Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เศรษฐศาสตร์พื้นฐาน

เศรษฐศาสตร์พื้นฐาน

Published by สุพาดี อรุณโน, 2021-10-07 16:13:45

Description: เศรษฐศาสตร์พื้นฐาน

Search

Read the Text Version

วชิ าเศรษฐศาสตร์เบ/ืองตน้ สอนโดย อ.ขวญั ตา จนั= อ>ิด

บทท$ี & เรื$อง ความรู้เบื2องต้นเกยี$ วกบั เศรษฐศาสตร์

• เศรษฐศาสตร์ คือ อะไร เศรษฐศาสตร์ เป็ นวชิ าสาขาหนึ3งของสังคมศาสตร์ เพราะเป็ นวชิ าเกย3ี วกบั การศึกษาพฤตกิ รรมมนุษย์ใน สังคม โดยเน้นเร3ืองพฤตกิ รรมการทาํ มาหากนิ เพื3อ ดาํ รงชีพของมนุษย์

•อดมั สมทิ (Adam Smith) “เศรษฐศาสตร์ เป็ นวชิ าทวี3 ่าด้วยทรัพย์ อนั หมายถงึ เศรษฐทรัพย์ ถ้า ใครมมี ากย่อมเป็ นผู้มง3ั คง3ั อยู่ดกี นิ ด”ี •อลั เฟรด มาร์แชล (Alfred Marshall) “ เศรษฐศาสตร์เป็ นวชิ าทศี3 ึกษาพฤตกิ รรมของมนุษย์ เกย3ี วกบั การดาํ รงชีวติ ”

•ลอี อนเนล รอบบินส์ (Leonel Robbins) “ เศรษฐศาสตร์เป็ นวชิ าทศี7 ึกษาถงึ การเลือกหา หนทางในการใช้ปัจจยั การผลติ อนั มอี ยู่อย่าง จาํ กดั อย่างมปี ระสิทธิภาพ เพ7ือผลติ สินค้าและ บริการ ไปบําบัดความต้องการของมนุษย์อนั มี อยู่อย่างไม่จาํ กดั

จากความหมายของคาํ นิยามมคี าํ อยู่ J คาํ ทค$ี วรขยาย คือ 1. การเลือก (choice ) เกิดข*ึนเพราะปัจจยั การผลิตต่างๆ ที<มีอยอู่ ยา่ งจาํ กดั ไปในทางท<ีก่อ ประโยชนส์ ูงสุด จาํ เป็นตอ้ งเลือกใชป้ ัจจยั การผลิตท<ีมี อยอู่ ยา่ งจาํ กดั ไปใชเ้ พื<อใหไ้ ดร้ ับความพอใจสูงท<ีสุด

2. ปัจจยั การผลติ ( factors of production) หรือทรัพยากรการผลิต หมายถึง องคป์ ระกอบท<ีใช้ ในการผลิตเพ<ือใหเ้ กิดสินคน้ และ บริการ ปัจจยั การผลิตแบ่งออกเป็น P ประเภท คือ - ท<ีดินหรือทรัพยากรธรรมชาติ - แรงงาน - ทุน - การประกอบการ

3. มอี ยู่อย่างจาํ กดั (scarcity ) หมายถึง ปัจจยั การผลิตท<ีมีอยอู่ ยา่ งจาํ กดั เมื<อนาํ ไปใชจ้ ึงผลิต สินคา้ ในปริมาณท<ีจาํ กดั ดว้ ย 4. ประสิทธิภาพ (efficiency ) หมายถึง การท<ีใชป้ ัจจยั การผลิตจาํ นวนนอ้ ยท<ีสุดแต่ใหไ้ ดร้ ับ ผลผลิตจาํ นวนมากท<ีสุด

5. สินค้าและบริการ (goods and services ) หมายถึง ส<ิงที<ไดจ้ ากการรวบรวม ผสมผสานปัจจยั การผลิตเขา้ กบั วตั ถุดิบ สาํ หรับ บาํ บดั ความตอ้ งการของมนุษย์ 6. ความต้องการทม7ี อี ยู่อย่างไม่จาํ กดั (unlimited want ) หมายถึง ความอยาก ไดโ้ ดยไม่มีท<ีสิ*นสุด

ประวตั ขิ องวชิ าเศรษฐศาสตร์ ศตวรรษท+ี 13-16 ซึ+งเป็ นช่วงทธี+ ุรกจิ การค้าของทวปี ยุโรปเจริญก้าวหน้ามาก เพราะประชาชนตระหนักว่าการค้านํา ความมง+ั คงั+ มาสู่ประเทศ จงึ หาวธิ ีการทจ+ี ะส่งสินค้าออกไปขาย ให้ได้มากกว่าการซืNอสินค้าจากประเทศอื+นเข้ามา หรือทเี+ รียกว่า การได้เปรียบทางการค้า แนวคดิ นีเN รียกว่า “ลทั ธิพาณชิ ย์นิยม” ในขณะท+ี อดมั สมทิ ชาวองั กฤษ ได้เขยี นหนังสือชื+อ “ความมง+ั คง+ั ของชาต”ิ (The Wealth of Nations) ซึ+งถือเป็ นหนังสือทางเศรษฐศาสตร์เล่มแรก

•ประเทศไทยใช้หลกั การทางด้านเศรษฐกจิ ในกจิ การ ด้านการค้า การเกบ็ ภาษอี ากร มาตZงั แต่สมยั สุโขทยั แต่ยงั ไม่ได้รวบรวมหลกั วชิ าการอย่างเป็ นแบบแผน จนถงึ พ.ศ. 2454 พระยาสุริยานุวตั ร์ ได้เรียบ เรียงหนังสือช3ือว่า “ทรัพยาศาสตร์” ขนึZ ถือเป็ น หนังสือเศรษฐสาตร์เล่มแรกของประเทศไทย

แขนงของวชิ าเศรษฐศาสตร์ แบ่งออกเป็ น \\ แขนง คือ ]. เศรษฐศาสตร์จุลภาค เป็ นการศึกษาพฤตกิ รรม ทางเศรษฐกจิ ของส่วนย่อย ๆ ในสังคม \\. เศรษฐศาสตร์มหภาค เป็ นการศึกษาถงึ ภาวะ เศรษฐกจิ โดยส่วนรวมทZงั ระบบเศรษฐกจิ หรือทZงั ประเทศ

ทาํ ไมต้องเรียนเศรษฐศาสตร์ เพ<ือท<ีจะนาํ ความรู้ความเขา้ ใจมาแกป้ ัญหาการขาด แคลนทรัพยากรในท*งั ส่วนบุคคลและประเทศ ประโยชน์ของวชิ าเศรษฐศาสตร์ วชิ าเศรษฐศาสตร์เป็นวชิ าที<มีประโยชนม์ ากเพราะเป็น ความรู้ที<เก<ียวขอ้ งกบั การดาํ รงชีวติ ประจาํ วนั ของมนุษย์ ไม่วา่ จะอยใู่ นฐานะผผู้ ลิตหรือผบู้ ริโภคกต็ าม ซ<ึงจะ ส่งผลถึงการพฒั นา เศรษฐกิจของประเทศดว้ ย

เศรษฐศาสตร์ผู้บริโภค (Consumers Economics) หมายถงึ วชิ าทว7ี ่าด้วยการประยุกต์ทฤษฎที าง เศรษฐศาสตร์รวมถงึ เครื7องมือและเทคนิคมาใช้ ในการตดั สินใจและการจดั การต่างๆ ของ ผู้บริโภค เพ7ือให้บรรลวุ ตั ถุประสงค์ของผู้บริโภค อย่างมปี ระสิทธิภาพ

ความสําคญั ของเศรษฐศาสตร์ผู้บริโภค 1.มคี วามสําคญั กบั ชีวติ ประจาํ วนั ของมนุษย์ ต>งั แต่การ เลือกใช้สินค้า การบริโภค ราคาสินค้า การใช้จ่ายให้ เพยี งพอกบั รายได้ 2.มคี วามสําคญั กบั ผู้บริหารประเทศ 3.มคี วามสําคญั กบั นักเรียน 4.มคี วามสําคญั กบั ผลประโยชน์ของประเทศ 5.มคี วามสําคญั กบั ความมนัP คงของประเทศ

เศรษฐกจิ (economy) คือ การ ดาํ เนินกจิ กรรมเกย3ี วกบั การผลติ การจาํ แนก แจกจ่าย และการบริโภค สินค้าและบริการ โดย มุ่งหวงั ทจี3 ะกระทาํ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ประหยดั และได้ประโยชน์มากทส3ี ุด

ปัญหาพืน9 ฐานทางเศรษฐกจิ &. ปัญหาว่าจะผลติ อย่างไร O. ปัญหาว่าจะผลติ อะไร P. ปัญหาว่าจะผลติ เพื$อใคร

เศรษฐกจิ พอเพยี ง (Sufficient Economy) หมายถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รวมถงึ ความจาํ เป็ นทจ3ี ะต้องมรี ะบบภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท3ี ดพี อสมควรต่อการมผี ลกระทบใดๆอนั เกดิ จากการ เปลยี3 นแปลงทZงั ภายนอกและภายใน เศรษฐกจิ พอเพยี ง คือ เศรษฐกจิ ทส7ี ามารถอ้มุ ชูตวั เอง

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ท0ีดี เง$ือนไขความรู้ เงื$อนไขคณุ ธรรม รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ซ$ือสตั ยส์ ุจรติ สตปิ ัญญาขยนั อดทน แบง่ ปัน นาํ ไปสู่ เศรษฐกิจ/สงั คม/ส/ิงแวดลอ้ ม/วฒั นธรรม สมดลุ /พรอ้ มรบั ต่อการเปล4ียนแปลง

บทท@ี A เร@ือง องค์ประกอบของเศรษฐกจิ

องค์ประกอบของเศรษฐกจิ แบ่งออกเป็ น \\ ประเภทคือ q ระบบเศรษฐกจิ (Economic Syutem) q บุคคลในระบบเศรษฐกจิ

ระบบเศรษฐกจิ (Ecouomic Syutem) หมายถงึ รูปแบบทร3ี ัฐบาลจดั ระบบทางเศรษฐกจิ โดย กาํ หนดผู้กระทาํ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ควบคุมการ กระทาํ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ให้เหมาะสมและเป็ น ผลดตี ่อประโยชน์ประชาชนในประเทศ

รูปแบบระบบเศรษฐกจิ 1.ระบบเศรษฐกจิ ทุนนิยม - ประชาชนมีสิทธ\\ิเป็นเจา้ ของทรัพยส์ ินไดอ้ ยา่ งเตม็ ท<ี - ธุรกิจมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ - ใชร้ ะบบราคา - มีการแข่งขนั อยา่ งเสรี - รัฐไม่ไดเ้ ขา้ ไปควบคุมกิจการต่างๆ

2.ระบบเศรษฐกจิ แบบสังคมนิยม - รัฐเป็นเจา้ ของการผลิตและดาํ เนินกิจการทางเศรษฐกิจท<ี สาํ คญั เสียเอง - ประชาชนยงั สามารถมีกรรมสิทธ\\ิในทรัพยไ์ ดบ้ า้ ง - ระบบราคามีบทบาทนอ้ ยกวา่ แบบทุนนิยม - รัฐใชน้ โยบายการเกบ็ ภาษีในอตั รากา้ วหนา้ - มีวธิ ีการดาํ เนินการแบบสนั ติวธิ ี

3.ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม ]. ประชาชนและธุรกิจมีกรรมสิทธ\\ิเป็น เจา้ ของทรัพยส์ ินไดอ้ ยา่ งเตม็ ท<ี _. รัฐจะเขา้ ไปดาํ เนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที< สาํ คญั และคนส่วนใหญ่ใชป้ ระโยชน์ `. ระบบราคายงั คงมีบทบาทสาํ คญั แต่ราคาที< เกิดข*ึนอาจจะไม่ไดถ้ ูกกาํ หนดจากกลไกตาดอยา่ งเสรี

4.ระบบเศรษฐกจิ แบบคอมมวิ นิสต์ ]. รัฐเป็นเจา้ ของทรัพยส์ ินและปัจจยั การ ผลิตทุกอยา่ งประชาชนไม่มีสิทธ\\ิเป็นเจา้ ของใดๆ _. รัฐเป็นผดู้ าํ เนินการผลิตสินคา้ แต่เพียงผเู้ ดียว ตลอดจนการคา้ การศึกษา การประชาสมั พนั ธ์ `. ระบบราคาไม่มีบทบาท ใชว้ ธิ ีปันส่วน

บุคคลในระบบเศรษฐกจิ มี 3 ประเภท คือ 1.ผู้บริโภค (consumer) 2.ผู้ผลติ (producer) 3.เจ้าของปัจจยั การผลติ (factor owner)

จุดมุ่งหวงั ของบุคคลในระบบเศรษฐกจิ จุดมุ่งหวงั ของผู้บริโภค - ความพอใจสูงสุด จุดมุ่งหวงั ของผู้ผลติ - กาํ ไรสูงสุด จุดมุ่งหวงั ของเจ้าของปัจจยั การผลติ - รายได้สุทธิสูงสุด



ผู้บริโภคต้องเผชิญกบั ปัญหาในระบบเศรษฐกจิ คือ 1.เสียเปรียบผู้ผลติ 2.สินค้าขาดคุณภาพ 3.สินค้ามรี าคาแพง 4.ถูกหลอกลวง 5.ขาดความรู้ความเข้าใจเกยีP วกบั สินค้า 6.ซื>อสินค้าตามค่านิยม 7.บริการหลงั การขาย

บทที3 p การผลติ (Production) • การผลติ หมายถึง กระบวนการในการแปรรูปปัจจยั การผลิตเขา้ กบั วตั ถุดิบ โดยหน่วยการผลิตเพื<อใหเ้ กิด เป็นสินคา้ และบริการต่างๆ นาํ ไปบาํ บดั ความตอ้ งการ ของมนุษย์

การผลติ คือ ขบวนการทเี2 ปลย2ี นแปลงปัจจยั การผลติ (Input) ให้ออกมาเป็ น ผลผลติ (Output) กระบวนการผลติ ผลผลิต(output) ปัจจยั การผลิต(input) ทดี2 นิ แรงงาน ทุน และ วธิ ีใดมีประสิทธิภาพที0สุด ผู้ประกอบการ วตั ถุดบิ สินค้าและบริการขMนั สุดท้าย (final goods)

การสร้างอรรถประโยชน์ (Utility) • อรรถประโยชน์ด้านรูปลกั ษณ์ (Form Utility) เปลย+ี นรูปลกั ษณ์ ของสินค้า • อรรถประโยชน์ด้านสถานที+ (Place Utility) การเคล+ือนย้าย สินค้า • อรรถประโยชน์ด้านเวลา (Time Utility) การเกบ็ รักษาหรือ ถนอมอาหาร - อรรถประโยชน์ทเี+ กดิ จากการเปลย+ี นกรรมสิทธiิ (Possession Utility) • อรรถประโยชน์ด้านบริการ (Service Utility)

การผลติ ขนาดใหญ่ การผลิตขนาดใหญ่เป็นการผลิตท<ีตอ้ งใชเ้ คร<ืองจกั ร เครื<องทุ่นแรง การจดั การและวทิ ยาการทนั สมยั เขา้ ช่วย เพื<อผลิตสินคา้ ใหไ้ ดค้ ราวละมากๆ สนองตอบความ ตอ้ งการของประชาชนท<ีเพ<ิมมากข*ึน ลาํ ดบั ขZนั ในการผลติ ]. การผลติ ขZนั ประถม หมายถึง การผลิตท<ีใช้ ทรัพยากรธรรมชาติเป็นปัจจยั สาํ คญั

\\. การผลติ ขZนั มธั ยม หมายถึง การผลิตที<นาํ เอา ผลผลิตที<ไดจ้ ากการผลิตข*นั ประถมมาผลิตอีกต่อหน<ึง เพ<ือใหเ้ กิดเป็นสินคา้ และบริการใหม่ข*ึนมา p. การผลติ ขZนั อดุ ม การผลิตในข*นั น*ีเป็นการ ใหบ้ ริการเพื<ออาํ นวยความสะดวกในดา้ นการขนส่ง การคา้ ส่ง การคา้ ปลีก การเงิน การประกนั ภยั

หน่วยการผลติ หน่วยการผลติ หมายถึง ผทู้ <ีประกอบกิจกรรมการผลิต สินคา้ และบริการรวมท*งั การขนส่งการจาํ หน่ายเพื<อ ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภค

1. เจ้าของคนเดยี ว หน่วยการผลิตแบบน*ีมี บุคคลคน เดียวหรือคนใกลช้ ิดกบั เป็นเจา้ ของในการดาํ เนิน กิจการซ<ึงตอ้ งรับผดิ ชอบทุกอยา่ ง • เป็ นรูปแบบการประกอบธุรกจิ ทม+ี ผี ู้ดาํ เนินการมากทสี+ ุดและมี อายุเก่าแก่มากทส+ี ุด • ส่วนมากเป็ นธุรกจิ ในครอบครัว

2. ห้างหุ้นส่วน เป็นหน่วยการผลิตซ<ึงมีบุคคลต*งั แต่ _ คนข*ึนไป ร่วมกนั ดาํ เนินธุรกิจผเู้ ป็นหุน้ ส่วนมีสญั ญา ท<ีออกทุนตามจาํ นวนที<ตกลงกนั ห้างหุ้นส่วนแบ่งออกเป็ น 3 ชนิด ]) หา้ งหุน้ ส่วนสามญั _) หา้ งหุน้ ส่วนสามญั นิติบุคคล `) หา้ งหุน้ ส่วนจาํ กดั

การเปรียบเทยี บความแตกต่าง ห้ างหุ้นส่ วนสามญั ห้างหุ้นส่วนสามญั นิติ ห้างหุ้นส่วนจาํ กดั บุคคล •ตอ้ งจดทะเบียน •มีฐานะเป็ นนิติบุคคล •ไม่ตอ้ งจดทะเบียน •ตอ้ งจดทะเบียน •หุน้ ส่วนมี 2ประเภท คือ •มีฐานะเป็นบุคคลธรรมดา •มีฐานะเป็นนิติบุคคล จาํ กดั ความรับผดิ ชอบ และ •หุน้ ส่วนมีประเภทเดียว •หุน้ ส่วนมีประเภทเดียว ไม่จาํ กดั ความรับผดิ ชอบ คือ ไม่จาํ กดั ความ คือ ไม่จาํ กดั ความ •ผถู้ ือหุน้ ประเภทไม่จาํ กดั รับผดิ ชอบ รับผดิ ชอบ ความรับผดิ ชอบเท่านNนั มี •หุน้ ส่วนทุกคนมีสิทธิเขา้ •หุน้ ส่วนทุกคนมีสิทธิเขา้ สิทธิเขา้ มาจดั การงานได้ มาจดั การงานได้ มาจดั การงานได้ •เสียภาษีจากกาํ ไรสุทธิ •ตอ้ งเสียภาษีจากยอด •เสียภาษีจากกาํ ไรสุทธิ รายไดไ้ ม่วา่ จะขาดทุนหรือ กาํ ไร

3. บริษทั จาํ กดั เป็นหน่วยการผลิตต*งั ข*ึนเพ<ือรวมทุน โดยออกหุน้ มี มูลค่าหุน้ ละเท่าๆกนั และจะตอ้ งมีผู้ ร่วมลงทุนต*งั แต่ aคนข*ึนไป ข้อดแี ละข้อเสีย ข้อดี มีทุนดาํ เนินงานมากสามารถขยายกิจการได้ อยา่ งรวดเร็วโดยการออกหุน้ กมู้ ีความมนั< คงสูง ข้อเสีย อาํ นาจในการจดั การมกั ตกอยกู่ บั ผถู้ ือหุน้ จาํ นวนมาก

t. สหกรณ์ เป็นองคก์ รธุรกิจรูปแบบหน<ึงซ<ึงสมาชิกผมู้ ี ความเดือดร้อนในเรื<องคลา้ ยๆ กนั ร่วมกนั จดั ต*งั ข*ึน สหกรณ์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น b ประเภท คือ - สหกรณ์การเกษตร - สหกรณ์ประมง - สหกรณ์นิคม - สหกรณ์ออมทรัพย์ - สหกรณ์ร้านคา้ - สหกรณ์บริการ

5. รัฐวสิ าหกจิ คือ หน่วยการผลิตรูปแบบหน<ึงท<ีมีการ ดาํ เนินงานในลกั ษณะ ขององคก์ ารของรัฐบาลหรือ หน่วยงานธุรกิจท<ีรัฐบาลเป็นเจา้ ของ - เพ<ือใหส้ วสั ดิการแก่ประชาชนไดบ้ ริการสินคา้ และบริการ - เพื<อควบคุมการผลิตและการบริโภค - เพื<อความมนั< คงและปลอดภยั ของประเทศ - เพ<ือหารายไดส้ ่วนหน<ึงมาใชา้ ยในการบริหารประเทศ

บทท3ี t การบริโภค (Consumption) ความหมายของการบริโภค หมายถงึ การกนิ และการใช้สินค้าและบริการเพื9อ สนองความต้องของมนุษย์ การบริโภคในทางเศรษฐศาสตร์ หมายถงึ การใช้ ประโยชน์จากสินค้าและบริการเพ9ือสนองความต้องการของ มนุษย์ ทIงั ทางตรงและทางอ้อม

ประเภทของการบริโภค การบริโภคสินค้าไม่คงทน คือ การบริโภคของ ชนิดใดชนิดหน<ึงแลว้ ของชนิดน*นั จะหมดไป การบริโภคสินค้าคงทน คือ การบริโภคของชนิด ใดชนิดหน<ึงแลว้ ของชนิดน*นั ยงั คงใชไ้ ดอ้ ีกหลายหน

ปัจจยั ทเ3ี ป็ นตวั กาํ หนดการบริโภค 1. รายได้ของผู้บริโภค หมายถึง รายไดส้ ุทธิของ ผบู้ ริโภค ซ<ึงเป็นรายไดซ้ <ึงหกั ภาษีออกแลว้ รายไดข้ อง ผบู้ ริโภคนบั วา่ เป็นปัจจยั สาํ คญั ที<สุดในการกาํ หนด ค่าใชจ้ ่ายสาํ หรับผบู้ ริโภค § ความโนม้ เอียงท<ีจะบริโภคเพิ<มข*ึน (MPC) § ความโนม้ เอียงท<ีจะออม (MPS)

2. นิสัยการใช้จ่ายของผู้บริโภค คนเรามีนิสยั แตกต่าง กนั คนที3มีนิสยั สุรุ่ยสุร่ายพอใจหรืออยากไดส้ ิ3งใดกร็ ีบทนั ที คนประเภทนCีมกั มีหนCีสิน บางคนมีนิสยั ประหยดั ใชจ้ ่าย อยา่ งจาํ เป็นกจ็ ะเป็นคนท3ีมีการศึกษาดี มกั จะรู้สึกมนั3 คงใน การดาํ เนินชีวติ 3. การศึกษา ประสบการณ์และการเรียนรู้ของ ผู้บริโภค บุคคลท<ีมีการศึกษาที<ดีมกั จะรู้สึกถึงประเภท และชนิดของอาหารท<ีเป็นประโยชนต์ ่อร่างกาย

4. ปริมาณของสินค้าในตลาด สินคา้ ใดมีปริมาณ มากกจ็ ะมีโอกาสซCือมาบริโภคมากด สิ3งใดที3มีปริมาณ นอ้ ยเรากม็ ีโอกาสบริโภคนอ้ ย 5. ระบบการค้า ในปัจจุบนั การซCือขายโดยชาํ ระ เงินสด จะเป็นที3นิยมแลว้ กย็ งั มีระบบแบบผอ่ นส่งซ3ึง เป็ นที3นิยมในหมู่คนทุกระดบั 6. การโฆษณา การโฆษณากเ็ ป็นอีกหน3ึงแรงจูงใจที3ทาํ ใหเ้ ลือกบริโภคสิ3งนCนั มากขCึนดว้ ยความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการ บริโภค รายได้ การออมและการลงทุน

ผลท%ีเกิดจากการบริโภค ผลดี ผลเสีย • เกดิ การขยายตวั ด้านการผลติ • เกดิ การบริโภคสินค้าอย่าง • เกดิ การจ้างงานเพม2ิ ขนึM ฟ่ ุมเฟื อย • มกี ารใช้เทคโนโลยใี นการผลติ • ทาํ ให้ขาดดุลการค้าเพมิ2 ขนึM เพม2ิ ขนึM • ทาํ ให้เกดิ การผลติ สินค้าและ • เกดิ การขยายตวั ของธุรกจิ ที2 บริการทขี2 าดคุณภาพ เกยี2 วข้อง • ทาํ ให้เกดิ ภาวะเงนิ เฟ้อ • เกดิ การออมมากขนึM

ความสัมพนั ธ์ระหว่างการบริโภค รายได้ การออมและการลงทุน ประชาชนโดยทว<ั ไปมกั ไม่บริโภคเกินรายไดท้ <ีเขามีอยู่ เขาจะออมส่วนท<ีไดเ้ พ<ือใชจ้ ่ายยามจาํ เป็นในอนาคต หรือนาํ ไปลงทุนทาํ ธุรกิจดว้ ยตนเอง ดงั น*นั เงินออมท<ี เกบ็ ไวจ้ ะกลายเป็นเงินลงทุน

การวเิ คราะห์พฤตกิ รรมผู้บริโภคด้วย ทฤษฎอี รรถประโยชน์ ความหมายของอรรถประโยชน์ หมายถึง ความ พอใจจากบุคคลไดร้ ับจากการบริโภคสินคา้ ชนิดใด ชนิดหน<ึงในระยะเวลาหน<ึง ประเภทของอรรถประโยชน์ อรรถประโยชนเ์ พ<ิม (MU) อรรถประโยชนร์ วม (TU)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook