T เทคโนโลยี สาระทค่ี ว สิ่งต่าง ๆ ร - การสังเกตส่ิงต่าง ๆ รอบตวั หน่วย วทิ ยา - การสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั การจมและการลอยของส่ิง ตา่ ง ๆ STE - การบอกลกั ษณะของส่ิงต่าง ๆ จากการสงั เกต จม-ล E วศิ วกรรมศาสตร์ - การสังเกตผลจากการทดลองการนาดินน้ามนั รูปร่าง ต่าง ๆ ไปลอยน้า - การสนทนาเกี่ยวกบั การจมและการลอยของดิน น้ามนั รูปร่างต่าง ๆ - การวาดภาพผลการทดลองจากกิจกรรมการทดลอง ดินน้ามนั แปลงร่าง
วรเรียนรู้ S วทิ ยาศาสตร์ รอบตัวเดก็ าศาสตร์น่ารู้ - การสงั เกตและการสนทนาเกี่ยวกบั ยานพาหนะชนิด ต่าง ๆ EM - การคาดคะเนคาตอบเก่ียวกบั การจมและการลอยของ ลอย ดินน้ามนั รูปร่างต่าง ๆ - การทดลองนาดินน้ามนั รูปร่างตา่ ง ๆ ไปลอยในอ่างน้า - การสังเกตและการบนั ทึกผลการทดลอง - การสรุปและการอภิปรายผลการทดลองการนาดิน น้ามนั ไปลอยในอ่างน้า M คณติ ศาสตร์ - การนบั และการแสดงจานวนลกู แกว้ ท่ี สมั พนั ธก์ บั บตั รตวั เลข - การนบั จานวนลูกแกว้ ที่อยใู่ นแพดินน้ามนั ที่ลอยน้า และจมน้า - การเปรียบเทียบจานวนลูกแกว้ ท่ีอยใู่ นแพดินน้ามนั ท่ี ลอยน้าและแพดินน้ามนั ท่ีจมน้า
หน่วย วทิ ยาศาสตร์น่ารู้ แนวคดิ การทดลองการจม-การลอยของวตั ถุจะเห็นไดว้ า่ วตั ถุท่ีมีน้าหนกั เบา มีอากาศอยภู่ ายใน มีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า จะทาใหว้ ตั ถุชนิดน้นั ลอยอยูบ่ นผวิ น้าได้ รูปร่างมีผลตอ่ การลอยน้าหรือจมน้าของวตั ถุ เม่ือเราป้ันดินน้ามนั เป็นทรงกลม หยอ่ นลงในน้า ดินน้ามนั จะจม เพราะดินน้ามนั กอ้ นกลมมีความหนาแน่นมากกวา่ น้า เม่ือป้ันดินน้ามนั เป็นแผน่ แบน ๆ มีขอบ ขา้ งจะทาใหม้ ีพ้นื ท่ีบรรจุอากาศมากข้ึน ความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า ดินน้ามนั จะลอยตวั บนผวิ น้าได้ และถา้ มีขนาดใหญ่ พ้ืนที่ กวา้ งจะสามารถรับน้าหนกั ของสิ่งตา่ ง ๆ เช่น ลกู แกว้ ไดม้ ากข้ึน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กสืบคน้ ขอ้ มลู และบอกลกั ษณะของสิ่งที่จมและลอยน้า 2. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ คาดคะเนและแสดงผลการทดลองเก่ียวกบั ดินน้ามนั รูปร่างต่าง ๆ 3. เพอ่ื ใหเ้ ดก็ บอกลกั ษณะรูปร่างของดินน้ามนั ท่ีลอยและจมน้า 4. เพอ่ื ใหเ้ ด็กนบั และเขียนตวั เลขแสดงจานวนลูกแกว้ 5. พฒั นากลา้ มเน้ือเลก็ และการประสานสัมพนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตาดว้ ยการเขยี น การวาด การลากเส้น และการระบายสี ประสบการณ์สาคัญ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์-จิตใจ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเน้ือเลก็ 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่ือวา่ ตนเอง มีความสามารถ ด้านสังคม ด้านสตปิ ัญญา 1.3.4 การมีปฏิสมั พนั ธ์ มีวินยั มีส่วนร่วม และบทบาท 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล การตดั สินใจและ สมาชิกของสงั คม แกป้ ัญหา 1.3.5 การเล่นและทางานแบบร่วมมือร่วมใจ 1.4.4 เจตคติท่ดี ีตอ่ การเรียนรู้และการแสวงหาความรู้
จม-ลอย S วทิ ยาศาสตร์ ดินน้ามนั ท่ีมีความหนาแน่นมากกวา่ น้าทาใหจ้ มน้าดินน้ามนั ท่ีมีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้าจะลอยน้า T เทคโนโลยี ส่ิงท่ีจมและลอยน้า E วศิ วกรรมศาสตร์ การวางแผนและวาดภาพผลการทดลอง M คณิตศาสตร์ จานวนของลกู แกว้ ในแพดินน้ามนั ที่จมน้าและลอยน้า คาแนะนาการใช้ 1. ใหเ้ ดก็ สังเกตและสัมผสั ลกู โป่ ง, ลูกบอล, กลอ่ งนม, กอ้ นหิน, กอ้ นอิฐ และลกู แกว้ จากน้นั ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะและช่ือของส่ิงที่สัมผสั 2. เดก็ และครูร่วมกนั ทดสอบเก่ียวกบั ส่ิงท่ีจมและส่ิงท่ีลอย โดยการนาไปลอยในอา่ งน้าและร่วมกนั อภิปรายผล โดยใหเ้ ดก็ บอกเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีจมและลอย เช่น ส่ิงที่จม ไดแ้ ก่ กอ้ นหิน, กอ้ นอิฐ, ลกู แกว้ สิ่งท่ีลอยน้า ไดแ้ ก่ ลกู โป่ ง, ลกู บอล, กล่องนม 3. ใหเ้ ด็กสงั เกตภาพ คา หรือขอ้ ความท่ีเขยี นไว้ โดยจะเป็นคาศพั ทส์ าคญั ท่ีเด็ก ๆ ควรรู้จกั หรือขอ้ ความเพ่ือใหเ้ กิด ความเขา้ ใจในแนวคดิ บูรณาการสะเตม็ ศึกษา จากน้นั ครูอ่านใหเ้ ด็กฟังและช้ีที่ภาพประกอบ แลว้ ใหเ้ ดก็ พูดตามครูเพ่ือเรียนรู้ และคุน้ เคยกบั คาศพั ทแ์ ละภาษาทางการบูรณาการแนวคิดสะเตม็ ศึกษา สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลกู โป่ ง, ลกู บอล, กลอ่ งนม, กอ้ นหิน, กอ้ นอิฐ, ลูกแกว้ และอ่างน้า 2. ใบกิจกรรมจม-ลอย
กจิ กรรม การจม-การลอย สัมพนั ธ์กับแผนการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ หน่วย วิทยาศาสตร์น่ารู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่ือใหเ้ ดก็ สืบคน้ ขอ้ มลู และบอกลกั ษณะของส่ิงท่ีจมและลอยน้า 2. พฒั นากลา้ มเน้ือเลก็ และการประสานสมั พนั ธ์ระหวา่ งมือกบั ตาดว้ ยการลากเส้น แนวคดิ การจมและการลอยของวตั ถุตา่ ง ๆ ข้ึนอยกู่ บั ความหนาแน่นของวตั ถุน้นั หากวตั ถุมีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า วตั ถุ จะลอยน้า แต่ถา้ วตั ถใุ ดมีความหนาแน่นมากกวา่ น้า วตั ถุน้นั จะจมน้า นอกจากน้ี วตั ถชุ นิดเดียวกนั ถา้ ทาจากวสั ดุที่แตกตา่ งกนั จะทาใหว้ ตั ถนุ ้นั จมและลอยแตกตา่ งกนั สาระท่ีควรเรียนรู้ วตั ถุที่มีน้าหนกั เบาและลอยน้าได้ ไดแ้ ก่ ลกู โป่ ง, ลูกปิ งปอง วตั ถุท่ีมีน้าหนกั มาก มีความหนาแน่นมากกวา่ น้า และจมน้า ไดแ้ ก่ เหรียญเงิน, ยางลบ, กอ้ นหิน และคลิปหนีบ กระดาษ ประสบการณ์สาคัญ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ มวี ินัย มสี ่วนร่วม และบทบาทสมาชิกของสังคม - การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิกิจกรรม 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้และการแสวงหาความรู้ - การสารวจส่ิงตา่ ง ๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตวั - การสืบเสาะหาความรู้เพ่อื คน้ หาคาตอบของขอ้ สงสัยตา่ ง ๆ การบูรณาการสะเต็มศึกษา Technology แนวทางเทคโนโลยี การบอกลกั ษณะของส่ิงท่ีจมและลอยและการเลือกใชว้ ิธีการและเครื่องมืออยา่ งง่ายในการทดสอบเพ่ือคน้ หาคาตอบ ตามขอ้ สงสัย การสืบค้นข้อมูล การแก้ปัญหาหรือ การใช้เครื่องมืออย่างง่าย การใช้หุ่นยนต์ ตอบสนองความต้องการ และการทุ่นแรง แนวการจดั กจิ กรรมและประสบการณ์ ข้นั นา ใหเ้ ด็กสงั เกตสิ่งต่าง ๆ รอบตวั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน จากน้นั ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั สิ่งที่เดก็ ๆ เห็นและ บอกครูวา่ สิ่งน้นั สามารถลอยน้าไดห้ รือไม่
ข้นั สอน 1. ครูนาเหรียญเงิน, ลูกโป่ ง, คลิปหนีบกระดาษ, ลกู ปิ งปอง, ยางลบ และกอ้ นหิน ฯลฯ มาใหเ้ ดก็ สังเกตและสมั ผสั จากน้นั ใหเ้ ดก็ บอกลกั ษณะของสิ่งที่เห็น 2. ครูพาเด็กไปสืบคน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การจม-ลอยของสิ่งที่ครูนามา โดยสืบคน้ จากหนงั สือและอินเทอร์เนต็ จากน้นั ให้ เดก็ จดบนั ทึกในสมดุ บนั ทึก 3. ครูนาอา่ งน้าแบบใสมาใหเ้ ดก็ สงั เกต จากน้นั ใหอ้ าสาสมคั รออกมานาส่ิงตา่ ง ๆ ลอยในอ่างและใหเ้ พอ่ื นสังเกต โดย ออกมาคร้ังละ 1 คน ทาจนครบทกุ คน 4. เด็กและครูร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การสืบคน้ ขอ้ มลู และการทดสอบจริง โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี - ส่ิงใดบา้ งท่ีลอยน้าได้ (ลกู โป่ ง, ลกู ปิ งปอง) - ส่ิงใดบา้ งที่จมน้า (เหรียญเงิน, คลิปหนีบกระดาษ, ยางลบ, กอ้ นหิน) - สิ่งท่ีลอยน้ามีลกั ษณะอยา่ งไร (เบา ฯลฯ) - ส่ิงท่ีจมน้ามีลกั ษณะอยา่ งไร (มีน้าหนกั มาก ฯลฯ) 5. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ วตั ถุที่มีน้าหนกั และความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า เม่ือนาไปลอยน้าจะลอยอยบู่ นผวิ น้าได้ ส่วน วตั ถุท่ีมีน้าหนกั มากและความหนาแน่นมากกวา่ น้าจะจมน้า ข้นั สรุป 1. เดก็ และครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั ลกั ษณะของส่ิงท่ีจมและลอยน้าวา่ ลกู โป่ งและลูกปิ งปองมีน้าหนกั เบาจึงทาใหล้ อย น้า ส่วนเหรียญเงินและกอ้ นหินมีน้าหนกั มากและมีลกั ษณะแบนและเป็นกอ้ นกลมจึงทาใหจ้ มน้า 2. ใหเ้ ด็กดูภาพที่คุณครูนามา จากน้นั ใหเ้ ด็ก ๆ ช่วยกนั สงั เกตวา่ ส่ิงของใดลอยน้าได้ ส่ิงของไดจ้ มน้า ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ิงต่าง ๆ รอบตวั ในห้องเรียนและนอกหอ้ งเรียน 2. เหรียญเงิน, ลกู โป่ ง, คลิปหนีบกระดาษ, ลกู ปิ งปอง, ยางลบ, กอ้ นหิน ฯลฯ 3. หนงั สือ, คอมพิวเตอร์ และสมุดบนั ทึก 4. อา่ งน้าแบบใส การประเมินผล 1. สังเกตจากการสืบคน้ ขอ้ มูลและการบอกลกั ษณะของสิ่งที่จมและลอยน้า
กจิ กรรม ดนิ นา้ มนั แปลงร่าง สัมพนั ธ์กบั แผนการจดั ประสบการณ์แบบบูรณาการ หน่วย วิทยาศาสตร์น่ารู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพอื่ ใหเ้ ดก็ คาดคะเนและแสดงผลการทดลองเก่ียวกบั ดินน้ามนั รูปร่างตา่ ง ๆ 2. พฒั นากลา้ มเน้ือเลก็ และการประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมือกบั ตาดว้ ยการเขยี น แนวคิด การท่ีวตั ถุสามารถลอยตวั บนผวิ น้าได้ เน่ืองจากวตั ถนุ ้นั มีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้าและน้ามีแรงดนั วตั ถุใหล้ อยข้นึ แรงน้ีเรียกวา่ แรงลอยตวั หรือแรงพยงุ ส่วนวตั ถุที่จมน้า เพราะวา่ วตั ถุมีความหนาแน่นมากกวา่ น้า ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ 1. การสงั เกตและการสารวจ 2. การคาดคะเน 3. การทดลอง 4. การใชเ้ คร่ืองมืออยา่ งงา่ ย 5. การลงความเห็นและการอภิปราย สาระทคี่ วรเรียนรู้ ถา้ ป้ันดินน้ามนั กอ้ นกลมมีน้าหนกั จะมีความหนาแน่นมากกวา่ น้าทาใหจ้ มน้า เมื่อเราเปลี่ยนแปลงรูปร่างดินน้ามนั ให้ เป็นแผน่ แบน ๆ มีขอบข้ึนคลา้ ยเรือจะทาใหด้ ินน้ามนั มีพ้ืนที่สัมผสั น้ามาก มีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้าจึงทาใหล้ อยน้าได้ ประสบการณ์สาคญั 1.1.2 การใช้กล้ามเนื้อเลก็ - การป้ัน 1.4.4 เจตคติที่ดตี ่อการเรียนรู้และการแสวงหาความรู้ - การสืบเสาะหาความรู้เพอื่ คน้ หาคาตอบของขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ คาถาม ถา้ ตอ้ งการทาใหด้ ินน้ามนั ลอยน้าไดจ้ ะป้ันดินน้ามนั เป็นรูปร่างอยา่ งไร การบูรณาการสะเตม็ ศึกษา Science วิทยาศาสตร์ - การคาดคะเนและการทดลองการนาดินน้ามนั รูปร่างตา่ ง ๆ มาลอยน้า แนวการจดั กจิ กรรมและประสบการณ์ ข้นั นา ใหเ้ ดก็ บอกชื่อยานพาหนะมาคนละ 1 ชื่อ จากน้นั ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ยานพาหนะที่ลอยน้าได้ เช่น เรือชนิดต่าง ๆ, แพชนิดตา่ ง ๆ โดยนาภาพมาประกอบ ข้นั สอน กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 1. ต้งั คาถามเชิงวทิ ยาศาสตร์ 1. ครูนาดินน้ามนั มาให้เดก็ สังเกต จากน้นั สนทนาร่วมกนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี - ถา้ ตอ้ งการให้ดินน้ามนั ลอยน้าไดจ้ ะป้ันเป็นรูปร่างอยา่ งไร (ใหเ้ ดก็ ตอบอิสระ เช่น ป้ันเป็นรูปเรือ)
2. สารวจตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล 2. ใหเ้ ดก็ ดูภาพจากน้นั ครูแบ่งเดก็ เป็น 4 กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน 3. ใหเ้ ด็กสงั เกตภาพดินน้ามนั รูปตา่ ง ๆ และคาดคะเนวา่ จมหรือลอย จากน้นั เขยี นบนั ทึกผลการคาดคะเนในชุด กิจกรรมฯ 4. ครูแจกดินน้ามนั ใหเ้ ด็กแต่ละกลมุ่ จากน้นั ใหเ้ ด็กป้ันดินน้ามนั เป็นรูปตา่ ง ๆ ตามภาพในชุดกิจกรรมฯ 5. ครูเตรียมอ่างแกว้ ใส่น้าวางบนโตะ๊ หนา้ ช้นั จากน้นั ใหเ้ ด็กแต่ละกลุ่มออกมาทดลองนาดินน้ามนั ที่ป้ันลอยในอา่ งน้า และสังเกตการจม-ลอยของดินน้ามนั 6. ใหเ้ ดก็ บนั ทึกผลการทดลอง 3. สร้างคาอธบิ ายอย่างมีเหตุผล 7. เดก็ และครูร่วมกนั อภิปรายและลงความเห็นเกี่ยวกบั การจม-ลอยของดินน้ามนั วา่ รูปร่างของดินน้ามนั มีผลตอ่ การ ลอยน้าและการจมน้า ดินน้ามนั ที่เป็นกอ้ นกลมจะทาใหม้ ีน้าหนกั มาก ความหนาแน่นมากกวา่ น้าจะทาใหจ้ มน้า ส่วนดินน้ามนั ท่ีมีลกั ษณะแผน่ แบน ๆ มีขอบข้นึ คลา้ ยเรือหรือกะละมงั ซ่ึงสามารถบรรจุอากาศไวภ้ ายในทาใหม้ ีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า จึงทาใหล้ อยน้าได้ 4. นาเสนอผลการสารวจตรวจสอบ 8. ใหเ้ ดก็ นาเสนอผลการทดลองจากการทากิจกรรมดินน้ามนั แปลงร่างวา่ ดินน้ามนั กอ้ นกลมและดินน้ามนั รูปแผน่ แบน ๆ ไมม่ ีขอบ เม่ือนาไปลอยในอ่างน้าจะจมน้า แตด่ ินน้ามนั ที่เป็นรูปแผน่ แบน ๆ มีขอบดา้ นขา้ งคลา้ ยกบั เรือหรือกะละมงั สามารถลอยน้าได้ ข้นั สรุป เดก็ และครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั การทดลองป้ันดินน้ามนั รูปร่างตา่ ง ๆ และนาไปลอยในอ่างน้าวา่ รูปร่างลกั ษณะของ ดินน้ามนั มีผลต่อการลอยน้า การเพมิ่ ความท้าทายของกจิ กรรม ครูอาจใหเ้ ด็กทดลองป้ันดินน้ามนั แบบต่าง ๆ ตามจินตนาการหรือนาวสั ดุอื่นมาใช้ เช่น กอ้ นหินหรือลกู แกว้ ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ภาพเรือชนิดตา่ ง ๆ, ภาพแพชนิดตา่ ง ๆ 2. ดินน้ามนั 3. อ่างแกว้ ใส่น้า 4. โตะ๊ 5. บนั ทึกกิจกรรมการทดลอง การประเมินผล 1. สงั เกตจากการคาดคะเนและการแสดงผลการทดลองเก่ียวกบั ดินน้ามนั รูปร่างต่าง ๆ 2. แบบบนั ทึกกิจกรรมการทดลอง
