Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตัวชี้วัดที่ 1 การสร้างและหรือการพัฒนาหลักสูตร

ตัวชี้วัดที่ 1 การสร้างและหรือการพัฒนาหลักสูตร

Published by krukwan29, 2021-07-10 08:22:24

Description: ด้านที่ 1 การจัดการเรียนการสอน
1.1 การสร้างและหรือการพัฒนาหลักสูตร

Keywords: ว21

Search

Read the Text Version

จดั ทำและพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษา ระดบั ปฐมวัย ตามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศกั ราช 2560



หน่วยการจดั ประสบการณ์ ช้ันอนบุ าลปที ่ี 3/1 หนว่ ยที่ หน่วยการจดั ประสบการณ์ หน่วยที่ หนว่ ยการจดั ประสบการณ์ 1 ปฐมนเิ ทศ 21 ร้รู อบ ปลอดภยั 2 โรงเรยี นของเรา 22 ลอยกระทง 3 ตัวเรา 23 กลางวัน - กลางคนื 4 หนทู ำได้ 24 คา่ นิยมไทย 5 ครอบครวั มสี ุข 25 วันชาติ 6 อาหารดีมปี ระโยชน์ 26 เศรษฐกจิ พอเพยี ง 7 ฝน 27 เทคโนโลยีและการสื่อสาร 8 ขา้ ว 28 วนั ข้นึ ปใี หม่ 9 ปลอดภัยไวก้ ่อน 29 สนกุ กับตัวเลข 10 วันเฉลมิ 30 ขนาด รปู ร่าง รปู ทรง 11 วันแม่ 31 วันเด็ก วนั ครู 12 รกั เมอื งไทย 32 โลกสวยดว้ ยสีสัน 13 ของเลน่ ของใช้ 33 ฤดหู นาว 14 ชุมชนของเรา 34 แรงและพลงั งานในชวี ติ ประจำวนั 15 ตน้ ไมท้ ่รี ัก 35 เสยี งรอบตวั 16 หนิ ดิน ทราย 36 รักการอา่ น 17 สัตวน์ ่ารกั 37 ปรมิ าตร น้ำหนัก 18 คมนาคม 38 ฤดรู อ้ น 19 Project Approach (1) 39 Project Approach (2) 20 Project Approach (1) 40 Project Approach (2) ***หมายเหตุ หนว่ ยการจัดประสบการณ์สามารถเปล่ยี นแปลงได้ตามความสนใจของผเู้ รยี น

วเิ คราะหโ์ ครงสร้างหน่วยการจดั ประสบการณ์ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560 พฒั นาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี ตวั บง่ ชี้ ชน้ั อ.๒ ชน้ั อ.๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๑.๑ นำ้ หนกั และ ๑.๑.๑ นำ้ หนักและ ๑.๑.๑ น้ำหนักและ ๑. การปฏิบัติตนตามสุขอนามยั ๑. อาหารทีช่ ว่ ยให้รา่ งกาย สุขนิสัยทดี่ ใี น กิจวัตรประจำวนั เจริญเตบิ โต สว่ นสูงตามเกณฑ์ สว่ นสูงตามเกณฑ์ ส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย ของกรมอนามัย ๑.๒ มีสขุ ภาพ ๑.๒.๑ รับประทาน ๑.๒.๑ รับประทาน ๑.การประกอบอาหารไทย ๑. อาหารทีม่ ปี ระโยชน์และไมม่ ี อนามัยและสขุ นสิ ยั อาหารท่มี ปี ระโยชน์ อาหารที่มปี ระโยชน์ ๒.การปฏิบัตติ นตามสขุ อนามัย ประโยชน์ ที่ดี และดมื่ นำ้ สะอาดได้ ไดห้ ลายชนดิ และดมื่ สุขนิสัยที่ดใี นกิจวตั รประจำวนั ๒. อาหารหลัก ๕ หมู่ ดว้ ยตนเอง นำ้ สะอาดไดด้ ว้ ย ๓. การมเี จตคติท่ีดตี ่อการ ตนเอง รบั ประทานอาหารท่มี ีประโยชน์ ๔. มารยาทในการรบั ประทาน อาหารได้ดว้ ยตนเอง ๑.๒.๒ ลา้ งมอื ก่อน ๑.๒.๒ ลา้ งมอื ก่อน ๑. การปฏบิ ัตติ นตามสุขอนามยั ๑. อวยั วะตา่ งๆ ของรา่ งกาย รบั ประทานอาหาร รบั ประทานอาหาร และหลังจากใช้ และหลงั จากใช้ สุขนิสยั ทีด่ ใี น กจิ วตั รประจำวนั และการรักษาความปลอดภัย ห้องน้ำห้องสว้ มด้วย ห้องนำ้ ห้องสว้ มด้วย ตนเอง ตนเอง ๒. การชว่ ยเหลอื ตนเองใน ๒. วิธีระวงั รักษารา่ งกายให้ กจิ วตั รประจำวนั สะอาดและมสี ขุ ภาพอนามยั ทีด่ ี ๓. การปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัยใน กจิ วัตรประจำวนั ๔. การฟงั นทิ านเรื่องราว เก่ียวกบั สุขนสิ ยั ทดี่ ี ๑.๒.๓ นอนพกั ผ่อน ๑.๒.๓ นอนพักผ่อน การปฏบิ ตั ติ นตามสขุ อนามยั ประโยชน์ของการนอนหลบั เป็นเวลา เปน็ เวลา สุขนสิ ยั ทด่ี ีในกิจวตั รประจำวัน พักผ่อน ๑.๒.๔ ออกกำลงั ๑.๒.๔ ออกกำลัง กายเป็นเวลา กายเปน็ เวลา ๑. การเล่นอิสระ ๑.ประโยชน์ของการออกกำลัง ๒. การเคลือ่ นไหวข้ามส่งิ กดี ขวาง กาย ๓. การเล่นเครอื่ งเลน่ อย่าง ๒.การเล่นกลางแจง้ ปลอดภัย ๔. การละเลน่ พ้นื บา้ นไทย ๕. การเล่นนอกห้องเรียน ๑.๓ รกั ษาความ ๑.๓.๑ เล่นและทำ ๑.๓.๑ เล่น / ๑. การปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัยใน ๑. การรักษาความปลอดภยั ของ ปลอดภัยของ กิจกรรมอยา่ ง ทำกิจกรรมและ กจิ วัตรประจำวนั ตนเองและผอู้ ื่น ปลอดภัยด้วยตนเอง ปฏิบตั ติ อ่ ผ้อู น่ื อยา่ ง ตนเองและการปฏบิ ตั ิต่อผอู้ ื่น ปลอดภยั ๒. การฟงั นิทาน เร่ืองราว อย่างปลอดภัยในชวี ิตประจำวนั เหตุการณ์เกย่ี วกบั การปอ้ งกัน และ ๒. การปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสม รกั ษาความปลอดภัย ๓. การเลน่ บทบาทสมมติ เมือ่ เจบ็ ปว่ ย เหตุการณต์ า่ ง ๆ ๓. การระวังภยั จากคนแปลก ๔. การพดู กับผูอ้ ืน่ เกย่ี วกบั หนา้ และอุบตั ภิ ยั ตา่ งๆ ประสบการณข์ องตนเองหรือพูด เล่าเรือ่ งราวเก่ียวกับตนเอง ๕. การเลน่ และทำงานร่วมกับผอู้ ่ืน

พฒั นาการด้านร่างกาย มาตรฐานที่ ๒ กลา้ มเน้อื ใหญแ่ ละกลา้ มเนือ้ เลก็ แข็งแรง ใชไ้ ดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสมั พันธก์ ัน สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ตัวบ่งชี้ ชน้ั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๒.๑ เคลื่อนไหว ๒.๑.๑ เดนิ ตอ่ เท้าไป ๒.๑.๑ เดนิ ต่อเท้า 1. การเคลื่อนไหวเคล่อื นท่ี 1. การเดินตามเสน้ ทกี่ ำหนด ร่างกายอยา่ ง ขา้ งหน้า เปน็ ส้นตรง ถอยหลังเปน็ 2. การเดินบนแผน่ กระดาน คล่องแคลว่ ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งกาง เส้นตรงไดโ้ ดย ประสานสมั พนั ธ์ แขน ไม่ตอ้ งกางแขน และทรงตัวได้ ๒.๑.๒ กระโดดขา ๒.๑.๒ กระโดดขา 1. การเคลือ่ นไหวอยูก่ บั ท่ี 1. การกระโดดขาเดยี วไป เดยี วอย่กู ับทไ่ี ด้โดย เดียวอยกู่ ับทีไ่ ด้ ขา้ งหน้า ไมเ่ สียการทรงตวั อย่างตอ่ เนอื่ ง โดย ไม่เสยี การทรงตวั ๒.๑.๓ วิ่งหลบหลีก ๒.๑.๓ วิ่งหลบหลีก ๑. การเคลอื่ นไหวเคล่ือนที่ 1. การเลน่ กจิ กรรมกลางแจ้ง สิง่ กดี ขวางได้ ส่ิงกีดขวาง ได้อยา่ ง ๒. การเคล่ือนไหวทใ่ี ช้การ คล่องแคลว่ ประสานสมั พันธ์ของการใช้ กลา้ มเนือ้ ใหญ่ ในการ ๓. การเล่นอย่างอิสระ ๔. การเคลอื่ นไหวขา้ มสงิ่ กดี ขวางตนเอง ๒.๑.๔ รับลกู บอล ๒.๑.๔ รบั ลูกบอลที่ ๑. การเคล่อื นไหวพร้อมวสั ดุ 1. การบรหิ ารกล้ามเน้อื มอื โดยใช้มือ กระดอนขนึ้ จากพน้ื อุปกรณ์ 2. การหยิบจับส่ิงของ ทง้ั ๒ ข้าง ได้ ขวา้ ง การจบั การโยน การเตะ 3. การโยนรับลกู บอล ๒. การเคลอื่ นไหวโดยควบคุม 4. การเตะบอล ตนไปในทศิ ทาง ระดับและพน้ื ท่ี ๒.๒ ใชม้ อื ตา ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ๑. การประดษิ ฐส์ ่งิ ต่างๆ ดว้ ย 1. การใชก้ รรไกรทีถ่ ูกต้อง ประสานสมั พนั ธก์ นั กระดาษตามแนว กระดาษตามแนว เศษวัสดุ ปลอดภัย เส้นตรงได้ เส้นโคง้ ได้ ๒. การหยบิ จับ การใช้กรรไกร 2. การใช้กรรไกรตดั กระดาษ การฉีก การตดั การปะและการ ตามแนวเส้นโคง้ หรอื ภาพท่มี ี รอ้ ยวัสดุ เสน้ โค้ง ๒.๒.๒ เขยี นรปู ๒.๒.๒ เขยี นรปู ๑. การเขยี นภาพและการเล่น 1. รูปสามเหล่ยี ม สีเ่ หล่ยี ม ตามแบบ สามเหลยี่ มตามแบบ กบั สี 2. การต่อบลอ็ กหรือวสั ดุ ได้ ไดอ้ ยา่ งมีมมุ ชดั เจน ๒. การเล่นเคร่อื งเลน่ สัมผสั และ จำนวนอย่างนอ้ ย 10 ช้นิ ใน การสรา้ งจากแทง่ ไม้ บล็อก แนวตงั้ ๓. การป้ัน ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดทุ มี่ รี ู ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดทุ ่ีมรี ู ๑. การหยบิ จับ การใช้กรรไกร 1. การรอ้ ยวสั ดตุ ่างๆ เชน่ ขนาดเสน้ ผา่ น ขนาดเสน้ ผา่ น การฉีก การตดั การปะ และการ ลูกปดั ดอกไม้ หลอด ศูนยก์ ลาง ๐.๕ ศูนย์กลาง ๐.๒๕ รอ้ ยวสั ดุ เซนติเมตรได้ เซนติเมตรได้

พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ มาตรฐานท่ี ๓ มสี ขุ ภาพจิตดีและมีความสขุ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี ตวั บง่ ช้ี ช้ัน อ.๒ ซนั้ อ.๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๓.๑ แสดงออก ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ ๓.๑.๑ แสดงอารมณ์ 1. การแสดงออกอย่าง 1. อารมณแ์ ละความรสู้ ึก เชน่ ทางอารมณไ์ ดอ้ ย่าง ความรสู้ ึกไดต้ าม ความรสู้ กึ ได้ สนกุ สนานกบั เร่อื งตลก ขำขนั ดีใจ เสยี ใจ เศร้า สนุก โกรธ เหมาะสม สถานการณ์ สอดคลอ้ งกบั และเรือ่ งราว/เหตกุ ารณท์ ่ี 2. การแสดงอารมณ์และ สถานการณ์ สนกุ สนานตา่ ง ๆ ความรสู้ ึกท่ีเหมาะสมกบั วัย อยา่ งเหมาะสม 2. การเลน่ อิสระ 3. การเล่นบทบาทสมมติ 4. การเลน่ ตามมุมเลน่ 5. การร้องเพลง/การพูดคำ คล้องจอง 6. การเคลอ่ื นไหวตาม เสียงเพลง/ดนตรี ๓.๒ มีความรสู้ กึ ที่ ๓.๒.๑ กลา้ พดู ๓.๒.๑ กล้าพดู 1. การเล่นอสิ ระ 1. การพูด/เลา่ เร่ือง/อธบิ ายใน ดีตอ่ ตนเองและ กลา้ แสดงออก กล้าแสดงออก 2. การเล่นบทบาทสมมติ สถานการณต์ ่าง ๆ ผู้อ่นื อย่างเหมาะสมบาง อย่างเหมาะสมตาม 3. การเลน่ ตามมมุ เล่น 2. การแสดงออกในกจิ กรรม สถานการณ์ สถานการณ์ 4. การรอ้ งเพลง/การพูดคำ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ คล้องจอง 5. การเคล่อื นไหวตาม เสียงเพลง/ดนตรี 6. การแสดงความคดิ ความรสู้ ึก และความต้องการ ดว้ ยคำพดู 7. การพูดกบั ผู้อืน่ เกยี่ วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือ เล่าเร่ืองราวเก่ียวกับตนเอง 8. การพดู อธบิ ายเกี่ยวกับ สิ่งของ เหตุการณ์ และ ความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ งๆ 9. การพูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ใน การเลน่ และการกระทำต่างๆ ๓.๒.๒ แสดงความ ๓.๒.๒ แสดงความ 1. การแสดงความคิด ความร้สู กึ 1. แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั พอใจในผลงาน และ พอใจในผลงาน และ และความตอ้ งการด้วยคำพดู ผลงานของตนเองและของผอู้ ื่น ความสามารถ ของ ความสามารถ ของ 2. การพดู กบั ผู้อื่นเกย่ี วกับ 2. การชว่ ยเหลอื /การทำงาน ตนเอง ตนเองและผอู้ ื่น ประสบการณข์ องตนเอง หรอื เล่า กล่มุ เร่อื งราวเกย่ี วกับตนเอง 3. การพดู อธิบายเกย่ี วกบั สงิ่ ของ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธข์ องสง่ิ ต่างๆ 4. การพูดอยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเล่น และการกระทำต่างๆ

พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ มาตรฐานที่ ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ตัวบง่ ช้ี ช้ัน อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์สำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๔.๑ สนใจ ๔.๑.๑ สนใจ ๔.๑.๑ สนใจ 1. การสร้างสรรคส์ ิ่งสวยงาม 1. กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ มีความสขุ มคี วามสขุ และ มคี วามสขุ และ 2. การแสดงออกอยา่ ง 2. การเคลอื่ นไหวร่างกายตาม และแสดงออก แสดงออกผา่ นงาน แสดงออกผ่านงาน สนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขัน เสียงเพลง ดนตรี อิสระ ผา่ นงานศิลปะ ศลิ ปะ ศลิ ปะ และเร่ืองราว/เหตุการณท์ ี่ 3. การเล่นกลางแจง้ ดนตรี และการ สนุกสนานต่าง ๆ เคลอ่ื นไหว 3. การทำกิจกรรมศลิ ปะต่างๆ 4. การเลน่ เก่ยี วกับดนตรี 5. การแสดงบทบาทสมมติ 6. การฟงั เพลง 7. การรอ้ งเพลง ๔.๑.๒ สนใจ ๔.๑.๒ สนใจ 1. การสร้างสรรคส์ ิง่ สวยงาม 1. กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ มคี วามสุข และ มคี วามสขุ และ 2. การแสดงออกอย่าง 2. การเคลือ่ นไหวร่างกายตาม แสดงออกผา่ น แสดงออกผ่าน สนกุ สนานกบั เร่อื งตลก ขำขนั เสียงเพลง ดนตรี อิสระ เสียงเพลง ดนตรี เสียงเพลง ดนตรี และเร่อื งราว/เหตกุ ารณท์ ่ี 3. การเล่นกลางแจง้ สนกุ สนานต่าง ๆ 3. การทำกิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ 4. การเล่นเก่ยี วกับดนตรี 5. การแสดงบทบาทสมมติ 6. การฟังเพลง 7. การรอ้ งเพลง ๔.๑.๓ สนใจ ๔.๑.๓ สนใจ 1. การแสดงปฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบ 1. เครือ่ งดนตรี และเคร่อื ง มีความสุข และ มคี วามสุข และ เสยี งดนตรี ประกอบจงั หวะตา่ งๆ แสดงท่าทาง / แสดงท่าทาง / 2. การเลน่ เครอ่ื งดนตรี เคลื่อนไหว เคล่ือนไหว ประกอบจังหวะ ประกอบเพลง ประกอบเพลง 3. การรอ้ งเพลง จงั หวะ และ ดนตรี จังหวะ และ ดนตรี 4. การเลน่ เกย่ี วกบั ดนตรี 5. การแสดงบทบาทสมมติ 6. การฟังเพลง 7. การร้องเพลง 8. การรอ้ งเพลง/การพูดคำ คล้องจอง 9. การเคลอ่ื นไหวตาม เสียงเพลง/ดนตรี

พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ มาตรฐานที่ ๕ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ติ ใจท่ดี งี าม สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ.๒ ซ้นั อ.๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๕.๑ ซอ่ื สัตย์ สุจริต (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๕.๒ มคี วามเมตตา ๕.๑.๑ ขออนุญาต ๕.๑.๑ ขออนุญาต ๑.การฟงั นิทาน เกีย่ วกับ ๑. คุณธรรมจริยธรรม กรุณา มีน้ำใจ และ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 2. ความซื่อสตั ยส์ จุ รติ ชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั หรือรอคอย เมื่อ หรอื รอคอย เม่อื ๒.การร่วมสนทนาและ 3. ความเกรงใจ แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น 4. การเคารพสทิ ธขิ องตนเอง ๕.๓ มคี วามเหน็ อก ตอ้ งการสิ่งของของ ตอ้ งการสิง่ ของของ เชงิ จริยธรรม และผอู้ ่ืนตนเอง เห็นใจผอู้ ่นื ๓. การเล่นบทบาทสมมติ ผูอ้ ื่น เม่อื มผี ชู้ แ้ี นะ ผอู้ น่ื ด้วยตนเอง ๔. การเลน่ และทำงานร่วมกับ ๑. คุณธรรมจริยธรรม ๕.๔ มีความ ผู้อืน่ 2. ความเมตตา กรุณา รับผดิ ชอบ ๕.๒.๑ แสดงความ ๕.๒.๑ แสดงความ ๕. การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ที่ดี รกั เพื่อน และมี รักเพ่ือน และมี ของห้องเรียน ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม เมตตาสตั วเ์ ลยี้ ง เมตตาสัตวเ์ ลย้ี ง ๑. การฟังนทิ าน เกยี่ วกบั ความ 2. ความมีนำ้ ใจ ชว่ ยเหลอื เมตตากรณุ า แบง่ ปัน ๕.๒.๓ ชว่ ยเหลือ ๕.๒.๓ ช่วยเหลอื ๒. การเลน่ บทบาทสมมติ 3. ความกตญั ญู ๓. การเล้ียงสตั ว์ และแบ่งปนั ผู้อ่นื ได้ และแบง่ ปนั ผ้อู น่ื ได้ ๑. การฟังนทิ าน เกีย่ วกับ ๑. คณุ ธรรมจรยิ ธรรม คุณธรรม จรยิ ธรรม 2. ความเหน็ อกเหน็ ใจผู้อื่น เม่ือมผี ชู้ ้แี นะ ด้วยตนเอง ๒. การเล่นบทบาทสมมติ ๓. การปฏิบตั ิตนเปน็ สมาชิกท่ีดี ๕.๓.๑ แสดงสหี น้า ๕.๓.๑ แสดงสหี นา้ ของห้องเรยี น หรอื ท่าทางรบั รู้ หรอื ทา่ ทางรับรู้ ๑. การเลน่ และทำงานรว่ มกับ ความรสู้ ึกผูอ้ น่ื ความรสู้ กึ ผ้อู น่ื อยา่ ง ผอู้ ืน่ สอดคล้องกบั ๒. การเลน่ บทบาทสมมติ ๕.๔.๑ ทำงานที่ สถานการณ์ ไดร้ ับมอบหมายจน ๕.๔.๑ ทำงานที่ ๑. การทำกิจกรรมศลิ ปะต่างๆ ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม สำเรจ็ เมอ่ื มผี ู้ ไดร้ ับมอบหมายจน ๒. การดูแลห้องเรยี นรว่ มกนั 2. ความรบั ผดิ ชอบ ชีแ้ นะ สำเรจ็ ด้วยตนเอง ๓. การมสี ว่ นรว่ มรบั ผิดชอบดแู ล 3. ความอดทน ม่งุ มัน่ รักษาส่งิ แวดลอ้ มทง้ั ภายในและ 4. ความเพยี ร ภายนอกห้องเรยี น ๔. การร่วมกำหนดขอ้ ตกลงของ หอ้ งเรยี น

พฒั นาการด้านสังคม มาตรฐานที่ ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบัติตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ๖.๑ ชว่ ยเหลอื (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ตนเองในการปฏบิ ตั ิ กจิ วตั รประจำวนั ๖.๑.๑ แตง่ ตวั ด้วย ๖.๑.๑ แต่งตวั ด้วย 1.การช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตร ๑. การแตง่ กายทเ่ี หมาะสม ประจำวนั ๖.๒ มีวนิ ยั ใน ตวั เอง ตวั เองได้อยา่ ง ตนเอง คลอ่ งแคล่ว ๖.๓ ประหยัดและ พอเพียง ๖.๑.๒ รับประทาน ๖.๑.๒ รบั ประทาน 1. การปฏบิ ตั ิตนตามสขุ อนามยั 1. สิง่ ของเคร่ืองใช้ในการ สขุ นสิ ัยทีด่ ีในกิจวตั รประจำวัน รบั ประทานอาหาร อาหารดว้ ยตนเอง อาหารด้วยตนเอง 2. การใชอ้ ุปกรณใ์ นการ อยา่ งถูกวิธี รับประทาน เช่น ชอ้ น-สอ้ ม ตะเกยี บ ชอ้ นกลาง แกว้ นำ้ ๖.๑.๓ ใชห้ อ้ งน้ำ ๖.๑.๓ ใช้และทำ 3. มารยาทในการรับประทาน ห้องส้วม ด้วยตนเอง ความสะอาดหลงั ใช้ อาหาร ห้องน้ำหอ้ งสว้ ม 1. การปฏิบตั ติ นตามสขุ อนามยั 1. การใชแ้ ละรักษาความ ด้วยตนเอง สุขนิสัยทดี่ ใี นกจิ วตั รประจำวัน สะอาดห้องน้ำหอ้ งส้วม ๖.๒.๑ เก็บของเล่น ๖.๒.๑ เก็บของเล่น 1. การรว่ มกำหนดข้อตกลง 1. การเก็บของเลน่ ของใช้ ของใชเ้ ขา้ ท่ีดว้ ย ของใช้เขา้ ท่ีอยา่ ง ของห้องเรยี น ตนเอง เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง 2. การเปน็ สมาชิกท่ดี ขี อง 1. การเขา้ แถว ห้องเรยี น 1. การใชส้ งิ่ ของ/เคร่ืองใช้ / ๖.๒.๒ เข้าแถว ๖.๒.๒ เขา้ แถว 3. การให้ความร่วมมอื ในการ นำ้ /ไฟอยา่ งประหยดั ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ ใน ตามลำดับก่อนหลัง ตามลำดบั กอ่ นหลงั หอ้ งเรยี น 4. ความรับผดิ ชอบในการดแู ล ได้ดว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเอง ห้องเรียนรว่ มกนั ๖.๓.๑ ใชส้ งิ่ ของ ๖.๓.๑ ใช้ส่ิงของ 1. การทำกิจกรรมหลากหลาย เครอื่ งใช้อย่าง เคร่อื งใช้อย่าง อยา่ งมจี ดุ หมาย ประหยดั และ ประหยดั และ 2. การใหค้ วามร่วมมอื ในการ พอเพยี ง เมอ่ื มผี ู้ พอเพยี ง ด้วยตนเอง ปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ ใน ช้ีแนะ ห้องเรียน 1. การปฏิบตั กิ จิ วตั รประจำวนั ด้วยตนเอง 2. การดแู ลรกั ษาธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3. การให้ความรว่ มมือในการ ปฏิบตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ใน ห้องเรยี น 4. ความรับผิดชอบในการดแู ล ห้องเรียนร่วมกัน

พัฒนาการด้านสงั คม มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรูร้ ายปี ตัวบ่งชี้ ชน้ั อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๗.๑ ดแู ลรักษา ๓.๑.๑ มีส่วนร่วมใน ๓.๑.๑ มสี ่วนร่วมใน ๑. การมีส่วนรว่ มในการดูแลรักษา ๑. สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น และ ส่ิงแวดล้อมทัง้ ภายในและภายนอก การดูแลรักษา ธรรมชาติและ ก า ร ด ู แ ล ร ั ก ษ า การดูแลรกั ษา โรงเรยี น สิ่งแวดลอ้ ม ธ ร ร ม ช า ต ิ แ ล ะ ธรรมชาติและ ๒. ส่ิงแวดล้อมตามธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ สง่ิ แวดลอ้ มดว้ ย ๒. การสนทนาขา่ วและเหตุการณท์ ี่ และการอนรุ ักษ์ สิง่ แวดล้อม ชี้แนะ ตนเอง เก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ในชีวิตประจำวัน ๓. การรกั ษาสาธารณสมบตั ิใน ๓. การเพาะปลูกและดแู ลตน้ ไม้ ห้องเรียน ๔. การอธบิ ายเชื่อมโยงสาเหตุและ ผลทเี่ กดิ ขึ้นในเหตุการณ์หรือการ กระทำ ๕. การตัดสินใจและมสี ่วนร่วมใน กระบวนการแกป้ ญั หา ๗.๑.๒ ท้ิงขยะได้ ๗.๑.๒ ทงิ้ ขยะได้ ๑. การคัดแยก การจดั กลุ่ม และ ๑. ขยะและการคดั แยกขยะ ถกู ท่ี ถูกที่ จำแนกสง่ิ ต่างๆ ตามลักษณะ และ ๒. การดแู ลรักษาสงิ่ แวดล้อม รูปร่าง รูปทรง ๒. การใชว้ สั ดุและส่งิ ของเครื่องใช้ อยา่ งคุ้มค่า ๓. การทำงานศลิ ปะท่ีนำวัสดุหรือ สงิ่ ของ เครื่องใช้ท่ีใช้แล้วมาใช้ซ้ำ หรือแปรรปู แลว้ นำกลบั มาใช้ใหม่ ๔. การสรา้ งสรรค์ช้ินงานโดยใช้ รูปร่าง รปู ทรงจากวัสดุท่ี หลากหลาย ๕.การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ท่ีดีของ หอ้ งเรียน ๗.๒ มีมารยาทตาม ๗.๒.๑ ปฏิบตั ิตน ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ิตน ๑. การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้อ 1. การแสดงความเคารพ ตามมารยาทไทยได้ ถ่นิ ท่อี าศยั และประเพณีไทย วฒั นธรรมไทยและ ตามมารยาทไทย ๒. การเล่นบทบาทสมมติการ 2. การพดู สภุ าพ รกั ความเป็นไทย ด้วยตนเอง ตามกาลเทศะ 3. การกลา่ วคำขอบคณุ และขอ ปฏบิ ัติตนในความเปน็ คนไทย โทษ ๗.๒.๒ กลา่ วคำ ๗.๒.๒ กล่าวคำ ๑. การปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรม ๑. การปฏิบัติตนตามมารยาท ท้องถน่ิ ท่อี าศยั และ ประเพณีไทย ขอบคณุ และ ขอบคณุ และ ๒. การเล่นบทบาทสมมติการ และวัฒนธรรมไทย ขอโทษ ด้วยตนเอง ขอโทษ ด้วยตนเอง ปฏิบัติตนในความเปน็ คนไทย 2. การพูดสภุ าพ ๓. การพูดสะทอ้ นความรู้สึกของ 3. การกล่าวคำขอบคณุ และขอ ตนเองและผูอ้ ่นื โทษ ๗.๒.๓ ยืนตรงเมอื่ ๗.๒.๓ ยืนตรงและ ๑. การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมทอ้ ๑.วันสำคญั ของชาติ ศาสนา ถ่ินทอ่ี าศัยและประเพณไี ทย ไดย้ ินเพลงชาติไทย ร่วมร้องเพลงชาติ ๒. การเล่นบทบาทสมมตกิ าร พระมหากษตั รยิ ์ และเพลงสรรเสรญิ ไทยและเพลง ปฏบิ ตั ิตนในความเป็นคนไทย ๒. สญั ลกั ษณ์สำคญั ของชาติไทย พระบารมี สรรเสรญิ พระบารมี ๓. การร่วมกจิ กรรมวนั สำคัญ ๓. การแสดงความจงรักภักดตี ่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

พฒั นาการดา้ นสังคม มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกบั ผ้อู ่ืนได้อยา่ งมคี วามสขุ และปฏิบัตติ นเป็นสมาชิกทดี่ ีของสงั คมในระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี ตวั บง่ ชี้ ช้ัน อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณส์ ำคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๘.๑ ยอมรับ ความเหมอื น และ ๘.๑.๑ เลน่ และทำ ๘.๑.๑ เล่นและทำ 1. การเลน่ และทำงานรว่ มกับ 1. ความเหมือนและความ ความแตกต่าง ระหว่างบคุ คล กิจกรรม รว่ มกบั เดก็ กจิ กรรม ร่วมกบั เด็ก ผอู้ น่ื แตกตา่ งระหว่างตนเองกบั ผู้อ่ืน ๘.๒ มปี ฏิสมั พันธ์ ที่ แตกตา่ งไป ท่ี แตกต่างไป 2. การร่วมสนทนาและ ท่ดี กี ับผูอ้ ืน่ ไปจากตน ไปจากตน แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ๘.๓ ปฏบิ ัตติ น เบือ้ งตน้ ในการ 3. การทำศลิ ปะแบบร่วมมอื เป็นสมาชกิ ท่ดี ี ของสงั คม 4. การยอมรับความสามารถ การเลน่ / ทำกิจกรรมร่วมกับ กลุม่ เพอื่ นท่แี ตกตา่ งไปจากตน ๘.๒.๑ เล่นหรือ ๘.๒.๑ เล่นหรอื 1. การเลน่ และทำงานร่วมกบั 1. ความเหมือนและความ ทำงานร่วมกบั เพื่อน ทำงานร่วมกบั เพอ่ื น ผู้อ่นื แตกต่างระหวา่ งตนเองกบั ผอู้ น่ื เปน็ กล่มุ เป็นกลมุ่ อยา่ งมี 2. การร่วมสนทนาและ เป้าหมาย แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ 3. การทำศลิ ปะแบบรว่ มมอื 4. การยอมรบั ความสามารถ การเลน่ / ทำกิจกรรมรว่ มกบั กลุ่มเพอ่ื นทีแ่ ตกตา่ งไปจากตน ๘.๒.๒ ยม้ิ ทกั ทาย ๘.๒.๒ ย้มิ ทกั ทาย ๑. การปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรม ๑. การปฏบิ ัตติ นตามมารยาท หรอื พูดคยุ ผใู้ หญ่ หรอื พูดคยุ ผูใ้ หญ่ ทอ้ งถิ่นท่ีอาศัยและประเพณไี ทย และวัฒนธรรมไทย และบคุ คลท่คี ุน้ เคย และบคุ คลทคี่ ้นุ เคย ๒. การเล่นบทบาทสมมติการ 2. การพูดสุภาพ ได้ด้วยตนเอง ได้เหมาะสมกับ ปฏบิ ัตติ นในความเป็นคนไทย สถานการณ์ ๓. การพดู สะท้อนความรสู้ ึกของ ตนเองและผู้อ่ืน ๘.๓.๑ มสี ่วนรว่ ม ๘.๓.๑ มสี ว่ นร่วม 1. การมปี ฏิสมั พันธ์ มสี ่วนรว่ ม 1. การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชกิ ท่ีดี สรา้ งข้อตกลงและ สรา้ งข้อตกลงและ และบทบาทสมาชิกของสงั คม ของครอบครวั และโรงเรยี น ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง 2. การร่วมกำหนดขอ้ ตกลง 2. การเคารพสิทธิของตนเอง เมื่อมีผชู้ แี้ นะ ดว้ ยตนเอง ของห้องเรียน และผูอ้ ่นื 3. การเปน็ สมาชิกท่ดี ีของ 3. การแสดงความคดิ เหน็ หอ้ งเรียน ความรสู้ ึก การแสดงมารยาทที่ดี 4. การแสดงความคดิ ความรสู้ ึก และความต้องการ ด้วยคำพดู 5. การพดู อย่างสร้างสรรคใ์ น การเล่น และการกระทำตา่ งๆ

พัฒนาการด้านสังคม มาตรฐานท่ี ๘ อยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืนได้อย่างมคี วามสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ท่ีดีของสงั คมในระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ (ต่อ) สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรียนรรู้ ายปี ตวั บง่ ชี้ ช้นั อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๘.๓ ปฏบิ ตั ติ น ๘.๓.๒ ปฏบิ ตั ิตน ๘.๓.๒ ปฏบิ ตั ติ น 1. การมปี ฏิสมั พนั ธ์ มีสว่ นร่วม และ 1. การเคารพสทิ ธิของตนเอง เบ้อื งตน้ ในการ เป็นผ้นู ำและผูต้ าม เป็นผนู้ ำและผู้ตาม บทบาทสมาชิกของสงั คม และผอู้ ่ืน เปน็ สมาชกิ ที่ดี เมอ่ื ดว้ ยตนเอง ไดเ้ หมาะสมกับ 2. การเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องหอ้ งเรยี น 2. การเป็นผู้นำและผตู้ ามท่ดี ี ของสงั คม (ตอ่ ) สถานการณ์ 3. การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ ๘.๓.๓ ๘.๓.๓ 1. การแกป้ ญั หาความขดั แย้ง 1. การแก้ปัญหาดว้ ยสนั ติวิธี ประนีประนอมแกไ้ ข ประนปี ระนอมแกไ้ ข 2. การเลอื กวิธกี ารแก้ปญั หาท่ี ปัญหาปญั หาโดย ปญั หาปัญหาโดย ทกุ คนยอมรบั ปราศจากการใช้ ปราศจากการใช้ 3. การแสดงการแก้ปญั หาทีพ่ บ ความรุนแรงเมอ่ื มีผู้ ความรุนแรงด้วย ระหว่างทำกจิ กรรม ช้แี นะ ตนเอง พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาส่ือสารได้เหมาะสมกบั วยั สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรียนรรู้ ายปี ตวั บง่ ช้ี ช้นั อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๙.๑ สนทนาโต้ตอบ ๙.๑.๑ ฟังผู้อื่นพูด ๙.๑.๑ ฟังผู้อื่นพูด 1. การฟงั เพลง นทิ าน คำคล้อง 1. การสนทนา/เลา่ เรื่อง และเลา่ เรอ่ื งใหผ้ ู้อืน่ จนจบและสนทนา จนจบและสนทนา จอง บทร้อยกรองหรือเรอ่ื งราว 2. มารยาทในการฟัง เขา้ ใจ โต้ตอบสอดคล้องกับ โตต้ อบอย่างตอ่ เนอื่ ง ต่างๆ เชื่อมโยงกับเรื่องท่ี 2. การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมใน เรอื่ งที่ฟงั ฟัง การพดู 3. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 4. การมสี ว่ นรว่ มในการใหข้ อ้ มลู ๙.๑.๒ เล่าเรื่องเป็น ๙ . ๓ . ๒ เ ล ่ า เ ป็ น 1. ก า ร ฟ ั ง เ พ ล ง น ิ ท า น 1. การสนทนา /เลา่ เรอ่ื ง ป ร ะ โ ย ค อ ย ่ า ง เรื่องราวตอ่ เนอื่ งได้ คำคล้องจอง บทร้อยกรองหรือ 2. มารยาทในการฟงั ตอ่ เน่ือง เรื่องราวต่างๆ ๙.๒ เขียนภาพและ ๙.๒.๑ อ่านภาพ ๙.๒.๑ อ่านภาพ 1. การอา่ นในหลายรปู แบบ ผ่าน 1. ภาพ สญั ลักษณ์ เครอื่ งหมาย และ สัญลักษณไ์ ด้ สญั ลักษณ์ คำ พร้อม สัญลักษณ์ คำ ด้วย ประสบการณท์ ีส่ ่อื ความหมายต่อเด็ก คำตา่ งๆท่ีพบในชีวิตประจำวนั และใน ทั้งชี้หรือกวาดตา การชี้หรือกวาดตา 2. อา่ นภาพหรอื สัญลักษณ์จาก สภาพแวดลอ้ ม มองข้อความตาม จุดเริ่มต้นและจุดจบ หนังสือนิทาน/เรื่องราวที่สนใจ 2. ความหมายของภาพ สัญลกั ษณ์ บรรทัด ของขอ้ ความ 3. การอา่ นนิทานและเล่าเรอื่ งดว้ ย เครอื่ งหมาย และคำตา่ งๆทีพ่ บใน เสยี งทีห่ ลากหลาย ชวี ิตประจำวันและในสภาพแวดล้อม ๙.๒.๒ เขียนคล้าย ๙.๒.๒ เขียนชื่อของ ตัวอักษร ตนเองตามแบบ 1. การเขียนในหลายรูปแบบผา่ น 1. การเขยี นชอื่ ตนเองในกิจวตั ร เขียนข้อความด้วย ประสบการณ์ที่สอ่ื ความหมายตอ่ เด็ก ประจำวนั ในชน้ั เรียน เชน่ ลงช่อื มา วธิ ีคดิ ขึน้ เอง เขียนภาพ เขยี นขีดเขย่ี เขยี นคลา้ ย เรยี น เขียนชอ่ื ในผลงาน ตัวอกั ษร เขียนเหมอื นสัญลกั ษณ์ 2. การเขยี นคำ/ข้อความตามความ เขียนช่อื ตนเอง สนใจ

พฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดทเ่ี ปน็ พื้นฐานในการเรียนรู้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ตวั บง่ ช้ี ชั้น อ.๒ ซั้น อ.๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๑๐.๑ มีความสามารถใน ๑๐.๑.๑ บอก ๑๐.๑.๑ บอก 1. การใชก้ ลา้ มเน้ือเล็ก 1. ประสาทสมั ผสั ทัง้ 5 ความคดิ รวบยอด ลักษณะและ ลกั ษณะ 2. การเล่นเคร่อื งเล่นสัมผัส ส่วนประกอบของส่งิ สว่ นประกอบ 3. การสังเกตสิ่งตา่ งๆ โดยใช้ ตา่ งๆ จากการ เปล่ยี นแปลง หรอื ประสาทสมั ผัสดว้ ยการมอง ฟงั สงั เกตโดยใช้ ความสมั พันธข์ องสงิ่ สมั ผสั ชมิ รสและดมกลิ่นอย่าง ประสาทสัมผัส ตา่ ง ๆ จากการ เหมาะสม สงั เกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส ๑๐.๑.๒ จับคแู่ ละ ๑๐.๑.๒ จบั คูแ่ ละ 1. การสงั เกตส่งิ ตา่ งๆ โดยใช้ ๑. ประสาทสมั ผสั ทัง้ ๕ เปรยี บเทยี บความ เปรียบเทยี บความ ประสาทสมั ผสั ด้วยการมอง ฟงั ๒. การเปรยี บเทยี บ แตกต่างหรอื ความ แตกต่างหรอื ความ สมั ผสั ชมิ รสและดมกลิ่นอย่าง ๓. การจดั หมวดหมู่ เหมือนของส่งิ ต่างๆ เหมอื นของสิง่ ตา่ งๆ เหมาะสม ๔. การเรยี งลำดับ โดยใชล้ กั ษณะที่ โดยใชล้ ักษณะท่ี 2. การจำแนกประเภท การจดั ๕. การแสดงตำแหนง่ , ทิศทาง สงั เกตพบเพยี ง สงั เกตพบ ๒ หมวดหมขู่ องสงิ่ ตา่ งๆ ๖. จำนวน ๑ - ๒๐ ลักษณะเดียว ลักษณะข้ึนไป อย่างมีกฎเกณฑ์ 3. การอธบิ ายเก่ยี วกับสิง่ ของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธ์ ของสิง่ ต่าง ๆ ๑๐.๑.๓ จําแนก ๑๐.๑.๓ จาํ แนก 1. การจำแนกประเภท การจัดหมว๑ด. ประสาทสมั ผสั ทง้ั ๕ และจัดกลมุ่ ตาม และจดั กลุ่มตาม หมขู่ องสง่ิ ต่างๆ อย่างมีกฎเกณฑ์ ๒. การเปรยี บเทยี บ ลักษณะ โดยใช้ ลกั ษณะ โดยใช้ ๒ ๓. การจดั หมวดหมู่ อย่างนอ้ ย ๑ ลักษณะเป็นเกณฑ์ ๔. การเรียงลำดับ ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ ๕. การแสดงตำแหน่ง, ทศิ ทาง ๖. จำนวน ๑ - ๒๐ ๑๐.๑.๔ เรียงลำดับ ๑๐.๑.๔ เรยี งลำดับ 1. การพูดอธบิ ายเกี่ยวกับ 1. การเรียงลำดับกจิ กรรมหรือ สิ่งของหรือ สิ่งของหรอื สง่ิ ของ เหตุการณ์ และ เหตกุ ารณต์ ามเวลา เหตกุ ารณ์อย่างนอ้ ย เหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย ความสมั พนั ธข์ อง ๔ ลำดบั ๕ ลำดบั สิง่ ตา่ งๆ 2. การเรยี งลำดบั กิจกรรมหรอื เหตุการณ์ตามเวลา

พัฒนาการด้านสตปิ ัญญา มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดท่เี ปน็ พนื้ ฐานในการเรยี นรู้ (ต่อ) สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรียนรู้รายปี ตวั บ่งชี้ ช้ัน อ.๒ ซ้ัน อ.๓ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ๑๐.๒ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) มคี วามสามารถ ในการคิดเชิง ๑๐.๒.๑ ระบสุ าเหตุ ๑๐.๒.๑ อธิบาย 1. การแสดงความคดิ ความรสู้ กึ ๑. การแสดงความคดิ เหน็ เหตุผล หรือผลทเี่ กดิ ขนึ้ ใน เชอื่ มโยงสาเหตแุ ละ และความตอ้ งการดว้ ยคำพูด ๒. การรวบรวมข้อมลู ง่าย ๆ ๑๐.๓ มคี วามสามารถ เหตุการณ์หรือการ ผลท่เี กดิ ขน้ึ ใน 2. การพยากรณ/์ คาดคะเนสงิ่ ท่ี ในการคิดแกป้ ญั หา และตัดสนิ ใจ กระทำเม่อื มีผชู้ แี้ นะ เหตุการณ์หรอื การ คาดหวังว่าจะเกดิ ขนึ้ อย่างมี กระทำด้วยตนเอง เหตุผล 3. การลงความคดิ เหน็ จาก ข้อมูลอยา่ งมเี หตุผล 4. การลงขอ้ สรุปสงิ่ ท่คี น้ พบ หรอื สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ ๑๐.๒.๒ คาดเดา ๑๐.๒.๒ คาดคะเน 1. การสงั เกตส่งิ ต่างๆ โดยใช้ ๑. ความแตกต่างของส่งิ ต่าง ๆ หรือคาดคะเนสงิ่ ที่ ส่ิงที่อาจจะเกิดข้ึน อาจจะเกิดขน้ึ หรือมี และมสี ว่ นร่วมใน ประสาทสัมผสั ดว้ ยการมอง ฟงั รอบตวั ฉัน สว่ นร่วมในการลง การลงความเห็นจาก ความเห็นจากข้อมลู ขอ้ มูลอยา่ งมีเหตผุ ล สัมผสั ชมิ รสและดมกล่ินอย่าง ๒. การทดลองในเรอ่ื งทส่ี นใจ เหมาะสม 2. การจำแนกประเภท การจดั หมวดหมขู่ องสิง่ ตา่ งๆ อยา่ งมกี ฎเกณฑ์ 3. การพยากรณ/์ คาดคะเนส่ิงท่ี คาดหวงั ว่าจะเกดิ ข้นึ อยา่ งมี เหตผุ ล 4. การลงความคดิ เหน็ จาก ข้อมูลอย่างมเี หตผุ ล 5. การลงข้อสรุปส่ิงท่ีค้นพบ หรือสง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ 6. การแสดงการแกป้ ญั หาท่ีพบ ระหวา่ งทำกจิ กรรม 7. การวางแผนและปฏิบัตติ าม แผนที่ต้งั ใจไว้ ๑๐.๓.๑ ตัดสินใน ๑๐.๓.๑ ตดั สินใน 1. การทำกจิ กรรม (รายบุคคล ๑. ความแตกตา่ งของสงิ่ ตา่ ง ๆ เรอื่ งงา่ ยๆ และเรม่ิ เรื่องงา่ ยๆ และ เรียนรผู้ ลท่ีเกดิ ขนึ้ ยอมรบั ผลท่เี กดิ ขน้ึ กล่มุ เลก็ กลมุ่ ใหญ)่ รอบตวั ฉัน ๑๐.๓.๒ ระบุปญั หา ๑๐.๓.๒ ระบปุ ญั หา 2. การคดิ รเิ รม่ิ ตดั สนิ ใจ ๒. การทดลองในเรื่องที่สนใจ แก้ปญั หาโดยลองผดิ สร้างทางเลือกและ ลองถกู เลอื กวธิ ีแกป้ ญั หา แกป้ ัญหารว่ มกัน 1. การมสี ว่ นรว่ มในการ ๑. ความแตกตา่ งของสง่ิ ตา่ ง ๆ แก้ปัญหาความขดั แย้ง รอบตวั ฉัน 2. การเลอื กวิธกี ารแกป้ ญั หาท่ี ๒. การทดลองในเร่ืองทส่ี นใจ ทกุ คนยอมรับ

พฒั นาการด้านสติปญั ญา มาตรฐานที่ ๑๑ มจี นิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ตวั บ่งช้ี ชน้ั อ.๒ ซน้ั อ.๓ ประสบการณ์สำคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๑๑.๑ ทำงานศลิ ปะ ๑๑.๑.๑ สรา้ ง ๑๑.๑.๑ สรา้ ง ๑. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ 1. วิธีการใชเ้ ครอื่ งมือ เคร่อื งใช้ ตามจินตนาการ ผลงานศลิ ปะเพือ่ ผลงานศลิ ปะเพอ่ื ผา่ นศิลปะ ในการทำงานศิลปะ อยา่ งถูกวิธี และความคิด สอ่ื สารความคดิ สื่อสารความคดิ ๒. การเขยี นและการเลน่ กับสี และปลอดภัย เช่น กรรไกร สรา้ งสรรค์ ความรสู้ กึ ของตนเอง ความรสู้ กึ ของตนเอง ๓. การปน้ั โดยมีการดดั แปลง โดยมีการดดั แปลง ๔. การประดษิ ฐส์ ิ่งตา่ ง ๆ ด้วย และแปลกใหมจ่ าก และแปลกใหมจ่ าก เศษวสั ดุ เดิม หรอื มี เดิม และมี ๕. การทำงานศลิ ปะทีน่ ำวัสดุ รายละเอยี ดเพิ่มขึน้ รายละเอยี ดเพิม่ ขน้ึ หรือส่งิ ของ เครอื่ งใชท้ ีใ่ ชแ้ ล้วมา ใชซ้ ำ้ หรอื แปรรูปแลว้ นำกลับมา ใช้ใหม่ ๖. การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉีก การตดั การปะ และการ ร้อยวัสดุ ๗. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ ผ่านงานศิลปะ ๘. การสร้างสรรคช์ ิน้ งานโดยใช้ รปู รา่ ง รปู ทรงจากวสั ดุท่ี หลากหลาย ๑๑.๒ แสดงทา่ ทาง ๑๑.๒.๑ เคลอื่ นไหว ๑๑.๒.๑ เคลือ่ นไหว ๑. การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ ๑. การเคลื่อนไหวร่างกาย / เคลือ่ นไหวตาม ท่าทางเพอื่ ส่ือสาร ทา่ ทางเพ่อื ส่อื สาร ๒. การเคล่ือนไหวเคลอื่ นท่ี ทศิ ทางระดบั และพน้ื ที่ จินตนาการอย่าง ความคดิ ความรูส้ กึ ความคดิ ความรู้สึก ๓. การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดุ ๒. การแสดงท่าทางตา่ ง ๆ ตาม สร้างสรรค์ ของตนเองอย่าง ของตนเองอย่าง อปุ กรณ์ ความคดิ ของตนเอง หลากหลายหรอื หลากหลายและ ๔. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ แปลกใหม่ แปลกใหม่ ผา่ นภาษา ท่าทาง การ เคลอ่ื นไหว และศลิ ปะ ๕. เคลื่อนไหวโดยควบคมุ ตนเอง ไปในทิศทางระดับและพ้ืนท่ี ๖. การเคลื่อนไหวตาม เสียงเพลง/ดนตรี ๗. การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดงปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบ เสียงดนตรี

พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานท่ี ๑๒ มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรูไ้ ด้เหมาะสมตามวัย สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรรู้ ายปี ตัวบง่ ชี้ ชน้ั อ.๒ ซัน้ อ.๓ ประสบการณ์สำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๔ - ๕ ปี ) (๕ – ๖ ปี ) ๑๒.๑ มีเจตคตทิ ี่ดี ๑๒.๑.๑ สนใจ ๑๒.๑.๑ สนใจหยบิ 1. การฟงั เพลง นิทาน คำคล้อง 1. กิจกรรมท่ีเกี่ยวกับการอา่ น ต่อการเรยี นรู้ ซกั ถามเก่ยี วกับ หนังสอื มาอ่านและ จอง บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราว เช่น การฟงั /อา่ นนิทานหรือ สัญลักษณ์หรอื เขียนสอ่ื ความคิด ตา่ งๆ เร่ืองราวต่างๆ การพดู /อ่านคำ ตวั หนงั สือ ด้วยตนเองเปน็ 2. การอ่านในหลายรปู แบบ คล้องจอง ท่ีพบเหน็ ประจำอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ผ่านประสบการณท์ สี่ ือ่ การฟงั /พดู /สนทนาขา่ วและ ความหมายตอ่ เด็กอ่านภาพหรอื เหตุการณ์ สัญลักษณจ์ ากหนงั สอื นทิ าน/ 2. การบนั ทึกขอ้ มลู เรอื่ งราวทส่ี นใจ 3. การอา่ นนิทานและเลา่ เร่ือง ดว้ ยเสยี งท่หี ลากหลาย ๑๒.๑.๒ ๑๒.๑.๒ 1. การเลน่ อิสระ 1. กจิ กรรมต่างๆในหอ้ งเรียน/ กระตือรอื ร้นในการ กระตือรือร้นในการ 2. การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย นอกหอ้ งเรยี น เข้ารว่ มกจิ กรรม เขา้ ร่วมกิจกรรม กลุม่ ใหญ่ 2. กจิ กรรมต่างๆใน ต้งั แตต่ ้นจนจบ 3. การเล่นในหอ้ งเรยี น ชีวิตประจำวัน (มุมประสบการณ/์ มุมเลน่ ตา่ ง ๆ เชน่ มุมบล็อก มุมบา้ น) 4. การเล่นนอกหอ้ งเรยี น (การ เล่นนำ้ เลน่ ทราย) 5. เจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนรู้และ การแสวงหาความรู้ 6. การม่งุ ม่ันในการทำกิจกรรม มีสมาธจิ ดจอ่ ๑๒.๒ ๑๒.๒.๑ ใช้ประโยค ๑๒.๒.๑ ใชป้ ระโยค 1. การแสดงความคดิ ความรสู้ ึก 1. คำถาม ลักษณะของคำถาม มีความสามารถ คำถามว่า “ท่ีไหน” คำถามว่า “เมือ่ ไร” และความตอ้ งการดว้ ยคำพดู และการใชค้ ำถามเพ่อื ให้ได้ ในการแสวงหา “ทำไม” ในการ “อย่างไร” ในการ 2. เจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้และ คำตอบทีต่ ้องการ เช่น ใคร ความรู้ คน้ หาคำตอบ คน้ หาคำตอบ การแสวงหาความรู้ อะไร ทไ่ี หน อย่างไร ทำไม 3. การสบื เสาะหาความรู้ โดย เทา่ ไร เมือ่ ไร การต้งั คำถาม การเก็บรวบรวม ขอ้ มลู การสร้างคำอธบิ ายเพ่ือ ตอบคำถาม การเชื่อมโยง คำอธบิ ายของตนเองกับผอู้ นื่ และการสื่อสารนำเสนอความคดิ หรอื สง่ิ ทีพ่ บ

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั ชั้นอนบุ าลปีที่ 3/1

การวิเคราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจัดประสบการณต์ ามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560

เกยี รติบตั รที่เก่ยี วข้องในการสรา้ งและหรอื พฒั นาหลักสตู ร




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook