Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Music note

Music note

Published by clubzayoyo, 2019-03-08 21:58:01

Description: Music note

Search

Read the Text Version

หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ คา่ ตัวโนต้ และสญั ลกั ษณท์ างดนตรสี ากล

คานา หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหน่ึงของวิชาดนตรีเพื่อการเรียนรู้ ใน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยมีจะประสงค์เพ่ือการศึกษาความรู้เร่ือง ค่าตวั โนต้ และสญั ลกั ษณ์ทางดนตรีสากล ซ่ึงหนังสือเล่มนี้มีเน้ือหาเกี่ยวกับ การอ่านโนต้ ดนตรีหรอื บทเพลงเหมือนกับการอ่านหนังสอื โดยท่ัวไป ผู้เรียนหรือผู้อ่านจะต้องจดจาสัญลักษณ์หรือพยัญชนะเบ้ืองต้นท่ี ใช่แทนเสียง เช่น ก ข ค ง รวมไปถึงสระต่างๆ แล้วจึงนาส่ิงเหล่าน้ันมา รวมกนั แลว้ สะกดเป็นคาๆ จงึ จะมคี วามหมายท่เี ราสามารถใชเ้ ขยี นเปน็ การ แสดงออกถงึ ความรู้สกึ นกึ คดิ ตา่ งๆ และเปน็ การส่อื สารกับผ้อู ื่น

สารบัญ ก ข หนา้ ปก 1-2 คานา 3-4 ตัวโนต้ ดนตรี 5 การเปรียบเทียบลักษณะตวั โนต้ 6 ตวั หยดุ หรอื เครอื่ งหมายพกั เสยี ง 7-8 ระดับเสียง 9 การรวมโน้ตเป็นเพลง 10 การเพิ่มอัตราจงั หวะตัวโนต้ 11 -การโยงเสียง(Ties) -การประจดุ (Dots)

สารบญั (ต่อ) 12 13-14 -เครื่องหมายตาไก่หรือศูนย์(Fermata) 15 เครอ่ื งหมายแปลงเสยี ง 15-17 กุญแจประจาหลกั 18-19 -ประเภทของกุญแจประจาหลกั -ตาแหนง่ ของกุญแจประจาหลัก

ตวั โน้ตดนตรี เป็นระบบการบันทึกแทนเสียงดนตรีท่ีมีมาตง้ั ศตวรรษที่11 โดย กีโด เดอ อเรซโ์ ซ(Guido d’ Arezzo,995- 1050) บาทหลวงชาวอิตาเลียน ตอ่ มาได้มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองจนกระทั่งสมบูรณ์อย่างท่ีเราได้พบเห็น และใช้ กันในปัจจุบัน ตัวโน้ตสามารถบอกหรือส่ือให้นักดนตรีทราบถึง ความส้ัน – ยาว, สูง – ตา่ ของระดบั เสียงได้ เราจึงควรมีความรูพ้ ้ืนฐาน เก่ยี วกับลักษณะของตวั โนต้ ดนตรี (Music Notation) พอสงั เขปดงั นี้



การเปรียบเทยี บลกั ษณะตวั โนต้

จากภาพข้างตน้ สามารถอธบิ ายไดว้ ่า • Whole note (โน้ตตัวกลม) 1 ตัว ได้ Half note (โน้ตตัวขาว) 2 ตวั • Half note(โน้ตตัวขาว) 1 ตวั ได้Quarter note (โน้ตตัวดา) 2 ตัว • Quarter note(โน้ตตวั ดา) 1 ตัว ได้Eighth note (โน้ตตัว เขบ็ตหนง่ึ ชนั้ ) 2 ตัว • Eighth note(โน้ตตัวเขบ็ตหนึ่งช้ัน) 1 ตัว ได้Sixteenth note(โน้ตตัวเขบต็ สองชน้ั ) 2 ตัว

ตวั หยดุ หรอื เครื่องหมายพักเสยี ง

การรวมโนต้ เปน็ เพลง ดนตรีประกอบด้วยเสียง (Tone) หลายๆ เสียง มาต่อๆ กัน แต่ละ เสียงมีระดับเสียงสูงต่าและความยาวที่ตา่ งกัน เมื่อนาเสียงเหล่าน้ันมาต่อๆ กัน จึงได้เป็นเพลงออกมา ในบทนี้เราจะมาพูดถึงเร่ืองของระดับเสียงกัน สาหรับ เร่อื งความยาวของเสยี งได้พูดไวใ้ นบทเรยี นเร่ือง จงั หวะ ครับ ระดบั เสียง (Pitch) คอื ความแหลมหรือทุ้มของเสียง เสียงแหลมคอื เสียงสูง เสยี งทุ้มคือเสียงต่า ยกตัวอย่าง เช่น เสียงผู้หญิงมักจะสูงกว่าเสียงของ ผ้ชู าย เสียงแก้วแตกเป็นเสียงท่ีสูง เป็นต้น สาหรับเปียโน คีย์ที่อยู่ดา้ นขวาจะให้ เสียงที่สูงกว่าคีย์ท่ีอยู่ด้านซ้ายเสมอ เพราะฉะน้ันคีย์ซ้ายสุดบนเปียโนจะเป็น เสียงท่ีต่าท่ีสุด (ทวนความจาหน่อยนะครับว่า คีย์ซ้ายสุดของเปียโนคือตัว A-ลา) และคีย์ท่ีอยู่ขวาสุดจะเป็นเสียงที่สูงท่ีสุดของเปียโน (คีย์ขวาสุดของ เปยี โนคอื ตวั C-โด)

โนต้ เพลงหนมู าลี

การเพม่ิ อตั ราจังหวะตวั โน้ตและตวั หยุด โดยปกติอตั ราจังหวะของตวั โน้ตมีค่าผนั แปรตามเคร่ืองหมายกาหนดจังหวะ ดังท่ีกล่าวมาแล้วข้างต้น ด้วยขีดจากัดของอัตราจังหวะที่ถูกกาหนดโดย เครื่องหมายกาหนดจังหวะ จึงต้องมีวิธีการเพิ่มจังหวะให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวโน้ตและตัวหยุด นอกจากน้ียังเพ่ิมสีสันของ ทานองเพลงดว้ ยการเพ่มิ อัตราจังหวะมีหลายวิธดี ังนี้

• 1. การโยงเสียง(Ties) การเพ่ิมอัตราจังหวะโดยการใช้เสียงโยงเสียงที่มีลักษณะเป็นเส้น โค้ง ใช้กับตัวโน้ตท่ีมีระดับเสียงเดียวกันเดียวกันเท่าน้ัน ใช้ได้ 2 กรณี คือ ใช้โยงเสียงตัวโน้ตภายในห้องเดียวกันหรือโยงเสียงต่างห้องก็ได้ มี ความหมายคล้ายกับเคร่ืองหมายบวก (+) การเขียนเส้นโยงเสียงให้เขียน เส้นโยงที่ตาแหน่งหัวตัวโน้ต ส่วนตัวหยุดไม่ต้องใช้เครื่องหมายโยงเสียง เช่น

2. การประจุด(Dots) เ ป็ น เ พ่ิ ม อั ต รา จั ง ห ว ะ ข อ ง ตั ว โ น้ ต โ ด ย ก า ร ปร ะ จุด ( . ) เ พิ่ ม เ ข้า ไ ป ดา้ นหลังของตวั โนต้ ตวั ทต่ี ้องการเพิ่มอัตราจังหวะ จุด(.)ที่นามาประหลังตวั โน้ตจะมคี า่ เปน็ ครง่ึ หนึ่งของตวั โนต้ ข้างหนา้ แล้วรวมกัน เช่น ** ถ้ามีจุดสองจุด จดุ ตัวหลังจะมคี า่ เป็นครึง่ หนึ่งของจุดตัวแรก

3.เคร่ืองหมายตาไกห่ รือศูนย์(Fermata) เป็นเคร่อื งหมายทางดนตรที ีม่ ีลักษณะคล้ายตาไก่ คนไทยเราก็เลย นิยมเรยี กง่าย ๆ ตามลักษณะท่ีเหน็ วา่ “ตาไก”่ ใช้สาหรับเขียนกากบั ตัวโน้ต ตัวใดตัวหน่ึงที่ผู้แต่งต้องการให้ยืดเสียงออกตามความพอใจ การเขียน เคร่ืองหมายตาไก่นิยมเขียนกากับไว้ที่หัวตัวโน้ต และจะมีผลกับตัวโน้ตตัว นน้ั ๆ ไมว่ า่ ตวั โน้ตลกั ษณะใดกต็ าม

เครื่องหมายแปลงเสียง เคร่ืองหมายแปลงเสียง เปน็ สญั ลกั ษณ์ทางดนตรที ่ใี ช้บันทึกเพื่อให้ ระดับเสียงของโน้ตตัวน้ันเปล่ียนแปลงไปจากระดับเสียงเดิม เครื่องหมาย แปลงเสียงมีอยู่ 5 ชนิดไดแ้ ก่

1. แฟล็ต (Flat) เปล่ียนระดับเสียงของตวั โนต้ ใหต้ า่ ลง 1/2 ข้นั 2. ชาร์ป (Sharp) เปล่ียนระดับเสียงของตัวโน้ตให้สูงขึ้น 1/2 ขั้น 3. ดบั เบิลชาร์ป (Double Sharp) เปลี่ยนระดบั เสียงของตัวโน้ตให้ สงู ขึ้น 1 ขนั้ 4. ดับเบิลแฟล็ต (Double Flat) เปล่ียนระดับเสียงของตัวโน้ตให้ ตา่ ลง 1 ขนั้ 5. เนเจอรัล (Natural) กาหนดให้ตัวโนต้ กลับส่รู ะดับเสยี งปกติ

กญุ แจประจาหลกั คอื สัญกรณ์ทางดนตรีชนิดหนึ่งที่ใช้แสดงถึงระดับเสียงของตัวโน้ตที่บันทึก กากับไว้ท่ีตาแหน่งเริ่มต้นของบรรทัดห้าเส้น ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกชื่อและ ระดบั เสยี งของตัวโน้ตทอี่ ยู่บนเสน้ น้ัน ประเภทของกญุ แจประจาหลกั กุญแจประจาหลักในการบันทึกดนตรีสมัยใหม่มีใช้อยู่เพียงสาม ชนิดคอื กุญแจซอล กุญแจโด และกุญแจฟา ซึ่งกุญแจแต่ละชนิดจะอ้างถึง เสยี งซอล โด และฟา ตามลาดับ ตามตาแหน่งทีก่ ุญแจน้ันไดไ้ ปคาบเกีย่ วไว้ บ น บ ร ร ทั ด เ ส้ น แ ล ะ ช่ อ ง อื่ น ๆ ก็ จ ะ สั ม พั น ธ์ กั บ โ น้ ต บ น เ ส้ น นั้ น รูปร่างช่ือใช้ระบุโน้ตตาแหน่งที่คาบเกย่ี ว

กญุ แจซอล กุญแจประจาหลัก G (G-clef) เสียงซอลที่อยูเ่ หนือเสียงโดกลาง สว่ นโคง้ กน้ หอยตรงกลาง กญุ แจโด กญุ แจประจาหลัก C (C-clef) เสียงโดกลาง (middle C) กึ่งกลางกญุ แจโด

กุญแจฟา กญุ แจประจาหลัก F (F-clef) เสียงฟาที่อยู่ใต้เสียงโดกลาง หัวของกุญแจ หรือระหว่างสองจุด การใช้ความแตกต่างของกุญแจประจาหลัก ก็เพื่อให้สามารถบันทึกดนตรีสาหรับ เครื่องดนตรีและเสียงอ่ืนได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะมีธรรมชาติของเสียงท่ีแตกต่างกัน เช่น เสียงบางอย่างอาจฟังดูแล้วสูงกว่าหรือต่ากว่าเสียงอื่น ซ่ึงเป็นการยากท่ีจะบันทึกเสียง ทุกอย่างโดยใช้กุญแจประจาหลักเพียงชนิดเดียว เนื่องจากบรรทัดมีเพียงแคห่ ้าเส้นใน ปจั จุบนั แต่อาจนาเสนอระดับเสียงของตวั โนต้ ไม่เพียงพอตอ่ จานวนโน้ตที่วงออเคสตรา สามารถสร้างข้ึน แม้จะใช้เส้นน้อย(ledger line) มาช่วยก็ตาม การใช้ความ แตกต่างของกุญแจสาหรับเคร่ืองดนตรีและเสียงแต่ละชนิด มีส่วนช่วยให้เขียนตัวโน้ต ได้ง่าย ลดจานวนการใช้เส้นน้อย และปรับคีย์ดนตรีด้ง่าย ดังนั้นกุญแจซอลจึงใช้แทน การนาเสนอเสยี งสูง กญุ แจโดสาหรบั เสียงกลาง และกญุ แจฟาสาหรบั เสยี งต่า

ตาแหน่งกุญแจประจาหลกั กุญแจประจาหลักสามารถวางได้หลายตาแหน่ง ปกติแล้วจะวางไว้ให้คาบ เกี่ยวกับเส้นใดเส้นหนึ่งบนบรรทัด และในเม่ือบรรทัดมี 5 เส้น จึงมีความเป็นไปได้ ทั้งหมด 15 แบบในการใช้งาน อย่างไรก็ตามมี 6 แบบท่ีเป็นการกาหนดซ้าซ้อนกัน ตัวอย่างเช่น กุญแจซอลท่ีกากับเส้นที่สาม จะมีค่าเท่ากับกุญแจโดท่ีกากับเส้นท่ีหน่ึง เป็นต้น ดังนั้นจึงเหลือเพียง 9 แบบเท่าน้ันท่ีให้ผลแตกต่างกัน ซ่ึงทุกแบบเคยใช้ใน ประวตั ศิ าสตร์ทผี่ ่านมาแล้วทั้งสิน้ ไดแ้ ก่ กุญแจซอลบนสองเส้นล่าง กุญแจฟาบนสาม เส้นบน และกุญแจโดบนทุกเส้นยกเว้นเส้นท่ีห้า (เน่ืองจากกุญแจโดบนเส้นท่ีห้า ซ้าซ้อนกับกญุ แจฟาบนเส้นทส่ี าม)

แต่สาหรบั ทกุ วันน้ี กุญแจท่ใี ช้เป็นปกติมีเพียงแค่ กุญแจเทรเบิล กุญแจเบส กุญแจอัลโต และกุญแจเทเนอร์ ซึ่งสองอย่างแรกมักใช้ควบคู่กันบ่อยคร้ัง กวา่

หนังสือเล่มนีจ้ ดั ทามาเพอื่ สง่ เสริมวิชาดนตรีศึกษา ผจู้ ดั ทา นายธีรัตม์ ปงิ แก้ว รหัส 61041900510 กลุม่ 5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook