45 รูปภาพท่ี 21 Pedlet พ้นื ทสี่ ำหรบั ผเู้ รยี นไดใ้ ชค้ วามคดิ ของตนอยา่ งมเี หตผุ ล ตอ่ สถานการณ์ปญั หา
46 ตอนที่ 4 ตัวชว้ี ดั ร่วม องคป์ ระกอบที่ 1 ผลทีเ่ กดิ กับผู้เรยี น ตวั ชีว้ ัดท่ี 1 ผลท่เี กิดกับ ผูเ้ รียน 1.1 ด้าน คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 1) นกั เรียนผ่านการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ครบทัง้ 8 ขอ้ คดิ เป็นร้อยละ 100 ตารางที่ 21 แสดงนกั เรยี นทีผ่ า่ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รายวชิ าฟสิ ิกส์ เพมิ่ เติม 5 ปีการ จำนวน สรปุ ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ทั้ง 8 ข้อ ศึกษา นกั เรยี น ระดับ 3 (ดีเย่ียม) ระดับ 2 (ดี) ระดบั 1 (ผ่าน) ระดับ 0 (ไมผ่ า่ น) จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ 2560 108 96 73.33 12 26.67 - - - - 2561 164 164 100 - - - - - - จากตารางท่ี 21 พบว่า ปกี ารศึกษา 2560 และ 2561 เดก็ ผ่านคุณลกั ษณะอันพึงประสงคท์ ง้ั 8 ข้อ ทุกคน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 2) นักเรียนประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นตามคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ท่เี ป็นจดุ เนน้ ของ สถานศกึ ษา ไดค้ รบทกุ ข้อ คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ตารางท่ี 22 แสดงจำนวนนักเรียนท่ีประพฤติปฏิบัติตนตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทีเ่ ปน็ จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา รายวชิ าฟสิ กิ ส์ เพมิ่ เติม 5 ปกี าร จำนวน สรุปผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคท์ ่เี ป็นจุดเนน้ ของสถานศกึ ษา ศกึ ษา นกั เรยี น ระดบั 3 (ดีเยย่ี ม) ระดบั 2 (ดี) ระดับ 1 (ผ่าน) ระดับ 0 (ไม่ผ่าน) จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน รอ้ ยละ 2560 108 96 73.33 12 26.67 2561 164 164 100 - - - - - - จากตารางท่ี 22 พบว่า ปีการศึกษา 2560 และ 2561 นกั เรียนประพฤตปิ ฏิบตั ติ นตามคุณลกั ษณะอัน พึงประสงค์ ที่เป็นจดุ เนน้ ของสถานศกึ ษา ครบทุกขอ้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 100
47 3) นกั เรยี นได้รบั รางวัล/การยกยอ่ งเชิดชูเกียรติ/ ประกาศชมเชย จกหนว่ ยงาน/องค์กร ระดบั เขต / จังหวดั ตารางที่ 23 แสดงขอ้ มูลนกั เรยี นไดร้ บั รางวลั ระดับเขต / จงั หวัด นกั เรยี น รางวัล จากหน่วยงาน/องค์กร นายชลสิทธ์ิ ไตรวชิ า “เด็กดี ศรี ท่าโขลง” เทศบาลท่าโขลง 1. เดก็ หญงิ วสิ สตุ า ปรัชญาโยธนิ รางวัลระดบั เหรยี ญทอง สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา 2. เด็กชายเจษฎาพร คำน้อย การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science มธั ยมศกึ ษา เขต 4 3. เดก็ หญิงธีรนาฎ นกเลิศพนั ธุ์ show) งานศลิ ปหตั ถกรรมนกั เรียน ครงั้ ท่ี 69 ปีการศกึ ษา 2562 ระดับเขตพื้นที่การศกึ ษา 1. เดก็ หญิงวรณัน พนั ธไุ์ พโรจน์ รางวลั ชนะเลศิ การประกวดผลงาน สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา 2. เดก็ หญงิ วรษิ ฐา ป้อมน้อย ส่ิงประดษิ ฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 มัธยมศกึ ษา เขต 4 งานมหกรรมความสามารถทาง ศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยี ของนักเรยี น ปกี ารศึกษา 2561 (ภูมิภาค ภาคกลางและภาคตะวนั ออก) สังกดั เขต พน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา 1. เดก็ หญิงวรมน ชะเอมรส รางวลั รองชนะเลิศ อนั ดับ1 สำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา 2. เด็กหญงิ ธชั ฎาภรณ์ ช่วยทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science มธั ยมศกึ ษา เขต 4 3. เด็กหญิงวรกมล สีเรืองมาศ show) งานมหกรรมความสามารถทาง ศิลปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยี ของนักเรียน ปกี ารศกึ ษา 2561 (ภมู ิภาค ภาคกลางและภาคตะวันออก) สังกัดเขต พนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศึกษา รางวัล “เด็กดี ศรี ท่าโขลง”
48 รางวัลระดบั เหรียญทอง การแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science show) งานศิลปหัตถกรรมนกั เรยี น คร้ังที่ 69 ระดบั เขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา รางวัลชนะเลศิ การประกวดผลงานส่ิงประดิษฐ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนกั เรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั เขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษา รางวัลรองชนะเลิศอนั ดับ 1 การแสดงทางวิทยาศาสตร์ (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนักเรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั เขตพ้นื ท่กี ารศึกษา รปู ภาพที่ 22 นกั เรยี นได้รบั รางวัล/การยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติระดับจงั หวัด
49 4) นกั เรยี นไดร้ ับรางวัล/การยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติ / ประกาศชมเชย จากหนว่ ยงาน/ องค์กร ระดบั ชาติ / นานาชาติ ตารางที่ 24 แสดงข้อมลู นกั เรยี นไดร้ บั รางวัล ระดบั ชาติ / นานาชาติ นักเรียน รางวลั จากหนว่ ยงาน/องค์กร นางสาวสพุ ญิ ญา คลา้ ยเชยี งราก “นกั เรยี นพระราชทาน” ปีการศกึ ษา 2561 กระทรวงศึกษาธกิ าร นางสาวปริญญรัตน์ แจม่ กระจา่ ง “เยาวสตรีไทยดีเดน่ ” ประจำปี 2561 สมาคมสตรแี หง่ ชาติ กระทรวงวัฒนธรรม 1. เดก็ หญงิ วรณนั พนั ธไุ์ พโรจน์ รางวลั ระดับเหรียญทอง การประกวดผลงาน สพฐ 2. เด็กหญิงวริษฐา ป้อมน้อย ส่งิ ประดษิ ฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนกั เรียน ระดบั ชาติ ปกี ารศกึ ษา 2561 (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาค ตะวนั ออก) สังกัดเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา รางวัล “นกั เรียนพระราชทาน” ปกี ารศึกษา 2561 รางวลั “เยาวสตรีไทยดีเด่น” ประจำปี 2561
50 รางวลั ระดบั เหรยี ญทอง การประกวดผลงานสิง่ ประดษิ ฐท์ างวิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนกั เรียน ระดบั ชาติ ปกี ารศึกษา 2561 รปู ภาพที่ 23 นักเรยี นได้รบั รางวัล/การยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติระดบั ชาติ 1.2 ผลงาน / ชิ้นงาน / ภาระงาน / ผลการปฏบิ ัติงาน 1) นกั เรียนทุกคนมีผลงาน/ช้ินงาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั ิงาน ครบถว้ นตามทคี่ รู กำหนด นักเรยี นทุกคนมชี นิ้ งานครบถ้วนตามท่ีครไู ดก้ ำหนดท้ังทเี่ ป็นผลงงานเด่ยี วและผลงานกลุ่ม รปู ภาพที่ 24 แสดงผลงานของนักเรยี นในกจิ กรรมตา่ งๆ และบนั ทกึ คะแนนผลงาน 2) ผลงาน / ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ผลการปฏบิ ตั งิ านของนักเรียนมคี ณุ ภาพตาม เกณฑท์ ีก่ ำหนดในระดบั ดีข้ึนไป คิดเปน็ ร้อยละ 80 การประเมินผลการปฏิบัติงานของนักเรียนจะใช้วิธีการประเมินตามสภาพจริง และ ประเมนิ ทกุ ช่วง ทุกระยะในการทำกจิ กรรม โดยไดข้ ้อมูลการประเมินทัง้ จากครผู สู้ อนและระหวา่ งเพื่อนๆในชั้น เรยี น ทัง้ ดา้ นทกั ษะการทำงานกล่มุ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณุ ภาพของช้ินงานและด้านต่างๆท่ี เก่ยี วข้องในและกจิ กรรม ซงึ่ พบวา่ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามเกณฑ์คุณภาพทกี่ ำหนดคดิ เป็นร้อยละ 100
51 รปู ภาพที่ 25 แสดงผลงานของนักเรยี นในกิจกรรมตา่ งๆ 3) ผลงาน / ชน้ิ งาน / ภาระงาน / ผลการปฏบิ ัติงานเกิดจากการปฏิบัตงิ านของ นกั เรยี นตามหลักสูตรอยา่ งแทจ้ ริงและได้รบั การรบั รองจากผบู้ รหิ ารโรงเรียน การประเมนิ ผลผลการปฏิบัติงานเกดิ จากการปฏิบัตงิ านของนกั เรยี นตามหลักสตู รอยา่ ง แทจ้ รงิ มกี ารรายงานผลการปฏบิ ัติงานและได้รับการรบั รองจากผู้บริหารโรงเรยี นทุกกจิ กรรม รูปภาพที่ 26 เลม่ รายงานผลการปฏบิ ัติงานในการจัดการเรยี นรู้ ไดร้ ับการรบั รองจากผู้บรหิ ารโรงเรยี น 1.3 การเผยแพร่ผลงานนักเรียน 1) นกั เรยี นได้นำเสนอ/จดั แสดง/แลกเปลย่ี นเรยี นรู้/ ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน/ผล การปฏิบตั งิ านท่ีมีคณุ ภาพในรูปแบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสในระดบั สถานศกึ ษา ไม่จำกัดจำนวนคร้ัง มดี งั นี้ 1.1) นำเสนอในกจิ กรรมการเรียนการสอน ตลอดทงั้ ปีการศึกษา 1.2) นำเสนอในกจิ กรรมสัปดาห์วทิ ยาศาสตร์ 1.3) จดั เตรยี มสำหรับการศึกษาดงู านของโรงเรียนต่างๆ ทม่ี าขอดงู าน
52 รูปภาพท่ี 27 แสดงการนำเสนอผลงานของนกั เรียนในกิจกรรมต่างๆ 2) นักเรยี นได้นำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปล่ียนเรยี นรู้/ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั ิงาน ท่มี ีคณุ ภาพในรปู แบบตา่ งๆ ตามวาระและโอกาสตอ่ สาธารณะในระดบั เขต/จงั หวดั อยา่ งนอ้ ย 1 ครัง้ /ปี 2.1) นำเสนอแสดงผลงาน ในงาน OCOP: One Classroom One Product 2.2) นำเสนอแสดงผลงาน ในงานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียนของเขตพื้นท่ีการศึกษา 2.3) นำเสนอแสดงผลงาน นิทรรศการเปดิ โลกพลงั งาน สำนกั งานพลงั งานจงั หวดั ปทมุ ธานี รูปภาพท่ี 28 แสดงการนำเสนอผลงานของนกั เรียนในกิจกรรมต่างๆ ต่อสาธารณะ
53 3) นักเรียนได้นำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปลี่ยนเรียนรู้/ ผลงาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน/ผล การปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพในรูปแบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสต่อสาธารณะในระดับภาค ตารางที่ 25 แสดงขอ้ มูลนกั เรยี นได้นำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดับภาค นักเรยี น ผลงาน หน่วยงาน/องค์กร 1. เดก็ หญงิ ธัญชนก นาควิเชียร กจิ กรรมวทิ ยาศาสตรส์ ำหรบั เยาวชน สมาคมวทิ ยาศาสตป์ ระเทศ 2. เดก็ หญงิ สภุ ัสสรา คำใจ ศูนย์ภาคกลาง โครงงานวิทยาศาสตร์ ไทย ฯ 3. เดก็ หญงิ อัจฉราภา ครองทรพั ย์ดี สาขาวทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ อพวช เรื่อง “เซลล์กัลวานกิ จากใบพืช” 1. เด็กหญงิ วสิ สุตา ปรัชญาโยธนิ การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ สมาคมวทิ ยาศาสต์ประเทศ 2. เดก็ ชายเจษฎาพร คำน้อย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ไทย ฯ 3. เดก็ หญงิ ธีรนาฎ นกเลศิ พนั ธ์ุ เร่ือง “ มหัศจรรยว์ ิทยาศาสตร์ ” อพวช กจิ กรรมวทิ ยาศาสตรส์ ำหรบั เยาวชน ศนู ยภ์ าคกลาง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ เรอื่ ง “เซลล์กัลวานกิ จากใบพชื ” กิจกรรมวทิ ยาศาสตรส์ ำหรบั เยาวชน ศูนย์ภาคกลาง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น เรื่อง “ มหัศจรรย์วิทยาศาสตร์ ” รูปภาพที่ 29 นกั เรยี นได้นำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดบั ภาค
54 4) นกั เรยี นไดน้ ำเสนอ/จัดแสดง/แลกเปลี่ยนเรยี นรู้/ ผลงาน/ชนิ้ งาน/ภาระงาน/ผลการ ปฏิบตั ิงานทีม่ คี ณุ ภาพในรูปแบบต่างๆ ตามวาระและโอกาสตอ่ สาธารณะในระดบั ชาติ /นานาชาติ ตารางที่ 26 แสดงข้อมลู นกั เรียนได้นำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดบั ชาติ /นานาชาติ นักเรียน ผลงาน หน่วยงาน/องค์กร 1. เด็กหญิงวรณนั พันธุ์ไพโรจน์ การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐ์ทาง สพฐ กระทรวงศึกษาธกิ าร 2. เดก็ หญงิ วริษฐา ปอ้ มนอ้ ย วิทยาศาสตร์ ม.1-ม.3 1. นางสาวอภชิ ญา วันชัย “ จกั รยานไฟฟ้ารนุ่ จวิ๋ ” ผลงานผลิตสอ่ื สร้างสรรค์ (โทรทัศน์) บรษิ ัท อสมท จำกัด (มหาชน) 2. นางสาวอุภาพร อตั ฮาต 3. นายกฤษฎา จำปาศรี การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 “ จักรยานไฟฟ้าร่นุ จิ๋ว” งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยีของนักเรยี น ระดบั ชาติ ปีการศึกษา 2561 ผลงานผลิตส่ือสร้างสรรค์ (โทรทศั น์) เรื่อง ออฟไลน์ รปู ภาพที่ 30 นกั เรยี นไดน้ ำเสนอผลงานต่อสาธารณะในระดับชาติ
55 1.4 การได้รับ รางวลั / ยกยอ่ ง เชิดชู 1) ผลงาน/ ผลการปฏิบัติงานของนกั เรยี น ไดร้ บั รางวัล/ยกย่องเชิดชใู นระดบั เขต/จังหวดั ตารางที่ 27 แสดงขอ้ มลู ผลงานไดร้ บั รางวลั /ยกยอ่ งเชดิ ชู ในระดบั เขต/จงั หวดั ที่ ผลงาน/ชน้ิ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบัติงาน จากหน่วยงาน/องค์กร 1 รางวัลชนะเลิศ ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ รนุ่ จิ๋ว” สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 เขต 4 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยี ของนกั เรยี น ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั ชาติ (ภูมิภาคภาคกลางและภาค ตะวันออก) สังกัดเขตพื้นที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา 2 รางวัลระดบั เหรยี ญทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา (Science show) งานศลิ ปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งท่ี 69 ระดับเขต เขต 4 พน้ื ที่การศึกษา 3 รางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหัตถกรรม เขต 4 วชิ าการ และเทคโนโลยีของนกั เรยี น ปกี ารศึกษา 2561 ระดับเขตพ้นื ที่การศึกษา รางวลั ชนะเลิศ การประกวดผลงานสิ่งประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนักเรียน ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั เขตพื้นทีก่ ารศึกษา รางวัลระดบั เหรยี ญทอง การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) งานศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียน ครั้งที่ 69 ระดับเขตพื้นที่การศกึ ษา
56 รางวลั รองชนะเลิศอนั ดับ 1 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ (Science show) งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนกั เรยี น ปกี ารศึกษา 2561 ระดับเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา รูปภาพท่ี 31 ผลการปฏบิ ัตงิ านของนักเรยี น ไดร้ ับรางวลั /ยกย่องเชิดชูในระดับเขต/จังหวัด 2) ผลงาน/ ผลการปฏบิ ตั งิ านของนกั เรยี น ไดร้ บั รางวัล/ยกย่องเชดิ ชู ในระดบั ภาค ตารางที่ 28 แสดงข้อมลู ผลงานของนกั เรียนไดร้ บั รางวัล/ยกยอ่ งเชิดชู ในระดับภาค ท่ี ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบัติงาน จากหน่วยงาน/องคก์ ร 1 รางวัลระดบั เหรยี ญทอง ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ รนุ่ จ๋วิ ” สพฐ กระทรวงศกึ ษาธิการ การประกวดผลงานส่ิงประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหตั ถกรรม วิชาการ และ เทคโนโลยขี องนักเรยี น ปกี ารศึกษา 2561 (ภูมิภาคภาคกลางและ ภาคตะวันออก) สังกัดเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา 2 ผลงานผลิตส่ือสรา้ งสรรค์ (โทรทศั น์ ) เรอ่ื ง ออฟไลน์ ออนไลน์ บริษัท อสมท จำกดั (มหาชน) รางวัล MCOT AWARDS 2015 โครงการปนั ความรู้ ส่ือสรา้ งสรรค์ สูโ่ รงเรียน รางวลั ระดับเหรียญทอง ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ รุ่นจวิ๋ ” การประกวดผลงานสง่ิ ประดษิ ฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศลิ ปหตั ถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยขี องนกั เรียน ปกี ารศึกษา 2561 (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาคตะวนั ออก) สังกดั เขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา รูปภาพท่ี 32 ผลการปฏบิ ัติงานของนักเรยี น ไดร้ บั รางวัล/ยกยอ่ งเชิดชูในระดับเขต/จงั หวัด
57 3) ผลงาน/ ผลการปฏบิ ัตงิ านของนักเรียน ไดร้ บั รางวัล/ยกย่องเชิดชู ในระดับชาติ/ นานาชาติ ตารางที่ 29 แสดงข้อมลู ผลงานของนักเรียน ได้รับรางวลั ในระดบั ชาติ ท่ี ผลงาน/ชิน้ งาน/ภาระงาน/ผลการปฏบิ ตั งิ าน จากหน่วยงาน/องค์กร 1 รางวัลระดับเหรยี ญทอง ผลงาน “ จักรยานไฟฟ้ารุ่นจิ๋ว” สพฐ กระทรวงศกึ ษาธิการ การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐท์ างวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วชิ าการ และเทคโนโลยขี อง นกั เรียน ปีการศกึ ษา 2561 ระดบั ชาติ (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาคตะวันออก) สังกัดเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา รางวลั ระดบั เหรียญทอง ผลงาน “ จกั รยานไฟฟา้ รุน่ จ๋วิ ” การประกวดผลงานส่งิ ประดิษฐ์ทางวทิ ยาศาสตร์ ม.1-ม.3 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการ และเทคโนโลยีของนกั เรยี น ระดบั ชาติ ปีการศึกษา 2561 (ภมู ภิ าคภาคกลางและภาคตะวันออก) สงั กดั เขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา รปู ภาพท่ี 33 ผลการปฏิบตั งิ านของนกั เรียน ไดร้ บั รางวัล/ยกยอ่ งเชดิ ชใู นระดบั ชาติ 4) ผลงาน/ช้ินงาน/ภาระงาน/ผลการปฏบิ ัตงิ านของนักเรียน ไดร้ ับรางวัล/ยกย่องเชิดชู และมผี ูน้ ำไปประยกุ ต์ใช้/เป็นแนวคิดในการพฒั นาผลงานของนกั เรียน/ครนู อกสถานศึกษา ตารางท่ี 30 แสดงข้อมลู มีผนู้ ำไปประยุกต์ใช้/เปน็ แนวคดิ ในการพฒั นาผลงานของนักเรียน ท่ี ผลงาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบตั ิงาน ผู้นำไปประยุกต์ใช้ 1 ผลงาน “ จักรยานไฟฟ้าร่นุ จว๋ิ ” ผปู้ กครอง และผู้ทีส่ นใจ 2 การแสดงทางวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง “ มหศั จรรยว์ ทิ ยาศาสตร์ ครกู ล่มุ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ” โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวทิ ยาคม นำ แนวคิดไปพัฒนา ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ การเรียนรู้ เกยี่ วกบั แสง สี 3 โครงงานวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตรก์ ายภาพ ครกู ลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
58 ท่ี ผลงาน/ชิ้นงาน/ภาระงาน/ผลการปฏิบัติงาน ผู้นำไปประยุกต์ใช้ เรื่อง “เซลล์กัลวานกิ จากใบพืช” โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวงวิทยาคม นำ แนวคิดไปพัฒนากจิ กรรมการเรียนรู้ องค์ประกอบท่ี 2 ผลการพฒั นาตนเอง ตวั ชี้วัด 1. เป็นแบบอย่างและเปน็ ท่ยี อมรับจากบุคคลอน่ื ๆ 1) พัฒนาตนเองในดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม การพฒั นาจิตอยา่ งน้อยปีละ 1 ครง้ั โดยพัฒนาจิต พัฒนาตนเองด้านคุณธรรม จริยธรรม ดังนี้ 1.1) การไหว้พระสวดมนต์ ภาวนา และแผเ่ มตตาก่อนนอนทุกคนื 1.2) เข้าร่วมทำบุญ ตักบาตร เวยี นเทียนในวันสำคญั ทางพระพุทธศาสนาและวนั เกิดโรงเรียน ทำบุญ อยเู่ ป็นประจำ 1.3) เข้าค่ายอบรมคุณธรรมจริยธรรม รปู ภาพที่ 34 แสดงการพฒั นาดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม การพฒั นาจิต 2) ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่างท่ดี ีตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ท้งั ในหน้าทร่ี าชการ และส่วนตน ดงั นี้ 2.1) ข้าพเจา้ เปน็ ผูท้ ี่ดำเนินชีวิตตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงภายใตห้ ลักความ พอเพียง ซึ่งประกอบด้วย หลกั พอประมาณ มเี หตุผลและการมภี ูมคิ ุ้มกนั ตลอดจนนาคณุ ธรรมมาใช้ควบคใู่ น การดำเนนิ ชีวิตตามฐานะ 2.2) ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และคมุ้ ค่า 2.3) มกี ารวางแผนสาหรบั การออมเงนิ เพื่อใชจ้ า่ ยในยามจำเป็น 2.4) ดำรงชีวติ อย่างพอเพยี ง 2.5) นำหลักธรรมที่นำมาซึ่งความสงบสขุ มาใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ
59 3) น้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการ เรียน การสอนจนไดร้ ับการยอมรบั หรอื การยกยอ่ งเชดิ ชูจากหนว่ ยงาน/องค์กรภาครฐั ระดับเขต/จังหวดั ดังน้ี 3.1) นำแนวปรัชญามาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จนได้รับการ พจิ ารณาให้เลือ่ นวิทยฐานะชำนาญการ 3.2) ข้าพเจ้าได้วิเคราะห์หลักสูตรและออกแบบหน่วยการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ซึ่งข้าพเจ้าได้ นำหลักพอประมาณ มีเหตุผลและการมีภูมิคุ้มกันมาประยุกตใ์ ช้ในการสร้างสรรค์ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ โดย เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีแนวคิดตรงตามวัตถุประสงค์ของงานและมีความ ประหยัดและคุ้มค่า 4) น้อมนำแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนจนได้รับการยอมรับหรือการยกย่องเชดิ ชูจากหนว่ ยงาน/องค์กรระดับชาติ ซง่ึ ขา้ พเจา้ เปน็ สว่ นหนงึ่ ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ตามปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง สง่ ผลให้โรงเรยี นไดร้ ับรางวลั สถานศึกษาพอเพยี ง รูปภาพที่ 35 โรงเรียนได้รับรางวลั สถานศึกษาพอเพียง
60 ตัวชี้วดั ท่ี 2 การพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง สว่ นท่ี 1 การได้รบั การพฒั นา ตารางที่ 31 แสดงการได้รบั การพัฒนา (ในรอบ 2 ปี) ปี พ.ศ. จำนวน หวั เรอ่ื ง/หวั ข้อ หนว่ ยพฒั นา การนำผลไปใช้ (ชวั่ โมง) นำความรทู้ ไ่ี ด้มาใช้เปน็ แนวทางใน 2560 26 การอบรมครเู ชิงปฏบิ ตั ิการดา้ น สถาบนั วิจยั ดาราศาสตร์แห่งชาติ การออกแบบกจิ กรรมการจัดการ เรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ดาราศาสตร์ขน้ั ต้น ประจำปี นำความรู้ท่ีได้มาใชใ้ นการ ออกแบบการวดั และประเมินผลใน 2560 รายวชิ าทไ่ี ดร้ ับมอบหมายให้ ปฏบิ ัติการสอน 2560 6 การวัดและประเมนิ ผลการศกึ ษา โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวง นำความรู้ที่ได้รับ มาใชเ้ ป็น วทิ ยาคม แนวทางในการปฏิบัตติ นให้ เหมาะสมกับความเปน็ ครูผู้มี 2560 12 การอบรมคา่ ยคณุ ธรรม จริยธรรม มหาวทิ ยาลัยจฬุ าลงกรณราช คุณธรรม จรยิ ธรรม โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลองหลวง วิทยาลัย นำความรูท้ ี่ได้รับมาพฒั นา กจิ กรรมการเรียนรู้ ทสี่ อดแทรก วิทยาคม เทคโนโลยดี ิจติ อล เพ่ือเป็นฐาน ความชว่ ยเหลอื ในชนั้ เรียน 2560 26 การอบรมเชิงปฏบิ ตั ิการ เรอ่ื ง การ สำนกั เทคโนโลยีเพอ่ื การเรยี นการ นำความรู้ที่ได้ มาออกแบบ กิจกรรมทีส่ อดคลอ้ งกับ STEM พัฒนาเทคนิคการสอนดว้ ย สอน สำนักงานคณะ กรรมการ โดยการใช้การจดั การสง่ิ แวดล้อม ซ่ึงเปน็ เร่ืองใกล้ตวั เปน็ ฐานเรม่ิ ต้น เทคโนโลยีดจิ ิทลั ประเภท Live การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ในการดำเนินการเรียนรู้ นำความรูท้ ่ไี ด้มาพัฒนาส่ือการ Video กระทรวงศึกษาธิการ เรียนการสอนแบบมีปฏิสมั พันธ์ 2561 12 การอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร ศูนยส์ ่งิ แวดลอ้ มศึกษา นำความรู้ทไ่ี ด้มาใชใ้ นการเตรียม ความพรอ้ มสำหรับครูผสู้ อน “การจัดการสงิ่ แวดลอ้ มศึกษาท่ี คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วิทยาการคำนวณ นำความรทู้ ไ่ี ด้มาพัฒนาและ สอดคลอ้ งกับ STEM” มหาวิทยาลยั ราชภัฏพระนคร ออกแบบกิจกรรมการจัดการ เรียนร้แู นว Active Learning 2561 12 การอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการ เรอ่ื ง วิทยาลยั การฝึกหัดครู เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเห็นคณุ คา่ ของการ เรียนรู้อยา่ งกระตอื รอื ร้น “การสร้างสือ่ การเรยี นการสอน มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร แบบมีปฏิสัมพันธ์โดยใช้เทคโนโลยี AR” 2561 6 การอบรมเชิงปฏบิ ตั การครผู ู้สอน โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวง วิทยาการคำนวณ วทิ ยาคม 2561 12 การอบรมเชงิ ปฏิบตั กิ าร คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี “หอ้ งเรียนสนกุ ได้ ดว้ ยกิจกรรม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ Active Learning” ศูนยร์ ังสติ
61 ปี พ.ศ. จำนวน หัวเรอื่ ง/หวั ขอ้ หนว่ ยพฒั นา การนำผลไปใช้ (ชั่วโมง) 2561 16 การสรา้ งสอื่ การเรียนการสอนท่ี ณ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละ นำความรทู้ ไี่ ด้มาใชใ้ น สร้างส่อื ส่งเสรมิ มโนทัศนท์ างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การเรียนการสอน เพ่ือพัฒนามโน มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร ทัศน์ทางวทิ ยาศาสตรข์ องนกั เรยี น 2561 24 โครงการพฒั นาครรู ปู แบบครบ สมาคมศษิ ย์เก่า บริหารการศึกษา นำความรทู้ ี่ได้มาใชใ้ นการจัด วงจร หลักสูตรอบรม เรอ่ื งการ มหาวิทยาลัย ศลิ ปากร กจิ กรรมการเรียนการสอน จดั ทำ จดั การสะเตม็ ศกึ ษา โดยใช้โมเดล รายงานและสะท้อนผลการจดั การ ครูสมสขุ 3อ 2ช เรียนรู้ 2561 6 “English for Communication” โรงเรียนธรรมศาสตรค์ ลองหลวง นำความรู้ทไ่ี ดม้ าใช้ส่อื สารใน วทิ ยาคม ชวี ติ ประจำวนั 2562 8 การอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารครู คณะวิศวกรรมศาสตร์ นำความรูท้ ไี่ ด้มาใช้ในการเตรยี ม ความพรอ้ มสำหรับการสอน ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มหาวิทยาลยั กรงุ เทพ “การสอนปญั ญาประดิษฐใ์ นระดับ ปัญญาประดษิ ฐ์ในระดบั มธั ยมศกึ ษา” (AI Education for มธั ยมศึกษา Young Students) 2562 12 การอบรมเชงิ ปฏิบัติการ เรอื่ ง โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จุฬาภรณ์ “ขยายผลองคค์ วามนรู้ทาง ราชวทิ ยาลยั ปทุมธานี วิชาการและวธิ ีการจัดการเรยี น การสอนคณติ ศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร”์ ครัง้ ท่ี 1 2562 12 การอบรมเชงิ ปฏิบัติการ เร่อื ง โรงเรียนวทิ ยาศาสตรจ์ ฬุ าภรณ์ “ขยายผลองคค์ วามนรู้ทาง ราชวิทยาลัย ปทุมธานี วิชาการและวธิ ีการจัดการเรียน การสอนคณิตศาสตรแ์ ละ วิทยาศาสตร์”คร้ังที่ 2
สว่ นท่ี 2 การพฒั นาตนเอง โดยขา้ พเจา้ ได้จัดทำ ID Plan ดงั น้ี ตารางท่ี 32 แสดงการพฒั นาจัดทำ ID Plan 1.สมรรถนะหลกั (Core Competency) อนั ดับ ระยะเวลาในกา เรมิ่ ตน้ ความ สมรรถนะ รปู แบบ/วิธีการพัฒนา 16 พ.ค.2561 3 สำคัญ 16 พ.ค.2561 3 1 1.3 การพัฒนาตนเอง ฝกึ อบรม เรยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั งิ าน ศึกษาเพม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง ปรึกษาผูเ้ ช่ียวชาญ 2 1.4 การทำงานเป็นทมี ฝึกอบรม เรียนรู้จากการปฏบิ ตั งิ าน ศึกษาเพิม่ เติมด้วยตนเอง 3 1.1 การมุ่งผลสมั ฤทธใ์ิ นการ ฝกึ อบรม 16 พ.ค.2561 3 ปฏบิ ัตงิ าน เรยี นรจู้ ากการปฏิบัติงาน ศึกษาเพ่มิ เตมิ ด้วยตนเอง ปรึกษาผู้เชย่ี วชาญ 4 1.5 จริยธรรม และจรรยาบรรณ ฝึกอบรม 16 พ.ค.2561 3 วชิ าชพี ครู เรยี นร้จู ากการปฏบิ ัติงาน ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง 5 1.2 การบริการที่ดี ฝกึ อบรม 16 พ.ค.2561 3 เรยี นร้จู ากการปฏบิ ตั ิงาน ศึกษาเพ่มิ เตมิ ด้วยตนเอง
62 ารพัฒนา แหล่งศึกษา การนำไปใช้ประโยชน์ สนิ้ สดุ หรอื หน่วยงาน 31 ม.ี ค.2562 โรงเรียน เกดิ การศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ ติดตามองค์ความร้ใู หม่ๆ ทางวิชาการและ สพม.เขต 4 วิชาชพี สามารถสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมในการพัฒนาองค์กรและวชิ าชพี สามารถแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ และสรา้ งเครือข่ายการเรยี นรู้ 31 ม.ี ค.2562 โรงเรยี น เกิดความรว่ มมือ ชว่ ยเหลอื และสนับสนุนเพือ่ นร่วมงาน มีการเสริมแรงให้ 31 ม.ี ค.2562 สพม.เขต 4 กำลังใจเพื่อนรว่ มงาน ตลอดจนสามารถปรับตัวเขา้ กับกลมุ่ คนหรือสถานการณ์ ทห่ี ลากหลาย อีกทงั้ สามารถแสดงบทบาทผนู้ ำหรือผู้ตามและเข้าไปมสี ว่ น โรงเรยี น รว่ มกบั ผอู้ ืน่ ในการพัฒนาการจัดการศกึ ษาใหบ้ รรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย สพม.เขต 4 สามารถวางแผนการกำหนดเป้าหมาย ดา้ นวิเคราะห์ สงั เคราะหภ์ ารกจิ งาน มี ความมุง่ มน่ั ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ใี ห้มคี ณุ ภาพ ถูกตอ้ ง ครบถว้ นสมบรู ณ์ ตลอดจน สามารถตดิ ตามประเมนิ ผลการฏบิ ัตงิ านและพัฒนาการปฏิบตั งิ านใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพอยา่ งต่อเนือ่ งเพื่อใหง้ านประสบความสำเร็จ 31 ม.ี ค.2562 โรงเรยี น เกิดความรักและศรทั ธา ในวชิ าชีพ มีวินัย และความรับผิดชอบในวชิ าชีพสมารถ สพม.เขต 4 ดำรงชวี ิตอยา่ งเหมาะสม และประพฤติปฏิบัติตน เป็นแบบอยา่ งทด่ี ี 31 ม.ี ค.2562 โรงเรยี น เกิดความตง้ั ใจและเต็มใจในการให้บรกิ ารและสามารถปรบั ปรงุ ระบบบรกิ ารให้ สพม.เขต 4 มปี ระสิทธิภาพ
2.สมรรถนะประจำสายงาน (Functional Competency) อันดบั ระยะเวลาในกา เริม่ ตน้ ความ สมรรถนะ รูปแบบ/วิธกี ารพัฒนา 16 พ.ค.2561 3 สำคญั 16 พ.ค.2561 3 1 2.1 การบริหารจดั การหลกั สตู รและการ ฝกึ อบรม 16 พ.ค.2561 3 16 พ.ค.2561 3 จัดการเรยี นรู้ (Curriculum and เรียนรจู้ ากการปฏิบัติงาน 16 พ.ค.2561 3 16 พ.ค.2561 3 Learning Management) ศึกษาเพิ่มเตมิ ดว้ ยตนเอง ปรึกษาผู้เชีย่ วชาญ 2 2.4 การวเิ คราะห์ สังเคราะห์และการ ฝึกอบรม วิจยั เพือ่ พฒั นาผเู้ รยี น(Analysis & เรยี นรู้จากการปฏิบัติงาน Synthesis & Classroom Research) ศกึ ษาเพิ่มเติมดว้ ยตนเอง ปรึกษาผ้เู ช่ยี วชาญ 3 2.3 การบริหารจดั การชัน้ เรียน ฝกึ อบรม เรียนรจู้ ากการปฏิบัตงิ าน (Classroom Management) ศกึ ษาเพิ่มเตมิ ดว้ ยตนเอง 4 2.2 การพัฒนาผ้เู รยี น ฝกึ อบรม เรียนรจู้ ากการปฏิบตั ิงาน (Student Development) ศึกษาเพิ่มเตมิ ดว้ ยตนเอง ฝกึ อบรม 5 2.5 ภาวะผ้นู ำครู เรียนรจู้ ากการปฏิบตั งิ าน ศึกษาเพม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง (Teacher Leadership) 6 2.6 การสรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละความ ฝกึ อบรม ร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจดั การ เรยี นร้จู ากการปฏบิ ตั ิงาน เรยี นรู้(Relationship & Collaborative ศึกษาเพ่มิ เติมด้วยตนเอง for Learning)
63 ารพฒั นา แหลง่ ศึกษาหรือ การนำไปใช้ประโยชน์ ส้ินสดุ หน่วยงาน 31 ม.ี ค.2562 โรงเรียน สามารถสรา้ งและพฒั นาหลักสูตร ออกแบบการเรียนรูอ้ ยา่ งสอดคล้องและเปน็ ระบบ จัดการเรยี นรู้ทีเ่ นน้ ผ้เู รียนเป็นสำคัญ ใช้และพัฒนาสอื่ นวตั กรรมเทคโนโลยี สพม.เขต 4 และการวดั ประเมินผล การเรียนรู้ เพอ่ื พัฒนาผเู้ รยี นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและเกดิ ประสทิ ธิผลสูงสุด 31 ม.ี ค.2562 โรงเรียน สามารถทำความเขา้ ใจ แยกประเดน็ เป็นส่วนยอ่ ย รวบรวม ประมวลหาข้อสรุป อย่างมีระบบและนำไปใช้ในการวิจยั เพือ่ พฒั นาผู้เรยี น รวมทั้งสามารถวเิ คราะห์ สพม.เขต 4 องค์กรหรอื งานในภาพรวมและดำเนนิ การแกป้ ญั หา เพื่อพัฒนางานอย่างเป็น ระบบ 31 ม.ี ค.2562 โรงเรียน สามารถจดั บรรยากาศการเรียนรู้ จัดทำข้อมลู สารสนเทศและเอกสารประจำชน้ั เรียน/ประจำวชิ า การกำกบั ดแู ลชนั้ เรยี นรายชัน้ /รายวชิ า เพื่อสง่ เสรมิ การเรียนรู้ สพม.เขต 4 อย่างมคี วามสขุ และความปลอดภยั ของผเู้ รียน สามารถปลูกฝังคณุ ธรรมจริยธรรม พฒั นาทักษะชวี ิต สุขภาพกาย และสขุ ภาพจิต 31 ม.ี ค.2562 โรงเรยี น ความเป็นประชาธปิ ไตย ความภูมใิ จในความเปน็ ไทย การจัดระบบดแู ลช่วยเหลอื ผู้เรยี นเพ่อื พัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีคณุ ภาพ สพม.เขต 4 เกดิ วุฒภิ าวะความเป็นผู้ใหญท่ เี่ หมาะสมกับความเปน็ ครู สามารถสนทนาอย่างสรา้ งสรรค์ เป็นบคุ คลแหง่ การเปลย่ี นแปลง สามารถ 31 ม.ี ค.2562 โรงเรียน ปฏิบตั ิงานอย่างไตรต่ รองและมุ่งพฒั นาผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รยี นใหม้ ีคณุ ภาพ สพม.เขต 4 เกิดการสรา้ งความสัมพันธแ์ ละความรว่ มมอื กบั ชมุ ชน เพ่ือการจัดการเรยี นรแู้ ละสามารถสร้างเครือข่ายความรว่ มมอื เพื่อการจัดการ 31 ม.ี ค.2562 โรงเรยี น เรียนรู้ สพม.เขต 4
64 ตวั ช้วี ดั รว่ ม : องค์ประกอบท่ี 3 การดำเนินงาน / ผลงานท่ีเป็นเลศิ 1. การนำองค์ความร้จู ากการไดร้ ับการพฒั นา หรอื การพฒั นาตนเองไปใช้ประโยชน์ จากความรู้ที่ขา้ พเจ้าได้รับการพัฒนา ข้าพเจา้ ได้นำความรไู้ ปสร้างเวบ็ ไซต์ หอ้ งเรียนฟิสกิ ส์ ซ่งึ เข้าถึงได้ จาก https://sites.google.com/site/scikrutoon/ ซ่ึงภายในจะมเี น้ือหาความรู้ คลิปวดี โี อที่เก่ยี วข้องกับเนอื้ หาในแต่ ละหน่วยการเรยี นรู้ โดยจะมกี ารมอบหมายใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมต่างๆ มีการเชอ่ื มโยงเทคโนโลยสี ารสนเทศ ต่างๆทม่ี ี อยบู่ นเครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์ในด้านการจัดการเรียนรู้ เพอื่ ใหน้ ักเรียนรู้จกั ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตใหเ้ กดิ ประโยชน์ นอกจากนี้ความรู้ที่ได้จากการการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ าร เรื่อง การพัฒนาเทคนคิ การสอนด้วยเทคโนโลยดี ิจทิ ัลประเภท Live Video ยังนำมาสู่การสร้าง Facebook FanPage เพือ่ ชว่ ยเปน็ ฐานการช่วยเหลือช่องทางหน่งึ ทจ่ี ะชว่ ยทบทวน ความรูใ้ หก้ บั นกั เรียน จากความรูท้ ่ีข้าพเจ้าได้รบั การพัฒนาและนำมาใชใ้ นการจัดการเรยี นร้นู น่ั เอง ทำให้มีเพ่อื นครูให้ ความสนใจ และต้องการได้รบั ความรู้ จึงไดเ้ ผยแพร่ให้ความรกู้ ับเพ่ือนครทู ้งั ในโรงเรยี น และผู้ทสี่ นใจ รปู ภาพท่ี 36 แสดงการนำความรใู้ นการพฒั นาตนเองไปใชป้ ระโยชน์ ในการสร้างแหล่งเผยแพร่ความรู้
65 1) นำไปพฒั นาผเู้ รียนแบบองคร์ วมได้ ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการและเจตคติ ข้าพเจ้าได้นำความรู้ไปใช้พัฒนาผูเ้ รยี นแบบองค์รวม กล่าวคือ พัฒนาผู้เรียนทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ กระบวนการและเจตคติ โดยมีข้นั ตอนดังน้ี 1.1) ศกึ ษาหลกั สตู รของสถานศึกษา เอกสารประกอบหลกั สูตรและวิเคราะห์ผลการเรียนรู้ 1.2) ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ครอบคลุม เหมาะสมกับผู้เรียน กำหนดจุดประสงค์การเรยี นรทู้ ค่ี รอบคลมุ ท้งั 3 ดา้ น คือ ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั ด้านทกั ษะพิสัย และด้านจิตพิสยั 1.3) ศึกษาเทคนิควธิ กี ารในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เลือกใช้สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ เพื่อนำมาใช้ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่เี หมาะสมสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาสาระและกลมุ่ ผเู้ รยี น 1.4) กำหนดวิธีการวัดและประเมินผล พร้อมเครื่องมือการวัดและประเมินผล รวมท้ัง ออกแบบและสรา้ งเครือ่ งมือวัดและประเมนิ ผลการเรียนร้ใู ห้ครอบคลุมตามผลการเรยี นรู้ (รายวิชาเพิ่มเติม) 1.5) นำแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้สื่อ/ นวัตกรรมอย่างหลากหลายประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ทั้งนี้ มีการวัดและประเมินผลในรายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม คือ การประเมินสภาพจริง (Authentic Assessment) และ การประเมินการปฏิบัติ (Performance Assessment) โดยผ่านการปฏิบัติ ของผเู้ รียน การวดั และประเมนิ ผลดว้ ยวิธีการดงั กลา่ วตอ้ งวดั และประเมนิ ได้ครอบคลุม ครบถว้ นพฤติกรรมของ ผเู้ รียนทง้ั 3 ด้าน ดังน้ี ด้านพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive Domain) การประเมนิ ความรูใ้ นรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ เป็น การให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ความเข้าใจและสามารถประยุกตใ์ ช้ ทั้งเนื้อหาด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ซึ่งความร้ใู น เนอื้ หาสาระนส้ี ามารถประเมนิ โดยการใช้แบบทดสอบ ดา้ นทกั ษะพิสยั (Psychomotor Domain) การประเมนิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะท่ีสำคญั ของนักเรยี นในศตวรรษท่ี 21 ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) เป็นการประเมินการแสดงออกของผู้เรียนทั้งหมด ตลอดจน การทำงานร่วมกันและคุณลักษณะตา่ งๆ ซง่ึ สามารถประเมินดว้ ยวธิ กี ารสงั เกตได้อย่างชดั เจน 2) นำไปบรู ณาการกับหน่วย/เร่ืองอ่ืนๆ ได้ ข้าพเจ้าสามารถนำความรู้จากการพัฒนาตนเองด้านเทคโนโลยี ไปบูรณาการการจัดการ เรียนรู้ ในรายวิชาที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย ให้จัดการเรียนการสอน กล่าวคือ ระหว่างที่ข้าพเจ้าวิเคราะห์ หลักสูตรและออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันใน การกำหนดหน่วยการเรียนรู้และกำหนดสาระสำคัญหรือความคิดรวบยอดได้ในโครงสร้างรายวิชาที่ได้รับ มอบหมายใหจ้ ัดการเรียนรู้ ซ่งึ จะมีความเชื่อมโยงสอดคลอ้ งกนั ต้งั แตม่ าตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชว้ี ดั ผลการ เรียนรู้ (รายวชิ าเพ่ิมเติม) สาระการเรยี นรู้ ความคิดรวบยอด การกำหนดเวลา (ชวั่ โมง) และการกำหนดน้ำหนัก คะแนน รวมท้ังการตั้งชื่อหน่วยการเรียนรู้ ซึง่ ในแตล่ ะประเด็นมีความสมั พันธ์เชือ่ มโยงกัน
66 ตวั อย่างเชน่ การจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเตมิ ในการกำหนดแต่ละหน่วยการเรียนรู้ จะ เชื่อมโยงเนอ้ื หาต่อเนือ่ งกนั ตัวอยา่ งเช่น หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่อง งานและพลังงาน ผู้เรยี นจะตอ้ งให้ความรู้ เกี่ยวกบั การเคล่อื นท่แี บบตา่ งๆ เร่ือง กฎการเคล่ือนท่ขี องนวิ ตนั การเขยี นแผนภาพแสดงแนวแรง มาใช้ อธิบายรว่ มกับ กฏการอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ในการจัดการเรียนรูห้ นว่ ยการเรยี นดงั กลา่ ว เปน็ ตน้ 3) นำไปใช้บูรณาการกบั รายวชิ าอนื่ ๆ ได้ ขา้ พเจ้าได้ใชอ้ งคค์ วามรจู้ ากการพฒั นาตนเอง นำไปพฒั นาผเู้ รียนให้เกดิ องค์ความรทู้ ี่ มกี ารเช่อื มโยงกันในทุกรายวิชา โดยการบูรณาการกบั รายวชิ าอื่นๆ ได้แก่ ภาษาไทย การสอนใหผ้ ู้เรียนมองเหน็ ความสัมพนั ธ์ของการนำความร้ดู า้ นภาษาไทยมาใช้กับรายวชิ าฟิสิกส์ และวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การสื่อสาร การใช้ถ้อยคำ การออกเสียงคำ อักขระ คำควบกล้ำ ฯลฯ ใหถ้ ูกต้องตามหลักภาษาไทย การเรยี บเรยี งบทความและรายงานผลเกี่ยวกับชิน้ งาน คณิตศาสตร์ การสอนให้ผูเ้ รียนรู้จกั นำความรทู้ างคณติ ศาสตร์ประยกุ ตใ์ ช้ในการคำนวณ การแกส้ มการ การ วัด การกำหนดความสัมพันธ์ และตัวแปร กราฟตา่ งๆ ฯลฯ สังคมศกึ ษา การสอนใหผ้ เู้ รียนการนำความรเู้ ก่ียวกับเกีย่ วกับสังคมศึกษา ประวัติศาสตร์ มาใช้ศกึ ษาประวัติ การดำเนินการด้านความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเรื่องต่างๆ และความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่นแต่ละ แห่ง ความเชอื่ และวฒั นธรรมของการศึกษาหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์ ฯลฯ การงานอาชีพ การสอนให้ผู้เรียนใช้ความรู้เรื่องงานประดิษฐ์ และสร้างอุปกรณ์ หรือชิ้นงาน ตลอดจนการ และเทคโนโลยี เลือกใช้เครื่องมือทางด้านเทคโนโลยี การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการสืบค้นหา ความรู้ และสามารถนำมาใชป้ ระกอบการนำเสนอข้อมลู ของนกั เรียนเองได้อย่างเหมาะสม ฯลฯ ภาษาต่างประเทศ การสอนให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะทางวิทยาศาสตร์ทั้งภาษาไทยและใช้ ภาษาองั กฤษในการเรียนร้อู ยา่ งเหมาะสม ฯลฯ จะเห็นว่าจากข้อมูลข้างต้น ข้าพเจ้าสามารถใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์เป็นหลักในการ บูรณาการกับรายวิชาอื่นๆ ได้เหมาะสมตามสภาพจริง อย่างเช่นในกิจกรรม ผลงาน OCOP : One Classroom One Project ของนกั เรียน จะตอ้ งบูรณาการความรู้ทกุ สาระวชิ า โดยผลงานของนกั เรยี น จะเป็น การใชอ้ งคค์ วามรใู้ นแตล่ ะรายวิชามาสรา้ งเปน็ ผลงาน ช้ินงาน ของห้องตนเอง เปน็ ตน้ รูปภาพที่ 37 แสดงการบรู ณาการกิจกรรมกับรายวิชาอน่ื ๆ
67 4) นำไปใชเ้ ปน็ ตน้ แบบเผยแพรข่ ยายผลได้ จากผลการพัฒนาตนเองทำให้ข้าพเจา้ เกดิ องค์ความร้ทู เ่ี ปน็ กระบวนการ สามารออกแบบ การพัฒนาผู้เรียนอย่างมีระบบและขั้นตอนตามหลักวิชาการ กล่าวคือ เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์หลักสูตรสถานศึกษา วิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด /ผลการเรียนรู้ นำมาออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ จัดทำแผนการเรียนรู้ ออกแบบ การใช้งานสือ่ /นวัตกรรม ตลอดจนการวัดและประเมินผลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพตามสภาพจรงิ และจัดทำวิจัยชั้นเรยี น ซึ่งไดด้ ำเนินการเผยแพร่ ดังนี้ 4.1) เผยแพรเ่ ป็นเอกสารให้กบั ครูในโรงเรียน และโรงเรยี นในสงั กัดสำนักงานเขตพืน้ ที่ และผู้ท่ี สนใจ ผา่ นส่ือสงั คม Slideshare.net 4.2) เผยแพรผ่ า่ นสื่อเว็บไซต์ https://sites.google.com/scikrutoon 4.3) เผยแพรผ่ า่ นสอ่ื เว็บไซต์ ระบบสารสนเทศงานวจิ ัยและนวัตกรรม 4.4) เผยแพร่ในการประชุม สัมมนาเพ่อื นครูกลมุ่ สาระฯ วทิ ยาศาสตรภ์ ายใน-นอกโรงเรยี น 4.5) เผยแพรผ่ ่านการศกึ ษาดูงานของคณะครโู รงเรียนตา่ งๆ ไดแ้ ก่ โรงเรยี นเทพลีลา โรงเรียนวรราชาทินดั ดามาตุวทิ ยา โรงเรียนบางปลามา้ โรงเรยี นมัธยมวดั ธาตทุ อง เปน็ ต้น 4.6) เผยแพร่ผา่ นการนำเสนอผลงานวชิ าการในงาน Partners in Learning Thailand forum โครงการ Thailand Innovative Teachers Leadership Award รปู ภาพท่ี 38 แสดงการเผยแพรข่ ยายผลผ่านระบบสารสนเทศงานวจิ ยั และนวัตกรรม รปู ภาพที่ 39 เผยแพร่ผ่านสอ่ื Slideshare.net
68 รปู ภาพที่ 40 เผยแพร่ในการประชุม สัมมนาเพ่ือนครูกลมุ่ สาระฯ วิทยาศาสตร์ภายใน-นอกโรงเรียน รูปภาพท่ี 41 เผยแพร่โดยการนำเสนอผลงานวิชาการในงาน Partners in Learning Thailand forum โครงการ Thailand Innovative Teachers Leadership Award 5) เชอ่ื มโยง/นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ ความรู้ท่ีได้จากการพฒั นาตนเองสามารถนำไปเชื่อมโยง /นำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน โดย นำแนวคิดการจดั การเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขัน้ (5Es) ผสานกิจกรรมการเรียนรอู้ ย่างกระตอื รอื ร้น (Active Learning )โดยมี เคร่ืองมอื ICT ท่ีหลากหลาย เพอื่ ชว่ ยสนบั สนนุ การจัดการเรยี นรู้ โดยการเลือก เครอื งมอื ICT ที่มคี วามหมายตอ่ การจดั การเรยี นรู้ของผูเ้ รียน ซ่งึ มรี ะดับของการบูรณาการ เครืองมอื ICT และ เทคโนโลยี ในรายวชิ า ดงั นี้ 1. ผู้เรียนได้ใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ เครอ่ื งมอื ในการจดั การเรียนรู้ ตัวอย่าง เช่น การเรียนรจู้ ากใช้ สถานการณจ์ ำลองจาก PhET Interactive Simulations เว็บไซต์ https://phet.colorado.edu/th/ การ ทดลองทางฟสิ ิกส์ โดยใชเ้ ซนเซอรใ์ นสมารท์ โฟน ผ่านแอพพลเิ คชน่ั Phyphox 2. ผเู้ รยี นใช้เทคโนโลยีในการเรยี นรู้กบั ผอู้ ื่น เช่น การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ผ่านสือ่ สงั คมตา่ งๆ
69 3. การพัฒนาผเู้ รียนเช่ือมโยงความร้เู ดิมไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความร้ใู หม่ผา่ นการบูรณาการ เทคโนโลยกี ับการจัดการเรยี นรู้ โดยมอี สิ ระในการใช้เคร่ืองมือเทคโนโลยีสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละมีโอกาสเลอื ก และสืบคน้ ในบางครั้ง 4. ผูเ้ รยี นได้เชือ่ มโยงกิจกรรมการเรยี นรูส้ ู่ชีวติ จรงิ โดนการใชเ้ ทคโนโลยีตามบริบทแบบมี ความหมายตอ่ ผ้เู รียน 5. ครูและผเู้ รยี นใช้เทคโนโลยีในการกำหนดเปา้ หมายการเรยี นรู้ร่วมกัน เช่น การร่วมกนั กำหนดเปา้ หมายความสำเร็จของกจิ กรรมการเรยี นรรู้ ว่ มกนั โดยใช้ Class123.com 6. ครูและผ้เู รียนใช้เทคโนโลยใี นการสร้างฐานการช่วยเหลอื เชน่ การทบทวนบทเรียนนอก เวลา ผ่านกจิ กรรม Live VDO บน Facebook page ซึ่งข้าพเจ้าได้นำแนวคิดดังกล่าว มาออกแบบพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาฟิสิกส์ สำหรับนักเรยี นในระดบั ช้นั ท่ขี า้ พเจ้าไดร้ บั มอบหมายใหจ้ ดั การเรียนการสอน รูปภาพที่ 42 ผูเ้ รยี นไดใ้ ช้เทคโนโลยเี ปน็ เครือ่ งมอื ในการจัดการเรยี นรู้ รูปภาพที่ 43 ผ้สู อนและผู้เรียนได้ใช้ Class123.ac กำหนดเปา้ หมายความสำเรจ็ ร่วมกัน ตัวช้วี ัดรว่ ม : องค์ประกอบท่ี 3 การดำเนนิ งาน / ผลงานทเ่ี ป็นเลิศ 2. การแกป้ ญั หา /การพัฒนาผเู้ รียน 1) การแก้ปญั หา / พฒั นาผู้เรียนโดยใช้กระบวนการวจิ ัยในชั้นเรยี น สภาพปัญหาของผู้เรียนในรายวชิ าฟิสกิ ส์ จากการรวบรวมขอ้ มลู ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น และ การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่ขาดความกระตืนรือร้น ในการเรียน โดยเฉพาะบทเรียน เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 ตามที่โรงเรียนกำหนด เนื่องจากเป็นบทเรียนที่มีเนือ้ หาค่อนข้างละเอียดและซับซ้อน มีความเป็นนามธรรม
70 ค่อนขา้ งมาก จงึ จำเปน็ อยา่ งยิ่งทีจ่ ะต้องมกี ารพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนรู้เพ่ือทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจ เนอ้ื หาดังกล่าว ซึง่ จะนำไปสู่การเรยี นรูท้ ่ดี ีมากย่งิ ขนึ้ จากการศึกษารูปแบบการจัดการเรยี นการสอน ผา่ นการ อบรมเชงิ ปฏิบัติการ และการศึกษางานวิจยั เกย่ี วกบั การจดั การเรยี นรู้ พบวา่ การจดั การเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหา ความรู้ 5 ขั้น (5Es) เป็นรูปแบบการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับธรรมชาติของการเรียนวิทยาศาสตร์ เป็น กระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั นอกจากน้ี จากเข้ารว่ มอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร และการศึกษางานวิจัย ในชั้นเรียน เกี่ยวกับการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นสงู ขึน้ เช่น พรรณิภา กิจเอก (2550) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รกุ ต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาเคมีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จังหวัดปทุมธานี ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนที่ไดร้ บั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสูงกว่านักเรยี นที่ได้รับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ จรรยารักษ์ กุลพ่วง และคณะ (2559) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ชีววิทยา เรอ่ื ง ยีนและโครโมโซม ของนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ทีห่ ลังการจัดการเรียนรรู้ ปู แบบวัฏจักรการ เรยี นรู้ 5 ข้นั รว่ มกบั กจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชิงรกุ กบั เกณฑ์ร้อยละ 70 พบวา่ หลังการจัดการเรยี นร้ปู แบบวัฏ จักรการเรียนรู้ 5 ขัน้ ร่วมกับกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบเชงิ รุกสูงกวา่ เกณฑร์ ้อยละ 70 อยา่ งมีนยั สำคญั ทางสถิติที่ ระดบั .05 เป็นตน้ ขา้ พเจา้ จึงดำเนินการพัฒนาและแก้ไขปัญหาผลสัมฤทธ์ิของผ้เู รียนในระดบั ชัน้ ดงั กล่าว โดย ใชก้ ระบวนการวิจยั ช้นั เรียน โดยการศึกษาผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนวชิ าฟสิ กิ ส์และเจตคติต่อการจัดการเรยี นรู้ ดว้ ยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขัน้ รว่ มกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รุก สำหรับนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 บทคัดย่อ การวิจยั ครั้งนมี้ วี ตั ถุประสงค์เพือ่ 1) เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ 5 ขัน้ รว่ มกบั กจิ กรรมการเรียนรแู้ บบเชิงรกุ กบั เกณฑ์ร้อยละ 70 และ 2) เปรยี บเทียบเจตคติต่อการ จัดการเรียนรดู้ ้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ร่วมกบั กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบเชิงรุกของนักเรียนช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 หลงั เรียนกับเกณฑ์ระดบั มาก กล่มุ ตวั อย่างทีใ่ ช้ในการวิจัย คือ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 47 คน เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวิจัยประกอบดว้ ย 1) แผนการจดั การเรียนรูด้ ้วยกระบวนการสืบเสาะหา ความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม จำนวน 7 แผน เวลา 22 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 3) แบบวัดเจตคติต่อจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบที (t-test) ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง ฟิสิกส์อะตอม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการ
71 เรยี นร้ดู ้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ร่วมกับกจิ กรรมการเรียนรู้แบบเชงิ รกุ สงู กว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อยา่ งมนี ยั สำคญั ทางสถิติท่ีระดับ .05 และ2) เจตคติตอ่ การจัดการเรียนรูด้ ้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรกุ ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ระดบั มาก อย่างมนี ยั สำคญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดับ .05 2) การแก้ปญั หา / พัฒนาผู้เรยี นโดยใช้นวัตกรรมทางการเรยี นการสอน ข้าพเจ้าได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาผู้เรียนโดยใช้นวัตกรรมทางการเรียนการสอน (Instructional innovation) โดยมเี ป้าหมายตามหลกั การจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ ที่เน้นผ้เู รียนเปน็ สำคญั ซึ่งต้องดำเนินการพัฒนาผู้เรียนใหเ้ ปน็ ผ้มู ีความรอบรู้ ก้าวทนั โลกและการเปล่ียนแปลง มีคุณธรรมและจริยธรรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้อง กบั ปรชั ญาการศึกษา ดา้ นประสบการณน์ ิยม (Progressivism) และทฤษฎีการเรียนรู้ ดา้ นการสรา้ งองคค์ วามรู้ ด้วยตนเอง (Constructivism) โดยพัฒนาเป็นนวัตกรรมการเรียนการสอน เพื่อใช้กับผู้เรียนในการแก้ปัญหา และพฒั นาผเู้ รยี นให้บรรลุเปา้ หมายของหลกั สตู ร ตลอดมา ปี 2559 การพัฒนากลุ่มไลน์ หอ้ งเรยี นฟิสิกส์ เพื่อใชเ้ ป็นช่องทางการส่อื สาร ในการโค้ช ใหค้ ำแนะนำ นักเรียนในการเรียน และกิจกรรมเพิ่มเติมในชั้นเรียน รวมถึงการติดตามช่วยเหลือการซ่อมเสริม เป็นผลให้ นกั เรียนมีคะแนนผา่ นเกณฑ์ 60% เพ่ิมขึ้น ปี 2560 การพฒั นากิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยผสานแนวทางการบูรณาการเคร่ืองมือ ICT กับการจัดการ เรียนรู้ด้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้นั เปน็ ผลใหน้ กั เรียนมีผลสัมฤทธผิ์ า่ นตามเกณฑ์เพ่มิ ข้ึน ปี 2561 พัฒนาชุดกจิ กรรม ท่ีใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ัน ร่วมกับกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยบูรณาการเครื่องมือ ICT ส่งผลให้นักเรียนมี ผลสัมฤทธผิ์ า่ นตามเกณฑ์ และมเี จตคตทิ ี่ดีในการเรียนวิชาฟิสิกส์เพม่ิ ข้ึน ทงั้ นี้เพื่อส่งเสริมใหน้ กั เรยี นบรรลุจุดประสงค์ของการเรยี น ทง้ั ดา้ นพทุ ธพิ สิ ัย ทกั ษะพิสัย และจิตพิสัย นั้น ดำเนินการโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น บนพื้นฐานการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนแบบเน้นการพัฒนา ส่งเสริมให้ ผู้เรียนประยุกต์ใช้ทักษะ และเชื่อมโยงองค์ความรู้ นำไปปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา ข้าพเจ้าได้ศึกษาแนวทางถึงวิธีการสอน เทคนิคการ สอนทหี่ ลากหลาย หรือกจิ กรรมต่างๆ มาใชอ้ อกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ และพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ และ กิจกรรมกระตุน้ ให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรยี น และผู้เรียนกับ ผู้สอน โดยฐานะผู้สอนมบี ทบาทเป็นผูอ้ ำนวยความสะดวกและจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ผู้เรียนสรา้ งความรู้ ด้วยตนเอง จนเกิดเป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมาย (Meaningful Learning) ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะใน การค้นคว้า แสวงหาความรู้ และมีความรู้พื้นฐานที่จำเป็น มีเหตุผล สามารถคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิผล มีทักษะชีวิต ร่วมมือในการทำงานกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ซ่ึง จะต้องมกี ระบวนการจดั การเรียนร้อู ย่างตอ่ เนอื่ ง มีลำดับขั้นตอนทีเ่ หมาะสม และสอดคลอ้ งกบั พัฒนาการของ ผู้เรยี นในแต่ละระดับ โดยมีลำดับข้นั ในการออกแบบในการจดั การเรียนรู้ ดงั น้ี
72 ศกึ ษาหลักสูตรสถานศึกษา และเอกสาร หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ศึกษาบริบทของการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ ผู้เรียน สื่อ และโอกาสในการเข้าถึงสื่อเทคโนโลยี ศกึ ษารายละเอยี ดเน้ือหาทีใ่ ชใ้ นการออกแบบการจัดการเรยี นรู้ ศึกษามิติของการบรู ณาการเทคโนโลยีกบั การจัดการเรียนรู้ วเิ คราะหจ์ ุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ เพอ่ื เปน็ แนวทางในการกำหนดกิจกรรมเรียนรู้ กำหนดโครงสร้าง เวลาเรยี น ใหส้ มั พันธก์ ิจกรรมการเรียนรู้ กำหนดเปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ สรา้ งแผนการจัดการเรียนรู้ และออกแบบประเมิน วางแผนนำไปใช้ ติดตามและสะทอ้ นผลการนำกลับไปใช้เพอื่ พฒั นา รูปภาพท่ี 44 ลำดบั ขัน้ ในการออกแบบในการจดั การเรียนรู้ รูปภาพที่ 45 การจัดการเรยี นร้ดู ้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั ร่วมกับกิจกรรมการเรียนร้แู บบเชงิ รกุ (Active Learning) โดยบรู ณาการเครือ่ งมอื ICT
73 3) การแก้ปญั หา/พฒั นาผู้เรยี นโดยใช้ระบบดแู ลชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี น ขา้ พเจ้าไดจ้ ัดกิจกรรมดูแลช่วยเหลอื ผู้เรียน โดยมีกิจกรรมหลัก ดังน้ี 3.1) กิจกรรมวิเคราะห์นกั เรียนเป็นรายบุคคล 3.2) กจิ กรรมคัดกรองนักเรียน 3.3) กิจกรรมสง่ เสริมและพัฒนาผูเ้ รียน 3.4) กจิ กรรมปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา เช่น การใหค้ ำปรึกษาแกผ่ ู้เรียน 3.5) กจิ กรรมส่งต่อ (สง่ ต่อครทู ่ีปรึกษา ฝา่ ยแนะแนว ตามลำดับ) โดยในการจัดการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม และรายวิชาวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติม ที่ได้รับ มอบหมาย ข้าพเจ้า โดยการอาศัยกิจกรรมวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล โดยใช้กรอกแบบสอบถามผู้เรียน รายบุคคล ผ่านระบบออนไลน์ เข้าถึงได้จาก https://sites.google.com/site/scikrutoon/baebsxbtham เพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้นของผู้เรียน และดำเนินการคัดกรองนักเรียน ร่วมกับการสังเกตุพฤติกรรมการเรียน ใน คาบเรียน และประเมินสภาพจริงจากผลงาน ทำให้ได้นักเรียนท่ีต้องจัดกิจกรรมซอ่ มเสรมิ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ของผู้เรยี นกลุ่มนนั้ โดยการใหค้ ำปรกึ ษาแนะนำ และให้โอกาสในการปรับปรงุ พัฒนาผลงานของตนเอง โดยการ จัดการเรียนการสอนซ่อมเสริม ในช่วงเวลาพกั กลางวัน หรือหลังเลิกเรยี น นอกจากนี้ ยังใช้นวัตกรรม “ชุมชน บนไลน์ มมุ ท้ายหอ้ งเรียนฟิสกิ ส”์ เข้ามาชว่ ยสนับสนนุ กิจกรรมดูและชว่ ยเหลือนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมาก ขึ้น กล่าวคือ สามารถติดตามความคืบหน้า และให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ นกั เรียน มีผลการเรียนผ่านในรายวิชาฟิสกิ ส์ทกุ คน รปู ภาพที่ 46 แบบสอบถามผู้เรียนรายบคุ คล รปู ภาพท่ี 47 กิจกรรมชอ่ มเสรมิ นอกเวลาเรียน
74 ขอรบั รองว่าขอ้ มลู ดงั กลา่ วข้างตน้ ถูกต้องและเปน็ ความจรงิ วจิ ิตตา ผรู้ ายงาน (นางสาววจิ ิตตา อำไพจิตต์) ตำแหน่ง ครู วันที่ 24 / กมุ ภาพนั ธ์ / 2563 การตรวจสอบและรบั รองของสว่ นราชการต้นสงั กดั ไดต้ รวจสอบแลว้ รับรองวา่ ข้อมูลถูกต้อง และเปน็ ความจรงิ ว่าทรี่ ้อยตรี ผ้รู บั รอง ลงช่ือ ผู้รบั รอง (เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์) ผู้อำนวยการโรงเรยี นธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม 24 / กมุ ภาพนั ธ์ / 2563 ผู้บังคบั บญั ชา
75 ภาคผนวก 1. สำเนา กพ.7 2. รายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน 3. รายงานผลการทดสอบระดบั ชาติ (O NET) ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ปกี ารศึกษา2560-2561 4. หลักฐานแสดงการเขา้ รบั การฝึกอบรมเพือ่ การพฒั นา ตนเอง
76 สำเนา กพ.7 รายงานการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554-2558) ระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
77
78
79
80
81
82
83
84 หลักฐานแสดงการเข้ารับการฝึกอบรมเพือ่ การพฒั นาตนเอง ของ นางสาววจิ ิตตา อำไพจติ ต์ ครูกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวทิ ยาคม ปี หวั เรือ่ ง/หัวขอ้ หน่วยพฒั นา หลกั ฐานประกอบ พ.ศ. 2560 การอบรมครเู ชงิ สถาบนั วิจัยดาราศาสตร์ ปฏิบัติการด้านดารา แหง่ ชาติ ศาสตร์ข้ันต้น ประจำปี 2560 2560 การวัดและประเมินผล โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลอง การศึกษา หลวงวิทยาคม 2560 การอบรมคา่ ยคุณธรรม มหาวิทยาลยั จฬุ าลงกรณราช จริยธรรม วทิ ยาลยั โรงเรยี นธรรมศาสตร์ คลองหลวงวทิ ยาคม 2560 การอบรมเชิง สำนกั เทคโนโลยีเพ่ือการเรยี น ปฏบิ ตั กิ าร เร่ือง การ การสอน สำนกั งานคณะ พฒั นาเทคนคิ การสอน กรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ดว้ ยเทคโนโลยีดิจทิ ลั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประเภท Live Video
85 ปี หัวเร่อื ง/หัวขอ้ หน่วยพฒั นา หลักฐานประกอบ พ.ศ. 2561 การอบรมเชิง ศนู ยส์ งิ่ แวดล้อมศกึ ษา ปฏิบัติการ คณะวทิ ยาศาสตร์และ “การจัดการ เทคโนโลยี ส่งิ แวดลอ้ มศกึ ษาท่ี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร สอดคล้องกับ STEM” 2561 การอบรมเชงิ วิทยาลัยการฝกึ หดั ครู ปฏบิ ัตกิ าร เรือ่ ง “การ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร สรา้ งสือ่ การเรยี นการ สอนแบบมีปฏสิ มั พันธ์ โดยใช้เทคโนโลยี AR” 2561 การอบรมเชิงปฏบิ ตั โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลอง การครูผู้สอนวทิ ยาการ หลวงวิทยาคม คำนวณ 2561 การอบรมเชงิ คณะวทิ ยาศาสตร์และ ปฏบิ ตั กิ าร “ห้องเรยี น เทคโนโลยี สนุกได้ ดว้ ยกจิ กรรม มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ Active Learning” ศูนยร์ ังสติ
86 ปี หวั เรื่อง/หัวขอ้ หน่วยพัฒนา หลกั ฐานประกอบ พ.ศ. 2561 การสร้างสอ่ื การเรียน ณ คณะวิทยาศาสตรแ์ ละ การสอนท่สี ่งเสรมิ มโน เทคโนโลยี ทัศนท์ างวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนคร 2561 โครงการพัฒนาครู สมาคมศิษย์เกา่ บริหาร รปู แบบครบวงจร การศึกษา มหาวิทยาลยั หลกั สตู รอบรม เรือ่ ง ศิลปากร การจัดการสะเตม็ ศึกษา โดยใช้โมเดลครู สมสขุ 3อ 2ช 2561 “English for โรงเรยี นธรรมศาสตร์คลอง Communication” หลวงวิทยาคม 2562 การอบรมเชิง คณะวศิ วกรรมศาสตร์ ปฏบิ ัติการครูระดับช้นั มหาวิทยาลยั กรุงเทพ มธั ยมศึกษาตอนปลาย “การสอน ปญั ญาประดษิ ฐใ์ น ระดบั มัธยมศึกษา” (AI Education for Young Students)
87 ปี หวั เรอ่ื ง/หวั ข้อ หน่วยพฒั นา หลกั ฐานประกอบ พ.ศ. 2562 การอบรมเชิง โรงเรยี นวิทยาศาสตร์จฬุ าภรณ์ ปฏบิ ัติการ เรื่อง ราชวิทยาลยั ปทมุ ธานี “ขยายผลองคค์ วามนรู้ ทางวชิ าการและวิธีการ จดั การเรยี นการสอน คณิตศาสตร์และ วทิ ยาศาสตร์”ครั้งท่ี 1 2562 การอบรมเชิง โรงเรียนวทิ ยาศาสตร์จฬุ าภรณ์ ปฏิบัตกิ าร เร่อื ง ราชวิทยาลยั ปทุมธานี “ขยายผลองคค์ วามนรู้ ทางวิชาการและวิธกี าร จัดการเรยี นการสอน คณติ ศาสตร์และ วิทยาศาสตร”์ ครัง้ ที่ 2 *******************************
Search
