Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์

ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์

Published by kungwhan_toom, 2018-03-28 05:21:09

Description: ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์

Search

Read the Text Version

บทที่ 1 ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกบั เศรษฐศาสตร์ ความรู้เบอื ้ งต้นเกี่ยวกบั เศรษฐศาสตร์1) ความหมายของเศรษฐศาสตร์: เศรษฐศาสตร์คือศาสตร์ท่ศี กึ ษาเก่ียวกบั การเลอื กหนทางในการใช้ปัจจยั การ ผลติ อนั มีอยจู่ ากดั สาหรับการผลติ สนิ ค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการทไี่ มจ่ ากดั ของมนษุ ย์2) ทรัพยากรการผลติ (Productive Resources): แบง่ ได้ 2 ประเภท คอื (1) สง่ิ ที่คนสร้างขนึ ้ (Man-Made Resources) (2) เกิดเองโดยธรรมชาติ (Natural-Made Resources)3) ปัจจยั การผลติ (Productive Factors): แบง่ ได้ 4 ประเภท คือ (1) แรงงาน (Labor: คา่ แรง) (2) ท่ีดินและทรัพยากรณ์ธรรมชาติ (Land and Natural Resources: คา่ เชา่ ) (3) ทนุ (Capital: ดอกเบยี ้ )(4) ผ้ปู ระกอบการ (Entrepreneur: กาไร) โดยในระบบทนุ นยิ ม ผ้ปู ระกอบการจะเป็นปัจจยั ท่ีสาคญั ทส่ี ดุ เพราะเป็นผู้ริเริ่มการผลติ และเป็นผ้รู วบรวมปัจจยั การผลติ อนื่ ๆ นอกจากนนั้ ยงั เป็นผ้วู างนโยบายและตดั สนิ ใจในทกุ ขนั้ ตอนการผลติ ดรู ูปที่ 14) สนิ ค้าและบริการ (Goods and Services): แบง่ ได้ 2 ประเภท คอื (1) เศรษฐทรัพย์ (Economic Goods) (2) ทรัพย์เสรี (Free Goods)5) ปัญหาพนื ้ ฐานทางเศรษฐกิจ: แบง่ ได้ 3 ปัญหา คือ (1) ผลติ อะไร (What), (2) ผลติ อยา่ งไร (How) (3) ผลติ เพ่อื ใคร (For Whom)

5.1) ผลติ อะไร: เพราะทรัพยากรมจี ากดั การเลอื กใช้ไปในทางใดจะมคี า่ เสยี โอกาสเสมอ (OpportunityCost) โดย ทวั่ ไปจะเลอื กใช้ไปในทางทมี่ คี า่ เสยี โอกาสตา่ สดุ เสมอ5.2) ผลติ อยา่ งไร: การใช้เทคโนโลยเี ปลย่ี น input(s) ให้เป็นoutput(s) เทคโนโลยีที่มีประสทิ ธิภาพสงู สดุ (Efficiency) คือเทคโนโลยีทใ่ี ช้ input(s)น้อยกวา่ วธิ ีอ่ืน แตใ่ ห้output(s) เทา่ กบั วิธีอื่นหรือ เทคโนโลยที ่ีใช้ input(s) เทา่ กบั วธิ ีอ่นื แตใ่ ห้ output(s) มากกวา่ วิธีอ่ืน(ทงั้ สองแนวคดิ มวี ิธีการ คานวณตา่ งกนั แตใ่ ห้ผลเหมอื นกนั ) 5.3) ผลติ เพื่อใคร เป็นการกระจาย (Allocation) สนิ ค้าและบริการที่ผลติ ได้หรือ ทรัพยากรไปสู่ประชาชนหรือผ้บู ริโภค ถ้าการกระจายสนิ ค้าและบริการไมเ่ ป็นธรรม จะเกดิ ปัญหาความไมเ่ สมอภาค (Equity)6) ระบบเศรษฐกิจ: ระบบเศรษฐกิจสามารถแบง่ ออกได้เป็น 3 กลมุ่ หลกั คอื(1) แบบทนุ นิยมหรือเสรีนิยม (Capitalism or Liberalism)(2) แบบวางแผน (Planned Economy) และ(3) แบบผสม (Mixed Economy) การพจิ ารณาวา่ ประเทศหนง่ึ ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบใด สามารถพิจารณาอยา่ งคร่าวๆได้จาก 2 สง่ิ หลกัคือ(1) เอกชนเป็นเจ้าของปัจจยั การผลติ ได้หรือไม่ (2) เอกชนดาเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้โดยเสรีหรือไม่ ถ้าคาตอบคือ “ไม”่ ประเทศนนั้ นา่ ทีจ่ ะมรี ะบบเศรษฐกจิ แบบวางแผน แตถ่ ้า “ใช”่ ประเทศนนั้ นา่ ทจ่ี ะมีระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยมระบบเศรษฐกิจลกั ษณะสาคญัข้อดีข้อเสยีแบบทนุ นิยม(เอกชนคือใครก็ได้ท่ไี มใ่ ช่รัฐบาล)1.เอกชนเป็นเจ้าของปัจจยั การผลติ

2.ใช้กลไกราคา และการแขง่ ขนั โดยเสรีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ3.เอกชนมอี สิ ระในการดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ (ใช้กาไรหรือความพอใจเป็นตวั ตดั สนิ )4.รัฐไมย่ งุ่ เกี่ยวกบั เร่ืองของเศรษฐกิจ (แตด่ แู ลให้เกิดกลไกตลาด)ถ้าเอกชน (นายทนุ ) มีคณุ ธรรมจริยธรรม หรือผลประโยชน์สว่ นตวั ไมข่ ดั กบั สว่ นรวม1.กาไรเป็นสงิ่ จงู ใจให้เกิดการพฒั นา2.ใช้ทรัพยากรการผลติ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพถ้าเอกชน (นายทนุ ) ไมม่ คี ณุ ธรรมจริยธรรม หรือผลประโยชน์สว่ นตวั ขดั กบั สว่ นรวม1.ใช้ทรัพยากรไปในทางทไ่ี มเ่ กิดประโยชน์กบั สว่ นรวม2.เกิดความเลอื่ มลา้ ทางการกระจายรายได้และการถือทรัพย์สนิแบบวางแผน1.รัฐบาลเป็นเจ้าของปัจจยั การผลติ (และทรัพย์สนิ )ทงั้ หมด2.รัฐบาลเป็นผ้ดู าเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (รัฐบาลเป็นผ้วู างแผนพฒั นาทางเศรษฐกิจ)1.มีเสถียรภาพ2.ไมม่ คี วามเลอ่ื มลา้ ทางการกระจายรายได้และการถือทรัพย์สนิ1.ขาดประสทิ ธิภาพในการผลติ (คนไมม่ แี รงจงู ใจ) ไมเ่ กิดการพฒั นา (หรือเกิดแตช่ ้า)2.ใช้ทรัพยากรไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพแบบผสมผสมระหวา่ งแบบทนุ นยิ มและแบบวางแผน ขนึ ้ อยกู่ บั ให้ความสาคญั รูปแบบใดมากกวา่1.รัฐและเอกชนเป็นเจ้าของปัจจยั การผลติ2.ใช้กลไกราคา และการแขง่ ขนั โดยเสรีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แตร่ ัฐสามารถแทรกแซง และวางแนวทางการดาเนินการทางเศรษฐกิจ (เชน่ แผนพฒั นาฯ) ได้ผสมระหวา่ งแบบทนุ นยิ มและแบบวางแผน ขนึ ้ อยกู่ บั ให้ความสาคญั รูปแบบใดมากกวา่ผสมระหวา่ งแบบทนุ นยิ มและแบบวางแผน ขนึ ้ อยกู่ บั ให้ความสาคญั รูปแบบใดมากกวา่

7) การแก้ปัญหาพนื ้ ฐานของเศรษฐกจิ กลไกการแก้ปัญหาของระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ มและแบบวางแผน ตามลาดบัระบบเศรษฐกิจเคร่ืองมือแก้ปัญหาพนื ้ ฐานของเศรษฐกิจแบบทนุ นิยมกลไกราคาหรือกลไกตลาด (Price or Market Mechanism)แบบวางแผนวางแผนจากสว่ นกลางแบบผสมใช้กลไกราคาร่วมกบั วางแผนจากสว่ นกลาง (เช่น ประเทศไทย)8) วชิ าเศรษฐศาสตร์: แบง่ เป็น 2 สาขาหลกั คือ(1) เศรษฐศาสตร์จลุ ภาค (Microeconomics)(2) เศรษฐศาสตร์มหาภาค (Macroeconomics) 8.1) เศรษฐศาสตร์จลุ ภาค เป็นการศกึ ษาหนว่ ยยอ่ ยของระบบเศรษฐกิจซงึ่ ประกอบไปด้วย ผ้ผู ลติ (Producers) และผ้บู ริโภค (Consumers) โดยใช้ทฤษฎขี องผ้ผู ลติ และของผ้บู ริโภคในการศกึ ษาตามลาดบั นอกจากนี ้เราจะใช้กลไกตลาดร่วมในการศกึ ษาถงึ ลกั ษณะการปฎิสมั พนั ธ์ของทงั้ สองหนว่ ยยอ่ ย 8.2) เศรษฐศาสตร์มหาภาค เป็นการศกึ ษาเศรษฐกิจทงั้ ระบบ เชน่ รายได้ประชาชาติ ระดบั ราคาสนิ ค้าและบริการการออมและการบริโภคของประเทศ การใช้จา่ ยของรัฐบาล การลงทนุ การนาเข้าและสง่ ออก และการจ้างงาน เป็นต้น9) หนว่ ยเศรษฐกิจ (Economic Units): ประกอบด้วย 3 หนว่ ย คอื (1) ครัวเรือน (Household) (2) หนว่ ยธุรกจิ (Firms) (3) รัฐบาล (Government)

9.1) ครัวเรือน: เป็นผ้บู ริโภคสนิ ค้าและบริการ (ทาให้เกิดอปุ สงค์ในตลาดสนิ ค้าและบริการ) แตเ่ ป็นเจ้าของปัจจยั การผลติ (ทาให้เกิดอปุ ทานในตลาดแรงงาน) 9.2) หนว่ ยธรุ กิจ: เป็นผ้ผู ลติ สนิ ค้าและบริการ (ทาให้เกิดอปุ ทานในตลาดสนิ ค้าและบริการ) แตเ่ ป็นผ้ซู ือ้ ปัจจยั การผลติ(ทาให้เกิดอปุ สงค์ในตลาดแรงงาน) 9.3) รัฐบาล: ทาหน้าทคี่ วบคมุ การแขง่ ขนั ของเอกชนให้เป็นไปโดยเสรี และดแู ลทกุ ข์สขุ ของประชาชน