เเนวทางปฏิบัตทิ างการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก เพ่ือปอ้ งกันการแพรร่ ะบาด ของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธใ์ุ หม่ 2019 (C VID-19) ฉบบั ปรับปรุงครง้ั ที่ 1 กองวิชาการและแผนงาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คำนำ ภายใต้สถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Coronavirus Disease 2019: COVID-19) ในวงกว้าง ส่งผลต่อเกิดการเจ็บป่วยและ การดำเนินชวี ติ ของประชาชนท่ัวโลก ทั้งในด้านธุรกจิ ตอ้ งชะลอหรอื ปิดกจิ การลง โรงเรียนต้อง ประกาศหยุดเรียน และประชาชนเกิดความตื่นตระหนก ทำให้หน่วยงานทุกภาคส่วนต้อง เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ก่อนที่จะได้รับวัคซีน หรือมีวิธีการรักษาให้หายขาดจากโรค ทุกคน จำเป็นต้องปรับวิถีการดำรงชีวิตประจำวัน ให้เป็นไปตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนดไวอ้ ยา่ งเครง่ ครดั รวมท้งั ดูแลสขุ ภาพของตนเองให้มีสขุ ภาพที่ดี สำหรับ บทบาทการส่งเสริมและป้องกันโรค กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก มีข้อแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารจากสมุนไพรเพื่อเสริมภูมิ คุ้มกัน ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลการศึกษาวิจัยว่าสมุนไพรหลายชนิดมีประโยชน์ในการเสริมภูมิคุ้มกัน และหลายชนิดมีแนวโน้มว่าจะสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุ ใหม่ 2019 ได้ เช่น สมนุ ไพรฟ้าทะลายโจร เป็นต้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่สนใจรวมทั้งหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการร่วม มือกันต่อสู้โรคระบาดครั้งนี้ เพื่อให้สามารถก้าวผ่านพ้นสถานการณ์การระบาดของ โรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธ์ใุ หม่ 2019 (COVID-19) ครงั้ น้ีไปดว้ ยกันโดยเร็ว กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ 16 เมษายน 2564
สารบัญ 1 มาตรการและแนวทางปฏิบตั ิในสถานการณ์ การแพร่ระบาด 3-11 ของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่ 2019 (COVID-19) 2 การสง่ เสริมการใชก้ ารแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 12-14 ในการปอ้ งกนั และเสริมภูมิคุ้มกนั ในสถานการณ์ โรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่ 2019 (COVID-19) ระบาด 3 ข้อมูลสมุนไพรไทยทีเ่ กีย่ วกับโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 15-28 สายพนั ธุใ์ หม่ 2019 (COVID-19) เอกสำร เอกสารอา้ งองิ มาตรการและแนวทางปฏิบตั ิในสถานการณ์ 29-30 อ้ำงอิง การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) ภำค ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผนวก เรอื่ ง แนวทางปฏิบัติในการปอ้ งกันและควบคมุ การระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั 31-37 โคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ฉบบั ที่ 1 - 5
มาตรการและแนวทางปฏบิ ตั ิ 1 ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่ 2019 (COVID-19) 1.1 มาตรการ สาหรับการปฏิบัติงานภายในองค์กร ในภาวะการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) (กรมการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวง สาธารณสุข) 1.2 เเนวปฏิบัติการจัดการทางคลินิกด้านการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในสถานการณ์ โรคติดเช้ือ ไ วรัสโคโรนา สา ย พั นธ์ุใหม่ 20 1 9 (COVID-19)
1.1 มาตรการ สาหรับการปฏบิ ตั ิงานภายในองคก์ รในภาวะการณร์ ะบาด ของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) (กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข) 1-5 ความเสี่ยง การลดผลกระทบจากความเส่ียง ดา้ นบคุ ลากร (Staff) 1. กำหนดผรู้ บั ผิดชอบหลัก/รอง ในการบริหารจดั การบุคลากร 2. กำหนดผู้รบั ผิดชอบหลัก/รอง ในภารกจิ ทสี่ ำคญั ดา้ นสถานที่ 3. กำหนดแผนในการเตรียมบุคลากรทดแทนกรณเี กิดการแพร่ระบาดในวงกวา้ ง (Premises) 4. จัดทำแผนฝึกอบรมทักษะเฉพาะด้านที่สำคัญในการรองรับสถานการณ์ การแพรร่ ะบาด 5. ดำเนินการฝึกอบรมทักษะเฉพาะด้านที่สำคัญในการรองรับสถานการณ์ การแพรร่ ะบาด 6. บุคลากรต้องปฏิบัติตามหลักป้องกันตนเอง โดยสวมหน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ในสถานที่ทำงานและรักษาระยะห่างระหว่าง บคุ คลอย่างเคร่งครัด 7. หากมีการเจบ็ ปว่ ยทส่ี งสัยวา่ จะเกดิ จากการติดเชอ้ื โควดิ 19 ตอ้ งหยุดงานและ รายงานให้ผู้บงั คับบญั ชาทราบตามลำดบั ทนั ที 1. สถานทีท่ ำงาน: กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก - บรหิ ารจดั การและเตรียมความพรอ้ มสถานที่ - จัดทำแผนบริหารจดั การหน่วยงานในสังกัด รองรับสถานการณ์ฉุกเฉนิ - จัดระบบการบรหิ ารจดั การในการดูแลผปู้ ว่ ยท่วั ไป (Non COVID-19) 2.หนว่ ยบรกิ าร - จัดระบบการบริหารจัดการในการดแู ลผูป้ ว่ ยโรคโควดิ 19 - เตรียมความพรอ้ มคลินิกโรคทางเดนิ หายใจ - เตรียมความพรอ้ มระบบสง่ ตอ่ ผูป้ ่วย - กำหนดมาตรการดา้ นอนามัยสิง่ แวดล้อมและบริหารจดั การระบบสขุ าภบิ าล ทัง้ ภายในและภายนอกอาคาร -4-
1.1 มาตรการ สาหรับการปฏิบตั ิงานภายในองค์กรในภาวะการณ์ระบาด ของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่ 2019 (COVID-19) (กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข) 1-5 ความเสี่ยง การลดผลกระทบจากความเส่ียง ดา้ นภารกจิ (Operation) 1. จัดการระบบข้อมูลข่าวสาร - แต่งตั้งระบบบัญชาการ EOC ประจำกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ดา้ นทรพั ยส์ นิ ทางเลือก (Assets) - จัดทำฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ทรัพยากรหน่วยบริการ การแพร่ กระจายโรค โดยใช้เทคโนโลยที ่มี ปี ระสิทธิภาพ 2. จดั ทำแผนสื่อสารทางไกล ผ่านระบบดจิ ิทัลและเทคโนโลยี เชน่ โทรศพั ท์ Video Conference Line กลุ่มเฉพาะ หรือระบบออนไลน์อื่น ๆ เพื่อสื่อสารและ หาข้อตกลงรว่ มกนั ในการแกไ้ ขปญั หา 1. ประเมินและเตรียมจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ โดยเฉพาะ แอลกอฮอลเ์ จลทต่ี ้องมพี ร้อมใชป้ ระจำทุกจดุ ทจี่ ำเป็น 2. จดั ทำแผนบรหิ ารจดั การทรัพยากรทีม่ ีอย่อู ย่างจำกัด -5-
1.2 เเนวปฏิบตั ิการจัดการทางคลินิกดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่ 2019 (COVID-19) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ ไดก้ ำหนดแนวทางการใหบ้ ริการการแพทย์ แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพมาตรฐาน กลไกการรับรอง มาตรฐาน คุณภาพบริการ บคุ ลากร เทคโนโลยี ผลติ ภณั ฑ์ และใหก้ ารคมุ้ ครองผู้บริโภคด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ดังนี้ 1. สาหรับสถานบริการสาธารณสุข ดา้ นการคดั กรอง/ 1) จัดให้มรี ะยะห่างระหว่างบคุ คลอย่างนอ้ ย 1 - 2 เมตร ลงทะเบยี น/นดั หมาย/ 2) ตอ้ งมอี ปุ กรณต์ รวจวดั อณุ หภูมิ แอลกอฮอล์ 70% หรอื เจลแอลกอฮอล์ 70% การบนั ทกึ ขอ้ มลู สำหรับทำความสะอาดมอื 3) การคัดกรองและวัดอุณหภูมิ - คัดกรองและวัดอณุ หภูมผิ ูม้ ารับบริการทุกราย - คัดกรองผ้ปู ฏิบตั งิ านทกุ ราย วันละ 2 เวลา เช้า-บา่ ย กอ่ นปฏบิ ัตงิ าน - กรณีมีไข้มากกว่า 37.3 องศาเซลเซียส และเป็นกลมุ่ เสย่ี ง เชน่ สัมผสั ผู้ตดิ เชื้อ การเดนิ ทางไปในพืน้ ทเี่ ส่ยี ง หรอื มีโรคประจำตัว ไดแ้ ก่ เบาหวาน ความดนั โลหิตสูง เป็นตน้ ใหส้ ง่ ต่อผู้ปว่ ยรับการดูแลทางการแพทยแ์ ผนปจั จุบัน - กรณีผู้ที่ไม่มีประวัติเสี่ยง มีอาการระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมกู เจ็บคอ ผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (Influenza-like symptoms) ให้พบแพทย์ แผนไทย เพือ่ ตรวจและพจิ ารณาสงั่ จ่ายยาแผนไทย 4) จัดใหม้ รี ะบบนัดหมายและควิ รบั บริการลว่ งหน้ากอ่ นเข้ารับบรกิ าร เช่น ทางออนไลน์ ทางโทรศพั ท์ หรอื ทางแอพพลิเคช่ันต่าง ๆ สว่ นในกรณีการเข้ารับ บริการด้วยตนเองโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า ให้จัดสถานที่สำหรับผู้รับบริการ กรอกข้อมลู โดยการเว้นระยะห่างอยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร และมที ี่ก้ันระหวา่ งบคุ คล 5) บันทึกรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ วันที่และเวลา ของผู้มารับบริการทุกราย เพื่อให้ สามารถตดิ ตามตัวไดใ้ นกรณที ต่ี อ้ งสอบสวนโรค 6) บันทึกรายชอ่ื ผู้ใหบ้ รกิ ารและกิจกรรมทีใ่ หบ้ รกิ ารกับผ้รู บั บริการทกุ ราย 7) มรี ะบบติดตามผรู้ ับบริการทุกรายหลังรับบริการ อย่างนอ้ ย 14 วัน 8) จัดสื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เรื่องโรคติดต่อ การแพร่กระจายโรค การป้อง กนั โรค และคำแนะนำให้กบั ผรู้ บั บริการ -6-
1.2 เเนวปฏบิ ัติการจดั การทางคลินิกด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ในสถานการณ์โรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนาสายพันธใุ์ หม่ 2019 (COVID-19) 1. สาหรับสถานบรกิ ารสาธารณสุข ดา้ นการบรกิ าร 1) ให้บริการ การตรวจวินิจฉัย รักษาโรค การจ่ายยาแผนไทย ด้วยศาสตร์ การแพทย์แผนไทย โดยจัดให้มีระยะห่างระหว่างแพทย์แผนไทยและ ผู้รับบริการอย่างน้อย 1 - 2 เมตร หรือมีที่กั้นระหว่างบุคคล สวมหน้ากาก อนามัย อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shield) และผู้จัด/ผู้จ่ายยาแผนไทย ตอ้ งใส่ถุงมอื ทุกครั้ง 2) ให้บริการหัตถการในการบำบัดรักษาได้ตามความจำเป็น คือ การนวดไทยเพ่ือ การรักษา การประคบสมุนไพรเพื่อการรักษา และการดูแลมารดาหลังคลอด เพื่อการรกั ษาเทา่ นนั้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยการนวด/ประคบบริเวณคอ บ่า ไหล่ ผู้นวด/ ประคบ ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shield) งดบริการการนวด รักษาบริเวณศีรษะ ใบหน้า การนวดเผชิญหน้า หรือใกล้ชิดบริเวณในหน้าของ ผรู้ ับบริการ 3) งดกิจกรรมการให้บริการการอบไอน้ำสมุนไพร หรือกิจกรรมอื่นที่มีความ เสยี่ งตอ่ การแพร่ระบาดของโรค 4) ระยะเวลาใหบ้ ริการไมเ่ กิน 1 ชว่ั โมง/ครง้ั /คน -7-
1.2 เเนวปฏิบัติการจดั การทางคลนิ กิ ด้านการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ในสถานการณ์โรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) 1. สาหรบั สถานบรกิ ารสาธารณสุข 1) ห้องบริการต้องมีระบบป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ มีระบบอากาศภายใน อาคารที่เหมาะสม มีเครื่องดูดอากาศ อากาศถ่ายเทสะดวก สะอาด และแยกเป็น สดั ส่วน 2) กำหนดให้เว้นระยะระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 - 2 เมตร ยกเว้นกรณีผู้พิการ/ ผสู้ งู อายุท่ตี อ้ งมีผ้ดู แู ลอยา่ งใกล้ชิด (ใหม้ ผี ดู้ ูแล 1 คน) 3) ระยะห่างระหว่างเตยี งใหบ้ ริการ ต้องมีระยะห่างอยา่ งน้อย 1 - 2 เมตร กรณียกพืน้ สูงให้เว้นระยะเบาะ และมีม่านกั้นระหว่างเตียงให้บริการ ที่สามารถทำความสะอาด ดา้ นสถานท่ี อปุ กรณ์ ได้งา่ ย เครอ่ื งมอื เครอื่ งใช้ 4) จัดเตรียมหนา้ กากอนามัย อุปกรณป์ ้องกันใบหน้า (Face Shield) และถงุ มอื 5) จดั เตรยี มแอลกอฮอล์ 70% หรอื เจลแอลกอฮอล์ 70% สำหรับทำความสะอาดมือ ทุกจุดบริการ 6) ลูกประคบสมุนไพร ให้ใช้เฉพาะผู้รับบริการเป็นรายบุคคล ไม่นำมานึ่งซ้ำหรือใช้ซ้ำ กับผมู้ ารบั บรกิ ารรายอื่น และนึ่งลกู ประคบสมุนไพรไม่น้อยกวา่ 30 นาที ก่อนนำไป ประคบ 7) ผ้าห่อหรือผ้ารองลูกประคบ จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อทุกผืน 8) จัดให้มีเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนของผู้มารับบริการ โดยอยู่ในถุงที่แยกแต่ละชุด อยา่ งชัดเจน และผ่านการอบฆ่าเช้อื ทกุ ตวั 9) มีถุงพลาสติกสำหรับใส่เสื้อผ้าที่ผู้รับบริการสวมใส่มาและของใช้ส่วนตัว เก็บไว้ใน ลอ็ คเกอร์เก็บของ 10) มอี า่ งลา้ งมอื ที่ถกู สขุ ลกั ษณะ สบเู่ หลว เจลล้างมอื พรอ้ มใช้งาน 11) จัดให้มภี าชนะรองรบั ขยะแต่ละประเภทท่มี ีฝาปดิ มิดชิด -8-
1.2 เเนวปฏบิ ตั ิการจัดการทางคลนิ กิ ด้านการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ในสถานการณ์โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) 1. สาหรบั สถานบรกิ ารสาธารณสุข ดา้ นการดแู ล 1) ทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์ทใี่ ชบ้ ริการร่วมกนั เช่น โตะ๊ เก้าอ้ี เตยี ง ตรวจก่อนและ ความสะอาด หลงั ใหบ้ ริการทุกครง้ั 2) ต้องเปลี่ยนผา้ ปูท่ีนอน ปลอกหมอน ผ้าขวางเตียง หรือกระดาษปเู ตียง แบบใช้แล้วท้ิงทุก คร้ังหลังใหบ้ รกิ ารแต่ละราย 3) ทำความสะอาดเตียงนวด/ประคบ หมอน เบาะยาง และบริเวณโดยรอบด้วยน้ำยาฆ่าเช้อื หรือแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งหลังให้บริการแต่ละราย และพักตียงหลังให้บริการอย่าง น้อย 30 นาที 4) ทำความสะอาดห้องนวด/ประคบ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อแอลกอฮอล์ 70% หรือการใช้แสง UV ฆ่าเชอ้ื ภายในสถานทใ่ี หบ้ รกิ ารหลงั ให้บรกิ ารในแต่ละวนั 5) ดูแลรกั ษาทำความสะอาดอุปกรณ์ เครอ่ื งมอื ทีม่ ีการสมั ผสั บ่อย เชน่ เครื่องวัดความดัน โลหติ เปน็ ตน้ ดว้ ยน้ำยาฆา่ เชื้อ หรอื แอลกอฮอล์ 70% 6) ทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น ที่จับหรือลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟท์ ราวจับ ราวบันได เป็นต้น ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอลกอฮอล์ 70% อย่างน้อย ทกุ 1 ช่ัวโมง 7) ทำความสะอาดล็อคเกอร์เก็บของดว้ ยน้ำยาฆา่ เชื้อหลังผูใ้ ช้บริการในแต่ละราย และต้อง จดั ใหม้ ีแอลกอฮอล์ 70% หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% ทบ่ี ริเวณล็อคเกอร์ 8) ทำความสะอาดห้องนำ้ ทุก 1 ชั่วโมง หรือบ่อยครั้งตามจำนวนผู้มารับบริการด้วยน้ำยา ทำความสะอาด หรือสารฆ่าเชื้อ เช่น แอลกอฮอล์ 70% น้ำยาฆ่าเชื้อ ที่มีส่วนผสมของ คลอรนี เป็นตน้ 9) มีมาตรการรองรับการป้องกันความชื้นในอากาศ การล้างทำความสะอาดเครื่องปรับ อากาศ ดว้ ยน้ำยาฆา่ เช้ือโรค และควบคุมคณุ ภาพอากาศภายในพน้ื ทเ่ี ป็นประจำ -9-
1.2 เเนวปฏบิ ัติการจัดการทางคลินกิ ด้านการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ในสถานการณ์โรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ขอ้ ปฏบิ ตั ิ 2. สาหรับผใู้ ห้บริการ 1) สังเกตอาการตนเองสมำ่ เสมอ หากมไี ข้ หรอื อาการปว่ ยระบบทางเดนิ หายใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น จาม มีน้ำมูก หรือหอบเหนื่อยให้หยุดปฏิบัติงาน แจ้งหนว่ ยงาน และใหพ้ บแพทย์ทันที 2) ต้องใส่หน้ากากอนามัย สวมหมวกคลุมผม อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shed) และผ้ากันเปื้อนตลอดระยะเวลาการให้บริการ หลีกเลี่ยงการ สมั ผสั บริเวณใบหน้า ตา ปาก จมกู โดยไม่จำเปน็ 3) ต้องล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% ก่อนและหลังให้บริการ ทุกครั้ง 4) ต้องใส่ถุงมือในการให้บริการนวด/ประคบ และต้องทำความสะอาด ด้วย แอลกอฮอล์ 70 % กอ่ นและหลังนวด/ประคบทุกคร้ัง 5) ไมใ่ ช้สงิ่ ของร่วมกับผอู้ ่ืน เช่น แก้วนำ้ หลอดดดู นำ้ ชอ้ นจานผา้ เช็ดมอื ผ้าเช็ดหน้า เปน็ ตน้ 6) งดเว้นการพูดคุยระหว่างการให้บริการ หรือพูดคุยเท่าที่จำเป็น เช่น สอบถาม อาการ เป็นต้น - 10 -
1.2 เเนวปฏบิ ตั ิการจัดการทางคลนิ กิ ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก ในสถานการณ์โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใุ หม่ 2019 (COVID-19) ขอ้ ปฏบิ ตั ิ 3. สาหรับผู้รับบรกิ าร 1) ผรู้ บั บริการจะตอ้ งใส่หนา้ กากผา้ หรือหนา้ กากอนามยั ตลอดระยะเวลาที่รบั บริการ และล้างมือดว้ ยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 70% ก่อนและหลังเขา้ รับบรกิ ารทุกครงั้ 2) นง่ั ห่างระหวา่ งบุคคลอยา่ งนอ้ ย 1 - 2 เมตร หรือเกา้ อ้ีเว้นเกา้ อ้ี 3) หลีกเลี่ยงการสัมผัสที่ไม่จำเป็น เช่น ที่จับหรือลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟท์ ราวจับ ราวบนั ได เป็นต้น 4) ผู้รับบริการ ต้องไม่ปิดบังข้อมูลส่วนตัว เช่น โรคประจำตัว การเดินทางไปใน พื้นท่ี เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การสัมผัสใกล้ชิด บุคคลในครอบครวั /ญาติท่มี ีการตดิ เชอื้ เปน็ ต้น 5) หากพบว่าตนเองมีไข้ หรืออาการป่วยระบบทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ จาม มีนำ้ มูก หรอื เหน่อื ยหอบ งดรับบริการ และให้พบแพทยท์ ันที 6) หลงั รับบรกิ ารในชว่ ง 14 วนั หากพบว่าตนเองมอี าการเขา้ ขา่ ยติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ตอ้ งแจง้ สถานบริการสาธารณสุขหรือผใู้ ห้บริการรับทราบ และพบแพทย์ทันที - 11 -
การสง่ เสริมการใช้ 2 การแพทยแ์ ผนไทยและ การแพทยท์ างเลอื ก ในการป้องกันและเสริมภมู คิ มุ้ กัน ในสถานการณ์โรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ระบาด
การส่งเสริมการใช้การแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก ในการป้องกนั และเสรมิ ภูมคิ ุม้ กนั ในสถานการณโ์ รคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ระบาด5-8 โคโรนาไวรัส 2019 เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ซ่งึ เปน็ ไวรัสในกล่มุ เดียวกับไวรัสที่ก่อโรค SARS โดยทำใหม้ ีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อย ขณะที่ผู้ป่วยอีกส่วนหนึ่งมีอาการ รุนแรง เช่น ปอดอักเสบ ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะเจาะจง การรักษา หลักเป็นการรักษาตามอาการ และการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศ เร่มิ มีการเร่มิ ฉีดวคั ซนี ให้แกป่ ระชาชนแล้ว โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) หากเปรียบเทียบกับ ทฤษฎีทางการแพทย์แผนไทย วิเคราะห์ได้ว่าเมื่อเชื้อโรคในปัจจุบัน (เชื้อไวรัส) ซึ่งโบราณ เรียกว่า“กิมิชาติ” (เหล่าหมู่หนอน) แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย จะกระตุ้นให้ธาตุไฟเพ่ิม มากกว่าปกติจึงทำให้มีไข้ เมื่อธาตุไฟ (ไฟสันตัปปัคคี) เพิ่มขึ้น จึงทำให้ธาตุลม (ลมอุทธังคมาวาตา) เพิ่มขึ้นตาม เมื่อร่างกายมีความร้อนมากข้ึนส่งผลให้ธาตุน้ำ (เสมหะ) ลดลง จึงทำให้เกิดอาการไอแห้งและเจ็บคอ การเสียสมดุลของธาตุในร่างกาย เหล่านี้ หากเป็นมากหรือเป็นเรื้อรังจะส่งผลให้ธาตุดิน (ปับผาสัง หมายถึง ปอด) เกิดความผิดปกติ ทำให้หอบเหนื่อย ทั้งนี้ความรุนแรงของโรคในแต่ละคนจะแตกต่างกัน ขน้ึ อย่กู บั ธาตุเจา้ เรอื น และความแข็งแรงของรา่ งกายในขณะน้นั อย่างไรก็ตาม โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เป็นโรค อุบัติใหม่ การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อจึงยังไม่รักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย หรือ สมุนไพรไทยเป็นหลัก การดูแลตนเองที่ดีที่สุด คือ การป้องกันการได้รับเชื้อ และดูแล สุขภาพให้แข็งแรง หากมีการติดเชื้อ ผู้ป่วยจะได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาตามแบบ แผนของการแพทย์แผนปจั จุบันต่อไป - 13 -
จากสถานการณ์โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนาสายพันธุใ์ หม่ 2019 (COVID-19) ประชาชนจาเปน็ ต้องปรบั เปลย่ี นชวี ติ ประจาวนั เพ่ือการป้องกนั ดงั นี้ และดูแลตวั เองจากการระบาดของ COVID-19 ไดแ้ ก่ 1. การควบคุมความเครียด โดยดูแลสภาพจิตใจไม่ให้เครียดเกินไป หาวิธี ผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสุขภาพ (ฤาษีดัดตน รำมวยจีน โยคะ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฝึกหายใจคลายเครยี ด เป็นตน้ ) 2. การนอนหลบั /พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ วนั ละ 6-8 ชั่วโมง 3. การเลือกรับประทานอาหาร โดยรับประทานผัก ผลไม้ สมนุ ไพรช่วยเสริมภมู ิคุ้มกันและมีฤทธิ์ตา้ นเชื้อไวรสั ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพ ที่เป็นแหล่งอาหารและยาที่สำคัญที่ทำให้ ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) โดย เป็นแหล่งสมุนไพร ที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับ “ภูมิคุ้มกัน” ภูมิคุ้มกันสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จากหลายวิธีการ ส่วนหนึ่งที่ กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน คือ การรับประทาน “สมุนไพรและอาหารไทย” โดยใช้หลักการใช้ สมุนไพรและอาหารไทยรักษาสมดุลของธาตุ สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยสมุนไพรและอาหารไทยที่มี “รสเยน็ ” เป็นพน้ื ฐานเพือ่ ลดความรอ้ นในร่างกาย (ลดไข)้ ใชส้ มุนไพรและอาหารไทยที่มี “รสสขุ ุม” เพื่อปรับสมดุลธาตุ และใช้สมุนไพรและอาหารไทยที่มี “รสเปรี้ยว” เพื่อกัดเสมหะ ฟอกโลหิต ตลอดจนได้รับสารสำคญั ในสมนุ ไพรท่ีสามารถชว่ ยกระตุ้นภูมคิ ุ้มกนั ของรา่ งกายได้ - 14 -
3 ข้อมลู สมุนไพรไทยท่ีเกย่ี วกบั โรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา สายพนั ธใ์ุ หม่ 2019 (COVID-19)
ขอ้ มลู สมุนไพรไทยที่เก่ียวกบั โรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพันธ์ใุ หม่ 2019 (COVID-19) ฟา้ ทะลายโจร ชอื่ วทิ ยาศาสตร์: Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall. ex Nees สารสำคญั : Andrographolide และอนพุ นั ธ์ สรรพคณุ : แก้เจ็บคอ แกท้ อ้ งเสีย ลดไข้ เจริญอาหาร (สรรพคณุ ตามบัญชียาหลัก แหง่ ชาติ) 6 การใชพ้ น้ื บา้ น: มกี ารใช้มานานกวา่ 2,000 ปี ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ เช่น จนี อินเดยี ไทย มาเลเซยี ในการรักษาโรคติดเชือ้ ในระบบทางเดินหายใจและ ระบบทางเดนิ อาหาร และเปน็ ส่วนประกอบในตำรับยาแผนจีนและอายรุ เวท7 ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ : การศึกษาทางเภสชั วทิ ยา พบว่ามฤี ทธก์ิ ระตนุ้ ภูมิคมุ้ กัน (Immunostimulant) ในขณะเดียวกันก็มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกัน (Iimmunomodulator) โดยมีผลปรับการทำงานของเซลล์ ภมู ิคุ้มกนั หลายชนิดในรา่ งกาย และมีฤทธิ์ตา้ นเชื้อไวรสั 9-10 “ฟ้าทะลายโจร” เป็นสมุนไพรรสขม มีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัดและเจ็บคอ ต่อมามี การนำไปใชเ้ พ่ือการรักษาโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หม่ 2019 (COVID-19) โดย11-13 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกั บ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ร่วมกันทดสอบฤทธิข์ อง สารสกัดฟ้าทะลายโจร (crude extract) และสารแอนโดรกราโฟไลด์ต่อการติดเชื้อของไวรัส SARS- CoV-2 ผลการศึกษาพบว่า ฟ้าทะลายโจรไม่มีผลในเชิงป้องกันการติดเชื้อ แต่สามารถต้านการเพม่ิ จำนวนของไวรสั ในเซลล์ทตี่ ดิ เชื้อได้ จงึ มแี นวโน้มวา่ จะสามารถใชเ้ ปน็ ยารักษาโรคได้ ต่อมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสถาบัน บำราศนราดูร, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, องค์การเภสัชกรรม, บริษัทผลิตภัณฑ์ สมุนไพรไทย, สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลสมุทรปราการ ดำเนินการศึกษาวิจัยยาสาร สกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงในผู้ป่วยโรค COVID -19 ระดับความรุนแรงน้อย คือ ผู้ป่วยที่ติดเช้ือ COVID -19 ที่มีอาการแสดงของระบบทางเดินหายใจเล็กน้อย เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือ หายใจลำบาก โดยไม่มีภาวะปอดอักเสบ ไม่ได้รับยาต้านไวรัส จำนวน 6 ราย ผลการศึกษาวิจัย เบื้องต้น พบว่า หลังติดตามครบ 5 วัน ผู้ป่วยทุกรายมีอาการดีขึ้น โดยสารสกัดฟ้าทะลายโจร สามารถลดอาการแสดงที่เกิดจากการติดเช้ือ COVID -19 ต่าง ๆ ได้ รวมทั้งมีผลลดจำนวนไวรัส ในรา่ งกาย ทัง้ นี้ มี 3 รายท่ผี ลการตรวจทางหอ้ งปฏิบตั ิการไมพ่ บไวรสั หลังรักษาครบ 5 วัน - 16 -
ปัจจุบัน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กำลังดำเนินการศึกษาผลของ ฟ้าทะลายโจรต่อการรักษาผู้ป่วย COVID -19 ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ทางคลินิก ในโรงพยาบาลรัฐ 5 แห่ง ผลการเก็บข้อมูลเบื้องต้นในผู้ป่วยจำนวน 81 ราย พบว่า ทุกรายมี อาการทางคลนิ ิกที่ดีข้นึ และไมพ่ บอาการไม่พึงประสงค์ทรี่ นุ แรงในผู้ป่วยดงั กลา่ ว กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หวังว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยลด ความรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) และสามารถใช้รักษา ร่วมกับมาตรฐานทางแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะลดภาระค่าใช้จ่าย ในการดูแลผู้ป่วยจำนวนมากแล้ว ยังสามารถช่วยลดรายจ่ายของประเทศในการใช้ยาจาก ต่างประเทศด้วย ข้อห้าม ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ฟา้ ทะลายโจร6,13 1. ฟ้าทะลายโจรไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ภาวะตับและไตไม่ดี สตรีมีครรภ์ และสตรใี หน้ มบตุ ร 2. ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นเวลานานเกิน 7 วัน อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด แขนขาชา หรือออ่ นแรงจากภาวะเยน็ เกนิ ของรา่ งกายได้ 3. ควรระวังการใช้รว่ มกบั ยากันเลือดเป็นล่มิ ยาต้านการจบั ตวั ของเกล็ดเลือด และยาลด ความดันโลหิต ผู้ที่รับประทานยาเป็นประจำหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์กอ่ น รบั ประทาน 4. หากใช้ติดต่อกัน 3 วัน แล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงมากขึ้นระหว่างใช้ยา ควร หยดุ ทนั ทแี ละพบแพทย์แผนปัจจบุ นั 5. ในบางรายอาจมีอาการแพ้ยาหรอื อาการขา้ งเคียงอื่น ๆ ได้ แต่พบน้อยและไมร่ ุนแรง เช่น ปวดท้องท้องเดิน คลื่นไส้ เวียนศีรษะ สำหรับผู้ที่มีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นลมพิษ ร่วมกับมีอาการหน้าบวม ตาบวม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ควรหยุดยาแล้วรีบไป พบแพทย์ทันที และไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจรอีก เนื่องจากอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรง ตามมาได้ - 17 -
กระชาย ช่ือวทิ ยาศาสตร:์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. สารสำคัญ: Kaempferol, Quercetin, Panduratin A สรรพคุณ: แก้โรคในปาก เช่น ปากเปื่อย ปากเป็นแผล ขับระดูขาว ขับปสั สาวะ รกั ษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง การใชพ้ นื้ บา้ น: แก้แผลในปาก รกั ษาอาการจมกู ไม่ได้กลนิ่ ช่วยย่อย อาหาร เพิ่มสมรรถภาพทางเพศของเพศชาย เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลงั แกป้ วดเมื่อย แกล้ มวงิ เวยี น7-9 ข้อมลู เพมิ่ เตมิ : ไดช้ ่อื ว่าเปน็ โสมของคนไทย “Thai ginseng” การจำลองภาพสาม มิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า kaempferol, quercetin สามารถแย่งจับกับตำแหน่ง main protease (Mpro) ท่ีช่วยยับย้ังการแบ่งตวั ของไวรสั โคโรนาสายพันธ์ุ 2019 ได1้ 1,13, 15-16 การศึกษาวิจัยฤทธิ์ต้านไวรัสก่อโรคโควิด-19 (SARS -CoV -2) ของกระชาย โดยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี ได้รับทุนวิจัยจาก ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) ทำการศึกษาวิจัย ฤทธติ์ ้านไวรัสก่อโรคโควิด-19 (SARS -CoV -2) ของกระชาย พบว่าสารสกัดกระชายและ สาร Panduratin A มีฤทธิ์ต้านการแบ่งตัวของไวรัสที่แรงกว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจร และ Andrographolide อย่างไรก็ดี ยังเป็นเพียงผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการ ที่ยังต้องมี การวิจัยประสิทธิผลในมนุษย์ต่อไป ซึ่งหากได้ผลดี จะสามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา แผนปัจจุบัน ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการของโรค และเป็นการส่งเสริมการพึ่งตนเองด้านยา ของประเทศ11, 13 - 18 -
ขมิ้นชนั ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Curcuma longa L. สารสำคญั : Curcumin, Demethoxycurcumine สรรพคณุ : รกั ษาโรคผวิ หนงั ผ่ืนคนั รักษาโรคทอ้ งอดื ท้องเฟ้อ และแผลในกระเพาะอาหาร ข้อมูลเพิ่มเติม14-15,17: การศึกษาทางเภสัชวิทยา พบว่า ช่วยยับยั้งการหลั่ง สารอักเสบ และปรับภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดการทำลายปอดให้เกิดความเสียหาย จากการติดเชื้อไวรสั ไข้หวดั ใหญ่ (influenza A virus) การจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า curcumin, dimethoxy-curcumine สามารถแย่งจับกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 ตำแหน่งทีจ่ ะเขา้ สู่เซลล์ปอดและมผี ลยับยัง้ การแบ่งตวั ของไวรสั ได้7-9 มะขามปอ้ ม ชือ่ วิทยาศาสตร:์ Phyllanthus emblica L. สารสาคัญ: Phyllaemblicin G7, Phyllaemblinol, Phyllaemblivin B, Phyllanthin, Chebulagic acid สรรพคุณ: เปน็ ยาขับเสมหะ ทำใหช้ ่มุ คอ แก้ไข้ แก้ทอ้ งเสยี ขบั ปัสสาวะ แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน มฤี ทธิต์ ้านอนุมลู อสิ ระ7-9, 18 ข้อมูลเพิ่มเติม: การจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า สาร PhyllaemblicinG7 มีความสามารถในการจับกับขาโปรตีน (Spike protein) และตวั รบั ACE2 ในการผา่ นเขา้ เซลล์ปอดของไวรัสโคโรนาสายพนั ธุ์ 2019 สาร Phyllaemblinol และ PhyllaemblivinB เข้าจับตาแหน่ง 3- chymotrypsin-like protease (3CLpro) และตำแหน่ง RNA-dependent RNA polymerase (RdRp) โดยเป็นตำแหน่งสำคัญในการยับย้ังการสร้างและ การแบ่งตวั ของเชอ้ื ซงึ่ เปน็ กระบวนการสำคัญในการเพิม่ จำนวนของไวรัส23-24 - 19 -
ขงิ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Zingiber officinale Roscoe สารสำคญั : Zingerol, Gingerol สรรพคณุ : ยาขบั ลม แกอ้ าเจียน แก้ไอ ขบั เสมหะ และขบั เหง่อื 7-9, 18 ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ : มีคุณสมบัตอิ ุ่น พบฤทธต์ิ ้านไวรัสไข้หวดั ใหญ่ พ้ืนบ้านใช้ กนิ แกห้ วัด การจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า zingerol, gingerol สามารถแย่งจับกับตำแหน่ง main protease (Mpro) ทชี่ ว่ ยยับยั้งการแบง่ ตัวของไวรสั โคโรนาสายพันธุ์ 2019 ได้15 ขา่ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Alpinia galanga (L.) Willd. สารสำคญั : Galangin, Kaempferol, Quercetin เป็นสารกลุ่มเฟลโวนอยด์ พบใน พืชหลายชนิด มีฤทธิ์ลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัสบางชนิด และตา้ นมะเร็ง การใชพ้ น้ื บา้ น: พ้นื บา้ นใช้รักษาหลอดลมอักเสบ19 ข้อมูลเพิ่มเติม: การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ โดย การจำลองภาพสามมิติใน คอมพิวเตอร์ พบว่า galangin สามารถแย่งจับกับตัวรับในตำแหน่งที่ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2019 จะเขา้ สู่เซลล์ปอด และตำแหน่งทีม่ ผี ลยับยงั้ การแบ่งตวั ของไวรัสได้17,20 - 20 -
หวั หอม ชอ่ื วทิ ยาศาสตร:์ Allium ascalonicum L. สารสำคญั : quercetin, luteolin-7-glucoside สรรพคณุ : หวั หอมใช้เป็นยาแกห้ วดั รกั ษาหลอดลมอกั เสบ แกไ้ อ18 ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ : การจำลองภาพสามมติ ิในคอมพวิ เตอรพ์ บวา่ สารสำคญั ท่ีพบ สามารถแย่งจบั กบั ตำแหนง่ main protease (Mpro) ทช่ี ่วยยับยั้ง การแบ่งตัวของไวรสั โคโรนาสายพันธุ์ 2019 ได้15 ชอื่ วทิ ยาศาสตร:์ Allium sativum L. กระเทยี ม สารสำคญั : Quercetin, Allicin สรรพคณุ : ขับลม แกล้ มจกุ เสยี ด แก้ท้องอืดท้องเฟอ้ แก้ธาตพุ ิการอาหารไม่ ยอ่ ยขับเสมหะ ขบั เหงื่อ7,18 ข้อมูลเพิ่มเติม: สาร allicin ในกระเทียม มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ป้องกันการหล่ัง สาร cytokine ที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น IL-6, MCP-1, TNF-������ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว macrophage ในการจับกินเชื้อ สาร ajoine ในกระเทียมช่วยเพิ่ม antibodies ชนิด immunoglobulin A (IgA) ซึ่งเป็นด่านแรกของภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยพบมากที่ระบบทางเดินหายใจและ ระบบทางเดินอาหาร ตามเยื่อเมือกต่าง ๆ และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของ B-cell lymphocyte รวมทั้งกระตุ้นการหลั่งของสาร interferon ซึ่งเป็นสารที่ สร้างในระบบภูมิคุ้มกันเพื่อต้านไวรัส การจำลองภาพสามมิติในคอมพิวเตอร์ พบว่า quercetin, allicin ที่พบสามารถแย่งจับกับตำแหน่ง main protease (Mpro) ที่ช่วยยบั ย้งั การแบง่ ตัวของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 ได้7,15,21-22 - 21 -
- 22 -
แนะนาเมนอู าหารสมนุ ไพรเสรมิ ภูมิคุ้มกนั ในภาวะทมี่ ีการระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) เมนู “ผดั กระเพรา” เมนู “ไขเ่ จยี วหอมใหญ่” (ชว่ ยเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั ) ใบกระเพรา: มีสาร orientine เป็นสารสำคัญที่มีศักยภาพ ป้องกนั ไม่ให้เชือ้ ไวรัสเขา้ สู่เซลล์ ลดโอกาสการติดเชื้อของเซลล์ ไข่: แหลง่ โปรตีนชน้ั ดี ช่วยเสริมภูมคิ มุ้ กนั ช่วยปอ้ งกนั ไม่ใหป้ ่วยไข้จากเช้อื ไวรสั 14-15 หอมใหญ่: มสี ารเคอซทิ นิ (Quercitin) ช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัส เขา้ ส่เู ซลล์มีฤทธิใ์ นการปอ้ งกนั การอักเสบ15 เมนู “ผกั หวานผดั ไข”่ เมนู “ตม้ ยำกงุ้ ” (ตา้ นการอกั เสบ กระตุ้นภมู คิ มุ้ กนั ) (ชว่ ยเสรมิ ภมู ิคมุ้ กนั ตา้ นการอกั เสบ ตา้ นไวรสั ) ไข่: แหล่งโปรตนี ข้นั ดี ชว่ ยสร้างภมู คิ มุ้ กัน ไก่ กงุ้ : มีโปรตีน ใช้สร้างเซลลภ์ มู คิ ุม้ กันตา่ ง ๆ ผกั หวาน: วติ ามนิ เอสงู ใบมีรสหวานเยน็ ใชป้ รงุ เป็นยาเขยี ว เครอ่ื งเทศ: ช่วยเพม่ิ ภมู ิค้มุ กัน ต้านไวรสั ต้านการอกั เสบ ชว่ ยย่อย แก้ไข้ พบฤทธ์ติ า้ นการอกั เสบและกระตนุ้ ภูมิคมุ้ กัน7,15 มะนาว: ละลายเสมหะ ชว่ ยย่อย มสี ารต้านไวรสั 14-15 เมนู “ซบุ หวั หอม” (ตา่ นอนมุ ลู อสิ ระ เสรมิ ภมู คิ มุ้ กนั ) เมนู “ยำกุ้งแหง้ ขงิ สด” หวั หอม: มีสารเคอซิทิน (Quercitin) ชว่ ยปอ้ งกันไมใ่ หไ้ วรัสเข้าสเู่ ซลล์ (ชว่ ยเสรมิ ภมู คิ มุ้ กนั ตา้ นการอกั เสบ ตา้ นไวรสั ) มีฤทธิ์ในการปอ้ งกันการอกั เสบ14-15 มะเขอื เทศ: Betacarotene พบในผัก ผลไมส้ ีเหลอื ง สสี ม้ สแี ดง กุ้งแหง้ : แหล่งโปรตีน สังกะสี เช่น มะเขือเทศ มฤี ทธปิ์ รบั ภูมิคมุ้ กัน และต้านอนุมลู อสิ ระได้ดีมาก ขงิ : ตา้ นไวรสั ตา้ นการอกั เสบ เพิ่มการไหลเวยี น ทำให้ภูมคิ มุ้ กนั เนอื้ ไก่: แหลง่ โปรตนี คณุ ภาพดี เป็นสว่ นประกอบทสี่ ำคัญของระบบ ทำงานได้ดี15 ภูมิคมุ้ กัน มะนาว: ช่วยยอ่ ย ละลายเสมหะ มีสารตา้ นไวรสั - 23 -
- 24 -
- 25 -
- 26 -
- 27 -
แนะนาเมนนู ้าสมุนไพร ในภาวะทีม่ กี ารระบาด ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) นำ้ สมนุ ไพรสามเกลอ “ช่วยเสรมิ ภมู ิคุ้มกัน” นำ้ 4 สมนุ ไพร “กระตนุ้ ภมู คิ ุ้มกัน” ส่วนประกอบ ได้แก่ มะขามป้อม 20 กรมั ขิง 30 กรัม สว่ นประกอบ ไดแ้ ก่ ขงิ 60 กรมั มะขามป้อม 20 กรัม ขมิ้นชัน 10 กรัม น้ำสะอาด 2 ลิตร ต้มจนเดือด ใบหูเสือ 20 กรัม ใบหมอ่ น 10 กรัม น้ำสะอาด 2 ลติ ร จากนั้นเคี่ยวต่อ 15 นาที ปรุงรสด้วยน้ำผึ้งและ ต้มจนเดือด จากนั้นเคี่ยวต่อ 15 นาที ปรุงรสด้วย นำ้ มะขามเปยี ก ดืม่ ขณะอุน่ นำ้ ผ้ึง ด่มื ขณะอุน่ น้ำสมุนไพรมหาพิกัดตรีผลา “ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน” นำ้ มะนาวนำ้ ผึ้ง “ชว่ ยเสริมภมู คิ ้มุ กัน” ส่วนประกอบ ได้แก่ สมอพิเภก 100 กรัม สมอไทย 250 กรัม สว่ นประกอบ ไดแ้ ก่ น้ำผงึ้ 30 มิลลลิ ติ ร นำ้ อนุ่ 150 มิลลิลติ ร มะขามป้อม 200 กรัม ชะเอมเทศ 60 กรัม น้ำสะอาด 6 ลิตร น้ำผ้ึง นำ้ มะนาว 15 มิลลิลิตร เกลอื เลก็ นอ้ ย นำนำ้ อนุ่ ผสมกับน้ำผ้งึ และเกลือเลก็ น้อย ตม้ จนเดอื ด จากน้นั เคี่ยวตอ่ 30 นาที ปรุงรสด้วย คนให้เขา้ กัน เตมิ มะนาวและเกลือลงไป รับประทานอุ่น ๆ นำ้ ผ้ึงตามชอบ ด่ืมขณะอนุ่ ขอ้ ควรระวงั คนทธ่ี าตเุ บา (ท้องเสยี ง่าย) ไม่ควรกินแบบเขม้ ข้น จนเกนิ ไป อาจทำใหท้ อ้ งเสยี ได้ - 28 -
เอกสารอา้ งองิ 1. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข. แผนประคองกจิ การสำหรับการปฏบิ ัติงานใน ภาวะการระบาดของเชือ้ ไวรสั COVID-19 (Business Continuity Plan : BCP). พิมพค์ รง้ั ที่ 1,กรุงเทพฯ. พฤษภาคม 2563. 2. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลอื ก เรอื่ ง แนวทางการใหบ้ ริการการแพทย์แผนไทย ในสถานบริการสาธารณสขุ ของรัฐ เพอ่ื ป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 (ฉบบั ท่ี 1). พฤษภาคม 2563. 3. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกรมการแพทย์แผนไทย และ การแพทย์ทางเลือก เรื่อง แนวทางการให้บริการการแพทย์แผนไทย ในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 (ฉบับที่ 2). สิงหาคม 2563. 4. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและ การแพทย์ทางเลือก เรื่อง แนวทางการให้บริการการแพทย์แผนไทย ในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เพื่อป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)) พ.ศ. 2563 (ฉบับท่ี 5). ธนั วาคม 2563. 5. กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางปฏิบตั ิด้านสาธารณสุขเพ่ือการจัดการภาวะระบาดของโรคโควิด-19 ในข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ (ฉบับที่ 1). พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1, โรงพมิ พ์ทเี อส อนิ เตอรพ์ ร้นิ ท.์ เมษายน 2563. หนา้ 60. 6. คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาต.ิ ประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เรื่อง บญั ชียาหลกั แห่งชาติ พ.ศ. 2562. อา้ งใน ศริ ิราชประชาสัมพนั ธ์ ปที ่ี 32 ฉบบั ท่ี 429 เมษายน 2563. 7. ฐานข้อมูล สมุนไพ ร คณะเภส ัชศาส ตร์ มหาวิทยาลั ยอุบล ราชธานี. [ออนไล น์] เข้าถึงได้ที่ http://www.phargarden.com/main.php สืบคน้ วันท่ี 18 พ.ย. 2563. 8. มูลนิธิส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม,โรงเรียนอายุรเวทธำรง,สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราช พยาบาล. ตำราการแพทย์ไทยเดิม (แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับอนุรักษ์) เล่มที่ 1 ฉบับชำระ พ.ศ. 2550. กรุงเทพฯ. ศภุ วนิชกมารพิมพ.์ 2550. อา้ งใน ศริ ริ าชประชาสัมพนั ธ์ ปที ่ี 32 ฉบับที่ 429 เมษายน 2563. 9. โรงพยาบาลเจา้ พระยาอภัยภูเบศร. อาหารสมนุ ไพร เสริมภูมิคุม้ กันในภาวะที่มีการระบาดของโควดิ -19. พิมพ์คร้ัง ท่ี 1. เมษายน 2563. หน้า 24-28. 10. ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข. โครงการศึกษาผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ต่อการรว่ มรกั ษาผปู้ ่วยโควดิ -19 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก. 30 ธันวาคม 2563. 11. สภุ าภรณ์ ปติ ิพร. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร. อาหารสมนุ ไพรเสรมิ ภูมิค้มุ กันในภาวะท่ีมีการระบาดของโค วิด-19. ในการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พน้ื บา้ น และการแพทยท์ างเลอื กแห่งชาติ คร้ัง ท่ี 17. วันท่ี 2 กนั ยายน 2563. 12. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. สู้ โควิด-19 ไปด้วยกัน คู่มือการดูแลตัวเองสำหรับประชาชน. พมิ พ์ครั้งที่ 1, เมษายน 2563. หนา้ 31. - 29 -
เอกสารอา้ งองิ 13. อัญชลี จูฑะพุทธิ. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข. งานวิจัยสมุนไพรไทยใน โรคโควิด-19: ฟ้าทะลายโจร&กระชาย. ในการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และ การแพทย์ทางเลอื กแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี 17. วันที่ 2 กนั ยายน 2563. 14. Han S, et al. Curcumin ameliorates severe influenza pneumonia via attenuating lung injury and regulating macrophage cytokines production. Clinical and Experimental Pharmacology and Physiology 2014. 2014; 45(1):84-93. doi: 10.1111/1440-1681.12848 15. Khaerunnisa S, et al. Potential Inhibitor of COVID-19 Main Protease (Mpro) from Several Medicinal Plant Compounds by Molecular Docking Study. Preprints 2020. 16. Chong TE, et al. Boesenbergia rotunda: From Ethnomedicine to Drug Discovery. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine. 2012; Article ID 473637. 17. Utomo RY, et al. Revealing the Potency of Citrus and Galangal Constituents to Halt SARS-CoV-2 Infection. Preprints. 2020. 18. Bakhru HK. Healing through natural foods. 16. Mumbai: Jaico; 2015. 19. Snafi AEA. The Pharmacological Activities of Alpinia galangal - A Review. International Journal for Pharmaceutical Research Scholars. 2014; 1:607-14. 20. Yao L, et al. Quercetin, Inflammation and Immunity. Nutrients. 2016; 8(3): 167. 21. Moutia M, et al. Review Article In Vitro and In Vivo Immunomodulator Activities of Allium sativum L. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine 2018; Article ID 4984659. https://doi.org/10.1155/2018/4984659 22. Weber ND, et al. In vitro virucidal effects of Allium sativum (garlic) extract and compounds. Planta Medica. 1992; 58(5):417-423. 23. Jantan I, et al. An Insight Into the Modulatory Effects and Mechanisms of Action of Phyllanthus Species and Their Bioactive Metabolites on the Immune System. Frontier Pharmacology. 2019. 10:878. 24. Wu C, et al. Analysis of therapeutic targets for SARS-CoV-2 and discovery of potential drugs by computational methods. Acta Pharmaceutica Sinica B. https://doi.org/10.1016/j.apsb.2020.02.008 - 30 -
ภำคผนวก
- 32 -
- 33 -
- 34 -
- 35 -
- 36 -
- 37 -
ทปี่ รกึ ษา เบญจพลพทิ กั ษ์ อธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก วิศษิ ฐานนท์ รองอธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก พญ.อัมพร แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก นพ.ขวญั ชยั จันทร์เกษ ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน นพ.ธิติ ดร.รชั นี ผจู้ ัดทำ ปญั ญาภู เภสัชกรชำนาญการพเิ ศษ นิลเพ็ชร์ แพทย์แผนไทยปฏบิ ตั กิ าร ดร.ภญ.ดวงแกว้ พลอยงาม นักวิชาการคอมพวิ เตอร์ พท.วชั ราภรณ์ นางสาวธัญลกั ษณ์ สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เตมิ โทร. 02-1495696 กล่มุ งานวิชาการและคลงั ความรู้ กองวชิ าการและแผนงาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: