หลกั การเบ้อื งต้นของการปรบั อากาศ
ระบบของเคร่ืองทำควำมเยน็ จะ ขนึ้ อยู่กบั กฎกำรทำควำมเยน็ เบอื้ งต้น 3 ประกำร
กฎข้อท่ี 1 กำรทำควำมเยน็ คอื กำรถ่ำยควำมร้อน ท่ี มีอยู่ทวั่ ไป ถ้ำไม่มคี วำมร้อนก็ คอื ควำมเยน็ จากกฎข้อที่ 1 เป็ นกำรถ่ำยเทควำมร้อนออกจำกห้องผ้โู ดยสำรของ รถยนต์ซึ่งเป็ นกำรทำให้อณุ หภูมลิ ดลง บริเวณทไ่ี ม่มีควำมร้อนกค็ อื บริเวณทเ่ี ยน็
กฎข้อที่ 2 ควำมร้อนสำมำรถถ่ำยเทจำกท่มี ี อณุ หภูมสิ ูงไปทมี่ อี ุณหภูมติ ำ่ ไม่มอี ะไรทีจ่ ะ หยุดกำรถ่ำยเทควำมร้อนได้ แต่จะทำได้เพยี ง กำรชะลอกำรถ่ำยเทควำมร้อนให้ช้ำลง และไม่ สำมำรถเกบ็ ควำมร้อนได้แม้ว่ำจะใช้ฉนวนก้นั ควำมร้อนเพยี งใดกต็ ำม จากกฎข้อท่ี 2 ควำมร้อนสำมำรถถ่ำยเทจำกที่ ทม่ี ีอณุ หภูมสิ ูงไปท่ี ทมี่ ี อณุ หภูมติ ำ่ กว่ำ ดงั เช่นในกรณีของสำรควำมเยน็ ทด่ี ูดรับปริมำณ ควำมร้อนในอวี ำพอเรเตอร์
กฎข้อท่ี 3 ขณะทส่ี ำรเปลย่ี นสถำนะจำกของเหลวเป็ น แกส็ จะต้องกำรดูดรับปริมำณควำมร้อนเพอ่ื กำร เปลยี่ นสถำนะ จากกฎข้อที่ 3 สำรควำมเยน็ เหลวในอวี ำพอเรเตอร์จะดูดปริมำณ ควำมร้อนภำยในรถขณะเดอื ด เปลย่ี นสถำนะกลำยเป็ นไอ และ ปริมำณควำมร้อนนีถ้ ูกส่งถ่ำยไปภำยนอกอกี ทหี น่ึง
อปุ กรณ์ของเคร่ืองปรับอำกำศรถยนต์
อปุ กรณ์หลกั (Major Component) หมายถงึ อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนท่ีเป็ นหลักในการทางาน จะ ขาดอย่างใดอย่างหน่ึงไม่ได้ เพราะจะทาให้ระบบไม่ครบวงจร และไม่สารมารถทางานได้ สาหรับอุปกรณ์หลักของระบบสาร ทาความเยน็ ในเครื่องปรับอากาศรถยนต์ จะมีอยู่ 5 ชิ้นคอื
1. คอมเพรสเซอร์ ทาหน้าทด่ี ูดเอาสารความเยน็ ในสถานะ เเก๊ส ทมี่ คี วามดนั ต่ามาจาก อวี าพอเรเตอร์ และอดั สารความเยน็ ในสถานะแก๊สให้มคี ามดนั สูงส่งเข้าไปยงั คอนเดนเซอร์
กำรทำงำนของคอมเพรสเซอร์ การทางานของคอมเพรสเซอร์ทุก ชนิดจะมีหลกั การเหมือนกนั คือ ในแต่ละ สู บ จ ะ ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด้ว ย ลิ้ น ดู ด แ ล ะ ลิ้ น ส่ ง ในจงั หวะดูด ขณะที่ ลูกสูบเล่ือน ลงจะดูดเอาสารความเยน็ จากทางดา้ นความ ดนั ต่าผา่ นมา ใ น จัง ห ว ะ อัด ข ณ ะ ท่ี ลู ก สู บ เคล่ือนท่ีข้ึนแรงดันของสารความเย็นใน ก ร ะ บ อ ก สู บ จ ะ ดัน ส า ร ค ว า ม เ ย็น จ ะ ไ ห ล ออกทางลิ้นส่ง
ส่ วนประกอบของคอมเพรสเซอร์ 1. ตวั เรือนเสอื ้ คอมเพรสเซอร์ 2. ลกู สบู 3. เพลาจานเอียง 4. ลนิ ้ ดดู ลนิ ้ สง่ 5. ฝาครอบเพลาด้านหน้า ด้านหลงั 6. วาล์วบริการ (เป็นวาล์วท่ีตดิ อยกู่ บั คอมเพรสเซอร์) 7. ซีลเพลา ปะเก็น (ทนความร้อนและความดนั ได้สงู เป็นพเิ ศษ) 8. ชดุ แมกเนตกิ คลทั ช์ มีอยู่ 3 สว่ น คือ
กำรทำงำนของ แมกเนตกิ คลทั ช์ 1.พเู ลย์ ขบั จากเคร่ืองยนต์ หมุนฟรีกบั ชุดคลทั ช์ 2. เม่ือเปิ ดสวิทช์ ปล่อยกระแสเข้าขดลวด ขดลวดเกิดสนามแม่เหล็กดึงเอาชุด แผนคลัทช์ ท่ีต่อกับเพลาข้อเหว่ียงให้ต่อเป็ นชุดเดียวกัน ทาให้คอมเพรสเซอร์หมุน ทางาน
กำรทำงำนของ แมกเนตกิ คลทั ช์
ข้อมูลจาเพาะ ( Name Plate ) 1. ประเทศทผี่ ลติ 2. รหัสสินค้า 3. ปริมาณนา้ มันหล่อลนื่ 4. ความดันทดสอบ 5. ชนิดของสารความเยน็
กำรตดิ ต้งั คอมเพรสเซอร์ ต้องคำนึงถึง ส่ิงต่อไปนี้ 1. กำลังของเคร่ืองยนต์ 2. ตำแหน่งภำระของเคร่ืองยนต์ 3. ช่องว่ำงของเคร่ืองยนต์ 4. ตำแหน่งของวำล์วบริกำร ควรจะอย่ดู ้ำนบนเพ่ือสะดวกในกำรทำงำน 5. ควำมตรงของพเู ล่ย์สำยพำน หมำยเหตุ คอมเพรสเซอร์ ไม่นิยมซ่อมชิน้ ส่วนภำยในท่ีทำให้เกิดควำมดัน เช่ น ลูกสูบ กระบอกสูบ แต่ จะซ่ อมชิน้ ส่ วนภำยนอก เช่ น ชุดแมก เนตกิ ส์คลัทช์ โอริงปะเกน็
2. CONDENSER
คอนเดนเซอร์ เ ป็ น อุ ป ก ร ณ์ ควบ แน่ น ทำห น้ ำท่ี ระบำยควำมร้ อนออก จ ำ ก ส ำ ร ค ว ำ ม เ ย็ น เพื่อให้ สำรควำมเย็น กลนั่ ตัวเป็ นของเหลว
ประเภทของคอนเดนเซอร์ 1. แบบท่อและครีบ 2. แบบไหลขนาน 3. แบบท่อวกวน
2. แบบไหลขนาน CONDENSERแบบนีม้ ลี กั ษณะคล้ายแบบ ท่อและครีบ แต่ลกั ษณะการไหลของสารทาความเยน็ จะแตกต่างกนั โดย แบบ ไหลขนาน จะมีการไหลไปในทิศทางเดยี วพร้อมๆกนั หลายท่อ
คอนเดนเซอร์แบบ ไหลขนาน มีจุดเด่นเม่ือเปรียบเทยี บกบั แบบ ท่อและครีบ หลายประการคอื - มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนสูงกว่า - มคี วามต้านทานต่อการไหลของอากาศน้อยกว่า - นา้ หนักเบากว่า - บรรจุสารทาความเยน็ ได้มากกว่า
3.RECEIVER DRIER
รีซีฟเวอร์แอนด์ดรายเออร์ ( Reciver & Driver ) ทำหน้ ำที่เก็บพักสำรควำมเย็นเป็ นกำ ร ชั่วครำว นอกจำกนี้ยังทำหน้ำท่ีกรองสิ่งสกปรก และดูดควำมชื้นท่ีเข้ำไปในระบบ เพ่ือไม่ให้เกิด กำรเสียหำยทำงำนคล้ำยกับกรองอำกำศ หรือ กรองน้ำมันเคร่ืองของรถยนต์ เม่ือใช้งำนไปนำน ๆ จะทำให้หมดอำยุหรือเส่ือมสภำพ
รีซีฟเวอร์แอนด์ดรายเออร์ ( Reciver & Driver )
รีซีฟเวอร์แอนด์ดรายเออร์ แบ่งออกเป็ น 2 ชนิด ดงั นี้ แบบธรรมดา แบบมปี ลกั๊ ละลาย
รีซีฟเวอร์แอนด์ดรำยเออร์ แบบธรรมดำ 1.สารดูดความชื้น 2.ฟิ ลเตอร์ 3.ท่อส่ งสารความเยน็ 4.ตะแกรงกรอง 5.กระจกมองสำรควำมเยน็
รีซีฟเวอร์แอนด์ดรายเออร์ แบบมปี ลก๊ั ละลาย จะมีอุปกรณ์สาหรับความปลอดภยั หรื อ ปลก๊ั ละลาย ซ่ึงบางคร้ังเรียกวา่ “ เมลทโ์ บลท์ “ ( Melt Bolt ) ซ่ึงประกอบดว้ ยตะกว่ั ใส่อยตู่ รง กลางปลกั๊ ถา้ ความดนั สูงถึง 284 Psi และ จุด เดือดของสารความเยน็ ขณะ น้นั มีอุณหภมู ิ 75 - 80 –c ตะกวั่ พิเศษในปลกั๊ จะละลายออกให้สารความ เยน็ ระบายออกสู่บรรยากาศภายนอก เพื่อป้ องกนั ไม่ใหเ้ กิดความเสียหายแก่อุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ
การติดต้งั รีซีฟเวอร์แอนด์ดรายเออร์ ตดิ ต้งั ไว้ในทม่ี องเป็ นได้ง่าย ต้งั ตรง 90 องศา ตดิ ต้งั ให้ห่างจากแหล่วงความร้อน เช่นท่อไอ เสีย ให้ตดิ ต้งั เป็ นตวั สุดท้ายของระบบ *หมายเหตุ เมอ่ื มกี ารถอดชิ้นส่วนของระบบ ให้เปลยี่ น รีซีฟเวอร์ดรายเออร์ ด้วยทุกคร้ัง
4. Expansion Valve
เอก็ ซ์แพนชั่นวาล์ว ( Expansion Valve ) ทาหน้าทคี่ วบคุมการไหลของสารความเยน็ เหลว ทผี่ ่านเข้าไปยงั อวี าพอเร เตอร์ และลดความดนั ของสารความเยน็ ให้มคี วามดนั ต่าลง จนสามารถเดอื ด เปล่ียน สถานะเป็ นแก๊สได้ทอ่ี ุณหภูมติ า่ ๆ ในอวี าพอเรเตอร์
ชนิดของ เอก็ ซ์แพนชั่นวาล์ว ซึ่งมีด้วยกนั 2 แบบ เอก็ ซ์เทอร์นอลอคี วอไลเซอร์ หรือแบบ 2 ทาง นิยมใช้กบั เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ อนิ เทอร์นอลอคี วอไลเซอร์ หรือแบบ 1 ทาง ใช้กนั มากในเคร่ืองปรับอากาศขนาดเลก็
หลกั การทางาน เอก็ ซ์แพนช่ันวาล์ว ขณะท่ี เอ็กซ์แพนชั่นวำล์ว เปิ ดกว้ำงจะทำ ให้สำรควำมเย็นไหลเวียนเร็วและทำให้อุณหภูมิ ท่ีท่อทำงออกของ อีแวพพอเรเตอร์ ต่ำลง อุณหภูมิของกระเปำะจะเย็นลงด้วย แล้วจะทำ ให้แก๊สภำยในกระเปำะหดตัว สปริงจะดนั แผ่นไดอะแฟรมเลอื่ นขนึ้ ทำให้ เอ็กซ์ แพนชั่นวำล์วปิ ดกำรไหลเวียนของสำร ควำมเย็นจะช้ำลง ทำให้อุณหภูมิท่ีทำงออกของ อีแวพพอเรเตอร์ สูงขึ้น กระเปำะซึ่งยืดติดกับ ท่อทำงของอแี วพพอเรเตอร์กจ็ ะมอี ณุ หภูมสิ ูงขึน้ ทำให้ แก๊ สในกระเปำะขยำยตัวไปดันแผ่ น ไดอะแฟรมทำให้ เอ็กซ์แพนช่ันวำล์วเปิ ดกว้ำง สำรควำมเย็นก็ไหลเวียนดีขึน้ กำรทำงำนของ เอก็ ซ์แพนช่ันวำล์วกจ็ ะเป็ นเช่นนีต้ ลอดไป
หลกั การทางาน เอก็ ซ์แพนชั่นวาล์ว
5.Evaporator
อวี าพอเรเตอร์ ( Evaporator ) คอื อุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ในระบบการ ปรับอากาศรถยนต์ ซ่ึงจะทาให้สารความเยน็ ภายในอวี าพอเรเตอร์ดูดรับเอาประมาณความ ร้อนจากลมทพี่ ดั ผ่าน ทาให้ลมมอี ณุ หภูมติ า่ ลง กลายเป็ นลมเยน็ นาออกมาใช้ ส่วนสารความเยน็ กจ็ ะมอี ณุ หภูมสิ ูงขึน้ และเดอื ดกลายเป็ นไอไหล ออกจากอวี าพอเรเตอร์เข้าไปยงั คอมเพรสเซอร์ ครบวงจรของการไหลในระบบ
ส่วนประกอบของอวี าพอเรเตอร์ ท่อขดและครีบอลมู เิ นียม มอเตอร์ พดั ลม โครงสร้ำง หรือฝำครอบ ถำดรองนำ้ ทงิ้
การทาความสะอาดอวี าพอเรเตอร์ 1. ปล่อยสารความเยน็ ออกจากระบบ 2. ถอดอวี าพอเรเตอร์ ออกจากระบบและอุดท่อต่าง ๆ ไว้ เพอ่ื ป้ องกนั ฝ่ ุน 3. ถอดโครงสร้าง อวี าพอเรเตอร์ 4. ใช้นา้ ยาเคมีล้างอวี าพอเรเตอร์ผสมกบั นา้ สะอาด 1 : 3 ฉีดไปทคี่ รีบอลูมเิ นียม ทงิ้ ไว้ประมาณ 30 นาที นา้ ยาจะกดั ส่ิงสกปรกออก 5. ใช้นา้ สะอาดล้างอกี คร้ังหนึ่ง 6. ประกอบ อวี าพอเรเตอร์ เข้ากบั ระบบ 7. ทาสุญญากาศและเตมิ สารความเยน็ เป็ นเสร็จข้ันตอน
การทางานของวงจรเคร่ืองปรับอากาศ
ท่อต่าง ๆ ของวงจรเคร่ืองปรับอากาศรถยนต์ ท่อซกั ชนั่ อยรู่ ะหวา่ งอีวาพอเรเตอร์ กบั ทางดูดของคอมเพรสเซอร์ ซ่ึงสารความ เยน็ จะอยใู่ นสถานะแกส๊ ความดนั ต่า อุณหภมู ิ ต่า ท่อดิสชาร์จ ต่ออยรู่ ะหวา่ ง คอมเพรสเซอร์กบั คอนเดนเซอร์ ซ่ึงสาร ความเยน็ จะอยใู่ นสถานะแกส๊ ความดนั สูง อุณหภูมิต่า ท่อลิควดิ ตอ่ อยรู่ ะหวา่ งรีซีฟเวอร์แอนดด์ ราย เออร์กบั เอก็ ซ์แพนชน่ั วาลว์ ซ่ึงสารทาความ เยน็ จะอยใู่ นสถานะของเหลวความดนั สูง อุณหภมู ิสูง
การแบ่งส่วนความดนั ของวงจรเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ด้ำนควำมดนั สูง เร่ิมจำกทำงออกของ คอมเพรสเซอร์ ไปจนถึงทำงเข้ำของ เอก็ ซ์แพนซั่นวำล์ว ด้านความดันตา่ เริ่มจากทางออกของ เอก็ ซ์แพนชั่นวาล์วไปจนถงึ ทางเข้าของ คอมเพรสเซอร์
ด้านความดนั ตา่
Search