กจิ กรรม วาดภาพผลการทดลอง สัมพนั ธ์กบั แผนการจดั ประสบการณ์แบบบูรณาการ หน่วย วิทยาศาสตร์น่ารู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพือ่ ใหเ้ ด็กบอกลกั ษณะรูปร่างของดินน้ามนั ท่ีลอยและจมน้า 2. พฒั นากลา้ มเน้ือเลก็ และการประสานสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมือกบั ตาดว้ ยการวาด แนวคิด รูปร่างลกั ษณะของดินน้ามนั มีผลกบั การลอยน้าและการจมน้า สาระทีค่ วรเรียนรู้ ดินน้ามนั กอ้ นกลมและแผน่ แบน ๆ มีน้าหนกั มากหรือมีความหนาแน่นมากกวา่ น้า เม่ือนาไปลอยน้าจะจมน้า ส่วน ดินน้ามนั รูปแผ่นแบน ๆ มีขอบขา้ งคลา้ ยเรือซ่ึงสามารถบรรจุอากาศไวภ้ ายในทาใหม้ ีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า ดินน้ามนั จึง ลอยน้าได้ ประสบการณ์สาคัญ 1.1.2 การใช้กล้ามเนื้อเลก็ - การเขียนภาพและการเล่นกบั สี 1.3.5 การเล่นและทางานแบบร่วมมือร่วมใจ - การร่วมสนทนาและแลกเปล่ียนความคดิ เห็น การบูรณาการสะเต็มศึกษา Engineering วศิ วกรรมศาสตร์ สถานการณ์ วาดภาพผลการทดลอง ชิ้นงาน ภาพผลการทดลองดินน้ามนั แปลงร่าง กระบวนการออกแบบวิศวกรรม ปัญหาหรือความต้องการ เมื่อเด็ก ๆ ไดท้ ดลองนาดินน้ามนั รูปตา่ ง ๆ ลอยน้าแลว้ ผลการทดลองเป็นอยา่ งไร การออกแบบการวางแผนและการสร้าง สังเกตรูปร่างลกั ษณะของดินน้ามนั , สังเกตผลการทดลอง, วาดภาพผลการทดลอง การทดสอบและปรับปรุง นาภาพท่ีวาดไปเปรียบเทียบกบั ผลการทดลองดินน้ามนั แปลงร่าง แนวการจัดกจิ กรรมและประสบการณ์ ข้นั นา ครูนาดินน้ามนั มา 1 กอ้ น และป้ันดินน้ามนั เป็นรูปตา่ ง ๆ จากน้นั ใหเ้ ด็กสังเกตและบอกช่ือรูปร่างลกั ษณะของดิน น้ามนั ที่ครูป้ัน (เม่ือเดก็ ตอบถูกวา่ คอื อะไร ใหค้ รูป้ันรูปใหม่) กาหนดปัญหาและความต้องการตามสถานการณ์ เมื่อเดก็ ๆ ไดท้ ดลองนาดินน้ามนั รูปตา่ ง ๆ ลอยน้าแลว้ ผลการทดลองเป็นอยา่ งไร ข้นั สอน 1. ใหเ้ ด็กดูภาพท่ีครูเตรียมมากจากน้นั สนทนาร่วมกนั โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
- ภาพดินน้ามนั ท่ีเดก็ เห็นมีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไรบา้ ง (ใหเ้ ด็กตอบอิสระ เช่น กอ้ นกลม) - จากผลการทดลอง ดินน้ามนั แบบใดไมล่ อยน้า (กอ้ นกลมและแบนไมม่ ีขอบขา้ ง) - จากผลการทดลอง ดินน้ามนั แบบใดลอยน้าได้ (กอ้ นแบนมีขอบขา้ ง) 2. ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ รูปร่างของดินน้ามนั มีผลต่อการลอยน้า ถา้ ดินน้ามนั ท่ีมีน้าหนกั มาก ไม่มีอากาศภายใน มีความ หนาแน่นมากกวา่ น้าจะทาให้จมน้า ถา้ ดินน้ามนั ท่ีมีลกั ษณะแผน่ แบน ๆ มีขอบขา้ งซ่ึงสามารถบรรจุอากาศไวภ้ ายในทาใหม้ ี ความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า ดินน้ามนั จึงลอยน้าได้ การออกแบบวางแผนสร้างและปฏิบัติการ ใหเ้ ด็กดูภาพจากน้นั ใหเ้ ด็กวาดภาพผลการทดลองในใบกิจกรรมดินน้ามนั แปลงร่าง ทดสอบและปรับปรุง ใหเ้ ด็กนาภาพผลการทดลองท่ีวาดไปเปรียบเทียบกบั ผลการทดลองดินน้ามนั แปลงร่างและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ข้ันสรุป 1. ใหเ้ ดก็ นาเสนอผลงานจากการวาดภาพผลการทดลองในกิจกรรมดินน้ามนั แปลงร่าง 2. เดก็ และครูร่วมกนั สรุปเก่ียวกบั ลกั ษณะรูปร่างของดินน้ามนั ท่ีลอยและจมน้าวา่ ดินน้ามนั กอ้ นกลมและรูปร่างแผ่น แบน ๆ ไมม่ ีขอบ เม่ือนาไปลอยน้าจะจมน้า ส่วนดินน้ามนั รูปร่างแผน่ แบน ๆ มีขอบขา้ ง เม่ือนาไปลอยน้าสามารถลอยน้าได้ สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ดินน้ามนั 2. ดินสอ, ยางลบ 3. ใบงานกิจกรรมดินน้ามนั แปลงร่าง การประเมินผล 1. สังเกตจากการบอกรูปร่างลกั ษณะของดินน้ามนั ท่ีลอยและจมน้า 2. ตรวจผลงานการวาดภาพผลการทดลองใน จากกิจกรรมดินน้ามนั แปลงร่าง
กจิ กรรม แพดนิ นา้ มันบรรทุกสิ่งของ สัมพนั ธ์กบั แผนการจดั ประสบการณ์แบบบูรณาการ หน่วย วทิ ยาศาสตร์น่ารู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. เพ่อื ใหเ้ ด็กนบั และเขียนตวั เลขแสดงจานวนลกู แกว้ 2. พฒั นากลา้ มเน้ือเลก็ และการประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมือกบั ตาดว้ ยการเขียนและการระบายสี สาระทคี่ วรเรียนรู้ แพดินน้ามนั ท่ีนาไปลอยน้าและสามารถบรรทกุ ลกู แกว้ ไดจ้ านวนมากจะตอ้ งมีขนาดใหญ่ มีพ้นื ท่ีกวา้ ง มีขอบโคง้ เพื่อ ป้องกนั น้าเขา้ ไปในแพซ่ึงสามารถบรรจุอากาศไวภ้ ายในทาใหม้ ีความหนาแน่นนอ้ ยกวา่ น้า แพดินน้ามนั จึงจะรับน้าหนกั ของ ลกู แกว้ ได้ โดยไมจ่ มน้า ส่วนแพดินน้ามนั ท่ีมีขนาดพ้ืนที่เลก็ ไมส่ ามารถรับน้าหนกั ของลูกแกว้ จานวนท่ีมากไดจ้ ึงทาใหจ้ มน้า สาระคณิตศาสตร์ จานวนและการดาเนินการ : การนบั และการบอกจานวนลูกแกว้ ที่อยใู่ นแพดินน้ามนั ทกั ษะคณติ ศาสตร์ 1. การนบั จานวนลูกแกว้ ที่อยู่ในแพดินน้ามนั 2. การเปรียบเทียบจานวนลูกแกว้ ที่อยใู่ นแพดินน้ามนั ท่ีลอยน้าและจมน้า ประสบการณ์สาคัญ 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเชื่อว่าตนเองมีความสามารถ - การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความสามารถของตนเอง 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจและแก้ปัญหา - การนบั และแสดงจานวนของสิ่งตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั การบูรณาการสะเต็มศึกษา Mathematics คณิตศาสตร์ - การนบั จานวนลูกแกว้ ท่ีอยใู่ นแพดินน้ามนั แนวการจดั กจิ กรรมและประสบการณ์ ข้นั นา ครูนาลูกแกว้ ใส่ภาชนะมาใหเ้ ด็กสังเกต จากน้นั ครูขออาสาสมคั รออกมาคร้ังละ 1 คน โดยครูติดบตั รตวั เลขบน กระดานและใหต้ วั แทนนบั จานวนลูกแกว้ ใหถ้ ูกตอ้ งตามบตั รตวั เลข (ใหอ้ าสาสมคั รออกมา 4-5 คน เพื่อใหเ้ ดก็ เขา้ ใจในเรื่อง จานวน) ข้นั สอน 1. ครูนาอา่ งแกว้ ใส่น้า, ลกู แกว้ และดินน้ามนั มาใหเ้ ด็กสังเกต จากน้นั ครูชกั ชวนเด็กทากิจกรรมแพดินน้ามนั บรรทุก ส่ิงของ 2. ครูแบ่งเดก็ เป็น 4 กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน จากน้นั แจกดินน้ามนั ใหเ้ ดก็ ทุกกลุ่ม 3. ใหเ้ ด็กป้ันดินน้ามนั เป็นแผน่ แบน ๆ มีขอบขา้ ง โดยครูสาธิตการป้ันใหเ้ ด็กดูก่อน (โดยเดก็ แต่ละกลมุ่ จะป้ันได้ ขนาดไม่เท่ากนั )
4. ใหเ้ ดก็ นาแพดินน้ามนั มาลอยในอา่ งแกว้ คร้ังละ 2 กลุ่ม จากน้นั ใส่ลูกแกว้ ในแพทีละลูกและนบั จานวน โดยครู กาหนดใหใ้ ส่ไมเ่ กิน 10 ลูก 5. ใหเ้ ดก็ สังเกตแพดินน้ามนั และนบั จานวนลูกแกว้ จากน้นั ใหต้ วั แทนกลุม่ ออกมาบนั ทึกผลบนกระดาน ถา้ แพดิน น้ามนั ของใครจมน้าถือวา่ แพ้ (ครูอาจใหโ้ อกาสป้ันใหม่อีกรอบ) 6. ใหเ้ ดก็ นาแพดินน้ามนั ของกล่มุ ที่ชนะมาแขง่ กนั โดยใส่ลูกแกว้ เพิม่ จนไดก้ ลมุ่ ที่ชนะเพียงกลุม่ เดียว 7. ใหเ้ ดก็ แตล่ ะคนออกมานาเสนอผลงานของตนเองวา่ แพดินน้ามนั บรรทกุ ลูกแกว้ ไดจ้ านวนก่ีลกู และแพดินน้ามนั จมน้าหรือไม่ ข้นั สรุป 1. เด็กและครูร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั จานวนลกู แกว้ ที่แพดินน้ามนั ของแต่ละกลุ่มบรรทกุ ไดแ้ ละสรุปเพิ่มเติมเกี่ยวกบั การป้ันแพดินน้ามนั ท่ีสามารถบรรทกุ ลกู แกว้ ไดม้ ากท่ีสุด 2. ใหเ้ ด็กดูภาพจากน้นั ใหเ้ ด็กเขยี นตวั เลขแสดงจานวนลกู แกว้ ท่ีจมและลอยน้า แลว้ ระบายสีภาพลูกแกว้ ใหส้ ัมพนั ธ์ ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลูกแกว้ และภาชนะสาหรับใส่ลกู แกว้ 2. บตั รตวั เลข 1-10 3. อ่างแกว้ ใส 4. ดินน้ามนั 5. กระดานและอปุ กรณ์การเขียน (ปากกาไวตบ์ อร์ดหรือชอลก์ ) 6. ใบกิจกรรมบนั ทึกการทดลอง การประเมินผล 1. สังเกตจากการนบั และการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนลกู แกว้ 2. ตรวจผลงานการเขยี นตวั เลขแสดงจานวนลกู แกว้ ท่ีจมและลอยน้าและการระบายสีภาพลกู แกว้ ใหส้ มั พนั ธ์กนั
บันทกึ กจิ กรรมแพดนิ นา้ มนั บรรทุกส่ิงของ 12 3 4 56 7 จานวน 89 10 ให้เด็ก ๆ วาดจานวนลกู แก้วทล่ี อยและจม วาดลูกแก้ว ลอย จม
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: