1
2 องค์ประกอบ/ตัวชี้วดั ตัวชีว้ ัดที่ 1.1 การบริหารจัดการสถานศึกษาทีม่ ปี ระสิทธิภาพ 1.1.1 การบรหิ ารวิชาการ โดยไดม้ สี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ัติ หน้าทีใ่ นการดาเนนิ งาน กจิ กรรมต่างๆ ดงั น้ี
3 รายงานผลการประเมนิ สัมฤทธผิ ลการปฏิบตั ิงานในหน้าทเี่ พ่อื พัฒนาการศึกษาเปน็ ระยะเวลา ๑ ปี สาหรบั ผทู้ ไี่ ดร้ บั การบรรจุและแตง่ ตั้งให้ดารงตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา นายชยั ภัทร ใจดี รองผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 56 จงั หวัดนา่ น ************************************** ตอนที่ 1 ขอ้ มูลส่วนตัว ประวตั สิ ่วนตวั ชอ่ื นายชัยภัทร นามสกุล ใจดี เกดิ วันท่ี 09 เดอื น กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2524 อายุ 40 ปี อายรุ าชการ 11 ปี 1 เดือน 17 วนั คณุ วุฒทิ างการศกึ ษา ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต (ศษ.ม.) สาขา การบริหารการศึกษา จากสถาบันการศกึ ษา มหาวิทยาลยั กรงุ เทพธนบรุ ี ตาแหนง่ รองผ้อู านวยการ วทิ ยฐานะ รองผอู้ านวยการชานาญการ ตาแหน่งเลขที่ 106610 เลขท่ีบัตรประชาชน ๓–๕606–๐๐326–34–9 เลขทใ่ี บอนญุ าตประกอบวิชาชพี 62229๐๐๐๐14661 ประวัตกิ ารศกึ ษา ปีที่สาเร็จการศึกษา สถาบัน วุฒกิ ารศกึ ษา พ.ศ. 2546 มหาวิทยาลัยราชภฏั เชยี งราย ปริญญาตรี ค.บ. (ภาษาองั กฤษ) ปริญญาโท ศษ.ม (การบริหารการศกึ ษา) พ.ศ. 25๕5 มหาวิทยาลยั กรุงเทพธนบุรี ประวัติการทางาน (ต้งั แตเ่ ริม่ ปฏบิ ัตงิ านจนถึงปจั จุบัน) วัน-เดอื น-ปี ตาแหนง่ สถานท่ีทางาน โรงเรียนบา้ นเหลา่ อ.แม่ใจ จ.พะเยา 16 ส.ค. ๒๕53 ครผู ูช้ ว่ ย โรงเรียนบ้านเหล่า อ.แม่ใจ จ.พะเยา โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 24 จังหวัดพะเยา 16 ส.ค. ๒๕55 ครู คศ.๑ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 24 จังหวัดพะเยา 1 ก.ค. ๒๕5๖ ครู คศ.๑ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 จงั หวดั นา่ น 15 ธ.ค. ๒๕59 ครู คศ.๒ 5 ต.ค. ๒๕63 – รองผู้อานวยการโรงเรียน ปจั จบุ ัน
ตอนท่ี ๒ รายงานการประเมินตามองคป์ ระกอบ ตัวชี้วัด 4 รายงานผลการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในตาแหนง่ รองผ้อู านวยการ สถานศกึ ษา คร้งั ที่ 1 (รอบ 6 เดือน) ข้าพเจ้า นายชัยภัทร ใจดี ตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่ตาม มาตรฐานตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา กล่าวคือ มีหน้าท่ีและรับผิดชอบหลักในการบังคับบัญชา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรในสถานศึกษา รองจากผู้อานวยการสถานศึกษา และ ช่วยปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ บริหารสถานศึกษา บริหารการ เปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บริหารชุมชนและเครือข่าย รวมทั้งพัฒนาตนเองและวิชาชีพ และ ปฏิบัติงานอ่ืนตามท่ีได้รับมอบหมายจากผู้อานวยการสถานศึกษา ส่งผลให้ตลอดเวลาท่ีข้าพเจ้าได้ดารง ตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา โดยมีหน้าที่และรับผิดชอบกลุ่มบริหารวิชาการของโรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 56 ในระยะเวลา 1 ปี เกิดประสิทธิผลในการปฏิบัติหน้าที่ตามตัวช้ีวัด ดังน้ี ตัวชวี้ ดั ท่ี 1.1 การบรหิ ารจัดการสถานศึกษาที่มีประสทิ ธภิ าพ 1.1.1 การบริหารงานวิชาการ 1) การดาเนินกิจกรรมทางวิชาการ ข้าพเจ้าได้มีการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นา