Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Present Simple

Present Simple

Published by Saveyolyn, 2022-02-06 02:58:21

Description: เป็นหนังสือเกี่ยวกับ Present Simple

Keywords: Present Simple,Tense,English

Search

Read the Text Version

Present Simple Tense ลกั ษณะการใช้ Present Simple Tense Present แปลว่า ปัจจบุ นั ดงั นนั้ Present Simple Tense จงึ เป็นประโยคทม่ี โี ครงสรา้ งแบบงา่ ย ๆ เพือ่ ใชพ้ ดู ถึงเหตกุ ารณใ์ นปัจจบุ นั น่นั เอง โดยมลี กั ษณะตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. ใชเ้ พ่ือพดู ถึงความเป็นจรงิ ในชีวิตประจาวนั หรือความเป็นจริงตามธรรมชาติ ถงึ แมว้ า่ เหตกุ ารณน์ นั้ จะเป็นอดตี หรืออนาคตก็ตาม เช่น When the earth moves around itself, it makes Day and Night. (เมือ่ โลกหมนุ รอบตวั เอง มนั ทาใหเ้ กิดกลางวนั กลางคนื ) Durian is the king of fruit. (ทเุ รียนเป็นราชาผลไม)้ 2. ใชเ้ พ่อื พดู ถงึ เหตกุ ารณ์ นสิ ยั หรือการกระทาทีเ่ กิดขนึ้ ซา้ ๆ บอ่ ย ๆ เป็นประจาทกุ วนั เชน่ I walk to school every day. (ฉนั เดินไปโรงเรยี นทกุ วนั ) Nuda always help other people so everyone loves her. (นดุ าช่วยเหลอื คนอืน่ เป็นประจา ดงั นนั้ ทกุ คนจึงรกั หล่อน) 3. ใชเ้ พือ่ ใหค้ าแนะนาหรือการบอกทศิ ทาง เช่น Turn off the television before going to bed. (ปิดโทรทศั นก์ อ่ นเขา้ นอน) You go straight for 300 meters, then the destination is on your left. (คณุ เดนิ ตรงไป 300 เมตรและจดุ หมายปลายทางจะอยทู่ างซา้ ยมอื ของคณุ )

รูปประโยคของ Present Simple Tense ดงั ที่ไดก้ ลา่ วขา้ งตน้ วา่ Present Simple Tense คอื ประโยคที่บอกเล่าเร่อื งราวต่าง ๆ เช่น ฉัน ว่ายนา้ ทกุ ๆ วนั โดยรูปประโยคของ Present Simple Tense มีรูปแบบดงั ต่อไปนี้ 1. ประโยคบอกเล่า โครงสรา้ งของประโยคบอกเลา่ : Subject + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา) ทงั้ นีค้ ากริยาช่องที่ 1 นนั้ จะมกี ารเติม s หรือ es ถา้ หากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) แตถ่ า้ ประธานเป็น I, You หรือประธานพหพู จน์ (You (หลายคน), We, They) ใหค้ งรูป คากริยานนั้ ๆ ไวเ้ ช่นเดมิ เชน่ I go to university by bus every morning. (ฉันไปมหาวิทยาลยั โดยรถโดยสารประจาทางทกุ เชา้ ) **ประโยคนปี้ ระธานคอื I แมจ้ ะเป็นเอกพจนแ์ ต่เป็นขอ้ ยกเวน้ ดงั กริยา go จึงไมต่ อ้ งเติม s หรือ es He plays guitar very well. (เขาเล่นกตี ารเ์ กง่ มาก) **ประโยคนปี้ ระธานคอื He เป็นเอกพจน์ กรยิ าคอื play จึงตอ้ งเติม s They enjoy playing the football. (พวกเขาสนกุ กบั การเลน่ ฟุตบอล) **ประโยคนปี้ ระธานคอื They เป็นพหพู จน์ กรยิ าคือ enjoy จึงไมต่ อ้ งเตมิ s หรือ es *ความรูเ้ พิ่มเตมิ : หลกั การเตมิ s,es นนั้ ง่ายนดิ เดยี ว คอื คากรยิ าที่ลงทา้ ยดว้ ย ch, o, s, ss, sh, x ใหเ้ ตมิ es เม่ือประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) เช่น She washes her car.

ประธานของประโยคคือ She ซง่ึ เป็นเอกพจน์ คากริยาคอื wash ทลี่ งทา้ ยดว้ ย sh จึงตอ้ งเติม es ต่อทา้ ย สว่ นคากริยาอนื่ ๆ ท่ีไม่ไดล้ งทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะทงั้ 6 ตวั นนั้ ใหเ้ ตมิ s หลงั คากริยา ในประโยคท่มี ปี ระธานเป็นเอกพจนไ์ ดเ้ ลย เช่น My mom cooks some food for me. ประธานของประโยคคือ My mom ซึ่งเป็นเอกพจน์ เราใช้ She แทน My mom ได้ คากริยาคือ cook ทไ่ี ม่ไดล้ งทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะตามกฎ จงึ เตมิ s ไดท้ นั ที และถา้ หากคากริยานนั้ ลงทา้ ย ดว้ ย y ใหเ้ ปลีย่ น y เป็น i แลว้ เติม es ทา้ ยคากริยานนั้ เชน่ study - studies, fly - flies, carry - carries เป็นตน้ แต่มขี อ้ ยกเวน้ คอื ถา้ หากหนา้ y เป็นสระ (A, E, I, O, U) ใหเ้ ตมิ s ไดท้ นั ที เช่น play - plays, buy - buys, stay - stays 2. ประโยคคาถาม โครงสรา้ งของประโยคคาถามใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคือ แบบที่ 1 : Verb to be + Subject + Object/สว่ นขยาย + (คาบอกเวลา) ? ใชเ้ มือ่ ในประโยคนนั้ มี V. to be (Is, Am, Are) ปรากฎอยู่ เช่น She is my sister. ---> Is she your sister? (หล่อนเป็นนอ้ งสาวคณุ หรือเปลา่ ?) เมอ่ื เห็น V. to be ในประโยคใหน้ า V. to be ขึน้ ตน้ ประโยคนาหนา้ ประธานไดเ้ ลย เพียงเทา่ นกี้ ็ จะกลายเป็นประโยคคาถาม (และอย่าลมื เปลย่ี นคาสรรพนามดว้ ยนะคะ จาก my เป็น your) แบบที่ 2 : Verb to do + Subject + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา)? ใชเ้ มอ่ื ประโยคนนั้ ไม่มี V. to be จงึ ตอ้ งนา V. to do ไดแ้ ก่ do กบั does เขา้ มาช่วย โดยขึน้ ตน้ ประโยคนาหนา้ ประธาน ซงึ่ มีวิธีการใชท้ ี่แตกต่างกนั คอื Do ใชน้ าหนา้ I, you และประธานท่ี เป็นพหพู จน์ (You, We, They) สว่ น Does ใชน้ าหนา้ ประธานที่เป็นเอกพจน์ (He, She, It) และ คากริยาคงรูปชอ่ งท่ี 1 เหมือนเดมิ โดยไม่ตอ้ งเตมิ s, es เช่น

They play football every evening. ---> Do they play football every evening? (พวกเขา เล่นฟตุ บอลทกุ เย็นหรือเปลา่ ?) ประโยคนไี้ มม่ ี V. to be อย่ใู นประโยค จึงนา V. to do มาใชข้ นึ้ ตน้ ประโยคนาหนา้ they ซง่ึ เป็น ประธานพหพู จน์ That cat eats fish. ---> Does that cat eat fish? (แมวตวั นนั้ กินปลาหรือเปล่า?) ประโยคนไี้ มม่ ี V. to be อย่ใู นประโยค จงึ นา V. to do น่นั ก็คือ does มาใชข้ นึ้ ตน้ ประโยค นาหนา้ that cat หรอื กค็ ือ it ซึ่งเป็นประธานเอกพจน์ โดยคากริยาคอื eat มกี ารตดั s ออกใน ประโยคคาถาม 3. ประโยคปฏเิ สธ รูปแบบประโยคปฏเิ สธใน Present Simple Tense มีสองรูปแบบคลา้ ยกบั รูปแบบประโยค คาถามคือ แบบท่ี 1 : Subject + Verb to be + not + Object/ส่วนขยาย + (คาบอกเวลา) ใชเ้ มือ่ ในประโยคนนั้ มี V. to be (Is, Am, Are) ปรากฎอยู่ เชน่ I am your servant. ---> I am not your servant. (ฉันไม่ไดเ้ ป็นคนรบั ใชข้ องคณุ ) เม่อื เห็น V. to be ในประโยคใหเ้ ติม not ไวห้ ลงั V. to be ไดท้ นั ที เพยี งเทา่ นกี้ ็จะกลายเป็น ประโยคปฏเิ สธ แบบท่ี 2 : Subject + Verb to do + not + Verb.1 + Object + (คาบอกเวลา) แบบท่ีสองใชเ้ ม่ือประโยคนนั้ ไมม่ ี V. to be จึงตอ้ งนา V. to do ไดแ้ ก่ do กบั does เขา้ มาชว่ ย แลว้ ตามหลงั ดว้ ย not เพ่ือบอกความปฏเิ สธ สว่ นคากริยาใหค้ งรูปชอ่ งท่ี 1 เหมอื นเดิมโดยไม่ ตอ้ งเติม s, es เช่น He watches television at home. ---> He does not watch television at home. (เขา ไม่ไดด้ โู ทรทศั นอ์ ยทู่ ีบ่ า้ น)

ประโยคนไี้ มม่ ี V. to be อยใู่ นประโยค จึงนา V. to do น่นั กค็ ือ does มาเป็นกริยาช่วยและตาม ดว้ ย not เพ่ือบอกรูปปฏเิ สธ สว่ นคากริยาเม่อื อยใู่ นรูปปฏิเสธแลว้ ใหต้ ดั s, es ทงิ้ คงเหลอื คากริยาชอ่ งที่ 1 รูปเดมิ คาบอกเวลาใน Present Simple Tense ในประโยค Present Simple Tense มกั จะมีคาบอกเวลาซ่งึ เป็น Adverbs of Frequency ปรากฎอย่ใู นประโยคเพือ่ บอกความถ่ขี องเหตกุ ารณห์ รือการกระทานนั้ ๆ ไดแ้ ก่ Adverbs of Frequency คาบอกเวลา Always สม่าเสมอ, เป็นประจา Frequently บอ่ ย ๆ Often บอ่ ย ๆ Usually โดยปกติ Hardly แทบจะไม่เคย Never ไมเ่ คย Rarely แทบจะไม่เคย Seldom นาน ๆ ครงั้ Sometimes บางครงั้ และนอกจากตวั อย่างคาบอกเวลาทีพ่ บบอ่ ยใน Present Simple Tense แลว้ ยงั อาจพบคาว่า every + ... เชน่ every month, every morning, every Saturday เพอ่ื บอกความถ่ขี อง เหตกุ ารณห์ รือการกระทากไ็ ด้ เชน่ My teacher always drinks coffee in the morning. (ครูของฉันดม่ื กาแฟในตอนเชา้ เป็นประจา)

Nadech usually gets up at 7 o'clock. (โดยปกตณิ เดชตืน่ นอนตอนเจ็ดโมง) Narong hardly reads books so he doesn't pass the exam. (ณรงคแ์ ทบจะไม่เคยอา่ นหนงั สือ ดงั นนั้ เขาจงึ สอบตก) It seldom rains in this part of the country. (ฝนตกนาน ๆ ครงั้ ในพนื้ ทน่ี ขี้ องประเทศ) I feel like she's selfish sometimes. (ฉนั รูส้ กึ ว่าหล่อนเหน็ แก่ตวั ในบางครงั้ ) Kimmy hangs out with her friends every Saturday night. (คิมม่ีออกไปเทยี่ วกบั เพอื่ นของเธอทกุ คืนวนั เสาร)์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook