ตอนท่ี 4 ตัวช้วี ดั รว่ ม 45 2563 3) นกั เรียนไดร้ บั รางวัล/การยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติ/ ประกาศชมเชย จากหน่วยงาน/ องค์กร ระดับเขต / จงั หวดั ตารางที่ 20 แสดงข้อมลู นักเรยี นไดร้ ับรางวลั ระดับเขต / จังหวดั นักเรยี น รางวัล จากหนว่ ยงาน/องค์กร 1. เดก็ หญิงวิสสตุ า ปรชั ญาโยธนิ รางวัลระดบั เหรยี ญทอง สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา 2. เดก็ ชายเจษฎาพร คำน้อย การแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science show) มธั ยมศกึ ษา เขต 4 3. เด็กหญงิ ธีรนาฎ นกเลิศพนั ธุ์ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครงั้ ท่ี 69 ปี การศึกษา 2562 ระดบั เขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษา 1. เด็กหญงิ วรณนั พันธไุ์ พโรจน์ รางวลั ชนะเลศิ การประกวดผลงานสง่ิ ประดิษฐ์ สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา 2. เด็กหญิงวรษิ ฐา ป้อมนอ้ ย ทางวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรม มัธยมศกึ ษา เขต 4 ความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการ และ เทคโนโลยขี องนักเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2561 (ภูมิภาคภาคกลางและภาคตะวนั ออก) สังกดั เขต พน้ื ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา 1. เด็กหญงิ วรมน ชะเอมรส รางวัลรองชนะเลศิ อันดบั 1 สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา 2. เด็กหญิงธัชฎาภรณ์ ช่วยทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) มัธยมศึกษา เขต 4 3. เดก็ หญิงวรกมล สีเรืองมาศ งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนักเรยี น ปกี ารศกึ ษา 2561 (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาค ตะวันออก) สังกดั เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา รางวลั ระดบั เหรยี ญทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) งานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียน ครั้งที่ 69 ระดับเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา รางวัลชนะเลิศ การประกวดผลงานส่ิงประดิษฐ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยขี องนกั เรยี น ปกี ารศึกษา 2561 ระดับเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา
ตอนที่ 4 ตัวชว้ี ดั ร่วม 46 2563 รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนกั เรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั เขตพื้นท่กี ารศึกษา รปู ภาพท่ี 22 นักเรยี นได้รับรางวลั /การยกย่องเชดิ ชเู กยี รติระดับจงั หวดั 4) นกั เรยี นได้รับรางวลั /การยกย่องเชิดชูเกยี รติ / ประกาศชมเชย จากหนว่ ยงาน/ องค์กร ระดับชาติ / นานาชาติ ตารางท่ี 21 แสดงข้อมลู นักเรียนไดร้ ับรางวัล ระดับชาติ นักเรียน รางวัล จากหน่วยงาน/องคก์ ร นางสาวสุพิญญา คลา้ ยเชียงราก “นกั เรียนพระราชทาน” ปกี ารศึกษา 2561 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร นางสาวปริญญรตั น์ แจม่ กระจา่ ง “เยาวสตรไี ทยดเี ด่น” ประจำปี 2561 สมาคมสตรแี หง่ ชาติ กระทรวงวัฒนธรรม 1. เด็กหญิงวรณัน พันธุ์ไพโรจน์ รางวัลระดบั เหรียญทอง การประกวดผลงาน สำนกั งานคณะกรรมการ 2. เด็กหญิงวรษิ ฐา ป้อมน้อย ส่ิงประดิษฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 การศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม กระทรวงศึกษาธิการ วชิ าการ และเทคโนโลยีของนักเรยี น ระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2561 (ภมู ิภาคภาคกลางและภาค ตะวันออก) สงั กดั เขตพนื้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา นางสาวอารยา แสงขาว “นักเรยี นพระราชทาน” ปีการศึกษา 2562 กระทรวงศึกษาธิการ รางวัล “นกั เรยี นพระราชทาน” ปีการศึกษา 2561 และ ปกี ารศึกษา 2562
ตอนท่ี 4 ตวั ช้ีวดั รว่ ม 47 2563 รางวัล“เยาวสตรไี ทยดีเดน่ ” ประจำปี 2561 รางวลั ระดับเหรียญทอง การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนกั เรยี น ระดับชาติ ปีการศึกษา 2561 รูปภาพที่ 23 นกั เรยี นได้รับรางวัล/การยกย่องเชดิ ชูเกยี รติระดับชาติ 1.2 ผลงาน / ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ผลการปฏบิ ตั ิงาน 1) นักเรียนทุกคนมีผลงาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน/ผลการปฏบิ ัตงิ าน ครบถ้วนตามที่ครู กำหนด นกั เรยี นทุกคนมีชน้ิ งานครบถว้ นตามท่คี รไู ดก้ ำหนดทั้งทเี่ ป็นผลงงานเด่ยี วและผลงานกลุ่ม รูปภาพท่ี 24 แสดงผลงานของนกั เรยี นในกิจกรรมต่างๆ และบนั ทึกคะแนนผลงาน
ตอนที่ 4 ตัวชว้ี ดั ร่วม 48 2563 2) ผลงาน / ชนิ้ งาน / ภาระงาน / ผลการปฏิบตั ิงานของนักเรียนมคี ณุ ภาพตาม เกณฑ์ทกี่ ำหนดในระดับดีข้ึนไป คดิ เปน็ ร้อยละ 80 การประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนจะใช้วิธีการประเมินตามสภาพจริง และ ประเมินทุกช่วง ทุกระยะในการทำกิจกรรม โดยได้ข้อมูลการประเมินทั้งจากครูผู้สอนและระหว่างเพื่อนๆ ใน ชัน้ เรียน ท้งั ด้านทกั ษะการทำงานกลุ่ม ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ คณุ ภาพของชนิ้ งานและด้านต่างๆ ท่เี ก่ียวข้องในและกิจกรรม ซ่ึงพบว่าผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์คณุ ภาพทีก่ ำหนดคดิ เปน็ ร้อยละ 100 รปู ภาพท่ี 25 แสดงผลงานของนักเรียนในกิจกรรมต่างๆ 3) ผลงาน / ชิ้นงาน / ภาระงาน / ผลการปฏิบัตงิ านเกิดจากการปฏิบัติงานของ นกั เรียนตามหลกั สตู รอย่างแท้จรงิ และไดร้ ับการรบั รองจากผบู้ รหิ ารโรงเรยี น การประเมนิ ผลผลการปฏิบัติงานเกดิ จากการปฏิบตั งิ านของนกั เรียนตามหลกั สูตรอยา่ ง แทจ้ ริงมกี ารรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านและไดร้ ับการรับรองจากผู้บรหิ ารโรงเรยี นทุกกจิ กรรม รปู ภาพที่ 26 เลม่ รายงานผลการปฏบิ ัติงานในการจดั การเรยี นรู้ ได้รับการรับรองจากผู้บริหารโรงเรียน 1.3 การเผยแพร่ผลงานนักเรยี น 1) นกั เรียนไดน้ ำเสนอ/จดั แสดง/แลกเปล่ียนเรยี นรู้/ ผลงาน/ช้ินงาน/ภาระงาน/ผล การปฏิบัติงานท่ีมีคุณภาพในรูปแบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสในระดับสถานศกึ ษา ไม่จำกัดจำนวนครงั้ มดี งั นี้ 1.1) นำเสนอในกิจกรรมการเรียนการสอน ตลอดทัง้ ปกี ารศึกษา 1.2) นำเสนอในกิจกรรมสปั ดาหว์ ทิ ยาศาสตร์ 1.3) จดั เตรียมสำหรับการศึกษาดูงานของโรงเรยี นต่างๆ ท่มี าขอดูงาน
ตอนท่ี 4 ตวั ชีว้ ดั ร่วม 49 2563 รปู ภาพที่ 27 แสดงการนำเสนอผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมตา่ งๆ 2) นกั เรยี นไดน้ ำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปลี่ยนเรียนร/ู้ ผลงาน/ชนิ้ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั งิ าน ทม่ี คี ณุ ภาพในรูปแบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสตอ่ สาธารณะในระดบั เขต/จงั หวัด อยา่ งน้อย 1 ครง้ั /ปี 2.1) นำเสนอแสดงผลงาน ในงาน OCOP: One Classroom One Product 2.2) นำเสนอแสดงผลงาน ในงานศลิ ปหัตถกรรมนักเรียนของเขตพื้นที่การศึกษา 2.3) นำเสนอแสดงผลงาน นทิ รรศการเปดิ โลกพลังงาน สำนักงานพลงั งานจังหวดั ปทุมธานี รปู ภาพที่ 28 แสดงการนำเสนอผลงานของนกั เรียนในกิจกรรมต่างๆ ต่อสาธารณะ
ตอนที่ 4 ตวั ช้วี ดั ร่วม 50 2563 3) นักเรียนได้นำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปลยี่ นเรยี นรู้/ ผลงาน/ชน้ิ งาน/ภาระงาน/ผล การปฏบิ ตั ิงานท่ีมคี ณุ ภาพในรปู แบบตา่ งๆ ตามวาระและโอกาสต่อสาธารณะในระดับภาค ตารางที่ 22 แสดงข้อมูลนักเรียนไดน้ ำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดับภาค นักเรยี น ผลงาน หนว่ ยงาน/องค์กร 1. เดก็ หญงิ ธัญชนก นาควิเชยี ร กจิ กรรมวิทยาศาสตรส์ ำหรบั เยาวชน สมาคมวทิ ยาศาสต์ประเทศไทย ฯ 2. เดก็ หญงิ สภุ ัสสรา คำใจ ศูนยภ์ าคกลาง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ อพวช 3. เด็กหญิงอัจฉราภา ครองทรพั ยด์ ี สาขาวิทยาศาสตรก์ ายภาพ เรือ่ ง “เซลลก์ ัลวานกิ จากใบพชื ” 1. เดก็ หญงิ วิสสุตา ปรัชญาโยธนิ การแสดงทางวิทยาศาสตร์ สมาคมวทิ ยาศาสต์ประเทศไทย ฯ 2. เด็กชายเจษฎาพร คำน้อย ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ อพวช 3. เด็กหญิงธรี นาฎ นกเลศิ พนั ธุ์ เร่อื ง “ มหัศจรรย์วิทยาศาสตร์ ” กจิ กรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเยาวชน ศนู ย์ภาคกลาง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ เรอ่ื ง “เซลล์กัลวานกิ จากใบพชื ” กจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์สำหรับเยาวชน ศนู ยภ์ าคกลาง การแสดงทางวิทยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น เร่อื ง “ มหศั จรรย์วิทยาศาสตร์ ” รปู ภาพท่ี 29 นกั เรยี นได้นำเสนอผลงานตอ่ สาธารณะในระดับภาค
ตอนท่ี 4 ตวั ช้ีวดั รว่ ม 51 2563 4) นักเรียนได้นำเสนอ/จดั แสดง/แลกเปลี่ยนเรียนรู้/ ผลงาน/ช้นิ งาน/ภาระงาน/ผลการ ปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพในรปู แบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสตอ่ สาธารณะในระดบั ชาติ /นานาชาติ ตารางที่ 23 แสดงข้อมูลนักเรียนไดน้ ำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดับชาติ /นานาชาติ นกั เรยี น ผลงาน หนว่ ยงาน/องค์กร 1. เด็กหญิงวรณนั พนั ธุไ์ พโรจน์ การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั 2. เดก็ หญิงวรษิ ฐา ปอ้ มนอ้ ย ทางวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร “ จกั รยานไฟฟา้ รุน่ จ๋วิ ” การประกวดผลงานสิง่ ประดษิ ฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 “ จกั รยานไฟฟา้ รุ่นจว๋ิ ” งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนักเรยี น ระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2561 รูปภาพที่ 30 นกั เรียนไดน้ ำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดับชาติ 1.4 การได้รับ รางวลั / ยกย่อง เชิดชู 1) ผลงาน/ ผลการปฏบิ ัตงิ านของนักเรยี น ได้รับรางวัล/ยกย่องเชิดชใู นระดบั เขต/จงั หวดั ตารางท่ี 24 แสดงข้อมลู ผลงานได้รบั รางวลั /ยกย่องเชดิ ชู ในระดับเขต/จังหวัด ที่ ผลงาน/ช้นิ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบัตงิ าน จากหน่วยงาน/องคก์ ร 1 รางวัลชนะเลศิ ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ รุน่ จว๋ิ ” สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 เขต 4 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยี ของนกั เรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดับชาติ (ภูมิภาคภาคกลางและภาค ตะวันออก) สงั กดั เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา 2 รางวัลระดบั เหรียญทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา (Science show) งานศิลปหตั ถกรรมนกั เรียน ครง้ั ที่ 69 ระดับเขต เขต 4 พ้นื ทกี่ ารศึกษา 3 รางวลั รองชนะเลิศอนั ดบั 1 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม เขต 4 วชิ าการ และเทคโนโลยขี องนักเรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดับเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษา
ตอนท่ี 4 ตัวช้ีวดั ร่วม 52 2563 รางวัลชนะเลิศ การประกวดผลงานส่ิงประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนักเรียน ปกี ารศึกษา 2561 ระดบั เขตพืน้ ท่กี ารศึกษา รางวัลระดบั เหรียญทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) งานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียน ครงั้ ที่ 69 ระดบั เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา รางวลั รองชนะเลิศอันดบั 1 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยขี องนักเรียน ปีการศกึ ษา 2561 ระดับเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา รูปภาพที่ 31 ผลการปฏิบัติงานของนกั เรยี น ไดร้ ับรางวัล/ยกย่องเชดิ ชูในระดับเขต/จังหวดั 2) ผลงาน/ ผลการปฏบิ ตั งิ านของนกั เรียน ไดร้ บั รางวลั /ยกย่องเชดิ ชู ในระดับภาค ตารางท่ี 25 แสดงขอ้ มูลผลงานของนักเรยี นได้รับรางวัล/ยกยอ่ งเชิดชู ในระดบั ภาค ท่ี ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏบิ ัติงาน จากหน่วยงาน/องคก์ ร 1 รางวัลระดับเหรยี ญทอง ผลงาน “ จักรยานไฟฟา้ รนุ่ จิ๋ว” สำนักงานคณะกรรมการ การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี อง กระทรวงศึกษาธิการ นกั เรียน ปกี ารศึกษา 2561 (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาคตะวันออก) สงั กดั เขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา
ตอนท่ี 4 ตวั ชี้วดั ร่วม 53 2563 รางวลั ระดบั เหรียญทอง ผลงาน “ จักรยานไฟฟา้ รนุ่ จว๋ิ ” การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนกั เรียน ปกี ารศึกษา 2561 (ภมู ิภาคภาคกลางและภาคตะวันออก) สังกดั เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา รูปภาพท่ี 32 ผลการปฏิบัติงานของนักเรียน ไดร้ บั รางวัล/ยกย่องเชิดชใู นระดับเขต/จงั หวดั 3) ผลงาน/ ผลการปฏิบัติงานของนักเรยี น ได้รับรางวัล/ยกย่องเชิดชู ในระดบั ชาติ/ นานาชาติ ตารางที่ 26 แสดงข้อมูลผลงานของนักเรยี น ไดร้ ับรางวลั ในระดบั ชาติ ที่ ผลงาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั งิ าน จากหนว่ ยงาน/องค์กร 1 รางวลั ระดับเหรยี ญทอง ผลงาน “ จักรยานไฟฟ้ารุน่ จว๋ิ ” สำนกั งานคณะกรรมการ การประกวดผลงานสง่ิ ประดิษฐ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยีของ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร นักเรยี น ปีการศึกษา 2561 ระดับชาติ (ภูมิภาคภาคกลางและภาคตะวนั ออก) สังกัดเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศึกษา รางวัลระดบั เหรียญทอง ผลงาน “ จักรยานไฟฟ้าร่นุ จ๋วิ ” การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยขี องนกั เรยี น ระดบั ชาติ ปีการศึกษา 2561 (ภมู ิภาคภาคกลางและภาคตะวนั ออก) สงั กดั เขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา รปู ภาพที่ 33 ผลการปฏบิ ัติงานของนักเรยี น ไดร้ ับรางวัล/ยกย่องเชิดชูในระดับชาติ
ตอนที่ 4 ตวั ชี้วดั รว่ ม 54 2563 4) ผลงาน/ชน้ิ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั ิงานของนักเรียน ได้รบั รางวลั /ยกยอ่ งเชิดชู และมีผูน้ ำไปประยุกต์ใช้/เป็นแนวคิดในการพัฒนาผลงานของนกั เรียน/ครูนอกสถานศกึ ษา ตารางที่ 27 แสดงข้อมูลมีผนู้ ำไปประยุกตใ์ ช้/เปน็ แนวคิดในการพัฒนาผลงานของนกั เรยี น ท่ี ผลงาน/ชน้ิ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏบิ ัตงิ าน ผนู้ ำไปประยกุ ตใ์ ช้ 1 ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ ร่นุ จิ๋ว” ผปู้ กครอง และผทู้ ส่ี นใจ 2 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง “ มหศั จรรย์ ครูกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ” โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม นำแนวคิดไป พัฒนา ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เกี่ยวกบั แสง สี 3 โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพ ครูกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง “เซลล์กลั วานกิ จากใบพชื ” โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม นำแนวคดิ ไป พฒั นากจิ กรรมการเรยี นรู้ องค์ประกอบท่ี 2 ผลการพฒั นาตนเอง ตัวชวี้ ดั 1. เปน็ แบบอย่างและเปน็ ทยี่ อมรับจากบคุ คลอน่ื ๆ 1) พัฒนาตนเองในด้านคณุ ธรรม จริยธรรม การพัฒนาจิตอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 คร้งั โดยพัฒนาจติ พัฒนาตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดังน้ี 1.1) การไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา และแผเ่ มตตาก่อนนอนทุกคนื 1.2) เข้าร่วมทำบุญ ตกั บาตร เวยี นเทยี นในวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันเกิดโรงเรียน ทำบญุ อยู่เปน็ ประจำ 1.3) เขา้ คา่ ยอบรมคุณธรรมจริยธรรม รูปภาพที่ 34 แสดงการพัฒนาด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม การพัฒนาจิต 2) ปฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ีตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทง้ั ในหน้าท่รี าชการ และส่วนตน ดังนี้ 2.1) ข้าพเจ้าเป็นผ้ทู ่ีดำเนินชวี ิตตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงภายใตห้ ลักความ พอเพียง ซ่ึงประกอบดว้ ย หลกั พอประมาณ มเี หตผุ ลและการมีภูมิคมุ้ กนั ตลอดจนนาคุณธรรมมาใชค้ วบคู่ใน การดำเนนิ ชีวติ ตามฐานะ 2.2) ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและคุ้มคา่
ตอนท่ี 4 ตัวช้วี ดั รว่ ม 55 2.3) มกี ารวางแผนสาหรบั การออมเงินเพ่อื ใชจ้ ่ายในยามจำเป็น 2563 2.4) ดำรงชีวติ อย่างพอเพยี ง 2.5) นำหลักธรรมทีน่ ำมาซ่งึ ความสงบสขุ มาใช้ในการดำเนินชีวิต 3) น้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรียน การสอนจนได้รับการยอมรบั หรือการยกย่องเชดิ ชจู ากหน่วยงาน/องค์กรภาครัฐ ระดับเขต/จงั หวัด ดงั นี้ 3.1) นำแนวปรัชญามาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จนได้รับการ พจิ ารณาใหเ้ ล่อื นวทิ ยฐานะชำนาญการ 3.2) ข้าพเจ้าได้วิเคราะห์หลักสูตรและออกแบบหน่วยการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งข้าพเจ้าได้ นำหลักพอประมาณ มีเหตุผลและการมีภูมิคุ้มกันมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดย เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีแนวคิดตรงตามวัตถุประสงค์ของงานและมีความ ประหยัดและคุม้ ค่า 4) น้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนจนไดร้ บั การยอมรับหรอื การยกยอ่ งเชิดชจู ากหน่วยงาน/องคก์ รระดบั ชาติ ซงึ่ ข้าพเจา้ เป็นสว่ นหน่ึงในการจดั กิจกรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ตามปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง สง่ ผลให้โรงเรียนได้รบั รางวัลสถานศึกษาพอเพยี ง รปู ภาพท่ี 35 โรงเรียนไดร้ ับรางวัลสถานศกึ ษาพอเพยี ง
ตอนที่ 4 ตวั ชวี้ ดั รว่ ม 56 2563 ตวั ชีว้ ดั ที่ 2 การพฒั นาตนเองอย่างต่อเนอื่ ง ส่วนที่ 1 การไดร้ ับการพัฒนา ตารางท่ี 28 แสดงการไดร้ ับการพัฒนา (ในรอบ 2 ปี) ปี 2562 ปี พ.ศ. จำนวน หัวเร่ือง/หัวขอ้ หน่วยพัฒนา การนำผลไปใช้ (ชวั่ โมง) 2562 8 การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการครรู ะดบั ชนั้ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ นำความร้ทู ไี่ ด้มาใช้ในการ มัธยมศึกษาตอนปลาย มหาวิทยาลยั กรุงเทพ เตรยี มความพรอ้ มสำหรบั การ “การสอนปัญญาประดษิ ฐใ์ นระดบั สอนปญั ญาประดษิ ฐใ์ นระดบั มัธยมศึกษา” (AI Education for Young มัธยมศกึ ษา Students) 2562 12 การอบรมเชิงปฏบิ ัติการ เรื่อง “ขยาย โรงเรยี นวิทยาศาสตรจ์ ฬุ า นำความรู้ทีไ่ ดม้ าใชใ้ นการ ผลองคค์ วามรู้ทางวิชาการและวธิ ีการ ภรณร์ าชวทิ ยาลัย ปทมุ ธานี เตรยี มเทคนิคปฏิบัตกิ ารทาง ฟสิ กิ ส์ และการออกแบบ จดั การเรียนการสอนคณติ ศาสตร์และ กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื พัฒนา วิทยาศาสตร์”คร้ังที่ 1 มโนทัศนท์ างฟิสกิ ส์ จากการ ทดลอง และการประยุกต์ใช้ เครอ่ื งมอื ICT 2562 12 การอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร เร่ือง “ขยาย โรงเรยี นวิทยาศาสตร์จุฬา นำความรทู้ ี่ไดม้ าใช้ในการ ภรณร์ าชวิทยาลยั ปทมุ ธานี เตรยี มเทคนคิ ปฏบิ ตั กิ ารทาง ผลองคค์ วามรู้ทางวชิ าการและวธิ ีการ ฟิสิกส์ และการออกแบบ จดั การเรยี นการสอนคณิตศาสตร์และ กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นา วิทยาศาสตร์”คร้งั ที่ 2 มโนทศั นท์ างฟิสิกส์ จากการ ทดลอง และการประยกุ ตใ์ ช้ เครื่องมอื ICT รวมชั่วโมงการพัฒนาตนเอง ปี 2562 จำนวน 32 ชว่ั โมง ปี 2563 ปี พ.ศ. จำนวน หัวเรื่อง/หัวขอ้ หน่วยพัฒนา การนำผลไปใช้ (ชว่ั โมง) 2563 6 อบรมสัมมนาออนไลน์ หลกั สตู ร เตรยี ม สำนกั งานเขตพนื้ ที่ แนวทางการจดั การเรียน ความพรอ้ มการจดั การเรียนการสอน การศึกษามธั ยมศกึ ษา การสอนทางไกล ดว้ ยระบบ ออนไลนด์ ้วย MS Team ปทุมธานี ออนไลน์ โดยใช้ MS Team 2563 20 การอบรมครูด้วยระบบออนไลน์ สำนกั งานคณะกรรมการ การนำหลกั การของ หลกั สตู รอบรมออนไลน์การจดั การ การศึกษาข้นั พน้ื ฐาน และ วิทยาการคำนวณมาใช้ เรียนร้วู ทิ ยาการคำนวณสำหรบั ครผู สู้ อน สถาบนั ส่งเสรมิ การสอน ประยกุ ตใ์ นการจดั กจิ กรรม มธั ยมศึกษาปีที่ 1-3 Coding Online วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การเรยี นการสอน รายวิชา Grade 7-9 Teacher (C4T-8) วทิ ยาศาสตร์
ตอนท่ี 4 ตัวชว้ี ดั รว่ ม 57 ปี พ.ศ. จำนวน หวั เร่ือง/หัวขอ้ หน่วยพัฒนา 2563 (ชวั่ โมง) การนำผลไปใช้ 2563 20 การอบรมครดู ้วยระบบออนไลน์ สำนกั งานคณะกรรมการ การนำหลักการของ หลกั สตู รอบรมออนไลน์การจัดการ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน และ วทิ ยาการคำนวณมาใช้ ประยุกต์ในการจดั กจิ กรรม เรียนร้วู ทิ ยาการคำนวณสำหรบั ครูผสู้ อน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอน การเรียนการสอน รายวิชา วิทยาศาสตร์ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 Coding Online วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี Grade 10-12 Teacher (C4T-9) 2563 15 การจัดการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอน การออกแบบการจดั การ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ทสี่ ง่ เสริม วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เรยี นรู้ ท่ีสง่ เสริมทักษะการ ทักษะการคิดและแกป้ ัญหา คดิ และแก้ปัญหา ในรายวชิ า (ระดบั มธั ยมศกึ ษา) ฟสิ ิกส์ 2563 19 Online Workshops & Seminars คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ การศึกษาเพ่ือพฒั นาวชิ าชีพ EDUCA 2020 งานมหกรรมทาง มหาวิทยาลยั ครู การศกึ ษาเพอื่ พัฒนาวชิ าชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ คร้งั ที่ 13 ในรปู แบบการประชมุ เชิง มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ปฏิบตั กิ ารรปู แบบออนไลนผ์ า่ นเว็บไซต์ คณะศกึ ษาศาสตร์ http://educa2020.educathai.com/ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ คณะวทิ ยาการเรยี นรู้และ ศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ 2563 20 หลกั สตู รระบบวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี นเพอ่ื หนว่ ยพัฒนาครู บรษิ ทั การวิเคราะหผ์ เู้ รียนเพอื่ ออกแบบแผนการจดั การเรียนรู้ นวัตกรรมสรา้ งสรรค์ ออกแบบแผนการจดั การ รายบุคคล การศกึ ษา จำกัด เรยี นร้รู ายบุคคล รวมช่วั โมงการพัฒนาตนเอง ปี 2563 จำนวน 100 ชวั่ โมง
ตอนท่ี 4 ตวั ชี้วดั รว่ ม 58 สว่ นท่ี 2 การพัฒนาตนเอง โดยขา้ พเจ้าไดจ้ ดั ทำ ID Plan ดังนี้ 2563 ตารางที่ 29 แสดงการพัฒนาจัดทำ ID Plan 1.สมรรถนะหลกั (Core Competency) ระยะเวลาในการพัฒนา เร่ิมต้น 16 พ.ค.2563 ส้ินสุด 31 มี.ค.2564 อันดบั รปู แบบ/วิธกี ารพฒั นา แหล่งศกึ ษาหรอื การนำไปใช้ประโยชน์ ความ สมรรถนะ หน่วยงาน สำคญั เกดิ การศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ ตดิ ตามองค์ความรู้ใหมๆ่ ทาง 1 1.3 การพัฒนาตนเอง ฝึกอบรม โรงเรยี น วิชาการและวชิ าชีพ สามารถสรา้ ง องคค์ วามร้แู ละนวัตกรรมในการ เรียนรู้จากการปฏิบัตงิ าน สำนกั งานเขตพื้นท่ี พฒั นาองค์กรและวชิ าชพี สามารถ แลกเปลย่ี นความคิดเห็น และสร้าง ศึกษาเพม่ิ เติมดว้ ยตนเอง การศกึ ษา เครอื ข่ายการเรยี นรู้ เกิดความรว่ มมอื ช่วยเหลือและ ปรกึ ษาผเู้ ช่ียวชาญ สถาบนั อุดมศึกษา สนบั สนุนเพอื่ นรว่ มงาน มกี าร เสรมิ แรงให้กำลังใจเพ่ือนรว่ มงาน 2 1.4 การทำงานเป็นทีม ฝกึ อบรม โรงเรยี น ตลอดจนสามารถปรับตัวเข้ากับ กลุ่มคนหรือสถานการณ์ท่ี เรยี นร้จู ากการปฏิบัติงาน สำนกั งานเขตพ้ืนที่ หลากหลาย อีกทงั้ สามารถแสดง บทบาทผู้นำหรอื ผู้ตามและเขา้ ไปมี ศกึ ษาเพม่ิ เติมด้วยตนเอง การศึกษา สว่ นรว่ มกบั ผูอ้ น่ื ในการพัฒนาการ จัดการศึกษาให้บรรลุผลสำเรจ็ ตาม สถาบนั อุดมศึกษา เปา้ หมาย สามารถวางแผนการกำหนด 3 1.1 การม่งุ ผลสมั ฤทธิ์ ฝกึ อบรม โรงเรยี น เป้าหมาย ด้านวิเคราะห์ สงั เคราะห์ภารกจิ งาน มคี วาม ในการปฏบิ ตั งิ าน เรยี นร้จู ากการปฏบิ ัติงาน สำนกั งานเขตพ้ืนท่ี มุ่งมนั่ ในการปฏิบัติหนา้ ที่ใหม้ ี ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง การศกึ ษา คุณภาพ ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นสมบูรณ์ ตลอดจนสามารถติดตาม ปรกึ ษาผู้เช่ยี วชาญ สถาบนั อุดมศึกษา ประเมินผลการปฏบิ ัติงานและ พฒั นาการปฏิบตั งิ านใหม้ ี 4 1.5 จริยธรรม และ ฝกึ อบรม โรงเรยี น ประสิทธิภาพอย่างตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื ให้ งานประสบความสำเรจ็ จรรยาบรรณวชิ าชีพ เรียนรูจ้ ากการปฏิบัติงาน สำนักงานเขตพ้ืนที่ เกดิ ความรกั และศรัทธา ในวิชาชีพ ครู ศกึ ษาเพิม่ เติมดว้ ยตนเอง การศกึ ษา มวี ินยั และความรับผิดชอบใน สถาบนั อุดมศึกษา วชิ าชพี สมารถดำรงชวี ิตอย่าง เหมาะสม และประพฤติปฏิบัตติ น 5 1.2 การบริการที่ดี ฝกึ อบรม โรงเรียน เป็นแบบอยา่ งที่ดี เกดิ ความตั้งใจและเตม็ ใจในการ เรียนรจู้ ากการปฏิบัติงาน สำนกั งานเขตพ้ืนที่ ให้บรกิ ารและสามารถปรบั ปรุง ระบบบริการใหม้ ีประสทิ ธิภาพ ศึกษาเพิม่ เติมด้วยตนเอง การศึกษา สถาบันอุดมศกึ ษา
ตอนที่ 4 ตวั ชีว้ ดั ร่วม 59 2.สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) 2563 ระยะเวลาในการพัฒนา เริ่มต้น 16 พ.ค.2563 สนิ้ สุด 31 มี.ค.2564 อันดับ รูปแบบ/วิธกี ารพัฒนา แหลง่ ศึกษาหรอื การนำไปใชป้ ระโยชน์ ความ สมรรถนะ หนว่ ยงาน สำคญั 1 2.1 การบริหารจดั การ ฝึกอบรม โรงเรียน สามารถสร้างและพัฒนาหลักสูตร หลักสูตรและการจัดการ เรียนรูจ้ ากการปฏบิ ัตงิ าน สำนกั งานเขต ออกแบบการเรียนรอู้ ย่างสอดคลอ้ ง เรยี นรู้ (Curriculum and ศึกษาเพมิ่ เติมด้วยตนเอง พน้ื ที่การศึกษา และเป็นระบบ จดั การเรียนรูท้ ่เี น้น Learning Management) ปรกึ ษาผู้เชย่ี วชาญ สถาบัน ผเู้ รียนเปน็ สำคญั ใชแ้ ละพัฒนาสอ่ื อดุ มศกึ ษา นวตั กรรมเทคโนโลยี และการวดั ประเมนิ ผล การเรียนรู้ เพ่อื พฒั นา ผู้เรยี นอย่างมีประสิทธภิ าพและเกิด ประสทิ ธผิ ลสงู สุด 2 2.4 การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ ฝึกอบรม โรงเรยี น สามารถทำความเขา้ ใจ แยกประเด็น และการวิจยั เพ่ือ พัฒนา เรียนรู้จากการปฏบิ ัตงิ าน สำนกั งานเขต เปน็ สว่ นย่อย รวบรวม ประมวลหา ผู้เรียน(Analysis & ศึกษาเพิม่ เติมด้วยตนเอง พื้นที่การศกึ ษา ข้อสรปุ อยา่ งมีระบบและนำไปใช้ในการ Synthesis & Classroom ปรกึ ษาผู้เชย่ี วชาญ สถาบนั วิจัยเพ่อื พัฒนาผู้เรียน รวมท้ังสามารถ Research) อุดมศึกษา วเิ คราะห์องคก์ รหรอื งานในภาพรวม และดำเนินการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนา งานอยา่ งเป็นระบบ 3 2.3 การบรหิ ารจดั การชั้น ฝึกอบรม โรงเรยี น สามารถจัดบรรยากาศการเรียนรู้ เรยี น เรียนรู้จากการปฏบิ ัตงิ าน สำนกั งานเขต จดั ทำขอ้ มูลสารสนเทศและเอกสาร (Classroom Management) ศกึ ษาเพิม่ เติมด้วยตนเอง พ้ืนทก่ี ารศกึ ษา ประจำช้นั เรียน/ประจำวชิ า การกำกับ สถาบนั ดูแลชัน้ เรยี นรายช้ัน/รายวิชา เพอ่ื อดุ มศึกษา ส่งเสรมิ การเรยี นรอู้ ยา่ งมีความสขุ และ ความปลอดภยั ของผเู้ รยี น 4 2.2 การพัฒนาผเู้ รยี น ฝึกอบรม โรงเรียน สามารถปลูกฝังคุณธรรมจรยิ ธรรม (Student Development) เรยี นรจู้ ากการปฏิบัตงิ าน สำนักงานเขต พฒั นาทกั ษะชีวติ สุขภาพกาย และ ศึกษาเพ่ิมเติมดว้ ยตนเอง พื้นทก่ี ารศกึ ษา สุขภาพจิต ความเป็นประชาธิปไตย สถาบัน ความภูมิใจในความเป็นไทย การ อดุ มศกึ ษา จดั ระบบดูแลช่วยเหลอื ผ้เู รยี นเพ่อื พฒั นาผู้เรียนให้มคี ุณภาพ 5 2.5 ภาวะผ้นู ำครู ฝึกอบรม โรงเรยี น เกดิ วุฒิภาวะความเป็นผูใ้ หญ่ท่ี (Teacher Leadership) เรียนรจู้ ากการปฏบิ ัตงิ าน สำนักงานเขต เหมาะสมกับความเป็นครู สามารถ ศึกษาเพมิ่ เติมดว้ ยตนเอง พ้นื ท่กี ารศกึ ษา สนทนาอย่างสรา้ งสรรค์ เป็นบุคคลแหง่ สถาบัน การเปลี่ยนแปลง สามารถปฏบิ ัตงิ าน อดุ มศึกษา อย่างไตร่ตรองและมุง่ พัฒนาผลสมั ฤทธ์ิ ผู้เรียนให้มีคุณภาพ 6 2.6 การสรา้ งความสัมพันธ์ ฝึกอบรม โรงเรียน เกดิ การสรา้ งความสัมพันธแ์ ละความ และความร่วมมือกบั ชุมชน เรียนรู้จากการปฏิบัติงาน สำนักงานเขต ร่วมมือกับชุมชน เพอ่ื การจัดการเรยี นรู้ เพ่อื การจดั การเรยี นรู้ ศกึ ษาเพมิ่ เติมด้วยตนเอง พ้นื ทีก่ ารศกึ ษา และสามารถสรา้ งเครือขา่ ยความ (Relationship & สถาบัน ร่วมมอื เพอ่ื การจัดการเรยี นรู้ Collaborative for อุดมศึกษา Learning)
ตอนท่ี 4 ตวั ชีว้ ดั รว่ ม 60 2563 ตวั ช้ีวดั ร่วม : องคป์ ระกอบที่ 3 การดำเนินงาน / ผลงานทเี่ ป็นเลศิ 1. การนำองค์ความรู้จากการได้รับการพัฒนา หรอื การพฒั นาตนเองไปใชป้ ระโยชน์ จากความรทู้ ่ีขา้ พเจ้าไดร้ บั การพฒั นา ข้าพเจ้าไดน้ ำความรไู้ ปสร้างเว็บไซต์ ห้องเรียนฟิสกิ ส์ ซง่ึ เข้าถึงได้ จาก https://sites.google.com/site/scikrutoon/ ซึ่งภายในจะมีเน้ือหาความรู้ คลปิ วีดโี อทเี่ กี่ยวข้องกับเน้อื หาในแต่ ละหนว่ ยการเรียนรู้ โดยจะมกี ารมอบหมายให้นกั เรยี นทำกิจกรรมตา่ งๆ มีการเชื่อมโยงเทคโนโลยีสารสนเทศ ต่างๆทม่ี ี อย่บู นเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตมาใชป้ ระโยชน์ในด้านการจดั การเรยี นรู้ เพือ่ ใหน้ กั เรียนรู้จักใช้อนิ เทอร์เน็ตใหเ้ กดิ ประโยชน์ นอกจากนค้ี วามรทู้ ไี่ ด้จากการการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรอื่ ง การพฒั นาเทคนิคการสอนดว้ ยเทคโนโลยีดจิ ิทัลประเภท Live Video ยงั นำมาส่กู ารสรา้ ง Facebook FanPage เพื่อช่วยเปน็ ฐานการชว่ ยเหลอื ช่องทางหนึ่ง ทจ่ี ะช่วยทบทวน ความรู้ให้กบั นักเรียน จากความรทู้ ขี่ า้ พเจ้าไดร้ ับการพฒั นาและนำมาใชใ้ นการจัดการเรยี นรูน้ น่ั เอง ทำใหม้ เี พื่อนครใู ห้ ความสนใจ และตอ้ งการได้รบั ความรู้ จงึ ไดเ้ ผยแพร่ใหค้ วามรกู้ บั เพื่อนครทู งั้ ในโรงเรียน และผทู้ ีส่ นใจ รูปภาพที่ 36 แสดงการนำความรใู้ นการพฒั นาตนเองไปใชป้ ระโยชน์ ในการสร้างแหลง่ เผยแพรค่ วามรู้ และจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทำให้ ในปีการศกึ ษา 2563 ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ภายในโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม การเรียนรู้แนวทางการ จัดการเรียนการสอนทางไกลด้วยระบบออนไลน์ โดยใช้ แพลตฟอร์มแบบต่างๆ เช่น Facebook Live , Google meet , Zoom หรือ MS Team และจากบริบทของโรงเรียนขนาดใหญ่ทางโรงเรียนมีนโยบายให้ใช้แพลตฟอร์ม Facebook Live ซึ่งได้ความรู้ที่ได้จากการการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาเทคนิคการสอนด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัลประเภท Live Video มีส่วนช่วยในการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้เป็นอยา่ งมาก อีกทั้งความรู้ การจัดการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่ส่งเสริมทักษะการคิดและแก้ปัญหา นำมาพัฒนากิจกรรมการจัดการ เรียนรู้ประกอบบทเรียน เพื่อส่งเสริมทักษะการคดิ ใหก้ ับผู้เรียน นอกจากนี้ การได้มีโอกาสเข้ารว่ มเรียนรู้ การใช้งาน Applications Tiktok ในการพัฒนาส่ือสร้างสรรค์ ร่วมกับ พสวท ทำให้ได้แนวทางการนำมาใชใ้ นการพัฒนาส่ือ และ กจิ กรรมทส่ี ่งเสริมการเรียนรู้
ตอนที่ 4 ตวั ช้วี ดั ร่วม 61 2563 การนำองค์ความรูจ้ ากการไดร้ บั การพัฒนา หรือการพัฒนาตนเองไปใช้ประโยชน์ การจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ด้วยระบบออนไลน์ โดยใช้ แพลตฟอร์ม Facebook Live การใช้งาน Applications Tiktok ในการ พฒั นาส่ือสร้างสรรค์ รูปภาพที่ 37 แสดงการนำความร้ใู นการพฒั นาตนเองไปใชป้ ระโยชน์ ในการพัฒนาผู้เรยี น
ตอนที่ 4 ตัวชวี้ ดั รว่ ม 62 2563 1.1 นำไปพฒั นาผูเ้ รยี นแบบองคร์ วมได้ ความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ข้าพเจ้าได้นำความรู้ไปใช้พัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวม กล่าวคือ พัฒนาผู้เรียนทั้งด้าน ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการและเจตคติ โดยมีข้นั ตอนดังน้ี 1.1) ศึกษาหลกั สูตรของสถานศกึ ษา เอกสารประกอบหลักสตู รและวิเคราะห์ผลการเรยี นรู้ 1.2) ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ครอบคลุม เหมาะสมกับผู้เรียน กำหนดจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรทู้ ่ีครอบคลมุ ท้ัง 3 ดา้ น คือ ดา้ นพทุ ธิพสิ ยั ดา้ นทกั ษะพิสัย และดา้ นจติ พิสัย 1.3) ศึกษาเทคนิควิธีการในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เลือกใช้สื่อ/แหล่งเรียนรู้ เพื่อนำมาใช้ ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมสอดคล้องกับเน้ือหาสาระและกล่มุ ผ้เู รยี น 1.4) กำหนดวิธีการวัดและประเมินผล พร้อมเครื่องมือการวัดและประเมินผล รวมท้ัง ออกแบบและสรา้ งเครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ใหค้ รอบคลมุ ตามผลการเรียนรู้ (รายวิชาเพิ่มเตมิ ) 1.5) นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้สื่อ/ นวตั กรรมอยา่ งหลากหลายประกอบการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทั้งน้ี มีการวัดและประเมินผลในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม คือ การประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment) และ การประเมินการปฏิบัติ (Performance Assessment) โดยผ่านการปฏิบัติ ของผเู้ รยี น การวัดและประเมินผลดว้ ยวธิ กี ารดงั กลา่ วต้องวัดและประเมินได้ครอบคลุม ครบถว้ นพฤตกิ รรมของ ผู้เรียนทัง้ 3 ดา้ น ดังนี้ ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) การประเมินความรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ และ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม เป็นการให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ ทั้งเนื้อหาด้าน ทฤษฎแี ละปฏิบัติ ซึ่งความร้ใู นเน้ือหาสาระนสี้ ามารถประเมินโดยการใช้แบบทดสอบ ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor Domain) การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะทส่ี ำคัญของนักเรียนในศตวรรษท่ี 21 ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นการประเมินการแสดงออกของผู้เรียนทั้งหมด ตลอดจน การทำงานรว่ มกันและคุณลกั ษณะต่างๆ ซึง่ สามารถประเมนิ ด้วยวิธกี ารสังเกตได้อย่างชัดเจน 1.2 นำไปบรู ณาการกบั หน่วย/เรอ่ื งอ่นื ๆ ได้ ข้าพเจ้าสามารถนำความรู้จากการพัฒนาตนเองด้านเทคโนโลยี ไปบูรณาการการจัดการ เรียนรู้ ในรายวิชาที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย ให้จัดการเรียนการสอน กล่าวคือ ระหว่างที่ข้าพเจ้าวิเคราะห์ หลักสูตรและออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันใน การกำหนดหน่วยการเรียนรู้และกำหนดสาระสำคัญหรือความคิดรวบยอดได้ในโครงสร้างรายวิชาที่ได้รับ มอบหมายใหจ้ ดั การเรยี นรู้ ซง่ึ จะมีความเชื่อมโยงสอดคล้องกนั ต้งั แต่มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ผลการ เรยี นรู้ (รายวิชาเพม่ิ เติม) สาระการเรียนรู้ ความคิดรวบยอด การกำหนดเวลา (ช่วั โมง) และการกำหนดน้ำหนัก คะแนน รวมทั้งการตง้ั ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ซึง่ ในแต่ละประเด็นมีความสมั พันธเ์ ชอื่ มโยงกนั ตัวอย่างเชน่ การจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสกิ สเ์ พม่ิ เติม ในการกำหนดแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ จะ เช่ือมโยงเนือ้ หาต่อเนื่องกัน ตัวอยา่ งเช่น หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง งานและพลงั งาน ผ้เู รียนจะต้องให้ความรู้ เกยี่ วกับการเคลอ่ื นท่แี บบตา่ งๆ เร่ือง กฎการเคลื่อนทีข่ องนิวตัน การเขียนแผนภาพแสดงแนวแรง มาใช้ อธิบายร่วมกบั กฎการอนุรกั ษ์พลังงาน ในการจัดการเรียนรูห้ น่วยการเรียนดังกลา่ ว เป็นตน้
ตอนท่ี 4 ตวั ช้วี ดั รว่ ม 63 2563 1.3 นำไปใชบ้ ูรณาการกบั รายวชิ าอ่ืนๆ ได้ ขา้ พเจา้ ได้ใช้องค์ความรจู้ ากการพฒั นาตนเอง นำไปพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ กิดองค์ความรู้ที่ มีการเชื่อมโยงกันในทุกรายวิชา โดยการบรู ณาการกบั รายวชิ าอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย การสอนให้ผู้เรยี นมองเห็นความสัมพันธข์ องการนำความรดู้ า้ นภาษาไทยมาใช้กบั รายวิชาฟิสิกส์ และวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การสื่อสาร การใช้ถ้อยคำ การออกเสียงคำ อักขระ คำควบกล้ำ ฯลฯ ใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย การเรยี บเรียงบทความและรายงานผลเก่ียวกบั ชนิ้ งาน คณติ ศาสตร์ การสอนให้ผู้เรียนรูจ้ ักนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ประยุกต์ใช้ในการคำนวณ การแก้สมการ การ วัด การกำหนดความสมั พันธ์ และตัวแปร กราฟต่างๆ ฯลฯ สงั คมศกึ ษา การสอนใหผ้ ูเ้ รยี นการนำความรเู้ ก่ยี วกบั เก่ยี วกบั สังคมศกึ ษา ประวัตศิ าสตร์ มาใชศ้ ึกษาประวัติ การดำเนินการด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเรื่องต่างๆ และความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นแต่ละ แห่ง ความเชือ่ และวฒั นธรรมของการศกึ ษาหาความรทู้ างวิทยาศาสตร์ ฯลฯ การงานอาชีพ การสอนให้ผู้เรียนใช้ความรู้เรื่องงานประดิษฐ์ และสร้างอุปกรณ์ หรือชิ้นงาน ตลอดจนการ และเทคโนโลยี เลือกใช้เครื่องมือทางด้านเทคโนโลยี การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการสืบค้นหา ความรู้ และสามารถนำมาใช้ประกอบการนำเสนอข้อมูลของนักเรียนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ฯลฯ ภาษาต่างประเทศ การสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะทางวิทยาศาสตร์ทั้งภาษาไทยและใช้ ภาษาอังกฤษในการเรียนร้อู ยา่ งเหมาะสม ฯลฯ จะเห็นว่าจากข้อมูลข้างต้น ข้าพเจ้าสามารถใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์เป็นหลักในการ บูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ ได้เหมาะสมตามสภาพจริง อย่างเช่นในกิจกรรม ผลงาน OCOP : One Classroom One Project ของนกั เรยี น จะต้องบรู ณาการความรู้ทุกสาระวิชา โดยผลงานของนกั เรยี น จะเป็น การใชอ้ งคค์ วามรใู้ นแตล่ ะรายวิชามาสรา้ งเปน็ ผลงาน ชิ้นงาน ของหอ้ งตนเอง เปน็ ตน้ รปู ภาพท่ี 38 แสดงการบรู ณาการกิจกรรมกับรายวชิ าอื่นๆ (ช้ินงานท่ีนำความรู้ทางกลศาสตร์ ในรายวิชาฟิสกิ ส์ มาใชป้ ระโยชน)์
ตอนที่ 4 ตัวช้วี ดั รว่ ม 64 2563 1.4 นำไปใชเ้ ปน็ ต้นแบบเผยแพร่ขยายผลได้ จากผลการพัฒนาตนเองทำให้ขา้ พเจา้ เกดิ องค์ความรูท้ ีเ่ ปน็ กระบวนการ สามารออกแบบ การพัฒนาผู้เรียนอย่างมีระบบและขั้นตอนตามหลักวิชาการ กล่าวคือ เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา วเิ คราะหม์ าตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั /ผลการเรียนรู้ นำมาออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ จัดทำแผนการเรยี นรู้ ออกแบบ การใช้งานสื่อ/นวัตกรรม ตลอดจนการวัดและประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพตามสภาพจริงและจัดทำวิจัยชั้นเรียน ซง่ึ ได้ดำเนินการเผยแพร่ ดงั นี้ 4.1) เผยแพร่เป็นเอกสารใหก้ ับครใู นโรงเรียน และโรงเรียนในสงั กดั สำนักงานเขตพ้นื ที่ และผูท้ สี่ นใจ ผา่ นส่ือสังคม Slideshare.net และ pubhtml5 4.2) เผยแพร่ผา่ นส่ือเว็บไซต์ https://sites.google.com/a/thk.ac.th/physics-m4/home 4.3) เผยแพร่ผ่านส่อื เวบ็ ไซต์ ระบบสารสนเทศงานวจิ ยั และนวัตกรรม 4.4) เผยแพรใ่ นการประชมุ สัมมนาเพอื่ นครูกลุ่มสาระฯ วิทยาศาสตร์ภายใน-นอกโรงเรยี น 4.5) เผยแพร่ผ่านการศกึ ษาดงู านของคณะครูโรงเรยี นตา่ งๆ ได้แก่ โรงเรยี นเทพลลี า โรงเรยี นวรราชาทินัดดามาตวุ ทิ ยา โรงเรยี นบางปลามา้ โรงเรียนมธั ยมวดั ธาตุทอง เปน็ ตน้ 4.6) เผยแพรโ่ ดยการนำเสนอผลงานวิชาการ ในการประเมนิ สถานศึกษาเพอื่ รบั รางวลั พระราชทาน ในระดับกลมุ่ จงั หวดั รปู ภาพที่ 39 แสดงการเผยแพรข่ ยายผลผ่านระบบสารสนเทศงานวจิ ยั และนวัตกรรม รปู ภาพที่ 40 เผยแพร่ผ่านส่ือ Slideshare.net และ pubhtml5
ตอนที่ 4 ตวั ชี้วดั รว่ ม 65 2563 รปู ภาพท่ี 41 เผยแพร่ในการประชมุ สัมมนาเพ่อื นครูกลุ่มสาระฯ วทิ ยาศาสตรภ์ ายใน-นอกโรงเรียน รปู ภาพที่ 42 เผยแพรโ่ ดยการนำเสนอผลงานวิชาการ ในการประเมนิ สถานศึกษาเพื่อรบั รางวัลพระราชทาน ในระดบั กลุ่มจงั หวดั 5) เช่ือมโยง/นำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ความรู้ทไี่ ด้จากการพัฒนาตนเองสามารถนำไปเชอ่ื มโยง /นำไปใช้ในชีวิตประจำวนั โดย นำแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es) ผสานกิจกรรมการเรียนรู้อย่างกระตือรือรน้ (Active Learning ) โดยมี เคร่ืองมือ ICT ทห่ี ลากหลาย เพ่ือช่วยสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ โดยการเลือก เครอื งมอื ICT ที่มีความหมายตอ่ การจัดการเรียนรู้ของผูเ้ รียน ซง่ึ มรี ะดับของการบรู ณาการ เครอื งมือ ICT และ เทคโนโลยี ในรายวชิ า ดงั นี้ 1. ผเู้ รยี นไดใ้ ชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ เครอื่ งมือในการจดั การเรียนรู้ ตัวอยา่ ง เช่น การเรียนรูจ้ ากใช้ สถานการณ์จำลองจาก PhET Interactive Simulations เวบ็ ไซต์ https://phet.colorado.edu/th/ การทดลองทางฟสิ กิ ส์ โดยใช้เซนเซอรใ์ นสมารท์ โฟน ผ่านแอพพลิเคชน่ั Phyphox 2. ผู้เรยี นใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรู้กบั ผ้อู ื่น เชน่ การแลกเปลยี่ นเรียนร้ผู ่านส่อื สังคมต่างๆ 3. การพฒั นาผเู้ รียนเช่ือมโยงความรู้เดมิ ไปสูก่ ารสร้างองค์ความรใู้ หมผ่ ่านการบูรณาการ เทคโนโลยกี ับการจดั การเรียนรู้ โดยมีอสิ ระในการใชเ้ ครอื่ งมือเทคโนโลยีสร้างองคค์ วามรู้และมโี อกาสเลือก และสืบค้นในบางคร้งั
ตอนท่ี 4 ตวั ช้วี ดั รว่ ม 66 2563 4. ผู้เรยี นไดเ้ ชื่อมโยงกิจกรรมการเรียนรู้สชู่ ีวิตจรงิ โดยการเลือกใชเ้ ทคโนโลยีตามบริบทแบบ มีความหมายต่อผู้เรยี น 5. ครูและผ้เู รียนใช้เทคโนโลยใี นการกำหนดเปา้ หมายการเรียนรู้รว่ มกนั เช่น การรว่ มกนั กำหนดเปา้ หมายความสำเร็จของกจิ กรรมการเรยี นรรู้ ว่ มกัน โดยใช้ Class123.com 6. ครแู ละผ้เู รยี นใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ งฐานการช่วยเหลอื เชน่ คลปิ วิดีโอบนแอพพลิเคช่ัน Tiktok การทบทวนบทเรียนนอกเวลา ผา่ นกจิ กรรม Live VDO บน Facebook page และกล่มุ Facebook Thkschool Online ในการจดั การเรยี นรู้ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งข้าพเจ้าได้นำแนวคิดดังกล่าว มาออกแบบพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาฟิสิกส์ สำหรับนกั เรียนในระดบั ช้ันทข่ี า้ พเจา้ ไดร้ ับมอบหมายใหจ้ ดั การเรียนการสอน การทดลองทางฟสิ กิ ส์ โดยใช้เซนเซอร์ในสมาร์ทโฟน ผา่ นแอพพลิเคช่ัน Phyphox การจดั การเรยี นรู้ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการ Live VDO บน Facebook page เป็นการเลือกใช้เทคโนโลยตี ามบริบทที่มีความหมายต่อผู้เรียน เช่น การเรียนรจู้ ากใช้สถานการณ์จำลองจาก PhET Interactive Simulations รปู ภาพท่ี 43 ผูเ้ รยี นไดใ้ ชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ เครอื่ งมือในการจดั การเรยี นรู้
ตอนท่ี 4 ตัวชีว้ ดั ร่วม 67 2563 การพฒั นาเช่ือมโยงความรูเ้ ดิมไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรใู้ หมผ่ า่ นการบูรณาการเทคโนโลยกี ับการจัดการเรยี นรู้ โดยมอี สิ ระในการใชเ้ คร่ืองมือเทคโนโลยสี ร้างองค์ความรู้และมโี อกาสเลือกและสืบคน้ ในบางคร้ัง ผเู้ รยี นได้เชอ่ื มโยงกจิ กรรมการเรียนรู้สชู่ ีวติ จริง โดยการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยีตามบรบิ ท เช่น กจิ กรรมการเรียนรู้ เก่ยี วกับระยะทางและการกระจดั ผ่านการใช้งาน Google map ผ้สู อนและผ้เู รียนไดใ้ ช้ Class123.ac กำหนดเปา้ หมายความสำเร็จร่วมกัน
ตอนท่ี 4 ตัวช้วี ดั รว่ ม 68 2563 ครแู ละผูเ้ รยี นใชเ้ ทคโนโลยีในการสร้างฐานการชว่ ยเหลอื โดยการพัฒนาคลิปวิดโี อบนแอพพลเิ คชนั่ Tiktok รปู ภาพที่ 44 ผู้เรียนได้ใช้เทคโนโลยเี ป็นเครอ่ื งมอื ในการจัดการเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั ร่วม : องค์ประกอบที่ 3 การดำเนนิ งาน / ผลงานที่เปน็ เลิศ 2. การแกป้ ัญหา /การพัฒนาผเู้ รยี น 1) การแก้ปญั หา / พัฒนาผู้เรียนโดยใช้กระบวนการวจิ ัยในชน้ั เรียน สภาพการเรียนการสอนในปัจจุบัน ขณะที่ครูทำการสอนอยู่นั้น จะมีผู้เรียนบางคนไม่สนใจเรียน บางคน เรยี นไมท่ ัน เนื่องจากความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลมผี ลต่อการเรยี นคือ ความแตกต่างในเรอ่ื งความสามารถ อัตราการ เรียน วิธีการสอน ความสนใจ และส่งิ ทชี่ อบ ดังน้นั วธิ ีการสอนของครูจงึ เป็นปัญหาหนึง่ ท่ีควรไดร้ บั การแก้ไข (อนันต์ ช้างตอ่ ,2545 หนา้ 4 อา้ งถงึ ใน นติ ธิ รรม จนั ทร์แจ่ม ,2558) การแกปญหาทเี่ กดิ ข้นึ ในการเรียนวชิ าฟสิกส์ซึ่งเป็นวิชา ทเ่ี นนการผสมผสานระหวา่ งเนือ้ หาความรู และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทจ่ี ำเปน็ ต้องใชในการเสาะแสวงหาความ รูและการแกปญหาต่าง ๆ ทั้งในเชิงทฤษฎีและการปฏิบัติ ดังนั้น ผู้เรียนจะต องมีความเขาใจในเนื้อหาสาระ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงทักษะด้านการคํานวณซึ่งถือวาเป็นสวนสำคัญที่ทำใหการเรียนการสอนวิชา ฟิสิกส์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จากปญหาการเรียนฟสิกส์ ประกอบกับขอมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผลการทดสอบทาง การศกึ ษา ระดบั ชาตขิ นั้ พ้ืนฐาน (Ordinary National Educational Test หรือ O-NET) ในส่วนของวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ในปกี ารศกึ ษา 2561 ของผเู้ รยี นระดับชัน้ มธั ยมศึกษาตอนต้น ของโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม พบว่ามี คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 40.81 โดยเมื่อพิจารณาค่าสถิติแยกตามสาระการเรียนรู้ พบว่า สาระการเรียนรู้ เรื่อง แรงและ การเคลื่อนที่ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 24.40 และสาระการเรียนรู้ เรื่อง พลังงาน มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 36.80 (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) , 2561) และของผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่ามคี ะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 33.35 โดยเม่ือพิจารณาค่าสถติ แิ ยกตามสาระการเรยี นรู้ พบว่า สาระการเรียนรูเ้ รือ่ ง แรง และการเคลื่อนที่ มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 36.27 และสาระการเรียนรู้ เรื่อง พลังงาน มีคะแนนเฉลี่ย ร้อยละ 22.27 (สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) , 2561) โดยผลการประเมินทั้งสองระดับชั้น ถือว่า ค่อนข้างต่ำเนื่องจากผลการทดสอบดังกล่าวอยู่ในระดับท่ีต่ำว่าร้อยละ 50 สอดคล้องกับคะแนนสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ รายวิชาฟิสิกส์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ค่อนข้างต่ำ คะแนนเฉลี่ยผา่ นร้อยละ 60 เพียงเล็กน้อยซึ่งไมเ่ ป็นไป ตามเป้าหมายของโรงเรียน รวมทั้ง จากการสังเกตสภาพการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาฟิสิกส์ในระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม พบว่าครูผู้สอนจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสืบ เสาะหาความรู้ 5 ขั้น ผู้เรียนส่วนใหญ่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนและระหว่างผู้เรียนน้อย และอีกสาเหตุหนึ่งจาก การเรียนการสอนที่ผ่านมา ในบางเนื้อหาของวชิ าฟิสิกส์ ลักษณะการจัดการเรียนการสอนยังจำเป็นต้องเน้นการสอน แบบบรรยาย โดยเนื้อหาการบรรยายจะเป็นหลักการทางฟิสิกส์ การศึกษากรณีตัวอย่าง และตัวอย่างการแก้โจทย์ ปัญหา โดยมีครูผู้สอนเป็นฝ่ายรุก (Active) ผู้เรียนเป็น ฝ่ายรับ (Passive) จนทำให้ผู้เรียนขาดกระบวนการคิดอย่าง
ตอนท่ี 4 ตวั ชีว้ ดั ร่วม 69 2563 เป็นระบบ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถเข้าใจทฤษฎี หรือปรากฏการณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้องชัดเจน ขาดความต่อเนื่องของเนื้อหา และไม่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีมาช่วยแก้โจทย์ปัญหา ตลอดจนไม่มีทักษะและ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ท่ีเปน็ ระบบสำหรบั การแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ ทำใหผ้ เู้ รียนส่วนใหญ่มีคะแนนในการสอบ ต่ำ จึงส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรยี นตามไปด้วย ความสามารถในการแก้โจทย์ปญั หาทางฟิสิกส์ เป็น สิ่งที่สำคัญต่อการศกึ ษาด้านฟสิ ิกส์ เนื่องจากจะทำใหผ้ ู้เรียนได้เรียนรู้การวเิ คราะห์ปัญหา การเช่ือมโยงมโนทัศน์ทาง ฟิสิกส์ในการแก้ปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ความรู้หรือมโนทัศน์ทางฟิสิกส์ไปประยุกต์เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิต ต่อไปได้ ซึ่งการจัดการเรียนรู้วิชาฟิสกิ ส์ในส่วนทีเ่ ป็นการคำนวณแกโ้ จทย์ปัญหา ต้องอาศัยความสามารถในการแปล ความโจทย์ปัญหาไปเป็นประโยคสัญลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ กราฟความสัมพันธ์ของตัวแปร พีชคณิต สมการต่างๆ ทางฟสิ ิกส์ หากผเู้ รียนขากความเข้าใจในสิง่ เหล่านี้จะสง่ ผลใหค้ วามสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ต่ำลง หรือ อาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นจะเป็นได้ว่า กระบวนการคิดและทักษะต่างๆ ของผู้เรียนมีความสำคัญมากต่อ การเรียน โดยเฉพาะการแกโ้ จทย์ปญั หาในวิชาฟิสิกส์ รวมถงึ การสอนหรอื เทคนิคอื่นๆ ทชี่ ่วยเปน็ แรงกระตนุ้ ให้ผ้เู รียน เข้าใจทฤษฎี หรือปรากฎการณต์ า่ งๆ และใหผ้ ้เู รียนฝกึ กระบวนการคดิ เพ่อื สามารถแก้ปัญหาตา่ งๆ ( อรพนิ ท์ ช่ืนชอบ , 2550 ) ซึ่งสภาพดังกล่าวสอดคล้องกับ สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ (2543 : 123) ที่กล่าวว่า การสอนแบบ บรรยายเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้นักเรียนเข้าใจทฤษฎี ปรากฏการณ์ต่างๆ และไม่สามารถแก้ปัญหาโจท ย์ ปัญหาแบบประยุกต์ได้ นอกจากนี้ในการเรียนวิชาฟิสิกส์ผู้เรียนจะต้องอาศัยกระบวนการคิดที่เป็นขั้นตอนจึงจะ สามารถแก้ปัญหาเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องได้ นักการศึกษามีความเชื่อว่า การคิดเป็นคุณสมบัติเบื้องต้นและเป็น พืน้ ฐานทสี่ ำคญั ในการพัฒนาความสามารถทางสตปิ ัญญาตา่ ง ๆ ท่ตี ้องเผชิญในชวี ติ ประจำวนั (Tsui. 2002: 740) จึง ได้มีนักวิชาการได้ทำการศึกษาและพัฒนาขั้นตอนในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์อย่างต่อเนือ่ ง โดยส่วนใหญ่ได้พิจารณา กลยุทธ์ เทคนคิ กระบวนการแก้ปญั หาอยู่บนพืน้ ฐานของนักการศึกษาทสี่ ำคญั อยา่ งโพลยา (Polya. 1957 : 6-19) ได้ เสนอขั้นเทคนิคขนั้ ตอนของการแก้ปญั หาไว้ 4 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ การทำความเขา้ ใขปญั หา การวางแผนในการแก้ปัญหา การลงมอื ทำตามแผน และการตรวจสอบวิธีการและคำตอบ ซึ่งพบว่าวิธีการแก้ปญั หาดังกล่าวสามารถช่วยใหผ้ ้เู รียน แก้ปัญหาการคิดคำนวณได้ สอดคล้องกับโปรโตเลสและโรเปส (Portoles & Lopez. 2008 : 106) กล่าวสรุปไว้ว่า ปัจจัย 2 ประการที่ทำนกั เรียนสามารถแก้โจทยป์ ัญหาทางฟิสิกส์ได้ประสบความสำเร็จ ประการแรกคอื นักเรียนต้องรู้ เข้าใจแนวคดิ ทฤษฎี และหลักการทางฟิสิกส์ และประการทีส่ อง นักเรียนต้องมกี ลยุทธ์ในการใช้แนวคิด ทฤษฎี และ หลกั การทางฟิสิกส์ ในการนำไปใชแ้ กป้ ัญหา จากความเปน็ มาและความสำคัญดงั กลา่ ว ผู้วิจัยจงึ สนใจการจดั การเรียนรทู้ ่ีร่วมกับกลวธิ แี ก้โจทย์ปัญหาทาง ฟิสิกส์ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ และความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ให้สูงข้ึน โดยมุ่งหวังการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนมีทักษะ การวางแผนในการแก้โจทย์ปัญหาและคำนวณหาคำตอบได้ อยา่ งถูกต้อง ซ่ึงผลการวิจัยในครงั้ นจ้ี ะเปน็ แนวทางในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ท่สี ามารถพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ ไปตาม เป้าหมายของการศกึ ษาในปจั จุบนั ดงั นั้น เมื่อนำกลวิธีแก้โจทย์ปญั หาทางฟิสิกส์ น้มี าใชร้ ่วมกบั การจดั การเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยพัฒนาเป็นแบบฝึกทักษะการแทรกเข้าไปในขั้นขยายความรู้ (Elaboration) จะส่งผลดี อย่างยิ่งต่อความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ของนักเรียน และทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ ของนักเรียนสูงข้นึ ตามไปดว้ ย
ตอนท่ี 4 ตวั ชี้วดั รว่ ม 70 2563 ชื่อวิจัย การศึกษาผลการจัดการเรียนรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ ร่วมกับกลวิธีแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ โดยใช้แบบ ฝึกทกั ษะ เรื่อง การเคลือ่ นท่ีแบบวงกลม ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ผูว้ ิจัย นางสาววจิ ติ ตา อำไพจติ ต์ ปืที่วิจัย ปกี ารศึกษา 2562 บทคัดยอ่ งานวจิ ยั เรือ่ ง การศึกษาผลการจัดการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ รว่ มกับกลวธิ ีแกโ้ จทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรือ่ ง การเคลอ่ื นทีแ่ บบวงกลม ในระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือพัฒนา แบบฝกึ ทกั ษะการแก้โจทยป์ ัญหาทางฟิสิกส์ เรื่อง การเคลอ่ื นทแ่ี บบวงกลม ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรียนเรื่อง การเคลื่อนท่ีแบบวงกลม กับเกณฑร์ ้อยละ 60 ซึ่งดำเนินการทดลอง แบบกลุ่มที่ศึกษาเพียงกลุ่มเดียว และมีการทดสอบก่อนการทดลองและหลังการทดลอง ( One Group Pretest – Posttest Design ) โดยกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยในครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2562 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม โดยการสุ่มอย่างง่าย ใช้เครื่องมือ ในการวิจัย ประกอบด้วย แผนการจดั การเรียนรปู้ ระกอบการใช้แบบฝกึ ทักษะ เรื่อง การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม แบบฝึกทักษะการ แก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ และ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ผลการวิจัยโดยการเปรียบเทียบ ผลสัมฤทธ์แิ ละพฒั นาทางการเรยี นก่อนเรียนและหลังเรยี น โดยนำมาวเิ คราะห์โดยใช้สถติ ิ คา่ เฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) เทียบกบั เกณฑ์ 60% ผลการวิจัย พบว่า ผลการสร้างแบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประกอบด้วยสถานการณ์ของการเคลื่อนที่แบบวงกลม โดยความเข้มของสถานการณ์ กำหนดจากง่ายไปยาก ใหน้ ักเรยี นฝกึ คดิ ตามข้นั ตอน ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้ันท่ี 1 ทำความเขา้ ใจกบั ปัญหา ข้นั ท่ี 2 จดั เตรียม หลักการ ขั้นที่ 3 การหาผลลัพธ์ และขั้นที่ 4 การตรวจสอบคำตอบ โดยใช้ร่วมกับแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบ แบบฝึกทกั ษะการแกโ้ จทย์ปัญหาทางฟสิ กิ ส์ เรื่อง การเคล่ือนที่แบบวงกลม ในระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 จำนวน 4 ช่วั โมง 2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนท่ีใช้แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปญั หาทางฟิสิกส์ เรื่อง การ เคลื่อนที่แบบวงกลม ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียนและ หลัง เรียน โดย ค่าเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียน (������̅=14.24 , SD = 1.739) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียน (������̅= 5.57, SD = 1.795) สรุปว่า แบบฝึกทักษะการแก้โจทย์ปัญหาทางฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม ใน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ท่พี ัฒนาข้ึนมคี ุณภาพและทำใหน้ ักเรยี นมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเพมิ่ ขึ้น 3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบหลังเรยี นของนกั เรยี นท่ีใชแ้ บบฝึกทกั ษะการแก้โจทยป์ ญั หาทางฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แบบวงกลม สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 โดยมีค่าเฉลี่ยคะแนนอยู่ที่ 14.24 คิดเปน็ รอ้ ยละ 71.2
ตอนท่ี 4 ตัวชว้ี ดั ร่วม 71 2563 และในปีการศึกษา 2563 ประเทศไทยอยู่ภายใต้สถถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร นา 2019 (Coronavirus Disease 2019-COVID-19) โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินทางด้าน สาธารณสุขทำให้สถาบันการศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ หนึ่งในมาตรการเพื่อการควบคุมการ แพรก่ ระจายเช้อื COVID-19 ภายใตส้ ถานการณภ์ าวะฉกุ เฉินด้านสาธารณสุขนั้น ไดแ้ ก่ วธิ ีการเว้นระยะหา่ งทางสังคม (Social Distancing) เป็นการเว้นระยะห่างในการ ทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างบุคคล ทำให้เกิดกระแสของการ ปรับเปล่ียนวถิ ีชวี ติ การทำงานและการศกึ ษาจำนวนมาก แนวทางการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียนสังกัดสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) ใน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ปีการศึกษา 2563 โดยที่ (สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2563, หน้า 6 ) นำเสนอรูปแบบการสอนตามความเหมาะสม ของบริบท โดย ความควบคุมของมาตรการจากกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ การเรียนในชัน้ เรียน (On-Site) ใน ชั้นเรียนตามปกติการ เรียนผ่านโทรทัศน์ (On-Air) ในลักษณะการเรียนการสอนทางไกลผ่านโทรทัศน์ในระบบ ดิจิทัล และระบบดาวเทียม การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online) ที่เรียนผา่ นเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ โดยนกั เรียนสามารถเลอื กเรียนตามความ สนใจ หรือครูอาจกำหนดเนื้อหาการเรียนรู้ ใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล (Digital Learning Platform) จากสื่อ สังคมออนไลน์ที่เปิดให้ใช้แบบไม่คิดค่าบริการ โดยการลงทะเบียนระบุตัวตนเพื่อใช้งาน เช่น Website, Fan page Facebook, Line Open Chat, LINE Official Account, Google Sites, Instagram, Twitter, YouTube เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนเข้าถึงเนื้อหาบทเรียน ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และจากการรายงานโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 ของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข รายงานผตู้ ดิ เช้อื มที ่ีพกั อาศัยและประกอบอาชีพอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ช่วง ปลายปี 2563 ทำใหโ้ รงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคมมปี ระกาศแจง้ หยดุ เรียนกรณพี ิเศษ ระหวา่ งวนั ที่ 23-30 ธันวาคม ลงวนั ที่ 22 ธนั วาคม 2563 ประกาศหยุดเรียนดว้ ยเหตุพเิ ศษ (ฉบับที่ 2) ระหว่างวันท่ี 4-8 มกราคม ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2563 และ ประกาศหยุดเรยี นดว้ ยเหตพุ เิ ศษ (ฉบับท่ี 3) ระหว่างวันท่ี 4-30 มกราคม ลงวันท่ี 4 มกราคม 2564 ประกาศ หยุดเรียน โดยกำหนดให้นักเรียนสามารถเรียนรู้แบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล Facebook Live, ระบบ virtual school online และสือ่ การเรยี นอื่น ๆ โดยมนี โยบายให้ครผู สู้ อนในรายวชิ าเดยี วกนั หรือการบรหิ ารจดั การตามความ เหมาะสมของบริบทรายวิชาให้เกิดประโยชน์สูงสดุ กบั นกั เรยี นดว้ ยจดั การเรียนเรียน การสอนออนไลนผ์ า่ นแพลตฟอร์มการเรยี นร้ดู จิ ิทลั Facebook Live รว่ มกัน เมื่อทราบแนวนโยบายเป็นเบื้องต้นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ดำเนินการประชุม บรหิ ารจัดการกำหนดครูผู้รบั ผดิ ชอบในแตล่ ะรายวชิ าทงั้ รายวิชาพนื้ ฐาน และรายวชิ าเพิ่มเตมิ ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลักสูตร สถานศึกษา โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม พทุ ธศักราช 2561 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ผู้วิจัยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการสอนรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงมีความตระหนักที่จะการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณลกั ษณะตามท่ีหลกั สูตรต้องการภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โดยร่วมกับครูผูส้ อนสาขาวิชาฟิสิกส์รวมร่วมเรียนรู้ร่วมกันทั้งสิน้ 7 คน ในการดำเนินงานใช้กระบวนการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนวนโยบายของโรงเรียนเพื่อดำเนินการจัดการเรียน การสอน ติดตาม วดั และประเมินผลผู้เรียนดว้ ยระบบ ออนไลน์ใหเ้ กดิ ประสทิ ธิภาพสูงสดุ จากความเปน็ มาและสภาพ ปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัย จึงมีความสนใจการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ออนไลนผ์ ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชา ฟิสิกสเ์ พ่ิมเตมิ 2 สำหรับนกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม ซงึ่ ผลการวิจัยในครงั้ นี้จะเปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูอ้ อนไลน์ ที่สามารถพฒั นาผู้เรียนให้เป็นไปตามเป้าหมายของการศกึ ษา ภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
ตอนที่ 4 ตวั ช้ีวดั รว่ ม 72 2563 ช่อื วิจยั การพัฒนากจิ กรรมการเรียนรู้ออนไลนผ์ า่ นระบบ Facebook Live ในรายวชิ าฟสิ ิกสเ์ พม่ิ เตมิ 2 สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2563 ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ผวู้ ิจยั นางสาววิจติ ตา อำไพจิตต์ ปที ี่วิจัย 2563 บทคัดยอ่ การวิจัย เรื่อง การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์ เพิ่มเติม 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) สร้างกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Facebook Live 2) เพื่อหาค่าประสิทธิภาพกิจกรรมการเรียนรู้ ออนไลน์ผ่านระบบ Facebook Live 3) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน เทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ โดยกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม แผนการเรยี นเน้นวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 จำนวน 4 หอ้ งเรียน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการ เก็บรวบรวมข้อมลู ในการรายงานคร้งั นป้ี ระกอบด้วย 1) สอื่ และชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ออนไลนผ์ า่ นระบบ Facebook Live 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบ จากระบบ Virtual School Online และ 4) แบบสอบถาม ความพึงพอใจของนกั เรียนที่มีต่อกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ สถิติที่ใช่ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ประกอบด้วย ร้อยละ คา่ เฉลีย่ และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) การพฒั นากจิ กรรมการเรียนรู้ออนไลน์ผา่ นระบบ Facebook Live ในรายวชิ าฟสิ กิ สเ์ พ่มิ เตมิ 2 สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ภายใต้ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ได้กจิ กรรมการเรียนรู้ สำหรับการจัดการเรียนการสอน ออนไลน์ โดยใช้โปรแกรม PowerPoint เป็นสื่อในการนำเสนอเนื้อหาบทเรียน ใช้ควบคู่ไปกับเอกสารประกอบ บทเรียนซึ่งมีการจัดวางลำดับเนื้อหาบทเรียนเป็นลำดับขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 1.ขั้นนำ เป็นการ กระตุ้นความสนใจ (Engage) 2. ขั้นสอน เป็นการสำรวจค้นหา (Explore) และ อธิบายความรู้ (Explain) 3.ขั้นสรุป เป็นการขยายความเข้าใจ (Elaborate) และ ตรวจสอบผล (Evaluate) โดยการจัดการเรียนรู้ จะเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รียน ใช้วิธีการส่ือสาร ผา่ น comment ในระบบ FACEBOOK LIVE เปน็ ระยะ 2) ค่าประสิทธภิ าพของกิจกรรมการเรยี นรูอ้ อนไลนผ์ ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 สำหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 ภายใตส้ ถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 มีคา่ สูงกวา่ เกณฑ์ 70/70 3) การศกึ ษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวชิ าฟสิ ิกส์เพิม่ เตมิ 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักเรียน กลมุ่ ตวั อย่างทกุ ห้องเรียน สงู กว่าเกณฑร์ ้อยละ 70 4) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนทีม่ ตี ่อกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ ภาพรวมนักเรยี นมีความ พงึ พอใจอยู่ในระดับ มากทสี่ ดุ (������̅= 4.22 S.D. = 0.83)
ตอนที่ 4 ตวั ชีว้ ดั รว่ ม 73 2563 ตวั ชวี้ ัดรว่ ม : องค์ประกอบท่ี 3 การดำเนนิ งาน / ผลงานทีเ่ ป็นเลศิ 2. การแก้ปัญหา /การพัฒนาผูเ้ รียน 2) การแกป้ ัญหา / พฒั นาผู้เรยี นโดยใช้นวตั กรรมทางการเรียนการสอน ข้าพเจ้าได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียนโดยใช้นวัตกรรมทางการเรียนการสอน (Instructional innovation) โดยมีเปา้ หมายตามหลกั การจดั การศกึ ษาตามพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ ที่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ซึ่งต้องดำเนินการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้มีความรอบรู้ ก้าวทันโลกและการเปลี่ยนแปลง มีคุณธรรมและจริยธรรม สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับปรัชญาการศึกษา ด้าน ประสบการณ์นิยม (Progressivism) และทฤษฎีการเรียนรู้ ด้านการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยพฒั นาเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอน เพ่อื ใชก้ ับผเู้ รียนในการแก้ปัญหา และพฒั นาผเู้ รียนใหบ้ รรลุเป้าหมายของ หลกั สตู รตลอดมา ปี 2559 การพฒั นากล่มุ ไลน์ หอ้ งเรียนฟิสิกส์ “ชุมชนบนไลน์ มุมทา้ ยหอ้ งเรยี น (ฟิสิกส์)” เพ่ือใช้เป็นช่อง ทางการสื่อสาร ในการโค้ช ให้คำแนะนำนักเรียนในการเรียน และกิจกรรมเพิ่มเติมในชั้นเรียน รวมถึงการติดตาม ช่วยเหลือการซอ่ มเสริม เป็นผลใหน้ ักเรยี นมคี ะแนนผ่านเกณฑ์ 60% เพมิ่ ข้ึน ปี 2560 การพัฒนา “กิจกรรมการเรียนรู้ผสานแนวทางการบูรณาการเครื่องมือ ICT กับการจัดการ เรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน” เป็นผลให้นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิผ์ ่านตามเกณฑ์เพ่ิมข้ึน ตัวอย่าง “กิจกรรมการเรียนรู้ผสานแนวทางการบูรณาการเครื่องมือ ICT กับการจัดการเรียนรู้ด้วย กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขัน้ ” ในขน้ั ตอนการบรู ณาการเคร่ืองมือ ICT กับการจดั การเรยี นรู้รายวิชาฟิสิกส์ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน ร่วมกับการกลุ่มไลน์ “ห้องเรียนฟิสิกส์” เพื่อเป็น เครื่องมือช่วยในการโค้ชและฐานการช่วยเหลือนักเรียน ในการทำกิจกรรมขั้นการขยายความรู้ ซึ่งเป็นการออกแบบ สถานการณ์ เพื่อให้นักเรียนมีความรูล้ ึกซึ้งข้ึน หรือขยายกรอบความคิดกวา้ งขึน้ หรือเชื่อมโยงความรู้เดิมสู่ความรู้ใหม่ หรือนำไปสู่การศึกษาค้นคว้า ทดลอง เพิ่มขึ้น เช่น ตั้งประเด็นเพื่อให้นักเรียน ชี้แจงหรือร่วมอภิปรายแสดงความ คิดเหน็ เพ่มิ เตมิ ใหช้ ัดเจนย่ิงข้นึ ซกั ถามใหน้ ักเรียนชัดเจนหรอื กระจ่างในความรู้ทไ่ี ด้หรือเชื่อมโยงความรู้ท่ีได้กับความรู้ เดิม โดยนักเรียนจะมีส่วนร่วมในกิจกรรม เช่น อธิบายและขยายความรู้เพิ่มเติมมีความละเอียดมากขึ้น ยก สถานการณ์ ตัวอย่าง อธิบายเชื่อมโยงความรู้ที่ได้เป็นระบบและลึกซ้ึงยิ่งขึ้น หรือสมบูรณ์ละเอียดขึ้น นำไปสู่ความรู้ ใหม่หรือความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประยุกต์ความรู้ที่ได้ไปใช้ในเรื่องอื่นหรือสถานการณ์อื่นๆ หรือสร้างคำถามใหม่และ ออกแบบการสำรวจ คน้ หา และรวบรวมเพ่ือนำไปสู่การสร้างความรู้ใหม่ได้ดยี งิ่ ขึ้น ท้งั นรี้ ะหว่างการดำเนินกิจกรรม ครจู ะทำหนา้ ที่เป็นผอู้ ำนวยความสะดวก แนะนำ และใหแ้ นวทางการแกป้ ญั หา ใหม้ ีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่าง กลุ่มผู้เรียน โดยนักเรียนสามารถเลือกใช้ Application และเครื่องมือ ICT ที่มีความหมายต่อการเรียนรู้ ของตนเองตามความเหมาะสม จากผลการจัดการเรียนรู้ พบว่านักเรยี นระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ท่ีเรยี นรายวิชาฟิสกิ ส์เพมิ่ เตมิ 3 จำนวน 103 คน มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ 68.00 มีความพึงพอใจในกระบวนการจัดการเรียนรู้ดังกล่าวใน ระดับมาก ทั้งนี้นวัตกรรมดังที่กล่าวสามารถพัฒนาผู้เรียนให้กล้าคิด กล้าทำ กล้าซักถาม กล้าแสดงออก รู้จักคิด วิเคราะห์ มีความคิดหลากหลาย บรรยากาศการเรียนการสอนดี เป็นบรรยากาศการเรียนรู้อย่างอิสระและ สร้างสรรค์ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเม่ือผู้เรยี นได้ลงมือปฏิบัติ ทำการทดลอง และมีการอภิปรายซกั ถาม แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ และสามารถโตแ้ ย้งกนั ได้ นอกจากนีผ้ ู้เรยี นยงั มีเจตคติทด่ี ีต่อรายวชิ าฟิสกิ ส์
ตอนท่ี 4 ตวั ชีว้ ดั ร่วม 74 2563 ตารางท่ี 30 ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น วิชาฟสิ ิกสเ์ พ่มิ เติม 3 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2560 จากตารางท่ี 30 จะพบวา่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนักเรียนทเ่ี รียนดว้ ยวตั กรรมดังกล่าวใน รายวิชาฟิสกิ ส์ เพิ่มเตมิ 3 รหสั วิชา ว32201 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2560 มีค่าเฉลย่ี ระดบั คะแนน เท่ากบั 2.64 หรือรอ้ ยละ 68.00 จากเกณฑ์ที่กำหนด ไวร้ ้อยละ 60 ตารางท่ี 31 สรปุ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนักเรียนท่มี ตี อ่ การจดั การเรียนการสอน รายวชิ าฟสิ กิ ส์ เพิ่มเติม 3 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2560 รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ X S.D. แปลผล ด้านเนื้อหา 4.01 0.87 มาก ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 4.04 0.94 มาก ดา้ นสอ่ื การเรยี นการสอน 4.18 0.86 มาก ด้านการวัดผลประเมนิ ผล 4.09 0.89 มาก เฉลีย่ รวม 4.03 0.91 มาก ผลจาก การพัฒนา “กิจกรรมการเรียนรู้ผสานแนวทางการบรู ณาการเคร่ืองมือ ICT กับการจัดการเรียนรู้ ด้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขั้น” จึงนำไปสู่การต่อยอดเป็นฐานความรู้ในการนำพัฒนากจิ กรรมประกอบ หน่วยการเรียนรู้ในรายวิชาที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย ได้อย่างหลากหลาย ในปี 2561-2562 พัฒนา “ชุดกิจกรรม การเรียนรู้เชิงรุก ประกอบการเรียนด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ” โดยเน้นการพัฒนากิจกรรม ประกอบหน่วยการเรียนที่รู้ ซึ่งส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยในขั้นของการ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จะขับเคลื่อนกิจกรรมด้วยกระบวนการสืบเสาะ โดยมีเครื่องมือ ICT ช่วยสนับสนุนการ เรียนรู้ ผลจากการพัฒนานวัตกรรมนี้ ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ผ่านตามเกณฑ์เพิ่มขึ้น และมีเจตคติที่ดีใน การศึกษาวทิ ยาศาสตร์เพม่ิ ข้ึน ดังนี้ พฒั นากจิ กรรม รถไฟเหาะตลี ังกา ใช้ประกอบรายวชิ า ฟิสกิ ส์เพิ่มเติม ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ หน่วย การเรียนรู้ งานและพลงั งาน พัฒนากิจกรรม รถแข่งมหาสนุก ใช้ประกอบรายวิชา ฟิสิกส์เพิ่มเติม ในระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ หน่วย การเรยี นรู้ การเคลอ่ื นที่แนวตรง ปี 2563 พฒั นาชุดกิจกรรม “เรือรบ รอรัก” ประกอบกจิ กรรมค่ายบรู ณาการสะเตม็ ของโรงเรียน ธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม ซงึ่ ประกอบดว้ ย ภารกิจ “ตามหาจดุ ศนู ย์ถว่ ง” “เรอื สำรวจใตผ้ วิ นำ้ ” “พชิ ติ แรง
ตอนท่ี 4 ตัวชว้ี ดั ร่วม 75 2563 ลอยตวั ” และชดุ กิจกรรม “Food Design ” ประกอบดว้ ย ภารกจิ “Beverages Design” และ “CupCake on Demand” ทั้งน้ีการใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุก ประกอบการเรียนด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ” ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่ผ่านเกณฑ์ สามารถอธิบายและขยายความรู้เพิ่มเติมมีความละเอียดมากขึ้น นำไปสู่ ความรู้ใหม่หรือความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประยุกต์ความรู้ที่ไดไ้ ปใช้ในเร่ืองอื่นหรือสถานการณ์อื่นๆ หรือสร้างคำถามใหม่ และออกแบบการสำรวจ คน้ หา และรวบรวมเพือ่ นำไปสกู่ ารสร้างความรใู้ หม่ไดด้ ียิ่งข้ึน รูปภาพที่ 45 แนวคิดการขบั เคล่อื นกจิ กรรมการเรยี นรู้ ด้วยการบรู ณาการเครอื่ งมือทาง ICT กับการจดั การเรียนรดู้ ้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น” และในปีการศึกษา 2563 ประเทศไทยอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (Coronavirus Disease 2019-COVID-19) โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉิน ทางด้านสาธารณสุขทำให้สถาบันการศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ ทำให้โรงเรียนธรรมศาสตร์ คลองหลวงวิทยาคมมีประกาศแจ้งหยุดเรียนกรณีพิเศษ โดยกำหนดให้นักเรียนสามารถเรียนรู้แบบออนไลน์ผ่าน แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล และสื่อการเรียนอื่น ๆ โดยมีนโยบายให้ครูผู้สอนในรายวิชาเดียวกันหรือการบริหาร จัดการตามความเหมาะสมของบริบทรายวิชาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียน ด้วยจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล Facebook Live ร่วมกัน แล้วดำเนินการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยระบบ Virtual School Online คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวง วิทยาคม ได้ดำเนินการประชุมเพื่อหาแนวทางบริหารจัดการในแต่ละรายวิชาให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม พทุ ธศักราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะตามที่หลักสูตรต้องการ ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ซง่ึ ดำเนินงานดว้ ยกระบวนการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามแนวนโยบายของโรงเรียนเพื่อให้สามารถดำเนินการจัดการ เรียนการสอน การติดตามการวัดและประเมินผลผู้เรียนด้วยระบบออนไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยร่วมกัน กำหนดเปน็ มาตรการ เพ่ือขับเคล่อื นการดำเนนิ งาน ทเี่ รียกว่า มาตรการ “2สร้าง 3ใช้ ดงั นี้ 1. สร้าง “การจัดการเรียนรู้” ให้ครอบคลุมและครบตามหลักสูตรรายวิชา คุณภาพการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นมีผลสัมฤทธติ์ ามเกณฑ์ 2. สร้าง “โอกาส” ในการเขา้ ถงึ แหล่งเรียนรู้ และพัฒนาตนเอง 3. ใช้ แพลตฟอรม์ การเรยี นรดู้ ิจทิ ัล “Facebook Live” 4. ใช้ การประเมินผลการเรียนรูด้ ้วยระบบ “Virtual School Online” 5. ใช้ “ระบบดูแลช่วยเหลือผเู้ รียน”
ตอนที่ 4 ตัวชี้วดั รว่ ม 76 2563 ทั้งนี้ครูผู้สอนจึงต้องออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ภายใต้สถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติด เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ตามมาตรการ “2สร้าง 3ใช้ ให้ยังคงสอดคล้องกับธรรมชาติของการศึกษาวทิ ยาศาสตร์ ใน รายวิชาฟิสิกส์ โดยพัฒนาเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งพัฒนาต่อจาก กิจกรรมการเรียนรู้ผสานแนวทางการบูรณาการเครื่องมือ ICT กับการจัดการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น” โดยนำมาพัฒนาเป็น “กิจกรรมการเรียนรูอ้ อนไลน์ ผ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน ธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม ภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” มาตรการ “2 สร้าง 3 ใช้ ภายใต้สถานการณท์ ีม่ ีการแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ศึกษาหลกั สูตรสถานศึกษา ศึกษาบรบิ ทของการจัดการเรียนรู้ ศกึ ษารายละเอียดเนอ้ื หา ศึกษามติ ิของ และเอกสาร หลกั สตู รกลุ่มสาระ กลุ่มผู้เรียน สอ่ื และโอกาสในการ ท่ีใช้ในการออกแบบ การบรู ณาการเทคโนโลยี การจัดการเรียนรู้ การเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ฯ เขา้ ถึงสื่อเทคโนโลยี กับการจัดการเรยี นรู้ วเิ คราะห์จุดประสงค์การเรยี นรู้ กำหนดเปา้ หมายการเรยี นรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดกจิ กรรมเรยี นรู้ กำหนดโครงสร้าง เวลาเรยี น ใหส้ ัมพนั ธก์ จิ กรรมการเรยี นรู้ กำหนดเปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ สร้างแผนการจัดการเรียนรู้ และออกแบบประเมิน วางแผนนำไปใช้ ติดตามและสะท้อนผลการนำกลบั ไปใช้เพื่อพฒั นา รปู ภาพท่ี 46 ลำดบั ข้ันในการออกแบบในการจัดการเรียนรู้ออนไลนผ์ า่ นระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์เพมิ่ เติม 2 สำหรบั นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม ภายใต้สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้การพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ดำเนินการควบคู่กับการวิจัย ทำให้ได้กิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับดำเนินการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ในหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง งานและพลงั งาน ซึ่งเขียนในรูปแบบของ แผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับใช้ในการจัดการเรียนรู้ จำนวน 6 แผน เวลารวม 18 ชั่วโมง และใช้โปรแกรม PowerPoint เปน็ ส่ือในการนำเสนอเน้ือหาบทเรียน จำนวน 6 เรือ่ ง ประกอบดว้ ย เรือ่ งท่ี 1 แรงและงาน จำนวน 4 ชั่วโมง เร่อื งที่ 2 กำลงั จำนวน 2 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 3 พลงั งานกล จำนวน 6 ช่ัวโมง เรื่องท่ี 4 การอนุรักษ์พลงั งาน จำนวน 2 ชว่ั โมง
ตอนท่ี 4 ตัวชีว้ ดั รว่ ม 77 เร่ืองท่ี 5 การประยกุ ต์กฎการอนรุ กั ษพ์ ลังงานกล 2563 เรื่องท่ี 6 เคร่อื งกล จำนวน 2 ชัว่ โมง จำนวน 2 ชวั่ โมง โดยลักษณะของสือ่ นำเสนอเนอ้ื หาบทเรียน อาจประกอบด้วยแผนภาพแสดงแนวแรง (Free body diagram) ภาพตวั อย่างสถานการณ์ หรอื วิดีโอสถานการณ์ หรอื วิดีโอสาธิตการทดลอง และตวั อยา่ งผลการทดลอง ให้นักเรยี นได้ใช้เปน็ แนวทางในการฝึกวิเคราะหผ์ ลการทดลอง ทงั้ นี้มเี อกสารประกอบบทเรียนในการเรยี นออนไลน์ ตรงตามลำดับเนอ้ื หาและตรงตามส่ือนำเสนอบทเรียน แตล่ ะเนอื้ หาจะประกอบดว้ ย ข้นั ตอนการจัดการเรยี นรู้ และ รายละเอยี ด ดังน้ี 1.ขน้ั นำ กระต้นุ ความสนใจ (Engage) 1. ผู้สอนชักชวนนักเรียนพูดคุยกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนโดย เป็นคำถามที่นำเข้าสู่บทเรียน แล้วเปิด โอกาสให้ผู้เรียนตอบได้อย่างอิสระ นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นผ่าน comment ในระบบ FACEBOOK LIVE โดยจะยงั ไมเ่ ฉลยวา่ ถกู หรอื ผดิ 2.ขั้นสอน สำรวจคน้ หา (Explore) 2. ผสู้ อนแนะนำบทเรียน และเป้าหมายในการเรยี นรูร้ ว่ มกัน 3. ผู้สอนใช้สื่อการนำเสนอ ให้ความรู้ส่วนที่เป็นเนื้อหา ประกอบกับผู้เรียนร่วมศึกษาจากเอกสารประกอบ บทเรียน ผู้สอนดำเนินการสอบ โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้วิธีการสื่อสาร ผ่าน comment ในระบบ FACEBOOK LIVE เป็นระยะ 4. เนื้อหาสว่ นของกิจกรรมการทดลอง ผ้สู อนในวิดีโอสาธิตการทดลอง โดยการนำเสนอเป็นลำดับขั้นตอนของ การทดลอง และนำเสนอตัวอย่างของผลการทดลองให้ผู้เรียนได้ใช้วิเคราะห์ผลการทดลองร่วมกัน โดยให้ เวลาผู้เรยี นไดศ้ ึกษา และจัดกระทำกับข้อมูลที่เป็นผลการทดลอง เชน่ การเขียนกราฟ วเิ คราะห์กราฟ การ คำนวณหาปริมาณท่ีเกี่ยวขอ้ งกับตัวแปรในการทดลอง เปน็ ต้น อธบิ ายความรู้ (Explain) 5. โดยหลังจากศึกษากิจกรรม เมื่อให้ผู้เรียนทำกิจกรรมเสร็จ ผู้สอนนำนักเรียนร่วมกันสรุปผลจากการทำ กจิ กรรม โดยเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สาร ผ่าน comment ในระบบ FACEBOOK LIVE 3.ขั้นสรุป ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 6. มกี จิ กรรมมอบหมายให้ผู้เรียนกลบั ไปทำแบบฝึกหดั หลังจบบทเรียน ตามหัวข้อท่ีกำหนด โดยผสู้ อนให้ คำแนะนำใน พร้อมตัวอยา่ งที่เป็นแนวทางในการหาคำตอบ 7. ผู้สอนนำอภิปรายสรุปเนื้อหา 8. ผู้สอนอาจมอบหมายให้ผู้เรียนไปศึกษาเพิ่มเติม ผ่าน Clip VDO จาก ยูทูป หรือการทดลองเสมือน ผ่าน เว็บ https://phet.colorado.edu/th/ ตรวจสอบผล (Evaluate) 9. ผสู้ อนอาจให้การพูดคุยสอ่ื สารกบั ผเู้ รยี น เพ่ือเปน็ การตรวจสอบความเขา้ ใจของผู้เรียน 10. วดั และประเมนิ ผลความร้ขู องผู้เรยี น ผา่ นระบบ Virtual School Online ผู้เรียนเรียนสามารถเข้ามาเรียนทบทวนความรู้ย้อนหลังได้ ร่วมกับการประเมินผลการเรียนรู้ออนไลน์ผ่าน ระบบ Virtual School Online มลี ักษณะทยี่ ดื หยนุ่ เวลา เป็นแบบประเมินเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ และผู้สอนสามารถ ดแู ล ตรวจสอบตดิ ตามนกั เรียน เพ่อื สะทอ้ นผลการเรียนรู้ อย่างต่อเนือ่ ง
ตอนท่ี 4 ตัวชวี้ ดั รว่ ม 78 2563 สำหรับค่าประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ผ่านระบบ Facebook Live ในรายวิชาฟิสิกส์ เพ่มิ เติม 2 สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม หน่วยการเรียนรู้ งานและ พลังงาน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีค่าสูงกว่าเกณฑ์ 70/70 ทางด้าน ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ภายหลังการนำแนวคดิ ของนวัตกรรมนี้ไปใชใ้ นหน่วยการเรยี นอนื่ ๆ ในรายวิชาฟิสิกส์เพ่ิมเติม 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 นอกจากนี้ นักเรียนมีความพึง พอใจต่อกจิ กรรมการเรยี นรอู้ ย่ใู นระดบั มากที่สดุ รูปภาพที่ 46 กรอบแนวคดิ การพัฒนา “กิจกรรมการเรยี นรู้ออนไลน์ผา่ นระบบ Facebook Live ใน รายวชิ าฟสิ กิ ส์เพิม่ เติม 2 สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม ภายใตส้ ถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ตวั ช้ีวดั รว่ ม : องค์ประกอบท่ี 3 การดำเนนิ งาน / ผลงานทเ่ี ป็นเลิศ 2. การแกป้ ัญหา /การพัฒนาผู้เรยี น 3) การแกป้ ญั หา/พัฒนาผเู้ รยี นโดยใชร้ ะบบดูแลชว่ ยเหลือผ้เู รียน ข้าพเจ้าไดจ้ ัดกิจกรรมดูแลช่วยเหลือผู้เรียน โดยมกี ิจกรรมหลัก ดงั น้ี 3.1) กจิ กรรมวิเคราะห์นักเรยี นเป็นรายบคุ คล 3.2) กิจกรรมคดั กรองนักเรียน 3.3) กจิ กรรมสง่ เสริมและพฒั นาผู้เรียน 3.4) กจิ กรรมปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหา เชน่ การใหค้ ำปรึกษาแก่ผเู้ รียน 3.5) กิจกรรมสง่ ต่อ (สง่ ตอ่ ครูทป่ี รึกษา ฝา่ ยแนะแนว ตามลำดบั ) โดยในการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าทีไ่ ด้รับมอบหมาย ขา้ พเจ้า โดยการอาศยั กิจกรรมวิเคราะหผ์ ู้เรียน รายบุคคล โดยใช้การกรอกแบบสอบถามผู้เรยี นรายบุคคล ผา่ นระบบออนไลน์ เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://sites.google.com/site/scikrutoon/baebsxbtham เพื่อเก็บข้อมูลเบือ้ งต้นของผู้เรียน โดยรวบรวมข้อมูล สำหรับศึกษาวิเคราะห์ แยกแยะนกั เรยี น เพือ่ หาความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล เก่ียวกบั ความพร้อมด้านความรู้พนื้ ฐาน และประสบการณ์เดิมท่ีมีอยกู่ อ่ น ท่จี ะให้ผู้เรียนได้รบั การเรยี นรู้วชิ าหรอื กลมุ่ สาระการเรียนรู้ใด ๆ ของแตล่ ะระดบั ชน้ั ตลอดท้ังศึกษาวเิ คราะหเ์ ก่ยี วกบั ความพรอ้ มดา้ นพฤติกรรม และองค์ประกอบ ความพร้อมต่าง ๆ ทงั้ ความพรอ้ มด้าน การเรยี นออนไลน์ ทง้ั อปุ กรณแ์ ละการเข้าถงึ สญั ญาณอินเตอรเ์ น็ต เพ่ือนำมาเป็นขอ้ มูลประกอบการออกแบบการจัดการ เรียนรู้ ทเี่ หมาะสมกับกลุ่มผู้เรยี น นอกจากนย้ี งั ดำเนนิ การคดั กรองนกั เรียน รว่ มกบั การทดสอบ Habitscan Personality Test ผู้เรียนรายบุคคล โดยเข้าถงึ ได้จาก https://www.habitscode.com/ ร่วมกบั การสงั เกต
ตอนท่ี 4 ตัวชีว้ ดั รว่ ม 79 2563 พฤตกิ รรมการเรยี น ในคาบเรียน และประเมนิ สภาพจรงิ จากผลงาน ทำใหไ้ ดน้ ักเรียนท่ตี อ้ งจดั กิจกรรมซ่อมเสรมิ เพอื่ พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ ของผู้เรยี นกลมุ่ นั้น โดยการใหค้ ำปรึกษาแนะนำ และให้โอกาสในการปรบั ปรงุ พัฒนาผลงานของ ตนเอง โดยการจดั การเรยี นการสอนซอ่ มเสรมิ ในชว่ งเวลาพกั กลางวัน หรอื หลังเลิกเรยี น ในสถานการณป์ กติ และยงั ใช้นวตั กรรม “ชุมชนบนไลน์ มมุ ท้ายหอ้ งเรยี นฟสิ ิกส์” ซ่ึงเป็นเสมอื นคลนิ ิกวชิ าการออนไลน์ เข้ามาช่วยสนับสนนุ กิจกรรมดูและชว่ ยเหลือนกั เรียนให้มปี ระสทิ ธิภาพมากขึน้ กลา่ วคือ การเนน้ การสร้างสายสัมพนั ธ์ สร้างความไว้วางใจ ภายในชน้ั เรยี น ม่งุ เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญและปรบั พฤติกรรมเชิงบวก การคำแนะนำและใหค้ วามชว่ ยเหลือ แกไ้ ขปัญหา ผู้เรียนได้เปน็ อย่างดี สง่ ผลให้นกั เรยี น มผี ลการเรียนผา่ นเกณฑ์ ในรายวชิ าฟสิ ิกสท์ กุ คน รปู ภาพที่ 46 แบบสอบถามผเู้ รียนรายบคุ คล
ตอนท่ี 4 ตัวช้ีวดั รว่ ม 80 2563 รปู ภาพท่ี 47 การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ดว้ ยแบบทดสอบ Habitscan Personality Test รูปภาพที่ 47 กจิ กรรมส่งเสริมและพัฒนาผ้เู รียน และคลินิกวชิ าการออนไลน์
81 2563 ขอรับรองวา่ ข้อมลู ดงั กลา่ วข้างต้นถูกต้องและเป็นความจริงและขอรบั รองว่าข้าพเจ้าเป็นผู้มีคุณสมบัติ ตรงตามที่กำหนดทุกประการ และข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ในรายงานพร้อมทั้งเอกสารหลักฐาน ถูกต้อง ตามความเป็นจริง หากตรวจสอบภายหลังพบว่าข้าพเจ้ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่กำหนด หรือยื่นเอกสาร หลกั ฐานอนั เปน็ เท็จ ใหถ้ ือว่าข้าพเจา้ หมดสิทธเิ ข้ารว่ มการประกวด และจะไมเ่ รียกรอ้ งสิทธิใด ๆ ลงช่อื ผู้รายงาน (นางสาววิจติ ตา อำไพจติ ต์ ) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม วันท่ี 24 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2564 การตรวจสอบและรับรองของส่วนราชการต้นสังกดั ได้ตรวจสอบแล้วรับรองว่าข้อมลู ถูกต้อง และเปน็ ความจรงิ ว่าทรี่ ้อยตรี ผู้รับรอง (เรงิ ฤทธ์ิ ผดุงพันธ์) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม 24 / มนี าคม / 2564 ผบู้ งั คบั บญั ชา
82 2563 ภาคผนวก 1. สำเนา กพ.7 2. รายงานการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน 3. หลักฐานแสดงการเข้ารบั การฝกึ อบรมเพ่ือการพัฒนาตนเอง 4. หลกั ฐานแสดงรางวลั ยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ 5. QR code รายการเอกสารอ้างอิง อืน่ ๆ ประกอบการรายงาน
83 2563 สำเนา กพ.7
84 2563 รายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดบั การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน
85 2563 หลกั ฐานแสดงการเขา้ รบั การฝกึ อบรมเพื่อการพัฒนาตนเอง ของ นางสาววิจิตตา อำไพจติ ต์ ครกู ลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ปี หัวเร่ือง/หัวขอ้ หน่วยพัฒนา หลักฐานประกอบ พ.ศ. คณะวศิ วกรรมศาสตร์ 2562 การอบรมเชงิ มหาวิทยาลยั กรุงเทพ ปฏบิ ตั ิการครรู ะดับช้ัน มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย “การสอน ปญั ญาประดษิ ฐ์ใน ระดับมัธยมศกึ ษา” (AI Education for Young Students) 2562 การอบรมเชงิ โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณ์ ปฏิบตั กิ าร เรอ่ื ง ราชวิทยาลยั ปทมุ ธานี “ขยายผลองค์ความรู้ ทางวิชาการและวธิ ีการ จดั การเรยี นการสอน คณติ ศาสตร์และ วิทยาศาสตร”์ คร้ังท่ี 1 2562 การอบรมเชงิ โรงเรยี นวทิ ยาศาสตรจ์ ุฬาภรณ์ ปฏบิ ัตกิ าร เรื่อง ราชวทิ ยาลยั ปทมุ ธานี “ขยายผลองค์ความรู้ ทางวชิ าการและวธิ กี าร จัดการเรียนการสอน คณิตศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์”ครงั้ ท่ี 2
ปี หวั เร่อื ง/หัวขอ้ หนว่ ยพัฒนา 86 พ.ศ. 2563 2563 การอบรมครดู ว้ ยระบบ สำนักงานคณะกรรมการ หลกั ฐานประกอบ ออนไลน์ หลักสตู ร การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน และ http://gg.gg/otr1p อบรมออนไลนก์ าร สถาบันส่งเสริมการสอน จัดการเรียนร้วู ิทยาการ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี คำนวณสำหรับ ครูผสู้ อนมัธยมศกึ ษาปี ท่ี 1-3 Coding Online Grade 7-9 Teacher (C4T-8) 2563 การอบรมครดู ว้ ยระบบ สำนักงานคณะกรรมการ ออนไลน์ หลักสตู ร การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน และ อบรมออนไลน์การ สถาบันสง่ เสริมการสอน จัดการเรียนรู้วิทยาการ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คำนวณสำหรับ ครูผู้สอนมธั ยมศึกษาปี ที่ 4-6 Coding Online Grade 10-12 Teacher (C4T-9) 2563 การจัดการเรยี นรู้ สถาบนั ส่งเสรมิ การสอน วทิ ยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี ที่ส่งเสรมิ ทกั ษะการคิดและ แก้ปัญหา (ระดบั มธั ยมศกึ ษา) 2563 Online Workshops คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์ & Seminars มหาวทิ ยาลยั EDUCA 2020 งาน คณะศึกษาศาสตร์ มหกรรมทางการศึกษา มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น เพอ่ื พฒั นาวชิ าชพี ครู คณะศึกษาศาสตร์ ครง้ั ท่ี 13 ในรูปแบบ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ การประชมุ เชิง คณะวทิ ยาการเรยี นรูแ้ ละ ปฏิบัตกิ ารรูปแบบ ศึกษาศาสตร์ ออนไลนผ์ า่ นเวบ็ ไซต์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ http://educa2020.e ducathai.com/
ปี หวั เร่อื ง/หวั ข้อ หน่วยพัฒนา 87 พ.ศ. 2563 หลักฐานประกอบ 2563 หลักสตู รระบบ หน่วยพฒั นาครู บรษิ ัท วเิ คราะห์ผ้เู รยี นเพอื่ นวัตกรรมสร้างสรรคก์ ารศึกษา ออกแบบแผนการ จำกัด จัดการเรียนรูร้ ายบุคคล *******************************
88 2563 หลักฐานแสดงรางวลั ยกย่องเชดิ ชูเกียรติ 1) รางวัลรองชนะเลิศ ระดับเหรียญทอง รางวัลทรงคณุ ค่า สพฐ. (OBEC AWARDS) ระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 9 ประจำปี 2562 ประเภทรางวลั ครูผูส้ อนยอดเย่ียม Active Teacher ระดบั มัธยมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การ เรยี นการสอน 2) รางวลั ครดู ีไมม่ ีอบายมุข ประจำปี 2563
89 2563 หลักฐานแสดงรางวลั ยกย่องเชิดชูเกยี รติ 3) รางวัล “ครุ ชุ น คนคณุ ธรรม” ประเภทครูผ้สู อน ปีการศกึ ษา 2563 4) ประกาศเกยี รตคิ ุณการปฏิบัติงานด้วยความวริ ิยะ อุตสาหะ โดยไม่มวี นั ลา เปน็ แบบอย่างท่ีดี แก่คณะครู บคุ ลากรและนักเรยี น ประจำปงี บประมาณ 2563 ระดับสถานศกึ ษา
90 2563 หลักฐานแสดงรางวลั ยกยอ่ งเชิดชเู กียรติ 5) ประกาศเกยี รติคณุ \"ครใู นดวงใจศษิ ย\"์ คร้ังที่ 17 เน่อื งในวันครูแหง่ ชาติ ประจำปี 2564 จากวทิ ยาลัยเทคโนโลยสี ยามบริหารธรุ กิจ
91 2563 รายการเอกสารอ้างองิ อน่ื ๆ ประกอบการรายงาน ที่ รายการเอกสาร QR Code 1 แผนการจดั การเรียนรู้ รายงานการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ รายงานผลการเรียน เอกสารประกอบบทเรียน https://pubhtml5.com/bookcase/trle 2 เผยแพร่ผลงานวชิ าการ ผ่าน เวบ็ ไซต์ หอ้ งเรียนฟิสกิ ส์ ครูตูน https://sites.google.com/site/scikrutoon/ 3 ตัวอย่าง แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ีพัฒนาโดยใช้แนวคดิ การ จดั การเรยี นร้ดู ้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ร่วมกบั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รกุ โดยบูรณาการเคร่ืองมือ ICT 4 ชุมชนบน\"ไลน์ มมุ ท้ายห้องเรียน\" (ฟิสิกส)์ บทความนำเสนอ การบรู ณาการ ICT กับการจดั การเรยี นรูใ้ นรายวชิ าฟิสิกส์ นำเสนอผลงานวิชาการ “Partners in Learning Thailand Forum 2018” กิจกรรม “Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2018” 5 การนำเสนอผลงานวชิ าการ “Partners in Learning Thailand Forum 2018” กิจกรรม “Thailand Innovative Teachers Leadership Award 2018” 6 แผนพัฒนาตนเอง ID Plan http://gg.gg/otrih *********************
92 2563
Search