ทางวิชาการ ในการสนบั สนนุ ส่งเสรมิ และพัฒนาการดาเนินกจิ กรรมของงานวชิ าการ ดงั น้ี การจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพและยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยข้าพเจ้ามีการจัดทา แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 ซ่ึงในการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี ด้านของการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ขา้ พเจ้าศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนทุกกล่มุ สาระการเรียนรู้ และกลุ่มสาระการเรียนรู้หลัก เพ่ือเปรียบเทียบ จากปีการศึกษาที่ผ่านมา จากรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2562 จากนั้นได้ ส่งเสรมิ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผูเ้ รียน โดยไดจ้ ัดทาโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของแต่ละกลมุ่ สาระการเรียนรู้
5 (๒) ดาเนินการตามแผนการพฒั นาคณุ ภาพ และยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น หลังจากที่ได้มีการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาละจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี แล้ว ข้าพเจ้าได้ดาเนินการตามแผนท่ีวางไว้ นอกจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ของแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยได้จัดทาโครงการยกระดบั ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของแต่ละกลมุ่ สาระการ เรยี นรู้ เพ่ือพฒั นาคณุ ภาพผูเ้ รยี น ดงั น้ี 1. การจัดกจิ กรรมยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น การทดสอบระดับชาติ (O-net) ชว่ งเวลา 07.30 น. – 08.30 น. ต้งั แตว่ นั ท่ี 1 มกราคม 2564 – 15 มนี าคม 2564 2. ร่วมกจิ กรรม CU14 จิตอาสา ติววชิ า พัฒนาคน โครงการเพ่มิ พูน ความรู้ตามแนวโอเน็ต ชั้น ม.6 ระหว่างวันที่ 23 – 26 กุมภาพันธ์ 2564 ร่วมกบั โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา 3. รว่ มกิจกรรม CU14 จติ อาสา ติววชิ า พฒั นาคน โครงการเพ่ิมพูน ความรู้ตามแนวโอเนต็ ชน้ั ม.6 ระหวา่ งวันที่ 23 – 26 กุมภาพนั ธ์ 2564 รว่ มกบั โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จงั หวัดพะเยา 4. ร่วมโครงการพฒั นาศกั ยภาพด้านการศกึ ษาเด็กนา่ นสคู่ วามเปน็ เลศิ ชัน้ ม.6 ระหว่างวันที่ 15 – 17 กมุ ภาพันธ์ 2564 ร่วมกับโรงเรียนสา
6 (๓) จัดทาฐานขอ้ มลู คณุ ภาพ และผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผูเ้ รยี นเป็นรายบคุ คล ขา้ พเจ้าได้ดาเนินการจดั ทาฐานขอ้ มูลคุณภาพ และผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของผเู้ รียนเป็นรายบคุ คล โดยไดส้ ง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหง้ านทะเบียน งานวดั และประเมินผล ใชร้ ะบบเพ่อื เปน็ ฐานขอ้ มลู ที่สามารถรายงาน ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผูเ้ รยี นเปน็ รายบุคคลได้ ดงั ต่อไปนี้ 1. ระบบ School Mis 2. ระบบ Secondary ระบบสามารถจัดทาฐานข้อมูลคุณภาพ และผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของผเู้ รยี นเป็นรายบุคคลเพ่ือท่ี สามารถนาข้อมลู ดังกลา่ วมารวบรวมไปวางแผนเพ่ือพัฒนาดา้ นผลผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของผู้เรยี นต่อไป
7 (๔) มกี ารพฒั นาครดู ้วยกจิ กรรมท่หี ลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ขา้ พเจ้าได้ดาเนินการพัฒนาครูด้วยกจิ กรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความ ตอ้ งการ อาทิเชน่ ดังต่อไปนี้ 1. การจัดอมรมพัฒนางานประกนั คุณภาพการศึกษา 2. การอมรมเพ่ือขับเคล่ือนโรงเรยี นใหเ้ ปน็ ศูนยก์ ารเรียนรตู้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. ส่งเสริมให้ครูรว่ มอบรมโครงการนา่ นเพาะพนั ธป์ุ ัญญา
8 (๕) มกี ารพฒั นานักเรยี นด้วยกิจกรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับ ความต้องการ ข้าพเจา้ ไดด้ าเนินการพฒั นานกั เรียนด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการโดยมแี ผนการเรียนท่ีมีความหลากหลายในการพฒั นาผเู้ รียน อาทิเช่น ดังต่อไปนี้ 1. การจัดการเรยี นสอน Active learning อาทิเช่น โครงงานฐานวิจัย (นา่ นเพาะพนั ธ์ปัญญา) 2. การจดั การเรียนการสอนหลักสูตรทวศิ ึกษา สาขาการตลาดและสาขาช่างไฟฟา้ กาลัง 3. การจดั การเรยี นการสอนส่งเสรมิ ดา้ นอาชีพสาหรบั นกั เรียนทีม่ ีความหลากหลาย
9 (๖) มีแหล่งเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมและเอื้อต่อการเรยี นรขู้ องผู้เรียน ขา้ พเจา้ ได้ดาเนนิ การสง่ เสริมและพฒั นาแหลง่ เรียนรู้ท่เี หมาะสมและเอ้ือต่อการเรียนรขู้ องผู้เรยี น ทง้ั ภายในและภายนอกสถานศึกษา อาทิเชน่ ดังต่อไปน้ี 1. มกี ารพัฒนาแหลง่ เรยี นรู้ภายในโรงเรยี น ได้แก่ แหลง่ เรียนรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้ จานวน 8 กลมุ่ สาระ การพัฒนาแหลง่ เรียนรู้หอ้ งเรียน ICT ห้องสมุด ทักษะอาชีพ บ้านชนเผา่ ทแี่ สดงถึงการอนุรักษ์ ศิลปวฒั นธรรม และการพัฒนาแหล่งเรยี นรตู้ ามกจิ กรรมทักษะอาชพี ตา่ ง ๆ ภายในโรงเรียนเพอ่ื ใหส้ อดคล้อง และมคี วามเหมาะสมต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน 2. แหลง่ เรยี นรู้ภายนอกโรงเรียน ไดแ้ ก่ ชมุ ชน องคก์ รและหน่วยงานตา่ งๆ
10 (๗) มีการทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยเครื่องมือที่มีมาตรฐานด้วยวิธีและรูปแบบที่ หลากหลาย ข้าพเจ้าได้ดาเนินการส่งเสริมและสนับสนุน การทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยเคร่ืองมือที่มี มาตรฐานด้วยวิธีและรูปแบบที่หลากหลาย ด้านการทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ของครูผู้สอนในแต่ละ รายวิชาให้มคี วามหลากหลาย รวมถงึ ส่งเสริมและสนับสนุนในการทดสอบต่างๆ ไดแ้ ก่ การทดสอบเพือ่ ประเมิน ความสามารถในการอ่าน (Reading Test : RT) สาหรับเด็กประถมศึกษาปีที่ 1 การจัดสอบวัดความรู้ ความสามารถพ้ืนฐานของผู้เรียนระดับชาติNational Test : NT นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 การทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน O-NET (Ordinary National Educational Test) และการสอบปลายปี ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2,4,5 และชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1,2 เป็นต้น การทดสอบและประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ ประเมนิ ความสามารถในการอ่าน (Reading Test : RT) สาหรับเดก็ ประถมศึกษาปที ่ี 1 การทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ นั้ พ้นื ฐาน O-NET (Ordinary National Educational Test)
11 (๘) มีระบบนเิ ทศ กากับ ตดิ ตามประเมนิ และรายงานผลการดาเนนิ งานทชี่ ดั เจน ข้าพเจา้ ได้ดาเนนิ การการนิเทศ กากบั ตดิ ตาม การบริหารจัดการชั้นเรียนของอาคารเรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษา และห้องกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ห้องปฏิบตั ิการต่าง ๆ พรอ้ มรายงานผลการนิเทศ ให้ผู้อานวยการ โรงเรียนทราบเพ่ือร่วมวางแผนแก้ไขปัญหา อันจะเกิดประโยชน์สูงสดุ แกน่ ักเรยี นในทุกๆ ด้านต่อไป
12 ๒) มีการดาเนนิ กจิ กรรมการพฒั นาทกั ษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย ดังน้ี (๑) มีการส่งเสรมิ สนับสนนุ ในการสร้างความตระหนกั และใหค้ วามรู้แกค่ รู ข้าพเจ้าให้คาแนะนา แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาทักษะด้านการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของครผู ู้สอน เนื่องจากไดเ้ ลง็ เห็นถึงความสาคัญของการใช้ภาษาไทยใหถ้ ูกต้อง ชัดเจน โดยเฉพาะนักเรียนท่ีเป็นชาติพันธุ์ต่างๆ จะต้องส่งเสริม มีกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นการพัฒนาให้มีทักษะท่ีดี มี การการฝกึ ฝนทกั ษะดา้ นการพดู การอ่าน การเขยี น อนั จะเปน็ การส่งเสริมได้เป็นอยา่ งดี การประชมุ ครูในการสรา้ งความตระหนักและให้ความร้แู ก่คณะครดู ้านการอา่ นและการเขียนภาษาไทย (๒) มีการสง่ เสรมิ สนบั สนุนการนาความรู้สูก่ ารปฏิบตั ิ จากการส่งเสรมิ สนับสนุนในการสรา้ งความตระหนักและให้ความร้แู ก่ครูแล้ว ทีส่ าคัญคือการ ส่งเสริม และสนับสนุนให้ครูสู่การปฏิบัตเิ พื่อพัฒนาทักษะด้านการอา่ นและการเขยี นภาษาไทยของผู้เรียน (๓) มกี ารส่งเสรมิ สนับสนุนให้มีการจดั ทาสื่อ หรือนวัตกรรม จากการส่งเสรมิ สนับสนุนในการสร้างใหม้ ีการจัดทาสื่อ หรือนวตั กรรม เพอ่ื พฒั นาทักษะ ดา้ นการอ่านและการเขียนภาษาไทยของผเู้ รียน เนื่องดว้ ยถือเป็นสิง่ ที่สามารถทาให้ผเู้ รียนเกดิ การเรยี นรู้ ได้เป็นอย่างดี
13 (๔) มีการวางแผนนิเทศ และติดตาม จากการสง่ เสริม สนับสนุนในกระบวนการต่างๆ แล้ว การวางแผนนิเทศ และติดตามก็เป็น ส่งิ ท่สี าคัญในกระบวนการท่ีจะพฒั นาทักษะดา้ นการอา่ นและการเขยี นภาษาไทยของผูเ้ รียนให้มปี ระสทิ ธิภาพ (๕) มีการสรุป ตดิ ตาม รายงานผลและพัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง สิง่ ท่ีสาคัญอีกประการในกระบวนการที่จะพฒั นาทักษะดา้ นการอ่านและการเขียนภาษาไทย ของผู้เรยี นให้มีประสทิ ธิภาพ คือการสรปุ ติดตาม รายงานผลและนาผลนั้นไปวางแผนเพื่อพฒั นาอยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง
14 รายงานผลการประเมนิ สัมฤทธผิ ลการปฏิบตั งิ านในตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ครัง้ ท่ี 2 (รอบ 6 เดือน) ขา้ พเจ้า นายชยั ภทั ร ใจดี ตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา ไดป้ ฏิบตั งิ านในหน้าทีต่ าม มาตรฐานตาแหน่ง รองผู้อานวยการสถานศึกษา กล่าวคือ มีหน้าท่ีและรับผิดชอบหลักในการบังคับบัญชา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรในสถานศึกษา รองจากผู้อานวยการสถานศึกษา และ ชว่ ยปฏิบัติราชการเกยี่ วกับการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ บริหารสถานศึกษา บริหารการ เปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม บริหารชุมชนและเครือข่าย รวมท้ังพัฒนาตนเองและวิชาชีพ และ ปฏิบัติงานอ่ืนตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้อานวยการสถานศึกษา คือ จ่าสิบเอกเสวก ฉุนหอม ผู้อานวยการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 จนส่งผลให้ตลอดเวลาท่ีข้าพเจ้าได้ดารงตาแหน่ง รองผู้อานวยการ สถานศกึ ษา มหี น้าทแี่ ละรบั ผดิ ชอบกลุ่มบรหิ ารวชิ าการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 ในรอบ 6 เดือน คร้ังท่ี 2 เกิดประสทิ ธผิ ลในการปฏบิ ัตหิ น้าทต่ี ามตวั ชว้ี ัด ดังนี้ ตัวชว้ี ัดที่ 1.1 การบริหารจัดการสถานศึกษาทม่ี ีประสิทธิภาพ 1.1.2 การบรหิ ารงานวชิ าการ 2) การดาเนินกิจกรรมทางวิชาการ ข้าพเจ้าได้มีการบริหารวิชาการและความเป็นผู้นาทางวิชาการ ในการสนับสนนุ สง่ เสริม และพฒั นาการดาเนนิ กิจกรรมของงานวชิ าการ ดงั น้ี (1) การจดั ทาแผนพัฒนาคุณภาพและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น มีการประชุมวางแผนงานโครงการของกลุ่มบริหารวิชาการ ให้เป็นไปตามแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษา และโดยจัดทาโครงการ ประจาปีการศึกษา 1/2564 ปีงบประมาณ 2/2564 ซง่ึ โครงการเป็นไปเพื่อส่งการยกระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของผู้เรียน ข้าพเจ้าไดศ้ ึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อเปรียบเทียบจากปีการศึกษาท่ีผ่านมา จากรายงานการประเมินตนเองของ สถานศึกษา ปีการศึกษา 2563 จากนั้นได้ ส่งเสริมการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน โดยได้ จัดทาโครงการยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ของแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรียนรูเพือ่ พฒั นาคุณภาพผเู้ รียน
15 (๒) ดาเนินการตามแผนการพฒั นาคุณภาพ และยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น หลงั จากทไ่ี ด้มกี ารประชุมวางแผนงานโครงการของกลมุ่ บริหารวิชาการ ใหเ้ ป็นไปตามแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษา และโดยจัดทาโครงการ ประจาปีการศึกษา 1/2564 ปีงบประมาณ 2/2564 แล้ว ขา้ พเจ้าไดด้ าเนินการตามแผนงานโครงการตา่ งๆ ทว่ี างไว้ ส่งเสริมกจิ กรรมการเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเป็น สาคัญ ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ และได้จัดทาโครงการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของแต่ละกลุ่ม สาระการเรยี นรู้ เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ดังนี้
16 (๓) จดั ทาฐานข้อมลู คุณภาพ และผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล การจดั ทาฐานขอ้ มูลคุณภาพ และผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของผู้เรียนเปน็ รายบุคคล โดยได้ สง่ เสริม สนบั สนนุ ให้งานทะเบียน งานวดั และประเมินผล ใช้ระบบเพื่อเป็นฐานข้อมูลที่สามารถรายงาน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของผ้เู รยี นเป็นรายบุคคลได้ ดังต่อไปน้ี 1. ใชร้ ะบบ Set (Special Education Technology) ในการบริหารจดั การข้อมลู นักเรียน 2. ใช้ระบบ Secondary งานวดั และประเมินผล ระบบ Secondary สามารถจดั ทาฐานข้อมลู คณุ ภาพ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนของผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล แบบแสดงผลการพฒั นาคณุ ภาพของผู้เรยี น (ปพ.5) เพือ่ ท่สี ามารถนาข้อมลู ดังกลา่ วมารวบรวมไป วางแผนเพ่ือพฒั นาด้านผลผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผ้เู รยี นต่อไป
17 (๔) มกี ารพฒั นาครูดว้ ยกจิ กรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกบั ความตอ้ งการ การพัฒนาครดู ้วยกจิ กรรมท่หี ลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับความต้องการ อาทิเชน่ ดังตอ่ ไปน้ี 1. การประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนว พระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้าใจและความหวัง” ระยะที่ ๑ และระยะท่ี ๑ (เพิ่มเติม) เพื่อให้ครูสามารถเข้าใจการบวนการของห้องเรียนอารยเกษตร ท่ีจัดการเรยี นการสอนใหผ้ ู้เรียนจาก การลงมอื ปฏบิ ัติจริง (Active learning) โดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐานหรอื เรยี กวา่ PBL (Problem Based Learning) 2. การพฒั นาครูใหม้ ีความพร้อมด้าน ICT เพ่อื รองรบั การจัดการเรยี นการสอนแบบ On line, On demand ในยคุ สถานการณ์ โควิด - 19
18 (๕) มีการพัฒนานักเรียนด้วยกิจกรรมท่ีหลากหลายตามความเหมาะสม และสอดคล้องกับ ความต้องการ การพัฒนานักเรียนด้วยกิจกรรมที่หลากหลายตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการโดย ทางโรงเรียนได้จัดแผนการเรียน อาทเิ ช่น ในระดับช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ได้จัดหลกั สตู รอาชพี ระยะส้นั เพิม่ ขึ้น เพือ่ ความเหมาะสมและสอดคล้องกบั ความต้องการของผูเ้ รียน ในระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย ไดจ้ ัดหลกั สตู ร ห้องเรียนเตรียมอาชีพแบบสะสมหน่วยกิต หลักสูตรทวิศึกษา และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาวชิ าอาหารและโภชนาการ ประเภทวชิ าคหกรรม เพือ่ เป็นการจัดเพื่อความหลากหลายตามความ เหมาะสมและสอดคล้องกับความตอ้ งการของผู้เรยี นอยา่ งแทจ้ ริง การจัดการเรียนการสอนหลักสตู รอาชพี ระยะสนั้ การจดั การเรียนการสอนหลกั สูตรทวิศกึ ษา สาขาการตลาดและสาขาช่างไฟฟ้ากาลงั หลักสูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี ประเภทวิชา คหกรรม สาขาวิชา อาหารและโภชนาการ
19 นอกจากนน้ั โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 56 จงั หวัดน่าน ไดร้ บั การพจิ ารณาคัดเลอื กเป็นสถานศกึ ษา นาร่องโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดาริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แหง่ น้าใจและความหวงั ” ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๑ (เพมิ่ เติม) โดยนอกจากมีพ้ืนท่ี โคก หนอง นา เพือ่ เป็น แหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาแล้ว มีการวางแผนในการจัดเรียนการสอนของห้องเรียนอารยเกษตร โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 56 จังหวัดน่าน จานวน 3 แบบ เพ่ือเป็นการพฒั นานักเรียนด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผเู้ รียน ดงั นี้ แบบท่ี ๑ ห้องเรยี นอารยเกษตร (A) เป้าหมายเป็นผ้ปู ระกอบการ (กลมุ่ เปา้ หมาย) แบบที่ ๒ วิชาเลือก (B) ร่วมแกป้ ญั หาชมุ ชน (กลุ่มเปา้ หมาย) แบบที่ ๓ หอ้ งเรยี นบรู ณาการ (C) การสอนแบบบรู ณาการ ๘ กล่มุ สาระ
20 (๖) มีแหล่งเรยี นรู้ที่เหมาะสมและเอื้อต่อการเรยี นรขู้ องผู้เรียน ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ พั ฒ น า แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ ท่ี เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ เ อ้ื อ ต่ อ ก า ร เ รี ย น รู้ ข อ ง ผู้ เ รี ย น ทัง้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา ดังตอ่ ไปนี้ 1. มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน ได้แก่ แหล่งเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ จานวน 8 กลุ่มสาระ ห้องปฏิบัติการวทิ ยาศาสตร์ ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ ห้องสมุด ห้องปฏิบตั ิการงานอาชีพต่างๆ ห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ห้อง E-Classroom ห้องสมุดทะเลไทย ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้และให้บริการ การศึกษาเรียนรวม SSS : Student Support Service ห้อง Fab Lab พิพิธภัณฑ์ชาติพันธ์ุน่านศึกษา ร้านกาแฟหน้าโรงเรียน ร้านนวดแผนโบราณหน้าโรงเรียน และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ตามกิจกรรมทักษะ อาชีพต่าง ๆ และตามบรบิ ท สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนมีความเหมาะสมต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ของ ผ้เู รยี น 2. แหล่งเรียนรู้ภายนอกโรงเรยี น ได้แก่ ชมุ ชน องค์กรและหนว่ ยงานตา่ งๆ
21 (๗) มีการทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยเครื่องมือท่ีมีมาตรฐานด้วยวิธีและรูปแบบท่ี หลากหลาย การส่งเสริมและสนบั สนุน การทดสอบและประเมินผลการเรยี นรู้ดว้ ยเครอื่ งมือท่ีมีมาตรฐานด้วย วิธีและรูปแบบท่ีหลากหลาย ด้านการทดสอบและประเมินผลการเรียนรู้ของครูผู้สอนในแต่ละรายวิชาให้มี ความหลากหลาย นอกจากการวัดด้วยแบบทดสอบแล้วยังส่งเสริมให้ครูมีการทดสอบและประเมินผลตาม สภาพจรงิ ด้วย เป็นตน้
22 (๘) มีระบบนิเทศ กากับ ติดตามประเมินและรายงานผลการดาเนินงานทช่ี ัดเจน การนิเทศ กากับ ตดิ ตาม การบริหารจดั การชน้ั เรยี นของอาคารเรยี นระดับช้นั มัธยมศึกษา และ ห้องกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ห้องปฏิบตั กิ ารต่าง ๆ พร้อมรายงานผลการนิเทศ ใหผ้ ู้อานวยการโรงเรียนทราบเพื่อ รว่ มวางแผนแกไ้ ขปัญหา อนั จะเกิดประโยชน์สงู สดุ แก่นักเรียนในทกุ ๆ ด้านตอ่ ไป
23 ๒) มีการดาเนนิ กจิ กรรมการพัฒนาทักษะด้านการอ่านและการเขียนภาษาไทย ดังน้ี (๑) มกี ารสง่ เสริม สนับสนุนในการสรา้ งความตระหนกั และให้ความรู้แกค่ รู การส่งเสริม สนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนาทักษะด้านการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของครผู ู้สอน เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงความสาคัญของการใช้ภาษาไทยให้ถกู ตอ้ ง ชดั เจน มีกิจกรรมต่างๆ ที่จะเป็นการพัฒนาให้มีทักษะที่ดี มีการการฝึกฝนทักษะด้านการพูด การอ่าน การเขียน อนั จะเปน็ การส่งเสรมิ ไดเ้ ป็นอย่างดี โดยไดม้ ีการจดั ทาโครงการและการประชมุ ครเู พื่อวางแผนดาเนินกจิ กรรม (๒) มกี ารสง่ เสริม สนับสนุนการนาความรู้สกู่ ารปฏิบตั ิ การส่งเสรมิ สนบั สนนุ ในการสร้างความตระหนักและให้ความรู้แก่ครู ทส่ี าคัญคือการ สง่ เสริม และสนบั สนนุ ใหค้ รูสู่การปฏบิ ัติเพ่ือพฒั นาทกั ษะด้านการอา่ นและการเขยี นภาษาไทยของผูเ้ รียน ดังน้ี (๓) มกี ารส่งเสรมิ สนับสนุนใหม้ กี ารจดั ทาสื่อ หรือนวตั กรรม การส่งเสริม สนบั สนุนในการสรา้ งให้มีการจัดทาสื่อ หรือนวตั กรรม เพอ่ื พัฒนาทักษะ ดา้ นการอ่านและการเขยี นภาษาไทยของผู้เรยี น เนือ่ งด้วยถือเปน็ ส่งิ ทส่ี ามารถทาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ได้เป็นอย่างดี
24 (๔) มีการวางแผนนิเทศ และติดตาม การวางแผนนิเทศ และติดตามกเ็ ป็นสิง่ ทส่ี าคญั ในกระบวนการท่จี ะพฒั นาทักษะด้าน การอ่านและการเขียนภาษาไทยของผู้เรียนให้มีประสทิ ธภิ าพ (๕) มีการสรุป ตดิ ตาม รายงานผลและพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่ือง การสรปุ ติดตาม รายงานผลเป็นสิ่งทส่ี าคัญในกระบวนการที่จะพัฒนาทักษะดา้ นการ อา่ นและการเขยี นภาษาไทยของผเู้ รียนให้มีประสทิ ธภิ าพ คือการสรุป ตดิ ตาม รายงานผลการดาเนนิ โครงการ กิจกรรมท่เี กีย่ วข้องและนาผลนนั้ ไปวางแผนเพ่ือพฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: