เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเี่ รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ ร้อมท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบัติตาม มีความกระตือรือรน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมท้ังชกั ชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ บั หัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา คน้ ควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ นื่ บอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัติตาม
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทีไ่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถูกต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสยี งหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสียงในการอ่านเหมือนเสยี งพูดของตัว ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให้)
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ท่ไี ด้ ผา่ น ไม่ผ่าน ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)
ีมความรอบคอบในการทางาน แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดีเกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่นอ้ ยกว่า ๕ คะแนน) มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯเลขท่ี ชอื่ – สกุล เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๓ เรื่อง อา่ นป้ายได้สาระ ๑ ปกี ารศึกษา เร่อื ง ประโยคสามญั และส่วนประกอบของประโยค เวลา ๑ ช่วั โมง แผนผังความคิดประจาหน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๓ การอ่านในใจบทเรยี น การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น อ่านป้ายไดส้ าระ การเลอื กใชค้ าให้ถูกต้องตาม กล่มุ คา หรือ วลี ความหมาย ประโยคสามัญและส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอ่านออกเสยี งบทเรยี น การอา่ นเสรมิ บทเรียน มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความร้สู กึ และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชีวิตและมนี สิ ัยรักการอ่าน สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ เป้าหมายการเรียนรปู้ ระจาหน่วย เมอ่ื เรยี นจบหนว่ ยนี้ ผเู้ รยี นจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. บอกความหมายของประโยค ๒. อ่านและเขยี นประโยคได้ถูกตอ้ ง ๓. นาคาไปใช้แตง่ ประโยคได้ถูกต้อง คุณภาพท่ีพึงประสงคข์ องผู้เรยี น ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เปน็ ผู้นาและผูต้ ามทีด่ ี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพยี ง
ขอบขา่ ยสาระการเรยี นรแู้ กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง (๒) อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเ่ี ป็นโวหาร มาตรฐาน ท ๔.๑ (๑) วิเคราะหช์ นดิ และหนา้ ที่ของคาในประโยค (๔) ระบลุ กั ษณะของประโยค สาระพ้ืนฐาน ๑. การบอกความหมายของประโยค ๒. การอา่ นและเขยี นประโยค ๓. การนาคาไปใช้แตง่ ประโยค ความรู้ฟงั แน่นติดตวั ผู้เรยี น ประโยคคือการนาคานาม คากริยา และคาขยายมาเรียงกันแลว้ ได้ใจความสมบรูณ์ว่าใครทา อะไร อย่างไร ที่ไหน ซึ่งในชีวิตประจาวนั เราจะใชป้ ระโยคเพ่ือส่อื สารมากมาย การเรียนรู้ให้เข้าใจ แลนาไปใชใ้ ห้ถูกต้องก็จะทาให้เกิดประโยชนเ์ ปน็ อย่างมาก พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน ๒. มีความพอเพียงด้านสังคม ดาเนนิ ชีวิตตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้อยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพียงดา้ นทรพั ยากร ใชท้ รัพยากรท่ีอย่อู ย่างคุ้มค่า ตามปรัชญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพยี งด้านภมู ปิ ัญญา สามารถนาความรู้ทไี่ ดจ้ ากเร่อื ง การอย่รู ่วมกนั และ ทางานรว่ มกบั ผู้อนื่ ประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวัน กระบวนการเรยี นรู้ ๑. สนทนาทบทวนบทเรียนโดยถามนกั เรียนวา่ ใครเคยรจู้ ัก ประโยคบ้าง ประโยคมีลกั ษณะ อย่างไร ครูถามนาเพ่ือนาไปสกู่ ารเรียนรู้ ๒. นกั เรยี นฝกึ อ่านประโยค จากแผนภูมทิ ีค่ รูติดไว้บนกระดานดา แล้วสงั เกตเพ่ือ เปรยี บเทียบความแตกตา่ งและหลักการการเขยี นประโยค ๓. แบง่ กลมุ่ นักเรียนออกเปน็ กลุ่ม โดยนักเรียนศึกษาความร้ทู างภาษา เรอ่ื ง ประโยค จากใบความรู้ ๔. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมารายงานหนา้ ชัน้ เรียน ๕. นักเรยี นฝกึ แตง่ ประโยคปากเปลา่ ตามที่ไดเ้ รยี นมา ซ่ึงมีการเรียงลาดับน้ี ประธาน + กริยา หรอื ประธาน + กรยิ า + กรรม คนละ ๑ ประโยค ๖. ครแู ละเพ่ือนนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ อภิปราย แสดงความคิดเหน็ จากสมาชกิ ของกลมุ่ ที่ ออกมานาเสนอรายงานหนา้ ช้ันเรยี น และเตมิ เต็มในสว่ นทไ่ี ม่สมบรู ณ์ ๗. ครแู จกตัวอย่างแถบประโยคมาใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วพิ ากษ์วจิ ารณ์ แสดงความคิดเหน็
๘. นักเรยี นแขง่ ขนั กันเขยี นประโยคบนกระดานดา กลมุ่ ใดเขียนได้มากและเขียนถูกต้อง เป็นฝ่ายชนะ ๙. นกั เรยี นและครูช่วยกนั สรปุ บทเรียน เรื่อง ประโยคและหลกั เกณฑ์ทางภาษา โดยครูสรปุ เพิ่มเติมเพ่ือให้ไดห้ ลกั การว่า “ประโยคคือการนาคานาม คากริยา และคาขยายมาเรยี งกันแล้วได้ ใจความสมบรูณ์วา่ ใครทาอะไร อย่างไร ที่ไหน” ซึ่งในชีวิตประจาวันเราจะใช้ประโยคเพื่อส่ือสาร มากมาย การเรียนรใู้ หเ้ ข้าใจแลนาไปใช้ให้ถูกต้องกจ็ ะทาใหเ้ กิดประโยชนเ์ ป็นอยา่ งมาก” นกั เรยี นทาใบงาน ๑๐. มอบหมายใหน้ ักเรียนทาแบบฝึกทักษะภาษา เป็นการบ้าน สื่อการเรยี นการสอน ๑. ประเภทสื่อ - หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ - แบบฝึกทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ - ตัวอยา่ งแถบประโยค - แผนภมู ปิ ระโยค ๒. วสั ดุ / อุปกรณ์ - บัตรคา - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผูป้ กครอง - ห้องสมุด การวดั ประเมนิ ผล ๑. วิธีการวัดและประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมินการเขียน ๔. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เคร่ืองมือการวดั และประเมินผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๓. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถึง ระดับ ดีมาก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรงุ
๒. สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ๕ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดับ ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรงุ ๓. สังเกตพฤตกิ รรมการเขียน ๕ หมายถึง ระดับ ดมี าก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถงึ ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถงึ ระดบั ปรบั ปรงุ ๔. การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๕ - ๗ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถงึ ระดบั ปรับปรุง
ใบความรู้ เรอื่ ง ประโยคสามญั และส่วนประกอบของประโยค ประโยค คือ คาหรือกลุ่มคาทีน่ ามาเรยี งกนั มีความหมายครบถว้ นสมบูรณส์ ามารถสื่อความ ได้วา่ ใครทาอะไร คดิ อยา่ งไร ร้สู ึกอยา่ งไร หรอื มีสภาพอย่างไร ประโยคโดยท่ัวไปประกอบด้วยสว่ นสาคัญ ๒ สว่ น ดงั น้ี ประธาน ภาคแสดง นามหรือสรรพนาม กริยา ป่านแก้ว ยิม้ แย้ม แป้งร่า ขยนั ฉัน อาย เขา วิง่ ประโยคข้างต้นนี้ ประกอบด้วย คานาม หรอื สรรพนาม ทาหน้าทป่ี ระธาน และ คากรยิ า ทหี่ น้าท่ภี าคแสดง นักเรยี นสังเกตประโยคต่อไปน้ี ประธาน ภาคแสดง นาม/สรรพนาม สว่ นขยาย กรยิ า สว่ นขยาย นก ตัวเลก็ ๆ กระโดด ไปมา รถบรรทุก คันน้นั แลน่ เร็วมาก เขา คนนน้ั หลับ สนทิ ผม - เสียใจ เหลือเกนิ ประโยคข้างตน้ นี้ มีสว่ นขยายคานามหรอื คาสรรพนาม และสว่ นขยายคากริยาเพิ่มขน้ึ ใหน้ ักเรียนสงั เกตประโยคต่อไปนี้ โอปอชอบคณุ พีแ่ ปง้ มาก ครอบครวั ของฉันมรี ถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ เพ่ือนของพี่ทาโครงงานนิทานไทยเรื่องมโนราห์ ลกู ๆของเรากาลังปลูกตน้ ไม้พันธ์ใหมอ่ ย่างสนกุ สนานในสวนหลังบา้ น รถสบิ ล้อคันนแี้ ซงเราไปแลว้
ประธาน ภาคแสดง นาม/ สว่ นขยาย สรรพนาม กรยิ า สว่ นขยาย กรรม สว่ นขยาย โอปอ - ครอบครวั ของฉนั ขอบคุณ นาม/สรรพนาม - มี กลางเก่า มาก พ่แี ปง้ กลางใหม่ เร่อื งมโนราห์ - รถกระบะ พันธุ์ใหม่ เพ่ือน ของพ่ี ทา - โครงงาน นิทานไทย ลกู ๆ ของเรา กาลังปลูก อย่าง ตน้ ไม้ สนกุ สนาน ในสวนหลัง บ้าน ประโยคขา้ งตน้ นี้มคี านาม หรือคาสรรพนามอยูข่ ้างหลังคากริยา ทาหน้าที่เปน็ กรรมของ ประโยค และอาจมีส่วนขยายคานามหรอื คาสรรพนามท่ีทาหนา้ ทเ่ี ป็นกรรมด้วย
ใบงาน โรงเรียน.........................................................................ภาคเรยี นท่ี …….. ปกี ารศกึ ษา ............ ชือ่ .......................................................................ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ เลขที่.............. วนั ท…่ี ……….เดือน………………………… คาชี้แจง ใหน้ ักเรียนเขยี นสว่ นต่างๆ ของประโยคลงในตารางใหถ้ กู ต้อง ประธาน ภาคแสดง ประโยค นาม/ ส่วน กรยิ า ส่วน นาม/ ส่วน ตัวอยา่ ง เดก็ ๆ ทุกคน สรรพนาม ขยาย ขยาย สรรพนาม ขยาย ไม่ควรกินขนม รสหวานมากเกินไป เด็ก ๆ ทุกคน ไม่ควรกนิ มาก ขนม รสหวาน พอ่ ย้ิมอย่างมีความสขุ (ไม่ควร คา เกินไป มิตรแทต้ อ้ งช่วยเหลือกัน ฉันและนอ้ งเลน่ เกมอย่าง ช่วยกริยา) สนกุ สนาน ________ ________ _________ _______ _________ ________ ฉันเหน็ นางกวางทอ้ งแก่ ดอกบัวสแี ดงอยู่กลางบึง ________ _ _ _______ _ _ ________ _________ _________ ________ ________ _ _ _______ _ _ ________ _______ ________ ________ _________ _______ ________ __ _________ _ ________ _________ _ ________ __ _________ _ ________ _________ _ ________ __ _________ _ _
ใบงาน โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรียนที่ …. ปกี ารศึกษา ………… ชอื่ .......................................................................ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เลขที่.............. วนั ท่ี………….เดอื น………………………… คาช้ีแจง แตล่ ะกลุ่มช่วยกนั หาคาในบทเรยี นมาแต่งประโยค ๖ ประเภท โดยเขียนลงในตาราง ท่ใี หไ้ ว้ แล้ววา่ เสนอตอ่ หน้าช้นั และสง่ ครูตรวจต่อไป คา / วลี ช่ือประโยค ( ประโยคอะไร ) ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................... ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... สมาชกิ กลุ่ม ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………
สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญงิ ปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญิงณัฐวรรณ ธูปเทียน ๑๒ เดก็ หญิงพมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑๖ เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้
เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ได้รบั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือร้นปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเร่ืองที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อน่ื ปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื ร้น กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ตอ่ เนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามได้ถูกต้อง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ ควา้ ทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบตั ติ าม
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทไ่ี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวธิ ี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถูกต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มกี ารเน้น เสยี งหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสียงในการอ่านเหมือนเสยี งพูดของตัว ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กุลให)้
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน ได้คะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกวา่ ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมนิ คะแนน สรปุ หมายเหตุ ๑ มีความต้ังใจในการเขยี น ท่ไี ด้ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๒ เขียนได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถกู ต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๕ คะแนน) ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เลข ชื่อ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ท่ี เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เด็กชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจน์เกล้า โพชน่ื ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เดก็ หญงิ ปิยะพร พานแกว้ ๖ เดก็ ชายบรพิ ฒั น์ กลน่ิ บุปผา ๗ เด็กชายสวุ รรณชยั แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชืน่ ขา ๙ เด็กชายปณุ ณวทิ ย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญิงสุธาสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณฐั วรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญิงพมิ พ์ธนั วา ยังอยู่ ๑๓ เดก็ หญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแตง่ ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลัย 16 เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคมุ้ ลงชอ่ื ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจริ าพร กลุ ให)้
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๗ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่ือง อา่ นปา้ ยได้สาระ ๑ ปีการศึกษา เร่อื ง คาในภาษาต่างประเทศ เวลา ๑ ช่ัวโมง แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ การอ่านในใจบทเรยี น อา่ นป้ายได้สาระ การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง คาใหม่ คายากในบทเรียน กลมุ่ คา หรือ วลี การเลือกใช้คาใหถ้ กู ต้องตาม ความหมาย ประโยคสามัญและสว่ นประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอา่ นออกเสยี งบทเรียน การอ่านเสริมบทเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดาเนนิ ชีวิตและมีนิสยั รักการอา่ น สาระท่ี ๒ : การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่ืองราว ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้า อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ เปา้ หมายการเรียนร้ปู ระจาหนว่ ย เมอ่ื เรียนจบหน่วยน้ี ผเู้ รยี นจะมคี วามรู้ความสามารถต่อไปนี้ ๑. บอกคาและความหมายของคาท่ีกาหนดใหไ้ ด้ ๒. ใช้ภาษาในการส่ือสารท้งั ภาษาพดู และภาษาเขียนได้ถกู ต้อง ๓. นาคา สานวนภาษาไปใชแ้ ตง่ ประโยคเพ่ือการสอื่ สารได้ถกู ต้อง คุณภาพท่ีพงึ ประสงค์ของผู้เรียน ๑. มคี วามรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผนู้ าและผตู้ ามทด่ี ี ๓. มคี วามภาคภมู ิใจในภาษาไทย
๔. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้ ๕. ประหยดั และอยู่อยา่ งพอเพียง ขอบข่ายสาระการเรียนรแู้ กนกลางรายวชิ า ภาษาไทย ตัวช้วี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง มาตรฐาน ท ๒.๑ (๑) คัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัด และคร่งึ บรรทัด มาตรฐาน ท ๔.๑ (๓) รวบรวมและบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทย สาระพน้ื ฐาน ๑. คาและความหมายของคาในภาษาตา่ งประเทศท่ีกาหนดให้ ๒. การใช้คาในภาษาต่างประเทศในการสื่อสารท้ังภาษาพูดและภาษาเขียน ๓. การนาคาในภาษาต่างประเทศ สานวนภาษาไปใช้แต่ประโยคเพ่ือการส่ือสาร ความรู้ฟงั แน่นติดตัวผู้เรยี น การรหู้ ลักเกณฑท์ างภาษา เร่ือง ความหมายของคา การใชภ้ าษาในการสื่อสารให้ถกู ต้อง ตามความหมายและถูกต้องตามหนา้ ทข่ี องประโยคช่วยให้ใช้ภาษาในการสือ่ สารไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มีความสนใจ ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รยี น ๒. มคี วามพอเพยี งด้านสงั คม ดาเนินชีวติ ตามกฎเกณฑข์ องสังคม อยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืนไดอ้ ยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพียงดา้ นทรพั ยากร ใชท้ รัพยากรท่ีอยอู่ ย่างคุ้มคา่ ตามปรัชญาหลกั เศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพียงด้านภูมิปญั ญา สามารถนาความรทู้ ี่ได้จากเรื่อง การอยรู่ ว่ มกัน และ ทางานร่วมกับผู้อื่นประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั กระบวนการเรยี นรู้ ๑. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเรื่องคาในภาษาต่างประเทศ โดยให้นักเรยี นยกตัวอย่างคาใน ภาษาต่างประเทศ มาคนละ ๑ คา แล้วให้นกั เรียนฝกึ แต่งประโยค คนละ ๑ ประโยค ๒. ครสู นทนากบั นักเรยี นโดยอธบิ ายความสาคัญของภาษาตา่ งประเทศว่า “ภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทยทกุ วันนี้มเี ปน็ จานวนมาก ท้ังน้เี พราะการติดต่อคา้ ขาย ไปมาหาสู่ กนั มีมากขน้ึ ทาให้ภาษาต่างประเทศเข้ามามบี ทบาทในการสือ่ สารมาก การอ่านและใช้คาทม่ี าจาก ภาษาอังกฤษได้ เปน็ พ้ืนฐานที่สาคัญในการอา่ น การเขียนและเรียนรู้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร” ๓. นักเรยี นฝกึ อา่ นคาจากบัตรคา ท่คี รูตดิ ไว้บนกระดานดา แล้วสงั เกตเพ่อื เปรียบเทียบ ความแตกต่างของคาและความหมายของคาในภาษาตา่ งประเทศ โดย ครถู ามนาว่าในแต่ละคามี ความหมายอยา่ งไร ลกั ษณะคาบางคาจะมีความไดห้ ลายอยา่ งใช่หรือไม่ ๔. แบ่งกลุ่มนักเรยี นออกเป็นกลมุ่ โดยนกั เรียนศึกษาใบความรทู้ างภาษา เรื่องความหมาย
ของคาในภาษาต่างประเทศ และการใช้ภาษาในการส่ือสารจากใบความรู้ ๕. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมารายงานหน้าช้นั เรียน ๖. ครแู ละเพ่ือนนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ อภปิ ราย แสดงความคิดเห็นจากสมาชิกของกลมุ่ ท่ี ออกมานาเสนอรายงานหนา้ ชั้นเรยี น และเติมเต็มในส่วนท่ไี มส่ มบูรณ์ ๗. ครแู จกตัวอยา่ งแถบข้อความหรอื บตั รคาให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวพิ ากษว์ ิจารณ์ แสดงความคิดเห็น ๘. นักเรียนแข่งขันกนั เขยี นคาในภาษาต่างประเทศ บนกระดานดา กลุม่ ใดเขยี นได้มาก และเขียนถกู ต้อง เปน็ ฝ่ายชนะ ๙. นกั เรียนและครชู ว่ ยกันสรปุ บทเรียน เร่ือง ความหมายของคาในภาษาต่างประเทศและ การใช้คาในภาษาต่างประเทศในการสอ่ื สารและหลักเกณฑ์ทางภาษา โดยครูสรุปเพิ่มเติมเพ่อื ให้ได้ หลกั การวา่ “ภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยทกุ วนั นม้ี ีเปน็ จานวนมาก ทง้ั นี้เพราะการตอ่ ตดิ คา้ ขาย ไปมาหาสู่กนั มีมาข้ึน ทาใหภ้ าษาตา่ งประเทศเขา้ มามบี ทบาทในการส่ือสารมาก ไมว่ ่าจะ เป็นภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาชวามลายู โดยเฉพาะภาษาองั กฤษ ปัจจบุ นั น้มี บี ทบาทต่อการตดิ ต่อสื่อสารเป็นอยา่ งมาก การอา่ นและใชค้ าท่ีมาจากอ่ืน และ ภาษาอังกฤษได้ เปน็ พน้ื ฐานทสี่ าคัญในการอ่าน การเขยี นและเรยี นรภู้ าษาเพอ่ื การสอื่ สาร นกั เรยี น ควรเรยี นรู้เร่อื งนใ้ี ห้เข้าใจและนาไปใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง” ๑๐. มอบหมายใหน้ กั เรยี นทาใบงาน ๑๑. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะภาษา เป็นการบา้ น สือ่ การเรยี นการสอน ๑. ประเภทสอ่ื - หนงั สอื แบบเรยี นภาษาไทย ชุดภาษาพาที ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ - แบบฝกึ ทักษะภาษา ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ - ตวั อย่างแถบข้อความ หรือแผนภูมิ ๒. วัสดุ / อปุ กรณ์ - บตั รคา - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหลง่ การเรียนรู้ - ครู ผปู้ กครอง - หอ้ งสมุด
การวดั ประเมินผล ๑. วิธกี ารวดั และประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมนิ การเขยี น ๔. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอ่ื งมือการวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ พฤติกรรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขียน ๔. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๓. เกณฑก์ ารประเมนิ ๑ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๓ – ๒ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดับ ปรับปรุง ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๕ หมายถึง ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดบั ปรบั ปรุง ๓. สังเกตพฤติกรรมการเขียน ๕ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๔ หมายถึง ระดบั ดี ๓ หมายถึง ระดับ ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรับปรงุ ๔. การประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๕ - ๗ หมายถึง ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง
ใบความรู้ เร่อื ง คาทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ ภาษาไทยทม่ี คี ายืมมาจากภาษาอ่นื ๆปนอยจู่ านวนมาก เพราะมีการตดิ ต่อสมั พันธ์กับ ประเทศตา่ งๆ ทงั้ ในดา้ นการค้าขาย การศึกษา การแลกเปลี่ยนวฒั นธรรม และวิทยาการตา่ งๆ ทาให้ มีคาในภาษาไทยเพมิ่ ขึน้ เพยี งพอกับการใช้และสะดวกในการตดิ ต่อสือ่ สาร ภาษาต่างประเทศท่เี รา นามาใช้ ไดแ้ ก่ภาษาบาลี ภาษาสนั สกฤต ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาชวา-มลายู ฯลฯ เชน่ บาลี รฐั วฒุ พัฒนา สนุ ัข ปัสสาวะ ดบี กุ ปฏบิ ัติ ปฏเิ สธ ฆราวาส พระเสโท มัจฉา สนั สกฤต ทิศ สวรรค์ โฆษณา ศุกร์ พฤษภาคม รัตนตรัย ศรี ษะ สปั ดาห์ ประปา มสั ยา เขมร บวช เกิด ถนน เจรญิ ชนะ ประชุม กระท่อม เสบยี ง บรรทัด ทะลาย จีน ก๊ก หมี่ ปุ๋ย ห้าง เข่ง เต้าหู้ กว๋ ยเตยี๋ ว โอเลีย้ ง พะโล้ ยี่ห้อ องั กฤษ เกม เคก้ ฟรี ทมี กราฟ เบนซนิ เปอร์เซน็ ต์ โปรตนี สวิตช์ วิตามนิ ชวา-มลายู สลัก สาคู กายาน ทุเรียน บุหลนั กระดังงา มังคดุ นอ้ ยหน่า มัสยิด บหุ งา ภูเก็ต
ใบงาน โรงเรียน.........................................................................ภาคเรยี นที่ … ปกี ารศกึ ษา .......... ชือ่ .......................................................................ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เลขที่.............. วันที่………….เดอื น…………………………พ.ศ. ………. คาชแี้ จง นกั เรียนเขียนคาในภาษาต่างประเทศ แล้วนาคาเหลา่ นัน้ มาแต่งประโยค ลงในตาราง ใหถ้ ูกต้อง คาภาษาต่างประเทศ ประโยค ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................... ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... ........................................................................... ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................ ............................................................................
สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาชี้แจง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในชอ่ งว่างให้ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การให้คะแนน ๕ - ๔ = ดมี าก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสงั เกต เลขที่ ชอ่ื – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เดก็ ชายวงศธร ชบุ ขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กลา้ โพช่ืน ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ อ่อน ๕ เด็กหญิงปิยะพร พานแก้ว ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลิ่นบุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่ืนขา ๙ เด็กชายปุณณวิทย์ บุญกลนิ่ ๑๐ เด็กหญงิ สุธาสนิ ี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณัฐวรรณ ธูปเทยี น ๑๒ เดก็ หญงิ พมิ พธ์ ันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญงิ ศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บุญแต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวฒุ ิ พวงมาลัย ๑๖ เดก็ ชายกีรติ สุวรรณคมุ้ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให)้
เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กิจกรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ืน่ ปฏบิ ัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องท่ีเรยี น สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัติพรอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบัตติ าม มีความกระตือรือรน้ กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อนื่ ปฏิบตั ติ ามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลไดต้ ่อเน่ืองครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ บั หัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธ์กบั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามที่ผูอ้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อ่นื ปฏิบัตติ าม
แบบสังเกตพฤติกรรมการอ่าน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทีไ่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ัดเจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คล่องแคล่วไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบ่งวรรคตอนถูกต้อง ๔ ใชน้ า้ เสยี งเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสยี งหนักเบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใชน้ า้ เสยี งในการอ่านเหมือนเสียงพูดของตัว ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให้)
แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขียน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ = ดีมาก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ขอ้ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ๑ มคี วามตัง้ ใจในการเขียน ทีไ่ ด้ ผา่ น ไม่ผ่าน ๒ เขยี นได้ถกู ต้อง ๓ เขยี นไดส้ วยงาม สะอาด ๔ เว้นวรรคตอนถูกต้อง ๕ สะกดคาถูกตอ้ ง รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจริ าพร กลุ ให้)
ีมความรอบคอบในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดีเกณฑก์ ารประเมิน ไดค้ ะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๐ (ไม่นอ้ ยกว่า ๕ คะแนน) มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯเลขที่ ช่อื – สกลุ เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ลงชือ่ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กลุ ให้)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เร่ือง อา่ นป้ายได้สาระ ๑ ปีการศึกษา เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง แผนผงั ความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ การอา่ นในใจบทเรยี น อ่านป้ายไดส้ าระ การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง คาใหม่ คายากในบทเรียน กล่มุ คา หรอื วลี การเลือกใช้คาใหถ้ กู ตอ้ งตาม ความหมาย ประโยคสามัญและส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาต่างประเทศ การอา่ นออกเสยี งบทเรยี น การอ่านเสริมบทเรียน มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรสู้ กึ และความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรกั การอา่ น เปา้ หมายการเรยี นร้ปู ระจาหนว่ ย เมอ่ื เรียนจบหนว่ ยนี้ ผูเ้ รียนจะมคี วามรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. อ่านเรอื่ งสนั้ ๆ อย่างหลากหลาย โดยจับเวลาแล้วถามเก่ียวกบั เรอื่ งท่ีอา่ น ๓. แยกขอ้ เท็จจริงและข้อคดิ เห็นจากเรือ่ งทีอ่ ่าน ๔. อธิบายการนาความร้แู ละความคดิ จากเรื่องที่อา่ นไปตัดสินใจแกป้ ญั หาในการดาเนินชีวิต ๕. อา่ นงานเขยี นเชงิ อธิบาย คาส่ัง ขอ้ แนะนา และปฏิบัติตาม ๖. อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ และอธบิ ายคุณค่าทไี่ ด้รบั ๗. มีมารยาทในการอ่าน คุณภาพท่ีพงึ ประสงคข์ องผู้เรยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผู้นาและผู้ตามท่ีดี ๓. มีความภาคภมู ิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อยา่ งพอเพยี ง
ขอบขา่ ยสาระการเรยี นร้แู กนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๑) อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง (๒) อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและข้อความทเี่ ปน็ โวหาร สาระพื้นฐาน ๑. การอ่านออกเสยี งหนว่ ยที่ ๓ เรอ่ื ง อ่านป้ายได้สาระ ๒. การคดั และเขียนคา ความรู้ฟังแนน่ ติดตัวผู้เรยี น ๑. การอา่ นออกเสียงเรื่องตา่ งๆ ไดถ้ ูกต้องคลอ่ งแคลว่ ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สกึ จากเร่อื งทอี่ า่ นได้เหมาะสม จะเป็นพืน้ ฐานในการแสดงบทบาทสมมุติ ๒. การคดั และเขียนคา ข้อความไดถ้ ูกต้องรวดเร็ว สวยงาม เป็นการสร้างนิสยั ทดี่ ี ในการเขยี น และใช้สื่อสารได้ถูกต้อง ชัดเจน พฤติกรรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงด้านตนเอง มีความสนใจ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ๒. มีความพอเพียงด้านสงั คม ดาเนนิ ชีวติ ตามกฎเกณฑข์ องสงั คม อย่รู ว่ มกบั ผ้อู น่ื ไดอ้ ยา่ งมี ความสุข ๓. ความพอเพียงดา้ นทรพั ยากร ใช้ทรพั ยากรท่ีอย่อู ยา่ งคมุ้ ค่า ตามปรชั ญาหลักเศรษฐกิจ พอเพยี ง ๔. ความพอเพียงด้านภูมปิ ญั ญา สามารถนาความรู้ท่ีไดจ้ ากเรื่อง การอยรู่ ว่ มกัน และ ทางานรว่ มกบั ผู้อืน่ ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน กระบวนการเรียนรู้ ๑. นักเรียนและครูช่วยกันทบทวนบทเรยี นที่ผา่ นมา ๒. นักเรียนชว่ ยกนั บอกการปฏิบัติตนในการอ่านออกเสียงที่ถกู ต้อง ครูเขยี นไว้บน กระดานดา เชน่ ท่าทางการอา่ นที่เหมาะสม อ่านถูกตอ้ งตามอักขรวธิ ี อ่านคล่องแคล่ว ต่อเนื่อง ไม่ตดิ ขัด เวน้ จังหวะวรรคตอนถกู ต้อง การใช้น้าเสยี งได้ตามเน้อื เรื่องที่อ่าน ๓. ทบทวนการอ่านคาศัพท์ท่ีควรศึกษา เรื่อง อ่านปา้ ยไดส้ าระโดยให้ นักเรยี นอา่ นพร้อมๆ กัน ครูสังเกตการออกเสยี ง ร ล พร้อมท้งั แนะนาการออกเสยี ง ร ล ทถ่ี กู ต้อง ๔. นักเรียนจับคู่ฝกึ อา่ นออกเสยี ง ครูคอยแนะนา ใช้เวลา๑๐ นาที ๕. นกั เรียนรว่ มกันสรุปการปฏิบตั ติ นในการอ่านออกเสยี ง และเขยี นตามคาบอก เช่น • ความสามารถถา่ ยทอดอารมณ์ ความรูส้ กึ จากเรื่องราว • การใช้นา้ เสยี งตามบทบาทของเรือ่ ง • ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการอา่ นออกเสยี งกับการแสดงบทบาทสมมตุ ิ • ทาไมนักเรยี นจงึ เขียนตามคาบอกผิด • เป้าหมายการเขียนตามคาบอก และความม่งุ มั่นในครง้ั ต่อไป ๖. สนทนาหลักการคดั ลายมือท่ถี ูกต้อง เพ่ือใช้เปน็ แนวทางในการทาแบบฝึก เช่น
การคดั พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ ตวั เลข และเครื่องหมายตา่ งๆ ให้ถกู ต้อง การวาง สระ วรรณยุกตแ์ ละเครือ่ งหมายต่างๆ ให้ถกู ต้อง การเวน้ ช่องไฟใหพ้ อเหมาะ ตวั หนังสือมหี วั ระดับ ตวั หนังสอื สูงตา่ เสมอกัน การเว้นวรรคตอนให้ถูกตอ้ ง และนิสยั ทดี่ ีในการเขียน มีความประณตี สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย อ่านงา่ ย ๗. มอบหมายใหน้ ักเรยี นทาใบงาน ๘. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกเป็นการบ้าน สื่อการเรยี นการสอน ๑. ประเภทสือ่ - หนงั สือแบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ - แบบฝึกทักษะภาษา - แถบประโยค ๒. วัสดุ / อปุ กรณ์ - บัตรคา - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหลง่ การเรยี นรู้ - ครู ผปู้ กครอง - หอ้ งสมุด การวัดประเมนิ ผล ๑. วิธีการวัดและประเมนิ ผล ๑. สังเกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรียน ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอื่ งมือการวดั และประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทึกพฤตกิ รรมการเรียน ๒. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ๓. แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑ การประเมนิ พฤตกิ รรมการเรยี น ๕ - ๔ หมายถงึ ระดบั ดีมาก ๓ – ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรุง ๒. สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ๕ หมายถงึ ระดับ ดมี าก ๔ หมายถงึ ระดับ ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรุง
๓. การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถงึ ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดบั พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดบั ปรับปรงุ
ใบงาน โรงเรียน.........................................................................ภาคเรยี นท่ี …… ปีการศกึ ษา …….. ชอ่ื .......................................................................ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เลขที่.............. วันที่………….เดอื น…………………………พ.ศ. ………. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาจากคาอ่านท่ีกาหนดใหต้ ่อไปนีใ้ ห้ถกู ต้อง ๑. สะ - หนกุ .. ........................................................... ๒. ประ - เทด ............................................................. ๓. สา - หรวด ............................................................. ๔. รด – กระ - บะ ............................................................. ๕. รด- บัน - ทุก ............................................................. ๖. รด - จกั - กระ - ยาน- ยน ............................................................. ๗. รด - ประ - จา - ทาง ............................................................. ๘. บอ - ริ - สดั ............................................................. ๙. กิ - โล - เมด็ ............................................................. ๑๐. พา - สา - ไท ............................................................. ๑๑. ประ - โหยด ............................................................. ๑๒. รา - ชา - สบั ............................................................. ๑๓.โคด - สะ - นา ............................................................. ๑๔. พระ - ราด - ชะ - ดา - หรัด ............................................................. ๑๕. สนั - ยาน ............................................................. ๑๖. ผะ - หลิด - ตะ - พนั ............................................................. ๑๗. กด - จะ - รา - จอน ............................................................. ๑๘. มะ - นุด - สะ - ยะ - ทา ............................................................. ๑๙. พดุ - ทะ - สาด - สะ - หนา ............................................................. ๒๐. รด - จัก - กระ - ยาน .............................................................
ใบงาน โรงเรียน.........................................................................ภาคเรียนที่ …… ปกี ารศกึ ษา ....... ช่ือ.......................................................................ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลขที่.............. วนั ที่………….เดอื น…………………………พ.ศ. ………. คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงข้อความที่กาหนดให้ จากน้ันช่วยกนั ต้ังคาถามและคาตอบ แล้วเขยี นสรุปลงในชอ่ งว่าง การศึกษาในปัจจบุ นั มีการใชแ้ หล่งเรียนรู้และสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์มากขึ้น ทาใหเ้ ด็กไทย สามารถสืบคน้ ข้อมูล คน้ คว้าหาความรู้ได้ด้วยตนเองตามความสนใจอยา่ งกว้างขวาง ดังนน้ั นอกจากจะต้องฝกึ ใช้เครอื่ งมือคน้ ควา้ ให้เป็นแลว้ การใชภ้ าษาเพื่อการส่ือสารยังเป็นความจาเป็น อย่างยง่ิ ท่ีเดก็ ทุกคนจะต้องฝึกฝนให้เกดิ ทักษะทงั้ การฟงั การดู การพูด การอา่ น และการเขียน เพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์ต่อการรบั สาระความร้แู ละถ่ายทอดความร้คู วามคิดได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เช่น ผทู้ ่มี ที กั ษะการฟงั การดู และการอ่าน จะทาให้จบั ใจความสาคญั ประเด็นสาคัญ สรุป ความร้จู ากการฟัง การดูและการอ่านเรื่องนน้ั ๆ ได้ตามต้องการ ผู้ที่พูดและเขยี นไดด้ ียอ่ มสรุป ความ ย่อความ หรือขยายความในการพูด บนั ทึกหรือรายงานส่งิ ท่ีเป็นความรูไ้ ดช้ ัดเจน ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................
สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้แี จง : พจิ ารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑ์การใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกว่า 10 คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขท่ี ชือ่ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เด็กชายวงศธร ชุบขนุ ทด ๒ เด็กชายสทิ ธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกล้า โพชน่ื ๔ เด็กหญิงปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญงิ ปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบรพิ ัฒน์ กล่ินบปุ ผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชยั แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ช่นื ขา ๙ เดก็ ชายปุณณวทิ ย์ บุญกลน่ิ ๑๐ เดก็ หญงิ สธุ าสนิ ี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เดก็ หญงิ พิมพธ์ ันวา ยังอยู่ ๑๓ เด็กหญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บุญแตง่ ๑๕ เดก็ ชายณฐั วฒุ ิ พวงมาลัย ๑๖ เด็กชายกีรติ สุวรรณค้มุ ๑๗ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้
เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กจิ กรรม กระตือรอื รน้ สนใจรว่ ม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏบิ ัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือร้นปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏบิ ัตพิ รอ้ มท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื ร้น กล้า มคี วามกระตือรอื รน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการร่วม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผูอ้ ่ืนปฏิบัติตามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อที่กาหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามได้ถูกต้อง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ ควา้ ทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชื่นชอบ ตามที่ผอู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนุก สนาน และสามารถ ตามคาชักชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบตั ติ าม
แบบสังเกตพฤติกรรมการอา่ น เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ ้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรปุ หมายเหตุ ทีไ่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถูกต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสียงหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสียงในการอ่านเหมือนเสยี งพูดของตัว ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..… ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เลข ชื่อ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ท่ี เป็น ้ผูนาและผู้ตาม ่ีทดี มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เด็กชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เด็กชายสิทธา บุญสม ๓ เด็กหญิงกาญจน์เกล้า โพชื่น ๔ เดก็ หญิงปรยี าภรณ์ นลิ ออ่ น ๕ เดก็ หญิงปิยะพร พานแกว้ ๖ เดก็ ชายบริพฒั น์ กล่นิ บุปผา ๗ เดก็ ชายสุวรรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เด็กชายธนภทั ร ชืน่ ขา ๙ เด็กชายปณุ ณวิทย์ บุญกลิน่ ๑๐ เด็กหญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญงิ ณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญงิ พมิ พ์ธันวา ยังอยู่ ๑๓ เด็กหญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เด็กชายณฐั วุฒิ พวงมาลยั 16 เดก็ ชายกรี ติ สุวรรณคมุ้ ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให)้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๐ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เรื่อง อ่านป้ายได้สาระ ๑ ปกี ารศกึ ษา เรือ่ ง การอา่ นเสรมิ บทเรียน เรื่อง โครงการหลวง เวลา ๑ ช่ัวโมง แผนผังความคดิ ประจาหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ การอ่านในใจบทเรยี น อ่านปา้ ยไดส้ าระ การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง คาใหม่ คายากในบทเรยี น กลมุ่ คา หรือ วลี การเลือกใช้คาให้ถูกตอ้ งตาม ความหมาย ประโยคสามญั และส่วนประกอบของประโยค คาในภาษาตา่ งประเทศ การอา่ นออกเสยี งบทเรยี น การอ่านเสริมบทเรยี น มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ : การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้สกึ และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หา ในการดาเนินชีวิตและมีนสิ ยั รักการอ่าน สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี น เรอื่ งราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้า อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เป้าหมายการเรียนรู้ประจาหนว่ ย เม่ือเรยี นจบหน่วยนี้ ผู้เรียนจะมีความรู้ความสามารถตอ่ ไปนี้ ๑. อ่านเสริมบทเรียนแล้วเขียนย่อเรือ่ งได้ ๒. อ่านเสรมิ บทเรยี นแล้วสรปุ ขอ้ คิดจากเร่ืองได้ คุณภาพที่พงึ ประสงค์ของผ้เู รยี น ๑. มีความรอบคอบในการทางาน ๒. เป็นผ้นู าและผตู้ ามท่ีดี ๓. มคี วามภาคภูมิใจในภาษาไทย ๔. มคี วามสนใจใฝ่เรยี นรู้ ๕. ประหยัดและอยู่อย่างพอเพยี ง
ขอบขา่ ยสาระการเรยี นรู้แกนกลางรายวิชา ภาษาไทย ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ (๘) อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ และอธิบายคณุ ค่าทไ่ี ด้รบั มาตรฐาน ท ๒.๑ (๕) เขยี นย่อความจากเร่ืองที่อ่าน สาระพนื้ ฐาน ๑. การอา่ นเสริมบทเรียนเร่ือง โครงการหลวง ความรู้ฟังแน่นตดิ ตวั ผู้เรียน การอา่ นเสรมิ บทเรยี นและเขียนเรือ่ งย่อสรปุ ข้อคิดได้ ทาใหเ้ กดิ ทักษะในการอ่านในใจ และ มนี ิสยั รกั การอ่าน พฤตกิ รรมความพอเพียง ๑. ความพอเพียงดา้ นตนเอง มคี วามสนใจ ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน ๒. มีความพอเพียงด้านสงั คม ดาเนนิ ชีวติ ตามกฎเกณฑ์ของสังคม อยู่รว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมี ความสขุ ๓. ความพอเพียงด้านทรพั ยากร ใชท้ รัพยากรที่อยอู่ ย่างคุม้ ค่า ตามปรัชญาหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔. ความพอเพียงด้านภูมิปญั ญา สามารถนาความรู้ท่ีไดจ้ ากเร่ือง การอยรู่ ่วมกนั และ ทางานรว่ มกับผู้อ่ืนประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนและครูสนทนาเก่ียวกบั ภาพในบทเรียน แล้วสอบถามนักเรียน ๒. นกั เรียนศกึ ษาเร่ือง โครงการหลวงจากหนังสอื เรยี นภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ โดยอา่ นสารวจคาศพั ท์ หรือสานวนภาษาทน่ี ักเรยี นไม่เข้าใจ แล้วอภิปราย ความหมายของคาศัพท์ จากน้ันใหอ้ า่ นในใจบทอ่านเสรมิ บทเรียน ใช้เวลา ๑๐ นาที และนักเรียน อาสาสมคั รออกมาเล่าเร่ือง โครงการหลวงให้เพอื่ นฟัง ๓. นกั เรียนท้ังชนั้ เรยี นชว่ ยกนั เพิ่มเติมในสว่ นที่เพื่อนเล่าเร่ืองยังไมค่ รบสมบูรณ์ นักเรยี นเขยี นย่อเรอื่ ง โครงการหลวง โดยตกลงรูปแบบของการเขยี นรว่ มกนั ดงั นี้ • รูปแบบการเขียนถูกต้องตามประเภทของเรอ่ื งทย่ี ่อ • เน้อื เร่ือง เก็บใจความสาคญั ได้ครบถ้วน • การใช้ภาษาเปน็ ของผ้ยู ่อเอง เขียนประโยครัดกุม กระชบั ไดใ้ จความ • นิสยั ท่ีดีในการเขยี น สะอาด เปน็ ระเบยี บเรียบร้อย อา่ นง่าย ๔. เลือกนักเรียนทเี่ ขียนผลงานไดด้ ีออกมาอา่ นให้เพ่ือนฟังและทกุ คนใหค้ าชมเชย พรอ้ มท้งั ชว่ ยกนั เตมิ เต็มในสว่ นทยี่ ังไม่ครบถว้ นสมบูรณ์ นักเรียนเกบ็ ผลงานเข้าแฟ้มสะสมงาน ๕. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน ๖. นักเรยี นทาใบงาน ๗. นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้
สอ่ื การเรยี นการสอน ๑. ประเภทสอื่ - หนังสอื แบบเรียนภาษาไทย ชุดภาษาพาที ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ - ใบความรเู้ รอ่ื ง การเขยี นย่อความ - แบบทดสอบหลงั การเรยี นรู้ ๒. วสั ดุ / อุปกรณ์ - บัตรคา - ใบความรู้, ใบงาน ๓. แหล่งการเรยี นรู้ - ครู ผปู้ กครอง - ห้องสมดุ การวดั ประเมินผล ๑. วธิ กี ารวดั และประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นของนักเรยี น ๒. ประเมินการอ่าน ๓. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒. เครอ่ื งมือการวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบันทกึ พฤตกิ รรมการเรยี น ๒. แบบสังเกตพฤติกรรมการอ่าน ๓. แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๓. เกณฑ์การประเมิน ๑ การประเมนิ พฤติกรรมการเรียน ๕ - ๔ หมายถึง ระดบั ดมี าก ๓ – ๒ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๑ - ๐ หมายถงึ ระดบั ปรับปรงุ ๒. สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ๕ หมายถึง ระดบั ดีมาก ๔ หมายถงึ ระดบั ดี ๓ หมายถึง ระดบั ปานกลาง ๒ หมายถึง ระดบั พอใช้ ๑ – ๐ หมายถึง ระดับ ปรบั ปรงุ ๓. การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘ – ๑๐ หมายถึง ระดับ ดีมาก ๕ - ๗ หมายถงึ ระดับ พอใช้ ๐ - ๔ หมายถึง ระดบั ปรับปรุง
ใบความรู้ เรอื่ ง การเขียนย่อความ จุดประสงค์ของการย่อความ เก็บเนอ้ื เรื่อง การย่อลกั ษณะนม้ี ุ่งใหเ้ ข้าใจเรอ่ื งราว และลาดับเหตุการณ์ไดโ้ ดยตลอดใจความท่เี กบ็ มาตอ้ ง สมบรู ณ์ สว่ นขอ้ ความทไี่ ม่ใชแ่ กน่ สาคัญ (พลความ) ก็อาจตัดทัง้ ไปได้ การย่อแบบเกบ็ เนอื้ เร่ืองมาก ใชห้ นักไปทางด้านเร่ืองราวประวตั ิ จดหมายโตต้ อบ ข่าว เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ เกบ็ ความคิด การเก็บความคดิ จาเป็นอย่างยงิ่ ท่ผี ู้อา่ นจะต้องเข้าใจความคิดของเรื่องให้ตรง เป้าหมายมาก ท่สี ุด การยอ่ ลักษณะนี้มักเป็นเรอ่ื งท่ีแสดงความคิดเห็น เชน่ บทความบทวิจารณ์ ข้อสนั นิษฐาน รายงาน การคน้ คว้าวิจัย เป็นต้น การย่อแบบเกบ็ ความคิดหลัก บางครง้ั ผ้ยู อ่ อาจเก็บความคดิ ที่ สาคญั รองลงมาดว้ ยก็ได้หากเห็นวา่ จาเป็น รปู แบบของการย่อ โดยท่ัวไปแล้วการยอ่ ความจะประกอบดว้ ย ๒ ยอ่ หนา้ ยอ่ หน้าแรกจะบอกที่มาของเร่ือง ยอ่ หนา้ ทส่ี องเป็นเนือ้ ความท่ียอ่ แลว้ การบอกทมี่ าของเรอ่ื งควรบอกละเอยี ดเพื่อใหผ้ ู้อา่ น หรือผู้ฟังสามารถคน้ หาข้อความหรอื เรื่องนนั้ มาอ่านได้ เช่น ยอ่ บทสนทนาหรือการสัมภาษณ์ จะต้องบอกวา่ เป็นการสนทนาของใคร กบั ใคร ทีไ่ หน เมือ่ ไร ทาไม่ อย่างไร ถา้ เปน็ การย่อจดหมายกจ็ ะต้องร้วู ่าจด หมายของใครเขียนถึงใคร เรอ่ื งอะไร ย่อความจากหนังสอื หรือเอกสาร จะตอ้ งบอกช่อื หนังสือ ช่อื ผแู้ ตง่ ย่อหนงั สือพมิ พจ์ ะต้องบอกว่าเป็นฉบับประจาวนั ท่ี เดือน พ.ศ. อะไรด้วย และบอกชอื่ ผูเ้ ขยี น ย่อความรจู้ ากการสอบถามก็จะต้องบอกชื่อของผทู้ ่ีให้ความรู้ นามสกุล อาชพี เปน็ ต้น
หลักในการยอ่ ความ หลักการย่อความ คือ การเกบ็ ใจความสาคัญของเร่ืองมาเรยี บเรียงใหม่ (ดว้ ยภาษาของ ผ้เู ขียนเอง) เพือ่ ใหอ้ า่ นเขา้ ใจเร่ืองได้สมบูรณแ์ ละรวดเร็ว หลกั ในการย่อความควรปฏิบัตดิ ังนี้ • อ่านหรือฟังเรื่องท่ีต้องการย่อใหต้ ลอดโดยละเอียด และทาความเข้าใจเร่ืองนัน้ ๆ ให้ แจม่ แจ้ง อาจหาไดโ้ ดยการตั้งคาถามสนั้ ๆ ว่า เร่ืองอะไร ใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมอื่ ไร อยา่ งไร ทาไม • เมื่อไดค้ าตอบดังกล่าวแล้ว ขนั้ ต่อไปก็ทาความเข้าใจเรอื่ งแตล่ ะตอนเพื่อใหส้ ามารถคัด ส่วนท่ีเป็นสาคัญท่ีสดุ หรือแก่นของเร่ืองได้ • นาใจความสาคัญมาเรยี งเรยี งใหมต่ ามจุดประสงค์ทตี่ อ้ งการ ในการเรยี บเรยี งใหมน่ ี้ อาศยั หลกั การคือ o ลาดับความ อาจเรยี งลาดับความใหมต่ ามแบบทเ่ี หน็ ว่าจะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจง่าย ทส่ี ุดตอ้ งคานงึ ว่าผอู้ ่านจะต้องเข้าใจเรื่องโดยง่ายและชัดเจน จึงควรเรียงลาดับ เวลาและลาดับ เหตผุ ลตามแต่ผู้ย่อจะเห็นเหมาะสม o ข้อความท่ีย่อจะต้องเปน็ เลขนอก (คือเปน็ เร่ืองเลา่ ) และใช้แทนชอ่ื สรรพนาม บุรษุ ท่ี ๓ บุคคลในเรื่องยอ่ เช่นในเรื่องใช้ “ฉนั ” เม่ือย่อต้องใช้ “เขา” ฯลฯ o สานวนโวหารตา่ ง ๆ ที่ใช้ ไมค่ วรเปน็ สานวนเรอื่ งเดมิ ผ้ยู ่อจะต้องใชส้ านวน โวหารท่ีเปน็ ของตนเอง ควรใชถ้ อ้ ยคาสนั้ ๆ ตรงไปตรงมาและรัดกุม อาจใช้ บพุ บทและสนั ธานเพ่ือให้ข้อความติดตอ่ กนั ราบรนื่ o คาศัพทย์ าก ศัพท์วชิ าการ ศพั ทท์ ่ียาวเกนิ ควรให้เปลีย่ นมาใช้คาสามัญ ทีค่ น ทั่วไปเข้าใจทนั ที คาสามัญที่มีขอ้ ความใช้ยาวกวา่ คาศัพท์เดมิ อนุโลมให้ใช้ไดถ้ า้ เขา้ ใจชัดเจนกว่าศัพทเ์ ดิม o คาราชาศพั ท์ จะตอบเป็นคาสามัญไม่ไดแ้ ตบ่ างคาอาจเลือกใช้คาราชาศัพท์ o ไม่ควรใช้อักษรย่อ ใช้ไดเ้ ฉพาะคาที่ใช้กันแพรห่ ลายและเป็นที่รู้จกั ทวั่ ไป เชน่ ร.ฟ.ท. (การรถไฟแห่งประเทศไทย) แตค่ าย่อประเภท จว.(จังหวดั ) ชม.(ช่ัวโมง) ไมค่ วรใช้ • เม่ือเรียบเรียงแล้วควรทบทวนวา่ ข้อความสมบรู ณ์ติดต่อกนั ราบรื่น หรอื ไมใ่ ชค้ า ฟุ่มเฟือย หรอื ข้อความใดผิดเพยี้ นไปจากความจรงิ บ้างหลักสาคัญที่สุดในการย่อความคือ ผูย้ อ่ จะต้องเข้าใจ และสามารถเกบ็ ใจความของ เรื่องได้ถูกต้องและนามาเรยี บเรียงให้ กระชดั ทีส่ ดุ การทจ่ี ะทาดงั นี้ไดต้ ้องอาศยั ความรู้ในเรื่องหลักการอ่าน การฟัง และการ เขียน เขา้ มาประกอบ เม่ือสามารถอ่าน และ / หรอื ฟังใหเ้ ข้าใจไดร้ วดเร็วก็จะยอ่ ได้ง่าย ข้นึ โดยฝึกฝนการเขยี น ประโยคทรี่ ดั กมุ กินความมากใช้คาน้อยและไมก่ ากวมอันเป็น คุณลักษณะสาคัญของการยอ่ ความ
ตัวอย่างรูปแบบการย่อความ ย่อนิทานเร่ือง……………………………จากหนงั สือ……………………………….. ผู้แต่ง……………………………………………………………………………….…. ความว่า……………………………………………………………………………..… ย่อขา่ วเรื่อง………………………………จาก………………………………………. ความว่า………………………………………………………………………………. ยอ่ บทความเรื่อง…………………………ของ……………………………………… จาก……………………………………………………………………………………. ความว่า………………………………………………………………………………… ยอ่ โอวาทของ………………………….ในโอกาส………………………………….. เมอื่ (วัน เดอื น ปี)…………………………………………………………………… ความว่า………………………………………………………………………………… ย่อประกาศของ……………………………..เรอ่ื ง…………………………………….. แด…่ ………………………………………..ในโอกาส……………………………... เมือ่ (วนั เดือน ปี)……………………………………………………………………. ความวา่ …………………………………………………………………………………
ใบงาน โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรียนท่ี ……. ปกี ารศึกษา ...... ชอ่ื .......................................................................ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลขที่.............. วนั ท่ี………….เดอื น…………………………พ.ศ. ………. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนอา่ นเสริมบทเรียนเรือ่ ง โครงการหลวง จากหนงั สอื เรียนภาษาไทย ชดุ ภาษาพาที ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ แล้วยอ่ เร่ือง ตามแบบท่ีกาหนดให้ ย่อ………………………………เรื่อง…………………………………………………….. จาก…………………………………………………ของ……………………………………………………………………… ความว่า …………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ใบงาน โรงเรียน.........................................................................ภาคเรียนท่ี ……. ปกี ารศกึ ษา ................ ช่อื .......................................................................ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เลขที่.............. วนั ท่ี………….เดือน…………………………พ.ศ. ………. คาช้ีแจง วาดภาพประกอบตอนใดตอนหน่ึงของเรื่อง โครงการหลวงแล้วเขียนข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากเร่ือง ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………….
สนใจร่วมกิจกรรม แบบประเมนิ พฤติกรรมการเรยี น ีมความสนใจในเ ่ืรอง ่ีทเ ีรยน ก ้ลาแสดงออกคาช้แี จง : พิจารณาใส่คะแนน (๕, ๔, ๓, ๒, ๑) ลงในช่องวา่ งให้ตรงกบั พฤติกรรมของนกั เรยี น ตอบคาถามและแสดงเหตุผลเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผ่าน ไดค้ ะแนนไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐ (ไมน่ อ้ ยกว่า 10 คะแนน) คะแนนรวม เกณฑ์การประเมินรายการสังเกต เลขที่ ชื่อ – สกุล ๕ ๕ ๕ ๕ ๒๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น ๑ เด็กชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสทิ ธา บุญสม ๓ เด็กหญงิ กาญจนเ์ กล้า โพชน่ื ๔ เด็กหญงิ ปรียาภรณ์ นิลอ่อน ๕ เด็กหญงิ ปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพฒั น์ กลน่ิ บปุ ผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชยั แสนอินทร์ ๘ เด็กชายธนภัทร ชื่นขา ๙ เดก็ ชายปณุ ณวิทย์ บุญกลน่ิ ๑๐ เด็กหญิงสธุ าสินี งอกผล ๑๑ เดก็ หญงิ ณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญงิ พมิ พ์ธันวา ยงั อยู่ ๑๓ เด็กหญิงศิราพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสิรายุ บญุ แต่ง ๑๕ เดก็ ชายณัฐวุฒิ พวงมาลยั ๑๖ เด็กชายกรี ติ สวุ รรณคุม้ ลงช่ือ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให)้
เกณฑ์การประเมนิ สาหรับประเมินผลงานของผเู้ รียน ( Rubric Assessment) ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ๕ - ๔ = ดีมาก ๓ - ๒ = พอใช้ ๑ - ๐ = ปรับปรงุ ๑. สนใจร่วม กิจกรรม กระตือรอื รน้ สนใจร่วม กระตือรือรน้ สนใจร่วม รว่ มกจิ กรรมเม่ือ ๒. มคี วามสนใจใน เร่อื งทเ่ี รยี น กิจกรรม พร้อมท้ังชักชวน กจิ กรรม ไดร้ บั คาสั่งหรือถูก ๓. กลา้ แสดงออก ให้ผ้อู ่นื ปฏิบัติตามได้ บังคับ ๔. ตอบคาถามและ มีความกระตือรือรน้ ปฏบิ ัติ สนใจศึกษาค้นควา้ หา ปฏิบัตติ นในเรือ่ งท่ี แสดงเหตผุ ล ในเรื่องที่เรียน สนใจศึกษา ข้อมูลดว้ ยตนเองและ เรียน ศกึ ษาค้นควา้ ๕. มคี วามสามคั คี ค้นควา้ หาข้อมูลนาไป นาไปปฏิบตั ิ เมอ่ื ได้รบั คาสงั่ ปฏิบัติพร้อมท้งั ชกั ชวนให้ ผู้อื่นปฏิบตั ิตาม มีความกระตือรอื รน้ กล้า มคี วามกระตือรือรน้ รว่ มกจิ กรรมเมื่อ แสดงออกในการรว่ ม กล้าแสดงออกในการรว่ ม ไดร้ บั คาสงั่ หรือถูก กจิ กรรม พร้อมทั้งชักชวน กิจกรรม บังคบั ให้ผู้อน่ื ปฏิบตั ติ ามได้ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามและแสดงเหตุ ตอบคาถามได้ ผลไดต้ ่อเนื่องครบถว้ น ผลได้ต่อเน่ืองครบถ้วน ต่อเนื่องครบถ้วน สัมพนั ธก์ ับหัวข้อทีก่ าหนด สัมพันธก์ บั หัวข้อที่ สมั พนั ธก์ ับหัวข้อที่ และตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ ง กาหนด กาหนดแต่ยงั ไม่ สามารถแสดงเหตผุ ล ประกอบได้ กระตือรอื ร้นศึกษา ค้นควา้ ศึกษา คน้ คว้าทางาน ศึกษา คน้ ควา้ ทางานดว้ ยความชืน่ ชอบ ตามทผ่ี อู้ ่ืนบอกหรือทา ทางานเม่ือไดร้ บั สนกุ สนาน และสามารถ ตามคาชกั ชวนของเพอื่ น คาสั่งหรือถูกบงั คับ ชกั ชวนใหผ้ ู้อื่นปฏิบัตติ าม
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น เกณฑ์การให้คะแนน ๕ = ดมี าก ๔ = ดี ๓ = ปานกลาง ๒ = พอใช้ ๑ – ๐ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนนไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๕๐ (ไม่น้อยกว่า ๓ คะแนน) ข้อ รายการประเมิน คะแนน สรุป หมายเหตุ ทไี่ ด้ ผา่ น ไม่ผา่ น ๑ อา่ นไดช้ ดั เจนถูกต้องตามอักขรวิธี ๒ คลอ่ งแคลว่ ไมต่ ะกุกตะกัก ๓ แบง่ วรรคตอนถูกต้อง ๔ ใช้นา้ เสียงเหมาะสม มจี งั หวะ มีการเนน้ เสียงหนกั เบา ไม่อา่ นยานคาง ๕ ใช้นา้ เสยี งในการอ่านเหมือนเสยี งพดู ของตวั ละคร รวมคะแนน ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ……………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมิน (นางสาวจิราพร กุลให้)
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ได้คะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๕๐ (ไม่น้อยกวา่ ๕ คะแนน) ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เลข ชื่อ – สกลุ ีมความรอบคอบในการทางาน ท่ี เป็นผู้นาและผู้ตาม ่ีทดี มีความภาค ูภมิใจในภาษาไทย ีมความสนใจใฝ่เรียนรู้ ประหยัดและอ ู่ยอ ่ยางพอเพียง รวมคะแนนด้านคุณลักษณะ ฯ เกณ ์ฑการประเ ิมน ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๑๐ ผ่าน ไ ่มผ่าน ๑ เด็กชายวงศธร ชุบขุนทด ๒ เดก็ ชายสทิ ธา บุญสม ๓ เดก็ หญงิ กาญจน์เกล้า โพชื่น ๔ เด็กหญิงปรยี าภรณ์ นลิ ออ่ น ๕ เดก็ หญงิ ปยิ ะพร พานแกว้ ๖ เด็กชายบริพัฒน์ กล่นิ บุปผา ๗ เดก็ ชายสวุ รรณชัย แสนอนิ ทร์ ๘ เดก็ ชายธนภทั ร ชืน่ ขา ๙ เดก็ ชายปุณณวิทย์ บุญกลิน่ ๑๐ เด็กหญงิ สธุ าสินี งอกผล ๑๑ เด็กหญิงณัฐวรรณ ธปู เทียน ๑๒ เด็กหญิงพิมพ์ธันวา ยังอยู่ ๑๓ เด็กหญิงศริ าพร ทองประเสริฐ ๑๔ เดก็ ชายสริ ายุ บญุ แต่ง ๑๕ เด็กชายณฐั วุฒิ พวงมาลยั 16 เด็กชายกรี ติ สุวรรณคมุ้ ลงชื่อ ................................................................................ ผปู้ ระเมนิ (นางสาวจิราพร กลุ ให)้
Search