รายงานผล การจัดการเรียนรู รายวิชาเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ชั้นมัธยมศึกษาปที่1 นางสาวหฤทัย ไชยวุฒิรหัสนักศึกษา60181550122 ครูผูสอน(นักศึกษาฝกประสบการณวิชาชีพครู) สาขาวิชาคอมพิวเตอรคณะครุศาสตร มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
รายงานผลการจดั การเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 โดย นางสาวหฤทยั ไชยวุฒิ รหสั นกั ศึกษา 60181550122 สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏลำปาง โรงเรียนแม่ทะวิทยา สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาลำปาง ลำพนู เขต 35
รายงานผลการจดั การเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 โดย นางสาวหฤทยั ไชยวฒุ ิ รหสั นกั ศึกษา 60181550122 สาขาวิชาคอมพวิ เตอร์ คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏลำปาง โรงเรียนแม่ทะวิทยา สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาลำปาง ลำพนู เขต 35
รายงานผลการจดั การเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) 1. สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 จำนวน 2 หอ้ ง โรงเรยี น แมท่ ะวิทยา 2. ผ้รู ายงาน นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ 3. ปดี ำเนินการ ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 4. ผลการวิเคราะห์ผู้เรยี น 4.1 คณุ ลักษณะ/จำนวนนักเรียนโดยภาพรวม นักเรียนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 มีจำนวนนักเรียนท้ังหมด 42 คน โดยในระหว่างเรียนใน รูปแบบปกติ On – Site นักเรียนร้อยละ 80 มีความกระตือรือร้น ใส่ใจในการเรียน อีกทั้งนักเรียน สามารถอ่านออกเขียนได้และเข้าใจเนื้อหาต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เพราะนักเรียนมีความมุ่งมั่นตั้งใจใน การทำงาน เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้และรับคำสั่งจากครูผู้สอน นักเรียนสามารถปฏิบัติตามได้อย่างเห็นได้ ชัด อกี ทงั้ ยังส่งงานได้ตรงตามเวลาที่ได้รับมอบหมาย สว่ นนักเรียนร้อยละ 20 นน้ั นักเรียนบางส่วนยังไม่ สามารถที่จะทำงานส่งตามมอบหมายได้ตรงตามที่กำหนด เขียนหนังสือไม่ถูกต้องตามหลักภาษา หรือ แม้แต่พยัญชนะไทย และทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยแข็งแรงเนื่องจากนักเรียนไม่ค่อยได้ใช้ในการ ปฏิบตั ิมาก่อน จึงทำให้นักเรียนทำงานได้อย่างล้าช้า ไมว่ า่ จะในดา้ นการเขยี นหรือการใช้คอมพวิ เตอร์ จึง ทำให้นกั เรยี นไม่มีพน้ื ฐานและขาดการเรียนรไู้ ด้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ทางโรงเรียน ได้จัดการเรียนการสอนได้รูปแบบ on-site ผสมกับ On–line เนื่องจากการสํารวจความพร้อมของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ยังไม่มีความพร้อมในการเรียน โดยนักเรียนร้อยละ 80 มีความ กระตือรือร้นในศึกษาและเรียนทางออนไลน์ ใส่ใจในการทำงานที่ครูผู้สอนมอบหมายให้และส่งงาน ครบถ้วน ส่วนนักเรียนร้อยละ 20 นั้นนักเรียนบางส่วนไม่เข้าเรียน ผ่านทางออนไลน์ อาจเป็นเพราะ นกั เรยี นไม่มคี วามพรอ้ มทางดา้ นเทคโนโลยี ซ่งึ ทำใหน้ กั เรยี นในสว่ นนที้ ำงานได้แตไ่ มถ่ ูกต้อง 100 %
4.2 ความตอ้ งการและการมสี ่วนร่วมของนักเรียน นักเรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมในห้องเรียนเป็นอย่างดี เช่น การเรียนการสอนผ่าน หนงั สอื และสอ่ื มัลติมิเดียและการทำกจิ กรรมแบบทดสอบผ่านทางKahoot นกั เรยี นสามารถทำได้เต็มที่ และนักเรียนร้อยละ 80 ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเป็นกิจกรรมประกอบการเรียนการสอนที่มี ความสนุก ตื่นเต้น ทำให้นักเรียนกล้าคิด กล้า ตัดสินใจ ประโยชน์ของแบบทดสอบKahoot คือช่วยใน การฝึกไหวพริบ และทักษะการวิเคราะห์แยกแยะ นักเรียนจะได้ฝึกคิดแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วเพราะ แบบทดสอบKahoot ทำให้นักเรียนได้ฝึกใช้ไหวพริบในการอ่านและคิดวิเคราะห์ และเลือกในคำตอบที่ ถูกต้องในเวลาที่ถูกกำหนดไว้และช่วยให้นักเรียนฝึกคิดอย่างรอบคอบ ดังนั้นครูจึงจัดกิจกรรมที่เน้นให้ นักเรียนได้ลองคิดตัดสินใจ เพื่อให้นักเรียนได้รับความสนุกสนานพร้อมกับการเรียนรู้ในเนื้อหาของ บทเรียน และสง่ เสรมิ ทกั ษะความจำของนักเรียนให้ดีมากย่ิงข้ึน 5. รูปแบบเทคนิค กระบวนการ การบรู ณาการการจดั การเรียนรโู้ ดยสรุป 5.1 การให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมแบบทดสอบ Kahoot เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทักษะ กระบวนการคิด ฝึกทักษะการสังเกต การฝกึ ไหวพรบิ และทำให้นกั เรยี นมสี มาธิและความจำดีมากยิง่ ขนึ้ 5.2 การให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติและฝึกทักษะการคิด ประกอบกับการเรียน การสอนในเรอื่ งการใชง้ านคอมพิวเตอรเ์ บื้องต้น เชน่ การลงมอื ปฏบิ ัติเครอื่ งคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง 5.3 การใช้กิจกรรมเพื่อให้นักเรียนนำสิ่งที่ได้เรียนรู้และได้ลงมือปฏิบัติ มาต่อยอดในบทเรียน หรือการเรียนการสอนในอนาคต และยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิด การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชนั้ เรียน ซึ่งจะทำให้นักเรียนเกิดความเพลิดเพลินสนุกสนานในการทำแบบทดสอบในการประกอบการ เรียนการสอน 5.4 การใช้สื่อประกอบการสอน เช่น การเรียนการสอนผ่าสื่อมัลติมิเดีย เพื่อทำให้นักเรียนมี ความเข้าใจและใส่ใจการเรียนมากกว่าการเรียนปกติ และการทำแบบทดสอบ Kahoot เพื่อให้นักเรียน ได้ฝึกทักษะการคิดและจดจำ และการใช้เพลงประกอบกับการเรียนการสอน เพื่อช่วยนักเรยี นในการจำ จดได้ง่ายย่ิงขนึ้ 5.6 การบูรณาการกับสาระวิชาอื่น เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาอื่นๆ โดยการใช้ทักษะกระบวนการคิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน จึงสามารถทำให้นักเรียนทำ ทกั ษะเหลา่ นไ้ี ปปรบั ใช้ในการเรยี นการสอนและการใช้ชวี ิตประจำวนั ได้
6. ส่ือ / นวตั กรรม / แหล่งเรยี นรู้ 6.1 แบบทดสอบ Kahoot 6.2 สอ่ื การการเรียนการสอนมลั ตมิ ิเดยี 6.3 หนงั สอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ม.1 6.4การลงมือปฏบิ ัติ เช่น การทำงานผ่านคอมพวิ เตอรด์ ้วยตนเอง 7. ผลทีเ่ กิดกับนกั เรยี น (หลักฐานอ้างองิ / เกณฑ์การวัดประเมนิ ) 7.1 ผลการเรียนรู้ 7.1.1 นักเรยี นท่ีเรยี นในรายวิชาท่ีสอน = 42 คน 7.1.2 นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ความรู้ความเข้าใจขนั้ ต่ำ 100% = 42 คน 7.2 นักเรียนมสี มรรถนะสำคัญของผู้เรยี นในแตล่ ะด้านจัดลำดับคณุ ภาพดงั นี้ รายการ ระดบั คณุ ภาพ รายการ/อนั ดับคณุ ภาพ 43 2 1 หมายเหตุ ดีมาก ดี ปาน ปรบั ปรุง กลาง 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 19 23 0 0 2. ความสามารถในการคิด 19 23 0 0 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5 37 0 0 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 9 33 9 0 5. ความสามารถใช้เทคโนโลยี 16 26 0 0 รวม 68 142 0 0
7.3 นักเรียนมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ในแต่ละด้านจัดลำดับคณุ ภาพดังน้ี รายการ ระดบั คณุ ภาพ รายการ/อันดบั คณุ ภาพ 4 3 2 1 หมายเหตุ ดีมาก ดี ปาน ปรบั ปรุง กลาง 1. รกั ชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ 18 24 0 0 2. ซอ่ื สตั ย์สุจรติ 16 26 0 0 3. มวี ินยั 13 29 0 0 4. ใฝ่เรยี นรู้ 17 25 0 0 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 31 11 0 0 6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 19 23 0 0 7. รกั ความเปน็ ไทย 12 30 0 0 8. มจี ิตสาธารณะ 20 22 0 0 รวม 146 190 0 0 7.4 ความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ รายการ ระดับคุณภาพ รายการ/อนั ดบั คณุ ภาพ 4 3 2 1 หมาย ดมี าก ดี ปาน ปรบั ปรุง เหตุ กลาง 1. เนอ้ื หาความรู้ 21 18 3 0 2. กจิ กรรมมคี วามหลากหลาย 16 26 0 0 3. สือ่ มคี ณุ ภาพ 28 9 5 0 4. การวดั และประเมินผลมีความชดั เจนเหมาะสม 25 17 0 0 5. ผลงานที่ปฏบิ ัตมิ ีความเหมาะสม 30 8 4 0 6. ให้นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในกระบวนการการ 34 6 2 0 เรียนรู้ 7. สามารถนำไปประยุกต์ใชไ้ ด้ 27 13 2 0 รวม 181 97 16 0
**หมายเหตุ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) สง่ ผลให้นักเรยี นไม่สามารถมาเรยี นในรูปแบบปกติได้ ซ่งึ ทำใหก้ ารส่งงานลา่ ช้าและไมค่ รบล้วน จึงทำให้ การสรปุ น้ีไมส่ มบรู ณ์ 100 % ** 8. อุปสรรคปัญหาและข้อจำกัดในการจัดกระบวนการเรยี นรู้ เนื่องจากนกั เรียนคุยกนั สง่ เสียงดงั ในชน้ั เรียนจงึ ทำให้นักเรยี นบางกลุ่มไมไ่ ด้ยนิ ในส่ิงท่ีผสู้ อนกำลงั อธิบาย จึงมกี ารถามคำถามซ้ำๆ และไม่เขา้ ใจในเนื้อหาและงานท่ีคูมอบหมายให้ทำ และสถานการณก์ าร แพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ทำใหก้ ารจดั การเรยี นรไู้ ด้ไม่เตม็ ตามรปู แบบ การเรียนการสอนและทำใหผ้ เู้ รียนอาจไดร้ บั ความรู้ไม่เตม็ ท่ี การปรับแกต้ ามสภาพจริง การคยุ กันเสียงดงั ในชนั้ เรียนในเวลาเรียนครไู ด้กลา่ วตักเตือนและสรา้ งขอ้ ตกลงกับนักเรยี นวา่ ให้ต้ังใจ ทำงานก่อนและไม่มีเสียงคุยกันเลย และถ้าเพื่อนในห้องไม่มีใครทำงานเสร็จแม้แต่ 1 คน เพื่อนทั้งห้อง จะไม่มีสิทธิ์ได้เล่นแบบทดสอบจาก Kahoot หรือเปิดคอมพิวเอตร์เลย แต่หลังจากทำงานเสร็จหรือมี เวลาเหลือท้ายคาบจะให้ใช้งานคอมพิวเตอร์โดยการให้ฝึกทักษะในการเรียนท่ีรียนผ่านมาจาก Kahoot เพอ่ื ฝกึ ทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ แยกแยะ ไหวพรบิ ในการอ่านแล้วตอบ ประกอบกับใบความรู้ให้นักเรียน ในชว่ งสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) 9. ข้อคน้ พบ และข้อเสนอแนะท่ีจะนำไปสูก่ ารพฒั นาการเรียนการสอน ข้อค้นพบและข้อเสนอแนะที่จะนำไปสู่การพัฒนาการเรียนการสอน คือ นักเรียนส่วนใหญ่จะชอบ การเรียนรู้ที่น่าสนใจและการทำแบบทดสอบที่ไม่มีแต่เพียวตัวหนังสือเท่านั้น ถ้ามีรูปภาพหรือเสียง ประกอบและยังมีการกำหนดเวลาการแข่งขันกันจะสามารถทำให้นกั เรียนจะตั้งใจเรียนและใจจดจอ่ กบั การเรียนและเข้าใจมากย่ิงข้นึ การใช้ Kahoot ควรใช้iรูปภาพและเน้ือหาที่สอดคล้องกันเพื่อง่ายต่อการ เรียนรู้และจดจำสำหรับนักเรียน การใช้รูปภาพหรือสีต่างๆ ต้องชัดเจนไม่งั้นอาจจะทำให้นกั เรียนบอก ภาพไม่ชัดเจนและไม่เข้าใจรูปภาพและเน้อื หานนั้ ได้ 10. ความพงึ พอใจของครูผู้สอน จากประสบการณ์การสอน มคี วามพึงพอใจต่อผเู้ รยี นในระดับทดี่ ี นักเรยี นสว่ นใหญใ่ ห้ความร่วมมือ และการตอบสนองในการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมในชั้นเรียนเป็นอย่างดี แม้จะมีนักเรียน บางส่วนที่ไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นต่องานที่ได้รับมอบหมายมากนัก แต่เพื่อนๆร่วมห้องของนักเรียน ตา่ งก็ให้ความช่วยเหลอื เกือ้ กูลในการทำงานและตักเตอื นเพ่ือนเป็นอย่างดี
ภาคผนวก
ตวั อยา่ งสื่อนวตั กรรม
ส่ือนวตั กรรม ตวั อย่าง สื่อการจดั การเรียนรู้
ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอน
ตวั อยา่ ง ส่อื แบบทดสอบจาก Kahoot
ตวั อย่างงานของนกั เรยี น
ตวั อยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้
โครงสรา้ งรายวิชา โครงสรา้ งรายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ระดบั มธั ยมศึกษา ชั้น ม.1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ ลำดับท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนัก คะแนน ผลการเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) 8 เรอ่ื งแนวคิดเชงิ ว 4.2 ม.1/1 - แนวคิดเชิงนามธรรม 4 1. นามธรรม 8 - การคดั เลอื กคณุ สมบัตใิ น การแก้ปัญหา 20 เรือ่ งการแก้ปัญหา ว 4.2 ม.1/1 - ขั้นตอนการแกป้ ัญหา 4 2. - การเขยี นอัลกอรทิ ึมดว้ ย ภาษาธรรมชาติ เรื่องการโปรแกรม ว 4.2 ม.1/2 - ภาษาคอมพิวเตอร์ 10 3. ด้วยภาษาไพทอน - หลกั การเขียนโปรแกรม และการประกาศตวั แปร - ชนดิ ข้อมูลพ้ืนฐานและ การแปลงชนดิ ข้อมลู ภาษา ไพทอน - การทำงานแบบวนซ้ำ และการทำงานแบบ ทางเลอื ก - ฝกึ เขยี นโปรแกรมจาก อัลกอริทึม
4. เรือ่ งการโปรแกรม ว 4.2 ม.1/2 - รู้จักและตดิ ตั้งโปรแกรม 8 16 ด้วย Scratch Scratch 8 16 เร่ืองข้อมลู และการ ว 4.2 ม.1/3 - เรยี นรู้คำสั่งเคล่อื นท่ี 5. ประมวลผล (เดินเล่นกนั เถอะ) 6 12 38 80 เรื่องการใช้ ว 4.2 ม.1/4 - เรยี นรู้คำสั่งรูปร่าง 1 10 6 เทคโนโลยี (สนทนาพาเพลนิ ) 1 10 รวม 40 100 สารสนเทศอย่าง สอบกลางภาค - เรียนรคู้ ำส่ังเสยี ง (วง ปลอดภยั สอบปลายภาค ดนตรขี องฉนั ) รวมตลอดปี - ข้อมลู และการรวบรวม ข้อมูล - การประมวลผลขอ้ มูล และการสรา้ งทางเลอื กเพือ่ ตัดสนิ ใจ - ซอฟตแ์ วร์จดั การข้อมูล - การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั - การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ
คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาแนวคิดเชิงนามธรรม การคัดเลือกคุณลักษณะที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหา ขั้นตอนการ แก้ปัญหา การเขียนรหัสจำลองและผังงาน การเขียนออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย ที่มีการใช้ งานตัวแปรเงื่อนไข และการวนซ้ำ เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ การรวบรวมข้อมูล ปฐมภูมิ การประมวลผลข้อมลู การสรา้ งทางเลือกและประเมนิ ผลเพ่ือตัดสินใจซอฟต์แวร์และบริการบน อนิ เทอรเ์ นต็ ท่ใี ช้ในการจัดการข้อมลู แนวทางการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย การจัดการอัต ลักษณ์ การพิจารณาความเหมาะสมของเนื้อหา ข้อตกลงและข้อกำหนดการใช้สื่อและแหล่งข้อมูลนำ แนวคิดเชิงนามธรรมและขั้นตอนการแก้ปัญหาไปประยุกต์ใชใ้ นการเขยี นโปรแกรม หรือ การแก้ปัญหา ในชีวิตจริง รวบรวมข้อมูลและสร้างทางเลือก ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และไม่สร้างความเสียหาย ให้แกผ่ อู้ ่นื การเก็บคะแนน คะแนนระหวา่ งเรยี น 80 คะแนน คะแนนกลางภาค 10 คะแนน คะแนนปลายภาค 10 คะแนน รวม 100 คะแนน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ เรื่องแนวคิดเชงิ นามธรรม รหัส – ชอ่ื รายวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 4 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ โรงเรยี นแม่ทะวิทยา มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวิตจริงอย่างเป็น ขนั้ ตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้การทํางาน และการ แกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ ว 4.2 ม.1/1 ออกแบบอัลกอรทิ มึ ทีใ่ ชแ้ นวคิดเชิงนามธรรมเพือ่ แก้ปญั หาหรืออธบิ ายการทำงาน ท่ีพบในชวี ิตจริง สาระสำคญั การออกแบบการแก้ปัญหาโดยนำแนวคดิ เชิงนามธรรมมาประยุกต์ใช้ จะทำให้การแกป้ ัญหา มี ประสิทธภิ าพมากขึน้ ในบทนี้จะกลา่ วถึงกระบวนการในการพจิ ารณารายละเอยี ดของปัญหา ซึง่ จะ นำไปสวู่ ิธกี ารแก้ปัญหา สาระการเรียนรู้ - แนวคดิ เชงิ นามธรรม - การคัดเลอื กคณุ สมบัตใิ นการแกป้ ัญหา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกและอธบิ ายความหมายของแนวคดิ เชิงนามธรรมได้ 2. นกั เรียนสามารถยกตัวอยา่ งแนวคดิ เชิงนามธรรมได้ 3. นกั เรียนสามารถบอกการคดั เลอื กคุณสมบตั ใิ นการแก้ปญั หาได้ 4. นกั เรียนสามารถตรวจสอบการคดั เลอื กคณุ สมบัตใิ นการแก้ปญั หาได้
ทกั ษะกระบวนการ 1. นกั เรียนสามารถทำความเข้าใจปญั หาได้ 2. นกั เรียนสามารถวางแผนการแก้ปญั หาได้ 3. นกั เรยี นสามารถดำเนนิ การแกป้ ัญหาได้ 4. นกั เรยี นสามารถสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาได้ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มจี ิตสาธารณะ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง แนวคิดเชิงนามธรรม 2. ใบงานที่ 1.2 เร่ือง การคดั เลือกคุณลักษณะในการแกปญหา
การประเมินผล ดีมาก (4) ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (1) น้ำหนกั ประเด็นการประเมนิ 10 คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) 0-4 คะแนน คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 1.ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง 10 คะแนน 3 แนวคิดเชิงนามธรรม 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-10 คะแนน 3 2.ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง 19-20 การคัดเลือกคุณลักษณะ คะแนน 16-18 11-15 10 ในการแกปญหา คะแนน คะแนน แบบทดสอบ เร่ือง 16 แนวคิดเชิงนามธรรม รวม กิจกรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 - 2 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนและร่วมสนทนาเกยี่ วกับเร่ืองตา่ ง ๆเพอื่ สร้างความสมั พนั ธท์ ีด่ ี 2. ครแู จ้งรายละเอยี ดของเรื่องที่จะสอนในคาบและกิจกรรมที่จะทำในคาบ 3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง แนวคิดเชิงนามธรรม 3. ครูอธบิ ายความหมาย เรือ่ ง แนวคิดเชงิ นามธรรม 4. ครูให้นกั เรียนศึกษาหาความรู้ผ่านบทเรียนมลั ติมเี ดีย เร่ือง แนวคิดเชงิ นามธรรม 5. ครมู อบหมายใบงานที่ 1.1 เร่ือง แนวคดิ เชิงนามธรรม 6. ครสู ุม่ ให้นกั เรยี นออกมานำเสนอใบงานหนา้ ชน้ั เรียน 7. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเกย่ี วกับขอ้ สงสยั /เรื่องที่ไม่เข้าใจ 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้ทีเ่ รยี นในวนั นี้ ภาระงานของนกั เรียน 1. นกั เรียนมีส่วนร่วมในการอธบิ าย/ตอบปัญหา เร่ือง แนวคิดเชงิ นามธรรม 2. นกั เรียนทำใบงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 3. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการสรปุ องค์ความรทู้ ีเ่ รียนในวนั นี้ 4. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
ช่วั โมงท่ี 3 – 4 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี นและทำการเชค็ รายชื่อนักเรยี นก่อนเริม่ เรยี น 2. ครูสุ่มถามคำถามนกั เรียนเปน็ รายบคุ คลจากเนื้อหาในคาบแรก 3. ครแู จ้งรายละเอยี ดของเร่ืองท่ีจะสอนในคาบและกิจกรรมที่จะทำในคาบ 4. ครูอธิบายเนือ้ หา เร่อื ง การคัดเลอื กคุณลกั ษณะในการแกปญหา 5. ครูให้นกั เรียนศึกษาหาความรู้ผ่านบทเรียนมัลติมเี ดีย เร่ือง การคัดเลือกคุณลกั ษณะในการ แกปญหา 6. ครูมอบหมายใบงาน ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง การคัดเลือกคุณลกั ษณะในการแกปญหา โดยให้ นักเรียนทำเปน็ รายบุคคล 7. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมลู จากโจทยท์ ่กี ำหนดแล้วตอบคำถาม 8. ครูใหน้ ักเรยี นสรปุ ใบงานทไี่ ด้มอบหมาย 9. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซักถามเกย่ี วกับข้อสงสัย/เร่ืองท่ีไม่เข้าใจ 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ องคค์ วามร้ทู ่เี รยี นในวันนี้ ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรียนมีส่วนร่วมในการอธบิ าย/ตอบปญั หา เรื่อง การคัดเลอื กคุณลกั ษณะในการแกป ญหา 2. นกั เรียนทำใบงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 3. นักเรียนมีสว่ นร่วมในการสรุปองค์ความรทู้ ีเ่ รียนในวนั นี้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง แนวคดิ เชงิ นามธรรม กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ม.1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 หนว่ ย 1 เร่อื งแนวคิดเชิงนามธรรม วันท.่ี ... เดือน…พ.ศ....ใช้เวลา 2 ช่วั โมง/คาบ 1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด/ ผลการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคํานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมจี ริยธรรม มาตรฐาน ว 4.2 ม.1/1ออกแบบอัลกอริทึมท่ีใช้แนวคิดเชิงนามธรรม เพ่อื แก้ปัญหาหรืออธิบาย การทำงานทพี่ บในชีวิตจรงิ 2. สาระสำคัญ แนวคดิ เชงิ นามธรรม (abstract thinking หรอื abstraction)เป็นองค์ประกอบหน่ึงของแนวคิด เชิง คำนวณ (computational thinking) ซึ่งใช้กระบวนการคัดแยกคุณลักษณะที่สำคัญออกจาก รายละเอียด ปลีกย่อยในปัญหา หรืองานที่กำลังพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นและเพียงพอต่อ การแก้ปัญหา ในส่วนของรายละเอียดที่ไม่สำคัญ จะต้องตัดออกไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงและ สามารถนำมาใชใ้ นการแก้ปัญหาได้อยา่ งตรงจุด 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. นักเรยี นสามารถบอกและอธบิ ายความหมายของแนวคิดเชิงนามธรรมได้ 2. นักเรยี นสามารถยกตวั อยา่ งแนวคดิ เชิงนามธรรมได้ ด้านทักษะกระบวนการ 1. นักเรยี นสามารถทำความเขา้ ใจปญั หาได้ 2. นักเรียนสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ 3. นกั เรยี นสามารถดำเนนิ การแกป้ ัญหาได้ 4. นกั เรียนสามารถสรุปแนวทางการแกป้ ัญหาได้
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซือ่ สัตย์สจุ รติ 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. สาระการเรยี นรู้ - ความหมายของแนวคดิ เชิงนามธรรม - การฝกึ คดิ วิเคราะห์ โดยใชแ้ นวคดิ เชงิ นามธรรม 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น (10 นาท)ี 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรียนและร่วมสนทนาเกยี่ วกับเรื่องตา่ ง ๆเพ่อื สรา้ งความสัมพนั ธท์ ดี่ ี - ครูแนะนำตัวเองใหน้ ักเรียนรู้จกั กอ่ นและทำความรจู้ ักกบั นักเรียน โดยการใหน้ ักเรียน แนะนำตนเองเป็นรายบุคคลโดยบอกช่ือจริง ชื่อเลน่ และมาจากโรงเรียนเดิมชือ่ อะไร เป็นคนบา้ นไหน 2. ครูแจ้งรายละเอียดของเร่ืองท่ีจะสอนในคาบและกจิ กรรมท่ีจะทำในคาบ - ทำการแจง้ นักเรยี นวา่ เนอื้ หาทเี่ ราจะได้เรยี นมีท้ังหมด 6 บท แตใ่ นเทอมแรกเราจะทำการ เรียนการสอนแค่ 3 บท ก่อน และเรอื่ งอะไรบ้าง - ในแตล่ ะบทจะมีใบงานใหน้ ักเรียนทำโดยเป็นการเก็บคะแนนในการเรียนการสอน 3. ครบู อกเลา่ เน้ือหาทีจ่ ะเรยี น พรอ้ มทั้งอธบิ ายภาระงานคร่าวๆทน่ี ักเรียนจะตอ้ งทำ
- ครูพูดถึงเรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม ว่ามนี กั เรียนคนไหนเคยได้ยินหรือไม่ และพูดคร่าวๆ ให้นักเรยี นฟัง - ครใู ช้คำถามท้าทายถามนกั เรียนเรอ่ื ง “ปญั หาการนอนต่นื สาย” นกั เรยี นรว่ มกันระดม ความคิด ขน้ั สอน (วธิ สี อน/นวตั กรรม) (40 นาท)ี 1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง แนวคิดเชิงนามธรรม - ครใู ห้ตวั แทนหอ้ งออกมารับแบบทดสอบออกไปแจกเพื่อนในหอ้ ง - ครูทำการชี้แจงการทำแบบทดสอบก่อนเรยี นว่าให้เวลาในการทำข้อสอบ 20 ขอ้ 30 นาที - เม่ือนักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเสรจ็ ใหน้ ำมาสง่ โต๊ะครหู นา้ หอ้ งพร้อมกลบั ไปนง่ั กอ่ นเริ่มการเรียนการสอนครูได้สอบถามนักเรยี นว่า นกั เรียนรู้จกั เร่อื ง แนวคดิ เชิงนามธรรม หรือไม่ 2. ครูทำการอธิบาย เร่อื ง แนวคิดเชงิ นามธรรม ผา่ นส่อื การเรียนการสอน หนังสือเรยี นของ โรงเรยี น - ครูอธบายความหมายของคำวา่ นามธรรม กบั รปู ธรรม จากนัน้ อธบิ ายเชือ่ มโยงในความหมาย ของ คำว่าแนวคดิ เชงิ นามธรรม - นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ แนวคดิ เชงิ นามธรรม - ครสู มุ่ ตัวแทนนกั เรยี นตอบคำถามดว้ ยการใช้โปรแกรมสมุ่ ช่ือ นำนกั เรยี นตอบคำถาม ความ เข้าใจ ในความหมายของคำวา่ แนวคดิ เชิงนามธรรม 3. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม - ครูให้หัวหน้าห้องนำในงานออกไปแจกเพื่อนๆ ให้ครบ พร้อมชี้แจงให้ฟังว่า ให้ทำภายในห้อง โดย ใหเ้ วลาในการทำใบงานเป็นเวลา 20 นาที - โดยให้นักเรียนพจิ ารณา แลว้ กรอกคำตอบที่ถูกต้องลงไปในใบงานที่ครูได้ทำการเตรยี มไว้ให้ - เมอื่ ทำเสรจ็ ครูใหห้ ัวหนา้ เป็นคนเก็บงานเพ่อื น รวบรวมมาสง่ ครทู ีห่ นา้ หอ้ งเรียน ข้ันสรปุ (10 นาที) 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มสรปุ เนอื้ หาและความรู้ - ครขู อตวั แทนหอ้ งในการพดู อธิบายถึงเรื่อง แนวคดิ เชงิ นามธรรม ว่ามอี ะไรบา้ งให้เพือ่ นในหอ้ ง และครฟู งั
- ครไู ด้สรปุ เพ่ิมเตมิ เรอ่ื ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม ว่ามีอะไรบา้ งนอกเหนอื จากท่เี พ่ือนได้พูดมา 2. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนทำการซักถามถึงเรื่องท่เี รยี น - ครูสอบถามนักเรียนในหอ้ งวา่ มีนักเรียนคนไหนไมเ่ ข้าใจตรงไหนสอบถามครูเพมิ่ เติมได้ 3. ครเู กร่ินถงึ เน้อื หาทจี่ ะเรยี นในชัว่ โมงตอ่ ไปและใหน้ กั เรยี นศึกษาข้อมลู เพ่ิมเตมิ ล่วงหนา้ - ครูพูดถึงว่าในคาบเรียนต่อไปเราจะมาเรียนกันในเรื่องที่ 2 เรื่อง การคัดเลือกคุณลักษณะใน การแกปญหา - ครจู ะทำการปล่อยนกั เรยี นแล้วใหห้ ัวหนา้ หอ้ งบอกช้นั เรยี น สวสี ดี และออกหอ้ งเรียน 6. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 สสวท. 2. ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง แนวคดิ เชงิ นามธรรม 7. การวดั ผลและประเมินผล วธิ ีการวัด เครอ่ื งมือ 7.1 การวดั ผล - แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน แบบทดสอบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ - ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคดิ เชิงนามธรรม ใบงาน ดา้ นความรู้ 1.นกั เรียนสามารถทำความเข้าใจปัญหาได้ แบบประเมินทักษะ ดา้ นทักษะกระบวนการ 2.นักเรียนสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ กระบวนการ 3.นกั เรียนสามารถดำเนนิ การแกป้ ญั หาได้ ดา้ นคณุ ลักษณะ 4.นกั เรียนสามารถสรุปแนวทางการแกป้ ญั หา แบบประเมินคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ ได้ อันพึงประสงค์ สังเกตคณุ ลกั ษณะ 3 ขอ้ สมรรถนะท่สี ำคญั - มวี ินัย แบบประเมินสมรรถนะที่ ของผูเ้ รียน - ใฝเ่ รยี นรู้ สำคญั ของผู้เรียน - มงุ่ มั่นในการทำงาน สังเกตสมรรถนะท่ีสำคญั 3 ขอ้ - ความสามารถในการคดิ - ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
7.2 เกณฑ์การประเมนิ ผล 1) ด้านความรู้ (ดา้ นความรู้เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 80 ทุกประเด็นการประเมนิ ) 1) แบบทดสอบ 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 2) ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผ่านร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง 2) ด้านทักษะกระบวนการ (การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสมปลอดภัยผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80) คะแนน 5 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ต้องปรับปรงุ หมายเหตุ : ไดค้ ะแนน 3 ขนึ้ ไป ทกุ ตัวช้วี ัดถอื ว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 3) ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทกุ ตวั ชีว้ ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ข้ึนไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ หมายเหตุ : ด้านสมรรถนะผูเ้ รียนและด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์กำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรงุ
4. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนา กระบวนการเรยี นรขู้ องผ้เู รียน) 1. ………………………………………………………...……………… 8. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ของผเู้ รยี น) 1. ………………………………………………………...……………… 2. ………………………………………………………..……………… 9. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรับปรุง…………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ………..…………………….………………….… (นายอนุสรณ์ สขุ ยืน) ครพู เี่ ลี้ยง วนั …………ท่เี ดือน…………………. พ.ศ. ……….. 10. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลท่ีเกิดขึ้นแกผ่ เู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทไี่ มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนทม่ี าผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ.......................
ด้านสมรรถนะผูเ้ รียน จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรียนท่ีมาผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... 11. ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 12. แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื ………..…………………….………………….… (นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ) ผสู้ อน วนั …………ทเี่ ดือน…………………. พ.ศ. ………..
การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ เรือ่ งแนวคดิ เชงิ นามธรรม 1. นักเรยี นสามารถทำความเขา้ ใจปญั หาได้ 2. นักเรียนสามารถวางแผนการแก้ปัญหาได้ 3. นกั เรยี นสามารถดำเนนิ การแก้ปญั หาได้ 4. นกั เรียนสามารถสรุปแนวทางการแกป้ ัญหาได้ เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทักษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 5 4 3 2 1 1.นกั เรยี นสามารถทำ ประเมินความ ประเมนิ ความ ประเมนิ ความ ประเมนิ ความ ประเมนิ ความ ต้องการของ ความเขา้ ใจปญั หาได้ ตอ้ งการของ ตอ้ งการของ ต้องการของ ตอ้ งการของ ตนเองได้ 1 ข้อ กำหนด ตนเองได้ 5 ข้อ ตนเองได้ 4 ขอ้ ตนเองได้ 3 ข้อ ตนเองได้ 2 ข้อ จดุ มุ่งหมายการ เรียนนรดู้ ้วย 2. นักเรยี นสามารถ กำหนด กำหนด กำหนด กำหนด ตนเองได้ 1 ข้อ วางแผนการ วางแผนการแกป้ ัญหา จุดมุ่งหมายการ จดุ มงุ่ หมายการ จุดม่งุ หมายการ จดุ มุ่งหมายการ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ได้ 1 ข้อ ได้ เรียนนรดู้ ้วย เรยี นนรดู้ ้วย เรียนนรดู้ ้วย เรียนนรดู้ ้วย ดำเนินการตาม แผนการเรียนรู้ ตนเองได้ 5 ขอ้ ตนเองได้ 4 ขอ้ ตนเองได้ 3 ข้อ ตนเองได้ 2 ขอ้ ด้วยตนเองได้ 1 ข้อ 3.นักเรยี นสามารถ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการเรียนรู้ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการ ดำเนนิ การแกป้ ญั หา ดว้ ยตนเองได้ 5 ด้วยตนเองได้ 4 ด้วยตนเองได้ 3 เรยี นรดู้ ้วยตนเอง ได้ ข้อ ขอ้ ขอ้ ได้ 2 ข้อ 4.นกั เรยี นสามารถ ดำเนินการตาม ดำเนินการตาม ดำเนินการตาม ดำเนนิ การตาม สรุปแนวทางการ แผนการเรียนรู้ แผนการเรียนรู้ แผนการเรยี นรู้ แผนการเรียนรู้ แก้ปญั หาได้ ด้วยตนเองได้ 5 ด้วยตนเองได้ 4 ดว้ ยตนเองได้ 3 ดว้ ยตนเองได้ 2 ขอ้ ขอ้ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ไดค้ ะแนน 3 ข้ึนไปทกุ ตัวชว้ี ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน คะแนน 5 คะแนน หมายถงึ ดมี าก คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ต้องปรบั ปรุง
การประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื งแนวคิดเชิงนามธรรม มีวินยั 1. เขา้ เรยี นตรงตามเวลา 2. ทำงานครบตามกำหนด 3. ให้ความร่วมมือในการทำกจิ กรรม 4. ยอมรับในระเบียบและขอ้ ตกลง ใฝเ่ รยี นรู้ 1. มีการศึกษาค้นคว้าเพิม่ เตมิ ด้วยต้นเอง 2. ขยัน และกระตอื รือร้นในการทำกจิ กรรม 3. ทบทวนความรู้อยู่สม่ำเสมอ 4. ตัง้ ใจเรยี น มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 1. มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. มคี วามอดทน 3. ทำงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายเสรจ็ สมบูรณ์ 4. เข้าร่วมกจิ กรรมครบถว้ น เกณฑ์การประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ อนั พึงประสงค์ 4 3 2 1 มีคณุ ลักษณะอนั พงึ 1. รักชาติ มีคณุ ลกั ษณะอันพึง มีคุณลกั ษณะอันพงึ มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค1์ ขอ้ มคี ุณลักษณะอันพงึ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค์2 ขอ้ ประสงค1์ ขอ้ มคี ุณลักษณะอันพึง 2. ซ่ือสัตย์ คุณลักษณะอนั พงึ มีคณุ ลกั ษณะอันพงึ มคี ุณลักษณะอันพึง ประสงค์1 ข้อ มคี ุณลักษณะอันพงึ สุจรติ ประสงคค์ รบทกุ ขอ้ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ขอ้ ประสงค์1 ข้อ มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ 3. มวี นิ ยั คุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคุณลกั ษณะอันพึง ประสงค1์ ข้อ ประสงค์ครบทกุ ข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ข้อ 4. ใฝ่เรยี นรู้ คุณลกั ษณะอันพึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค2์ ขอ้ 5. อย่อู ย่าง คุณลกั ษณะอันพึง มีคุณลักษณะอันพึง มคี ุณลักษณะอนั พึง พอเพียง ประสงคค์ รบทกุ ขอ้ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค2์ ข้อ
6. มงุ่ มั่นใน คุณลกั ษณะอันพงึ มีคุณลกั ษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคณุ ลักษณะอนั พึง ประสงค์1 ขอ้ การทำงาน ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ข้อ ประสงค2์ ขอ้ มีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์1 ข้อ 7. รกั ความ คุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลักษณะอันพงึ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1 ข้อ เป็นไทย ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค2์ ข้อ 8. มจี ิต คณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ สาธารณะ ประสงค์ครบทกุ ข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค์2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะผูเ้ รียน เรอื่ งแนวคดิ เชงิ นามธรรม ความสามารถในการคิด 1. สามารถคดิ วิเคราะห์ และสังเคราะห์ขอ้ มลู ได้ 2. แสดงความคดิ เห็นในการทำงานอย่างสรา้ งสรรค์ 3. สามารถคิดอยา่ งเป็นระบบ ทำให้แกป้ ญั หาได้ง่ายและถกู ตอ้ ง 4. สรา้ งองค์ความรู้ใหม่ได้ดว้ ยตนเอง ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาอยา่ งรวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. ใช้หลักของเหตุผลในการแก้ปัญหา 3. คน้ คว้าและสรา้ งความรู้ดว้ ยตนเอง 4. ประยุกตค์ วามร้ทู ี่ได้นำมาใช้ในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. ใช้เทคโนโลยใี นการส่ือสารไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ 2. ใชเ้ ทคโนโลยีในการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. มีคุณธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยเี พอ่ื การพฒั นาตนเองในดา้ นการเรยี นรู้ เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านสมรรถนะผู้เรยี น ด้านสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ ผเู้ รยี น 4 32 1 ความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในด้าน มคี วามสามารในด้าน มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การส่ือสารครบทุกข้อ การสอ่ื สาร 3 ข้อ ดา้ นการสอ่ื สาร 2 ขอ้ การส่อื สาร 1 ข้อ ความสามารถในการคดิ มีความสามารถในด้าน มีความสามารในด้าน มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การคิดครบทกุ ข้อ การคดิ 3 ข้อ ดา้ นการคิด2 ขอ้ การคิด1 ข้อ ความสามารถในการ มีความสามารถในการ มีความสามารถใน มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ แกป้ ัญหา แก้ปญั หาครบทุกข้อ การแก้ปญั หา ในการแก้ปัญหา ในการแกป้ ัญหา 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถในการใช้ มคี วามสามารถในการใช้ มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถในการ ทกั ษะชวี ติ ทักษะชวี ิตครบทกุ ข้อ การใช้ การใช้ ใชเ้ ทคโนโลยี
ทกั ษะชีวติ ทักษะชีวิต2 ข้อ 1 ข้อ 3 ข้อ ความสามารถในการใช้ มคี วามสามารถในการ มีความสามารในการ มีความสามารถใน มีความสามารถในการ เทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยีครบทุกขอ้ ใชเ้ ทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี ใชเ้ ทคโนโลยี 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวช้ีวัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง แนวคิดเชิงนามธรรม ชอ่ื -นามสกลุ ..............................................................................เลขท.่ี .............ชน้ั .............................. 1. ใหนักเรียนสรุปความหมายของแนวคิดเชงิ นามธรรม มาใหเขาใจ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................... 2. พิจารณารูปตอไปนี้ แลววิเคราะหวาประเดน็ ใดเปนลักษณะทั่วไป หรือลกั ษณะเฉพาะ ทีท่ าํ ใหรูวารูปเหลานี้จดั อยใู น ประเภทเดยี วกนั ลกั ษณะทั่วไป ลักษณะเฉพาะ 3. ใหนักเรียนสรุปองคประกอบเชิงนามธรรมของรูปภาพจากขอ 2 ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................ ...........................................................................................................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง การคดั เลือกคุณสมบตั ิในการแก้ปญั หา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน ม.1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 หนว่ ย 1 แนวคดิ เชงิ นามธรรม วันที่.... เดอื น…พ.ศ....ใชเ้ วลา 2 ช่วั โมง/คาบ 4. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั / ผลการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคาํ นวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม มาตรฐาน ว 4.2 ม.1/1ออกแบบอัลกอริทมึ ท่ีใช้แนวคดิ เชิงนามธรรม เพื่อแก้ปญั หาหรอื อธิบาย การทำงานทพี่ บในชีวิตจริง 5. สาระสำคญั ปัญหาท่กี ำลงั พจิ ารณาอยู่น้นั อาจประกอบไปด้วยรายละเอียดจำนวนมาก ทั้งที่จำเปน็ และไม่ จำเปน็ ต่อการแก้ปัญหา ทง้ั น้ีต้องวเิ คราะหแ์ ละคดั เลือกให้เหลือเฉพาะคุณลักษณะทจ่ี ำเป็นต่อการ แก้ปัญหา การถ่ายทอดรายละเอยี ดของปัญหาและการแก้ปญั หา 6. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ 1. นักเรียนสามารถบอกการคัดเลือกคุณสมบตั ใิ นการแก้ปญั หาได้ 2. นักเรียนสามารถตรวจสอบการคัดเลอื กคุณสมบัติในการแก้ปญั หาได้ ดา้ นทักษะกระบวนการ 1. นกั เรยี นสามารถทำความเขา้ ใจปัญหาได้ 2. นกั เรยี นสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ 3. นักเรียนสามารถดำเนนิ การแก้ปญั หาได้ 4. นกั เรยี นสามารถสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาได้ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 10. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 11. ซื่อสตั ยส์ จุ ริต
12. มีวินัย 13. ใฝเ่ รียนรู้ 14. อยอู่ ย่างพอเพียง 15. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 16. รักความเป็นไทย 17. มีจิตสาธารณะ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 6. ความสามารถในการสอื่ สาร 7. ความสามารถในการคดิ 8. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 9. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 10. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. สาระการเรยี นรู้ - การคัดเลอื กคุณลักษณะทจ่ี ำเป็นต่อการแก้ปัญหา - การถา่ ยทอดรายละเอยี ดของปญั หาและการแกป้ ญั หา 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น (10นาท)ี 4. ครูกล่าวทกั ทายนักเรยี นและร่วมสนทนาเกยี่ วกับเรื่องตา่ ง ๆเพื่อสรา้ งความสมั พันธ์ที่ดี 5. ครแู จง้ รายละเอียดของเรื่องที่จะสอนในคาบและกิจกรรมท่ีจะทำในคาบ - ทำการแจ้งนักเรียนวา่ เนอ้ื หาทเี่ ราจะได้เรยี น เรอื่ ง การคดั เลอื กคุณสมบัติในการ แก้ปญั หา 6. ครบู อกเลา่ เนอื้ หาท่จี ะเรียน พรอ้ มทง้ั อธิบายภาระงานคร่าวๆที่นกั เรียนจะต้องทำ - ครพู ดู ถึงเรื่อง การคดั เลือกคุณสมบตั ิในการแกป้ ัญหา วา่ มีนกั เรยี นคนไหนตอบได้บา้ ง และพดู คร่าวๆให้นักเรียนฟงั ขน้ั สอน (วิธีสอน/นวัตกรรม) (40 นาท)ี 5. ครทู ำการอธิบาย เร่ือง การคัดเลือกคุณสมบัติในการแกป้ ัญหา ผา่ นสอ่ื การเรียนการสอน บทเรยี นมัลติมเี ดีย - ปิดบทเรียนมัลติมเี ดยี หน้าแรกพร้อมกบั กับบอกคำอธิบายรายวิชาทีจ่ ะสอน
- ทำการแนะนำก่อนการเขา้ สู่บทเรียนว่าเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ใช้ ตวั ชีว้ ัดตัวไหน และคณุ สมบตั ิของบทเรียนออนไลน์มอี ะไรบ้าง - เริ่มเข้าสู่บทเรยี นในคาบแรกด้วยบทที่ 2 เรื่อง การคัดเลือกคณุ สมบตั ใิ นการแก้ปญั หา โดยการอธิบายให้นักเรยี นพร้อมถามนักเรียนเป็นอย่างๆ วา่ เขา้ ใจหรอื ไม่อยา่ งไร 6. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทำใบงานที่ 1.2 เร่อื ง การคดั เลือกคณุ ลักษณะในการแกปญหา - ครูให้หวั หน้าหอ้ งนำในงานออกไปแจกเพื่อนๆ ให้ครบ พร้อมชี้แจงให้ฟังวา่ ให้ทำ ภายในห้องโดยใหเ้ วลาในการทำใบงานเปน็ เวลา 30 นาที - โดยให้นกั เรยี นพจิ ารณา แล้วกรอกคำตอบท่ีถกู ต้องลงไปในใบงานท่ีครูได้ทำการเตรียม ไว้ให้ - เมอ่ื ทำเสร็จครูให้หัวหน้าเป็นคนเก็บงานเพื่อน รวบรวมมาสง่ ครทู ี่หน้าหอ้ งเรยี น ขั้นสรุป (10 นาที) 4. ครูและนกั เรยี นร่วมสรุปเน้อื หาและความรู้ - ครไู ดส้ รุปเพิ่มเติมเร่ือง การคัดเลือกคุณลักษณะในการแกปญหา ว่ามีอะไรบา้ ง นอกเหนือจากทเ่ี พื่อนได้พูดมา 5. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นทำการซักถามถงึ เรื่องท่เี รียน - ครูสอบถามนักเรยี นในห้องว่า มีนักเรียนคนไหนไม่เขา้ ใจตรงไหนสอบถามครูเพม่ิ เตมิ ได้ 6. ครูเกริน่ ถึงเนื้อหาทจ่ี ะเรียนในชวั่ โมงต่อไปและใหน้ ักเรียนศึกษาข้อมูลเพ่มิ เติมล่วงหน้า - ครูพดู ถึงวา่ ในคาบเรียนต่อไปเราจะมาเรยี นกันในบทท่ี 2 เร่ืองการแก้ปัญหา - ครูจะทำการปล่อยนักเรียนแล้วใหห้ วั หนา้ หอ้ งบอกชนั้ เรยี น สวีสดี และออกห้องเรยี น 6. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 3. สื่อบทเรียนมลั ตมิ ิเดีย 4. หนังสือเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 สสวท. 5. ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง การคัดเลอื กคณุ ลักษณะในการแกปญหา
7. การวดั ผลและประเมนิ ผล 7.2 การวดั ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือ ดา้ นความรู้ ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง การคัดเลือกคุณลักษณะในการแกปญหา ใบงาน ดา้ นทักษะกระบวนการ 1.นกั เรียนสามารถทำความเข้าใจปญั หาได้ แบบประเมนิ 2.นักเรียนสามารถวางแผนการแกป้ ญั หาได้ ทักษะ 3.นกั เรียนสามารถดำเนนิ การแกป้ ัญหาได้ กระบวนการ 4.นักเรยี นสามารถสรปุ แนวทางการแกป้ ญั หาได้ ด้านคุณลักษณะ สังเกตคณุ ลักษณะ 3 ข้อ แบบประเมนิ อนั พึงประสงค์ - มีวินัย คุณลักษณะ - ใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ - มุ่งมน่ั ในการทำงาน สมรรถนะทส่ี ำคัญ สงั เกตสมรรถนะทีส่ ำคัญ 3 ข้อ แบบประเมนิ ของผเู้ รียน - ความสามารถในการคดิ สมรรถนะที่สำคญั - ความสามารถในการแก้ปัญหา ของผเู้ รยี น - ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ (ดา้ นความรเู้ กณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมิน) 1) แบบทดสอบ 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 2) ด้านทักษะกระบวนการ (การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งเหมาะสมปลอดภัยผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 80) คะแนน 5 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 4 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถึง ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถึง ต้องปรบั ปรุง
หมายเหตุ : ได้คะแนน 3 ขน้ึ ไป ทกุ ตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ด้านสมรรถนะผู้เรียน ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ข้นึ ไปทกุ ตัวชว้ี ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน หมายเหตุ : ดา้ นสมรรถนะผ้เู รยี นและดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงคก์ ำหนดระดับคุณภาพ 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรงุ 7. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอยี ดหรือข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ที่จะช่วยพัฒนา กระบวนการเรียนรขู้ องผ้เู รยี น) 2. ………………………………………………………...……………… 8. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ทจ่ี ะชว่ ยพัฒนากระบวนการเรยี นรู้ ของผเู้ รียน) 1. ………………………………………………………...……………… 2. ………………………………………………………..……………… 9. ขอ้ เสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรับปรุง ………………………………………………………………………………………………………………. ลงช่อื ………..…………………….………………….… (นายอนุสรณ์ สขุ ยนื ) ครูพี่เลีย้ ง วนั …………ทีเ่ ดือน…………………. พ.ศ. ………..
10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ แกผ่ ้เู รียน ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทไี่ ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จำนวนนักเรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนทม่ี าผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผู้เรียน จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนทม่ี าผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... 11. ปัญหาและอปุ สรรค เด็กนกั เรยี นสง่ เสยี งดัง พดู คุยกนั ไม่มคี วามเกรงใจเพอ่ื นในห้องและครู เขา้ มานง่ั พร้อมกบั เลน่ เกมก่อนทีจ่ ะเรม่ิ เรยี น 12. แนวทางการแก้ปัญหา ทำการตักเตือนและควบคมุ นักเรยี นใหใ้ ห้อยู่ในความดูแล ทำขอ้ ตกลงกบั นกั เรียนว่าจะทำการ ยดึ โทรศัพท์กอ่ นแลว้ ทำงานเสร็จจะทำการคนื ให้ ลงช่อื ………..…………………….………………….… (นางสาวหฤทัย ไชยวฒุ ิ) ผสู้ อน วัน…………ที่เดือน…………………. พ.ศ. ………..
การประเมินด้านทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การคัดเลอื กคุณสมบตั ใิ นการแก้ปัญหา 1. นกั เรียนสามารถทำความเข้าใจปญั หาได้ 2. นกั เรียนสามารถวางแผนการแกป้ ัญหาได้ 3. นักเรยี นสามารถดำเนินการแกป้ ญั หาได้ 4. นกั เรียนสามารถสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาได้ เกณฑ์การให้คะแนนด้านทกั ษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 5 4 3 2 1 1.นกั เรยี นสามารถทำ ประเมนิ ความ ประเมินความ ประเมนิ ความ ประเมนิ ความ ประเมินความ ตอ้ งการของ ความเขา้ ใจปญั หาได้ ตอ้ งการของ ตอ้ งการของ ตอ้ งการของ ต้องการของ ตนเองได้ 1 ข้อ กำหนด ตนเองได้ 5 ข้อ ตนเองได้ 4 ข้อ ตนเองได้ 3 ขอ้ ตนเองได้ 2 ขอ้ จดุ มุ่งหมายการ เรยี นนรดู้ ว้ ย 2. นกั เรยี นสามารถ กำหนด กำหนด กำหนด กำหนด ตนเองได้ 1 ข้อ วางแผนการ วางแผนการแกป้ ญั หา จุดมุ่งหมายการ จดุ มุง่ หมายการ จดุ มุ่งหมายการ จดุ มุ่งหมายการ เรยี นรดู้ ้วยตนเอง ได้ 1 ขอ้ ได้ เรยี นนรดู้ ว้ ย เรียนนรดู้ ว้ ย เรยี นนรดู้ ้วย เรียนนรดู้ ้วย ดำเนินการตาม แผนการเรยี นรู้ ตนเองได้ 5 ข้อ ตนเองได้ 4 ข้อ ตนเองได้ 3 ขอ้ ตนเองได้ 2 ข้อ ด้วยตนเองได้ 1 ข้อ 3.นักเรยี นสามารถ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการเรยี นรู้ วางแผนการเรียนรู้ วางแผนการ ดำเนนิ การแก้ปญั หา ดว้ ยตนเองได้ 5 ด้วยตนเองได้ 4 ดว้ ยตนเองได้ 3 เรียนรดู้ ้วยตนเอง ได้ ข้อ ข้อ ขอ้ ได้ 2 ข้อ 4.นกั เรียนสามารถ ดำเนินการตาม ดำเนินการตาม ดำเนินการตาม ดำเนนิ การตาม สรปุ แนวทางการ แผนการเรียนรู้ แผนการเรยี นรู้ แผนการเรียนรู้ แผนการเรยี นรู้ แกป้ ญั หาได้ ด้วยตนเองได้ 5 ดว้ ยตนเองได้ 4 ด้วยตนเองได้ 3 ดว้ ยตนเองได้ 2 ข้อ ขอ้ ข้อ ขอ้ หมายเหตุ ไดค้ ะแนน 3 ข้ึนไปทุกตัวช้ีวดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ คะแนน 5 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 4 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 3 คะแนน หมายถงึ ปานกลาง คะแนน 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมายถงึ ต้องปรบั ปรุง
การประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เร่อื ง การคดั เลือกคณุ สมบตั ิในการแกป้ ญั หา มีวินัย 5. เขา้ เรยี นตรงตามเวลา 6. ทำงานครบตามกำหนด 7. ให้ความร่วมมือในการทำกจิ กรรม 8. ยอมรับในระเบยี บและข้อตกลง ใฝเ่ รยี นรู้ 5. มกี ารศึกษาค้นควา้ เพิม่ เติมด้วยตน้ เอง 6. ขยัน และกระตือรือร้นในการทำกจิ กรรม 7. ทบทวนความรู้อยู่สม่ำเสมอ 8. ต้งั ใจเรียน มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 5. มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6. มีความอดทน 7. ทำงานที่ได้รบั มอบหมายเสร็จสมบรู ณ์ 8. เขา้ รว่ มกจิ กรรมครบถว้ น เกณฑก์ ารประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ อันพงึ ประสงค์ 4 3 2 1 มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ 1. รกั ชาติ มคี ุณลักษณะอันพงึ มีคุณลักษณะอนั พงึ มีคุณลกั ษณะอันพึง ประสงค1์ ข้อ มคี ุณลักษณะอันพึง ศาสน์ กษัตรยิ ์ ประสงคค์ รบทกุ ขอ้ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ข้อ ประสงค์1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ 2. ซ่ือสัตย์ คุณลกั ษณะอนั พงึ มีคุณลกั ษณะอันพงึ มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1 ข้อ มคี ุณลักษณะอันพึง สุจรติ ประสงคค์ รบทุกขอ้ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ข้อ ประสงค1์ ข้อ มคี ุณลักษณะอนั พึง 3. มวี นิ ยั คณุ ลักษณะอันพงึ มคี ุณลกั ษณะอนั พงึ มีคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค1์ ข้อ ประสงค์ครบทุกข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค์2 ขอ้ 4. ใฝเ่ รยี นรู้ คุณลกั ษณะอนั พึง มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคค์ รบทกุ ขอ้ ประสงค3์ ข้อ ประสงค์2 ขอ้ 5. อยูอ่ ยา่ ง คุณลกั ษณะอันพงึ มีคุณลกั ษณะอันพึง มีคณุ ลกั ษณะอันพงึ พอเพยี ง ประสงคค์ รบทุกขอ้ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค2์ ข้อ
6. มงุ่ มั่นใน คุณลกั ษณะอันพงึ มีคุณลกั ษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคณุ ลักษณะอนั พึง ประสงค์1 ขอ้ การทำงาน ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค3์ ข้อ ประสงค2์ ขอ้ มีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์1 ข้อ 7. รกั ความ คุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลักษณะอันพงึ มีคณุ ลักษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์1 ข้อ เป็นไทย ประสงคค์ รบทุกข้อ ประสงค์3 ขอ้ ประสงค2์ ข้อ 8. มจี ิต คณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ณุ ลกั ษณะอันพงึ สาธารณะ ประสงค์ครบทกุ ข้อ ประสงค3์ ขอ้ ประสงค์2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
การประเมนิ ด้านสมรรถนะผ้เู รียน เร่ือง การคัดเลือกคณุ สมบัตใิ นการแก้ปัญหา ความสามารถในการคดิ 1. สามารถคิดวิเคราะห์ และสงั เคราะหข์ ้อมูลได้ 2. แสดงความคิดเหน็ ในการทำงานอย่างสร้างสรรค์ 3. สามารถคดิ อย่างเป็นระบบ ทำให้แกป้ ญั หาได้ง่ายและถูกตอ้ ง 4. สร้างองค์ความรู้ใหม่ไดด้ ้วยตนเอง ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. ตัดสินใจแก้ปัญหาอยา่ งรวดเรว็ และมปี ระสิทธภิ าพ 2. ใช้หลกั ของเหตุผลในการแก้ปัญหา 3. คน้ คว้าและสร้างความรูด้ ว้ ยตนเอง 4. ประยกุ ตค์ วามรู้ที่ได้นำมาใชใ้ นการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. ใชเ้ ทคโนโลยีในการสื่อสารได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. มคี ุณธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพ่ือการพฒั นาตนเองในดา้ นการเรยี นรู้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นสมรรถนะผ้เู รยี น ดา้ นสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ ผู้เรยี น 4 32 1 ความสามารถในการสื่อสาร มีความสามารถในด้าน มคี วามสามารในด้าน มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การส่ือสารครบทกุ ขอ้ การสื่อสาร 3 ขอ้ ดา้ นการสื่อสาร 2 ขอ้ การสื่อสาร 1 ขอ้ ความสามารถในการคิด มีความสามารถในด้าน มีความสามารในด้าน มความสามารถใน มีความสามารถในด้าน การคิดครบทุกข้อ การคิด 3 ข้อ ด้านการคิด2 ขอ้ การคิด1 ขอ้ ความสามารถในการ มีความสามารถในการ มีความสามารถใน มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ แก้ปญั หา แกป้ ัญหาครบทกุ ขอ้ การแกป้ ัญหา ในการแกป้ ัญหา ในการแก้ปญั หา 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ
ความสามารถในการใช้ มีความสามารถในการใช้ มีความสามารถใน มีความสามารถใน มีความสามารถในการ ทกั ษะชวี ติ ทกั ษะชวี ิตครบทกุ ขอ้ การใช้ การใช้ ใช้เทคโนโลยี ทักษะชวี ิต ทกั ษะชีวติ 2 ข้อ 1 ขอ้ 3 ข้อ ความสามารถในการใช้ มคี วามสามารถในการ มีความสามารในการ มีความสามารถใน มีความสามารถในการ เทคโนโลยี ใชเ้ ทคโนโลยคี รบทกุ ข้อ ใชเ้ ทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยี 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวช้วี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ
ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง การคดั เลือกคณุ ลกั ษณะในการแกปญหา ช่ือ-นามสกุล....................................................................... เลขที.่ .............ชัน้ .............................. ใหนกั เรียนวเิ คราะหสถานการณตอไปน้ี แลวบอกวาขอมูลใดจาํ เปนในการทํางาน หรือแกปญหา พรอม อธิบายเหตุผลประกอบ 1. สถานการณ : ด.ช.สมศักดิ์ เดนิ ทางจากบานไปโรงเรียนบานหวยปู โดยการเดิน โดยใชเวลาเฉล่ีย 15 นาที ตอ 1 กโิ ลเมตร ระยะหางระหวางบานจากโรงเรียน ซึ่งผาน วดั รานขายของ และสนามฟตุ บอล คือ 5 กโิ ลเมตร ในหน่งึ วนั ด.ช.สมศกั ด์ิ ใชเวลาเดนิ ทางกีน่ าที ......................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ............................................................ ............................................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................................................. ....... ............................................................................................................................ ........................................ 2. สถานการณ : ด.ญ.สมศรี มีเงิน 1,000 บาท เดินทางไปทห่ี างสรรพสินคาแหงหน่งึ เพื่อเลือกซือ้ ชุด นักเรียน ประกอบ ดวย เสอ้ื กระโปรง และรองเทา ถาอยากทราบวา ด.ญ.สมศรี เหลือเงินกบ่ี าท ตอง ทราบขอมลู ใดบาง จงอธบิ าย ................................................................................................................................ .................................... ............................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................... ................ ................................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ....................................... 3. สถานการณ : ด.ช.บอย ตองการทําไขเจียว ขอมลู ใดบางทจ่ี าํ เปนตอการแกปญหา จงอธิบาย ............................................................................................................................. ....................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................... ............................................................................................................................. ....................................... ....................................................................................................................................................................
Search