคา ขน้ั ท่ี ๓ ขน้ั สรุป ๑.นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปบทเรียน เรื่อง ภาษาชวา-มลายู ตามหัวขอ้ ดงั นี้ - สาเหตุการยืมคาภาษาชวา-มลายูมาใชใ้ นภาษาไทย - ขอ้ แตกต่างระหว่างภาษาชวา-มลายกู ับภาษาไทย - คาภาษาชวา-มลายทู ี่ใช้ในภาษาไทย ๗. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. Power Point เรือ่ ง ภาษาชวา-มลายู ๒. แบบฝึกหัดที่ ๔๓ เรอื่ ง การจาแนกคาภาษาชวา-มลายู

๘. การวดั ผลและประเมินผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน ๑. นกั เรยี นสามารถบอก สังเกต แบบสงั เกตการตอบ นกั เรียนผ่านเกณฑ์ สาเหตกุ ารยืมคาลักษณะและ การตอบคาถาม คาถาม ระดับ ๒ ขึน้ ไปถือว่าผ่าน ข้อแตกตา่ งของคาภาษาชวา - มาลายูท่ใี ช้ในภาษาไทยได้ (K) ๒. นักเรยี นสามารถจาแนก ตรวจแบบฝกึ หัด แบบประเมนิ การทา นักเรียนผา่ นเกณฑ์ คาภาษาชวา – มลายทู ใ่ี ช้ใน ภาไทยได้ (P แบบฝึกหัด ระดับ ๒ ข้นึ ไปถอื ว่าผ่าน ๓. นกั เรยี นรักความเปน็ ไทย สงั เกตพฤติกรรมการรัก แบบสงั เกตพฤติกรรม การ นักเรียนผา่ นเกณฑ์ (A) ความเปน็ ไทย รักความเป็นไทย ระดับ ๒ ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน

เกณฑ์การประเมนิ ผล (รูบริกส)์ ประเดน็ การประเมนิ (๔) ดีมาก ระดับคุณภาพ (๑) ปรับปรุง แสดงเหตุผลในการตอบ ๑. นกั เรยี นสามารถ คาถาม (๓) ดี (๒) พอใช้ ตอบคาถามได้ บอกสาเหตุการยมื คา ตอบคาถามไดอ้ ย่าง แตไ่ ม่แสดงเหตผุ ลใน ลกั ษณะและข้อ ตอ่ เน่ืองครบถว้ น ตอบคาถามได้ถูกต้อง ตอบคาถามไดถ้ ูกต้อง การตอบคาถาม แตกต่างของคาภาษา ตอบคาถามได้สมั พนั ธ์ และแสดงเหตุผลในการ และแสดงเหตผุ ลใน ชวา -มาลายูท่ีใชใ้ น กบั หวั ข้อที่กาหนด ตอบคาถามไดช้ ดั เจน การตอบคาถามได้ ภาษาไทยได้ (K) ตอบคาถามไดอ้ ยา่ ง ทาแบบหดั เรอ่ื ง จาก ตอ่ เน่อื งครบถว้ น ๒. นักเรยี นสามารถ จาแนกคาภาษา จาแนกคาภาษาชวา – ชวา-มลายูได้ถกู ต้อง ทาแบบหัด เรื่อง จาก ทาแบบหดั เรือ่ ง จาก ทาแบบหดั เร่ือง จาก มลายูท่ีใชใ้ นภาไทยได้ สมบรณู ์ทุกข้อและบอก จาแนกคาภาษาชวา- จาแนกคาภาษาชวา- จาแนกคาภาษาชวา- (P ความหมายของคาได้ มลายูได้ถูกต้องเพียง มลายไู ดถ้ ูกต้องเพยี ง มลายูได้ไม่ถูกต้องและ ชดั เจน บางส่วนและบอก เลก็ นอ้ ยและบอก บอกความหมายผดิ ๓. นกั เรยี นรกั ความ ใช้ภาษาไทย เลขไทยใน ความหมายของคายงั ไม่ ความหมายของคาได้ เปน็ ไทย (A) การส่ือสารได้ถกู ตอ้ ง ชัดเจนเท่าท่ีควร ไมท่ ุกข้อ เหมาะสมแนะนา ชักชวนใหผ้ อู้ ่นื เหน็ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยใน ใช้ภาษาไทย เลขไทย ไม่สนใจใช้ภาษาไทย คุณค่าในการใช้ การสอื่ สารได้ถกู ต้อง ในการสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ ง อยา่ งถูกต้อง ภาษาไทยท่ถี กู ตอ้ งเป็น เหมาะสมแนะนา เหมาะสมแนะนา ประจา ชกั ชวนใหผ้ ู้อนื่ เหน็ ชักชวนใหผ้ อู้ ่นื ใช้ เปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี คณุ คา่ ในการ ภาษาไทยทถี่ กู ต้อง ด้านการใชภ้ าษาไทย ใชภ้ าษาไทยที่ถกู ตอ้ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook