โครงสรา้ งหลกั สูตรชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 5 กลมุ่ การเรียนภาษาอังกฤษ-คณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นที่ 2 (หนว่ ยกติ / ชม.) ชม.) รายวิชาพืน้ ฐาน ท32101 ภาษาไทย 3 7.5 (300) รายวิชาพ้นื ฐาน 7.5 (300) ค32101 คณิตศาสตร์ 3 1.0 (40) ว32101 เคมีพนื้ ฐาน 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 (40) ว32103 เทคโนโลยี 3 1.0 (40) ส32101 สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3 1.0 (40) ค32102 คณติ ศาสตร4์ 0.5 (20) ส32102 ประวัตศิ าสตร์3 1.0 (40) พ32101 สุขศึกษาและพลศึกษา 3 1.0 (40) ว32102 ชวี วิทยาพน้ื ฐาน 1 0.5 (20) ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 (20) ง32101 การงานอาชพี 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) อ32101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 3 0.5 (20) 1.0 (40) ส32103 สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 4 1.0 40) รายวชิ าเพิม่ เตมิ 8.0 (320) ท32201 หลักการใชภ้ าษาไทย 0.5 (20) ส32104 ประวตั ศิ าสตร์ 4 1.0 (40) ค32201 คณติ ศาสตร์เพม่ิ เติม 3 2.0 (80) ส32201 วิถชี าวพุทธ 3 0.5 (20) พ32102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 4 0.5 (2 0) ส32202 ถิ่นฐานยา่ นฝ่งั ธน 0.5 (20) ส32203 หนา้ ที่พลเมอื ง 1 0.5 (20) ศ32102 ศลิ ปะ4 0.5 (20) ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) อ32201 ภาษาองั กฤษฟังพดู 3 0.5 (20) ง32102 การงานอาชีพ 4 1.0 (40) อ32202 ภาษาอังกฤษอา่ นเขียน 3 1.0 (40) จ32203 ภาษาจีนเพื่อการส่อื สาร 3 1.0 (40) อ32102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 4 1.0 (40) I32202 การส่ือสารและการนาเสนอ 9.0 (360) รายวิชาเพมิ่ เติม 1.0 (40) ท32204 การฟงั และดู 2.0 (80) ค32203 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ 4 0.5 (20) ส32205 วิถชี าวพทุ ธ 4 0.5 (20) ส32206 ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ธนบุรี 0.5 (20) ส32207 หนา้ ที่พลเมอื ง 2 0.5 (20) ง32203 อาหารเพื่ออาชพี 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟงั พูด 4 1.0 (40) อ32204 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 4 1.0 (40) จ32204 ภาษาจนี เพื่อการสือ่ สาร 4 1.0 (40) กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 60 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้ กิจกรรมนักเรียน ชมุ นมุ 20 กจิ กรรมแนะแนว 20 จรยิ ธรรม กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ กิจกรรมนักเรยี น รวมเวลาเรยี นท้งั สนิ้ 20 ชมุ นุม 20 15 จริยธรรม 15 5 กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ IS 3 5 720 รวมเวลาเรียนทัง้ สนิ้ 680
โครงสรา้ งหลกั สตู รชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 กลุ่มการเรียนภาษาอังกฤษ-คณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี 1 (หน่วยกติ / ภาคเรียนท่ี 2 (หน่วยกิต/ ชม.) ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน ท33101 ภาษาไทย 5 6.0 (240) รายวชิ าพนื้ ฐาน 6.0 (240) ค33101 คณติ ศาสตร์ 5 1.0 (40) ว33101 ชวี วทิ ยาพนื้ ฐาน 2 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ส33101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 5 1.0 (40) พ33101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 5 1.0 (40) ค33102 คณติ ศาสตร์ 6 1.0 (40) ศ33101 ศลิ ปะ 5 0.5 (20) อ33101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน5 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 0.5 (20) 1.0 (40) ส33102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 6 1.0 (40) รายวิชาเพิม่ เติม 8.0 (320) ท33201 การเขยี น 0.5 (20) พ33102 สุขศึกษาและพลศึกษา 6 1.0 (40) ค33201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 5 1.5 (60) ส33201 อาเซยี นศกึ ษา 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 ส33202 หนา้ ที่พลเมอื ง 3 1.0 (40) ง33201 คอมพิวเตอร์ 1 1.0 (40) อ33102 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน6 0.5 (20) อ33201 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 5 1.0 (40) อ33202 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 5 8.0 (320) รายวิชาเพมิ่ เติม 1.0 (40) จ33203 ภาษาจีนเพอื่ การสื่อสาร 5 1.0 (40) 1.0 (40) ท33203 วเิ คราะหว์ รรณกรรมปจั จบุ ัน 1.0 (40) 1.5 (60) ค33203 คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เตมิ 6 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล 0.5 (20) ส33205 หน้าท่ีพลเมอื ง 4 1.0 (40) ง33203 คอมพิวเตอร์ 2 1.0 (40) อ33203 ภาษาองั กฤษฟัง-พดู 6 1.0 (40) อ33204 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 6 1.0 (40) จ33204 ภาษาจีนเพ่อื การสือ่ สาร 6 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 60 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนกั เรยี น 20 กิจกรรมแนะแนว ชมุ นุม กิจกรรมนักเรียน 20 จริยธรรม 15 กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ 20 ชุมนุม 5 รวมเวลาเรียนทงั้ สิ้น 15 จริยธรรม 620 5 กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 620 รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้
โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 กลมุ่ การเรยี นภาษาอังกฤษ-ภาษาจนี ภาคเรยี นท่ี 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรียนที่ 2 (หน่วยกติ / ชม.) ชม.) รายวิชาพืน้ ฐาน ท31101 ภาษาไทย 1 7.0 (280) รายวิชาพ้ืนฐาน 7.0 (280) ค31101 คณิตศาสตร์ 1 1.0 (40) ว31101 ฟสิ ิกสพ์ ืน้ ฐาน 1 1.0 (40) ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 (40) ว31103 เทคโนโลยี 1 1.0 (40) ส31101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1 1.0 (40) ค31102 คณติ ศาสตร์ 2 0.5 (20) ส31102 ประวตั ิศาสตร์ 1 1.0 (40) พ31101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 1.0 (40) ว31102 ฟสิ ิกสพ์ นื้ ฐาน 2 0.5 (20) ศ31101 ศิลปะ 1 0.5 (20) อ31101 ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน 1 0.5 (20) ว31104 เทคโนโลยี 2 0.5 (20) 1.0 (40) รายวิชาเพิ่มเติม 1.0 (40) ส31103 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม 2 7.5 (300) ท31201 การพูด 1.0 (40) ส31201 วิถชี าวพทุ ธ 1 0.5 (20) ส31104 ประวัตศิ าสตร์ 2 0.5 (20) ส31202 นกั กฎหมายรุน่ เยาว์ 1 0.5 (20) อ31201 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 1 0.5 (20) พ31102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 2 1.0 (40) อ31202 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 1 1.0 (40) จ31201 ภาษาจนี 1 0.5 (20) ศ31102 ศิลปะ 2 1.5 (60) จ31203 ภาษาจีนฟัง – พูด 1 1.0 (40) 1.0 (40) อ31102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 2 1.0 (40) 6.5 (260) รายวิชาเพ่มิ เติม 1.0 (40) ท31203 การอ่าน 0.5 (20) ส31204 วิถชี าวพทุ ธ 2 0.5 (20) ส31205 นักกฎหมายรุ่นเยาว์ 2 1.0 (40) อ31203 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 2 1.0 (40) อ31204 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 2 1.5 (60) จ31202 ภาษาจนี 2 1.0 (40) จ31204 ภาษาจนี ฟงั – พูด 2 I32201 การศึกษาคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น 60 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กิจกรรมนักเรยี น 20 กิจกรรมแนะแนว ชุมนมุ กจิ กรรมนักเรียน 15 จรยิ ธรรม 20 กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนมุ 5 รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ 20 จริยธรรม 680 5 กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 640 รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ
โครงสร้างหลักสตู รชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 กลุ่มการเรียนภาษาองั กฤษ-ภาษาจีน ภาคเรยี นท่ี 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นที่ 2 (หน่วยกิต/ ชม.) ชม.) รายวิชาพื้นฐาน ท32101 ภาษาไทย 3 7.5 (300) รายวิชาพ้ืนฐาน 7.5 (300) ค32101 คณิตศาสตร์ 3 1.0 (40) ว32101 เคมพี ื้นฐาน 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 (40) ว32103 เทคโนโลยี 3 1.0 (40) ส32101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3 1.0 (40) ค32102 คณิตศาสตร์4 0.5 (20) ส32102 ประวตั ศิ าสตร์3 1.0 (40) พ32101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 3 1.0 (40) ว32102 ชวี วิทยาพ้นื ฐาน 1 0.5 (20) ศ32101 ศิลปะ 3 0.5 (20) ง32101 การงานอาชีพ 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) อ32101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 3 0.5 (20) 1.0 (40) ส32103 สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม 4 1.0 40) รายวิชาเพิ่มเตมิ 7.5 (300) ท32201 หลักการใช้ภาษาไทย 0.5 (20) ส32104 ประวตั ศิ าสตร์ 4 1.0 (40) ส32201 วิถชี าวพุทธ 3 0.5 (20) ส32202 ถ่ินฐานย่านฝ่ังธน 0.5 (20) พ32102 สุขศึกษาและพลศึกษา 4 0.5 (20) ส32203 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 1 0.5 (20) ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) ศ32102 ศิลปะ4 0.5 (20) อ32201 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 3 1.0 (40) อ32202 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 3 0.5 (20) ง32102 การงานอาชีพ 4 1.0 (40) จ32201 ภาษาจีน3 1.5 (60) จ32203 ภาษาจนี ฟัง – พูด 3 1.0 (40) อ32102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 4 1.0 (40) I32202 การสือ่ สารและการนาเสนอ 8.5 (340) รายวชิ าเพิ่มเติม 1.0 (40) ท32202 การฟังและดู 0.5 (20) ส32205 วิถชี าวพทุ ธ 4 0.5 (20) ส32206 ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ ธนบุรี 0.5 (20) ส32207 หน้าท่ีพลเมอื ง 2 0.5 (20) ง32203 อาหารเพอ่ื อาชพี 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 4 1.0 (40) อ32204 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 4 1.5 (60) จ32202 ภาษาจนี 4 1.0 (40) จ32204 ภาษาจีนฟัง – พูด 4 1.0 (40) กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 60 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 60 กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ กิจกรรมนักเรยี น ชุมนมุ 20 กิจกรรมแนะแนว 20 จรยิ ธรรม กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ กจิ กรรมนักเรยี น รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ 15 ชุมนมุ 15 20 จริยธรรม 20 5 กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ IS3 5 700 รวมเวลาเรียนท้งั สิน้ 660
โครงสร้างหลักสูตรชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 กล่มุ การเรยี นภาษาอังกฤษ-ภาษาจนี ภาคเรียนที่ 1 (หน่วยกิต/ ภาคเรยี นที่ 2 (หน่วยกิต/ ชม.) ชม.) รายวชิ าพ้ืนฐาน ท33101 ภาษาไทย 5 6.0 (240) รายวิชาพนื้ ฐาน 6.0 (240) ค33101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 (40) ว33101 ชวี วทิ ยาพ้นื ฐาน 2 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ส33101 สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 5 1.0 (40) พ33101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 5 1.0 (40) ค33102 คณิตศาสตร์ 6 1.0 (40) ศ33101 ศลิ ปะ 5 0.5 (20) อ33101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน5 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 0.5 (20) 1.0 (40) ส33102 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 6 1.0 (40) รายวิชาเพมิ่ เติม 8.0 (320) ท33201 การเขียน 0.5 (20) พ33102 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 6 1.0 (40) ส33201 อาเซียนศกึ ษา ส33202 หน้าที่พลเมอื ง 5 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 1.0 (40) ง33201 คอมพวิ เตอร์ 1 0.5 (20) อ33201 ภาษาอังกฤษฟงั -พดู 5 1.0 (40) อ33102 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน6 อ33202 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 5 1.0 (40) จ33201 ภาษาจนี 5 8.0 (320) รายวิชาเพ่มิ เติม 1.0 (40) จ33202 ภาษาจีนฟัง – พูด 5 1.0 (40) 1.0 (40) ท33203 วิเคราะห์วรรณกรรมปจั จบุ ัน 1.5 (60) 1.0 (40) 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล 0.5 (20) ส33205 หน้าที่พลเมือง 6 1.0 (40) ง33203 คอมพิวเตอร์ 2 1.0 (40) อ33203 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 6 1.0 (40) อ33204 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 6 1.5 (60) จ33203 ภาษาจีน 6 1.0 (40) จ33204 ภาษาจีนฟัง – พูด 6 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 60 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนักเรยี น 20 กิจกรรมแนะแนว ชมุ นุม กิจกรรมนกั เรยี น 15 จรยิ ธรรม 20 กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนมุ 5 รวมเวลาเรียนท้ังส้นิ 20 จรยิ ธรรม 620 5 กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 620 รวมเวลาเรียนท้งั สิน้
โครงสรา้ งหลกั สูตรชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 กลุ่มการเรียนภาษาองั กฤษ-ภาษาฝรง่ั เศส ภาคเรยี นที่ 1 (หน่วยกิต/ ภาคเรยี นท่ี 2 (หน่วยกติ / ชม.) ชม.) รายวชิ าพื้นฐาน ท31101 ภาษาไทย 1 7.0 (280) รายวิชาพ้นื ฐาน 7.0 (280) ค31101 คณติ ศาสตร์ 1 1.0 (40) ว31101 ฟิสกิ ส์พื้นฐาน 1 1.0 (40) ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 (40) ว31103 เทคโนโลยี 1 1.0 (40) ส31101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 1 1.0 (40) ค31102 คณิตศาสตร์ 2 0.5 (20) ส31102 ประวตั ศิ าสตร์ 1 1.0 (40) พ31101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 1 1.0 (40) ว31102 ฟิสิกส์พ้นื ฐาน 2 0.5 (20) ศ31101 ศิลปะ 1 0.5 (20) อ31101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1 0.5 (20) ว31104 เทคโนโลยี 2 0.5 (20) 1.0 (40) รายวชิ าเพิม่ เติม 1.0 (40) ส31103 สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม 2 7.5 (300) ท31201 การพดู 1.0 (40) ส31201 วิถชี าวพทุ ธ 1 0.5 (20) ส31104 ประวตั ิศาสตร์ 2 0.5 (20) ส31202 นักกฎหมายรนุ่ เยาว์ 1 0.5 (20) อ31201 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 1 0.5 (20) พ31102 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 1.0 (40) อ31202 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1 1.0 (40) ฝ31201 ภาษาฝร่งั เศส1 0.5 (20) ศ31102 ศลิ ปะ 2 2.5 (100) 1.0 (40) อ31102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 2 1.0 (40) 6.5 (260) รายวิชาเพ่มิ เติม 1.0 (40) ท31203 การอ่าน 0.5 (20) ส31204 วิถีชาวพทุ ธ 2 0.5 (20) ส31205 นกั กฎหมายรนุ่ เยาว์ 2 1.0 (40) อ31203 ภาษาอังกฤษฟัง-พดู 2 1.0 (40) อ31204 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 2.5 ฝ31202 ภาษาฝรัง่ เศส 2 (100) I32201 การศึกษาค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 60 กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น 60 กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ กจิ กรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนักเรียน 20 กิจกรรมแนะแนว ชุมนมุ กจิ กรรมนกั เรียน 15 จรยิ ธรรม 20 กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 15 ชมุ นมุ 5 รวมเวลาเรียนทั้งสน้ิ 20 จริยธรรม 680 5 กิจกรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 640 รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ
โครงสรา้ งหลกั สตู รชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 กลุ่มการเรียนภาษาองั กฤษ-ภาษาฝรั่งเศส ภาคเรยี นท่ี 1 (หน่วยกติ / ภาคเรยี นท่ี 2 (หนว่ ยกิต/ ชม.) ชม.) รายวิชาพืน้ ฐาน ท32101 ภาษาไทย 3 7.5 (300) รายวิชาพน้ื ฐาน 7.5 (300) ค32101 คณติ ศาสตร์ 3 1.0 (40) ว32101 เคมีพน้ื ฐาน 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 (40) ว32103 เทคโนโลยี 3 1.0 (40) ส32101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3 1.0 (40) ค32102 คณิตศาสตร์4 0.5 (20) ส32102 ประวตั ศิ าสตร์3 1.0 (40) พ32101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 3 1.0 (40) ว32102 ชวี วิทยาพ้นื ฐาน 1 0.5 (20) ศ32101 ศิลปะ 3 0.5 (20) ง32101 การงานอาชพี 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) อ32101 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 3 0.5 (20) 1.0 (40) ส32103 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม 4 1.0 40) รายวิชาเพ่ิมเตมิ 7.5 0.5 (20) ส32104 ประวัตศิ าสตร์ 4 (300) 1.0 (40) 0.5 (20) พ32102 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 4 0.5 (20) 0.5 (20) ศ32102 ศิลปะ4 0.5 (20) 0.5 (20) ง32102 การงานอาชพี 4 0.5 (20) 1.0 (40) อ32102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 4 0.5 (20) 8.5 (340) รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 1.0 (40) 1.0 (40) ท32201 หลกั การใชภ้ าษาไทย 1.0 (40) ท32202 การฟงั และดู 2.5 (100) ส32201 วิถชี าวพทุ ธ 3 0.5 (20) ส32205 วิถีชาวพุทธ 4 ส32202 ถิ่นฐานยา่ นฝงั่ ธน 0.5 (20) ส32206 ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ธนบุรี ส32203 หน้าที่พลเมือง 1 0.5 (20) ส32207 หน้าท่ีพลเมอื ง 2 ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) ง32203 อาหารเพือ่ อาชพี อ32201 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 3 1.0 (40) อ32203 ภาษาองั กฤษฟัง-พดู 4 อ32202 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 3 1.0 (40) อ32204 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 4 ฝ32201 ภาษาฝรง่ั เศส 3 2.5 (100) ฝ32202 ภาษาฝร่ังเศส 4 I32202 การส่ือสารและการนาเสนอ 1.0 (40) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 60 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 60 กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้ กจิ กรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนกั เรียน 20 กิจกรรมแนะแนว ชมุ นุม กิจกรรมนักเรยี น 15 จริยธรรม 20 กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนมุ 5 รวมเวลาเรยี นทั้งสนิ้ 20 จริยธรรม 660 5 กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ IS3 700 รวมเวลาเรยี นท้ังส้นิ
โครงสร้างหลักสูตรชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 กลมุ่ การเรยี นภาษาองั กฤษ-ภาษาฝรง่ั เศส ภาคเรียนท่ี 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นท่ี 2 (หน่วยกติ / ชม.) ชม.) รายวชิ าพนื้ ฐาน ท33101 ภาษาไทย 5 6.0 (240) รายวชิ าพน้ื ฐาน 6.0 (240) ค33101 คณติ ศาสตร์ 5 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ว33101 ชีววิทยาพ้นื ฐาน 2 1.0 (40) ค33102 คณิตศาสตร์ 6 1.0 (40) ส33101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1.0 (40) พ33101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 5 1.0 (40) ส33102 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 6 1.0 (40) ศ33101 ศลิ ปะ 5 0.5 (20) พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 6 0.5 (20) อ33101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน5 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 0.5 (20) 1.0 (40) อ33102 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน6 1.0 (40) รายวิชาเพิม่ เติม 9.0 (360) 9 (360) ท33201 การเขยี น 1.0 (40) รายวชิ าเพิ่มเติม 1.0 (40) ส33201 อาเซียนศกึ ษา ท 33203 วิเคราะห์วรรณกรรมปจั จบุ ัน ส33202 หนา้ ท่ีพลเมือง 5 1.0 (40) 1.0 (40) ง33201 คอมพิวเตอร์ 1 0.5 (20) ส33204 ศาสนาสากล 0.5 (20) อ33201 ภาษาอังกฤษฟัง-พดู 5 ส33205 หนา้ ท่ีพลเมอื ง 6 อ33202 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 5 1.0 (40) 1.0 (40) ฝ33201 ภาษาฝรัง่ เศส 5 1.0 (40) ง33203 คอมพวิ เตอร์ 2 1.0 (40) ฝ33202 ภาษาฝรัง่ เศสเพอ่ื การท่องเทย่ี ว 1 1.0 (40) อ33203 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 6 1.0 (40) 2.0 (80) อ33204 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 6 2.0 (80) 1.5 (60) ฝ33203 ภาษาฝรงั่ เศส 6 1.5 (60) ฝ32204 ภาษาฝรง่ั เศสเพอื่ การท่องเทีย่ ว 2 กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 60 กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้ กจิ กรรมแนะแนว 20 กิจกรรมนักเรียน 20 กิจกรรมแนะแนว ชุมนมุ กิจกรรมนักเรียน 15 จริยธรรม 20 กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนมุ 5 รวมเวลาเรยี นท้งั สิ้น 20 จริยธรรม 660 5 กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ 660 รวมเวลาเรียนทงั้ สน้ิ
โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 กลุ่มการเรียนภาษาอังกฤษ – สงั คมศึกษา – ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นท่ี 2 (หนว่ ยกิต/ ชม.) ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน ท31101 ภาษาไทย 1 7.0 (280) รายวชิ าพื้นฐาน 7.0 (280) ค31101 คณิตศาสตร์ 1 1.0 (40) ว31101 ฟิสกิ สพ์ ้ืนฐาน 1 1.0 (40) ท31102 ภาษาไทย 2 1.0 (40) ว31103 เทคโนโลยี 1 1.0 (40) ส31101 สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1 1.0 (40) ค31102 คณิตศาสตร์ 2 0.5 (20) ส31102 ประวัติศาสตร์ 1 1.0 (40) พ31101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 1 1.0 (40) ว31102 ฟสิ ิกส์พืน้ ฐาน 2 0.5 (20) ศ31101 ศิลปะ 1 0.5 (20) อ31101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 1 0.5 (20) ว31104 เทคโนโลยี 2 0.5 (20) 1.0 (40) รายวชิ าเพิม่ เติม 1.0 (40) ส31103 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม 2 8.0 ท31201 การพดู 0.5 (20) ส31104 ประวตั ิศาสตร์ 2 (320) ท31202 แตง่ คาประพันธ์ 1.0 (40) ส31201 วิถีชาวพุทธ 1 0.5 (20) พ31102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 2 ส31202 นกั กฎหมายรนุ่ เยาว์ 1 1.0 (40) ส31203 วิวัฒนาการเศรษฐกิจไทย 0.5 (20) ศ31102 ศลิ ปะ 2 ง31201 การแปรรปู อาหาร 0.5 (20) อ31201 ภาษาองั กฤษฟงั พดู 1 1.0 (40) อ31102 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 2 0.5 (20) อ31203 ภาษาองั กฤษอา่ นเขียน 1 1.0 (40) 7.0 (280) รายวิชาเพ่ิมเตมิ 1.0 (40) 1.0 (40) ท31203 การอ่าน 1.0 (40) 1.0 (40) ท31204 ชวี ิตและงานสนุ ทรภู่ 1.0 (40) 0.5 (20) ส31204 วิถีชาวพทุ ธ 2 1.0 (40) 0.5 (20) ส31205 นกั กฎหมายรุ่นเยาว์ 2 1.0 (40) ส31206 เศรษฐศาสตร์เบือ้ งต้น 1.0 (40) ง31202 งานมาลยั และดอกไม้สด 1.0 (40) อ31202 ภาษาองั กฤษฟังพดู 2 1.0 (40) อ31204 ภาษาองั กฤษอา่ นเขยี น 2 I32201 การสอ่ื สารค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน 60 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 60 กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลารู้ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนักเรียน 20 กจิ กรรมแนะแนว ชมุ นมุ กจิ กรรมนักเรยี น 15 จรยิ ธรรม 20 กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนุม 10 รวมเวลาเรียนทง้ั ส้ิน 20 จรยิ ธรรม 660 10 กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 620 รวมเวลาเรียนทง้ั สน้ิ
โครงสร้างหลักสูตรชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 กลุ่มการเรยี นภาษาองั กฤษ – สังคมศึกษา – ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ 1 (หนว่ ยกติ / ภาคเรยี นที่ 2 (หน่วยกติ / ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน ชม.) รายวชิ าพ้นื ฐาน ท32101 ภาษาไทย 3 7.5 (300) 7.5 (300) ค32101 คณติ ศาสตร์ 3 1.0 (40) ว32101 เคมีพน้ื ฐาน 1.0 (40) ท32102 ภาษาไทย 4 1.0 (40) ว32103 เทคโนโลยี 3 1.0 (40) ส32101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 3 1.0 (40) ค32102 คณิตศาสตร4์ 0.5 (20) ส32102 ประวตั ิศาสตร์3 1.0 (40) พ32101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 3 1.0 (40) ว32102 ชีววิทยาพนื้ ฐาน 1 0.5 (20) ศ32101 ศลิ ปะ 3 0.5 (20) ง32101 การงานอาชพี 3 0.5 (20) ว32104 เทคโนโลยี 4 0.5 (20) อ32101 ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน 3 0.5 (20) 1.0 (40) ส32103 สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 4 1.0 40) รายวชิ าเพิ่มเตมิ 8.0 (320) 0.5 (20) ส32104 ประวตั ศิ าสตร์ 4 ท32201 หลักการใชภ้ าษาไทย 1.0 (40) ท32202 ภาษาเพื่ออาชพี 0.5 (20) พ32102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 4 1.0 (40) ส32201 วิถชี าวพุทธ 3 0.5 (20) ส32202 ถ่ินฐานยา่ นฝง่ั ธน 0.5 (20) ศ32102 ศลิ ปะ4 0.5 (20) ส32203 หนา้ ที่พลเมอื ง 1 0.5 (20) ส32204 เศรษฐกิจพอเพียง 0.5 (20) ง32102 การงานอาชีพ 4 1.0 (40) ง32201 งานใบตองและดอกไม้สด 0.5 (20) ง32202 ธรุ กิจ 1.0 (40) อ32102 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน 4 1.0 (40) อ32201 ภาษาองั กฤษฟงั พดู 3 1.0 (40) อ32202 ภาษาองั กฤษอ่านเขียน 3 9.0 รายวชิ าเพิ่มเติม 1.0 (40) I32202 การส่อื สารและการนาเสนอ (360) 1.0 (40) ท32203 การฟงั และดู 1.0 (40) ท32204 วรรณคดมี รดก 0.5 (20) ส32205 วิถชี าวพุทธ 4 0.5 (20) ส32206 ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ธนบุรี 0.5 (20) ส32207 หนา้ ที่พลเมอื ง 2 1.0 (40) ส32208 สงั คมและวฒั นธรรมเพ่อื นบา้ น 0.5 (20) ง32203 อาหารเพอ่ื อาชพี 1.0 (40) ง32204 การขายสินค้าและบริการ 1.0 (40) อ32203 ภาษาอังกฤษฟังพดู 4 1.0 (40) อ32204 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 4 1.0 (40) กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 60 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิม่ เวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนักเรยี น 20 กจิ กรรมแนะแนว ชมุ นุม กิจกรรมนักเรยี น 15 จรยิ ธรรม 20 กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์ 15 ชมุ นุม 5 รวมเวลาเรยี นท้งั สน้ิ 20 จริยธรรม 680 5 กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ IS3 720 รวมเวลาเรยี นทงั้ สนิ้
โครงสร้างหลกั สตู รช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 กล่มุ การเรยี นภาษาอังกฤษ – สงั คมศึกษา – ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 (หน่วยกิต/ ภาคเรยี นที่ 2 (หนว่ ยกิต/ ชม.) รายวชิ าพน้ื ฐาน ชม.) รายวชิ าพื้นฐาน 6.0 (240) 6.0 ท33101 ภาษาไทย 5 (240) ค33101 คณิตศาสตร์ 5 1.0 (40) ท33102 ภาษาไทย 6 1.0 (40) ว33101 ชวี วิทยาพ้ืนฐาน 2 1.0 (40) ส33101 สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 5 1.0 (40) ค33102 คณติ ศาสตร์ 6 1.0 (40) พ33101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 5 1.0 (40) ศ33101 ศิลปะ 5 1.0 (40) ว33102 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 0.5 (20) อ33101 ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน5 1.0 (40) ส33102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 6 0.5 (20) 1.0 (40) รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 0.5 (20) พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 6 8.5 (340) ท33201 การเขียน 0.5 (20) ศ33102 ศิลปะ 6 1.0 (40) ท33202 วเิ คราะหว์ รรณคดไี ทย ส33201 อาเซยี นศึกษา 1.0 (40) อ33102 ภาษาองั กฤษพื้นฐาน6 1.0 (40) ส33202 หน้าท่ีพลเมอื ง 3 ส33203 รทู้ ันโลก 8.5 (340) รายวชิ าเพม่ิ เติม 1.0 (40) ง33201 คอมพิวเตอร์ 1 ง33202 บญั ชี 1 1.0 (40) ท33203 วิเคราะห์วรรณกรรมปจั จบุ ัน 0.5 (20) อ33201 ภาษาอังกฤษฟงั พูด 5 1.0 (40) ท 33204 วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ธนบุรี อ33202 ภาษาอังกฤษอ่านเขียน 5 1.0 (40) ส33204 ศาสนาสากล 1.0 (40) 0.5 (20) ส33205 หนา้ ที่พลเมอื ง 4 1.0 (40) ส33206 เอเชียตะวันออกในโลกปจั จบุ นั 1.0 (40) 1.0 (40) ง33203 คอมพิวเตอร์ 2 1.0 (40) ง33204 บญั ชี 2 1.0 (40) 1.0 (40) อ33203 ภาษาอังกฤษฟงั พดู 6 1.0 (40) อ33204 ภาษาองั กฤษอา่ นเขยี น 6 1.0 (40) 1.0 (40) กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน 60 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น 60 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลารู้ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมแนะแนว 20 กจิ กรรมนกั เรียน 20 กิจกรรมแนะแนว ชุมนุม กิจกรรมนักเรยี น 15 จริยธรรม 20 กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 15 ชุมนมุ 10 รวมเวลาเรยี นทั้งสน้ิ 20 จรยิ ธรรม 640 10 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ 640 รวมเวลาเรยี นทง้ั สนิ้
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน เป็นกจิ กรรมท่ีม่งุ พฒั นาใหผ้ ู้เรียนเปน็ พลโลกท่ีมีคณุ ภาพ รู้จกั และเห็นคุณค่าใน ตนเองและผู้อืน่ มวี ุฒภิ าวะทางอารมณ์ มกี ระบวนการคิด มที กั ษะในการดาเนินชวี ติ อย่างเหมาะสมและมี ความสขุ มจี ิตสานึกในการรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มีจิตอาสาในการทา กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ โดยกาหนดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ดังน้ี การพฒั นาการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และการเขียนส่ือความ - ครอู าจารย์จดั ทาใบความรู้ โดยมเี นือ้ หาตามกลุ่มสาระการเรียนรทู้ สี่ ังกดั คนละ 3 เรื่อง ความยาว 1 หน้ากระดาษ มีคาถามเรื่องละ 3 ข้อ นักเรียนอ่านใบความรู้ บันทึกการอา่ น และตอบคาถามตามใบความรู้ - ครูทป่ี รึกษาประเมนิ ผลการพัฒนาทักษะการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น ตามเกณฑท์ ่ี กาหนด โดยมเี กณฑก์ ารผา่ นอยา่ งนอ้ ย 10 เรอ่ื ง ต่อ 1 ภาคเรยี น โครงงาน การจัดทาโครงงานใหส้ อดคลอ้ งกบั เรอื่ งทเ่ี รียนไปสูช่ มุ ชน โดยเน้นปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงเชงิ คณุ ธรรม เพอื่ นาเสนอองคค์ วามรู้ กระบวนการ ที่เกิดจากการบรู ณาการตามหลกั การของ STEM และ IS (Independent Study) กจิ กรรมจติ อาสา การจดั กจิ กรรมจติ อาสา ได้กาหนดใหน้ กั เรยี นทุกระดบั ชัน้ ไดท้ ากิจกรรมเพ่อื สงั คมและ สาธารณประโยชน์ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเรียนรโู้ ลกศกึ ษา (Global Education : GE) อนั ประกอบดว้ ย การเป็นพลโลก การแก้ปัญหาความขัดแยง้ ความเป็นธรรมทางสังคม คา่ นิยมและตระหนัก ในการรบั รู้สภาพการณ์ การพัฒนาอยา่ งยัง่ ยนื ความมีสิทธมิ นษุ ยชน การพง่ึ พาอาศยั ซง่ึ กนั และกนั อย่างหลากหลาย เพื่อพัฒนาผู้เรยี นใหเ้ ปน็ ผูม้ ีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เป็นพลโลก 5 ประการ ประกอบดว้ ย ความเปน็ เลิศทางวิชาการ สามารถสือ่ สารไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 2 ภาษา มีความล้าหน้าทางความคดิ มี การผลิตงานอยา่ งสร้างสรรค์และรว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ สังคมโลก และมีทักษะ 4 ประการ คอื ทักษะพืน้ ฐาน (Core Skills) ทักษะการเรียนรู้และพัฒนาตน(Personal learning & Development Skills) ทักษะ พลเมือง / ความรบั ผิดชอบต่อสังคม(Citizenship Skills) และทกั ษะการทางาน(Employability Skills) ม. 1-3 - กิจกรรมเพอ่ื ประโยชน์ตอ่ ครอบครัว โรงเรียนและชมุ ชน (อาทิเชน่ ตกั บาตรเตมิ บุญเกื้อหนุนพุทธศาสตร์ กิจกรรมรักษ.์ .....แม่นา้ เจา้ พระยา เปน็ ต้น ) ม. 4-6 - กจิ กรรมเพ่อื ประโยชนต์ ่อสงั คมภายในกรงุ เทพมหานครและปริมณฑล (อาทิเช่น กิจกรรมสู่ชมุ ชน กิจกรรมอ่านหนังสือเพอ่ื คนตาบอด/ผู้ปว่ ย กจิ กรรมเย่ยี มผพู้ กิ ารซ้าซอ้ น กจิ กรรมทาดเี พื่อพ่อ เป็นตน้ )
4. การออกแบบกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โรงเรยี นสตรีวัดระฆังแบง่ รูปแบบการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้ออกเป็น 4 หมวด ดงั นี้ หมวดที่ 1 กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น ได้แก่ กิจกรรมเนตรนารี-ยุวกาชาด, กจิ กรรมชมุ นมุ , กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชนแ์ ละกจิ กรรมแนะแนว จานวน 4 คาบ หมวดท่ี 2 กิจกรรมสรา้ งเสรมิ สมรรถนะและการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมภาษาอังกฤษเพือ่ การส่อื สาร, กจิ กรรมสอนเสรมิ , กจิ กรรมหอ้ งสมดุ หมวดที่ 3 กิจกรรมสรา้ งเสริมคณุ ลกั ษณะและคา่ นิยม ไดแ้ ก่ กจิ กรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม, กิจกรรมธรรมศกึ ษา หมวดท่ี 4 กิจกรรมสร้างเสริมทกั ษะการทางาน การดารงชีพและ ทักษะชีวิต ไดแ้ ก่ กจิ กรรม ตามความถนัดและความสนใจ ซึง่ จะจดั กจิ กรรมใน 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้เป็นหลัก คอื กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์, กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยแี ละกลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพล ศกึ ษา โดยแต่ละระดบั ช้ันจะมกี ารจดั กิจกรรมในหมวดท่ี 2-4 รวม 5 คาบ/สัปดาห์ ซง่ึ แบ่งไดด้ งั นี้ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 1. ภาษาอังกฤษเพ่ือการสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 1. ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) 3. กิจกรรมธรรมศกึ ษา 1 คาบ (หมวดที่ 3) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 2 คาบ (หมวดท่ี 4) รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ รวม 4 คาบ/สปั ดาห์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 1. ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดที่ 4) 3. กจิ กรรมตามความสนใจ 3 คาบ (หมวดที่ 4) รวม 5 คาบ/สัปดาห์ รวม 5 คาบ/สปั ดาห์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 §M ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 i. 1. ภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) A 2. กิจกรรมสอนเสริม 2 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 3. กจิ กรรมคุณธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดท่ี 4) 4. กิจกรรมตามความสนใจ 1 คาบ (หมวดท่ี 4)
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาอังกฤษเพ่อื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาอังกฤษเพือ่ การส่อื สาร 1 คาบ (หมวดท่ี 2) 2. กจิ กรรมคณุ ธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 2. กจิ กรรมคุณธรรมจริยธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) 3. กิจกรรมเพือ่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 1. ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กจิ กรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 3. กจิ กรรมเพ่อื สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดที่ 4) 3. กจิ กรรมเพ่อื สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) รวม 3 คาบ/สัปดาห์ รวม 3 คาบ/สปั ดาห์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 1. ภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 1. ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสือ่ สาร 1 คาบ (หมวดที่ 2) 2. กิจกรรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดท่ี 3) 2. กิจกรรมคุณธรรมจรยิ ธรรม 1 คาบ (หมวดที่ 3) 3. กจิ กรรมเพือ่ สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4) 3. กิจกรรมเพ่อื สาธารณะประโยชน์ 1 คาบ(หมวดท่ี 4. กิจกรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดที่ 2) 4) 4. กจิ กรรมสอนเสรมิ 2 คาบ (หมวดท่ี 2) รวม 5 คาบ/สัปดาห์ รวม 5 คาบ/สัปดาห์ โดยการออกแบบกจิ กรรมให้ครอบคลมุ 4H ดงั น้ี ด้าน กิจกรรม Head Heart กิจกรรมภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, กจิ กรรมสอนเสริม, กจิ กรรมหอ้ งสมดุ Hand กิจกรรมคณุ ธรรมจริยธรรม, กิจกรรมธรรมศกึ ษา กจิ กรรมตามความถนดั และความสนใจ (กจิ กรรมในกล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ดนตรแี ละ Health นาฏศลิ ป์ และกลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี) กจิ กรรมตามความถนดั และความสนใจ (กจิ กรรมในกลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพล ศึกษา)
การวัดผลประเมินผล การวัดและประเมินผลการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนมาตรฐานสากลโรงเรียนต้องสนับสนุนการประเมินผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนร่วมกับหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานอื่นๆ เพ่ือสร้างภาคีเครือข่ายสาหรับการวัดและประเมินผล เพ่ือเทียบเคียงมาตรฐานในแต่ละสาระการเรียนรู้ ซ่ึงจะวัดและประเมินผลท้ังความรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น การอา่ นคดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน สือ่ ความ และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1.การวัดและประเมินผลความรู้ 1.1 การวัดและประเมินผลกลุ่มสาระพน้ื ฐาน การวัดและประเมินผลเป็นรายภาคเรียน แบ่งเป็น 8 ระดับ คือ 0 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 และ 4 โดยวัดและประเมินผลการทางาน ผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ ไม่เนน้ ให้ผู้เรยี นมงุ่ ทาคะแนนสูง แตผ่ ้เู รียนจะต้องแสดงผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนท้ังด้านความรู้และทักษะต่างๆ ท่ีมีการพัฒนาจากภาคเรียนหนึ่งต่อไปอีกภาคเรียนหนึ่งให้เป็นท่ีประจักษ์ วิธี วดั ผลและประเมนิ ผล ดาเนนิ การ ดังน้ี 1) การสอบขอ้ เขียนและปากเปล่า (Written and Oral Examinations) 2) การประเมนิ ผลรปู แบบอ่ืน (Other Forms of Assessment) 3) การประเมนิ ภายใน (Internal Assessment) 1.2 การวดั และการประเมินผลกลมุ่ สาระหลกั เพมิ่ เตมิ การวดั และประเมินผลกล่มุ สาระหลักเพม่ิ เติมเน้นการรายงานผลโดยการเขยี นบทความ ความเรียง งานวจิ ยั โครงงาน โดยนาประสบการณท์ ้ังในและนอกห้องเรยี นมานาเสนอ 2. การวัดและประเมนิ ผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การวดั และประเมินผลกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น เป็นการประเมนิ ความสามารถและพฒั นาการของผเู้ รียนในการ เข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนในแต่ละภาคเรียน/ปี ตามเกณฑ์ของแต่ละกจิ กรรมและตัดสนิ ผลการประเมนิ เปน็ 2 ระดับ คอื ผ หมายถงึ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ทีส่ ถานศึกษากาหนด มผ หมายถงึ ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ท่สี ถานศกึ ษากาหนด 3. การวดั และประเมนิ ผลการอ่านคิดวเิ คราะหแ์ ละเขียนสอื่ ความ การวดั และประเมินผลการอ่านคดิ วเิ คราะห์และเขยี นส่ือความเปน็ การประเมินทักษะการอา่ นและการเขยี นตาม เกณฑข์ องสถานศกึ ษา และตดั สินผลการประเมินเป็น 3 ระดบั คอื ดีเยย่ี ม หมายถึง มีทักษะท่ดี ีเยยี่ มสงู กว่าเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากาหนด ดี หมายถงึ มที ักษะท่สี ูงกวา่ เกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด ผ่านเกณฑ์ หมายถงึ มีทกั ษะตามเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาหนด 4. การวัดและประเมินผลคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ การวัดและประเมนิ ผลคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เปน็ การประเมนิ พฤติกรรมตามเกณฑข์ องสถานศึกษา และ ตดั สนิ ผลการประเมินเปน็ 3 ระดับ คือ ดีเย่ียม หมายถงึ มพี ฤตกิ รรมที่ดีเยยี่ มสงู กวา่ เกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากาหนด ดี หมายถึง มีพฤติกรรมสูงกว่าเกณฑ์ทส่ี ถานศึกษากาหนด ผ่านเกณฑ์ หมายถงึ มพี ฤติกรรมตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากาหนด เกณฑ์การจบการศึกษาของโรงเรยี นสตรีวัดระฆัง เกณฑ์การจบการศึกษาของผูเ้ รียนโรงเรยี นสตรวี ัดระฆงั ตามหลักสูตรโรงเรยี น มาตรฐานสากล พุทธศักราช 2557 แบง่ ตามระดับช้ัน 2 ระดบั คือช้นั มัธยมศึกษาตอนตน้ และช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ดงั น้ี
ช้ันมธั ยมศึกษาตอนตน้ 1. เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานและเพิม่ เตมิ ไม่เกนิ 81 หนว่ ยกิต โดยแบง่ เปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน 66 หน่วยกติ และรายวิชาเพมิ่ เติมตามทโี่ รงเรียนกาหนด 2. ต้องมผี ลการเรยี นผา่ นตลอดหลักสตู รไม่นอ้ ยกวา่ 77 หน่วยกิต โดยประกอบด้วย รายวชิ าพ้ืนฐาน 66 หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เติมไม่นอ้ ยกวา่ 11 หน่วยกติ 3. มีผลการประเมินความสามารถการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดบั 1-3 4. มีผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ในระดับ 1-3 5. เข้าร่วมกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียนและมีผลการประเมินเปน็ “ผา่ น” (ผ) ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย 1. เรียนรายวิชาพน้ื ฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน 81 หนว่ ยกิต โดยแบ่งเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน 41 หน่วยกติ และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ตามท่ีโรงเรียนกาหนด 2. ต้องมีผลการเรียนผ่านตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกวา่ 77 หนว่ ยกิต โดยประกอบด้วย รายวิชาพน้ื ฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพมิ่ เติมไม่น้อยกวา่ 36 หนว่ ยกิต 3. มผี ลการประเมินความสามารถการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี นในระดบั 1-3 4. มีผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับ 1-3 5. เขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและมผี ลการประเมนิ เป็น “ผา่ น” (ผ่าน) และผู้เรยี นทง้ั 2 ระดบั ช้นั ตอ้ งไมม่ ี 0 ร มส และ มผ คุณลักษณะผเู้ รยี นมีศกั ยภาพเป็นพลโลกของโรงเรียนสตรวี ัดระฆัง 1.ยอดเยีย่ มวชิ าการ ไดเ้ กรดเฉล่ียไมต่ ่ากว่า 2.00 และไม่มี 0 ร มส และ มผ 2.สือ่ สารไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ 3.ล้าหนา้ ทางความคิด มีโครงงาน 1 โครงงาน 4.ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ มชี ้นิ งาน 1 ชน้ิ งาน 5.รว่ มกนั รับผดิ ชอบสังคมโลกเขา้ ร่วมกิจกรรมอนุรักษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม
กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ และพฒั นาผเู้ รียนให้รจู้ ักตนเอง ร้รู ักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม สามารถคิด ตัดสนิ ใจ คดิ แก้ปญั หา กาหนดเปา้ หมาย วางแผนชีวติ ท้ังในด้านการเรียนและอาชีพ สามารถปรับตนเองไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนมีอสิ ระในการคดิ และตดั สนิ ใจด้วยตวั เอง เรยี นรู้ด้วยตัวเอง ด้วยการ ปฏิบตั จิ นกระทงั่ เกดิ ทักษะชวี ิต การจัดกิจกรรมแนะแนว มีองคป์ ระกอบ ๓ ด้าน ดงั น้ี ๑. ด้านการศกึ ษา ให้ผู้เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองในดา้ นการเรยี นอย่างเต็มตามศกั ยภาพ รู้จกั แสวงหาและใช้ ข้อมลู ประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีนสิ ัยใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น มวี ิธีการเรียนรู้ และสามารถวางแผนการเรยี นหรือการศึกษาต่อได้อยา่ งเหมาะสม ๒. ดา้ นอาชพี ใหผ้ ู้เรยี นไดร้ ้จู ักตนเองในทุกด้าน รแู้ ละเขา้ ใจโลกของงานอาชพี อย่างหลากหลาย มีเจตคติ ท่ดี ีต่ออาชพี สจุ รติ มกี ารเตรยี มตัวสอู่ าชพี สามารถวางแผนเพือ่ ประกอบอาชพี ตามท่ตี นเองมคี วามถนัดและสนใจ ๓. ดา้ นสว่ นตวั และสังคม ให้ผู้เรยี นรจู้ ักและเขา้ ใจตนเอง รักและเหน็ คุณค่าของตนเองและผู้อื่น รกั ษ์ ส่ิงแวดลอ้ ม มวี ุฒภิ าวะทางอารมณ์ มเี จตคติทดี่ ีต่อการมชี ีวติ ทด่ี มี คี ุณภาพ มีทักษะชวี ิตและสามารถปรับตวั ดารงชีวิตอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
คู่มือการใชห้ ้องสมุดสมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (โต พรหมฺ รงั สี) โรงเรียนสตรีวดั ระฆัง ที่ต้งั อาคาร ๑ ชนั้ ๒ หอ้ ง ๑๒๑๗ ขนาด ๓.๕ ห้องเรียน รางวัลสาคัญทไ่ี ดร้ ับ - ปกี ารศกึ ษา ๒๕๔๖ – ๒๕๕๓ ได้รับรางวลั เกียรตบิ ตั รโรงเรียนสตรีวดั ระฆงั โรงเรียนส่งเสริมการอา่ น ใน โครงการ NANMEE BOOKS READING CLUB ปีที่ ๑ – ๙ จดั โดย บริษัท นานมบี ุค๊ ส์ จากัด สนับสนุนโดย สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน (สพฐ.) ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ - ปีการศึกษา ๒๕๕๑ ได้รบั การประเมินโรงเรยี นต้นแบบห้องสมุดมีชวี ิต จากสานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา กรงุ เทพมหานคร เขต ๓ - ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๑ ไดร้ ับรางวลั ผบู้ ริหารรกั การอ่านดเี ดน่ ผอ. สุมนมาศ วฒุ สิ ง่าธรรม จากสานกั งานเขต พนื้ ทก่ี ารศกึ ษา กรงุ เทพมหานคร เขต ๓ - ปกี ารศึกษา ๒๕๕๑ ได้รบั รางวลั ยอดเยย่ี ม นกั เรยี นรักการอา่ น นางสาวสชุ าวดี บญุ ยะวนชิ ม. ๖/๑ จาก สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา กรุงเทพมหานคร เขต ๓ - ปีการศึกษา ๒๕๕๔ ไดร้ ับรางวัลโลพ่ ระราชทาน สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นางสาวกษมาภรณ์ กลิ่นศรสี ขุ ม. ๔/๑ “สดุ ยอดการอา่ นยอดเย่ียมระดับประเทศ” ในโครงการ NANMEE BOOKS READING CLUB ปที ี่ ๑๐ จัดโดย บรษิ ัท นานมีบคุ๊ ส์ จากัด สนบั สนุนโดย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ๒๓ ม.ค ๒๕๕๕ - ปกี ารศกึ ษา ๒๕๕๔ ไดร้ บั รางวัลโลโ่ รงเรียนสตรวี ดั ระฆงั โรงเรยี นส่งเสรมิ การอ่านยอดเยย่ี มระดับประเทศ ใน โครงการ NANMEE BOOKS READING CLUB ปีท่ี ๑๑ จัดโดย บริษทั นานมีบคุ๊ ส์ จากดั สนบั สนนุ โดย สานกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน (สพฐ.) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ๓ เม.ย. ๒๕๕๕ - ปกี ารศึกษา ๒๕๕๕ ได้รับรางวัลโล่โรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง โรงเรียนสง่ เสรมิ การอ่านยอดเย่ยี มระดบั ประเทศ ในโครงการ NANMEE BOOKS READING CLUB ปที ่ี ๑๒ จัดโดย บริษัท นานมบี ุค๊ ส์ จากัด สนบั สนนุ โดย สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน (สพฐ.) ณ ศูนยป์ ระชมุ แห่งชาตสิ ิริกติ ์ิ ๒ เม.ย. ๒๕๕๖ - ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ ได้รบั รางวัลเกยี รตบิ ตั ร รองชนะเลศิ อนั ดับ ๒ โครงการประกวดการจัดกิจกรรมเพื่อ พัฒนาหอ้ งสมดุ โรงเรียนให้เปน็ หอ้ งสมดุ มีชีวิต จากศูนย์พัฒนาวชิ าการห้องสมดุ สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา มธั ยมศกึ ษา เขต ๑ โรงเรียนสายปญั ญา ในพระบรมราชินปู ถมั ป์ ๒๒ กนั ยายน ๒๕๖๐ - ปกี ารศึกษา ๒๕๕๖ – ๒๕๖๑ ได้รับรางวลั เกยี รติบตั รโรงเรยี นสตรีวดั ระฆัง(Satri Wat Rakhang School) โรงเรยี นสง่ เสรมิ การอ่าน ในโครงการ NANMEE BOOKS READING CLUB ปีท่ี ๑๓ – ๑๘ จดั โดย บริษัท นานมบี คุ๊ ส์ จากัด สนบั สนนุ โดย สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน (สพฐ.) ๓๐ มกราคม ๒๕๖๒ วัตถปุ ระสงคข์ องห้องสมุด ๑. เปน็ ศูนยก์ ลางการศกึ ษาหาความรู้ดว้ ยตนเอง ๒. เปน็ ศูนย์กลางการสง่ เสรมิ การศกึ ษาของโรงเรยี นในด้านการพัฒนาการเรยี น การสอนของครู และนกั เรียน ๓. ส่งเสริมใหน้ ักเรียนมคี วามคิดสร้างสรรค์ ๔. ส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ๕. ปลกู ฝังให้นกั เรียนมนี ิสยั รกั การอา่ น
เวลาทาการของห้องสมดุ เปิดบรกิ าร วนั จนั ทร์-วันศุกร์ เวลา ๐๗.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. ปิดทาการ วันเสาร์-วันอาทติ ย์ วนั หยดุ นักขัตฤกษ์ ผมู้ ีสทิ ธใิ์ นการใช้บริการห้องสมุด - ครู เจ้าหน้าท่ี และนกั เรยี นโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง - ชุมชนและผู้ปกครอง หรือผู้ทสี่ นใจ หอ้ งสมุดมบี รกิ ารดังนี้ ๑. บริการยืม-คืนหนงั สอื และสอ่ื ตา่ งๆ ดว้ ยระบบ Scan นวิ้ มอื และยงิ Bar Code ๒. บรกิ ารสืบค้นขอ้ มูลด้วย Computer ระบบ SMS E-Library ๓. บริการวารสาร นิตยสาร และหนงั สือพิมพ์ ๔. บรกิ ารหนงั สืออ้างองิ บริการตอบคาถามชว่ ยการค้นควา้ ๕. บริการ Internet บรกิ ารห้องสมุดเสยี ง Audio Visual บริการหอ้ งสมดุ เคลื่อนที่ ๖. บริการแนะนาการใชห้ อ้ งสมุด และแนะแนวการอ่าน ข้อปฏบิ ตั ใิ นการใชห้ ้องสมุด ๑. นกั เรียนตอ้ งแต่งกายให้สภุ าพและถูกตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียน ๒. หา้ มนากระเปา๋ แฟ้ม ถงุ ย่าม เขา้ ไปในห้องสมุด ใหว้ างไว้ทช่ี ั้นซงึ่ ห้องสมุดไดจ้ ัดไว้บรกิ าร ๓. ห้ามนาอาหาร ขนม และเคร่อื งดืม่ เข้ามาในห้องสมดุ ๔. หนังสอื ท่ใี ชเ้ สรจ็ แลว้ กรุณานาเก็บเขา้ ที่เดิม ขึน้ ชนั้ ตรงตามเลขหมู่ที่กาหนดท่ีสันหนงั สอื ๕. ไม่เล่น ไมพ่ ูดคุย ไมใ่ ชโ้ ทรศัพท์ และไมส่ ง่ เสียงดงั ในหอ้ งสมุด เพราะเปน็ การรบกวนสมาธผิ ูอ้ ่ืน ๖. ไมต่ ัด ฉกี ทาลาย ส่งิ พมิ พใ์ นห้องสมุด หรอื ทาลายวสั ดุ และครุภัณฑ์ในหอ้ งสมดุ ถอื ว่าเป็นการทาลาย ทรพั ย์สนิ สมบตั สิ ่วนรวม ผกู้ ระทาผดิ ต้องชดใช้คา่ เสียหายและต้องได้รบั โทษตามระเบยี บของโรงเรียน ๗. ให้ครตู รวจหนังสอื และสิง่ ของที่นาออกทุกครั้ง ก่อนออกจากห้องสมุด ขอ้ ปฏบิ ัติในการยืม - คนื หนังสือ และสือ่ ต่างๆ ๑. นักเรียนใหมท่ ุกคนตอ้ งทาการบันทกึ ลายนิ้วชม้ี ือขวาใหเ้ สร็จเรียบรอ้ ย ภายในภาคเรยี นท่ี ๑ ๒. นักเรยี นตอ้ งสแกนนว้ิ มอื กอ่ นทกุ ครง้ั ในการยมื คืน ๓. นักเรียนยมื หนังสอื ได้ ๓ เล่ม ตอ่ ๑ คน ยมื ได้นาน ๗ วัน CD, VCD, และ CD-ROM ยืมได้ ๒ แผ่น/๒ วนั ๔. สือ่ ทุกชนิดเมอ่ื ยืมไปแลว้ หากส่งคืนเกนิ กาหนดสง่ ตอ้ งเสยี ค่าปรับโดยใหช้ ว่ ยงาน / งดยมื /๑ วนั / เลม่ ๕. สื่อทใ่ี ช้ภายในหอ้ งสมุดมี หนังสอื อา้ งองิ วารสารและหนงั สอื พมิ พ์ และจลุ สารและ เอกสาร ทางวชิ าการ (ยืมถ่ายเอกสารได)้ ๖. หากผ้ใู ช้ทาวัสดสุ ารนิเทศของห้องสมดุ สูญหาย ต้องชดใชแ้ ก่ห้องสมุดด้วยการซอื้ วสั ดนุ ั้นมาทดแทน ๗. หอ้ งสมุดจะตดั สิทธิใ์ นการใช้ห้องสมุด กรณีผู้ใช้บรกิ ารขาดความรบั ผิดชอบ
การจดั หนังสอื ในหอ้ งสมุด การจัดหมหู่ นังสือ”ระบบทศนยิ มของดิวอ้ี” (Dewey Decimal Classification) เมลวิล ดิวอี้ (Melvil Dewey) ชาวอเมรกิ ันเปน็ ผู้คิดข้นึ ระบบน้ใี ชต้ ัวเลขเป็นสัญลักษณแ์ ทนเน้อื หาของ หนงั สือ การแบ่งหมู่หนงั สอื แบง่ ออกเป็น 10 หมวดใหญ่ ดงั น้ี ๐๐๐ ความรู้ทว่ั ไป General work ๑๐๐ ปรัชญา Philosophy จิตวทิ ยา Psychology ๒๐๐ ศาสนา Religion ๓๐๐ สังคมศาสตร์ Social Sciences ๔๐๐ ภาษา Language ๕๐๐ วทิ ยาศาสตร์ธรรมชาติ Natural Sciences ๖๐๐ เทคโนโลยี (วิทยาศาสตรป์ ระยกุ ต์) Technology ๗๐๐ ศิลปะ และนนั ทนาการ Art & Recreation ๘๐๐ วรรณคดี Literature ๙๐๐ ภูมิศาสตร์ Geography ประวัติศาสตร์ History ************* การจัดหนงั สอื แยกตามประเภท โดยใชอ้ กั ษรแทน โดยใชอ้ กั ษรแทนสญั ลักษณ์ ดังนี้ หนงั สือเรอ่ื งสั้น ใชอ้ กั ษร “รส” หรอื J วรรณกรรมเยาวชน ใชอ้ กั ษร “ย” หรอื J หนงั สือนวนยิ าย ใชอ้ กั ษร “น” หรือ F หนงั สอื อา้ งอิง ใช้อกั ษร “อ” หรือ R หนังสือคมู่ ือ ใชอ้ ักษร “ค” วารสารและหนงั สือพมิ พ์ จะจัดแยกไวอ้ ีกมมุ หน่งึ ของหอ้ งสมุด โดยจะให้บรกิ ารเฉพาะวารสาร-หนังสอื พิมพใ์ หม่ และวารสารล่วงเวลาแล้วเท่าน้นั
การส่งเสรมิ นสิ ยั รักการอ่าน โรงเรยี นสตรวี ัดระฆงั
กลุม่ บริหารงบประมาณ กลุ่มบรหิ ารงานงบประมาณมีขอบข่ายภาระงานตามโครงสรา้ งทเ่ี กย่ี วข้องกับงบประมาณ ท่จี ะใช้ดาเนนิ งานภายในโรงเรยี น ซ่ึงจะตอ้ งบริหารจัดการให้เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์เกิดผลคุม้ คา่ และเน้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผเู้ รยี น มหี ลักธรรมาภบิ าล ขอบข่ายงานดังกล่าวประกอบด้วย - งานวิเคราะห์และจดั ทาแผนของสถานศึกษา - งานจัดต้งั เสนอและจัดสรรงบประมาณ - งานตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล รายงานผลการใชเ้ งนิ และผลการดาเนินงาน - งานการจัดการขอ้ ตกลงการปฏิบัตริ าชการ - งานบริหารการเงนิ - งานบรหิ ารบญั ชี - งานบริหารพัสดแุ ละสินทรัพย์ - งานระดมทรัพยากร และการลงทนุ เพอ่ื การศึกษา - งานเทคโนโลยีสารสนเทศ - งานตรวจสอบภายใน - งานจัดระบบควบคมุ ภายในหน่วยงาน - งานอน่ื ๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย โดยในการบรหิ ารจัดการศกึ ษาในปัจจุบนั ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับ ๑๑ และพระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ อกี ทง้ั แนวทางการปฏริ ูปการศกึ ษามุ่งเน้นการบริหารจัดการโดยหลกั ธรรมภบิ าล ดว้ ยหลักนิตธิ รรม หลักคณุ ธรรม หลักความรับผิดชอบ หลกั การมสี ่วนรว่ ม หลักความโปร่งใส และหลกั ความคมุ้ คา่ สอดคลอ้ งกบั หลกั ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังน้ันการบรหิ ารงบประมาณโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง จึงดาเนนิ งานสนองนโยบายตา่ งๆ ทงั้ ของรฐั บาล สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน และสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา๑ โดยฉพาะอย่างยิ่งในสภาพท่ีมีการกระจายอานาจการบริหารจัดการและโรงเรียนเป็นนิติบุคคล การมีส่วนร่วมของชุมชน หรือผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสาคัญ แสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ และมีส่วนร่วมในการดาเนินงานของโรงเรียน ซึ่งมีคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีเป็นผู้แทนของชุมชนพิจารณา ใหค้ วามเหน็ ชอบ ดังเช่น การวิเคราะห์และจัดทาแผนพัฒนาของสถานศึกษา โรงเรียนจะต้องประสานความร่วมมือจากฝ่ายบริหาร สถานศึกษา ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานในการจัดทาแผนของสถานศึกษา การจัดต้ังคาเสนอ และขอการจัดสรรงบประมาณ การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาเม่ือโรงเรียนพิจารณาถึงความจาเป็น และค่าใช้จ่ายจริง จะต้องได้รับความเห็นชอบคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานและ อ นุมัติโ ดยสานัก ง าน เขตพื้น ที่ก าร ศึก ษา โร ง เรียน จึงจะบริหารจัดการการเงินได้ตามแผนท่ีกาหนดไว้ นอกจากนั้นจะต้องมีการตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลและรายงานผลการใช้จ่ายเงนิ และผลการดาเนนิ งานว่าเปน็ ตามแผนหรือเกิดประโยชน์ต่อองค์กร หรือนักเรียนมาน้อยเพียงใด มีการจดั ระบบควบคุมภายในหนว่ ยงาน และการจดั ทาข้อมูลสารสนเทศอย่างมี ระบบ เพ่ือความสะดวกในการปฏบิ ตั ิงานและเป็นขอ้ มูลในการพัฒนาปรับปรุงโรงเรยี นให้ดยี ่งิ ข้ึนไป ยงั ประโยชนต์ อ่ ผ้เู รยี นเป็นสาคญั
กลุ่มบริหารงานบุคคล รายช่ือครทู ี่ปรกึ ษา ปี 2563 หัวหน้าระดับ นางสาวศศิณา เถาว์ทอง รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายระเบียบวินัย นางสาวคัทลียา แก้วแจ้ง รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายวิชาการ นางสาวประทิน ผลสุข ระดับชั้น ครทู ่ีปรกึ ษา ห้อง ม.1/1 นางเพ็ญพิมล เปรยี่ มพิมาย นางสาวสาวิตรี วัฒนะประเสรฐิ 1407 ม.1/2 นายสทิ ธิชัย ตันเจริญ นางสาวคทั ลยี า แก้วแจ้ง 1408 ม.1/3 นางสาวดวงพรรณ วระวิบลุ นางสาวประภัสสร บูรณะกิติ 1301 ม.1/4 นางสาวประทิน ผลสขุ นางสาวศศิณา เถาว์ทอง 1302 ม.1/5 นางสาวจันทรเ์ พ็ญ โอษาตมิ ากุล นางสาวลีลาวดี ทองอรา่ ม 1303 ม.1/6 นางสาวพัชรยิ า พราหมณี นางสาวสุทธิดา พาสุข 1304 ม.1/7 นางสาวนภสั รพี เขมาชีวะ นางสาวนฤมล ประสิทธิศกั ดิ์ 1305 ม.1/8 นางชื่นฤดี สังขะวร นางสาวดวงแข ชัยรถ 1411 หัวหน้าระดับ นางสาวจินดาเพ็ญ ทองวัฒนานนท์ รองหัวหน้าระดบั ฝา่ ยระเบียบวินัย นางสาวจารุณี เอนกนวล รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายวิชาการ นายฉตั รพล บัวบาน ระดับชั้น ครทู ี่ปรึกษา ห้อง ม.2/1 นางสาวอารยาภสั ร์ เดชมา นายศรัณย์ สง่ ทวน 1307 1308 ม.2/2 นางสาวนารีนาถ วิโรจน์กุล นางสาวเจนจิรา เสพิลา 1401 นายธนานันท์ แซ่เลา้ 1320 ม.2/3 นางสาวธนีนาถ อภิชฌานุกูล นางสาวธิดารตั น์ ช้างแก้วมณี 1209 นางสาวนริศรา มาสนั เทียะ ม.2/4 นางสาวสิรวิ ิมล ตันติถนอมวงศ์ นายพิสิทธ์ิ สวุ รรณธาดา คอมฯสมเด็จโต นางสาวจตุพร วิรัตจรยิ าพร ม.2/5 นายอรณุ จันทบุตร นางสาวนวรัตน์ ผลทอง 1005 1214 ม.2/6 นางสาวจินดาเพ็ญ ทองวัฒนานนท์ ม.2/7 นายฉัตรพล บัวบาน ม.2/8 นางสาวจารณุ ี เอนกนวล
หัวหน้าระดับ นางสาวอาภรณ์ เพลินพนา รองหัวหน้าระดบั ฝ่ายระเบียบวินัย นางสาวยุพาวรรณ มพี ันธ์ รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายวิชาการ นายวัลลภ มาลาพันธุ์ ระดับช้ัน ครูที่ปรกึ ษา หอ้ ง ม.3/1 นางรุจิลาภา แสนมหาชัยภา นายเด่นพงศ์ ฉัตรสวุ รรณ ม.3/2 นางสาวอุบลรตั น์ โพธพ์ิ รม นางสาวสุทธส์ิ ินี ก๋าคา 1311 ม.3/3 นางลัดดา แหวนทอง นางสาวกนกลักษณ์ วสีบัวรายณ์ 1312 ม.3/4 นายนพรตั น์ นาหว้า นางสาววิสนี อาแว 1402 ม.3/5 นางสาวอาภรณ์ เพลินพนา นายพีระสิทธ์ิ ภู่สาระ 1216 ม.3/6 นางสาวอรอุษา ศิริรัตน์ นางสาวยุพาวรรณ มีพันธ์ 1213 ม.3/7 นางสาวพจนีย์ ทองบุญ นายวัลลภ มาลาพันธ์ุ 1404 ม.3/8 นางสาวฐานิกา ผมรี นายณัฐพล คุ้มบุญ 1318 1103 หัวหน้าระดับ นางสาวหทัยรตั น์ ราพึงจิตต์ รองหัวหน้าระดับ ฝา่ ยระเบียบวินัย นางสาวราไพร สุตนนท์ รองหัวหน้าระดบั ฝ่ายวิชาการ นายนิธิกร ดรี มั ย์ ระดับช้ัน ครูท่ีปรึกษา ห้อง ม.4/1 นายสุคนธ์ บุญเทยี ม ม.4/2 นายสราวุฒ ซาเผือก นางธนิตา รตั นพันธ์ 1210 ม.4/3 นางสาววราลกั ษณ์ ช่อมะลิ 1413 ม.4/4 นางสาวหทัยรัตน์ ราพึงจิตต์ นางรุ่งนภา วิสฐิ จิรากร 1409 ม.4/5 นางสาวเพ็ญพิพร ทรพั ย์สุวรรณ์ 1410 ม.4/6 นางสาวแวว อรรคนิมาตย์ นางสาวสวุ ิมล กวินทรพั ย์ ม.4/7 นางสาวอภพิ ร คงขวัญยงค์ 1208 ม.4/8 นายปฏวิ ัติ เอ็นดู นายชัยธวัช มาอินทร์ 1412 นายทรงพล แซ่ซื้อ นายวสวัตติ์ สุรยิ ันต์ นายนิธิกร ดีรัมย์ นางสาวราไพร สุตนนท์
หัวหน้าระดบั นางสาววาสินี ศรเี คลือบ ห้อง รองหัวหน้าระดบั ฝา่ ยระเบียบวินัย นางสาวเพชรนิ ทร์ แทนคา รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายวิชาการ นายสุรศักด์ิ เจิมพันธ์นิตย์ 1319 1403 ระดับชั้น ครทู ่ีปรึกษา 1310 ม.5/1 นางปราณี เขียวฉลัว นายภาณพุ งษ์ ไชยคง 1313 ม.5/2 นางวรางค์อร อานมณี นายสรุ ศกั ด์ิ เจิมพันธ์นิตย์ คอมปรชี า ม.5/3 นางสาวเพชรนิ ทร์ แทนคา รมิ น้า ม.5/4 นางชญาณน์ ิจ เปี่ยมจันทร์ นายณฐั ภัสสร ไชยยา หอ้ งสมุด ม.5/5 นายสมเจต หวังทอง นางสาวพรศริ ิ สอนลิลา 1406 ม.5/6 นางละออง อ่อนเกตุพล นายอัครเดช เข่ือนเก้า ม.5/7 นางสาววาสินี ศรีเคลอื บ ม.5/8 นางสาวสิริรตั น์ ช่อฉาย นางสาวชัญญภัทร ธัชพงศก์ ฤต หัวหน้าระดบั นางรินทร์วดี นาคเจียม รองหัวหน้าระดบั ฝา่ ยระเบียบวินัย นายคมสันต์ จันนคร รองหัวหน้าระดับ ฝ่ายวิชาการ นางสาวกิตติกลุ ชมสรรเสรญิ ระดบั ช้ัน ครทู ี่ปรึกษา ห้อง ม.6/1 นางลัดดา ศิริเลศิ สมบตั ิ นางสาวรตั ติยา มีเจรญิ 1211 ม.6/2 นางกรรณิกา เด่นพาณิชย์การ นางสาวนลนิ รตั น์ งามเช้ือชิต 1212 ม.6/3 นางโกสมุ สัมพลงั นางสาวสรญา มุทะธากุล 1314 ม.6/4 นายคณพล สายงาม นางสาวเกศราภรณ์ พูนผล ม.6/5 นางสาวกิตติกุล ชมสรรเสริญ นางสาวจันทร์จิรา นาขันดี พระธรี ราช ม.6/6 นายสิทธิศักดิ์ ดเี สียง นางรนิ ทรว์ ดี นาคเจียม ม.6/7 นายคมสันต์ จันนคร นางสาววรางรตั น์ สคุ ันธรตั น์ 1416 ม.6/8 นางสาวกาญจนา พิมวงษ์ นางสาววรศิ รา โสภณสิริ 1414 1316 1405
โรงเรียนสตรวี ัดระฆงั ระเบียบ-วินัย ระเบียบ คอื ระเบียบแบบแผนและข้อบงั คับ ข้อปฏบิ ตั ิ วนิ ยั คอื แบบแผนทีว่ างไวเ้ ป็นแนวปฏบิ ตั ิ ระเบยี บ-วนิ ยั ของโรงเรียนสตรีวัดระฆงั มดี ังนี้ ๑. การเคารพชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ๑.๑ พิธเี คารพธงชาติ เวลา ๐๗.4๐ น. สัญญาณเตรียมตวั เข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ รอ้ งเพลง สดุดมี หาราชาและปฏญิ าณตน สวดพระคาถาชินบัญชร และทาสมาธิปฏิบัติ แผ่เมตตา ๑.๒ พธิ ใี นห้องประชมุ - ทุกครั้งทีเ่ ข้าหอ้ งประชุม ต้องเดนิ เปน็ แถว และเข้าประจาที่อย่างสงบเรยี บร้อยมีสมาธใิ นการสวดมนต์ แผ่ เมตตาเมอื่ เลิกประชุมหรอื จบการแสดงต่างๆ นักเรยี นทุกคนร่วมรอ้ งเพลงสรรเสรญิ พระบารมดี ว้ ยอาการสงบ - สาหรับผ้ทู ี่ไม่ไดอ้ ยูใ่ นหอ้ งประชุม แต่อยู่ในบรเิ วณใกลห้ อ้ งประชุม เมือ่ ได้ยนิ เสยี งเพลงสรรเสริญพระ บารมี ควรยนื ตรงแสดงความเคารพด้วย ๑.๓ ไม่กล่าวถอ้ ยคาหรือแสดงกริ ิยาตา่ งๆ อันแสดงถึงการหม่นิ พระบรมเดชานภุ าพ พระบรมฉายาลกั ษณ์ ของพระราชวงศ์แต่ละพระองค์ ตอ้ งประดบั และเกบ็ ไว้ในทสี่ มควร ๒. การเคารพครู ๒.๑ ในห้องเรียน เมอ่ื ครูเข้าห้องสอน หัวหนา้ นกั เรียนจะบอกทาความเคารพ “นกั เรยี นเคารพ” นกั เรยี น ทุกคนไหว้ กลา่ วคาว่า “สวสั ดีคะ่ ” เมอื่ หมดเวลาสอนหวั หน้าบอก “นกั เรียนเคารพ” ทกุ คนกราบพรอ้ มกนั กลา่ วคา วา่ “ขอบคณุ ค่ะ” สาหรับนักเรยี นภาษาต่างประเทศให้ปฏบิ ตั ิตามท่ีครูผู้สอนกาหนด ๒.๒ หน้าประตูโรงเรยี น เม่ือเข้ามาในบริเวณโรงเรียนและกลับบ้าน ให้นักเรียนไหว้พระพุทธรูปประจา โรงเรียนและครูเวรโดยวางกระเป๋าลงเสียก่อนจึงทาความเคารพด้วยการไหว้ ก้มศีรษะลงเล็กน้อยให้ดูงดงาม (ถา้ เปน็ กระเปา๋ สะพายไมต่ ้องวาง) ๒.๓ เมื่อพบครูนอกห้องเรียน ให้แสดงความเคารพดังน้ี ถ้าพบกันครงั้ แรกให้ไหว้ ถ้าพบกันหลายคร้ังแล้ว (ในวันเดียวกัน) หรืออยู่ใสภาพที่ไม่สามารถไหว้ได้ให้หยุดยืนตรง หันหน้าไปทางครูหรือกล่าวทักทายด้วยถ้อยคา สุภาพสหี นา้ ย้ิมแยม้ แจ่มใส ๒.๔ ถ้ามนี กั เรียนเดนิ ตามหลังครูและรบี ต้องการจะเดินล่วงหน้าไปกอ่ นใหข้ ออนญุ าตแล้วจึงเดินข้ึนหนา้ ไป ๒.๕ นกั เรยี นสามารถแสดงความเคารพครูไดต้ ลอดเวลา ดว้ ยการต้ังใจและเอาใจใสว่ ิชาท่เี รยี น มกี ริยา มารยาท สภุ าพ เรยี บรอ้ ย ออ่ นน้อม และสารวมอยู่เสมอ ๒.๖ ทุกครง้ั ทม่ี กี ารอบรม ไม่วา่ จะเป็นสถานทใี่ ดผู้อบรมจะเปน็ ครูหรือวิทยากรภายนอกกต็ ามนกั เรยี นจะ จัดตัวแทนกล่าวนาทาความเคารพ และในตอนจบการอบรมใหก้ ล่าวแสดงความเคารพ เชน่ เดยี วกับทีเ่ รยี นใน ห้องเรียน ๒.๗ เมื่อไปพบครูเพื่อรับงานหรือรับคาแนะนาต่าง ๆ ควรน่ังและน้อมตัวอย่างสุภาพ ถ้าไปเป็นกลุ่มควร เข้าแถวให้เป็นระเบียบโดยเฉพาะครูชาย นักเรยี นควรสารวมกิริยา วาจาให้มากท่ีสุด ๒.๘ นกั เรยี นเคารพครูขณะอยู่นอกโรงเรยี น โดยแสดงความเคารพดว้ ยการไหว้ ๒.๙ ก่อนเขา้ ออกหอ้ งเรยี น หรอื ห้องพักครู ให้ขออนุญาตกอ่ น
๓. การเคารพบคุ คลทว่ั ไป ๓.๑ นกั เรยี นตอ้ งมีสมั มาคาระต่อผมู้ ีอาวุโสกว่าตามควรแก่วยั และฐานะ เชน่ การเคารพรนุ่ พ่ี ๓.๒ เมือ่ มแี ขกพิเศษมาเยีย่ มโรงเรียน ใหน้ กั เรยี นแสดงความเคารพต่อผนู้ ้ันเช่นเดียวกบั ทกี่ ระทาต่อครู ของตนและถ้าแขกผนู้ ้ันเข้าไปดูการสอนหน้าหอ้ งเรียนถ้าเหน็ สมควรจะบอกแสดงความเคารพได้ หัวหน้าห้องควร ปฏิบตั ิ ๔. การเคารพต่อสถานท่ี ๔.๑ การเข้ามาในโรงเรยี นทกุ คร้งั นักเรยี นตอ้ งเคารพและให้เกียรติต่อสถานท่ดี ้วยการแต่งกายด้วย เครอ่ื งแบบนักเรียนให้เรียบร้อย ๔.๒ รจู้ ักกาลเทศะ เช่น ไม่ก้าวกา่ ยเข้าไปใช้ห้องพกั ครู หรอื โตะ๊ ครู โดยมิได้รบั อนญุ าต -ห้องสมุด เปน็ ห้องเรยี นท่ตี อ้ งการความสงบเปน็ ที่คน้ คว้าหาความรู้ไม่ควรทาเสียงรบกวน -ห้องประชุม เปน็ ทรี่ วมกล่มุ ชนเพ่อื ต้องการฟงั ประชุม ควรใช้ดว้ ยความสงบ -ห้องเรยี น หรือหอ้ งปฏบิ ตั ิการต่างๆ ควรใช้ให้ถูกตามชนดิ ไม่นาอาหารเข้าไปรบั ประทาน -หอ้ งพยาบาล เป็นท่พี กั ผู้ปว่ ย ที่ต้องการความสงบ ไม่ควรถอื โอกาสเป็นท่พี กั ผ่อนของผไู้ มเ่ จ็บป่วย -หอ้ งน้า ควรชว่ ยกนั รักษาความสะอาดให้ถูกต้องตามสขุ ลักษณะ นักเรียนไม่ควรใชห้ ้องนา้ ร่วมกบั ครู ๕. การมาโรงเรียนสาย นักเรียนทีม่ าโรงเรยี นสายไมท่ ันเขา้ แถว ถอื ว่ามาโรงเรยี นสาย ตอ้ งปฏิบตั ดิ งั นี้ ๕.๑ มาหลังสญั ญาณเขา้ แถว แตท่ ันเข้าห้องเรียนในคาบทหี่ นง่ึ -ยืนเป็นแถวอยทู่ ่ีที่ครูหรือสารวัตรนักเรียนกาหนด -เคารพธงชาติ สวดมนต์ ฯลฯ พรอ้ มนกั เรียนคนอ่ืนๆ -ไมเ่ คลอ่ื นย้ายไปไหนจนกว่าจะไดร้ ับอนุญาตจากครูเวร -วา่ กล่าวตกั เตอื นตามที่ครเู วรเหน็ สมควร ๕.๒ มาหลงั สัญญาณเข้าคาบเรยี นที่หนงึ่ (๐๘.2๐-๐๙.0๐ น.) -รายงานตวั ต่อเจ้าหน้าท่ี แสดงบัตรประจาตัวนกั เรยี น เขยี นชอ่ื และชั้นลงในใบรายงานการมาสาย และใหท้ ากิจกรรมตามทโี่ รงเรยี นกาหนด ๕.๓ มาสายหลังเวลา ๐๙.0๐ น. โรงเรียนเชญิ ผปู้ กครองมาพบเพอื่ สอบถามสาเหตุ และแกไ้ ขพฤติกรรม ๖. การขออนญุ าตออกนอกบรเิ วณโรงเรียนในระหวา่ งเวลาเรยี น ผูป้ กครองต้องมารบั ดว้ ยตนเองและทาหนงั สือขอ อนุญาตที่ห้องกล่มุ บรหิ ารงานบุคคล
ระเบยี บโรงเรยี นสตรีวัดระฆัง วา่ ดว้ ยจรรยา มารยาท และการทาความเคารพของนกั เรยี น พ.ศ. ๒๕๖๓ --------------------------- ด้วยจรรยามารยาทที่ดงี ามของไทย อนั เป็นเอกลักษณข์ องชาติ “โรงเรียนสตรีวดั ระฆัง” จึงกาหนดเปน็ ระเบียบวา่ ดว้ ยจรรยามารยาทและการทาความเคารพของนกั เรยี นเพ่ือใหน้ กั เรยี นทกุ คนเปน็ “กัลยาณีสตรีวัด ระฆงั ” ดงั ตอ่ ไปนี้ หมวดที่ ๑ บททั่วไป ข้อ ๑ ระเบยี บน้ีเรยี กว่า “ ระเบียบวา่ ดว้ ยจรรยามารยาทและการทาความเคารพของนกั เรยี นพ.ศ. ๒๕63” ขอ้ ๒ ให้ใช้ระเบียบน้ีต้ังแต่ “วันถดั จากวนั ประกาศ” เปน็ ต้นไป ขอ้ ๓ ในระเบียบนี้ ๓.๑ “นกั เรยี น” หมายถงึ นกั เรียนทุกคนในโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง ๓.๒ “ครเู วรประจาวัน” หมายถงึ ครูทไี่ ด้รบั การแตง่ ต้ัง หรอื มอบหมายใหป้ ฏิบัตริ าชการ จากทางโรงเรียน ในการดูแลนักเรยี น ตามสถานท่ีตา่ งๆในแต่ละวัน ๓.๓ “ครู” หมายถงึ ครูทุกคนทปี่ ฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการในโรงเรยี นสตรีวัดระฆงั ๓.๔ “ผู้มีเกยี รต”ิ หมายถงึ บุคคลทร่ี ับเชญิ หรือมาเยยี่ มชมโรงเรยี นเป็นหมู่คณะหรอื บคุ คลเดียว ๓.๕ แบบกาหนดของสานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ หมายถงึ หน่วยงานของกระทรวง วัฒนธรรม ท่ีกาหนดแบบอย่างการปฏบิ ตั ิตามมารยาทไทยออกแบบใช้แบบเดียวกันทวั่ ประเทศ หมวดที่ ๒ ว่าดว้ ยจรรยามารยาทและการทาความเคารพ ข้อ ๔ การแสดงความเคารพเม่อื แรกเรม่ิ เข้าสู่บรเิ วณโรงเรยี น ให้ถอื ปฏบิ ัตดิ ังนี้ เมือ่ นักเรยี นเขา้ สูบ่ ริเวณโรงเรียนให้ นักเรียนหยดุ ทาความเคารพครูเวรประจาวนั ดว้ ยการไหว้ตามแบบกาหนดของสานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรม แหง่ ชาติ ไหวพ้ ระตามจุดตาแหนง่ ทีโ่ รงเรียนกาหนดโดยพรอ้ มเพรยี งกนั ขอ้ ๕ การแสดงความเคารพเมื่ออย่ใู นหอ้ งเรยี น ใหป้ ฏิบตั ิดงั นี้ ๕.๑ เมอ่ื ครเู ข้ามาในหอ้ งเรียนให้หวั หน้าชน้ั บอกทาความเคารพโดยใชค้ าวา่ “นักเรยี น” ใหน้ กั เรียนทกุ คน หยดุ กจิ กรรมต่างๆ ทกุ อยา่ ง แล้วนั่งตัวตรงหัวหนา้ บอกวา่ “ทาความเคารพ” ให้นกั เรยี นทุกคนไหว้พรอ้ มกลา่ วคาว่า “สวสั ดีคะ่ ” ๕.๒ ในระหวา่ งทีค่ รูกาลงั สอน หากมีข้อสงสัยในบทเรียนให้ยกมอื ขึน้ เมือ่ ครอู นญุ าตจึงยืนถามขอ้ สงสยั ได้ และเมื่อได้รับคาอธิบายเข้าใจแล้ว ให้กล่าวคาวา่ “ขอบคณุ คะ่ ๕.๓ เมือ่ เขา้ หาครเู พ่ือส่งงานหรอื รบั งานให้นกั เรยี นยืนตรงในระยะทหี่ ่างพอสมควรเม่อื รับหรอื สง่ แล้ว นักเรยี นจะกลบั มาทีโ่ ต๊ะ ใหน้ กั เรยี นทาความเคารพด้วย “การไหว้” ๕.๔ การออกหรอื การเขา้ หอ้ งเรียนในขณะที่คณุ ครกู าลังสอนหรอื อยูใ่ นห้อง นกั เรียนตอ้ งขออนญุ าตกอ่ น ทกุ ครั้ง โดยยนื ตรงแลว้ กล่าวคาวา่ “ขออนญุ าตค่ะ” เมื่อได้รับอนุญาตแล้วใหน้ กั เรียน “ไหว้” พร้อมกลา่ วคาว่า “ขอบคุณค่ะ” ข้อ ๖ การแสดงความเคารพเมือ่ อย่ภู ายนอกห้องเรยี นใหป้ ฏิบัติดงั ต่อไปน้ี ๖.๑ เมอ่ื เดินสวนทางกบั ครู หรอื ผู้ใหญห่ รือผูท้ มี่ าเยย่ี มชมโรงเรยี นหยดุ ยนื ตรงและ “ไหว”้ พรอ้ มกลา่ วคา ทักทายวา่ “สวสั ดีคะ่ ” ในกรณีน้ีหากเป็นการพบคร้ังแรกสาหรับครูให้ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยการไหว้ และถ้าเป็นการพบกันใน ครั้งต่อไปให้ยืนตรงเป็นการแสดงความเคารพ
๖.๒ เมอ่ื ขน้ึ ลงบนั ไดให้ยึดหลักชดิ ขวาเสมอและเมอื่ เดินสวนทางกบั ครูหรอื ผู้ใหญ่หรอื แขกผูม้ ีเกียรตใิ ห้ นักเรยี นหยดุ ยนื อยูก่ ับทีจ่ นกว่า ครู ผใู้ หญห่ รอื แขกผูม้ เี กยี รติเดินผ่านไป ๖.๓ เมอื่ นกั เรียนจะเดินแซงครู ให้นกั เรียนกล่าวคาว่า “ขออนุญาตค่ะ” แล้วจงึ เดนิ กม้ หลังเลก็ น้อย แล้ว เดินแซงผา่ นไป ๖.๔ ขณะท่ีครูหรือผู้ใหญห่ รอื แขกผ้มู ีเกียรติอยูก่ ับท่ี ถ้านกั เรยี นต้องการเดินผา่ นให้กม้ หลังเล็กน้อย ๖.๕ เพื่อสง่ เสริมความรกั ความสามคั คีในหมูค่ ณะ ใหน้ ักเรียนร่นุ นอ้ งแสดงความเคารพรนุ่ พด่ี ว้ ยการไหว้ และนกั เรียนรนุ่ พ่คี วรรับไหว้รนุ่ นอ้ ง (ในกรณีมงี านพิธีตามความเหมาะสม) เปน็ การตอบรับการแสดงความเคารพซง่ึ กนั และกัน ขอ้ ๗ การแสดงความเคารพ เมือ่ อยู่ในบริเวณโรงเรยี นใหป้ ฏบิ ัติ ดงั นี้ เม่ือพบครูให้นักเรยี นทาความเคารพด้วย การ“ไหว้” อาจจะกล่าวคาทกั ทายตามควรแก่กรณี ทัง้ น้กี ารทาความเคารพใหพ้ ิจารณาตามความเหมาะสมกบั กาลเทศะ เช่น กรณีขับขย่ี านพาหนะอยใู่ นที่คบั ขันอันตราย เปน็ ตน้ ไม่ตอ้ งยกมอื ไหว้ ให้กลา่ วทักทายอย่างเดียว ข้อ ๘ การเคารพต่อสถานท่ี ๘.๑ นักเรียนต้องแตง่ กายให้ถกู ตอ้ งตามระเบยี บของโรงเรยี น และเมือ่ อยู่นอกเครือ่ งแบบนกั เรยี นตอ้ งแต่ง กายสุภาพ ๘.๒ แนะนาผู้ปกครอง และผอู้ ่ืนทีเ่ ข้ามาในโรงเรยี นใหแ้ ต่งกายสุภาพ ๘.๓ นักเรยี นควรเคารพสถานท่ีต่อไปนี้ และปฏิบัตใิ ห้ถกู ต้อง ๘.๓.๑ ห้องพักครู โตะ๊ ครู ไม่กา้ วก่ายเข้าไปใชโ้ ดยไม่ได้รับอนญุ าต ๘.๓.๒ หอ้ งเรียน ไมข่ ดี เขยี นหรอื พ่นสีตามโตะ๊ เก้าอไ้ี ม่เลน่ และไม่นาอาหารเข้าไปรับประทาน ๘.๓.๓ หอ้ งสมุด ไมส่ ง่ เสยี งดงั รบกวนผ้อู น่ื ๘.๓.๔ หอ้ งประชมุ ตอ้ งรกั ษามารยาทไม่คยุ เสยี งดัง ๘.๓.๕ หอ้ งพยาบาล ไมค่ วรถือโอกาสใช้เปน็ ที่พกั ผอ่ นของผไู้ มเ่ จ็บปว่ ย ๘.๓.๖ หอ้ งนา้ ไม่ควรใชห้ ้องน้าครู และต้องชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาด ข้อ ๙ สถานการณท์ ่นี ักเรยี นไม่ตอ้ งทาความเคารพ ใหป้ ฏิบัตดิ ังต่อไปนี้ ๙.๑ ขณะอยใู่ นแถว หรอื อยู่ในความควบคมุ ดูแลของครู ๙.๒ ขณะกาลังร่วมในมณฑลพธิ ีตา่ งๆ ๙.๓ ขณะกาลงั รับประทานอาหาร ๙.๔ ขณะกาลังถอื หรือแบกหามสง่ิ ของต่างๆ ข้อ ๑๐ การทาความเคารพใหใ้ ช้ตามแบบกาหนดของสานักงานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติกระทรวง วัฒนธรรม ข้อ ๑๑ นักเรียนทุกคนแสดงความเคารพครใู นโรงเรียนทุกคนทั้งที่ยภู่ ายในบรเิ วณโรงเรยี นและภายนอกบรเิ วณ โรงเรยี น หากนักเรยี นคนใดฝา่ ฝนื ความในระเบียบน้อี ย่างจงใจจนก่อให้เกิดความเส่ือมเสยี ต่อจรรยามารยาทของ นักเรยี นโดยสว่ นรวมให้พจิ ารณาลงโทษตามระเบียบว่าดว้ ยวนิ ยั นกั เรียนตามควรแก่กรณี ข้อ ๑๒ ใหร้ องผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คลรักษาการให้เป็นไปตามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันท่ี ๑ พฤษภาคม ๒๕63 www.pts (นายประจกั ษ์ ประจมิ ทศิ ) ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรีวัดระฆงั
ระเบยี บโรงเรียนสตรวี ดั ระฆงั วา่ ด้วยเครือ่ งแบบนักเรยี นและการแตง่ กาย พ.ศ. ๒๕63 ------------------------------------ เพื่อให้การบริหารและการจดั การเกย่ี วกับเครอ่ื งแบบนกั เรยี นและการแต่งกายของนกั เรยี น โรงเรียนสตรวี ัด ระฆังเป็นไปอย่างถูกต้องสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเคร่ืองแบบนักเรียน พ.ศ. ๒๕๕๑ โรงเรยี นสตรีวดั ระฆงั จงึ วางระเบยี บไว้ ดงั นี้ ขอ้ ๑ ระเบียบนเ้ี รยี กวา่ “ว่าดว้ ยเคร่อื งแบบนักเรียนและการแต่งกาย พ.ศ. ๒๕63” ขอ้ ๒ ใหใ้ ชร้ ะเบียบนีต้ ั้งแต่ “วนั ถัดจากวันประกาศ” เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคาสั่งอ่ืนในส่วนท่ีกาหนดไว้ในระเบียบน้ีซ่ึงขัดแย้งกับ ระเบียบนใ้ี หใ้ ช้ระเบยี บนแ้ี ทน ขอ้ ๔ ในระเบียบนี้มขี ้อกาหนดดังน้ี ๑. ผม ๑.๑ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ให้ตัดผมตรงและเปียเดียว เร่ิมถักไม่สูงเกินใบหูความยาวของ เปียท่ถี ักยาวไมเ่ กินสะบักหลงั ตดิ กิ๊บให้เรียบรอ้ ย ใชก้ บิ๊ สดี าหา้ มใช้กบ๊ิ พลาสติกทกุ ชนดิ หากไว้ผมยาวให้ตัดตรงและ ถักเปียเดียวตรงกลางเร่มิ ต้ังแต่ท้ายทอยลงไป โดยความยาวของผมเปียท่ีถักแล้วต้องไม่เกินชายปกเส้ือ ไม่ซอย ไม่ สไลด์ ไม่ไวผ้ มม้า ไม่แสกกลาง ไม่ดดั ไม่ยอ้ มสผี ม ๑.๒ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ให้ตัดผมตรงและรวบผมอยู่ในระดับใบหู ความยาวของผมที่รวบ แลว้ ยาวไมเ่ กินสะบักหลัง ใหต้ ัดผมทรงนกั เรยี นเชน่ เดียวกับนกั เรยี นระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนต้นทุกประการ หรอื ถ้า จะไวผ้ มยาวต้องรวบด้วยยางแลว้ ผกู ริบบิ้นทบั ใหเ้ รียบร้อย ไมต่ อ่ ผม ไม่สไลด์ ไมแ่ สกกลาง ไม่ดดั ไม่ยอ้ มสผี ม 1.3 รบิ บ้ินท่ผี กู ผมใช้ของโรงเรียน ระดับ ม.1 ม.4 สีดาระดบั ม.2 ม.5 สกี รมทา่ ระดับ ม.3 ม.6 สีนา้ ตาลดา 1.4 หากพบนักเรียนคนใดท่ีไว้ผมยาว แล้วเป็นเหา จะเชิญผู้ปกครองมารับทราบข้อตกลง และแก้ไข ภายใน 2 สปั ดาห์ แตถ่ า้ ยังมเี หาอกี นักเรียนจะตอ้ งตดั ผมสน้ั ๒. เครอ่ื งแบบนกั เรียน ๒.๑ เสื้อนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ใช้ผ้าสีขาวเน้ือเรียบเกลี้ยง เนื้อไม่บาง แบบเส้ือปก ทหารเรอื คอไม่กวา้ งและลึกเกินไป พอสวมศีรษะได้สะดวก ความยาวขอบปกใหเ้ หมาะกับตวั เสือ้ ปลายแขนจบี พองาม รอบปลายแขนกว้าง ๒-๒ ๑/๒ ซ.ม. ความยาวของแขนเส้ือเหนอื ข้อศอก ๕ ซ.ม. ความยาวของตัวเสอื้ เมอื่ ยนื ตรงวัดจากข้อมอื มาตั้งแต่ ๘-๑๐ ซ.ม. ชายของของเสื้อด้านล่างมีรอยพบั ไม่เกิน ๓ ซ.ม. ขนาดตัวเสื้อต้ังแต่ ใต้แขนถงึ ขอบล่างมีความกวา้ งพอเหมาะกับตัว ไมร่ ัดรปู หรอื หลวมเกินไป รมิ ขอบลา่ งดา้ นหนา้ ขา้ งขวาตดิ กระเป๋า ขนาดกว้างไม่เกิน ๑๒ ซ.ม. เหนือราวนมเบื้องขวาปักอักษรย่อ ส.ร. เหนือรอยต่อปกเสื้อด้านซ้ายปักจุดสีน้าเงิน แสดงระดบั ช้นั ม.๑ กับ ม.๔ ปัก ๑ จุด , ม.๒ กบั ม.๕ ปกั ๒ จดุ , ม.๓กบั ม.๖ ปกั ๓ จุด ดงั รูป (๑. ผม การดาเนนิ การใหร้ อประกาศจากกระทรวงศกึ ษาธิการ)
๒.๒ ผ้าผกู คอนักเรียนระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ (คอซอง) ให้ผา้ สเี ดยี วกับกระโปรงนักเรียนขนาดกวา้ ง ๑๐-๑๕ ซ.ม. ความยาวตง้ั แต่ ๘๐ ซ.ม. ขน้ึ ไปไม่เกิน ๑๐๐ ซ.ม. ดสู ภุ าพเหมาะสม หรือใชค้ อซองสาเร็จรูป ความ ยาวเสมอคอเสอ้ื ๒.๓ เส้ือนักเรียนระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ใช้ผา้ สขี าวเนอื้ เรยี บเกล้ียงไมบ่ าง แบบคอเช้ติ ผา่ อกตลอดไม่ มีสาบ กระดุมกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน ๑ ซ.ม. แขนเสื้อยาวเหนอื ข้อศอกประมาณ ๕ ซ.ม. ปลายแขนมี จีบพองาม ขอบปลายแขนกวา้ ง ๒-๒ ๑/๒ ซ.ม. เหนือราวนมเบื้องขวา ปักอักษรย่อ ส.ร. ปลายปกเสื้อด้านซา้ ยปัก จดุ แสดงระดบั ชั้นตามแบบและขนาดทโ่ี รงเรียนกาหนด เขม็ เครอื่ งหมายโรงเรียนกลดั เหนอื อกั ษร ส.ร. เกบ็ ชายเส้ือ ใสใ่ นกระโปรงใหเ้ รยี บรอ้ ย ไม่ดงึ ชายเสอื้ ให้หย่อนลงมาจนคลุมปดิ เขม็ ขดั ๒.๔ กระโปรงทุกระดับช้ันใช้ผ้าสีกรมท่าเน้อื เรียบเกล้ียงมจี ีบด้านหนา้ และด้านหลังด้านละ ๖ จีบ ซ้าย ๓ จีบ ขวา ๓ จีบ หนั จีบออกมาด้านนอกเย็บจบี จากขอบลา่ งลงมาประมาณ ๘-๑๒ ซ.ม. ความลึกประมาณ ๓-๔ ซ.ม. เวน้ ระยะความกว้างตรงกลางพองาม ไม่รดั รปู หรอื หลวมเกินไป ชายกระโปรงพบั กวา้ ง ๓-๔ ซ.ม. กระโปรง เม่ือสวม ให้ขอบบนอยูท่ ร่ี ะดับเอว ความยาวของกระโปรงยาวคลุมปดิ เข่าล่างลงมา 2 น้ิว ๒.๕ เข็มขัด ใช้เฉพาะนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เข็มขัดหนังสีดาขนาดกว้าง ๓-๔ ซ.ม.หัวเข็ม ขดั เป็นรูปสเ่ี หลี่ยมผืนผ้าแบน แบบทรงยนื สดี าชนิดหัวกลัด มีปลอกสาหรับสอดปลายเข็มขดั ขนาดกว้าง ๑-๑.5 ซ.ม. สีเดยี วกับเข็มขดั ทับขอบกระโปรง (ห้ามตดิ รูปลอกหรือเขยี นด้วยสตี า่ งๆ) ถ้าจะเขียนชอ่ื ใหเ้ ขยี นดา้ นใน ๒.๖ ถุงเท้า ใช้ถุงเท้ายาวประมาณคร่ึงน่องสีขาวล้วนแบบธรรมดา ลอนเล็กเวลาสวมให้พับตลบลงมา ๒ ทบ กว้าง 3 - 4 ซ.ม. เหนือข้อเท้าเลก็ นอ้ ย ไม่ใชถ้ งุ เทา้ ไนลอ่ นหรือถงุ เทา้ ผา้ หรอื ถงุ เทา้ ส้ันแค่ตาต่มุ มพี ื้นสีดา ๒.๗ รองเท้า ใช้แบบเดียวกันทุกระดับ รองเท้าหนังสีดา แบบหุ้มส้น หัวมนชนิดมีสายรัดหลังเท้าติด กระดุม สน้ สงู ไมเ่ กนิ ๓ ซ.ม. ๓. เคร่ืองแบบพลศกึ ษา ๓.๑ กางเกง ใชก้ างเกงวอร์มขายาวสีกรมท่า มีขลิบสเี หลอื งด้านข้าง และปักชอื่ โรงเรียนเปน็ ภาษาอังกฤษ ดังรปู ๓.๒ เส้อื โปโลสีเหลอื งตามแบบท่ีโรงเรียนกาหนดปกั ช่ือนามสกลุ เหนือกระเปา๋ เส้อื ขนาดตวั หนงั สอื ๑ ซ.ม. ปักจุดสนี ้าเงินแสดงระดับชน้ั ม.ต้น ปกั ทป่ี กเสือ้ ดา้ นซา้ ย สว่ น ม.ปลายปกั ทีข่ อบกระเปา๋ เสือ้ ดา้ นขวา ๓.๓ รองเทา้ ผา้ ใบสขี าวลว้ น ไมม่ ีกุน๊ ไม่มลี วดลาย ๓.๔ ถงุ เท้า ใช้ถงุ เทา้ นักเรยี นสขี าวลว้ นแบบธรรมดาตามที่กาหนดไว้ในขอ้ ๒.๖ ๓.๕ ใหส้ วมชุดพลศกึ ษาเฉพาะวนั ท่เี รยี นพลศกึ ษาเท่าน้ัน หมายเหตุ นักเรียนทุกคนต้องสวมเสื้อบงั ทรงหรือเสื้อทับเส้ือในสีขาวล้วนไม่มีลวดลาย แบบเรียบรอ้ ย และใช้เส้ือชน้ั ในสอี อ่ น ไม่มีลวดลาย
4. เครอ่ื งแบบยุวกาชาด ชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้น 4.1 หมวก ใช้หมวกสีกรมท่า แบบมีแก๊ปขา้ งหน้า และตลบปีกดา้ นขา้ ง ประดับเคร่อื งหมายหน้าหมวก 4.2 เสอื้ ปกเช้ิตสีฟ้าอมเทา แขนสนั้ เหนอื ศอก ผา่ อกตลอด สาบเสอื้ กว้าง3.5 ซ.ม. มีกระดมุ เหนอื เขม็ ขดั 4 เมด็ ทอี่ กมีกระเปา๋ เสือ้ ข้างละ 1 ใบ มสี าบตรงกลางตามแนวด่งิ ปกกระเป๋าเป็นรูปมนเจาะรังดมุ กึง่ กลาง มอี ินทรธนู สีเดยี วกับเสื้ออยเู่ หนอื บ่าทง้ั สองข้างกว้าง 3.5 ซ.ม. เย็บติดกับตะเขบ็ ไหลเ่ ส้ือ ด้านคอกวา้ ง 2.5 ซ.ม. มีปลายมน มี กระดุมข้างละ 1 เม็ดที่ปลายอินทรธนูทางด้านคอ กระโปรงสีฟ้าอมเทา ยาวคลุมปิดเข่าล่างลงมา 2 น้ิว ด้านหน้า และด้านหลงั มีจบี หนั ทางเดยี วกัน ด้านละ 6 จีบ สวมทับชายเสอ้ื 4.3 ผา้ พนั คอสกี รมทา่ รปู สามเหลย่ี มหน้าจว่ั มุมผ้าผกู คอด้านหลังตดิ เครื่องหมายยุวกาชาด 4.4 เข็มขดั หนงั สีดา กว้างไม่เกนิ 3 ซ.ม. หัวเขม็ ขดั เปน็ ชนดิ หัวเกย่ี วทาด้วยโลหะสเี งิน มีตราเคร่อื งหมายยุวกาชาด 4.5 ถงุ เทา้ และรองเท้า ใช้แบบเดยี วกบั เครอื่ งแบบนักเรยี น 5. เครอื่ งแบบเนตรนารี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 5.1 หมวก ใช้หมวกสีเขียวแก่ มีตราหน้าหมวกรูปเครื่องหมายเนตรนารี ทาด้วยโลหะสีทอง เวลาสวมให้ หนา้ หมวกอยู่ก่ึงกลางหน้าผาก พักปกี หมวกด้านหลงั ขนึ้ 5.2 เสอ้ื ปกเชิ้ตสเี ขยี วแกค่ อพบั แขนส้นั เหนอื ศอก ผ่าอกตลอด สาบเสือ้ กว้าง 3.5 ซ.ม. มีกระดมุ เหนือเขม็ ขัด 4 เม็ด ท่ีอกมีกระเป๋าเสื้อข้างละ 1 ใบ มีสาบตรงกลางตามแนวดิ่งปกกระเป๋าเป็นรูปมนเจาะรังดุมกึ่งกลาง มี อินทรธนูสีเดียวกับเสื้ออยู่เหนือบ่าทั้งสองข้างกว้าง 3.5 ซ.ม. เย็บติดกับตะเข็บไหล่เส้ือ ด้านคอกว้าง 2.5 ซ.ม. มี ปลายมน มีกระดุมข้างละ 1 เม็ดที่ปลายอินทรธนูทางด้านคอ กระโปรงสีเขียวแก่ ยาวคลุมปิดเข่าล่างลงมา 2 นิ้ว ด้านหน้าและดา้ นหลงั มีจบี หนั ออกดา้ นขา้ ง ขา้ งละ 1 จีบ สวมทับชายเส้ือ 5.3 ผา้ พันคอรปู สามเหลยี่ มหน้าจัว่ สีตามสปี ระจาเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา และมหี ว่ งสวมผ้าผูกคอ 5.4 เขม็ ขดั หนงั สดี า กว้างไมเ่ กิน 3 ซ.ม. หัวเข็มขดั เปน็ รปู ส่ีเหล่ยี มผนื ผ้าทาดว้ ยโลหะสีทอง มีลายนูนตรา เครื่องหมายเนตรนารี 5.5 ถุงเท้าและรองเทา้ ใชแ้ บบเดียวกบั เครือ่ งแบบนกั เรยี น ๖. กระเปา๋ กระเป๋าเคยี ง กระเปา๋ เป้ ๖.๑ กระเป๋าหนงั สือใหใ้ ช้กระเป๋าเปข้ องโรงเรยี นตามแบบท่โี รงเรยี นกาหนด ๖.๒ กระเปา๋ เคยี ง ให้ใชก้ ระเป๋าเคียงของโรงเรียน ตามแบบท่ีโรงเรยี นกาหนด สาหรับใส่อุปกรณก์ ารเรียน ไม่ใช้กระเป๋าเคียงอื่นๆ หากใช้ถือว่าผิดระเบียบของโรงเรียน โดยต้องใช้คู่กับกระเป๋าหนังสือเท่าน้ันและห้ามขีด เขยี นหรือทาลวดลายใดๆบนกระเปา๋ ทกุ ชนดิ
๗. เครื่องประดบั ๗.๑ เครื่องประดับ ห้ามนักเรียนใช้เคร่ืองประดับและของมีค่าทุกชนิด เช่น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ สร้อย เชอื กตา่ งๆ แหวน ตา่ งหู และ ห้ามเจาะล้ิน เป็นอนั ขาด นักเรียนทเ่ี จาะหูให้ใชก้ ้านใสและใสเ่ พยี งขา้ งละ่ 1 รูเทา่ นั้น ๗.๒ ห้ามนักเรียนใช้เครื่องสาอางทุกชนิด ๗.๓ แวน่ ตาสาหรบั นกั เรยี นทสี่ ายตาส้นั หรือสายตายาวหรือสายตาเอียงขนาดพองาม กระจกแว่นตาแบบ ใสหรอื สสี ภุ าพกรอบแวน่ ตาไม่มีลวดลาย ใช้สีดา สที อง สีเงิน สีนา้ ตาล หรอื สกี รมท่าเท่านน้ั ๗.๔ นาฬิกา ให้ใช้สายโลหะสแตนเลส หรือหนังขนาดตัวเรือนนาฬิกาเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน ๑ น้ิว โดยใชไ้ ดเ้ พียง สีเงนิ สที อง สดี า และ สีนา้ ตาล เท่านน้ั 8. การใช้โทรศัพท์ นักเรียนต้องขออนุญาตใช้โทรศัพท์ตามที่โรงเรียนกาหนดไว้ ให้ถือเป็นสิทธ์ิของ โรงเรียน คาเตอื น หากนักเรียนฝา่ ฝืนระเบียบวา่ ด้วยเรอื่ งเครือ่ งแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ข้อหนึ่ง ข้อใด เช่น เส้ือ กระโปรง ถุงเท้า รองเท้า เข็มขัดหรือเครื่องประดับ โรงเรียนจะเก็บรักษาไว้ที่ห้ องกลุ่ม บริหารงานบุคคลใหผ้ ู้ปกครองมาตดิ ตอ่ ขอรบั คนื ภายใน ๗ วัน ประกาศ ณ วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕63 (นายประจกั ษ์ ประจิมทิศ) ผู้อานวยการโรงเรยี นสตรีวัดระฆงั
รปู ภาพ การแตง่ กายตามระเบยี บโรงเรยี นสตรีวัดระฆัง วา่ ด้วยเคร่อื งแบบและการแตง่ กายของนกั เรียน พ.ศ. ๒๕63 เครอ่ื งแบบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
เคร่อื งแบบช้นั มัธยมศกึ ษาตอนตน้
ชดุ พละช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
ชดุ พละช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้
เครอ่ื งแบบยุวกาชาด ชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้น + เคร่อื งแบบเนตรนารี ช้ันมัธยมศึกษาตอนตน้
เคร่อื งแบบช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
เคร่อื งแบบช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ชดุ พละช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ระเบียบโรงเรียนสตรีวดั ระฆงั ว่าด้วยการตัดคะแนน-เพิ่มคะแนนความประพฤตขิ องนักเรียน พ.ศ.2563 ----------------------------- ดว้ ยโรงเรยี นสตรีวดั ระฆงั เปน็ โรงเรยี นสตรีล้วน มีนักเรียนจำนวนมำกหลำกหลำยแตกต่ำงกัน แต่สิง่ ท่ี เป็นวตั ถุประสงคร์ ว่ มกัน คอื มุง่ อบรมปลกู ฝังให้นักเรียนมีอัตลักษณ์ “กลั ยำณสี ตรวี ัดระฆงั ” หญงิ ที่งำมพร้อม ด้วยกิรยิ ำมำรยำท ในกำรนี้ เพื่อให้กำรควบคุม กำกับ ดูแล แก้ไขพฤตกิ รรมนักเรียนมีหลักเกณฑ์ในกำรดำเนินงำนอย่ำง เป็นระบบ สำมำรถปฏิบัติได้เป็นแบบเดียวกันอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยโรงเรียนพิจำรณำแล้วเห็นสมควร กำหนดระเบียบแนวปฏิบัติว่ำด้วยกำรตัดคะแนน-เพิ่มคะแนนควำมประพฤตินกั เรียน พ.ศ. 2563 สอดคล้อง กบั ระเบียบวำ่ ดว้ ยกำรลงโทษนกั เรยี นของกระทรวงศึกษำธกิ ำร พ.ศ. 2548 เพื่อให้เกิดควำมรว่ มมอื และควำม เข้ำใจตรงกันระหว่ำงโรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียน ในกำรส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ดงั นี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่ำ ระเบียบโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ว่ำด้วยกำรตัดคะแนน-เพิ่มคะแนนควำม ประพฤตนิ กั เรยี น พ.ศ. 2562 ขอ้ 2 ระเบยี บนี้ให้ใช้บังคับต้งั แต่วนั ถัดจำกวนั ประกำศเปน็ ต้นไป ข้อ 3 บรรดำระเบียบหรือคำสั่งอ่ืนใดของโรงเรียนมีส่วนกำหนดไว้แล้ว ซึ่งขัดกับระเบียบน้ีให้ใช้ ระเบยี บนแี้ ทน ข้อ 4 ระเบยี บน้ใี ชบ้ ังคับกบั นักเรียนโรงเรยี นสตรวี ดั ระฆัง ข้อ 5 กำรตัดคะแนนและเพิ่มคะแนนควำมประพฤตินกั เรียน มีแนวปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. กำหนดให้ทุกคนมีคะแนนควำมประพฤติคนละ 100 คะแนน และนักเรียนจะต้องรักษำ คะแนนนไ้ี วไ้ ม่ใหถ้ ูกตัดเกิน ๕0 คะแนน ใน 1 ภำคเรยี น 2. นักเรยี นจะถูกตัดคะแนนตำมแนวปฏิบตั ินี้ เม่ือกระทำกำรใดๆ ทีเ่ ป็นกำรฝำ่ ฝนื แนวปฏิบัติ และขอ้ บงั คับของโรงเรียน 3. ให้พิจำรณำโทษโดยคณะกรรมกำรวินัยและควำมประพฤตินักเรียน ครูที่ปรึกษำ หรือ หวั หน้ำระดับชน้ั 4. โทษที่จะลงโทษนักเรยี นทก่ี ระทำผิด มี 4 สถำน ดงั น้ี 4.1 ว่ำกลำ่ วตกั เตือน 4.2 ทำทัณฑบ์ น ใหเ้ ปน็ ไปตำมระเบียบปฏบิ ตั วิ ำ่ ดว้ ยกำรตัดคะแนนควำมประพฤติ 4.3 ตัดคะแนนควำมประพฤติให้เป็นไปตำมระเบียบปฏิบัติว่ำด้วยกำรตัดคะแนน ควำมประพฤตนิ กั เรยี นของสถำนศกึ ษำกำหนด 4.4 ทำกิจกรรมเพ่ือใหป้ รับเปลย่ี นพฤตกิ รรม 5. หลังจำกลงโทษนักเรียนที่กระทำควำมผิด อันเป็นโทษสูงสุดแล้ว หำกนักเรียนผู้นั้นได้ กระทำควำมผิดอีกในทุกกรณี ให้เชิญผปู้ กครอง และครูท่ปี รกึ ษำรบั ทรำบ และทำบันทกึ หลักฐำนและให้อยู่ใน ควำมดแู ลของผ้ปู กครอง คะแนนทีถ่ ูกตัด บทลงโทษ นอ้ ยกว่ำ 20 คะแนน ว่ำกล่ำวตักเตือน บันทึกหลักฐำนและแจ้งผู้ปกครอง ครูท่ีปรึกษำรับทรำบเป็น 21-30 คะแนน ลำยลักษณ์อักษร 31-50 คะแนน เชิญผู้ปกครองและครูท่ีปรึกษำรับทรำบให้ควำมร่วมมือ ควบคุมดูแล แก้ไข ปรับปรงุ พฤตกิ รรม และใหท้ ำกจิ กรรมบำเพญ็ ประโยชน์ 51 คะแนนขนึ้ ไป เชิญผูป้ กครองและครูที่ปรกึ ษำรับทรำบกำรทำทัณฑ์บน เพอื่ ปรบั ปรุงพฤติกรรม และใหท้ ำกิจกรรม บำเพ็ญประโยชน์ภำยนอก เชญิ ผปู้ กครองและครูที่ปรกึ ษำ หวั หน้ำระดบั รับทรำบพจิ ำรณำให้หนักเรียนเข้ำ ค่ำยกิจกรรมเพ่ือปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมโดยผู้ปกครองเป็นผ้รู บั ผิดชอบคำ่ ใชจ้ ่ำย
6. นักเรียนที่ถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 50 คะแนนขึ้นไป จะยังไม่พิจำรณำในกำรเข้ำศึกษำตอ่ ใน ระดับช้ันมัธยมศึกษำตอนปลำย และถ้ำถูกตดั คะแนนต้งั แต่ 40 คะแนนขึ้นไป ไมผ่ ่ำนวิชำหน้ำทพี่ ลเมอื ง 7. กำรถูกลงโทษใหผ้ ูป้ กครองนำนักเรียนไปดูแลเปน็ เหตุใหน้ ักเรยี นผู้นน้ั หมดสิทธิ์ในกำรสอบ ปลำยภำคในรำยวชิ ำใด นกั เรียนผ้นู ้ันต้องมำดำเนินกำรติดตำมซ่อมเวลำเรียนจนมีสทิ ธส์ิ อบได้ 8. นักเรยี นผู้ใดถูกตัดคะแนนควำมประพฤติเกิน 100 คะแนน ไมว่ ำ่ ควำมผดิ ครง้ั สุดท้ำยจะ เป็นควำมผิดฐำนใด ให้คณะกรรมกำรวินัยและควำมประพฤตินักเรียนบันทึกหลักฐำนและรำยงำนข้อมูลให้ กล่มุ บรหิ ำรวิชำกำรบนั ทึกผลกำรประเมนิ คุณลกั ษณะของนกั เรียนผนู้ ้ัน และขออนุมัตผิ บู้ ริหำรเปลีย่ นทเ่ี รยี น 9. กำรลงโทษนักเรยี นผู้ใด ผู้ลงโทษจะลงโทษได้จะต้องปรำกฏขอ้ เท็จจรงิ ชัดแจง้ ว่ำนกั เรียนผู้ น้ันไดก้ ระทำควำมผดิ และสมควรถกู ลงโทษ ทงั้ น้ีให้เขำ้ คณะกรรมกำรวินัยและควำมประพฤตินนักเรยี น 10. เกณฑก์ ำรตัดคะแนนควำมประพฤติ ตารางเกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติ หมวดทัว่ ไป ลาดบั ท่ี ลกั ษณะพฤตกิ รรม หกั คะแนน หมายเหตุ 1 มำไม่ทันเขำ้ แถว 2 วำ่ กล่ำวตกั เตอื น ทำพิธหี นำ้ เสำธง 2 มำโรงเรียนสำย หลงั เวลำเขำ้ แถว เวลำ 08.00 น. 5 วำ่ กล่ำวตกั เตอื น ทำพธิ ีหน้ำเสำธง 3 ไมเ่ ข้ำแถวเคำรพธงชำติตอนเชำ้ (ยกเวน้ ทำกิจกรรมตำมทค่ี รู 5 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น ทำพิธีหน้ำเสำธง มอบหมำย) 4 ไมเ่ ข้ำ-ออก ทำงประตูโรงเรียน มีเจตนำหลบหนีโรงเรียน 10 วำ่ กล่ำวตักเตือน เชิญผูป้ กครอง 5 ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ ำต 5 ว่ำกลำ่ วตักเตือน เชิญผู้ปกครอง 6 ไมน่ ำบัตรนักเรยี นมำโรงเรียน 5 ว่ำกลำ่ วตกั เตือน เชิญผปู้ กครอง 7 ฝ่ำยบริหำรงำนบคุ คลเรียก แล้วไมม่ ำพบโดยไมม่ ีเหตุผลอนั 5 วำ่ กลำ่ วตักเตือน เชิญผู้ปกครอง สมควร 8 ใช้กระเปำ๋ ไมถ่ กู ระเบียบ (ใชเ้ ฉพำะกระเปำ๋ ของโรงเรียนเทำ่ นั้น) 5 ยดึ ของไว้และเชิญผปู้ กครองมำรบั คนื 9 นำอปุ กรณ์ทไ่ี ม่เหมำะสมมำโรงเรยี น เชน่ ไพ่ 10 ยดึ ของไว้และเชญิ ผปู้ กครองมำรับคืน 10 ยมื หนงั สือห้องสมุด และไมส่ ง่ คนื จนถูกทวงถำม 5 ว่ำกลำ่ วตกั เตือน เชิญผู้ปกครอง 11 ตัดหนงั สือหรือสงิ่ พมิ พ์ในหอ้ งสมดุ 10 ว่ำกลำ่ วตักเตอื น เชญิ ผ้ปู กครอง 12 ปลอมลำยมือผู้ปกครอง ครู หรือผอู้ น่ื 10 พจิ ำรณำโทษข้ันสูง เชญิ ผู้ปกครอง 13 จงใจไม่นำผู้ปกครองมำพบ และ/หรอื แอบอ้ำงผอู้ ื่นเปน็ 10 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น เชิญผู้ปกครอง ผปู้ กครอง ในกรณีทคี่ รเู รียกพบ 14 ใชโ้ ทรศพั ท์เคล่ือนที่ และ/หรอื เครอ่ื งมือสื่อสำรทุกชนดิ ระหวำ่ ง 10 ว่ำกล่ำวตักเตอื น ยดึ ของไวแ้ ละเชญิ เรียน หรอื เวลำตำมท่ีโรงเรยี นกำหนด ผูป้ กครองมำรับคนื 15 พกอำวุธ/ส่งิ ของคล้ำยอำวุธ/วตั ถุระเบิดมำโรงเรยี น 20 พิจำรณำโทษขั้นสูง 16 อืน่ ๆ ตำมท่ีคณะกรรมกำรวินยั และควำมประพฤตนิ ักเรยี น ตำมทค่ี ณะ พิจำรณำ กรรมกำรฯ เห็นสมควร
หมวดเครือ่ งแต่งกาย ลาดบั ท่ี ลักษณะพฤติกรรม หักคะแนน หมายเหตุ 1 ใส่เสือ้ ท่ไี ม่ปกั ชื่อ-สกุล อักษรยอ่ ส.ร. และจดุ วงกลมบอก 5 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น ระดบั ชน้ั 2 ใส่เสื้อของผอู้ ่นื มำโรงเรียน และเสื้อสถำบนั อืน่ 10 วำ่ กลำ่ วตกั เตือน 3 สวมใส่เครื่องประดับท่ไี มเ่ หมำะสมมำโรงเรยี น 5 วำ่ กล่ำวตกั เตือน ยดึ ของไวแ้ ละเชญิ ผู้ปกครองมำรบั คนื 4 ใส่เส้อื ปลอ่ ยชำยเส้ือออกนอกกระโปรง ทัง้ ในและนอกบริเวณ 10 ว่ำกล่ำวตกั เตือน โรงเรยี นสวมกระโปรงสั้นกวำ่ ที่กำหนด 5 สวมเครอื่ งแบบชุดพลศกึ ษำไมถ่ ูกตอ้ ง และไม่ตรงกบั วันทีเ่ รียน 5 วำ่ กล่ำวตักเตอื น 6 ไมส่ วมเส้ือบงั ทรง หรือสวมเส้ือบังทรงในผิดระเบียบ 10 วำ่ กลำ่ วตกั เตือน 7 ทรงผมไมถ่ ูกตอ้ งตำมระเบียบของโรงเรยี น ย้อม ดดั เปล่ียนสี 10 วำ่ กล่ำวตักเตอื น ผม หรือซอยผม 8 แตง่ หน้ำ กันค้วิ ทำควิ้ ถำวร สักขอบตำ ใสค่ อนแทคเลนส์สี / 10 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น บ๊กิ อำย ศัลยกรรมควำมงำมทไ่ี ม่เหมำะสมกับสภำพนักเรียน 9 อน่ื ๆ ตำมทคี่ ณะกรรมกำรวนิ ยั และควำมประพฤตนิ ักเรียน ตำมท่ีคณะ พิจำรณำ กรรมกำรฯ เหน็ สมควร หมวดการเรียน ลาดบั ที่ ลักษณะพฤตกิ รรม หักคะแนน หมายเหตุ 1 ขำดเรยี นโดยไม่แจ้งเหตผุ ล 2 วนั ติดตอ่ กนั 5 วำ่ กลำ่ วตักเตือน 2 ไม่เข้ำรว่ มกจิ กรรมทโ่ี รงเรยี นดำเนินกำร 5 ว่ำกล่ำวตักเตือน 3 ไม่เรียนตำมตำรำงเรยี นของตนเอง (คดิ ตำมรำยคำบ) 5 ว่ำกล่ำวตกั เตอื น 4 ไม่นำอุปกรณ์กำรเรยี นและกระเปำ๋ มำโรงเรยี น หรือไม่นำกลบั 5 ว่ำกล่ำวตกั เตอื น บำ้ น 5 ทจุ รติ กำรสอบ 50 พิจำรณำโทษข้ันสงู 6 อ่ืนๆ ตำมท่คี ณะกรรมกำรวนิ ัยและควำมประพฤตนิ กั เรียน ตำมท่คี ณะ กรรมกำรฯ พจิ ำรณำ เหน็ สมควร หมวดความประพฤติ ลาดบั ที่ ลกั ษณะพฤตกิ รรม หักคะแนน หมายเหตุ 1 ไม่สำรวมกิริยำ มำรยำท กล่ำววำจำไม่สภุ ำพ หยำบคำย ทั้งใน 5 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น บริเวณและนอกบริเวณโรงเรยี น 2 ทะเลำะวิวำท แต่ไม่ใช้กำลังทำรำ้ ยต่อกนั และมีส่วนรว่ มในกำร 10 พจิ ำรณำโทษขั้นสงู กระทำควำมผิด 3 ทะเลำะววิ ำท ใช้กำลงั ทำร้ำยกนั และมีส่วนร่วมในกำรกระทำ 40 พิจำรณำโทษขน้ั สูง ควำมผิด 4 นำบุคคลภำยนอกมำทะเลำะววิ ำทกับนกั เรยี นในบรเิ วณ 50 พจิ ำรณำโทษข้นั สูง โรงเรียน 5 สูบบุหรี่ และ/หรือมบี หุ รไี่ ว้ในครอบครอง/จำหนำ่ ย 40 พจิ ำรณำโทษขนั้ สงู
ลาดับที่ ลกั ษณะพฤติกรรม หักคะแนน หมายเหตุ 6 ด่มื เคร่อื งดื่มทม่ี แี อลกอฮอล์ หรอื มีไว้ในครอบครอง/จำหนำ่ ย 50 พิจำรณำโทษขน้ั สงู 7 มีพฤตกิ รรมใช้สำรหรอื จำหน่ำยสำรเสพติด 50 พจิ ำรณำโทษขั้นสูง 8 มหี นังสือและ/หรอื สือ่ ลำมกอนำจำรไวใ้ นครอบครองเพือ่ อำ่ น 20 พิจำรณำโทษขน้ั สูง หรอื ดู 9 วำงตัวไมเ่ หมำะสมกบั เพื่อนตำ่ งเพศ หรอื เพื่อนเพศเดียวกัน 20 ว่ำกล่ำวตกั เตือน และประพฤติตัวสอ่ ไปในทำงชู้สำว 10 แสดงกำรข่มขูเ่ พอื่ หวงั ทรพั ย์ 30 พิจำรณำโทษขั้นสูง 20 ว่ำกลำ่ วตกั เตือน 11 เท่ยี วเตรใ่ นสถำนท่ีท่ีไมเ่ หมำะสม 40 พจิ ำรณำโทษขัน้ สงู 50 พิจำรณำโทษขัน้ สงู 12 เลน่ กำรพนนั 40 วำ่ กลำ่ วตกั เตือน 50 พจิ ำรณำโทษขั้นสูง 13 ทำลำยทรพั ย์สนิ ของโรงเรยี น ผ้อู ืน่ และสำธำรณสมบตั ิ ตำมทค่ี ณะ กรรมกำรฯ 14 แสดงกิริยำ วำจำ มำรยำท อำกำร ที่ขำดควำมเคำรพต่อครู เหน็ สมควร 15 ลักขโมย หรอื แอบอำ้ งเปน็ เจ้ำของส่ิงของของผูอ้ น่ื 16 อื่นๆ ตำมทค่ี ณะกรรมกำรวนิ ัยและควำมประพฤตนิ กั เรียน พิจำรณำ หมวดอาคารสถานที่ ลาดับท่ี ลกั ษณะพฤตกิ รรม หักคะแนน หมายเหตุ 1 ไมร่ กั ษำควำมสะอำดในบรเิ วณหอ้ งเรยี น/โรงเรยี น/เขตพื้นท่ี 5 วำ่ กลำ่ วตกั เตอื น ทำกิจกรรม 2 รบั ผดิ ชอบ 3 นำอำหำร/เคร่ืองดื่มขึ้นไปรบั ประทำนบนอำคำรเรยี น และ 10 วำ่ กลำ่ วตกั เตือน ทำกจิ กรรม 4 5 ออกนอกโรงอำหำร เล่นกฬี ำทุกประเภทในหอ้ ง/อำคำรเรยี นหรอื ในสถำนทีท่ ี่ไม่ 5 ว่ำกลำ่ วตักเตอื น ทำกิจกรรม เหมำะสม เขำ้ ไปม่วั สมุ ในสถำนทท่ี ่ีไม่เหมำะสม 30 พจิ ำรณำโทษขั้นสงู อื่นๆ ตำมท่คี ณะกรรมกำรวินยั และควำมประพฤตนิ กั เรยี น ตำมที่คณะ พิจำรณำ กรรมกำรฯ เหน็ สมควร หมายเหตุ โทษข้นั สงู คือ 1. ทำทณั ฑ์บนและทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมทำงศำสนำรว่ มกับ ผู้ปกครอง และกิจกรรมอนุรกั ษพ์ ลังงำนและสง่ิ แวดลอ้ ม ประเภทละ 2 กิจกรรม 2. อยใู่ นควำมดแู ลของผู้ปกครองระยะหนง่ึ จนกวำ่ พฤติกรรมจะดขี ้ัน 3. อยูใ่ นควำมดูแลของคณะกรรมกำรวนิ ัยและควำมประพฤตนิ ักเรียนระยะหนงึ่ จนกวำ่ พฤติกรรมจะดขี ้นั 11. ของกลำงทถ่ี กู ยึด ผู้ปกครองต้องมำรับดัวยตนเองภำยใน 7 วัน นับจำกวันทถี่ ูกยึด มฉิ ะนนั้ จะถือว่ำไม่ต้องกำรรับคืน และจะต้องถกู ตัดคะแนนเท่ำกบั ครง้ั แรก ส่ิงของจะนำไปบริจำคให้ผ้ยู ำกไร้ ต่อไป
ตารางเกณฑก์ ารเพม่ิ คะแนนความประพฤติ ลาดบั ที่ ลกั ษณะพฤตกิ รรม เพม่ิ คะแนน 5 1 เก็บส่ิงของหรอื เงิน ส่งคนื เจำ้ ของ 5 2 เป็นตวั แทนของโรงเรยี นเขำ้ ร่วมแขง่ ขนั กิจกรรมตำ่ งๆ ภำยนอกโรงเรียน (รำย 10 15 กิจกรรม) 15 10 3 ได้รบั รำงวัลอันดับที่ 1-3 ในกำรแข่งขนั กจิ กรรมตำ่ งๆ ภำยในโรงเรยี น 15 10 4 ได้รับรำงวลั อนั ดับท่ี 1-3 ในกำรแขง่ ขันกจิ กรรมตำ่ งๆ ภำยนอกโรงเรยี น 5 20 5 ไดร้ บั กำรคดั เลอื กให้ปฏบิ ตั ิหนำ้ ท่ี หัวหน้ำชนั้ เรียนของแต่ละปีกำรศึกษำ 15 10 6 ไดร้ ับกำรคัดเลือกใหป้ ฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ี รองหวั หน้ำช้ันเรยี นของแตล่ ะปกี ำรศึกษำ 10 10 7 ได้รบั กำรคดั เลอื กให้ปฏบิ ตั หิ นำ้ ท่ี ประธำนคณะสี 10 20 8 ได้รบั กำรคดั เลอื กให้ปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ี รองประธำนคณะสี ตำมท่ีคณะกรรมกำรฯ เห็นสมควร 9 ไดร้ บั กำรคัดเลือกให้ปฏบิ ตั ิหน้ำท่ี คณะกรรมกำรฝ่ำยต่ำงๆ ในคณะสี 10 ไดร้ บั กำรคัดเลือกใหป้ ฏิบัตหิ น้ำท่ี ประธำนคณะกรรมกำรนักเรยี น 11 ได้รับกำรคดั เลือกใหป้ ฏิบตั หิ นำ้ ที่ รองประธำนคณะกรรมกำรนกั เรียน 12 ได้รบั กำรคัดเลอื กให้ปฏบิ ตั ิหนำ้ ที่ คณะกรรมกำรนกั เรียนฝ่ำยตำ่ งๆ 13 ใหข้ อ้ มลู ทเี่ ป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน 14 อุทิศตน เสยี สละ ชว่ ยงำนของโรงเรยี น/ครู จนเปน็ ท่ยี อมรบั (มีจิตสำธำรณะ) 15 ไดร้ ับกำรยกย่องชมเชยจำกชมุ ชน 16 สร้ำงชอื่ เสียงที่ดีด้ำนตำ่ งๆ ให้กับโรงเรียน เป็นทยี่ อมรับและศรทั ธำจำกสังคม 17 อ่ืนๆ ตำมที่คณะกรรมกำรวนิ ยั และควำมประพฤตนิ กั เรยี นพจิ ำรณำ 12. เกณฑ์กำรใหค้ ะแนนควำมดีควำมชอบ ครูทกุ คนมสี ทิ ธเ์ิ สนอเพิ่มคะแนนให้นักเรียนที่มี ควำมประพฤตดิ ไี ด้ตำมเกณฑก์ ำหนดตำมตำรำงกำรเพ่ิมคะแนนควำมประพฤติ และนกั เรียนผู้นนั้ จะได้คะแนน เมือ่ คณะกรรมกำรวินยั และควำมประพฤตนิ กั เรียนเหน็ ชอบ และจะตอ้ งมหี ลกั ฐำนชัดเจนหรอื มผี รู้ ับรองท่ี เช่ือถอื ไดป้ ระกอบเสนอขอเพ่มิ คะแนนนกั เรียน ไมส่ ำมำรถนำไปหักลำ้ งคะแนนทีถ่ ูกตัดแตใ่ ห้นำไปเปน็ เหตผุ ล ในกำรขอลดโทษไดต้ ำมสมควรแก่กรณี 13. นกั เรียนที่ได้คะแนนควำมดี-ควำมชอบตัง้ แต่ 25 คะแนนขึ้นไป และไมเ่ คยถูกตดั คะแนนควำมประพฤติในปกี ำรศกึ ษำนน้ั ทำงโรงเรยี นจะมอบเกียรติบตั รแก่นกั เรยี นผนู้ ั้นในวันเชดิ ชเู กยี รติ 14. ให้รองผู้อำนวยกำรกลุ่มบรหิ ำรงำนบุคคลและคณะกรรมกำรวินยั และควำมประพฤติ นกั เรยี นเปน็ ผู้รกั ษำแนวปฏบิ ัตติ ำมระเบียบนี้ ประกำศ ณ วันที่ 1 พฤษภำคม พ.ศ. 2563 Btw (นำยประจกั ษ์ ประจมิ ทิศ) ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นสตรีวดั ระฆัง
ขอ้ ปฏิบตั ิของนกั เรียนโรงเรียนสตรีวดั ระฆัง -------------------------------------- ข้อปฏิบตั ิตง้ั แต่เขา้ โรงเรยี น – เลิกเรียน ๑. นักเรียนทกุ คนต้องไม่หลีกเล่ียงการเข้าแถวเคารพธงชาติ เมอ่ื ไดย้ ินเสยี งเพลงชาติใหย้ นื ตรงไมว่ า่ จะอย่ทู ่ีใดก็ตาม ๒. นกั เรียนทุกคนตอ้ งเขา้ ช้ันเรยี นใหต้ รงเวลา ถ้าเขา้ ห้องเรยี นหลงั จากทาการสอนไปแล้ว ๑๕ นาที ให้ถือวา่ ขาดเรียนในวชิ านั้น ๓. นกั เรียนต้องมีกริ ยิ าวาจาสภุ าพเรยี บร้อยและแต่งกายใหถ้ ูกต้องตามระเบยี บของโรงเรียนโดยคานึงถงึ ศลี ธรรม วฒั นธรรม และประเพณีทด่ี ขี องไทย ท้ังอยู่ในโรงเรียนและนอกโรงเรยี น ๔. นกั เรยี นต้องเข้าใจใช้สิทธิและหนา้ ที่ของตน ต้องเคารพใชส้ ิทธแิ ละหนา้ ท่ีของผู้อน่ื ความสุจรติ ขยันหมั่นเพียรใน การศึกษาหาความรู้ ๕. ช่วยกันประหยัดสิ่งสาธารณปู โภค เช่น นา้ ไฟ เพื่อฝกึ นิสัยอันดีงามและปฏิบตั ติ นตามนโยบายโรงเรยี นและรัฐบาล ๖. ชว่ ยกนั รกั ษาสภาพอนั ดีงามของโรงเรียนในเรอื่ งความสะอาดของอาคารสถานท่คี วามร่มรน่ื ของพนั ธไ์ุ ม้ เพ่อื ความ สวยงาม ความรม่ เยน็ และแกภ้ าวะมลพิษ ๗. นักเรยี นทุกคนตอ้ งช่วยกนั รักษาความสะอาดของห้องเรยี น บริเวณโรงเรยี นกอ่ นจะเรยี นแต่ละวิชาต้องช่วยกันดแู ล ความสะอาดเรยี บร้อยของโต๊ะ เกา้ อี้ใหเ้ ป็นระเบียบและสะอาดตลอดเวลา ตอ้ งชว่ ยกันดแู ลความสะอาดเรียบรอ้ ย ของโต๊ะ เก้าอ้ีใหเ้ ป็นระเบียบและสะอาดอย่ตู ลอดเวลา เมื่อเรียนเสร็จแลว้ ให้สารวจดูความเรยี บรอ้ ยอกี คร้ังหน่ึง นกั เรยี นทุกคนตอ้ งรบั ประทานอาหาร เครอ่ื งดมื่ และของขบเคย้ี วเฉพาะในบรเิ วณโรงอาหารเทา่ นั้น ไม่นาอาหารไป รบั ประทานในห้องเรยี น ๘. เมื่อไมม่ ีการเรยี นการสอน จะตอ้ งไม่ทาการใดๆ อันเปน็ การรบกวนห้องใกล้เคยี งหรือหอ้ งที่กาลังเรยี นอยู่ ๙. นักเรียนตอ้ งรักษาความสามคั คีของหมคู่ ณะ ไมก่ อ่ ทะเลาะววิ าท ระหวา่ งนักเรยี นรนุ่ เดียวกนั และนักเรียนตา่ งรนุ่ ไม่วา่ กรณีใดๆ ๑๐. นกั เรียนต้องช่วยกันรักษาช่ือเสยี ง เกยี รติคุณของโรงเรยี น และรว่ มมือกนั สรา้ งช่ือเสียงมาสูโ่ รงเรยี น ๑๑. ถ้าไมม่ คี วามจาเปน็ ใดๆนกั เรียนไม่ควรให้ผปู้ กครองมาติดต่อภายในชวั่ โมงที่เรยี นถ้าผู้ปกครองมีความจาเป็นต้อง พบ หรือมารับตัว ต้องแจง้ ใหฝ้ า่ ยบริหารงานบุคคลทราบ เพ่ือจะได้เรียกนกั เรียนไปพบ และผู้ปกครองทม่ี ารับนัน้ ต้องเป็นผู้ทมี่ ีลายเซ็นในใบมอบตวั ๑๒. นักเรียนจะนาบคุ คลภายนอกเข้ามาในสถานศกึ ษาไม่ได้ ยกเวน้ มาตดิ ต่อราชการ แมก้ ระท่งั ศษิ ย์เก่าและไมน่ าขึ้น ไปบนอาคารเรียนควรพบปะกันในหอ้ งประชาสัมพันธ์ ทงั้ นเ้ี พ่ือปอ้ งกนั การเสียหายที่จะเกิดข้นึ ๑๓. นักเรียนต้องปฏบิ ตั ิตนให้เป็นผมู้ ศี ีลธรรม ไม่เหน็ แก่ตวั ไมล่ ักขโมยของของผู้อ่ืน เมือ่ เกบ็ ของทผ่ี ้อู ืน่ ทาตกหรือลืม ไวไ้ ด้ ตอ้ งนาส่งครู เพือ่ ประกาศหาเจา้ ของตอ่ ไป ๑๔. นักเรียนต้องไม่หลบหลีกการเรียน ถา้ มีความจาเป็น เช่น เข้าหอ้ งพยาบาลให้แจ้งให้ครูทีป่ รกึ ษาและครูประจาวิชาทราบ ๑๕. นกั เรียนต้องช่วยกนั รกั ษาทรพั ย์สนิ ของโรงเรียน ช่วยกนั รักษาความสะอาดของหอ้ งเรยี นและบรเิ วณโรงเรยี นไม่ ขดี เขียนขอ้ ความใดๆลงบนโตะ๊ เรยี น ประตู และหนา้ ต่าง ไมท่ าลายทรพั ยส์ นิ ของโรงเรยี น ๑๖. ผ้ทู ่ีต้องการออกนอกบริเวณโรงเรียนในชั่วโมงแรกของการเรยี น โรงเรยี นจะไมอ่ นุญาตถา้ นักเรียนมีความประสงค์ จะออกไปทาธุระใดก็ตาม ให้เร่ิมเดินทางจากทบี่ ้านไปสถานทีน่ น้ั เลยเมอ่ื เสร็จจึงกลับมาโรงเรยี นโดยผ้ปู กครองมา สง่ การขออนญุ าตออกจากโรงเรียน กอ่ นเวลาเลิกเรยี นปกติ ตอ้ งมีผ้ปู กครองมารับ (บิดา มารดา หรือผู้ที่มามอบตัว) ๑๗. นกั เรียนตอ้ งไมจ่ ัดกิจกรรมใดๆ ทไ่ี มไ่ ด้รบั อนุญาตจากทางโรงเรยี น เช่น การจัดทัศน์ศึกษา การจดั ทาแหวนรนุ่ และการหารายได้ตา่ งๆ ทง้ั โดยทางลบั และทางเปิดเผยถ้าจะกระทาตอ้ งผา่ นกล่มุ บริหารงานบุคคล ๑๘. นกั เรียนจะต้องมีบัตรประจาตวั นักเรียนทุกคน
บัตรประจาตัวนักเรยี น บัตรประจาตัวนักเรียน เป็นเคร่ืองแสดงถึงศักด์ิศรีและสิทธิ์ในการเป็นนักเรียนที่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติควบคุม นักเรียน พุทธศักราช ๒๔๘๑ ซึ่งนักเรียนมีสิทธิที่จะนาไปใช้ประกอบการแสดงสิทธิ์กับทางราชการ หรือหน่อยงานอ่ืนๆ ตลอดเวลาท่ีนกั เรยี นยงั คงศกึ ษาอย่ใู นโรงเรยี นแห่งน้ี ฉะนัน้ โรงเรียนจงึ กาหนดใหน้ ักเรยี นทุกคนมีบตั รประจาตวั ซึ่งการขอบตั ร น้ีได้ระบใุ นคาช้แี จงแนวปฏบิ ตั ิตามระเบยี บโรงเรยี น บตั รประจาตวั ทกุ บตั รจะหมดสภาพและนาไปใชไ้ ม่ไดท้ ันทถี า้ บัตรมีลักษณะดังน้ี - มรี อยขดู ลบ ขีดและฆ่าตวั อกั ษรหรอื ตัวเลขที่ประกอบขนึ้ เป็นข้อความในบัตร - รูปถ่ายหรอื ขอ้ ความเลอะเลอื นจนไมส่ ามารถศึกษาหารายละเอียดไดช้ ดั เจน - บตั รหมดอายุ - เมอื่ ลาออก ใหอ้ อก ตอ้ งคนื บัตรด้วย เพราะฉะน้นั นกั เรียนทกุ คนจงึ จาเป็นต้องรกั ษาบตั รประจาตัวนกั เรียนของตนไว้ให้ ดที ส่ี ดุ แนวปฏิบตั ใิ นการขอรับบตั รประจาตัวนักเรียน ๑. กรอกใบคารอ้ งขอมบี ัตรประจาตัวนกั เรยี นใหช้ ัดเจน ทีส่ านกั งานบรหิ ารงานบคุ คล ๒. ถา่ ยรูปตามนดั หมาย ๓. ชาระค่าทาบัตรตามทโ่ี รงเรียนกาหนด ๔. รบั บัตรภายในกาหนดเวลานดั หมายทีส่ านักงานบริหารงานบุคคล
กลมุ่ บรหิ ารทว่ั ไป การบริหารทว่ั ไป เป็นงานท่เี กยี่ วขอ้ งกับการจดั ระบบบริหารองคก์ ร ใหบ้ ริการงานอ่ืนๆ ใหบ้ รรลุตาม มาตรฐาน คุณภาพและเปา้ หมายท่ีกาหนด มงุ่ เนน้ ผลสมั ฤทธิ์ของงานเป็นหลกั โดยเน้นความโปร่งใส ความ รบั ผดิ ชอบ สามารถตรวจสอบได้ตลอดจนมสี ่วนรว่ มของบุคคล ชมุ ชนและองคก์ รทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เพ่อื ใหก้ ารจัด การศึกษามปี ระสิทธภิ าพและประสิทธิผล ๑. งานสารบรรณและธุรการ หน้าที่ ๑. วางแผนการดาเนนิ งานดา้ นสารบรรณและธุรการ ๒. จัดหาอปุ กรณ์ และสง่ิ อานวยความสะดวกในการปฏบิ ัตงิ าน ๓. ลงทะเบยี นรับ สง่ หนังสือราชการ และเอกสารอน่ื ๆ ผ่านระบบ Internet (e-office) ๔. โตต้ อบหนังสือราชการ และเอกสารอ่ืน ๆ ๕. เก็บรักษาและทาลายหนังสือราชการ และเอกสารอ่นื ๆ ๖. จดั บริการเกย่ี วกับเอกสาร หลักฐานทางราชการ ๗. จดบนั ทึกรายงานการประชมุ ประจาเดอื นของ ๘. ประเมินผลและรายงานผลการปฏิบตั งิ านต่อผู้อานวยการโรงเรียน ๒. งานประชาสมั พนั ธ์ หน้าท่ี ๑. วางแผนการดาเนินงานประชาสัมพันธ์ ๒. จดั หาวัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งอานวยความสะดวกในการปฏบิ ตั งิ านด้านประชาสมั พันธ์ ๓. รับแจ้งขา่ วสารประชาสัมพนั ธใ์ ห้บคุ ลากร และผู้เกย่ี วขอ้ งไดร้ บั ทราบ ๔. จดั ทาปา้ ยประชาสมั พันธก์ จิ กรรมของโรงเรียนผา่ นสอ่ื ท่ีหลากหลาย เชน่ โทรทัศน์ เวบ็ ไซต์ เป็นตน้ จดั ทาหนงั สอื วารสาร เอกสารประชาสัมพนั ธ์ ตลอดจนข่าวสารอื่น ๆ ๕. จัดทาปา้ ยต้อนรับผู้มาตดิ ต่อประสานงาน เยย่ี มชมโรงเรียน และผู้มาประชุม ๖. ประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏิบัตงิ านตอ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น ๓. งานอาคารสถานที่ หนา้ ที่ ๑. วางแผนการดาเนินงานอาคารสถานท่ี ให้สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียนและปฏิบตั ิตามแผนท่ี กาหนดไว้ ๒. กาหนดบคุ ลากรรับผดิ ชอบในการควบคมุ ดูแล บารงุ รักษา อาคารสถานที่ให้สวยงามและปลอดภยั ๓. กาหนดระเบยี บ แนวปฏบิ ัติในการใชส้ ถานท่ี และควบคมุ ดแู ลให้เป็นไปตามระเบียบท่กี าหนดไว้ ๔. ปรับปรงุ อาคารสถานที่ และสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนใหเ้ ออื้ ตอ่ บรรยากาศการจดั การเรยี นรู้ ๕. จัดหาโต๊ะ เกา้ อ้ี และครูให้เพยี งพอ จัดสถานท่ีพกั ผ่อนและทากิจกรรมตา่ ง ๆ ให้เหมาะสม ๖. ประสานงานและอานวยความสะดวกในการจดั สถานท่ี จดั กิจกรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรียนและ ใหบ้ รกิ ารแกบ่ คุ คล และองค์กรภายนอก ๗. ดูแล ซ่อมแซมวสั ดุครภุ ัณฑ์ใหอ้ ยูใ่ นสภาพพร้อมใชง้ าน ๘. ประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏิบัติงานตอ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น ๔. งานบริหารพนกั งานบริการความสะอาด หน้าที่ ๑. วางแผนการดาเนนิ งานบรหิ ารพนักงานบริการความสะอาด ๒. กาหนดมาตรฐานความสะอาด และช่วงเวลาในการทาความสะอาดพนื้ ทตี่ ่าง ๆ ของโรงเรียน ๓. กากับ ตดิ ตาม ตรวจสอบ การปฏิบตั ิงานของพนักงานบรกิ ารความสะอาดภายในโรงเรยี นใหม้ ี ประสิทธภิ าพอยเู่ สมอ ๔. ประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏิบัติงานตอ่ ผู้อานวยการโรงเรียน
๕. งานโสตทัศนศึกษา หน้าที่ ๑. วางแผนการดาเนินงานโสตทศั นศึกษา ๒. จัดทาทะเบยี นวสั ดุ ครภุ ัณฑ์ ของงานโสตทัศนศกึ ษาใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ัน ๓. จัดหาโสตทัศนูปกรณท์ จ่ี าเปน็ สาหรบั สถานศึกษาใหเ้ พียงพอ ๔. จดั ระเบียบการใช้ การบารุงรกั ษา เพอื่ ให้เกิดความคงทนถาวรและปลอดภัยในการใชง้ าน ๕. บนั ทึกเสียง ถ่ายภาพ วดี โี อเทป เพ่อื การประชาสัมพนั ธ์และแสดงผลงาน ๖. ส่งเสรมิ ใหบ้ ุคลากรในสถานศกึ ษาได้ใช้โสตทัศนูปกรณ์ให้เกิดประโยชน์ตอ่ การเรียนการสอนให้มาก ทีส่ ดุ ๗. จัดทาบันทึกขอ้ มลู และสถติ ิการใชโ้ สตทัศนปู กรณ์ ๘.ประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏบิ ัตงิ านตอ่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น ๖. งานอนามัยโรงเรียน หน้าที่ ๑. วางแผนการดาเนนิ งานอนามัยโรงเรียน ๒. จดั หายาและเวชภัณฑเ์ พื่อการรกั ษาพยาบาลเบอื้ งตน้ รวมท้ังจดั หา และจัดเตรียมเครอ่ื งมอื อุปกรณ์ในการปฐมพยาบาลให้พรอ้ มใช้ ๓. ทาบัตรสขุ ภาพและติดตามผลการรกั ษาอาการเปน็ ราย ๆ ๔. ประสานงานการตรวจสขุ ภาพนกั เรียน ครู บคุ ลากรของโรงเรยี น ๕. ให้คาปรกึ ษาปัญหาสุขภาพอนามยั แกค่ รู นกั เรียน และบคุ ลากรอนื่ ๆ ๖. จัดทาสถติ กิ ารใชย้ า และการรับบรกิ ารต่าง ๆ ของครู นักเรียน และบุคลากรอืน่ ๆ ๗. ประสานงานการบรจิ าคโลหิต ๘. เผยแพร่และให้ความรเู้ ก่ยี วกบั โรคระบาดและการดูแลสุขภาพ ๙. ให้บริการแก่นักเรียนและบุคลากรในสถานศึกษา เมื่อได้รับอุบัติเหตุ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตาม โครงการประกนั อบุ ัตเิ หตุ ๑๐. จดั ทาฐานขอ้ มูลรายละเอยี ดของนักเรยี นด้านสุขภาพ (น้าหนกั /ส่วนสูง/กลุม่ เลือด) ๑๑. ประเมินผลและรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านต่อผอู้ านวยการโรงเรียน ๗. งานโภชนาการ หน้าที่ ๑. วางแผนการดาเนินงานโภชนาการ ๒. ควบคุมการประกอบอาหารของร้านค้าให้เป็นไปตามหลักโภชนาการ ตรวจสอบคุณภาพอาหาร และควบคุมความสะอาดในการปรงุ อาหาร ๓. ควบคมุ และตรวจสอบการชาระล้างภาชนะ การกาจัดมูลฝอย การทาความสะอาดโรงอาหาร และ บริเวณท่ีน่งั รบั ประทานอาหารของนกั เรยี น ๔. ให้ความรูเ้ ก่ียวกบั โภชนาการแกบ่ ุคลากรในสถานศกึ ษาและผู้จาหน่ายอาหาร ๕. ประสานงานกบั งานอนามยั โรงเรยี น ตรวจสุขภาพ ผ้ปู ระกอบอาหาร และผ้จู าหน่ายอาหาร ๖. ให้บริการอาหารและเครอื่ งดืม่ แก่บุคลากรของโรงเรยี นในโอกาสทมี่ ีกิจกรรมพเิ ศษต่าง ๆ ๗. จดบนั ทึกขอ้ มูลการใช้ไฟฟา้ และน้าประปา ของร้านคา้ ในโรงอาหาร นาสง่ กลุ่มบริหารงบประมาณ ๘. ประเมนิ ผลและรายงานผลการปฏิบตั งิ านต่อผู้อานวยการโรงเรียน ๘. งานสวสั ดิการ หนา้ ท่ี ๑. ดูแลและบรหิ ารงานสวสั ดกิ ารให้ดาเนนิ ไปด้วยความเรยี บร้อย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ๒. เป็นทป่ี รกึ ษา ให้คาแนะนาการดาเนินงานของสวัสดิการโรงเรยี นและสวสั ดิการรา้ นคา้ ๓. กากับ ติดตาม ตรวจสอบ การดาเนินงานของสวสั ดกิ ารโรงเรียนและสวัสดกิ ารร้านคา้ ๔. จัดบรกิ ารสวสั ดกิ ารแก่ครแู ละบุคลากร ในด้านการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล การศึกษาบตุ ร ค่าเชา่ บ้าน ๕. จัดกจิ กรรมเพม่ิ ขวญั กาลังใจแกค่ รูและบคุ ลากรในสถานศกึ ษาตามโอกาสต่างๆ ๖. จดั ทาบัญชีรายรับ-รายจ่าย การเบกิ จา่ ยเงนิ สวัสดิการโรงเรียนให้เป็นปัจจบุ ัน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108