ใบความรเู้ ร่ือง ผังก้างปลา ผงั กา้ งปลา ผังก้างปลา (fishbone diagram) เป็นผังท่ีแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหากับสาเหตุของปัญหา ทั้งหมด ชื่อเรียกผังก้างปลานี้เน่ืองจากเป็นผังท่ีมีลักษณะคล้ายปลาท่ีประกอบด้วย หัวปลา โครงร่างกระดูก แกนกลาง และก้างปลา โดยระบุปัญหาที่หัวปลา ระบุสาเหตุหลักของปัญหาเป็นลูกศรเข้าสู่กระดูกแกนกลาง และระบุสาเหตุย่อยที่เป็นไปได้ที่ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหานั้นเป็นลูกศรเข้าสู่สาเหตุหลัก นอกจากนี้ ผงั กา้ งปลามีชือ่ เรยี กอีกชือ่ หนึ่งว่า แผนผงั อชิ กิ าวา่ (Ishikawa Diagram) เมอื่ ไหร่จึงจะใช้ผงั ก้างปลา 1. เม่ือต้องการคน้ หาสาเหตุของปญั หา ซึง่ ปัญหาหน่ึงอาจมีปัจจัยหรอื สาเหตทุ ่ีเก่ยี วขอ้ งหลายปจั จยั 2. เมอื่ ต้องการใชร้ ะดมความคิด เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มรว่ มกันหาสาเหตุของปัญหาท่รี ะบไุ ว้ท่ีหวั ปลา วิธกี ารสร้างผังก้างปลา 1. กาหนดหรือเขียนปญั หาทห่ี วั ปลาทางด้านขวาของแผนภาพ ควรกาหนดใหช้ ัดเจน มีความเป็นไปได้ ซึง่ หากเรากาหนดประโยคปัญหานี้ไม่ชัดเจนตั้งแต่แรก จะทาให้ต้องใช้เวลามากในการค้นหาสาเหตุ และจะใช้ เวลานานในการทาผงั ก้างปลา 2. เขียนสาเหตุหรือปัจจัยหลัก ๆ ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุไว้ท่ีปลายก้างปลาแต่ละก้าง โดยสาเหตุหรือ ปัจจัยน้ันสามารถทจ่ี ะชว่ ยให้เราแยกแยะและกาหนดสาเหตุต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ และเป็นเหตุเป็นผล ซึ่ง สาเหตหุ รือปัจจยั หลกั ๆ อาจเปลย่ี นแปลงไปขึ้นกับบริบทของปัญหา เชน่ - 4M 1E (Man Machine Material Method Environment) - 4P (Place Procedure People Policy) - 4S (Surrounding Supplier System Skill)
3. เขยี นสาเหตุย่อยต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบในแตล่ ะสาเหตุหรอื ปจั จัยหลักไว้ทก่ี ้างปลาย่อย หากมีสาเหตุย่อย ๆ อีกก็จะเขียนไว้ท่ีก้างปลาย่อยที่เกี่ยวข้อง โดยอาจใช้คาถามทาไม หลาย ๆ ครั้ง ในการ เขียนแต่ละกา้ งปลาย่อย 4. เมอ่ื สนิ้ สดุ คาถามแลว้ จึงขยบั ไปทก่ี ้างตอ่ ๆ ไป จนกวา่ จะได้ผงั ก้างปลาทสี่ มบรู ณ์ 5. เม่ือทาผังก้างปลาเรียบร้อยแล้ว ก่อนท่ีจะนาผังก้างปลาไปใช้ประโยชน์ต่อไป ควรตรวจทานดูว่า การเขียนเหตุผลบนผังมีความสัมพันธ์กันหรือไม่ โดยให้ทดลองอ่านจากก้างท่ีเล็กท่ีสุด ไปยังก้างท่ีใหญ่ท่ีสุด จนกระทง่ั ถึงหัวปลา ใช้อปุ กรณไ์ ม่ ผู้ใช้ ค่าไฟฟา้ ของ เหมาะสมกบั งาน โรงเรยี นสูงขน้ึ ลมื ปดิ ไฟเมอ่ื กจิ กรรมภายในโรงเรียน เลิกใช้งาน ผลมะมว่ ง อุปกรณช์ ารดุ อปุ กรณ์ หรอื เครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ จากตัวอย่างผังก้างปลาปัญหาค่าไฟฟ้าของโรงเรียนสูงขึ้น สามารถสรุปสาเหตุของก้างปลาย่อยท่ี เกี่ยวกบั ผใู้ ช้ได้วา่ “การลืมปิดไฟเมือ่ เลกิ ใช้งานของผใู้ ชท้ าให้คา่ ไฟฟ้าของโรงเรยี นสูงข้นี ” ในการดาเนินการเลือกสาเหตุจากก้างปลาออกมาทาการแก้ไขนั้น อาจเลือกได้ตามหลักการของ พาเรโต คือ 80-20 หรือ 20-80 นั่นคือ เลือกก้างปลามาแค่ร้อยละ 20 แต่สามารถส่งผลกระทบกับหัวปลาได้ ร้อยละ 80 หรือเลือกสาเหตุมาแก้น้อย ๆ แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้มาก ๆ (อ่านเพ่ิมเติมได้ที่ https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=450) หรอื อาจใช้ตารางจัตุรัสในการกาหนดความสาคัญของ กา้ งแต่ละกา้ ง ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปนี้
ความสามารถในการดาเ ินนการ Bงา่ ย A Dยาก C น้อย มาก ผลกระทบ ตารางจัตุรัสแสดงการกาหนดความสาคญั ของแตล่ ะสาเหตุ (แต่ละกา้ งปลา) จากตารางการเปรียบเทียบระหว่างผลกระทบปัญหาที่หัวปลากับความสามารถในการแก้ปัญหา จะ เห็นว่าเราควรเลือกให้ความสาคัญกับก้างปลาหรือสาเหตุที่มีผลกระทบกับปัญหามาก ๆ ซ่ึงง่ายในการ ดาเนินการหรือใช้เวลาสั้น ๆ ในการแก้ไข นั่นคือสาเหตุของปัญหาท่ีอยู่ในกลุ่ม A และในทานองเดียวกัน หาก สาเหตุของปญั หาใดที่ตกอยู่ในกลมุ่ D คือ ผลกระทบตอ่ ปญั หานอ้ ย ดาเนินการแก้ไขได้ยาก ถือว่าเป็นกลุ่มที่ยัง ไม่ควรจะดาเนินการแก้ไขในตอนนี้ เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงต่อความไม่สาเร็จแล้ว ยังไม่ส่งผลใด ๆ กับ ปัญหาที่ตั้งไว้อีกด้วย ซ่ึงอาจเสียเวลาในการดาเนินการ บางคร้ังสาเหตุของปัญหาในกลุ่ม D อาจเป็นสาเหตุท่ี เกิดขนึ้ ตามธรรมชาติก็เป็นไปได้ สว่ นสาเหตขุ องปัญหาทตี่ กอยใู่ นกลุม่ B คอื ดาเนนิ การแก้ไขได้งา่ ยแต่ผลกระทบต่อการแก้ปัญหาน้อย สาเหตุเหลา่ นค้ี วรจะมกี ารดาเนินการแก้ไขในกิจกรรมปรับปรุงกระบวนการทางาน ซึง่ ดาเนนิ การปรับปรุงอย่าง ต่อเนื่อง บางครั้งสามารถดาเนินการแก้ไขคนเดียวได้ ส่วนสาเหตุปัญหาในกลุ่ม C ถ้าแก้ไขจะส่งผลกระทบต่อ ปัญหามาก แต่ดาเนินการแก้ไขได้ยาก แสดงว่าสาเหตุของปัญหากลุ่มน้ีต้องใช้เวลาและความสามารถมาก ๆ ในการแก้ไข จงึ ตอ้ งมีการวางแผนหรือกลยทุ ธ์ในการแกไ้ ข
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: