3. การพฒั นาบุคลากรเพื่อการปฏิบตั ิราชการ 3.7 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในพัฒนาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา สานักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556, หน้า 83) ได้เสนอแนวทางในการพัฒนาข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผล การบริหารงานบุคคลในการพัฒนาข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา จากแนวทางดงั กล่าวแลว้ ประกอบด้วย 1. มีการวิเคราะห์ความจาเป็นและความต้องการในการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษา 2. มีการจัดทาแผนพฒั นาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา 3. มีการดาเนินการพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาตามแผนทีก่ าหนด 4. มีการสร้างและพฒั นาความร่วมมือกับเครือข่ายสง่ เสรมิ ประสทิ ธิภาพการศึกษาในการพฒั นาข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา 5. มีการประเมินผลการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและนาผลการประเมินไปใช้ในการ วางแผนพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาต่อไป
4. วินยั และการรกั ษาวินัย 4.1 ความหมายวนิ ยั และการรกั ษาวินัย วิลาวรรณ รพีพิศาล (2554, หน้า 329) ได้ให้ความหมายของวินัยในการทางาน คือ ระเบียบ คาสั่งหรือ ข้อบังคับที่นายจ้างกาหนดขึ้นเพื่อควบคุมความประพฤติและการทางานของลูกจ้างให้สามารถทางานให้กับ นายจ้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทางานร่วมกับลูกจ้างอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น วินัยจึงเป็นเครื่องมือใน การบริหารงานอย่างหนึ่งของนายจ้างและเปน็ เครื่องแสดงถึงอานาจในการบังคบั บญั ชาของนายจ้าง รจนา อุปทุม (2556, หน้า 24) กล่าวว่า วินัยและการรักษาวินัย หมายถึง การเสริมสร้างและพัฒนาให้ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษามีวินัยในตนเองและการป้องกันไม่ให้ข้าราชการครแู ละบุคลากร ทางการศึกษากระทาผิดวินยั
4. วินัยและการรักษาวินัย 4.2 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการดาเนนิ การทางวนิ ยั และการลงโทษ สานักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556, หน้า 80) ได้เสนอแนวทางในการดาเนินการทางวินัย และการลงโทษ ซึง่ เมือ่ พิจารณาประสิทธผิ ลการบริหารงานบคุ คลในการดาเนินการทางวินยั และการลงโทษ จากแนวทางดังกลา่ วแลว้ ประกอบด้วย 1. การทาผิดวินยั ไมร่ ้ายแรง 1.1 มีการแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนการกระทาผิดวินัยไม่ร้ายแรง ในฐานะผู้บังคับบัญชา กรณีมี ความผิดวินยั ไมร่ ้ายแรง 1.2 มีการพิจารณาลงโทษวินัย หากปรากฏผลการสอบสวนว่า ผู้ใต้บังคับบัญชากระทาผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตามอานาจที่กฎหมายกาหนด 1.3 มีการรายงานผลการพิจารณาลงโทษทางวินัยไปยัง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน และ ก.ค.ศ. พิจารณาตามลาดบั แล้วแต่กรณี ภายในระยะเวลาที่กาหนด
4. วินยั และการรกั ษาวินัย 4.2 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการดาเนนิ การทางวนิ ยั และการลงโทษ (ต่อ) 2. การทาผิดวินยั อย่างร้ายแรง 2.1 มีการดาเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นในกรณีที่มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัยอย่าง ร้ายแรงไมช่ ดั เจน 2.2 กรณีมีมูลกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรงของครูผู้ช่วยและครูที่ไม่มีวิทยฐานะให้แต่งต้ังคณะกรรมการ สอบสวนการกระทาผิดวินยั อย่างร้ายแรงในฐานะผู้มีอานาจสั่งบรรจุและแต่งต้ังหรือรายงานต่อผู้มีอานาจแล้วแต่ กรณี 2.3 มีการประสานกบั หน่วยงานการศึกษาอื่นและกรรมการสอบสวนกรณมี ีการกระทาผิดวินัยรวมกัน 2.4 มีการพิจารณาสถานโทษหรือส่ังลงโทษตามอานาจหน้าที่ที่กฎหมายกาหนดกรณีความผิดวินัยไม่ ร้ายแรง 2.5 มีการรายงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือเสนอสถานโทษไปยังสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรณีเป็น ความผิดวินัยอย่างร้ายแรงของครูผู้ช่วยและครูที่ยังไม่มวี ิทยฐานะเพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา
4. วินัยและการรกั ษาวินยั 4.3 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการสง่ั พักราชการและการสง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2556, หน้า 81) ได้เสนอแนวทางในการสั่งพัก ราชการและการสง่ั ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึง่ เมื่อพิจารณาประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลในการ ส่ังพกั ราชการและการส่งั ให้ออกจากราชการไว้ก่อนจากแนวทางดงั กล่าวแล้ว ประกอบด้วย เมื่อมีการแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนกรณีกระทาความผิดวินัยอย่างร้ายแรงและมีเหตุส่ังพัก ราชการหรือส่ังให้ออกจากราชการไว้ก่อนให้ดาเนินการภายในขอบเขตอานาจตามทีก่ ฎหมายกาหนด ในกรณีตาแหนงครผู ู้ชว่ ยและตาแหน่งครทู ีย่ งั ไม่มีวทิ ยฐานะ
4. วินัยและการรกั ษาวินยั 4.4 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการรายงานการดาเนนิ การวนิ ัยและการลงโทษ สานักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556, หน้า 81) ได้เสนอแนวทางในการรายงานการ ดาเนินการทางวินัยและการลงโทษ ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลในการรายงาน การดาเนินการทางวินยั และการลงโทษ จากแนวทางดังกล่าวแล้วประกอบด้วย มีการเสนอรายงานการลงโทษทางวินัยและการลงโทษให้ดาเนินการแก่ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาไปยงั ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาและอ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด
4. วินัยและการรกั ษาวินัย 4.5 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการอทุ ธรณ์และการร้องทกุ ข์ สานักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556, หน้า 81) ได้เสนอแนวทางในการอุทธรณ์และการร้อง ทกุ ข์ ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธผิ ลการบริหารงานบคุ คลในการอทุ ธรณแ์ ละการร้องทุกข์ จากแนวทางดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วย 1. การอุทธรณ์มีการรับเรื่องอุทธรณ์คาส่ังลงโทษทางวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษา แล้วเสนอไปยังผู้มีอานาจตามกฎหมายกาหนดเพื่อพิจารณาในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาเสนอเรื่องอุทธรณ์ผ่านหวั หนาสถานศึกษา 2. การร้องทุกข์ มีการรับเรื่องร้องทุกข์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาแล้วเสนอ ไปยังผู้มีอานาจตามกฎหมายกาหนดเพื่อพิจารณาในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเสนอเรื่อง ร้องทุกข์ผ่านหวั หนาสถานศึกษา
4. วินยั และการรกั ษาวินยั 4.6 ประสิทธิผลของสถานศกึ ษาในการส่งเสริม คุณธรรมและจรยิ ธรรมสาหรบั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2556, หน้า 81) ได้เสนอแนวทางในการส่งเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผล การบริหารงานบุคคลในการสงเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสาหรับขาราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา จากแนวทางดังกล่าวแล้วประกอบด้วย 1. เปน็ ตวั อย่างทีด่ ีแก่ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา 2. มกี ารเสริมสร้างและพฒั นาให้ผใู้ ต้บงั คับบญั ชามีวนิ ยั ในตนเอง 3. มกี ารป้องกันไม่ให้ผใู้ ต้บงั คบั บญั ชากระทาผิดวินยั
5. การออกราชการ 5.1 ความหมายของการออกจากราชการ ภคั วี พทิ าคา (2555, หน้า 35) กล่าวว่า การออกจากราชการ หมายถึง กระบวนการที่จะทา ให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานพ้นจากอานาจหน้าที่ความรับผิดชอบจากหน่วยงานหรือองค์กรที่ สังกดั ไป อนั มีสาเหตุจากหลายประการ ทั้งทีส่ มคั รใจพ้นจากงานเอง หรือไม่สมคั รใจ โนรีย์ทรัพย์โสภณ (2559, หน้า 25) กล่าวว่า การออกจากราชการ หมายถึงการพ้นสภาพการ เป็นข้าราชการ ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานในส่วนราชการ ซึ่งอาจเกิดจากความเจ็บป่วยที่ไม่ สามารถปฏิบัติหน้าทีร่ าชการได้หรือเหตุอื่น ๆ การลาออก หรือไล่ออกการบริหารงานบุคลากร ยังต้องคานึงถึง การจัดหาระเบียบข้อกฎหมายเกี่ยวกับการย้าย โอนการลาออก การ เกษยี ณอายรุ าชการไว้บริการแกผ่ ู้ร่วมงานเปน็ การอานวยความสะดวก รวมถึง การประพฤติตนใหเ้ หมาะสมกบั ตาแหน่งหน้าทร่ี าชการ
5. การออกราชการ 5.2 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการออกจากราชการ สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2556, หน้า 81) ได้เสนอแนวทางในการออกจากราชการ ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลในการออกจากราชการจากแนวทางดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วย 1. การอนุญาตการลาออกจากราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะผู้มี อานาจส่ังบรรจุและแต่งต้ังตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกาหนดหรือรับเรื่องการลาออกจาก ราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในฐานะผู้มีอานาจส่ังบรรจุและแต่งตั้งพิจารณา แล้วแต่กรณี 2. การสัง่ ให้ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาออกจากราชการในฐานะผู้มีอานาจสั่งบรรจุ และแต่งตั้งหรือเสนอให้อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นทีก่ ารศึกษาพิจารณาแล้วแต่กรณี
6. การประเมินผลการปฏิบัติงานและการเลือ่ นเงินเดือน 6.1 ความหมายของการประเมินผลการปฏิบตั ิงานและการเลื่อนเงินเดือน ชรินทร์ จักรภพโยธิน (2554, หน้า 50) ได้ให้ความหมายว่า การประเมินผลการปฏิบัติงาน หมายถึง กระบวนการของการตัดสินใจ การวินิจฉัย การตีราคาส่ิงใดส่ิงหนึ่งอย่างเป็นระบบ และมีหลักเกณฑ์ โดยอาศัยความยตุ ิธรรม ความไม่ลาเอียงหรืออคติของผู้ประเมิน จอมพงศ์ มงคลวนิช (2555, หน้า 103) กล่าวว่าไว้ว่า การประเมินผลการปฏิบัติการ หมายถึง กระบวนการประเมินค่าของบุคคลผู้ปฏิบัติงานในด้านต่าง ๆ ทั้งผลงานและ คณุ ลกั ษณะอืน่ ๆ ทม่ี ีคุณค่าต่อการปฏิบัติงานภายในระยะเวลาที่กาหนดไว้อย่างแน่นอน ภายใต้การสงั เกต จดบันทึกและประเมินโดยหัวหน้างาน โดยอยู่บนพื้นฐานของความเป็น ระบบและมมี าตรฐานแบบเดยี วกนั มเี กณฑ์การประเมินที่มีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติให้ ความเปน็ ธรรม โดยท่วั กัน
6. การประเมินผลการปฏิบัติงานและการเลือ่ นเงินเดือน 6.2 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการประเมินผลการปฏิบัติงาน สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2556, หน้า 80) ได้เสนอแนวทางในการประเมินผลการ ปฏิบัติงาน ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลในการประเมินผลการปฏิบัติงานจากแนวทาง ดงั กลา่ วแล้วประกอบด้วย 1. มีการกาหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานและดัชนีช้ีวัดผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษาของเขตพื้นทีก่ ารศึกษาและที่ ก.ค.ศ. กาหนด 2. มีการดาเนินการประเมินผลการปฏิบตั ิงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาตาม หลักเกณฑ์และวิธกี ารตามข้อ 1 3. มีการนาผลการประเมินไปใช้ประโยชน์ในการบริหารงานบุคคลของสถานศึกษา 4. มีการรายงานผลการประเมินการปฏิบตั ิงานในสวนที่สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้องขอไดร้ บั ทราบ
6. การประเมินผลการปฏิบตั ิงานและการเลือ่ นเงินเดือน 6.2 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการลาทุกประเภท สานักนโยบายและแผนการศึกษาข้ันพื้นฐาน (2556, หน้า 79) ได้เสนอแนวทางในการเลื่อนเงินเดือน ซึ่งเมื่อพิจารณาประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลในการเลื่อนเงินเดือนจากแนวทางดังกล่าวแล้ว ประกอบด้วย 1. มีการอนุญาตหรือเสนอขออนุญาตการลาตามนโยบายหลักเกณฑ์และวิธีการของสานักงานเขต พื้นที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและกระทรวงศึกษาธิการตามที่กฎหมาย กาหนด 2. มกี ารเสนอเรื่องการอนุญาตให้ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางศึกษาต่อใหส้ านักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาตามอานาจหนาที่ ที่กฎหมายกาหนดหรือเพือ่ ทราบแล้วแต่กรณี
6. การประเมินผลการปฏิบตั ิงานและการเลือ่ นเงินเดือน 6.3 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการเลื่อนเงินเดือน สานักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2556, หน้า 79) ได้เสนอแนวทางในการเลื่อนเงินเดือน ซึ่งเมื่อ พิจารณาประสิทธผิ ลการบริหารงานบคุ คลในการเลือ่ นเงินเดือนจากแนวทางดังกลา่ วแลว้ ประกอบด้วย 1. การเลื่อนข้ันเงนิ เดือนปกติ 1.1 มีการประกาศเกณฑ์การประเมินและแนวปฏิบัติในการพิจารณาความดีความชอบให้แก่ข้าราชการครูและ บคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาทราบโดยทวั่ กนั 1.2 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเลื่อนข้ันเงินเดือนระดับสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กฎหมายกาหนดให้ฐานะผู้บงั คับบัญชา 1.3 มีการรวบรวมข้อมลู พร้อมความเห็นของผู้มีอานาจในการประเมินและให้ความเห็นในการเลื่อนข้ันเงินเดือน ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาเสนอคณะกรรมการตามข้อ 2 พิจารณา 1.4 มีการแจ้งคาสั่งไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชา ทราบพร้อมเหตุผลที่ไมเ่ ลื่อนข้ันเงนิ เดือน 1.5 มีการสงั่ เลือ่ นข้ันเงนิ เดือนให้แก่ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางศึกษาในฐานะผู้มีอานาจสง่ั บรรจุและแต่งต้ัง
6. การประเมินผลการปฏิบตั ิงานและการเลื่อนเงินเดือน 6.3 ประสิทธผิ ลของสถานศึกษาในการเลื่อนเงินเดือน(ตอ่ ) 2. การเลือ่ นข้ันเงินเดือนกรณีพเิ ศษ กรณีถงึ แก่ความตายอนั เนือ่ งมาจากการปฏิบตั ิหน้าที่ราชการ 2.1 มีการเสนอเรื่องพร้อมทั้งข้อเท็จจริงและความเห็นที่เป็นข้อยุติและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เก่ียว ของไปยังสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา 2.2 มีการดาเนินการด้านสวัสดิการให้แก่ครอบครัวผู้ถึงแก่กรรมอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ ราชการตามหลกั เกณฑ์และวิธีการทีก่ ฎหมายกาหนดตามความเหมาะสม
CONTENT CONTENT TITLE 1 Sub-Title 1 CONTENT TITLE 1 Sub-Title 1 CONTENT TITLE 1 Sub-Title 1
Search