6.จากนั้นครใู หน้ ักเรียนทำกิจกรรมตามหนงั สือเรียนหนา้ 155 โดยครวู าดรปู ท่ีมแี กนสมมาตรให้เพียง ดา้ นเดยี วแลว้ ใหน้ ักเรยี นวาดรปู ท่มี แี กนสมมาตรต่อจากรูปทีก่ ำหนดใหเ้ ป็นรปู ที่มแี กนสมมาตร 1 แกน โดยใช้ การถาม – ตอบ เชน่ − จากรูปทกี่ ำหนดจะวาดให้เปน็ รูปทีม่ ีแกนสมมาตรไดอ้ ย่างไร (ลากเส้นต่อจากจุดท่เี ป็น แกนสมมาตรใหม้ รี ะยะห่างเทา่ กัน) 7.จากน้ันครูและนักเรยี นสนทนารว่ มกันเกยี่ วกับการวาดรปู ดังกล่าวบนกระดาษจดุ ว่าการวาดรูปท่มี ี แกนสมมาตรโดยใช้กระดาษจุด เมอ่ื กำหนดแกนสมมาตรและรูปขา้ งหนงึ่ ของแกนสมมาตรให้ทำได้ โดย ลากเสน้ ผา่ นจุดบนกระดาษจุดทม่ี ีระยะห่างจากแกนสมมาตรเท่ากันกบั รูปอีกขา้ งหนึ่งของแกน สมมาตรตาม หนงั สอื หนา้ 155 ดงั น้ี 8. เมอ่ื นกั เรยี นเข้าใจวิธีการวาดรปู อีก ข้างหน่งึ ของแกนสมมาตรโดยใชก้ ระดาษจุด แลว้ ครูให้นักเรียน ทำกิจกรรม “ตอ่ ให้เปน็ รูป ท่ีมีแกนสมมาตร 1 แกน” ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 156 เพือ่ ฝึกใหน้ ักเรียนมีความ เข้าใจมากขึ้น 9.โดยครูแจกใบกิจกรรมจากสือ่ เพิ่มเตมิ ของหนังสือเรียนบทน้ีใน QR Code หนา้ แรก ของบทให้ นักเรยี นคนละ 1แผ่นแล้วให้นักเรียน แตล่ ะคนลากเส้นต่อจุดให้ไดร้ ปู อกี ข้างหน่งึ ของแกนสมมาตรหรือ
ลากเสน้ ให้เปน็ รปู ทีม่ ี แกนสมมาตร 1 แกนและระบายสีตกแต่งภาพ ให้สวยงานพร้อมท้ังตงั้ ช่อื ภาพครูสมุ่ นกั เรยี น ออกมานำเสนอหรืออาจให้นกั เรยี นทุกคน นำผลงานมาติดทปี่ า้ ยนิเทศหนา้ ห้องเรยี น เพอ่ื แสดง ผลงาน 10.ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 6 ครแู ละนักเรียนร่วมกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ไี ดเ้ รียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ 1.หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 2.ใบงานท่ี 6 เร่ือง เกดิ การประยกุ ตใ์ ช้รูปท่ีมีแกนสมมาตร การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การ วธิ ีวัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน เรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ การประเมิน 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้านทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ (P) กระบวนการ ด้านทักษะกระบวนการ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ี สังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดับ พึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีข้นึ ไป ทีพ่ งึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถกู ต้องของ เนอ้ื หา 4 3 21 2. รูปแบบ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ 3. ความเป็นระเบียบ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้อง ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่ น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์ เหมาะสมกบั สถานการณ์ ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มีความ เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ เล็กนอ้ ย บางส่วน เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดับ 1 เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลท่ีปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มีการอ้างอิงทถ่ี ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสินใจ มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรับปรงุ แกไ้ ข
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น 4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล หลักการและขน้ั ตอนในการแก้ปัญหาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซ่ึงคำตอบทถี่ ูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาไดส้ ำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถงึ เหตุผล หลกั การและขน้ั ตอนในการแกป้ ัญหาได้ดกี ว่านี้ 2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธบิ ายถึงเหตผุ ล หลกั การและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้บางส่วน มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เริ่มคดิ ใช้เหตุผล หลักการและข้ันตอน 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข ในการแกป้ ัญหา แล้วหยดุ อธิบายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็ ทักษะ และกระบวนการ: การเชอ่ื มโยง สรุปองค์ความรู้ คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกับสาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดมี าก หรือกิจกรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรูท้ ่ีเรียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา หรอื ประยุกต์ใช้ได้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรูท้ ่เี รยี นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่ เพือ่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรูท้ ี่เรยี นได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรุป แกไ้ ข องค์ความรู้ที่ได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นกั เรียนใฝ่เรยี นรู้ คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะที่ปรากฏให้เห็น คุณภาพ 3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : ดี - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจเปน็ บางครง้ั 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นมคี วามมุง่ มัน่ ในการทำงาน คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะท่ปี รากฏให้เหน็ คณุ ภาพ 3 : ดีมาก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมายและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ยั 2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารตดิ ต่อชี้แจงผู้สอน มีเหตผุ ลท่รี ับฟงั ได้ - รบั ผดิ ชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ัย 1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด - ปฏบิ ัตงิ านโดยตอ้ งอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทึกผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรยี นร้ทู ี่เกิดขน้ึ กับผูเ้ รียน 1.1 ผเู้ รียนผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.....35........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...100....... 1.2 ผู้เรียนไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก.่ ....................................................................................................................................... สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผ้เู รยี นได้รับความรู้ : ..ผเู้ รยี นได้เรยี นรูต้ ามแผนการจัดการเรยี นรตู้ รงตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.4 ผเู้ รียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ : ..ผู้เรียนได้ทกั ษะทางกระบวนการทางคณติ ศาสตร์เกี่ยวกบั การ ประยุกตใ์ ช้รปู ที่มีแกนสมมาตร 1.5 ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม :..ผู้เรียนมีความต้ังใจในการเรยี น ชว่ ยเหลือซึ่งกนั และกัน 2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 4. แผนการจดั การเรียนรูน้ ใี้ ช้กับนักเรียน หอ้ ง ป. 3 ในวันท่ี..3..เดือน. สงิ หาคม พ.ศ. 2564 ลงช่ือ................................ผู้สอน (นายวรพจน์ อยา่ งดี) คดิ เหน็ ผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวสพุ รรณกิ า สุบรรณาจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี
ใบงานท่ี 6 เกดิ การประยกุ ต์ใช้รูปทม่ี ีแกนสมมาตร เลือก ก ข หรือ ค ทเี่ ป็นรูปเมื่อนำมาต่อกับรปู ท่ีกำหนดใหแ้ ล้วได้รปู ท่มี แี กนสมมาตร
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง รปู เรขาคณิต เรอ่ื ง การประยุกตใ์ ช้รปู ทม่ี ีแกนสมมาตร (2) เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันท่ี_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สมบตั ิของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้ ตวั ชวี้ ดั : ค 2.2 ป.3/1 ระบุรูปเรขาคณิตสองมติ ิที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร จุดประสงค์การเรียนรูส้ ตู่ วั ช้ีวดั 1.บอกหลกั การประยุกต์ใชร้ ปู ทีม่ ีแกนสมมาตรเพื่อประดิษฐ์ผลงานต่าง ๆ (K) 2.ประยุกต์ใชร้ ปู ท่ีมีแกนสมมาตรเพอื่ ประดษิ ฐผ์ ลงานตา่ งๆ (P) 3.นักเรียนมคี วามมุง่ ในการทำงานและสามารถนำความรู้ทไี่ ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรื่องต่อไป (A) สาระสำคญั สามารถนำความรู้เก่ยี วกับรปู ท่ีมีแกนสมมาตรมาประดิษฐเ์ ป็นผลงานต่าง ๆ สาระการเรยี นรู้ 1.ความรู้ การประยุกต์ใช้รปู ทีม่ ีแกนสมมาตร 2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการส่ือสารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การแกป้ ัญหา 3.การเชื่อมโยง 4.การให้เหตุผล 5.การคดิ สรา้ งสรรค์ 3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ช้ินงานหรือภาระงาน ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง เกดิ การประยุกตใ์ ช้รปู ที่มีแกนสมมาตร
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้ 1.จากกิจกรรมทผ่ี ่านมานักเรียนไดว้ าดรูปท่มี ีแกนสมมาตร 1 แกน ก่อนจะทำกิจกรรมตอ่ ให้เปน็ รูปท่ี มีแกนสมมาตร2 แกน ครูอาจสรปุ การวาดรปู ใหเ้ ป็นรปู ท่ีมีแกนสมมาตร 1 แกน ก่อนว่า ตอ้ งลากเส้นต่อจาก จดุ ท่เี ปน็ แกนสมมาตรให้ระยะห่างเทา่ กนั กบั รูปทกี่ ำหนด และครูอาจถามนักเรยี นว่า ถ้ากำหนดแกนสมมาตร ให้ 2 แกน นักเรยี นจะมวี ธิ ีวาดรปู อยา่ งไรนักเรยี นบางคนอาจจะตอบคำถามไม่ได้ครูอาจให้นกั เรียนทำกิจกรรม เพ่อื สร้างความเข้าใจต่อไปนี้ก่อน 2.ครวู าดรปู ที่มีแกนสมมาตร 2 แกนบนกระดาษจุด แล้วลบรปู ออกทลี ะส่วนเพอื่ ให้นกั เรยี นเช่ือมโยง ความคดิ ไปสู่การวาดรปู โดยใชก้ ารถาม – ตอบ เช่น ครูถามนกั เรียนว่า รปู น้ีมีแกนสมมาตรกีแ่ กน (2แกน) ครู วาดแกนสมมาตรสองแกน 3.จากนน้ั ครลู บรูปทมี่ ีแกนสมมาตร 2 แกน ออกทีละสว่ น และใชก้ ารอธบิ ายน้ี ถา้ แกนสมมาตรเปน็ แนวนอนรูปอีกด้านหนึ่งของแกนสมมาตรจะอยดู่ ้านบนกบั ด้านลา่ ง เมือ่ ลบ ด้านใดด้านหนึ่งออกจะได้รปู ดังนี้ 4.ถ้าแกนสมมาตรเปน็ แนวตัง้ รูปอกี ด้านหนง่ึ ของแกนสมมาตรจะอยูด่ ้านซา้ ยกบั ดา้ นขวา เมื่อลบดา้ น ใดดา้ นหน่งึ ออกจะไดร้ ปู ดงั น้ี 5.จะเห็นว่ารูปทล่ี บอีกขา้ งหนึ่งของแกนสมมาตรท้งั 2 แกนนั้น มีสว่ นทซ่ี ำ้ กนั ดงั นัน้ ในการกำหนด รปู เพื่อให้วาดรปู ต่อใหเ้ ป็นรูปที่มีแกนสมมาตร 2 แกน จงึ กำหนดเป็นรปู ใดก็ได้ท่มี สี ว่ นทซ่ี ้ำกันดังนี้
6.จากนนั้ ครอู ธิบายย้อนกลับว่าถา้ กำหนดรูปใดรูปหนึ่งให้นักเรยี นจะมวี ิธวี าดรปู ตอ่ จากรูปทก่ี ำหนดให้ นอ้ี ย่างไร 7.ครวู าดรูปต่อจากรูปทก่ี ำหนดพรอ้ มอธบิ ายว่าวาดรูปต่อจากจดุ ท่เี ปน็ แกนสมมาตรทล่ี ะแกนดงั รปู น้ี จะใชแ้ กนสมมาตรแนวนอนก่อนแล้วใชแ้ กนสมมาตรแนวต้ังครถู ามนักเรยี นวา่ เราสามารถวาดรปู ตอ่ จากรูปท่ี กำหนดใหน้ ้โี ดยใช้แกนสมมาตรแนวตง้ั ก่อนไดห้ รือไมน่ ักเรียนควรตอบวา่ ได้ แล้วให้นักเรียนออกมาแสดงการ วาดรปู น้ีโดยใชแ้ กนสมมาตรแนวต้ังกอ่ นแลว้ จงึ วาดรปู ต่อโดยใช้ แกนสมมาตรแนวนอนซึ่งสุดท้ายแลว้ จะไดร้ ปู ออกมาเปน็ รูปเดียวกันเมื่อนักเรยี นเข้าใจการวาดรูป ต่อจากรปู ที่กำหนดให้เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร 2 แกน 8.ครใู ห้นกั เรยี นทำกจิ กรรม “ตอ่ ให้เป็นรูปที่มีแกนสมมาตร 2 แกน” ตามหนังสือเรียนหน้า 157โดย ครูแจกให้ กจิ กรรมจากสื่อเพมิ่ เติมของ หนังสอื เรียนบทน้ใี น QR Code หนา้ แรกของบท ใหน้ กั เรยี นลากเส้นต่อจุดและ ระบายสีตกแตง่ ภาพ ใหส้ วยงามพร้อมทง้ั ต้งั ช่อื ภาพถา้ ยังมีนักเรียนทไ่ี ม่สามารถวาดรูปต่อใหเ้ ปน็ รูปที่มแี กน สมมาตร 2 แกนได้ครูอาจช้ีแนะว่าการวาดรปู ที่มีแกนสมมาตร 2 แกนนัน้ ต้องกำหนดก่อนว่าจะวาดรปู ตาม แกนสมมาตรของแกนใดถ้าเลือกแกนสมมาตรแนวนอนต้องกำหนดจุดที่จะลากเส้นให้หา่ งจาก แกนสมมาตรให้ ระยะห่างเทา่ กนั ตามแกนสมมาตร แนวนอนแลว้ จึงวาดอีกข้างหน่ึงใหส้ มบรู ณ์ ตามแกนสมมาตรแนวตั้งทำนอง เดยี วกนั ถา้ เลือก แกนสมมาตรแนวตง้ั ตอ้ งกำหนดจุดทจี่ ะลากเส้น ใหห้ ่างจากแกนสมมาตรให้ระยะหา่ งเท่ากัน ตาม แกนสมมาตรแนวตั้งแลว้ จึงวาดอีกข้างหนงึ่ ใหส้ มบูรณ์ตามแกนสมมาตรแนวนอน จากนัน้ ครูและนักเรียน รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรียน ครแู ละนกั เรยี น ร่วมกันสรุปการวาดรปู ต่อจุด ใหไ้ ด้รูปที่มแี กนสมมาตร 2 แกน โดยใช้กระดาษจุดเม่ือกำหนดแกนสมมาตรให้ 2 แกนและรูปส่วนหนึ่ง ของ
แกนสมมาตรให้ทำได้โดยลากเส้นผ่านจุดบนกระดาษจุดท่มี ีระยะห่างจากแกนสมมาตรเท่ากนั กับรูปอกี ข้างหนึ่ง ของแกนสมมาตร อาจเร่ิมจากแกนสมมาตร แกนใดแกนหนงึ่ กอ่ นแลว้ ใช้วิธีการเดยี วกนั ในการวาดรปู อีกข้าง หนึ่ง ของแกนสมมาตรอีกแกนหน่งึ 9.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยครูให้นกั เรียนทำใบงานที่ 7 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ 1.หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3 2.ใบงานที่ 7 เรอ่ื ง เกดิ การประยุกต์ใช้รปู ท่ีมแี กนสมมาตร การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ าร วธิ ีวดั เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ เรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ (K) ตรวจทำใบงาน ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะกระบวนการ คุณภาพดีขึ้นไป 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั ท่พี งึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คุณภาพดีขึ้นไป ทพ่ี งึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมินแบบฝกึ หัด/ใบงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ 1. 1.ความถูกต้องของ เนื้อหา 432 1 2. รปู แบบ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ 3. ความเปน็ ระเบยี บ ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกต้องเป็น ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น ส่วนใหญ่ การนำเสนอ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไมเ่ ป็นไป น่าสนใจและ เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน ตามเกณฑ์ เหมาะสมกับ สถานการณ์ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มีความเป็น เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง ระเบียบ เลก็ นอ้ ย บางสว่ น
เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2 7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดับ 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลที่ปรากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก มีการอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจอย่างมเี หตุผล 3 : ดี มกี ารอ้างอิงที่ถูกต้องบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ 2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไมส่ มเหตสุ มผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ 1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็ 4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล หลักการและข้ันตอนในการแก้ปญั หาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง 3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่าน้ี 2 : พอใช้ มกี ระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น 1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีร่องรอยการแก้ปัญหาบางสว่ น เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยดุ อธิบายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเรจ็
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรปุ องค์ความรู้ คะแนน:ระดับ ความสามารถในการเชื่อมโยงที่ปรากฏให้เหน็ คณุ ภาพ นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์ 4 : ดีมาก หรือกจิ กรรมทต่ี ้องใช้องค์ความร้ทู ีเ่ รียนได้ถกู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วยในการแกป้ ัญหา หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ งสอดคล้องและเหมาะสม นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์ 3 : ดี หรือกิจกรรมทีต่ ้องใช้องค์ความรู้ที่เรียนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่ เพอื่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยุกตใ์ ช้ได้บางส่วน 2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเชอ่ื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรูท้ ่ีเรยี นไดบ้ างส่วน 1 : ควรปรบั ปรงุ นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป แก้ไข องค์ความรูท้ ่ีได้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นักเรียนใฝเ่ รยี นรู้ คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็ คุณภาพ 3 : ดมี าก - มีความสนใจ / ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้ 2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจเปน็ บางครั้ง 1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาส้นั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : นกั เรียนมีความมุง่ มั่นในการทำงาน คะแนน : ระดับ คุณลักษณะทปี่ รากฏใหเ้ ห็น คณุ ภาพ 3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรอื ตรงกำหนดเวลานดั หมาย - รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ยั 2 : ดี - ส่งงานช้ากวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารตดิ ต่อช้แี จงผู้สอน มเี หตผุ ลทร่ี ับฟงั ได้ - รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นิสัย 1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากวา่ กำหนด - ปฏิบัตงิ านโดยต้องอาศยั การชแ้ี นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ให้กำลังใจ
บนั ทึกผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ผลการเรยี นร้ทู ี่เกิดขน้ึ กับผูเ้ รียน 1.1 ผเู้ รียนผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จำนวน.....35........คน คิดเป็นรอ้ ยละ...100....... 1.2 ผู้เรียนไม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน.......-............คน ไดแ้ ก.่ ....................................................................................................................................... สาเหตุ ..................................................................................................................................... 1.3 ผ้เู รยี นได้รับความรู้ : ..ผเู้ รยี นได้เรยี นรูต้ ามแผนการจัดการเรยี นรตู้ รงตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.4 ผเู้ รียนเกดิ ทกั ษะกระบวนการ : ..ผู้เรียนได้ทกั ษะทางกระบวนการทางคณติ ศาสตร์เกี่ยวกบั การ ประยุกตใ์ ช้รปู ที่มีแกนสมมาตร 1.5 ผเู้ รียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม :..ผู้เรียนมีความต้ังใจในการเรยี น ชว่ ยเหลือซึ่งกนั และกัน 2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………….………………………................................................................................................................. 4. แผนการจดั การเรียนรูน้ ใี้ ช้กับนักเรียน หอ้ ง ป. 3 ในวันท่ี..4..เดือน. สงิ หาคม พ.ศ. 2564 ลงช่ือ................................ผู้สอน (นายวรพจน์ อยา่ งดี) คดิ เหน็ ผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื .......................................................... (นางสาวสพุ รรณกิ า สุบรรณาจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนประชาสามัคคี
ใบงานที่ 7 เกดิ การประยุกตใ์ ชร้ ูปทมี่ ีแกนสมมาตร เลอื ก ก ข หรือ ค ทเ่ี ปน็ รูปเม่ือนำมาต่อกบั รูปทก่ี ำหนดให้แล้วไดร้ ูปท่มี ีแกนสมมาตร
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง รูปเรขาคณติ เร่ือง กิจกรรม สรา้ งสรรคด์ ้วยสมมาตร เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง สอนวันที่_________เดือน________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ค 2.2 เขา้ ใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้ ตวั ชี้วัด : ค 2.2 ป.3/1 ระบรุ ปู เรขาคณิตสองมิติท่ีมีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ ัวชี้วัด 1. ระบุรปู เรขาคณติ สองมติ ทิ ่ีมแี กนสมมาตร และจำนวนแกนสมมาตร สาระสำคญั รูปทเี่ มอื่ พับแล้วสองข้างของรอยพบั ทับกันสนิทเป็นรูปทม่ี ีแกนสมมาตร รอยพับเป็นแกนสมมาตร รูปทม่ี แี กนสมมาตร บางรูปมีแกนสมมาตร 1 แกน บางรูปมีแกนสมมาตรมากกว่า 1 แกน สาระการเรียนรู้ 1.ความรู้ รูปเรขาคณิต 2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1.ความสามารถในการสอื่ สารความหมายทางคณิตศาสตร์ 2.การเชื่อมโยง 3.การคดิ สรา้ งสรรค์ 3.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทำงาน กจิ กรรม สร้างสรรค์ด้วยสมมาตร วิธจี ดั กจิ กรรม 1. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลุ่มให้นักเรยี น แตล่ ะกลุ่มรบั อุปกรณ์กลุ่มละ 1 ชดุ แลว้ ให้ นกั เรียนแต่ละ กลมุ่ สรา้ งสรรค์ผลงานโดย นำความรเู้ รอื่ งการพับ วาดและตัดกระดาษ ใหเ้ ปน็ รปู ที่มีแกนสมมาตร แลว้ นำมา ประดิษฐ์ เป็นรปู ต่าง ๆ ตกแต่งให้สวยงามพร้อมท้ังต้งั ช่ือภาพ จากนัน้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน ครอู าจให้ นักเรยี นรว่ มกนั พจิ ารณางานของเพื่อน ๆว่ารปู ท่ีสร้างสรรคข์ ึ้นน้ันเป็นรปู ท่ีมี แกนสมมาตรหรอื ไม่มรี ูปทีม่ ีแกน สมมาตรกี่รูป และแต่ละรูปมีจำนวนแกนสมมาตรก่แี กนจากน้นั ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกท้าทาย หน้า 110 – 111
สื่อการเรยี นรู้ 1.หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ าร วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ เรียนรู้ ตรวจผลงานรูปทม่ี ีแกน ผลงานรูปทม่ี ีแกน 80% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) สมมาตรกบั การตดั สมมาตรกับการตดั การประเมนิ กระดาษ กระดาษ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะกระบวนการ คณุ ภาพดีข้ึนไป 3. ดา้ นคุณลกั ษณะท่ี สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนได้คะแนนระดบั พึงประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ ดา้ นคุณลักษณะ คุณภาพดีขึน้ ไป ท่ีพงึ ประสงค์ แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับคุณภาพ ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ 32 1 (ดี) (พอใช้) (ปรบั ปรุง) 1 การสร้างผลงาน 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 ความถูกตอ้ งของเนือ้ หา 4 กำหนดเวลาสง่ งาน รวม ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 10 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่ือง รูปเรขาคณิต เรอื่ ง แบบทดสอบท้ายบท เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง สอนวันที่_________เดอื น________________พ.ศ.256_ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัตขิ องรปู เรขาคณิต ความสมั พันธ์ระหวา่ งรูป เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนำไปใช้ ตวั ชี้วัด : ค 2.2 ป.3/1 ระบรุ ปู เรขาคณิตสองมิติที่มีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร จุดประสงค์การเรียนรู้สตู่ วั ช้ีวดั 1.ระบรุ ูปเรขาคณติ สองมติ ิท่ีมีแกนสมมาตร และจำนวนแกนสมมาตร กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ แบบทดสอบท้ายบท ส่อื การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน แบบทดสอบท้ายบท 50% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การ 1. ด้านความรู้ (K) ตรวจแบบทดสอบท้ายบท ประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ นทักษะ แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดับคณุ ภาพ กระบวนการ (P) กระบวนการ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ดีขึ้นไป 3. ด้านคณุ ลกั ษณะที่ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนได้คะแนนระดบั คุณภาพ ด้านคุณลกั ษณะ ทพ่ี ึง ดีข้ึนไป พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ประสงค์
แบบทดสอบทา้ ยหนว่ ย เรื่อง รูปเรขาคณิต คะแนนเต็ม 30 คะแนน เวลา 60 นาที .......................................................................................................................................................... ตัวชี้วดั : ค 2.2 ป.3/1 ระบรุ ปู เรขาคณิตสองมติ ิท่มี ีแกนสมมาตรและจำนวนแกนสมมาตร
Search